Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิเคราะห์หลัสูตรวิชาชีววิทยา

วิเคราะห์หลัสูตรวิชาชีววิทยา

Published by pakdinan somrak, 2020-03-14 06:01:33

Description: วิเคราะห์หลัสูตรวิชาชีววิทยา

Search

Read the Text Version

1 วเิ คราะหห์ ลกั สูตรสู่การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ รหสั วิชา ว๓๑๒๔๒ รายวิชาชวี วทิ ยา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรียนที่ ๒/๒๕๖๒ นางสาวภักดนิ ันท์ สมรักษ์ ตาแหนง่ ครู โรงเรยี นน้าปลกี ศกึ ษา สหวิทยา ๓ หัวตะพาน สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษาเขต ๒๙ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน

2 บนั ทกึ ขอ้ ความ สว่ นราชการโรงเรยี นน้าปลีกศึกษา อาเภอเมอื ง จังหวัดอานาจเจริญ ที่ ............................................................วันที่.............เดอื น............... พ.ศ. 25........ เรอ่ื ง รายงานผลการวิเคราะหห์ ลกั สูตรส่กู ารจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ เรียน ผอู้ านายการโรงเรยี นนาปลกี ศกึ ษา ตามที่โรงเรียนนาปลีกศึกษา ได้มอบหมายให้ข้าพเจ้า นางสาวภักดินันท์ สมรักษ์ ตาแหน่ง ครู รายงาน ผลการวเิ คราะห์หลักสตู รสู่การจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ เพ่ือวเิ คราะหห์ ลักสูตรแลว้ นาไปสู่การจดั ทาแผนให้ตรง กับหลักสูตร เพื่อนาไปใชใ้ นการจดั การเรียนการสอนต่อไป ดงั นันข้าพเจ้าได้จัดทารายงานผลการวิเคราะห์หลักสูตร สกู่ ารจัดทาแผนการจดั การเรียนรู้ เรียบร้อยแล้วจงึ เสนอรายงานผล ตอ่ ผู้บรหิ ารต่อไป จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดทราบและพจิ ารณา ลงชอื่ ............................................................. (นางสาวภักดินันท์ สมรกั ษ์) ความคิดเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ............................................................. (นายสุเมธ หน่อแก้ว) ผ้อู านวยการโรงเรียนนาปลกี ศกึ ษา

3 คานา รายงานผลการวิเคราะห์หลักสตู รส่กู ารจัดทาแผนการจดั การเรยี นรู้ จัดทาขึนมาเพ่อื รายงานผลการ วิเคราะห์หลักสูตรเพอ่ื นาไปสู่การเขยี นแผนการจัดการเรยี นรู้ เพ่ือนาไปใช้กบั นักเรียนให้สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน ตวั ชีวัดแกนกลาง รายงานเลม่ นีเป็นรายงานทจี่ ดั ทาโดยวิเคราะห์จากหลกั สตู รโรงเรียนและสอดคล้องกับหลักสูตร ปรับปรุง 60 รายงานเลม่ นจี ะเปน็ ประโยชน์มากน้อยเพียงใดขนึ อย่กู ับผู้ทีศ่ กึ ษา หากข้าพเจ้าเขยี นขาดตกบกพรอ่ ง ประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นีด้วย

4 สารบัญ เร่อื ง หนา้ วสิ ัยทัศน์ ๑ พันธกจิ ๑ จุดมุ่งหมาย ๑ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๒ คุณภาพผู้เรยี นจบชันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ ๓ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๔ จานวน มาตรฐานและตวั ชีวดั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ๕ ตารางวิเคราะหม์ าตรฐานผลการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ รายวิชาชีววทิ ยา รหัสวิชา ว ๓๑๒๔๒ ๖ คาอธบิ ายรายวิชา ๑๓ การจดั ทาโครงสรา้ งรายวชิ า ๑๔ การวัดและประเมนิ ผล ๒๕ การวดั ผลประเมนิ ผล/ขอ้ ตกลงเฉพาะวชิ า ๒๖

5 วชิ าชีววทิ ยา วิสัยทัศน์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มุ่งให้นักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ โดยใช้ทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงความรู้ รวมทังพัฒนานักเรียนให้มีเจตคติ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมท่ีเหมาะตอ่ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสังคมและสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นการศึกษาตลอดชีวิตบนพืนฐานความเช่ือว่าทุกคนส ามารถ เรียนรูแ้ ละพัฒนาตนเองได้เตม็ ตามศกั ยภาพ พันธกิจ ๑. พฒั นาให้นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามสามารถทาดา้ นวิทยาศาสตร์ ๒. พัฒนาทักษะในการศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓. นาความรู้ ความเข้าใจในเรือ่ งวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใชป้ ระโยชนต์ อ่ สังคมและการ ดารงชวี ิต ๔. พัฒนาศักยภาพนักเรียนส่งเสริมผู้เรยี นเขา้ รับการแขง่ ขันทงั ภายในและภายนอก จดุ มงุ่ หมาย ๑. นกั เรยี นเขา้ ใจหลกั การ ทฤษฎีท่ีเป็นพนื ฐานในวทิ ยาศาสตร์ ขอบเขต ธรรมชาตแิ ละข้อจากดั ของ วิทยาศาสตร์ ๒. นักเรยี นมที กั ษะท่ีสาคญั ในการศกึ ษาคน้ ควา้ ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓. นักเรียนมผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเพมิ่ สูงขึน ๔. เพอ่ื นาความรู้ความเข้าใจเร่อื งวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยไี ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คมและการ ดารงชีวติ ๕. เพ่ือให้คนมจี ิตวิทยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยมในการใชว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อยา่ งสร้างสรรค์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน หลักสตู รโรงเรยี นนาปลีกศกึ ษา ตามแนวหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขันพนื ฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มุง่ พฒั นาผ้เู รียนให้มีคุณภาพมาตรฐานการเรียนรู้ ซ่ึงการพัฒนาผู้เรยี นใหบ้ รรลมุ าตรฐานการเรยี นรู้นนั จะช่วยให้ ผู้เรียนเกดิ สมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ดงั นี ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร เปน็ ความสามารถในการรับและส่งสาร มวี ฒั นธรรมในการใชภ้ าษา ถ่ายทอดความคดิ ความรูค้ วามเข้าใจ ความร้สู ึก และทศั นะของตนเองเพอื่ แลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเองและสังคม รวมทังการเจรจาตอ่ รองเพอ่ื ขจดั และลดปญั หา ความขดั แย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไมร่ ับขอ้ มลู ข่าวสารดว้ ยหลกั เหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้ วิธกี ารสอ่ื สาร ทมี่ ปี ระสิทธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบทม่ี ีต่อตนเองและสังคม

6 ๒. ความสามารถในการคดิ เปน็ ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคดิ สังเคราะห์ การคิด อย่าง สร้างสรรค์ การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และการคดิ เป็นระบบ เพ่อื นาไปสกู่ ารสรา้ งองค์ความรหู้ รือสารสนเทศเพ่ือ การตัดสนิ ใจเกย่ี วกบั ตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ท่เี ผชิญได้อยา่ ง ถกู ต้องเหมาะสมบนพนื ฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและขอ้ มูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพนั ธแ์ ละการ เปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความร้มู าใชใ้ นการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หา และมกี ารตัดสนิ ใจที่มีประสิทธภิ าพโดยคานึงถงึ ผลกระทบทเี่ กดิ ขนึ ต่อตนเอง สงั คมและส่งิ แวดล้อม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ เปน็ ความสามารถในการนากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ น การ ดาเนินชวี ิตประจาวนั การเรียนร้ดู ้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่รว่ มกันในสังคมดว้ ย การสร้างเสรมิ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจดั การปัญหาและความขดั แย้งตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสมการ ปรบั ตวั ให้ทนั กบั การเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม และการรจู้ ักหลีกเลีย่ ง พฤติกรรมไม่พงึ ประสงคท์ ่ี ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่นื ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลอื ก และใช้ เทคโนโลยดี า้ นต่าง ๆ และ มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพฒั นาตนเองและสังคม ในดา้ นการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน การ แก้ปัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมคี ุณธรรม คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ หลกั สูตรโรงเรียนนาปลีกศึกษา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๙ ตามแนวหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั พืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ มงุ่ พฒั นาผู้เรยี นให้มีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยรู่ ่วมกนั กบั ผู้อนื่ ในสงั คมได้ อย่างมีความสขุ ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ดังนี ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ ๓. มีวินยั ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๕. อย่อู ยา่ งพอเพียง ๖. ม่งุ มัน่ ในการทางาน ๗. รักความเปน็ ไทย ๘. มจี ติ สาธารณะ

7 จบช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 1. เข้าใจการรกั ษาดุลยภาพของเซลลแ์ ละกลไกการรักษาดุลยภาพของสง่ิ มีชวี ิต 2. เข้าใจกระบวนการถ่ายทอดสารพันธุกรรม การแปรผนั มวิ เทชนั วิวฒั นาการของสิ่งมีชีวติ ความหลากหลายของ สิ่งมชี วี ติ และปัจจัยท่มี ีผลตอ่ การอย่รู อดของส่ิงมีชวี ิตในสิ่งแวดล้อมตา่ ง ๆ 3. เขา้ ใจกระบวนการ ความสาคญั และผลของเทคโนโลยีชวี ภาพต่อมนุษย์ สิ่งมชี วี ิตและส่ิงแวดลอ้ ม 4. เขา้ ใจชนิดของอนภุ าคสาคัญท่เี ป็นสว่ นประกอบในโครงสรา้ งอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ การ เกิดปฏกิ ิรยิ าเคมีและเขยี นสมการเคมี ปจั จยั ที่มีผลต่ออัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี 5. เข้าใจชนิดของแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอนภุ าคและสมบัติต่าง ๆ ของสารทีม่ ีความสมั พันธ์กับแรงยึดเหน่ียว 6. เขา้ ใจการเกิดปโิ ตรเลียม การแยกแกส๊ ธรรมชาตแิ ละการกลน่ั ลาดับสว่ นนามนั ดบิ การนาผลติ ภัณฑป์ ิโตรเลียม ไปใชป้ ระโยชนแ์ ละผลตอ่ สง่ิ มีชวี ติ และสิ่งแวดล้อม 7. เข้าใจชนิด สมบตั ิ ปฏิกิรยิ าท่ีสาคัญของพอลิเมอรแ์ ละสารชวี โมเลกลุ 8. เข้าใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งปริมาณทีเ่ กีย่ วกบั การเคลื่อนทแี่ บบต่าง ๆ สมบตั ิของคลืน่ กล คุณภาพของเสยี งและ การได้ยนิ สมบัติ ประโยชน์และโทษของคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า กมั มนั ตภาพรงั สีและพลังงานนิวเคลียร์ 9. เขา้ ใจกระบวนการเปล่ยี นแปลงของโลกและปรากฏการณ์ทางธรณที ี่มีผลต่อสง่ิ มีชีวติ และสง่ิ แวดลอ้ ม 10. เขา้ ใจการเกิดและวิวัฒนาการของระบบสรุ ิยะ กาแลก็ ซี เอกภพและความสาคญั ของเทคโนโลยอี วกาศ 11. เข้าใจความสมั พนั ธข์ องความรู้วทิ ยาศาสตร์ทม่ี ีผลต่อการพฒั นาเทคโนโลยปี ระเภทตา่ ง ๆ และการพัฒนา เทคโนโลยที ่ีส่งผลใหม้ กี ารคิดคน้ ความรทู้ างวทิ ยาศาสตรท์ ี่กา้ วหนา้ ผลของเทคโนโลยีตอ่ ชวี ติ สงั คม และ สิ่งแวดล้อม 12. ระบุปัญหา ตังคาถามทีจ่ ะสารวจตรวจสอบ โดยมกี ารกาหนดความสัมพันธ์ระหว่างตวั แปรต่าง ๆ สบื ค้นข้อมลู จากหลายแหล่ง ตงั สมมตฐิ านที่เป็นไปได้หลายแนวทางตัดสนิ ใจเลือกตรวจสอบสมมติฐานทีเ่ ปน็ ไปได้ 13. วางแผนการสารวจตรวจสอบเพื่อแก้ปญั หาหรือตอบคาถาม วเิ คราะห์ เชื่อมโยงความสัมพนั ธ์ของตัวแปรตา่ ง ๆ โดยใชส้ มการทางคณติ ศาสตร์หรอื สร้างแบบจาลองจากผลหรือความรทู้ ่ีไดร้ ับจากการสารวจตรวจสอบ 14. ส่อื สารความคดิ ความรจู้ ากผลการสารวจตรวจสอบโดยการพดู เขียน จัดแสดง หรือใ้ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 15. อธิบายความรแู้ ละใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการดารงชีวิต การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทาโครงงาน หรอื สรา้ งชินงานตามความสนใจ 16. แสดงถงึ ความสนใจ มุ่งมั่น รับผดิ ชอบ รอบคอบและซ่ือสตั ยใ์ นการสืบเสาะหาความรู้ โดยใช้เครอ่ื งมือและ วิธกี ารท่ีให้ไดผ้ ลถูกต้องเชอื่ ถือได้ 17. ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ใ่ี ช้ในชวี ิตประจาวัน การประกอบอาชีพ แสดงถึง ความชน่ื ชม ภูมใิ จ ยกยอ่ ง อา้ งองิ ผลงาน ชนิ งานท่เี ป็นผลจากภมู ิปญั ญาท้องถิน่ และการพัฒนาเทคโนโลยที ่ีทนั สมัย 18. แสดงความซาบซึง หว่ งใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกบั การใช้และรักษาทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มอย่างรู้ คณุ ค่า เสนอตวั เองรว่ มมอื ปฏิบัตกิ ับชุมชนในการป้องกนั ดูแลทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมของท้องถิน่ 19. แสดงถึงความพอใจ และเห็นคณุ ค่าในการคน้ พบความรู้ พบคาตอบ หรือแกป้ ญั หาได้ 20. ทางานรว่ มกับผู้อน่ื อย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเหน็ โดยมขี ้อมลู อ้างองิ และเหตุผล ประกอบ เกี่ยวกบั ผลของการพัฒนาและการใช้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยอี ยา่ งมคี ุณธรรมตอ่ สังคมและ สิง่ แวดลอ้ ม และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อน่ื

8 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระชีววิทยา 2. เขา้ ใจการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม การถา่ ยทอดยนี บนโครโมโซม สมบัตแิ ละหน้าทข่ี องสารพันธุกรรม การเกดิ มิวเทชัน เทคโนโลยที างดเี อ็นเอ หลักฐาน ขอ้ มลู และแนวคิดเก่ียวกับววิ ฒั นาการของส่ิงมีชวี ติ ภาวะสมดุลของฮารด์ ี-ไวนเ์ บิร์ก การ เกดิ สปีชสี ใ์ หม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กาเนิดของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมชี ีวิต และอนกุ รมวธิ าน รวมทังนาความรู้ ไปใช้ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. สืบคน้ ข้อมลู อธิบายและสรุปผลการ ทดลองของเมนเดลได้ 2. อธิบายและสรุปกฎแหง่ การแยกและกฎแห่งการรวมกล่มุ อยา่ งอสิ ระ และนากฎของเมนเดลนีไปอธิบาย การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและใช้ในการคานวณโอกาสในการเกิดฟีโนไทป์และจีโนไทป์แบบ ตา่ ง ๆ ของรนุ่ F1 และ F2 ได้ 3. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมท่ีเป็นส่วนขยาย ของพนั ธศุ าสตร์เมนเดลได้ 4. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และเปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมท่ีมีการแปรผันไม่ต่อเนื่องและลักษณะ ทางพันธุกรรมที่มกี ารแปรผนั ตอ่ เน่ืองได้ 5. อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธกุ รรมทถ่ี ูกควบคุมดว้ ยยีนบนออ โตโซมและยีนบนโครโมโซมเพศได้ 6. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ ายสมบัติและหนา้ ทีข่ องสารพันธกุ รรม โครงสรา้ งและองคป์ ระกอบทางเคมีของ DNA และสรุปการจาลอง DNA ได้ 7. อธบิ ายและระบขุ ันตอนในกระบวนการสังเคราะห์โปรตนี และหนา้ ทีข่ อง DNA และ RNA แต่ละชนิดใน กระบวนการสังเคราะหโ์ ปรตีนได้ 8. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสารพันธุกรรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทางพันธุกรรม และเช่ือมโยงกับ ความร้เู รอ่ื งพนั ธศุ าสตรเ์ มนเดลได้ 9. สบื คน้ ขอ้ มูล และอธิบายการเกดิ มวิ เทชนั ระดบั ยีนและระดบั โครโมโซม สาเหตุการเกดิ มวิ เทชนั รวมทัง ยกตัวอย่างโรคและกล่มุ อาการทเ่ี ปน็ ผลของการเกิดมิวเทชนั ได้ 10. อธิบายหลักการสรา้ งสง่ิ มชี วี ติ ดดั แปรพนั ธุกรรมโดยใช้ดีเอ็นเอรีคอมบแิ นนท์ได้ 11. สบื คน้ ขอ้ มลู ยกตัวอย่าง และอภปิ รายการนาเทคโนโลยีทางดเี อ็นเอไปประยุกต์ ทงั ในด้านส่ิงแวดล้อม นติ ิวทิ ยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอุตสาหกรรม และข้อควรคานึงถึงดา้ นชวี จรยิ ธรรมได้ 12. สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับหลักฐานท่ีสนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิดวิวัฒนาการของ สงิ่ มชี ีวิตได้ 13. อธิบายและเปรียบเทยี บแนวคิดเกยี่ วกบั วิวัฒนาการของสง่ิ มชี ีวิตของฌอง ลามาร์ก และทฤษฎเี ก่ยี วกับ ววิ ัฒนาการของสิง่ มชี ีวิตของชาลส์ ดารว์ นิ ได้ 14. ระบุสาระสาคัญและอธิบายเงื่อนไขของภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทาให้เกิดการ เปล่ียนแปลงความถ่ีของแอลลีลในประชากร พร้อมทังคานวณหาความถ่ีของแอลลีลและจีโนไทป์ของ ประชากรโดยใชห้ ลกั ของฮารด์ ี-ไวนเ์ บิร์กได้ 15. สืบค้นข้อมลู อภปิ ราย และอธิบายกระบวนการเกิดสปีชสี ์ใหม่ของส่ิงมชี ีวติ ได้

9 จานวน มาตรฐานและตัวช้ีวัดกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ สาระ มาตรฐาน จานวนตวั ช้ีวดั /ระดับชนั้ ม.4 รวม ภาค ๑ ภาค ๒ ๑ ว. ๔.2 ม.4-6/1 รวม 1 ม.4-6/2 เวลาเรยี น/หน่วยกติ ม.4-6/3 ม.4-6/4 ม.4-6/5 ม.4-6/6 ม.4-6/7 ม.4-6/8 ม.4-6/9 ม.4-6/10 ม.4-6/11 ม.4-6/13 ม.4-6/13 ม.4-6/14 ม.4-6/15 15 ๖๐/๑.๕

1 ตารางวิเคราะห์มาตรฐาน / ผลการเรียน รหัส ผลการเรยี นรู้ K มาตรฐาน ว. ๔.2 ๑. สืบคน้ ข้อมูล การทดลองของเมนเดล สืบค้นขอ้ ม สรปุ ผลการ อธิบายและสรุปผลการ ได้ เดล ทดลองของเมนเดลได้ 2. อธบิ ายและสรุปกฎ กฎการแยกและกฎการ อธบิ ายและ การแยกและกฎการ รวมกลุ่มอย่างอสิ ระ แยกและกฎ รวมกลุ่มอยา่ งอิสระ และนากฎของเมนเดลนี อยา่ งอิสระ และนากฎของเมนเดล ไปอธบิ ายการถ่ายทอด เมนเดลนไี ป นีไปอธบิ ายการ ลักษณะทางพันธุกรรม ถา่ ยทอดลัก ถ่ายทอดลักษณะทาง และใชใ้ นการคานวณ พนั ธุกรรมแ พันธุกรรมและใช้ใน โอกาสในการเกดิ ฟีโน คานวณโอก การคานวณโอกาสใน ไทปแ์ ละจีโนไทปแ์ บบ ฟีโนไทปแ์ ล การเกดิ ฟโี นไทป์และจี ต่าง ๆ ของรุ่น F1 และ ต่าง ๆ ของ โนไทปแ์ บบตา่ ง ๆ ของ F2 F2 รนุ่ F1 และ F2 ได้

10 นรู้ รายวิชาชีววิทยา รหสั วิชา ว 31242 P A C ต้องรู้ ควรรู้ มูล อธิบายและ ๑. ใฝ่เรียนรู้ 1. ทกั ษะการสังเกต  รทดลองของเมน ๒. มจี ติ 2. ทักษะการสารวจ  ค้นหา วทิ ยาศาสตร์ 3. ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.ทกั ษะการให้เหตผุ ล ะสรุปกฎการ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ 5. ทกั ษะการคิด ฎการรวมกลมุ่ ๒. มีจติ อยา่ งมีเหตุผล ะ และนากฎของ วทิ ยาศาสตร์ ปอธิบายการ 1. ทกั ษะการสังเกต กษณะทาง 2. ทักษะการสารวจ และใช้ในการ คน้ หา กาสในการเกดิ 3. ทักษะการวิเคราะห์ ละจีโนไทป์แบบ 4.ทกั ษะการให้เหตุผล งรนุ่ F1 และ 5. ทกั ษะการคิด อยา่ งมีเหตผุ ล

1 ตารางวิเคราะหม์ าตรฐาน / ผลการเรียนรู้ ร รหสั ผลการเรียนรู้ K มาตรฐาน ว. ๔.2 3. สืบคน้ ขอ้ มลู วเิ คราะห์ การถา่ ยทอดลักษณะ สืบคน้ ขอ้ ม อธบิ าย แล อธิบาย และสรปุ เกีย่ วกับ ทางพันธกุ รรมท่เี ปน็ การถา่ ยทอ พนั ธุกรรม การถ่ายทอดลักษณะทาง สว่ นขยายของพนั ธุ ขยายของพ เมนเดล พันธกุ รรมทเ่ี ปน็ ส่วน ศาสตรเ์ มนเดล ขยายของพันธศุ าสตร์เมน เดลได้ 4.สบื ค้นขอ้ มูล วเิ คราะห์ ลักษณะทาง สบื คน้ ขอ้ ม และเปรียบเทียบ พันธกุ รรมที่มีการแปร และเปรยี บ ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมท่ี ผนั ไมต่ อ่ เนื่องและ ทางพันธกุ มกี ารแปรผนั ไมต่ ่อเนือ่ ง ลักษณะทาง แปรผนั ไม่ต และลักษณะทาง พนั ธุกรรมท่ีมกี ารแปร ลกั ษณะทา พนั ธุกรรมท่ีมีการแปร ผันตอ่ เน่ือง มีการแปรผ ผันต่อเน่อื งได้ การถา่ ยทอดยีนบน อธบิ ายการ 5. อธิบายการถ่ายทอด โครโมโซม และ บนโครโมโ ยีนบนโครโมโซม และ ยกตวั อย่างลักษณะ ยกตวั อยา่ ง ยกตวั อย่างลักษณะทาง ทางพนั ธกุ รรมทีถ่ ูก พนั ธกุ รรม พันธุกรรมที่ถกู ควบคุม ควบคมุ ด้วยยนี บนออ ด้วยยนี บน ดว้ ยยีนบนออโตโซมและ โตโซมและยีนบน ยีนบนโครโ ยนี บนโครโมโซมเพศได้ โครโมโซมเพศ

11 รายวชิ าชีววิทยา รหัสวิชา ว 31242 (ต่อ) P A C ตอ้ งรู้ ควรรู้ มลู วเิ คราะห์ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ 1. ทกั ษะการสังเกต  ละสรุปเกยี่ วกับ ๒. มจี ิต 2. ทกั ษะการสารวจ  อดลักษณะทาง วทิ ยาศาสตร์ ค้นหา  มที่เปน็ สว่ น 3. ทกั ษะการวเิ คราะห์ พันธุศาสตร์ 4.ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 5. ทกั ษะการคดิ มูล วเิ คราะห์ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ อยา่ งมีเหตผุ ล บเทยี บลักษณะ ๒. มจี ติ กรรมทีม่ ีการ วทิ ยาศาสตร์ 1. ทกั ษะการสังเกต ต่อเนอื่ งและ 2. ทกั ษะการสารวจ างพันธกุ รรมท่ี ค้นหา ผนั ต่อเน่ือง 3. ทกั ษะการวิเคราะห์ 4.ทกั ษะการใหเ้ หตุผล รถ่ายทอดยีน ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. ทกั ษะการคดิ โซม และ ๒. มีจติ อย่างมีเหตุผล งลกั ษณะทาง วิทยาศาสตร์ มท่ีถกู ควบคมุ 1. ทกั ษะการสังเกต นออโตโซมและ 2. ทกั ษะการสารวจ โมโซมเพศ คน้ หา 3. ทักษะการวิเคราะห์ 4.ทักษะการให้เหตุผล 5. ทักษะการคดิ อยา่ งมเี หตผุ ล

1 ตารางวเิ คราะห์มาตรฐาน / ผลการเรยี นรู้ ร รหสั ผลการเรยี นรู้ K มาตรฐาน ว. ๔.2 6. สบื ค้นข้อมูล อธิบาย สมบัตแิ ละหนา้ ที่ของ สืบค้นขอ้ ม สมบตั ิและหน้าที่ของ สารพันธุกรรม สมบตั แิ ละห สารพันธุกรรม โครงสร้างและ พันธกุ รรม โครงสรา้ งและ องค์ประกอบทางเคมี องค์ประกอ องค์ประกอบทางเคมี ของ DNA และสรุปการ DNA และส ของ DNA และสรุปการ จาลอง DNA DNA จาลอง DNA ได้ 7. อธิบายและระบุ ขนั ตอนในกระบวนการ อธบิ ายและ ขันตอนในกระบวนการ สงั เคราะหโ์ ปรตนี และ ในกระบวน สงั เคราะห์โปรตีนและ หน้าท่ีของ DNA และ โปรตีนและ หนา้ ท่ีของ DNA และ RNA แต่ละชนิดใน DNA และ RNA แตล่ ะชนดิ ใน กระบวนการสงั เคราะห์ ชนดิ ในกระ กระบวนการสังเคราะห์ โปรตนี สังเคราะหโ์ โปรตนี ได้ 8. สรปุ ความสมั พนั ธ์ ความสัมพนั ธ์ระหว่าง สรุปความส ระหวา่ งสารพันธุกรรม สารพันธุกรรม แอลลลี สารพนั ธุกร แอลลีล โปรตีน โปรตนี ลกั ษณะทาง โปรตนี ลัก ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม พันธุกรรม และ พนั ธุกรรม และเชอื่ มโยงกบั ความรู้ เชอ่ื มโยงกบั ความรู้ กบั ความรเู้ เรือ่ งพนั ธศุ าสตรเ์ มน เรื่องพันธศุ าสตรเ์ มน ศาสตรเ์ มน เดลได้ เดล

12 รายวิชาชีววิทยา รหัสวิชา ว 31242 (ต่อ) PA C ตอ้ งรู้ ควรรู้ มูล อธบิ าย ๑. ใฝ่เรียนรู้ 1. ทกั ษะการสังเกต  หน้าท่ีของสาร ๒. มีจิต 2. ทกั ษะการสารวจค้นหา โครงสรา้ งและ วทิ ยาศาสตร์ 3. ทักษะการวิเคราะห์ อบทางเคมีของ 4.ทกั ษะการให้เหตผุ ล สรปุ การจาลอง 5. ทักษะการคิด อย่างมเี หตผุ ล ะระบุขันตอน ๑. ใฝ่เรยี นรู้ 1. ทกั ษะการสงั เกต  นการสงั เคราะห์ ๒. มีจิต 2. ทกั ษะการสารวจค้นหา ะหนา้ ท่ีของ วิทยาศาสตร์ 3. ทักษะการวเิ คราะห์ RNA แตล่ ะ 4.ทกั ษะการใหเ้ หตุผล ะบวนการ 5. ทักษะการคดิ โปรตีน อย่างมีเหตผุ ล สมั พนั ธ์ระหวา่ ง ๑. ใฝ่เรยี นรู้ 1. ทกั ษะการสังเกต  รรม แอลลีล ๒. มจี ิต 2. ทกั ษะการสารวจคน้ หา กษณะทาง วทิ ยาศาสตร์ 3. ทกั ษะการวิเคราะห์ และเช่ือมโยง 4.ทักษะการให้เหตผุ ล เรื่องพนั ธุ 5. ทักษะการคดิ นเดล อย่างมีเหตุผล

1 ตารางวเิ คราะหม์ าตรฐาน / ผลการเรียนรู้ ร รหัส ผลการเรียนรู้ K มาตรฐาน ว. ๔.2 9. สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบาย การเกิด มิวเทชัน สืบค้นข การเกิด มิวเทชนั ระดบั ยนี ระดับยนี และระดบั อธบิ ายก และระดบั โครโมโซม สาเหตุ โครโมโซม สาเหตุการ ชนั ระดับ การเกิดมวิ เทชนั รวมทัง เกิดมิวเทชัน รวมทัง โครโมโซ ยกตวั อยา่ งโรคและกลุ่ม ยกตัวอย่างโรคและ เกดิ มวิ เ อาการท่ีเปน็ ผลของการเกิด กลมุ่ อาการทเ่ี ปน็ ผล ยกตวั อย มิวเทชันได้ ของการเกิดมวิ เทชัน กลุ่มอาก ของการ 10. อธิบายหลักการสรา้ ง หลกั การสร้างสงิ่ มีชวี ิต อธิบายห ส่งิ มชี วี ติ ดดั -แปรพนั ธุกรรม ดดั -แปรพนั ธกุ รรมโดย ส่ิงมชี ีวิต โดยใชด้ ีเอน็ เอรีคอม-บิแนนท์ ใชด้ เี อ็นเอรีคอม- พนั ธกุ รร ได้ บแิ นนท์ เอรีคอม

13 รายวชิ าชีววิทยา รหสั วิชา ว 31242 (ต่อ) PA C ต้องรู้ ควรรู้ ข้อมลู และ ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ 1. ทกั ษะการสังเกต  การเกดิ มวิ เท ๒. มีจิต 2. ทักษะการสารวจคน้ หา บยีนและระดับ วทิ ยาศาสตร์ 3. ทกั ษะการวเิ คราะห์ ซม สาเหตุการ 4.ทักษะการใหเ้ หตผุ ล เทชนั รวมทัง ๑. ใฝเ่ รียนรู้ 5. ทักษะการคดิ ย่างโรคและ ๒. มจี ิต อย่างมีเหตผุ ล การทีเ่ ปน็ ผล วทิ ยาศาสตร์ รเกดิ มิวเทชัน 1. ทักษะการสังเกต  2. ทกั ษะการสารวจคน้ หา หลกั การสร้าง 3. ทกั ษะการวิเคราะห์ ตดัด-แปร 4.ทกั ษะการให้เหตผุ ล รมโดยใชด้ เี อน็ 5. ทกั ษะการคิด ม-บิแนนท์ อยา่ งมีเหตผุ ล

1 ตารางวิเคราะหม์ าตรฐาน / ผลการเรยี นรู้ ร รหสั ผลการเรยี นรู้ K สบื มาตรฐาน และ 11. สืบค้นข้อมลู การนาเทคโนโลยีทางดีเอน็ เทค ว. ๔.2 ยกตัวอยา่ ง และอภิปราย เอไปประยกุ ต์ ทังในด้าน ประ การนาเทคโนโลยีทางดเี อน็ สิ่งแวดล้อม นิติ สง่ิ แ เอไปประยุกต์ ทงั ในด้าน วิทยาศาสตร์ การแพทย์ วทิ ย สิ่งแวดลอ้ ม นิติวทิ ยาศาสตร์ การเกษตร และ การ การแพทย์ การเกษตร และ อุตสาหกรรม และข้อควร อตุ ส อุตสาหกรรม และข้อควร คานงึ ถึงด้านชีวจริยธรรม คาน คานึงถึงด้านชวี จรยิ ธรรมได้ หลักฐานทสี่ นบั สนนุ และ สืบ 12. สืบค้นขอ้ มูลและ ขอ้ มลู ที่ใชอ้ ธิบายการเกิด เกย่ี อธบิ ายเกยี่ วกบั หลกั ฐานท่ี ววิ ัฒนาการของส่ิงมีชีวิต สน สนบั สนุนและขอ้ มลู ท่ีใช้ อธิบ อธิบายการเกดิ ววิ ฒั นาการ ของ ของสิง่ มีชีวติ ได้

14 รายวชิ าชีววิทยา รหัสวิชา ว 31242 (ต่อ) P A C ตอ้ งรู้ ควรรู้ บค้นข้อมลู ยกตัวอยา่ ง ๑. ใฝ่เรียนรู้ 1. ทักษะการสังเกต  ะอภิปรายการนา ๒. มีจิต 2. ทักษะการสารวจ  คโนโลยีทางดเี อ็นเอไป วทิ ยาศาสตร์ คน้ หา ะยุกต์ ทังในดา้ น 3. ทกั ษะการ แวดล้อม นติ ิ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ วิเคราะห์ ยาศาสตร์ การแพทย์ ๒. มีจติ 4.ทกั ษะการให้ รเกษตร และ วิทยาศาสตร์ เหตุผล สาหกรรม และข้อควร 5. ทกั ษะการคดิ นงึ ถงึ ด้านชวี จรยิ ธรรม อย่างมเี หตุผล บคน้ ขอ้ มลู และอธิบาย 1. ทักษะการสงั เกต ยวกับหลักฐานท่ี 2. ทักษะการสารวจ นับสนุนและขอ้ มลู ทใ่ี ช้ คน้ หา บายการเกิดวิวัฒนาการ 3. ทกั ษะการ งสิง่ มีชีวิต วเิ คราะห์ 4.ทักษะการให้ เหตผุ ล 5. ทักษะการคดิ อย่างมีเหตุผล

1 ตารางวิเคราะหม์ าตรฐาน / ผลการเรยี นรู้ ร รหสั ผลการเรยี นรู้ K อธบิ มาตรฐาน แน 13. อธิบายและ แนวคิดเก่ยี วกบั ของ ว. ๔.2 เปรียบเทียบแนวคดิ เก่ยี วกับ วิวัฒนาการของส่ิงมีชวี ติ มาร ววิ ฒั นาการของสง่ิ มชี วี ิต ของฌอง ลามาร์ก และ ววิ ัฒ ของฌอง ลามาร์ก และ ทฤษฎเี กยี่ วกับววิ ฒั นาการ ของ ทฤษฎเี กยี่ วกับวิวฒั นาการ ของสิง่ มชี วี ติ ของชาลส์ ของสง่ิ มีชีวิตของชาลส์ ดาร์ ดาร์วิน วินได้ 14. ระบสุ าระสาคญั และ เง่อื นไขของภาวะสมดุล ระบ อธิบายเง่ือนไขของภาวะ ของฮารด์ ี-ไวน์เบิร์ก ปจั จัย เงอื่ สมดุลของฮารด์ ี-ไวนเ์ บริ ์ก ทท่ี าให้เกิดการ ฮาร ปัจจัยท่ีทาใหเ้ กิดการ เปล่ยี นแปลงความถี่ของ ให้เ เปลยี่ นแปลงความถี่ของแอล แอลลลี ในประชากร พรอ้ ม ควา ลลี ในประชากร พร้อมทัง ทงั คานวณหาความถี่ของ ประ คานวณหาความถี่ของ แอลลีลและจโี นไทป์ของ คาน แอลลีลและจโี นไทป์ของ ประชากรโดยใชห้ ลกั ของ แอล ประชากรโดยใชห้ ลักของฮาร์ ฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ประ ด-ี ไวน์เบริ ์กได้ ฮาร

15 รายวชิ าชีววิทยา รหัสวิชา ว 31242 (ต่อ) P A C ต้องรู้ ควรรู้ บายและเปรียบเทยี บ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ 1. ทกั ษะการสังเกต  นวคิดเกีย่ วกับวิวัฒนาการ ๒. มจี ติ 2. ทักษะการสารวจ  งส่งิ มีชีวติ ของฌอง ลา วทิ ยาศาสตร์ คน้ หา รก์ และทฤษฎีเกี่ยวกับ 3. ทกั ษะการ ฒนาการของสงิ่ มีชีวิต วเิ คราะห์ งชาลส์ ดาร์วนิ 4.ทักษะการให้ เหตุผล บุสาระสาคัญและอธบิ าย ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. ทกั ษะการคิด อนไขของภาวะสมดลุ ของ ๒. มจี ิต อย่างมเี หตผุ ล ร์ดี-ไวนเ์ บริ ก์ ปจั จัยที่ทา วทิ ยาศาสตร์ เกดิ การเปลี่ยนแปลง 1. ทกั ษะการสังเกต ามถขี่ องแอลลลี ใน 2. ทกั ษะการสารวจ ะชากร พร้อมทัง ค้นหา นวณหาความถีข่ อง 3. ทกั ษะการ ลลลี และจโี นไทป์ของ วิเคราะห์ ะชากรโดยใช้หลักของ 4.ทกั ษะการให้ รด์ ี-ไวน์เบริ ์ก เหตผุ ล 5. ทักษะการคดิ อย่างมเี หตุผล

1 ตารางวเิ คราะหม์ าตรฐาน / ผลการเรยี นรู้ ร รหัส ผลการเรียนรู้ K มาตรฐาน กระบวนการเกดิ สปชี ีสใ์ หม่ สบื ว. ๔.2 15. สบื ค้นข้อมูล อภปิ ราย และอธบิ ายกระบวนการ ของสงิ่ มีชีวิต อธิบ เกิดสปีชสี ์ใหม่ของสงิ่ มีชวี ิต ได้ ชีสใ์

16 รายวชิ าชีววิทยา รหสั วิชา ว 31242 (ต่อ) P A C ตอ้ งรู้ ควรรู้ บคน้ ข้อมลู อภิปราย และ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ 1. ทักษะการสังเกต  2. ทักษะการสารวจ บายกระบวนการเกิดสปี ๒. มจี ิต ค้นหา 3. ทักษะการ ใหมข่ องสิ่งมชี วี ิต วิทยาศาสตร์ วเิ คราะห์ 4.ทักษะการให้ เหตผุ ล 5. ทักษะการคดิ อยา่ งมเี หตผุ ล

รหสั วชิ า ว 31242 ชีววิทยา 17 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 จานวน 1.5 หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ชีววิทยา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ เวลา 60 ชว่ั โมง/ภาคเรียน ภาคเรียนท่ี 2 คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาเก่ียวกับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม การศึกษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล กฎการแยกและกฎการ รวมกลุ่มอย่างอิสระ ลักษณะทางพันธุกรรมท่ีเป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล ศึกษาเกี่ยวกับยีนและ โครโมโซม การค้นพบสารพันธุกรรม โครโมโซม องค์ประกอบทางเคมีของของดีเอ็นเอ โครงสร้างของดีเอ็นเอ สมบัติของสารพันธุกรรม การกลาย ศึกษาเก่ียวกับพันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ พันธุวิศวกรรม การ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ ความปลอดภัยของเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ และมุมมองทางสังคมและจริยธรรม ศึกษาเก่ียวกับวิวัฒนาการ หลักฐานที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แนวคิดเก่ียวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวติ พนั ธุศาสตร์ประชากร และกาเนดิ ของสปชี สี ์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การ วิเคราะห์ การทดลอง อภิปราย การอธิบาย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถใน การตัดสินใจ สื่อสารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรมคุณธรรม และ ค่านิยม ผลการเรยี นรู้ ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4 ม.4-6/5, 2. ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8, ม.4-6/9 ม.4-6/10, ม.4-6/11, ม.4-6/12, ม.4-6/13, ม.4-6/14, ม.4-6/15 รวม 15 ผลการเรยี นรู้

1 การจดั โครงส กลมุ่ สาระการเรยี รายวิชาชีววทิ ยา รหัสวชิ า ว 31242 ร เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จ หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธสี อน/วธิ ีการจัด กิจกรรมการเรยี นรู้ 4. การถา่ ยทอดทาง พันธกุ รรม แผนฯ ที่ 1 วธิ ีสอนแบบสบื เสาะหา การศึกษาพนั ธุศาสตร์ ความรู้ (5Es ของเมนเดล Instructional Model) แผนฯ ท่ี 2 วธิ สี อนแบบสบื เสาะหา กฎของเมนเดล ความรู้ (5Es Instructional Model)

18 สร้างรายวิชา ยนร้วู ิทยาศาสตร์ ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน ๑.๕ หน่วยกิต ทกั ษะทไ่ี ด้ การประเมิน เวลา (ชวั่ โมง) - ทกั ษะการสังเกต - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ทกั ษะการสารวจ - ตรวจแบบฝึกหดั 3 คน้ หา - ตรวจผังสรุป เร่ือง การศึกษาพันธุ - ทักษะการวเิ คราะห์ ศาสตร์ของเมนเดล 5 - ทักษะการใหเ้ หตผุ ล - ตรวจใบงาน เรื่อง การถ่ายทอด - ทักษะการคิด ลกั ษณะถ่วั ลนั เตาของเมนเดล อยา่ งมเี หตุผล - สังเกตพฤติกรรมการทางาน รายบุคคล - ทักษะการสารวจ - สังเกตความมวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ และ คน้ หา มุ่งมัน่ ในการทางาน - ทกั ษะการเชอื่ มโยง - ตรวจแบบฝึกหดั - ทักษะการวิเคราะห์ - ตรวจผงั สรปุ เรอ่ื ง วเิ คราะหค์ วาม - ทกั ษะการรวบรวม พนั ธ์ของกฎการแยกและกฎการร่วม ข้อมลู กลุ่มอยา่ งอสิ ระของเมนเดลของเมน - ทักษะการคิด เดลกับการแบ่งเซลล์ของสง่ิ มีชวี ิต อย่างมเี หตผุ ล - ใบงาน เรอื่ ง การถ่ายทอดลักษณะ ของถว่ั ลนั เตาโดยพิจารณาสอง ลกั ษะ

1 หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วิธีสอน/วธิ กี ารจัด กิจกรรมการเรียนรู้ แผนฯ ที่ 3 วิธสี อนแบบสืบเสาะหา ลกั ษณะพันธกุ รรมท่ี ความรู้ (5Es เปน็ ส่วนขยายของพันธุ Instructional Model) ศาสตร์เมนเดล

19 ทกั ษะทีไ่ ด้ การประเมนิ เวลา (ชว่ั โมง) - ใบงาน เรอ่ื ง กฎการรวมกลุ่มอยา่ ง อสิ ระของเมนเดล - สงั เกตพฤติกรรมการทางาน รายบคุ คล - สังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ - สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และ มงุ่ มนั่ ในการทางาน - ทกั ษะการสารวจ - ตรวจแบบทดสอบหลังรยี น 8 ค้นหา - ตรวจแบบฝกึ หดั - ทักษะการใหเ้ หตุผล - ตรวจผังมโนทัศน์ เรื่อง ลักษณะ - ทกั ษะการ พันธกุ รรมทเี่ ป็นสว่ นขยายของพนั ธุ เปรยี บเทียบ ศาสตรเ์ มนเดล - ทกั ษะการคดิ - ตรวจใบงาน เรอื่ ง การถา่ ยทอด อยา่ งมเี หตุผล ลักษณะของเส้นผม - ทักษะการนาความรู้ - ตรวจใบงาน เร่อื ง ถา่ ยทอดลักษณะ ไปใช้ ทางพันธุกรรมแบบมลั ตเิ พลิ แอลลีล - ทักษะการสรปุ - ตรวจใบงาน เรื่อง การถา่ ยทอด ความเหน็ จากข้อมูล ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีควบคุมโดย ยีนบนโครโมโซมเพศ - ตรวจ Unit Question ทา้ ยหน่วย การเรียนรู้ท่ี 4

2 หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วิธีสอน/วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 2. ยนี และโครโมโซม แผนฯ ท่ี 1 วิธีสอนแบบสืบเสาะหา การคน้ พบสาร ความรู้ (5Es พนั ธกุ รรม Instructional Model) แผนฯ ท่ี 2 วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหา โครโมโซม ความรู้ (5Es Instructional Model)

20 ทักษะทไ่ี ด้ การประเมิน เวลา (ชั่วโมง) - ตรวจแบบทดสอบท้ายหนว่ ยการ เรยี นรู้ ที่ 4 2 - สงั เกตพฤติกรรมการทางาน รายบคุ คล 2 - สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และ ม่งุ มั่นในการทางาน - ทักษะการสารวจ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น คน้ หา - ตรวจแบบฝึกหดั - ทักษะการสรุปอ้างอิง - ผังสรปุ เร่ือง การคน้ พบสาร - ทักษะการใหเ้ หตผุ ล พันธุกรรม - ตรวจใบงาน เรือ่ ง การค้นพบสาร พนั ธุกรรม - สงั เกตพฤติกรรมการทางาน รายบคุ คล - สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และ มุ่งมั่นในการทางาน - ทกั ษะการสงั เกต - ตรวจผังสรุป เรื่อง โครโมโซมของ - ทกั ษะการสารวจ ส่งิ มีชีวิต คน้ หา - สงั เกตพฤติกรรมการทางาน - ทักษะการ รายบุคคล เปรียบเทยี บ - สงั เกตความมวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และ - ทักษะการจาแนก มุ่งมน่ั ในการทางาน ประเภท

2 หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วิธีสอน/วิธีการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ แผนฯ ที่ 3 วิธีสอนแบบสืบเสาะหา ดีเอ็นเอ ความรู้ (5Es Instructional Model)

21 ทกั ษะทีไ่ ด้ การประเมนิ เวลา (ชัว่ โมง) - ทักษะการสังเกต - ตรวจแบบฝกึ หัด - ทกั ษะการสารวจ - ตรวจแบบจาลองโมเลกุลของ DNA 3 ค้นหา - ตรวจใบงาน เรื่อง โครงสรา้ งและ - ทักษะการรวบรวม องค์ประกอบทางเคมขี องดเี อ็นเอ ขอ้ มูล - ประเมินการนาเสนอผลงาน - ทักษะการหาแบบ - สังเกตพฤติกรรมการทางาน แผน รายบคุ คล - ทักษะการประยุกต์ใช้ - สังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ความรู้ - สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และ มงุ่ ม่ันในการทางาน

2 หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วธิ สี อน/วิธีการจัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ แผนฯ ท่ี 4 วธิ สี อนแบบสืบเสาะหา สมบัติของสาร ความรู้ (5Es พนั ธุกรรม Instructional Model) แผนฯ ที่ 5 วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหา การกลาย ความรู้ (5Es Instructional Model)

22 ทักษะทไ่ี ด้ การประเมนิ เวลา (ช่ัวโมง) - ทักษะการสังเกต - ตรวจแบบฝึกหัด 8 - ทักษะการสารวจ ค้นหา - ตรวจผงั สรปุ เรอ่ื ง การสงั เคราะห์ - ทกั ษะการระบุ โปรตนี จากดีเอน็ เอ - ทักษะการ - ตรวจกจิ กรรม DNA กับการ เปรยี บเทยี บ - ทักษะการแปลความ สังเคราะหโ์ ปรตีน - ทกั ษะการให้เหตผุ ล - ทักษะการวิเคราะห์ - ตรวจใบงาน เรอ่ื ง การสังเคราะห์ - ทกั ษะการสรปุ ลง ความเห็น DNA - ทกั ษะการคิดอย่างมี เหตผุ ล - ตรวจใบงาน เรื่อง การสังเคราะห์ - ทักษะการระบุ mRNA - ทกั ษะการแปลความ - ทกั ษะการให้เหตุผล จาก DNA - ทกั ษะการจัดกลุ่ม - ทกั ษะการคิดอย่างมี - ตรวจใบงาน เรื่อง การสังเคราะหพ์ อ ลิ- เพปไทด์ - ประเมินการนาเสนอผลงาน - สงั เกตพฤติกรรมการทางาน รายบคุ คล - สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และ มุง่ ม่ันในการทางาน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น 5 - ตรวจแบบฝึกหัด - ตรวจแผน่ พับนาเสนอ เร่ือง โรค พนั ธกุ รรม

2 หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธีสอน/วิธกี ารจัด กิจกรรมการเรียนรู้ 6. พันธศุ าสตรแ์ ละ แผนฯ ท่ี 1 วิธสี อนแบบสืบเสาะหา เทคโนโลยที างดี เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ ความรู้ (5Es เอ็นเอ Instructional Model)

23 ทักษะท่ไี ด้ การประเมิน เวลา เหตผุ ล (ชั่วโมง) - ทกั ษะการ - ตรวจใบงาน เร่ือง การกลายระดบั เปรยี บเทยี บ - ทักษะการวิเคราะห์ ยีนจากการแทน่ ที่คู่เบส - ทกั ษะการรวบรวม ขอ้ มูล - ตรวจใบงาน เรอ่ื ง การกลายระดบั - ทกั ษะการเชอื่ มโยง - ทกั ษะการให้เหตผุ ล ยนี จากจากการเพ่ิมขนึ หรือขาดหาย - ทักษะการคดิ อย่างมี เหตผุ ล ของนิวคลีโอไทด์ - ตรวจ Unit Question ท้ายหน่วย การเรียนรทู้ ่ี 5 - ตรวจแบบทดสอบท้ายหนว่ ยการ เรียนรู้ ที่ 5 - สงั เกตพฤติกรรมการทางาน รายบคุ คล - สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และ มุง่ มนั่ ในการทางาน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น 5 - ตรวจแบบฝึกหัด - ตรวจรายงาน เรอื่ ง สง่ิ มชี วี ิตดดั แปร พนั ธกุ รรม - ตรวจผังสรปุ เรื่อง การสร้าง สิง่ มีชีวิตดัดแปรพนั ธกุ รรม - ตรวจใบงาน เรื่อง การโคลนยีน - ตรวจใบงาน เรอ่ื ง การสร้างสิง่ มีชีวติ ดดั แปรพนั ธกุ รรม

2 หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ สี อน/วิธกี ารจดั กิจกรรมการเรียนรู้ แผนฯ ที่ 2 วธิ ีสอนแบบสบื เสาะหา การประยุกต์ใช้ ความรู้ (5Es เทคโนโลยี Instructional Model) ทางดเี อ็นเอ

24 ทักษะท่ีได้ การประเมิน เวลา (ชั่วโมง) - ประเมินการนาเสนอผลงาน - สงั เกตพฤติกรรมการทางาน รายบคุ คล - สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม - สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และ ม่งุ มั่นในการทางาน - ทักษะการสารวจ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน 5 คน้ หา - ตรวจแบบฝกึ หดั - การเชอ่ื มโยง - ตรวจผังมโนทศั น์ เรื่อง การ - ทักษะการรวบรวม ประยกุ ต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ข้อมูล ทางดีเอ็นเอ - ทกั ษะการวิเคราะห์ - ตรวจกจิ กรรม การตรวจสอบลาย - ทักษะการนาความรู้ พิมพ์ ดีเอน็ เอ ไปใช้ - ตรวจใบงาน เรอ่ื ง การกลายระดบั - ทักษะการประยุกตใ์ ช้ ยีนจากจากการเพิ่มขนึ หรือขาดหาย ความรู้ ของนวิ คลี-โอไทด์ - ทกั ษะการคิด - ตรวจ Unit Question ท้ายหนว่ ย อยา่ งมีเหตผุ ล การเรียนรู้ท่ี 6 - ตรวจแบบทดสอบทา้ ยหน่วยการ เรียนรู้ ท่ี 6 - ประเมินการนาเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการทางาน รายบคุ คล

2 หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธีสอน/วธิ ีการจัด กิจกรรมการเรยี นรู้ 7. ววิ ฒั นาการ แผนฯ ที่ 1 วธิ สี อนแบบสืบเสาะหา หลกั ฐานที่บ่งบอกถึง ความรู้ (5Es วิวัฒนาการของ Instructional Model) สิง่ มีชีวติ

25 ทกั ษะทไี่ ด้ การประเมิน เวลา (ชว่ั โมง) - ทกั ษะการสังเกต - สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ - สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และ 5 - ทกั ษะการสารวจ - ทกั ษะการ มงุ่ มนั่ ในการทางาน เปรยี บเทยี บ - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล - ตรวจแบบฝกึ หดั - ทกั ษะการวิเคราะห์ - ตรวจรายงานและปา้ ยนิเทศจาก - ทกั ษะการเช่ือมโยง กิจกรรม ซากดึกดาบรรพ์ของ สงิ่ มชี ีวติ - ตรวจรายงาน เรอ่ื ง วิวฒั นาการของ มนษุ ย์ - ตรวจใบงาน เรอ่ื ง ความใกล้ชดิ ทาง วิวัฒนาการจากหลกั ฐานด้าน ชีววทิ ยาระดับ - ตรวจใบงาน เร่อื ง วิวัฒนาการของ มนุษย์ - ประเมินการนาเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการทางาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ - สังเกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และ มุ่งมั่นในการทางาน

2 หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธีสอน/วิธกี ารจดั กิจกรรมการเรียนรู้ แผนฯ ที่ 2 วธิ สี อนแบบสืบเสาะหา แนวคดิ เกย่ี วกบั ความรู้ (5Es วิวฒั นาการของ Instructional Model) ส่ิงมชี ีวิต แผนฯ ท่ี 3 วธิ สี อนแบบสืบเสาะหา พันธุศาสตรป์ ระชากร ความรู้ (5Es Instructional Model)

26 ทักษะท่ไี ด้ การประเมนิ เวลา (ชว่ั โมง) - ทักษะการรวบรวม - ตรวจแบบฝกึ หัด 2 ขอ้ มลู - ตรวจผังสรุป เรอื่ ง สิ่งมชี ีวติ ท่มี ี - ทกั ษะการให้เหตุผล ววิ ฒั นาการจากการคัดเลือกโดย - ทกั ษะการสรุปอ้างอิง ธรรมชาติตามแนวคิดของดาร์วิน - ทักษะการวเิ คราะห์ - ตรวจใบงาน เรอ่ื ง แนวคิดเก่ียวกบั - ทกั ษะการคดิ อย่างมี วิวัฒนาการของส่ิงมชี วี ติ เหตุผล - สงั เกตพฤติกรรมการทางาน รายบุคคล - สังเกตความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และ มุ่งม่ันในการทางาน - ทกั ษะการสารวจ - ตรวจแบบฝึกหัด 5 ค้นหา - ตรวจผังสรุป เรอ่ื ง กฎของฮารด์ ี- - ทักษะการวิเคราะห์ ไวน์เบริ ์ก - ทกั ษะการคิด - ตรวจผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง ปัจจยั ทีม่ ีผล อย่างมเี หตุผล ตอ่ การเปลย่ี นแปลงความถข่ี องแอล - ทกั ษะการนาความรู้ ลลี ในประชากร ไปใช้ - ตรวจกจิ กรรม เรือ่ ง การใชก้ ฎของ ฮารด์ ี-ไวน์เบิร์ก - ตรวจกิจกรรม เรอ่ื ง การคัดเลือก โดยธรรมชาติ - ตรวจใบงาน เร่ือง การหาความถ่ี ของ แอลลีลในประชากร

2 หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธสี อน/วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ แผนฯ ท่ี 4 วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหา กาเนิดของสปชี สี ์ ความรู้ (5Es Instructional Model)

27 ทกั ษะทีไ่ ด้ การประเมนิ เวลา (ช่วั โมง) - ทกั ษะการสารวจ - ตรวจใบงาน เร่อื ง การประยกุ ตใ์ ช้ ค้นหา ประโยชนจ์ ากกฎของฮาร์ดี-ไวน์ - ทักษะการรวบรวม เบริ ก์ ข้อมลู - ทกั ษะการจาแนก - สงั เกตพฤติกรรมการทางาน ประเภท รายบคุ คล - ทักษะการคดิ อยา่ งมเี หตผุ ล - สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และ มงุ่ ม่นั ในการทางาน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น - ตรวจแบบฝกึ หดั - ตรวจผังสรปุ เรอ่ื ง การเกิดสปีชีส์ ใหม่ของสง่ิ มีชวี ิต - ตรวจรายงานและการนาเสนอ กิจกรรม การปรบั ปรุงพนั ธ์ุพชื แบบ พอลิพลอยดี - ตรวจ Unit Question ท้ายหนว่ ย การเรียนรู้ท่ี 7 - ตรวจแบบทดสอบทา้ ยหน่วยการ เรียนรู้ ท่ี 7 - ประเมนิ การนาเสนอผลงาน - สังเกตพฤติกรรมการทางาน รายบคุ คล - สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม

2 หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วธิ ีสอน/วธิ ีการจัด กิจกรรมการเรยี นรู้

28 การประเมนิ เวลา ทกั ษะท่ไี ด้ (ชัว่ โมง) - สังเกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และ มงุ่ มัน่ ในการทางาน

2 การวัดและป รหสั ว ๓๑๒๓๑ รายวชิ าชวี วท เวลา ๖๐ ชว่ั โมง ระดับ ตัวชีวัด ก่อนสอบกลางภาค กลางภาค K P A C รวม K๑ K๒ K๓ K๔ K๕ K๖ รวม K ๑ 21 32 2 ๒ 2 11 41 2 3 ๓2 11412 3 ๔ 2 11 4111 3 ๕ 12 32 1 3 ๖2 32 1 3 ๗3 14111 3 ๘1 ๙1 ๑๐ 1 ๑๑ 2 ๑๒ 2 ๑๓ 1 ๑๔ 2 ๑๕ 1 รวม 14 6 3 2 25 10 4 6 20 11

29 ประเมนิ ผล วทิ ยา จานวน ๑.๕ หนว่ ยกติ บชนั มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ หลังสอบกลางภาค หมาย เหตุ P A C รวม K๑ K๒ K๓ K๔ K๕ K๖ รวม 0.5 5.5 18 0.5 7.5 0.5 0.5 8 0.5 0.5 7 18 0.5 0.5 7 1 13 1 11 6 1 1 3 2.5 0.5 6 11 31 2 6 13 12 6 13 13 6 11 3 0.5 2.5 7 2 412 6 113 0.5 2.5 6 1 6 4 4 25 4 9.5 12.5 3 ๓๐ ๑๐๐

30 การวดั ผลประเมินผล/ข้อตกลงเฉพาะวิชา วธิ ีการประเมินผล การประเมินผลการเรียนใหถ้ ือปฏิบตั ิดังนี 1. ทาการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามตวั ชวี ัดทกี่ าหนดในหนว่ ยการเรียนรดู้ ว้ ยวธิ กี ารท่ี หลากหลาย ใหไ้ ด้ผลการประเมินตามความสามารถทแ่ี ท้จริงของผู้เรียน ให้ความสาคัญกับการประเมนิ ระหว่างภาค เรยี นมากกว่าการประเมนิ ปลายภาค 2. ประเมินผลก่อนเรยี น เพื่อศึกษาความรู้พนื ฐานของผูเ้ รยี น 3. วัดและประเมินผลระหว่างเรียนเพอื่ ศกึ ษาผลการเรยี น ให้มงุ่ หาคาตอบว่าผู้เรยี นมคี วามก้าวหนา้ ทังดา้ นความรู้ ทักษะกระบวนการ คณุ ธรรม และคา่ นิยมอันพึงประสงค์ การวัดและประเมนิ ผลต้องใช้วธิ กี ารที่ หลากหลาย ประเมินตามสภาพจริง 4. กาหนดอตั ราสว่ นคะแนนระหวา่ งภาค:สอบปลายภาคดงั นี อัตราสว่ นคะแนน อตั ราส่วนคะแนนผลการเรียนรู้ อัตราส่วนคะแนนผลการเรยี นรู้ ระหวา่ งภาค:สอบปลายภาค กอ่ นสอบกลางภาค:หลังสอบกลางภาค ก่อนสอบปลายภาค:หลงั สอบปลายภาค 70:30 25:20 25:30 5. การประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี น เปน็ การประเมินศักยภาพของผู้เรียนในการอ่าน การ ฟงั การดูและการรบั รู้ จากหนงั สือ เอกสาร และสือ่ ต่าง ๆ ได้อยา่ งถูกต้องแล้วนามาคดิ วิเคราะห์เนือหาสาระที่ นาไปสูก่ ารแสดงความคิดเห็น ถา่ ยทอดความคิดเหน็ นนั ดว้ ยการเขียนซึงสะท้อนถึงสตปิ ัญญา ความรู้ ความสมารถ ในการวิเคราะห์ 6. การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั พนื ฐานพุทธศกั ราช 2551 และตามทส่ี ถานศกึ ษากาหนดเพ่ิมเตมิ เปน็ การประเมนิ รายบุคคลเกณฑ์การวดั และ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. การตดั สินผลการเรียน หลักเกณฑ์การวดั และประเมินผลการเรยี นรเู้ พือ่ ตัดสินผลการเรียนของผูเ้ รียนของผูเ้ รียนตามหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาขนั พืนฐาน พุทธศักราช 2551 มีดงั นี 1) ตัดสนิ ผลการเรียนเปน็ รายวิชา รายบุคคล ผเู้ รยี นต้องมีเวลาเรยี นตลอดภาคเรียนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นทังหมดในรายวชิ านนั ๆ 2) ผเู้ รียนต้องไดร้ บั การประเมินทกุ ตัวชวี ดั และผา่ นเกณฑต์ ามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด(เกณฑ์การผา่ น รายวชิ าพืนฐานและเพ่ิมเติม กาหนดตวั ชีวดั ท่ตี อ้ งผ่านต้องไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 60 ของแตล่ ะรายวชิ า การพจิ ารณาเลอื่ นชนั ถ้านักเรยี นมีข้อบกพร่องบางตัวชีวดั ซ่ึงสถานศึกษาพจิ ารณาเหน็ ว่าสามารถ พัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ก็ให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของสถานศกึ ษาที่จะผ่อนผันใหเ้ ลอื่ นชนั ได)้ 3) ผู้เรียนตอ้ งไดร้ บั การตัดสินผลการเรียนทุกรายวชิ า 4) ผเู้ รียนต้องได้รบั การประเมนิ และมีผลการประเมินผา่ นเกณฑ์ตามท่ีสถานศึกษากาหนดในการอ่าน คิด วเิ คราะห์และเขียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์และกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน 2. การให้ระดบั ผลการเรยี น

31 ในการตัดสินเพอื่ ให้ระดบั ผลการเรยี นรายวิชาของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ให้ใชต้ ัวเลขแสดงระดับผลการ เรียนเป็น 8 ระดบั รายวชิ าที่จะนบั หนว่ ยกติ ได้ จะต้องไดร้ ะดับผลการเรียนตงั แต่ 1 ขึนไป โดยมี แนวการให้ระดับผลการเรียน ดังนี คะแนนร้อยละ ระดบั ผลการเรยี น ความหมายผลการประเมนิ 80-100 4 ดเี ย่ยี ม 75-79 3.5 ดมี าก 70-74 3 ดี 65-69 2.5 คอ่ นข้างดี 60-64 2 ปานกลาง 55-59 1.5 พอใช้ 50-54 1 0-49 0 ผ่านเกณฑ์ขนั ตา่ ตา่ กวา่ เกณฑ์ การประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี น และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคน์ นั ให้ระดับผลการประเมิน ผ่าน และ ไมผ่ ่าน กรณีท่ผี ่านให้ระดบั ผลการเรียนเปน็ ดเี ยย่ี ม ดี และผา่ น ดงั นี 3. การประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขยี น ดีเยยี่ ม หมายถงึ สามารถจบั ใจความสาคญั ได้ครบถ้วน เขียนวพิ ากษ์วจิ ารณ์ เขียน สรา้ งสรรค์ แสดงความคิดเหน็ ประกอบอย่างมเี หตุผลไดถ้ ูกต้องและ สมบูรณ์ใช้ภาษาสภุ าพและเรียบร้อยอย่างสละสลวย ดี หมายถึง สามารถจับใจความสาคัญได้ เขยี นวิพากษว์ ิจารณ์และเขียนสรา้ งสรรค์ได้ โดยใช้ภาษาสุภาพ ผา่ น หมายถงึ สามารถจบั ใจความสาคญั และเขียนวิพากษว์ จิ ารณ์ไดบ้ า้ ง 4. การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ดเี ยยี่ ม หมายถึง ผูเ้ รยี นมคี ุณลักษณะในการปฏิบตั ติ นเป็นนิสยั และนาไปใช้ได้ใน ชวี ติ ประจาวนั เพื่อประโยชนส์ ขุ ของตนเองและสังคม ดี หมายถงึ ผูเ้ รยี นมคี ุณลักษณะในการปฏิบตั ิตามเกณฑ์ เพ่ือใหเ้ ป็นทย่ี อมรบั ของสังคม ผา่ น หมายถึง ผู้เรียนรบั รแู้ ละปฏบิ ัติตามเกณฑ์และเงื่อนไข ท่ีสถานศกึ ษากาหนด ในกรณที ่ีผเู้ รยี นได้ผลการเรียนตา่ กวา่ เกณฑ์ท่ีกาหนด ให้ครูผู้สอนดาเนนิ การซ่อมเสริมปรบั ปรุง แก้ไข ในสาระการเรยี นรทู้ ่ีไม่ผ่านเกณฑ์ ดว้ ยวธิ กี ารท่ีมีประสทิ ธภิ าพ จนผู้เรยี นมคี วามรู้ ทักษะ กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ขนั ต่าที่กาหนด ภายในภาคเรียนถัดไปผลการประเมนิ ท่ีได้ไมเ่ กิน 1 ในกรณีท่ีผูเ้ รียนไมเ่ ข้ารับการซอ่ มเสริมในระยะเวลาที่กาหนด ให้ครผู ้สู อนบันทึกข้อความเสนอผู้บริหาร ตามลาดบั ขนั เพอื่ เสนอต่อคณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู รและวชิ าการพจิ ารณาเปน็ กรณตี ่อไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook