Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการเรียน ทวีปอเมริกานเหนือ

เอกสารประกอบการเรียน ทวีปอเมริกานเหนือ

Published by อัจฉรา ไสยะหุต, 2021-07-28 15:45:47

Description: เอกสารประกอบการเรียน ทวีปอเมริกานเหนือ

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการเรยี น การตง้ั ถิน่ ฐานและความเป็นเมอื ง เรอื่ ง ทวีปอเมริกาใต้ รหสั วชิ า 32105 รายวชิ าภูมศิ าสตร์ 3 ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 5 นางอัจฉรา ไสยะหุต ครผู สู้ อน กล่มุ สาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นบ่อพลอยรชั ดาภเิ ษก สังกัดสำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษากาญจนบุรี สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

หนา้ 1 อเมริกาเหนือเปน็ ทวีปทตี่ ัง้ อย่ทู างซกี โลกเหนือ และเปน็ ดนิ แดนทม่ี ีลักษณะภูมิประเทศเปน็ ที่ราบอัน กว้างใหญ่ เหมาะแกก่ ารตั้งถนิ่ ฐาน การประกอบอาชีพ และการคมนาคมขนส่ง ท้ังยงั เป็นแหลง่ ท่ีอุดม สมบรู ณด์ ว้ ยทรัพยากรธรรมชาติ ประชากรส่วนใหญเ่ ป็นผู้สืบเช้อื สายมาจากพวกผิวขาวชาวยโุ รปและได้รบั การศึกษาดี ทำใหอ้ เมริกาเหนอื เป็นทวปี ที่เจรญิ ก้าวหน้ามากในทุกๆ ดา้ น ความเปน็ มาโดยสงั เขป อเมรกิ าเหนอื เป็นทวปี ซึง่ แต่เดมิ ยงั ไม่มีคนรู้จกั จนกระทัง่ มนี กั เดนิ เรอื ชาวอติ าเลียนชอื่ ครสิ โตเฟอร์ โคลมั บัส (Christopher Comlubus) ได้เดินทางมาพบเกาะบริเวณที่เปน็ หม่เู กาะอนิ ดสี ตะวันตก ใน พ.ศ. 2035 และเข้าใจวา่ ดินแดนใหม่ท่ีเขาพบนั้นเปน็ ส่วนหน่ึงของทวปี เอเชีย ต่อ พ.ศ.2042 อเมรโิ ก เวสปุชชี (Amerigo Vespucci) ชาวอติ าเลียนไดเ้ ดินทางสำรวจดนิ แดนทโ่ี คลัมบัสเคยสำรวจมาแล้ว จงึ ทราบวา่ ดินแดนทีพ่ บนัน้ เปน็ ทวีปใหม่ ไม่ใชส่ ่วนหนึง่ ของทวีปเอเชียตามที่โคลัมบสั เขา้ ใจ และเพือ่ เปน็ การใหเ้ กียรตแิ กเ่ ขา ชาวยุโรปจึงต้ังชอ่ื ทวีปใหมน่ ี้วา่ อเมรกิ า (America) ลกั ษณะทางกายภาพ 1. ทีต่ ั้ง อเมริกาเหนอื เป็นทวีปทตี่ ้ังอยู่ในซกี โลกเหนือ ระหว่างละติจูดประมาณ 7-83 องศาเหนือ ลองจจิ ูด17-172 องศาตะวนั ตก โดยมีเส้นทรอปกิ ออฟแคนเซอรล์ ากผ่านตอนกลางของประเทศเมก็ ซิโก 2. อาณาเขต 1) ทศิ เหนือ ติดตอ่ กบั สมทุ รอาร์กติก มีน่านน้ำท่ีสำคัญ ไดแ้ ก่ ทะเลโบฟอร์ต อ่าวแบฟฟนิ อา่ วฮัดสัน ช่องแคบเดวิส และทะเลแลบราดอร์ เกาะทส่ี ำคัญ ได้แก่ เกาะกรีนแลนด์ เกาะแบฟฟิน เกาะ วกิ ตอเรยี เกาะเอลสเมียร์ และหมูเ่ กาะควนี อลซิ าเบธ ซ่ึงอย่ใู นเขตอากาศหนาว จึงมคี วามสำคญั ทางด้าน เศรษฐกจิ นอ้ ย มปี ระชากรอาศยั อยู่เบาบาง 2) ทิศตะวันออก ตดิ ตอ่ กับสมุทรแอตแลนติก มีเกาะท่ีสำคญั ได้แก่ เกาะนวิ ฟนั ดแ์ ลนด์ เกาะเบอร์ มวิ ดา และหมูเ่ กาะบาฮามาส 3) ทศิ ใต้ ตดิ ต่อกับ มหาสมทุ รแปซฟิ ิก ทวีปอเมริกาใต้ มีคลองปานามาเป็นแนวแบง่ เขตทวปี น่านนำ้ ทสี่ ำคญั ได้แก่ ทะเลแคริบเบยี น อ่าวเมก็ ซิโก มีเกาะที่สำคญั คือ หมเู่ กาะอนิ ดีสตะวันตก ไดแ้ ก่ เกาะคิวบา เกาะฮสิ แปนิโอลา เกาะจาเมกา เกาะเปอรโ์ ตริโก 4) ทศิ ตะวนั ตก ตดิ ตอ่ กบั มหาสมุทรแปซฟิ กิ ทางตอนเหนือของทวีปมชี อ่ งแคบเบรงิ คน่ั ระหวา่ งทวีป อเมริกาเหนือกับทวปี เอเชีย มีคาบสมุทรท่สี ำคัญ คือ คาบสมุทรแคลิฟอร์เนีย และคาบสมทุ รอะแลสกา น่านน้ำทสี่ ำคัญ ไดแ้ ก่ ทะเลเบริง อา่ วอะแลสกา อ่าวแคลิฟอรเ์ นยี เกาะท่สี ำคัญ ไดแ้ ก่ เกาะแวนคูเวอร์ หมู่ เกาะอาลเู ชียน และหมู่เกาะควีนชาร์ล็อต

หนา้ 2 3. ขนาดพืน้ ที่ อเมริกาเหนือเปน็ ทวีปที่มีขนาดเน้ือทีป่ ระมาณ 24,247,000 ตารางกโิ ลเมตร มขี นาดใหญ่เปน็ อันดบั 3 รองจากทวีปเอเชยี และแอฟรกิ า รูปร่างของทวีปอเมริกาเหนอื คล้ายรูปสามเหล่ียมหัวกลบั คอื มีฐานกว้างอยู่ ทางเหนือและปลายแหลมอยูท่ างใต้ ความกว้างของทวีปตงั้ แต่ชอ่ งแคบเบรงิ ถึงเกาะนวิ ฟันด์แลนด์ประมาณ 4,828 กโิ ลเมตร และส่วนท่แี คบทีส่ ุดท่ีคอคอดปานามา กว้างประมาณ 50 กิโลเมตร 4. ภมู ภิ าค อเมรกิ าเหนือแบง่ ตามสภาพสงั คมวฒั นธรรม มี 2 ส่วน ไดแ้ ก่ แองโกลอเมรกิ าและละติน อเมรกิ า โดยถอื เอาแม่น้ำริโอแกรนด์ (Rio Grande) เปน็ พรมแดนระหวา่ งเมก็ ซิโกกับสหรฐั อเมริกาเป็น แนวแบ่ง 1. แองโกลอเมรกิ า (Anglo-America) คอื ดินแดนทอี่ ยทู่ างตอนเหนอื ของแม่น้ำรโิ อแกรนด์ ประกอบดว้ ยประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ประชากรสว่ นใหญ่เป็นผู้สบื เช้ือสายมาจากชาวอังกฤษ 2. ละตนิ อเมริกา (Latin-America) คอื ดนิ แดนของประเทศต่างๆ ทอ่ี ยทู่ างตอนใต้ของแม่นำ้ ริโอแก รนด์ ประชากรสว่ นใหญ่สืบเช้อื สายและวัฒนธรรมมาจากสเปนและโปรตุเกส ประกอบด้วย 2.1 อเมรกิ ากลาง หมายถึง ดินแดนท่อี ย่ทู างตอนใต้ของแมน่ ำ้ ริโอแกรนด์ ไดแ้ ก่ เม็กซิโก เบลซิ คอสตารกิ า เอลซลั วาดอร์ กวั เตมาลา ฮอนดรู สั นกิ ารากัว และปานามา 2.2 ประเทศทีต่ ง้ั อยูบ่ นหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน ได้แก่ บาฮามาส บารเ์ บโดส คิวบา โดมินิกัน เกรเนดา เฮติ เจเมกา เปอร์โตรโิ ก ตรินิแดดและโตเบโก แอนติกาและบาร์บูดา โดมินกิ า กวาเดอลูปมาร์ ตนิ กี เนเธอรแ์ ลนด์แอนทลิ ลสิ เซนต์คิดส์และเนวสิ เซนต์ลเู ซยี เซนตว์ นิ เซนต์และเกรนาดีนส์ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ แบง่ ออกเปน็ 4 เขต 1) เขตหนิ เก่าแคนาดา (Canadian Shield) ไดแ้ ก่ พนื้ ทบ่ี ริเวณรอบๆ อ่าวฮัดสันลงมาถึงทะเลสาบทั้ง 5เป็นเขตหินท่ีเกา่ แกท่ ่ีสดุ เชน่ เดียวกับบอลตกิ ชลี ดใ์ นทวปี ยโุ รป ประกอบดว้ ยหินเปลือกโลกทีม่ อี ายเุ กา่ แก่ และผ่านการสึกกร่อนมานาน ลักษณะของพ้นื ทจี่ งึ เป็นท่รี าบเกือบทงั้ หมดและอย่ใู นเขตอากาศหนาวจดั ทาง ตอนเหนอื มเี กาะใหญ่น้อยมากมาย พน้ื ท่ีส่วนใหญ่มธี ารน้ำแข็งปกคลุม มปี ระชากรอาศัยอยูเ่ บาบางและมี จำนวนน้อยมาก 2) เขตเทอื กเขาภาคตะวันออก มอี าณาเขตต้ังแตเ่ กาะนวิ ฟนั ด์แลนดท์ างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ แคนาดาลงมาถึงภาคตะวันออกเฉยี งใต้ของสหรฐั อเมรกิ า เปน็ เขตหินเก่าแตม่ ีอายนุ อ้ ยกว่าเขตหนิ เก่า แคนาดา ประกอบด้วยเทือกเขาเตี้ยๆ ที่ผ่านการสึกกรอ่ นมานาน ไดแ้ ก่ เทอื กเขาแอปปาเลเชียน มียอดเขา สงู สุดชือ่ ยอดเขามิตเชล อยูใ่ นมลรัฐนอรท์ แคโรไลนา สูง 2,005 เมตร 3) เขตเทอื กเขาสงู ภาคตะวนั ตก เปน็ เขตเทอื กเขาสูงทส่ี ลบั ซบั ซอ้ นกนั หลายแนวทเี่ กิดจากการโก่งตัวของ เปลือกโลกทีม่ ีอายุน้อย จงึ เปน็ เขตทีม่ ักเกิดปรากฏการณ์แผน่ ดินไหว มอี าณาบริเวณต้งั แตต่ อนเหนือสดุ ของ ช่องแคบแบรงิ จนถงึ ประเทศปานามา ไดแ้ ก่ เทือกเขาอะแลสกา มียอดเขาสูงสุดในทวปี อเมรกิ เหนอื

หน้า 3 ชื่อ ยอดเขาแมกคินลยี ์ (6,190 เมตร) เทือกเขารอกกี เทอื กเขาแคสเกต เทือกเขาเซียราเนวาดา เทอื กเขาเซยี รามาเดร และเทอื กเขาโคสต์ ระหวา่ งเทอื กเขาสูงเหล่ามีทีร่ าบสงู ระหว่างเทือกเขาท่ีสำคญั คือ ที่ราบสงู อะแลสกา ท่รี าบสงู บริตชิ โคลมั เบีย ท่รี าบสูงเกรตเบซิน ที่ราบสงู โคโลราโด และทร่ี าบสูงเมก็ ซิโก โดยเฉพาะท่รี าบสูงโคโลราโด มีลกั ษณะภมู ิประเทศทเ่ี ปน็ โกรกธาร หบุ เหวลกึ มีหนา้ ผาสูงชนั ซง่ึ เปน็ ผลมา จากการไหลของแม่นำ้ โคโลราโด ทำใหเ้ กิดการกดั เซาะดินและชัน้ หิน เกดิ เปน็ ภมู ปิ ระเทศทส่ี วยงาม ทมี่ ี ช่อื เสยี งมากทีส่ ดุ คอื แกรนดแ์ คนยอน (Grand Canyon) ในมลรัฐแอริโซนา และมอี ุทยานแห่งชาติทมี่ ี ชื่อเสยี งมาก คือ อุทยานแห่งชาตเิ ยลโลสโตน เป็นอุทยานนำ้ พรุ ้อนกเี ซอร์ รวม 120 แห่ง 4) เขตทรี่ าบภาคกลาง เป็นทร่ี าบกวา้ งใหญ่ มีอาณาเขตต้ังแตม่ หาสมุทรอาร์กติกทางตอนเหนือลงมา จนถึงอา่ วเมก็ ซิโกทางตอนใต้ และระหวา่ งเทอื กเขารอกกีกบั เทอื กเขาแอปปาเลเชียน ประกอบดว้ ยช้ันหินที่ เกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก ลักษณะโดยท่วั ไปเปน็ ทีร่ าบลูกคลน่ื คือ บริเวณทีส่ งู จะอยู่ตอนเหนือและ เขตติดต่อกับเทือกเขารอกกี บรเิ วณตอนกลางเป็นทีร่ าบลมุ่ แมน่ ้ำต่างๆ ประกอบดว้ ยเขตที่ราบ 6 เขต คอื 4.1 ทรี่ าบลุ่มแม่นำ้ แมกเคนซี (Mackenzie Lowlands) อยตู่ อนเหนือสุดระหว่างเขตหนิ เก่าแคนาดา กับเทือกเขาแมกคนิ ลยี ์ เป็นทร่ี าบลุม่ แมน่ ้ำแคบๆ มีประชากรอาศัยอยูเ่ บาบาง เน่อื งจากมีอากาศหนาวเย็น 4.2 ทีร่ าบแพรร์ แี คนาดา (Canadian Prairie) เปน็ ทร่ี าบใหญ่อยู่ทางภาคกลางของแคนาดา ได้แก่ บรเิ วณรัฐแมนโิ ทบา ซสั แคตเชวนั แอลเบอร์ทา เป็นเขตปลกู ขา้ วสาลที ีส่ ำคญั แหง่ หน่ึงของโลก 4.3 ทร่ี าบล่มุ ทะเลสาบทง้ั 5 และลมุ่ แมน่ ำ้ เซนตล์ อเรนซ์ (Great Lakes and St.Lawrence) ทะเลสาบทงั้ 5 ได้แก่ ทะเลสาบสุพีเรยี (ทะเลสาบน้ำจดื ทใี่ หญท่ สี่ ุดในโลก) มิชแิ กน ฮรู อน อีรี และออนแตริ โอ เปน็ แหล่งนำ้ ท่ีมอี าณาเขตตดิ ต่อกัน และระหว่างทะเลสาบอรี ีกบั ออนแตรโิ อมีน้ำตกขนาดใหญ่ ชื่อว่า น้ำตกไนแอการาและท่ีชายฝง่ั ทะเลสาบออนแตริโอ มที างระบายซง่ึ เป็นต้นกำเนิดของแมน่ ้ำเซนต์ลอเรนซ์ ไหลลงสู่มหาสมทุ รแอตแลนติก เขตที่ราบรอบทะเลสาบทัง้ 5 และล่มุ แม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์ มดี นิ ทเ่ี หมาะแก่ การเพาะปลูก และเป็นบริเวณท่ีการขนสง่ ทางน้ำภายในทวปี สำคญั ทีส่ ุดในโลก จงึ เปน็ เขตทม่ี ปี ระชากร อาศัยอยู่หนาแนน่ 4.4 ท่ีราบลุ่มแมน่ ำ้ มิสซสิ ซปิ ปี-มสิ ซูรี (Missisippi-Missouri Plain) เป็นทรี่ าบท่เี กิดจากแม่น้ำพัดเอา ดินตะกอนมาทบั ถมเปน็ บริเวณกวา้ ง เหมาะแก่การเพาะปลกู ไดแ้ ก่ แม่นำ้ มสิ ซสิ ซปิ ปี ซ่ึงมคี วามยาวท่ีสุดใน อเมรกิ าเหนอื ยาว 3,779 กโิ ลเมตร ไหลลงสูอ่ า่ วเม็กซโิ ก และมแี มน่ ำ้ สาขา คอื แมน่ ้ำมิสซรู ี โอไฮโอ เทนเนสซี อาร์คันซอส์ เป็นเขตที่มปี ระชากรอาศัยอยู่หนาแน่นแหง่ หนง่ึ ของอเมริกาเหนอื 4.5 ท่ีราบชายฝ่งั อ่าวเมก็ ซโิ กและชายฝัง่ มหาสมุทรแอตแลนตกิ (Gult Coast and Atlantic Plain) มี บริเวณต้ังแต่ทางตะวันออกของเทือกเขาแอปปาเลเชียนลงไปทางใต้ถึงอา่ วเม็กซโิ ก โดยเฉพาะทร่ี าบชายฝั่ง อา่ วเมก็ ซิโกเปน็ เขตทม่ี ีอากาศรอ้ น จึงเหมาะแก่การปลกู พืชเมืองรอ้ น เช่น ยาสบู ข้าวเจา้ ฝา้ ย ผลไม้ต่างๆ 4.6 ท่ีราบบนทีส่ งู (High Plains)ไดแ้ ก่ พ้นื ทที่ างด้านตะวันออกของเทอื กเขารอกกี ซ่งึ เป็นเขตเงาฝนหรือ

หน้า 4 เขตอบั ลม ทำใหม้ ีปริมาณนำ้ ฝนเฉลย่ี ตอ่ ปตี ำ่ เป็นเขตเหมาะสำหรับปลูกขา้ วสาลี โดยใชเ้ ครือ่ งจักรทุ่นแรง ในการเพาะปลกู แบบไร่ขนาดใหญ่ ลกั ษณะภมู ิอากาศ ปจั จัยทีม่ ีอิทธพิ ลต่อภูมอิ ากาศต่อทวปี อเมริกาเหนอื 1.ที่ต้งั อเมรกิ าเหนือเปน็ ทวปี มีอาณาเขตต้งั แต่ใกล้ขวั้ โลกถึงใกล้เส้นศนู ย์สูตร ทำให้มีอากาศท้ังใน เขตหนาว อบอนุ่ และรอ้ น แต่ส่วนใหญอ่ ยใู่ นเขตอบอนุ่ (ซง่ึ อยรู่ ะหวา่ งเสน้ ทรอปกิ ออฟแคนเซอร์กับเส้น อารก์ ตกิ เซอรเ์ คิล) 2. ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ เทือกเขาส่วนใหญ่ต้งั อยู่ในแนวเหนอื -ใต้ โดยเฉพาะทางตะวันตก เปน็ กำแพงขวางกั้นทศิ ทางลมทีพ่ ดั นำความช้ืนจากมหาสมุทรแปซิฟิก ทำใหพ้ ืน้ ที่ภายในทวปี เปน็ เขตแห้งแล้ง แบบทะเลทรายและกึ่งทะเลทราย ส่วนทางตะวันออกมีเทือกเขาไม่สงู มากนกั ซึง่ วางตัวอยูใ่ นแนว ตะวนั ออกเฉียงเหนอื -ตะวนั ตกเฉยี งใต้ ไมข่ วางก้ันทศิ ทางลมทีน่ ำความชน้ื จากมหาสมุทรแอตแลนติก และมี อิทธิพลตอ่ ภูมิอากาศส่วนใหญ่ของทวีปอเมรกิ าเหนอื 3. กระแสน้ำ ชายฝ่งั ตะวนั ออกดา้ นมหาสมุทรแอตแลนตกิ ของสหรัฐอเมริกา มกี ระแสน้ำอนุ่ กัลฟ์-สต รีมไหลผา่ น ทำให้ชายฝ่ังด้านน้มี ีอากาศไมห่ นาวเย็นมากนัก แมจ้ ะตงั้ อยู่ในละตจิ ูดสงู ส่วนชายฝงั่ ตะวันออก ด้านมหาสมุทรแอตแลนตกิ ของแคนาดา มกี ระแสน้ำเยน็ แลบราดอรไ์ หลผ่าน ทำให้มอี ากาศหนาวเยน็ มาก บรเิ วณท่กี ระแสนำ้ อุ่นกัลฟ์สตรีมกับกระแสนำ้ เยน็ แลบราดอร์ ไหลมาบรรจบกนั ทำให้เป็นแหล่งที่มี ปลาชกุ ชมุ มากแหง่ หนง่ึ ของโลก เรยี กว่า แกรนด์ แบงก์ ทางชายฝั่งด้านมหาสมุทรแปซฟิ กิ มกี ระแสน้ำอนุ่ อะแลสกาเหนอื ไหลผา่ น ทำให้มลรัฐวอชิงตนั ของสหรฐั อเมรกิ าและรฐั บรติ ชิ โคลัมเบยี มีอากาศอบอนุ่ ไม่ หนาวเยน็ แมจ้ ะอยูใ่ นละติจดู สูง สว่ นทางใตม้ กี ระแสน้ำเยน็ แคลิฟอร์เนียไหลเลียบชายฝง่ั ทำให้ชายฝงั่ ด้าน น้มี อี ากาศไมร่ ้อนจดั ในฤดูร้อน แมจ้ ะต้งั อย่ใู นละตจิ ูดต่ำ ภมู อิ ากาศในอเมรกิ าเหนือ แบ่งออกเป็น 12 เขต ดังนี้ 1. ภูมอิ ากาศแบบป่าดบิ ชืน้ (Tropical Rainforest Climate) เป็นภูมอิ ากาศท่มี ฝี นตกชุกและ อณุ หภมู ิสงู ตลอดปี พชื พรรณธรรมชาติ เป็นป่าดิบชนื้ พบบรเิ วณ ชายฝั่งตะวันออกของอเมรกิ ากลาง บางส่วนของหมเู่ กาะอนิ ดสี ตะวนั ตก 2. ภูมอิ ากาศแบบทุ่งหญา้ เมอื งร้อน (Tropical Grassland Climate) เปน็ ภูมิอากาศทีม่ ีอุณหภมู ิใน ฤดรู อ้ นกบั ฤดหู นาวแตกตา่ งกนั มาก มฝี นตกปานกลางส่วนใหญ่ตกในฤดูรอ้ นและมีฤดแู ล้งสลับปลี ะหลาย เดอื น พชื พรรณธรรมชาติ เปน็ ป่าโปร่งสลับท่งุ หญา้ เรียกว่า ทุ่งหญา้ สะวันนา (Savanna) พบบริเวณ พน้ื ทส่ี ว่ นใหญข่ องเม็กซิโกและหมู่เกาะอนิ ดีสตะวันตก ชายฝ่งั ตะวนั ตกของอเมริกากลาง 3. ภูมิอากาศแบบทะเลทราย (Desert Climate) เปน็ ภมู อิ ากาศร้อนแหง้ แล้ง ปรมิ าณน้ำฝนเฉลยี่ ไม่ เกิน 10 น้ิว/ปี พืชพรรณธรรมชาติ เปน็ พืชจำพวกตะบอกเพชรและไม้ประเภทมหี นาม พบบริเวณ ภาค

หน้า 5 ตะวันตกเฉียงใต้ของสหรฐั อเมริกาและภาคเหนือของเม็กซโิ ก 4. ภูมอิ ากาศแบบทงุ่ หญ้ากงึ่ ทะเลทราย (Steppe Climate) เปน็ ภูมิอากาศรอ้ นแหง้ แลง้ ฤดูหนาว อากาศหนาวจัด ปริมาณน้ำฝนเฉล่ยี 10-15 น้ิว/ปี พืชพรรณธรรมชาติ เปน็ ทุ่งหญ้าส้ันๆ เรยี กวา่ ทุ่งหญ้า สเตปป์ (Steppe) พบบริเวณ ชายขอบของทะเลทรายทางตะวันตกและตะวนั ตกเฉยี งใต้ของสหรัฐอเมริกา บางส่วนของแคนาดาและเม็กซโิ ก 5. ภมู อิ ากาศแบบเมดิเตอร์เรเนยี น (Mediterranean Climate) เป็นภูมอิ ากาศร้อนจัดและแห้งแล้ง ในฤดูรอ้ น มีอากาศอบอนุ่ มฝี นตกในฤดหู นาว พืชพรรณชาติ เปน็ ทงุ่ หญา้ สลับป่าไม้พุ่มเต้ยี ๆ หรือเรียกว่า ปา่ แคระ (Chaparral) พบบรเิ วณ ชายฝ่งั มหาสมุทรแปซิฟกิ ทางตอนกลางของมลรฐั แคลิฟอร์เนยี ของ สหรัฐอเมรกิ า 6. ภมู ิอากาศแบบภาคพื้นสมทุ รชายฝัง่ ตะวนั ตก (Marine Westcoast Climate) มอี ากาศในฤดู ร้อน อบอุ่นถงึ ค่อนข้างเย็น ฤดหู นาวอากาศไม่หนาวจดั มีฝนตกสมำ่ เสมอตลอดปี เพราะได้รับอทิ ธพิ ลจาก ลมประจำตะวนั ตก พชื พรรณธรรมชาติ เปน็ ป่าไม้ผลดั ใบผสมกับป่าสนพบบริเวณ ชายฝัง่ มหาสมุทร แปซฟิ ิกของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา 7. ภมู ิอากาศแบบอบอนุ่ ช้ืน (Humid Subtropical Climate) มลี ักษณะอากาศอบอุ่น อุณหภูมิปาน กลาง ฝนตกตลอดปไี ม่มีฤดูแลง้ พืชพรรณธรรมชาติ เปน็ ป่าไม้ใบกว้างผลดั ใบ พบบรเิ วณ ภาคตะวนั ออก เฉยี งใตข้ องสหรฐั อเมรกิ า ทรี่ าบชายฝ่ังมหาสมุทรแอตแลนติก ดินแดนทีอ่ ยู่ภายในทวปี มีฝนตกนอ้ ย พืช พรรณเปน็ ทุง่ หญ้ายาวในเขตอบอนุ่ เรยี กว่า ทุ่งหญ้าแพร์รี (Prairie) 8. ภูมอิ ากาศแบบอบอนุ่ ชน้ื ภาคพ้ืนทวีป (Humid Continental Climate) ฤดรู ้อนมอี ุณหภมู ิปาน กลางถึงสงู มาก และมฝี นตก ฤดหู นาวมอี ากาศหนาว พืชพรรณธรรมชาติ เปน็ ป่าสนผสมป่าไม้ผลัด ใบ พบบริเวณ พน้ื ท่ที างตะวันออกและตะวันตกของทะเลสาบทั้ง 5 ( บรเิ วณทางตอนใตข้ องแคนาดาและ ตอนเหนือของสหรฐั อเมริกา) 9. ภมู ิอากาศแบบไทกา (Taiga Climate) หรือ ภมู ิอากาศกึง่ ข้วั โลก มีฤดรู อ้ นมอี ากาศค่อนข้างเยน็ มี ระยะเวลาสนั้ มีฝนตกนอ้ ย ฤดูหนาวมีอากาศหนาวจดั มหี ิมะตก พชื พรรณธรรมชาติ ป่าสน เปน็ แหลง่ ไม้ เนอื้ อ่อนทส่ี ำคัญของอเมริกาเหนอื พบบรเิ วณมลรฐั อะแลสกา และพ้นื ท่ีสว่ นใหญ่ทางภาคเหนือของ แคนาดา 10. ภมู ิอากาศแบบทนุ ดรา (Tundra Climate) หรือ ภูมอิ ากาศแบบข้ัวโลก เป็นภูมอิ ากาศทีม่ อี ากาศ หนาวจัดตลอดปี ในฤดูร้อนไมเ่ ดอื นใดท่ีมอี ณุ หภูมสิ งู กวา่ 10 องศาเซลเซยี ส พืชพรรณธรรมชาติ เป็นพวก ตะไคร่นำ้ มอสส์ พบบริเวณชายฝ่งั ของมหาสมทุ รอาร์กตกิ ของมลรฐั อะแลสกาและแคนาดา

หน้า 6 11. ภมู อิ ากาศแบบทุ่งนำ้ แขง็ (Ice-cap Climate) พบบริเวณ ตอนกลางของเกาะกรนี แลนด์ มี อากาศหนาวจัดและมีนำ้ แขง็ ปกคลุมตลอดปี 12. ภมู อิ ากาศแบบทีส่ งู (Highland Climate) ภูมิอากาศทีอ่ ากาศเปลี่ยนแปลงไปตามความสงู ของพน้ื ทีท่ กุ ๆ ความสงู 180 เมตร อุณหภูมิลดลง 1 องศาเซลเซียส ลักษณะทางสังคมและวฒั นธรรม มนษุ ยก์ ลุ่มแรกของอเมริกาเหนือเป็นขาวเอเชียที่อพยพมาจาก ไซบีเรียผ่านช่องแคบเบริงเข้าสู่ อะแลสกา เม่อื ประมาณ 30,000 ปมี าแลว้ ตอ่ มาไดแ้ พร่ขยายเผา่ พันธไ์ุ ปทว่ั ทวีปอเมริกาเหนือและอเมรกิ า ใต้ มนษุ ยก์ ลุ่มนไ้ี ดช้ ือ่ ว่าเป็นบรรพบรุ ุษของพวกอนิ เดียและเอสกิโมในปัจจบุ นั ชน เผา่ โบราณไดท้ ้งิ รอ่ งรอย ของอารยธรรมทเี่ จรญิ ก้าวหนา้ ไว้ในทวีปอเมรกิ าเหนือ หลายแห่ง เชน่ อารยธรรมของพวกแอสเต็ก (Aztec) ในเม็กซิโก อารยธรรมของพวกมายา (Maya) ในกวั เตมาลา อารยธรรมของพวกอินคา (Inca)ในเปรู เปน็ ตน้ เม่อื ประมาณ 200 ปหี ลงั จากท่ี คริสโตเฟอร์ โคลัมเบีย ได้ค้นพบทวีปอเมริกาเหนอื แล้ว ได้มชี าว ยโุ รปจากหลายประเทศเข้ามามอี ิทธิพลและพากนั อพยพผคู้ นเขา้ มาอาศยั ในดินแดนน้ี – อังกฤษและฝรั่งเศส เขา้ ครอบครองตอนเหนอื ของทวปี อเมริกา – สเปน เขา้ ครอบครองหม่เู กาะอนิ ดสี ตะวนั ตก เม็กซิโกและอเมรกิ ากลาง การท่ีชาวยโุ รปเข้ามาครอบครองทวปี อเมรกิ าเหนอื เปน็ เหตใุ หส้ ภาพสังคมและวัฒนธรรมของชาวยุโรปเขา้ มามีอิทธิพลและความเปน็ อยู่ของประชากรในทวปี อเมรกิ าเหนอื ด้วย 1. ประชากร 1.1 เช้ือชาติ แบ่งออกเป็น 4 กลมุ่ 1) กลุ่มคนผิวเหลอื ง เปน็ ชนเผา่ ดงั้ เดิมทอ่ี พยพมาจากทวีปเอเชยี ไดแ้ ก่ – ชาวเอสกโิ ม หรือ อเมรินเดียน (Amerindian) ปจั จุบันอาศยั อยู่ในประเทศแคนาดา มลรัฐอะแลสกาของ สหรัฐอเมรกิ า – ชาวอินเดียน (Indian) ในสหรฐั อเมรกิ าและอเมริกากลาง 2) กลุ่มคนผิวขาว เป็นประชากรที่อพยพมาจากทวีปยโุ รป ได้แก่ ชาวสเปน โปรตุเกส องั กฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และชาวยุโรปอ่นื ๆ เป็นประชากรสว่ นใหญ่ของสหรัฐอเมรกิ าและแคนาดา 3) กลุม่ คนผิวดำ เป็นประชากรท่ีถกู นำมาจากทวีปแอฟรกิ า เพื่อใช้แรงงานในไรน่ าในสหรัฐอเมรกิ า มี อยมู่ ากในสหรัฐอเมรกิ ามากกว่า 30 ลา้ นคน 4) กลุ่มคนเลอื ดผสม ไดแ้ ก่ – เมสติโซ (Mestizo) หมายถึง พวกเลือดผสมระหว่างชาวผิวขวากบั อินเดียน เปน็ ประชากร ส่วนใหญ่ของ กลุม่ ประเทศละตินอเมริกา – มูแลตโต (Mulatto) หมายถงึ พวกเลอื ดผสมระหว่างชาวผิวดำกบั ชาวผิวขาว เปน็ ประชากรใน สหรฐั อเมริกา

หนา้ 7 1.2 ภาษา ภาษาท่ปี ระชากรสว่ นใหญ่ใชใ้ นปจั จุบัน เปน็ ตระกูลอินโด-ยโู รเปียน มีหลายกลมุ่ ดงั น้ี 1) ภาษาองั กฤษ เป็นภาษาประจำชาตแิ ละภาษาราชการของแคนาดาและสหรฐั อเมริกา 2) ภาษาสเปน เป็นภาษาราชการของประเทศเม็กซโิ ก และประเทศต่างๆในอเมรกิ ากลาง 3) ภาษาฝรั่งเศส เป็นภาษาที่ใช้มากในรัฐควิเบกของแคนาดาและในเกาะเฮติ 1.3 ศาสนา คริสตศ์ าสนาเปน็ ศาสนาของคนส่วนใหญ่ในอเมรกิ าเหนอื มีนิกายสำคญั คอื 1) นิกายโปรเตสแตนต์ ประชากรทนี่ บั ถอื อยู่ในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา 2) นิกายโรมนั คาทอลิก ประชากรทน่ี บั ถืออยู่ในรัฐควิเบกของแคนาดาและประเทศตา่ งๆ ใน ละตนิ อเมริกา รวมทงั้ ประชากรในเมอื งต่างๆของสหรฐั อเมริกาทีเ่ คยเปน็ อาณานคิ มของสเปนมา ก่อน 1.4 การศกึ ษา 1) กลมุ่ แองโกลอเมริกา รัฐบาลได้จัดการศกึ ษาแบบใหเ้ ปลา่ ทั้งระดับประถมและมัธยม อาจ กล่าวได้ว่าประชากรที่มอี ายเุ กนิ 15 ปี เกือบทกุ คนเปน็ ผู้อา่ นออกเขียนได้ 2) กล่มุ ละตอิ เมริกา มีผรู้ หู้ นังสอื มากกว่ารอ้ ยละ 80 ยกเวน้ เอลซัลวาดอร์ ฮอนดรู ัส นกิ ารากวั มีผรู้ ู้หนังสอื ประมาณรอ้ ยละ 73 กวั เตมาลาและเฮติ มีผ้รู ้หู นังสือเพียงร้อยละ 60 และ 53 ตามลำดับ 1.5 การกระจายและความหนาแนน่ ของประชากร อเมรกิ าเหนือมีประชากรท้ังหมดประมาณ 469.7 ล้านคน (2541) เฉลย่ี ความหนาแน่นประมาณ 21 คนตอ่ ตารางกโิ ลเมตร 1) บริเวณทม่ี ีประชากรอาศัยอยหู่ นาแนน่ คือ ภาคตะวันออกของทวีป เพราะ – ลกั ษณะภมู ิประเทศเป็นท่รี าบ ซงึ่ เหมาะแกก่ ารเพาะปลูก เลย้ี งสตั ว์ และการคมนาคมขนสง่ - มี ปรมิ าณฝนเพียงพอกับการเพาะปลกู – มแี ร่ธาตุทสี่ ง่ เสรมิ อตุ สาหกรรม ได้แก่ ถ่านหนิ เหลก็ นำ้ มันปิโตรเลยี ม – มีการคมนาคมขนส่งสะดวก ทัง้ ทางนำ้ ภายใน และทะเลสาบใหญ่ทั้ง 5 แม่นำ้ เซนต์ลอเรนซ์ แมน่ ้ำ มิสซสิ ซปิ ปี เขตชายฝั่งตะวันตกบรเิ วณรฐั แคลฟิ อร์เนยี เพราะเปน็ เขต การเกษตร อุตสาหกรรม การค้าและการคมนาคมขนส่ง 2) บรเิ วณท่ีมปี ระชากรอาศยั อยู่เบาบาง เขตเทือกเขาและท่รี าบสงู ภาคตะวันตก เขตทะเลทราย ทางภาคตะวนั ตกเฉยี งใต้ เขตอากาศหนาวเย็นในมลรัฐอะแลสกาและดนิ แดนทางภาคเหนอื ของ แคนาดา

หน้า 8 2. อาชีพและทรัพยากร 1. การเพาะปลูก มีพืชทส่ี ำคัญ ไดแ้ ก่ – ขา้ วโพด เปน็ พชื เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ผลติ ไดเ้ ป็นอันดบั 1 ของโลก ปลกู มากในบริเวณ ภาคกลาง โดยเฉพาะดินแดนทางตอนใตข้ องทะเลสาบทั้ง 5 – ขา้ วสาลี ปลูกมากบรเิ วณภาคกลางของสหรัฐอเมรกิ าและแคนาดา สหรฐั อเมรกิ ามีการปลกู ข้าว สาลฤี ดหู นาว (Winter wheat) ปลกู มากในเขตทีร่ าบภาคกลาง ทรี่ าบภาคใต้ และภาคตะวันออก แคนาดา ปลูกขา้ วสาลีฤดูใบไมผ้ ลิ (Spring wheat) ปลกู มากในเขตทงุ่ หญ้าแพรร์ ตี อนกลาง – ฝ้าย ปลูกมากในบริเวณภาคใตบ้ ริเวณลมุ่ แม่น้ำมิสซสิ ซปิ ปี ภาคตะวนั ตกในมลรัฐแอรโิ ซนาและ แคลิฟอรเ์ นยี – ถว่ั เหลอื ง เปน็ พืชทปี่ ลกู เมอ่ื ไม่นานมาน้ี เปน็ สามารถผลติ ได้มากที่สดุ ในโลก ปลูกมากในเขตที่ราบ ภาคกลางของสหรัฐอเมรกิ า – ยาสบู เปน็ พืชเศรษฐกิจทีท่ ำชื่อเสียงใหแ้ ก่สหรัฐอเมรกิ า จนได้ชือ่ วา่ ทองคำเขียว (Green Gold) ปลกู มากบริเวณภาคตะวันออกของสหรัฐอเมรกิ า ได้แก่ มลรัฐเคนทักกี เทนเนสซี จอรเ์ จยี เวอรจ์ ิเนีย นอรท์ แคโรไลนาและเซาทแ์ คโรไลนา – อ้อย เป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศคิวบา และหมู่เกาะอนิ ดีสตะวนั ตก บริเวณลมุ่ แม่นำ้ มิสซิสซิปปี มล รฐั ฟลอรดิ าและลยุ เซียนา – ขา้ วเจ้า ปลกู มากบริเวณมลรัฐทางภาคใตข้ องสหรัฐอเมรกิ า ได้แก่ มลรฐั เทกซสั เทนเนสซี ลยุ เซยี นา มิสซสิ ซิปปี ผลติ ไดม้ าก และปริมาณบริโภคนอ้ ย จงึ สง่ ออกได้มาก – ผกั และผลไมต้ ่างๆ ในเขตอบอนุ่ ทางภาคตะวันออก มีการปลูกเชอรร์ ี สตรอเบอรี แอปเปิล ทางภาคใต้ เปน็ เขตรอ้ น ปลูก ส้ม สบั ปะรด ชายฝง่ั ตะวันตกเฉียงใต้ ปลูกองุ่น มะกอก สม้ มะนาว (อากาศแบบเมดิ เตอรเ์ รเนยี น) – พชื ผลเมืองรอ้ น ได้แก่ อ้อย ยาสูบ ปลกู มากในหม่เู กาะอินดสี ตะวนั ตก กาแฟ กล้วย ฝา้ ย ปลกู มากใน อเมรกิ ากลาง 2. การเลยี้ งสัตว์ – โคเนื้อ เลยี้ งมากในเขตอากาศแห้งแลง้ ทางตอนกลางคอ่ นไปทางตะวนั ตกของทวปี โดยเล้ยี งแบบ คอกปศุสตั วข์ นาดใหญ่ (Livestock ranching) – โคนม เลีย้ งมากในเขตทีร่ าบภาคกลางและภาคตะวนั ออก โดยมกี ารปลกู ขา้ วโพด ขา้ วโอตและถ่ัว เหลืองไวเ้ ป็นอาหารสัตว์ ทำใหส้ ตั ว์เลย้ี งมีคุณภาพดี – สกุ ร เป็ด และไก่ เลี้ยงมากในเขตเล้ียงโคนม โดยใชห้ างนมเปน็ อาหารเสริมสำหรบั สุกร ข้าวโพดและ ถว่ั เหลือง ซ่ึงปลูกมากในเขตนเี้ ปน็ อาหารสตั ว์ปกี

หน้า 9 – แกะ เลย้ี งมากในเขตแห้งแลง้ ทางภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและภาค ตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซโิ ก 3. การทำป่าไม้ อเมรกิ าเหนอื เป็นทวปี ทผี่ ลิตไมม้ ากเปน็ อนั ดบั 2 ของโลกรองจากยุโรป ส่วนใหญเ่ ปน็ ไม้ เนื้อออ่ น เขตปา่ ไมอ้ ยู่ภาคตะวนั ตกของแคนาดาในรัฐบริตชิ โคลมั เบยี แอลเบอรต์ า และภาคตะวนั ตกเฉยี ง เหนอื ของสหรัฐอเมริกา ในมลรัฐออริกอน วอชิงตันและแคลฟิ อร์เนีย 4. การประมง แหล่งประมงสำคญั คอื – ทางตะวันออกของเกาะนิวฟันดแ์ ลนด์ ทเ่ี รยี กวา่ แกรนด์ แบงก์ (Grand Bank) – บริเวณชายฝ่ังอ่าวเมก็ ซโิ ก และชายฝั่งตะวันตกด้านมหาสมทุ รแปซิฟกิ 5. การทำเหมืองแร่ 1) ถา่ นหนิ แหลง่ ทส่ี ำคญั อยู่ในเขตเทือกเขาแอปปาเลชียน และภาคตะวันตกแถบเชิงเทือกเขา รอกกีของสหรฐั อเมริกา และเมก็ ซโิ ก 2) นำ้ มันปโิ ตรเลยี ม แหล่งผลติ ที่สำคญั คือบรเิ วณตอนเหนอื ของมลรัฐอะแลสกา ภาคกลางตอนล่าง ของแคนาดา และชายฝัง่ ของอ่าวเมก็ ซิกโกจนถงึ ภาคใต้ของประเทศเมก็ ซโิ ก 3) เหล็ก แหลง่ ผลิตทสี่ ำคัญ คือ บริเวณทะเลสาบท้ัง 5 โดยเฉพาะชายฝั่งทะเลสาบสพุ เี รียบริเวณ เทอื กเขาเมซาบี (Mesabi Range) ในมลรัฐมินนโิ ซตา เปน็ แหล่งแร่เหลก็ ทส่ี ำคัญที่สดุ ในอเมรกิ าเหนอื 4) ทองคำ และเงิน แหลง่ ผลิตทองคำอยใู่ นเขตเทอื กเขารอกกี สว่ นแร่เงินมีแหล่งผลินในเม็กซโิ ก 5) ทองแดง ตะก่ัว สังกะสี ฟอสเฟต แหล่งผลิตอยู่ในเขตเทอื กเขารอกกี 6) บอกไซต์ เป็นแรท่ ี่ใช้ผลติ อะลูมิเนียม พบมากในมลรัฐอารค์ ันซอของสหรฐั อเมริกาและเกาะ เจเมกา 6. การอุตสาหกรรม อเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีความเจรญิ ก้าวหนา้ ในดา้ นอุตสาหกรรมมาก ยา่ น อุตสาหกรรมของสหรัฐอเมรกิ า ตั้งแต่นวิ ยอร์คทางชายฝงั่ มหาสมุทรแอนแลนตกิ เขา้ ไปจนถึงบริเวณ ทะเลสาบท้ัง 5 และมลรัฐทางชายฝงั่ ตะวนั ตกและทางใต้ ย่านอตุ สาหกรรมของแคนาดาอยู่ในเขตลุม่ แม่นำ้ เซนตล์ อเรนซ์ 7. การคา้ ขาย สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศท่ีมปี ริมาณการค้ากับภมู ิภาคอ่นื มากที่สดุ ในทวปี อเมริกาเหนอื 1) สนิ ค้าออก ได้แก่ นำ้ มันเช้อื เพลงิ เหล็ก เหล็กกลา้ ถ่านหิน เครือ่ งจักรกล ไม้ ยาสบู รถยนต์ เครอื่ งบนิ ฯลฯ 2) สินค้าเข้า สว่ นใหญ่เป็นวัตถุดิบ เชน่ น้ำมันปโิ ตรเลยี ม จากตะวันออกกลาง กาแฟ จากอเมริกาใต้ ชา จากศรลี ังกาและอินเดีย ผลไมเ้ มืองร้อน จากอเมริกากลางและอเมรกิ าใต้ ดีบกุ และยางพารา จากเอเชีย ตะวันออก เฉยี งใต้ ขนแกะ จากออสเตรเลีย ฯลฯ

หน้า 10 8. การคมนาคมขนสง่ 1) ทางบก ประกอบดว้ ย ทางรถไฟ สหรัฐอเมรกิ าเปน็ ประเทศทมี่ ที างรถไฟยาวรวมกันประมาณ 300,000 กิโลเมตร ซึง่ เปน็ ระยะทางที่ยาวกว่าทางรถไฟของยุโรปทง้ั ทวปี ทางรถไฟของอเมรกิ าเหนือ หนาแนน่ บริเวณชายฝ่งั ตะวนั ออก ทางรถยนต์ กลมุ่ แองโกลอเมริกา มที างหลวงท่มี ผี วิ จราจรชนั้ ดีมคี วามยาวรวมกันมากกวา่ ความยาวของทาง รถไฟถงึ 16 เทา่ และมีทางหลวงสายนานาชาติท่เี ชอ่ื มประเทศต่างๆในทวีปอเมริกาเหนือตงั้ แต่แคนาดาถึง ปานามา เรียกว่า ทางหลวงสายแพนอเมรกิ า (Pan-American Highway Or Inter-American Highway) และตอ่ เขา้ ไปถงึ เมอื งหลวงของประเทศเปรู 2) ทางน้ำ ประกอบด้วย – มหาสมุทรแอตแลนติก มเี ส้นทางเดินเรอื ทีใ่ ช้ขนส่งสนิ คา้ มากท่สี ุดระหวา่ งอเมรกิ าเหนอื กับทวปี ยุโรป มีเมืองทา่ เรือขนาดใหญ่หลายแหง่ เชน่ บอสตนั นิวยอรก์ ฟลิ าเดลเฟีย ฮาลิแฟกซ์ นิวออร์ลนี ส์ ฯลฯ – แม่น้ำและทะเลสาบ เป็นเสน้ ทางเดินเรือภายในทวีปท่ีสำคัญ ทะเลสาบท้งั 5 แม่นำ้ เซนต์ลอเรนซ์ แม่น้ำมสิ ซิสซิปปรี ะหว่างมหาสมุทรแอตแลนตกิ และแปซิฟิกมีการขุดคลองท่ีคอคอดปานามา เพ่ือใช้เป็น เสน้ ทางลัดในการเดินเรอื โดยไมต่ อ้ งผา่ นแหลมฮอรน์ ในทวีปอเมรกิ าใต้ คือ คลองปานามา มคี วาม ยาว 74 กโิ ลเมตร 3) ทางอากาศ มีความเจรญิ กา้ วหนา้ มากโดยเฉพาะสหรฐั อเมริกาและแคนาดา มที ้งั เส้นทางอากาศ ภายในประเทศและระหวา่ งประเทศ 4) ทางทอ่ เปน็ ระบบท่ีใชใ้ นการสง่ แก๊สธรรมชาติ นำ้ มนั ถา่ นหนิ ผงและน้ำจากแหลง่ ผลิตไปสูแ่ หล่งบรโิ ภค การขนส่งทางระบบท่ีใช้ในปจั จุบนั ประมาณร้อยละ 50 ของโลก อยู่ในประเทศสหรฐั อเมริกา เช่น ระบบท่อ ขนส่งนำ้ มันจากอะแสสกา-อเมรกิ า มคี วามยาวประมาณ 1,300 กิโลเมตร และมกี ารตดิ ตั้งระบบควบคุม อุณหภูมิ เพ่อื ป้องกนั น้ำมันแข็งตัว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook