2. ปญั หาว่าควรผลติ อย่างไร (How) หลังจากตัดสนิ ใจไดว้ า่ จะ ผลติ อะไรเปน็ จํานวนสกั เทา่ ใดแล้ว ปญั หาท่เี ราจะต้องตัดสนิ ใจ ขั้นต่อไปก็คือ เราจะใช้เทคนิคและกรรมวิธกี ารผลติ สินค้าและ บรกิ ารทผ่ี บู้ รโิ ภคต้องการวธิ กี ารใด และจะใช้ปจั จยั การผลิตมาก น้อยในสดั ส่วนเท่าใดจงึ จะมปี ระสทิ ธภิ าพมากท่สี ุด หรอื เสยี ต้นทุนตาทส่ี ุด เนื่องจากผ้ผู ลิตมเี ทคนิคและกรรมวธิ กี ารผลิต สินค้าไดห้ ลายวธิ ที สี่ ามารถให้ผลผลิตเทา่ เทียมกนั จึงต้องเลือก ใช้ท่ีมปี ระสิทธภิ าพมากทีส่ ดุ ตวั อยา่ งเช่น เกษตรกรต้องการ ปลูกขา้ วให้ไดข้ ้าวเปลือก 1,000 เกวยี น อาจเลือกใช้ทีน่ าจาํ นวน มากโดยใช้เทคโนโลยแี ละอปุ กรณ์การเกษตรจาํ นวนน้อย หรอื อาจเลอื กใช้ทีน่ าจาํ นวนน้อยโดยใช้เทคโนโลยกี ารเกษตรจาํ นวน มาก ไมว่ า่ เราใช้การผลติ วิธใี ดก็สามารถได้ข้าวเปลือก 1,000 เกวียนเทา่ กัน เปน็ ต้น 50
3. ปญั หาวาจะผลติ เพอื่ ใคร (For Whom) ปญั หาวา่ จะผลติ สนิ ค้าและบรกิ ารเพ่อื ใคร คาํ ตอบกค็ ือผลติ เพือ่ ประชาชนซ่ึงเปน็ ผบู้ รโิ ภค หลังจากผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารได้แลว้ ก็จะมกี าร จาํ หน่ายจา่ ยแจกไปยงผบู้ รโิ ภค เงินทีผ่ บู้ รโิ ภคใช้จ่ายเพ่อื เปน็ เจา้ ของสินค้าและบรกิ ารจะตกไปอยู่กับใคร จํานวนเทา่ ใด เปน็ การศกึ ษาถงึ การผลติ การบรโิ ภค และการแบ่งสรรทร รพั ยากรการผลิตโดยการซื้อขายแลกเปลยี่ นกัน การที่ผบู้ รโิ ภค แตล่ ะคนจะไดส้ นิ ค้าและบรกิ ารมากินมาใช้มากน้อยแคไ่ หน หรอื รฐั บาลของบางประเทศอาจเปน็ ผกู้ ําหนด ตามนโยบายของ รฐั บาลวา่ จะจดั สรรให้แก่กล่มุ บคุ คลใด ด้วยวิธกี ารอย่าง การ ตัดสินใจวา่ เราควรจะผลิตอะไร ผลติ อย่างไร และผลิตเพอ่ื ใคร ดังกล่าวนี้ เปน็ เรอ่ื งของการจดั สรรทรพยั ากรการผลิตทีม่ อี ยู่ จํากดั เพือ่ สนองความต้องการของมนษุ ยท์ ี่มไี มจ่ าํ กัด ให้มี ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ และอาํ นวยประโยชน์สูงสุดตอ่ สังคม เศรษฐกจิ สว่ นการแกป้ ญั หาจะแตกตา่ งกนั ไป แลว้ แตร่ ะบบ เศรษฐกจิ ของสังคมน้ันๆ 51
ในระบบเศรษฐกจิ แบบผสมท่เี น้นทางด้านทนุ นิยม รฐั บาล มีหน้าที่คอยดแู ลความปลอดภัยความยตุ ธิ รรม เสรภี าพ สวัสดกิ าร บรกิ ารสาธารณะ ตลอดจนการพฒั นาเศรษฐกิจและ สงั คมของบา้ นเมือง กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ของภาครฐั บาลก็ ทํานองเดยี วกบั ภาคเอกชน รฐั บาลจําเปน็ ตอ้ งแสวงหารายไดใ้ ห้ เพยี งพอที่จะนําไปใช้จ่ายบรหิ ารประเทศให้เกิดประโยชน์สขุ แก่ ประชาชนโดยสว่ นรวม การศึกษาเศรษฐกจิ ภาครฐั บาลนั้นอาจแตกต่างจากการ ศึกษาเศรษฐกจิ ภาคเอกชนไปบา้ งในแงข่ องวธิ กี าร วัตถปุ ระสงค์ และเปา้ หมายในการแสวงหารายได้ และการใช้จ่ายของภาค รฐั บาลมุง่ ใช้จา่ ยเพอ่ื ประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ โดยมิได้มุ่งใน ทางการคา้ หากาํ ไร ซึ่งในบทนี้นักเรยี นจะได้ศึกษาทาํ ความ เข้าใจเศรษฐกิจภาครฐั บาลต่อไป 52
ความหมายและวตั ถุประสงค์ของเศรษฐกิจภาครฐั เศรษฐกจิ ภาครฐั (public economy) เปน็ การศกึ ษา กิจกรรมทางเศรษฐกิจกรรมทางเศรษฐกิจของรฐั ทางดา้ นรายได้ หน้ีสาธารณะ และรายจา่ ยของรฐั นโยบายท่ีรฐั กําหนดระดบั และโครงสรา้ งของรายได้ ผลกระทบจากการจดั เกบ็ รายได้ และ การใช้จา่ ยเพ่ือดาํ เนินกิจกรรมทางเศรษฐกจิ ของภาครฐั และผล ของการใช้จ่ายท่มี ีตอ่ เศรษฐกจิ สงั คมและการเมือง เพื่อให้ บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ดา้ นเศรษฐกจิ ของประเทศโดยส่วนรวม วัตถุประสงค์ดา้ นเศรษฐกจิ หมายความรวมถึงการมีงานทําและการมีรายได้ การร รกั ษาเสถยี รภาพของระด้ับราคา การรกั ษาเสถยี รภาพของ ดุลการชําระเงิน การผลักดันให้ระบบเศรษฐกจิ มีการเจรญิ เติบโตอย่างมัน่ คง เปน็ ตน้ 53
ความสําคัญของเศรษฐกิจภาครฐั การจัดเก็บรายได้ การกอ่ หนี้ หรอื การใช้จา่ ยเงินจํานวนมากจากภาครฐั สภู่ าค เอกชน ยอ่ มกอ่ ผลกระทบตอ่ การผลติ การบรโิ ภค และการ จา้ งงานอยา่ งมาก โดยเฉพาะในประเทศกําลงั พัฒนาดว้ ย แลว้ เศรษฐกจิ ภาครฐั ยิง่ มีความสาํ คัญมากข้นึ เช่น งาน สาธารณปู โภครฐั วสิ าหกจิ เปน็ ตน้ การท่ีเศรษฐกจิ ภาครฐั มคี วามสาํ คญั มากข้นึ เช่นนี้ เราพอสรุปไดว้ า่ มาจากสาเหตุ สาํ คัญ 2 ประการ คอื 1. รฐั บาลของประเทศต่างๆ มีหน้าทแ่ี ละ ความรบั ผดิ ชอบเพิม่ มากข้ึนไม่เพียงแต่ใน ดา้ นการบรหิ ารงานของรฐั เพ่อื ใหเ้ กิดความ สงบสุข และรกั ษาไวซ้ ึ่งความยตุ ธิ รรม เท่านั้น แตร่ ฐั บาลจาํ เปน็ ต้องเขา้ มา เก่ียวขอ้ งกบั กจิ กรรมหลายประเภทซ่ึง เอกชนดําเนินการอยู่ เช่น การค้าขาย การ อตุ สาหกรรม การมหี น้าทแี่ ละความ รบั ผิดชอบเพ่มิ ข้นึ น้ี ทําใหร้ ฐั บาลตอ้ งการใช้ จ่ายเงนิ เพมิ่ ขน้ึ ดว้ ย ในขณะเดยี วกนั รฐั บาล กม็ หี น้าท่ที ีจ่ ะตอ้ งหารายได้ให้เพียงพอกบั รายจ่าย เช่น การเกบ็ ภาษอี ากรการ จาํ หน่ายพันธบัตรรฐั บาล เปน็ ตน้ ด้วยเหตุ น้ีเศรษฐกจิ ภาครฐั บาลจึงเปน็ เรอื่ งสําคญั เพราะผูกพันอยู่กับงานในดา้ นตา่ งๆ ของ รฐั บาล 54
2. การเก็บภาษอี ากร การใช้จา่ ย และการกู้ เงินของรฐั บาลมีผลตอ่ กจิ กรรมทาง เศรษฐกจิ ท้ังในด้านการผลติ การบรโิ ภค การแลกเปล่ยี น และการกระจายรายได้ ซึ่ง เรยี กวา่ การคลงั รฐั บาล การคลงั รฐั บาล (public finance) หมายถงึ การใช้จา่ ยเพ่ือบรหิ าร ประเทศของรฐั บาล วธิ กี ารแสวงหารายได้และการบรหิ ารรายได้ ของรฐั บาล การก่อหน้ีสาธารณะ (หนี้ของภาครฐั ซ่ึงเกดิ จาการยมื โดยตรงของรฐั บาล หรอื การกู้ยมื ของรฐั วิสาหกจิ ทร่ี ฐั บาลเปน็ ผู้ คาประกัน โดยประชาชนทกุ คนจะต้องมีสว่ นรว่ มในการ รบั ผิดชอบ) ตลอดจนผลกระทบท่เี กิดขึ้นจากการใช้จ่ายและ การจดั เกบ็ รายไดข้ องรฐั บาล สงิ่ ท่ีจะช่วยให้เขา้ ใจเรอื่ งเหลา่ น้ีไดด้ ี ขึ้น ได้แก่ งบประมาณแผน่ ดิน ซึ่งเปน็ แผนการเกย่ี วกบั การหารายได้ การกูย้ ืม และการใช้จา่ ยตามโครงการต่างๆ ของรฐั บาลในแตล่ ะปี รฐั บาลจะต้องทํางบประมาณประจาํ ปี เพือ่ แสดงให้ประชาชนทราบ วา่ ในปตี อ่ ไปรฐั บาลมีโครงการจะทาํ อะไรบา้ ง แต่ละโครงการต้องใช้ จา่ ยเปน็ จาํ นวนเท่าใด และรฐั บาลจะหารายได้จากทางใดมาใช้จ่าย ตามโครงการนั้นๆ 55
ความหมายของการวางแผนพัฒนาเศรษฐกจิ ระบบเศรษฐกจิ หมายถึง หน่วยเศรษฐกจิ ท่ีรวมตวั กันทํา กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ภายใตร้ ปู แบบการปกครอง จารตี ประเพณี สงั คม และวัฒนธรรมของแตล่ ะประเทศ เพอื่ กําหนดว่าจะผลติ อะไร จาํ นวนมากน้อยเท่าใด ใช้วิธกี ารผลติ อยา่ งไร และผลติ เพอ่ื ขายให้ใคร 1. การวางแผนระดับชาติ เปน็ การวางแผนพฒั นาเศรษฐกิจ รวมของประเทศโดยอาจแบ่งเปน็ แผนระยะยาวหรอื แผน ประจาํ ปี และมีการกาํ หนดเปา้ หมายตา่ งๆ ไว้ 2.การวางแผนระดบั ภาคเศรษฐกิจ เปน็ การวางแผนพัฒนา เศรษฐกิจตามภาคเศรษฐกิจ เช่น แผนพัฒนาอตุ สาหกรรม แผนพัฒนาเกษตรกรรม แผนพัฒนาการค้าต่างประเทศ 3.การวางแผนระดับโครงการ เปน็ การวางแผนเปน็ ราย โครงการ มีรายละเอยี ดมากกวา่ แผนระดบั ชาติและแผน ระดับภาคเศรษฐกจิ โดยกาํ หนดแผนการดําเนินงาน วิธกี าร ดาํ เนินงาน และกําหนดหน่วยปฏิบตั ิไว้เปน็ ระเบียบแบบแผน 56
ระบบเศรษฐกจิ หมายถงึ หน่วยเศรษฐกิจท่รี วมตัวกันทํา กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ภายใต้รปู แบบการปกครอง จารตี ประเพณี สงั คม และวฒั นธรรมของแตล่ ะประเทศ เพื่อ กําหนดวา่ จะผลติ อะไร จาํ นวนมากน้อยเท่าใด ใช้วิธกี ารผลติ อยา่ งไร และผลติ เพ่อื ขายใหใ้ คร ระบบเศรษฐกิจในปจั จุบนั ท่ี สาํ คัญ มี 4 รูปแบบ คอื ระบบทุนนิยมหรอื เสรนี ิยม หมายถึง ระบบ เศรษฐกิจทเ่ี อกชนสามารถมกี รรมสทิ ธใ์ิ น ทรพั ยส์ นิ ต่างๆ มเี สรภี าพในการเลอื กท่ีจะ ประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกจิ อย่างเต็มท่ี ไม่วา่ ในเรอ่ื งการกําหนดนโยบายในการ ผลติ ว่าผลติ อะไร ผลติ อยา่ งไร และผลติ เพอื่ ใคร ระบบน้ีจะมีการแข่งขันระหว่าง เอกชนอยา่ งเสรี หน่วยงานของรฐั จะเขา้ ไป เกย่ี วขอ้ งน้อยท่ีสดุ 57
ระบบสังคมนิยม คอื ระบบเศรษฐกิจที่ รฐั บาลเข้าไปเปน็ ผดู้ ําเนินการผลติ โดยเน้น ในดา้ นสวัสดกิ ารของประชาชนในประเทศ เปน็ หลกั รฐั บาลเปน็ ผกู้ ําหนดกิจกรรมทาง เศรษฐกจิ รฐั เปน็ เจา้ ของปจั จัยการผลติ และกจิ การขนาดใหญ่ทีส่ าํ คัญ เช่น กิจการ สาธารณปู โภค ระบบคอมมวิ นิสต์ เปน็ ระบบเศรษฐกจิ ที่ รฐั บาลเปน็ เจา้ ของปจั จัยการผลติ ทุกชนิด โดยรฐั บาลเปน็ ผดู้ าํ เนินการในการตัดสนิ ใจ ทงั้ ทางเศรษฐกจิ และสงั คม โดยรฐั บาลจะ กําหนดว่า จะใหป้ ระชาชนในประเทศผลติ สนิ ค้าและบรกิ ารอะไร ผลติ อยา่ งไร และ เพื่อสง่ ให้ใครบรโิ ภค ประชาชนไมม่ เี สรภี าพ ในการถือครองทรพั ย์สนิ ไมม่ ีเสรภี าพใน การเลอื กประกอบอาชีพ หรอื การเลอื กซื้อ สนิ ค้าและบรกิ ารมาบรโิ ภค 58
ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม คอื ระบบ เศรษฐกจิ ทีน่ ําลกั ษณะสาํ คัญของระบบ ทนุ นิยมและสงั คมนิมยมมารวมไวด้ ้วยกัน กลา่ วคอื มีทง้ั สว่ นท่ปี ลอ่ ยให้เอกชน ตัดสนิ ใจดาํ เนินการกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ เอง และสว่ นท่ีรฐั บาลเข้าไปควบคุมและ วางแผนทางเศรษฐกิจ 59
ราคาสนิ ค้า คือ มลู ค่าของสนิ ค้าและบรกิ ารทผี่ ปู้ ระกอบ การทําการผลติ ไดแ้ ละนํามาจําหน่ายใหแ้ กผ่ บู้ รโิ ภค เช่น นาย ก. ผลติ ปากกาออกขายใหแ้ กน่ ักเรยี นในราคาด้ามละ 5บาท เปน็ ต้น ในระบบเศรษฐกจิ แบบทุนนิยม หรอื ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม ซึ่งการผลติ การบรโิ ภคสว่ นใหญ่เปน็ เรอื่ งของภาค เอกชน โดยผ่านกลไกของราคา นั้น ราคาสนิ ค้าและบรกิ ารจะ ทําหน้าท่ี 3 ประการ คอื กาํ หนดมลู ค่าของสินค้า ในการซื้อขายแลกเปลยี่ นทีใ่ ช้เงนิ เปน็ สอ่ื กลาง ราคาจะทําหน้าที่ กําหนดมลู คา่ เพ่อื ให้ผซู้ ื้อตดั สนิ ใจทจ่ี ะซ้ือสนิ ค้าในมูลคา่ ทีค่ ้มุ หรอื ไม่ คมุ้ กบั เงนิ ทเ่ี ขาจะต้องเสยี ไป ราคาสนิ คา้ บางแหง่ กก็ ําหนดไวแ้ น่นอน ตายตัว แต่บางแห่งก็ตง้ั ไว้เผ่ือตอ่ เพื่อใหผ้ ซู้ ้ือตอ่ รองราคาได้ กําหนดปรมิ าณสินค้า ในการซื้อขายแลกเปลย่ี นกันนั้นถา้ สนิ ค้ามรี าคาถูก ผู้ซ้ือจะซื้อ ปรมิ าณมากข้นึ สว่ นผู้ขายจะเสนอขายในปรมิ าณน้อยลง แต่ถ้า สนิ คา้ มีราคาแพงผู้ซื้อจะซื้อปรมิ าณน้อยลงสว่ นผู้ขายจะขายใน ปรมิ าณมากข้นึ ราคาจึงเปน็ ตัวกาํ หนดปรมิ าณสนิ ค้าทีจ่ ะซ้ือขายกัน 60
กาํ หนดปรมิ าณสนิ คา้ ในการซื้อขายแลกเปลยี่ นกันนั้นถ้า สนิ คา้ มรี าคาถูก ผซู้ ้ือจะซ้ือปรมิ าณมากข้ึนสว่ นผขู้ ายจะเสนอขายใน ปรมิ าณน้อยลง แต่ถ้าสนิ ค้ามีราคาแพงผซู้ ื้อจะซื้อปรมิ าณน้อยลง สว่ นผขู้ ายจะขายในปรมิ าณมากขึน้ ราคาจึงเปน็ ตัวกาํ หนดปรมิ าณ สนิ คา้ ทีจ่ ะซ้ือขายกัน กาํ หนดปรมิ าณการผลติ ของผู้ประกอบการ ในระบบเศรษฐกิจ แบบผสม ซ่ึงการผลติ สว่ นใหญ่เปน็ เรอื่ งของเอกชนน้ัน จะมีปญั หา ว่าผผู้ ลติ ควรจะผลติ ในปรมิ าณสกั เทา่ ใดจงึ จะพอดกี บั ความต้องการ ของผบู้ รโิ ภค เพือ่ ให้เขาได้กําไรสงู สดุ ตามทตี่ ้องการ โดยสงั เกต ความตอ้ งการซ้ือ (อปุ สงค)์ และความตอ้ งการขาย (อปุ ทาน) ของ สนิ คา้ ทเ่ี ราทําการผลติ ในระดบั ราคาต่างๆ กันเพอื่ หา ดุลยภาพ ซึ่ง เปน็ ระดับทผ่ี ซู้ ้ือและผ้ขู ายจะทําการซ้ือขายกนั ในปรมิ าณและราคาท่ี ตรงกัน ปรมิ าณทีม่ ีการซ้ือขาย ณ จดุ ดลุ ยภาพ เรยี กวา่ ปรมิ าณ ดุลยภาพ และผซู้ ้ือมีความตอ้ งการซ้ือ สว่ นราคาทด่ี ลุ ยภาพ เรยี กวา่ ราคาดลุ ยภาพ อนั เปน็ ราคาทผ่ี ู้ผลติ ควรพจิ ารณาในการต้งั ราคา ขาย 61
กลไกราคา (price mechanism) หมายถึง ตวั กาํ หนดการจัดสรรทรพั ยากรในระบบเศรษฐกจิ ทีมีปจั จยั สาํ คญั ในการกําหนดราคา คือ อปุ สงค์ (demand) และอปุ ทาน (supply) อปุ สงค์ (Demand) คอื ปรมิ าณความตอ้ งการซ้ิอสนิ ค้าและบรกิ ารของผู้ซ้ือในระยะ เวลาใดเวลาหนึ่ง ณ ระดับราคาต่างๆ กนั ความตอ้ งการซื้อจะแตก ต่างจากความต้องการท่วั ไป (want) แต่จะต้องรวมอาํ นาจซ้ือ (purchasing power) คอื เตม็ ใจและมเี งินเพียงพอท่จี ะจ่ายซื้อ สนิ คา้ นั้นด้วย อย่างไรกต็ ามปรมิ าณความต้องการซื้อน้ีจะ เปลย่ี นแปลงเมื่อมปี จั จยั กําหนดอปุ สงค์ตัวอนื่ ๆ เปลยี่ นแปลงด้วย เช่น รายได้ของผู้ซื้อ รสนิยม ราคาสนิ คา้ ชนิดที่ใช้ทดแทนกนั ได้ เช่น เนื้อหมูกบั เนื้อไก่ เปน็ ต้น 62
อปุ ทาน (supply) คือ ปรมิ าณความตอ้ งการเสนอขายสนิ ค้าและบรกิ ารของผ้ขู าย ในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ณ ระดบั ราคาต่างๆ กันโดยผู้ขายเต็มใจจะ ขาย กลา่ วคือ ถ้าราคาตาปรมิ าณท่ีเสนอขายกจ็ ะลดตาลงด้วย และ ใน่ทางตรงกันข้าม หากระดับราคาสงู ขน้ึ ก็จะมีปรมิ าณเสนอขายเพ่มิ ข้ึน ซึ่งเปน็ ไปตาม กฎของอปุ ทาน (Law of Supply) ปจั จยั ทท่ี าํ ให้ อปุ ทานเปลย่ี นแปลง เช่น การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยใี นการผลติ ราคาของปจั จัยที่ใช้ในการผลติ สนิ ค้าและบรกิ าร การเปลยี่ นแปลง ฤดูกาล การคาคคะเนราคาสนิ ค้าและบรกิ ารของผู้ขาย 63
ตลาด ตลาดในความหมายทางเศรษฐศาสตร์ จะกวา้ ง กวา่ ความหมายทั่วๆ ไปทเ่ี ปน็ สถานท่ที ่มี ผี ูข้ ายจาํ นวนมากนํา สนิ คา้ มาวางขาย แต่ตลาดในทางเศรษฐศาสตรจ์ ะเกดิ ขึน้ ทัน ทท่ี ี่มกี ารตกลงซ่ือขายกนั ต่อรองราคาหรอื มีการแลกเปลย่ี น สนิ คา้ และบรกิ าร โดยไมจ่ ําเปน็ ต้องมีสนิ ค้าและบรกิ ารปรากฏ อยู่ ณ สถานทน่ี ั้น องค์ประกอบของตลาดจะประกอบดว้ ย ผู้ซื้อ ผขู้ าย สนิ คา้ และ ราคา ซึ่งอาจจะมีพ่อค้าคนกลางรว่ มดว้ ย ปจั จบุ ันความ ก้าวหน้าทางเทคโนโลยขี ้อมูลขา่ วสารได้ทําใหผ้ ซู้ ื้อและผูข้ าย ใกลช้ ิดกนั มากขึน้ โดยอาศัยคนกลางน้อยลง นอกจากน้ีความ สะดวกสบายรวดเรว็ ของสอ่ื ทใ่ี ช้ในการชําระค่าสนิ ค้าก็ทาํ ได้ คลอ่ งตวั ขน้ึ เช่น ระบบเครดติ เปน็ ตน้ 64
ระบบตลาดขึ้นอย่กู ับกลไกราคา ซึ่งราคาตลาดถกุ กาํ หนด โดยปฏิสมั พันธ์ (Interaction) ระหวา่ งผู้ซื้อจํานวนมาก ผู้ ขายจาํ นวนมาก ณ ช่วงเวลาหนึ่ง เช่น ช่วงต้นฤดูทุเรยี น หมอนทอง ราคากิโลกรมั ละ 40 บาท ผู้ซื้อต้องการซ้ือ 200 ลา้ นกโิ ลกรมั / สปั ดาห์ ในขณ๊ะทผ่ี ้ขู ายตอ้ งการขาย 200 ลา้ นกโิ ลกรมั / สปั ดาห์ เช่นกัน ไมม่ ขี องเหลอื ของขาด ท้งั ผู้ ซ้ือและผู้ขายตา่ งพอใจในภาวการณ์ทเี่ ปน็ อยู่ ราคาตลาดดัง กลา่ วเปน็ ราคาดลุ ยภาพ และราคาตลาดนี้จะเปลยี นแปลงไป ถา้ อปุ สงคห์ รอื อปุ ทานเปลย่ี น หรอื เปลย่ี นท้งั อปุ สงค์และอปุ ทาน 65
บรรณานกุ รม อางอิงขอ มูลจาก: ● ความรูเบื้องตน ทางเศรษฐศาสตร: https://sites.google.com/site/sersthsastrbeuxngtn2200 1001/1-khwam-ru-phun-than-thang-sersthsastr ● ความเปน มาของวิชาเศรษฐศาสตร: https://sites.google.com/a/srisawat.ac.th/economics-t h/khwam-pen-ma-khxng-wicha-sersthsastr , https://sites.google.com/site/learningbysocial/hnwy-ka r-reiy-ru-thi-1-sersthsastr-beuxng-tn/reuxng-thi-2-khwam- pen-ma-khxng-wicha-sersthsastr ● ความสําคัญของวิชาเศรษฐศาสตร: https://sites.google.com/site/learningbysocial/hnwy-ka r-reiy-ru-thi-1-sersthsastr-beuxng-tn/reuxng-thi-3-khwam- sakhay-khxng-wicha-sersthsastr ● ประโยชนข องวชิ าเศรษฐศาสตร: https://sites.google.com/site/learningbysocial/hnwy-ka r-reiy-ru-thi-1-sersthsastr-beuxng-tn/reuxng-thi-7-prayoc hn-khxng-wicha-sersthsastr ● ความสัมพันธระหวา งเศรษฐศาสตรก บั ศาสตรอ น่ื ๆ: https://sites.google.com/site/learningbysocial/hnwy-ka r-reiy-ru-thi-1-sersthsastr-beuxng-tn/reuxng-thi-8-khwam- samphanth-rahwang-sersthsastr-kab-sastr-xun ● ความรูพนื้ ฐานทางเศรษฐศาสตร: https://sites.google.com/site/kvsda101/khwam-ru-phun -than-thang-sersthsastr 66
เสนอ อาจารย์ ณัฐรนิ ีย์ สมนึก จดั ทําโดย นาย ธรี พฒั น์ แก้วรุณา เลขท่5ี นาย ปณภณ บารมี เลขท7่ี นายปรชั ญนนท์ ขุนสะอาดศรี เลขท8่ี 67
นาย พพิ ฒั พงษ์ สงพรม เลขท่ี 9 นายรภีภทั ร ทองมา เลขที่10 น.ส.รญั ชนา วงศาโรจน์ เลขท่1ี 8 68
Search