ห นั ง สื อ E - B O O K ·ÃѾÂÒ¡Ã¸Ã³Õ ¶Ò¹ËÔ¹ (COAL) By KP
ถ่านหิน(COAL) ถา่ นหนิ เปนหนิ ทสี ามารถตดิ ไฟได้ มี ปรมิ าณของ CO2 ตงั แตร่ อ้ ยละ 50 ขนึ ไป โดยนาหนัก หรอื มปี รมิ าณ CO2 รอ้ ยละ 70 ขนึ ไปโดยปรมิ าณ
กระบวนการเกิด ถา่ นหินเกิดจากการสะสมตัวของเศษซากพชื ใน ธรรมชาตทิ ีทับถมกันเปนเวลานานภายใต้ความ ร้อนและความดนั สูงเศษซากพืชทีมีลักษณะ ตะกอนยงั ไม่แข็งตวั และมีความชืนสงู เรยกวา่ พีต(peat) ซึงเมือผา่ นกระบวนการทางธรณีจะ กลายเปนสภาพถ่านหนิ ทีมคี ุรภาพแตกตา่ งกัน ไป ได้แก่ ►พีต(peat) ►ลิกไนต์ (Lignite) ►ถ่านหินซับบทิ ูมนิ สั (Sub-bituminous Coal) ►ถ่านหนิ บทิ ูมนิ สั (Bituminous) ►แอนทราไซต์ (Anthracite)
ประเภทของถ่านหิน ประเภทของถ่านหินสามารถจ้าแนกตามอายุ การเกดิ หรอปรมาณคาร์บอนทเี ปนองค์ ประกอบได้เปน 5 ประเภท ดังนี พีต (Peat) เปนถ่านหนิ ในขนั เรมต้น มีลักษณะ ใหเ้ หน็ เปนลาํ ตน้ กงิ หรอใบ มีสีนา้ ตาลจนถึงสดี ้า มคี วามชนื สูง สารประกอบทีเกิดขนึ มีปรมาณ ออกซิเจนสงู แตม่ ปี รมาณ CO2ตําเมอื นาํ พตี มา เปนเชือเพลงิ ตอ้ งผ่านกระบวนการไลค่ วามชนื หรอ ทาํ ใหแ้ หง้ ก่อน ความร้อนทีไดจ้ ากการเผา พตี สงู กวา่ ทไี ดจ้ ากไม้ ใช้เปนเชอื เพลิงเพอื ให้ ความร้อนในบ้านหรอผลิตไฟฟา ขอ้ ดขี องพีต คือ มีร้อยละของกา้ มะถนั ตา่ กวา่ น้ามันและถา่ น หนิ อนื ๆ
ลิกไนต์ (Lignite) หรอถ่านหนิ สีนาํ ตาล เปน ถา่ นหนิ ทีมซี ากพืชเหลอื อย่เู ลก็ น้อย ลักษณะเนอื เหนยี วและผวิ ด้าน มปี รมาณออกซิเจนและ ความชืนตาํ มีปรมาณคาร์บอนสงู กวา่ พตี เมอื ตดิ ไฟมคี วนั และเถา้ ถ่านมาก ลิกไนตใ์ ช้เปนเชอื เพลงิ สา้ หรับให้ความร้อนและใช้เพือผลติ กระแส ไฟฟา
ซับบทิ ูมินสั (Sub–bituminous) เปนถา่ นหนิ ทีเกดิ นานกวา่ ลกิ ไนต์ มีสีนาํ ตาลจนถงึ ดาํ ลกั ษณะมที งั ผวิ ดา้ นและผิวมนั มที ังเนือออ่ นร่วน และแขง็ มปี รมาณออกซเิ จนและความชืนต่า แต่ มีปรมาณคาร์บอนสูงกวา่ ลกิ ไนต์ ใช้เปนแหล่ง พลงั งานสา้ หรับ ผลติ กระแสไฟฟาและ อุตสาหกรรม
บิทูมินัส (bituminous) เปนถ่านหินทีเกดิ นาน กวา่ ซบั บทิ มู นิ สั มเี นือแน่นและแขง็ มีทังสีนําตาล จนถงึ สดี าํ มปี รมาณออกซิเจนและความชืนตํา แต่มปี รมาณคาร์บอนสูงกวา่ ซับบิทมู นิ ัส ใช้เปน เชือเพลิงในการถลุงโลหะ และนาํ มาเปน วตั ถดุ ิบ เพอื เปลยี นเปนเชอื เพลงิ เคมีอืน ๆ ได้
แอนทราไซต์ (Anthracite) เปนถา่ นหินที มีอายกุ ารเกดิ นานทีสดุ มีสีดาํ ลกั ษณะเนอื แนน่ แข็ง และเปนมนั มปี รมาณออกซิเจน และ ความชนื ตาํ แต่มปี รมาณคาร์บอนสูงกวา่ ถา่ นหนิ ชนดิ อนื ๆ จุดไฟติดยาก เมือตดิ ไฟจะใหเ้ ปลวไฟ สีนาํ เงิน จาง ๆ มคี วนั น้อย ให้ความร้อนสงู และ ไม่มีสารอินทรยร์ ะเหยออกมาจากการเผาไหม้
การใช้ประโยชน์จากถ่านหิน ในปจจุบนั ถา่ นหนิ ได้ถูกนํามาใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ ง แพร่หลายอาทิการผลติ กระแสไฟฟาดว้ ยถ่านหิน หรอ โรงงานอตุ สาหกรรมสาํ หรับผลติ กระแส ไฟฟา หรอ อุตสาหกรรมอืนๆ เชน่ การถลงุ โลหะ การผลิตปนู ซีเมนต์ การผลติ อาหาร นอกจากนียงั สามารถนาํ มาแปรรูปเปนเชือเพลิงเหลว ผลติ ถา่ น สงั เคราะห์ และ การผลิตคาร์บอนไฟเบอร์
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: