Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Chemical Thermodynamics 59

Chemical Thermodynamics 59

Published by pklovelyful, 2017-07-13 23:06:14

Description: Chemical Thermodynamics 59

Search

Read the Text Version

กระบวนการท่เี กิดข้ึนไดเ อง(Spontaneous Process) น้ําไหลจากท่ีสูงลงที่ตํ่าไดเองแตไหลยอนกลับขึ้น spontaneousขา งบนไมไ ด กอนนํ้าตาลละลายในน้ําไดเอง แตเม่ือละลายไปแลว ไมสามารถกลบั เปนกอ นไดเ หมอื นเดิม ความรอนถา ยเทจากวตั ถทุ ีม่ ีความรอนสูงกวาไปสูวัตถุทเ่ี ย็นกวา แตไมม กี ารถา ยเทจากทีเ่ ยน็ ไปทร่ี อน เหล็กทําปฏิกิริยากับนํ้าและออกซิเจน กลายเปน nonspontaneousสนมิ แตสนมิ เปล่ียนกลับเปน เหลก็ อยางเดมิ ไมได 51

ปฏกิ ริ ยิ าท่ีเกดิ ไดเ องภายใตส ภาวะท่กี ําหนด เรยี กวา ปฏิกริ ยิ าทีเ่ กิดไดเอง (spontaneous reaction)ปฏกิ ิรยิ าที่เกิดไมไดภ ายใตส ภาวะทีก่ ําหนด เรยี กวา ปฏิกริ ิยาทเ่ี กดิ ไมไดเอง (nonspontaneous reaction) 52

ถา เราตอ งการทีจ่ ะทาํ นายวาปฏิกิรยิ าที่เราสนใจจะเกิดข้นึ ไดเ องหรอื ไม พจิ ารณาจาก ∆E หรือ ∆H อยางเดียวไมได ปฏิกิริยาที่เกิดขนึ้ ไดเ อง Spontaneous reactionsCH4(g) + 2O2(g) CO2(g) + 2H2O(l) ∆H° = -890.4 kJH2O(s) H2O(l) ∆H° = +6.01 kJดังน้นั ขอ สรุปทว่ี า การลดพลังงานในระบบ ซึ่งสวนใหญจะเปน ปฏิกิริยาคายความรอ น (∆H เปน - ) แสดงวา เปน ปฏกิ ิรยิ าทเี่ กดิ ขึน้ ไดเ อง ใชไ มไดเสมอไป 53

ในการพจิ ารณาวากระบวนการใดๆ เกดิ ข้ึนไดเองหรอื ไมตอ งอาศยั คา ทางอุณหพลศาสตรอีกคา หนึ่ง เรียกวา เอนโทรป (entropy) (S) 54

เอนโทรป (Entropy, S) Entropy (S) คอื ความไมเ ปน ระเบยี บ แสดงถึงความไมเ ปน ระเบยี บ (disorder) ของระบบ ถามีความไมเปน ระเบียบสูง : S จะมีคามาก ถามีความไมเ ปนระเบยี บตา่ํ : S จะมคี า ต่ํา 55

ตวั อยา งปรากฏการณท ่เี อนโทรปม คี า เพมิ่ ข้นึ Processes that lead to an increase in entropy (∆S > 0) 56

การเปลี่ยนแปลงเอนโทรปเ นื่องจากการละลายของเกลอื 57

จงทาํ นายการเปลยี่ นแปลงเอนโทรปต อไปนีว้ า 58 มากกวาหรือนอยกวาศนู ย(a) การเยือกแขง็ ของเอทานอล ∆S < 0(b) การระเหยของโบรมีนทอี่ ยูในบีกเกอรท อ่ี ุณหภมู ิหอง ∆S > 0(c) การละลายของนาํ้ ตาลกลูโคส ∆S > 0(d) การทาํ ใหแกส ไนโตรเจนเยน็ ตัวลงจาก 80°C เปน 20°C ∆S < 0

เอนโทรป (Entropy, S) คา S เก่ยี วของกบั สถานะ Ssolid < Sliquid < Sgas คา เอนโทรป (S) เปนฟง กช ันสภาวะ ∆S = Sfinal - Sinitial 59

กฎขอทส่ี องของเทอรโ มไดนามิกส (The Second Law of Themodynamics)“ในกระบวนการท่ีเกิดขน้ึ ไดเอง เอนโทรป (S) ของจักรวาล จะมีคา เพิ่มขึ้น” ∆Suniv = ∆Ssys + ∆Ssurr • สาํ หรบั ปฏิกิรยิ าทีเ่ กิดข้ึนไดเ อง : ∆Suniv = ∆Ssys + ∆Ssurr > 0 • สาํ หรบั ภาวะสมดุล : ∆Suniv = ∆Ssys + ∆Ssurr = 0 60

การเปลี่ยนแปลงเอนโทรปของระบบ Entropy Changes in the System (∆Ssys)หาไดจากปฏิกิรยิ าเคมี → การเปล่ยี นแปลงเอนโทรปข องปฏิกิริยา (∆Srxn) ท่ีสภาวะมาตรฐาน (25 °C, 1 atm) ∆S°rxn aA + bB → cC + dD ∆S°rxn = [ cS°(C) + dS°(D) ] - [ aS°(A) + bS°(B) ] ∆S°rxn = (∑nS°(products) ) - (∑mS°(reactants)) เมื่อ a, b, c , d เปนจาํ นวนโมลของสารต้ังตน และผลิตภณั ฑ n, m เปน ผลรวมจํานวนโมลของสารต้ังตนและผลิตภัณฑ 61

ตวั อยางท่ี 9 จงคาํ นวณ ∆S°rxn ท่ี 25 °C a) CaCO3(s) → CaO(s) + CO2(g) เมือ่ S°CaO (s) = 39.8 J/K , S°CO2 (g) = 213.6 J/K , S°CaCO3 (s) = 92.9 J/Kหมายเหตุ คา S° เปน คา มาตรฐานท่ไี ดจากการทดลอง ปกติเปน คาอา งองิ ทายหนงั สอื ∆S°rxn = [ (1) S°CaO (s) ) + (1) S°CO2 (g) ] - (1)S°CaCO3 (s) = [(1)(39.8) + (1)(213.6)] - (1)(92.9) = +160.5 J/K # 62

b) N2(g) + 3H2(g) → 2NH3(g)S°NH3 (g) = 193 J/K , S°N2 (g) = 192 J/K, S°H2 (g) = = 131 J/K∆S°rxn = [ (2)S°NH3 ] - [ (1)S°N2 (g) + (3)S°H2 ] (g) (g) = [(2)(193)] - [(1)(192) + (3)(131)] = -199 J/K # 63

c) H2(g) + Cl2(g) → 2HCl(g)S°HCl (g) = 187 J/K , S°H2 (g) = 131 J/K, S°Cl2 (g) = 223 J/K∆S°rxn = [ (2)S°HCl (g)] - [ (1)S°Cl2 + (1)S°H2 ] (g) (g) = (2)(187) - [(1)(223) + (1)(131)] = +20 J/K # 64

∆S°rxn เปน ∆S° ของระบบ ไมส ามารถบอกไดวา เปน spontaneous process หรือไมถา reaction ผลิตจาํ นวน mole ของ gas เพ่ิมขึน้ : ∆S°rxn มคี า เปน บวกถา reaction ผลิตจํานวน mole ของ gas ลดลง : ∆S°rxn มคี า เปนลบถา reaction ผลติ จาํ นวน mole ของ gas เทาเดิม :∆S°rxn มคี า ใกล 0 65

ตวั อยา งท่ี 10 จงทํานาย ∆S°rxn เปน บวก / ลบa) NH4Cl(s) → NH3(g) + HCl(g) จาํ นวน (g) จาก 0 เปน 2 โมล ดงั น้นั ∆S°rxn เปน บวกb) Ag+(aq) + Cl-(aq) → AgCl(s) จาํ นวน (aq) จาก 2 เปน 0 โมล ดงั น้นั ∆S°rxn เปนลบc) H2(g) + Br2(g) → 2HBr(g)จาํ นวน (g) จาก 2 เปน 2 โมล ∆S°rxn มคี าบวก/ลบกไ็ ดแ ต ใกล 0 66

การเปล่ยี นแปลงเอนโทรปของสง่ิ แวดลอม Entropy Changes in the Surroundings (∆Ssurr) จากกฎขอท่ี 2 : ∆Suniv > 0 เปน spontaneous process ∆Suniv = ∆Ssys + ∆Ssurr เม่ือระบบคายความรอ น → มีการถา ยเทความรอ นไปสูส่ิงแวดลอ ม ทาํ ให ∆Ssurr มีคา มากขนึ้ เมอ่ื ระบบดดู ความรอ น → มีการดึงความรอ นออกจากสง่ิ แวดลอ ม ทําให ∆Ssurr มีคาตํา่ ลง 67

(a) When an exothermic reaction occurs in the system (∆H < 0), the surroundings gain heat and their entropy increases (∆Ssurr > 0).(b) When an endothermic reaction occurs in the system (∆H > 0), the surroundings lose heat and their entropy decreases (∆Ssurr < 0). 68

ในกระบวนการที่ดันคงท่ี ความรอ นทเ่ี ปลี่ยนแปลงไปของระบบ = ∆Hsys ∆Hsurr = -∆Hsys ดงั น้นั ∆Ssurr จะเปน สัดสว นโดยตรงกบั ∆Hsys ∆Ssurr ∝ -∆Hsysการเปล่ียนแปลงเอนโทรปยังขึ้นกบั อุณหภูมดิ ว ย เขียนเปน สมการไดดังนี้∆Ssurr =- ∆Hsys T 69

ตวั อยางที่ 11 N2(g) + 3H2(g) → 2NH3(g) ∆H° = -92.6 kJ ปฏิกริ ิยาดังกลาวสามารถเกิดไดเองหรอื ไมทอ่ี ณุ หภูมิ 25 °CS°NH3 (g) = 193 J/K , S°N2 (g) = 192 J/K, S°H2 (g) = = 131 J/Kโจทยกําหนด 1. T = 25 °C ; 25 + 273 = 298 K 2. ∆H° = -92.6 kJ ∆Ssurr =- ∆Hsys หา ∆Ssurr = ? จากสูตร T∆Ssurr =- (-92.6 kJ)(1000) = 311 J/K (298 K)หา ∆Ssys = ? 70

∆S°rxn = [ (2)S°NH3 ] - [ (1)S°N2 (g) + (3)S°H2 ] (g) (g) = [(2)(193)] - [(1)(192) + (3)(131)] = -199 J/K หา ∆Suniv = ? จากสูตร ∆Suniv = ∆Ssys + ∆Ssurr ∆Suniv = ∆Ssys + ∆Ssurr = (-199) + (311) = 112 J/K # ∆Suniv > 0 แสดงวาเปน spontaneous process ที่ 25 °Cดังนั้น ปฏิกิริยาการสังเคราะหแอมโมเนียเปนปฏิกิริยาที่สามารถเกิดข้ึนไดเอง ท่ีอุณหภมู ิ 25 °C 71

พลงั งานอสิ ระของกิบส (Gibbs Free Energy, ∆G) จากกฎขอ ที่ 2: ∆Suniv > 0 เปน spontaneous process ∆Suniv = ∆Ssys + ∆Ssurr ในการคํานวณหาคา ∆Suniv เราตอ งทราบคา ∆Ssys และ ∆Ssurrโดยปกติจะสนใจศึกษาเฉพาะระบบใดระบบหน่ึงเทานั้น ไมไ ดศึกษาทง้ั จักรวาลและคา ของ ∆Ssurr มกั คํานวณไดยาก จึงนยิ มใช Gibbs Free Energy (∆G)ในการทํานายทศิ ทางของปฏกิ ิริยา 72

ในกระบวนการทีอ่ ุณหภูมคิ งท่ี ∆G = ∆H - T∆S  G เปนฟง กชันสภาวะ ∆G = Gibbs free energy change ∆H = Enthalpy change ∆S = Entropy change T = °C + 273 = K 73

การทํานายปฏิกริ ยิ า∆G < 0 : spontaneous process∆G > 0 : (ปฏิกริ ยิ าเกิดขน้ึ เองไดใ นทิศทางไปขา งหนา) non-spontaneous process∆G = 0 : (ปฏิกิริยาเกดิ ขนึ้ เองไมไดในทศิ ทางไปขางหนา แตจ ะเกดิ ข้นึ ไดใ นทศิ ทางยอ นกลับ) ระบบอยูใ นสมดุล ไมเ กดิ การเปลย่ี นแปลงท่สี ภาวะมาตรฐาน (1 atm, 298 K) : ∆G° = ∆H° - T∆S° 74

จาก ∆G = ∆H - T∆S ; พิจารณาเครอื่ งหมายของ ∆G∆H ∆S ∆G = ∆H - T∆S ความหมาย-+ - ปฏกิ ริ ยิ าเกดิ ไดเองทกุ อณุ หภมู ิ+- + ปฏกิ ริ ยิ าเกิดไมไ ดเองทกุ อุณหภูมิ-- ± ถา อุณหภูมติ ่ํามากๆ ปฏิกริ ยิ าเกิดไดเ อง++ ± ถา อณุ หภูมสิ ูงมากๆ ปฏิกิรยิ าเกดิ ไดเ อง 75

การเปลี่ยนแปลงพลังงานอสิ ระมาตรฐาน Standard Free-Energy Changes (∆G°) ที่สภาวะมาตรฐาน : อุณหภมู ิ 25°C, ความดนั 1 atm aA + bB → cC + dD ∆G°rxn = [c∆G°f(C) + d∆G°f(D)] - [a∆G°f(A) + b∆G°f(B)] ∆G°rxn = Σn∆G°f(product) - Σm∆G°f(reactant)a, b, c, d, n และ m คอื จํานวนโมลของสาร ∆G°f = พลงั งานอิสระมาตรฐานของการเกิดสาร (Standard free energy of formation of compound) 76

ตัวอยางที่ 12 จงคาํ นวณ ∆G°rxn ท่ี 25 °Ca) CH4(g) + 2O2(g) → CO2(g) + 2H2O(l) =0 (ธาตุ)= [(1)(-394.4) + (2)(-273.2)] - [(1)(-50.8) - 0]= -890.0 kJ (∆G°rxn ตดิ ลบ เปน spontaneous process) 77

b) 2MgO(s) → 2Mg(s) + O2(g)=0 (ธาตุ) =0 (ธาตุ)= (2(0) + 1(0)) - 2 (-569.6)= +1139 kJ (∆G°rxn เปน บวก เปน non-spontaneous) 78

ตวั อยางที 13 จงคาํ นวณหาคา ∆G° จากคา ∆H° และ ∆S° ของปฏกิ ริ ยิ า CaCO3(s) → CaO(s) + CO2(g) ปฏกิ ิรยิ านีเ้ กดิ ขึ้นเองไดหรอื ไม ทอ่ี ณุ หภูมิ 25°C และความดัน 1 atmกําหนดให CaCO3(s) CaO(s) CO2(g)∆Hf° (kJ/mol) -1206.9 -635.6 -393.5S° (J/K.mol) 92.9 39.8 213.6 79

วธิ ที ํา หาคา ∆H° ∆H° = [∆Hf°CO2 (g) + ∆Hf°CaO (s)] - ∆Hf°CaCO3 (s) = [(-393.5) + (-635.6)] - (-1206.9) = 177.8 kJ/mol หาคา ∆S° ∆S°rxn = [ (1) S°CaO (s) ) + (1) S°CO2 (g) ] - (1)S°CaCO3 (s) = [(1)(39.8) + (1)(213.6)] - (1)(92.9) = 160.5 J/K.mol # 80

หาคา ∆G° จากสมการ ∆G° = ∆H° - T∆S° ∆G° = (177.8 kJ/mol) - (298 K)(160.5 J/K.mol) 1000 ∆G° = 129.97 kJ/mol คา ∆G° มเี คร่ืองหมายเปน บวก แสดงวา ปฏิกริ ยิ านี้เกดิ ขนึ้ เองไมไ ด 81

ตเทัวาอใยดา กงทาํ ห่ี 1น4ดใกหร ะ∆บHวนแลกะาร∆HS2Oมีค(l)าเท→า กบั H420O.6(g)kJเกแิดลขะ้ึน1ไ0ด8เอ.7งทJ/่อี Kณุ หภูมิตามลําดับ ทค่ี วามดนั 1 atm โจทยก ําหนด ∆H = 40.6 kJ, ∆S = 108.7 J/Kท่ภี าวะสมดลุ ∆G = 0 จากสตู ร ∆G = ∆H – T∆S∆H = T∆ST = ∆H = (40.6 kJ)(1000) = 373 K # ∆S 108.7 J/Kเนื่องจาก ∆H > 0 และ ∆S > 0กระบวนการน้ีจะเกดิ ขน้ึ ไดเอง (∆G < 0) เม่อื T > 373 K 82

กฎขอ ท่สี ามของเทอรโ มไดนามกิ ส (The Third Law of Themodynamics)“The entropy of a perfect crystalline substance is zero at the absolute zero of temperature” “เอนโทรปของผลึกสมบรู ณแบบทุกชนดิ มคี า เทา กับศนู ย (0) ทีอ่ ุณหภมู ิศนู ยสมั บูรณ (0 K)” 83

The entropy of a pure crystalline substance at absolute zero is 0.Perfect crystal: its internal arrangement is absolutely regular.Nothing is in motion (vibrations, rotations and translations) 84

The entropy of a perfect crystalline substance is zero at the absolute zero of temperature.Entropy increases as thetemperature of crystallinesolid is heated fromabsolute zero.Note the vertical jump inentropy corresponding tophase changes.Remember! S(g) > S(l) > S(s) 85


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook