Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้ที่1 เรื่องแผนที่

แผนจัดการเรียนรู้ที่1 เรื่องแผนที่

Published by ลาวัลย์ สีหะวงษ์, 2019-12-02 00:20:35

Description: แผนจัดการเรียนรู้ที่1 เรื่องแผนที่

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 1 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง เครื่องมือทางภูมศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส33102 รายวชิ า ภูมิศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2/2562 เวลา 1 ชวั่ โมง ครผู ูส้ อน นางลาวลั ย์ สีหะวงษ์ 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกัน ใช้แผนที่และ เครอ่ื งมือทางภมู ศิ าสตร์ในการค้นหา วเิ คราะห์ และสรุปข้อมลู ตามกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภมู สิ ารสนเทศอย่าง มปี ระสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ส 5.1 ม.4-6/3 ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทาง ภมู ิศาสตร์ และนาภูมสิ ารสนเทศมาใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวนั ผลการเรียนรู้ รู้จกั องค์ประกอบของแผนท่ี และสามารถวเิ คราะห์ขอ้ มูลจากแผนท่ไี ด้อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะ ตลอดจนนาแผนทีไ่ ปใช้ ประโยชนใ์ นการดาเดินชวี ติ ประจาวันได้ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (จากตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้) 1. อธิบายความหมายและองคป์ ระกอบของแผนท่ไี ด้ 2. บอกประโยชนข์ องแผนทีไ่ ด้ 3. อา่ นข้อมูลจากแผนที่ได้ 4. นาแผนทีไ่ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั ได้ 3. สาระสาคัญ แผนที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการศึกษาข้อมูลทางภูมิศาสตร์ โดยการแสดงข้อมูลต่าง ๆ บนพ้ืนผิวโลกลงบนวัสดุแบน ราบ การอา่ นข้อมูลในแผนท่ผี ู้ใชแ้ ผนทจ่ี าเป็นต้องมคี วามรู้เบือ้ งต้นเกี่ยวกับชนดิ ของแผนทีแ่ ละองค์ประกอบของแผนท่ี 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร เปน็ ความสามารถในการรับและส่งสาร ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สกึ และทัศนะของ ตนเองเพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ และเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลัก เหตผุ ลและความถูกตอ้ ง ตลอดจนการเลอื กใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสังคม

2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพ่ือการ ตัดสินใจได้อย่าง เหมาะสม 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเ นิน ชีวิตประจาวัน การทางาน และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา และความขดั แยง้ ตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะ กระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทางาน การแก้ปัญหาอย่าง สร้างสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม 5. สาระการเรียนรู้ 5.1 ความรู้ (Knowledge : K) แผนท่ี คือ ภาพย่อส่วนแสดงลักษณะของพ้นื ผิวโลก ได้แก่ ลักษณะภมู ปิ ระเทศ ภมู ิอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่ง ตา่ งๆ ท่มี นุษยส์ ร้างขนึ้ เชน่ เส้นทางคมนาคม สถานที่ ท้องนา ทอ้ งไร่ เปน็ ต้น ชนิดของแผนท่ี 1. แบ่งตามขนาดของมาตรส่วน มี 3 ชนิด คือ - แผนทม่ี าตราส่วนเล็ก หมายถึง แผนทีท่ ีม่ าตราส่วนเล็กกว่า 1 : 1,000,000 - แผนท่มี าตราส่วนกลาง หมายถงึ แผนทีท่ ี่มีมาตราส่วนระหว่าง 1 : 250,000 ถึง 1 : 1,000,000 - แผนทม่ี าตราส่วนใหญ่ หมายถงึ แผนทีท่ ี่มีมาตราส่วนมากกวา่ 1 : 250,000 2. แบ่งตามประเภทการใช้ ได้แก่ - แผนที่กายภาพ หรือแผนที่ลักษณะภูมิประเทศ (Topographic หรือ Landform หรือ Relief Map) เป็นแผนที่ แสดงรายละเอยี ดของสิง่ ทีเ่ กิดข้ึนโดยธรรมชาติ เชน่ ทะเล มหาสมุทร เทือกเขา ทร่ี าบสูง ทีร่ าบ ฯลฯ - แผนที่รัฐกิจ (Political Map) หรือแผนที่ทั่วไป (General Map) เป็นแผนที่แสดงขอบเขตการปกครองของ จงั หวดั รัฐ ประเทศ - แผนที่ประวัติศาสตร์ (Histostical Map) เป็นแผนที่แสดงอาณาเขตของอาณาจักรหรือจักรวรรดิต่าง ๆ ใน สมัยโบราณ - แผนที่โครงร่าง (Outline) เป็นแผนที่แสดงโครงร่างของทวีป ประเทศ โดยไม่มีรายละเอียดใด ๆ เพ่ือใช้ใน การศึกษา เชน่ - แผนที่เดินเรือ (Nautical Map) เป็นแผนที่แสดงเส้นทางการเดินเรือในท้องทะเล มหาสมุทร รวมท้ังใช้ สัญลกั ษณ์สเี พอ่ื แสดงความต้ืนลึกของพ้นื นา้ - แผนที่เศรษฐกิจ (Economic Map) เป็นแผนที่แสดงเขตกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมทั้งแสดงแหล่ง ทรัพยากรสาคญั 2. องคป์ ระกอบของแผนท่ี - ช่ือแผนที่เป็นสิ่งที่มีความจาเป็นสาหรับให้ผู้ใช้ได้ทราบว่าเป็นแผนที่เรื่องอะไร แสดงรายละเอียดอะไรบ้าง เพ่ือให้ผู้ใช้ได้อย่างถูกต้อง และตรงความต้องการ โดยปกติช่ือแผนที่จะมีคาอธิบายเพ่ิมเติมแสดงไว้ด้วย เช่น แผนที่ ประเทศไทยแสดงเน้อื ที่ป่าไม้ แผนทป่ี ระเทศไทยแสดงการแบ่งภาคและเขตจังหวดั เปน็ ต้น - ขอบระวาง แผนที่ทุกชนิดจะมีขอบระวาง ซึ่งเป็นขอบเขตของพ้ืนที่ในภูมิประเทศที่แสดงบนแผนที่แผ่นน้ัน มักจะแสดงด้วยเส้นขนานเพ่ือแสดงตาแหน่งละติจูดกับเส้นเมริเดียนเพ่ือแสดงตาแหน่งลองจิจูด และจะแสดงตัวเลข เพ่อื บอกค่าพกิ ดั ภูมศิ าสตร์ของตาแหนง่ ตา่ ง ๆ

- ทิศทาง มีความสาคัญต่อการค้นหาตาแหน่งที่ต้ังของสิ่งต่าง ๆ โดยในสมัยโบราณใช้วิธีดูทิศทางตามการ ขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ในเวลากลางวัน และการดูทิศทางของดาวเหนือในเวลากลางคืน ต่อมามีการประดิษฐ์เข็ม ทิศ ซึ่งเปน็ เครอ่ื งมือชว่ ยในการหาทิศขนึ้ เนอ่ื งจากเข็มของเข็มทิศจะช้ไี ปทางทิศเหนอื ตลอดเวลา การใช้ทิศทางในแผน ที่ประกอบกบั เขม็ ทิศหรือการสังเกตดวงอาทติ ย์ และดาวเหนอื จึงช่วยให้เราสามารถเดินทางไปยังสถานทท่ี ีเ่ ราต้องการ ได้ ในแผนที่จะต้องมีภาพเข็มทิศหรือลูกศรช้ีไปทางทิศเหนือเสมอ ถ้าหากแผนที่ใดไม่ได้กาหนดภาพเข็มทิศหรือลกู ศร ไวก้ ใ็ ห้เข้าใจวา่ ด้านบนของแผนทค่ี ือทิศเหนอื - สัญลักษณ์ เป็นเครื่องหมายที่ใช้แทนสิ่งต่าง ๆ ในภูมิประเทศจริง เพ่ือช่วยให้ผู้ใช้สามารถอ่านและแปล ความหมายจากแผนทีไ่ ด้อยา่ งถกู ตอ้ ง ทั้งนีใ้ นแผนทีจ่ ะต้องมคี าอธิบายสัญลกั ษณ์ประกอบไว้ด้วยเสมอ - มาตราส่วน เป็นอตั ราส่วนระหว่างระยะทางทีย่ ่อส่วนมาลงในแผนทก่ี บั ระยะทางจริงใน ภูมปิ ระเทศ มาตรา ส่วนช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าแผนที่นั้น ๆ ย่อส่วนมาจากสภาพในภูมิประเทศจริง ในอัตราส่วนเท่าใด มาตราส่วนแผนที่ โดยมากจะมี 3 ลักษณะ ได้แก่ มาตราส่วนแบบเศษส่วน มาตราส่วนคาพูดและมาตราส่วนแบบกราฟิก มาตราส่วน ของแผนที่ คือ อัตราส่วนระหว่างระยะบนแผนที่กับระยะในภูมิประเทศ หรือ ความสัมพันธ์ระหว่างระยะทางราบบน แผนที่กับระยะทางราบในภูมปิ ระเทศ การเขียนมาตราส่วนเขียนได้หลายวิธี เช่น 50,000 หรือ 1/50,000 หรือ 1 : 50,000 - เส้นโค้งแผนที่เป็นระบบของเส้นขนานและเส้นเมริเดียน ที่สร้างขึ้นเพ่ือกาหนดตาแหน่งพิกัดภูมิศาสตร์ให้ เป็นมาตรฐานไว้ใช้อ้างองิ ร่วมกัน ซึ่งประกอบด้วย เส้นขนาน เปน็ เส้นสมมติที่ลากจากทิศตะวันออก สร้างขนึ้ จากการวดั มุมเริ่มจากเส้นศูนย์สูตร ซึง่ มี ค่ามุม 0 องศา ไปยงั ขว้ั โลกท้ังสองด้านๆ ละไมเ่ กิน 90 องศา เส้นขนานทีส่ าคัญประกอบด้วย 1. เส้นศนู ยส์ ูตรหรือเส้นอเิ ควเตอร์ มคี ่ามมุ 0 องศา 2. เส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์ มคี ่ามุม 23 องศา 30 ลิปดาเหนอื 3. เส้นทรอปิกออฟแคปริคอร์น มคี ่ามมุ 23 องศา 30 ลิปดาใต้ 4. เส้นอาร์กตกิ เซอร์เคิล มีคา่ มมุ 66 องศา 30 ลิปดาเหนอื 5. เส้นอาร์กตกิ เซอร์เคิล มีคา่ มุม 66 องศา 30 ลิปดาใต้ 6.2 - พิกัดภูมิศาสตร์เป็นระบบที่บอกตาแหน่งของสิ่งต่าง ๆ บนพ้ืนผิวโลก โดยอาศัยเส้น โครงแผนที่ซึ่งเส้น ขนานและเส้นขนานและเส้นเมริเดียนตัดกันเปน็ จดุ ส่งิ ตา่ ง ๆ บนพืน้ ผิวโลก โดยอ่านคา่ พิกดั ภมู ศิ าสตร์เป็นละตจิ ูด (เส้น ขนาน) และลองจิจดู (เส้นเมริเดียน) ประโยชนข์ องแผนที่ 1. ประโยชนใ์ นการศึกษาลักษณะภมู ปิ ระเทศ แผนทจ่ี ะทาใหผ้ ศู้ กึ ษาทราบว่าพ้ืนที่ใดมีลักษณะภมู ิประเทศแบบใดบ้าง 2. ประโยชนต์ อ่ การศึกษาธรณีวิทยา เพือ่ ให้ทราบความเปน็ มาของแหลง่ ทรพั ยากร ดิน หนิ แรธ่ าตุ 3. ประโยชนด์ ้านสมุทรศาสตร์และการประมง เพ่อื ให้ทราบสภาพแวดลอ้ มชายฝ่ังทะเล 4. ประโยชนด์ ้านทรพั ยากรนา้ รู้ขอ้ มูลเกีย่ วกบั แม่น้าและการไหล อา่ งเกบ็ นา้ ระบบการชลประทาน 5. ประโยชนด์ ้านป่าไม้ เพื่อให้ทราบคุณลกั ษณะของป่าไม้และการเปลีย่ นแปลงพ้นื ทีป่ ่า 6. ประโยชนด์ ้านการใชท้ ี่ดนิ เพอ่ื ให้ทราบปัจจยั การใชป้ ระโยชนท์ ีด่ นิ ดา้ นตา่ ง ๆ 7. ประโยชนด์ ้านการเกษตร การเกษตรมผี ลตอ่ การพฒั นาประเทศ เพ่อื รู้ว่าบริเวณใดควรพฒั นา 8. ประโยชนด์ ้านสิง่ แวดลอ้ ม โดยเฉพาะการจัดการทรพั ยากรบริเวณตา่ ง ๆ 9. ประโยชนใ์ นการวางผังเมอื ง เพอ่ื ใชข้ ้อมลู ทางธรรมชาติในการจดั วางผงั เมอื งให้เหมาะสม 10. ประโยชนต์ อ่ การศึกษาโบราณคดี เพือ่ ค้นหาแหล่งชมุ ชนโบราณและความรู้อืน่ ๆ 11. ประโยชนด์ ้านอตุ ุนิยมวทิ ยา เพ่อื ประโยชนใ์ นการเพาะปลกู อตุ สาหกรรม ประมง การป้องกันอทุ กภัย

5.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนมกี ารรู้เรือ่ งภมู ิศาสตร์นั้น ผู้เรียนต้องทกั ษะทีส่ าคญั ดงั ต่อไปน้ี ๑) การสังเกต (observation) เปน็ การนาผู้เรียนไปสังเกตการณ์ส่ิงแวดล้อมทั้งที่เกิดขึน้ เองตามธรรมชาติ และมนุษยส์ ร้าง ขนึ้ เชน่ การสงั เกตความแตกตา่ งของสง่ิ แวดลอ้ มระหว่างบ้านกบั โรงเรียน ๒) การแปลความข้อมูลทางภูมิศาสตร์ (interpretation of geographic data) เป็นการแปลความหมาย ข้อมูลของสิ่งที่ปรากฏ อยู่บนพ้ืนโลก ที่อ้างอิงด้วยตาแหน่ง ที่อาจจะปรากฏอยู่ในรูปของแผนภูมิ แผนภาพ กราฟ ตาราง รูปถ่าย แผนที่ ภาพจาก ดาวเทียม และภูมสิ ารสนเทศ ๓) การใช้เทคนิคและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ (using geographic technique and equipment) เป็นการใช้วิธีการ เช่น การชัก ตัวอยา่ ง (sampling) การวาดภาพร่างในภาคสนาม การใชร้ ปู ถ่าย แผนที่ และเคร่อื งมือตา่ งๆ ในการรวบรวมขอ้ มูลทางภูมศิ าสตร์ 5.3 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์(Attitude : A) 1. ซื่อสัตย์สุจริต - ประพฤติตรงตามความเปน็ จริงต่อคนเองทั้งกาย และวาจา ใจ 2. มีวินยั - ประพฤติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับของขอ้ ตกลงในหอ้ งเรียน 3. ใฝ่เรียนรู้ - ตงั้ ใจเพียงพยายามในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ - แสวงหาความรู้รู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการ เลอื กใช้สือ่ อย่างเหมาะสม สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ 4. มุ่งมน่ั ในการทางาน - ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในหน้าที่การงาน - ทางานด้วยเพยี งพยายามและอดทนเพอ่ื ให้สาเร็จตามเป้าหมาย 6. จดุ เนน้ สกู่ ารพัฒนาคุณภาพผู้เรียน(เลือกเฉพาะจดุ เน้นขอ้ ทีม่ ใี นแผนการจัดการเรยี นรู้ สามารถ เพิ่มเติมจดุ เน้นตามนโยบายอืน่ ๆได้) 6.1 ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คอื การเรียนรู้ 3R X 8C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขียนได้)  (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ )  ทักษะด้านการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทักษะด้านการส่อื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สื่อ (Communications, Information, and Media Literacy)  ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปลี่ยนแปลง (Change) 6.2 ทักษะด้านชีวติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษท่ี 21  ความยดื หยุ่นและการปรับตัว  การรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์และเปน็ ตวั ของตัวเอง

 ทักษะสงั คมและสังคมข้ามวัฒนธรรม  การเป็นผู้สรา้ งหรอื ผู้ผลิต (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเชอ่ื ถือได้ (Accountability)  ภาวะผู้นาและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) 6.3 คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี 21  คุณลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นา  คณุ ลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง  คุณลกั ษณะด้านศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผอู้ ื่น ความซือ่ สัตย์ ความสานึกพลเมอื ง 7. การบูรณาการ(เลือกเฉพาะข้อที่สามารถบูรณาการในแผนการจัดการเรียนรู้ สามารถเพิ่มเติมเรือ่ งอื่นๆ ได้)  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม  อาเซียนศกึ ษา  คณุ ธรรม ค่านิยม 12 ประการ  อนุรักษ์พลงั งานและสิ่งแวดล้อม  อื่นๆ(ระบุ)..................................................................................... 8. ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) 1. แบบฝกึ เสริมประสบการณ์ เรื่อง องค์ประกอบของแผนที่ 2. แผนที่เส้นทางการเดินทางไปสถานที่ท่องเทีย่ วในจงั หวดั อานาจเจริญ 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั ตอนท่ี 1 การเรียนรตู้ งั้ คาถาม หรอื ขั้นตัง้ คาถาม 1. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับประสบการณ์ของนักเรียนในการใช้แผนที่ แล้วโยงเข้าสู่เน้ือหาใน บทเรียน ขน้ั ตอนท่ี 2 การเรียนรแู้ สวงหาสารสนเทศ 2. ครใู หน้ ักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-6 คน ศกึ ษาความรเู้ รื่อง แผนที่ จากแหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น หอ้ งสมดุ อนิ เทอร์เนต็ แล้วบันทึกประเด็นปัญหาหรอื ข้อสงสยั ลงในสมดุ ข้ันตอนท่ี 3 การเรียนร้เู พือ่ สร้างองค์ความรู้ 3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มออกมาเขียนประเด็นที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับเร่ือง แผนที่ บนกระดานดา จากน้ันครูสรปุ คาถามรวบรวมเปน็ ประเด็นในการศึกษา 4. ครูอธิบายประเด็นในการศกึ ษาที่นกั เรียนเสนอทีละข้อ โดยเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนได้แสดงความ คิดเหน็ ก่อน จากนั้นครูจงึ อธิบายข้อมูลในประเดน็ การศกึ ษานั้น ๆ ประเด็นการศกึ ษา เช่น 1) ความหมายและความสาคัญของแผนที่

2) ชนิดของแผนที่ 3) องค์ประกอบของแผนที่ ขนั้ ตอนท่ี 4 การเรียนรู้เพื่อการสือ่ สาร 5. ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่ม ศึกษาข้อมูลจากแผนทีภ่ ูมิประเทศของประเทศไทย แล้วให้แต่ละกลุ่ม ออกมาอ่านข้อมลู ที่ได้จากแผนทีด่ งั กล่าว พรอ้ มท้ังบอกประโยชน์ทีไ่ ด้จากการศกึ ษาแผนที่ภูมปิ ระเทศของ ประเทศไทยหน้าชั้นเรียน 6.ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปความรเู้ กี่ยวกับแผนที่ ข้นั ตอนท่ี 5 การเรียนรูเ้ พื่อตอบแทนสงั คม 7. ครใู หน้ กั เรียนยกตัวอย่างการนาแผนทีไ่ ปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั 10. สอ่ื การสอน 1. แบบฝกึ เสริมประสบการณ์ เรือ่ ง องค์ประกอบของแผนที่ 2. แผนที่ภมู ิประเทศของประเทศไทย 3. หนงั สอื เรียน รายวิชาพื้นฐาน ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 11. แหล่งเรียนรใู้ นหรอื นอกสถานที่ ครูใหน้ ักเรียนวางแผนการเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ในพืน้ ทีจ่ ังหวัดอานาจเจริญ โดย กาหนดเวลาในการเดินทาง 1 วนั 12. การวดั และประเมนิ ผล (ใส่ตามความเหมาะสม) 12.1 วธิ ีการวัดและประเมินผล - วัดความเข้าใจของนักเรียนโดยการสังเกตความสนใจ ความตั้งใจเรียน การแสดงความ คิดเห็น การตอบคาถาม และการมสี ่วนรว่ มในการทาแบบฝกึ เสริมประสบการณใ์ นชั้นเรียน 12.2 เครื่องมอื - แบบฝกึ เสริมประสบการณ์ เรือ่ ง องค์ประกอบของแผนที่ - การประเมินทกั ษะผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 12.3 เกณฑก์ ารประเมิน - เกณฑก์ ารประเมินแบบฝกึ เสริมประสบการณ์ (ผา่ นเกณฑต์ ้องมีคะแนน 3 คะแนนขนึ้ ไป) - การประเมินทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (ผ่านเกณฑ์ต้องมีคะแนนตั้งแต่ระดับปานกลาง หรอื มี 5 คะแนนขนึ้ ไป) 13. กิจกรรมเสนอแนะ ศกึ ษาแหลง่ เรียนรู้ทั้งในและนอกสถานที่ ที่หลากหลายข้ึน

14. บันทึกผลหลังการสอน 14. 1. ผลการจดั การเรียนการสอน 1. นกั เรียนจานวน 55 คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ 55 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 ไม่ผ่านจุดประสงค์ ................................คน คิดเป็นรอ้ ยละ ................................................. ได้แก่ 1. ............................................................................................................................ 2. ............................................................................................................................ นกั เรียนทีม่ ีความสามารถพิเศษ/นกั เรียนพิการได้แก่ 1. ............................................................................................................................ 2. ............................................................................................................................ 2. นกั เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ ความหมายและองค์ประกอบของแผนที่ / ประโยชนข์ องแผนที่ / การอา่ นข้อมลู จากแผนที่ และ การนาแผน ที่ ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั 3. นกั เรียนมีความรู้เกิดทกั ษะ ทักษะการสังเกต (observation) เป็นการนาผู้เรียนไปสังเกตการณ์สิ่งแวดล้อมท้ังที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และมนุษยส์ ร้างขนึ้ เชน่ การสงั เกตความแตกตา่ งของส่งิ แวดลอ้ มระหว่างบ้านกับโรงเรียน 4. นกั เรียนเจตคติ ค่านิยม 12 ประการ คุณธรรมจริยธรรม ซือ่ สตั ย์สุจริต - ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อคนเองท้ังกาย และวาจา ใจ มวี นิ ยั - ประพฤติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคบั ของขอ้ ตกลงในหอ้ งเรียน ใฝ่เรียนรู้ - ตง้ั ใจเพียงพยายามในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ - แสวงหาความรู้รู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการ เลอื กใช้สือ่ อย่างเหมาะสม สรุปเปน็ องค์ความรู้ และสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้ มงุ่ มัน่ ในการทางาน - ตง้ั ใจและรับผิดชอบในหน้าที่การงาน - ทางานด้วยเพยี งพยายามและอดทนเพอ่ื ให้สาเร็จตามเป้าหมาย 14.2 ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ปัญหา - สือ่ การเรียนการสอนไม่หลากหลาย อปุ สรรค – ขาดความกระตือรอื ร้น แนวทางแก้ไข – การศกึ ษาค้นคว้าจากสือ่ ที่หลากหลาย หรอื ศกึ ษานอกสถานที่ เพื่อกระตุ้น ความอยากรู้อยากเรียน

14.3 เสนอแนะ - ครูแนะนาแหล่งค้นคว้า / ให้เดก็ ผลติ สื่อที่ทาได้ง่ายในชั่วโมงเรยี นได้ - การนาสือ่ อาทิ แผนที่ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน (ใช้จริง ) ลงชือ่ ....................................................... ( นางลาวลั ย์ สหี ะวงษ์ ) ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะชานาญการพิเศษ ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย ได้ทาการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง นางลาวัลย์ สีหะวงษ์ แล้วมคี วามคิดเห็นดังน้ี 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้  ครบถ้วนและถูกต้อง  ยงั ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถกู ต้อง ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 2. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสูตรสถานศกึ ษา  สอดคล้อง  ยงั ไม่สอดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั  ยังเน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป 4. ส่อื การเรียนรู้  เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยังไม่เหมาะ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป 5. การประเมินผลการเรียนรู้  ครอบคลมุ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้  ยังไม่ครอบคลุมประสงค์การเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป 6. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ลงชือ่ ................................................................ (นายสุเมธ หน่อแก้ว.) ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรียนน้าปลีกศึกษา

แบบฝึกเสริมประสบการณ์ เร่อื ง องคป์ ระกอบของแผนท่ี คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนเลอื กคาตอบที่ถูกต้องที่สดุ เพยี ง 1 ข้อ แลว้ ทาเครื่องหมาย X ลงในใบคาตอบ 1. แผนท่ี หมายถึงอะไร ? ก.)การนาสง่ิ ตา่ งๆทีอ่ ยบู่ นผิวโลกมาย่อส่วนให้เลก็ ลง แล้วนามาเขียนลงกระดาษหรือวัตถทุ ีเ่ บนราบ ข.)การนาส่งิ ทีเ่ กิดข้ึนเองตามธรรมชาติบนพนื้ ผิวโลกมาแสดงบนแผนที่โดยใชส้ ี เส้น หรอื รูปตา่ งๆ เป็นสญั ลักษณ์แทน ค.)การนาส่งิ ที่มนษุ ยท์ าขึ้นบนพื้นผิวโลกมาแสดงบนแผนที่โดยใชส้ ี เส้น หรอื รูปตา่ งๆ เป็นสญั ลักษณแ์ ทน ง.)ถกู ทกุ ข้อ 2. “การกาหนดตาแหนง่ ทีต่ ้ังของจุดหน่งึ จดุ ใดบนพนื้ ผิวโลก เพือ่ ให้ทราบได้วา่ จดุ ๆนน้ั ตงั้ อยทู่ ีใ่ ด ต้องอาศยั เส้นละติจูด และลองติจดู ” คือความหมายของสิ่งใด ? ก.)ระบบสารสนเทศทางภูมศิ าสตร์ ข.)ระบบรับรู้ระยะไกล ค.)พกิ ดั ทางภูมศิ าสตร์ ง.)ระบบตดิ ตามระยะไกล 3. เส้นใดตอ่ ไปนไี้ มจ่ ัดเป็นเส้นละติจูด ? ก.) เส้นเมอริเดียน ข.) เส้นทรอปิออฟแคนเซอร์ ค.) เส้นอาร์คตกิ ง.) เส้นศนู ยส์ ูตร 4. ในประเทศไทย ภาพถ่ายทางอากาศ ผลิตโดยหนว่ ยงานใด ? ก.) กองทัพอากาศ ข.) กรมการบินพลเรือน ค.) โรงเรียนนายเรืออากาศ ง.) กรมแผนทท่ี หาร 5. แผนท่ตี ามขนาดของมาตราส่วนใดจัดว่าเปน็ “แผนทม่ี าตราส่วนใหญ่” ? ก.) มาตราส่วน 1: 1,000,000 ข.) มาตราส่วน 1: 500,000 ค.) มาตราส่วน 1: 50,000 ง.) ไมม่ ขี ้อถูก **************************************************************************************** เฉลย แบบฝึกเสริมประสบการณ์ เร่อื ง องคป์ ระกอบของแผนที่ 1. ง 2. ค 3. ก 4. ง 5. ค

แบบประเมินทักษะผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 (21st Century Skills) (10 คะแนน) ผรู้ บั การประเมิน/กลุ่ม ........................................................................ ระดับช้ัน/ห้อง.................. ผปู้ ระเมิน  ตอนเอง  เพือ่ น  ครู ประเมินครงั้ ที่ .......................วันที่ ......................เดือน ......................................... พ.ศ............... เรื่องที่เรยี นรู้................................................................................................................................ คาชี้แจง : ให้ผู้ประเมนิ สังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แล้วทาเครือ่ งหมาย ให้ตรงกับระดบั คณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพ ทักษะผเู้ รียน รายการประเมิน ดี ดี ปาน น้อย น้อย ปรบั หลักฐาน ด้าน มาก กลาง ที่สุด ปรงุ ทีเ่ ด่นชดั (5) (4) (3) (2) (1) (0) ทกั ษะผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21(21st Century Skills) ทักษะในสาระ 1. Reading (อ่านออก) วิชาหลัก (Core 2. (W)Riting(เขียนได้) Subjects–3Rs) 3. (A)Rithemetics(คิดเลขเป็น) ทกั ษะการ 1.Critical Thinking and Problem เรยี นร้แู ละ Solving (ทกั ษะด้านการคิดอย่างมี นวตั กรรม วิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา) (Learning and 2.Creativity and Innovation (ทักษะด้าน Innovation Skills การสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม) – 8Cs) 3. Cross-cultural Understanding (ทกั ษะ ด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ต่าง กระบวนทัศน)์ 4. Collaboration,Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความรว่ มมอื การทางานเป็นทีม และภาวะผนู้ า) 5. Communications, Information, and Media Literacy (ทักษะด้านการส่อื สาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ)

ระดบั คณุ ภาพ ทกั ษะผเู้ รียน รายการประเมิน ดี ดี ปาน น้อย น้อย ปรบั หลกั ฐาน ด้าน มาก กลาง ทีส่ ุด ปรงุ ที่เด่นชัด (5) (4) (3) (2) (1) (0) 6. Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโน โลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร) 7. Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้) 8. Compassion (มีคณุ ธรรมมเี มตตา กรุณามรี ะเบียบวินัย) ทกั ษะการเรียนรแู้ ละภาวะผนู้ า (2Ls) ทกั ษะการ 1. Learning(ทกั ษะการเรียนร)ู้ เรียนรู้และ 2. Leadership(ภาวะผู้นา) ภาวะผนู้ า (2Ls) ข้อสงั เกต หลักฐาน ร่องรอย อื่น ๆ .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤติกรรมทีด่ ีเด่นเป็นที่ยอมรบั และเป็นแบบอย่างที่ดี ให้ 5 คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏิบัติชัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจน ห้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏิบัติบางครง้ั ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมที่ไม่ปฏิบัติเลย ให้ 0คะแนน นาคะแนนทั้งหมดรวมกนั ได้คะแนนเต็ม 65 คะแนน แล้วหาร 6.5 จะได้คะแนนเตม็ 10 คะแนน เกณฑ์การแปลความหมายของช่วงคะแนน ชว่ งคะแนน ความหมาย 9 -10 ดีมาก 7 - 8 ดี 5 – 6 ปานกลาง 3 – 4 น้อย 0 – 2 น้อยทีส่ ุด ผลการประเมินทกั ษะผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 อยู่ในระดบั  ดีมาก  ดี ปานกลาง  น้อย  น้อยทีส่ ดุ สรปุ ผลการทกั ษะผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21  ผา่ น  ไม่ผา่ น(ผ่าน ต้องมีคะแนนต้ังแต่ 5 คะแนนขนึ้ ไป) ลงชือ่ …………………………….………………….ผปู้ ระเมิน ( นางลาวลั ย์ สีหะวงษ์ ) ………../……………../…….….


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook