Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่อการสอนภาษาอังกฤษ

สื่อการสอนภาษาอังกฤษ

Published by ssuya2546, 2021-09-11 09:11:21

Description: สื่อการสอนภาษาอังกฤษ

Search

Read the Text Version

ส่ือการสอนภาษาองั กฤษ เรื่อง Part of speech by KruJiraporn Chatkoh

สารบญั หนา้ Part of speech คืออะไร 1 3 Part of speech เขียนอยา่ งไรใหถ้ ูก 4 1 5 Part of speech หนา้ ท่ีคืออะไร 15 1 Part of speech มีก่ีชนิดหรือก่ีประเภท 1 Part of speech ท่ีจาเป็นตอ้ งเรียนรู้ 1 อา้ งอิง 1

1 Part of Speech คืออะไร  Part อ่านว่า พ๊าท แปลว่า ส่วน, ชิ้นส่วน  of ออฟ แปลว่า ของ  Speech คือ คาพดู ตามหลกั แกรมม่าแลว้ Part of Speech ภาษาองั กฤษ แปลวา่ “ส่วนของคาพดู ” แต่ ความหมายจริงๆของมนั คือ ประเภทของคาหรือชนิดของคา หรือ พดู อีกนยั หน่ึงคือคาชนิดต่างๆ นนั่ เอง หนา้ ท่ีของมนั หลกั ๆกค็ ือการรวมตวั กนั เป็นวลี หรือประโยคเพ่ือใชใ้ นการสื่อสารดงั ตวั อยา่ ง เน้ือหาดา้ นบน ซ่ึงคาแต่ะละประเภทกม็ ีหนา้ ท่ี Functions แตกต่างกนั กนั ออกไปเช่น noun ทาหนา้ ท่ี เป็นประธานและกรรมของประโยค verb ทาหนา้ ที่บ่งบอกการกระทาของ ประธาน preposition ทาหนา้ ท่ีเชื่อมคา เป็นตน้

2 Part of Speech คืออะไร - My name is Tom. ช่ือของผมคือทอม (นาม) - I am American. ผมคือคนอเมริกนั (สรรพนาม) - I’m tall and slim. ผมตวั สูงและเพรียว(คุณศพั ท)์ - I can play tennis. ผมเล่นเทนนิสเป็น (กริยา) - And I can run fast. และผมสามารถว่งิ ไดเ้ ร็ว (กริยาวเิ ศษณ์) - I love Thailand and Thai people. ผมรักประเทศไทยและคนไทย (สนั ธาน) - It’s hot in April. มนั ร้อนในเดือนเมษายน (บุรพบท) - Well!! I must go now. Bye. ออ้ ผมตอ้ งไปเดี๋ยวน้ี (อุทาน) เห็นตวั หนาๆไหมครับ นน่ั คือคาชนิดต่างๆครับผม ดงั น้นั สรุปไดว้ า่ part of speech คือ คาประเภทต่างๆ ซ่ึงมีดว้ ยกนั 8 ชนิด

3 Part of Speech เขยี นอย่างไรให้ถูก เน่ืองจากการเรยี นหลกั แกรมมา่ ทกุ คนจะตอ้ งรูจ้ กั คาวา่ parts of speech เป็นด่านแรก แต่หลายคนยงั เขียนไมค่ อ่ ยถกู กนั บา้ งกเ็ ขียนวา่ path of speech แปลว่า”หนทางของคาพดู ” บา้ งก็เขียนวา่ past of speech แปลวา่ ”อดตี ของคาพดู ” บา้ งก็เขียน part of speed แปลวา่ “สว่ นของ ความเรว็ ” บางคนหนกั กว่าเขียนวา่ past of speed แปลวา่ ”อดตี ของ ความเรว็ ” สว่ นคาว่า part of speech เม่อื เราจะส่อื ความหมายวา่ มนั มีถงึ 8 อนั นะ น่นั คอื The eight parts of speech คือคาพดู ทงั้ 8 ชนิด

4 Part of Speech หน้าทค่ี ืออะไร เน่ืองจากเรารูค้ วามหมายแลว้ วา่ part of speech คือคาทงั้ 8 ชนิด ดงั นนั้ หนา้ ท่ขี องมนั หลกั ๆก็คือการรวมตวั กนั เป็นวลี หรอื ประโยคเพ่ือใชใ้ นการส่ือสารดงั ตวั อยา่ งเนือ้ หาดา้ นบน ซง่ึ คาแตล่ ะประเภทกม็ ีหนา้ ท่ี Functions แตกตา่ งกนั ออกไปเชน่ noun ทาหนา้ ท่เี ป็นประธานและกรรมของประโยค verb ทาหนา้ ท่ีบง่ บอกการกระทาของประธานpreposition ทาหนา้ ท่เี ช่ือมคา เป็นตน้ การจะเรยี นรูเ้ ร่อื ง part of speech อย่างละเอยี ด ไมใ่ ชเ่ ร่อื งท่ีจะเรยี นวนั เดยี วใหเ้ ขา้ ใจไดท้ งั้ หมด เพราะมีทงั้ เรอ่ื งหลกั ๆและรายละเอยี ดหยหุ ยิมมากมาย ดงั นนั้ คอ่ ยๆเรยี นรูท้ าความเขา้ ใจไปทีละอยา่ งนะคะ

5 Part of Speech มีกช่ี นิดหรือกปี่ ระเภท Part of speech แบ่งออกเป็น 8 ชนิด ไดแ้ ก่ คานาม คาสรรพนาม คาคุณศพั ท์ คากริยา คากริยาวเิ ศษณ์ คาสันธาน คาบุพบท และคาอุทาน ดงั น้ี 1. Noun (คานาม) Noun หรือ คานาม คือคาท่ีใชแ้ ทนคน สัตว์ ส่ิงของ สถานท่ี และคาที่เป็นนามธรรม เช่น สภาวะ ความรู้สึก อารมณ์ กิจกรรม เหตุการณ์ เรียกวา่ คานามทวั่ ไป รวมถึง ชื่อต่างๆ ไม่ วา่ จะเป็นช่ือคน ช่ือสัตว์ ชื่อส่ิงของ ชื่อสถานท่ี เรียกวา่ คานามเฉพาะ คำนำมทั่วไป คน เช่น boy, girl, man, student, doctor, king, father สัตว์ เช่น dog, cat, bird, tiger ส่ิงของ เช่น TV, radio, fan, car, soap สถานท่ี เช่น market, bank, city, country นามธรรม เช่น love, happiness, kindness, war, peace

6 คำนำมเฉพำะ คน: Sam Smith, David Beckham, Barak Obama สัตว์: Simba, Angel, Jerry, Buddy ส่ิงของ: Toyota, Lux, Samsung, Sony, Apple สถานที่: London, Tokyo, Canada, Italy ตัวอย่ำงประโยค That boy is my friend. เดก็ ชายคนน้นั คือเพ่ือนฉนั The dog is very big. สุนขั ตวั ใหญ่มาก Your car is red. รถยนตข์ องคุณมีสีแดง My school is beautiful. โรงเรียนของฉนั สวย

7 2. Pronoun (สรรพนาม) Pronoun หรือ คาสรรพนาม คือ คาสรรพนาม มีหนา้ ท่ีใชแ้ ทนคานาม เพ่ือเป็นการเลี่ยงการใชค้ านามเดิมๆซ้าอีก เช่น ฉนั มีนกหน่ึงตวั นกมีสีขาว นกชอบนอนกินแมสง นกชอบบิน จากประโยคดา้ นบา้ น คานามกค็ ือ นก เราจะเห็นไดว้ า่ ถา้ ใชน้ ก อยา่ งเดียวประโยคมนั กจ็ ะดูไม่ดีสกั เท่าไหร่ ดงั น้นั เราจึงเปลี่ยนใหม่เป็น ฉนั มีนกหน่ึงตวั มนั มีสีขาว มนั ชอบกินแมสง มนั ชอบบิน มาทาความรู้จกั หนา้ ตาของคาสรรพนามเป็นเบ้ืองตน้ กนั ก่อนครับ รายละเอียดค่อยไปเรียนรู้กนั ตัวอย่ำงประโยค I am a student. ฉนั เป็นนกั เรียน She loves him. หล่อนรักเขา This book is mine. หนงั สือเล่มน้ีคือของฉนั I hate myself. ฉนั เกลียดตวั เอง

8 สรรพนามประธาน สรรพนามกรรม คุณศพั ทเ์ จา้ ของ สรรพนามเจา้ ของ สรรพนามสะทอ้ น I me my mine myself You you your yours yourself We us our ours ourselves They them their theirs themselves He him his his himself She her her hers herself It it its its itself จากตารางดา้ นบน เขาทาข้ึนมาเพ่ือใหส้ ะดวกในการท่องจากนั ซ่ึงช่องท่ี 3 ไม่ใช่สรรพนามนะคะ เป็นคาคุณศพั ทแ์ สดงความเป็นเจา้ ของ

9 3. Adjective (คุณศพั ท)์ Adjective หรือคาคุณศพทั ์ คือคาท่ีใชบ้ อกลกั ษณะของคานามใหร้ ู้วา่ มีลกั ษณะอยา่ งไร เช่น tall, short, small, big, beautiful, ugly ตวั อย่ำงประโยค I am tall. ฉนั ตวั สูง She is short. หล่อนตวั เต้ีย This cat is big. แมวตวั น้ีตวั ใหญ่ The flower is beautiful. ดอกไมส้ วย

10 4. Verb (กริยา) Verb หรือคากริยา คือคาท่ีใชแ้ สดงการกระทา เช่น go, come, run, walk, sleep, eat ,like คากริยาในภาษาองั กฤษแบ่งออกเป็นหลายประเภทนะครับ อยทู่ ่ีวา่ จะจบั คู่แบบไหน ค่อยศึกษารายละเอียดเอาแต่ละตวั นะครับ เช่น  สกรรมกริยา (Transitive Verb) และ อกรรมกริยา (Intransitive Verb)  กริยาแท้ (Main Verb) และ กริยาช่วย (Helping Verb)  กริยาปกติ (Regular Verb) และ กริยาอปกติ (Irregular Verb) ตวั อย่ำงประโยค I go to school by car. ฉนั ไปโรงเรียนโดยรถยนต์ She comes from China. หล่อนมาจากจีน This cat can run fast. แมวว่งิ ไดเ้ ร็ว Tom likes football. ทอมชอบฟุตบอล

11 5. Adverb (กริยาวิเศษณ์) Adverb หรือคากริยาวเิ ศษณ์ เป็นคาไวข้ ยายกริยา ไวอ้ ธิบายการกระทาวา่ ทาอยา่ งไร ท่ี ไหน เม่ือไหร่ เช่น fast, slowly, here, there, today, yesterday ตัวอย่ำงประโยค I can run fast. ฉนั สามารถว่งิ ไดเ้ ร็ว Please come here กรุณามาตรงน้ี This cat is walking slowly. แมวกาลงั เดินอยา่ งชา้ ๆ I went shopping yesterday. ฉนั ไปชอปปิ้ งเม่ือวาน

12 6. Conjunction (คาสันธาน) Conjunction หรือคาสันธาน คือคาท่ีใชเ้ ชื่อมคา วลี หรือประโยค เช่น and but or so ตัวอย่ำงประโยค Please come here and sit down. กรุณามาตรงน้ี และนง่ั ลง I can run fast but I cannot swim fast. ฉนั สามารถว่งิ ไดเ้ ร็วและฉนั ไม่สามารถวา่ ยน้าไดเ้ ร็ว Do you like cats or dogs? คุณชอบแมวหรือหมา I went shopping yesterday, so I won’t go today. ฉนั ไปชอปปิ้ งเมื่อวานดงั น้นั วนั น้ีฉนั จะไม่ไป

13 7. Preposition (คาบุรพบท) Preposition หรือคาบุรพบท คือคาท่ีใชแ้ สดงความสมั พนั ธ์ของคา เช่น in on at by from ตัวอย่ำงประโยค The cat is in my room. แมวอยใู่ นหอ้ ง The pen is on the table. ปากกาอยบู่ นโต๊ะ Sam is at home. แซมอยบู่ า้ น I come from Thailand. ฉนั มาจากเมืองไทย

14 8. Interjection (คาอุทาน) Interjection หรือคาอุทาน คือคาที่ใชแ้ สดงอารมณ์ตื่นเตน้ ดีใจ เสียใจ เช่น Hurray, Oh, Ouch, Ah, Ahem, Alas, Aha ตวั อย่ำงประโยค Hurray! We won! ไชโย พวกเราชนะ Oh, too bad! โอ้ แยจ่ งั Ouch! That hurt! โอย้ มนั เจบ็ นะ Ah, I see. อา้ ฉนั เขา้ ใจล่ะ Ahem, can you hear me? อะแฮ่ม คุณไดย้ นิ ฉนั ไหม

15 Part of Speech ทจ่ี าเป็ นต้องเรียนรู้ หัวข้อรองคือ 5 6 7 8 ไม่ตอ้ งเรียนรู้เจาะลึกมากนกั เพราะไม่มีอะไรซบั ซอ้ น คลา้ ยภาษาไทยเลย แต่ 4 ข้อแรก ตอ้ งศึกษาใหล้ ะเอียดแจ่มแจง้ หน่อย เพราะกฎเกณฑต์ ่างจากภาษาไทยคอ่ นขา้ งมาก ทีเดียว ซ่ึงหวั ขอ้ ที่ควรศึกษามีรายละเอียดดงั น้ี 1. คานาม  นามทวั่ ไป กบั นามเฉพาะ อนั น้ีเรียนผา่ นแลว้ ผา่ นเลย ไม่สาคญั เท่าไหร่  นามเอกพจน์ พหูพจน์ อนั น้ีตอ้ งเรียนใหเ้ ขา้ ใจ จาใหไ้ ด้ เหตุผลเพราะ… → การเปล่ียนเอกพจนใ์ หเ้ ป็นพหูพจนม์ ีหลายแบบ ข้ึนอยกู่ บั วา่ คาน้นั มีพยญั ชนะตวั ใดลงทา้ ย เช่น s, sh, ch, x, o, y, f เป็นตน้ → นามพหูพจนบ์ างตวั ไม่เปลี่ยนรูปเลย ไม่วา่ เป็นเอกพจนห์ รือพหูพจน์ เช่น deer sheep fish → นามบางตวั ลงทา้ ยดว้ ย s ซ่ึงน่าจะเป็นพหูพจน์ แต่กลบั เป็นเอกพจน์เฉยเลย เช่น news, physics → นามบางตวั เปลี่ยนสระภายในเพื่อแสดงความเป็นพหูพจน์ เช่น men children → และอื่นๆ 2. สรรพนาม  บุรุษสรรพนาม (Personal pronoun) เร่ืองน้ีตอ้ งเอาใหเ้ คลียร์ เพราะสรรพนามที่คนไทย สบั สนเพราะมี 2 ประเภท แยกชดั เจนวา่ ตวั ไหนเป็นประธาน ตวั ไหนเป็นกรรม

3. คุณศัพท์ 16  คาคุณศพั ทก์ ไ็ ม่ยาก แตก่ ไ็ ม่ง่าย เพราะมนั สามารถแปลงร่างได้ สามแบบ คือ ข้นั ปกติ ข้นั กว่า ข้นั สูงสุด และมีหลกั เกณฑแ์ ยกยอ่ ยไปอีกวา่ ทายงั ไงใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ภาษา 4. กริยา ตวั น้ีคือตวั ที่ยากกวา่ เพื่อนหน่อยนะ ตอ้ งพยายามพอสมควรจึงจะเรียนรู้ใหผ้ า่ นไปได้ เพราะมนั มีหลาย เรื่องท่ีตอ้ งเรียนนนั่ เอง  สุดยอดของหวั ใจวายากรณ์ สุดยอดแห่งความยาก (สาหรับนกั เรียนส่วนใหญ่ เพราะข้ีเกียจอ่าน ข้ีเกี่ยจจา ข้ีเกียจทบทวน)  กริยาหน่ึงตวั แปลงร่างไดห้ ลากหลายเช่น go goes going went gone ท้งั หมดที่เห็นน้ีแปลวา่ ไป แต่ไปคนละแบบ ข้นึ อยกู่ บั วา่ เอาไปใช้ Tense อะไร  กริยาแต่ละ Tense มีหนา้ ตาไม่เหมือนกนั เลย หรือมีเหมือนกนั บา้ ง part of speech สรุปแลว้ กค็ ือคาชนิดต่างๆนน่ั เอง ซ่ึงมีอยดู่ ว้ ยกนั ท้งั 8 ชนิดดงั ที่กล่าวมา

อ้างองิ -Part of speech - สาขาวชิ าภาษาองั กฤษ (bru.ac.th) -Part of speech คอื อะไร? \"สรุป parts of speech อยา่ งละเอยี ดเขา้ ใจงา่ ยสุด\" - ภาษาองั กฤษออนไลน์ (xn-- 12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook