49 บทท่ี 6 บางแสนแสนสขุ วชิ าวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ว14101 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 9 วิเคราะห์ปญั หาและสรา้ งทางเลอื กในการแก้ปัญหา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 4 ชวั่ โมง ผ้สู อน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ญั หาท่ีพบในชวี ติ จริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมจี ริยธรรม ตวั ชี้วดั ว 4.2ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวรท์ ี่หลากหลาย เพอื่ แก้ปญั หาในชีวติ ประจาวัน จุดประสงค์การเรียนรู้ส่ตู วั ชวี้ ดั 1. สามารถรวบรวม ประเมนิ นาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชวี ติ ประจาวนั ได้ (P) 2. มีความร้เู ก่ียวกบั วเิ คราะห์ปัญหาและสร้างทางเลอื กในการแก้ปญั หา (K) 3. เป็นคนช่างสงั เกต ชา่ งคดิ ชา่ งสงสัย และเปน็ ผู้ที่มีความกระตือรือร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสาคญั การวเิ คราะห์ปญั หาและสร้างทางเลอื กในการแก้ปัญหา สาระการเรยี นรู้ ปญั หาหน่งึ อาจมีทางเลือกในการแกป้ ญั หาไดห้ ลายวิธี การเลือกวธิ กี ารแกป้ ัญหาทเี่ หมาะสมขนึ้ อยูก่ ับ ข้อมูล เงอ่ื นไข และเหตุผล การสร้างทางเลอื ก และการตัดสินใจ เป็นส่งิ ที่เกิดข้นึ ในสถานการณ์ต่างๆในชวี ิตประจาวนั การ ตัดสินใจที่ดเี กิดจากการหาข้อมูลท่ีเก่ยี วขอ้ งอยา่ งครบถว้ น และวิเคราะห์ผลทไ่ี ดว้ ่าตรงกบั จุดประสงค์ท่กี าหนด ไวม้ ากน้อยเพียงใด ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 1. การสรา้ งสรรค์ 2. การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ 3. การแกป้ ญั หา 4. ความร่วมมอื 5. การสือ่ สาร 6. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร
50 ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร้)ู ใบงานซอ้ื ของฝาก ใบงานเท่ยี วสวนสัตว์ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครูนาเขา้ สู่บทเรยี นโดยการสนทนาเก่ยี วกบั การมาโรงเรียนของนักเรียน และถามคาถามดังนี้ - การเดนิ ทางมาโรงเรยี นทาไดก้ ว่ี ิธี มวี ธิ ีใดบ้าง - แต่ละวธิ มี ขี อ้ ดี และข้อจากัดอยา่ งไรบ้าง (ตอบตามความเข้าใจและประสบการณ์ของนักเรยี น) ครูแสดงใหน้ กั เรียนเหน็ ว่าการแก้ปญั หามหี ลากหลายวธิ ี ขน้ั ที่ 2 สารวจและคน้ หา (exploration) 1. ครใู หน้ กั เรยี นเปิดเวบ็ เบราวเ์ ซอร์ (web browser) แลว้ เปิดเกมเรียงลาดบั ตวั เลข 1-9 http://www.phrapiyaroj.com/g/arrange/index.html 2. ครูให้นักเรียนเลน่ เกมเรียงลาดบั ตัวเลข 1-9 (เริม่ เกมพร้อมกนั ) หานกั เรยี นทเ่ี รว็ ท่สี ุด 3 คน 3. ครเู ป็นทปี่ รกึ ษา และเสริมความร้เู กี่ยวกับวธิ กี ารแกป้ ญั หาทห่ี ลากหลาย ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (explanation) 1. ครูใหน้ ักเรียนตวั แทนทงั้ 3 คน บอกเลา่ วธิ กี ารเรยี งตัวเลขของตนเอง 2. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั เปรยี บเทยี บวิธกี ารของนกั เรยี นท้งั 3 คนว่าเหมอื นหรือแตกตา่ งกันอย่างไร 3. ครเู ชือ่ มโยงความรู้วา่ ปญั หาหน่งึ อาจมีทางเลอื กในการแกป้ ัญหาไดห้ ลายวิธี
51 ขน้ั ท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. แบ่งกลุ่มนกั เรยี น กล่มุ ละ 5 คน กาหนดสถานการณใ์ หน้ ักเรยี นสร้างทางเลือกในการตดั สินใจ “กาหนดให้มเี งิน 10 บาท แล้วตอ้ งเลอื กซอื้ ของต่อไปนี้ นักเรยี นจะซ้ืออะไรบ้าง พรอ้ มบอก เหตผุ ล” สมุด ราคา 5 บาท ดินสอ ราคา 2 บาท ยางลบ ราคา 2 บาท ปากการาคา 3 บาท ภาพจาก หนังสือเรียน สสวท. 2. ให้นกั เรยี นตัวแทน นาเสนอผลการแสดงทางเลือกในการเลือกซื้อของ พร้อมบอกเหตุผล 3. ครเู ป็นที่ปรึกษาในการดาเนนิ กจิ กรรม ขัน้ ท่ี 5 ประเมนิ (evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียน ดังน้ี สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะทางานรว่ มกนั สงั เกตการตอบคาถามของนักเรียนในชัน้ เรยี น และประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 โดยใชแ้ บบประเมินตาม สภาพจริง ชวั่ โมงท่ี 2 ขัน้ ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนาเขา้ สู่บทเรยี นโดยการสนทนาเกีย่ วกับการแกป้ ัญหา ดงั น้ี - หากวนั นี้คณุ แมไ่ มร่ ูจ้ ะทาอาหารเย็นอะไรดี นักเรียนจะเสนอทางเลือกอะไรให้คณุ แม่บ้าง เพราะ เหตใุ ด (ตอบตามความคดิ ของนักเรียน) ข้นั ท่ี 2 สารวจและค้นหา (exploration) 1. ครูให้นักเรียนอา่ นการ์ตูนบางแสนแสนสุข ในหนังสอื เรียน หน้า94-101 2. ครใู ห้นกั เรยี นสรปุ เรอื่ งทีอ่ ่านร่วมกนั ดงั นี้ - เหตุการณใ์ นเรอื่ งเปน็ อยา่ งไร - จากเรื่องปญั หาคืออะไร - จากเร่อื งมกี ารสรา้ งทางเลอื กในการแกป้ ัญหาอย่างไร 3. ครเู ป็นทีป่ รึกษา และเสริมความรู้
52 ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (explanation) 1. ครแู บง่ กลมุ่ นักเรยี น กลมุ่ ละ 4-5 คน และใหน้ ักเรียนเสนอทางเลอื กใหมจ่ ากเร่อื งทอ่ี า่ น โดยให้ แตกต่างกบั ทางเลือกในเรอ่ื งท่ีอ่าน ภาพจาก หนังสือเรยี น สสวท. 2. ใหน้ กั เรยี นตวั แทนกลมุ่ นาเสนอข้อมูล 3. ครูเชือ่ มโยงความรู้วา่ ปญั หาหน่งึ อาจมที างเลอื กในการแกป้ ญั หาไดห้ ลายวิธี การเลือกวธิ กี าร แก้ปญั หาทเ่ี หมาะสมข้นึ อยู่กบั ขอ้ มูล เง่อื นไข และเหตผุ ล ขน้ั ท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ กั เรียนทาใบงานซอื้ ของฝาก 2. ครเู ปน็ ท่ปี รึกษาในการดาเนินกจิ กรรม ขน้ั ที่ 5 ประเมิน (evaluation) ครปู ระเมินการเรยี นรู้ของนักเรยี น ดังนี้ สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะทางานรว่ มกนั สงั เกตการตอบคาถามของนกั เรียนในชั้นเรยี น ประเมินใบงานซ้อื ของฝาก และประเมนิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 โดยใช้แบบประเมินตามสภาพจรงิ ชัว่ โมงท่ี 3-4 ขั้นท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนาเขา้ สู่บทเรยี นโดยการสนทนาเกีย่ วกับการเดินทาง และถามคาถามดงั นี้ - ถา้ นกั เรยี นจะไปห้องน้า จะสามารถไปทางใดได้บา้ ง - แต่ละวธิ มี ขี ้อดี และขอ้ จากัดอย่างไรบา้ ง
53 (ตอบตามความเข้าใจและประสบการณข์ องนกั เรียน) ครแู สดงใหน้ ักเรยี นเห็นวา่ การแก้ปัญหามหี ลากหลายวธิ ี ขัน้ ท่ี 2 สารวจและคน้ หา (exploration) 1. ครใู ห้นักเรียนอา่ นการต์ นู บางแสนแสนสขุ ในหนังสือเรยี น หน้า 102-106 2. ครใู ห้นักเรียนสรปุ เร่ืองทอี่ า่ นร่วมกัน ดังน้ี - เหตกุ ารณใ์ นเรือ่ งเป็นอยา่ งไร - จากเรอื่ งปัญหาคอื อะไร - จากเรื่องมีการสรา้ งทางเลือกในการแกป้ ญั หาอย่างไร 3. ครเู ป็นที่ปรึกษา และเสริมความรู้ ขน้ั ท่ี 3 อธิบายและลงข้อสรปุ (explanation) 1. ครูใหน้ ักเรยี นทาใบงานเทย่ี วสวนสตั ว์ โดยการวางแผนทัศนศึกษา 2. ให้นกั เรยี นตัวแทนนาเสนอขอ้ มลู 3. ครูเช่อื มโยงความร้วู ่า การสรา้ งทางเลือก และการตัดสนิ ใจ เป็นสิง่ ท่เี กิดขน้ึ ในสถานการณ์ต่างๆใน ชวี ิตประจาวัน การตดั สินใจท่ีดีเกดิ จากการหาขอ้ มูลท่เี กยี่ วขอ้ งอย่างครบถ้วน และวิเคราะห์ผลทไ่ี ด้วา่ ตรงกับ จดุ ประสงคท์ ก่ี าหนดไว้มากนอ้ ยเพยี งใด ขนั้ ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ให้นกั เรยี นดูคลิปวดี ีโอ THE DECOY EFFECT https://www.youtube.com/watch?v=33aaQdtD20k จากน้นั ให้ศึกษาข้อมูลเกย่ี วกับทางเลือกลวง ภาพจาก หนังสือเรยี น สสวท.
54 2. ครูเป็นท่ีปรึกษาในการดาเนินกิจกรรม ข้ันท่ี 5 ประเมนิ (evaluation) ครปู ระเมินการเรยี นรู้ของนกั เรยี น ดังน้ี สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นขณะทางานรว่ มกนั สังเกตการตอบคาถามของนักเรียนในชั้นเรียน และประเมนิ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โดยใชแ้ บบประเมนิ ตาม สภาพจริง สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ เกมเรยี งลาดบั ตัวเลข 1-9 http://www.phrapiyaroj.com/g/arrange/index.html คลปิ วดี ีโอ THE DECOY EFFECT https://www.youtube.com/watch?v=33aaQdtD20k ใบงานซื้อของฝาก ใบงานเทีย่ วสวนสัตว์ แบบประเมินการเรียนรู้ เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ - ใบงานซ้ือของฝาก - ใบงานเท่ียวสวนสัตว์ ตัวชี้วดั ระดับคะแนน 1 การจดั ทาใบงาน 32 ทาใบงานอย่างเป็นระบบ - ใบงานซอ้ื ของฝาก ชดั เจน ถูกตอ้ ง แตย่ ังไม่ - ใบงานเท่ียวสวนสตั ว์ ทาใบงานอย่างเป็นระบบ ทาใบงานอยา่ งเป็นระบบ ครอบคลุม ชัดเจน ถูกตอ้ ง ครอบคลุม ชัดเจน ถกู ต้อง ครอบคลุม และมีการเช่อื มโยงให้เห็นเปน็ สอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงค์ ภาพรวม สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์
55 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (.................................................................) ตาแหนง่ ................................................ วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งว่างทต่ี รงกับสง่ิ ทที่ าได้ การสงั เกต การวดั การใช้จานวน การจาแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง สเปซกับสเปซ สเปซกับเวลา การจดั กระทาและการส่อื ความหมายข้อมูล การพยากรณ์ การลงความเห็นจากขอ้ มูล การต้ังสมมติฐาน การกาหนดนิยามเชงิ ปฏบิ ตั ิการ การกาหนดและควบคุมตัวแปร การทดลอง การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ การสรา้ งแบบจาลอง นักเรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเคร่อื งหมาย ในช่องว่างท่ีตรงกับทักษะทเ่ี กิด การสร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การสือ่ สาร ความรว่ มมอื การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตาแหน่ง ................................................ วนั ท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........
56 บทท่ี 7 ชาร์ตชารต์ ชารต์ น้องเคยเห็นชารต์ หรือเปลา่ วิชาวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ว14101 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 10 รูปแบบขอ้ มูล ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 2 ชั่วโมง ผูส้ อน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวติ จรงิ อยา่ งเป็นข้ันตอนและเปน็ ระบบใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ รู้เท่าทัน และมจี รยิ ธรรม ตวั ชี้วดั ว 4.2ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟตแ์ วรท์ ห่ี ลากหลาย เพอ่ื แก้ปัญหาในชีวติ ประจาวัน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้สู ตู่ ัวช้ีวัด 1. สามารถรวบรวมข้อมลู และนาเสนอขอ้ มูลรูปแบบตา่ งๆได้ (P) 2. มคี วามรเู้ ก่ียวกบั การรวบรวมข้อมลู และการนาเสนอข้อมูลรปู แบบต่างๆ(K) 3. เป็นคนช่างสังเกต ช่างคิด ช่างสงสัย และเป็นผู้ทีม่ คี วามกระตอื รอื ร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสาคญั การรวบรวมข้อมลู การนาเสนอข้อมลู สาระการเรยี นรู้ ข้อมลู มีหลายรูปแบบ ท้งั ขอ้ ความ รปู ภาพ และข้อมลู เชงิ ปริมาณในรูปแบบของตาราง ข้อมูลน้นั มปี ระโยชน์ การนาเสนอขอ้ มูลท่ีดีจะทาให้ผฟู้ ังเขา้ ใจได้ง่ายขึน้ ข้อมูลแต่ละรูปแบบอาจมี วิธกี ารนาเสนอท่แี ตกตา่ งกนั การนาเสนอข้อมูลเชงิ ปรมิ าณ สามารถนาเสนอในรปู ของแผนภูมิรูปภาพ แผนภมู ิวงกลม แผนภมู ิแท่ง ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 1. การสรา้ งสรรค์ 2. การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ 3. การแก้ปัญหา 4. ความรว่ มมือ 5. การส่ือสาร 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร
57 ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้) ใบงานรวมคา่ ใชจ้ ่าย การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ขน้ั ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยการถามคาถาม ดงั น้ี - หากครมู อบหมายให้นกั เรียนไปสารวจจานวนสิ่งมชี ีวิตบรเิ วณสวนของโรงเรยี น นกั เรียนจะ บันทกึ ข้อมลู อะไรบา้ ง - นักเรียนจะบันทึกขอ้ มูลรูปแบบใด - นกั เรยี นจะใช้อะไรในการบันทกึ ขอ้ มูล (ตอบตามความเข้าใจและประสบการณ์ของนกั เรยี น) ขนั้ ที่ 2 สารวจและค้นหา (exploration) 1. ครูให้นกั เรียนอ่านการ์ตูนชารต์ ชาร์ต ชารต์ นอ้ งเคยเหน็ ชารต์ หรือเปล่า จากหนงั สอื เรียนหน้า 112 ถงึ หนา้ 115 2. ครถู ามคาถามนักเรียนเพือ่ สรปุ การเรยี นรู้จากการอ่านเรอ่ื งทกี่ าหนด ดังนี้ - จากเรื่องทีอ่ า่ นมีเหตุการณ์ใดเกิดข้นึ - จากเรื่องที่อ่านก้อยบันทกึ ข้อมลู มาในรูปแบบใดบ้าง และบันทึกอย่างไร - จากเร่ืองทอี่ ่านโปง้ บันทกึ ข้อมูลมาในรปู แบบใดบ้าง และบนั ทกึ อยา่ งไร - นักเรียนสามารถบันทึกขอ้ มลู แบบต่างๆได้หรือไม่ 3. ครูเช่อื มโยงความร้เู ก่ยี วกับการบนั ทกึ ข้อมลู วา่ สามารถบันทึกได้หลากหลายรูปแบบ เชน่ ความ เรียง รูปภาพ ขอ้ มูลเชงิ ปรมิ าณตาราง การบันทกึ เสยี ง บนั ทกึ วีดีโอ เปน็ ตน้ ขั้นท่ี 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (explanation) 1. ครูแบง่ กลุม่ นักเรียน กล่มุ ละ 4-5 คน และใหน้ ักเรียนหาขอ้ มลู เกย่ี วนา้ หนกั ส่วนสูงของเพ่ือนๆใน ห้องเรยี น พรอ้ มบนั ทกึ ข้อมูลตามขอ้ ตกลงของกลุ่มตนเอง 2. ใหน้ กั เรยี นตัวแทนกลุม่ นาเสนอการบันทกึ ขอ้ มูลของกล่มุ ตนเอง 3. ครูและนักเรียนรว่ มกับเปรยี บเทยี บการบันทึกขอ้ มูลของแตล่ ะกลุ่ม ข้นั ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ ักเรยี นทาใบงานรวมคา่ ใชจ้ า่ ย 2. ครเู ปน็ ท่ปี รกึ ษาในการดาเนินกจิ กรรม
58 ขน้ั ท่ี 5 ประเมิน (evaluation) ครปู ระเมินการเรยี นรู้ของนักเรยี น ดงั นี้ สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะทางานรว่ มกนั สงั เกตการตอบคาถามของนกั เรียนในชนั้ เรยี น ประเมนิ ใบงานรวมค่าใช้จา่ ย และประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 โดยใชแ้ บบประเมินตามสภาพจรงิ ชว่ั โมงท่ี 2 ขนั้ ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนาเขา้ สู่บทเรยี นโดยการสนทนากับนักเรยี นเกยี่ วกบั การบนั ทึกขอ้ มลู เกีย่ วกับนา้ หนัก ส่วนสงู ของ เพอ่ื นๆ วา่ เป็นขอ้ มูลเชงิ ปริมาณ ควรบนั ทกึ ในรูปแบบของตารางแสดงผล และถามคาถามดังนี้ - นกั เรยี นคดิ ว่าการบันทกึ ขอ้ มูลในรปู แบบตารางใชอ้ ะไรในการบนั ทกึ ข้อมูลได้บา้ ง - การบนั ทึกข้อมลู ในรูปแบบตารางสามารถใช้ซอฟตแ์ วร์ได้หรอื ไม่ (สนทนาตามความคิดและประสบการณข์ องนักเรยี น) ขนั้ ที่ 2 สารวจและคน้ หา (exploration) 1. ครใู หน้ กั เรยี นเปิดโปรแกรม Microsoft Excel 2. ครูแนะนาเคร่อื งมือต่างๆในการสรา้ งตารางข้อมูล และการประมวลผลอยา่ งงา่ ย เช่น การคานวณ ผลรวม ผลต่าง เปน็ ต้น 3. ครสู าธิตการสร้างตารางใหน้ ักเรียนดู พร้อมกับใหน้ ักเรียนปฏบิ ัติตามทีละขน้ั ตอน 4. ครูเชอื่ มโยงความรู้เก่ียวกับการบันทกึ ขอ้ มลู เชิงปริมาณด้วยรูปแบบตาราง สามารถบนั ทึกผ่าน ซอฟตแ์ วร์ได้ ดังการใช้โปรแกรม Microsoft Excel เป็นต้น ขั้นท่ี 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (explanation) 1. ครูให้นักเรยี นบันทึกขอ้ มูลรปู แบบตารางโดยใช้โปรแกรม Microsoft Excel จากแผนภูมริ ปู ภาพ ต่อไปน้ี (โดยภาพสตั ว์ 1 ภาพ แทนจานวนสตั ว์ 1 ตัว) ภาพจาก หนังสอื เรียน สสวท. 2. ครูและนักเรยี นสรปุ และตรวจสอบความถกู ต้องรว่ มกนั
59 ข้นั ท่ี 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ ักเรยี นนาใบงานรวมคา่ ใช้จ่าย จากชัว่ โมงที่แลว้ มาสร้างตารางข้อมลู ดว้ ยซอฟตแ์ วร์ โดยใช้ โปรแกรม Microsoft Excel 2. ครเู ปน็ ทป่ี รึกษาในการดาเนนิ กิจกรรม และตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ขน้ั ท่ี 5 ประเมนิ (evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรยี น ดังนี้ สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะทางานรว่ มกนั สังเกตการตอบคาถามของนักเรยี นในชนั้ เรียน ประเมินใบงานรวมค่าใช้จา่ ย การใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel และประเมนิ ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจริง สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ ใบงานรวมค่าใชจ้ ่าย โปรแกรม Microsoft Excel แบบประเมินการเรยี นรู้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมิน - ใบงานรวมคา่ ใช้จ่าย - โปรแกรม Microsoft Excel ตัวชวี้ ดั ระดับคะแนน การทางาน 3 21 - ใบงานรวมค่าใช้จ่าย - โปรแกรม Microsoft Excel ทางานอย่างเปน็ ระบบ ชดั เจน ทางานอย่างเปน็ ระบบ ชดั เจน ทางานอยา่ งเป็นระบบ ถกู ต้อง ครอบคลุมและมกี าร ถูกตอ้ ง ครอบคลุม ชัดเจน ถูกต้อง แตย่ ังไม่ เชอ่ื มโยงใหเ้ ห็นเปน็ ภาพรวม สอดคล้องกับวตั ถุประสงค์ ครอบคลมุ สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์
60 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (.................................................................) ตาแหนง่ ................................................ วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งว่างทต่ี รงกับสง่ิ ทที่ าได้ การสงั เกต การวดั การใช้จานวน การจาแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง สเปซกับสเปซ สเปซกับเวลา การจดั กระทาและการส่อื ความหมายข้อมูล การพยากรณ์ การลงความเห็นจากขอ้ มูล การต้ังสมมติฐาน การกาหนดนิยามเชงิ ปฏบิ ตั ิการ การกาหนดและควบคุมตัวแปร การทดลอง การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ การสรา้ งแบบจาลอง นักเรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเคร่อื งหมาย ในช่องว่างท่ีตรงกับทักษะทเ่ี กิด การสร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การสือ่ สาร ความรว่ มมอื การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตาแหน่ง ................................................ วนั ท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........
บทท่ี 7 ชาร์ตชาร์ตชารต์ นอ้ งเคยเห็นชาร์ตหรือเปล่า วิชาวิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) 6ว114101 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 เลอื กชนิดแผนภูมิให้เหมาะกบั ข้อมูล ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 2 ชวั่ โมง ผูส้ อน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บในชวี ติ จริงอย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ รเู้ ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม ตวั ชี้วดั ว 4.2ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย เพือ่ แก้ปัญหาในชีวิตประจาวนั จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ่ตู ัวชีว้ ดั 1. สามารถรวบรวมขอ้ มลู และนาเสนอขอ้ มูลรูปแบบตา่ งๆได้ (P) 2. มคี วามรู้เกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลและการนาเสนอข้อมูลรปู แบบตา่ งๆ(K) 3. เป็นคนช่างสังเกต ชา่ งคิด ชา่ งสงสัย และเปน็ ผู้ทมี่ ีความกระตือรือรน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสาคญั การรวบรวมขอ้ มูล การนาเสนอข้อมูล การเลือกชนิดแผนภมู ิใหเ้ หมาะกับขอ้ มูล สาระการเรยี นรู้ ข้อมลู มีหลายรูปแบบ ทง้ั ขอ้ ความ รูปภาพ และข้อมูลเชิงปริมาณในรปู แบบของตาราง ข้อมูลนั้นมปี ระโยชน์ การนาเสนอข้อมูลที่ดีจะทาให้ผฟู้ งั เข้าใจได้ง่ายข้นึ ข้อมูลแต่ละรูปแบบอาจมี วธิ กี ารนาเสนอที่แตกต่างกนั การนาเสนอข้อมูลเชงิ ปริมาณ สามารถนาเสนอในรปู ของแผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิวงกลม แผนภมู ิแท่ง ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 1. การสรา้ งสรรค์ 2. การคิดอย่างมีวิจารณญาณ 3. การแก้ปัญหา 4. ความร่วมมือ 5. การสอ่ื สาร 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร
62 ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) ใบงานแผนภมู ิของฉนั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 1-2 ขนั้ ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนาเข้าสู่บทเรยี นดว้ ยการใชน้ กั เรยี นดูภาพแผนภมู แิ บบต่างๆ (ภาพที่ 1-3) แลว้ ถามคาถามนกั เรยี น ดังน้ี ภาพที่ 1 ภาพจากhttp://anothaiyamrum.blogspot.com/2013/09/v-behaviorurldefaultvmlo.html ภาพท่ี 2 ภาพจาก https://www.thaipng.com/png-932ueo/ ภาพท่ี 3 ภาพจาก http://oknation.nationtv.tv/blog/m2/2008/08/05/entry-1
63 - แต่ละภาพคอื แผนภมู ชิ นิดใด - จากแผนภมู ิภาพท่ี 1 สามารถอ่านขอ้ มลู ไดว้ ่ามีสุนัขกตี่ ัว - จากแผนภูมภิ าพที่ 2 ข้อมูลแทง่ ใดมคี ่าของข้อมูลมากท่ีสดุ - จากแผนภูมภิ าพที่ 3 สีใดมีค่าของข้อมูลน้อยท่สี ุด (ตอบตามความเข้าใจและประสบการณ์ของนักเรยี น) ขั้นท่ี 2 สารวจและคน้ หา (exploration) 1. ครใู หน้ ักเรียนเปิดโปรแกรม Microsoft Excel และบนั ทกึ ข้อมลู จานวนสตั ว์ท้งั 5 ชนิด รปู แบบ ตาราง จากแผนภมู ิรปู ภาพตอ่ ไปน้ี ภาพจากhttp://anothaiyamrum.blogspot.com/2013/09/v-behaviorurldefaultvmlo.html 2. ครูสาธติ การสรา้ งแผนภูมวิ งกลม จากขอ้ มูลดงั กลา่ ว พรอ้ มทงั้ แนะนาเคร่อื งมอื ต่างๆเพิม่ เติม สาหรบั สรา้ งกราฟ และแผนภมู ิแท่ง ภาพจาก หนงั สอื เรยี น สสวท.
64 3. ให้นักเรียนสร้างแผนภมู แิ ท่ง และแผนภูมวิ งกลม จากข้อมลู ตารางแสดงจานวนสตั วท์ ัง้ 5 ชนิด 4. ครเู ป็นทีป่ รกึ ษาในกจิ กรรม และตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นท่ี 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. ใหน้ ักเรียนทาใบงานแผนภมู ขิ องฉัน (โดยไมใ่ ช้ซอฟต์แวร์) 2. ให้นกั เรยี นตวั แทนนาเสนอการสร้างแผนภูมิของตนเอง (อาจมีทั้งแผนภมู ิรูปภาพ/แผนภูมแิ ท่ง/ แผนภมู ิวงกลม) 3. ครูและนักเรยี นรว่ มกบั เปรยี บเทยี บแผนภมู ิแบบตา่ งๆ ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ให้นักเรยี นนาผลงานใบงานแผนภมู ิของฉัน (โดยไมใ่ ช้ซอฟตแ์ วร์) มาเปน็ แนวทางในการ ทาแผนภมู ิ ดงั กล่าว โดยใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2. ครเู ป็นทปี่ รึกษาในการดาเนินกิจกรรม ขั้นท่ี 5 ประเมนิ (evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรียน ดงั น้ี สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทางานร่วมกัน สังเกตการตอบคาถามของนักเรียนในช้ันเรียน ประเมินใบงานแผนภมู ิของฉัน การใช้โปรแกรม Microsoft Excel สร้างแผนภมู ิ และประเมินทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจริง สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ ใบงานแผนภมู ิของฉนั โปรแกรม Microsoft Excel แบบประเมินการเรียนรู้ เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ - ใบงานแผนภูมิของฉนั - โปรแกรม Microsoft Excel ตัวชวี้ ดั ระดบั คะแนน การทางาน 3 21 - ใบงานแผนภมู ขิ องฉนั - โปรแกรม Microsoft Excel ทางานอย่างเป็นระบบ ชดั เจน ทางานอย่างเปน็ ระบบ ชัดเจน ทางานอย่างเป็นระบบ ถูกตอ้ ง ครอบคลุมและมกี าร ถกู ต้อง ครอบคลมุ ชดั เจน ถูกตอ้ ง แต่ยังไม่ เชื่อมโยงใหเ้ ห็นเปน็ ภาพรวม สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ ครอบคลมุ สอดคลอ้ งกบั วัตถปุ ระสงค์
65 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (.................................................................) ตาแหนง่ ................................................ วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งว่างทต่ี รงกับสง่ิ ทที่ าได้ การสงั เกต การวดั การใช้จานวน การจาแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง สเปซกับสเปซ สเปซกับเวลา การจดั กระทาและการส่อื ความหมายข้อมูล การพยากรณ์ การลงความเห็นจากขอ้ มูล การต้ังสมมติฐาน การกาหนดนยิ ามเชิงปฏบิ ตั ิการ การกาหนดและควบคุมตัวแปร การทดลอง การตคี วามหมายและลงขอ้ สรุป การสรา้ งแบบจาลอง นักเรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเคร่อื งหมาย ในช่องวา่ งทต่ี รงกบั ทกั ษะทเ่ี กิด การสร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การสือ่ สาร ความรว่ มมอื การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตาแหน่ง ................................................ วนั ท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........
66 บทท่ี 7 ชารต์ ชาร์ตชารต์ นอ้ งเคยเหน็ ชาร์ตหรือเปลา่ วชิ าวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ว14101 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 12 ใช้ซอฟต์แวรใ์ นการนาเสนอข้อมลู ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 2 ชั่วโมง ผสู้ อน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ิตจรงิ อย่างเปน็ ข้ันตอนและเปน็ ระบบใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวช้ีวัด ว 4.2ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวรท์ ่หี ลากหลาย เพ่อื แก้ปัญหาในชีวติ ประจาวัน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สตู่ ัวชีว้ ดั 1. สามารถใชซ้ อฟตแ์ วรใ์ นการนาเสนอขอ้ มูลได้ (P) 2. มีความรเู้ ก่ียวกบั การใช้ซอฟต์แวรใ์ นการนาเสนอข้อมลู (K) 3. เป็นคนชา่ งสงั เกต ช่างคดิ ช่างสงสัย และเปน็ ผู้ทมี่ ีความกระตือรือร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสาคัญ การรวบรวมข้อมูล การนาเสนอขอ้ มูล การเลอื กชนดิ แผนภูมใิ ห้เหมาะกับข้อมูล การใชซ้ อฟต์แวร์ในการนาเสนอข้อมลู สาระการเรยี นรู้ ขอ้ มลู มหี ลายรูปแบบ ทง้ั ข้อความ รูปภาพ และข้อมูลเชงิ ปริมาณในรูปแบบของตาราง ขอ้ มลู นั้นมปี ระโยชน์ การนาเสนอข้อมูลทีด่ จี ะทาใหผ้ ้ฟู งั เขา้ ใจไดง้ ่ายขึ้น ข้อมูลแต่ละรปู แบบอาจมี วิธกี ารนาเสนอทแ่ี ตกตา่ งกนั การนาเสนอขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ สามารถนาเสนอในรปู ของแผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิวงกลม แผนภูมิแท่ง ซอฟตแ์ วร์ที่ใช้ในการสร้างแผนภูมิรปู ภาพ เช่น ซอฟตแ์ วรก์ ราฟิก ซอฟต์แวรท์ ่ใี ช้ในการสรา้ งแผนภมู ิวงกลม แผนภมู ิแท่ง เช่น ซอฟต์แวรต์ ารางทางาน แผนภูมทิ ุกชนดิ มปี ระโยชน์ แต่ละชนดิ จะมขี ้อจากดั ท่ีแตกต่างกัน ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกบั ชนิด ขอ้ มลู และจุดประสงคข์ องการนาเสนอ
67 ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 1. การสร้างสรรค์ 2. การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ 3. การแก้ปญั หา 4. ความรว่ มมอื 5. การสื่อสาร 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความร้)ู ไฟล์งานนาเสนอ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ชวั่ โมงท่ี 1-2 ขน้ั ท่ี 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครูนาเขา้ สู่บทเรียนด้วยการทบทวนความรู้จากชั่วโมงท่แี ล้ว และถามคาถามดงั นี้ - นักเรยี นใชซ้ อฟตแ์ วร์อะไรในการสร้างแผนภูมิ - แผนภมู ิมกี ี่รปู แบบ อะไรบ้าง - นักเรยี นสามารถสรา้ งแผนภูมแิ บบต่างๆไดห้ รือไม่ (ตอบตามความเข้าใจและประสบการณ์ของนกั เรียน) ขั้นท่ี 2 สารวจและคน้ หา (exploration) 1. ครูใหน้ ักเรียนอ่านการต์ ูนจากหนังสือเรยี นหน้าที่ 120 ถงึ หน้า 124 2. ครถู ามคาถามนักเรียนเพอ่ื สรปุ การเรียนรู้จากการอา่ นเร่ืองทีก่ าหนด ดงั น้ี - จากเรื่องที่อ่านมีเหตกุ ารณใ์ ดเกดิ ขึ้น - จากเร่ืองที่อ่านควรนาเสนอขอ้ มูลความเร็ว ด้วยแผนภมู ิแบบใดจึงจะเหมาะสม - จากเรอ่ื งทีอ่ ่านโปง้ บันทึกขอ้ มูลมาในรปู แบบใดบ้าง และบันทกึ อย่างไร - นักเรยี นสามารถบนั ทึกขอ้ มูลแบบต่างๆได้หรือไม่ 3. ครูเช่ือมโยงความรู้วา่ แผนภมู ทิ ุกชนดิ มปี ระโยชน์ แต่ละชนิดจะมีข้อจากัดทีแ่ ตกตา่ งกนั ควร เลือกใช้ให้เหมาะสมกบั ชนิดข้อมูล และจุดประสงคข์ องการนาเสนอ ขั้นท่ี 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (explanation) 1. ครูใหน้ ักเรียนเปิดโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2. ครูแนะนาเครื่องมือต่างๆในการสรา้ งงานเพอ่ื นาเสนอขอ้ มลู 3. ครูสาธติ การสร้างงานนาเสนอข้อมลู เก่ยี วกับปรมิ าณขยะ ทั้ง 4 ประเภท พรอ้ มกับให้นกั เรียน ปฏบิ ัติตามทลี ะขัน้ ตอน
68 4. ครูเชอ่ื มโยงความร้เู กี่ยวกับการสร้างแผนภมู ิในโปรแกรม Microsoft Excel และนาข้อมูลน้นั มาใช้ ในการสร้างงานนาเสนอ ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint ขนั้ ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ กั เรยี นสร้างงานนาเสนอเกย่ี วกบั ขยะประเภทตา่ งๆ และแสดงปริมาณขยะดังตารางในข้นั ท่ี 3 โดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft PowerPoint 2. นักเรยี นตัวแทนนาเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรียน 3. ครูเป็นทีป่ รกึ ษาในการดาเนินกิจกรรม ขั้นท่ี 5 ประเมนิ (evaluation) ครปู ระเมินการเรยี นรู้ของนักเรยี น ดงั นี้ สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะทางานรว่ มกัน สังเกตการตอบคาถามของนักเรียนในชัน้ เรยี น ประเมินงานนาเสนอโดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint และประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ โปรแกรม Microsoft PowerPoint แบบประเมินการเรยี นรู้ เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมิน - งานนาเสนอ ตัวช้ีวดั ระดับคะแนน 1 - งานนาเสนอ 32 ผลงานเป็นระบบ ชดั เจน ถกู ต้อง แต่ยังไม่ ผลงานเป็นระบบ ชดั เจน ผลงานเป็นระบบ ชัดเจน ครอบคลุม ถูกตอ้ ง ครอบคลมุ และมกี าร ถูกต้อง ครอบคลุม เชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ เป็นภาพรวม สอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงค์ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
69 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (.................................................................) ตาแหนง่ ................................................ วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งว่างทต่ี รงกับสง่ิ ทที่ าได้ การสงั เกต การวดั การใช้จานวน การจาแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง สเปซกับสเปซ สเปซกับเวลา การจดั กระทาและการส่อื ความหมายข้อมูล การพยากรณ์ การลงความเห็นจากขอ้ มูล การต้ังสมมติฐาน การกาหนดนยิ ามเชิงปฏบิ ตั ิการ การกาหนดและควบคุมตัวแปร การทดลอง การตคี วามหมายและลงขอ้ สรุป การสรา้ งแบบจาลอง นักเรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเคร่อื งหมาย ในช่องวา่ งทต่ี รงกบั ทกั ษะทเ่ี กิด การสร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การสือ่ สาร ความรว่ มมอื การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตาแหน่ง ................................................ วนั ท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........
70 บทท่ี 8 อยา่ ไว้ใจทาง อย่าวางใจขา่ ว วชิ าวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ว14101 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 13 ประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถือของข้อมูล ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 3 ชัว่ โมง ผู้สอน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวิตจรงิ อยา่ งเปน็ ขั้นตอนและเปน็ ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ร้เู ทา่ ทัน และมีจริยธรรม ตวั ช้ีวดั ว 4.2ป.4/3 ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ค้นหาความรู้ และประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้สู ู่ตัวชวี้ ัด 1. สามารถใชอ้ ินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้ และประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถอื ของข้อมลู ได้ (P) 2. มคี วามรู้เกีย่ วกับการใช้อินเทอร์เนต็ ค้นหาความรู้ และประเมนิ ความน่าเชื่อถอื ของข้อมลู (K) 3. เป็นคนช่างสงั เกต ชา่ งคดิ ช่างสงสยั และเปน็ ผู้ท่มี คี วามกระตอื รอื ร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสาคญั การประเมินความน่าเชื่อถือของขอ้ มลู การอา้ งองิ แหล่งทม่ี า สาระการเรยี นรู้ การประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถอื ของขอ้ มลู ในเวบ็ ไซต์สามารถพจิ ารณาได้จากหนว่ ยงานหรอื เจ้าของเนอ้ื หา ที่เผยแพร่ ผูเ้ ขยี น วันทีเ่ ผยแพรข่ อ้ มลู การอ้างองิ แหลง่ ขอ้ มูล ลกั ษณะสาคญั ของขา่ วลวง คือมกั กระตนุ้ อารมณ์ของผอู้ า่ นใหเ้ กดิ ความรู้สกึ เช่น ความกลัว ความโลภ ความเกลียดชัง เมอื่ ได้รับข่าวสารทางสอ่ื สงั คม ควรตรวจสอบและประเมินความนา่ เช่อื ถือทุกคร้งั สอ่ื สงั คมมีทัง้ ประโยชน์และโทษ ควรใช้อยา่ งเหมาะสม และระมัดระวัง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1. การสรา้ งสรรค์ 2. การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ 3. การแก้ปัญหา 4. ความร่วมมือ 5. การสอ่ื สาร 6. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร
71 ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร้)ู ใบงานรู้ทนั ข่าว การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่วั โมงที่ 1 ขน้ั ท่ี 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครูนาเข้าสู่บทเรียนโดยการถามคาถาม ดงั นี้ - นักเรียนเคยไดร้ บั ข่าวสารทไ่ี มเ่ ป็นความจริงบา้ งหรอื ไม่ ยกตัวอยา่ งข่าวทไ่ี มจ่ รงิ - นกั เรียนเคยบอกต่อข่าวสารหรอื ข้อมลู โดยไม่ตรวจสอบกอ่ นหรือไม่ (ตอบตามความเข้าใจและประสบการณ์ของนักเรยี น) ขน้ั ที่ 2 สารวจและค้นหา (exploration) 1. ครูใหน้ ักเรียนอ่านการต์ นู อยา่ ไวใ้ จทาง อยา่ วางใจขา่ ว จากหนงั สือเรียนหนา้ 132 ถงึ หน้า 136 2. ครูถามคาถามนกั เรียนเพอ่ื สรุปการเรยี นร้จู ากการอ่านเร่อื งท่ีกาหนด ดงั นี้ - จากเรอ่ื งทีอ่ ่านมีเหตุการณใ์ ดเกดิ ขึ้น - จากเรื่องท่ีอา่ นขา่ วน่าเช่ือถือเป็นอย่างไร - จากเรื่องที่อ่านขา่ วลวงเป็นอย่างไร - นักเรยี นสามารถแยกแยะขา่ วจริงกับขา่ วลวงได้หรอื ไม่ 3. ครูเชอ่ื มโยงความรูเ้ กีย่ วกับการประเมนิ ความนา่ เชื่อถอื ของขอ้ มลู ในเว็บไซตส์ ามารถพิจารณาได้ จากหน่วยงานหรือเจา้ ของเน้ือหาท่เี ผยแพร่ ผเู้ ขียน วันทีเ่ ผยแพร่ขอ้ มลู การอา้ งองิ แหล่งข้อมลู ข้นั ที่ 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (explanation) 1. ครแู บ่งกลุ่มนักเรยี น กลุ่มละ 4-5 คน และให้นักเรยี นศกึ ษาขอ้ มลู จากภาพตอ่ ไปนี้ และร่วมกนั สรปุ ความรู้ เกีย่ วกับการแยกแยะข่าวลวงและข่าวจรงิ ภาพจาก https://www.catcyfence.com
72 2. ใหน้ ักเรียนตัวแทนกลุ่มนาเสนอวิธีการแยกแยะข่าวลวงและข่าวจรงิ ของกลุ่มตนเอง ขน้ั ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ กั เรยี นทาใบงานรูท้ นั ข่าว 2. ครูเปน็ ที่ปรึกษาในการดาเนนิ กจิ กรรม ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ของนกั เรียน ดงั น้ี สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะทางานร่วมกนั สังเกตการตอบคาถามของนักเรียนในชนั้ เรียน ประเมนิ ใบงานรู้ทนั ข่าว และประเมินทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 โดยใชแ้ บบประเมนิ ตามสภาพจริง ชว่ั โมงท่ี 2-3 ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (engagement) ครนู าเข้าสู่บทเรียนโดยการสนทนากบั นักเรียนเกี่ยวกบั ลกั ษณะของขา่ วลวง และการตรวจสอบขอ้ มลู ของข่าว และถามคาถามดงั น้ี - หากมขี อ้ มูลจากสอ่ื สงั คมส่งต่อกันมาว่า “โรงเรยี นประกาศปดิ เรียนเปน็ เวลา 5 วนั ” นักเรยี นจะ ตรวจสอบข้อมูลขา่ วไดอ้ ย่างไร (สนทนาตามความคิดและประสบการณ์ของนกั เรยี น) ขนั้ ท่ี 2 สารวจและค้นหา (exploration) 1. ครูเปดิ คลิปวดี โี อขา่ วลือข่าวลวง https://www.youtube.com/watch?v=PD_aYUP0_I4 ให้ นกั เรยี นดู 2. ครูถามคาถามนกั เรียนเพอ่ื สรุปการเรยี นร้จู ากคลปิ วดี โี อ ดงั นี้ - จากคลปิ วีดีโอมีเหตุการณ์ใดเกิดขน้ึ - จากคลิปวดี โี อมขี ่าวลวงใดบ้าง - ข่าวลวงส่งผลเสียอย่างไรบา้ ง 3. ครูเช่อื มโยงความรเู้ กี่ยวกบั การได้รับขา่ วสารทางส่อื สังคม ควรตรวจสอบและประเมนิ ความ น่าเช่ือถือทุกคร้ัง ขั้นที่ 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (explanation) 1. ครูแสดงภาพต่อไปน้ใี หน้ ักเรยี นศึกษา และแบง่ กลมุ่ นักเรยี นเพอ่ื ร่วมกนั วิเคราะหข์ ้อมลู จากภาพ 2. นกั เรียนตวั แทนกลุ่มนาเสนอผลการ วเิ คราะหข์ อ้ มลู ของกลุม่ ตนเอง
73 ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ให้นักเรยี นหาข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ น็ตเพือ่ นามาวิเคราะหข์ ้อมูลจากขัน้ ที่ 3 อีกครงั้ 2. ให้แต่ละกลมุ่ นาเสนอข้อมูลทสี่ ืบคน้ ได้ และสรุปวา่ เปน็ ข่าวจรงิ หรอื ข่าวลวง 3. ครูเปน็ ที่ปรกึ ษาในการดาเนนิ กิจกรรม ข้นั ท่ี 5 ประเมนิ (evaluation) ครปู ระเมินการเรียนรู้ของนักเรยี น ดังนี้ สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะทางานรว่ มกัน สังเกตการตอบคาถามของนกั เรยี นในชั้นเรยี น การวเิ คราะห์ข่าวจริง/ข่าวลวง และประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษ ท่ี 21 โดยใชแ้ บบประเมนิ ตามสภาพจรงิ ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ คลปิ วดี โี อข่าวลือข่าวลวง https://www.youtube.com/watch?v=PD_aYUP0_I4 ใบงานรู้ทนั ขา่ ว แบบประเมินการเรยี นรู้ เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมนิ - ใบงานรทู้ ันข่าว ตวั ช้วี ัด ระดบั คะแนน 1 การจัดทาใบงาน 32 ทาใบงานอยา่ งเป็นระบบ - ใบงานรู้ทนั ขา่ ว ชดั เจน ถกู ต้อง แตย่ งั ไม่ ทาใบงานอย่างเป็นระบบ ทาใบงานอย่างเป็นระบบ ครอบคลุม ชดั เจน ถูกตอ้ ง ครอบคลมุ ชัดเจน ถูกตอ้ ง ครอบคลมุ และมกี ารเชื่อมโยงใหเ้ ห็นเป็น สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ ภาพรวม สอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์
74 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (.................................................................) ตาแหนง่ ................................................ วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งว่างทต่ี รงกับสง่ิ ทที่ าได้ การสงั เกต การวดั การใช้จานวน การจาแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง สเปซกับสเปซ สเปซกับเวลา การจดั กระทาและการส่อื ความหมายข้อมูล การพยากรณ์ การลงความเห็นจากขอ้ มูล การต้ังสมมติฐาน การกาหนดนิยามเชงิ ปฏบิ ตั ิการ การกาหนดและควบคุมตัวแปร การทดลอง การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ การสรา้ งแบบจาลอง นักเรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเคร่อื งหมาย ในช่องว่างท่ีตรงกับทักษะทเ่ี กิด การสร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การสือ่ สาร ความรว่ มมอื การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตาแหน่ง ................................................ วนั ท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........
75 บทท่ี 8 อยา่ ไว้ใจทาง อย่าวางใจข่าว วิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ว14101 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 14 อา้ งอิงแหล่งท่ีมาของข้อมูล ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 2 ช่ัวโมง ผสู้ อน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ญั หาท่ีพบในชีวิตจรงิ อยา่ งเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม ตวั ชี้วัด ว 4.2ป.4/3 ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ คน้ หาความรู้ และประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือของขอ้ มูล จุดประสงค์การเรียนรสู้ ูต่ ัวชี้วัด 1. สามารถใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ คน้ หาความรู้ ประเมนิ ความน่าเชือ่ ถือของขอ้ มลู และอ้างอิงแหลง่ ทม่ี าของ ขอ้ มูลได้ (P) 2. มคี วามรเู้ กย่ี วกบั การใช้อินเทอรเ์ นต็ ค้นหาความรู้ ประเมินความนา่ เชือ่ ถือของข้อมลู และ อา้ งอิง แหลง่ ท่ีมาของข้อมูล (K) 3. เปน็ คนช่างสังเกต ชา่ งคดิ ชา่ งสงสัย และเปน็ ผู้ที่มคี วามกระตอื รือรน้ ในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสาคญั การประเมนิ ความน่าเชื่อถอื ของข้อมลู การอา้ งองิ แหลง่ ทีม่ า การอา้ งอิงแหล่งที่มาของข้อมูล สาระการเรยี นรู้ การประเมินความน่าเชอื่ ถอื ของขอ้ มลู ในเว็บไซต์สามารถพิจารณาได้จากหนว่ ยงานหรอื เจ้าของเนื้อหา ที่เผยแพร่ ผเู้ ขยี น วันท่ีเผยแพร่ขอ้ มลู การอา้ งอิงแหล่งข้อมูล การอ้างอิงแหล่งทมี่ าของข้อมูลทาใหข้ อ้ มลู ทีแ่ สดงมีความน่าเชื่อถอื ชว่ ยใหผ้ ู้ใช้ข้อมูลสามารถค้นคว้า เพิ่มเตมิ จากแหลง่ ที่อา้ งถงึ และเป็นการแสดงสทิ ธิแกผ่ เู้ ปน็ เจ้าของข้อมูล ลกั ษณะสาคัญของขา่ วลวง คือมกั กระตุน้ อารมณข์ องผู้อา่ นใหเ้ กิดความรู้สกึ เชน่ ความกลัว ความโลภ ความเกลยี ดชงั เมอื่ ได้รบั ข่าวสารทางสือ่ สงั คม ควรตรวจสอบและประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถือทกุ ครง้ั สอ่ื สังคมมที ัง้ ประโยชนแ์ ละโทษ ควรใช้อยา่ งเหมาะสม และระมัดระวงั
76 ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 1. การสร้างสรรค์ 2. การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 3. การแกป้ ญั หา 4. ความร่วมมอื 5. การสอื่ สาร 6. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความร้)ู ใบงานทารายงาน การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงท่ี 1-2 ขั้นที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครนู าเขา้ สู่บทเรยี นโดยการถามคาถาม ดังนี้ - นักเรียนเคยคน้ หาข้อมูลเพือ่ ทารายงานจากแหล่งขอ้ มลู ใด และมีการอ้างองิ แหล่งข้อมูลหรือไม่ (ตอบตามความเข้าใจและประสบการณ์ของนกั เรยี น) ขั้นท่ี 2 สารวจและค้นหา (exploration) 1. ครใู ห้นักเรยี นคน้ หาข้อมลู เกีย่ วกบั ดาวเคราะห์ในระบบสรุ ิยะจกั รวาล โดยการจับสลากช่ือดาว เคราะหท์ ัง้ 8 ดวง เพ่อื เป็นหวั ข้อในการคน้ หาขอ้ มลู 2. ครูใหน้ ักเรียนเลอื กข้อมูลเก่ียวกบั ดาวเคราะห์ที่จับสลากได้ พรอ้ มแสดงทีม่ าได้แก่ ยอู าร์แอล ชื่อ ผ้เู ขยี น วนั ท่เี ผยแพร่ข้อมลู แหล่งที่มาของขอ้ มูล เพอ่ื แสดงความนา่ เชื่อถือ 3. ครูเชื่อมโยงความรเู้ ก่ียวกบั การประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถือของข้อมลู ในเวบ็ ไซต์สามารถพจิ ารณาได้ จากหนว่ ยงานหรือเจ้าของเนื้อหาทเี่ ผยแพร่ ผู้เขยี น วันที่เผยแพรข่ ้อมลู การอา้ งองิ แหลง่ ขอ้ มลู ขน้ั ที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. ครูให้นักเรียนตัวแทนนาเสนอข้อมูลเกยี่ วกับดาวเคราะห์ท้งั 8 ดวง พร้อมท้ังแสดงแหล่งที่มาของ ขอ้ มลู 2. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั พิจารณาวเิ คราะห์ความน่าเช่อื ถอื ขน้ั ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ ักเรียนทาใบงานทารายงาน 2. ครเู ป็นท่ีปรกึ ษาในการดาเนินกจิ กรรม
77 ขน้ั ท่ี 5 ประเมนิ (evaluation) ครูประเมินการเรียนรู้ของนักเรยี น ดงั น้ี สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะทางานรว่ มกัน สงั เกตการตอบคาถามของนกั เรียนในช้นั เรียน ประเมินใบงานทารายงาน และประเมนิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 โดยใชแ้ บบประเมินตามสภาพจริง ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ สลากช่ือดาวเคราะหท์ ้ัง 8 ดวง ใบงานทารายงาน แบบประเมินการเรยี นรู้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมิน - ใบงานทารายงาน ตวั ช้วี ัด ระดับคะแนน 1 การจดั ทาใบงาน 32 ทาใบงานอยา่ งเปน็ ระบบ - ใบงานทารายงาน ชัดเจน ถูกต้อง แตย่ งั ไม่ ทาใบงานอย่างเป็นระบบ ทาใบงานอย่างเป็นระบบ ครอบคลุม ชดั เจน ถูกต้อง ครอบคลมุ ชดั เจน ถูกตอ้ ง ครอบคลุม และมีการเชื่อมโยงใหเ้ หน็ เป็น สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ ภาพรวม สอดคลอ้ งกับ วัตถุประสงค์
78 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรือผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตาแหน่ง ................................................ วนั ท่ี.......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะใดบา้ ง ทาเครอ่ื งหมาย ในชอ่ งวา่ งทตี่ รงกับสง่ิ ทที่ าได้ การสงั เกต การวดั การใช้จานวน การจาแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง สเปซกบั สเปซ สเปซกับเวลา การจดั กระทาและการสอ่ื ความหมายข้อมูล การพยากรณ์ การลงความเหน็ จากขอ้ มูล การตัง้ สมมตฐิ าน การกาหนดนิยามเชงิ ปฏบิ ตั ิการ การกาหนดและควบคุมตัวแปร การทดลอง การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ การสร้างแบบจาลอง นักเรยี นเกิดทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ใดบา้ ง ทาเครอื่ งหมาย ในช่องว่างที่ตรงกับทักษะทเ่ี กิด การสรา้ งสรรค์ การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ การแก้ปญั หา การสอ่ื สาร ความร่วมมอื การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตาแหนง่ ................................................ วันท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........
79 บทท่ี 9 บ้ังไฟบปุ ผชาติ วชิ าวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ว14101 แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 15 ทานายผลลพั ธ์จากขน้ั ตอนการแก้ปญั หา ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 5 ชว่ั โมง ผ้สู อน ............................................................................... มาตรฐาน มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ญั หาทพี่ บในชวี ติ จริงอยา่ งเปน็ ขั้นตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ รูเ้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม ตัวช้ีวัด ว 4.2ป.4/2 ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื สือ่ และตรวจหาข้อผดิ พลาดและ แก้ไข จุดประสงคก์ ารเรยี นร้สู ตู่ ัวช้ีวัด 1. สามารถทานายผลลพั ธ์จากข้ันตอนการแกป้ ญั หาได้ (P) 2. มีความรเู้ กีย่ วกับการทานายผลลัพธ์จากข้ันตอนการแก้ปญั หา (K) 3. เป็นคนชา่ งสังเกต ช่างคดิ ช่างสงสัย และเป็นผู้ที่มีความกระตอื รอื ร้นในการเสาะแสวงหาความรู้ (A) สาระสาคญั การทานายผลลพั ธ์จากขัน้ ตอนการแกป้ ญั หา สาระการเรยี นรู้ ผลลัพธ์ของโปรแกรม ขึ้นกบั สถานะเริม่ ตน้ และคาสั่งของโปรแกรม การทานายผลลพั ธ์ทาไดโ้ ดยพิจารณาเง่ือนไขของปญั หาและทาตามคาส่ังของโปรแกรมทลี ะขั้นตอน อยา่ งรอบคอบ เมือ่ พบข้นั ตอนที่ทาให้ผลลพั ธ์ของโปรแกรมไมเ่ ป็นไปตามท่คี าดหวงั หรอื ไม่สอดคลอ้ งตามเงอื่ นไขของ โจทย์ แสดงวา่ อาจมขี อ้ ผดิ พลาดเกิดขนึ้ ควรทาการแกไ้ ขเพือ่ นาสู่ผลลัพธ์ท่ีถกู ต้อง ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 1. การสร้างสรรค์ 2. การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ 3. การแกป้ ัญหา 4. ความรว่ มมอื 5. การส่ือสาร 6. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร
80 ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้ ใบงานตัวเลขดิจิตอล ใบงานขน้ั ตอนการทางาน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชวั่ โมงที่ 1-2 ขน้ั ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยการถามคาถาม ดงั น้ี - ถ้าบนั ไดมี 10 ขั้น นกั เรยี นขนึ้ ข้ันที่ 1 ด้วยเทา้ ซ้าย เมื่อถึงข้นั สดุ ทา้ ยจะขน้ึ ดว้ ยเท้าใด เพราะเหตใุ ด - ผลลัพธ์จะเหมือนกนั ทกุ คร้ังหรือไม่ ข้ึนอย่กู บั อะไร (ตอบตามความเข้าใจและประสบการณ์ของนกั เรียน) ข้ันที่ 2 สารวจและคน้ หา (exploration) 1. ครูให้นกั เรียนอา่ นการต์ นู บัง้ ไฟบุปผชาติ จากหนังสอื เรยี นหน้า 148 ถึง หนา้ 160 2. ครถู ามคาถามนักเรยี นเพือ่ สรปุ การเรยี นรู้จากการอา่ นเร่อื งทก่ี าหนด ดงั น้ี - จากเร่อื งทอ่ี ่านมเี หตุการณใ์ ดเกิดข้ึน - จากเรอื่ งทีอ่ า่ นลงุ ต้องการให้ทานายผลลพั ธข์ องโปรแกรมกี่โปรแกรม - นกั เรยี นสามารถชว่ ยทานายโปรแกรมไดห้ รือไม่ มีวธิ กี ารอยา่ งไร 3. ครูเชอ่ื มโยงความรู้วา่ การทานายผลลัพธ์ทาได้โดยพิจารณาเงื่อนไขของปัญหาและทาตามคาส่งั ของ โปรแกรมทีละขัน้ ตอนอยา่ งรอบคอบ ขั้นท่ี 3 อธบิ ายและลงข้อสรุป (explanation) 1. ครแู บง่ กลุม่ นกั เรยี น กลมุ่ ละ 4-5 คน และให้นักเรยี นศกึ ษาแผนภาพตอ่ ไปน้ี ภาพจาก หนงั สือเรยี น สสวท.
81 2. ใหน้ กั เรยี นหาผลลพั ธ์ของโปรแกรม ดังหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้ ให้นกั เรียนเดินทางจากจุดเรม่ิ ต้นไปยังเคร่อื งเลน่ 3 ชนดิ จากแผนภาพและบัตรคาสงั่ (กาหนดให้ 1 ช่อง เท่ากับ ระยะทาง 10 เมตร ) **ห้ามเดินพนื้ ทสี่ ฟี ้า - การเดินทางตามบัตรคาสง่ั ผิดพลาดท่ีคาส่ังใด - จากบัตรคาสั่ง ลาดับการเดนิ ทางไปยงั เครื่อง เลน่ จะเป็นแบบใด - นกั เรยี นสามารถลดบัตรคาสัง่ เพ่อื ให้ได้ผลลัพธ์ เดยี วกนั หรือไม่ อย่างไร 3. นกั เรยี นตัวแทนกล่มุ นาเสนอผลการหาผลลพั ธ์ของโปรแกรม และการแก้ไขโปรแกรม ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ให้นกั เรียนทาใบงานตัวเลขดิจติ อล 2. ครูเปน็ ท่ีปรกึ ษาในการดาเนินกจิ กรรม ขั้นที่ 5 ประเมิน (evaluation) ครูประเมินการเรยี นรู้ของนกั เรยี น ดงั นี้ สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะทางานร่วมกัน สงั เกตการตอบคาถามของนกั เรยี นในชน้ั เรียน ประเมินใบงานตัวเลขดิจิตอลและประเมนิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 โดยใช้แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ ชว่ั โมงท่ี 3-5 ข้ันที่ 1 สรา้ งความสนใจ (engagement) ครนู าเขา้ สู่บทเรียนโดยการสนทนาเกี่ยวกับการคาดการณ์ผลลัพธ์ของโปรแกรมจากชว่ั โมงทแี่ ล้ว และ ถามคาถามดงั นี้ - ผลลพั ธข์ องโปรแกรมขึ้นอยู่กบั อะไร - การทานายผลลพั ธ์ทาไดอ้ ย่างไร (สนทนาตามความคิดและประสบการณข์ องนักเรียน)
82 ขนั้ ที่ 2 สารวจและค้นหา (exploration) 1. ครใู หน้ กั เรียนอ่านการ์ตนู บ้ังไฟบุปผชาติ จากหนงั สือเรียนหนา้ 162 ถงึ หนา้ 168 2. ครถู ามคาถามนกั เรียนเพอื่ สรุปการเรียนรู้จากการอ่านเรอ่ื งทกี่ าหนด ดังน้ี - จากเรื่องท่อี า่ นมีเหตุการณใ์ ดเกิดขึ้น - จากเร่อื งทอ่ี า่ นผลลัพธเ์ ปน็ อย่างไร - นักเรียนสามารถชว่ ยทานายโปรแกรมได้หรือไม่ มวี ิธีการอยา่ งไร 3. ครูเช่อื มโยงความรู้ว่าการทานายผลลัพธท์ าไดโ้ ดยพิจารณาเงอื่ นไขของปญั หาและทาตามคาส่งั ของ โปรแกรมทลี ะขนั้ ตอนอยา่ งรอบคอบ ขน้ั ท่ี 3 อธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. แบ่งนกั เรยี นกล่มุ ละ 4-5 คน และกาหนดสถานการณใ์ หน้ กั เรียนรว่ มกันแกป้ ญั หา “ณ สองฝั่งน้า ฝั่งหนงึ่ มี ลงิ สนุ ัข แมว และหนู สัตว์ทงั้ 4 ตวั ตอ้ งข้ามฟากไปอีกฝง่ั หน่ึง โดยมีเรือหนึ่ง ลา และมเี งอื่ นไขดังนี้ - เรอื สามารถบรรทุกสัตว์ได้คร้งั ละ ไมเ่ กิน 2 ตัว - หนกู ลวั แมว จึงปลอ่ ยหนูกบั แมวอย่ตู ามลาพังไมไ่ ด้ - แมวกลวั สุนัข จงึ ปลอ่ ยแมวอยกู่ ับสนุ ัขตามลาพงั ไมไ่ ด้ - สตั ว์ทกุ ตวั สามารถพายเรือได้” 2. นักเรยี นตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลการแก้ปัญหา ขนั้ ที่ 4 ขยายความรู้ (elaboration) 1. ใหน้ กั เรยี นทาใบงานขน้ั ตอนการทางาน 2. ครูเป็นที่ปรกึ ษาในการดาเนนิ กจิ กรรม ขัน้ ที่ 5 ประเมนิ (evaluation) ครปู ระเมินการเรยี นรู้ของนักเรียน ดงั นี้ สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะทางานรว่ มกนั สงั เกตการตอบคาถามของนกั เรยี นในชั้นเรยี น ประเมนิ ใบงานข้ันตอนการทางาน และประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 โดยใชแ้ บบประเมินตามสภาพจรงิ สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ ใบงานตัวเลขดิจติ อล ใบงานขัน้ ตอนการทางาน
83 แบบประเมนิ การเรียนรู้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบประเมนิ - ใบงานตวั เลขดิจิตอล - ใบงานข้นั ตอนการทางาน ตวั ชี้วัด ระดบั คะแนน 1 การจดั ทาใบงาน 32 ทาใบงานอยา่ งเป็นระบบ - ใบงานตวั เลขดิจิตอล ชดั เจน ถูกต้อง แต่ยงั ไม่ - ใบงานขั้นตอนการทางาน ทาใบงานอย่างเป็นระบบ ทาใบงานอย่างเปน็ ระบบ ครอบคลมุ ชดั เจน ถูกตอ้ ง ครอบคลมุ ชัดเจน ถูกตอ้ ง ครอบคลมุ และมีการเชื่อมโยงให้เหน็ เป็น สอดคล้องกับวตั ถปุ ระสงค์ ภาพรวม สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์
84 ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................................. (.................................................................) ตาแหนง่ ................................................ วันท่.ี ......เดือน........................พ.ศ. .......... บันทึกหลงั สอน ผลการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. นกั เรยี นเกดิ ทักษะใดบา้ ง ทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งว่างทต่ี รงกับสง่ิ ทที่ าได้ การสงั เกต การวดั การใช้จานวน การจาแนกประเภท การหาความสมั พันธร์ ะหวา่ ง สเปซกับสเปซ สเปซกับเวลา การจดั กระทาและการส่อื ความหมายข้อมูล การพยากรณ์ การลงความเห็นจากขอ้ มูล การต้ังสมมติฐาน การกาหนดนิยามเชงิ ปฏบิ ตั ิการ การกาหนดและควบคุมตัวแปร การทดลอง การตคี วามหมายและลงขอ้ สรปุ การสรา้ งแบบจาลอง นักเรยี นเกดิ ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ใดบา้ ง ทาเคร่อื งหมาย ในช่องว่างท่ีตรงกับทักษะทเ่ี กิด การสร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การสือ่ สาร ความรว่ มมอื การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ตาแหน่ง ................................................ วนั ท.ี่ ......เดือน........................พ.ศ. ..........
Search