ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึงชุดคาสัง่ หรือ โปรแกรมทใ่ี ช้สงั่ งานใหค้ อมพวิ เตอร์ทางาน ซอฟต์แวร์จงึ หมายถงึ ลาดบั ขนั้ ตอนการทางานทเ่ี ขยี นขน้ึ ดว้ ยคาสงั่ ของ คอมพิวเตอร์ คาสัง่ เหล่าน้ีเรียงกันเป็ นโปรแกรม คอมพวิ เตอร์ จากทท่ี ราบมาแลว้ วา่ คอมพวิ เตอรท์ างานตาม คาสงั่ การทางานพ้นื ฐานเป็นเพยี งการกระทากบั ข้อมูลท่ี เป็นตวั เลขฐานสอง ซง่ึ ใชแ้ ทนขอ้ มลู ทเ่ี ป็นตวั เลข ตวั อกั ษร รูปภาพ หรอื แมแ้ ต่เป็นเสยี งพูดกไ็ ด้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ทใ่ี ชส้ งั่ งานคอมพวิ เตอรจ์ งึ เป็นซอฟต์แวร์ เพราะเป็นลาดบั ขนั้ ตอนการทางานของคอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์เคร่อื ง ห น่ึ ง ท า ง า น แ ต ก ต่ า ง กัน ไ ด้ ม า ก ม า ย ด้ ว ย ซ อ ฟ ต์ แ ว ร์ ท่ี แตกต่างกัน ซอฟต์แวร์จึงหมายรวมถึงโปรแกรม คอมพวิ เตอรท์ กุ ประเภททท่ี าใหค้ อมพวิ เตอรท์ างานได้
Software แบง่ เป็น 2 ประเภท 1.ซอฟตแ์ ววร์ ะบบ (System Software) ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ คอื ซอฟตแ์ วรท์ บ่ี รษิ ทั ผผู้ ลติ สรา้ งขน้ึ มา เพอ่ื ใชจ้ ดั การกบั ระบบ หน้าทก่ี ารทางานของซอฟตแ์ วร์ ระบบคอื ดาเนินงานพน้ื ฐานต่าง ๆ ของระบบคอมพวิ เตอร์ เชน่ รบั ขอ้ มลู จากแผงแป้นอกั ขระแลว้ แปลความหมายให้ คอมพวิ เตอรเ์ ขา้ ใจ นาขอ้ มลู ไปแสดงผลบนจอภาพหรอื นาออกไปยงั เครอ่ื งพมิ พ์ จดั การขอ้ มลู ในระบบแฟ้มขอ้ มลู บนหน่วยความจารองเมอ่ื เราเปิดเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ทนั ที ทม่ี กี ารจา่ ยกระแสไฟฟ้าใหก้ บั คอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอรก์ ็ จะทางานตามโปรแกรมทนั ที โดยโปรแกรมแรกทส่ี งั่ คอมพวิ เตอรท์ างานน้เี ป็นซอฟตแ์ วรร์ ะบบ สาหรบั ซอฟตแ์ วรร์ ะบบอาจเกบ็ ไวใ้ นคอมหรอื ในแผน่ จานแมเ่ หลก็ หากไมม่ ซี อฟตแ์ วรร์ ะบบคอมพวิ เตอรจ์ ะทางานไมไ่ ด้
2.ซอฟตแ์ ววป์ ระยกุ ต์ (Application Software) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นซอฟต์แวร์ทใ่ี ช้กบั งานดา้ นต่าง ๆ ตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ ทส่ี ามารถนามาใชป้ ระโยชน์ได้ โดยตรง เช่น โปรแกรมสานักงาน, ฐานขอ้ มลู ,คอมพวิ เตอร์ เกม และเว็บเบราว์เซอร์ เป็นต้น เราอาจแบ่งซอฟต์แวร์ ประยกุ ตอ์ อกเป็น 2 กล่มุ คอื 1. ซอฟตแ์ วรส์ าเรจ็ 2. ซอฟตแ์ วรท์ พ่ี ฒั นาขน้ึ ใชง้ านเฉพาะ ซอฟตแ์ วรส์ าเรจ็ ใน ปัจจุบนั มมี ากมาย เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคา ซอฟต์แวร์ ตารางทางาน เป็นตน้
ภาษาคอมพิวเตอรเ์ ป็นเร่ืองของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ควรต้องเรียนรูเ้ ก่ียวกับภาษาคอมพิวเตอรเ์ พ่ือใช้สาหรับ พัฒนาโปรแกรม โดยผู้เขียนโปรแกรมมักเ รีย ก ว่ า โปรแกรมเมอร์ เป็ นผู้ท่ีพัฒนาโปรแกรมด้วยการเขียน ชุ ด ค า ส่ัง เ พ่ื อ ส่ัง ใ ห้ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ป ร ะ ม ว ล ผ ล ส า ร ถ แ บ่ ง ภาษาคอมพวิ เตอรอ์ อกเป็นประเภทตา่ งๆได5้ ประเภท ดงั นี้
1.ภาษาเคร่อื ง(Machine Language) เป็นภาษาเดียวท่ีเคร่ืองสามารถปฏิบตั ิงานตามคาสงั่ ได้ ทนั ทีโดยไม่ต้องมีตวั แปลภาษาอ่ืนใดเข้ามาช่วย ซ่ึงเป็น ภาษาระดบั ต่าท่ีสุด โดยช่วงก่อนปี ค.ศ. 1952 เคร่อื ง คอมพวิ เตอรส์ ามารถทางานไดด้ ว้ ยภาษาเคร่อื งภาษาเดยี ว เท่านัน้ เน่ืองจากยุคนัน้ ยงั ไม่มกี ารพฒั นาภาษาระดบั อ่นื ๆ เขา้ มาเพ่อื ช่วยในการทางาน อกี ทงั้ คาสงั่ ของภาษาเคร่อื ง จะใชเ้ ลขฐานสอง คอื 0 กบั 1 แทนขอ้ มลู และคาสงั่ ต่างๆ ทงั้ หมดจะขน้ึ อย่กู บั ชนิดของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ หรอื หน่วย ประมวลผลทใ่ี ช้ นัน่ คอื แต่ละเคร่อื งกจ็ ะมรี ูปแบบของคาสงั่ เฉพาะของตนเอง ซ่งึ นักคานวณและนักเขยี นโปรแกรมใน สมยั ก่อนตอ้ งจกั วธิ ที จ่ี ะรวมตวั เลขเพ่อื แทนคาสงั่ ต่างๆ ทา ให้การเขียนโปรแกรมยุ่งยากมากไม่เหมาะสาหรับการ พฒั นาโปรแกรมทางดา้ นธุรกจิ
2.ภาษาระดบั ตา่ (Low level language) เน่ืองจากภาษาเคร่ืองเป็นภาษาท่ยี ากแก่การทาความ เขา้ ใจและยากในการประยุกต์ใช่งาน ทาให้ผูม้ พี ฒั นารหสั และสญั ลกั ษณ์มาแทนตวั เลข 0 กบั 1 โดยใช้อกั ขระใน ภาษาองั กฤษมามีส่วนร่วมในการสงั่ งาน จึงทาให้มีการ สงั่ งานได้ง่ายยิง่ ข้นึ แต่ก็ยงั คงยากสาหรบั ผู้เริม่ ต้นศึกษา โปรแกรม ซ่ึงได้แก่ ภาษาแอสเซมบลี (Assembly language ) เ กิ ด ข้ึ น ปี ค . ศ . 1 9 5 2 โ ด ย ภาษาแอสเซมบลใี ชร้ หสั เป็นคาแทนคาสงั่ ภาษาเคร่อื ง ทา ให้นักเขียนโปรแกรมสามารถเขียนโปรแกรมได้ง่ายข้นึ ถงึ แมว้ า่ การเขยี นโปรแกรมจะยงั ไมส่ ะดวกเท่ากบั การเขยี น โปรแกรมภาษาอ่นื ๆ ในสมยั น้ี แต่ท้าเปรยี บเทยี บในสมยั นนั้ ถอื วา่ เป็นการพฒั นาไปสยู่ คุ ของการเขยี นโปรแกรมแบบ
3.ภาษาระดบั สงู (High level Language) เรมิ่ ถอื กาเนิดขน้ึ ในปี ค.ศ. 1960 โดยภาษาระดบั สูง จะใชค้ าในภาษาองั กฤษแทนคาสงั่ ต่างๆ รวมทงั้ สามารถใช้ นิพจน์ทางคณิตศาสตร์ได้ด้วยทาให้นักเขียนโปรแกรม สามารถใชเ้ วลามุ่งไปในการศกึ ษาเท่านัน้ ไม่ตอ้ งเป็นกงั วล วา่ คอมพวิ เตอรจ์ ะทางานอยา่ งไรอกี ตอ่ ไป 4.ภาษาธรรมชาติ (Nature language) เป็นภาษายคุ ท่ี 5 Fifth Generation language หรอื 5GLs ธรรมชาติ หมายถงึ ธรรมของ มนุษย์ คอื ไมต่ อ้ งสนใจถงึ คาสงั่ หรอื ลาดบั ของขอ้ มลู ท่ี ถกู ตอ้ ง ผใู้ ชเ้ พยี งแต่พมิ พท์ ต่ี อ้ งการลงในคอมพวิ เตอรเ์ ป็น คาหรอื ประโยคตามทผ่ี ใู้ ชเ้ ขา้ ใจซง่ึ จะทาใหม้ รี ปู แบบของ คาสงั่ หรอื ประโยคทแ่ี ตกตา่ งกนั ออกไปไดม้ ากมาย เพราะ ผใู้ ชแ้ ตล่ ะคนอาจจะใชป้ ระโยคตา่ งกนั ใชค้ าศพั ทต์ า่ งกนั หรอื แมก้ ระทงั้ บางคนอาจจะใชค้ าศพั ทแ์ สลงกไ็ ด้
5.ภาษาระดับสูงมาก (Very High- level Language) หรอื ภาษายคุ ท่ี 4 ( Fourth-Generation Language) เ ป็ น ภ า ษ า ท่ีใ ช้เ ขีย น โปรแกรมได้สนั้ กว่าภาษายุคก่อนๆ โดยภาษายุคท่4ี น้ีมี คุณสมบัติท่ีจะแยกภาษายุคก่อนอย่างชัดเจน กล่าวคือ ภาษาในยุคก่อนนัน้ ใช้หลักการของการเขียนโปรแกรม แบบโพรซเี ยอร์ (Procedure Language) ซ่ึงในขณะภาษา ยุคท่ี 4 จะเป็ นแบบ ไม่ใช่โพรซีเยอร์ (Non-Procedure Language) ผเู้ ขยี นโปรแกรมเพยี งแต่กาหนดว่าตอ้ งการให้ โปรแกรมทาอะไรบา้ งกส็ ามารถเขยี นโปรแกรมไดท้ นั ที โดย ไม่ต้องทราบว่าทาได้อย่างไร ทาให้การเขียนโปรแกรม สามารถทาไดง้ า่ ยและรวดเรว็ และภาษายคุ ท่ี 4 น้ียงั มภี าษา ท่ีใช้สาหรบั เรียกข้อมูลจากฐานข้อมูลได้ เรียกว่า ภาษา เรียกค้นข้อมูล (Query language) โดยปกติแล้วการเก็บ ข้อมูล การแสดงรายการจากฐานข้อมูลต้อง จะมีการ วางแผนไวล้ ่วงหน้า แต่บางครงั้ อาจมกี ารเรยี กขอ้ มูลพเิ ศษ ทไี มไ่ ดม้ กี ารวางแผนไว้
ระบบปฏิบตั ิการ ระบบปฏบิ ตั กิ ารเรยี กสนั้ ๆวา่ โอเอส(OS) คอื โปรแกรม ท่สี าคญั มากประกอบด้วยชุดโปรแกรมท่ที าหน้าท่ใี นการ ควบคุมดแู ลการดาเนินการต่างๆภายในระบบคอมพวิ เตอร์ และเป็ นตัวกลางในการประสานงานการทางานของ ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วรต์ ่างๆเพ่อื ตอบสนองต่อผใู้ ชง้ านให้ มปี ระสทิ ธภิ าพ
หน้าทข่ี องระบบปฏบิ ตั กิ าร ห น้ า ท่ี ห ลัก ข อ ง ร ะ บ บ ป ฏิ บัติ ก า ร ห า ก พิจ า ร ณ า ถึ ง รายละเอียดต่างๆจะมจี านวนมากในท่นี ้ีจะกล่าวถงึ หน้าท่ี หลกั ของระบบปฏบิ ตั กิ าร ดงั ต่อไปน้ี 1.ชว่ ยในการบตู เครอ่ื ง 2. ควบคุมอปุ กรณ์และการทางานของคอมพวิ เตอร์ 3. จดั สรรทรพั ยากรในระบบ 4. เป็นตวั กลางระหวา่ งฮารด์ แวรก์ บั ผใู้ ชง้ าน 5.หนา้ ที่อื่นๆ เช่น การจดั การโครงสร้างขอ้ มูลท่ีจดั เกบ็ ไวใ้ ห้มี ความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยของระบบ การ ควบคุมติดต่อสื่อสารกนั ในระบบเครือข่าย เป็นตน้
winzip MS-Excel Visio
ผจู้ ดั ทา นางสาวสริ ามล วงคแ์ สงคา 1สทธ3 66302040107
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: