นิทานพื้นบ้าน หลวิชัย-คาวี วิ ช า ภ า ษ า แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม
เสือแม่ลูกอาศัยอยู่ด้วยกันในถ้ำ วันหนึ่งแม่เสือ เที่ยวหากินเพลิน ทิ้งให้ลูกอดนมอยู่ตามลำพัง ขณะนั้น มีโคแม่ลูกอ่อนเดินผ่านมา ลูกเสือจึง อ้อนวอนร้องขอกินนม ฝ่ายแม่โคก็นิ่งเสีย ลูก โคซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์คิดสงสารก็ช่วย อ้อนวอนจนแม่โคใจอ่อน ยอมให้ลูกเสือกิน นมจนอิ่ม
ลูกเสือสำนึกในบุญคุณก็ชวนให้โคแม่ลูกมาอยู่ใน บริเวณเดียวกัน ครั้นแม่เสือกลับมาลูกเสือก็ แสร้งทำเป็นน้อยใจ ตัดพ้อว่าแม่ทิ้งตนให้ อดนมจนเกือบสิ้นชีวิต หากได้กินนมแม่โคจึง รอด ลูกเสือบอกแม่ขอให้โคทั้งสองหากินอยู่ ในตำบลนั้นด้วย
แม่เสือก็รับคำแล้วให้พาโคแม่ลูกอ่อนมาอยู่ ด้วยกันและกระทำสัตย์สาบานว่า จะไม่ทำร้ายแม่ โค แต่นั้นมาเสือโคแม่ลูกก็อยู่ในถ้ำเดียวกัน ฝ่ายแม่เสือนั้นไม่จริงใจต่อโคในใจคิดหา โอกาสจะกินเสียทั้งแม่ทั้งลูก แม่โคก็ระวังตัว อยู่ตลอดเวลา หากรู้ว่าแม่เสือจะไปหากินทิศ ใดก็หลีกเลี่ยงไปเสียอีกทางหนึ่ง
วันหนึ่งแม่เสือได้โอกาสจึงฆ่าแม่โคกินเสีย แล้วกลับมายังถ้ำ เมื่อแม่โคหายไปลูกโคและลูก เสือจึงพากันออกตามหา พบซากแม่โคถูกเสือ กินอยู่ไม่ไกลจากถ้ำ ก็รู้ว่าแม่เสือกินแม่โคเสีย แล้ว ลูกสัตว์ทั้งสองต่างโศกเศร้าและแค้น เคืองเป็นกำลัง จึงช่วยกันฆ่าแม่เสือตายในถ้ำที่ อาศัย
ลูกสัตว์ทั้งสองออกเดินทางจากถ้ำแสวงหาที่ อยู่แห่งใหม่ ผ่านอาศรมของพระฤาษีไป พระ ฤาษีเห็นลูกเสือกับลูกโคเดินมาด้วยกันด้วย อาการรักใคร่ผิดวิสัยก็ประหลาดใจ เรียกไป ถามจนได้ความทุกประการ พระฤาษีมีเมตตา จึงตั้งพิธีชุบสัตว์ทั้งสองให้เป็นมนุษย์ ลูกเสือ ให้นามว่า พหลวิชัยหรือหลวิชัย ส่วนลูกโคให้ นามว่า คาวี แล้วสั่งสอนวิชาให้
เมื่อทั้งสองมีอายุพอสมควรแล้ว หลวิชัยกับ คาวีก็ขอลาพระฤาษีไปเผชิญโชค พระฤาษีได้ชุบ พระขรรค์วิเศษที่บรรจุหัวใจของหลวิชัยกับ คาวีมอบให้คนละเล่มหลวิชัย คาวี เดินทางไป ได้พักหนึ่งถึงทางแยก หลวิชัยจึงบอกกับคาวีว่า ” เราแยกทางกันตรงนี้ เจ้าไปทิศเหนือ พี่ไปทิศ ใต้ แล้วอีกสามเดือนเรามาพบกันที่นี่ ”
คาวีเดินทางไปถึงเมืองร้างแห่งหนึ่ง ร้านรวง ต่าง ๆ ยังมีข้าวของแต่ไม่มีผู้คน คาวีเข้าไปใน พระราชวังก็ไม่เห็นคนสักคนเดียว จึงเข้าไปใน ครัวแล้วก่อไฟขึ้นเพื่อจะหุงหา อาหาร ทันใด นั้นมีกลุ่มนกอินทรียักษ์บินมาจนท้องฟ้ามืดมิด กลุ่มนกอินทรีบินจะมาจิกกิน คาวี คาวีใช้พระ ขรรค์ต่อสู้และฆ่านกอินทรียักษ์ตายเกือบหมด นกที่เหลือก็บินหนีไป
คาวีจึงเดินสำรวจพระราชวัง เห็นกลองใบใหญ่ พอเดินเข้าไปใกล้ได้ยินเสียงหญิงสาว ร้องว่า ” ช่วยเราด้วย ช่วยเราด้วย ” คาวีใช้พระขรรค์ กรีดหนังกลองก็พบพระราชธิดาชื่อ พระนาง จันทร์สุดา คาวีจึงอภิเษกกับนางจันทร์สุดา ผู้คนที่หลบหนีไปเพราะกลัวนกก็อพยพ กลับมา อยู่ที่เมือง บ้านเมืองก็เจริญรุ่งเรืองเหมือน เดิม
วันหนึ่งพระนางจันทร์สุดาไปสรงน้ำ ผมของ นางซึ่งมีกลิ่นหอมร่วง พระนางจึงใส่ผอบ ลอยน้ำไป ต่อมามีคนนำผอบผมหอมไป ถวายท้าวสัณนุราช ท้าวสัณนุราชก็อยากทราบ ว่าผมนี้เป็นของผู้ใด จึงมีประกาศป่าวร้องว่า ถ้าใครรู้จักจะให้รางวัล ยายเฒ่าทัดประสาดช
ซึ่งเคยเป็นพี่เลี้ยงของนางจันทร์สุดาก็รีบไป เข้าเฝ้าท้าวสัณนุราช แล้วบอกว่าเป็นเส้นผม ของพระนางจันทร์สุดา ท้าวสัณนุราชจึงบอก ให้ยายเฒ่าทัดประสาดหาทางนำนางมา แล้วก็ให้ เงินทองแก่ยายเฒ่าเป็นอันมาก
ยายเฒ่ารีบกลับไปที่เมือง ทำทีเป็นขออยู่กับ พระนางจันทร์สุดา แล้วก็ยุยงพระนางว่าคาวี คงมิได้ไว้ใจพระนางจันทร์สุดาจึงได้พกพระ ขรรค์ติดตัวตลอดเวลา พระนางจันทร์ สุดาก็มีจิตใจไหวหวั่นหลงเชื่อ จึงถามคาวี ว่าทำไมคาวีจึงต้องพกพระขรรค์ติดตัว ตลอดเวลา
คาวีจึงบอกความลับว่า เพราะหัวใจคาวีอยู่ ที่พระขรรค์ ถ้าใครนำพระขรรค์ไปเผาไฟ คาวีก็จะตาย ด้วยเหตุนี้จึงต้องพกพระ ขรรค์ติดตัวตลอดเวลา พระนางจันทร์ สุดาเมื่อได้ทราบเช่นนั้นก็หายแคลงใจ และได้ นำความไปเล่าให้ยายเฒ่าฟัง ลืมไปว่าเรื่องนี้ เป็นความลับ
ยายเฒ่าได้ฟังจึงเกิดความคิด ชวนให้คาวีกับ พระนางจันทร์สุดาไปสรงน้ำที่ชายทะเล คาวี และพระนางจันทร์สุดาถอดเครื่องทรงรวม ทั้งพระขรรค์ให้ยายเฒ่าเก็บรักษา ยายเฒ่านำ พระขรรค์ไปเผาไฟ คาวีกำลังว่ายน้ำเล่นก็รู้สึก ร้อนจึงรีบชวนนางจันทร์สุดาว่ายกลับเข้าฝั่ง
พอถึงชายหาดคาวีเห็นยายเฒ่ากำลังเผาพระ ขรรค์อยู่ ก็นึกโกรธที่พระนางจันทร์สุดาไม่รักษา ความลับ แต่ยังไม่ทันพูดคาวีก็ล้มลงสิ้นสติ พระนางจันทร์สุดาตกพระทัยมากได้แต่ร่ำไห้ กอดร่างคาวี ยายเฒ่าจึงรีบให้ทหารของท้าวสัณ นุราชนำพระนางจันทร์สุดาไปถวายท้าวสัณนุราช
ฝ่ายหลวิชัยเมื่อครบกำหนดวันนัดก็มาพบคาวีที่ทาง แยก คอยอยู่ทั้งวันไม่เห็นคาวีมาจึงตัดสินใจเดิน ทางมาที่เมืองพระนางจันทร์สุดา ระหว่างทางเห็น กองไฟและพระขรรค์ของคาวีอยู่ในกองไฟก็รีบนำ พระขรรค์ออกมา และพบคาวีนอนสิ้นสติก็ช่วย แก้ไขจนฟื้น เมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหลวิชัยก็ ชวนคาวีไปตามพระนางจันทร์สุดาที่เมืองท้าว สัณนุราช
ที่เมืองท้าวสัณนุราชมีประกาศให้คนที่มีวิชา อาคมไปช่วยชุบท้าวสัณนุราชให้เป็นหนุ่ม เพราะ พระนางจันทร์สุดาไม่ยอมรับรักท้าวสัณนุราช หลวิชัยจึงแต่งกายปลอมเป็นฤษีเข้ารับอาสาจะชุ บท้าวสัณนุราชให้เป็นหนุ่มท้าวสัณนุราชดีใจมาก หลวิชัยจึงสั่งให้ขุดหลุมลึกแล้วกั้นม่านเจ็ดชั้น ที่หลุมนั้นสุมไฟไว้ หลวิชัยให้ท้าวสัณนุราชโดด ลงไปที่กองไฟนั้น
ด้วยความที่อยากเป็นหนุ่ม ท้าวสัณนุราชก็ กระโดดลงไปในกองไฟสิ้นชีวิต หลวิชัยก็นำ คาวีออกมา ทุกคนก็เข้าใจว่าเป็นท้าวสัณนุ ราชชุบตัวกลายเป็นคนหนุ่มแล้ว ก็โห่ร้อง ดีใจ และจัดอภิเษกท้าวสัณนุราชหรือคาวีกับ พระนางจันทร์สุดา
ส่วนยายเฒ่าเมื่อเห็นดังนั้นก็เกิดความกลัว รีบหลบหนีไป หลวิชัยเมื่อเห็นคาวี ปลอดภัยแล้วก็ลาคาวีและพระนางจันทร์ สุดาเดินทางต่อไป คาวีและพระนางจันทร์ สุดาก็อยู่ครองเมืองทั้งสองด้วย ความ สุขสืบมา
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องหลวิชัยคาวี ๑ . ก า ร มี ค ว า ม เ ม ต ต า ต่ อ ผู้ ที่ กำ ลั ง ลำ บ า ก เ ป็ น สิ่ ง ที่ ค ว ร ทำ ๒ . ผู้ ที่ ไ ม่ มี สั จ จ ะ ไ ม่ มี ใ ค ร อ ย า ก ค บ ห า ส ม า ค ม ด้ ว ย ๓ . มิ ต ร แ ท้ ต้ อ ง มี ค ว า ม เ ห็ น อ ก เ ห็ น ใ จ กั น แ ล ะ ค อ ย ช่ ว ย เ ห ลื อ กั น ใ น ย า ม ต ก ทุ ก ข์ ไ ด้ ย า ก ๔ . ก า ร ไ ม่ พ อ ใ จ ใ น สิ่ ง ที่ ต น มี อ ยู่ ย่ อ ม ทำ ใ ห้ ต น มี ป ต่ ค ว า ม ทุ ก ข์ ๕ . ค ว า ม โ ล ภ ย่ อ ม นำ ไ ป สู่ ค ว า ม วิ บั ติ ๖ . ค ว า ม ดี ย่ อ ม ช น ะ ค ว า ม ชั่ ว นิทานพื้นบ้านประเภท - ตำนาน - นิทาน - คติสอนใจ แหล่งอ้างอิง maewwarunee.blogspot.com
จั ด ทำ โ ด ย น.ส.สาวิกา พวงผกา ม.4/7 เลขที่ 15
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: