Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 02แผนจัดการเรียนรู้ 2

02แผนจัดการเรียนรู้ 2

Published by pakdinan somrak, 2021-03-20 03:24:44

Description: 02แผนจัดการเรียนรู้ 2

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 ตวั ตา้ นทาน หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ รหัสวิชา ว 23102 รายวิชา วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 5 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวภกั ดนิ ันท์ สมรักษ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพนั ธ์ระหว่าง สสารและพลังงาน พลงั งานในชีวติ ประจาวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และ คลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทั้งนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ ว 2.3 ม.3/4 วเิ คราะหค์ วามตา่ งศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเม่อื ต่อตัวต้านทานหลายตวั แบบอนกุ รมและแบบขนานจากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ว 2.3 ม.3/5 เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าแสดงการตอ่ ตัวต้านทานแบบอนกุ รมและขนาน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (จากตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้) 1. อธิบายชนิดตัวตา้ นทานค่าคงที่จากแถบสีบนตวั ต้านทานได้ (K) 2. อธิบายความแตกต่างของความตา่ งศักย์และกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเมื่อตอ่ ตัวต้านทานหลายตวั แบบอนกุ รมและแบบขนานได้ (K) 3. คานวณหาปริมาณทีเ่ กีย่ วข้องกับตัวต้านทานค่าคงที่จากแถบสีบนตัวต้านทานได้ (P) 4. เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าเมื่อตอ่ ตวั ต้านทานแบบอนกุ รมและแบบขนานได้ (P) 5. มีความมงุ่ มน่ั ในการเรียนรู้และทางานทีไ่ ด้รบั มอบหมายตลอดเวลา (A) 3. สาระสาคญั ในวงจรไฟฟ้าประกอบด้วยแหล่งกาเนิดไฟฟ้า สายไฟฟ้า และอปุ กรณ์ไฟฟ้า โดยอปุ กรณ์ไฟฟ้าแตล่ ะชิน้ มีความต้านทาน ในการต่อตัวต้านทานหลายตวั มีท้ังต่อแบบอนุกรมและแบบขนานการตอ่ ตัวต้านทานหลาย ตวั แบบอนุกรมในวงจรไฟฟ้า ความตา่ งศักย์ทีค่ ร่อมตัวต้านทานแตล่ ะตัวมีค่าเท่ากับผลรวมของความต่าง ศักย์ที่คร่อมตัวต้านทานแต่ละตวั โดยกระแสไฟฟ้าทีผ่ ่านตวั ต้านทานแตล่ ะตัวมีค่าเท่ากนั การตอ่ ตวั ต้านทาน

หลายตวั แบบขนานในวงจรไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าที่ผ่านวงจรมีค่าเท่ากบั ผลรวมของกระแสไฟฟ้าที่ผา่ นตวั ต้านทานแตล่ ะตวั โดยความตา่ งศักย์ทีค่ ร่อมตัวต้านทานแตล่ ะตวั มีค่าเท่ากัน 4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสังเกต 2) ทักษะการสารวจค้นหา 3) ทักษะการตง้ั คาถาม 4) ทักษะการตงั้ สมมตฐิ าน 5) ทักษะการตรวจสอบสมมตฐิ าน 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. สาระการเรียนรู้ 5.1 ความรู้ (Knowledge : K) เมื่อตอ่ วงจรไฟฟ้าครบวงจรจะมีกระแสไฟฟ้าออกจากข้ัวบวกผา่ นวงจรไฟฟ้าไปยงั ข้ัวลบของ แหลง่ กาเนิดไฟฟ้า ซึง่ วดั ค่าได้จากแอมมิเตอร์ ค่าทีบ่ อกความแตกต่างของพลังงานไฟฟ้าต่อหน่วยประจรุ ะหว่างจดุ 2 จดุ เรียกว่า ความต่างศกั ย์ซึ่ง วดั ค่าได้จากโวลต์มเิ ตอร์ ขนาดของกระแสไฟฟ้ามีค่าแปรผันตรงกับความต่างศักย์ระหว่างปลายท้ังสองของตวั นา โดยอตั ราส่วน ระหว่างความต่างศักย์และกระแสไฟฟ้ามีคา่ คงที่ เรียกค่าคงทีน่ ีว้ ่า ความตา้ นทาน 5.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการสารวจค้นหา 3) ทกั ษะการตงั้ คาถาม 4) ทักษะการตง้ั สมมตฐิ าน 5) ทักษะการตรวจสอบสมมตฐิ าน 5.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค(์ Attitude : A) 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน 6. จุดเน้นส่กู ารพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน(เลือกเฉพาะจดุ เน้นขอ้ ทีม่ ใี นแผนการจัดการเรยี นรู้ สามารถ เพิม่ เติมจุดเน้น ตามนโยบายอืน่ ๆได้)

6.1 ทักษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คอื การเรียนรู้ 3R X 8C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขียนได้)  (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ )  ทักษะด้านการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สือ่ (Communications, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing and ICT Literacy)  ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปลีย่ นแปลง (Change) 6.2 ทักษะดา้ นชีวติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษท่ี 21  ความยืดหยุ่นและการปรับตัว  การรเิ ริ่มสร้างสรรค์และเป็นตวั ของตวั เอง  ทกั ษะสังคมและสังคมข้ามวฒั นธรรม  การเป็นผู้สรา้ งหรอื ผผู้ ลิต (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเชือ่ ถือได้ (Accountability)  ภาวะผู้นาและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) 6.3 คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี 21  คุณลกั ษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตวั ความเป็นผู้นา  คุณลกั ษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง  คณุ ลักษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผอู้ ื่น ความซื่อสัตย์ ความสานึกพลเมือง 7. การบูรณาการ(เลือกเฉพาะข้อที่สามารถบรู ณาการในแผนการจัดการเรียนรู้ สามารถเพิม่ เติมเรื่องอื่นๆ ได้)  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคุณธรรม  อาเซียนศกึ ษา  คณุ ธรรม ค่านิยม 12 ประการ  อนรุ กั ษ์พลงั งานและสิง่ แวดล้อม  อื่นๆ(ระบ)ุ ..................................................................................... 8. ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร้)ู 1) ใบงานที่ 5.2 เรอ่ื ง ตวั ต้านทาน

2) สมุดประจาตวั นักเรียน 9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชว่ั โมงที่ 1 ขั้นนา ขัน้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ครทู บทวนความรเู้ ดิมของนักเรียนเกี่ยวกบั เรื่อง กฎของโอห์ม จากนั้นครใู ห้นักเรียนแต่ละคน ออกมารบั บตั รคาหน้าชั้นเรียน ซึ่งนักเรียนแต่ละคนจะได้บตั รคาที่แตกต่างกัน แล้วให้นักเรียน แตล่ ะคนเขียนอธิบายบตั รคาที่ตนเองได้รบั ลงในสมดุ ประจาตัวนักเรยี น 2. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยแต่ละกลุ่มต้องมีสมาชิกทีม่ บี ัตรคาเกี่ยวกับความต่างศกั ย์ กระแสไฟฟ้า และความต้านทาน จากน้ันร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เพื่อหาความสมั พันธ์ ระหว่างความต่างศกั ย์ กระแสไฟฟ้า และความต้านทาน 3. ครูแจกตวั ต้านทานคา่ คงท่ีทีม่ ีแถบสีบนตัวต้านทาน โดยใหน้ ักเรียนแต่ละคนสังเกตตวั ต้านทาน ค่าคงที่ จากน้ันครูต้ังประเด็นคาถามกระตุ้นความสนใจนกั เรียน โดยใหน้ ักเรียนรว่ มกนั อภิปราย แสดงความคิดเหน็ อย่างอสิ ระโดยครเู ขียนคาตอบของนักเรียนไว้ แลว้ ครจู ะมาตรวจสอบคาตอบ หลงั เรยี นเสรจ็ ตัวอย่างคาถามเช่น  ตวั ต้านทานคืออะไร และมีความสาคัญอย่างไรในวงจรไฟฟ้า  ทาไมตัวต้านทานแตล่ ะตัวมีแถบสีทีแ่ ตกต่างกนั  แถบสีบนตวั ต้านทานมคี วามสาคัญอย่างไร ขน้ั สอน ขน้ั ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. นักเรียนจับคู่กบั เพื่อนในชั้นเรยี นตามความสมัครใจ จากน้ันร่วมกนั ศึกษาค้นคว้าข้อมลู เกี่ยวกับเรือ่ ง ตวั ต้านทาน และการอ่านค่าแถบสีบนตวั ต้านทานค่าคงที่ จากหนังสือเรยี นวิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรอื แหล่งการเรียนรู้ ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เนต็ หอ้ งสมุด

2. นกั เรียนรว่ มกันสรุปความรทู้ ี่ได้จากการศกึ ษาค้นคว้าลงในสมุดประจาตวั นักเรียน จากน้ันพิจารณา ตารางรหสั สีของแถบสีบนตัวต้านทาน และอ่านค่าแถบสีบนตัวต้านทาน จากหนังสือเรียน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 3. นักเรียนแต่ละคู่ร่วมกนั ศึกษาตวั อย่างที่ 5.5-5.6 จากหนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยใหน้ ักเรียนแต่ละคนจดบันทึกขั้นตอน เเละวธิ ีการคานวณหาผลลัพธ์ลงในสมดุ ประจาตวั นกั เรียน ครูอาจแนะนาให้นักเรียนทาตามขั้นตอน การแก้โจทย์ปัญหา ดังน้ี  ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหา  ขั้นที่ 2 วางแผนการแก้โจทย์ปญั หา เชน่ สง่ิ ทีโ่ จทย์ต้องการถามหา และจะหาส่งิ ที่โจทย์ ต้องการ ต้องทาอย่างไร  ขั้นที่ 3 ดาเนินการแก้โจทย์ปญั หา  ขั้นที่ 4 ตรวจสอบคาตอบ 4. ครเู ตรยี มตัวต้านทานค่าคงที่ จากน้ันครูสุ่มนกั เรียน 4-5 คน ออกมาหนา้ ชั้นเรียน อ่านค่าความ ต้านทานจากแถบสีตัวต้านทาน โดยครูให้นักเรียนในช้ันเรียนร่วมกนั พิจารณาว่าคาตอบใดถกู ต้อง จากนั้นครูเฉลยคาตอบทีถ่ กู ต้องนักเรียน 5. ครสู นทนากับนักเรียนว่า “นอกจากตวั ต้านทานค่าคงที่แลว้ ในวงจรไฟฟ้าโดยทัว่ ไปมกั พบ ตวั ต้านทานอื่น ๆ ซึ่งขึน้ อยู่กบั ความตอ้ งการในการใช้งาน” จากน้ันครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ตามความสมัครใจ รว่ มกนั ศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เกีย่ วกบั เรือ่ ง ตวั ต้านทานชนิดต่าง ๆ จากหนังสอื เรียนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ โดยใหส้ มาชิกภายในกลุ่มแบ่งหน้าที่กันศกึ ษาคนละ 1 เรื่อง ซึง่ หัวข้อมดี งั น้ี  คนที่ 1 ศึกษาตวั ต้านทานปรับค่าได้  คนที่ 2 ศึกษาตวั ต้านทานที่เปลี่ยนค่าตามปริมาณแสง  คนที่ 3 ศกึ ษาตัวต้านทานที่เปลีย่ นค่าตามอุณหภูมิ  คนที่ 4 ศกึ ษาตัวต้านทานที่เปลี่ยนค่าตามแรงดันไฟฟ้า 6. สมาชิกภายในกลุ่มนาเรื่องที่ตนเองศกึ ษาค้นคว้ามาอธิบายให้เพื่อนในกลุ่มฟัง จากน้ันร่วมกนั สรุป ความรทู้ ีไ่ ด้ลงในสมุดประจาตัวนักเรียน ช่วั โมงที่ 2-3 7. นักเรียนศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เกี่ยวกบั เรื่อง การต่อตัวต้านทานแบบอนุกรม จากหนังสือเรยี น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์

8. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ เพื่อศกึ ษากิจกรรมการตอ่ ตัวต้านทานแบบ อนุกรม จากนั้นให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมารบั วัสดอุ ปุ กรณท์ ่ใี ช้ในการปฏิบัติกิจกรรม การต่อตัวต้านทานแบบอนกุ รม 9. สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันศกึ ษาจดุ ประสงค์ วสั ดุอุปกรณ์ และวธิ ีปฏิบัติกิจกรรม จากหนงั สือเรยี น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันปฏิบัติกิจกรรมตามข้ันตอน ในหนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จากนั้นสมาชิกแตล่ ะกลุ่มนาผลการ ทดลองที่ได้มาอภปิ รายร่วมกนั ภายในกลุ่ม เพือ่ หาข้อสรปุ ของผลการทดลอง 11. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมการต่อตวั ต้านทานแบบอนกุ รม หนา้ ชั้นเรยี น ในระหว่างที่นักเรียนนาเสนอ ครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อให้นกั เรียนมี ความเข้าใจถกู ต้อง 12. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันตอบคาถามท้ายกิจกรรม โดยใหน้ ักเรียนรว่ มกันอภิปรายแสดงความ คิดเห็นเพือ่ หาคาตอบ จากนั้นครสู มุ่ นักเรียนใหต้ อบคาถามท้ายกิจกรรม 13. นักเรียนและครรู ว่ มกนั อภปิ รายผลท้ายกิจกรรมการตอ่ ตวั ต้านทานแบบอนกุ รม และเฉลยคาถาม ท้ายกิจกรรม ช่ัวโมงที่ 4 14. นกั เรียนศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเรือ่ ง การต่อตัวต้านทานแบบขนาน จากหนงั สือเรยี น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 15. นักเรียนแบ่งกลุ่ม (กลุ่มเดิม) จากชวั่ โมงทีผ่ ่านมา เพื่อศกึ ษากิจกรรมการตอ่ ตัวต้านทานแบบขนาน จากนั้นให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมารบั วัสดุอปุ กรณ์ทใ่ี ชใ้ นการปฏิบัติกิจกรรมการตอ่ ตัวต้านทานแบบขนาน 16. สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันศึกษาจดุ ประสงค์ วัสดอุ ุปกรณ์ และวธิ ีปฏิบตั ิกิจกรรม จากหนังสือเรียน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 17. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอน ในหนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ จากน้ันสมาชิกแตล่ ะกลุ่มนาผลการ ทดลองที่ได้มาอภปิ รายร่วมกนั ภายในกลุ่ม เพื่อหาข้อสรุปของผลการทดลอง ช่ัวโมงที่ 5

ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 18. นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมการต่อตัวต้านทานแบบอนกุ รม หนา้ ชั้นเรยี น ในระหว่างทีน่ ักเรียนนาเสนอ ครคู อยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพือ่ ให้นกั เรียนมี ความเข้าใจถูกต้อง 19. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ตอบคาถามท้ายกิจกรรม โดยใหน้ ักเรียนรว่ มกนั อภิปรายแสดงความ คิดเห็นเพือ่ หาคาตอบ จากน้ันครสู มุ่ นักเรียนใหต้ อบคาถามท้ายกิจกรรม 20. นกั เรียนและครูร่วมกันอภปิ รายผลท้ายกิจกรรมการตอ่ ตวั ต้านทานแบบอนุกรม และเฉลยคาถาม ท้ายกิจกรรม 21. นักเรียนจบั คู่กับเพือ่ นในชั้นเรยี นตามความสมคั รใจ จากน้ันรว่ มกันศกึ ษาตวั อย่างที่ 5.7-5.9 ในหนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและ อิเลก็ ทรอนิกส์ ครูอาจแนะนาให้นักเรียนทาตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหา ดงั นี้  ข้ันที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหา  ข้ันที่ 2 วางแผนการแก้โจทย์ปัญหา เชน่ ส่งิ ที่โจทย์ต้องการถามหา และจะหาสง่ิ ที่โจทย์ตอ้ งการ ต้องทาอย่างไร  ขั้นที่ 3 ดาเนินการแก้โจทย์ปญั หา  ขั้นที่ 4 ตรวจสอบคาตอบ 22. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า “นอกจากการตอ่ ตัวต้านทานแบบอนกุ รมและแบบขนาน แล้ว สามารถนามาต่อเข้ากนั ทั้ง 2 รปู แบบ เรยี กการต่อแบบนีว้ ่า การตอ่ ตัวต้านทานแบบผสม” 23. ครูตั้งประเด็นคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียน โดยให้นักเรียนแต่ละคนรว่ มกนั อภปิ รายแสดงความ คิดเห็นเพื่อหาคาตอบ ดังน้ี  การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบใดทีท่ าให้ความต้านทานรวมมคี ่าเพิ่มขนึ้ (แนวตอบ : การตอ่ ตวั ต้านทานแบบอนกุ รม)  การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบใดทีท่ าให้ความต้านทานรวมมคี ่าลดลง (แนวตอบ : การตอ่ ตวั ต้านทานแบบขนาน) 24. นักเรียนทาใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง ตวั ต้านทาน จากน้ันครูสมุ่ นักเรียน 5 คน ออกมาเฉลยคาตอบ ของตนเองหนา้ ช้ันเรยี น โดยใหเ้ พื่อนในชนั้ เรียนร่วมกันพิจารณาว่าคาตอบถูกต้องหรอื ไม่ จากน้ัน ครเู ฉลยคาตอบทีถ่ ูกต้องให้นักเรียน ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 25. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามเนือ้ หาเกีย่ วกับเรื่อง ตัวต้านทาน และให้ความรู้เพิ่มเตมิ จาก

คาถามของนักเรียน โดยครูใช้ PowerPoint เรอ่ื ง ตัวต้านทาน ในการอธิบายเพิ่มเติม 26. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ตามความสมัครใจ โดยใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศกึ ษา กรอบ Application Activity ในหนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ เพือ่ ออกแบบและเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าของ ต้นครสิ ต์มาส พร้อมทั้งอธิบายว่าเป็นการต่อวงจรไฟฟ้าแบบใด เพราะเหตใุ ด 27. นกั เรียนทา Topic Questions เรื่อง วงจรไฟฟ้าเบือ้ งตน้ จากหนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ลงในสมดุ ประจาตวั นักเรียน 28. นกั เรียนแต่ละคนทาแบบฝกึ หดั เรือ่ ง ตวั ต้านทาน จากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการบ้านส่งในชวั่ โมงถดั ไป ข้นั สรปุ ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางานรายบุคคล พฤติกรรมการทางานกลุ่ม และจากการนาเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมหน้าช้ันเรียน 2. ครูตรวจสอบผลการปฏิบัติกิจกรรม การต่อตวั ต้านทานแบบอนกุ รม 3. ครตู รวจสอบผลการปฏิบตั ิกิจกรรม การต่อตัวต้านทานแบบขนาน 4. ครตู รวจสอบผลการทาใบงานที่ 5.2 เรือ่ ง ตัวต้านทาน 5. ครตู รวจ Topic Questions เรือ่ ง วงจรไฟฟ้าเบื้องต้น ในสมุดประจาตวั นกั เรียน 6. ครูตรวจแบบฝกึ หดั เรอ่ื ง ตวั ต้านทาน จากแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 7. นกั เรียนและครูร่วมกันสรุปเกีย่ วกับเรื่อง ตวั ตา้ นทาน 10. สอ่ื การสอน 1) หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2) แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 3) ใบงานที่ 5.2 เรอ่ื ง ตัวต้านทาน 4) วัสดุอปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการปฏิบัติกิจกรรมการตอ่ ตัวต้านทานแบบอนุกรม 5) วสั ดุอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการปฏิบัติกิจกรรมการตอ่ ตัวต้านทานแบบขนาน 6) PowerPoint เรือ่ ง ตวั ต้านทาน 7) ตัวต้านทานค่าคงที่ 8) บตั รคา

9) สมดุ ประจาตัวนกั เรียน 11. แหล่งเรียนรใู้ นหรอื นอกสถานที่ 1) หอ้ งเรียน 2) บริเวณโรงเรยี น 3) อินเตอรเ์ น็ต 12. การวัดและประเมนิ ผล (ใส่ตามความเหมาะสม) รายการวดั วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 12.1 ประเมินระหวา่ ง - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ การจดั กิจกรรม - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ การเรียนรู้ - ตรวจใบงานที่ 5.2 - ใบงานที่ 5.2 1) ตัวต้านทาน - ตรวจสมุดประจาตัว - สมุดประจาตวั หรอื - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ หรอื แบบฝกึ หัด แบบฝกึ หัด - ร้อยละ 60 ผ่าน วิทยาศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ เกณฑ์ เทคโนโลยี ม.3 เล่ม และเทคโนโลยี - ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 2 ม.3 เล่ม 2 - ระดบั คุณภาพ 2 2) ผลบนั ทึกการ - ตรวจสมดุ ประจาตัว - สมดุ ประจาตัว หรอื ผา่ นเกณฑ์ ปฏิบตั ิกิจกรรม หรอื แบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั การตอ่ ตวั ต้าน วิทยาศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ แบบอนกุ รม เทคโนโลยี ม.3 เล่ม และเทคโนโลยี 2 ม.3 เล่ม 2 3) ผลบนั ทึกการ - ตรวจสมดุ ประจาตัว - สมดุ ประจาตัว หรอื ปฏิบัติกิจกรรม หรอื แบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั การตอ่ ตัวต้าน วิทยาศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ แบบขนาน เทคโนโลยี ม.3 เล่ม และเทคโนโลยี 2 ม.3 เล่ม 2 4) การนาเสนอ - ประเมินการ - แบบประเมินการ ผลงาน/การปฏิบตั ิ นาเสนอ นาเสนอผลงาน/การ กิจกรรม ผลงาน/การปฏิบตั ิ ปฏิบตั ิกิจรรม กิจกรรม 5) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกต ทางานรายบคุ คล การทางาน พฤติกรรม รายบุคคล การทางานรายบคุ คล

รายการวดั วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ 6) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกต - ระดับคุณภาพ 2 ทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม พฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ การทางานกลุ่ม 7) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี ินยั - แบบประเมิน - ระดับคณุ ภาพ 2 อนั พึงประสงค์ รบั ผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ และมุ่งม่ันในการ อันพึงประสงค์ ทางาน กิจกรรมเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................

14. บนั ทึกผลหลงั การสอน 14. 1. ผลการจดั การเรียนการสอน 1. นักเรียนจานวน .....................................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้ ................... คน คิดเป็นร้อยละ .................................................. ไม่ผ่านจดุ ประสงค์ ................................คน คิดเป็นร้อยละ ................................................. ได้แก่ 1. ............................................................................................................................ 2. ............................................................................................................................ นักเรียนทีม่ ีความสามารถพิเศษ/นักเรียนพิการได้แก่ 1. ............................................................................................................................ 2. ............................................................................................................................ 2. นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 3. นกั เรียนมคี วามรู้เกิดทกั ษะ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 4. นักเรียนเจตคติ ค่านิยม 12 ประการ คณุ ธรรมจริยธรรม ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 14.2 ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 14.3 เสนอแนะ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ลงชือ่ ....................................................... ( ..................................................) ตาแหนง่ ครู...................

ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศกึ ษา/ผู้ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ได้ทาการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง ......................................................แล้วมคี วามคิดเห็นดงั น้ี 1. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้  ครบถ้วนและถกู ต้อง  ยงั ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถกู ต้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป 2. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กบั หลกั สตู รสถานศกึ ษา  สอดคล้อง  ยังไม่สอดคล้อง ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 3. รูปแบบของการจัดการเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั  ยงั เน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป 4. สอ่ื การเรียนรู้  เหมาะสมกับรูปแบบการจดั การเรียนรู้  ยังไม่เหมาะ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป 5. การประเมินผลการเรียนรู้  ครอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้  ยังไม่ครอบคลมุ ประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรงุ พัฒนาต่อไป 6. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ลงชือ่ ................................................................ (นายโชติชัย กิง่ แก้ว) ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรียนน้าปลีกศึกษา

ใบงานท่ี 5.2 เรือ่ ง ตวั ต้านทาน คาชีแ้ จง : แสดงวิธคี ำนวณเกี่ยวกับกำรต่อตวั ต้ำนทำนสมมูลใหถ้ ูกต้อง 1. กำหนดให้ R1 = 1.5 โอหม์ R2 = 2.5 โอหม์ และ R3 = 3.5 โอหม์ R1 R2 R3 ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ........................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ............................................................. ............................................................................................................................. ........................................ ......................................................................................................................................................... ............ ...................................................................................................................... ............................................... 2. กำหนดให้ R1 = 5 โอหม์ R2 = 2 โอห์ม R3 = 5 โอหม์ และ R4 = 10 โอหม์ R1 R2 R3 R4 ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ........................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ............................................................. ............................................................................................................................. ........................................ ......................................................................................................................................................... ............

3. กำหนดให้ R1 = 13 โอหม์ R2 = 12 โอห์ม R3 = 15 โอห์ม และ R4 = 85 โอห์ม R1 R2 R3 R4 ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ........................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ............................................................. ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ 4. กำหนดให้ R1 = 13 โอหม์ R2 = 12 โอหม์ R3 = 15 โอห์ม R4 = 85 โอหม์ และ R5 = 12 โอห์ม R1 R2 R5 R3 R4 ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ........................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ............................................................. ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................

5. กำหนดให้ R1 = 12 โอหม์ R2 = 12 โอหม์ R3 = 20 โอหม์ และ R4 = 15 โอหม์ R1 R2 R3 R4 ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ........................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ............................................................. ............................................................................................................................. ........................................ ......................................................................................................................................................... ............ ...................................................................................................................... ............................................... ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ........................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ............................................................. ............................................................................................................................. ........................................ ......................................................................................................................................................... ............

ใบงานท่ี 5.2 เฉลย เรือ่ ง ตัวตา้ นทาน คาชีแ้ จง : แสดงวธิ คี ำนวณเกี่ยวกบั กำรต่อตัวตำ้ นทำนสมมูลให้ถกู ต้อง 1. กำหนดให้ R1 = 1.5 โอห์ม R2 = 2.5 โอห์ม และ R3 = 3.5 โอหม์ R1 R2 R3 วธิ ีทา สำมำรถหำควำมตำ้ นทำนสมมลู ไดจ้ ำกสมกำร R  R1  R2  R3 R  1.5   2.5   3.5  R  7.5  ดงั นั้น ควำมตำ้ นทำนสมมลู ของตัวตำ้ นทำน 3 ตัวทตี่ ่อกันแบบอนกุ รม เท่ำกบั 7.5 โอห์ม 2. กำหนดให้ R1 = 5 โอห์ม R2 = 2 โอหม์ R3 = 5 โอห์ม และ R4 = 10 โอห์ม R1 R2 R3 R4 วธิ ที า ควำมต้ำนทำนรวม R1 R2 และ R3 R123  R1  R2  R3 R123  5   2   5  R123  12  จะได้ว่ำ ควำมต้ำนทำนสมมลู ของตวั ตำ้ นทำนทงั้ 4 ตวั เท่ำกบั 1 1 1 1 1 R  R123  R4  12   10  1  10  12  22 R 120  120  120  R  22  5.45  ดงั นั้น ควำมตำ้ นทำนสมมลู ของตวั ต้ำนทำนทั้ง 4 ตวั เทำ่ กบั 5.45 โอห์ม 3. กำหนดให้ R1 = 13 โอห์ม R2 = 12 โอห์ม R3 = 15 โอหม์ และ R4 = 85 โอห์ม R1 R2 R3 R4

วธิ ีทา ควำมต้ำนทำนรวม R1 กบั R2 R12  R1  R2 R12  13   12  R12  25  ควำมตำ้ นทำนรวม R3 กับ R4 R34  R3  R4 R34  15   85  R34  100  จะไดว้ ่ำ ควำมต้ำนทำนสมมูลของตัวตำ้ นทำนทั้ง 4 ตัว เทำ่ กบั 1 1 1 R  R12  R34 1  1  1 R 25  100  1  41 R 100  1  5 R 100  100  R 5 R  20  ดงั นนั้ ควำมตำ้ นทำนสมมูลของตวั ตำ้ นทำนท้ัง 4 ตวั เท่ำกับ 20 โอหม์ 4. กำหนดให้ R1 = 13 โอห์ม R2 = 12 โอหม์ R3 = 15 โอห์ม R4 = 85 โอหม์ และ R5 = 12 โอหม์ R1 R2 R5 R3 R4 วิธีทา ควำมต้ำนทำนรวม R1 กับ R2 R12  R1  R2

R12  13   12  R12  25  ควำมตำ้ นทำนรวม R3 กับ R4 R34  R3  R4 R34  15   85  R34  100  ควำมต้ำนทำนรวม R12 กบั R34 1 1 1 R1234  R12  R34 1  1  1 R1234 25  100  1 41 R1234  100  1  5 R1234 100  100  R1234  5 R1234  20  จะไดว้ ่ำ ควำมต้ำนทำนสมมูลของตวั ตำ้ นทำนทั้ง 4 ตวั เทำ่ กับ R  R1234  R5 R  20   12  R  32  ดังนั้น ควำมต้ำนทำนสมมูลของตวั ต้ำนทำนทงั้ 5 ตัว เทำ่ กับ 32 โอหม์ 5. กำหนดให้ R1 = 12 โอห์ม R2 = 12 โอหม์ R3 = 20 โอหม์ และ R4 = 15 โอห์ม R1 R2 R3 R4

วธิ ที า สำมำรถหำควำมตำ้ นทำนสมมลู ไดจ้ ำกสมกำร 1 1 1 1 1 R  R1  R2  R3  R4 1  1  1  1  1 R 12  12  20  15  1  11 34 R 12   60  1  2  7 R 12  60  1  10  7 R 60  1  17 R 60  60  R  17 R  3.53  ดังน้นั ควำมตำ้ นทำนสมมลู ของตวั ต้ำนทำนท้งั 4 ตัวทตี่ ่อกันแบบขนำน เทำ่ กับ 3.53 โอหม์

บตั รคา  V I R


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook