สำนวน สุภำษิต คำพังเพย
สำนวน สุภำษิต และคำพังเพย เหมือนหรอื แตกตำ่ งกบั ข้อควำมที่เรำใช้ เป็นประจำอย่ำงไร ใครทรำบบ้ำงคะ
คุณค่ำของสำนวนไทย ๑. ชว่ ยพฒั นำปัญญำของคนไทยในสังคม ๒. เป็นมรดกแห่งภมู ปิ ญั ญำทำงภำษำไทย ๓. เป็นแนวทำงประพฤติทีด่ ใี หแ้ ก่คนในสงั คม ๔. เปน็ แบบแผนควบคมุ พฤตกิ รรมของคนในสังคม ๕. สะทอ้ นวฒั นธรรม ประเพณี ศำสนำและวิถชี วี ิตควำมเปน็ อยู่ของคนไทย
สำนวน
สำนวน หมำยถงึ ถอ้ ยคำหรือขอ้ ควำมทก่ี ลำ่ วสืบต่อกนั มำ ช้ำนำนแล้ว มีควำมหมำยไม่ตรงตำมตวั หรือมีควำมหมำยอื่นแฝงอยู่ ตัวอยำ่ ง เขน็ ครกขน้ึ ภูเขำ หมำยถงึ ทำงำนทีย่ ำก สำนวน เกนิ ควำมสำมำรถหรือสติปญั ญำของตน คำงคกขน้ึ วอ หมำยถงึ คนท่ฐี ำนะต่ำต้อย พอได้ดีแลว้ ทำแสดงกริ ิยำอวดดีลมื ตัว
ตัวอยำ่ งสำนวน คำงเหลอื ง (อำกำรหนกั , สำหัส) เชน่ รถชนกันเมอ่ื เชำ้ นำ่ กลวั มำก คลุมถงุ ชน คดิ วำ่ คนขบั ไม่ตำยกค็ งคำงเหลอื งแน่ ๆ กระดี่ไดน้ ำ้ กำฝำก (กำรแตง่ งำนท่ถี กู ผูใ้ หญบ่ งั คับ) เช่น สมยั นีห้ มดยุคคลุมถงุ ชนกนั แล้ว ทุกคนมีสทิ ธเ์ิ ลือก (อำกำรแสดงควำมดใี จ หรือตื่นเตน้ จนตวั สัน่ ) เช่น ทุกคนพำกนั แสดง ท่ำทำงดีใจเหมือนปลำกระดี่ได้นำ้ (แฝงอยกู่ ับคนอนื่ โดยไมท่ ำประโยชน์ให้) เช่น ทำรำยงำนเปน็ กลุม่ ครั้งไหน มักมกี ำฝำกมำอยู่ดว้ ยทุกคร้งั
สำนวน มีลักษณะ ดงั นี้ ๑. มีกำรซำ้ คำ หรอื ใชค้ ำท่มี สี ัมผสั คล้องจองกัน เชน่ ขับไสไล่ส่ง มสี มั ผสั สระไอ ระหวำ่ ง ไล่ - ไส ปำกว่ำตำขยบิ มีสัมผัสสระอำ ระหวำ่ ง ว่ำ - ตำ หำมรุ่งหำมค่ำ มกี ำรซ้ำคำ คอื หำม ฝำกผีฝำกไข้ มกี ำรซำ้ คำ คือ ฝำก
๒. มกี ำรเปรยี บเทียบสิ่งหนึ่งวำ่ เหมอื นอกี ส่ิงหนึ่ง เพื่อให้เขำ้ ใจง่ำยย่งิ ข้นึ เชน่ แกม้ แดงเปน็ ลกู ตำลึงสกุ เป็นกำรกลำ่ วเปรยี บเทยี บ สีของแก้มกบั สีของลกู ตำลึงสุก เงยี บเหมือนเปำ่ สำก เปน็ กำรกล่ำวเปรยี บเทยี บถึง ลักษณะควำมเงยี บวำ่ เงยี บมำกไม่ มเี สียงอะไร
๓. มีลักษณะเป็นคำคมหรือคำกล่ำวที่ให้แงค่ ดิ ต่ำง ๆ เชน่ มีวชิ ำเหมือนมีทรพั ย์อยนู่ ับแสน ไมม่ ีคำว่ำแกเ่ กินไปสำหรับเรยี น อกหกั ดกี วำ่ รกั ไม่เป็น คำโบรำณท่ำนว่ำช้ำเปน็ กำร ถึงจะนำนก็เปน็ คุณอยำ่ วุ่นวำย รสู้ ่งิ ใดไม่ส้รู ูว้ ิชำ ไปเบอ้ื งหน้ำเตบิ ใหญ่จะให้คณุ
สภุ ำษติ
สุภำษติ หมำยถงึ ขอ้ ควำมหรอื ถ้อยคำส้ัน ๆ กะทัดรดั มักมีควำมหมำยไปในทำงแนะนำส่ังสอน มีคตสิ อนใจ ใหค้ วำม จรงิ เกย่ี วกับควำมคดิ และแนะแนวปฏบิ ัติ ซึง่ สำมำรถพิสูจนแ์ ละ เชื่อถือได้ ลักษณะของสุภำษติ สุภำษิตมกั จะเป็นข้อควำมส้ัน ๆ ใช้คำง่ำย ๆ แบบเอกรรถประโยค หรือเป็นประโยคแบบอเนกรรถประโยคก็ได้ และมกั จะมลี กั ษะเปรยี บเทยี บหรอื อุปมำอปุ ไมย สำมำรถแบ่งได้ ดงั นี้
ตวั อย่ำง หว่ำนพชื เชน่ ใด ย่อมไดผ้ ลเช่นนั้น หมำยถึง สภุ ำษติ ผู้ทำกรรมดยี อ่ มได้ดี ผู้ทำกรรมช่ัวย่อมไดช้ ว่ั ทำดไี ด้ดี ทำชั่วได้ชัว่ หมำยถงึ คนเรำทำอยำ่ งไรก็จะได้อย่ำงนน้ั
ตัวอยำ่ ง สุภำษิต ธรรมยอ่ มรกั ษำผปู้ ระพฤตธิ รรม จงเตอื นตนเองด้วยตนเอง จงรกั ษำควำมดปี ระดจุ เกลือรักษำควำมเค็ม ปญั ญำประเสรฐิ กว่ำทรพั ย์ พึงตัดควำมโกรธดว้ ยควำมข่มใจ อยำ่ รักเหำกวำ่ ผม อยำ่ รกั ลมกวำ่ น้ำ อย่ำรักถ้ำกว่ำเรอื น อยำ่ รกั เรอื นกวำ่ ตะวนั
สุภำษิต แบง่ ออกเปน็ ๒ กลุม่ ใหญ่ ๆ ดงั น้ี ๑. สุภำษิตของนักปรำชญต์ ่ำง ๆ รวมถึงพทุ ธศำสนสภุ ำษติ เช่น ทำดีได้ดี ทำชว่ั ไดช้ ่ัว หมำยถึง คนเรำทำอย่ำงไรกไ็ ดอ้ ย่ำงนนั้ ควำมกตญั ญูกตเวที เป็นเคร่อื งหมำยของคนดี หมำยถึง กำรตอบแทนต่อสง่ิ หรอื บคุ คลทม่ี พี ระคุณตอ่ เรำ ควำมไมม่ โี รค เปน็ ลำภอนั ประเสรฐิ หมำยถึง จงดูแลสุขภำพร่ำงกำย และจติ ใจของตนเองใหด้ ี หำกดแู ลดีไมม่ โี รคใด ๆ มำกระทบกถ็ ือว่ำโชคดี
๒. สุภำษติ ชำวบ้ำน เป็นสุภำษติ ทไ่ี มท่ รำบวำ่ ใครเปน็ ผู้กล่ำว เช่น นอนสูงใหน้ อนคว่ำ นอนตำ่ ให้นอนหงำย ยกตวั อย่ำง คนทเ่ี ป็นผู้นำหรอื ผู้ปกครองอยำ่ หลงลืมตน ควรกม้ มองดลู กู น้องหรอื คนทต่ี ่ำตอ้ ยกว่ำว่ำเขำเปน็ อยำ่ งไร เอำใจใสด่ ูแล ฟังเสียงเขำบำ้ ง สว่ นคนทเ่ี ปน็ ลกู นอ้ ง กส็ มควรทำหนำ้ ที่ให้เรยี บรอ้ ยไมใ่ ห้มขี อ้ บกพร่อง ดูแบบอยำ่ งจำกเจำ้ นำยเพื่อนำมำพฒั นำตนเอง
ขี้เกยี จเป็นแมลงวัน ขยนั เปน็ แมลงผ้งึ ขี้หงึ เปน็ แมลงปอ่ ง จองหองเปน็ แมลงวัน ชอบของเหมน็ เปรียบเช่นคนมกั ง่ำย ไมข่ วนขวำยหำส่งิ มคี ุณค่ำ แมลงผ้งึ ขยันไปหำควำมหวำนจำกเกสรดอกไมม้ ำเพมิ่ คณุ คำ่ ให้ตน แมลงปอ่ ง แมลงสำบ มีพษิ ร้ำยที่หำง เหมอื นน้องนำงข้หี ึง จงึ มีเรอ่ื งวิวำทบอ่ ย ไม่ชอบออกหำกินในถ่ินเปิดเผย เลยเปรยี บเหมอื นคนจองหอง คอยจ้องฉ้อโกงฉกลัก เมื่อคนเผลอ
คำพงั เพย
คำพังเพย หมำยถึง ถ้อยคำท่ีมีควำมหมำยลึกซ้งึ กว่ำสำนวน โดยมี ลกั ษณะติชม หรอื แสดงควำมเห็นอย่ใู นตวั แต่ไม่ถงึ กบั เปน็ คำสอน คำพังเพย มลี กั ษณะคล้ำยสุภำษติ แตไ่ ม่ไดเ้ ปน็ คติสอนใจ เพยี งแต่ เป็นคำกลำ่ วท่มี ลี กั ษณะตชิ ม และแสดงควำมเห็นอย่ใู นตัว โดยมำกจะมี ควำมหมำยซอ่ นอยู่ ดังนน้ั กำรใชค้ ำพังเพยจะตอ้ งตคี วำมหมำยใหเ้ ข้ำกับ สถำนกำรณ์
ตวั อย่ำง คำพงั เพย ไกเ่ หน็ ตนี งู งเู หน็ นมไก่ กำรทค่ี นสองคน ตำ่ งกร็ ูค้ วำมลบั หรอื นสิ ยั ใจคอของกนั และกนั เป็นอย่ำงดี แตค่ นอืน่ นนั้ ไมร่ เู้ รื่องของท้งั สอง
ตวั อยำ่ ง คำพังเพย ขี่ช้ำงจับตั๊กแตน กำรลงทนุ ลงแรงหรือเวลำเป็นจำนวนมำก จนเกินควำมจำเปน็ เพอ่ื ทำในสง่ิ ท่จี ะได้รบั ผลตอบแทนกลบั คนื มำจำนวนนอ้ ยนดิ
ตัวอย่ำง คำพงั เพย เดด็ บัวไมไ่ วใ้ ย กำรตัดควำมสัมพนั ธ์กันแบบเด็ดขำด ตัดญำติขำดมติ รกันเด็ดขำดอยำ่ งไรเ้ ย่อื ใย มักใชเ้ ข้ำคกู่ ับ “เด็ดดอกไมไ่ วข้ ว้ั ” ว่ำ เด็ดดอกไม่ไว้ข้ัว เด็ดบวั ไมไ่ ว้ใย
ตัวอยำ่ ง คำพงั เพย จบั ปลำสองมอื กำรที่คน ๆ หนง่ึ ทำสงิ่ ใดทีย่ ำกพร้อม ๆ กัน ทำใหล้ ้มเหลวทัง้ สองสิ่งนั้น
สรปุ สภุ ำษิตและคำพังเพย จัดเป็น สำนวน ด้วยกันทง้ั คู่ เพรำะมคี วำมหมำยใน เชงิ เปรยี บเทียบ และเป็นถ้อยคำทีใ่ ช้สืบเนอ่ื งกันมำนำน สภุ ำษติ เป็นถ้อยคำท่ีมักใช้ คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีควำมหมำยลกึ ซง้ึ มสี ัมผสั คลอ้ งจอง สว่ นใหญ่สภุ ำษิตที่ใช้ใน สังคมไทยมกั มีที่มำจำกคำสอนทำงพทุ ธศำสนำ หรืออำจนำมำจำกธรรมชำติ และส่ิง รอบ ๆ ตวั คำพงั เพย เป็นถอ้ ยคำท่ใี ห้ข้อคดิ โดยกล่ำวถงึ พฤตกิ รรมหรือธรรมชำติ รอบตัว สว่ นมำกมกั เป็นถอ้ ยคำท่เี ป็นขอ้ สรุปกำรกระทำหรอื พฤติกรรมทั่วไป อำจมี ท่ีมำจำกนิทำน ตำนำน วรรณคดี สำนวนไทยมคี ุณคำ่ หลำยประกำร เช่น สะทอ้ น วฒั นธรรม ประเพณี ศำสนำ และวถิ ชี ีวิตควำมเปน็ อยู่ของคนไทย
แบบฝึกหดั
คำชแ้ี จง เลอื กสำนวนหรอื สภุ ำษิตท่ชี อบทีส่ ดุ แล้ววำดภำพประกอบให้สวยงำม สำนวนหรือสภุ ำษติ ......................................................................................................... ......................................................................................................................................
คำชี้แจง เขียนควำมหมำยของสำนวนทีก่ ำหนดให้แล้วแต่งประโยคจำกสำนวน ๑. กอ่ รำ่ งสรำ้ งตวั .......ต...ัง้ ..เ.น..้อื..ต...้ัง..ต..ัว..ไ..ด..เ้.ป...น็ ..ห...ล..กั..เ.ป...น็...ฐ..ำ..น........................... เขำยงั หนมุ่ จึงทมุ่ เททำงำนเตม็ ที่เพ่ือจะกอ่ รำ่ งสรำ้ งตวั ใหไ้ ด้ ๒. ขวำนผำ่ ซำก..................................................................................... ............................................................................................................ ๓. จบั ปลำสองมอื ................................................................................. ............................................................................................................ ๔. ปิดทองหลงั พระ............................................................................... ............................................................................................................. ๕. คมในฝัก.......................................................................................... .............................................................................................................
คำช้ีแจง นำสำนวนท่ีกำหนดให้ เตมิ ลงในช่องว่ำงใหถ้ กู ตอ้ ง ญำตดิ ี ป้นั น้ำเปน็ ตัว มะนำวไมม่ นี ำ้ สู้ยิบตำ เขียนเสือใหว้ วั กลวั ดนิ พอกหำงหมู รำไมด่ โี ทษปโี่ ทษกลอง ชักแม่นำ้ ท้ังห้ำ ขมเหมอื นบอระเพ็ด เถียงคำไม่ตกฟำก ดูหน้ำตอ่ ไป.......
๑. เธอไมย่ อมทำงำน เก็บสะสมไวจ้ นเป็น....................................................... ๒. เธอไม่ตอ้ งพูด.......................................หรอก เพรำะอย่ำงไรฉันกไ็ มเ่ ชื่อเธออกี แลว้ ๓. ฉันไม่ชอบกนิ ยำนเี้ ลย เพรำะมนั มรี ส......................................................... ๔. คุณไม่ตอ้ งกลวั หรอก ฉนั แคข่ ่เู ขำเพ่ือ........................................เท่ำนน้ั เอง ๕. แม่ค้ำคนนเ้ี ปน็ คนพูดจำ.......................................จนไมม่ ีลูกคำ้ ซอ้ื ของเธอแลว้ ๖. เขำถูกนักเลงรมุ ทำรำ้ ย แต่เขำก็................................ไม่ยอมแพ้งำ่ ย ๆ เหมือนเมอ่ื ก่อน ๗. เธอทำผดิ ก็ยอมรับผดิ เถอะ ไม่มีใครว่ำอะไรหรอก อยำ่ ...........................................เลย ๘. ฟ้ำกบั ต๋อมไมม่ ีทำง.............................กนั ได้หรอก เพรำะคนู่ ีเ้ ขำเกลยี ดกนั มำก ๙. น้องคนนีน้ ่ำตีนัก พพ่ี ดู อะไรกไ็ ม่ยอมฟงั เอำแต่............................................. ๑๐. ผู้หญงิ คนน้ชี อบพูดเพอ้ เจอ้ เป็นตุเปน็ ตะแบบ.................................ใคร ๆ จงึ ไมเ่ ช่อื
คำชแ้ี จง เขียนข้อควำมทีก่ ำหนดให้ลงในตำรำง “คุณธรรมนำสขุ ” ให้สอดคล้องกนั เก็บเบีย้ ใต้ถนุ ร้ำน ทำงำนตัวเป็นเกลยี ว ร่วมแรงรว่ มใจ หนักเอำเบำสู้ เก็บหอมรอมรบิ หลังสฟู้ ้ำหนำ้ สู้ดนิ เก็บเลก็ ผสมน้อย น้ำหนึง่ ใจเดยี ว มสี ลึงพึงบรรจบให้ครบบำท ไปดว้ ยกนั มำดว้ ยกนั ดูหนำ้ ตอ่ ไป.......
คณุ ธรรม คณุ ธรรมนำสุข ควำมหมำย ควำมประหยดั ข้อควำม ควำมขยันหมน่ั เพียร ควำมสำมคั คี
ทบทวนนะคะ
คำช้ีแจง เขยี นควำมหมำยของสำนวนทกี่ ำหนดใหแ้ ลว้ แตง่ ประโยคจำกสำนวน ๑. ก่อรำ่ งสรำ้ งตวั .......ต...้งั ..เ.น..ื้อ..ต...ง้ั ..ต..ัว..ไ..ด..เ้.ป...็น..ห...ล..ัก..เ.ป...็น...ฐ..ำ..น........................... เขำยังหน่มุ จึงท่มุ เททำงำนเตม็ ทเ่ี พ่อื จะกอ่ รำ่ งสร้ำงตัวใหไ้ ด้ ๒. ขวำนผำ่ ซำก....โ.ผ..ง..ผ..ำ..ง..ไ.ม..เ่.ก..ร..ง.ใ..จ..ใ.ค..ร..,..ต..ร..ง.ไ..ป..ต..ร..ง.ม..ำ..จ..น..ด..ทู...่ือ...ๆ..,..ใ..ช..้แ..ก..ก่ ..ำ.ร..พ...ูด ...........................................เ.ข..ำ..ม..ใี .จ..เ.ม...ต..ต..ำ.แ..ต..ช่...อ..บ..พ..ดู..ข...ว.ำ..น..ผ...ำ่ .ซ..ำ..ก............... ๓.....จ..บั...ป..ล...ำ..ส..อ..ง..ม..อื.เ.ธ....อ....จ....ะม...ช.่งุ...จ.อ...ะ.บ..เ..ใอ..ค..ำ..ร..ใ..ก.ห...ช็..้ไ..ดอ....้ทบ....งั้.ไ...ป..๒..เ..ล....อย....ย..อ..ำ่ ..งย....พ่ำ....ม.ร...อ้วั....แม....ตก....่จนั....ับ....ใ..ปน....ลท....ำ..่ีส..ส..ุด..อ..ไ..งม..ม..่ไ..ด.ือ...้ส.....กั....อ....ย....่ำ...ง. ๔......ป..ิด...ท..อ..ง..ห...ล..ัง..พ..เ.รธ..ะอ...จ....ะท....ไำ..ม..ค..่ไ.ว...ดำ....มอ้ ....ดะ..แีไ....รต..เ..่ไ..ลม....ยไ่..ด..ถ..้ร..ำ้ บั..ม..ก..ัว..ำ..ป..ร..ย..ดิ ..ก..ท..ย..ออ่....งง....ห..เพ..ล....รัง..ำ..พ..ะ..รไ..ม..ะ..ม่อ....ใีย..ค..แู่..ร..เบ..ห....บ็น....นค....ุณ้ี......ค..่ำ......ห....ร..ือ....ไ..ม. ่มีใครรู้ ๕. คมในฝกั ...ภ..ำ.ย..น..อ..ก.ด..นู..ง่ิ..ส..ง.บ..เ.ส..ง.่ยี..ม..แ.ต..่เ.ม..่ือ..พ..ูด...ห..ร.อื..ก..ร.ะ..ท..ำ.ส..ิง่.ใ..ด.อ..อ..ก..ม..ำ..จ..งึ .ร..้วู .่ำ..ม..คี ..ว.ำ..ม.รูค้ วำมสำมำรถสงู ............ค..น...ฉ..ล..ำ.ด....เ.ข..ำ..ไ.ม..พ่..ูด...โ.อ..อ้ ..ว..ด..ห..ร..อ..ก...อ..ย..่ำ..ง.ท...่ีเ.ข..ำ..เ.ร.ยี..ก..ว..ำ่..”..ค..ม..ใ..น..ฝ..กั ..”.............
๑. เธอไมย่ อมทำงำน เกบ็ สะสมไวจ้ นเป็น.........ด..นิ...พ..อ...ก..ห..ำ..ง..ห...ม..ู....................... ๒. เธอไม่ตอ้ งพดู ....ช...กั ..แ..ม...น่ ..้ำ..ท...้งั .ห...ำ้..............หรอก เพรำะอยำ่ งไรฉนั ก็ไม่เชอื่ เธออีกแล้ว ๓. ฉนั ไม่ชอบกนิ ยำนีเ้ ลย เพรำะมนั มรี ส.........ข...ม..เ.ห...ม..ือ...น..บ...อ..ร..ะ..เ.พ...็ด................... ๔. คณุ ไมต่ ้องกลัวหรอก ฉนั แค่ข่เู ขำเพือ่ ....เ.ข...ีย..น..เ..ส..ือ..ใ..ห..้ว..ัว...ก..ล..วั.........เทำ่ นน้ั เอง ๕. แมค่ ำ้ คนนี้เป็นคนพดู จำ..........ม..ะ..น...ำ..ว..ไ.ม...่ม..ีน...ำ้ .........จนไมม่ ีลูกค้ำซอ้ื ของเธอแล้ว ๖. เขำถูกนักเลงรุมทำรำ้ ย แตเ่ ขำก็.........ส..ยู้..ิบ...ต..ำ..............ไมย่ อมแพง้ ำ่ ย ๆ เหมอื นเมอ่ื ก่อน ๗. เธอทำผดิ ก็ยอมรับผดิ เถอะ ไมม่ ีใครวำ่ อะไรหรอก อย่ำ.....ร..ำ..ไ..ม..่ด..ีโ..ท..ษ...ป...่ีโ.ท...ษ..ก...ล..อ..ง.....เลย ๘. ฟ้ำกบั ตอ๋ มไม่มีทำง..........ญ...ำ..ต..ดิ...ี .........กนั ได้หรอก เพรำะคู่นเ้ี ขำเกลียดกันมำก ๙. น้องคนนี้นำ่ ตีนกั พี่พดู อะไรกไ็ ม่ยอมฟังเอำแต่.......เ..ถ..ยี ..ง..ค..ำ..ไ..ม..ต่...ก..ฟ...ำ..ก............ ๑๐. ผู้หญงิ คนน้ชี อบพูดเพอ้ เจ้อเปน็ ตุเปน็ ตะแบบ.......ป..้นั...น..ำ้..เ.ป...็น..ต...วั ........ใคร ๆ จงึ ไม่เชือ่
คุณธรรมนำสุข คณุ ธรรม ขอ้ ควำม ควำมหมำย ควำมประหยัด เกบ็ หอมรอมรบิ เกบ็ เลก็ ผสมนอ้ ย ร้จู ักประหยดั อดออม ไมฟ่ ุม่ เฟอื ย มีสลึงพงึ บรรจบให้ครบบำท เก็บเบีย้ ใต้ถนุ ร้ำน ควำมขยนั หม่นั เพยี ร หนักเบำเอำสู้ ขยันหมั่นเพียร หนกั เอำเบำสู้ ทำงำนตัวเป็นเกลยี ว ไม่ยอ้ ท้อตอ่ ควำมยำกลำบำก หลังสูฟ้ ำ้ หนำ้ ส้ดู นิ หลงั สฟู้ ้ำหนำ้ สู้ดนิ ควำมสำมคั คี นำ้ หนง่ึ ใจเดยี ว สำมคั คีเป็นหน่ึงเดียวกนั รว่ มแรงรว่ มใจ พรอ้ มใจกัน ไปด้วยกนั มำดว้ ยกนั
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: