คาํ อธิบายรายวิชา จุดประสงค์รายวิชา 1. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั หลกั การพื้นฐานของระบบ 2. มีความรูเ้ กี่ยวกับการทาํ งานของโปรแกรมระบบปฏิบัตกิ ารบนเคร่ืองแม่ขา่ ย เครือ่ งลูก 3. มที ักษะในการติดต้ัง ใช้งานระบบปฏิบัติการต่างๆ และโปรแกรมยทู ลิ ิตี้ 4. มคี ุณธรรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมท่ีดีในการใชค้ อมพิวเตอร์ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เก่ียวกบั หลกั การพืน้ ฐานของระบบคอมพิวเตอรแ์ ละระบบปฏบิ ตั ิการ 2. แสดงความรู้เกี่ยวกับการทํางานของโปรแกรมระบบปฏิบัติการบนเคร่ืองแม่ข่าย เครือ่ งลูกข่ายและอุปกรณพ์ กพา 3. ติดต้ังและใช้ระบบปฏิบัติการท้ังระบบท่ีเป็นมาตรฐานปิด (Proprietary)และ ระบบทีเ่ ปน็ มาตรฐานเปดิ (Open Standard) คําอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับองค์ประกอบของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ หลักการทํางานของ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง ส่ือบันทึกข้อมูล ความหมายหน้าท่ีและความสําคัญของ ระบบปฏิบัติการ ประเภทของ โปรแกรมระบบปฏิบัติการ การเลือกใช้และติดตั้ง ระบบปฏิบัติการต่างๆ ทั้งระบบที่เป็นมาตรฐานปิด (Proprietary)และระบบท่ีเป็น มาตรฐานเปิด (Open Standard) บนเคร่ืองแม่ข่าย ลูกข่ายและอุปกรณ์ พกพา การใช้ งานโปรแกรมระบบปฏิบัติการเบอื้ งต้นและโปรแกรมยูทลิ ิต้ี
สารบัญ 01 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 องคป์ ระกอบของเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ 1. องคป์ ระกอบทางด้านฮาร์ดแวร์ของระบบคอมพิวเตอร์ 2. องคป์ ระกอบทางด้านซอฟตแ์ วร์ของระบบคอมพิวเตอร์ 3. บุคลากรทางคอมพวิ เตอร์ 02 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ความรูเ้ บือ้ งตน้ เก่ียวกบั ระบบปฏิบตั กิ าร 1. ความหมายของระบบปฏิบัติการ 2. หน้าท่ีของระบบปฏบิ ตั กิ าร 3. ประเภทของระบบปฏบิ ัติการ 4. ลักษณะการทํางานของระบบปฏบิ ัตกิ าร หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 03 ระบบปฏิบัติการภาวะขอ้ ความ (Text Mode) 1. ความเป็นมาของระบบปฏิบัติการดอส 2. การเร่มิ ตน้ ทํางานของระบบปฏบิ ตั กิ ารดอส 3. การตงั้ ช่ือในระบบปฏบิ ัติการดอส 4. คําสัง่ ดอสเบอ้ื งตน้ 5. ตวั แปรแทนตัวอักษร
สารบญั 04 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 ระบบปฏบิ ตั ิการแบบกราฟิก 1. การใชง้ านระบบปฏิบตั ิการวนิ โดวส์เบ้อื งตน้ 2. การเรียกใช้งานโปรแกรม 3. การสลบั หนา้ ต่างของโปรแกรม 4. การจดั การกับหนา้ ต่างของโปรแกรม 5. การจัดการแฟ้มขอ้ มูล 6. การปรบั แตง่ เดสก์ท็อป 7. การออกจากระบบปฏบิ ตั กิ ารวินโดวส์ 05 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 โปรแกรมยทู ลิ ิตี้ 1. ความหมายของโปรแกรมยูทลิ ติ ้ี 2. โปรแกรมยทู ิลติ ี้สําหรบั ระบบปฏบิ ัตกิ าร 3. โปรแกรมยูทิลิต้อี ืน่ ๆ 4. โปรแกรมดา้ นมัลติมเี ดียและจดั การรปู ภาพ
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 องคป์ ระกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ สาระสาคัญ ระบบคอมพิวเตอร์จะสามารถทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยองค์ประกอบท่ี สําคัญ 3 ส่วนด้วยกัน คือ ฮาร์ดแวร์ (Hardware)ซอฟต์แวร์ (Software)และพีเพิลแวร์ (Peopleware)ซง่ึ องคป์ ระกอบท้งั 3 สว่ นน้ี มีความสมั พันธเ์ ก่ียวขอ้ งกันในระบบคอมพิวเตอร์ ฮารด์ แวรเ์ ป็นส่วนทส่ี ามารถ สัมผสั ได้โดยแบ่งออกเปน็ 4 ส่วนหลัก คอื หนว่ ยรบั ข้อมลู หน่วย ประมวลผล หน่วยความจํา และ หน่วยแสดงผล ส่วนซอฟต์แวร์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถสัมผัสได้ เช่น โปรแกรมต่างๆ โดยซอฟต์แวร์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์ระบบและ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ พีเพิลแวร์หมายถึงบุคคลหรือ กลุ่มคนที่ทํางานเก่ียวข้องกับระบบ คอมพวิ เตอร์จัดเปน็ องค์ประกอบสดุ ท้ายทจ่ี ะขาดไม่ได้ สาระการเรยี นรู้ 1. องคป์ ระกอบทางด้านฮารด์ แวร์ของระบบคอมพิวเตอร์ 2. องคป์ ระกอบทางด้านซอฟต์แวร์ของระบบคอมพิวเตอร์ 3. บุคลากรทางคอมพวิ เตอร์
OPTION องคป์ ระกอบทางด้านฮาร์ดแวรข์ องระบบ คอมพวิ เตอร์ 01 ฮารด์ แวร์ (Hardware) เปน็ องคป์ ระกอบสว่ นทส่ี ามารถจบั ตอ้ งหรือสมั ผสั ได้ เชน่ ตวั เครื่อง คอมพวิ เตอร์ (Case)ตัวประมวลผล (CPU)และอุปกรณต์ ่อพว่ ง (Peripheral) เช่น เครอ่ื งพิมพ์ (Printer) คีย์บอร์ด (Keyboard) เมาส์ (Mouse) จอภาพ (Monitor) เป็นต้นโดยฮาร์ดแวร์ สามารถแบง่ องคป์ ระกอบ ไดเ้ ปน็ 4 สว่ นหลัก ดงั น้ี หน่วยควบคุม หน่วยคํานวณทาง คณิตศาสตร์และ ตรรกะ หนว่ ยรบั ข้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยแสดงผล (Central Processing Unit) (Input Unit) (Output Unit) Keyboard หนว่ ยความจา Monitor Mouse (Memory) Printer Scanner Ram Digital Camera Speaker Microphone Hard Disk Projector
OPTION องค์ประกอบทางดา้ นซอฟต์แวรข์ องระบบ คอมพิวเตอร์ 02 ซอฟต์แวร์หมายถึงชุดคําส่ังหรือโปรแกรมที่ใช้ในการส่ังงานให้คอมพิวเตอร์ทํางาน ซ่ึง ซอฟต์แวร์ เป็นส่ิงท่ีไม่สามารถจับต้องได้ แตกต่างจากฮาร์ดแวร์ โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ เปรียบเสมือนตัวกลางในการเช่ือมโยงระหว่างคอมพิวเตอร์กับผู้ใช้ ช่วยทําให้ผู้ใช้สามารถ ติดต่อส่ือสารทาํ งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วย่ิงข้ึน โดยซอฟต์แวร์ แบ่งออกได้ดงั นี้
2.1 ซอฟตแ์ วร์ระบบ (System Software) เป็นซอฟตแ์ วร์ทพี่ ฒั นาขนึ้ เพ่อื ทาํ หนา้ ทีใ่ นการดูแลจัดการระบบการทํางานของเครือ่ ง ของเค คอมพวิ เตอร์ เป็นซอฟตแ์ วรท์ ีท่ ํางานใกลช้ ดิ กับฮาร์ดแวร์มากท่สี ดุ และทําให้ผใู้ ช้สามารถ ติดตอ่ กับ อน่ื ๆ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ไดง้ า่ ย มีหน้าทใ่ี นการจดั การควบคุมการประมวลผล ภายใน จัดสรรทรพั ยากรตา่ งๆ เพ่ือร์ ในระบบและประสานงานตดิ ตอ่ กบั อุปกรณ์ภายนอก โดยซอฟตแ์ วรร์ ะบบหรือทรี่ ้จู ักกันในชอ่ื ของระบบ ปฏิบัตกิ าร หรือเรียกวา่ โอเอส (Operating Systern: OS) ดอม 2.2 ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ (Application Software) ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์หรือโปรแกรมประยกุ ต์ คือซอฟตแ์ วร์ท่ีพฒั นาขนึ้ มาเพ่ือใชก้ ับงาน ใชส้ าํ ฯ ดา้ นตา่ งๆ ตามลักษณะงานและความต้องการของผใู้ ช้ ซงึ่ สามารถนํามาใช้ประโยชน์ได้ โดยตรง ปจั จบุ ัน ซอฟต์แวรป์ ระเภทน้มี ีการพัฒนาและออกวางจาํ หนา่ ยอยา่ งมากมายเพอื่ อาํ นวยความสะดวกให้กบั ผใู้ ช้ เชน่ โปรแกรมในชดุ ของไมโครซอฟต์ออฟฟศิ (Microsoft Office) ที่สร้างข้ึนโดยบริษทั ไมโครซอฟต์ เป็นทนี่ ยิ มใช้งานกนั อยา่ งแพร่หลาย โปรแกรม ไมโครซอฟต์ออฟฟิศนี้เปน็ ซอฟตแ์ วร์สาํ หรบั งานทว่ั ไป หรอื เรยี กวา่ ซอฟตแ์ วร์สําเรจ็ รปู (Package Software) ก็ได้
OPTION บคุ ลากรทางคอมพิวเตอร์ 03 บุคลากรคอมพิวเตอรห์ รือพีเพิลแวร์ (Peopleward) เปน็ องค์ประกอบสว่ นสุดท้ายของ ระบบ คอมพิวเตอร์ พีเพิลแวร์หมายถึงบุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ เป็นผู้มี ความสําคัญเพราะเป็นบุคคล ท่ีมีส่วนเก่ียวข้องกับการใช้งาน ควบคุม และส่ังการเพ่ือให้ คอมพิวเตอรส์ ามารถทํางานได้ตามต้องการ คอมพิวเตอร์นั้นได้ถูกนําไปประยุกต์ใช้งานใน หลายด้าน เนื่องจากความสามารถและประสิทธิภาพ ในการทํางานที่สูง ดังน้ันบุคลากร ทางคอมพวิ เตอรจ์ งึ แบง่ ออกไปได้หลายหนา้ ที่ตามลกั ษณะราน ดังนี้ 3.1 ผใู้ ช้หรอื ยสู เซอร์ (User) ผู้ใช้งานคอมพิวเตอรท์ ว่ั ไป ต้องเรียนรูว้ ธิ กี ารใชเ้ คร่ืองและวิธกี ารใช้ งานโปรแกรมเพอ่ื ให้ โปรแกรมทม่ี อี ยู่สามารถทาํ งานไดต้ ามต้องการ 3.2 ผ้จู ดั การระบบ (System Manager) ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอรใ์ หเ้ ปน็ ไปตามเป้าหมายขององค์กร 3.3 นกั วเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบ (System Analysis Designer) ผู้ท่ีศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่ และทําการวิเคราะห์ความ เหมาะสม ความเป็นไปได้ใน การใช้คอมพวิ เตอร์กบั ระบบงาน พัฒนา โปรแกรมระบบเพื่อให้นักเขียนโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์ (Programmer) เปน็ ผูเ้ ขยี นโปรแกรมใหก้ ับระบบงาน
3.4 นกั เขยี นโปรแกรมหรอื โปรแกรมเมอร์ (Programmer) ผเู้ ขยี นโปรแกรมสง่ั งานเครอ่ื งคอมพิวเตอรเ์ พ่อื ให้คอมพิวเตอร์ทาํ งาน ตามความตอ้ งก ของผ้ใู ช้ และตามท่นี ักวเิ คราะหร์ ะบบได้ออกแบบไว้ 3.5 เจ้าหนา้ ท่ีควบคุมการทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ ทาํ หน้าทีพ่ ัฒนาและดแู ลระบบคอมพวิ เตอร์ ทางด้านฮาร์ดแวร์ แบบทดสอบ 1.องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์แบง่ 3. ขอ้ ใดจดั อยใู่ นประเภทเดียวกนั ออกเปน็ ส่วน ก .Keyboard, Mouse, Program ก. 2 ส่วน ข. Monitor, Printer, User ข. 3 สว่ น ค. Printer, Scanner, Monitor ค. 4 สว่ น ง. RAM, Cache, Software ง. 5 ส่วน จ. CD-ROM, DVD-ROM, Tape จ. 6 สว่ น 2. ขอ้ ใดไมใ่ ช่องคป์ ระกอบทางดา้ นฮารด์ แวร์ 4 กลอ้ งดิจทิ ัลจัดเป็นองคป์ ระกอบสว่ น ก. Input Unit ใดของฮารด์ แวร์ ข. Output Unit ก. Output Unit ค. Program ข. Memory Unit ง. Memory ค. Input Unit จ. Central Processing Unit ง. Central Processing Unit จ. Process Unit, User ค. Printer, Scanner, Monitor
แบบทดสอบ 8. หน่วยความจาํ ถาวรคือขอ้ ใด ก. ROM 5 อปุ กรณช์ นิดใดเปน็ ไดท้ ้งั อุปกรณร์ ับข้อมูลและ ข. RAM อุปกรณแ์ สดงผล ค. DVD ก. Printer ง. Flash Drive ข. Mouse ค. Cache ค. Scanner ง. Microphone 9. โปรแกรมเมอร์จดั เป็น จ. Touch Screen Monitors องค์ประกอบส่วนใดของระบบ คอมพิวเตอร์ 6. การคาํ นวณเกย่ี วขอ้ งกบั สว่ นใดของ ก. Hardware หน่วยประมวลผลกลาง ข. Software ก. ALU ค. Peopleware ข. CU ง. Memory ค. BUS จ. Control System ง. Bios จ. ไมม่ ีขอ้ ใดถกู 10. อาชพี ใดของบคุ ลากรในระบบ คอมพิวเตอรท์ ่ตี อ้ งศึกษาระบบงาน 7. หน่วยความจาํ หลกั คอื ข้อใด กอ่ นนาํ ไปสูก่ ารพฒั นาโปรแกรม ก. Floppy Disk ก. ผูใ้ ช้ ข. CD-ROM ข. ผู้จดั การระบบ ค. RAM ค. นักเขียนโปรแกรม ง. Hard Disk ง. เจา้ หนา้ ที่ควบคมุ การทาํ งานของ จ. Flash Drive ระบบ จ. นกั วิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบ เอง
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั ระบบปฏบิ ัตกิ าร สาระสาคญั เน้ือหาในหน่วยน้ีจะกล่าวถึงความหมายและประเภทของระบบปฏิบัติการที่มี การใช้งาน ในปัจจุบัน หน้าท่ีของระบบปฏิบัติการที่มีต่อการทํางานของเคร่ือง คอมพวิ เตอร์ และลักษณะการทาํ งาน ของระบบปฏิบัตกิ าร สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายของระบบปฏิบตั กิ าร 2. หนา้ ทขี่ องระบบปฏิบัตกิ าร 3. ประเภทของระบบปฏิบตั กิ าร 4. ลกั ษณะการทาํ งานของระบบปฏบิ ตั กิ าร
ความหมายของ 01 ระบบปฏิบัติการ ระบบปฏิบัติการ (Operating System: OS) เป็นระบบท่ีทําหน้าที่ช่วยจัดระเบียบใน การติดต่อ ส่ือสารระหว่างผู้ใช้งานกับเคร่ืองคอมพิวเตอร์ตลอดจนควบคุมการทํางานของ อุปกรณ์ต่างๆ และจัดการ ทรัพยากรในระบบให้สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operating System Program) เป็นโปรแกรมท่ี ถูกสร้างโดยภาษาที่ สามารถติดต่อกับระบบฮาร์ดแวร์ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ทําให้ ฮาร์ดแวร์สามารถทํางานได้อย่างเป็นระบบ และถูกต้อง ทําหน้าที่ควบคุมการทํางานของ เคร่อื งคอมพวิ เตอรท์ ง้ั ระบบเพอื่ ใหค้ อมพิวเตอร์สามารถ ดําเนินงานไปได้อย่างต่อเน่ือง รวม ไปถงึ จดั การข้นั ตอนการติดตอ่ ระหว่างผู้ใช้งานกับเคร่ืองคอมพวิ เตอร์
02 หน้าทีข่ องระบบปฏบิ ัติการ หน้าท่ีของระบบปฏิบตั กิ าร ระบบปฏิบัติการถูกสร้างขึ้นมาเพื่อติดต่อระหว่างเคร่ืองคอมพิวเตอร์กับผู้ใช้งาน ทําให้ ผู้ใช้งาน สามารถสั่งการเคร่ืองคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทํางานตามกระบวนการต่างๆ ทั้งที่ เก่ียวกับทั้งระบบฮาร์ดแวร์ หรือระบบซอฟต์แวร์ ทรัพยากรของระบบ และอุปกรณ์อื่นที่ ติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยจะควบคุม การทํางานท้ังระบบ ดังน้ันหน้าท่ีของ ระบบปฏิบัติการจึงครอบคลุมตั้งแต่การจัดสรรทรัพยากร การติดต่อ กับผู้ใช้ ตลอดจน ควบคมุ อปุ กรณ์ โดยหนา้ ที่ของระบบปฏบิ ัตกิ ารสามารถแบ่งไดด้ ังน้ี
ประเภทของ 03 ระบบปฏบิ ัตกิ าร ประเภทของระบบปฏิบตั ิการ ซอฟต์แวร์ที่มีใช้งานในเครื่องคอมพิวเตอร์ดังท่ีเคยกล่าวมาแล้วในก่อนหน้านี้ แบ่งออกเป็น 2 สว่ นคือ โปรแกรมระบบ (System Software)และโปรแกรมประยุกต์ (ApplicationSoftware) โดยโปรแกรมระบบนั้นอาจจะเรียกว่าโปรแกรม ระบบปฏิบัติการก็ได้ ถ้าเปรียบหน้าท่ีของระบบปฏิบัติการกับโปรแกรมประยุกต์ สามารถเปรียบเทียบระบบปฏิบัติการ ได้กับถนน ส่วนโปรแกรมประยุกต์สามารถ เปรียบได้กับรถท่ีแล่นอยู่บนถนน ถ้าไม่มีถนน รถยนต์ก็ ไม่สามารถจะเล่นได้ ระบบปฏบิ ตั กิ ารท่ใี ชก้ นั ท่วั ไปในปัจจบุ นั ซ่งึ นาํ ไปใชไ้ ดก้ บั คอมพิวเตอรห์ ลากหลาย ชนิดตงั้ แต่ เครอ่ื งระดบั ใหญ่จนถงึ อปุ กรณแ์ บบพกพาแบง่ ไดเ้ ป็น 3 ประเภทดงั นี้ 1.ระบบปฏิบัติการแบบ ระบบปฏบิ ัตกิ ารแบบฝัง เดีย่ ว (Stand-alone ตัว (Embedded Operating System) Operating System) 2.ระบบปฏบิ ัตกิ ารแบบ เครอื ขา่ ย (Network Operating System)
ลักษณะการทางานของ 04 ระบบปฏิบัติการ ประเภทของระบบปฏิบตั ิการสามารถแบ่งตามลกั ษณะการทํางานไดด้ งั นี้ แบบหลายผู้ใช้ (Multi-user)) 4.1 ระบบปฏิบัติการสามารถรองรับการใช้งา ใช้งานของผู้ใช้ ได้มากกว่า 2 คนพร้อมกัน โดยระบบ ปฏิบัติการประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะพบได้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเมนเฟรม มินิ คอมพิวเตอ ร์หรือ คอ มพิวเตอร์ที่ทําหน้ าที่เป็น คอมพิวเตอร์แมข่ า่ ย (Server) แมมมอติโปรเซสซิง่ (Multiprocessing)) 4.2 ระบบปฏบิ ัตกิ ารที่มกี ารรองรับการประมวลผลแบบขนาน ท่ีต้องใช้หน่วยประมวลผลกลาง ลงากกว่า 1 ตัว ต่อการ ประมวลผลงานใดงานหนึ่ง ระบบปฏิบัติการประเภทนี้อาจ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ระบบปฏิบัติการท่ี6การประมวลผล แบบขนาน (Parallel Processing) แบบมัลติทาสก่งิ (Multitasking)) 4.3 ระบบปฏิบัติการทมี่ ีการรองรับการประมวลผลแบบขนาน ที่ต้องใช้หน่วยประมวลผลกลาง ลงากกว่า 1 ตัว ต่อการ ประมวลผลงานใดงานหนึ่ง ระบบปฏิบัติการประเภทน้ีอาจ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ระบบปฏิบัติการที่6การประมวลผล แบบขนาน (Parallel Processing)
แบบเวลาจรงิ (Real time) 4.4 ระบบปฏบิ ตั ิการที่สร้างมาใช้เฉพาะงาน โดยต้องสามารถ ตอบสนองคําส่ังได้แบบทันทีทันใด ส่วนใหญ่ใช้ในระบบ เจาะจงพิเศษ เช่น งานทดลองวิทยาศาสตร์ ระบบภาพทาง การแพทย์ (Medical Imaging Systems แบบทดสอบ 3. ระบบปฏบิ ัตกิ ารมีกปี่ ระเภท ก. 2 ประเภท 1. ข้อใดไม่ใชห่ นา้ ทขี่ องระบบปฏิบัติการทมี่ ตี อ่ ข. 3 ประเภท เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ค. 4 ประเภท ก. จดั การทรัพยากร ง. 5 ประเภท ข. ตวั กลางระหว่างผใู้ ชง้ านกับเครื่องคอมพิวเตอร์ จ. 6 ประเภท ค. ควบคมุ ดแู ลอุปกรณต์ ่างๆ ง. จัดระเบียบในการติดต่อส่อื สาร 4 ขอ้ ใดต่อไปนไ้ี ม่ใช่ประเภทของ จ. ซอ่ มบํารงุ ดแู ลรกั ษาระบบ ระบบปฏบิ ัติการ ก. ระบบปฏิบตั กิ ารแบบเดี่ยว 2. ขอ้ ใดตอ่ ไปนบ้ี อกความหมายของ ข. ระบบปฏบิ ัตกิ ารแบบเครอื ขา่ ย ระบบปฏิบตั กิ ารได้ถกู ตอ้ งที่สุด ค. ระบบปฏิบัติการแบบฝังตัว ก. ระบบทีช่ ่วยในการจัดการระเบียบในการ ง. ระบบปฏบิ ัติการมอื ถือ ติดตอ่ สือ่ สารระหว่างเครือข่าย จ. ระบบปฏบิ ัตกิ ารแบบหลายผู้ใช้ ข. ระบบทีช่ ว่ ยในการจัดการระเบยี บในการ ตดิ ต่อสอ่ื สารระหวา่ งผ้ใู ชก้ ับเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ค. ระบบทช่ี ว่ ยในการจดั การระเบยี บในการทํางาน ของคอมพิวเตอร์ ง. ระบบท่ีช่วยในการจัดการคอมพวิ เตอร์ จ. ระเบยี บและดแู ลอปุ กรณ์ต่างๆ ของคอมพวิ เตอร์
5. ระบบปฏบิ ตั กิ าร Androidจัดอยใู่ นประเภทใด 9. งานทดลองวิทยาศาสตร์และระบบภาพทาง ระบบปฏบิ ตั กิ ารแบบเดยี ว การแพทย์ ควรเลือกใช้ระบบปฏบิ ัตกิ า การทาํ งาน ข. ระบบปฏิบตั กิ ารแบบเครือข่าย แบบใด ด. ระบบปฏบิ ัติการแบบฝงั ตัว ก. แบบหลายผ้ใู ช้ ง. ระบบปฏบิ ัติการมอื ถอื ข. แบบมัลติทาสก้ิง จ. ระบบปฏิบตั ิการแบบหลายผู้ใช้ ค. แบบมัลติโปรเซสซึ่ง ง, แบบเวลาจรงิ 6. ระบบปฏิบัตกิ ารแบบวนิ โดวส์จดั อยใู่ นประเภทใด จ. แบบฝัง ก. ระบบปฏบิ ตั ิการแบบเดย่ี ว ข. ระบบปฏิบตั กิ ารแบบเครอื ขา่ ย 10.ขอ้ ใดกล่าวถงึ คุณสมบตั ขิ องระบบปฏิบัติการ ค. ระบบปฏิบตั ิการแบบฝังตวั แบบมัลตโิ ปรเซสซ่งิ ไดถ้ ูกต้องท่สี ดุ ง. ระบบปฏบิ ัตกิ ารมอื ถือ รองรบั การทาํ งานประมวลผลแบบขนาน จ. ระบบปฏบิ ัติการแบบหลายผ้ใู ช้ ข. สามารถรองรับการทํางานแบบผู้ใช้ได้ มากกวา่ 2 คน 7. ระบบปฏิบตั กิ ารใดต่อไปนไี้ มเ่ ข้าพวก ค. รองรับการใช้งานโปรแกรมมากกว่า 1 ก. ระบบปฏบิ ัตกิ ารวนิ โดวส์ โปรแกรม ข. ระบบปฏิบตั ิการแมคโอเอส ง. รองรับการทํางานโดยสามารถตอบสนอง ค. ระบบปฏิบตั ิการอูบุนตู คาํ ส่ังไดแ้ บบทนั ทีทนั ใด ง. ระบบปฏบิ ัติการยนู ิกส์ จ. การใช้งานโปรแกรมจะสามารถทําได้อย่าง จ. ระบบปฏิบตั ิการดอส รวดเรว็ กวา่ ปกติ 8. ระบบปฏิบัติการท่ีทําหน้าท่ีเป็นคอมพิวเตอร์แม่ข่ายมีลักษณะการ ทํางานเปน็ แบบใด ก. แบบหลายผู้ใช้ ข. แบบมัลติทาสก้ิง ค. แบบมัลตโิ ปรเซสชิง ง. แบบเวลาจรงิ จ. แบบฝงั
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ระบบปฏบิ ัตกิ ารภาวะขอ้ ความ(Text Mode) สาระสาคญั เนอื้ หาในหนว่ ยนจ้ี ะกลา่ วถึงระบบปฏิบัติการดอสซ่ึงเป็นระบบปฏิบัติงานแบบภาวะ ข้อความ (Text Mode) ที่เป็นท่ีรู้จักกันมากที่สุด โดยจะกล่าวถึงความเป็นมาของ ระบบปฏิบัติการดอส การเร่ิมต้น ทํางานของระบบปฏิบัติการดอสในเคร่ือง คอมพวิ เตอร์ การตง้ั ชือ่ ในระบบปฏิบัติการดอส คําส่ังดอส เบื้องต้นและตัวแปรที่ใช้ แทนตัวอกั ษร สาระการเรียนรู้ 1. ความเปน็ มาของระบบปฏบิ ตั กิ ารดอส 2. การเริ่มต้นทํางานของระบบปฏบิ ตั ิการดอส 3. การตัง้ ชื่อในระบบปฏบิ ัติการดอส 4. คาํ ส่ังคอสเบือ้ งตน้ 5. ตวั แปรแทนตัวอักษร
01 ความเป็นมาของระบบปฏบิ ัติการดอส Dos (DiskOperatingSystem)เปน็ ระบบปฏบิ ตั กิ ารทีใ่ ชก้ ับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ รนุ่ แรก โดยถกู สรา้ งขน้ึ โดยบริษัทไมโครซอฟต์เรียกว่า MS-DOS 1.0 ต่อมาในปีพ.ศ. 2525 ไดพ้ ัฒนาเปน็ MS-DOS 11 และในปีพ.ศ. 2526 พฒั นาเปน็ MS-DOS รุ่น 2.0, 2.01, 2.10, 211, 2.25 ในปีพ.ศ. 2527 ได้มีการพัฒนาโปรแกรม MS-DOS รุ่น 3.0 และ 3.1 และเมื่อเทคโนโลยีเริ่มพัฒนาไปเร่ือยๆ จนถึง ปีพ.ศ. 2529 บริษัท ไมโครซอฟต์ก็ได้ออก MS-DOS รุ่น 3.2 ซึ่งสามารถใช้งานกับดิสก์ไดรฟ์ความจุ 720 กโิ ลไบต์ ขนาด 3.5 นิ้ว และพฒั นาตอ่ เปน็ MS-DOS 3.3 ในปีพ.ศ. 2530
จนถึงปีพ.ศ. 2531 บริษัทไมโครซอฟต์ได้ผลิต MS-DOSรุ่น4,0และ4.01 ซึ่งมีระบบ DOSSHELL ครั้งแรกและได้ประกาศตัวโปรแกรมวินโดวส์รุ่น 3.0 (Windows 3.0) โดยทาํ งานภายใต้ MS-DOS 4.0 หรือร่นุ ที่สงู กวา่ ซึ่งเป็นตน้ แบบของระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ในปัจจุบัน ปีพ.ศ. 2534 ไมโครซอฟต์ ได้ประกาศ MS-DOSรุ่น 5.0 ออกมา เป็นระยะเวลานาน 2 ปี เมื่อถึงปีพ.ศ. 2536 จึงได้พัฒนา MS-DOSเป็น 6.0 และ พฒั นาอีกครัง้ เปน็ 6.21 ในปีพ.ศ. 2538 เปดิ ตัวโปรแกรมระบบปฏบิ ัตกิ ารวินโดวส์ 95 (Windows 95: CHICACO) ซ่ึงในระบบปฏิบัติการดังกล่าวมี DOS รวมอยู่ด้วย โดย เป็น MS-DOS รุ่น 7 และในปีพ.ศ. 2540 ออก MS-DOS ร่นุ 7.1 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ วินโดวส์ 95 OSR2โดยมกี ารเปล่ยี นแปลง คือ สนบั สนุนการใชฮ้ ารด์ ดิสก์แบบ FAT 32 และได้รับการพัฒนามาจนกระท่ังปัจจุบัน โดยระบบปฏิบัติการ ตอสมิให้ใช้งานอยู่ ภายในระบบปฏบิ ตั ิการวนิ โดวส์
02 การเริ่มต้นทางานของระบบปฏิบัติการ ดอส การเรมิ่ ตน้ ทาํ งานของระบบคอมพิวเตอรจ์ ะเรมิ่ ตน้ โดยอตั โนมัติจากส่วนของ ชุดคําสั่งท่ีจดั เก็บอยู่ บนหนว่ ยความจาํ ของระบบคอมพิวเตอร์ท่ีใช้อ่านได้อย่าง เดียวเรียกว่า รอม (Read Only-Memory: ROM) คําส่ังเหล่านี้จะทําหน้าที่ ควบคุมอุปกรณ์พ้นื ฐานเรยี กว่ารอมไบออส (ROM BIOS) จากนั้น ทําการบรรจุ หรือโหลด (Load)ระบบปฏิบัติการจากแผ่นบันทึกหรือฮาร์ดดิสก์ข้ึนสู่ หนว่ ยความจาํ หลกั หลงั จากน้ันการควบคุมการทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ จะถกู บรรจุไปอยบู่ นหนว่ ยความจาํ หลกั เป็ ท่ีเรียบร้อย 2.1 บตู เรคคอรด์ (Boot Reecord) 2.2 COMMAND.COM 2.3 การบูตเครือ่ งคอมพิวเตอร์ 2.4 วิธีการเข้าใช้งานระบบปฏิบัตกิ ารดอสท่ีอยใู่ นระบบปฏบิ ัตกิ ารวนิ โดวส์ 03 การตั้งชอื่ ในระบบปฏบิ ัติการดอส การตั้งชื่อในระบบปฏิบัติการดอสจะใช้สําหรับการตั้งชื่อแฟ้มข้อมูลหรือช่ือได เร็กทอรี (Directory) โดยลักษณะการต้ังช่ือน้ันสามารถตั้งช่ือได้ความยาวไม่เกิน 8 ตัวอักษร และนามสกุลไฟล์ยาวได้ไม่เกิน 3 ตัวอักษร โดยการต้ังช่ือน้ันห้ามนํา อักษรพิเศษต่างๆ มาใช้ในการต้ังช่ือ เช่น “ / \\U : * | <> 1 , = ? ตัวอย่างของ ชื่อแฟม้ ข้อมลู ในระบบปฏบิ ัตกิ ารตอสมดี งั น้ี ช่อื นามสกลุ
04 คาสังคอสเบอ้ื งตน้ คําสั่งดอสเบื้องตน้ ท่ีควรศึกษาเพอื่ การใชง้ าน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังน้ี 4.1 ประเภทคําสงั่ 4.1.1 ประเภทคาํ สั่งภายใน (Internal Command) คําส่งั นี้สามารถใชไ้ ด้ทนั ที โดยท่ีนี้ ไม่ตอ้ งเรียกโปรแกรมอน่ื เพิ่มเติมจากแผน่ เช่น คําส่ัง DIR, DEL, REN, MOVE เป็นต้น โดยคําสั่ง เหล่าน้ีจะถูกบรรจุหรือโหลดเข้าไปในเคร่ืองคอมพิวเตอร์อยู่แล้วคืออยู่ใน แฟ้มขอ้ มลู COMINLAND COM 4.1.2 คําส่ังภายนอก (External Command) หมายถึงคําสั่งท่ีต้องการทําการเรียกใช้ งาน โปรแกรมใช้งานเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ได้ทําการโหลดเบื้องต้นโดยมากคําส่ัง ประเภทน้ีจะมีนามสกุล เป็น.COM หรือ EYE เช่น คําสั่ง FORMAT, TREE, XCOPY เปน็ ต้น 05 ตัวแปรแทนตัวอกั ษร การจัดการแฟ้มข้อมูลในระบบปฏิบัติการดอสนั้นอาจมีแฟ้มข้อมูลจํานวน มากที่มีชื่อหรือนามสกุล ท่ีคล้ายกัน สิ่งหน่ึงท่ีจะทําให้สามารถจัดการกับกลุ่ม แฟ้มข้อมูลเหล่านี้ได้สะดวกข้ึนคือตัวแปรแทน ตัวอักษร ซ่ึงจะมี 2 ตัวที่ใช้ใน การจดั การคอื เครื่องหมายคําถาม (2) และเครื่องหมายดอกจัน (*) ซึง่ สามารถ นําไปประยุกต์ใช้ตัวแปรแทนตัวอักษรเหล่าน้ีกับคําสั่งต่างๆ เช่น คําสั่ง DIR, คาํ ส่งั REN. คาํ ส่งั MOVE ฯลฯ
5.1 ตวั แปรสามตัวอกั ษร ตวั แปร () จะใชแ้ ทนตวั อักษร 1 ตัว ตวั อย่างของวิธีการใชง้ านสามารถแสดงได้ โดยตอ้ ง ขึ้นในโลงตัว V และลงท้ายดว้ ยสาว 6 เจน Work Doc หรือ Week.DOC เปน็ ต้น 5.1.1 DIN MP2W.DOC หมายถงึ ใหแ้ สดงแฟ้มข้อมูลท่ีมีจํานวนของชื่อ แฟ้มข้อมูล 4 ตวั โดะตอ้ งขึ้นต้นด้วยตวั W และลงทา้ ยดว้ ยตวั * เช่น Work.DOC หรือ Week.DOC เปน็ ต้น 5.1.2 DIN WORKD77 หมายถงึ ใหแ้ สดงแฟ้มขอ้ มูลท่ชี ือ่ วา่ Work ท่มี ี นามสกุลท่ีข้นึ 2.ละตามด้วยตัวแทนตัวอักษรอะไรกไ็ ด้ 2 ตัว เช่น Work.DOC Worlk.DIC 5.2 ตัวแปรแทนตัวอักษร () ตัวจร () จะใชแ้ ทนตัวอักษรจํานวนก่ีตวั กไ็ ด้ ตวั อยา่ งของวธิ กี ารใชง้ านสามารถแสดงได้ 5.2.1 DIR\"DOC หมายถงึ ใหแ้ สดงรายช่ือแฟม้ ขอ้ มูลทุกแฟ้มที่มนี ามสกุลเปน็ DOC 5.2.2 DR WORK หมายถึงให้แสดงรายชือ่ แฟ้มขอ้ มลู ทุกแฟม้ ท่ชี อ่ื ว่า Work เชน่ Work D00 Wie BN Work TXT เปน็ ตน้ 5.2.3 DEL หมายถงึ การลบแฟม้ ข้อมลู ทกุ ช่ือและทกุ นามสกลุ ออกจากไดเร็ก ทอรี ปจั จุบนั หรือ * หมายความวา่ แฟม้ ข้อมูลทกุ แฟม้ ในไดเรก็ ทอรี
แบบทดสอบ 1. ระบบปฏิบตั ิการตอส (DOS) ยอ่ มาจากคําใด 5 คาํ สง่ั ดอสในข้อใดคอื คาํ สง่ั ภายนอก ก. FORMAT ก. Disk Office System ข, DEL ข. Distribute Operating System ค. CLS ค. Dislk Operating System ง. DIR ง. Disk Office Supervisor จ. COPY จ. Disk Opening System 2. การบูตเครอื่ งโดยการกดปมุ่ Ctrl + Alt + 6. ข้อใดคอื คาํ ส่งั การเปลี่ยนไดรฟท์ ่ีกาํ ลงั Del พร้อมกนั เรียกว่าเป็นการบูตแบบใด ทํางานในปจั จบุ นั ไปเปน็ ไดรฟ์ D: ก. Control Boot ก. Change D: ข. Reset Boot ข. MOVE D: ค. Cold Boot ค. D: ง. Reboot ง. JUMP D: จ. Warm Boot จ. CD D: 3. ชนิดคําสัง่ ดอสในข้อใดคือคาํ สง่ั ภายใน ก, 7. คําสงั่ ดอสในขอ้ ใดใช้สําหรบั ดู FORMAT รายละเอียดของแฟม้ ขอ้ มูลในไดเรก็ ทอรี ข. DELTREE ปจั จุบัน ค. COPY ก. VER ง. DISKCOPY ข. TYPE จ. DIR ค. DIR 4. คาํ สั่งภายในของระบบปฏิบตั ิการดอสจะถกู ง. FOLDER เกบ็ ไวท้ ่แี ฟ้มขอ้ มูลใด จ. VIEW ก, IO.SYS 8. MD คือคาํ สงั่ DOs ในข้อใด ข. FORMAT.COM ก. คําส่งั เปลย่ี น Subdirectory ท่ีต้องการ ค, MSDOS.SYS ข. คาํ สง่ั ลบ Subdirectory ง. Boot Record ค. ดูช่ือแฟ้มข้อมูลใน Subdirectory จ. COMMAND.COM ง. คําสง่ั สร้าง Subdirectory จ. คาํ สั่งย้ายตําแหนง่ ของ Subdirectory เพอื่ จดั เก็บแฟ้มขอ้ มูล
9. ข้อใดตอ่ ไปนใี้ ชค้ ําสง่ั MOVE ถกู ตอ้ ง 10. ขอ้ ใดต่อไปนี้ใชค้ ําส่ังไมถ่ กู ตอ้ ง ก. MOVE MYWORK MYTEXT ก. dir/w 9 ข. MOVE TO MYWORK MYTEXT ข. TYPE dos.txt I MORE ค. MYWORK MOVE MYTEXT ค. copy/? ง. MYWORK MOVE TO MYTEXT จ ง. cd/ จ. MOVE TO D:\\ MYTEXT จ. cd..
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ระบบปฏิบัตกิ ารแบบกราฟิก สาระสาคญั เนอื้ หาในหน่วยนจ้ี ะกล่าวถึงระบบปฏิบตั กิ ารแบบกราฟิกทน่ี ิยมใช้งานในปัจจุบัน การใช้งาน ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เบื้องต้น การเรียกใช้งานโปรแกรมใน ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ การสลับ หน้าต่างการทํางานของโปรแกรมใน ระบบปฏบิ ตั กิ ารวินโดวส์ การจดั การกับหน้าต่างของโปรแกรม ในระบบปฏิบัติการ วนิ โดวส์ การจัดการแฟม้ ข้อมูลในระบบปฏิบตั กิ ารวินโดวส์ และการออกจากระบบ ปฏบิ ตั กิ ารวินโดวส์ สาระการเรียนรู้ 1. การใชง้ านระบบปฏิบัติการวนิ โดวสเ์ บื้องตน้ 2. การเรียกใชง้ านโปรแกรม 3. การสลบั หน้าต่างของโปรแกรม 4. การจดั การกบั หน้าต่างของโปรแกรม 5. การจดั การแฟม้ ข้อมลู 6. การปรับแตง่ เดสก์ทอ็ ป 7. การออกจากระบบปฏบิ ตั ิการวินโดวส์
OPTION การใช้งานระบบปฏบิ ตั ิการ วนิ โดวส์เบอ้ื งตน้ 01 ระบบปฏิบตั ิการแบบกราฟิกนัน้ มีอยมู่ ากมายหลายร่นุ ซงึ่ แตล่ ะรนุ่ จะมีความเหมาะสม กับงาน แต่ละอย่างต่างกัน โดยระบบปฏิบัติการวินโดวส์เป็นระบบปฏิบัติการท่ีมีผู้นิยมใช้ มากตัวหน่ึง ซึ่ง เหมาะสําหรบั นาํ มาเรียนรู้วธิ กี ารใช้งานเบอื้ งต้น โดยเนอ้ื หาในหนังสือเล่มนี้ จะแสดงการใช้งานบน ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 (Windows 7) ระบบปฏิบัตกิ ารวนิ โดวส์ 8 (Windows 8) และระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ 10 (Windows 10) เพ่ือเป็นแนวทางใน การใช้ระบบปฏบิ ตั ิการตวั อ่ืนๆตวั อ่นื ๆ อีกต่อไป 1.1 องคป์ ระกอบของหนา้ จอวนิ โดวส์
OPTION การเรยี กใชง้ านโปรแกรม 02 2.1 Windows 7 การเรียกใช้งาน โปรแกรมเบื้องตน้ ในระบบ ปฏบิ ัตกิ าร วนิ โดวส์ 7 สามารถ ทาํ ตามขน้ั ตอนดังตอ่ ไปน้ี 1) คลิกปมุ่ Start 2) 2) เลอื่ นเมาสไ์ ปที่ Program แล้วทาํ การเลอื ก 2.2 Windows 10 การเรยี กใชง้ าน โปรแกรม เบอื้ งต้นในระบบปฏิบตั กิ าร วนิ โดวส์ 10 สามารถทําตามขั้นตอน ดงั ต่อไปนี้ 1) คลิกปมุ่ Start Menu รปู 2) เลือ่ นเมาส์ไปที่ All apps แล้วทํา การเลอื กเปดิ โปรแกรมหรอื แอป พลเิ คชนั ทต่ี ้องการ
OPTION การสลบั หนา้ ตา่ งของโปรแกรม 03 เมื่อทาํ การเปิดโปรแกรมตา่ งๆ ข้ึนมาทํางานพรอ้ มกันหลายโปรแกรมวธิ สี ลับ หน้าต่างของโปรแกรม เพ่ือเลอื กทํางานโปรแกรมทต่ี ้องการสามารถทาํ ได้ หลายวธิ ีดังนี้ 1. ใช้เมาส์คลิกทีห่ นา้ ตา่ งโปรแกรมนัน้ เลย 2. ใชเ้ มาสค์ ลิกตรงชื่อโปรแกรมทีแ่ ถบง 3. ใชป้ ่มุ ALT+Tab ท่แี ปน้ พิมพ์ โดยกดปุม่ ALT คา้ งไว้ แลว้ ตามดว้ ยปมุ่ Tab ซงึ่ การกดปุม่ Tab แต่ละคร้งั จะเป็นการเลอื กโปรแกรมท่ตี ้องการสลับ หน้าต่าง
OPTION การจัดการกับหน้าต่างของ โปรแกรม 04 เมื่อเปดิ โปรแกรมขนึ้ มาใชง้ านจะมหี น้าต่างของโปรแกรมน้นั ปรากฏข้นึ บนพน้ื ที่ การทํางาน(Desktop) และหากมีการเรียกโปรแกรมขนึ้ มาใช้งานมากๆ พื้นทก่ี าร ทํางานจะเตม็ ไปด้วยหน้าตา่ งของโปรแกรม ท่ีเกิดข้ึน อาจทําใหก้ ารใชง้ าน โปรแกรมตา่ งๆ นน้ั ไม่สะดวก ซึ่งระบบปฏิบตั ิการวินโดวสส์ ามารถจัดการ รับหน้า ต่าง 4.1 จัดการกบั หน้าตา่ งของวินโดวส์ด้วย Control Buttons 4.1.1 สําหรับการซ่อนหน้าต่างโปรแกรม โปรแกรมที่ทําการเลือกจะทําการย่อ หน้าต่างของ โปรแกรมน้ันลงมาอยู่ใน Taskbar หรือหากต้องการย่อหน้าต่าง ทงั้ หมดลงสามารถทําไดโ้ ดยกดป่มุ WindowS+M ทีแ่ ป้นพิมพ์ 4.1.2 Restore/Maximize สาํ หรับการขยายหนา้ ตา่ ง ซง่ึ ปมุ่ นี้เปน็ ได้ทงั้ ป่มุ ย่อและ ขยายหนา้ ตา่ งของโปรแกรมใหเ้ ต็มพื้นทง่ี าน อีกวิธหี นึ่งคือทําการคลกิ ตรงตําแหนง่ ของชื่อโปรแกรมมาท่ี ตาํ แหนง่ ของ Taskbar 4.1.3 Close สําหรับปิดหน้าต่างหรือส้ินสุดการทํางานของโปรแกรม อีกวิธีหน่ึง คอื ทาํ การคลิกตรงตําแหน่งของช่ือโปรแกรมมาท่ีตําแหน่งของ Taskbar หรือกด ป่มุ ALT+F4 ท่แี ป้นพมิ พ์
จัดการกับหน้าตา่ งของวินโดวส์ด้วยการปรบั ขนาดและเคลือ่ นยา้ ย 4.2.1 การปรับขนาดหน้าต่างเอง ในบางคร้ังขนาดหน้าต่างของโปรแกรมท่ีใช้งานอยู่ อาจจะ ไม่มีความเหมาะสมในการทํางาน การปรับขนาดหน้าต่างของโปรแกรมให้ เหมาะสมกับการทํางาน ทําได้ โดยการนําตัวช้ีเมาส์ (Mouse Pointer) ไปช้ีที่ขอบ หน้าตา่ งของโปรแกรมด้านใดดา้ นหนึ่งคา้ งไว้ เมื่อตัวชี้เมาส์เปล่ียนเป็นลูกศรให้คลิกเมาส์ ค้างไว้ จากน้นั ทําการลากขยายขนาดไดต้ ามต้องการ
OPTION การจัดการแฟม้ ข้อมลู 05 ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์จะมีโปรแกรมท่ีทําหน้าที่จัดการกับแฟ้มข้อมูลคือ โปรแกรม Windoor Explorer โดยในโปรแกรมน้สี ามารถทาํ ไดโ้ ดยดูรายละเอยี ด ของแฟ้มข้อมูล การคัดลอกแฟ้มข้อมู ลบแฟ้มข้อมูล การเปล่ียนช่ือแฟ้มข้อมูล เป็นตน้ นบั ว่าเปน็ โปรแกรมท่ีมีประโยชน์อยา่ งมากใน การใชง้ านระบบปฏิบตั ิการ วนิ โดวส์ การเรยี กใช้งานโปรแกรม Windows Explorer สามารถทาํ ได้โดยคลิกท่ี \" บนแทบ็ Taste หรือคยี ล์ ัดโดยการกดปมุ่ Windows+E บนแป้นพิมพ์ดังภาพ
OPTION การปรับแต่งเดสก์ทอ็ ป 06 หน้าต่างเดสกท์ อ็ ปที่ใช้งานสามารถปรบั แต่งได้ เชน่ รูปแบบการแสดงผล รูปภาพ พื้นหลัง การพักหน้าจอ กําหนดขนาดตัวอักษรหรือกําหนดความละเอียดของ จอภาพ เป็นตน้ ซง่ึ ระบบปฏิบัติการ ทั้ง 3 รุ่นน้ัน มีลําดับข้ันตอนเหมือนกัน โดยมี รายละเอยี ดดงั นี้ 1. คลกิ ขวาที่หน้าเดสก์ท็อป 2. เลือก Personalize จากนั้นเลือก Desktop Background
OPTION การออกจากระบบปฏิบตั กิ าร วนิ โดวส์ 07 ระบบวนิ โดวสม์ ีความซบั ซ้อนเป็นอย่างมาก จึงจําเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ควรปิดเคร่ือง อย่างกะทันหัน ไม่เช่นนั้นอาจสูญเสียข้อมูลท่ีสําคัญไป ดังนั้นควรเลือกปิดเครื่อง อยา่ งถกู วิธี 7.1 Windows 7 7.1.1 คลิกทป่ี ่มุ (Taskbar) 7.1.2 คลกิ ที่คาํ ส่งั Shut down 7.1.3 รอจนกระท่ังเครอื่ งปดิ 7.2 Windows 10 7.2.1 คลกิ ท่ปี ุม่ Start Menu บนแถบงาน (Taskbar) 7.2.2 คลิกท่คี าํ สั่ง Power จากน้นั เลอื กคาํ สง่ั Shut down 7.3.3 รอจนกระทั่งเคร่ืองปิด
แบบทดสอบ 1 ในระบบปฏบิ ตั ิการ Windows สว่ นประกอบใดเปน็ แถบท่ใี ชแ้ สดงถึงโปรแกรมท่ี ดว้ ย เรยี กใช้งานอย่ใู นปจั จบุ ัน n. Desktop ข. Icon ค Tool Bal ง. Title Bar จ. Taskbam 2 แถบเครอ่ื งมือใดทีม่ เี พิม่ เตมิ มาในระบบปฏบิ ัตกิ าร Windows 8 ก. Tool Bar ข. Title Bar ค. Charm Bar ง. Control Bar จ. Taskbar 3. Icon ในระบบปฏบิ ัติการแบบกราฟิกมคี วามหมายตรงกับข้อใด ก. รูปภาพขนาดเล็กที่สือ่ ถงึ โปรแกรมทไ่ี ด้ทาํ การติดตงั้ ในระบบปฏบิ ตั กิ าร ข. เป็นแถบท่ีใชแ้ สดงถึงโปรแกรมทีก่ ําลังถูกเรยี กใชง้ านอยู่ในปัจจุบนั ค. ปุม่ ท่ใี ช้สําหรบั กดเม่ือตอ้ งการจะทําการออกจากระบบปฏบิ ัตกิ ารวนิ โดวส์ ง. ตําแหน่งที่ใช้สําหรบั รายงานสถานการณท์ าํ งานของเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ จ. แถบแสดงรายชอื่ ของโปรแกรม 4. ขอ้ ใดเป็นการสลบั หน้าตา่ งโปรแกรมการใชง้ านแบบปมุ่ ลัด ก. Alt + Tab ข. Shift + Tab ค. Ctrl + Tab ง. Alt + Shift +Tab จ. Alt + Ctrl + Tab
5. ขอ้ ใดเปน็ การปดิ หนา้ ต่างโปรแกรมการใชง้ านแบบปุ่มลดั n. Alt + F1 ข. Alt + F4 ค. Alt + Shift ง. Alt + Tab จ. Alt + Del 6. โปรแกรมการใช้งานจะอยทู่ ใ่ี ดเมอ่ื คลกิ ปุ่มยอ่ หน้าต่างของ โปรแกรม 10. วธิ กี ารในข้อใดคอื วิธกี ารท่ถี ูกตอ้ งเมอ่ื ก. Desktop ต้องการออกจากระบบปฏบิ ัตกิ ารวนิ โดวส์ ข. Taskbar ก. กดปุม่ Power ทตี่ วั เครื่องได้ทันที ค. Tool Bar ข. กดปุ่ม Ctrl + Alt + Delete พร้อมกัน ง, Title Bar ค. กดปุม่ Alt + F4 จ. Charm Bar ง. คลิกปุม่ Start แลว้ เลอื ก Shut Down 7.ขอ้ ใดคือป่มุ การยอ่ ต่างใหเ้ ลก็ ลง จ. ถอดปลกั ไฟของเครอ่ื งคอมพิวเตอรไ์ ดท้ นั ที ก. ข. ค. ง. ง. จ. 8.โปรแกรมทีใ่ ช้สําหรับจดั การแฟม้ ข้อมูลของระบบปฏบิ ตั ิการ วินโดวส์คือขอ้ ใด ก. Windows Explorer ข. File Manager ค, System Tools ง. My Computer จ. ไม่มีข้อใดถกู 9. ขอ้ ใดต่อไปน้ใี หค้ าํ เปรยี บเทยี บของสญั ลกั ษณร์ ปู ได้ถูกตอ้ ง ก. ไดรฟเ์ ปรยี บเสมือนตูเ้ อกสาร ข. ไดรฟเ์ ปรียบเสมือนแฟ้มเอกสาร ค. ไฟล์เปรยี บเสมอื นกระดาษ ง, โฟลเดอรเ์ ปรียบเสมือนตเู้ อกสาร จ. โฟลเดอร์เปรียบเสมือนแฟม้ เอกสาร
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 โปรแกรมยทู ลิ ติ ้ี สาระสาคัญ เนื้อหาในหน่วยนี้จะกล่าวถึงความหมายของโปรแกรมยูทิลิตี้ โปรแกรมยูทิลิต้ีท่ี สําคัญในระบบ ปฏิบัติการวินโดวส์ด้านการบํารุงรักษาและการจัดการระบบ เช่น โปรแกรม Error Checking โปรแกรม Defragment and optimize Drives โปรแกรม Disk Cleanup โปรแกรม Task Scheduler และ DirectX Diagnostic Tool เป็นต้น โปรแกรมยูทิลิต้ีด้านการรักษาความปลอดภัยของระบบ นอกจากน้ี ยังกล่าวถึง โปรแกรมอื่นๆ ที่ช่วยอํานวยความสะดวกในการใช้งานด้านความบันเทิงสําหรับดูหนัง ฟังเพลง และใชส้ าํ หรบั การจัดการเกีย่ วกับรูปภาพ สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายของโปรแกรมยูทิลติ ้ี 2. โปรแกรมยูทิลติ ส้ี าํ หรับระบบปฏบิ ตั กิ าร 3. โปรแกรมยทู ลิ ติ อ้ี ่นื ๆ 4. โปรแกรมดา้ นมัลตมิ ีเดยี และจดั การรปู ภาพ
OPTION ความหมายของโปรแกรมยูทิลติ ี้ 01 โปรแกรมยูทิลิตี้ (Utility Program/System) หรือโปรแกรมอรรถประโยชน์ หมายถึงโปรแกรม ช่วยจัดการระบบทางด้านต่างๆ รวมไปถึงดูแลรักษา ซ่อม บาํ รุงคอมพวิ เตอร์ และชว่ ยเพ่มิ ประสิทธิภาพ การทํางานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยยูทลิ ิตแี้ บ่งออกเปน็ 2 ประเภท คือยทู ลิ ิตสี้ าํ หรบั ระบบปฏบิ ตั ิการ (Os Utility program) และยูทิลิต้ีอ่ืนๆ (Stan-Alone Utility Program) ยูทิลิต้ีสําหรับ ระบบปฏบิ ตั ิการ เปน็ โปรแกรมที่ติดต้ังมากบั ระบบปฏบิ ตั กิ ารอย่แู ล้ว ซึ่งในระบบ ปฏิบัติการวินโดวส์น้ัน มีการพัฒนาโปรแกรมยูทิลิต้ีที่ช่วยดูแล ซ่อมแซม รักษา ระบบและเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทํางานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ตลอดจนถึง ข้อแนะนําและแนวทางการแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับ ระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ เช่น โปรแกรมสแกนดิสก์ เช็กดิสก์ เป็นต้น ยูทิลิตี้อื่นๆ เป็นโปรแกรมที่ ต้องติดต้ังเพิ่มเติม เช่นโปรแกรมบีบอัดไฟล์โปรแกรมด้านความปลอดภัย ของ ระบบหรือโปรแกรมปอ้ งกันไวรัส โปรแกรมไฟร์วอลล์ป้องกนั การบุกรุก เปน็ ต้น
OPTION โปรแกรมยูทลิ ิตสี้ าหรับ ระบบปฏิบตั กิ าร 02 ยูทิลิตี้สําหรับระบบปฏิบัติการในหน่วยน้ีนําเสนอยูทิลิตี้ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เนื่องจากเป็น ระบบปฏิบตั กิ ารทม่ี กี ารใช้งานกันมาก โดยยูทิลิต้ีท่ีจะกล่าวถึงประกอบด้วย โปรแกรม Error Checking โปรแกรม Defragment and Optimize Dives โปรแกรม Disk Cleanup โปรแกรม Task Scheduler และ DirectXDiagnostic Tool โดยมี รายละเอียดดงั น้ี 2.1 โปรแกรม Error Checking โปรแกรม Error Checking เป็นโปรแกรมที่ทําหน้าท่ี ตรวจสอบการทํางานของหน่วยสํารอง ข้อมูลประเภทฮาร์ดดิสก์และแฮนดี้ไดรฟ์ว่ามีส่วน ไหนไม่สามารถบันทึกข้อมูลได้ รวมถึงตรวจสอบโครงสร้าง ของแฟ้มข้อมูลว่ามีความ ถูกต้องหรือไม่ หากพบปัญหาเกิดข้ึนโปรแกรม Error Checking จะทําการแก้ง ให้โดย อตั โนมตั แิ ละรายงานผลการแกไ้ ขให้ทราบ การใช้งานโปรแกรม Error Checking มีดังน้ี 2.1.1 เปิด Windows Explorer --> คลิก ขวาไดรฟท์ ี่ ตอ้ งการตรวจสอบ--> คลิกเลอื ก Properties-> เล่อื นแถบมาที่ Tools--> คลิกเลอื ก Check ตามลาํ ดบั
2.2 โปรแกรม Disk Cleanup โปรแกรม Disk Cleanup เปน็ โปรแกรมท่ีทาํ การตรวจสอบขอ้ มลู ทเี่ ก็บในฮารด์ ดิสก์ และแสดงข้อมูลต่างๆ ทไี่ มจ่ าํ เป็น คือแฟม้ ขอ้ มูลเหล่าน้จี ะเปน็ แฟ้มขอ้ มลู ชั่วคราว ตา่ งๆ เช่น ไฟล์ท่ดี าวน์โหลด จากอนิ เทอรเ์ นต็ หรอื ไฟล์ทเ่ี ก็บอยูใ่ น Recycle Bin และจะทําการแจง้ แกผ่ ู้ใช้งานว่าจะทําการลบแฟม้ ข้อมูล เหล่าน้ันทง้ิ หรอื ไมส่ ามารถ เรียกใชง้ านโปรแกรม Disk Cleanup ได้ดงั น้ี 2.2.1 คลิกปุม่ Start จากนน้ั เลือก All Programs->Accessories->System tools- Disk Cleanup ตามลําดับ หรือ All Apps --> Windows Administrative Tools --> Disk Cleanup 2.2.2 เมื่อเข้าสู่ Disk Cleanup ก็เลอื กไดรฟ์ ที่จะทาํ การตรวจสอบ 2.2.3 คลิก OK จากน้ันโปรแกรม Disk Cleanup จะทําการตรวจสอบข้อมลู บน ฮาร์ดดิสก์ และแสดงไฟลท์ ี่จะสามารถลบได้
2.3 โปรแกรม Task Scheduler โปรแกรม Task Scheduler ทําหน้าท่ี เป็นตัวกําหนดเวลาการทํางานโปรแกรม ตา่ งๆ ลว่ งหนา้ โดยส่วนใหญจ่ ะใชส้ าํ หรบั เรยี กโปรแกรม การจัดการต่างๆ เช่น Error Checking หรือ Defragment and Optimize Drives เพื่อให้มี การตรวจสอบการ ทาํ งานอยา่ งสมาํ่ เสมอ หรอื แมก้ ระทั่งกําหนดตั้งเวลาปิดเคร่ืองอัตโนมัติ โดย เนื้อหา ในส่วนนี้จะแสดงตัวอย่างการกําหนดต้ังเวลา ปิดเคร่ืองอัตโนมัติวิธีการเรียกใช้งาน สามารถทําได้ ดังนีค้ อื
OPTION โปรแกรมยทู ิลิต้ีอ่ืนๆ 03 3.1 โปรแกรมยทู ลิ ิตี้อ่ืนๆ ในหน่วยนจี้ ะกลา่ วถงึ โปรแกรมดา้ นความปลอดภัยของระบบ หรือโปรแกรม ป้องกันไวรัสและโปรแกรมสําหรับบีบอัดไฟล์ข้อมูล โดยโปรแกรม ดงั กลา่ วจะนาํ เสนอโปรแกรมประเภท เรโี ปรแกรมมดี ังน้ี 3.1 โปรแกรมป้องกันไวรัส Microsoft Security Essentials Microsoft Security Essentials เปน็ ฟรโี ปรแกรมสําหรับตรวจสอบและกําจัดไวรัสแบบ Real Time เป็น ฟรีโปรแกรมของบริษัท Microsoft ใช้งานง่าย เนื่องจากมีรายการให้เลือกใช้งาน เพยี ง 4 ส่วน 3.2 โปรแกรมบบี อดั ไฟล์ โปรแกรมท่ีใช้ในการบีบอัดไฟล์ (Compressed) ทําให้ไฟล์มีขนาดเล็กลงหรือ สามารถบีบอัด ไฟล์เข้าด้วยกัน เพื่อสะดวกในการโอนถ่ายลงในอุปกรณ์เก็บข้อมูล หรือส่ง E-Mail น้ันมี หลายโปรแกรม เช่น WinZip WinRAR และ 7-Zip เป็นต้น เนือ้ หาในสว่ นนี้จะกล่าวถึงวธิ กี ารติดต้ังและใช้งานโปรแกรม 7-Zip ซึ่งเป็นโปรแกรม ป ระ เ ภ ท Freeware ท่ีสา มา ร ถ Download มา ใ ช้งา น ได้ฟ รีที่ WWW.7- zip.org/download.html
OPTION โปรแกรมด้านมลั ติมีเดียและจดั การ รูปภาพ 04 4.1 โปรแกรมมัลตมิ เี ดยี Windows Media Player TWindows Media Player นอกจากโปรแกรมยูทิลิต้ีดังท่ีกล่าวไปแล้วยังมีโปรแกรมอื่นๆ ท่ีช่วยอํานวยความ สะดวกและจําเป็น ต่อการใช้งานในปัจจุบัน เช่น โปรแกรมด้านมัลติมีเดีย สําหรับดู หนัง ฟังเพลง และโปรแกรมสําหรับ การจัดการรูปภาพ โดยเนื้อหาหน่วยน้ีเสนอ โปรแกรม Windows Media player 4.1 โปรแกรมมัลติมีเดีย Windows Media Player TWindows Media Player คือ โปรแกรม Mutimedia เทีพ่ ร้อมใช้หลงั จากลงระบบปฏบิ ตั ิการ TWindows สามารถ ใช้เล่นไฟล์เสียงและวิดีโอได้หลายสกุล ท้ัง ASF, MPEG-1, MPEG-2, WAV, AVI 1.UDI VOD, AU, MP3, QuickTime Files และอื่นๆ รวมไปถึงการดูรูปภาพต่างๆ (Image Viewer) 4.2 โปรแกรมจดั การรูปภาพโฟโตส้ เคป (PhotoScape) โฟโต้สเคปเป็นฟรีโปรแกรมสําหรับจัดการเก่ียวกับรูปภาพ เช่น ย่อขนาด ใส่ กรอบรปู งสี ทําภาพเคลื่อนไหว ตกแต่งรายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ เป็นต้น ง่ายและสะดวก ต่อในการใช้งาน สามารถ ถูกใช้เปน็ ภาษาไทยได้
แบบทดสอบ 1. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของโปรแกรมยทู ิลิตไ้ี ดถ้ กู ตอ้ ง ก. โปรแกรมใช้งานทวั่ ไปสําหรับดหู นงั ฟังเพลง เล่นเกมส์ ข. โปรแกรมช่วยอํานวยความสะดวกและเพม่ิ ประสิทธภิ าพให้กับระบบ ค. โปรแกรมซ่อมคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยลดความเสยี หาย ง. โปรแกรมท่วั ไปสําหรบั ดขู ้อมูลของระบบ จ. โปรแกรมทีถ่ ูกพฒั นาขึน้ เพ่ือการใช้งานเฉพาะดา้ น 2. ยูทิลิตแ้ี บง่ เปน็ 2 ประเภทอะไรบา้ ง ก. ยทู ลิ ิตส้ี าํ หรับระบบปฏิบตั ิการกบั ยูทลิ ิตอ้ี ื่นๆ ข. ยูทิลิต้ีสาํ หรับระบบปฏบิ ตั กิ ารกบั ยูทิลิตีความปลอดภยั ของระบบ ค. ยูทลิ ิตดี้ ้านความปลอดภัยของระบบ กบั ยทู ิติด้านความบันเทิง ง. ยทู ลิ ิตี้ด้านความบนั เทงิ กบั ยูทิลิต้ีสาํ หรบั ระบบปฏบิ ัตกิ าร จ. ยูทิลิตด้ี า้ นความปลอดภัยของระบบกับยทู ิลิตอี้ น่ื ๆ 3. ขอ้ ใดคือหนา้ ทขี่ องโปรแกรม Defragment and Optimize Drives ก. ลบไฟลข์ ยะที่ไม่จาํ เป็น ข. ตรวจสอบขอ้ มูลของระบบ ค. จดั พ้นื ที่ของขอ้ มลู ภายในฮาร์ดดิสกใ์ ห้เปน็ ระเบยี บ ง. ตรวจสอบและซอ่ มบํารุงรกั ษาฮารด์ ดิสก์ จ. ถกู ทกุ ข้อ 4. ข้อใดต่อไปน้ีคอื หน้าทีข่ องโปรแกรม Error Checking ก. ตรวจสอบขนาดความจขุ องฮาร์ดดิสก์ ข. ลบไฟลข์ ยะที่ไมจ่ าํ เปน็ ค. ตรวจสอบขอ้ มลู ของระบบ ง. จัดพื้นที่ของข้อมลู ภายในฮาร์ดดสิ ก์ใหเ้ ป็นระเบยี บ จ. ตรวจสอบและซอ่ มบํารงุ รกั ษาฮารด์ ดสิ ก์ 5. โปรแกรมใดต่อไปน้ีทําหน้าทีเ่ ป็นตัวกาํ หนดเวลาการทํางานโปรแกรมตา่ งๆ ลว่ งหนา้ ก. Defragment and Optimize Drives ข. Error Checking ง. DirectX Diagnostic Too ค. Task Scheduler จ. Scan Disk
6. หากโปรแกรมประเภทมัลติมีเดียมีปญั หาควรเลอื กใช้โปรแกรมใดในการ ตรวจสอบและแกไ้ ขปัญหา 142 ระบบปฏบิ ตั กิ ารเบื้องตน้ ในเบอื้ งตน้ ก. Defragment and Optimize Drives Task Scheduler ข. Error Checking ค Task Scheduler ง. DirectX Diagnostic Tool จ. Scan Disk 7. ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ใช่โปรแกรมในประเภทยูทิลิตอ้ี ื่นๆ n. Fire Wall ข. Antivirus ง Winamp ค. Zip ง. Winamp จ. Microsoft Security Essentials 8. ข้อใดตอ่ ไปนี้กลา่ วถึงประโยชน์ของโปรแกรมบีบอดั ขอ้ มูลไดถ้ ูกต้องที่สดุ ก. ทําให้ไฟลม์ ขี นาดเล็กลง ข. ทําให้ไฟล์เปลย่ี นรปู ร่าง ค. ทําให้ไฟล์สามารถนาํ ไปใช้กบั อุปกรณข์ นาดเลก็ ได้ เชน่ โทรศพั ท์มอื ถือ ง. ทําใหไ้ ฟลส์ ามารถทาํ งานไดร้ วดเรว็ ข้ึน จ. ทําให้ไฟล์ข้อมูลเหมาะสําหรับการรบั สง่ ข้อมลู ผา่ น e-mail 9. ขอ้ ใดไม่ใชค่ วามสามารถของโปรแกรม PhotoScape ก. รวมจัดเรียงรปู ภาพ ข. แก้ไขปรบั แต่งสรี ปู ภาพ ค. ยอ่ ขยายขนาดรูปภาพ ง. ทาํ ภาพเคล่ือนไหว จ. สรา้ งไฟลว์ ิดีโอ 10. ข้อใดกล่าวถึงคณุ สมบัติของโปรแกรม Windows Media Player ได้ ถกู ต้องทสี่ ดุ ก. ตกแตง่ รปู ภาพ ข. เลน่ เกม ค. กาํ จดั ไวรัสและรกั ษาความปลอดภัยใหร้ ะบบ ง. ดหู นังฟังเพลง จ. สรา้ งภาพเคล่ือนไหวและตัดต่อวดิ ีโอ
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: