สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ ดารงพระยศ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2520 - ปจั จบุ นั ราชวงศ์ จักรี พระราชบดิ าพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร พระราชมารดา สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง พระราชสมภพ 2 เมษายน พ.ศ. 2498 (65 ป)ี
พระราชประวัติ พระราชสมภพ สมเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสด็จพระราช สมภพเมอื่ วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2498 (ตรงกบั วันขน้ึ 10 ค่า เดอื น 5 ปมี ะแม สัปตศก) ณ พระท่นี ง่ั อมั พรสถาน พระราชวงั ดุสิต เปน็ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเดจ็ พระ บรมชนกาธเิ บศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช และสมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ พระ บรมราชชนนีพันปหี ลวง โดยศาสตราจารย์ นายแพทย์ หม่อมหลวงเกษตร สนิทวงศ์ เป็นผูถ้ วายพระ ประสูติกาล และไดร้ ับการถวายพระนามจากสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชริ ญาณวงศ์ ว่า สมเดจ็ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟา้ สิรินธรเทพรตั นสดุ า กิติวัฒนาดุลโสภาคย์ พรอ้ มทง้ั ประทานคา่ แปลวา่ นางแก้ว อัน หมายถึง หญิงผปู้ ระเสรฐิ และมพี ระนามทข่ี ้าราชบริพาร เรียกทัว่ ไปวา่ ทลู กระหมอ่ มนอ้ ย
พระนาม \"สิรนิ ธร\" น้นั น่ามาจากสร้อยพระนามของสมเด็จพระราชปติ จุ ฉา เจ้าฟา้ วไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรรี าชสิรินธร ซึ่งเปน็ สมเดจ็ พระราชปติ จุ ฉา (ปา้ ) ในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอ ดุลยเดช ส่าหรับสรอ้ ยพระนาม \"กิตวิ ฒั นาดุลโสภาคย์\" ประกอบขนึ้ จากพระนามาภิไธยของสมเดจ็ พระบพุ การี 3 พระองค์ ได้แก่ \"กิต\"ิ มาจากพระนามาภิไธยของสมเดจ็ พระนางเจ้าสริ ิกติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระมารดา (แม)่ ส่วน \"วฒั นา\" มาจากพระนามาภิไธยเดิมของสมเดจ็ พระศรีสวรนิ ทิ ราบรมราชเทวี พระพนั วสั สาอยั ยิกาเจา้ (คือ สมเดจ็ พระนางเจา้ สว่างวฒั นา พระบรมราชเทว)ี สมเดจ็ พระปัยยกิ า (ยา่ ทวด) และ \"อดลุ \" มาจากพระนามาภิไธยของสมเด็จพระมหติ ลาธิเบศร อดุลย เดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเดจ็ พระอัยกา (ป)ู่
การศกึ ษา เมือ่ ปีวันท่ี 2 เดือน ตลุ าคม พ.ศ. 2501 พระองคท์ รงเรม่ิ เข้ารบั การศึกษาระดับ อนุบาลทโี่ รงเรียนจติ รลดา ซงึ่ ตงั้ อยภู่ ายในบรเิ วณสวนจติ รลดา พระราชวงั ดุสิตขณะมี พระชนมายุ 3 พรรษาทรงมพี ระสหายรว่ มชนั้ เรียน 20 คน เป็นโอรสธดิ าของพระบรมวงศานุ วงศ์ และบตุ รหลานข้าราชการ ตลอดจนมหาดเลก็ ผู้ไดร้ ับพระมหากรุณาธิคุณใหม้ ารว่ มเรยี น ดว้ ยโดยปราศจากชนั้ วรรณะ วชิ าท่ีทรงเรยี นในช้ันอนุบาลนี้ คือ วชิ าภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เลขคณิตและขบั รอ้ ง เมอ่ื ทรงเรยี นจบชน้ั ประถมศึกษาตอนปลาย ได้ทรงสอบรว่ มกับนกั เรียนทัว่ ประเทศ โดย ใช้ข้อสอบของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร และสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงสอบได้ทหี่ นึ่ง ได้คะแนนรวมรอ้ ยละ 96.60 อนั นับวา่ เปน็ คะแนนสูงสุดสาหรับระดับช้นั ประถมศึกษาปีทเี่ จ็ด กท็ รงสอบไล่จบชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ในแผนกศิลปะ ดว้ ยคะแนน สงู สุดของประเทศ
หลังจากน้นั พระองคท์ รงสอบเข้าศกึ ษาต่อใน ระดับอดุ มศึกษา ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย ซ่ึงถือเป็นสมเดจ็ เจ้าฟ้าพระองคแ์ รกท่ี ทรงเขา้ ศกึ ษาต่อระดับอุดมศึกษาในประเทศ จนกระทง่ั ปี พ.ศ. 2520 พระองค์ทรงสาเร็จ การศึกษาไดร้ บั ปริญญาอกั ษรศาสตรบณั ฑิต สาขา ประวัติศาสตร์ พระองค์ทรงเขา้ ศึกษาตอ่ ในระดับปรญิ ญาโท ดา้ นจารกึ ภาษาตะวนั ออก (ภาษาสันสกฤตและภาษา เขมร) ณ คณะโบราณคดี มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร และสาขาภาษาบาลแี ละภาษาสนั สกฤต จาก ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะอกั ษรศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั พระองค์ทรงเข้าศึกษาต่อในระดบั ปริญญาเอก ณ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศรี นครินทรวโิ รฒ โดยพระองค์ผ่านการสอบคดั เลอื กอยา่ งยอดเยี่ยมด้วยคะแนนเป็นอนั ดับหนึง่ ใน บรรดาผู้เข้าสอบทง้ั หมด
การสถาปนาพระอิสริยยศ สยามบรมราชกมุ ารี พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอ ดุลยเดช มีพระราชด่าริว่า สมเดจ็ พระเจ้าลกู เธอ เจ้าฟ้าสริ นิ ธรเทพรัตนสดุ า กติ ิวฒั นาดลุ โสภาคย์ ทรงไดร้ ับความสา่ เรจ็ ในการศกึ ษาอย่างงดงาม และทรงได้บา่ เพญ็ พระองคใ์ ห้เป็นประโยชน์แกช่ าติ บา้ นเมอื งเป็นอเนกปรยิ าย โดยเสดจ็ พระราช ดา่ เนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในภูมภิ าคต่าง ๆ พร้อมทรงรับพระบรมราโชบายมาทรงด่าเนนิ การ สนองพระเดชพระคุณในด้านต่าง ๆ สมเด็จพระเจ้าลกู เธอ พระองคน์ ้ี กอปรดว้ ยพระจรรยามารยาท เพยี บพรอ้ มดว้ ยคุณสมบตั แิ ห่งขตั ติยราชกุมารที กุ ประการ เป็นทร่ี กั ใครน่ บั ถือ ยกย่องสรรเสริญพระเกียรตคิ ณุ กนั อยู่โดยท่ัว จึงทรงพระ กรณุ าโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศและพระอสิ ริยศกั ดิใ์ หส้ ูงขึน้ ให้ทรงรับพระราชบญั ชาและสัปต ปฎลเศวตฉัตร (เศวตฉัตร 7 ชนั้ ) เฉลมิ พระนามตามท่จี ารึกในพระสพุ รรณบัฏว่า สมเด็จพระเทพ รตั นราชสดุ า เจา้ ฟ้ามหาจักรสี ิรนิ ธร รฐั สมี าคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เมอ่ื วันที่ 5 ธนั วาคม พ.ศ. 2520 นับเป็นเจ้านายฝา่ ยในพระองค์ที่ 14 ในราชวงศ์จกั รี ที่ไดร้ ับการสถาปนาพระอิสริยยศเปน็ สมเด็จพระ หรอื กรมพระยา และเป็นครง้ั แรกที่สถาปนาพระ อสิ ริยยศนี้แก่สมเด็จพระเจา้ ลกู เธอเจ้าฟา้ จึงเปน็ พระเกยี รติยศทส่ี ูงย่ิง
สมเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจ้า ในการพระราชพิธบี รมราชาภิเษก พทุ ธศักราช 2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจ้าอย่หู วั มี พระราชด่าริว่า สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี เปน็ พระโสทรกนษิ ฐภคนิ ีที่ได้ทรงรว่ ม สขุ ร่วมทุกข์ มาแต่ทรงพระเยาว์ เมอื่ ทรงเจริญพระชนมายุ ก็ได้ทรงปฏบิ ัติบ่าเพ็ญพระราชกรณียกิจสนอง พระเดชพระคุณสมเดจ็ พระบรมชนกนาถและสมเด็จพระบรมราชชนนดี ้วยพระวิริย อุตสาหะ เปน็ คณุ ปู การแก่ประเทศชาตแิ ละอาณาประชาราษฎรอ์ ยา่ งใหญ่หลวง เปน็ อเนกประการ ครัน้ ในรัชกาล ปัจจบุ นั กไ็ ด้ทรงปฏิบัตพิ ระราชกรณยี กจิ แทนพระองค์ ในหลายวาระ เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทยั สมควร จะยกย่องพระเกยี รตยิ ศตามฐานะแห่งพระบรมราชวงศ์ จงึ มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมให้ เฉลมิ พระนามาภิไธยตามทีจ่ ารึกในพระสุพรรณบัฏ ว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพ รตั นราชสดุ า เจ้าฟ้ามหาจักรสี ริ ินธร มหาวชิราลง กรณวรราชภักดี สิรกิ จิ การิณพี รี ยพฒั น รัฐสมี าคุณากร ปิยชาติ สยามบรมราชกมุ ารี นับเปน็ เจา้ นายพระองค์แรกท่ีได้รับพระราชทานพระเกียรติยศที่ สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจ้า โดย ยังทรงพระอสิ ริยยศ กรมสมเดจ็ พระ และ สยามบรมราชกุมารี ตามทไี่ ด้รบั พระราชทานจากสมเดจ็ พระ บรมชนกนาถ
พระอจั ฉริยภาพ ด้านภาษา พระองค์ทรงมีความร้ทู างด้านภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต และภาษาเขมร ทรงสามารถรับส่งั เป็น ภาษาอังกฤษ ภาษาฝร่ังเศส และภาษาจนี ภาษาเยอรมัน และภาษาละตนิ อีกด้วย เมื่อทรงเข้าศกึ ษา ณ คณะอกั ษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นัน้ พระองคท์ รงเลอื กเรยี น สาขาประวัติศาสตร์เปน็ วิชาเอก และวิชาภาษาไทย ภาษา บาลี และภาษาสนั สกฤตเป็นวิชาโท ทา่ ให้ทรงศกึ ษาวชิ า ภาษาไทยในระดับช้นั สงู และละเอยี ดลกึ ซ้งึ ยิ่งขึน้ ทัง้ ด้าน ภาษาและวรรณคดี พระปรชี าสามารถทางด้านภาษาของพระองค์น้ันเป็นทีป่ ระจักษ์ จงึ ไดร้ บั การทลู เกลา้ ถวายปรญิ ญา ดุษฎีบณั ฑิตกติ ตมิ ศักดิ์ทางด้านภาษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทง้ั ในและต่างประเทศ เช่น มหาวิทยาลัย รามคา่ แหง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวทิ ยาลัยมาลายา ประเทศมาเลเซีย มหาวทิ ยาลัยบกั กิงแฮม สหราช อาณาจกั ร เปน็ ตน้
พระอัจฉริยภาพ ด้านดนตรี พระองค์ทรงเป็นผเู้ ชีย่ วชาญด้านดนตรไี ทยผู้หนง่ึ โดยทรงใชเ้ ครอ่ื งดนตรไี ทยไดท้ ุกชนิด แต่ท่ีโปรด ทรงอยู่ประจา่ คอื ระนาด ซอ และฆอ้ งวง โดยเฉพาะระนาดเอก พระองคท์ รงเริ่มหดั ดนตรีไทย ในขณะท่ี ทรงศกึ ษาอยู่ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรยี นจิตรลดา โดยทรงเลอื กหดั ซอด้วงเป็นเครอ่ื งดนตรีชนิ้ แรก ในขณะท่ีทรงพระเยาว์ เคร่อื งดนตรที ี่ทรงสน พระทยั น้ัน ได้แก่ ระนาดเอกและซอสามสายซึง่ พระองค์ ทรงเร่ิมเรยี นระนาดเอกอยา่ งจริงจงั เมื่อปี พ.ศ. 2528 พระองค์ทรงเร่ิมเรยี นตัง้ แตก่ ารจับไมร้ ะนาด การตีระนาด แบบตา่ ง ๆ และท่าทป่ี ระทับขณะทรงระนาด และทรงเร่ิม เรยี นการตีระนาดตามแบบแผนโบราณ กล่าวคอื เริ่มตน้ ดว้ ยเพลงต้นเพลงฉิง่ สามชน้ั แลว้ จึงทรงตอ่ เพลงอ่ืน ๆ ในดา้ นการขบั รอ้ ง พระองคท์ รงสนพระทยั ในด้านการขับรอ้ งเพลง ทรงเรม่ิ ต้นเรยี นการขบั ร้อง กับ เจรญิ ใจ สนุ ทรวาทิน อาจารย์ประจา่ ชมรมดนตรไี ทย นอกจากดนตรไี ทยแล้ว พระองค์ยังทรงดนตรี สากลด้วย โดยทรงเริ่มเรยี นเปียโนตงั้ แตพ่ ระชนมายุ 10 พรรษา
พระอจั ฉรยิ ภาพ ด้านพระราชนิพนธ์ พระองคโ์ ปรดการอ่านหนงั สอื และการเขียนมา ต้ังแตท่ รงพระเยาว์ รวมกับพระปรชี าสามารถทางดา้ น ภาษาทัง้ ภาษาไทยและต่างประเทศ รอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรอง ดงั นั้น จึงทรงพระราชนพิ นธ์หนังสือประเภทต่าง ๆ ออกมา มากกวา่ 100 เล่ม เช่น เกล็ดหิมะในสายหมอก ทัศนะ จากอนิ เดยี มนต์รักทะเลใต้ ประเภทวชิ าการและ ประวตั ศิ าสตร์ เช่น บนั ทึกเร่อื งการปกครองของไทยสมัย อยุธยาและต้นรตั นโกสินทร์ กษตั ริยานสุ รณ์ หนังสือ สา่ หรบั เยาวชน เช่น แกว้ จอมแกน่ แกว้ จอมซน หนงั สอื ท่ี เกี่ยวข้องกบั พระบรมวงศานุวงศไ์ ทย เชน่ สมเดจ็ แม่กบั การศกึ ษา สมเดจ็ พระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนีกบั พระ ราชกรณียกจิ พระราชจริยาวัตรด้านการศึกษา ประเภท พระราชนพิ นธ์แปล เช่น หยกใสรา่ ยค่า ความคดิ คา่ นึง เก็จ แกว้ ประกายกวี และหนังสอื ทว่ั ไป เช่น นิทานเร่ืองเกาะ (เรอ่ื งนไ้ี ม่มคี ต)ิ เร่ืองของคนแขนหกั เปน็ ต้น และมี ลักษณะการเขียนทค่ี ล้ายคลงึ กบั พระราชนพิ นธ์ใน พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว กลา่ วคอื ใน พระราชนพิ นธ์เรอ่ื งต่าง ๆ นอกจากจะแสดงพระอารมณ์ ขนั แลว้ ยงั ทรงแสดงการวพิ ากษ์ วิจารณ์ในแงต่ า่ ง ๆ เปน็ การแสดงพระมตสิ ว่ นพระองค์ ดเู พิ่มเตมิ ที:่ รายชื่อพระราชนิพนธใ์ นสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี
เจ้าฟา้ นักอ่าน สมเดจ็ พระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถทรงปลูกฝังให้พระราชโอรสพระราชธิดาทรงรกั การอ่าน หนงั สอื ตั้งแตพ่ ระชนมเ์ พยี ง 6-7 พรรษา หรือกลา่ วไดว้ า่ ต้ังแต่ทรงเรมิ่ อ่านหนงั สือออก ทรงใชว้ ิธีหัดใหท้ รง อา่ นหนงั สือวรรณคดไี ทยหลายเร่ือง เชน่ พระอภยั มณี อเิ หนา รามเกยี รติ์ เป็นตน้ จนทรงท่องจ่ากลอนได้ หลายบท นอกจากนี้ ยงั ทรงซื้อหนงั สอื อื่น ๆ มาทรงอา่ น แล้วทรงเลา่ พระราชทานพระราชโอรสพระราช ธดิ า เปน็ ต้นว่า หนังสอื นิทานสา่ หรับเด็ก ประวัตศิ าสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติบุคคลส่าคญั พทุ ธศาสนา เร่ือง เกยี่ วกับศิลปวัฒนธรรมท้งั ของไทยและต่างประเทศ หนังสือพมิ พ์ ทรงสอนใหท้ รงจดและทรงทอ่ งค่าศัพท์ และทรงจัดหาครูผูท้ รงคุณวฒุ ิมาถวายพระอักษรวิชาต่าง ๆ ด้วยเหตนุ ี้ จึงทา่ ใหส้ มเด็จพระเทพ รตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงมีพ้ืนความรทู้ างวิชาการด้านอกั ษรศาสตรด์ มี าต้ังแต่ทรงพระเยาว์ เมอ่ื ทรงเจริญพระชันษา นอกจากจะทรงศึกษาในช้ันเรียนปกตแิ ลว้ ยังทรงปรกึ ษาขอค่าแนะนา่ จาก ผทู้ รงคณุ วุฒอิ ยเู่ สมอ และทรงศึกษาคน้ คว้าดว้ ยพระองคเ์ องด้วย
พระองคย์ ังทรงมนี ามแฝงอ่นื ๆนอกจากพระนาม \"สิรินธร\" ทรงใชน้ ามปากกาในการพระราชนพิ นธ์ หนังสืออีก 4 พระนาม ไดแ้ ก่ 1. \"กอ้ นหนิ กอ้ นกรวด\" เป็นพระนามแฝงที่ทรงหมายถึง พระองค์และพระสหาย สามารถแยกได้ เปน็ ก้อนหิน หมายถงึ พระองคเ์ อง สว่ นกอ้ นกรวด หมายถึง กณุ ฑกิ า ไกรฤกษ์ พระองค์มรี บั สงั่ ถงึ พระ นามแฝงนี้ว่า “เราตวั โตเลยใชว้ ่า ก้อนหนิ หวานตวั เล็ก เลยใช้วา่ ก้อนกรวด รวมกนั จงึ เป็น กอ้ นหิน-กอ้ น กรวด” นามปากกาน้ี ทรงใช้ครงั้ เดยี วตอนประพันธบ์ ทความ \"เร่ืองจากเมอื งอสิ ราเอล\" เม่ือปี พ.ศ. 2520 2. \"แว่นแกว้ \" เป็นช่ือท่พี ระองค์ทรงตงั้ ขน้ึ เอง ซงึ่ พระองคม์ ีรับสั่งถึงพระนามแฝงน้วี า่ \"ช่ือแวน่ แก้ว นีต้ งั้ เอง เพราะตอนเดก็ ๆ ช่อื ลกู แกว้ ตัวเองอยากช่ือแกว้ ทา่ ไมถึงเปล่ยี นไปไม่รู้เหมอื นกนั แลว้ กช็ อบ เพลงน้อยใจยา นางเอกช่อื แว่นแกว้ \" พระนามแฝง แวน่ แกว้ นี้ พระองค์เรม่ิ ใชเ้ ม่ือปี พ.ศ. 2521 เมอ่ื ทรง พระราชนิพนธแ์ ละทรงแปลเร่ืองสา่ หรับเด็ก ได้แก่ แก้วจอมซน แกว้ จอมแกน่ และขบวนการนกกางเขน 3. \"หนูนอ้ ย\" พระองคม์ ีรับส่ังถึงพระนามแฝงน้ีว่า \"เรามชี ่ือเล่นทีเ่ รยี กกันในครอบครวั วา่ น้อย เลย ใชน้ ามแฝงวา่ หนูนอ้ ย\" โดยพระองคท์ รงใชเ้ พยี งครั้งเดยี วในบทความเร่ือง “ปอ๋ งที่รกั ” ตพี ิมพใ์ นหนังสอื 25 ปจี ติ รลดา เมอื่ ปี พ.ศ. 2523 4. \"บนั ดาล\" พระองค์มีรบั ส่ังถงึ พระนามแฝงนวี้ ่า \"ใช้ว่า บันดาลเพราะค่านผ้ี ดุ ขึน้ มาในสมอง เลยใช้ เปน็ นามแฝง ไม่มีเหตุผลอะไรในการใช้ช่ือนเ้ี ลย\" ซง่ึ พระองค์ทรงใช้ในงานแปลภาษาองั กฤษเปน็ ภาษาไทย ทที่ รงท่าให้ส่านักเลขาธกิ ารคณะกรรมการแหง่ ชาติ ว่าดว้ ยการศกึ ษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแหง่ สหประชาชาติ กระทรวงศึกษาธกิ าร เมือ่ ปี พ.ศ. 2526
ประเมนิ ความพงึ พอใจ จากการอา่ นนิทรรศการออนไลน์
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: