Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

Published by Babypig mai, 2021-11-19 15:51:40

Description: วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

Search

Read the Text Version

วชิ า สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 โดย คุณครูธญั ยาภรณ์ ราชนุ้ย (ครไู ม้)

เร่อื ง พทุ ธประวตั ิ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สรปุ พุทธประวัติตั้งแตบ่ รรลุธรรม จนถงึ ประกาศธรรม หรือประวัตศิ าสดาทต่ี นนบั ถอื ตามท่ีกาหนด

ตวั ชว้ี ดั และมาตรฐานการเรยี นรู้ ส 1.1 ป.4/1 อธบิ ายความสาคญั ของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ตี นนบั ถอื ใน ฐานะเปน็ ศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชน ส 1.1 ป.4/2 สรุปพุทธประวตั ติ ้งั แตบ่ รรลธุ รรม จนถึงประกาศธรรมหรอื ประวัติ ศาสดาทีต่ นนับถอื ตามท่กี าหนด ส 1.1 ป.4/8 อธบิ ายประวตั ิศาสดาของศาสนาอื่น ๆ โดยสงั เขป

พระพุทธศาสนา ถือกาเนดิ ท่ปี ระเทศ อินเดียเมือ่ ประมาณ 2,500 ปีทีผ่ ่านมาปัจจบุ นั มีคนนบั ถอื หลายประเทศรวมถงึ ประเทศไทย

พระพุทธศาสนา ศาสดา คอื พระพทุ ธเจา้ สัญลกั ษณ์ คือ พุทธศาสนสถาน ประกอบดว้ ย (พระนามเดิมมีช่ือว่า เจา้ ชายสิทธตั ถะ) ธรรมจักร วัดวาอาราม โบสถ์ เจดีย์ และสถปู

พทุ ธศาสนสถาน วดั วาอาราม โบสถ์ เจดีย์ / สถปู

ประวตั พิ ระพุทธศาสนา ประสูติ ประกาศธรรม ตรสั รู้ ปรินิพพาน

ประสตู ิ

ดินแดนชมพูทวีป มี ราชอาณาจกั รหนึ่งต้งั อยู่ มีชื่อวา่ “กรุงกบลิ พสั ด”ุ์ มีพระราชานามว่า “ พระเจา้ สทุ โธทนะ ” และพระมเหสนี ามว่า “ พระนางสริ มิ หามายา ”

พระนางสิรมิ หามายาได้ ประสูตพิ ระโอสรเมอ่ื วัน ข้นึ 15 คา่ เดือน 6 ใต้ ต้นสาละ ณ ลุมพนิ ีวัน อยรู่ ะหวา่ งกรงุ กบิลพสั ดุ์ และกรุงเทวทหะ

พระโอรสประสตู ิได้ 5 วนั พระบิดาจึงไดเ้ ชิญพราหมณ์ 108 คน มาประชมุ และได้ ขนานพระนามโอรสวา่ “ สิทธตั ถะ แปลวา่ ผู้สาเรจ็ ความประสงค์ ”

พราหมณ์ทานายวา่ ถ้า พระเจา้ สิทธตั ถะอยู่ครอง เมอื งจะทรงเปน็ พระเจ้า จกั รพรรดทิ ่ยี ิ่งใหญ่ แต่ ถ้าออกบวชจะทรงเปน็ ศาสดาเอกของโลก

เจ้าชายสทิ ธตั ถะประสตู ิได้ 7 วนั พระนางสริ มิ หามายา ทรงส้นิ พระชนมล์ งพระองค์ จงึ อยู่ในความดูแลของ สมเด็จพระมาตจุ ฉา (น้า)

เมื่อเจา้ ชายสิทธัตถะมี พระชนมายไุ ด้ 7 พรรษา พระ บดิ าทรงให้ศกึ ษาศลิ ปวทิ ยา ในสานกั ครูวิศวามติ ร เจ้าชาย สามารถเรยี นรู้ไดอ้ ย่างรวดเร็ว จนส้นิ ความรูข้ องอาจารย์

เม่อื พระชนมม์ ายุ 16 พรรษา เจ้าชายได้อภิเษกสมรสกบั พระนางพมิ พา (ยโสธรา) และเมื่ออายุ 29 พรรษา มีโอรสหน่งึ พระองค์ พระนามว่า “ ราหลุ ”

ตรสั รู้

ออกผนวช พระเจา้ สทุ โธทนะประสงค์ให้ เจ้าชายสิทธตั ถะสบื ราชบัลลังค์ ต่อจากพระองค์ โดยไม่ให้ เจ้าชายทรงทราบความเป็นไป ภายนอกพระราชวัง แต่เจ้าชายก็ ไม่มีความสุขเพราะอยากทราบ วา่ โลกภายนอกเป็นอยา่ งไร

เจา้ ชายสิทธัตถะทรงได้รับ อนุญาตให้ออกนอกพระราชวัง และทรงทอดพระเนตรเหน็ เทวทตู 4 ไดแ้ ก่ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ

เจา้ ชายสิทธตั ถะได้ คดิ ว่าคนทง้ั หลาย ลว้ นตอ้ งเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไมม่ ใี ครรอดพ้น จึงคิดวา่ การออกผนวช จะชว่ ยให้พ้นทกุ ข์ได้

ในคนื ท่ีพระราหุลประสตู ิ พระองค์ตัดสนิ ใจเสดจ็ ออกจาก พระราชวงั โดยได้ทรงม้าชอื่ “กณั ฐกะ” และมหาดเล็กชื่อ “นายฉนั นะ”

มาถึงรมิ ฝง่ั แมน่ ้าอโนมาก็ อธฐิ านเป็นนกั บวชขณะนั้น มพี ระชนมม์ ายุ 29 พรรษา

การค้นพบหนทางดับทุกข์ เม่อื เจา้ ชายสทิ ธัตถะผนวชแล้วได้ไป ศึกษาอยทู่ ่ีสานักของ “อาฬาดาบส” และ “ อทุ ทกดาบส ” ทรงศึกษาจน สาเรจ็ แตก่ ไ็ ม่พบหนทางพ้นทกุ ข์

ต่อมาทรงบาเพ็ญ “ ทกุ รกริ ิยา ” คอื การทรมานรา่ งกาย เชน่ กลัน้ ลมหายใจ อดพระกระยาหารจน พระวรกายผา่ ยผอม จึงทรงเลิกวธิ ี ทรมานรา่ งกาย ทาให้ปญั จวัคคยี ์ คดิ ว่าพระองคท์ รงเลิกบาเพญ็ เพียรจงึ จากไป

พระองคท์ รงดาเนินทางสายกลางโดย การหันมาเสวยอาหารเพอ่ื ใหร้ า่ งกาย แขง็ แรงและไดบ้ าเพ็ญเพยี รดว้ ยการ นั่งสมาธิ จนตรัสรอู้ รยิ สจั 4 (ซง่ึ เปน็ หนทางแหง่ การดับทกุ ข์) เป็นพระ สมั มาสัมพุทธเจา้ (ผู้ตรัสรู้ชอบดว้ ย พระองค์เอง) ใตต้ น้ “พระศรีมหาโพธ์ิ” บรเิ วณริมฝง่ั แม่น้าเนรัญชรา เมื่อวัน ขึ้น 15 ค่า เดอื น 6 พระชนม์มายไุ ด้ 35 พรรษา

ประกาศธรรม

พระพทุ ธเจา้ ไดเ้ สด็จออก ประกาศธรรม โดยทรงโปรด เหลา่ “ ปญั จวัคคยี ์ ” เป็นกลุม่ แรกทีเ่ ข้ามาบวชเป็นพทุ ธ สาวก และได้แสดงปฐมเทศนา “ ธมั มจกั กัปปวัตนสตู ร ” (มรรคมอี งค์ 8 และอรยิ สจั 4)

ทาให้อัญญาโกณฑัญญะหนึ่ง ในปัญจวัคคยี ์ ได้ดวงตาเห็นธรรม และขออุปสมบทเป็นพระภกิ ษรุ ปู แรกในพระพุทธศาสนา และได้ แสดงธรรมตอ่ ไปจนปญั จวคั คยี ์ทั้ง 4 ขออปุ สมบทเปน็ พระสงฆ์สาวก

โปรดชฎลิ 3 พี่น้อง ชฎิลเป็นนกั บวชเกล้าผมและบชู า ไฟ เป็นสัทธใิ หญท่ ม่ี ปี ระชาชน นับถือมาก ในแควน้ มคธ พี่ชาย คนโตชื่อ “อุรเุ วลกสั สปะ” คนท่ี สองชอ่ื “นทกี สั สปะ” และคนที่ สามชือ่ คยากัสสปะ

พระพุทธเจ้าทรงประกาศศาสนา แกช่ ฎิลท้งั 3 พีน่ อ้ ง แสดงปฐม เทศนา “ อาทติ ตปรยิ ายสูตร ” ทาให้มศี รทั ธาเลือ่ มใสขอบวช ในพระพุทธศาสนา และบรรลุ เป็นพระอรหนั ต์ในเวลาตอ่ มา รวมท้งั บริวารทั้ง 1,000 คน

โปรดพระเจ้าพิมพิสาร พระพุทธเจา้ นาพระอรหนั ตท์ ัง้ 1,003 องค์ เสด็จสูก่ รุงราชคฤห์ พระพทุ ธเจ้าทรงแสดงธรรม เทศนาโปรดพระเจา้ พมิ พสิ าร พร้อมทั้งขา้ ราชบรพิ ารจน เลอ่ื มใสในพระพทุ ธศาสนาได้ ประกาศตนเปน็ พุทธมามกะ

พระเจ้าพิมพสิ ารถวายพระราช อทุ ยายานเวฬุวนั (สวนไผ่) เพอื่ เปน็ ที่ประทับของพระพทุ ธเจ้า พรอ้ มทั้งพระสงฆส์ าวก

วัดเวฬวุ นั มหาวหิ าร เป็นวัดแห่งแรกใน พระพทุ ธศาสนา ส่วน พระเจ้าพมิ พสิ ารถอื เปน็ กษัตรยิ พ์ ระองค์แรก ที่นบั ถอื ศรทั ธาใน พระพุทธศาสนา วดั เวฬวุ ันมหาวหิ าร เมืองราชคฤห์ แควน้ มคธ ประเทศอนิ เดยี ที่มา : FB วัดปา่ คุณสมั ปันนาราม

แตง่ ตั้งพระอัครสาวก พระสารีบตุ รไดร้ บั การแต่งตั้ง เป็นอคั รสาวกเบอ้ื งขวา (เสิศกวา่ ทางปญั ญา) และ พระโมคคัลลานะไดเ้ ป็นอัคร สาวกเบ้ืองซา้ ย (เลศิ กวา่ ในทางทีม่ ฤี ทธ์มิ าก)

แสดงโอวาทปาตโิ มกข์ หลังจากพระพุทธเจา้ ประกาศ พระพทุ ธศาสนาเป็นเวลา 9 เดอื น เม่อื ถึงวนั เพ็ญเดือน 3 มี พระสงฆ์สาวกจานวน 1,250 องค์ เดนิ ทางมาเขา้ เฝ้าพระองค์ ท่เี วฬวุ นารามโดยมิไดน้ ัดหมาย (วนั มาฆบูชา)

โอวาทปาตโิ มกข์ ถือเปน็ หลักคาสอนที่เป็นหัวใจของ พระพุทธศาสนาอย่างแท้จรงิ ประกอบดว้ ย 3 ประการคือ 1. ละเวน้ ความชว่ั คือ งดเวน้ จากการประพฤติชั่วทางกาย วาจา ใจ 2. ทาความดี คอื ประพฤติดีทั้งกาย วาจา ใจ 3. ทาจิตใจให้ผอ่ งใสบริสทุ ธ์ิ คือ การบริหารจติ และเจรญิ ปญั ญา ปฏิบตั ติ ามหลักทาน ศลี และภาวนา

ปรนิ ิพพาน

พระพทุ ธเจา้ ทรง เผยแผ่ศาสนามา เป็นระยะเวลา 45 ปี

ในคืนวันข้นึ 15 ค่า เดอื น 3 พระองค์ทรงปลงอายุสงั ขารว่า “ในอกี 3 เดอื นข้างหน้า พระองคจ์ ะเสรจ็ ดับขันธปรนิ พิ พาน”

กอ่ นทพี่ ระพทุ ธเจ้าจะเสดจ็ ดับ ขันธปรนิ ิพพาน มีนกั บวชรปู หน่ึงชือ่ วา่ สุภทั ทะ เลอ่ื มใสใน พระพุทธศาสนาจงึ ของบวช เป็นสาวกของพระพุทธเจา้ ต่อ หน้าพระพักต์ของพระพทุ ธเจา้ เปน็ องคส์ ดุ ทา้ ย

โอวาทครง้ั สดุ ทา้ ยของ พระพุทธเจา้ (ปัจฉิมโอวาท) ท่ตี รสั สง่ั เหล่าสาวกวา่ “ ดูกอ่ น พระภกิ ษทุ ั้งหลาย บดั นเ้ี ราขอ เตอื นทา่ นทัง้ หลายว่า สังขาร ทั้งหลายลว้ นมีความเลื่อมไป เปน็ ธรรมดา ท่านทั้งหลายจง ยังกิจทั้งปวงให้บริบณู ์ด้วย ความไม่ประมาทเถิด ”

พระองคท์ รงเสด็จดบั ขันธปรินพิ พาน ใต้ต้นสาละ ณ สาลวโนทยานของ มลั ลกษตั ยิ ์แห่งกรงุ กสุ ินารา แคว้นมัลละ ในวันข้ึน 15 คา่ เดือน 6 เมือ่ พระชนม์มายุ 80 พรรษา



แบบฝกึ หดั ที่ 2 เรื่อง พทุ ธประวตั ิ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นเลข 1-10 หนา้ ข้อความเพือ่ เรียงลาดบั พทุ ธประวตั ใิ หถ้ กู ต้องแลว้ เขียนสรุปพทุ ธประวตั พิ อสังเขปตามชว่ งเวลาทคี่ รกู าหนดให้ .............. พระสทิ ธตั ถะไดเ้ ข้าศกึ ษาในสานักของอาฬาดาบสและอทุ ทกดาบส .............. พระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงธรรมครัง้ แรกแกป่ ญั จวคั คยี ์ .............. เจา้ ชายสทิ ธัตถะประสูติ เมือ่ วันข้ึน 15 ค่า เดือน 6 .............. เจ้าชายสทิ ธัตถะทอดพระเนตรเทวทูตทั้ง 4 คือ คนแก่ คนเจบ็ คนตายและ สมณะ

.............. เจ้าชายสทิ ธัตถะอภเิ ษกสมรสกบั พระนางพมิ พา .............. พระพทุ ธเจ้าทรงเผยแผ่ศาสนาเปน็ เวลา 45 ปี .............. พระสิทธตั ถะตรสั รู้เปน็ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เม่ือวนั ขน้ึ 15 คา่ เดือน 6 .............. พระพุทธเจา้ เสดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พานในวนั ขนึ้ 15 ค่ะ เดอื น 5 .............. เจา้ ชายสทิ ธัตถะตดั สนิ พระทัยออกผนวช .............. พระสทิ ธัตถะบาเพญ็ ทกุ รกิริยา

เขยี นสรปุ พทุ ธประวตั ิ 1. ประสูติ ................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................ 2. ตรสั รู้ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... 3. ประกาศธรรม ................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................ 4. ปรินิพพาน ................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................

เจอกนั ใหม่ ชั่วโมงถัดไปนะคะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook