Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 7 นางสาวกัญญาณัฐ กูลณรงค์ รหัส1106 ออกแบบภายในปี3 ภาคปกติ

บทที่ 7 นางสาวกัญญาณัฐ กูลณรงค์ รหัส1106 ออกแบบภายในปี3 ภาคปกติ

Published by กัญญาณัฐ กูลณรงค์, 2022-08-02 18:35:07

Description: บทที่ 7 นางสาวกัญญาณัฐ กูลณรงค์ รหัส1106 ออกแบบภายในปี3 ภาคปกติ

Search

Read the Text Version

วชิ า อนิ เทอร์เน็ตและพาณชิ ย์อเิ ล็กเทอร์นิกส์พืน้ ฐาน นางสาวกญั ญาณฐั กลู ณรงค์ รหสั 4631071141106 ออกแบบภายปี 3 แบบฝึ กหดั เร่ืองประเภทของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ อภิปรายและตอบคาถามในหวั ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี 1. จงบอกประเภทของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ ตอบ 1.1 ใชข้ นาดกายภาพทางภูมิศาสตร์ของเครือขา่ ยเป็นเกณฑ์ แบ่งออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทดงั น้ี 1.1.1 เครือขา่ ยทอ้ งถิ่น (LAN: Local Area Network) 1.1.2 เครือข่ายในเขตเมือง (MAN: Metropolitan Area Network) 1.1.3 เครือข่ายบริเวณกวา้ ง (WAN: Wide Area Network) 1.2 ใชล้ กั ษณะหนา้ ที่การทางานของคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภท ดงั น้ี 1.2.1 เครือขา่ ยแบบเท่าเทียม (Peer-to-Peer Network) 1.2.2 เครือข่ายแบบผใู้ ชบ้ ริการและผใู้ หบ้ ริการ (Client-Server Network) 1.3 ใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู เป็นเกณฑส์ ามารถแบ่งไดด้ งั น้ี คอื 1.3.1 เครือข่ายสาธารณะ (Internet) 1.3.2 เครือขา่ ยส่วนบุคคล (Intranet) 1.3.3 เครือขา่ ยร่วม (Extranet) 2. ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์สามารถจาแนกได้กปี่ ระเภท อะไรบ้าง ตอบ ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์สามารถจาแนกได้ 3 ประเภท คือ 1.ประเภทของเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์แบ่งตามขนาดกายภาพทางภมู ิศาสตร์ 2.ประเภทของเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์แบง่ ตามหนา้ ที่ของคอมพวิ เตอร์

3.ประเภทของเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์แบ่งตามระดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มูล 3.ประเภทเครือข่ายที่ใช้ขนาดทางกายภาพของเครือข่ายเป็ นเกณฑ์แบ่งเป็ นก่ีประเภท อะไรบ้างจงอธบิ าย ตอบ ใชข้ นาดทางกายภาพของเครือขา่ ยเป็นเกณฑ์ แบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทดงั น้ี 1.LAN (Local Area Network) : ระบบเครือข่ายระดบั ทอ้ งถ่ิน เป็นระบบเครือข่ายท่ีใชง้ านอยูใ่ นบริเวณ ท่ีไม่กวา้ งนกั อาจใชอ้ ยภู่ ายในอาคารเดียวกนั หรืออาคารที่อยู่ใกลก้ นั เช่น ภายในมหาวิทยาลยั อาคารสานกั งาน คลงั สินคา้ หรือโรงงาน เป็ นตน้ การส่งขอ้ มูลสามารถทาได้ดว้ ยความเร็วสูง และมีขอ้ ผิดพลาดน้อย ระบบ เครือข่ายระดบั ทอ้ งถ่ินจึงถูกออกแบบมาให้ช่วยลดตน้ ทุนและเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน และใชง้ าน อุปกรณ์ต่าง ๆ ร่วมกนั 2.MAN (Metropolitan Area Network) : ระบบเครือข่ายระดับเมือง เป็ นระบบเครือข่ายที่มีขนาดอยู่ ระหว่าง Lan และ Wan เป็นระบบเครือข่ายท่ีใชภ้ ายในเมืองหรือจงั หวดั เท่าน้นั การเช่ือมโยงจะตอ้ งอาศยั ระบบ บริการเครือข่ายสาธารณะ จึงเป็นเครือข่ายที่ใชก้ บั องคก์ ารท่ีมีสาขาห่างไกลและตอ้ งการเชื่อมสาขาเหล่าน้นั เขา้ ดว้ ยกนั เช่น ธนาคาร เครือขา่ ยแวนเชื่อมโยงระยะไกลมาก จึงมีความเร็วในการส่ือสารไม่สูง เนื่องจากมีสญั ญาณ รบกวนในสาย เทคโนโลยีท่ีใช้กับเครือข่ายแวนมีความหลากหลาย มีการเช่ือมโยงระหว่างประเทศด้วย ช่องสญั ญาณดาวเทียม เสน้ ใยนาแสง คล่ืนไมโครเวฟ คล่ืนวทิ ยุ สายเคเบิล 3.WAN (Wide Area Network) : ระบบเครือข่ายระดบั ประเทศ หรือเครือข่ายบริเวณกวา้ ง เป็ นระบบ เครือข่ายที่ติดต้งั ใชง้ านอยู่ในบริเวณกวา้ ง เช่น ระบบเครือข่ายท่ีติดต้งั ใช้งานทว่ั โลก เป็ นเครือข่ายที่เช่ือมต่อ คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่อยู่ห่างไกลกนั เขา้ ดว้ ยกนั อาจจะตอ้ งเป็นการติดต่อสื่อสารกนั ในระดบั ประเทศ ขา้ ม ทวีปหรือทวั่ โลกก็ได้ ในการเช่ือมการติดต่อน้นั จะตอ้ งมีการต่อเขา้ กบั ระบบสื่อสารขององคก์ ารโทรศพั ทห์ รือ การส่ือสารแห่งประเทศไทยเสียก่อน เพราะจะเป็นการส่งขอ้ มูลผา่ นสายโทรศพั ทใ์ นการติดต่อส่ือสารกนั โดย ปกติมีอตั ราการส่งขอ้ มูลท่ีต่าและมีโอกาสเกิดขอ้ ผิดพลาด การส่งขอ้ มูลอาจใช้อุปกรณ์ในการส่ือสาร เช่น โมเดม็ (Modem) มาช่วย 4.ประเภทเครือข่ายทใี่ ช้ลกั ษณะหน้าที่การทางานของคอมพวิ เตอร์ในเครือข่าย เป็ นเกณฑ์สามารถแบ่งได้ก่ี ประเภท อะไรบ้างจงอธิบาย ตอบ ใชล้ กั ษณะหนา้ ที่การทางานของคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายเป็นเกณฑ์ สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ประเภทดงั น้ี

1. Peer-to-Peer Network หรือเครือข่ายแบบเท่าเทียม เป็ นการเช่ือมต่อเคร่ืองคอมพิวเตอร์เขา้ ด้วยกัน โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ แตล่ ะเครื่อง จะสามารถแบ่งทรัพยากรต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นไฟลห์ รือเครื่องพิมพซ์ ่ึงกนั และ กนั ภายในเครือข่ายได้ เคร่ืองแต่ละเครื่องจะทางานในลกั ษณะท่ีทดั เทียมกนั ไม่มีเคร่ืองใดเคร่ืองเคร่ืองหน่ึงเป็น เคร่ืองหลกั เหมือนแบบ Client / Server แต่ก็ยงั คงคุณสมบตั ิพ้ืนฐานของระบบเครือข่ายไวเ้ หมือนเดิม การ เช่ือมตอ่ แบบน้ีมกั ทาในระบบที่มีขนาดเลก็ ๆ เช่น หน่วยงานขนาดเลก็ ที่มีเคร่ืองใชไ้ ม่เกิน 10 เครื่อง การเช่ือมต่อ แบบน้ีมีจุดอ่อนในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภยั แต่ถา้ เป็นเครือข่ายขนาดเลก็ และเป็นงานท่ีไม่มีขอ้ มลู ที่ เป็นความลบั มากนกั เครือข่ายแบบน้ี ก็เป็นรูปแบบท่ีน่าเลือกนามาใชไ้ ดเ้ ป็นอยา่ งดี 2. Client-Server Network หรื อเครื อข่ายแบบผู้ใช้บริ การและผู้ให้บริ การ เป็ นระบบที่มีเคร่ื อง คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องมีฐานะการทางานที่เหมือน ๆ กัน เท่าเทียมกันภายในระบบ เครือข่าย แต่จะมีเครื่อง คอมพิวเตอร์เคร่ืองหน่ึง ท่ีทาหนา้ ท่ีเป็นเครื่อง Server ที่ทาหนา้ ที่ใหบ้ ริการทรัพยากรต่าง ๆ ใหก้ บั เครื่อง Client หรือเคร่ืองที่ขอใช้บริการ ซ่ึงอาจจะตอ้ งเป็ นเคร่ืองที่มีประสิทธิภาพที่ค่อนขา้ งสูง ถึงจะทาให้การให้บริการมี ประสิทธิภาพตามไปดว้ ย ขอ้ ดีของระบบเครือข่าย Client - Server เป็นระบบที่มีการรักษาความปลอดภยั สูงกวา่ ระบบแบบ Peer To Peer เพราะว่าการจดั การในดา้ นรักษาความปลอดภยั น้ัน จะทากนั บนเคร่ือง Server เพียง เคร่ืองเดียว ทาให้ดูแลรักษาง่าย และสะดวก มีการกาหนดสิทธิการเขา้ ใชท้ รัพยากรต่าง ๆให้กบั เคร่ืองผูข้ อใช้ บริการ หรือเครื่องClient 5. ประเภทเครือข่ายทีใ่ ช้ระดับความปลอดภัยของข้อมูลเป็ นเกณฑ์มอี ะไรบ้าง จงอธิบาย ตอบ ใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มูลเป็นเกณฑส์ ามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทคอื 1. อินเทอร์เน็ต (Internet) เครือข่ายสาธารณะ เป็ นเครือข่ายที่ครอบคลุมทว่ั โลก ซ่ึงมีคอมพิวเตอร์เป็ น ลา้ นๆเครื่องเชื่อมต่อเขา้ กบั ระบบและยงั ขยายตวั ข้ึนเรื่อย ๆ ทุกปี อินเทอร์เน็ตมีผูใ้ ช้ทวั่ โลกหลายร้อยลา้ นคน และผูใ้ ช้เหล่าน้ีสามารถแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสารกนั ไดอ้ ย่างอิสระ โดยที่ระยะทางและเวลาไม่เป็ นอุปสรรค นอกจากน้ีผูใ้ ชย้ งั สามารถเขา้ ดูขอ้ มูลต่าง ๆ ท่ีถูกตีพิมพใ์ นอินเทอร์เน็ตได้ อินเทอร์เน็ตเช่ือมแหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ เขา้ ด้วยกนั ไม่ว่าจะเป็ นองค์กรธุรกิจ มหาวิทยาลยั หน่วยงานของรัฐบาล หรือแมก้ ระทง่ั แหล่งขอ้ มูลบุคคล องคก์ รธุรกิจหลายองคก์ รไดใ้ ช้อินเทอร์เน็ตช่วยในการทาการคา้ เช่น การติดต่อซ้ือขายผ่านอินเทอร์เน็ตหรืออี คอมเมิร์ช (E-Commerce) ซ่ึงเป็นอีกช่องทางหน่ึงสาหรับการทาธุรกิจที่กาลงั เป็นท่ีนิยม เน่ืองจากมีตน้ ทุนที่ถูก กว่าและมีฐานลูกค้าท่ีใหญ่มาก ส่วนข้อเสียของอินเทอร์เน็ตคือ ความปลอดภยั ของข้อมูล เนื่องจากทุกคน สามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลทุกอย่างท่ีแลกเปลี่ยนผ่านอินเทอร์เน็ตได้ อินเทอร์เน็ตใช้โปรโตคอลที่เรียกว่า “TCP/IP

(Transport Connection Protocol/Internet Protocol)” ในการส่ือสารขอ้ มูลผ่านเครือข่าย ซ่ึงโปรโตคอลน้ีเป็ นผล จากโครงการหน่ึงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โครงการน้ีมีชื่อว่า ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ในปี ค.ศ.1975 จุดประสงค์ของโครงการน้ีเพ่ือเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ท่ีอยู่ห่างไกลกนั และ ภายหลงั จึงไดก้ าหนดใหเ้ ป็นโปรโตคอลมาตรฐานในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ในปัจจุบนั อินเทอร์เน็ตไดก้ ลายเป็น เครือข่ายสาธารณะ ซ่ึงไม่มีผู้ใดหรือองค์กรใดองค์กรหน่ึงเป็ นเจ้าของอย่างแท้จริง การเช่ือมต่อเข้ากับ อินเทอร์เนต็ ตอ้ งเชื่อมต่อผา่ นองคก์ รที่เรียกวา่ “ISP (Internet Service Provider)” ซ่ึงจะทาหนา้ ที่ใหบ้ ริการในการ เช่ือมต่อเขา้ กบั อินเทอร์เน็ต น่ันคือ ขอ้ มูลทุกอย่างที่ส่งผ่านเครือข่าย ทุกคนสามารถดูได้ นอกเสียจากจะมีการ เขา้ รหสั ลบั ซ่ึงผใู้ ชต้ อ้ งทาเอง 2. อินทราเน็ต (Intranet) หรือเครือข่ายส่วนบุคคล เป็นเครือข่ายส่วนบคุ คลท่ีใชเ้ ทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต เช่น เวบ็ , อีเมล, FTP เป็นตน้ อินทราเนต็ ใชโ้ ปรโตคอล TCP/IP สาหรับการรับส่งขอ้ มลู เช่นเดียวกบั อินเทอร์เน็ต ซ่ึงโปรโตคอลน้ีสามารถใชไ้ ดก้ บั ฮาร์ดแวร์หลายประเภท และสายสัญญาณหลายประเภท ฮาร์ดแวร์ที่ใชส้ ร้าง เครือข่ายไม่ใช่ปัจจัยหลักของอินทราเน็ต แต่เป็ นซอฟต์แวร์ท่ีทาให้อินทราเน็ตทางานได้ อินทราเน็ตเป็ น เครือข่ายที่องคก์ รสร้างข้ึนสาหรับให้พนกั งานขององคก์ รใชเ้ ท่าน้นั การแชร์ขอ้ มูลจะอยู่เฉพาะในอินทราเน็ต เท่าน้นั หรือถา้ มีการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู กบั โลกภายนอกหรืออินเทอร์เน็ต องคก์ รน้นั สามารถท่ีจะกาหนดนโยบาย ได้ ในขณะท่ีการแชร์ขอ้ มูลอินเทอร์เน็ตน้ันยงั ไม่มีองค์กรใดที่สามารถควบคุมการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลได้ เมื่อ เช่ือมต่อเขา้ กบั อินเทอร์เน็ต พนักงานบริษทั ของบริษทั สามารถติดต่อสื่อสารกบั โลกภายนอกเพื่อการคน้ หา ข้อมูลหรือทาธุรกิจต่าง ๆ การใช้โปรโตคอล TCP/IP ทาให้ผูใ้ ช้สามารถเขา้ ใช้เครือข่ายจากที่ห่างไกลได้ (Remote Access) เช่น จากท่ีบา้ น หรือในเวลาที่ตอ้ งเดินทางเพ่ือติดต่อธุรกิจ การเชื่อมต่อเขา้ กบั อินทราเน็ต โดย การใชโ้ มเด็มและสายโทรศพั ท์ กเ็ หมือนกบั การเชื่อมต่อเขา้ กบั อินเทอร์เน็ต แต่แตกต่างกนั ท่ีเป็นการเช่ือมต่อเขา้ กับเครือข่ายส่วนบุคคลแทนที่จะเป็ นเครือข่ายสาธารณะอย่างเช่นอินเทอร์เน็ต การเช่ือมต่อกันได้ระหว่าง อินทราเน็ตกับอินเทอร์เน็ตถือเป็ นประโยชน์ที่สาคญั อย่างหน่ึง ระบบการรักษาความปลอดภยั เป็ นส่ิงที่แยก อินทราเน็ตออกจากอินเทอร์เน็ต เครือข่ายอินทราเน็ตขององค์กรจะถูกปกป้องโดยไฟร์วอลล์ (Firewall) ซ่ึง อาจจะเป็ นได้ท้ังฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ท่ีทาหน้าท่ีกรองข้อมูลที่แลกเปล่ียนกันระหว่างอินทราเน็ตและ อินเทอร์เน็ตเม่ือท้งั สองระบบมีการเชื่อมต่อกนั ดงั น้นั องคก์ รสามารถกาหนดนโยบายเพื่อควบคมุ การเขา้ ใชง้ าน อินทราเน็ตได้ อินทราเน็ตสามารถสนองความตอ้ งการของผใู้ ชใ้ นองคก์ รไดห้ ลายอยา่ ง ความง่ายในการตีพิมพ์ บนเวบ็ ทาให้เป็นที่นิยมในการประกาศข่าวสารขององคก์ ร เช่น ข่าวภายในองคก์ ร กฎ ระเบียบ และมาตรฐาน

การปฏิบตั ิงานต่าง ๆ เป็ นตน้ หรือแมก้ ระทงั่ การเขา้ ถึงฐานขอ้ มูลขององคก์ รก็ง่ายเช่นกนั ผูใ้ ชส้ ามารถทางาน ร่วมกนั ไดง้ ่าย และมีประสิทธิภาพมากข้ึน 3. เอก็ ส์ทราเน็ต (Extranet) หรือเครือขา่ ยร่วม เป็นเครือขา่ ยก่ึงอินเทอร์เน็ตก่ึงอินทราเน็ต กลา่ วคือ เอก็ ส์ ทราเน็ตคอื เครือขา่ ยท่ีเช่ือมต่อระหวา่ งอินทราเน็ตของสององคก์ ร ดงั น้นั จะมีบางส่วนของเครือข่ายที่เป็นเจา้ ของ ร่วมกนั ระหวา่ งสององคก์ รหรือบริษทั การสร้างอินทราเน็ตจะไม่จากดั ดว้ ยเทคโนโลยี แต่จะยากตรงนโยบายที่ เก่ียวกบั การรักษาความปลอดภยั ของขอ้ มูลท่ีท้งั สององคก์ รจะตอ้ งตกลงกนั เช่น องคก์ รหน่ึงอาจจะอนุญาตให้ ผใู้ ชข้ องอีกองคก์ รหน่ึงล็อกอินเขา้ ระบบอินทราเน็ตของตวั เองหรือไม่ เป็นตน้ การสร้างเอก็ ส์ทราเน็ตจะเน้นที่ ระบบการรักษาความปลอดภยั ขอ้ มูล รวมถึงการติดต้งั ไฟร์วอลลห์ รือระหวา่ งอินทราเน็ตและการเขา้ รหสั ขอ้ มูล และส่ิงท่ีสาคญั ที่สุดกค็ อื นโยบายการรักษาความปลอดภยั ขอ้ มลู และการบงั คบั ใช้