51 กิจกรรม “คณุ คาของตน” วัตถปุ ระสงค 1. เพ่อื ใหผ เู รยี นเกดิ ความตระหนักในคุณคาของตนเอง และสรางความภูมิใจในตนเอง 2. เพือ่ ใหผูเ รียนสามารถระบุปจจัยที่มีผลทําใหตนไดรับความสําเร็จ และความตองการ ความสําเร็จ รวมทั้งความคาดหวังที่จะไดรับความสําเร็จอีกในอนาคต แนวคดิ ทุกคนยอมมีความสามารถอยูในตนเอง การมองเห็นถึงความสําคัญของตน จะนําไปสูการรูจักคุณคา แหงตน และถามีโอกาสนําเสนอถึงความสามารถและผลสําเร็จในชีวิตใหผูอื่นไดรับทราบในโอกาสที่ เหมาะสม จะทําใหคนเราเกิดความภาคภูมิใจยิ่งขึ้น การทบทวนความสําเร็จในอดีตจะชวยสรางเสริมความ ภมู ใิ จ กาํ ลังใจ เจตคติท่ีดี เกิดความเชอื่ ม่ันวาตนเองจะเปน ผูท่สี ามารถเรยี นรดู ว ยตนเองได และความตองการ ประสบความสําเร็จตอไปอีกในอนาคตความรูสึกเห็นคุณคาในตนเองอยางแทจริงเปนการเห็นคุณคา คุณประโยชนในตนเอง เขาใจ ตนเอง รับผิดชอบตอทุกสิ่งที่ตนเปนเจาของ ยอมรับความแตกตางของ บุคคล เหน็ คณุ คาการยอมรับของผูอื่น สามารถพัฒนาตนเองทัง้ ในดานสวนตวั ยอมรับ ยกยอง ศรทั ธาใน ตวั เองและผูอ ่นื ทําใหเกดิ ความเชื่อม่นั ในตนเองเปนความรูสึกไวว างใจตนเอง สามารถยอมรับใน จุดบกพรอง จุดออนแอของตนและพยายามแกไข รวมทั้งยอมรับความสามารถของตนเองในบางครั้ง และ พัฒนาใหด ีขน้ึ เรื่อยไป เม่ือทําอะไรผิดแลว กส็ ามารถยอมรับไดอยา งแทจริง และแกปญ หาไดอยา ง สรา งสรรค คาํ ชีแ้ จง 1. ใหผูเรยี นเขยี นความสาํ เรจ็ ท่ภี าคภมู ิใจในชวี ติ ในชวง 5 ป ที่ผานมา จํานวน 1 เรอ่ื ง และตอบ คําถามในประเด็น 1) ความรูสึกเมื่อประสบความสําเร็จ 2) ปจ จัยทมี่ ผี ลทาํ ใหตนไดรับความสาํ เร็จ 2. ใหผ ูเรยี นเขยี นเรือ่ งทม่ี ีความมงุ หวัง ท่ีจะใหส ําเร็จในอนาคตและซง่ึ คาดวา ทาํ ไดจริง จาํ นวน 1 เร่ือง และตอบคําถามในประเด็น ปจจัยอะไรบางที่จะทําใหความคาดหวังไดรับความสําเร็จใน อนาคต” แนวการตอบ ไดเกิดความมั่นใจในตนเองวาจะเปนผทู ส่ี ามารถเรยี นรดู ว ยตนเองได ความรูสึกเห็นคุณคาในตัวเองของบุคคลที่มีตอตนเองวามีคุณคา มีความสามารถในการกระทําสิ่ง ตาง ๆ ใหประสบความสําเร็จ มีความเชื่อมั่นและนับถือตัวเอง สวนการมีอัตมโนทัศนในดานของการเปน ผเู รยี นทม่ี ีประสทิ ธภิ าพนั้น หมายถึง การมีความมั่นใจในการเรียนรูดวยตนเอง ความสามารถจัดเวลาในการ เรยี นรไู ด มรี ะเบียบวินัยตอตนเอง มีความรใู นดา นความจําเปน ในการเรยี นรูและแหลง ทรพั ยากรการเรียนรู มีความคิดเห็นตอตนเองวาเปนผูที่มีความอยากรูอยากเห็น
52 กิจกรรม “เวลาของชวี ติ ” วัตถปุ ระสงค เพ่ือใหผเู รียนตระหนักถึงการใชเวลาอยางคุมคะ แนวคดิ เวลาเปน สิง่ มีคา ทุกคนมเี วลาในแตละวนั คือ 24 ชั่วโมงเทา ๆ กันเพียงแตวา แตละคนจะบรหิ ารจดั เวลาของตนเองใหมีคาไดอยางไร คาํ ช้ีแจง 1. ในแตละวันทานไดใชเวลาของทานอยางไรบาง 2. ใหท า นอานเร่ือง “อาคารขยายเวลา” แลว ใหเ ขยี นถงึ ความรูส กึ ของตนตอ การใชเวลาท่ีผาน มาในอดตี และแผนการใชเ วลาของตนนบั แตน ไ้ี ป
53 อาคารขยายเวลา แด...ทุกคนที่มเี วลาวันละ 24 ชั่วโมงเทา กัน ในตอนค่ํา ฉนั โยนหนังสือสองสามเลม บนโตะอยางเบื่อหนาย เวลาอกี ไมกีเ่ ดือนกจ็ ะถึงฤดสู อบที่ เขาจะคัดเลือกพวกเราหน่งึ ในจาํ นวนผสู มัครเปนแสน ๆ คน ใหเขาไปเรียนในท่ีโก ๆ ท่ชี อื่ มหาวทิ ยาลัย ไมร ู เหมอื นกนั วาเร่อื งราวอยางน้ีมันเรม่ิ ตน ข้ึนทีไ่ หน ฉนั เพียงแตรูส กึ เหมือนวา คนเอารั้วยาว ๆ สองแถวมาก้ัน ทุงกวางใหเปนทางเดินแคบ ๆ แลวก็ตอนพวกเราใหเขา ไปเบียดเสียดกันเดินตามทางแคบ ๆ นัน้ และเมือ่ ถงึ ปลายทาง เขาก็เปดประตูรับเราไปหมดทุกคน คนที่ไดมีโอกาสเขาไปก็เปนเรื่องดี สวนคนที่ไมไดผานไปแน หละ...มนั กค็ งจะแยมากทเี ดียว จรงิ อยแู มจะมีทางเลือกอน่ื สําหรับบางคนท่ีจะตัดสินใจมดุ หรือปน ร้วั ออกไป ขางนอกเพื่อหาทางเดินที่ดีกวา ฉันเองก็อยากเปนอยางนั้นบาง แตฉันไมกลาพอ ฉันเอาคางเกยขอบโตะ ไลปลายนิ้วไปตามสันหนังสือที่ตั้งเรียงรายเปนแถวยาวรอใหอานตองลองสู ดสู .ิ ..สักคร้งั แตอีกใจหน่งึ มันคอยบอกวา เดยี๋ ว...ยังขีเ้ กียจอยู ขอนอนกอน ขอดทู ีวีกอน ขอไปเทีย่ วกอน ฯลฯ เวลาเปนปที่เขามีไวใหเราเตรียมตัวจึงผานไปอยางไมเปนชิ้นเปนอัน เพราะ ความเฉื่อยชาของฉันเอง อากาศกาํ ลงั ดี ฉนั ทิ้งตัวลงบนเตยี งนอนทคี่ ลุมดวยผาหมขนหนูลายฝูงนกนางนวลสีเขยี วเห็น หนังสือกองโตที่ยังคางคาคอยใหฉันไปอาน พัดลมคอยาวสงเสียงครางเบา ๆ แลวฉันก็หลับไป พบตวั เองอีกทที หี่ นา อาคารหลังใหญ ดเู หมือนจะสรา งดวยหนิ ออน ลักษณะคลายธนาคารมีบันไดสี เขียวเปนมันวบั เรยี งรายเปนช้ัน ๆ สุดบนั ไดขน้ั สุดทายมปี ระตูกระจกติดฟล มกรองแสงสีเขม มปี ายแผน หนึง่ แขวนไวต รงประตมู ขี อ ความวา “มีเวลาขาย” ฉันไมแนใจวาเปนเพราะความอยากรูอยากเห็น หรือเพราะอะไรกันแนที่ทําใหเทาทั้งสองขางกาว ขึ้นไปบนอาคารแหงนี้ เมื่อเอื้อมมือผลักประตูกระจกเขาไป ไอเย็นของเครื่องปรับอากาศก็ปะทะรางกาย สถานที่นนั้ ดูโอโถงและสวยงาม ดูราวกบั หองรบั รองช้ันดี มีโตะ สีเขยี วตัวยาวซ่ึงกองแฟม เอกสาร เรียงรายอยูทั่วไปบนนั้น ชายหนุมคนที่นั่งประจําโตะเอยทักทายฉัน ทาทางเขาอบอุนและเปนมิตร “สวัสดคี รบั ” “ครบั ผม” ฉันตอบรับคําเขาเบา ๆ “ผมคิดวา คุณคงจะไมไ ดมาซ้อื เวลา ทาทางคณุ ยังเปน เดก็ อยูเลย อายยุ ังไมเกนิ ย่ีสิบ” “ผมไมไ ดม าซื้อเวลาหรอกครับ” ฉนั ตอบไปทัง้ ๆ ท่ยี ังไมแ นใ จวา สนิ คาหรอื บริการอะไรกนั แนท ี่ เขากําลังขายอยู “เพียงแตวาผมอยากดู...ผคู น แลว กก็ ารซื้อขายของคณุ เทาน้ัน” “ตามสบายเลยครับ” เขายิ้มอยางมีไมตรี “เชญิ นง่ั ” เขาผายมือไปทางโซฟาชุดที่ตั้งอยูชิดผนังดาน หนง่ึ ฉนั จึงถอยไปทรดุ ตัวลงนั่ง ลูกคาคนแรกที่ฉันพบในอาคารขายเวลาคือชายชรารายกายผอมเกร็งผมขาวโพลน ใบหนาซีดเหลือง เขาพยุงตัวใหกาวผานบันไดทีละขั้น ๆ อยางลําบากยากเยน็ จนกระทั่งผลักประตูมาหยุดยืนตรงหนาชายขาย เวลา
54 “ผมมาขอซอ้ื เวลาที่ผานไป...หาป” น้ําเสียงเขาแหลมแหง และสัน่ พรา อยา งคนที่ปวยหนกั “หมอ บอกวาผมมาหาหมอชาไปหาป ไมอยางนั้นแลวโรคนี้ก็พอจะมีทางรักษาหายและผมก็จะไมตาย” คนตอ มาเปน ชายหนมุ หนา ตาดี แตง ตัวสะอาดสะอา น เพยี งแตด วู า หมน หมองและหมดหวงั ... “ขอซอ้ื เวลาสามเดอื น” เขาพูดกับชายขายเวลา “คณุ รูไหม ผูห ญงิ ทีผ่ มรัก เธอไปเมืองนอกเมอ่ื สาม เดือนกอน เราคบกนั มาเปนป แตผ มก็ยังไมเคยบอกรักเธอทง้ั ๆ ท่รี ักเธอมาก เธอไปโดยไมรอู ะไรเลย ชายขายเวลามีทีทาวาเห็นใจ ฉันคิดวาเขาเปนนักขายที่มีความอดทนมากทีเดียว ที่จะตองพบลูกคาที่ ลว นแตม ีปญหาตาง ๆ กนั ไป พรอ ม ๆ กบั นกึ เสยี ดายแทนผูชายคนนท้ี ีเ่ ขา ผานเวลารวมปโ ดยเปลา ประโยชน แลวเพ่ิงจะเหน็ คณุ คา ของเวลาเหลา นั้น...เมื่อมนั ไดผานไปแลว ยงั ไมท นั ทช่ี ายหนมุ คนนน้ั จะกา วพน ประตูออกไป หญงิ คนหนง่ึ กเ็ ดินสวนเขา มา หลอ นสวมชดุ ไว ทุกขสดี ํา ใบหนา ยังเปอนคราบน้ําตา ดวงตายังมีรอยบอบช้ํา “อยากไดเวลาคะ สักสองป ปเ ดยี วหรือเพียงครง่ึ ปก ไ็ ด” หลอ นพดู ดวยน้ําเสยี งท่ีโศกเศรา “ผมคิดวา คณุ คงมปี ญหาเกี่ยวกับเวลาในอดีตเหมือนคนอื่น ๆ” ชายขายเวลากลาวขึ้น “คะ” หลอ นรับคาํ เสียงแผว “คณุ แมของดิฉันเพิง่ เสยี เมือ่ สองวันกอน ทา นดีกบั ฉันมาก เลย้ี งดอู ยาง เอาอกเอาใจ แตดฉิ ันยงั ไมทนั ทจ่ี ะทําอะไรใหแมช่ืนใจเลย มแี ตต ัง้ แงตงั้ งอน ทา นกม็ าดว นจากไป” “คุณเลยอยากซอ้ื เวลาทผ่ี านไปเพอื่ ทาํ ดกี ับคุณแมของคณุ ” “คะ” หลอนปายนํา้ ตา ฉนั นกึ เวทนาหลอ น เวทนาท่ีหลอ นมาคดิ อะไร ๆ ไดก ็เม่ือสายไป ถาหากหลอนไดท ําอะไรไปต้ัง นานแลว กค็ งไมต องมานกึ เสียดายตอนน้ี วบู หนงึ่ ฉันจึงนึกยอ นกลับมาทตี่ ัวเอง คนตอมาเปนเด็กหนมุ ใบหนาเขายังออ นเยาว แตพ กร้วิ รอยความกังวลไวเ ต็มเปย ม “ตองการเวลา เทา ไรดีครับ” ชายขายเวลาถามขึ้นกอน “สองป” เขายม้ิ อยางออ นเพลยี “ผมอยากกลับไปตอนเลือกแผนการ เรยี นใหม ผมพลาดไปตอนน้ัน บางทีผมอาจจะไดเรมิ่ ตนใหมด ว ยดีจะไดเรยี นวิชาท่ีชอบแทนวชิ าที่นาเบือ่ ตอนน้ี” แลว เขาก็จากไป เมื่อไดสง่ิ ท่ตี อ งการแลว ฉันเห็นชายขายเวลาหลบั ลงในขณะทกี่ ําลังเวน วา งลูกคา ตอ เม่ือฉนั ขยบั ตัวเขาก็ลมื ตาขน้ึ แลว หันมายม้ิ ใหฉ นั ดวงตาเขาอบอนุ ... เปนเวลานานเทา ไรก็ไมท ราบท่ฉี นั นง่ั มองดผู ูคนเดนิ ผา นมา ลว นแลวแตมีทา ทวี ิตก กังวล ผดิ หวงั เสียใจ แลวก็มาซอ้ื เวลาไป เพราะวา พวกเขาไดพลาดสงิ่ ท่นี าจะไดในอดีต แลวชายขายเวลาก็เปดแฟมพรอมกับเงยหนา ขึ้นมาทางฉัน สกั ครจู ึงเดินมาทรุดตัวลงนง่ั เกาอ้ีโซฟา ขาง ๆ “จะปด รา นแลว หรือครบั ” ฉันถาม “ครบั ...ไดเ วลาแลว ” “ขอบคุณมากนะครับ สาํ หรับวนั น้ี ผมเหน็ จะกลบั เสยี ท”ี ฉนั วา แมจ ะไมแนใ จวา ฉนั จะกลบั ไปไหน อยางไร
55 “เชญิ ครบั ...ขอใหคุณโชคดี จงใชเวลาของคุณใหมีคา จงเห็นความสําคัญของทุกวินาทีที่ผานไป ผม หวงั วา ...คงจะไมไ ดเ หน็ คณุ มาท่ีน่เี พือ่ ซอ้ื เวลา” เขากลา วในทส่ี ุด “ขอบคุณมากครับ ผมจะไมลืมคุณ...และทีน่ ี”่ ฉนั ลกุ ขึ้นยนื ทนั ใดไฟก็ดบั วูบ ฉนั ตนื่ ขึ้นมาดว ยความรสู ึกทแี่ ปลกใหม เอื้อมมือไปรูดผามานหนาตา งสคี รีม พบวาทองฟายังไม สวา งดี และไกกย็ ังไมขัน ฉนั ลุกขึน้ มาเกบ็ ทนี่ อนและกระโดดเขาหองนาํ้ อยา งสดชืน่ แลว ถงึ กลับเขามานงั่ ที่ โตะ เขยี นหนังสือตวั เดมิ ที่ฉันไมเ คยจรงิ จังดว ยมานานแลว คิดอยากจะฮัมเพลงไปดวยซ้ําถาไมต ดิ วาจะ ทําลายสมาธใิ นการอานหนังสือ วบู หนง่ึ ...ฉนั รสู ึกดีใจทีฉ่ นั ยังมีเวลาเหลืออยู ยงั ไมสายเกนิ ไปทจ่ี ะเรมิ่ ลงมอื ทําอะไร ๆ อยา งมี ความหวัง ไมเหมือนกบั ผคู นเหลา น้ัน...ที่ฉันพบที่...อาคารขายเวลา มหาวิทยาลัย คอื ดินแดนท่ีใครใครตางใฝฝ น แมเ หน่ือยยาก..จะกาวไปใหถึงมัน ดว ยถอื เปน สิ่งสําคญั ในชีวิต ในสนามของการแขงขัน ตา งมุงมน่ั ชิงชยั ใหไดสิทธิ์ ใชศรัทธาอันคมเขมเปนเข็มทิศ ถูกหรอื ผดิ ยงั คงตอ งลองทําดู หวังเบื้องหนามีรุงทองงามผองใส ชอดอกไมไมตรีคงมีอยู มคี วามรัก ความเรงิ รนื่ ใหช น่ื ชู ทกุ สง่ิ สวยเลศิ หรดู งั วาดไว แลว เมอ่ื การแขง ขนั ถึงจุดจบ ยอ มไดพ บคนย้ิมช่ืน คนรองไห ตางมีความมุงหวังความตั้งใจ หากไมไดดังหมายมาดอาจทอแท แตจะมใี ครบางไหมทไ่ี ดรู ความหมายของชีวิตอยูที่ใดแน เทา น้หี รอื เรียกไดวา ชนะ-แพ อนั เกิดแตมายาคานยิ ม ตอเมื่อถึงพรุงน้ขี องชีวิต อาจไดคิดเหน็ จรงิ ทุกสิง่ สม การแขงขันครั้งใหมในสังคม ไดชมผชู นะอยา งแทจรงิ
56 เรยี น พกั ผอน 6 สวน 6 สวน ครอบครัว สว นตัว/เพอ่ื น 6 สวน (3+3) = 6 สวน คนเรามี 24 ชั่วโมง ใน 1 วันเทากัน การใชเวลาใหเ กดิ ประโยชน จงึ เกิดจากการทีม่ นุษยบริหาร จัดการเวลาทุกวนิ าทใี หเกนิ ประโยชนส งู สุด ตวั อยาง การบรหิ ารเวลา โดยใชส ตู ร 24 ชว่ั โมง ใน 1 วนั มงี านหลกั 4 อยาง สามารถทําไดดังนี้ เนอ่ื งจากมนุษยเปนสตั วสงั คมท่ีตอ งปฏสิ ัมพันธกบั บุคคลขาง พรอมกันไปกับการปฏิบัติหนาที่ ตามวัยของตน นักเรียนจึงควรมีการใชเวลาใหครบทั้ง 4 สว นอยางสมดุล ซึ่งเวลาทั้ง 4 สว น ดงั กลา ว สามารถยืดหยุนสัดสวนไดขึ้นกับความจําเปนในแตละชวงวัยและความรับผิดชอบของบุคคลนั้น ๆ
57 กิจกรรม “บณั ฑติ สงู วัย” วตั ถุประสงค 1. เพอ่ื ใหผ เู รยี นทราบและเขาใจในแนวคดิ การเรยี นรดู ว ยตนเอง และความพรอมในการ เรยี นรูดว ย ตนเอง 2. เพือ่ นาํ ไปสลู ักษณะการเรียนรดู ว ยตนเองท่ใี ฝเ รียนรู เห็นคุณคาของการเรยี นรู ความสามารถที่จะ เรียนรูดวยตนเองความรับผิดชอบในการเรียนรู การมองอนาคตในแงดี ของสมาชิก รวมทั้งสมาชิกเห็น ความสําคัญ และตระหนักในความพรอมในการเรียนรูดว ยตนเอง แนวคิด คุณลักษณะพิเศษในการที่จะเรยี นรูและพัฒนาตนเองอยา งตอ เนอื่ งโดยมิจาํ เปนตองรอคอยจาก การศึกษาหรอื การเรยี นรอู ยางเปน ทางการเพยี งอยา งเดียว คณุ ลักษณะพิเศษ ดังกลาวคอื “ความพรอมในการ เรยี นรโู ดยการช้ีนําตนเอง” ซง่ึ เปน ความคดิ เห็น วา ตนเองมเี จตคติ ความรู ความสามารถที่จะเรียนรูโดยมิ ตอ งใหคนอ่นื กาํ หนดหรอื สั่งการ พรอ มที่จะเรยี นรูวธิ กี ารเรียนรูและประเมินการเรียนรู ท้ังอาจดวยความ ชวยเหลือจากผูอนื่ หรอื ไมก ็ตาม การทบ่ี ุคคลสามารถชีน้ าํ ตนเองทจี่ ะเรยี นรู ยอมเปนโอกาสทบี่ คุ คลจะเรียนรู ทจ่ี ะพฒั นาตนเองอยา งตอเน่ืองและเรียนรตู ลอดชีวิต การพัฒนาการเรยี นรูโดยการชี้นาํ ตนเอง ยอ มเปน หนทางท่ที าํ ใหบคุ คลเรียนรูอยางไมสิ้นสุด คําชแี้ จง ใหผ เู รยี นศึกษาภาพขาว การสําเร็จการศกึ ษาจากภาพ ของ บณั ฑติ สงู วัย พรอมอธิบาย ในประเด็น (1) “ความรูสึกของทานตอภาพที่ไดเหน็ ” (2) “ทําไมบุคคลในภาพ ถึงประสบความสําเร็จในการเรียนรู” แนวการตอบ ไดเ ห็นคณุ คา และความสําเร็จทีจ่ ะมีตอ ผมู ีใจใฝเรยี นรู
58 กจิ กรรม “ทางแหงความสําเร็จ” คาํ ชแ้ี จง ใหผ เู รยี นอานเร่ือง “ทางแหงความสําเร็จ” แจง ใหส รุปเรื่องทอ่ี า นตามความเขาใจ ผลไมลกู หนง่ึ กวา จะสกุ มีกลน่ิ หอม ใหเราไดล้ิมรสฉาํ่ หวานกผ็ านกาลเวลาเพาะบมคนเรากเ็ ชนกนั กวาจะประสบผลสาํ เร็จให ไดก็ผานกาลเวลาแหงการพิสูจน มิใชฉับพลันทันใดความสําเร็จนั้นอาศัยหลายสิ่งหลายอยาง เฉพาะความ มงุ หวงั ตั้งใจอยางเดยี วยงั ไมเพยี งพอตองมีความรูจ รงิ รูวธิ ีท่ีดาํ เนินไป รเู หตุปจ จัยทม่ี าสมั พันธเ กี่ยวขอ งและ สาํ คญั คือตองปฏิบัตใิ หถกู วิธี มปี ญหาคอยตรวจสอบอยเู สมอ ถาประสบผลสาํ เรจ็ เพยี งเพราะตง้ั ความหวัง โดยไมตองทําอะไร ในโลกนี้คงไมตองมีใครผิดดังตั้งความหวังสักวันคงตองไดสมหวังตั้งใจ แหลงที่มา : http://watsunmamout.i.getweb.com ลักษณะชีวิตและลักษณะนิสัยภายในของคนเปนฐานของความสําเร็จเปนเหตุใหคนสรางฐานชีวิตปรับ ความสาํ เรจ็ ทย่ี ่งั ยนื ในอนาคตได
59 กิจกรรม “ แปรงสฟี นมหัศจรรย ” วัตถปุ ระสงค เพื่อใหผูเรียนตระหนักถึงความสําคัญของการมองโลกในแงดี ความคิดสรางสรรคและพัฒนาทั้ง ความคิดในดานบวก และความคิดสรางสรรคที่มีในตนเอง คําช้แี จง 1. ใหผ เู รยี นเขยี นประโยชนข องแปรงสฟี น ใหไดม ากทสี่ ุด ในเวลา 5 นาที ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ทา นไดเรียนรแู ละตระหนกั ถึงความสําคัญของความคิดสรางสรรคที่มีอยูในตนเอง กิจกรรม “ บทสะทอ นจากการเรียนรู ” วตั ถุประสงค ใหผเู รยี นสรุปความรทู ี่ไดจากการเรียนรูเกีย่ วกบั “ความพรอ มในการเรยี นรูดว ยตนเอง” มีความสําคัญที่ผูเรียนสามารถนําไปปรับใชในการเรียนรูของตนเองใหมีคุณภาพไดอยางไร
60 แบบประเมินตนเองหลงั เรยี น แบบสอบถาม เรื่อง ความพรอมในการเรียนรดู ว ยตนเองของผเู รียน ชื่อ........................................................นามสกุล...................................................ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คาํ ชแี้ จง แบบสอบถามฉบับนี้ เปนแบบสอบถามที่วัดความชอบและเจตคติเกี่ยวกับการเรียนรูของทาน ใหท านอา นขอความตา ง ๆ ตอไปน้ี ซึ่งมีดวยกัน 58 ขอ หลังจากนั้น โปรดทําเครื่องหมาย ลงในชองที่ตรงกับ ความเปนจรงิ ของตัวทานมากที่สุด ระดับความคิดเห็น มากที่สดุ หมายถึง ทา นรสู ึกวา ขอ ความนั้นสว นใหญเปนเชนนห้ี รือมนี อ ยคร้งั ทไี่ มใ ช มาก หมายถึง ทานรสู ึกวา ขอ ความเกนิ ครึ่งมกั เปนเชนน้ี ปานกลาง หมายถึง ทานรสู กึ วา ขอ ความจรงิ บา งไมจรงิ บา งครึง่ ตอครง่ึ นอ ย หมายถึง ทานรูส ึกวา ขอความเปน จรงิ บา งไมบอ ยนัก นอยทีส่ ดุ หมายถึง ทานรูสกึ วา ขอ ความไมจ ริง ไมเ คยเปน เชน น้ี ความคิดเห็น รายการคําถาม มาก มาก ปาน นอ ย นอย ทสี่ ดุ กลาง ท่สี ุด 1. ขาพเจา ตอ งการเรยี นรอู ยูเ สมอตราบชว่ั ชีวติ 2. ขาพเจาทราบดีวาขาพเจา ตอ งการเรียนอะไร 3. เม่อื ประสบกบั บางส่ิงบางอยางทไ่ี มเจาใจ ขาพเจา จะหลกี เลี่ยงไปจากสิ่งนนั้ 4. ถาขา พเจา ตองการเรยี นรสู ่ิงใด ขาพเจา จะหาทางเรยี นรใู หได 5. ขา พเจา รักทจี่ ะเรยี นรอู ยเู สมอ 6. ขาพเจา ตองการใชเ วลาพอสมควรในการเรม่ิ ศึกษาเร่ืองใหม ๆ 7. ในชนั้ เรียนขาพเจาหวังทจี่ ะใหผ สู อนบอกผูเรียนทง้ั หมดอยางชดั เจนวาตอ งทํา อะไรบางอยตู ลอดเวลา 8. ขาพเจาเชือ่ วา การคิดเสมอวา ตวั เราเปนใครและอยทู ่ีไหน และจะทาํ อะไร เปน หลักสําคญั ของการศกึ ษาของทุกคน 9. ขา พเจาทํางานดว ยตนเองไดไ มด ีนกั 10. ถาตอ งการขอมลู บางอยา งที่ยงั ไมมี ขา พเจา ทราบดวี าจะไปหาไดที่ไหน 11. ขา พเจา สามารถเรียนรสู ิง่ ตาง ๆ ดวยตนเองไดดกี วา คนสว นมาก 12. แมข า พเจาจะมคี วามคดิ ทด่ี ี แตด เู หมอื นไมสามารถนํามาใชปฏบิ ตั ไิ ด
61 รายการคําถาม ความคิดเห็น มาก มาก ปาน นอ ย นอ ย ท่สี ดุ กลาง ท่สี ดุ 13.ขาพเจา ตองการมสี ว นรวมในการตดั สนิ ใจวา ควรเรยี นอะไรและจะเรยี นอยา งไร 14. ขาพเจาไมเ คยทอถอยตอการเรียนส่ิงที่ยาก ถาเปนเรื่องทขี่ า พเจาสนใจ 15. ไมม ีใครอน่ื นอกจากตวั ขาพเจา ที่จะตอ งรบั ผิดชอบในส่ิงทีข่ าพเจา เลือกเรยี น 16. ขาพเจา สามารถบอกไดวา ขาพเจา เรยี นสิง่ ใดไดดหี รอื ไม 17. สิ่งท่ีขา พเจา ตอ งการเรียนรไู ดม ากมาย จนขาพเจาอยากใหแตละวนั มมี ากกวา 24 ช่ัวโมง 18. ถาตดั สินใจทจี่ ะเรยี นรอู ะไรกต็ าม ขาพเจา สามารถจะจดั เวลาทจี่ ะเรียนรสู งิ่ นั้น ได ไมวาจะมภี ารกจิ มากมายเพยี งใดกต็ าม 19. ขา พเจามปี ญ หาในการทาํ ความเขา ใจเรื่องท่อี า น 20. ถาขาพเจาไมเ รียนก็ไมใ ชค วามผิดของขา พเจา 21. ขา พเจาทราบดวี า เมือ่ ไรทขี่ า พเจา ตอ งการจะเรยี นรใู นเร่ืองใดเรือ่ งหนง่ี ใหมากขน้ึ 22. ขอมคี วามเขา ใจพอทจ่ี ะทาํ ขอสอบใหไ ดคะแนนสงู ๆ กพ็ อใจแลว ถงึ แมวา ขาพเจา ยงั ไมเขาใจเรื่องนน้ั อยา งถอ งแทกต็ ามที 23. ขาพเจา คดิ วา หองสมดุ เปนสถานท่ีทนี่ าเบ่อื 24. ขา พเจา ชน่ื ชอบผูทีเ่ รียนรสู ่งิ ใหม ๆ อยูเ สมอ 25. ขาพเจาสามารถคดิ คนวธิ กี ารตา ง ๆ ไดห ลายแบบสําหรบั การเรยี นรหู วั ขอ ใหมๆ 26. ขา พเจา พยายามเช่อื มโยงสิ่งทกี่ าํ ลังเรียนกับเปา หมายระยะยาว ทต่ี ้งั ไว 27. ขาพเจา มีความสามารถเรียนรู ในเกอื บทกุ เรอ่ื ง ทข่ี าพเจาตองการ จะรู 28. ขาพเจาสนกุ สนานในการคนหาคาํ ตอบสาํ หรบั คาํ ถามตา ง ๆ 29. ขาพเจาไมช อบคาํ ถามท่ีมคี าํ ตอบถกู ตองมากกวา หนึง่ คําตอบ 30. ขา พเจา มคี วามอยากรูอยากเหน็ เกย่ี วกบั สิง่ ตา ง ๆ มากมาย 31. ขา พเจาจะดใี จมาก หากการเรยี นรูของขา พเจาไดสนิ้ สุดลง 32. ขา พเจาไมไ ดส นใจการเรียนรู เมอื่ เปรียบเทียบกับผอู ่ืน 33. ขาพเจาไมมปี ญ หา เกี่ยวกับทกั ษะเบอื้ งตนในการศกึ ษาคน ควา ไดแ ก ทกั ษะการฟง อาน เขยี น และจาํ 34. ขา พเจา ชอบทดลองสิ่งใหม ๆ แมไมแนใจ วา ผลนน้ั จะออกมา อยา งไร 35. ขา พเจา ไมช อบ เมื่อมีคนชี้ใหเ ห็นถงึ ขอผิดพลาด ในสิ่งทขี่ า พเจากาํ ลงั ทาํ อยู
62 รายการคําถาม ความคิดเห็น มาก มาก ปาน นอ ย นอ ย ที่สดุ กลาง ท่ีสดุ 36. ขาพเจา มคี วามสามารถในการคดิ คน หาวธิ แี ปลกๆ ทจี่ ะทําสง่ิ ตา ง ๆ 37. ขา พเจาชอบคดิ ถงึ อนาคต 38. ขา พเจามคี วามพยายามคน หาคําตอบในส่งิ ท่ตี องการรไู ดด ี เมื่อเทียบกบั ผอู นื่ 39. ขาพเจาเห็นวา ปญหาเปน สง่ิ ทที่ า ทาย ไมใ ชส ญั ญาณใหหยุดทาํ 40. ขาพเจา สามารถบงั คบั ตนเอง ใหก ระทาํ สงิ่ ท่ี คดิ วา ควรกระทาํ 41. ขาพเจาชอบวธิ กี ารของขาพเจา ในการสาํ รวจตรวจสอบปญหาตาง ๆ 42. ขา พเจามกั เปนผนู าํ กลุม ในการเรยี นรู 43. ขาพเจาสนกุ ท่ไี ดแ ลกเปลีย่ นความคิดเห็นกับผอู นื่ 44. ขาพเจา ไมช อบสถานการณการเรยี นรทู ี่ทา ทาย 45. ขาพเจา มคี วามปรารถนาอยางแรงกลา ที่จะเรยี นรสู ง่ิ ใหม ๆ 46. ย่งิ ไดเ รียนรมู าก ขาพเจา กย็ ่งิ รูสกึ วา โลกนน้ี าตน่ื เตน 47. การเรยี นรเู ปน เรือ่ งสนุก 48. การยึดการเรียนรทู ่ใี ชไดผลมาแลว ดกี วา การลองใชวธิ ใี หม ๆ 49. ขา พเจาตองการเรยี นรใู หมากยิง่ ขึน้ เพ่ือจะได เปนคนทม่ี คี วามเจรญิ กาวหนา 50. ขาพเจาเปนผรู บั ผิดชอบเก่ียวกับการเรียนรขู องขา พเจา เอง ไมม ใี ครมา รับผิดชอบแทนได 51. การเรียนรถู ึงวิธีการเรยี น เปนสิง่ ที่สาํ คัญสําหรบั ขาพเจา 52. ขาพเจา ไมม ีวันทจี่ ะแกเกนิ ไป ในการเรยี นรสู ่งิ ใหม ๆ 53. การเรียนรอู ยูต ลอดเวลา เปน สิ่งทน่ี าเบื่อหนาย 54. การเรยี นรเู ปน เครอื่ งมือในการดาํ เนนิ ชีวิต
63 รายการคําถาม ความคิดเห็น มาก มาก ปาน นอย นอย ท่ีสดุ กลาง ท่ีสดุ 55. ในแตละปข าพเจา ไดเรียนรสู งิ่ ใหมๆ หลายๆ อยา งดวยตนเอง 56. การเรยี นรูไมไ ดท าํ ใหช วี ติ ของขา พเจา แตกตา งไปจากเดมิ 57. ขาพเจา เปนผเู รยี นท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพ ทง้ั ในช้ันเรยี น และการเรยี นรู ดว ยตนเอง 58 ขาพเจา เห็นดวยกับความคิดทว่ี า “ผูเรยี นคอื ผนู าํ ”
64 แบบประเมินตนเองหลงั เรียน บทสะทอ นท่ไี ดจากการเรียนรู 1. สิ่งท่ที า นประทับใจในการเรียนรูรายวิชาการเรยี นรูดว ยตนเองตนเอง .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 2. ปญ หา / อุปสรรค ทีพ่ บในการเรยี นรูรายวชิ าการเรียนรูดว ยตนเอง .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 3. ขอ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................................
65 แบบวัดระดับการเรยี นดว ยตนเองของผเู รียน คําชแี้ จง แบบวดั นเ้ี ปนแบบวดั ระดบั การเรยี นดว ยตนเองของผูเ รยี น มจี าํ นวน 7 ขอ โปรดกาเครื่องหมาย ลงในชอง ที่ตรงกับความสามารถในการเรียนดวยตนเองตาม ความเปนจริงของทาน 1. การวนิ ิจฉยั ความตองการเนือ้ หาในการเรียน 5. การดําเนนิ การเรยี น นักศกึ ษาไดเรยี นเน้ือหา ตามคําอธิบายรายวิชาเทา นนั้ นักศกึ ษาดาํ เนนิ การเรยี นตามแนวทางท่คี รกู าํ หนด ครู นําเสนอเนอ้ื หาอืน่ นอกเหนือจากคาํ อธบิ ายรายวิชา แลว ให นกั ศกึ ษาดาํ เนนิ การเรยี น ตามแนวทางที่ครนู ําเสนอ แลวให นกั ศกึ ษาเลอื กเรียนเพิม่ เติม นักศึกษาปรบั นักศึกษาไดเสนอเนื้อหาอ่นื เพื่อเรียนเพิ่มเตมิ นอกเหนือจาก นักศกึ ษาดาํ เนินการเรยี น ตามแนวทางทีน่ กั ศกึ ษารว มกัน คําอธบิ ายรายวชิ าดว ย กาํ หนดกบั ครู นักศกึ ษาเปน ผูก าํ หนดเนอ้ื หาในการเรยี นเอง นกั ศกึ ษาดําเนนิ การเรยี น ตามการกาํ หนดของตนเอง 2. การวนิ จิ ฉัยความตองการวธิ ีการเรยี น 6. การแสวงหาแหลง ทรพั ยากรการเรยี น ครเู ปนผกู ําหนดวา จะจัดการเรียนการสอนวิธีใด ครูเปน ผจู ดั หาแหลง ทรพั ยากรการเรยี นใหนกั ศึกษา ครูนาํ เสนอวธิ ีการเรยี นการสอนแลว ใหน กั ศกึ ษาเลือก ครเู ปนผจู ัดหาแหลง ทรัพยากรการเรียน แลวใหนักศกึ ษาเลอื ก นกั ศกึ ษารว มกบั ครูกาํ หนดวธิ กี ารเรียนรู นกั ศึกษารว มกบั ครหู าแหลง ทรพั ยากรการเรียน รวมกัน นกั ศึกษาเปนผกู ําหนดวิธกี ารเรยี นรเู อง นักศึกษาเปนผจู ัดหาแหลง ทรัพยากรการเรียนเอง 3. การกําหนดจุดมุง หมายในการเรยี น 7. การประเมินการเรียน ครเู ปน ผกู าํ หนดจดุ มงุ หมายในการเรยี น ครู เปนผปู ระเมินการเรยี นของนักศกึ ษา ครนู าํ เสนอจดุ มงุ หมายในการเรียนแลวใหน กั ศึกษาเลอื ก ครู เปนผปู ระเมนิ การเรยี นของนักศกึ ษาเปน สว นใหญ และเปด นกั ศึกษารว มกับครูกําหนดจดุ มงุ หมายในการเรยี น โอกาสใหนักศึกษาไดป ระเมินการเรยี นของตนเองดว ย นกั ศึกษาเปนผูกาํ หนดจุดมงุ หมายในการเรียนเอง มกี ารประเมินการเรียนโดยครู ตัวนกั ศึกษาเอง และเพอ่ื น นกั ศึกษา 4. การวางแผนการเรยี น นกั ศึกษาเปน ผูประเมินการเรยี นของตนเอง นักศกึ ษาไมไ ดเ ขียนแผนการเรยี น ครนู าํ เสนอแผนการเรียนแลว ใหนกั ศกึ ษานาํ ไปปรบั แก กระบวนการเรยี นรทู ่เี ปนการเรยี นรดู ว ยตนเอง นกั ศึกษารว มกับครูวางแผนการเรียน มคี วามจาํ เปน ทจี่ ะตองอาศยั ทกั ษะและความรู นักศกึ ษาวางแผนการเรียนเอง โดยการเขยี นสญั ญาการเรียนที่ บางอยา ง ผเู รียนควรไดม กี ารตรวจสอบพฤติกรรม ระบุจดุ มุงหมายการเรียน วธิ ีการเรียน แหลง ทรพั ยากรการเรยี น ที่จาํ เปนสาํ หรบั ผูเรียนทจ่ี ะเรียนรดู ว ยตนเอง วธิ ีการประเมนิ การเรยี น และวนั ทีจ่ ะทาํ งานเสรจ็
Search