Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเกษตร

หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเกษตร

Published by สุพิชญ์ แก้วเนตร, 2019-06-13 23:01:52

Description: กลุ่มที่ 9 อุตสาหกรรมเกษตรเบื้องต้น

Search

Read the Text Version

๒๕๖๒ หน่วยท่ี 1 ความรู้เบือ้ งต้นเก่ียวกบั อตุ สาหกรรมเกษตร นางสาวสุพชิ ญ์ แก้วเนตร วิทยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีอบุ ลราชธานี 14/6/2562

1 หน่วยท่ี 1 เรื่อง ความรู้เบือ้ งต้นเกีย่ วกับอตุ สาหกรรมเกษตร สาระสาคัญ อุตสาหกรรมเกษตรเขา้ มามีบทบาทสาคญั ในการขบั เคล่ือนเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะการผลิต อาหารมนุษยแ์ ละสัตว์ รวมท้งั การผลิตเวชภณั ฑ์ อนั เนื่องมาจากจานวนประชากรโลกมีมากข้ึน ความ ตอ้ งการอาหารย่อมมากข้ึนเช่นเดียวกัน อุตสาหกรรมเกษตรเป็ นการดาเนินงานท่ีเก่ียวกบั การผลิต วตั ถุดิบเกษตร ไม่วา่ จะเป็ นพืชหรือสัตวร์ วมท้งั การนาเอาวตั ถุดิบน้นั มาแปรรูปใหเ้ ป็ นผลิตภณั ฑ์ต่าง ๆ แมว้ ่าจะมีความแตกต่างจากอุตสาหกรรมอื่น จะเห็นไดว้ ่าการเกษตรกบั อุตสาหกรรมเกษตรมีความ สัมพนั ธ์กนั โดยเฉพาะสินคา้ ผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรมเกษตรท่ีผลิตข้ึนตามพระราชบญั ญตั ิมาตรฐาน ผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของอุตสาหกรรมเกษตรได้ 2. อธิบายความสาคญั และประโยชน์ของอุตสาหกรรมเกษตรได้ 3. บอกความเป็นมาของอุตสาหกรรมเกษตรประเทศไทยได้ 4. สรุปความแตกตา่ งของอุตสาหกรรมเกษตรกบั อุตสาหกรรมอ่ืนได้ 5. อธิบายความสมั พนั ธ์ของการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรได้ 6. บอกประโยชน์ของพระราชบญั ญตั ิมาตรฐานสินคา้ เกษตร พ.ศ. 2551 ได้ เนือ้ หา 1. ความหมายของอตุ สาหกรรมเกษตร “อุตสาหกรรม” ความหมายตามพจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2493 หมายถึง การทาส่ิงของเพ่ือให้เป็ นสินคา้ ซ่ึงปัจจุบนั คาวา่ อุตสาหกรรม ไดม้ ีความหมายกวา้ งขวางกวา่ เดิมมาก ดงั เช่นในพระราชบญั ญตั ิส่งเสริมอุตสาหกรรม พ.ศ. 2493 ไดม้ ีการวิเคราะห์คาศพั ท์ คาว่า “กิจการ อุตสาหกรรม” ไวค้ วามหมายวา่ การทาผลิตภณั ฑ์ทุกชนิดไม่วา่ จะใชเ้ คร่ืองจกั รหรือแรงคน และให้มี ความหมายรวมตลอดถึง อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมขนส่ง อุตสาหกรรมท่องเท่ียว และกิจการ อื่นซ่ึงจะไดม้ ีพระราชกฤษฎีการะบุใหเ้ ป็นกิจการอุตสาหกรรม

2 ต่อมาได้ยกเลิกพระราชบัญญัติน้ี ใช้พระราชบัญญัติส่ งเสริ มการลงทุนเพื่อกิจการ อุตสาหกรรม พ.ศ. 2503 และไดว้ เิ คราะห์ศพั ท์ “กิจการอุตสาหกรรม” ไวว้ า่ “กิจการอุตสาหกรรม ที่อยู่ในข่ายท่ีอาจไดร้ ับการส่งเสริมตามความในพระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ีซ่ึงอาจรวมถึง การเพาะปลูก การเล้ียงสัตว์ การประมง การขนส่ง และการจดั ใหค้ วามสะดวกหรือส่งเสริมการทอ่ งเท่ียว อุตสาหกรรมเกษตร (Agro-Industry) หมายถึง การดาเนินการผลิตพืช ผลิตสัตว์ และการ แปรรูปวตั ถุดิบท่ีเป็ นพืชและสตั ว์ ไม่วา่ จะเป็ นผลิตภณั ฑ์จากวตั ถุดิบเองหรือผลิตภณั ฑจ์ ากผลพลอยได้ และของเหลือ โดยมีการสูญเปล่าน้อยท่ีสุด ให้เป็ นผลิตภณั ฑ์ เพื่อใชใ้ นการอุปโภคและบริโภค โดย ผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยวิธีการต่าง ๆ โดยใช้เครื่องจกั รกล อาจเป็ นวิธีเดียวหรือหลาย ๆ วิธี ร่วมกนั ก็ได้ รวมท้งั การจาหน่ายผลิตภณั ฑ์ที่ผลิตไดน้ ้นั ดว้ ย ดงั แสดงในภาพท่ี 1.1 การดาเนินธุรกิจ เกษตรเริ่มจากไร่ออ้ ยเม่ือเก็บเกี่ยวผลผลิตแลว้ ก็นาเอาไปป้ อนโรงงานน้าตาล แปรรูปเป็ นน้าตาลทราย บริสุทธ์ิ แลว้ นาส่งจาหน่ายไปยงั ร้านคา้ และจนถึงมือผบู้ ริโภค ภาพท่ี 1.1 แสดงการดาเนินการอุตสาหกรรมเกษตร ที่มา : นฤดม บุญหลง, 2532 : 10.

3 ธุรกิจเกษตร (Agribusiness) หมายถึง การดาเนินงานท้งั หลายในดา้ นที่เกี่ยวกบั การผลิตและ การจดั จาหน่ายปัจจยั การผลิตสินคา้ เกษตร กิจกรรมการผลิตระดบั ไร่นา การเก็บรักษา การแปรรูป และการจดั จาหน่ายสินคา้ เกษตร และผลิตภณั ฑท์ ่ีทาจากผลิตผลเกษตร ดงั แสดงในภาพที่ 1.2 โรงงานผลิตปัจจยั ปัจจยั การผลิตสินคา้ การผลิตสินคา้ เกษตร เกษตรท่ีสง่ั เขา้ ผจู้ าหน่ายปัจจยั การผลิต สินคา้ เกษตร ผผู้ ลิตสินคา้ เกษตร หรือเกษตรกร ผแู้ ปรรูป/เกบ็ รักษา ผจู้ าหน่ายสินคา้ เกษตร และผลิตผลพลอยได้ ผบู้ ริโภค ผสู้ ่งสินคา้ ออก ภาพที่ 1.2 แสดงโครงสร้างธุรกิจเกษตร ท่ีมา : นฤดม บุญหลง, 2532 : 11.

4 อุตสาหกรรมเกษตรจดั อยใู่ นธุรกิจการเกษตร ประเภทการผลิตและการแปรรูป (Production and processing) เป็ นการดาเนินการท้งั ส่วนการผลิตคือ การเกษตรกรรมเพื่อให้ได้ผลผลิตมาใช้เป็ น วตั ถุดิบ และเป็ นการดาเนินการในส่วนการแปรรูปคือ การนาเอาวตั ถุดิบมาทาใหเ้ ป็ นผลิตภณั ฑ์ต่าง ๆ ท้งั จากตวั วตั ถุดิบโดยตรง และจากผลพลอยไดจ้ ากการแปรรูปวตั ถุดิบน้นั ดว้ ยเครื่องจกั รอุปกรณ์ ในระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรม รวมท้งั การจดั จาหน่ายผลิตภณั ฑท์ ี่ผลิตไดด้ ว้ ย ผลิตผลเกษตรท่ีได้บางชนิดนามาใช้ท้งั เป็ นวตั ถุดิบในการบริโภคสดโดยตรง ดงั เช่น ขา้ ว นอกจากจะนามาใช้ในการบริโภคเป็ นอาหารหลกั ของคนไทยแลว้ ขา้ วยงั สามารถใชเ้ ป็ นวตั ถุดิบของ โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรมแป้ ง โรงงานอุตสาหกรรมเส้นหมี่ เป็ นต้น มะเขือเทศกน็ บั วา่ เป็นผกั หรือผลไมท้ ี่น้ีก็ข้ึนอยกู่ บั จุดประสงคข์ องผบู้ ริโภค มะเขือเทศยงั สามารถนาไป เป็ นวตั ถุดิบของโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปน้าผลไม้ โรงงานแปร รูปซอ้ สมะเขือเทศ เป็นตน้ ผลิตภณั ฑ์ต่าง ๆ ท่ีโรงงานอุตสาหกรรมผลิตข้ึนมาจะถูกนาไปจาหน่ายดว้ ย วธิ ีการต่าง ๆ ของการตลาด การจดั การขนส่ง เพ่ือให้สินคา้ ไปถึงผบู้ ริโภคอยา่ งปลอดภยั ดงั แสดงใน ภาพท่ี 1.3 ภาพที่ 1.3 แสดงผลิตผลเกษตรบางชนิดใชท้ ้งั บริโภคสดนาไปแปรรูปใหเ้ ป็ นผลิตภณั ฑ์ตา่ ง ๆ ที่มา : http://www.unido.org/fileadmin/import/85932_inglese1.jpg, 9 กนั ยายน 2551.

5 ในการดาเนินการแปรรูปน้นั นอกจากจะไดผ้ ลิตภณั ฑต์ ามจุดประสงคแ์ ลว้ ยงั ไดร้ ับผลิต ผลพลอยไดอ้ ีก เช่น ในการสีขา้ ว จะไดข้ า้ วสารขดั ขาวซ่ึงเป็ นผลิตภณั ฑห์ ลกั แลว้ ยงั ไดผ้ ลิตผลพลอย ไดต้ ามมาอีกคือ รา ปลายขา้ ว และแกลบ ซ่ึงผลพลอยไดเ้ หล่าน้ียงั สามารถนาไปเป็นวตั ถุดิบในการทา ผลิตภณั ฑ์ต่าง ๆ ไดอ้ ีก เช่น ราขา้ วใชเ้ ป็ นวตั ถุดิบเพื่อสกดั น้ามนั รา และกากราท่ีเหลือยงั ใชท้ าอาหาร สัตว์ หรือปลายขา้ วใชเ้ ป็ นวตั ถุดิบในการทาเส้นหม่ีหรือแป้ งได้ แกลบใช้อดั เป็ นกอ้ นเช้ือเพลิงไดอ้ ีก ดงั แสดงในภาพที่ 1.4 ภาพที่ 1.4 แสดงการใชป้ ระโยชนจ์ ากผลพลอยไดแ้ ละของเหลือจากอุตสาหกรรมสีขา้ ว ท่ีมา : นฤดม บุญหลง, 2532 : 13.

6 ในการดาเนินการแปรรูปในระดบั อุตสาหกรรมเกษตรน้นั โดยสรุปแลว้ ส่ิงท่ีจะไดร้ ับจากการ ดาเนินการจะมีอยู่ 3 อยา่ งดว้ ยกนั ไม่วา่ ผดู้ าเนินการจะตอ้ งการหรือไม่กต็ าม คือ 1. ผลิตภณั ฑ์ (Product) ซ่ึงเป็นส่ิงที่ผดู้ าเนินการตอ้ งการ 2. ผลพลอยได้ (by-products) ซ่ึงจะเกิดจากการแปรรูปวตั ถุดิบ 3. ของเหลือ (Waste) ซ่ึงอาจเป็นของเหลวท่ีสามารถนามาใชป้ ระโยชน์ได้ หรือของเสีย ซ่ึง เป็ นส่ิงที่ตอ้ งดาเนินการกาจดั ทิง้ เพ่ือไม่ใหเ้ กิดมลภาวะ ดงั แสดงในภาพที่ 1.5 ส่วนที่เป็นผลิตภณั ฑ์คือ มนั เส้นและแป้ งมนั จากการผลิตแป้ งมนั น้ันกากมนั จะเป็ นของเหลือซ่ึงสามารถนาไปเป็ นวตั ถุดิบใน การผลิตแอลกอฮอล ภาพท่ี 1.5 แสดงการใชป้ ระโยชน์จากผลพลอยไดแ้ ละของเหลือจากอุตสาหกรรมสีขา้ ว ท่ีมา : นฤดม บุญหลง, 2532 : 24. 2. ความสาคญั และประโยชน์ของอตุ สาหกรรมเกษตร 2.1 ความสาคญั ของอุตสาหกรรมเกษตร ผลิตภณั ฑ์จากอุตสาหกรรมเกษตรเป็ นผลิตภณั ฑ์ที่ จาเป็ นต่อปัจจยั สี่ของการดารงชีพของมนุษย์ เร่ิมแต่ผลิตภณั ฑ์อาหาร เส้ือผา้ เครื่องนุ่งห่ม ท่ีอยอู่ าศยั

7 และยารักษาโรค อุตสาหกรรมเกษตรทาให้เกิดผลิตภณั ฑท์ ่ีจาเป็ นเหล่าน้ีอยา่ งเพียงพอต่อความตอ้ งการ ใช้ของมนุษย์ที่ได้เพิ่มทวีจานวนข้ึนอย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้วิธีการผลิตเป็ นจานวนมาก ระบบ อุตสาหกรรม (mass manufacture) โดยให้มีคุณภาพตามความตอ้ งการในการใชป้ ระโยชน์และมีราคา พอสมควร 2.2 ประโยชน์ของอุตสาหกรรมเกษตร หากจะพจิ ารณาในแง่อื่น ๆ อุตสาหกรรมเกษตร มีประโยชน์ สามารถสรุปไดด้ งั น้ี คือ 2.2.1 อุตสาหกรรมเกษตรช่วยให้มนุษยส์ ามารถใช้ประโยชน์จากการผลิตผลเกษตรที่ ได้มาจากเกษตรและจากธรรมชาติได้เต็มที่โดยมีการสูญเปล่าน้อยที่สุดช่วยถนอมรักษาและแปรรูป ผลิตผลเกษตรใหส้ ามารถใชป้ ระโยชน์ไดน้ าน และสามารถส่งผลิตภณั ฑ์ไปยงั แหล่งบริโภคหรือแหล่ง ที่ตอ้ งการใชป้ ระโยชนท์ ่ีอยหู่ ่างไกลโดยไมเ่ สื่อมเสีย 2.2.2 อุตสาหกรรมเกษตรช่วยให้เกิดธุรกิจเกษตรอื่น ๆ เพิ่มข้ึน ตอ่ เนื่องครบวงจรธุรกิจ การเกษตรซ่ึงเก่ียวขอ้ งกบั ส่วนการเกษตร และแปรรูปผลิตผลเกษตรสามารถเพิ่มมูลค่า และปริมาณ ผลผลิตสามารถช่วยใหป้ ระชากรของประเทศมีงานทา 2.2.3 อุตสาหกรรมเกษตรทาให้เกิดผลิตภณั ฑ์ชนิดใหม่ ๆ ที่ให้เป็ นประโยชน์ต่อมนุษย์ ความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กบั การเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจทาใหม้ นุษยห์ าทางใช้ ประโยชน์ จากผลิตผลการเกษตร ดว้ ยกรรมวธิ ีการแปรรูปอุตสาหกรรมเกษตร 2.2.4 อุตสาหกรรมเกษตรช่วยให้การพฒั นาการเกษตรของประเทศสาเร็จผลดี ตาม แผนพฒั นาการเกษตร รองรับการเกษตรไดเ้ ตม็ ที่ไม่เกิดการสูญเปล่า 2.2.5 อุตสาหกรรมเกษตรทาใหเ้ กิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ แก่ประเทศเกษตรกรรม ทาใหเ้ กษตรสามารถจาหน่ายผลผลิตไดใ้ นราคาประกนั เกษตรกรก็จะมีรายไดด้ ีจากการทาเกษตรและ สามารถที่จะมีเงินใชจ้ า่ ยไดค้ ล่องตวั 2.2.6 อุตสาหกรรมเกษตร แกป้ ัญหาเรื่องการขาดแคลนพนั ธุ์พืช พนั ธุ์สัตวท์ ี่มีอย่าง จากดั เพอื่ ใหเ้ กษตรกรสามารถผลิตวตั ถุดิบไดต้ รงตามความตอ้ งการท้งั ดา้ นปริมาณและคุณภาพ รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ (สุพิชญ์ แกเ้ นตร. 2551 : 16 ; อา้ งอิงมาจาก สมภพ มานะ รังสรรค.์ 2550 : 37) ไดก้ ล่าววา่ ปัจจุบนั อุตสาหกรรมดา้ นการเกษตรกาลงั มาแรงและขณะน้ีการผลิต ภาคการเกษตรแบง่ ออกเป็น 4 F คือ 1. Food หรือเป็ นอาหารสาหรับเล้ียงคนท้งั โลก โดยความตอ้ งการอาหารในอนาคตจะมี เพิ่มข้ึนท้งั เชิงปริมาณและคุณภาพ เพราะมีแนวโน้มว่าประชากรของโลกเพ่ิมข้ึนโดยปัจจุบนั มีอยู่ ประมาณ 6,700 ล้านคน แต่เช่ือว่าในปี 2563 ประชากรโลกจะเพ่ิมข้ึนถึง 8,500 ล้านคนในขณะ ปัจจุบนั โลกกาลงั ประสบปัญหาโลกร้อน แหล่งเพาะปลูกอาหารหลายพ้ืนท่ีประสบภยั ธรรมชาติส่งผล ใหป้ ริมาณอาหารลดลงตามไปดว้ ย ดงั น้นั หากในอนาคตความตอ้ งการบริโภคมีเพิม่ ข้ึนแต่อาหาร มีนอ้ ยลงผปู้ ระกอบการอาหารมีโอกาสสร้างกาไรเพมิ่ ข้ึนได้

8 2. Feed หรืออาหารสัตวซ์ ่ึงปัจจุบนั มีความตอ้ งการนาธัญพืชไปผลิตเป็ นอาหารสัตวม์ ากข้ึน เน่ืองจากการผลิตภาคปศุสัตวม์ ีการขยายตวั 3. Factory หรืออุตสาหกรรมเกษตร เพราะสินคา้ เกษตรเกือบทุกชนิดสามารถผลิตเพ่ือป้ อน ภาคอุตสาหกรรมได้ เพราะในชีวติ ประจาวนั ของคนเรามีความเกี่ยวขอ้ งกบั ปัจจยั ส่ีในการดารงชีวิต 4. Fuel หรือพลงั งานทดแทนโดยปัจจุบนั ทว่ั โลกต่างหาวธิ ีผลิตพลงั งานทดแทน ซ่ึงย่ิงช่วย ใหร้ าคาของพืชผลเกษตรดีข้ึน 3. ความเป็ นมาของอุตสาหกรรมเกษตรประเทศไทย ก่อนสงครามโลกคร้ังที่สอง อุตสาหกรรมเกษตรของประเทศไทยเร่ิมมาจากความตอ้ งการ ผลิตภัณฑ์เพื่อบริโภคในประเทศ แทนผลิตภัณฑ์เครื่องบริโภคและอุปโภคที่เคยส่ังเข้ามาจาก ต่างประเทศ ท้งั น้ีเพราะประเทศผูผ้ ลิตซ่ึงอยใู่ นทวีปยุโรป และทวีปอเมริกากาลงั เตรียมตวั เพื่อการ สงคราม ทาใหโ้ รงงานต่าง ๆ เปล่ียนไปผลิตยทุ ธปัจจยั แทน เพื่อเตรียมรับสงครามโลกคร้ังที่สองในปี พ.ศ. 2480 รัฐบาลไดเ้ ปิ ดโรงงานน้าตาลที่อาเภอเกาะคา จงั หวดั ลาปาง ซ่ึงไดเ้ ริ่มเดินเครื่องหีบออ้ ยเม่ือ วนั ท่ี 18 ธนั วาคม 2480 โรงงานน้ีกาลงั การผลิตวนั ละ 500 ตนั และต่อมาไดส้ ร้างโรงงานกระดาษ จากวตั ถุดิบไมไ้ ผท่ ี่จงั หวดั กาญจนบุรี และโรงงานผลิตน้าตาลโรงที่สอง ท่ีจงั หวดั อุตรดิษถ์ เม่ือ พ.ศ. 2485 นอกจากน้ันยงั มีหน่วยงานราชการบางหน่วย เช่น กระทรวงกลาโหม ไดจ้ ดั ต้งั โรงงานทอผา้ สาหรับใชใ้ นราชการข้ึนอีกดว้ ย (นฤดม บุญหลง : 2532) การดาเนินการอุตสาหกรรมเกษตรท่ีแปรรูปวตั ถุดิบเบ้ืองตน้ มีมาต้งั แต่สมยั ราชกาลที่ 5 และราชกาลท่ี 6 เช่น โรงสีขา้ ว โรงทาน้าตาลแดง โรงงานทายางแผน่ รมควนั โรงเลื่อยไมแ้ ปรรูป เป็ นตน้ โรงงานเหล่าน้ีใชเ้ ครื่องจกั รอุปกรณ์เพ่ือช่วยในการแปรรูป โดยเฉพาะเคร่ืองจกั รไอน้า ซ่ึงใช้ ของเหลือ (waste) เป็นเช้ือเพลิง เช่น โรงสีขา้ วใชแ้ กลบเป็นเช้ือเพลิงทาให้เรียกช่ือโรงสีขา้ ววา่ “โรงสีไฟ” ระหวา่ งสงครามโลกคร้ังที่สอง ประเทศไทยถูกบีบบงั คบั ใหเ้ ขา้ สู่สงครามโลกคร้ังที่สอง ซ่ึง ลุกลามมาจากตะวนั ออกไกลทาให้รัฐบาลจาเป็ นตอ้ งดาเนินอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอ่ืน ๆ ที่จาเป็ น เช่น โรงงานสุรา โรงงานยาสูบ และตอ้ งดาเนินกิจการอุตสาหกรรมท่ีชนต่างชาติซ่ึงเป็ นคู่ สงครามทิ้งไว้ ท้งั น้ีเพราะเกิดการขาดแคลนเครื่องอุปโภคและบริโภคอยา่ งรุนแรงมากย่ิงข้ึน รัฐบาล พยายามแกไ้ ขความขาดแคลนผลิตภณั ฑ์ท่ีจาเป็ นต่อการครองชีพเหล่าน้ีทุกวิธีทาง ดว้ ยการดาเนินการ อุตสาหกรรมดว้ ยวตั ถุดิบท่ีหาไดแ้ ละดว้ ยการใช้โรงงานอุตสาหกรรมเท่าท่ีมีอยู่ ท้งั รัฐบาลยงั พิจารณา เห็นความจาเป็ นที่จะตอ้ งสร้างสรรค์อุตสาหกรรมแห่งชาติข้ึน จึงได้ต้งั คณะกรรมการจดั ดาเนินการ อุตสาหกรรมและคณะกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ข้ึนหลายคณะ เพ่ือเร่งรัดใหเ้ กิด การอุตสาหกรรมข้ึนในประเทศไทย พร้อมน้ีได้จัดต้ังกระทรวงอุตสาหกรรมข้ึน เมื่อวนั ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2485

9 หลงั สงครามโลกคร้ังที่สอง ผลจากสงครามโลกคร้ังที่สองซ่ึงบีบบงั คบั ให้ตอ้ งดาเนินการ ผลิตเครื่องอุปโภคบริโภคข้ึนใช้ภายในประเทศ ทาให้ชาวไทยหันมาสนใจการอุตสาหกรรมและ ประกอบการอุตสาหกรรมข้ึนโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้วตั ถุดิบท่ีมีในประเทศ แต่ก็นบั ว่ามีจานวน นอ้ ยท้งั น้ีเพราะยงั มีการประกอบอุตสาหกรรมในครอบครัว หรืออุตสาหกรรมขนาดเล็กเป็ นส่วนใหญ่ การประกอบกิจการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หรือต้งั โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ยงั มีน้อยราย เนื่องจากประเทศไทยยงั ขาดเงินทุน ขาดกาลงั คนที่มีความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยี รวมท้งั ขาด คนงานฝี มือและช่างเทคนิคด้วยนอกจากน้ันยงั ไม่มีความม่ันใจในเรื่องตลาดเป็ นต้นเหตุให้การ อุตสาหกรรมทุกประเภทพฒั นาไปไดช้ า้ มาก พ.ศ. 2497 รัฐบาลเห็นความจาเป็นท่ีจะตอ้ งหาทางใหม้ ีการจดั ต้งั โรงงานอุตสาหกรรม ในประเทศให้มากข้ึน จึงต้องออกพระราชบญั ญัติส่งเสริมอุตสาหกรรมข้ึน มีเหตุผลในการออก พระราชบญั ญัติน้ีว่า กิจการอุตสาหกรรมเป็ นส่ิงสาคญั อย่างหน่ึงในการเศรษฐกิจของชาติ จะต้อง ส่งเสริมให้เกิดข้ึนและกา้ วหนา้ ตอ่ ไปโดยด่วน แตร่ ัฐบาลยอ่ มไม่อยใู่ นฐานะที่จะทากิจการอุตสาหกรรม เสียเองหมดทุกอยา่ ง ต่อมาเม่ือสมยั ปฏิวตั ิ 20 ตุลาคม 2501 คณะปฏิวตั ิไดอ้ อกประกาศฉบบั ท่ี 33 และ ฉบบั ที่ 47 วางข้อกาหนด หลักการและเงื่อนไข ขจดั อุปสรรคและขอ้ ขดั ข้องในพระราชบัญญัติส่งเสริม อุตสาหกรรม เพ่ือให้การส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศไทยมีข้ึนโดยรวดเร็ว และคณะปฏิวตั ิได้ แต่งต้งั คณะกรรมการข้ึนคณะหน่ึงเรียกวา่ “คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเพ่ือกิจการอุตสาหกรรม” ทาการส่งเสริมการลงทุนเกี่ยวกบั กิจการอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ไม่ข้ึนแก่กระทรวงอุตสาหกรรมแต่ข้ึน ในสานักนายกรัฐมนตรี มีหน้าท่ีดาเนินการส่งเสริมให้มีการลงทุนในประเทศมากข้ึน ได้ออก พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม พ.ศ. 2503 ยกเลิกพระราชบญั ญตั ิส่งเสริม อุตสาหกรรม และประกาศคณะปฏิวตั ิท่ีเก่ียวกบั การส่งเสริมอุตสาหกรรม พระราชบญั ญตั ิน้ีมีเหตุผลวา่ รัฐบาลมีนโยบายท่ีจะส่งเสริมอุตสาหกรรมของประเทศเพ่ือพฒั นาเศรษฐกิจของชาติและเพื่อใหค้ นไทย มีความรู้ความชานาญในกิจการอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็ นการสมควรที่จะจดั ให้มีมาตรการเพื่อให้มีทุน ในการประกอบอุตสาหกรรมที่มาจากต่างประเทศ โดยที่กฎหมายปัจจุบนั ยงั ไม่เหมาะสม จึงสมควร ปรับปรุงเสียใหม่ พระราชบญั ญตั ิน้ีออกมาใชป้ ระมาณปี เศษ รัฐบาลก็ไดอ้ อกพระราชบญั ญตั ิส่งเสริม การลงทุน พ.ศ. 2505 ข้ึนใหม่ โดยยกเลิกพระราชบญั ญตั ิเดิม ให้เหตุผลว่า เพื่อที่จะให้มีผูล้ งทุน ประกอบกิจการอุตสาหกรรมมากข้ึนดว้ ยการบญั ญตั ิกฎหมายให้สิทธิและประโยชน์แก่ผทู้ ี่จะมาลงทุน เพิ่มข้ึนกวา่ ท่ีเป็ นอยใู่ นปัจจุบนั และปรับปรุงแกไ้ ขการปฏิบตั ิเก่ียวกบั การส่งเสริมการลงทุนให้เป็ นไป โดยสะดวกและรวดเร็ว ความตอ้ งการผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมของประเทศไทยเพม่ิ ข้ึนทุกปี จึงมีความจาเป็ นท่ีจะตอ้ ง ขยายการผลิตในดา้ นอุตสาหกรรมตามกาลงั ทรัพยากรท่ีมีอยู่ แต่งานในดา้ นน้ีประเทศยงั ขาดบริการท้งั ข้นั รากฐานของอุตสาหกรรมอยู่ เป็ นตน้ วา่ พลงั งาน ความชานาญในการจดั การ ความรู้ความชานาญ

10 ในดา้ นเทคนิคช่างฝี มือ การสารวจแหล่งของทรัพยากรธรรมชาติและวตั ถุดิบ การทะนุบารุงงานใน ดา้ นอุตสาหกรรมหนักไปทางส่งเสริมอุตสาหกรรมของเอกชนให้มากท่ีสุดที่จะพึงกระทาได้ โดย เพ่งเล็งเอากิจการที่ใชว้ ตั ถุดิบภายในประเทศเป็ นสาคญั โดยแผนการพฒั นาเศรษฐกิจกาหนดนโยบาย พฒั นาการเศรษฐกิจเฉพาะดา้ นอุตสาหกรรมไวด้ งั น้ี 1. ส่งเสริมการลงทุนของเอกชนในดา้ นอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกิจการท่ีใชว้ ตั ถุดิบภายใน ประเทศเป็ นส่วนใหญ่ กิจการท่ีมีความตอ้ งการผลิตภณั ฑ์ในประเทศมาก ท้งั น้ีโดยคานึงวา่ กิจการท่ี ไดร้ ับการส่งเสริมน้นั สามารถผลิตสิ่งของไดป้ ริมาณมาก มีคุณภาพดีเท่าเทียมกบั ของต่างประเทศ ใช้ วธิ ีผลิตอนั มีประสิทธิภาพและสามารถต้งั ตวั ไดภ้ ายในระยะเวลาพอสมควร 2. รัฐไมป่ ระกอบกิจการข้ึนใหม่อนั เป็ นการแข่งขนั กบั เอกชน ส่วนกิจการที่รัฐอานวยการอยู่ แลว้ ก็จะจดั การใหบ้ งั เกิดประโยชนย์ งิ่ ข้ึน 3. ส่งเสริมอุตสาหกรรม คน้ ควา้ สารวจทรัพยากรธรรมชาติ เพ่ือให้เกิดประโยชน์แก่การ อุตสาหกรรม โดยเฉพาะคือการสารวจแหล่งแร่และการสารวจธรณีวทิ ยา 4. จดั ใหม้ ีการฝึกอบรมเพอ่ื ใหม้ ีผชู้ านาญงานและฝีมือ ตามความตอ้ งการของกิจการ อุตสาหกรรม 5. ส่งเสริมอุตสาหกรรมในครอบครัวโดยการเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการใหม่ ๆ และช่วยหา ตลาดจาหน่ายสินคา้ 4. ความแตกต่างของอุตสาหกรรมเกษตรกบั อตุ สาหกรรมอนื่ อุตสาหกรรมเกษตรมีความแตกต่างจากอุตสาหกรรมอ่ืน ที่สาคญั อยู่ 4 ประการด้วยกัน ความแตกต่างเหล่าน้ี ทาใหต้ อ้ งมีการจดั การอุตสาหกรรมเกษตรแตกต่างจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ การที่ อุตสาหกรรมเกษตรจานวนไม่น้อยตอ้ งประสบความลม้ เหลวในการดาเนินงาน ส่วนหน่ึงเนื่องมาจาก ความไมเ่ ขา้ ใจถึงองคป์ ระกอบในการดาเนินงานและไม่เขา้ ใจถึงความแตกต่างของ อุตสาหกรรมเกษตร ถา้ จะมองกนั อยา่ งผิวเผินแลว้ อุตสาหกรรมเกษตรก็มีการดาเนินงานเช่นเดียวกบั อุตสาหกรรมอื่น ๆ คือ มีการผลิตผลิตภณั ฑ์เป็ นจานวนมากอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เคร่ืองจกั รกลอุปกรณ์ให้ได้ผลิตภณั ฑ์ที่มี คุณภาพ ปริมาณ และราคาตามตอ้ งการในระยะเวลาที่กาหนด แต่อุตสาหกรรมเกษตรมีท้งั สิ่งท่ีเป็ น ปัจจยั และการจดั การที่แตกต่างกบั อุตสาหกรรมอื่น ๆ ดงั น้ี 4.1 วตั ถุดิบ วตั ถุดิบเป็ นปัจจยั ที่สาคญั ของการอุตสาหกรรมทุกชนิด ปริมาณของวตั ถุดิบ จะต้องมีเพียงพอต่อการแปรรูปเป็ นจานวนมากอย่างต่อเนื่อง อีกท้ังคุณภาพของวตั ถุดิบจะส่งผล โดยตรงไปถึงคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ วตั ถุดิบของอุตสาหกรรมเกษตรมีความแตกต่างกบั อุตสาหกรรม อื่นๆ อยู่ 4 ประการ คือ 4.1.1 วตั ถุดิบของอุตสาหกรรมเกษตรเป็น สิ่งชีวภาพ จึงมีการเปล่ียนแปลงและ เสื่อมตามธรรมชาติ

11 4.1.2 คุณภาพและปริมาณไมส่ ม่าเสมอคงท่ีแน่นอน 4.1.3 มีอยเู่ ฉพาะทอ้ งถิ่นและเฉพาะฤดูกาล เท่าน้นั 4.1.4 วตั ถุดิบอุตสาหกรรมเกษตรแบ่งนาไปใช้ประโยชน์ในดา้ นอื่น ๆ อีกเช่น การใช้ บริโภคโดยตรงเป็นอาหารสด อาหารแหง้ อาหารกระป๋ อง เป็นตน้ 4.2 คุณภาพทางประสาทสัมผสั ผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรมเกษตรส่วนใหญ่เป็ นเครื่องอุปโภค และบริโภคเพ่ือการดารงชีพของมนุษย์ ดังน้ันมนุษย์ผู้ใช้และผู้บริโภคจึงต้องการคุณลักษณะ คุณภาพเฉพาะอยา่ งที่แตกต่างกบั ผลิตภณั ฑ์ชนิดอื่นคือ มีความตอ้ งการคุณภาพทางประสาทสัมผสั เพ่ิมข้ึนด้วย ท้ังน้ีเพราะมนุษย์ใช้ประสาทสัมผสั ของตนในการตดั สินยอมรับหรือไม่ยอมรับใน ผลิตภณั ฑน์ ้นั ๆ เช่น ผลไมต้ อ้ งใหม่สด กรอบหอมหวาน เน้ือแน่นไมน่ ิ่มเละ สีสรรสดสวย ฯ 4.3 การป้ องกนั การเปล่ียนแปลงและเส่ือมเสียของวตั ถุดิบในระหว่างการผลิตผลิตภณั ฑ์ วตั ถุดิบของอุตสาหกรรมเกษตรบางชนิดเปล่ียนแปลงและเส่ือมเสียในคุณภาพไดอ้ ยา่ งรวดเร็วจึงตอ้ งหา วิธีการป้ องกนั ไม่ให้เกิดข้ึนโดยเฉพาะในช่วงของการแปรรูปผลิตภณั ฑ์ เช่น เก็บลาไยไวท้ ่ีห้องเย็น ขณะที่รอทาลาไยกระป๋ อง ฯ 4.4 การจดั การอุตสาหกรรมเกษตร มีความแตกต่างกบั การจดั การอุตสาหกรรมอ่ืน ๆ อยู่ 3 ประการ 4.4.1 การจดั การเพ่ือให้ไดว้ ตั ถุดิบมาป้ อนโรงงานท้งั ดา้ นปริมาณ คุณภาพ ระยะเวลา และราคาของวตั ถุดิบ 4.4.2 การจดั การใชป้ ระโยชน์จากผลพลอยไดแ้ ละของเหลือที่เกิดข้ึน 4.4.3 การจดั การในเร่ือง การกาจดั ของเสียและการป้ องกนั มลภาวะท่ีอาจเกิดข้ึนจากการ ดาเนินการอุตสาหกรรมเกษตร ซ่ึงอาจจะทาใหเ้ กิดมลพษิ ทาลายส่ิงแวดลอ้ มต่อมาได้ 5. ความสัมพนั ธ์ของการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร การเกษตรเป็ นแหล่งท่ีมาของวตั ถุดิบ ความเก่ียวขอ้ งของการเกษตรกบั อุตสาหกรรมเกษตร เพราะอุตสาหกรรมเกษตรใช้วตั ถุดิบหลักจากผลผลิตเกษตร อุตสาหกรรมเกษตรจึงต้องยึดเอา การเกษตรเป็นหลกั ในการดาเนินการ 5.1 ความหมายของการเกษตร การเกษตร หมายถึง การปลูกพืชหรือเล้ียงสัตว์ โดยอาศยั ปัจจยั ต่าง ๆ ท่ีเอ้ือประโยชน์ ต่อการทาการเกษตรให้มีผลผลิตออกมา และผลผลิตน้นั ๆ สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ต่อไปได้ การ ใชป้ ระโยชน์ผลิตผลการเกษตรน้นั ทาไดส้ องทางคือ การนาไปทาเคร่ืองอุปโภคและการนาไปทาเครื่อง บริโภค ท้งั ในรูปของสดและผลิตภณั ฑ์ การที่จะสามารถใชป้ ระโยชน์ผลิตผลเกษตรให้ไดม้ ูลค่าสูงสุด โดยคุณภาพไม่เปล่ียนแปลงจะตอ้ งใช้วิทยาศาสตร์ประยุกต์และเทคโนโลยีร่วมกนั ไม่วา่ จะเป็ นการ บริโภคสด เช่น ผกั ผลไม้ สุกร โค หรือนาไปเป็นวตั ถุดิบเพ่อื แปรรูปใหเ้ ป็ น ผลิตภณั ฑต์ า่ ง ๆ

12 ออกมาใชใ้ นการอุปโภคและบริโภค เช่น ใยฝ้ ายนาไปทาเครื่องนุ่มห่ม ออ้ ยนาไปทาน้าตาล เป็นตน้ 5.2 ปัญหาด้งั เดิมทางการเกษตร แต่ด้งั เดิมการเกษตรกรรมมีจุดมุ่งหมายเพื่อผลิตอาหารให้พอเพียงกบั ความตอ้ งการของ ครอบครัวเกษตรกรในปี หน่ึง ๆ เม่ือมีเหลือเน่ืองจากสภาวะแวดล้อมธรรมชาติเอ้ืออานวยก็นาไป จาหน่ายเป็ นรายได้ การเกษตรกรรม จึงทาตามกาลงั แรงงานของครอบครัวและแรงงานของสัตวเ์ ล้ียง ซ่ึงอาจอาศยั แรงงานจากธรรมชาติบา้ งเช่น การใชก้ งั หันลมวิดน้าเขา้ นา ท้งั ยงั ตอ้ งทาการเกษตรกรรม ตามปัจจยั การผลิตที่มีอยู่ ชนิดและประเภทของการเกษตรกรรมน้นั ๆ ทาตามความเคยชินท่ีไดร้ ับการ ถ่ายทอดจากบรรพชน ซ่ึงทาให้ได้รับความชานาญและประสบการณ์ ทาให้เกษตรกรยึดติดอยู่กบั การเกษตรชนิดเดิมท่ีเคยทาสืบเนื่องกนั มาไม่ยอมเปลี่ยนแปลง และมุ่งผลิตทางการเกษตร เพื่อผลิต อาหารให้พอเพียงเล้ียงครอบครัวก่อนการทางานผลิตอยา่ งอื่น ๆ เกษตรกรจึงมีความเป็ นอยู่อย่างเสรี เพราะไม่ตอ้ งพ่ึงพาอาศยั ส่ิงอ่ืน สาหรับการดารงชีวิตความเป็นอยขู่ องครอบครัว เม่ือมีเวลาวา่ งจากการ เกษตรกรรม ก็จะใช้แรงงานเพ่ือทาส่ิงจาเป็ นต่อการดารงชีพพ้ืนฐาน คือทาสิ่งอ่ืน ๆ ที่จาเป็ นต่อการ ดารงชีวติ ไดแ้ ก่ เครื่องนุ่งห่ม ท่ีอยอู่ าศยั และยารักษาโรค หากจะมองในแง่รายไดต้ ่อครัวเรือนแลว้ เกษตรกรจะมีรายไดต้ ่าหรือเกือบไม่มีรายได้ ท้งั น้ี เน่ืองด้วยแหล่งท่ีมาของรายไดไ้ ม่แน่นอนเพราะผลผลิตส่วนใหญ่ไม่ไดข้ ายเป็ นรายได้ แต่เก็บเอาไว้ เล้ียงครอบครัว เหลือจึงขาย เกษตรกรไม่มีรายไดห้ รือรายไดต้ ่าแต่ก็ไม่อดอยาก หิวโหย และสามารถ อยรู่ ่วมกบั สังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข นอกจากจะเกิดภยั พิบตั ิหรือภยั ธรรมชาติข้ึน จนทาให้ไม่สามารถ ทาการเกษตรได้ จึงเกิดความเดือดร้อนตอ้ งขวนขวายหาอาชีพอื่น ๆ ให้มีรายได้ นาไปเล้ียงครอบครัว และถ้าหากภยั พิบตั ิเกิดต่อเน่ืองกนั เกษตรกรก็ย่ิงจนลง จนถึงกลบั กลายเป็ นผูย้ ากไร้อาจตอ้ งทิ้งถ่ิน เพาะปลูกเล้ียงสัตว์ เขา้ ไปขายแรงงาน เกษตรกรจึงเปล่ียนไปจากการเป็ นแรงงานฝี มือที่มีความชานาญ และประสบการณ์ ไปเป็นผขู้ ายแรงงานหรือกรรมกร เกษตรกรทาการเกษตรต้องพ่ึงธรรมชาติ จะเห็ นได้จากฤดูเพาะปลู กพืชเร่ิ มจากต้นฤดูฝน เท่าน้นั เพราะตอ้ งการน้าจากฝนและพยายามหาสิ่งต่าง ๆ รอบตวั มาใชป้ ระโยชน์ในการผลิต เช่น การ ใชป้ ๋ ุยคอกเพื่อเพิ่มอาหารธาตุและบารุงดิน ไม่สามารถที่จะหาวิธีการ เงินทุนมาปรับใชป้ ัจจยั การผลิต จากธรรมชาติใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อการผลิตได้ ตวั อยา่ งเช่นไม่สามารถทดน้าจากแม่น้าลาคลองไปใชใ้ น ไร่นาไดเ้ พราะขาดเครื่องสูบน้า เม่ือตอ้ งการผลผลิตเกษตรเพ่ือใชเ้ ป็ นอาหารเพ่ิมมากข้ึน เน่ืองดว้ ยประชากรของโลกเพิ่มทวี ข้ึนอย่างรวดเร็วและเกิดวิกฤตทางการเมือง ทาให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง จึงเกิดธุรกิจการจดั จาหน่ายผลผลิตทางการเกษตรข้ึนและเพ่ือที่จาหน่ายผลิตผลให้เพียงพอ จึงมีการชกั จูงให้เกษตรกร หนั มาทาการเกษตรแบบการคา้ ให้สามารถผลิตผลิตผลจานวนมาก เพ่ือป้ อนตลาดดว้ ยการใหส้ ินเช่ือ ในรูปแบบตา่ ง ๆ แนะนาเทคโนโลยใี นการเพิ่มผลผลิตและจะรับซ้ือผลผลิตที่เกษตรกรผลิตได้

13 อุตสาหกรรมเกษตร เป็ นอุตสาหกรรมท่ีใช้วตั ถุดิบหลกั จากผลิตผลเกษตร อุตสาหกรรม เกษตรจึงตอ้ งยึดเอาการเกษตรเป็ นหลกั ในการดาเนินการ เพราะการเกษตรเป็ นแหล่งท่ีมาของวตั ถุดิบ เกษตรกรเป็ นผผู้ ลิตวตั ถุดิบสาหรับอุตสาหกรรมเกษตร ซ่ึงส่งผลไปถึงท้งั ปริมาณ คุณภาพและตน้ ทุน การผลิตผลิตภณั ฑ์ วตั ถุดิบจะออกมาในปริมาณมากน้อยเท่าใด มีคุณภาพหรือไม่อย่างไร ข้ึนอยูก่ บั ปัจจยั สิ่งตา่ ง ๆ เหล่าน้ีคือ ตวั เกษตรกร แหล่งผลิตการเกษตร การแสวงหาและพฒั นาวตั ถุดิบ การเพ่ิม ปริมาณผลผลิต การหาวตั ถุดิบชนิดใหม่ การใชเ้ ทคโนโลยที ี่เหมาะสม และการสนบั สนุนจากรัฐบาล เปรียบเจดียเ์ ศรษฐกิจ ที่จะประกอบไปดว้ ยฐาน ตวั และยอด จึงจะมีท้งั ความงามพร้อมและความ มน่ั คง ดงั แสดงในรูปภาพที่ 1.6 ภาพที่ 1.6 แสดงความสัมพนั ธ์ของการเกษตรกบั อุตสาหกรรมเกษตร ท่ีมา : นฤดม บุญหลง, 2532 : 27. 6. พระราชบญั ญตั ิ มาตรฐานผลติ ภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2551 ประเทศไทยไดม้ ีการประกาศพระราชบญั ญตั ิมาตรฐานสินคา้ เกษตร พ.ศ. 2551 ใน ราชกิจจานุเบษา ซ่ึงเป็ นกฎหมายใหม่ท่ีจะเร่ิมมีผลบงั คบั ใชภ้ ายใน 180 วนั หลงั จากไดป้ ระกาศแลว้ คือ นบั ต้งั แต่วนั ท่ี 20 สิงหาคม 2551 เป็นตน้ ไป พ.ร.บ.มาตรฐานสินคา้ เกษตรฉบบั น้ี จะเป็ นกลไกล

14 สาคญั ในการพฒั นาเพ่ือยกระดบั การผลิตสินคา้ เกษตรไทยให้มีคุณภาพและไดม้ าตรฐาน ท้งั สินคา้ พืช ปศุสัตว์ และสินค้าประมง ขณะเดียวกันยงั เป็ นเคร่ืองมือท่ีใช้ควบคุมมาตรฐานสินค้าเกษตรและ กิจกรรมต่อเนื่องท่ีไม่มีกฎหมายอื่นใชบ้ งั คบั ต้งั แต่ระดบั ฟาร์ม การแปรรูป และการขนส่ง ซ่ึงจะช่วย ให้ประเทศผนู้ าเขา้ เกิดความเช่ือมน่ั ในมาตรฐานสินคา้ เกษตรและอาหารของไทยมากยิ่งข้ึน อีกท้งั จะ ช่วยป้ องกนั ผลประโยชน์ในการส่งออกสินคา้ เกษตรและอาหารในเวทีการคา้ โลกดว้ ย และกรณีมีเหตุ ฉุกเฉิน เช่น เกิดโรคระบาดสัตว์ โรคระบาดพืช หรือเกิดภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติจาเป็ นตอ้ งใชม้ าตรการ ทางกฎหมายเขา้ มาช่วยแกป้ ัญหา พ.ร.บ.มาตรฐานสินคา้ เกษตรกจ็ ะมีบทบาทในการช่วยเหลือผทู้ ่ีไดร้ ับ ผลกระทบอีกทางหน่ึง กาหนดใหม้ ีการรณรงค์ ส่งเสริม และเผยแพร่ใหท้ ุกภาคส่วนท้งั ภาครัฐ เอกชน และผูบ้ ริโภคมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับมาตรฐานสินค้าเกษตร พร้อมท้ังสร้างแรงจูงใจให้กับ ผปู้ ระกอบการเร่งพฒั นาระบบการผลิตและนามาตรฐานท่ีกาหนดไปใชด้ ว้ ย การกาหนดมาตรฐานสินคา้ เกษตรจะมีท้งั มาตรฐานบงั คบั และมาตรฐานทวั่ ไป (มาตรฐาน สมคั รใจ) ผผู้ ลิต ผสู้ ่งออกหรือผนู้ าเขา้ สินคา้ เกษตรท่ีมีมาตรฐานบงั คบั จะตอ้ งไดร้ ับใบอนุญาตจาก มกอช. โดยจะตอ้ งนาสินคา้ ขอรับการตรวจสอบ และไดใ้ บรับรองจากผูป้ ระกอบการ ตรวจสอบ มาตรฐานที่ได้รับใบอนุญาตจาก มกอช. นอกจากน้ีแลว้ ผูผ้ ลิต ผูส้ ่งออกหรือผูน้ าเขา้ ยงั ต้องแสดง เคร่ืองหมายรับรองมาตรฐานบงั คบั สินคา้ เกษตรที่เป็ นมาตรฐานบงั คบั น้นั ส่วนมาตรฐานทวั่ ไปเป็ น มาตรฐานส่งเสริมให้ผูป้ ระกอบการสมัครใจที่จะปฏิบัติตาม เพื่อแสดงสิทธิเครื่องหมายรับรอง มาตรฐานทว่ั ไป เพอ่ื ใหผ้ บู้ ริโภคเกิดความนิยมและเช่ือมน่ั ในสินคา้ เกษตร ประโยชน์ของ พ.ร.บ.มาตรฐานสินคา้ เกษตร พ.ศ. 2551 คือ ช่วยให้เกษตรกรมีหลกั เกณฑ์ ท่ีชดั เจน เพื่อใชป้ รับปรุงและพฒั นามาตรฐานการผลิต ทาให้สินคา้ เป็นที่ยอมรับของผซู้ ้ือ ซ่ึงจะทาให้ มีรายไดเ้ พ่ิมข้ึน ส่วนผูป้ ระกอบการจะสามารถผลิตและจาหน่ายสินคา้ อยา่ งมีมาตรฐาน ท้งั ยงั ไดไ้ ด้ สินคา้ เป็นท่ียอมรับและตรงตามความตอ้ งการของผบู้ ริโภค ผลกั ดนั ให้มูลคา่ เศรษฐกิจการคา้ สูงข้ึนดว้ ย ขณะที่ผบู้ ริโภคเองก็จะเขา้ ถึงขอ้ มูลสินคา้ สามารถช่วยตดั สินใจในการเลือกซ้ืออาหารไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ปลอดภยั ซ่ึงจะลดความสูญเสีย ลดอตั ราการเจบ็ ป่ วยช่วยประหยดั ทรัพยากรของประเทศ ภาครัฐยงั สามารถควบคุม กากบั ดูแลการผลิตต้งั แต่ระดบั ฟาร์ม ภาคใตก้ ฎหมายท่ีเสมอภาค ทุกฝ่ ายไดป้ ระโยชน์ร่วมกนั อนั จะนาไปสู่การจดั การทรัพยากรการผลิตทางการเกษตรไดอ้ ยา่ งยงั่ ยืน ที่ สาคญั พ.ร.บ.ฉบบั น้ียงั จะเป็ นเครื่องมือช่วยในการเจรจาทางการคา้ สินคา้ เกษตร สร้างความเท่าเทียม ในการกาหนดมาตรฐานการคา้ ระหวา่ งประเทศ สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์โลก สาหรับมาตรฐานฉบบั น้ี จะใชใ้ นการอา้ งอิงสาหรับผผู้ ลิตสินคา้ เกษตรและอาหาร ให้มีความ ปลอดภยั ไดม้ าตรฐาน เพ่ือประโยชน์ในทางการคา้ รวมท้งั ความปลอดภยั ของผบู้ ริโภค และสามารถ นามาตรฐานน้ีไปใช้เป็ นแนวในการตรวจรับรองสินคา้ เกษตรและอาหาร โดยมีขอบข่ายครอบคลุม สินคา้ เกษตรและอาหาร 3 กลุ่มหลกั คือ สินคา้ พืชและผลิตภณั ฑ์ ไดแ้ ก่ ผกั ผลไมส้ ด ขา้ ว ผกั ผลไม้ สดตดั แต่งพร้อมบริโภค ผกั ดอง และผลิตภณั ฑ์ผกั ผลไมใ้ นภาชนะบรรจุปิ ดสนิท สินคา้ ปศุสัตวแ์ ละ

15 ผลิตภณั ฑ์ ได้แก่ เน้ือสัตวป์ ี กสด เน้ือสัตวป์ ี กผ่านความร้อน เน้ือสุกร และเน้ือสุกรผ่านความร้อน สินค้าสัตว์น้ าและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กุ้งสด กุ้งแปรรูป ผลิตภัณฑ์กุ้งในภาชนะบรรจุปิ ดสนิท ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าในภาชนะบรรจุปิ ดสนิท โดยมีข้อกาหนดด้านความปลอดภัยท่ีกาหนดไวใ้ น มาตรฐานรวม 8 รายการ คือ สารพิษตกคา้ ง ยาสตั วต์ กคา้ ง สารปนเป้ื อน วตั ถุเจือปนอาหาร จุลินทรีย์ ระบบการผลิต ศตั รูพืช และโรคระบาดสัตว์ มาตรฐานสินคา้ เกษตรและอาหารแต่ละมาตรฐานท่ีกาหนดข้ึน ลว้ นเป็ นประโยชน์อยา่ งมาก สาหรับผผู้ ลิตและผปู้ ระกอบการที่จะสามารถนาไปใชเ้ ป็ นแนวทางในการปฏิบตั ิ การผลิตสินคา้ ให้มี คุณภาพและไดร้ ับการยอมรับจากสากลได้ ดงั แสดงในภาพท่ี 1.7 1.8 และ 1.9

16 ภาพที่ 1.7 แสดงแผนภมู ิกฎระเบียบและมาตรฐานที่เกี่ยวขอ้ งการตรวจรับรองสินคา้ กลุ่มพชื และ ผลิตภณั ฑ์ ท่ีมา : http://www.acfs.go.th/km/agri_chart.php, 9 กนั ยายน 2551.

17 ภาพท่ี 1.8 แสดงแผนภมู ิกฎระเบียบและมาตรฐานที่เก่ียวขอ้ งการตรวจรับรองสินคา้ กลุ่มปศุสตั ว์ ท่ีมา : http://www.acfs.go.th/km/livestock_chart.php, 9 กนั ยายน 2551.

18 ภาพที่ 1.9 แสดงแผนภมู ิกฎระเบียบและมาตรฐานที่เกี่ยวขอ้ งการตรวจรับรองสินคา้ กลุ่มประมงและผลิตภณั ฑ์ ท่ีมา : http://www.acfs.go.th/km/fisheries_chart.php, 9 กนั ยายน 2551.

19 สรุป อุตสาหกรรมเกษตร หมายถึง การดาเนินธุรกิจเกี่ยวกบั การผลิตวตั ถุดิบเกษตร ที่เป็นพชื และ สัตว์ รวมถึงการนาเอาวตั ถุดิบเกษตรมาดาเนินการแปรรูปให้เป็ นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มนุษยใ์ ชใ้ นการ อุปโภคและบริโภค ซ่ึงมีความสาคญั เกี่ยวกบั ปัจจยั ส่ีท่ีมนุษยใ์ ช้ในการดารงชีวิตและนอกจากน้ีการ ดาเนินการอุตสาหกรรมเกษตรยงั มีประโยชน์อยูห่ ลายอยา่ ง เช่น ทาให้ใช้วตั ถุดิบให้เกิดประโยชน์ สูงสุด ทาให้เกิดธุรกิจอื่น ๆ ตามมา ทาให้เกิดผลิตภณั ฑ์ชนิดใหม่ ๆ ทาให้ประเทศมีเสถียรภาพทาง เศรษฐกิจ และทาให้สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอาหาร พันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ เป็ นต้น ซ่ึง อุตสาหกรรมเกษตรในประเทศไทยไดเ้ ร่ิมข้ึนในสมยั สงครามโลกคร้ังที่ 2 เป็นโรงงานน้าตาล ที่อาเภอ เกาะคา จงั หวดั ลาปาง อุตสาหกรรมเกษตรแตกต่างกบั อุตสาหกรรมอื่นขอ้ สังเกตท่ีสาคญั คือ วตั ถุดิบ จะเป็ นวตั ถุดิบชีวภาพ มีเฉพาะท้องถิ่นตามฤดูกาลเป็ นวตั ถุดิบท่ีใช้ประโยชน์ได้หลายด้านท้งั การ บริโภคสด และการนาไปแปรรูป อุตสาหกรรมเกษตรจะมีความสัมพนั ธ์กบั การเกษตรหากการเกษตรมี ผลิตผลดี อุตสาหกรรมเกษตรก็สามารถดาเนินการได้ แต่ท้งั น้ีการผลิตหรือแปรรูปผลิตภณั ฑ์ตา่ ง ๆ ไม่ ว่าจะใช้วตั ถุดิบประเภทใดในการผลิต ตอ้ งคานึงถึงมาตรฐานของผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรมดว้ ย ใน ปัจจุบันประเทศไทยได้มีประกาศพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 หากผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรตอ้ งการจาหน่ายท้ังในและต่างประเทศ ตอ้ งศึกษากฎระเบียบและ มาตรฐานที่เก่ียวขอ้ งการตรวจรับรองสินคา้ ในกลุ่มตา่ ง ๆ เอกสารอ้างองิ นฤดม บุญหลง. หลกั การอุตสาหกรรมเกษตร. กรุงเทพฯ: คณะวชิ าอุตสาหกรรมเกษตร มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, 2525. นฤดม บุญหลง. รายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมผลติ ภณั ฑ์จาก เนือ้ ปลา และผลติ ภัณฑ์ทะเล. กรุงเทพฯ: กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม, 2532. นฤดม บุญหลง. การจัดการอุตสาหกรรมเกษตร. กรุงเทพฯ: คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวทิ ยาลยั - เกษตรศาสตร์, 2532. “ประเทศไทยไดอ้ ะไรจาก...พ.ร.บ.มาตรฐานสินคา้ เกษตร”. สัตว์เศรษฐกจิ 26, 586 (มิถุนายน 2551): 61. “แผนภูมิการผลิตสินคา้ เกษตรและอาหาร.” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://www.acfs.go.th/km 2551. (9 กนั ยายน 2551) สุพิชญ์ แกว้ เนตร. เอกสารประกอบการสอน วชิ า อุตสาหกรรมเกษตรเบ้ืองตน้ . วทิ ยาลยั เกษตรและ เทคโนโลยอี ุบลราชธานี, 2550. “Agroindustry.” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://www.acfs.go.th/km/agri_chart.php 2551. (9 กนั ยายน 2551)

20 แบบฝึ กหดั ท้ายบท 1. อุตสาหกรรมเกษตรมีความหมายอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… 2. อุตสาหกรรมเกษตรความสาคญั และประโยชน์ อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… 3. อุตสาหกรรมเกษตรประเทศไทยมีความเป็นมาอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………

21 4. จงสรุปความเหมือนและความแตกต่างของอุตสาหกรรมเกษตรกบั อุตสาหกรรมอื่นลงใน ตาราง ความเหมือน ความแตกตา่ ง ของอุตสาหกรรมเกษตรกบั อุตสาหกรรมอื่น ของอุตสาหกรรมเกษตรกบั อุตสาหกรรมอื่น …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… …………………………………………………… 5. การเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรมีความความสมั พนั ธ์กนั อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… 6. ประโยชน์ของพระราชบญั ญตั ิมาตรฐานสินคา้ เกษตร พ.ศ. 2551 ประกอบดว้ ยอะไร …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………

22 วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยศี รีสะเกษ แบบทดสอบหลงั เรียน วชิ า อตุ สาหกรรมเกษตรเบอื้ งต้น รหัส 2501-1006 ปี การศึกษา 2551 หน่วยท่ี 1 เรื่อง ความรู้เบอื้ งต้นเกยี่ วกบั อตุ สาหกรรมเกษตร คาส่ัง : ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกที่สุดเพียงขอ้ เดียว โดยเขียนเคร่ืองหมายกากบาท ( x ) ลงใน กระดาษคาตอบหนา้ อกั ษร ก ข ค หรือ ง (คะแนนเตม็ 20 คะแนน) 1. ขอ้ ใดเก่ียวขอ้ งกบั ความหมายของอุตสาหกรรมเกษตร 5. ขอ้ ใดไม่ใช่ผลิตภณั ฑท์ ี่ไดจ้ ากผลพลอยไดข้ อง ก. การแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรใหเ้ ป็น อุตสาหกรรมแปรรูปขา้ วเป็นส่วนประกอบท้งั หมด ผลิตภณั ฑต์ า่ ง ๆ เพื่อใชอ้ ุปโภคบริโภค ก. อาหารสตั ว์ ข. การทาธุรกิจเฉพาะฟาร์มเกษตร ข. น้ามนั ราขา้ ว ค. การทาธุรกิจการเกษตรเฉพาะแปรรูป ค. แป้ งขา้ วจา้ ว ง. การทาธุรกิจเกษตรประเภทการจดั ง. แกลบดา จาหน่ายผลผลิตเกษตร 6. ผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมเกษตรในขอ้ ใดที่ 2. อุตสาหกรรมสีขา้ วมีส่ิงใดที่เป็นผลพลอยได้ สามารถเก็บไวเ้ พื่อบริโภคไดน้ านที่สุด ก. ฟางขา้ ว ก. ปลากระป๋ อง ข. แกลบ ข. ไก่แช่แขง็ ค. ปลายขา้ ว ค. บะหม่ีก่ึงสาเร็จรูป ง. ขา้ วขดั ขาว ง. ซ๊อสมะเขือเทศ 3. ผลิตภณั ฑใ์ นขอ้ ใดท่ีเป็นผลิตภณั ฑห์ ลกั ของ 7. ธุรกิจอุตสาหกรรมในขอ้ ใดที่ไม่เก่ียวขอ้ งกบั การทาอุตสาหกรรมสีขา้ ว ธุรกิจอุตสาหกรรมสีขา้ วโดยรง ก. ขา้ วขดั ขาว ก. อุตสาหกรรมผลิตรถไถเดินตาม ข. แกลบ ข. อุตสาหกรรมผลิตแป้ งขา้ วเหนียว ค. ปลายขา้ ว ค. อุตสาหกรรมผลิตขนมจีนอบแหง้ ง. ราขา้ ว ง. อุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ 4. ขอ้ ใดท่ีจดั เป็นของเหลือจากการดาเนินการ 8. ผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมเกษตรกลุ่มใดท่ีมี ของอุตสาหกรรมสีขา้ ว ความสาคญั และจาเป็นมากท่ีสุดต่อมนุษย์ ก. ราขา้ ว ก. ผลิตภณั ฑอ์ าหาร ข. แกลบ ข. ผลิตภณั ฑเ์ ส้ือผา้ เคร่ืองนุ่งห่ม ค. ปลายขา้ ว ค. ผลิตภณั ฑย์ ารักษาโรค ง. ฟางขา้ ว ง. ผลิตภณั ฑเ์ ก่ียวกบั ท่ีอยอู่ าศยั

23 9. สิ่งที่เกิดข้ึนจากการทาอุตสาหกรรมเกษตรคือ 14. จัดต้ังกระทรวงอุตสาหกรรมข้ึนคร้ังแรก ก. ของเหลือและของเสีย เม่ือใด ข. ผลพลอยได้ ก. พ.ศ. 2485 ค. ผลิตภณั ฑ์ ข. พ.ศ. 2497 ง. ถูกทุกขอ้ ค. พ.ศ. 2503 10. ประโยชน์ของเทคโนโลยีที่มีต่ออุตสาหกรรม ง. พ.ศ. 2505 เกษตรคือขอ้ ใด 15. วัตถุดิบของอุตสาหกรรมเกษตรมีความ ก. ผลิตภณั ฑม์ ีคุณภาพสม่าเสมอ แตกตา่ งกบั อุตสาหกรรมอ่ืน ๆ อยกู่ ี่ประการ ข. วตั ถุดิบสามารถใชป้ ระโยชน์อยา่ งสูงสุด ก. 3 ประการ ค. มีผลิตภณั ฑท์ ี่แปลกใหมเ่ ร่ือยๆ ข. 4 ประการ ง. ผลิตภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมเกษตรมีราคาถูก ค. 5 ประการ 11. เพื่อเตรียมรับสงครามโลกคร้ังที่สอง ในปี ง. 6 ประการ พ.ศ. 2480 รัฐบาลไดเ้ ปิ ดโรงงานน้าตาลท่ีใด 16. สาเหตุใหญ่ที่ทาให้เกษตรกรกลายเป็ นผขู้ าย ก. อาเภอเกาะคา จ.ลาปาง แรงงานหรือกรรมกรคืออะไร ข. อาเภอเกาะคา จ.ลาพนู ก. เกิดภยั ธรรมชาติในพ้ืนท่ีการเกษตร ค. อาเภอเกาะคา จ.กาญจนบุรี ข. ราคาผลิตผลตกต่า ง. อาเภอเกาะคา จ.อุตรดิษถ์ ค. เกษตรกรขาดความรู้ 12. การดาเนินการอุตสาหกรรมเกษตรที่แปรรูป ง. เกษตรกรมีหน้ีสิน วตั ถุดิบเบ้ืองตน้ มีมาต้งั แตส่ มยั ราชกาลใด 17. ในเจดียเ์ ศรษฐกิจ การเกษตรเปรียบเสมือน ก. ราชกาลที่ 4 ส่วนใดของเจดีย์ ข. ราชกาลท่ี 5 ก. ยอดเจดีย์ ค. ราชกาลท่ี 6 ข. ตวั เจดีย์ ง. ขอ้ ข และ ค ถูก ค. ฐานเจดีย์ 13. พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมอุตสาหกรรมมีข้ึน ง. ทุกส่วนของเจดีย์ เมื่อพ.ศ. ใด 18. พระราชบญั ญตั ิมาตรฐานผลิตภณั ฑ-์ ก. พ.ศ. 2485 อุตสาหกรรมฉบบั ปัจจุบนั ประกาศใชเ้ มื่อใด ข. พ.ศ. 2497 ก. 20 สิงหาคม 2550 ค. พ.ศ. 2503 ข. 20 สิงหาคม 2551 ง. พ.ศ. 2505 ค. 20 กนั ยายน 2550 ง. 20 กนั ยายน 2551

24 19. ประโยชน์ของ พ.ร.บ.มาตรฐานสินคา้ เกษตร 20. ภาครัฐที่ควบคุม กากบั ดูแลการผลิตต้งั แต่ พ.ศ. 2551 คือขอ้ ใด ระดบั ฟาร์มภายใตก้ ฎหมายท่ีเสมอภาคทุกฝ่ ายได้ ก. เกษตรกรมีหลกั เกณฑเ์ พ่อื ใชป้ รับปรุง ประโยชนร์ ่วมกนั หมายถึงขอ้ ใด และพฒั นามาตรฐานการผลิต ก. มกอช. ข. ผปู้ ระกอบการจะสามารถผลิตและ ข. มอก. จาหน่ายสินคา้ อยา่ งมีมาตรฐาน ค. อย. ค. มลู คา่ เศรษฐกิจการคา้ สูงข้ึน ง. ถูกทุกขอ้ ง. ถูกทุกขอ้

25 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 1 เรื่อง ความรู้เบอื้ งต้นเกยี่ วกบั อตุ สาหกรรมเกษตร ขอ้ ที่ 1 ก ขอ้ ท่ี 2 ค ขอ้ ที่ 3 ก ขอ้ ท่ี 4 ข ขอ้ ที่ 5 ก ขอ้ ท่ี 6 ก ขอ้ ที่ 7 ก ขอ้ ที่ 8 ก ขอ้ ที่ 9 ง ขอ้ ที่ 10 ข ขอ้ ที่ 11 ก ขอ้ ท่ี 12 ง ขอ้ ท่ี 13 ข ขอ้ ท่ี 14 ก ขอ้ ท่ี 15 ข ขอ้ ท่ี 16 ง ขอ้ ที่ 17 ค ขอ้ ที่ 18 ข ขอ้ ท่ี 19 ง ขอ้ ที่ 20 ก