Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การคัดกรองสุขภาพจิตเด็กวัยเรียน

การคัดกรองสุขภาพจิตเด็กวัยเรียน

Published by prachumporn buaklee, 2020-01-28 01:10:06

Description: การคัดกรองสุขภาพจิตเด็กวัยเรียน

Search

Read the Text Version

46 ที่ ลกั ษณะ / พฤติกรรม ผลการวเิ คราะห์ ใช่ ไม่ใช่ ๕ ยากล�ำ บากในการเปรียบเทียบ มากกวา่ -น้อยกวา่ ๖ แกโ้ จทย์ปญั หาง่าย ๆ ไม่ได้ ๗ สบั สนไมเ่ ขา้ ใจเร่ืองเวลา ทศิ ทาง ๘ บอกความหมาย หรอื สญั ลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์ ไมไ่ ด้ เช่น +, -, ×, >, <, = ๙ เปรยี บเทียบขนาด รูปทรง ระยะทาง ตำ�แหน่งไม่ได้ ๑๐ เขยี นตัวเลขกลบั เชน่ 5/S , 6/9 เกณฑก์ ารพจิ ารณา ๑. ดา้ นการอา่ น ถา้ ตอบว่าใช่ ๗ ข้อ ข้ึนไป แสดงว่ามีแนวโนม้ ทจ่ี ะเปน็ บคุ คลที่มีความบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ ดา้ นการอ่าน ๒. ด้านการเขียน ถ้าตอบว่าใช่ ๗ ขอ้ ข้ึนไป แสดงวา่ มแี นวโนม้ ท่จี ะเปน็ บคุ คลที่มคี วามบกพร่องทางการเรียนรู้ ดา้ นการเขยี น ๓. ด้านการค�ำ นวณ ถา้ ตอบว่าใช่ ๖ ข้อ ข้ึนไป แสดงว่ามีแนวโน้มทีจ่ ะเปน็ บุคคลทม่ี ีความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ ดา้ นการค�ำ นวณ หากพบว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านใดด้านหนึ่ง หรือหลายด้าน ควรให้การช่วยเหลือตาม ความต้องการจำ�เป็นพเิ ศษทางการศกึ ษาของผู้เรียน และสง่ ต่อให้แพทยต์ รวจวนิ ิจฉัยต่อไป ผลการพจิ ารณาส่วนที่ ๑  การเขียน  การคำ�นวณ  พบความบกพรอ่ ง  ด้านการอ่าน  ไม่พบความบกพรอ่ ง ความคิดเหน็ เพมิ่ เตมิ ..................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ลงช่อื ..................................................... ใบวุฒบิ ตั ร เลขท่.ี ............................. (ผู้คัดกรอง) (.....................................................) ลงชื่อ ..................................................... ใบวุฒบิ ัตร เลขท.ี่ ............................. (ผู้คดั กรอง) (....................................................) ค�ำ ยนิ ยอมของผปู้ กครอง ข้าพเจา้ (นาย/นาง/นางสาว) ....................................................................................................................................................................... เป็นผู้ปกครองของ (ด.ช./ด.ญ./นาย/นางสาว) ............................................................................................................................................  ยนิ ยอม  ไม่ยนิ ยอม ใหด้ �ำ เนินการคดั กรอง (ด.ช./ด.ญ./นาย/น.ส.) ............................................................... ตามแบบคัดกรองน้ี เมือ่ พบวา่ มแี นวโน้มเป็นผทู้ ม่ี คี วามบกพร่องตามแบบคัดกรองข้างตน้  ยินดี  ไมย่ นิ ด ี ให้จัดบริการชว่ ยเหลือทางการศกึ ษาพเิ ศษตอ่ ไป ลงชอื่ ........................................................... ผปู้ กครอง (..........................................................) การคัดกรองสุขภาพจติ เด็กวัยเรียน

47 ตัวอยา่ ง แบบคดั กรองบคุ คลท่มี คี วามบกพร่องทางการพูดและภาษา (เน่อื งจากไม่มีใบรับรองความพิการ/สมดุ ประจำ�ตัวคนพิการ/ใบรบั รองแพทย์) ชือ่ -นามสกลุ (ด.ช./ด.ญ./นาย/นางสาว)...................................................................................................................................................... วัน เดอื น ปี เกิด...................... อายุ ..... ปี ..... เดือน ระดบั ชนั้ .......... วัน เดือน ปี ที่ประเมนิ .................. ประเมินครัง้ ที่ ...................... ค�ำ ชีแ้ จง ๑. แบบคัดกรองฉบับน้เี ปน็ แบบคดั กรองเพ่ือประโยชน์ในทางการจดั การศกึ ษาเทา่ นนั้ ๒. วเิ คราะห์ลกั ษณะ/พฤติกรรม ของเด็กซึ่งเปน็ ลักษณะหรอื พฤตกิ รรม ที่เดก็ แสดงออกบ่อย ๆ โดยใหท้ ำ�เคร่อื งหมาย “√” ลงในชอ่ ง “ใช่” หรอื “ไมใ่ ช”่ ทตี่ รงกบั ลกั ษณะหรอื พฤตกิ รรมน้ัน ๆ ของเด็ก ๓. ผทู้ ำ�การคัดกรองเบ้ืองตน้ ต้องผา่ นการอบรมวิธีการใช้ และการประเมนิ ตามแบบคัดกรองน้ี และควรสอบถามข้อมลู เพม่ิ เตมิ จากผทู้ ีอ่ ยูใ่ กลช้ ิดเด็กมากทีส่ ุด เช่น ผปู้ กครองหรือครู เพ่อื ให้เกดิ ความชดั เจน ถกู ต้อง ๔. ผูค้ ดั กรองควรจะมีอย่างน้อย ๒ คนข้นึ ไป ท่ี ลกั ษณะ / พฤตกิ รรม ผลการวิเคราะห์ ใช่ ไม่ใช่ ๑ อวยั วะท่ใี ช้ในการออกเสียงมคี วามผิดปกติ ๒ ใชห้ นว่ ยเสียงแทนกัน เช่น แทนทจ่ี ะพดู ว่า “นาฬกิ า” พูดวา่ “นาก๊กิ า” “เสือ” เป็น “เฉอื ” เปน็ ต้น ๓ พดู ด้วยน้ําเสียงไมช่ ัดเจน เสยี งเพ้ียนมาก หรือเปน็ เสียงพมึ พำ� ฟงั แล้วไมเ่ ข้าใจ ๔ เสยี งบางส่วนของค�ำ ขาดหายไป เช่น “ความ” เปน็ “คาม” เปน็ ตน้ ๕ ความบกพร่องของระดับเสียง เชน่ เสยี งสงู หรือตํา่ ตลอดเวลา หรอื เสยี งท่ีพูดอย่ใู นระดับเดียวตลอด เสยี งผดิ เพศ ผิดวัย ๖ พูดไมถ่ ูกลำ�ดับขัน้ ตอน ไม่เป็นไปตามโครงสร้างของภาษา เช่น ฉันตลาดไป ข้าวกินฉนั เปน็ ตน้ ๗ การเว้นวรรคตอนไมถ่ ูกต้อง เช่น “ผา้ สีเขยี วข.ี้ ..ม้า” เปน็ ต้น ๘ อัตราการพดู เรว็ หรอื ช้าเกนิ ไป ๙ พูดตะกุกตะกกั หรือพดู ติดอ่าง ๑๐ บกพรอ่ งในเรอื่ งความเขา้ ใจ หรอื การใชภ้ าษาพดู หรอื ภาษาเขยี น หรอื ระบบสญั ลกั ษณ ์ ๑๒ ไม่สามารถควบคมุ ตนเองทำ�ตามสง่ิ ที่ตอ้ งท�ำ หมายเหตุ ผู้คดั กรองควรอิงแบบพฒั นาการทางภาษาของเด็กท่ัวไปควบคกู่ ารประเมิน เกณฑก์ ารพจิ ารณา ถ้าตอบวา่ ใช่ ๕ ขอ้ ขนึ้ ไป แสดงวา่ มีแนวโนม้ ทีจ่ ะเปน็ บุคคลทมี่ คี วามบกพร่องทางการพูดและภาษา ควรใหก้ ารชว่ ยเหลือตามความ ตอ้ งการจำ�เป็นพเิ ศษทางการศกึ ษาของผเู้ รยี น และส่งต่อให้แพทย์ตรวจวนิ ิจฉัยตอ่ ไป ผลการคดั กรอง  ไม่พบความบกพร่อง  พบความบกพรอ่ ง การคัดกรองสขุ ภาพจิตเด็กวัยเรียน

48 ความคิดเหน็ เพิม่ เติม ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ..................................................... ใบวุฒิบัตร เลขท.่ี ............................. (ผ้คู ดั กรอง) (......................................................) ลงช่ือ ..................................................... ใบวุฒบิ ัตร เลขที่.............................. (ผูค้ ดั กรอง) (.....................................................) คำ�ยินยอมของผูป้ กครอง ขา้ พเจา้ (นาย/นาง/นางสาว) ....................................................................................................................................................................... เปน็ ผู้ปกครองของ (ด.ช./ด.ญ./นาย/นางสาว) ............................................................................................................................................  ยนิ ยอม  ไม่ยนิ ยอม ให้ด�ำ เนินการคดั กรอง (ด.ช./ด.ญ./นาย/น.ส.) ............................................................... ตามแบบคดั กรองนี้ เมื่อพบวา่ มีแนวโน้มเปน็ ผทู้ ม่ี คี วามบกพร่องตามแบบคัดกรองขา้ งต้น  ยนิ ด ี  ไมย่ นิ ดี ใหจ้ ดั บริการช่วยเหลือทางการศกึ ษาพิเศษตอ่ ไป ลงช่อื ........................................................... ผูป้ กครอง (..........................................................) การคดั กรองสุขภาพจิตเด็กวยั เรียน

49 ตัวอยา่ ง แบบคดั กรองบุคคลทม่ี ปี ัญหาทางพฤตกิ รรมหรืออารมณ์ (เนือ่ งจากไม่มีใบรับรองความพกิ าร/สมดุ ประจำ�ตวั คนพกิ าร/ใบรบั รองแพทย)์ ชื่อ-นามสกุล (ด.ช./ด.ญ./นาย/นางสาว)...................................................................................................................................................... วนั เดือน ปี เกิด...................... อายุ ..... ปี ..... เดอื น ระดบั ชัน้ .......... วนั เดอื น ปี ที่ประเมนิ .................. ประเมินครง้ั ที่ ...................... คำ�ชี้แจง ๑. แบบคัดกรองฉบับนี้เปน็ แบบคัดกรองเพ่อื ประโยชน์ในทางการจดั การศึกษาเท่าน้ัน ๒. วิเคราะหล์ ักษณะ/พฤตกิ รรม ของเดก็ ซงึ่ เปน็ ลกั ษณะหรอื พฤตกิ รรมเบย่ี งเบนไปจากปกตอิ ยา่ งมากหรือเปน็ ไปอย่างตอ่ เน่อื ง ทำ�ใหไ้ มส่ ามารถเรยี นหนังสอื ได้เหมอื นเดก็ ปกตทิ วั่ ไป และการทเ่ี ด็กไมส่ ามารถเรียนไดน้ ้นั มิไดม้ ีสาเหตุมาจากองคป์ ระกอบ ทางสตปิ ัญญา การรับร้แู ละสขุ ภาพ หรือความบกพรอ่ งทางรา่ งกาย โดยใหท้ ำ�เครอื่ งหมาย “√” ลงในช่อง “ใช”่ หรอื “ไม่ใช่” ที่ตรงกับลักษณะหรอื พฤตกิ รรมนน้ั ๆ ของเดก็ ๓. ผทู้ �ำ การคดั กรองเบื้องตน้ ต้องผา่ นการอบรมวิธีการใช้ และการประเมิน ตามแบบคดั กรองนี้ และควรสอบถามขอ้ มลู เพิ่มเตมิ จากผทู้ ่ีอยู่ใกล้ชิดเดก็ มากที่สดุ เช่น ผูป้ กครองหรอื ครู เพอ่ื ให้เกดิ ความชดั เจน ถูกต้อง ๔. ผู้คัดกรองควรจะมีอยา่ งน้อย ๒ คนข้นึ ไป ท่ี ลักษณะ / พฤตกิ รรม ผลการวิเคราะห์ ใช่ ไม่ใช่ ๑ กา้ วร้าว ก่อกวนเป็นอันตรายแกต่ นเองและผู้อื่น ๑.๑ โหดรา้ ย ทารุณ รังแกสตั ว์ ๑.๒ ชกต่อย ทำ�รา้ ยร่างกายตนเองและผูอ้ ่ืน ๑.๓ ขม่ ขู่ คุกคาม หวีดรอ้ ง กระทืบเท้า ๒ การเคลอ่ื นไหวทผ่ี ดิ ปกติ ๒.๑ ไม่อยูน่ ่งิ เคลอ่ื นไหวตลอดเวลาโดยปราศจากจดุ มุง่ หมาย ๒.๒ มคี วามสนใจส้ัน สนใจบทเรยี นไมไ่ ดน้ าน ขาดสมาธิในการเรยี น ๒.๓ ก่อกวนเพ่อื น ๓ การปรบั ตวั ทางสงั คม มกี ารปรบั ตวั ทางสงั คมไมถ่ กู ตอ้ ง มกี ารฝา่ ฝนื กฎเกณฑท์ เี่ ปน็ ทย่ี อมรบั ของสงั คม ๓.๑ ทำ�ลายสาธารณสมบัติ ๓.๒ ลักขโมย ๓.๓ การตอ่ สูร้ ะหว่างโรงเรียนทเี่ ป็นคูอ่ ริ ววิ าทกบั ผู้อน่ื เสมอ ๓.๔ ประทษุ รา้ ยทางเพศ ๓.๕ ไมเ่ คารพ ไมเ่ ช่อื ฟัง ครูและพอ่ แม่ ผู้ปกครองอยา่ งรุนแรง การคัดกรองสขุ ภาพจิตเด็กวยั เรยี น

50 ที่ ลกั ษณะ / พฤติกรรม ผลการวเิ คราะห์ ใช่ ไมใ่ ช่ ๔ มคี วามรู้สึกวิตกกังวลและปมดว้ ย อย่างรนุ แรงสม่ำ�เสมอ ๔.๑ ไม่กล้าพดู ไม่กลา้ แสดงออก ๔.๒ มกี ารประหมา่ อย่างมากเมอื่ ให้ออกไปแสดงออก เชน่ รายงาน ๔.๓ มีอาการตัวรอ้ นเปน็ ไขเ้ ม่อื มาโรงเรยี น ๕ การหนสี ังคม การปลกี ตัวออกจากสังคม อนั มีผลตอ่ การเรยี น ๕.๑ ไมพ่ ูดคยุ ไม่เล่นกบั เพ่ือน ๕.๒ ไมร่ ว่ มกจิ กรรมทที่ างโรงเรยี นจัดให้ ๕.๓ เจ้าอารมณ์ รุนแรง ๕.๔ ชอบอยูค่ นเดียว ท�ำ งานคนเดยี วตลอดเวลา เกณฑก์ ารพิจารณา ถา้ ตอบวา่ ใช่ ๑ ใน ๕ ขอ้ และตอบใช่ ๒ ขอ้ ยอ่ ยในขอ้ หนงึ่ ถอื วา่ มแี นวโนม้ ทจ่ี ะเปน็ บคุ คลทม่ี คี วามบกพรอ่ งทางพฤตกิ รรมหรอื อารมณ์ ควรใหก้ ารช่วยเหลอื ตามความตอ้ งการจ�ำ เป็นพเิ ศษทางการศกึ ษาของผเู้ รียน และสง่ ตอ่ ใหแ้ พทย์ตรวจวนิ ิจฉยั ต่อไป ผลการพจิ ารณาสว่ นท่ี ๑  การเขยี น  การคำ�นวณ  พบความบกพรอ่ ง  ด้านการอา่ น  ไมพ่ บความบกพร่อง ความคดิ เห็นเพม่ิ เติม ..................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ..................................................... ใบวุฒิบตั ร เลขที.่ ............................. (ผคู้ ดั กรอง) (......................................................) ลงชอื่ ..................................................... ใบวุฒิบัตร เลขที.่ ............................. (ผู้คัดกรอง) (.....................................................) ค�ำ ยนิ ยอมของผ้ปู กครอง ขา้ พเจา้ (นาย/นาง/นางสาว) ....................................................................................................................................................................... เป็นผู้ปกครองของ (ด.ช./ด.ญ./นาย/นางสาว) ............................................................................................................................................  ยนิ ยอม  ไมย่ ินยอม ใหด้ �ำ เนนิ การคัดกรอง (ด.ช./ด.ญ./นาย/น.ส.) ............................................................... ตามแบบคัดกรองน้ี เมื่อพบว่ามแี นวโน้มเปน็ ผทู้ มี่ ีความบกพร่องตามแบบคดั กรองขา้ งต้น  ยนิ ดี  ไม่ยินด ี ใหจ้ ัดบริการชว่ ยเหลือทางการศกึ ษาพเิ ศษต่อไป ลงชือ่ ........................................................... ผูป้ กครอง (..........................................................) การคดั กรองสขุ ภาพจิตเดก็ วยั เรียน

51 ตวั อย่าง แบบคัดกรองบคุ คลออทสิ ติก (เน่อื งจากไม่มีใบรับรองความพกิ าร/สมุดประจำ�ตัวคนพกิ าร/ใบรบั รองแพทย์) ช่ือ-นามสกุล (ด.ช./ด.ญ./นาย/นางสาว)...................................................................................................................................................... วนั เดือน ปี เกิด...................... อายุ ..... ปี ..... เดือน ระดบั ชนั้ .......... วนั เดือน ปี ท่ีประเมนิ .................. ประเมินครั้งท่ี ...................... ค�ำ ช้ีแจง ๑. แบบคดั กรองฉบับนเ้ี ปน็ แบบคดั กรองเพ่อื ประโยชนใ์ นทางการจดั การศกึ ษาเทา่ น้ัน ๒. วเิ คราะห์ลักษณะ/พฤตกิ รรม ของเดก็ ซงึ่ เป็นลักษณะหรือพฤตกิ รรม ท่เี ด็กแสดงออกบอ่ ย ๆ โดยให้ทำ�เครอื่ งหมาย “√” ลงในชอ่ ง “ใช่” หรอื “ไม่ใช่” ท่ีตรงกบั ลกั ษณะหรอื พฤติกรรมนน้ั ๆ ของเดก็ ๓. ผ้ทู �ำ การคดั กรองเบื้องต้นต้องผ่านการอบรมวิธีการใช้ และการประเมนิ ตามแบบคดั กรองนี้ และควรสอบถามข้อมูลเพมิ่ เติมจากผ้ทู ีอ่ ย่ใู กลช้ ดิ เด็กมากทีส่ ดุ เช่น ผ้ปู กครองหรอื ครู เพื่อให้เกดิ ความชัดเจน ถูกตอ้ ง ๔. ผู้คัดกรองควรจะมอี ยา่ งน้อย ๒ คนขึ้นไป ท่ี ลักษณะ / พฤติกรรม ผลการวิเคราะห์ ใช่ ไมใ่ ช่ พฤติกรรม / อารมณ์ ๑ มีพฤตกิ รรมกระตุ้นตัวเอง ซึง่ เป็นพฤติกรรมซาํ้ ๆ เช่น สะบดั น้วิ มอื เลน่ มอื ดม เคาะ หรือหมุนส่ิงของ เป็นตน้ ๒ แสดงพฤตกิ รรมทีไ่ มเ่ หมาะสมเมอ่ื มีการเปล่ยี นแปลงกิจกรรมประจำ�วัน เช่น เด็กไมย่ อมเปล่ียนเสน้ ทาง การไปโรงเรียน เด็กไม่ยอมเปลยี่ นเก้าอีน้ ง่ั ในหอ้ งเรยี น เปน็ ต้น ๓ มพี ฤติกรรมหลกี หนีการสัมผัส เชน่ เดินเขยง่ ปลายเท้า ไม่ชอบการกอดรดั ทนตอ่ เสยี งบางอยา่ งไมไ่ ด้ เป็นตน้ ๔ มีพฤติกรรมอยู่ไม่นง่ิ เชน่ ชอบว่ิง เดินไปมารอบห้อง เป็นตน้ ๕ ไม่เขา้ ใจอารมณ์ของผอู้ น่ื เช่น ไม่เข้าใจเวลาเพือ่ นโกรธ เศร้า เสียใจ เปน็ ต้น ด้านการส่ือความหมาย ๖ แสดงความต้องการโดยการจูงมือ เช่น เด็กจะจูงมอื ผู้ปกครอง / ครู เพื่อนำ�ไปท�ำ สิง่ ทต่ี ้องการ เป็นต้น ๗ ใช้ภาษาพดู ของตนเองทผี่ ู้อื่นไม่เข้าใจ ๘ พดู เลียนแบบ หรือพดู ทวนคำ�ถาม ๙ พูดค�ำ ซา้ํ ๆ ท่เี คยไดย้ นิ บอ่ ย เชน่ พดู ตามโฆษณาทไ่ี ดย้ ินจากโทรทัศน์ ๑๐ ไม่สามารถเริ่มต้นบทสนทนากับผูอ้ ื่นได้ ๑๑ พูดเร่ืองท่ตี นเองสนใจโดยไม่สนใจผ้ฟู งั ๑๒ ไม่เขา้ ใจค�ำ ทีเ่ ป็นนามธรรม เชน่ การเออ้ื เฟื้อเผ่อื แผ่ การคดั กรองสุขภาพจติ เด็กวัยเรียน

52 ท่ี ลักษณะ / พฤติกรรม ผลการวเิ คราะห์ ใช่ ไม่ใช่ ดา้ นสังคม ๑๓ ไมม่ องสบตากับผอู้ นื่ ขณะสนทนา ๑๔ ไม่มีปฏิสมั พันธ์กับบคุ คลรอบขา้ ง เชน่ ไมเ่ ล่นกบั เพ่ือน ไม่สนใจคนรอบขา้ ง เปน็ ตน้ ๑๕ มปี ฏสิ ัมพันธต์ อ่ บุคคลรอบขา้ งไม่เหมาะสม เช่น เลน่ กับเพือ่ นแรง ๑๖ แสดงพฤติกรรมการตอบสนองทางอารมณ์ และสังคมไม่เหมาะสม เช่น ส่งเสียงกรีดร้อง ทำ�ร้ายตนเอง หรอื ผอู้ นื่ เม่ือถกู ขดั ใจ เป็นต้น ๑๗ แยกตัวออกมาอยู่ตามลำ�พัง เชน่ ในขณะทเ่ี พ่ือนท�ำ กจิ กรรมกลมุ่ ไมย่ อมเข้าร่วมกจิ กรรม ๑๘ ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎกตกิ า ระเบียบหรือขอ้ ตกลงได้ เช่น ไมร่ จู้ กั การรอคอย ไมร่ จู้ กั การเขา้ แถว เปน็ ตน้ เกณฑ์การพจิ ารณา ถา้ ตอบวา่ ใช่ อยา่ งนอ้ ย ๒ ดา้ น ๆ ละ ๒ ขอ้ ขน้ึ ไป แสดงวา่ มแี นวโนม้ ทจ่ี ะเปน็ บคุ คลออทสิ ตกิ ควรใหก้ ารชว่ ยเหลอื ตามความตอ้ งการ จ�ำ เปน็ พเิ ศษทางการศึกษาของผู้เรยี น และสง่ ต่อให้แพทย์ตรวจวนิ จิ ฉัยตอ่ ไป ผลการพจิ ารณาสว่ นที่ ๑  พบความบกพรอ่ ง  ไมพ่ บความบกพร่อง ความคดิ เหน็ เพิม่ เติม ..................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ..................................................... ใบวฒุ บิ ตั ร เลขท.ี่ ............................. (ผคู้ ัดกรอง) (......................................................) ลงชื่อ ..................................................... ใบวุฒบิ ัตร เลขท.่ี ............................. (ผูค้ ัดกรอง) (.....................................................) คำ�ยนิ ยอมของผู้ปกครอง ข้าพเจ้า(นาย/นาง/นางสาว) ....................................................................................................................................................................... เป็นผูป้ กครองของ (ด.ช./ด.ญ./นาย/นางสาว) ............................................................................................................................................  ยินยอม  ไมย่ ินยอม ให้ด�ำ เนินการคดั กรอง (ด.ช./ด.ญ./นาย/น.ส.) ............................................................... ตามแบบคัดกรองน้ี เมือ่ พบวา่ มีแนวโนม้ เปน็ ผทู้ ี่มคี วามบกพร่องตามแบบคดั กรองข้างต้น  ยนิ ด ี  ไมย่ ินดี ให้จดั บรกิ ารช่วยเหลือทางการศกึ ษาพิเศษตอ่ ไป ลงชอื่ ........................................................... ผู้ปกครอง (..........................................................) การคัดกรองสุขภาพจติ เดก็ วัยเรยี น

53 แบบสงั เกตพฤติกรรม ส�ำ หรับเด็กทมี่ ีระดบั สตปิ ญั ญาตำ�่ กวา่ เกณฑ์ ภาวะบกพรอ่ งของทักษะการเรยี น โรคสมาธสิ ัน้ และกลมุ่ อาการออทิซมึ แบบสงั เกตพฤติกรรม ส�ำ หรบั เดก็ ทีม่ รี ะดับสตปิ ัญญาต่ำ�กวา่ เกณฑ์ ภาวะบกพร่องของทกั ษะการเรยี น โรคสมาธสิ น้ั และกลมุ่ อาการออทซิ ึม น�ำ มาใช้คัดกรองปัญหาการเรียน 4 กลุ่มหลกั ที่พบไดบ้ ่อยในโรงเรียน สามารถนำ�ไปใชเ้ ปน็ แบบ คัดกรองเบื้องต้นอยา่ งง่ายได้ ผูพ้ ฒั นา สรา้ งและพฒั นาโดย แพทยห์ ญงิ ชดาพมิ พ์ เผา่ สวสั ด์ิ และคณะ สถาบนั ราชานกุ ลู กรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ ขอ้ บ่งชี้ในการใช้ ใช้คัดกรองกลมุ่ เด็กนกั เรยี นท่ีมปี ญั หาการเรียน โดยแบ่งออกเป็น 4 กล่มุ หลกั ที่พบได้บ่อยในโรงเรยี น คอื 1. เดก็ ทมี่ รี ะดบั สตปิ ญั ญาต�ำ่ กวา่ เกณฑ์ (Subnormal Intelligence) ซงึ่ ครอบคลมุ กลมุ่ เรยี นรชู้ า้ และกลมุ่ บกพรอ่ ง ทางสติปัญญาด้วย (Slow Learner and Intellectual Disability) 2. ภาวะบกพร่องของทกั ษะการเรียน หรือแอลดี (Specific Learning Disorder) 3. โรคสมาธิส้นั (Attention-Deficit/ Hyperactivity Disorder) 4. กลุ่มอาการออทิซมึ หรือออทิสตกิ (Autism Spectrum Disorder) คุณสมบตั ิ แบบสังเกตพฤตกิ รรมฯ สำ�หรบั เดก็ อายุ 6-12 ปี ทั้งฉบบั มคี า่ Cronbach’s alpha coefficient 0.85 ส่วนท่ี 1 ภาวะระดบั สตปิ ญั ญาต�่ำ กวา่ เกณฑ์ (เรยี นรชู้ า้ ) มคี า่ Cronbach’s alpha coefficient 0.84 คา่ Inter-rater reliability 0.80 ที่จดุ ตัด 6 คะแนน มคี า่ ความไว 0.85 ค่าความจำ�เพาะ 0.76 สว่ นท่ี 2 ภาวะแอลดี มคี า่ Cronbach’s alpha coefficient 0.82 คา่ Inter-rater reliability 0.87 ทจ่ี ดุ ตัด 6 คะแนน คา่ ความไว 0.84 คา่ ความจำ�เพาะ 0.88 สว่ นที่ 3 ภาวะสมาธสิ ้นั มีคา่ Cronbach’s alpha coefficient 0.82 คา่ Inter-rater reliability 0.74 ท่จี ดุ ตัด 6 คะแนน มคี ่าความไว 0.96 คา่ ความจ�ำ เพาะ 0.71 สว่ นท่ี 4 ภาวะออทิสติก มีค่า Cronbach’s alpha coefficient 0.94 ค่า Inter-rater reliability 0.71 ท่จี ดุ ตัด 5 คะแนน มีค่าความไว 0.85 ค่าความจำ�เพาะ 0.70 แตเ่ พื่อให้จดจำ�ไดง้ ่าย คณะผ้วู ิจัยจงึ ปรบั จดุ ตดั เปน็ 6 คะแนน ซึ่งมคี า่ ความไว 0.82 ค่าความจ�ำ เพาะ 0.70 การคัดกรองสุขภาพจิตเดก็ วัยเรียน

54 ขอ้ จ�ำ กดั ข้อจำ�กัดของแบบสังเกตพฤติกรรม คือ ผ่านการทดสอบภาษาเฉพาะกลุ่มตัวอย่างในกรุงเทพมหานคร และกลุ่ม ตวั อยา่ งในการหาคา่ ความไว และความจ�ำ เพาะ มาจากโรงเรยี นทอี่ าสาสมคั รเขา้ รว่ มโครงการ ไมใ่ ชก่ ารสมุ่ เพอ่ื เปน็ ตวั แทน ของประชากรทั้งประเทศ วธิ กี ารใช้ แบบสงั เกตพฤติกรรมประกอบด้วยข้อคำ�ถาม 4 ตอน ๆ ละ 10 ข้อ รวมทัง้ หมด 40 ข้อ นำ�มาใชค้ ดั กรองเดก็ ชว่ ง อายุ 6-12 ปี แตล่ ะข้อมี 2 ตวั เลือก คอื “ใช่” และ “ไม่ใช่” ผู้ตอบแบบสังเกตพฤติกรรม คือ ครูประจำ�ชั้นที่รู้จักเด็กมากกว่า 3 เดือน โดยเด็ก 1 คน ต้องประเมินให้ครบทั้ง 40 ข้อ การแปลผล การแปรผล ตัดเกณฑท์ ี่มากกวา่ หรอื เท่ากบั 6 คะแนน ในแต่ละกลุ่มปญั หา ถือวา่ มคี วามเสยี่ งต่อปัญหานน้ั ควรมี การคัดกรองเฉพาะส�ำ หรบั ปัญหานั้นเพิม่ เติมตอ่ ไป ถ้าตอบวา่ ใชต่ ง้ั แต่ 6 ข้อขึ้นไป หรอื ไดค้ ะแนนตั้งแต่ 6 คะแนนขนึ้ ไป ในขอ้ ท่ี 1-10 แสดงถึง แนวโน้มการมปี ญั หา การเรียนจากปัญหาระดับสติปัญญาต่ํากว่าเกณฑ์ ให้คัดกรองด้วยแบบคัดกรองบุคคลท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ของ สพฐ. ตอ่ ไป ถ้าตอบวา่ ใช่ต้ังแต่ 6 ขอ้ ขึ้นไป หรอื ไดค้ ะแนนตงั้ แต่ 6 คะแนนขึน้ ไป ในขอ้ ที่ 11-20 แสดงถงึ แนวโน้มการมีภาวะ แอลดี ให้คัดกรองดว้ ยแบบคัดกรอง KUS-SI Rating Scales (เฉพาะส่วนของ LD) หรอื แบบคดั กรองบุคคลทีม่ ีความ บกพรอ่ งทางการเรียนรู้ ของ สพฐ. ตอ่ ไป ถ้าตอบวา่ ใชต่ ง้ั แต่ 6 ขอ้ ข้นึ ไป หรือได้คะแนนตั้งแต่ 6 คะแนนขน้ึ ไป ในข้อที่ 21-30 แสดงถงึ แนวโนม้ การมีภาวะ สมาธิสน้ั ใหค้ ัดกรองดว้ ยแบบประเมินพฤติกรรม SNAP-IV หรือแบบคดั กรอง KUS-SI Rating Scales (เฉพาะสว่ นของ ADHD) ต่อไป ถา้ ตอบว่าใช่ต้ังแต่ 6 ข้อขึ้นไป หรือได้คะแนนตงั้ แต่ 6 คะแนนขึน้ ไป ในขอ้ ท่ี 31-40 แสดงถงึ แนวโน้มการมภี าวะ ออทสิ ตกิ ใหค้ ัดกรองดว้ ยแบบส�ำ รวจพัฒนาการเดก็ PDDSQ หรอื แบบคดั กรอง KUS-SI Rating Scales (เฉพาะสว่ น ของ Autism) ต่อไป การคัดกรองสขุ ภาพจิตเด็กวัยเรยี น

55 ตัวอย่าง แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ส�ำ หรับเดก็ ทมี่ รี ะดบั สติปญั ญาต่�ำ กวา่ เกณฑ์ ภาวะบกพรอ่ งของทักษะการเรียน โรคสมาธสิ ั้น และกลุ่มอาการออทซิ ึม ชือ่ -นามสกลุ (ด.ช./ด.ญ./นาย/นางสาว)...................................................................................................................................................... วัน เดือน ปี เกดิ ...................... อายุ ..... ปี ..... เดอื น ระดบั ชั้น.......... วนั เดอื น ปี ที่ประเมิน .................. ประเมนิ ครง้ั ที่ ...................... คำ�ชี้แจง 1. สงั เกตลกั ษณะพฤตกิ รรมหรือปญั หาการเรียนทเ่ี ด็กแสดงออกบอ่ ย ๆ และท�ำ เครอ่ื งหมายลงในชอ่ ง “ใช่” หรอื “ไมใ่ ช่” ท่ตี รงกับพฤตกิ รรมหรอื ปญั หาของเด็ก 2. ผทู้ ที่ ำ�การตอบแบบสงั เกตที่น้คี อื คุณครปู ระจำ�ชั้น ที่อย่ใู กลช้ ิดเดก็ ในระยะเวลาไม่น้อยกวา่ 2 เดอื น 3. ตอบแบบสงั เกตใหค้ รบ 40 ขอ้ เน่อื งจากในเดก็ 1 คน อาจมีหลายภาวะเกดิ ร่วมกนั ได้ ภาวะเรยี นร้ชู ้า (1 คใะชแ่ นน) (0 คไมะใ่แชน่ น) ขอ้ ท่ี ลกั ษณะ / พฤตกิ รรม 1 เรยี นรูบ้ ทเรยี นไดช้ ้ากวา่ เด็กคนอ่ืนในห้อง 2 ลมื งา่ ย จ�ำ ในส่งิ ท่ีเพ่ิงเรยี นไปไม่ได้ ตอ้ งเรียนซาํ้ ๆ 3 กลา้ มเนื้อมือไมแ่ ขง็ แรง ท�ำ งานท่ีใชม้ อื ดูงมุ่ ง่าม 4 สรุปใจความสำ�คญั ของเน้อื หาท่เี รียนไมไ่ ด้ 5 ไหวพรบิ ในการแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหน้าไม่สมวยั 6 ตอบสนองตอ่ สิง่ ตา่ ง ๆ ช้า 7 ชอบเลน่ กบั เดก็ ทม่ี ีอายุน้อยกว่า 8 ช่วยเหลอื ตัวเองในกิจวัตรประจ�ำ วันได้น้อย 9 การใชภ้ าษาไม่สมวยั 10 เลน่ ไม่ค่อยทนั เพ่อื น รวมคะแนน (ขอ้ 1-10) : ภาวะเรยี นร้ชู า้ การคัดกรองสุขภาพจิตเดก็ วัยเรยี น

56 ใช่ ไมใ่ ช่ (1 คะแนน) (0 คะแนน) ภาวะแอลดี ขอ้ ที่ ใช่ ไมใ่ ช่ (1 คะแนน) (0 คะแนน) ลักษณะ / พฤติกรรม 11 ดฉู ลาดหรอื ปกติในด้านอ่นื ๆ ยกเว้นเรอื่ งเรยี น 12 อา่ นผดิ บ่อย ๆ อา่ นไม่คล่อง หรืออา่ นไมไ่ ด้ 13 อา่ นข้ามค�ำ อา่ นเพิ่มคำ� 14 อา่ นแล้วจับใจความส�ำ คัญไม่ได ้ 15 เขียนพยญั ชนะหรอื ตวั เลขท่ีคลา้ ยกันสลับกนั เช่น ม-น ด-ค 16 เขียนผิด เขียนไม่คล่อง บอ่ ย ๆ 17 สะกดคำ�ตามการผสมเสยี งไม่ได้ เขยี นค�ำ ตา่ ง ๆ จากการจ�ำ 18 ไม่เข้าใจค่าของจ�ำ นวน เช่น หน่วย สิบ ร้อย พนั หมื่น 19 คำ�นวณ บวก ลบ คูณ หาร ไมไ่ ด ้ 20 ไม่เข้าใจหลักการพืน้ ฐานทางคณติ ศาสตร์ เชน่ การเขา้ ใจความหมายของสัญลกั ษณ์ เวลา ทิศทาง ขนาด ระยะทาง การจัดล�ำ ดับ การเปรียบเทยี บ รวมคะแนน (ขอ้ 11-20) : ภาวะแอลดี ภาวะสมาธสิ นั้ ขอ้ ที่ ลกั ษณะ / พฤตกิ รรม 21 ซนมาก อย่ไู ม่น่ิง ยกุ ยกิ ตลอดเวลา 22 พูดมาก 23 ชอบลุกจากท่นี งั่ เวลาอยูใ่ นหอ้ งเรยี น 24 เหมอ่ บอ่ ย ๆ ใจลอย ต้องคอยเรยี ก 25 ขี้ลืม ของใช้ส่วนตวั หายบ่อย ๆ 26 ทำ�งานไมเ่ รียบร้อย ไมร่ อบคอบ 27 ไม่มสี มาธใิ นการทำ�งาน หรอื ทำ�ได้เพียงช่วงสั้น ๆ 28 ทำ�งานช้า ทำ�งานไม่เสรจ็ แต่ถา้ มคี นประกบจะท�ำ ได้เรว็ ขน้ึ 29 รอคอยไม่ได้ 30 ใจร้อน ควบคมุ อารมณไ์ ม่ค่อยได้ รวมคะแนน (ขอ้ 21-30) : ภาวะสมาธสิ น้ั การคัดกรองสุขภาพจติ เด็กวัยเรียน

57 ใช่ ไม่ใช่ (1 คะแนน) (0 คะแนน) ภาวะออทสิ ตกิ ข้อท่ี ลกั ษณะ / พฤตกิ รรม 31 ชอบแยกตัวอยู่คนเดยี ว 32 สบตาเพยี งช่วงส้นั ๆ หรอื ไม่สบตา เวลาพูดกับผอู้ ่ืน 33 เม่ือเลน่ กบั เดก็ อนื่ ๆ ไม่เข้าใจกตกิ า ไมเ่ ข้าใจวิธกี ารเล่น 34 ไม่มเี พอื่ นสนิท หรือมีเพื่อนนอ้ ย 35 ไม่สามารถเรม่ิ สนทนากับเพื่อน หรอื ไมส่ ามารถตอ่ บทสนทนากับผ้อู ่ืนได ้ 36 มรี ะดบั การใช้ภาษาพูดทตี่ ่าํ กวา่ วยั 37 มักพดู แต่สง่ิ ทีต่ นเองสนใจ ไมส่ นใจเม่อื เพือ่ นพดู เร่อื งอื่น ๆ 38 ไมเ่ ขา้ ใจมุขตลก คำ�พังเพย ค�ำ ประชด 39 ไมช่ อบการเปลี่ยนแปลง ชอบทำ�กิจวตั รเดิม ๆ ซํา้ ๆ 40 มีพฤตกิ รรมกระตุ้นตนเอง สะบดั มือ เล่นมือ รวมคะแนน (ข้อ 31-40) : ภาวะออทสิ ตกิ การคดั กรองสุขภาพจิตเด็กวยั เรยี น

58 แบบประเมินพฤติกรรม SNAP-IV (Short Form) แบบประเมินพฤติกรรม SNAP-IV (Swanson, Nolan and Pelham IV Questionnaire) Teacher and Parent Rating Scale น�ำ มาใชเ้ พ่ือประเมนิ และคดั กรองโรคสมาธสิ ัน้ ได้ ผู้พฒั นา พัฒนาขนึ้ ในปี ค.ศ.1992 โดย James M. Swanson มหาวทิ ยาลยั แคลิฟอรเ์ นยี รว่ มกบั Nolan และ Pelham ซงึ่ เป็นที่มาของชอื่ SNAP จากฉบบั ดง้ั เดมิ มี 90 ขอ้ ได้มีการตดั ทอนใหส้ ั้นลงเหลือ 26 ข้อ เป็นฉบบั ยอ่ (Short Form) ฉบบั ภาษาไทย แปลโดย นายแพทย์ณทั ธร พิทยรตั นเ์ สถียร ภาควชิ าจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และคณะ ข้อบง่ ช้ีในการใช้ 1. ใชค้ ัดกรองโรคสมาธิสัน้ ในคลนิ กิ จิตเวชเดก็ และวยั รนุ่ 2. ใช้เพ่อื ประเมนิ อาการและความรนุ แรงของโรคสมาธิสั้น 3. ใช้ประเมนิ ประสทิ ธภิ าพของการรักษา โดยวัดความเปล่ยี นแปลงของอาการสมาธิส้นั ด้วยการวัดซ้�ำ คุณสมบตั ิ เครื่องมือชุดน้ีมีความเที่ยงตรง เหมาะสมสำ�หรับการนำ�มาใช้คัดกรองโรคสมาธิสั้นในคลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น เพื่อนำ�ไปสูก่ ารวินจิ ฉยั ทถ่ี ูกตอ้ ง และการรกั ษาท่มี ีประสทิ ธิภาพต่อไป Adam และคณะ ศึกษาความเทยี่ งตรงของแบบประเมิน SNAP ในปี ค.ศ.2004 พบว่ามีความไวและความจำ�เพาะ มากกว่ารอ้ ยละ 94 และมีค่าความสอดคลอ้ งภายในชดุ เดียวกันดถี ึงดีเย่ียม ฉบบั ภาษาไทย แปลโดยมกี ารปรบั แกค้ �ำ ใหเ้ หมาะสมกบั บรบิ ทของสงั คมไทย มคี า่ ความเชอ่ื มน่ั (internal consistency) เท่ากับ 0.927 สำ�หรับแบบประเมินพฤติกรรม SNAP-IV ซ่ึงผู้ปกครองเป็นผู้ตอบ มีความเหมาะสมที่จะนำ�มาใช้ในการคัดกรอง โรคสมาธิสั้นได้ดี ในกรณีที่ต้องการให้มีค่าความไวเพิ่มข้ึนเป็นประมาณร้อยละ 80 เพ่ือให้สามารถคัดกรองโรคสมาธิ ส้ันได้มากข้ึน ก็สามารถทำ�ได้โดยปรับจุดตัดให้ตำ่�ลงเป็น ไม่มีสมาธิ 14, ซน อยู่ไม่น่ิง หุนหันพลันแล่น 12 และดื้อ ต่อต้าน 11 แต่จะทำ�ใหม้ ีผลบวกเทียม (false positives) เพ่ิมมากขน้ึ ขอ้ จ�ำ กัด ใหพ้ งึ ระมดั ระวงั การแปลผลแบบประเมนิ พฤตกิ รรม SNAP-IV ฉบบั ทคี่ รเู ปน็ ผตู้ อบ เนอื่ งจากมคี า่ ความไวและความ จำ�เพาะนอ้ ย เพียงรอ้ ยละ 50-60 ซึง่ ถอื วา่ ยังไมด่ พี อสำ�หรบั การนำ�มาใชค้ ัดกรองสมาธสิ ้นั ส่วนแบบประเมินพฤติกรรม SNAP-IV ฉบับที่ผู้ปกครองเป็นผู้ตอบ นำ�มาใช้คัดกรองและประเมินความรุนแรงของ โรคสมาธิสนั้ ได้ การคดั กรองสุขภาพจิตเด็กวัยเรียน

59 วธิ ีการใช้ แบบประเมนิ ประกอบดว้ ยขอ้ ค�ำ ถามรวมท้งั หมด 26 ข้อ ประเมินโดยผู้ปกครองหรอื ครู โดยแยกเปน็ องค์ประกอบ 3 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย • อาการไมม่ ีสมาธิ (inattention) ข้อ 1-9 • อาการซน อยูไ่ ม่นง่ิ หนุ หันพลนั แล่น (hyperactivity/ impulsivity) ข้อ 10-18 • อาการด้ือ ต่อตา้ น (oppositional defiant) ขอ้ 19-26 แต่ละมีข้อ 4 ตัวเลือก คือ “ไม่เลย” “เล็กน้อย” “ค่อนข้างมาก” และ “มาก” ให้เลือกตอบเพียงตัวเลือกเดียว ในแตล่ ะขอ้ ค�ำ ถาม โดยตอบใหค้ รบทกุ ข้อ ใหต้ รงกับลกั ษณะของเด็กทป่ี ระเมิน การแปลผล การแปลผล แตล่ ะข้อคดิ คะแนนเป็น 4 ระดบั ดังน้ี 0 = ไมเ่ ลย 1 = เล็กน้อย 2 = ค่อนขา้ งมาก 3 = มาก แลว้ รวมคะแนนของแตล่ ะดา้ นเปรยี บเทยี บกบั คะแนนมาตรฐานของครู หรอื ผปู้ กครอง หากคะแนนเฉลย่ี ทไ่ี ดส้ งู กวา่ คะแนนมาตรฐาน ให้สงสัยวา่ เดก็ มีปัญหาในดา้ นนั้น ๆ องคป์ ระกอบ คะแนนมาตรฐาน ไมม่ สี มาธิ องคป์ ระกอบ คะแนนมาตรฐาน ซน อยไู่ มน่ ิ่ง หนุ หันพลันแล่น ดอื้ ตอ่ ต้าน 23 16 16 13 11 15 การคัดกรองสุขภาพจิตเด็กวัยเรยี น

60 ตัวอย่าง แบบประเมนิ พฤติกรรม SNAP-IV (Short Form) ช่ือ-นามสกลุ (ด.ช./ด.ญ./นาย/นางสาว)...................................................................................................................................................... วัน เดือน ปี เกิด...................... อายุ ..... ปี ..... เดอื น ระดับชั้น.......... วัน เดอื น ปี ทปี่ ระเมิน .................. ประเมินคร้ังท่ี ...................... กรณุ าท�ำ เคร่ืองหมาย √ ว่าอาการในแต่ละข้อนัน้ ตรงกบั ลักษณะของเด็กท่ที า่ นประเมนิ เพียงใด อาการขาดสมาธิ ไม่เลย เลก็ นอ้ ย ค่อนข้างมาก มาก 1. มักไมล่ ะเอียดรอบคอบหรือสะเพร่าในการท�ำ งานต่าง ๆ เชน่ การบา้ น 2. ทำ�อะไรนาน ๆ ไมไ่ ด้ 3. ดเู หมือนไม่ค่อยฟงั เวลามคี นพดู ด้วย 4. มกั ท�ำ การบา้ นไมเ่ สร็จ หรือท�ำ งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายไมส่ ำ�เรจ็ 5. จดั ระเบียบงานและกจิ กรรมตา่ ง ๆ ไมเ่ ป็น 6. มกั หลกี เลย่ี งกิจกรรมที่ต้องใช้ความอดทนในการทำ�ให้สำ�เร็จ 7. ทำ�ของหายบอ่ ย ๆ (เชน่ ของเล่น สมุดจดงาน เคร่อื งเขียน ) 8. วอกแวกง่าย 9. ขลี้ มื อาการอยู่ไม่นิง่ /หนุ หันพลนั แลน่ 10. มือเทา้ ยุกยกิ นัง่ บดิ ไปมา 11. นงั่ ไมต่ ิดที่ ชอบลกุ จากท่ีนงั่ ในช้ันเรยี น หรอื จากทีท่ ่คี วรจะนง่ั เรียบรอ้ ย 12. วงิ่ หรือปนี ป่ายมากเกนิ ควรอย่างไมร่ ู้กาลเทศะ 13. เล่นหรือท�ำ กจิ กรรมเงียบ ๆ ไม่เปน็ 14. พรอ้ มจะเคลอื่ นไหวอยเู่ สมอเหมอื นติดเครอ่ื งอยตู่ ลอดเวลา 15. พูดมาก 16. มักโพลง่ ค�ำ ตอบออกมาก่อนจะฟงั ค�ำ ถามจบ 17. ไม่ชอบรอคิว 18. ชอบสอดแทรกผู้อ่นื เชน่ ชอบพดู แทรกขณะผ้ใู หญก่ ำ�ลังสนทนากัน อาการด้อื ตอ่ ต้าน 19. อารมณเ์ สียง่าย 20. ชอบโตเ้ ถียงกบั ผูใ้ หญ่ 21. ไมย่ อมท�ำ ตามสิ่งท่ีผู้ใหญ่ส่ังหรอื วางกฎเกณฑ์ไว้ 22. จงใจก่อกวนผอู้ ื่น 23. มกั ต�ำ หนิผู้อื่นในสง่ิ ท่ีตนเองทำ�ผดิ 24. ขีร้ ำ�คาญ 25. โกรธบึ้งตึงเปน็ ประจำ� 26. เจ้าคดิ เจ้าแคน้ © นายแพทย์ณัทธร พทิ ยรตั น์เสถียร, จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย การคัดกรองสขุ ภาพจิตเดก็ วยั เรยี น

61 แบบส�ำ รวจพัฒนาการเดก็ PDDSQ แบบส�ำ รวจพฒั นาการเดก็ PDDSQ (Pervasive Developmental Disorders Screening Questionnaire) น�ำ มาใช้ เพอื่ คดั กรองเบอ้ื งตน้ ในการคน้ หาเดก็ ทเ่ี ปน็ ออทสิ ตกิ พบวา่ สามารถน�ำ มาใชแ้ ยกเดก็ ออทสิ ตกิ ออกจากเดก็ ทมี่ ปี ญั หาอน่ื ๆ และเดก็ ปกติไดเ้ ป็นอย่างดี ผู้พฒั นา สร้างและพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ.2544 โดย นายแพทย์ชาญวิทย์ พรนภดล คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลยั มหิดล รว่ มกับ นางสาวอ�ำ ไพ ทองเงิน และคณะ โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ กรมสุขภาพจติ แบบคดั กรองน้พี ฒั นาจากแบบคัดกรองออทิสติกชนิดต่าง ๆ ไดแ้ ก่ CHAT (Checklist for Autism in Toddlers), CARS (Childhood Autism Rating Scale), ASQ (Autism Screening Questionnaire), ASSQ (Autism Spectrum Screening Questionnaire), PDDST (Pervasive Developmental Disorders Screening Test) และ SRS (Social Responsiveness Scale) ขอ้ บ่งชี้ในการใช้ ใช้เพ่อื คดั กรองเบ้ืองตน้ ในการค้นหาเด็กที่เป็น “ออทสิ ตกิ ” (Autism Spectrum Disorder: ASD) หรอื ในชอ่ื ตาม เกณฑก์ ารวินิจฉัยเดิม ท่เี รียกว่า “Pervasive Developmental Disorders: PDDs” คุณสมบตั ิ แบบคดั กรองฉบบั ส�ำ หรบั เดก็ อายุ 4-18 ปี ฉบบั ยอ่ 25 ขอ้ ทจี่ ดุ ตดั 13 คะแนน พบวา่ มคี วามไว (sensitivity) เทา่ กบั ร้อยละ 77 ความจำ�เพาะ (specificity) เทา่ กบั ร้อยละ 94 ค่าการท�ำ นายเมอ่ื ผลเป็นบวก (positive predictive value) เทา่ กับร้อยละ 96 และคา่ การทำ�นายเมื่อผลเปน็ ลบ (negative predictive value) เท่ากับรอ้ ยละ 69 ข้อจำ�กดั ข้อจำ�กัดของแบบคัดกรอง คือ กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้วิจัยเป็นผู้ท่ีอยู่ในเขตเมืองหลวง และปริมณฑล ผลการวิจัยอาจ ประยุกต์ใช้ได้เฉพาะกับประชากรเขตเมืองเท่านั้น และอาจใช้ได้ดีเฉพาะการคัดกรองเด็กปกติออกจากเด็กที่เป็นออทิ สตกิ เทา่ น้ัน ซึง่ อาจใชไ้ ด้ไมด่ ีนกั ใน PDDs อ่ืน ๆ เช่น แอสเพอรเ์ กอร์ (Asperger Disorder) และพีดีดี เอน็ โอเอส (PDD NOS) ตามเกณฑก์ ารวินิจฉัยเดมิ เนือ่ งจากกล่มุ ตวั อยา่ งส่วนใหญว่ นิ จิ ฉัยออทิสตกิ วธิ ีการใช้ แบบคัดกรองประกอบด้วยแบบประเมินสำ�หรับพ่อแม่ผูป้ กครอง โดยมี 2 ฉบับ แบ่งตามช่วงอายุ คือ 1) ฉบับสำ�หรับเด็กอายุ 1-4 ปี (12-47 เดือน) 2) ฉบบั ส�ำ หรบั เด็กอายุ 4-18 ปี การคัดกรองสุขภาพจติ เด็กวัยเรียน

62 ข้อค�ำ ถามจะชว้ี ัดความผดิ ปกตใิ น 3 ดา้ น คอื พัฒนาการทางสงั คมผิดปกติ พฒั นาการทางภาษาผดิ ปกติ และพฤติ กรรมซ้ําซาก สนใจจ�ำ กดั และปรบั ตัวยาก ซ่งึ เป็นสง่ิ สำ�คญั ในการวนิ จิ ฉัย ตามเกณฑ์การวินจิ ฉัยเดิม (DSM-IV) การนำ�มาใช้คัดกรองในชว่ งเด็กวยั เรียนจะใช้ฉบับส�ำ หรบั เด็กอายุ 4-18 ปี ซึง่ แบบประเมนิ ฉบับย่อ ประกอบดว้ ยข้อ คำ�ถาม 25 ข้อ (ฉบับเตม็ มี 40 ข้อ) ใช้ประเมนิ ลักษณะหรอื พฤติกรรมทเี่ ดก็ แสดงออกบอ่ ย ๆ ท�ำ เครอื่ งหมายลงในช่อง “ใช/่ ทำ�บอ่ ย ๆ” หรอื “ไมใ่ ช่/ไมค่ ่อยทำ�” โดยผตู้ อบเลอื กคำ�ตอบท่ใี กลเ้ คียงพฤติกรรมของเดก็ มากทีส่ ดุ การแปลผล แบบคัดกรองฉบับสำ�หรับเด็กอายุ 4-18 ปี (ฉบับย่อ) การให้คะแนน เปน็ ดงั นี้ ข้อ 1-17 • ให้ 1 คะแนน สำ�หรบั คำ�ตอบว่า ใช่/ท�ำ บ่อย ๆ • ให้ 0 คะแนน ส�ำ หรบั คำ�ตอบวา่ ไม่ใช/่ ไมค่ ่อยทำ� ขอ้ 18-25 ต้องกลบั ค่าคะแนน คอื • ให้ 0 คะแนน ส�ำ หรบั ค�ำ ตอบวา่ ใช/่ ทำ�บอ่ ย ๆ • ให้ 1 คะแนน สำ�หรบั คำ�ตอบวา่ ไมใ่ ช/่ ไมค่ อ่ ยทำ� คะแนนเต็มทั้งฉบับ 25 คะแนน หากได้คะแนนรวมต้ังแต่ 13 คะแนนขึ้นไป ถือว่ามีความเสี่ยงท่ีจะเป็นออทิสติก ส่ิงสำ�คัญที่ต้องเน้นย้ํา คือ แบบสำ�รวจพัฒนาการเด็ก PDDSQ ใช้ค้นหาเด็กท่ีสงสัยว่าจะเป็นออทิสติก แต่ไม่ใช่เคร่ือง มือท่ีจะนำ�มาใช้วนิ จิ ฉยั เมือ่ พบว่ามคี วามเสี่ยง ให้ส่งตอ่ แพทยเ์ พื่อประเมนิ เพิม่ เตมิ วนิ จิ ฉัย และใหก้ ารชว่ ยเหลอื ตอ่ ไป การคดั กรองสขุ ภาพจติ เดก็ วยั เรียน

63 ตัวอย่าง แบบสำ�รวจพฒั นาการเด็ก (PDDSQ) ช่วงอายุ 4-18 ปี (ฉบบั ยอ่ ) ช่อื เดก็ .............................................................................................................................. อาย.ุ ............ปี...........เดอื น เพศ................ ทีอ่ ยู่ ............................................................................................................................................. โทรศพั ท.์ ............................................. ผู้ตอบ  มารดา  บิดา  ญาต/ิ ผดู้ ูแลเดก็ โปรดทำ�เครอ่ื งหมาย √ ในชอ่ ง  หลังข้อความแตล่ ะข้อ โดยเลอื กค�ำ ตอบทีใ่ กลเ้ คียงกับพฤติกรรมของลกู ทา่ นมากทส่ี ุด 1. ชอบเก็บตวั หรืออยู่คนเดยี วตามล�ำ พัง ใช่/ทำ�บอ่ ย ๆ ไม่ใช่/ไม่ 2. เดินผา่ ตรงกลางท่คี นสองคนก�ำ ลังคยุ อย ู่   3. เขา้ กบั เพอื่ นไดย้ าก แม้วา่ เขาจะพยายามอยา่ งเต็มที่   4. ชอบจำ�แตส่ ่ิงไร้สาระ หรือส่ิงท่ไี ม่มปี ระโยชน์   5. ใช้ภาษาทีไ่ ม่คอ่ ยเหมาะสมกับกาลเทศะ หรือผฟู้ งั   6. มกั ถกู เดก็ คนอื่นมองว่าเป็น ตวั ตลก หรอื ตัวประหลาด   7. เลน่ กับเด็กคนอื่นได้ แตต่ อ้ งเล่นเฉพาะสง่ิ ท่ีตัวเขาอยากเลน่ เท่านน้ั   8. ต่อตา้ น ปรบั ตัวไมไ่ ด้เวลาทต่ี อ้ งมีการเปล่ียนแปลงของสงิ่ ที่ทำ�อย่เู ป็นประจ�ำ   9. งุม่ งา่ ม เงอะงะ ซุ่มซา่ มมากกว่าเดก็ คนอ่ืนในวยั เดียวกนั   10. ชอบคดิ อะไรซํา้ ซาก วนเวยี นหรือท�ำ อะไรซาํ้ ๆ หลาย ๆ ครัง้   11. ไมย่ อมให้มีการเปล่ียนแปลงของสงิ่ ทคี่ นุ้ เคย   12. คณุ เคยรูส้ ึกวา่ ลกู พดู ชา้ หรอื เคยกงั วลว่าทำ�ไมลกู ยงั ไม่พูดเสยี ที   13. ไมค่ อ่ ยรับรู้วา่ คนอ่นื กำ�ลังคิด หรอื ร้สู ึกอยา่ งไร   14. มีความสุขเวลาทไ่ี ด้อยคู่ นเดียว มากกว่าเวลาอยู่เปน็ กล่มุ กบั คนอ่ืน   15. ตรงไปตรงมา ไม่รจู้ ักยดื หยนุ่   16. สนใจในสิ่งต่าง ๆ เพยี งไมก่ ี่อย่าง   17. ไมค่ อ่ ยฟังเพือ่ น ถ้าเพอ่ื นไม่พดู ในส่งิ ที่เขาสนใจ   18. มีอารมณ์ขนั สามารถเข้าใจเร่อื งตลกได้   19. รู้จักปลอบเดก็ คนอน่ื เวลาเดก็ คนอนื่ ไม่สบายใจ หรือได้รับบาดเจบ็   20. รจู้ ักสงสารหรือเห็นอกเหน็ ใจคนอื่น   21. ชอบเลน่ เปน็ กลุ่มกบั เพือ่ น   22. มองหน้า สบตาทกุ ครัง้ เวลาพดู คยุ   23. สามารถสงั เกต เข้าใจสหี นา้ และอารมณ์ของคนรอบขา้ ง   24. มีเพ่ือนสนิทหรือเพื่อนท่ีเล่นด้วยกันบ่อย ๆ   25. สามารถบอกอารมณห์ รือความร้สู กึ ของตนเองให้คนอืน่ รู้ได้     การคัดกรองสขุ ภาพจิตเด็กวัยเรียน

64 แบบสอบวดั ภาวะซึมเศรา้ ในเด็ก CDI แบบสอบวดั ภาวะซมึ เศรา้ ในเดก็ CDI (Childhood Depressive Inventory) ฉบบั ภาษาไทย น�ำ มาใชป้ ระโยชนเ์ พอื่ การคดั กรองและประเมนิ ภาวะซึมเศรา้ ในเดก็ ผู้พฒั นา ฉบับภาษาอังกฤษดัดแปลงจาก Beck Depression Inventory สร้างและพัฒนาโดย Maria Kovacs แปลและ พัฒนาเปน็ ฉบบั ภาษาไทยโดย ศาสตราจารยแ์ พทยห์ ญงิ อุมาพร ตรงั คสมบัติ ภาควชิ าจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ขอ้ บ่งชี้ในการใช้ 1. ใชเ้ พอื่ การคดั กรองภาวะซึมเศรา้ ในเดก็ 2. ใชเ้ พ่ือประกอบการวนิ ิจฉยั โรคซึมเศรา้ ในเด็ก 3. ใช้เป็นเคร่ืองมอื สำ�หรบั ติดตามผลการบำ�บดั รักษา คุณสมบตั ิ จากการวจิ ยั พบวา่ แบบสอบวดั ภาวะซมึ เศรา้ ในเดก็ CDI ฉบบั ภาษาไทย มคี า่ อ�ำ นาจจ�ำ แนกระหวา่ งเดก็ ปกตกิ บั เดก็ ทม่ี ีภาวะซมึ เศรา้ อยา่ งมนี ยั สำ�คญั ทางสถติ ทิ ่ี P<106 การศกึ ษาในเดก็ ไทยพบวา่ มี reliability coefficient (Alpha) เทา่ กบั 0.83 และมคี วามตรงในการจ�ำ แนก (discriminant validity) สงู คะแนนทเี่ ปน็ จดุ ตดั แยกภาวะซมึ เศรา้ ทม่ี คี วามส�ำ คญั ทางคลนิ กิ คอื 15 คะแนนขน้ึ ไป ทค่ี ะแนนนี้ มคี า่ ความไว (sensitivity) เท่ากับรอ้ ยละ 78.7 ค่าความจ�ำ เพาะ (specificity) เทา่ กับร้อยละ 91.3 และค่าความถูกต้อง (accuracy) เท่ากบั ร้อยละ 87 อย่างไรกต็ าม ส�ำ หรับการคดั กรองทางระบาดวิทยาสามารถใช้จดุ ตัดท่ี 19 หรือ 21 คะแนนได้ การประเมินภาวะซึมเศร้าน้ัน โดยท่ัวไปกระทำ�โดยการสังเกตอาการแสดงของผู้ป่วย และสอบถามข้อมูลเก่ียวกับ อาการ หรือความรสู้ กึ ของผู้ป่วย การสังเกตอาการแสดงอาจจะมีปญั หาดังท่กี ลา่ วมาแล้ว สว่ นการสอบถามข้อมลู จาก ผปู้ ว่ ยเอง กอ็ าจจะไดข้ อ้ มูลท่ีไมค่ รบถว้ น โดยเฉพาะข้อมลู ท่เี ก่ยี วกับความรสู้ กึ ละเอยี ดออ่ นของผปู้ ่วย เช่น ความรสู้ กึ เกี่ยวกบั ตนเอง เปน็ ตน้ ผ้ปู ่วยบางรายอาจขาดทกั ษะในการสื่อสาร ไม่สามารถแสดงความรู้สกึ นกึ คดิ เปน็ ค�ำ พูดได้ดพี อ นอกจากนใ้ี นกรณที ผ่ี ปู้ ว่ ยเปน็ เดก็ กอ็ าจเกดิ ปญั หาในการใหข้ อ้ มลู แกแ่ พทย์ เนอื่ งจากเดก็ อาจไมก่ ลา้ แสดงความคดิ เหน็ โดยเฉพาะกับผใู้ หญ่ ดว้ ยเหตุน้ีการใชเ้ ครือ่ งมือประเภทท่ใี หผ้ ูป้ ว่ ยประเมนิ อาการของตนเอง (self-report) จงึ เปน็ สิง่ ที่ มปี ระโยชน์อย่างยิง่ ข้อจำ�กัด ข้อจำ�กัดของเคร่อื งมือนี้ คอื กลุ่มเป้าหมายต้องอา่ นหนงั สือออก และเลา่ เร่ืองราวเก่ยี วกบั ตนเองได้ สำ�หรบั กลุม่ เปา้ หมายทเ่ี ป็นวยั รุ่น อาจมขี ้อคำ�ถามบางข้อทีไ่ มเ่ หมาะสมกบั อายุ ควรพจิ ารณาใช้แบบคดั กรอง CES-D แทน การคดั กรองสุขภาพจติ เดก็ วัยเรียน

65 วธิ ีการใช้ แบบสอบวดั นป้ี ระกอบดว้ ยค�ำ ถาม 27 ขอ้ เกย่ี วกบั อาการซมึ เศรา้ ในดา้ นตา่ ง ๆ ทพี่ บในเดก็ แตล่ ะค�ำ ถามจะประกอบ ดว้ ยตัวเลอื ก 3 ข้อ ซงึ่ บ่งบอกถึงความรุนแรงของภาวะซมึ เศร้าในช่วง 2 สปั ดาห์ ท่ีผา่ นมา ให้เด็กอา่ นและทำ�แบบสอบ วดั ดว้ ยตนเอง การแปลผล แต่ละตัวเลอื กจะมคี ะแนนความรุนแรงของอาการ ดังนี้ คะแนน 0 หมายถงึ ไมม่ อี าการเศร้าเลย หรือมีน้อย คะแนน 1 หมายถึง มีอาการบอ่ ย คะแนน 2 หมายถึง มีอาการตลอดเวลา การใหค้ ะแนนและการแปลผล แบ่งเปน็ 2 กลมุ่ ดังนี้ กล่มุ ที่ 1 ไดแ้ ก่ขอ้ 1, 3, 4, 6, 9, 12, 14, 17, 19, 20, 22, 23, 26, 27 แตล่ ะข้อใหค้ ะแนน ดงั นี้ (ก) ให้ 0 คะแนน (ข) ให ้ 1 คะแนน (ค) ให้ 2 คะแนน กลมุ่ ท่ี 2 ได้แกข่ ้อ 2, 5, 7, 8, 11, 13, 15, 16, 18, 21, 24, 25 แต่ละข้อใหค้ ะแนน ดงั นี้ (ก) ให ้ 2 คะแนน (ข) ให ้ 1 คะแนน (ค) ให ้ 0 คะแนน คะแนนรวม มีไดต้ งั้ แต่ 0 ถงึ 54 ผู้ทไ่ี ดค้ ะแนนรวมสงู กวา่ 15 คะแนนขน้ึ ไป จากการคดั กรองถอื ว่ามีภาวะซึมเศรา้ ท่มี นี ัยส�ำ คญั ทางคลนิ กิ การคดั กรองสขุ ภาพจิตเด็กวัยเรียน

66 ตัวอย่าง แบบสอบวัดภาวะซึมเศรา้ ในเดก็ CDI (Childhood Depressive Inventory) ชื่อ/นามสกุล............................................................................................. เพศ......... อายุ ........ ป ี วันท่ปี ระเมนิ ................................. เลอื กประโยคที่ตรงกบั ความรสู้ กึ หรือความคดิ ของทา่ นมากทีส่ ดุ ในระยะ 2 สัปดาหท์ ีผ่ ่านมา โดยกาเคร่อื งหมาย X ลงในช่อง ( ) 1) (ก) ฉันรสู้ กึ เศร้านาน ๆ ครัง้ (ข) ฉันรสู้ กึ เศรา้ บ่อยคร้ัง (ค) ฉนั รูส้ กึ เศร้าตลอดเวลา (ข) ฉันไมแ่ น่ใจว่าสง่ิ ตา่ ง ๆ จะเปน็ ไปด้วยดี 2) (ก) อะไร ๆ กม็ อี ปุ สรรคไปเสียหมด (ข) ฉนั ทำ�ผดิ พลาดหลายอย่าง (ค) ส่ิงตา่ ง ๆ จะเปน็ ไปด้วยดีส�ำ หรับฉนั (ข) ฉนั รสู้ กึ สนกุ เฉพาะกับบางสง่ิ บางอยา่ ง 3) (ก) ฉันท�ำ อะไร ๆ ได้ค่อนข้างดี (ข) ฉันทำ�ตวั ไม่ดบี ่อยครัง้ (ค) ฉนั ทำ�อะไรผิดพลาดไปหมด (ข) ฉนั วิตกว่าจะมสี ิง่ ไมด่ เี กดิ ขน้ึ กบั ฉัน 4) (ก) ฉันรสู้ กึ สนกุ กบั หลายสงิ่ หลายอยา่ ง (ข) ฉันไม่ชอบตวั เอง (ค) ไมม่ ีอะไรสนุกสนานเลยสำ�หรับฉนั (ข) ส่งิ เลวร้ายหลายสิ่งทเ่ี กิดข้ึนเป็นความผิดของฉัน 5) (ก) ฉนั ท�ำ ตวั ไมด่ ีเสมอ (ข) ฉนั ไมค่ ดิ จะฆ่าตัวตาย (ค) ฉันทำ�ตวั ไม่ดนี าน ๆ ที (ข) ฉันรู้สึกอยากร้องไห้บ่อยครงั้ 6) (ก) นาน ๆ ครัง้ ฉนั จะคิดถึงสงิ่ ไมด่ ที ี่อาจเกดิ ขึน้ กบั ฉัน (ข) ฉันรู้สึกหงดุ หงิดใจบ่อยครั้ง (ค) จะตอ้ งมสี ิ่งเลวรา้ ยเกดิ ข้ึนกับฉนั แน่ ๆ (ข) ฉันไมค่ อ่ ยชอบอยกู่ บั คนอื่น 7) (ก) ฉนั เกลียดตัวเอง (ข) ฉันตดั สินใจเรอ่ื งตา่ ง ๆ ไดล้ ำ�บาก (ค) ฉันชอบตวั เอง (ข) ฉันเป็นคนหนา้ ตาไม่ค่อยดี 8) (ก) สิง่ เลวร้ายท้ังหมดทเ่ี กดิ ขน้ึ เป็นความผิดของฉัน (ข) ฉนั ต้องใชค้ วามพยายามอย่างหนักบอ่ ยครั้ง (ค) สิ่งเลวร้ายทเี่ กดิ ขึน้ มกั ไม่ใช่ความผดิ ของฉนั เวลาทำ�การบ้าน 9) (ก) ฉันร้สู ึกอยากรอ้ งไห้ทุกวัน (ข) ฉนั นอนไมห่ ลับหลายคนื (ค) ฉนั ตอ้ งการฆ่าตวั ตาย 10) (ก) ฉันรู้สกึ อยากร้องไหท้ กุ วนั (ค) ฉันร้สู ึกอยากรอ้ งไหน้ าน ๆ ครงั้ 11) (ก) ฉันรสู้ กึ หงดุ หงดิ ใจตลอดเวลา (ค) ฉันร้สู กึ หงุดหงิดใจนาน ๆ ที 12) (ก) ฉนั ชอบอยู่กับคนอืน่ (ค) ฉันไมต่ อ้ งการอยกู่ ับใครเลย 13) (ก) ฉนั ไมส่ ามารถตัดสนิ ใจอะไรตา่ ง ๆ ด้วยตนเอง (ค) ฉนั ตัดสนิ ใจเร่ืองตา่ ง ๆ ไดง้ า่ ย 14) (ก) ฉนั เปน็ คนหนา้ ตาด ี (ค) ฉันเปน็ คนหนา้ ตานา่ เกลยี ด 15) (ก) ฉนั ต้องใช้ความพยายามอยา่ งหนกั ทุกครงั้ ที่ท�ำ การบา้ น (ค) การท�ำ การบ้านไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำ�หรับฉนั 16) (ก) ฉันนอนไม่หลบั ทุกคนื (ค) ฉันนอนหลบั สบาย การคดั กรองสุขภาพจิตเด็กวัยเรียน

67 17) (ก) ฉนั รู้สึกเหนือ่ ย นาน ๆ ครัง้ (ข) ฉันรสู้ กึ เหนือ่ ย บ่อยคร้งั (ค) ฉนั รู้สกึ เหน่ือย ตลอดเวลา (ข) มบี างวนั ทฉ่ี นั ไม่ร้สู ึกอยากกนิ อาหาร 18) (ก) มหี ลายวนั ทีฉ่ นั ไมร่ สู้ กึ อยากกินอาหาร (ข) ฉันกงั วลกับการเจบ็ ปว่ ยบ่อยครัง้ (ค) ฉนั กนิ อาหารได้ดี (ข) ฉันรู้สึกเหงาบอ่ ยครง้ั 19) (ก) ฉนั ไม่กงั วลกบั การเจ็บป่วย (ข) ฉนั รสู้ ึกสนุกนาน ๆ ครั้ง เวลาอย่ทู โี่ รงเรียน (ค) ฉันกงั วลกบั การเจ็บปว่ ยตลอดเวลา (ข) ฉันมเี พื่อนไมก่ ีค่ น และอยากมมี ากกว่านี้ 20) (ก) ฉนั ไม่รสู้ กึ เหงา (ข) การเรียนของฉัน ไมค่ อ่ ยดีเหมือนเม่ือก่อน (ค) ฉนั รสู้ กึ เหงาตลอดเวลา (ข) ฉันคงท�ำ อะไรไดด้ ีเทา่ คนอ่นื ถา้ ฉันพยายาม 21) (ก) ฉนั ไม่รูส้ กึ สนกุ เลย เวลาอยูท่ ีโ่ รงเรียน (ข) ฉนั ไม่แน่ใจวา่ มีใครรักฉนั หรือเปล่า (ค) ฉันรู้สกึ สนุกบ่อยคร้ัง เวลาอยู่ที่โรงเรยี น (ข) ฉนั ไม่ทำ�ตามค�ำ ส่งั บอ่ ยคร้ัง 22) (ก) ฉนั มีเพ่อื นมาก (ข) ฉันทะเลาะกบั คนอ่นื บอ่ ยครงั้ (ค) ฉันไม่มีเพอ่ื นเลย 23) (ก) การเรียนของฉัน อยู่ในข้นั ใช้ได้ด ี (ค) การเรยี นของฉัน แย่ลงมาก 24) (ก) ฉนั ทำ�อะไรไมด่ ีเทา่ คนอ่นื (ค) ฉนั ทำ�ไดด้ พี อ ๆ กับคนอืน่ อยู่แลว้ ในขณะนี้ 25) (ก) ไมม่ ใี ครรกั ฉนั จรงิ (ค) ฉนั ร้สู กึ ว่ามีคนรักฉนั 26) (ก) ฉันทำ�ตามค�ำ สง่ั ทไี่ ด้รับเสมอ (ค) ฉนั ไม่เคยท�ำ ตามคำ�ส่ังเลย 27) (ก) ฉันเขา้ กับคนอ่นื ไดด้ ี (ค) ฉันทะเลาะกบั คนอืน่ ตลอดเวลา การคัดกรองสขุ ภาพจติ เด็กวัยเรียน

68 แบบสอบถามผลกระทบ จากเหตุการณ์ภัยพิบัตสิ �ำ หรับเดก็ CRIES-13 แบบสอบถามผลกระทบจากเหตกุ ารณภ์ ยั พบิ ตั สิ �ำ หรบั เดก็ CRIES-13 (The Children’s Revised Impact of Event Scale) น�ำ มาใชส้ �ำ หรบั ผปู้ ระสบเหตกุ ารณภ์ ยั พบิ ตั ิ ไมว่ า่ จะเปน็ ภยั ธรรมชาติ หรอื ภยั จากนา้ํ มอื มนษุ ย์ เหมาะทจี่ ะน�ำ มา ใช้คดั กรองในเดก็ กลุม่ เสย่ี งที่มีจ�ำ นวนมาก ผพู้ ฒั นา สรา้ งและพฒั นาโดย Children and War Foundation ประเทศนอรเ์ วย์ โดยมกี ารพฒั นาแบบสอบถาม จ�ำ นวน 2 ชดุ แบบสอบถาม ชุด 8 ขอ้ (CRIES-8) เหมาะสำ�หรบั ใช้เปน็ เครื่องมือคดั กรอง ประกอบดว้ ยอาการหลัก 2 กลุ่มอาการ คือ มคี วามรสู้ ึกเหมือนตกอยใู่ นเหตกุ ารณท์ ่กี ระทบกระเทอื นจิตใจนอ้ี ย่ตู ลอด (intrusion) จ�ำ นวน 4 ข้อ และมีการหลีก เลีย่ งอยตู่ ลอดตอ่ ส่งิ เรา้ ทเี่ กย่ี วข้องกับเหตกุ ารณท์ ก่ี ระทบกระเทือนจิตใจ (avoidance) จ�ำ นวน 4 ขอ้ แบบสอบถาม ชดุ 13 ขอ้ (CRIES-13) เพ่มิ ข้อเพื่อใช้ประเมนิ ส่งิ เร้า (arousal) จำ�นวน 5 ขอ้ แปลเป็นฉบับภาษาไทย ชุด 13 ข้อ (CRIES-13) โดย นายแพทย์ณัทธร พิทยรัตน์เสถียร ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั เพอื่ น�ำ มาใชใ้ นเดก็ ทป่ี ระสบภยั สนึ ามิ ภาคใตข้ องประเทศไทย เปน็ ครงั้ แรก (CRIES-13, Tsunami version) ข้อบง่ ช้ีในการใช้ ใช้คดั กรองภาวะเครียดภายหลังเหตุการณ์สะเทอื นขวัญ (Post-Traumatic Stress Disorder: PTSD) สำ�หรบั เดก็ ที่ อายุต้งั แต่ 8 ถงึ 18 ปี ทป่ี ระสบกบั เหตุการณ์ คณุ สมบัติ ค่าคะแนนทจี่ ุดตัด 25 คะแนน มคี า่ ความไว (sensitivity) เท่ากับ 0.65 คา่ ความจำ�เพาะ (specificity) เท่ากบั 0.6 และค่าการทำ�นายเม่อื ไดผ้ ลเปน็ ลบ (negative predictive value) เท่ากับ 0.897 ข้อจำ�กัด เป็นแบบประเมนิ ตนเอง เด็กตอ้ งสามารถอ่านหนังสือได้เอง วธิ ีการใช้ เป็นแบบประเมนิ ตนเอง โดยให้เดก็ อา่ นและตอบค�ำ ถามเอง มีจ�ำ นวน 13 ขอ้ แต่ละขอ้ มี 4 ตัวเลอื ก คือ “ไมเ่ ลย” “นาน ๆ คร้งั ” “บางครง้ั ” และ “บอ่ ย ๆ” การคดั กรองสุขภาพจิตเด็กวัยเรียน

69 การแปลผล การใหค้ ะแนนแบบสอบถาม CRIES-13 เป็นดังนี้ ไม่เลย = 0 คะแนน นาน ๆ คร้ัง = 1 คะแนน บางครั้ง = 3 คะแนน บ่อย ๆ = 5 คะแนน คะแนนสูงสดุ เท่ากบั 65 คะแนน คะแนนตาํ่ สุด เทา่ กบั 0 คะแนน การแปลผล ใชเ้ กณฑค์ า่ คะแนนจดุ ตดั ตงั้ แต่ 25 คะแนน ขน้ึ ไป ถอื วา่ มคี วามเสยี่ งต่อ ภาวะเครียดภายหลงั เหตุการณ์สะเทือนขวัญ (Post-Traumatic Stress Disorder: PTSD) ในเด็ก การคัดกรองสุขภาพจิตเด็กวัยเรียน

70 ตวั อย่าง แบบสอบถามผลกระทบจากเหตกุ ารณภ์ ัยพบิ ตั ิส�ำ หรบั เด็ก CRIES-13 อาการต่อไปนี้รวบรวมจากส่ิงท่ีเกิดขึ้นกับผู้ประสบเหตุการณ์รุนแรง/ภัยพิบัติ โปรดอ่านและเลือกว่า อาการในแต่ละข้อนั้นตรงกับ ของตวั หนู ในชว่ ง 7 วนั นี้ ขนาดไหน ถ้าหนไู ม่ไดม้ ีอาการเหล่านนั้ ในช่วง 7 วนั น้ี ให้เลือกช่อง “ไม่เลย” ชือ่ ............................................................................................................................ อายุ ........... ป ี วนั ที่ ............................................... 1. นึกถงึ เหตุการณน์ นั้ ขนึ้ มาโดยไมไ่ ดต้ ง้ั ใจ ไมเ่ ลย นาน ๆ คร้งั บางครง้ั บ่อย ๆ © Children and War Foundation, 1998 2. พยายามลมื เหตุการณ์ท่ีเกดิ ขน้ึ 3. ไมม่ ีสมาธิในการเรียน 4. ยงั รสู้ ึกผวาเหตุการณ์นั้น 5. สะด้งุ ตกใจง่ายกวา่ เดิมหลังเหตุการณน์ ้นั 6. พยายามหลีกเลยี่ งสิง่ ทท่ี �ำ ให้นึกถงึ เหตกุ ารณ์นัน้ 7. พยายามไม่พดู ถึงเหตุการณ์นนั้ 8. มีภาพเหตุการณน์ ั้นผุดขึ้นในใจ 9. มสี ่งิ ที่ทำ�ใหย้ ังคดิ ถึงเหตุการณ์นัน้ 10. พยายามท่ีจะไม่คิดถึงเหตกุ ารณน์ นั้ 11. รสู้ กึ หงดุ หงดิ งา่ ย 12. ตน่ื ตัวและระวังตัวเกินเหตุ 13. มปี ัญหาการนอน (เชน่ นอนไม่หลับ ตื่นบ่อย) การคดั กรองสขุ ภาพจิตเดก็ วยั เรยี น

71 แบบทดสอบการติดเกม GAST แบบทดสอบการตดิ เกม GAST (Game Addiction Screening Test) น�ำ มาใช้ส�ำ หรบั คดั กรองพฤตกิ รรมติดเกม คอมพวิ เตอร์ หรอื หมกมุ่นกับการเล่นเกม ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ มีความเหมาะสมกบั บริบทของสงั คมไทย คำ�ว่า “เกม” ในแบบทดสอบการติดเกม GAST หมายถึง วิดีโอเกม เกมเพลสเตชนั่ เกมบอย เกมคอมพิวเตอร์ เกม ในโทรศัพทม์ ือถือ และเกมออนไลน์ทุกชนิด ผู้พัฒนา สรา้ งและพัฒนาโดย สถาบนั สขุ ภาพจิตเดก็ และวัยร่นุ ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ นายแพทยช์ าญวทิ ย์ พรนภดล สาขาวชิ าจติ เวชเดก็ และวยั รนุ่ ภาควชิ าจติ เวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศริ ริ าชพยาบาล ข้อบ่งช้ีในการใช้ ใช้คดั กรองค้นหาเดก็ และวยั รุ่น ช่วงอายุตง้ั แต่ 8 ปี ขึน้ ไป ที่อาจมปี ญั หาตดิ เกมคอมพวิ เตอร์ หรือหมกมนุ่ กับการ เล่นเกมคอมพวิ เตอร์มากจนกอ่ ให้เกิดปญั หาตา่ ง ๆ คุณสมบตั ิ ผลทดสอบความแมน่ ตรงดา้ นโครงสรา้ ง (construct validity) โดยการวิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบ พบวา่ ทุกขอ้ ค�ำ ถาม มคี า่ loading factor อยูใ่ นเกณฑ์สูง (มากกว่า 0.4) ซ่งึ บ่งชว้ี า่ เปน็ ข้อค�ำ ถามทเ่ี หมาะสมในการนำ�มาใช้ทดสอบ หาค่าความเชื่อถือได้ (reliability) พบว่า ข้อคำ�ถามทุกข้อมีค่าความสอดคล้องภายใน (internal consistency) อย่ใู นเกณฑด์ เี ยี่ยม ทงั้ 2 ฉบับ โดยมคี ่า Cronbach’s alpha coefficient ของข้อค�ำ ถามรวม (16 ข้อ) ฉบับเด็กและ วัยร่นุ เทา่ กับ 0.92 และฉบับผปู้ กครอง เทา่ กบั 0.94 และของข้อคำ�ถามในแต่ละด้านของทัง้ 2 ฉบบั ตงั้ แต่ 0.80 ขน้ึ ไป เมอื่ แยกวิเคราะห์ผลแต่ละฉบับ พบวา่ ฉบบั เด็กและวัยรุ่นชาย มีคา่ ความไว (sensitivity) ร้อยละ 68.5 และความจำ�เพาะ (specificity) ร้อยละ 89.3 ท่ีจดุ ตัด คะแนนท่ี 24 คะแนนขนึ้ ไป ฉบบั เดก็ และวยั รนุ่ หญงิ มคี า่ ความไวรอ้ ยละ 88.2 และความจ�ำ เพาะรอ้ ยละ 88.3 ทจี่ ดุ ตดั คะแนนท่ี 16 คะแนนขนึ้ ไป ฉบับผู้ปกครอง มีค่าความไวร้อยละ 91.6 และความจ�ำ เพาะรอ้ ยละ 88.2 ท่จี ุดตดั คะแนนที่ 20 คะแนนข้ึนไป ขอ้ จำ�กัด แบบทดสอบการติดเกม GAST เปน็ เพยี งเคร่อื งมือทใี่ ชใ้ นการ “คดั กรอง” (screening) เพอื่ ค้นหาเด็กและวัยรุ่นท่ี อาจมีปัญหาในการเล่นเกม มิใช่เป็นเคร่ืองมือในการใช้ “วนิ จิ ฉัย” (diagnosis) เด็กทต่ี ิดเกม ดงั นัน้ ก่อนทผ่ี ใู้ ดจะนำ�แบบ ทดสอบการตดิ เกม (GAST) ไปใช้จ�ำ เป็นต้องทราบวตั ถุประสงค์ในการใชแ้ บบทดสอบการตดิ เกม (GAST) นีเ้ ปน็ อย่างดี เสยี กอ่ น การจะวนิ จิ ฉยั วา่ เดก็ รายใดมภี าวะตดิ เกมจ�ำ เปน็ ตอ้ งผา่ นกระบวนการตรวจประเมนิ อยา่ งละเอยี ดจากจติ แพทย์ หรือนักจิตวิทยา ผู้ซ่ึงจะลงความเห็นว่าเด็กรายใดติดเกมหลังจากได้ข้อมูลอย่างละเอียดและพบกับเด็กและครอบครัว แลว้ เทา่ นัน้ การคัดกรองสขุ ภาพจติ เด็กวยั เรยี น

72 วิธีการใช้ แบบทดสอบการตดิ เกม GAST มี 2 ฉบบั ได้แก่ 1. ฉบบั เดก็ และวยั รนุ่ (childandadolescentversion)ผตู้ อบแบบทดสอบไดแ้ ก่เดก็ และวยั รนุ่ ทม่ี อี ายตุ ง้ั แต่8ปขี น้ึ ไป ท่ีเลน่ เกมเปน็ ประจ�ำ ในชว่ งเวลาอยา่ งนอ้ ย 3 เดือนท่ีผา่ นมา 2. ฉบบั ผปู้ กครอง (parent version) ผตู้ อบแบบทดสอบ ไดแ้ ก่ ผปู้ กครองของเดก็ และวยั รนุ่ ทม่ี อี ายตุ งั้ แต่ 8 ปขี น้ึ ไป ที่เลน่ เกมเป็นประจำ�ในชว่ งเวลาอย่างนอ้ ย 3 เดือนท่ีผ่านมา แบบทดสอบแต่ละฉบับ ประกอบด้วยข้อคำ�ถามทั้งส้ิน 16 ข้อ มีข้อคำ�ถามที่เรียงลำ�ดับเหมือนกัน และถาม ในส่ิงเดียวกัน แต่แตกต่างกนั เลก็ น้อยที่การใชค้ ำ�เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจง่าย ใชว้ ดั ปัญหาท่ีเกีย่ วข้องกับการเล่นเกม 3 ด้าน ไดแ้ ก่ 1. การหมกมนุ่ กบั เกม (preoccupation with game) ได้แก่ ข้อ 1, 8, 9, 11, 13 และ 16 2. การสญู เสียความสามารถในการควบคุมการเลน่ เกม (loss of control) ได้แก่ ขอ้ 2, 4, 5, 6 และ 12 3. การสูญเสียหน้าทค่ี วามรบั ผิดชอบ (function impairment) ได้แก่ ขอ้ 3, 7, 10, 14 และ 15 เวลาทใ่ี ชใ้ นการตอบแบบทดสอบ เฉลี่ยประมาณ 5 นาที ค�ำ ตอบทส่ี ามารถเลอื กตอบได้ในแตล่ ะขอ้ คำ�ถามมี 4 คำ�ตอบ ไดแ้ ก่ “ไม่ใชเ่ ลย” “ไมน่ า่ ใช”่ “น่าจะใช่” “ใช่เลย” โดยใช้ความร้สู กึ ของผ้ตู อบเปน็ หลกั กรณีที่ไม่แนใ่ จใหใ้ ช้เกณฑ์ต่อไปน้ีเป็นแนวทางในการตอบ “ไมใ่ ชเ่ ลย” หมายถงึ ผ้ตู อบมคี วามมนั่ ใจ 100% ว่าไมเ่ คยมีพฤติกรรมเชน่ นัน้ เลย “ไม่น่าใช่” หมายถึง ผู้ตอบมคี วามมัน่ ใจมากกว่า 50% (แตไ่ ม่ถงึ 100%) วา่ ไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนั้น “นา่ จะใช่” หมายถงึ ผตู้ อบมคี วามมนั่ ใจมากกว่า 50% (แตไ่ มถ่ งึ 100%) วา่ มีหรอื เคยมีพฤติกรรมเชน่ น้นั “ใช่เลย” หมายถึง ผ้ตู อบมีความมนั่ ใจ 100% วา่ มหี รอื เคยมีพฤติกรรมเช่นน้นั การแปลผล การใหค้ ะแนนแต่ละข้อค�ำ ถาม ดังน้ี • ไมใ่ ช่เลย ให้ 0 คะแนน • ไมน่ า่ ใช่ ให้ 1 คะแนน • นา่ จะใช่ ให้ 2 คะแนน • ใช่เลย ให้ 3 คะแนน เม่ือให้คะแนนครบทุกข้อแล้ว ให้รวมคะแนนในแต่ละคอลัมน์ โดยนำ�คะแนนรวมในคอลัมน์ “ไม่น่าใช่” ใส่ไว้ใน ชอ่ ง A คะแนนรวมในคอลัมน์ “น่าจะใช”่ ใสไ่ วใ้ นช่อง B และคะแนนรวมในคอลมั น์ “ใชเ่ ลย” ใสไ่ วใ้ นช่อง C หลงั จาก นัน้ จงึ คิดคะแนนรวมทง้ั หมด โดยรวมคะแนนในชอ่ ง A, B และ C เข้าดว้ ยกนั การคัดกรองสขุ ภาพจิตเด็กวัยเรยี น

เกณฑก์ ารแปลผลคะแนน เป็นดังน้ี 73 ระดบั ความรุนแรงของปญั หา ฉบับเด็กและวัยรุ่น ผชู้ าย ยงั ไม่มปี ญั หาในการเลน่ เกม กลมุ่ เร่ิมมีปญั หาในการเล่นเกม คะแนนรวมของแบบทดสอบ GAST ปกติ มปี ญั หาในการเล่นเกมมาก คะแนนตาํ่ กว่า 24 คล่ังไคล้ น่าจะติดเกม คะแนนระหว่าง 24-32 คะแนนมากกวา่ หรอื เทา่ กับ 33 ฉบับเดก็ และวัยรนุ่ ผ้หู ญิง กล่มุ ระดับความรนุ แรงของปัญหา ปกติ ยังไม่มปี ัญหาในการเล่นเกม คะแนนรวมของแบบทดสอบ GAST คลงั่ ไคล้ เริม่ มปี ญั หาในการเลน่ เกม คะแนนต่าํ กว่า 16 นา่ จะติดเกม มีปัญหาในการเลน่ เกมมาก คะแนนระหว่าง 16-22 กลุ่ม ระดบั ความรุนแรงของปญั หา คะแนนมากกวา่ หรือเท่ากบั 23 ปกติ ยังไม่มปี ัญหาในการเล่นเกม คล่ังไคล้ เริ่มมีปญั หาในการเล่นเกม ฉบับผ้ปู กครอง น่าจะตดิ เกม มีปญั หาในการเลน่ เกมมาก คะแนนรวมของแบบทดสอบ GAST คะแนนตาํ่ กวา่ 20 คะแนนระหว่าง 20-29 คะแนนมากกว่าหรอื เทา่ กับ 30 หลงั จากทราบผลการทดสอบแลว้ มขี ้อควรปฏบิ ัตสิ �ำ หรับผ้ปู กครอง ดงั น้ี 1. หากระดับการเล่นเกมของลูกทา่ นยงั อยใู่ นเกณฑ์ “ปกต”ิ ท่านควรมีมาตรการปอ้ งกันไม่ให้ลกู ของทา่ นติดเกม โดยการสร้างสัมพันธภาพท่ีดีและให้เวลาท่ีมีคุณภาพกับลูก ฝึกวินัย สอนให้เด็กรู้จักแบ่งเวลาและใช้เวลาว่างให้เป็น ประโยชน์ ก�ำ หนดกตกิ าและจ�ำ กดั เวลาในการเลน่ เกม สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มงี านอดเิ รกทเ่ี ดก็ ชอบท�ำ นอกเหนอื จากการเลน่ เกม 2. หากระดบั การเลน่ เกมของลกู ทา่ นอยใู่ นระดบั “คลงั่ ไคลห้ รอื เรม่ิ มปี ญั หา” ทา่ นควรพดู คยุ กบั ลกู ถงึ พฤตกิ รรมที่ เปน็ ปญั หาในการเลน่ เกมของลกู อยา่ งจรงิ จงั มกี ารก�ำ หนดกตกิ าและจ�ำ กดั เวลาในการเลน่ เกมอยา่ งเขม้ งวด ใสใ่ จและให้ เวลาท่ีมีคุณภาพกับลูก ส่งเสริมใหเ้ ดก็ มีงานอดเิ รก หรือทำ�กิจกรรมท่ผี ่อนคลายอ่ืน ๆ นอกเหนอื จากการเลน่ เกม 3. หากระดับการเล่นเกมของลูกท่านอยู่ในระดับ “น่าจะติดเกมหรือมีปัญหามาก” และท่านได้พยายามปรับลด เวลาการเล่นเกมของลกู ท่านแล้วตามคำ�แนะน�ำ ในขอ้ 2 แต่ยงั ไม่ไดผ้ ล ทา่ นควรรีบปรึกษาจิตแพทย์เดก็ และวัยรุน่ เพ่ือ รบั การชว่ ยเหลือโดยรบี ดว่ น การคดั กรองสุขภาพจิตเด็กวัยเรียน

74 ตัวอยา่ ง แแบบทดสอบการตดิ เกม GAST ฉบบั เดก็ และวยั รนุ่ การตอบแบบทดสอบ คำ�ตอบทสี่ ามารถเลือกตอบไดใ้ นแตล่ ะขอ้ คำ�ถามมี 4 ค�ำ ตอบ ไดแ้ ก่ “ไมใ่ ช่เลย” “ไม่น่าใช”่ “น่าจะใช”่ และ “ใชเ่ ลย” การตอบให้ ใช้ความรู้สึกของผูต้ อบเป็นหลัก กรณีท่ีไม่แนใ่ จใหใ้ ช้เกณฑ์ต่อไปนีเ้ ปน็ แนวทางในการตอบ “ไมใ่ ช่เลย” หมายถึง ผู้ตอบมีความม่ันใจ 100% วา่ ตนเองไม่เคยมีพฤติกรรมเชน่ นนั้ เลย “ไม่นา่ ใช”่ หมายถงึ ผ้ตู อบมคี วามมน่ั ใจมากกว่า 50% (แต่ไม่ถงึ 100%) ว่าตนเองไม่เคยมีพฤติกรรมเชน่ นั้น “นา่ จะใช”่ หมายถึง ผู้ตอบมีความม่นั ใจมากกวา่ 50% (แตไ่ มถ่ งึ 100%) วา่ ตนเองมีหรือเคยมพี ฤตกิ รรมเช่นนน้ั “ใชเ่ ลย” หมายถงึ ผูต้ อบมีความมั่นใจ 100% วา่ ตนเองมหี รือเคยมีพฤติกรรมเชน่ น้นั ค�ำ แนะนำ�ก่อนตอบแบบทดสอบ ขอ้ ความต่อไปนี้เปน็ การอธบิ ายถึงพฤตกิ รรมที่เกย่ี วขอ้ งกบั การเล่นเกมของท่าน กรณุ าอ่านโดยละเอียด และพิจารณาเลือกคำ�ตอบ ทีใ่ กลเ้ คยี งกับพฤตกิ รรมของตัวทา่ นมากท่ีสุดในชว่ ง 3 เดอื นที่ผ่านมา โดยท�ำ เคร่ืองหมาย “√” ลงในช่อง ข้อค�ำ ถาม ไม่ใช่เลย ไม่นา่ ใช่ นา่ จะใช่ ใช่เลย (0 คะแนน) (1 คะแนน) (2 คะแนน) (3 คะแนน) ต้ังแต่ฉนั ชอบเล่นเกม… A= B= C= 1. ฉันสนใจหรอื ท�ำ กิจกรรมอย่างอ่ืนน้อยลงมาก 2. ฉันมกั เลน่ เกมจนลืมเวลา 3. ความสมั พันธร์ ะหว่างฉันกบั คนในครอบครวั แยล่ ง 4. ฉันเคยเลน่ เกมดกึ มาก จนทำ�ให้ตน่ื ไปเรยี นไมไ่ หว 5. ฉนั มักเลน่ เกมเกนิ เวลาที่ฉันได้รบั อนญุ าตใหเ้ ลน่ 6. ฉันมกั อารมณ์เสยี เวลามีใครมาบอกใหเ้ ลกิ เลน่ เกม 7. ฉนั เคยโดดเรยี นเพ่อื ไปเลน่ เกม 8. เรอื่ งที่ฉันคยุ กบั เพอื่ น ๆ มักเปน็ เรือ่ งเกย่ี วกบั เกม 9. ฉันใชเ้ วลาวา่ งสว่ นใหญ่ไปกบั การเล่นเกม 10. การเรียนของฉนั แย่ลงกว่าเดมิ มาก 11. กล่มุ เพือ่ นท่ีฉันคบด้วย ชอบเล่นเกมเหมือนกับฉัน 12. เวลาทฉ่ี นั พยายามหกั หา้ มใจตวั เองไมใ่ หเ้ ลน่ เกมมาก ฉนั มกั ท�ำ ไมส่ �ำ เรจ็ 13. เงนิ ของฉนั สว่ นใหญห่ มดไปกบั เกม (เชน่ ซอ้ื บตั รชวั่ โมง, ซอื้ หนงั สอื เกม, ซอ้ื ไอเท็มในเกม ฯลฯ) 14. หลายคนบอกวา่ อารมณ์ของฉนั เปลี่ยนไป (เบ่อื ง่าย, หงุดหงดิ งา่ ย, ขร้ี ำ�คาญ ฯลฯ) 15. หลายคนบอกวา่ พฤติกรรมของฉนั เปล่ียนไป (เถยี งเก่ง, ไม่เชื่อฟงั , ไมร่ ับผดิ ชอบ ฯลฯ) 16. หลายคนบอกว่าฉันติดเกม รวมคะแนน คะแนนรวมทั้งหมด A+B+C = © สถาบนั สขุ ภาพจติ เดก็ และวยั รนุ่ ราชนครนิ ทร์ กรมสขุ ภาพจติ การคดั กรองสขุ ภาพจิตเดก็ วัยเรียน

75 ตวั อย่าง แบบทดสอบการตดิ เกม GAST ฉบับผูป้ กครอง การตอบแบบทดสอบ คำ�ตอบท่ีสามารถเลอื กตอบไดใ้ นแตล่ ะข้อคำ�ถามมี 4 ค�ำ ตอบ ไดแ้ ก่ “ไม่ใชเ่ ลย” “ไมน่ ่าใช่” “น่าจะใช”่ และ “ใชเ่ ลย” การตอบให้ ใช้ความรสู้ กึ ของผู้ตอบเปน็ หลัก กรณีท่ีไมแ่ นใ่ จให้ใชเ้ กณฑ์ตอ่ ไปนเ้ี ป็นแนวทางในการตอบ “ไมใ่ ชเ่ ลย” หมายถงึ ผู้ปกครองมีความมน่ั ใจ 100% ว่าลูกของตัวเองไมเ่ คยมีพฤติกรรมเชน่ น้นั เลย “ไมน่ ่าใช่” หมายถึง ผู้ปกครองมคี วามมั่นใจมากกว่า 50% (ไมถ่ งึ 100%) วา่ ลูกของตัวเองไมเ่ คยมพี ฤติกรรมเช่นน้ัน “นา่ จะใช่” หมายถึง ผปู้ กครองมคี วามมัน่ ใจมากกวา่ 50% (แต่ไม่ถงึ 100%) วา่ ลูกของตนเองมีหรอื เคยมีพฤติกรรมเช่นนน้ั “ใช่เลย” หมายถึง ผู้ปกครองมคี วามมน่ั ใจ 100% วา่ ลูกของตัวเองมีหรือเคยมีพฤติกรรมเช่นนัน้ คำ�แนะน�ำ กอ่ นตอบแบบทดสอบ ขอ้ ความตอ่ ไปนเี้ ปน็ การอธบิ ายถงึ พฤตกิ รรมของเดก็ และวยั รนุ่ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การเลน่ เกม กรณุ าอา่ นโดยละเอยี ด และพจิ ารณาเลอื ก คำ�ตอบท่ใี กลเ้ คยี งกับพฤตกิ รรมของลูกทา่ นมากที่สุดในชว่ ง 3 เดือนที่ผา่ นมา โดยท�ำ เครือ่ งหมาย “√” ลงในช่อง ขอ้ ค�ำ ถาม ไมใ่ ช่เลย ไม่นา่ ใช่ น่าจะใช่ ใชเ่ ลย (0 คะแนน) (1 คะแนน) (2 คะแนน) (3 คะแนน) ตัง้ แต่ลกู ชอบเล่นเกม... A= B= C= 1. ลูกสนใจหรอื ท�ำ กิจกรรมอย่างอน่ื นอ้ ยลงมาก 2. ลกู มกั เลน่ เกมจนลมื เวลา 3. ความสมั พันธ์ระหว่างลกู กบั คนในครอบครวั แยล่ ง 4. ลกู เคยเล่นเกมดกึ มาก จนท�ำ ให้ต่นื ไปเรียนไม่ไหว 5. ลกู มักเล่นเกมเกินเวลาทฉ่ี ันได้รบั อนุญาตให้เลน่ 6. ลกู มกั อารมณเ์ สียเวลามีใครมาบอกใหเ้ ลกิ เลน่ เกม 7. ลกู เคยโดดเรียนเพอ่ื ไปเลน่ เกม 8. เรอื่ งท่ีลูกคุยกบั เพ่อื น ๆ มักเป็นเรอื่ งเกยี่ วกับเกม 9. ลูกใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกบั การเล่นเกม 10. การเรยี นของลกู แยล่ งกวา่ เดิมมาก 11. กลมุ่ เพ่อื นท่ีลกู คบด้วย ชอบเล่นเกมเหมอื นกบั ลกู 12. เวลาทลี่ กู พยายามหกั หา้ มใจตวั เองไมใ่ หเ้ ลน่ เกมมาก ลกู มกั ท�ำ ไมส่ �ำ เรจ็ 13. เงนิ ของลกู สว่ นใหญห่ มดไปกบั เกม (เชน่ ซอื้ บตั รชวั่ โมง, ซอ้ื หนงั สอื เกม, ซอื้ ไอเท็มในเกม ฯลฯ) 14. หลายคนบอกว่า อารมณ์ของลกู เปลี่ยนไป (เบ่ืองา่ ย, หงุดหงดิ ง่าย, ข้รี �ำ คาญ ฯลฯ) 15. หลายคนบอกว่า พฤตกิ รรมของลกู เปลยี่ นไป (เถยี งเกง่ , ไม่เชือ่ ฟัง, ไมร่ ับผิดชอบ ฯลฯ) 16. ฉันคิดวา่ ลกู ฉนั ตดิ เกม รวมคะแนน คะแนนรวมท้ังหมด A+B+C = © สถาบนั สขุ ภาพจติ เดก็ และวยั รนุ่ ราชนครนิ ทร์ กรมสขุ ภาพจติ การคัดกรองสุขภาพจติ เดก็ วัยเรียน

76 การคัดกรองสขุ ภาพจิตเดก็ วัยเรยี น

77 การคดั กรองสขุ ภาพจติ เดก็ วัยเรยี น

78 บรรณานกุ รม กรมสขุ ภาพจติ , สถาบนั ราชานกุ ลู . (2551). คมู่ อื ดแู ลสขุ ภาพจติ เดก็ วยั เรยี น. (พมิ พค์ รง้ั ที่ 4). กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย. กรงุ เทพมหานคร, ส�ำ นกั การศกึ ษา. หนว่ ยศกึ ษานเิ ทศก.์ (2558). ประกอบกลุ กลอ่ มอารมย์ (บรรณาธกิ าร). คมู่ อื แนวทาง การสร้างระบบดูแลสุขภาวะทางใจ ของนักเรียนและครู. กรุงเทพฯ: ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัย ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ. กาญจนา อำ�ลอย. (2550). การเปรียบเทียบแบบสอบถามคัดกรองพฤติกรรมอย่างสั้นกับแบบสอบถามพฤติกรรม มาตรฐานของเดก็ ไทย. (วทิ ยานพิ นธเ์ พอื่ วฒุ บิ ตั รแสดงความรคู้ วามช�ำ นาญในการประกอบวชิ าชพี เวชกรรม สาขา กมุ ารเวชศาสตรข์ องแพทยสภา). สถาบนั ผฝู้ กึ อบรม สถาบนั สขุ ภาพเดก็ แหง่ ชาตมิ หาราชนิ ี กระทรวงสาธารณสขุ . ชดาพิมพ์ เผา่ สวัสด,ิ์ วนดิ า ชนนิ ทยทุ ธวงศ,์ ปราณี ตะ๊ วโิ ล และ ยุวนา ไขว้พนั ธ.์ (2558). แบบสงั เกตพฤติกรรมส�ำ หรับ เด็กทมี่ ีระดับสตปิ ัญญาตา่ํ กว่าเกณฑ์ ภาวะบกพรอ่ งของทกั ษะการเรยี น โรคสมาธสิ น้ั และกลุ่มอาการออทิซมึ . วารสารราชานุกลู , 30(2): 1-11. ชาญวิทย์ พรนภดล, บณั ฑติ ศรไพศาล, กสุ มุ าวดี คำ�เกล้ียง และ เสาวนยี ์ พัฒนอมร. (2557). การพัฒนาแบบทดสอบ การตดิ เกม. วารสารสมาคมจิตแพทยแ์ ห่งประเทศไทย, 59(1): 3-14. ณทั ธร พทิ ยรัตนเ์ สถยี ร, ธันวรุจน์ บูรณะสขุ สกุล, ดุษฎี จงึ ศริ กลุ วิทย์ และ ทรงภูมิ เบญญากร. (2557). คุณสมบัตขิ อง แบบคัดกรองโรคสมาธิส้ันช่อื Swanson, Nolan, and Pelham IV Scale (SNAP-IV) และ Strengths and Difficulties Questionnaire สว่ นที่เก่ยี วข้องกับพฤติกรรมอยไู่ ม่น่ิง/สมาธิส้นั (SDQ-ADHD) ฉบบั ภาษาไทย. วารสารสมาคมจติ แพทย์แหง่ ประเทศไทย, 59(2): 97-110. ดลจรสั ทิพย์มโนสงิ ห์ และ รัตโนทัย พลับรู้การ. (2555). การศกึ ษาปัญหาทางพฤตกิ รรมเดก็ วยั เรยี น อายุ 10–12 ปี โดยใช้แบบคัดกรองสอบถามพฤติกรรมจากตัวเด็กในโรงเรียนแห่งหนึ่ง สังกัดกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง. กุมารเวชสาร, 19(1): 13-22. ดารณี อุทยั รตั นกิจ, ชาญวิทย์ พรนภดล และคณะ. (2550). แบบคดั กรองนักเรยี นทีม่ ภี าวะสมาธิส้ัน บกพร่องทาง การเรยี นรู้ และออทซิ มึ : คู่มอื การใชแ้ บบคัดกรอง. กรุงเทพฯ: ส�ำ นกั พิมพ์ พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ. ดุษฎี จงึ ศิรกุลวทิ ย์ และ สุวรรณี เรอื งเดช. (2552). ความตรงของแบบสอบถาม SNAP-IV ฉบับภาษาไทย ในการวนิ ิจฉยั โรคสมาธสิ น้ั และโรคดอ้ื ตอ่ ตา้ น ส�ำ หรบั ผปู้ ว่ ยเดก็ ในเขตสาธารณสขุ ที่ 14. วารสารโรงพยาบาลจติ เวชนครราชสมี า ราชนครนิ ทร์, 9(2): 12-20. การคดั กรองสขุ ภาพจิตเด็กวัยเรียน

79 ทวศี กั ด์ิ สริ ริ ตั นเ์ รขา. (2558). คมู่ อื การดูแลสุขภาพจิตเด็ก กลุม่ ปญั หาการเรียน. กรงุ เทพฯ: บยี อนด์ พบั ลิชชงิ่ . ทวศี ักด์ิ สริ ิรตั นเ์ รขา. (2559). หน่วยที่ 3 การคดั กรองเด็กปฐมวัยทีม่ ีความต้องการพิเศษ. ใน: เอกสารการสอนชดุ วชิ า การดูแลเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ 21010 (10203010) สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย สโุ ขทยั ธรรมาธิราช หนว่ ยที่ 1-7. ส�ำ นกั พิมพ์ มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช. นนทบุร:ี 3-(1-51). ทวีศลิ ป์ วิษณุโยธิน, โชษติ า ภาวสทุ ธิไพศฐิ , พรทิพย์ วชริ ดลิ ก, พชั รนิ ทร์ อรุณเรือง และ ธนั วรุจน์ บรู ณสุขสกลุ . (2556). ความชกุ โรคสมาธสิ ้นั ในประเทศไทย. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย, 21(2): 66-75. ประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เร่อื ง กำ�หนดประเภทและหลักเกณฑข์ องคนพิการทางการศึกษา พ.ศ.2552. (2552). ใน: ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 126(ตอนพเิ ศษ 80 ง): 45-47. ผดุง อารยะวิญญู. (2543). เครื่องมือคัดกรองเด็กท่ีมีปัญหาในการเรียนรู้ทางการศึกษา. ใน: วินัดดา ปิยะศิลป์ และสมจิตต์ ธีรมโนภาพ (บรรณาธิการ). คมู่ อื คุณครู เพื่อเด็กท่มี ปี ัญหาการเรียน. กรงุ เทพฯ: ทีซจี ี พริน้ ติง้ ; หนา้ 97-104. พรรณพมิ ล หลอ่ ตระกูล, พนม เกตุมาน และ พรรณี แสงชโู ต. (2548). คู่มอื สำ�หรับบุคลากรสขุ ภาพจติ ในการดแู ล ช่วยเหลอื เดก็ ท่ีประสบภัยพบิ ตั ิ. กรุงเทพฯ: เอกซ์ปอร์ตอิมปอร์ตแอนด์ไอที. ยงยทุ ธ วงศภ์ ริ มย์ศานต์,ิ พรรณพมิ ล วิปลุ ากร, สุภาวดี นวลมณี, โวฟกัง เวิร์นเนอร์ และ อภิชยั มงคล. (2554). การ ประเมนิ จุดแข็งและจุดออ่ น (SDQ ฉบับภาษาไทย): การเปลี่ยนแปลงและแนวทางการใช้. วารสารสขุ ภาพจติ แหง่ ประเทศไทย, 19(2): 128-134. ศิรศิ กั ด์ิ ธติ ดิ ลิ กรตั น์, วัลลี ธรรมโกสทิ ธิ์ และ ราณี ฉายนิ ทุ (บรรณาธกิ าร). (2555). คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ านทีมชว่ ยเหลอื เยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวกิ ฤต. กรงุ เทพฯ: บียอนด์ พับลสิ ซิง่ . สถาบนั วิจยั ระบบสาธารณสขุ . (2560). การคดั กรองโรคระดับประชากร. [เวบ็ ไซต]์ . สืบค้นเมอ่ื 1 สิงหาคม 2560, จาก http://www.hsri.or.th/researcher/classroom/detail/4813 สจุ ติ รา อรู่ ตั นมณ.ี (ม.ป.ป.). เครอื่ งมอื และการใชเ้ ครอ่ื งมอื คดั กรองและประเมนิ ปญั หาทางสขุ ภาพจติ . (เอกสารประกอบ การสอน มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสนุ ันทา). อมุ าพร ตรงั คสมบตั ิ และ ดสุ ติ ลขิ นะพชิ ติ กลุ . (2539). อาการซมึ เศรา้ ในเดก็ : การศกึ ษาโดยใช้ Children’s Depression Inventory. วารสารสมาคมจิตแพทยแ์ ห่งประเทศไทย, 41(4): 221-230. Andermann, A., Blancquaert, I., Beauchamp, S. & Dery, V. (2008). Revisiting Wilson and Jungner in the genomic age: a review of careening criteria over the past 40 years. Bulletin of World Health Organization. 86(4): 241-320. Bloom, B., Jones, L. I. & Freeman, G. (2013). Summary health statistics for U.S. children: National Health Interview Survey; 2012. National Center for Health Statistics. Vital Health Stat. 10(258). Centers for Disease Control and Prevention. (2013). Mental health surveillance among children - United States, 2005—2011. MMWR. 62(Suppl 2): 1-35. Children and War Foundation. (2017). CRIES-13. Retrieved from http://www.childrenandwar.org/measures/ children%E2%80%99s-revised-impact-of-event-scale-8-%E2%80%93-cries-8/ies13/ การคัดกรองสขุ ภาพจิตเด็กวัยเรยี น

80 Christensen, D. L., Baio, J., Braun, K. V., et al. (2016). Prevalence and Characteristics of Autism Spectrum Disorder Among Children Aged 8 Years - Autism and Developmental Disabilities Monitoring Network, 11 Sites, United States, 2012. MMWR Surveill Summ. 65(3): 1–23. Dowdy, E., Ritchey, K. & Kamphaus, R. W. (2010). School-based screening: a population-based approachto inform and monitorchildren’smental health need. School Mental Health. 2: 166–176. DOI: 10.1007/s12310-010-9036-3 Goodman, R. (2001). Psychometric properties of the strengths and difficulties questionnaires. J Am Acad Child Psy. 40: 1337-1345. Hoff, N., Peterson, R. L., Strawhun, J. & Fluke, S. (2015, April). School-wide Behavior Screening, TopicBrief.Lincoln,NE:StudentEngagementProject,UniversityofNebraska-LincolnandtheNebraska Department of Education. http://k12engagement.unl.edu/school-wide-behavior-screening Jellinek, M., Evans, N. & Knight, R. B. (1979). Use of a behavior checklist on a pediatric inpatient unit. J Pediatr. 94(1): 156–158. Jellinek, M. S., Murphy, J. M., Robinson, J., et al. (1988). Pediatric Symptom Checklist: Screening school-age children for psychosocial dysfunction. J Pediatr. 112(2): 201–209. Web site: http://psc.partners.org. Massachusetts General Hospital. Pediatric Symptom Checklist. (2017). Retrieved from http://www. massgeneral.org/psychiatry/services/psc_about.aspx Maulik, P. K. & Darmstadt, G. L. (2007). Childhood disability in low- and middle-income countries: overview of screening, prevention, services, legislation, and epidemiology. J Pediatr. 120(Sup.1): S1-55. DOI: 10.1542/peds.2007-0043B Maulik, P. K., Mascarenhas, M. N., Mathers, C. D., Dua, T. & Saxena, S. (2011). Prevalence of intellectual disability: A meta-analysis of population-based studies. Research in Developmental Disabilities, 32(2): 419-436. DOI: 10.1016/j.ridd.2010.12.018 National Research Council and Institute of Medicine. (2009). Preventing mental, emotional, and behavioral disorders among young people: progress and possibilities.O’Connell, M. E., Boat, T. & Warner, K. E. (Eds). Washington, DC: The National Academies Press. Perrin, S., Meiser-Stedman, R. & Smith, P. (2005). The Children’s Revised Impact of Event Scale (CRIES): ValidityasascreeninginstrumentforPTSD.BehaviouralandCognitivePsychotherapy.33(4):487-498. Swanson, J., Lerner, M., March, J. & Gresham, F. M. (1999). Assessment and intervention for attention deficit/ hyperactivity disorder in the schools. Lessons from the MTA study. Pediatr Clin North Am. 46: 993-1009. การคัดกรองสุขภาพจติ เดก็ วัยเรยี น

81 Wilson, J. M. G. & Jungner, G. (1968). Principles and practice of screening for disease. WHO Chronicle. Geneva: World Health Organization. 22(11): 473. Woerner, W., Nuanmanee, S., Becker, A., Wongpiromsarn, Y. & Mongkol, A. (2011). Normative data and psychometric properties of Thai version of the Strengths and Difficulties Questionnaire (SDQ). J Ment Health Thai. 19(1): 42-57. Youthinmind. (2017, Jul 10). SDQ. Retrieved from http://www.sdqinfo.com/py/sdqinfo/b3.py? language=Thai การคดั กรองสขุ ภาพจิตเด็กวยั เรยี น

82 การคัดกรองสขุ ภาพจิตเดก็ วัยเรยี น

83 การคดั กรองสขุ ภาพจติ เดก็ วัยเรยี น

84 ขอ้ มูลศูนยส์ ขุ ภาพจิตท่ี 13 ขอ้ มูลทว่ั ไป ศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 เป็นหน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิต เป็นหน่วยงานวิชาการด้านการส่งเสริมสุขภาพจิตและ ปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ รบั ผดิ ชอบในเขตสขุ ภาพกรงุ เทพมหานคร โดยมวี สิ ยั ทศั น์ “เปน็ องคก์ รหลกั ดา้ นการสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และปอ้ งกนั ปัญหาสุขภาพจติ ระดับเขตสุขภาพ เพอื่ ใหป้ ระชาชนสขุ ภาพจิตดี มีความสขุ ” มพี ันธะกจิ หลักอยู่ 4 เรื่อง คอื 1. ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ ด้านการส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตระดับ เขตสขุ ภาพ 2. พัฒนากลไกการด�ำ เนินงานสุขภาพจิต เพอ่ื ชนี้ ำ�และร่วมก�ำ หนดทิศทางงานสุขภาพจติ ระดบั เขตสขุ ภาพ 3. สนับสนนุ การพฒั นาระบบงานส่งเสริมสขุ ภาพจติ และป้องกันปญั หาสุขภาพจิตครอบคลมุ ทกุ ระดบั 4. สรา้ งการมีส่วนร่วมของเครอื ขา่ ยเพ่ือให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพจติ ของตนเอง สถานทตี่ ั้ง อาคารกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข อาคาร 1 ช้ัน 4 ถนนติวานนท์ ตำ�บลตลาดขวญั อ�ำ เภอเมือง จงั หวัดนนทบรุ ี 11000 ข้อมูลการตดิ ต่อ โทรศพั ท ์ 02 149 5597 โทรสาร 02 149 5596 อเี มล [email protected] เวบ็ ไซต ์ http://www.mhc13.dmh.go.th การคัดกรองสุขภาพจิตเดก็ วัยเรยี น

85 ประวัติและผลงานผู้เขียน นายแพทย์ทวศี กั ด์ิ สิริรตั นเ์ รขา จิตแพทย์เดก็ และวัยรนุ่ (Child & Adolescent Psychiatrist) วุฒิการศกึ ษา  แพทยศาสตรบัณฑติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั  วฒุ ิบัตร แพทย์เฉพาะทางสาขาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรนุ่ แพทยสภา และคณะแพทยศาสตร์ จฬุ าฯ  หนงั สอื อนมุ ัติ แพทยเ์ ฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครวั แพทยสภา การปฏิบัตงิ านในปจั จุบัน  ผอู้ �ำ นวยการศูนย์สุขภาพจติ ท่ี 13 กรมสขุ ภาพจติ  สถาบนั ราชานุกูล กรมสุขภาพจติ  สถาบนั แฮปป้ีโฮม  เว็บมาสเตอร์ http://www.happyhomeclinic.com และ http://www.smartdcamp.com ผลงานดา้ นหนงั สอื  ทวีศกั ด์ิ สริ ริ ตั น์เรขา. (2548). แนวทางการดแู ล ออทิสติก. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พค์ ุรสุ ภาลาดพร้าว.  ทวศี ักดิ์ สิรริ ัตน์เรขา. (2548). ออทสิ ตกิ กับความสามารถพิเศษ. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์คุรสุ ภาลาดพรา้ ว.  ทวีศกั ด์ิ สิรริ ตั น์เรขา. (มีนาคม 2549). พหปุ ญั ญา อัจฉริยภาพหลากหลายมิติทนี่ า่ คน้ หา. UPDATE. 21(222): 63-64.  ทวศี กั ด์ิ สิริรตั นเ์ รขา และ สมจิตร ไกรศร.ี (2549). โปรแกรมศิลปกรรมบ�ำ บัด สถาบนั ราชานุกลู . กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พค์ ุรสุ ภาลาดพร้าว.  ทวีศกั ด์ิ สิริรัตนเ์ รขา. (2549). การเล่นเพื่อการเรยี นรู้ ในเด็กออทิสตกิ . กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์คุรสุ ภาลาดพร้าว.  ทวศี กั ด์ิ สริ ริ ตั นเ์ รขา. (2550). ศลิ ปะบ�ำ บดั ศาสตรแ์ ละศลิ ปแ์ หง่ การบ�ำ บดั . กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพรา้ ว.  ทวศี ักด์ิ สริ ิรตั น์เรขา. (2550). การบำ�บดั ทางเลอื ก ในเดก็ พเิ ศษ. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พค์ ุรสุ ภาลาดพร้าว.  ทวศี กั ดิ์ สริ ริ ตั นเ์ รขา และ สมจติ ร ไกรศร.ี (2553). โปรแกรมศลิ ปกรรมบ�ำ บดั สถาบนั ราชานกุ ลู . วารสารสถาบนั ราชานุกลู . 25(3): 22-31. การคดั กรองสุขภาพจติ เด็กวัยเรียน

86  ทวศี กั ดิ์สริ ริ ตั นเ์ รขา.(2553).จติ บ�ำ บดั แบบกลมุ่ ในเดก็ ทปี่ ระสบภยั พบิ ตั .ิ ใน:สขุ ภาพจติ เดก็ กบั อบุ ตั ภิ ยั หม-ู่ ภยั พบิ ตั ,ิ เบญจพร ปัญญายง (บรรณาธกิ าร). กรงุ เทพฯ: บยี อนด์ พบั ลิสชงิ่ ,; หน้า 140-152.  ทวศี กั ดิ์ สริ ริ ตั นเ์ รขา. (2553). การตรวจประเมนิ และวนิ จิ ฉยั ความพกิ ารทางจติ ใจหรอื พฤตกิ รรมหรอื ออทสิ ตกิ . ใน: ดารณี สวุ พันธ์ (บรรณาธิการ). คู่มือการตรวจประเมินและวินิจฉยั ความพกิ าร ตาม พรบ.สง่ เสริมและพัฒนา คุณภาพชวี ติ คนพกิ าร พ.ศ.2550. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; หนา้ 43-48.  ทวีศกั ด์ิ สิริรตั นเ์ รขา. (2555). คูม่ ือออทสิ ติก สำ�หรบั ผปู้ กครอง. (พิมพ์คร้งั ท่ี 5). กรุงเทพฯ: ส�ำ นักงานพระพุทธศาสนาแหง่ ชาต.ิ  ทวศี กั ดิ์ สริ ริ ตั นเ์ รขา. (2555). ความพกิ ารประเภท 4.2 ออทสิ ตกิ . ใน: คมู่ อื มาตรฐานกลาง ประเมนิ ความสามารถ ตามประเภทความพิการและให้รหัส ICF. นนทบุรี: สำ�นักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข; หน้า 37-41.  ทวศี กั ดิ์ สริ ริ ตั นเ์ รขา. (2556). แอลด-ี ความบกพรอ่ งทางการเรยี นร.ู้ ใน: คมู่ อื แนวทางในการดแู ลเดก็ ทม่ี ปี ญั หา การเรยี นรู้ อายุ 6-12 ปี ในชน้ั เรยี น ระหวา่ งเครอื ขา่ ยดา้ นการศกึ ษาและเครอื ขา่ ยดา้ นสาธารณสขุ . กรงุ เทพฯ: สถาบนั ราชานุกลู ; หน้า 7-13.  ทวศี กั ด์ิ สริ ริ ตั นเ์ รขา. (2556). แอลดี กบั สทิ ธปิ ระโยชนต์ ามกฎหมาย. ใน: คมู่ อื แนวทางในการดแู ลเดก็ ทมี่ ปี ญั หา การเรยี นรู้ อายุ 6-12 ปี ในชน้ั เรยี น ระหวา่ งเครอื ขา่ ยดา้ นการศกึ ษาและเครอื ขา่ ยดา้ นสาธารณสขุ . กรงุ เทพฯ: สถาบนั ราชานกุ ลู ; หน้า 15-17.  ทวศี กั ด์ิสริ ริ ตั นเ์ รขาและกรทพิ ย์วทิ ยากาญจน์(บรรณาธกิ าร).(2557).ตน้ แบบกจิ กรรมคา่ ยครอบครวั สขุ ภาพจติ ด.ี นนทบรุ :ี ศนู ย์สขุ ภาพจิตท่ี 13.  ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา และ วรรณวิไล ภู่ตระกูล (บรรณาธิการ). (2557). ข้อมูลพื้นฐานสุขภาพจิต เขตบรกิ ารสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ปี 2557. กรงุ เทพฯ: บียอนด์ พบั ลสิ ชง่ิ .  ทวีศกั ดิ์ สิริรัตนเ์ รขา และ อารี อยู่ภู่ (บรรณาธิการ). (2558). ขอ้ มลู พื้นฐานสขุ ภาพจติ เขตบรกิ ารสุขภาพ กรุงเทพมหานคร ปี 2558. กรุงเทพฯ: บยี อนด์ พบั ลิสช่ิง.  ทวีศักดิ์ สิรริ ัตน์เรขา. (2558). คมู่ อื การดแู ลสขุ ภาพจติ เดก็ กลมุ่ ปญั หาการเรยี น. กรุงเทพฯ: บยี อนด์ พบั ลชิ ช่งิ .  ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา. (2558). การตรวจประเมินและวินิจฉัยความพิการทางออทิสติก. ใน: ดารณี สุวพันธ์ (บรรณาธกิ าร). คมู่ อื การวนิ จิ ฉยั และตรวจประเมนิ ความพกิ าร ตามประกาศกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความ มน่ั คงของมนษุ ย์ เรอ่ื ง ประเภทและหลกั เกณฑค์ วามพกิ าร (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2555. กรงุ เทพฯ: กรมสง่ เสรมิ และ พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนพกิ าร; หนา้ 95-98.  ทวีศักด์ิ สริ ริ ัตนเ์ รขา, กรทิพย์ วทิ ยากาญจน์, จุฑารตั น์ ขาวละออ และ อารี อย่ภู ู่. (2558). การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ ตอ่ หนว่ ย งานสง่ เสรมิ และปอ้ งกนั ดา้ นสขุ ภาพจติ ศนู ยส์ ขุ ภาพจติ กรมสขุ ภาพจติ ปงี บประมาณ 2556 (รายงาน การวจิ ยั ). กรงุ เทพฯ: บียอนด์ พับลิสชิง่ .  ทวีศกั ด์ิ สิรริ ัตน์เรขา, กรทพิ ย์ วทิ ยากาญจน,์ จฑุ ารัตน์ ขาวละออ และ อารี อยูภ่ .ู่ (2558). การวิเคราะห์ต้นทนุ ตอ่ หนว่ ย งานสง่ เสรมิ และปอ้ งกนั ดา้ นสขุ ภาพจติ ศนู ยส์ ขุ ภาพจติ กรมสขุ ภาพจติ ปงี บประมาณ 2557 (รายงาน การวิจัย). กรุงเทพฯ: บียอนด์ พบั ลสิ ช่งิ . การคดั กรองสุขภาพจิตเด็กวยั เรยี น

87  ทวีศักดิ์ สริ ริ ัตนเ์ รขา, กรทิพย์ วทิ ยากาญจน์, จุฑารัตน์ ขาวละออ และ อรุณศรี บญุ ที. (2559). การวิเคราะห์ ต้นทุนต่อหน่วย งานส่งเสริมและป้องกันด้านสุขภาพจิต ศูนย์สุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต ปีงบประมาณ 2558 (รายงานการวจิ ยั ). กรงุ เทพฯ: บยี อนด์ พบั ลสิ ช่ิง.  ทวีศักด์ิ สิรริ ตั น์เรขา. (2559). หนว่ ยที่ 3 การคดั กรองเดก็ ปฐมวยั ทม่ี คี วามตอ้ งการพเิ ศษ. ใน: เอกสารการสอน ชดุ วชิ า การดแู ลเดก็ ปฐมวยั ทมี่ คี วามตอ้ งการพเิ ศษ 21010 (10203010) สาขาวชิ าศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช หน่วยที่ 1-7. สำ�นกั พมิ พ์ มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. นนทบุรี; หนา้ 3-(1-51).  ทวีศกั ดิ์ สริ ริ ตั นเ์ รขา. (2559). หน่วยที่ 14 การดูแลเด็กออทิสตกิ ในระดับปฐมวัย. ใน: เอกสารการสอนชุดวชิ า การดูแลเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ 21010 (10203010) สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย สุโขทยั ธรรมาธิราช หน่วยท่ี 8-15. ส�ำ นกั พมิ พ์ มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. นนทบรุ ี; หนา้ 14-(1-47). การคดั กรองสขุ ภาพจิตเด็กวยั เรียน

88 การคัดกรองสขุ ภาพจิตเดก็ วัยเรยี น

89 การคดั กรองสขุ ภาพจติ เดก็ วัยเรยี น

90 การคัดกรองสขุ ภาพจิตเดก็ วัยเรยี น

91 การคดั กรองสขุ ภาพจติ เดก็ วัยเรยี น

92 การคัดกรองสขุ ภาพจิตเดก็ วัยเรยี น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook