เอกสารประกอบการเรยี น วชิ า ประวตั ิศาสตร์ ส 31104 หน่วยท่ี 1 ผลงานบุคคลสำคัญสมัยสุโขทยั ระดับชน้ั มัธยมศึกษา ปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง จำนวนหนว่ ยกิต 0.5 หน่วยกิต นางอจั ฉรา ไสยะหตุ ครผู สู้ อน กลมุ่ สาระสงั คมศึกษา ศาสนา และ วฒั นธรรม โรงเรียนบอ่ พลอยรัชดาภเิ ษก จงั หวดั กาญจนบรุ ี สังกดั สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษาจังหวัดกาญจนบรุ ี
คำนำ ประวตั ศิ าสตรช์ าติไทยนบั ตง้ั แต่สมยั สุโขทยั มาจนถงึ สมัย รตั นโกสินทร์ ได้มีบุคคลสำคญั หลายท่านทีม่ สี ว่ นในการสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและ ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยใหก้ ับสมั คมไทยอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง บคุ คลสำคัญเหล่านมี้ ที ้งั พระมหากษตั รยิ ์ พระบรมวงศานุวงศ์ ขนุ นาง ขา้ ราชการ และขาวต่างประเทศ ซ่งึ นักเรียนจำเป็นต้องเรยี นรู่เก่ยี วกับประวัตแิ ละผลงานของท่านเหลา่ นี้ เพอื่ จะไดเ้ กิด ความภาคภมู ใิ จวา่ กวา่ ที่ประเทศไทยจะมีความม่นั คงเปน็ ปึกแผ่นดงั เช่นทุกวนั นี้ ลว้ นเกิด จากความเสยี สละ ความกลา้ หาญและรักชาตขิ องบรรพบุรษุ ไทย ซง่ึ คณุ ความดที ่คี วรยก ย่องและถอื เปน็ แบบอยา่ งในการดำเนนิ ชีวิตประจำวนั โดยใช้ทักษะกระบวนการทางสังคมศาสตร์ เพื่อฝกึ ทกั ษะวิเคราะห์วางแผนกำหนด แนวทางและมีสว่ นร่วม เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางสังคมศาสตรไ์ ด้อย่างถูกตอ้ ง และเหมาะสม และมีความรกั ความภมู ใิ จและธำรงความเป็นไทย อนรุ กั ษภ์ มู ิปญั ญาไทย และวัฒนธรรมไทยเกิดความสามารถในการคดิ นางอจั ฉรา ไสยะหุต ครผู ู้สอน
สารบญั หนา้ คำอธิบายรายวิชา ก โครงสร้างรายวิชา ข ขอบข่ายการเรียนรู้ ค หน่วยท่ี 1 ผลงานของบุคคลสำคัญในการสร้างสรรคช์ าตไิ ทย 1-10 สมัยสโุ ขทยั 11-13 ใบงาน ขอ้ มลู สารสนเทศ
ก คำอธิบายรายวชิ า รหสั วชิ าส31104 ประวัติศาสตร์ไทย2 สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกติ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ศึกษาประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทยอิทธิพลของวัฒนธรรม ตะวันตกและตะวันออกที่มีต่อสังคมที่มีต่อสังคมไทย ปัจจัยและบุคคลที่ส่งเสริมสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยและ วัฒนธรรมไทย ซึ่งมีผลต่อสังคมไทยในยุคปัจจุบัน เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระ นางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผลงานของบุคคลสำคัญทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่มสี ว่ นสร้างสรรค์วัฒนธรรม ไทยและประวัติศาสตร์ไทย เช่น พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระเจา้ บรมวงศ์ เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจิตรเจริญ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ สมเด็จพระ เจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำรงราชานภุ าพ หมอ่ มราโชทยั หมอ่ มราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร สมเด็จเจา้ พระยาบรม มหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) บาทหลวงปา เลอกัวซ์ พระยากัลป์ยาณไมตรี (Dr.FrancisB.Sayreดร.ฟรานซีส บี แซร์) ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี พระยารัษฎานุประดิษฐมหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง)สภาพแวดล้อมที่มีผลต่อ การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยวิถีชีวิตของคนไทยสมัยต่าง ๆ การสืบทอดและการเปลี่ยนแปลงของ วฒั นธรรมไทย แนวทางการอนุรกั ษภ์ ูมปิ ัญญาและวัฒนธรรมไทยและการมสี ว่ นร่วมในการอนรุ ักษ์ วิธกี ารมีส่วนร่วม อนุรกั ษภ์ ูมปิ ัญญาและวัฒนธรรมไทย โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางสังคมศาสตร์ เพอ่ื ฝึกทักษะวเิ คราะห์วางแผนกำหนดแนวทางและมีสว่ นรว่ ม เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ทักษะกระบวนการทางสังคมศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม และมี ความรกั ความภูมิใจและธำรงความเปน็ ไทย อนรุ ักษภ์ ูมปิ ัญญาไทยและวัฒนธรรมไทยเกิดความสามารถในการคดิ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรมภมู ปิ ญั ญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและธำรง ตวั ช้วี ดั ความเป็นไทย ม.4-6/3 วิเคราะหป์ จั จัยทสี่ ่งเสรมิ การสร้างสรรคภ์ ูมปิ ัญญาไทยและวฒั นธรรมไทยซ่ึงมผี ล ตอ่ สังคมไทยในปจั จุบัน ม.4-6/4 วเิ คราะห์ผลงานของบุคคลสำคัญท้งั ชาวไทย ชาวต่างประเทศ ท่มี ีส่วนสรา้ งสรรค์ วฒั นธรรมไทย และประวัตศิ าสตร์ชาติไทย ม.4-6/5 วางแผนกำหนดแนวทางและการมสี ่วนร่วม การอนุรักษ์ภูมปิ ัญญาไทยและ วฒั นธรรมไทย รวม 3 ตัวชีว้ ัด
ข โครงสร้างรายวิชา ส 31104 ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย 2 ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 2 หน่วย มาตรฐานการเรียนร้/ู ชอื่ หน่วยการ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก ที่ ตวั ชวี้ ดั เรียนรู้ (ช.ม.) 1 ส.4.3 เขา้ ใจความเป็นมา ผลงานของ 1. ผลงานของบุคคลสำคัญท้ัง 10 15 ของชาติไทย วัฒนธรรม บุคคลสำคัญใน ภูมปิ ญั ญาไทย มีความรกั การสร้างสรรค์ ชาวไทยและต่างประเทศที่มีสว่ น ความภูมิใจและธำรงความ ชาติไทย สร้างสรรค์วฒั นธรรมไทยและ เปน็ ไทย ประวัตศิ าสตรไ์ ทย เช่น ม.4-6/4วเิ คราะห์ผลงาน - พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลิศ หลา้ นภาลยั ของบุคคลสำคญั ทงั้ ชาว - พระบาทสมเดจ็ พระน่งั เกลา้ ไทยและต่างประเทศ ท่มี ี เจ้าอยหู่ ัว สว่ นสรา้ งสรรค์วฒั นธรรม - พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ ไทยและประวัติศาสตรไ์ ทย เจา้ อยหู่ วั - สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้ากรม พระยาวชริ ญาณวโรรส - พระเจ้าบรมวงศ์ เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอเจ้า ฟา้ จิตรเจรญิ กรมพระยานรศิ รา นุวตั วิ งศ์ - สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ - หมอ่ มราโชทยั หมอ่ มราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร - สมเดจ็ เจา้ พระยาบรมมหาศรีสุ ริยวงศ์ (ชว่ ง บนุ นาค) - บาทหลวงปา เลอกัวซ์ - พระยากลั ปย์ าณไมตรี (Dr.Francis B.Sayre ดร.ฟราน ซสี บี แซร์) - ศาสตราจารย์ศิลป์ พรี ะศรี - พระยารัษฎานปุ ระดิษฐมหิศร ภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง)
หน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้/ ช่อื หน่วยการ สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนัก (ช.ม.) ที่ ตัวชีว้ ัด เรียนรู้ 1 20 สอบกลางภาค 5 15 2 ส.4.3 เข้าใจความเปน็ มา ภูมิปัญญาไทย 1. อทิ ธพิ ลของวัฒนธรรม ของชาติไทย วัฒนธรรม ตะวนั ตกและตะวนั ออกทม่ี ีต่อ ภมู ปิ ัญญาไทย มคี วามรกั ความภมู ใิ จและธำรงความ สังคมท่ีมีตอ่ สังคมไทย เป็นไทย 2. ปจั จัยและบคุ คลท่ีส่งเสรมิ ม.4-6/3 วเิ คราะห์ สร้างสรรคภ์ ูมิปญั ญาไทยและ ปัจจัยท่ีสง่ เสรมิ การ วัฒนธรรมไทย ซึ่งมผี ลตอ่ สร้างสรรค์ภมู ปิ ญั ญาไทย สงั คมไทยในยุคปัจจบุ นั เชน่ และวฒั นธรรมไทย ซ่ึงมี - พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว ผลต่อสังคมไทยในยุค ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ปัจจบุ ัน - สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถพระพันปี หลลวง
หนว่ ยท่ี มาตรฐานการ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั เรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั (ชวั่ โมง) คะแนน - สภาพแวดลอ้ มที่ 3 มาตรฐาน ส 4.3 การอนรุ ักษ์ภูมปิ ญั ญาและ มีผลต่อการสรา้ งสรรค์ภูมิ 3 20 เข้าใจความเป็นมา วัฒนธรรมไทย ปญั ญาและวฒั นธรรมไทย ของชาตไิ ทย - วิถีชีวติ ของคน 18 50 ไทยสมัยต่าง ๆ 1 20 วฒั นธรรม ภูมปิ ัญญา - การสบื ทอดและการ 1 30 เปลี่ยนแปลงของ 20 100 ไทย มีความรกั ความ วฒั นธรรมไทย - แนวทางการอนุรักษ์ภมู ิ ภมู ิใจและธำรงความ ปัญญา และวัฒนธรรมไทยและ เป็นไทย การมีส่วนรว่ มในการ อนุรักษ์ ม.4-6/5 วางแผน - วธิ ีการมสี ่วนร่วม อนุรักษภ์ มู ิปัญญาและ กำหนดแนวทางและ วฒั นธรรมไทย การมสี ว่ นร่วมการ อนุรักษภ์ มู ิปัญญา ไทยและวัฒนธรรม ไทย รวม สอบวดั ผลกลางภาคเรียน สอบวัดผลปลายภาคเรยี น รวมตลอดภาคเรียน
ค ขอบข่ายการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 1 ผลงานของบุคคลสำคญั ในการสร้างสรรค์ชาติไทย ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทยนบั ตง้ั แตส่ มยั สโุ ขทัย มาจนถึงสมัยรัตนโกสนิ ทร์ ไดม้ ีบุคคลสำคญั หลาย ทา่ นท่มี ีสว่ นในการสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทยและประวตั ศิ าสตร์ไทยใหก้ บั สมั คมไทยอยา่ งตอ่ เนื่อง บุคคลสำคญั เหล่าน้มี ีทงั้ พระมหากษัตรยิ ์ พระบรมวงศานวุ งศ์ ขุนนาง ขา้ ราชการ และขาวตา่ งประเทศ ซ่ึงนกั เรยี นจำเป็นตอ้ งเรียนรู่เกีย่ วกบั ประวัติและผลงานของทา่ นเหล่าน้ี เพ่อื จะไดเ้ กดิ ความภาคภมู ใิ จ ว่า กว่าทีป่ ระเทศไทยจะมคี วามม่ันคงเป็นปกึ แผน่ ดังเชน่ ทกุ วนั นี้ ล้วนเกดิ จากความเสียสละ ความกล้า หาญและรักชาตขิ องบรรพบุรุษไทย ซึ่งคณุ ความดีท่ีควรยกย่องและถือเป็นแบบอย่างในการดำเนิน ชวี ิตประจำวนั
1 พระราชประวตั ิพอ่ ขุนศรอี ินทราทติ ย์ ตามพงศาวดาร และคัมภรี ช์ นิ กาลมาลีปกรณ์ ไดก้ ลา่ วไวว้ ่าพ่อขนุ ศรี อนิ ทราทติ ยม์ ี พระนามเตม็ คือ กำมรเตงอัญศรอี นิ ทรบดินทราทติ ย์ พระนามเดมิ พอ่ ขุนบางกลางหาว (ไม่ใช่ “กลา่ งทา่ ว”) ทรงเปน็ ปฐมวงศ์ราชวงศ์พระร่วงแห่งอาณาจักรสุโขทยั ครองราชย์ สมบัติ ตง้ั แต่ พ.ศ. 1782 - 1822 (30 ปี คำนวณศักราชจากคัมภีรส์ ุริยยาตรตามข้อเสนอของ ศ. ประเสริฐ ณ นครและ พ.อ.พเิ ศษ เออ้ื นมณเฑียรทอง) เม่อื จุลศักราช 536 พระเจ้าสุรยิ ราชา ซ่ึงเป็นเช้ือพระวงศข์ องพระเจา้ ปทุมสุริยวงศ์ ได้ทรงตบแตง่ ซอ่ มแซมแปลงเมอื งพจิ ติ รปราการ(กำแพงเพชร)ขน้ึ ใหม่ครองราชยส์ มบตั ิตอ่ ไป มพี ระ อคั รมเหสที รงพระนามว่า สริ ิสุธาราชเทวี มพี ระราชโอรสองคห์ นงึ่ ดว้ ยพระอคั รมเหสี ทรงพระนามว่า จันทกุมารพระเจ้าสรุ ิยราชา เมือ่ แรกไดร้ าชสมบตั พิ ระชนม์ได้ 20 พรรษา อยูใ่ นราชสมบตั ิ 28 ปี เสด็จ สวรรคตพระชนมไ์ ด้ 47 พรรษา พระองคป์ ระสตู ิวันจนั ทร์ จลุ ศักราช 570 พระจนั ทกมุ ารราชโอรส ได้ขน้ึ ครองราชย์สมบัติ ทรงพระนามวา่ พระเจา้ จนั ทรราชาและตามพระราชพงศาวดารโยนก หน้า 80 วรรค 2 กลา่ วไวว้ า่ ยังมขี ้อความในหนงั สือชินกาลมาลนิ ี กล่าวถงึ มลู ประวตั ิของพระเจา้ โรจนราชผไู้ ด้ พระพุทธสิหิงค์มาจากศรีธรรมนครนัน้ ว่า บรุ ุษผูห้ นึ่งหลงปา่ ทบี่ ริเวณ บา้ นโคณคาม(เขา้ ใจว่าบ้านโคนริม เมืองเทพนคร)และไดพ้ บนางเทพธดิ าแปลงเป็นมนุษย์(สาวชาวบ้านเมืองคณฑี)มารว่ มสมคั รสังวาสเกดิ บุตรไดม้ าเป็นเจา้ กรงุ สุโขทัยทรงนามว่า โรจราช
2 ประวตั ิพระองคท์ ่านจากคมั ภีรช์ ินกาลมาลีปกรณ์ หน้า 112-113 ตอนหน่ึงกลา่ วถึงการ ประสตู ิของพระองค์ ไดย้ นิ วา่ ทบ่ี ้านโค (บ้านโคน จังหวัดกำแพงเพชร ในปัจจุบัน) ยงั มชี ายคนหนึ่ง (จันทราชา)รูปงามมกี ำลังมาก ท่องเทยี่ วอยู่ในปา่ มีนางเทพธดิ าองค์หนงึ่ (สาวชาวบ้านเมืองคณฑี)เหน็ ชายคนนนั้ แล้ว ใครร่ ่วมสังวาสดว้ ยจงึ แสดงมารยาหญิง ชายคนนัน้ ก็ร่วมสังวาสกบั นางเทพธิดาองค์ นนั้ เนอ่ื งจากการรว่ มสังวาสของทั้งสองคนนัน้ จงึ เกิดบุตรชายคนหนงึ่ และบุตรชายคนนน้ั มีกำลงั มาก รูปงาม เพราะฉะน้นั ชาวบ้านทัง้ ปวงจงึ พร้อมใจกันทำราชาภเิ ษกบุตรชายคนนน้ั บตุ รชายซึง่ ครองราชย์สมบตั ใิ นเมืองสุโขทัยนั้น ปรากฏพระนามในคร้งั น้ันว่า โรจราช ภายหลงั ปรากฏพระนาม วา่ พระเจ้าล่วง จากหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ทั้งหมดเชือ่ ได้ว่า เมืองคณฑีโบราณ หรอื ตำบลคณฑี จังหวดั กำแพงเพชร ในปัจจบุ ันน้ันอยูใ่ นอาณาจักร สุโขทัย เน่ืองจากพระเจ้าสรุ ยิ ราชา (พระอยั กา ของ พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ ) ครองราชยส์ มบตั ทิ ีเ่ มืองพจิ ติ ปราการ (เมอื งกำแพงเพชร ปจั จุบนั ) หลังจากน้นั ก็เสด็จสวรรคตและตอ่ มาพระจันทกมุ ารราชโอรส (พระเจา้ จันทรราชา พระราชบิดา ของ พอ่ ขนุ ศรีอนิ ทราทติ ย)์ กเ็ สด็จข้นึ ครองราชยส์ มบตั ติ ่อ ระหว่างน้เี กดิ ปาฏิหาริย์หลายส่ิงมากมาย จนกระทั่งไดม้ เหสเี ป็นเช้อื ชาตนิ างนาคกมุ ารี และมีพระราชโอรสคือ พระร่วง (พ่อขนุ ศรอี ินทรา ทติ ย์) นน่ั เอง เพราะอีกเหตุผลหนึง่ ทนี่ ่าเช่ือถือคอื พ่อขุนศรีอินทราทติ ย์ หรือพระนามเต็ม กำมร เตงอัญศรีอินทรบดนิ ทราทติ ย์ ชนิ กาลมาลีปกรณ์ ว่า บ้านเดิมของพระองค์อยทู่ ่ี “บ้านโคน ” ใน จังหวดั กำแพงเพชร พระองคท์ รงนำชนชาตไิ ทยตอ่ สู้กบั ชนชาติขอมซึ่งเปน็ ใหญอ่ ยู่ในสวุ รรณภมู ิ อนั เป็นท่ตี ้งั ของประเทศไทยสว่ นใหญ่ในปจั จบุ นั ซง่ึ รวมถงึ กรุงสโุ ขทยั ดว้ ย ทรงไดช้ ัยชนะขอมและ ประกาศอสิ รภาพ ตงั้ ราชอาณาจักรสุโขทยั ทรงเป็นพระเจา้ แผ่นดนิ องค์แรกและเป็นตน้ ราชวงศ์ พระรว่ ง- เปน็ ปฐมบรมกษัตริย์แหง่ ราชอาณาจกั รไทย สว่ นพระราชกรณียกจิ ทสี่ ำคญั พ่อขนุ ศรีอินทราทิตย์เมอื่ คร้งั ยังเป็นพ่อขุนบางกลางหาวไดร้ ่วมกบั พ่อขนุ ผาเมอื ง เจ้า เมือง ราด แห่งราชวงศ์ศรีนาวนำถมรวมกำลงั พลกัน กระทำรัฐประหารขอมสบาดโขลญลำพง โดยพ่อขนุ บางกลางหาวตีเมือง ศรีสัชนาลยั และเมอื งบางขลงได้ และยกทง้ั สองเมอื งใหพ้ อ่ ขุนผาเมือง สว่ นพอ่ ขนุ ผาเมืองตเี มอื งสโุ ขทัยได้ ก็ได้มอบเมอื งสโุ ขทัยให้พอ่ ขุนบางกลางหาว พรอ้ มพระขรรคช์ ยั ศรแี ละยก พระกนิษฐา(นางเสอื ง)ใหเ้ ป็นมเหสีอีกดว้ ยสว่ นพระนาม “ศรีอนิ ทรบดินทราทติ ย์” ซงึ่ ได้นำมาใช้เปน็ พระนาม ภายหลงั ไดก้ ลายเป็น ศรีอินทราทติ ย์ โดยคำวา่ “บดนิ ทร” หายออกไป เช่ือกนั ว่าเพ่ือเปน็ การแสดงว่ามิได้ เปน็ บดแี ห่งอนิ ทรปัต คืออยู่ภายใต้อิทธพิ ลของเขมร (เมืองอินทรปัต) อกี ตอ่ ไป การเขา้ มาครองสโุ ขทัยของพระองค์ ส่งผลให้ ราชวงศ์พระร่วง เขา้ มามอี ทิ ธพิ ลในเขตนครสโุ ขทัยเพ่มิ มากขึน้ และได้แผ่ขยายดนิ แดนกว้างขวางมากออกไป แต่เขตแดนเมืองสลวงสองแคว กย็ งั คงเปน็ ฐานกำลังของราชวงศศ์ รนี าวนำถมอยู่ในกลางรชั สมัย ทรงมีสงครามกับขุนสามชน เจ้าเมอื งฉอด ทรง ชนชา้ งกับขุนสามชน แตช่ ้างทรงพระองค์ ไดเ้ ตลดิ หนดี งั คำในศลิ าจารึกวา่ “หนีญญา่ ย พ่ายจแจ” ขณะน้ันพระโอรสองค์เลก็ ทรงมพี ระปรีชาสามารถ ไดช้ นชา้ งชนะขุนสามชนภายหลังจงึ
3 ทรงเฉลิมพระนามพระโอรสว่า รามคำแหงในยคุ ประวตั พิ ่อขนุ ศรอี นิ ทราทิตยม์ ีพระราชโอรส และพระธิดารวม 5 พระองค์ ไดแ้ ก่ 1. พระราชโอรสองค์โต (ไมป่ รากฏนาม) เสยี ชีวิตตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ 2. พ่อขุนบานเมือง 3. พอ่ ขุนรามคำแหงมหาราช (พระนามขณะทีย่ งั ทรงพระเยาวไ์ ม่ปรากฏ) 4. พระธดิ า (ไมป่ รากฏนาม) 5. พระธดิ า (ไมป่ รากฏนาม) วธิ กี ารคดิ ปน้ั รูปหลอ่ (จินตนาการ)พ่อขุนศรฯี เม่อื เทียบเคียงวเิ คราะห์ในแง่มุมตา่ งๆ ของหลกั ฐานทมี่ อี ยู่ จดั แบง่ ลำดับข้ันตอนความสำคัญท่ีมี ลกั ษณะเดน่ เฉพาะ โดยนำมาประมวลออกแบบสร้างสรรคใ์ หเ้ ป็นรปู ธรรมขององค์พ่อขนุ ศรอี ินทราทติ ย์ซ่งึ กำหนดลักษณะตามแบบอย่างพระบรมสาทิสลกั ษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ภูมิพลอดลุ ยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงเคร่ืองพระอิสรยิ ยศทรงจอมทพั ไทย ประทบั ยนื ทรงถอื พระแสงขรรค์ชยั ศรดี ว้ ยพระ หตั ถ์ทั้งสองข้าง พระพกั ตรท์ อดพระเนตรเบื้องหนา้ เสมือนกับทรงดแู ลอาณาประชาราษฎรข์ องพระองค์ ให้อย่อู ย่างร่มเยน็ เป็นสุขขณะเดยี วกันก็ยังคงดลู กั ษณะการประทับยืนของพระบาทสมเดจ็ พระ จลุ จอมเกล้าเจา้ อยู่หัว (รชั กาลที่ 5 ซง่ึ เปน็ ท่าประทับย่นื ท่สี งา่ งามกว่าทกุ พระองค์) ประกอบไปด้วย เมือ่ ได้ลกั ษณะของรปู แบบจากความคดิ แลว้ ออกแบบเขยี นภาพร่าง โดยคัดเลอื กคนผูเ้ ป็นหุ่น ยนื เปน็ แบบเพ่อื ดูลักษณะการยืน ดกู ลา้ มเนอ้ื ดูโครงสร้างของร่างกายแตล่ ะสว่ น เพื่อพจิ ารณาถงึ รายละเอียดทจ่ี ะตอ้ งแสดงใหป้ รากฏออกมา ซ่ึงจะตอ้ งมคี วามเป็นพิเศษต่างจากบุคคลทัว่ ไป เพ่ือใหม้ ี ภาพลกั ษณ์เป็นองค์พระมหากษัตรยิ ผ์ ้ยู ิง่ ใหญ่ จากน้ันเปน็ เร่อื งของแบบเครื่องทรง เครอื่ งทรงของแบบรูปปน้ั พ่อขนุ ศรีอนิ ทราทิตย์พระวรกายตอนบนเป็นลักษณะเคร่อื งทรง แบบสโุ ขทัยโบราณ ทรงสวมพระมงกุฎทรงเทรดิ ยอดพระมงกฎุ เปน็ ลวดลายกลบั บวั 3 ช้นั พระศอมสี ร้อยพระศอ และพระกรองศอ สรอ้ ยสังวาลพร้อมทับทรวงพระพาหุตอนบน ประดับ พาหรุ ัด ขอ้ พระหัตถเ์ ปน็ ทองกร พระวรกายจากบ้ันพระองคถ์ ึงพระบาททรงฉลองพระภษู ายาวกรอบ ข้อพระบาท พรอ้ มคาดปนั้ เหนง่ ทบั และห้อยพระสุวรรณกันถอบด้านหนา้ พระภูษาทรงดา้ นเปิดชายผ้า ชน้ั นอกซ้าย-ขวาลกั ษณะทิง้ ชายผา้ ให้พล้ิวเคลอ่ื นไหว ชายผ้าท้ังชั้นนอกและช้ันในเป็น ลายกรวยเชงิ ประดบั และขอ้ พระบาทประดับทองบาท(กำไลเทา้ ) พร้อมฉลองพระบาท ทั้งนีเ้ พือ่ ต้องการใหพ้ ระบรมรูปมีลักษณะของฉลองพระองค์เปน็ แบบมหากษตั รยิ ส์ มยั สุโขทัยโบราณตามทไ่ี ด้ ทำการศึกษาค้นควา้
4 พระราชประวัตพิ ่อขนุ รามคำแหง ในสมยั สุโขทยั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทีถ่ อื ว่าเปน็ บุคคลสำคญั อยหู่ ลายพระองคท์ ่ไี ดส้ ร้างผลงานอนั มี คณุ คา่ ก่อให้เกดิ ประโยชน์แกป่ ระชาชนและมีผลดตี อ่ อาณาจกั รทเ่ี ราควรศึกษาในชัน้ นี้ ไดแ้ ก่ พ่อขนุ รามคำแหงมหาราช 1. พระราชประวตั ิ พอ่ ขนุ รามคำแหงมหาราชทรงเป็นพระราชโอรสของพอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทติ ยก์ ับพระนาง เสอื ง ทรงมพี ระนามเดมิ ว่า ราม พระองค์ทรงข้ึนครองราชย์เปน็ พระมหากษัตรยิ ์พระองคท์ ี่ 3 ของ อาณาจกั รสโุ ขทยั ต้ังแต่ปี พ.ศ. 1822 ต่อจากพอ่ ขนุ บานเมอื ง ซง่ึ เปน็ พระเชษฐา(พชี่ าย) 2. วีรกรรมสำคัญ พอ่ ขุนรามคำแหงมหาราชทรงเปน็ กษตั รยิ น์ กั รบทีม่ ีพระปรชี าสามารถในดา้ นการทำศกึ สงครามต้ังแต่ยงั ไมไ่ ดค้ รองราชย์ ดังจะเห็นไดจ้ ากเมอื่ พระองคม์ ีพระชนมายุ 19 พรรษา พระองค์ได้ เสด็จตามพระราชบดิ าไปทำสงครามแย่งชิงเมืองตากกบั ขนุ สามชนเจ้าเมอื งฉอด และรบชนะขุนสาม ชน พระบิดาจึงเฉลมิ พระนามให้วา่ รามคำแหง 3. พระราชกรณียกจิ อาณาจักรสโุ ขทัยในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มคี วามเจริญรุ่งเรืองอย่าง มาก เนื่องมาจากพระราชกรณยี กจิ ในด้านตา่ ง ๆ ของพระองค์ ดงั นี้ 1. ด้านการเมอื งการปกครอง พระองคท์ รงใช้รูปแบบการปกครองแบบ พอ่ ปกครอง ลูก กล่าวคอื พระองคท์ รงดแู ลเอาใจใสใ่ นทกุ ขส์ ุขของราษฎรเ์ หมือนพระองค์เป็นพอ่ ส่วนราษฎรหรือ ไพร่ฟ้าคือลกู เม่อื ราษฎรมเี รอ่ื งเดือดร้อนกใ็ หม้ าสน่ั กระด่ิงทหี่ น้าประตวู ัง แลว้ พระองคก์ จ็ ะเสดจ็
5 ออกมารับฟงั เรื่องราว เพื่อทรงตัดสินปญั หาด้วยพระองค์เอง นอกจากนี้ พ่อขนุ รามคำแหงมหาราชทรงทำสงครามขยายอาณาเขตออกไปอยา่ ง กวา้ งขวางมากกว่าพระมหากษตั รยิ ์พระองคใ์ ดในสมัยสุโขทัย 2. ด้านเศรษฐกจิ พระองค์ทรงโปรดใหส้ รา้ งทำนบกักเก็บน้ำท่ีเรยี กว่า ทำนบาพระ ร่วง หรอื สรีดภงค์ เพื่อใช้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดแู ล้ง นอกจากนี้ พระองคท์ รงให้เสรีภาพแกป่ ระชาชน ในการค้าขายไดอ้ ยา่ งมีอสิ ระเสรี ไม่มกี ารเกบ็ ภาษีผ่านดา่ นจาการาษฎร ทีเ่ รียกว่า จกอบ ทำให้การ ค้าขายขยายออกไปอย่างกว้างขวาง และทรงโปรดให้สรา้ งเตาเผาเครอ่ื งสังคโลกเป็นจำนวนมาก เพ่อื ผลิตสนิ คา้ ออกไปขายยงั ดินแดนใกลเ้ คยี ง 3. ด้านศิลปวฒั นธรรม พระองคท์ รงประดิษฐต์ วั อกั ษรไทย ท่ีเรียกวา่ ลายสือ ไทย และไดม้ ีการรพัฒนามาเป็นลำดบั จนถึงอกั ษรไทยในปจั จบุ ัน ทำให้คนไทยมีอกั ษรไทยาใชม้ า จนถึงทกุ วันนี้ โดยโปรดใหจ้ ารึกเรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ สมัยสุโขทัยลงบนศิลา เม่อื พ.ศ. 1826 เรียกว่า ศลิ าจารึกหลักท่ี 1 พ่อขนุ รามคำแหงมหาราชทรงเปน็ ผู้นำในการสร้างศรทั ธาให้ประชาชนเล่ือมใสในพระ พุทธศานา พระองคท์ รงนิมนต์พระสงฆ์นิกายเถรวาท ลัทธลิ ังกาวงศ์ จากเมืองนครศรีธรรมราชที่ กลบั มาจากลงั กา มาเผยแผ่คำสอนทางพระพทุ ธศาสนาแกร่ าษฎร ซ่ึงทำให้ชาวสโุ ขทยั เกดิ ความ เล่ือมใสในพระพุทธศาสนาและแสดงออกมาในรูปแบบศลิ ปกรรมด้านตา่ ง ๆ เช่น การสรา้ ง พระพทุ ธรปู วัด เจดีย์ เป็นต้น ทำให้พระพุทธศาสนาวางรากฐานมั่นคงในอาณาจักร สุโขทยั จนกระทัง่ กลายเปน็ ศาสนาประจำชาตไิ ทยมาจนถงึ ปัจจุบัน
6 พระราชประวตั ิ พระมหาธรรมราชาท่ี 1 (พระเจา้ ลิไทย) พญาลิไท หรอื พระยาลิไท หรอื พระศรีสุริยพงศ์รามมหาราชาธริ าช หรือพระมหาธรรมราชาที่ 1 พระมหาธรรมราชาที่ ๑ ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าเลอไท และเปน็ พระนัดดาของพระ เจ้ารามคำแหงมหาราช ทรงเปน็ พระมหากษัตริย์ ราชวงศ์พระ ร่วง ครองกรงุ สุโขทัย เม่อื พ.ศ. ๑๘๙๐ - พ.ศ. ๑๙๑๒ (๑๙๑๔) กอ่ นขึน้ ครองราชสมบัติทรงดำรงตำแหน่งอุปราช ครองเมืองศรีสัชนาลยั ตงั้ แต่ พ.ศ. ๑๘๘๓ - พ.ศ.๑๘๙๐ ใน พ.ศ. ๑๘๙๐ เมอื่ พระยางว่ั นำถม พระมหากษัตรยิ ์ครองราชสมบตั ิ ณ กรุงสโุ ขทัย ไดเ้ สดจ็ สวรรคตได้เกิดการจราจลชิงราชสมบัติกรงุ สโุ ขทยั ข้ึน พระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระ ยาลไิ ท) ทรงสามารถยกกองทพั มาปราบปรามศตั รูได้หมดส้นิ และเสด็จขึน้ ครองราชสมบตั ิ เปน็ พระมหากษตั ริยอ์ งคท์ ี่ ๖ แหง่ ราช วงศพ์ ระร่วงเฉลมิ พระนามว่า ศรีสรุ ยิ พงศร์ ามมหาธรรมราชาธิราช เมอื่ พระมหาธรรมราชาท่ี ๑ (พระยาลิไท) เสดจ็ ขนึ้ ครองราชสมบัติ สมเดจ็ พระรามาธิบดที ี่ ๑ พระเจา้ อทู่ อง ได้สง่ กองทพั จากศรีอยธุ ยามาโจมตี และยดึ เมอื ง พษิ ณโุ ลก (สองแคว) ไวไ้ ด้ ทำให้ อาณาจักรสุโขทยั เกิดความไม่ม่ันคง และไม่ปลอดภยั เพราะเมอื งพษิ ณโุ ลกอยู่ใกลก้ บั สโุ ขทยั มาก ดังน้ัน พระมหาธรรมราชาที๑่ (พระยาลิไท) จงึ ทรงส่งคณะราชฑตู ไปขอเจริญพระราชไมตรกี ับสมเด็จพระ รามาธิบดที ่ี ๑ (พระเจ้าอู่ทอง)และไดข้ อเมอื งพิษณโุ ลกคนื จากสมเด็จพระรามาธิบดีท่ี ๑ (พระเจ้าอู่ ทอง) ซง่ึ ก็ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ หลังจากนนั้ พระมหาธรรมราชาท่ี ๑ (พระยาลไิ ท) กท็ รง 7
เสด็จไปประทับอยู่ ณ เมอื งพษิ ณุโลก เปน็ เวลา ๗ ปี คอื ต้ังแต่ พ.ศ. ๑๙๐๕ - พ.ศ. ๑๙๑๒ เพื่อปอ้ งกัน มใิ ห้ทางกรงุ ศรอี ยธุ ยา สง่ กองทพั ไปรุกรานกรงุ สุโขทยั และทรงมอบให้พระขนิษฐาองค์หน่ึงของ พระองคป์ กครอง กรงุ สโุ ขทยั แทน ในปี พ.ศ. ๑๙๑๒ สมเด็จพระรามาธบิ ดีท่ี ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) เสด็จสวรรคต พระมหาธรรม ราชาที่ ๑ (พระยาลไิ ท) ไดเ้ สดจ็ กลบั ไปครองกรุงสุโขทยั ดงั เดมิ พระราชกรณียกจิ ๑. ดา้ นการเมืองการปกครอง ทรงรวบรวมราชอาณาจักรสุโขทัยให้เป็นอนั หนึง่ อันเดียวกนั และขยายพระราชอำนาจออกไปไดเ้ มืองระหวา่ งแควจำปาสกั กับแม่น้ำปงิ จนจดแมน่ ำ้ นา่ นทาง ทิศ เหนือ มาไว้ในราชอาณาจักรสุโขทัย ๒. ดา้ นศาสนา พระมหาธรรมราชาท่ี ๑ (พระยาลิไท) ทรงมีบทบาทสำคัญในการทำนบุ ำรุง และเผยแพร่พระพุทธศาสนา กล่าวคือ ไดส้ ่งพระ สงฆอ์ อกไปเผยแพร่ พระพทุ ธศาสนายังท่ีตา่ ง ๆ เชน่ ทีเ่ มอื งเชียงใหม่ พษิ ณโุ ลก อยุธยา และหลวงพระบาง ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมพระเจดีย์เมืองนครชุม (กำแพงเพชร) พ.ศ. ๑๙๐๒ ทรงประดิษฐานรอยพระพุทธบาทท่เี ขาสุมนกุฏ ซงึ่ อยู่นอกเมืองสุโขทยั พ.ศ. ๑๙๐๔ โปรดใหส้ ร้างวดั ป่ามะม่วง (สโุ ขทัย) พระองค์ทรงมคี วามเคารพเลือ่ มใสศรัทธาใน พระพทุ ธศาสนามาก ไดผ้ นวชเป็นสามเณรในพระราชมณเฑยี ร และผนวชเปน็ พระภิกษทุ ว่ี ดั ป่ามะมว่ ง ในกรงุ สโุ ขทัย ทรงโปรดให้หลอ่ พระพทุ ธรปู ปางมารวิชัย มขี นาดเทา่ กับองค์พระพุทธเจ้า ถวายพระนาม วา่ พระศรศี ากยมนุ ี ประดษิ ฐานทีพ่ ระวหิ ารวดั พระ ศรรี ัตนมหาธาตุ สุโขทยั ๓. ด้านภาษาและวรรณคดี พระองคท์ รงมคี วามเชีย่ วชาญในด้านภาษาและวรรณคดีเปน็ พเิ ศษ ดงั มี หลักฐานปรากฏในหนงั สอื ไตรภูมพิ ระรว่ ง ว่าพระมหาธรรมราชาท่ี ๑ (พระยาลิไท) ทรง นพิ นธข์ ึ้นใน พ.ศ.๑๘๘๘ ครั้งยังดำรงพระยศเป็นพระมหาอปุ ราช ครองเมอื งศรสี ชั นาลัย หนงั สือไตร ภูมพิ ระรว่ งน้ี ซ่ึงเปน็ วรรณคดี ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั พระพทุ ธศาสนา นบั เป็นวรรณคดไี ทยชั้นเยี่ยมเลม่ แรกของ ไทย และทรงโปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ารึกเรือ่ งราวตา่ ง ๆ ในรชั สมัยของพระองค์ลงในแผ่นศิลา โดยเฉพาะศิลา จารกึ กรุงสุโขทัยหลักท่ี ๔ ซ่ึงมคี ณุ คา่ ย่งิ ตอ่ การศกึ ษาประวัตศิ าสตร์ไทยในสมยั สโุ ขทยั และ ประวตั ศิ าสตร์ เมอื งพษิ ณโุ ลกเป็นอยา่ งยิง่ พระราชกรณยี กิจขณะทรงประทบั อยู่ ณ เมืองพษิ ณุโลก พระมหาธรรมราชาท่ี ๑ (พระยาลิไท) ทรงประทับอยู่ ณ เมอื งพิษณุโลก เป็นเวลา ๗ ปี ไดท้ รงสรา้ ง เมอื งพษิ ณโุ ลก และพระราชวังขึน้ ทางฝั่งตะวนั ตกของ แมน่ ้ำนา่ น คือ พระราชวงั จันทน์ ทรงสรา้ งปู ชนยี สถานและปชู นียวตั ถทุ ีส่ ำคัญ คือ ทรงสร้างวัดพระศรรี ตั นมหาธาตวุ รมหาวิหาร หล่อพระพุทธชนิ ราช ซึง่ เปน็ พระพุทธรปู ที่งดงามท่ีสดุ ในประเทศไทย พระพุทธชินสหี ์ และพระศรีศาสดา ทรงโปรด
8 เกลา้ ฯ ให้นำตน้ โพธจิ์ ากลังกามาปลูกไว้ทีว่ ดั พระศรีรัตนมหาธาตวุ รมหาวหิ าร พษิ ณโุ ลก จากพระราช กรณียกิจทพ่ี ระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลไิ ท) ไดท้ รงกระทำแล้ว นับว่าพระองค์เปน็ พระมหากษตั รยิ ์ องคแ์ รกทท่ี รงวางรากฐาน และสร้าง ความเจริญในจังหวัดพษิ ณโุ ลก
9 ใบงานท่ี 1 พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ คำช้แี จง ใหผ้ เู้ รยี น สบื ค้นขอ้ มูลจากเอกสารและแหลง่ เรยี นรูอ้ ่ืนๆนำมาเรียบเรยี นตามหวั ข้อ ตอ่ ไปน้ี . พระนามเดิมของพ่อขนุ ศรีอินทราทิตย์ มพี ระนามว่าอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………..........................................................................
10 ใบงานที่ 2 พอ่ ขนุ รามคำแหง คำชแ้ี จง ให้ผู้เรียน สบื ค้นข้อมูลจากเอกสารและแหลง่ เรียนรู้อน่ื ๆนำมาเรียบเรยี นตามหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้ จงอธบิ าย พระราชประวัติของพอ่ ขนุ รามคำแหงมหาราช มาพอสังเขป ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
11 ใบงานที่ 3 พระมหาธรรมราชาท่ี 1 (พระเจา้ ลิไทย) คำช้แี จง ให้ผ้เู รยี น สืบค้นข้อมูลจากเอกสารและแหลง่ เรียนรู้อน่ื ๆนำมาเรยี บเรยี นตามหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี จงอธบิ าย พระราชประวัตขิ องพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พระเจ้าลไิ ทย) มาพอสังเขป ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.literalureandhistory.go.th - http://www.finearts.go.th/archae - http://www.sac.or.th
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: