By ……..ครนู ่นุ
คานา หนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์เลม่ นีเ้ป็นสว่ นหนง่ึ ของวิชาภาษาไทย (รหสั ท๑๖๐๑)โดยมีจดุ ประสงค์เพ่ือให้ความรู้เร่ืองหลกั การยอ่ ความ และรูปการเขียนยอ่ ความประเภทตา่ งๆเชน่ ยอ่ โอวาท ยอ่ บทสมั ภาษณ์ ยอ่ ประกาศ ยอ่ บทความ ผ้จู ดั ทาหวงั วา่ หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์เลม่ นีจ้ ะเป็นประโยชน์แก่ ผ้อู า่ น และผ้สู นใจอยา่ งยงิ่ ผ้จู ดั ทา ทิพวิมล ปานแดง
สารบัญ เรื่อง หน้า การยอ่ ความ ๑ จุดมุ่งหมายการยอ่ ความ ๒ หลกั การเขียนยอ่ ความ ๓ รูปแบบการเขียนยอ่ ความ ๔ สรุปการยอ่ ความ ๗ แบบทดสอบ ๘ บรรณานุกรม
การเขียนย่อความหมายถึง การนาใจความสาคญั ของเร่ือง มาเรียบเรียงใหม่ เพ่ือให้สนั้ กระชบั และเข้าใจง่าย เพ่ือให้สะดวกใน การอา่ น การเขียนย่อความเป็ นการเขียนจากการอ่านเก็บใจความ สาคญั เรื่อง แล้วนามาเรียบเรียงใหม่เป็นถ้อยคาสานวนของผ้เู ขียนเอง โดยเขียนในรูปแบบของยอ่ ความ หลงั จากทีอ่ า่ นเนือ้ หาท่ยี อ่ ความแล้ว ยงั สามารถทจี่ ะเข้าใจเนือ้ หาได้ทงั้ หมด
จดุ หมายในการเขียนย่อความ ๑. เพ่ือนิยามความหมาย ๒. เพื่อสรุปยอ่ ความ ๓. เพ่ือเลา่ เรื่องยอ่
๑. อา่ นเนือ้ เร่ืองโดยละเอยี ดอยา่ งน้อย ๒ รอบ เพื่อทาความเข้าใจเนือ้ หา อะไร ใครทาอะไร กบั ใคร ที่ไหน เมื่อไร มีผลเป็นอยา่ งไร และสดุ ท้ายเป็นแบบใด ๒. แยกวา่ เนือ้ หาทนี่ าเสนอเป็นงานเขียนแบบใด ข้อเทจ็ จริง ข้อคิดเหน็ หรือแสดง อารมณ์ ๓. บนั ทกึ เนือ้ หาทส่ี าคญั เป็นถ้อยคาของผ้เู ขียน ๔. ตดั เนือ้ หาท่ีไม่จาเป็นออก เชน่ การยกตวั อยา่ ง รายละเอยี ด สว่ นผสม การ เปรียบเทียบ
๕. ถา้ มีเน้ือหาเก่ียวกบั คาพดู ตอ้ งเปลี่ยนสรรพนามบุรุษที่ ๑ และ ๒ กลายเป็นสรรพนามบุรุษท่ี ๓ ๖. ไม่ควรยอ่ ความเป็นอกั ษรยอ่ ยกเวน้ คาที่เขา้ ใจดี เช่น พ.ศ. ๗. ใชค้ าส้นั ท่ีสุดและเขา้ ใจง่าย ๘. ใชค้ าท่ีครอบคลุม เช่น ชาวสวน ชาวนา ชาวไร่ ใหใ้ ชค้ าวา่ เกษตรกร แทน ๙. ในกรณีที่เป็นคาราชาศพั ทก์ ต็ อ้ งเขียนใหถ้ กู ตอ้ ง หา้ มยอ่ ความ ๑๐. คาบางคาที่ตอ้ งแปลความหมายควรเปล่ียนเป็นคาท่ีอ่านง่าย เช่น มวล บุปผาชาติสุมาลีส่งกลิ่นขจรอบอวล ในไพรสณฑ์ ควรเขียนใหม่วา่ เหลา่ ดอกไมใ้ น ป่ าส่งกลิ่นหอม
การยอ่ โอวาท ยอ่ โอวาทของ.................................... เน่ืองในโอกาส..................................................... เม่อื วนั ท่ี.............เดือน....................พ.ศ. ..................จากหนงั สือ.......................................................... ความวา่ ........................................................................................................................... การยอ่ ประกาศ ยอ่ ประกาศของ ............................................เรื่อง .................................................................................. แด่ ...............................................................เนื่องในโอกาส.............................................................................. เม่ือวนั ท่ี ..............เดือน..................พ.ศ. ...................จากหนงั สือ.................................................................... ความวา่ ......................................................................................................................................
การยอ่ บทสมั ภาษณ์ ยอ่ บทสมั ภาษณ์เร่ือง....................................................................................................... ผใู้ หส้ มั ภาษณ์ ..................................................................มีอาชีพ.................................................. ความวา่ ........................................................................................................................ การยอ่ บทความ บทความเรื่อง ...........................................................ของ ............................................ จากหนงั สือ ............................................................................................................................... ความวา่ .......................................................................................................................
สรุป การเขียนยอ่ ความเป็นการเขียนจากการอ่านเกบ็ ใจความสาคญั เรื่อง แลว้ นามาเรียบเรียงใหม่เป็นถอ้ ยคาสานวน ของผเู้ ขียนเอง โดยเขียนในรูปแบบของยอ่ ความ หลงั จากที่อ่าน เน้ือหาท่ียอ่ ความแลว้ ยงั สามารถที่จะเขา้ ใจเน้ือหาไดท้ ้งั หมด
แบบทดสอบหลงั บทเรียน ๑. การยอ่ ความนกั เรียนควรปฏิบตั ิตามขอ้ ใด ก. ตดั คาราชาศพั ทอ์ อก ข. เปลี่ยนสานวนเป็นสานวนผยู้ อ่ ค. ยอ่ หนา้ ทุกคร้ังท่ีข้ึนข้นั ตอนใหม่ ง. เปลี่ยนคาราชาศพั ทใ์ ห้เป็นคาสามญั ๒. การเขียนยอ่ ความคือการเขียนลกั ษณะใด ก. การอ่านใจความสาคญั จากเร่ืองที่อ่าน ข. การอ่านใจความสาคญั จากเร่ืองท่ีฟัง ค. การอ่านใจความสาคญั จากเร่ืองที่ดู ง. ถูกทุกขอ้ ๓. รูปแบบการเขียนยอ่ ความมีกี่ยอ่ หนา้ ก. ๒ ยอ่ หนา้ ข. ๓ ยอ่ หนา้ ค. ๔ ยอ่ หนา้ ง . ไมก่ าหนดยอ่ หนา้
บรรณานกุ รม ปราณี บญุ ชมุ่ . (๒๕๔๕) หลกั ใช้ภาษา การใช้ภาษา 2. กรุงเทพฯ : อกั ษรเจริญทศั น์
ผ้จู ดั ทา นางสาวทิพวิมล ปานแดง (สาขาวิชาภาษาไทย) โรงเรียนบ้านทงุ่ กระเชาะ สานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเขต ๑
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: