Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบเรียนสำเร็จรูป

แบบเรียนสำเร็จรูป

Published by pakdinan somrak, 2020-10-12 06:37:49

Description: แบบเรียนสำเร็จรูป

Search

Read the Text Version

คำนำ แบบเรียนสำเร็จรูปหน่วยกำรเรียนรู้ที่ 4 เร่ืองปฏกิ ิรยิ ำเคมี วิชำวิทยำศำสตรพ์ นื้ ฐำน ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 3 จัดทำขึน้ เพอื่ ประกอบกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนในรำยวิชำวิทยำศำสตร์พนื้ ฐำน นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 3 รหัสวชิ ำ ว23101 เร่อื งปฏิกิรยิ ำเคมี โดยมวี ัตถปุ ระสงคใ์ ห้ผ้เู รียนมคี วำมรู้ ควำมเข้ำใจ เกี่ยวกบั ผลกระทบที่เกดิ จำก สำรเคมแี ละปฏิกิริยำเคมตี ่อสิ่งมชี วี ตแิ ละสิ่งแวดลอม้ สบื คน้ขอม้ ูลและ อภิปรำยเกยี่ วกับสำรเคมีและปฏิกริ ิยำเคมี ท่ีมผี ลกระทบต่อสิ่งมชี ีวตแิ ละส่งิ แวดลอ้ม สบื คนข้ อม้ ูลและ นำเสนอตวั อย่ำงกำรใชป้ ระโยชน์เกี่ยวกับสำรเคมีและ ปฏิกริ ิยำเคมีในผลิตภัณฑ์ท่ใี ชในชีวตปิ ระจำวนั ชดุ แบบเรยี นสำเร็จรปู ฉบับน้ีประกอบด้วย คำชี้แจง คำแนะนำกำรใชช้ ุดกจิ กรรม จุดประสงค์ กำรเรยี นรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน กระดำษคำตอบกำรทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน บัตรภำระงำน บัตรเน้ือหำ บัตร กิจกรรม บัตรบันทึกกิจกรรม บัตรเฉลยกิจกรรม แบบทดสอบหลังเรียน เฉลย แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน และใบบันทกึ คะแนน เม่ือผู้เรียนฝึกปฏิบตั ิตำมข้ันตอนที่ผู้สอนกำหนดไว้ จะทำให้ผู้เรียนมีพัฒนำกำรด้ำนควำมรู้ ทักษะกำรคดิ มีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สำมำรถนำควำมรู้ทำงวิทยำศำสตร์ไปประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจำวัน ภกั ดนิ ันท์ สมรักษ์ ผู้สอน

คำชแ้ี จง แบบเรียนสำเรจ็ รปู หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ่ี 4 เร่อื งปฏิกริ ยิ ำเคมี วิชำวทิ ยำศำสตรพ์ ืน้ ฐำน ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 3 เป็นชดุ กจิ กรรมที่ไดจ้ ัดประสบกำรณ์กำรเรียนรูท้ ส่ี ง่ เสรมิ ใหน้ กัเรียนไดม้ ีสว่ นรว่ มในกำรสรำ้ งควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ หรอื พบองค์ควำมรู้ เน้นให้นักเรียนมบี ทบำทสำคัญในกำรเรียนรู้ เปิดโอกำสใหนักเเรยี นมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม กำรเรียนรู้ ได้ลงมือปฏบิ ตั จิ ริง โดยผำ่ นกำรรับรู้หลำยๆ ทำง เชน่ กำรฟัง กำรพดู กำรซกัถำม และกจิ กรรม กำรทดลอง มีควำมยำกง่ำยเหมำะสมกบั วัยและควำมสำมำรถของผเู้ รียน และสำมำรถนำควำมร้ทู ไี่ ด้ ไปใช้ใน ชีวติ ประจำวัน ซ่งึ ประกอบดว้ ยชดุ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ทั้งหมด 5 ชดุ ที่ ชื่อกิจกรรมกำรเรยี นรู้ จำนวนชั่วโมง (ชั่วโมง) 1 กำรเกดิ ปฏิกิริยำเคมี 3 2 กำรเขียนสมกำรเคมี 3 3 ประเภทของปฏิกริ ิยำเคมี 2 4 ปฏิกิริยำเคมีในชีวติ ประจำวัน 3 5 ประโยชนแ์ ละโทษของปฏิกริ ิยำเคมี 2 13 รวม แบบเรียนสำเร็จรปู หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ่ี 4 เร่ืองปฏิกิริยำเคมี วิชำวิทยำศำสตร์พื้นฐำน ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 3 ใช้วลำในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรูท้ ้งั หมด 13 ชว่ั โมง

คำแนะนำกำรใชแ้ บบเรียนสำเร็จรปู แบบเรยี นสำเรจ็ รปู หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่ืองปฏกิ ริ ิยำเคมี วชิ ำวิทยำศำสตร์พน้ื ฐำน ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 ให้นักเรียนปฏิบตั ติ ำมขัน้ ตอนทกี่ ำหนด ดังน้ี 1. ศึกษำจุดประสงค์กำรเรียนรู้ อ่ำนรำยละเอียดคำช้ีแจงในกำรปฏิบัติกิจกรรมและทำควำม เข้ำใจชุดกิจกรรม กำรเรยี นรกู้ อ่ นลงมอื ปฏบิ ัติ 2. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 10 ข้อ ตำมควำมเข้ำใจของนกั เรียนโดยไมต่ ้องกังวลกับผลคะแนนท่ีได้รบั 3. ปฏิบัตกิ จิ กรรมตำมขน้ั ตอนในชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4. เมือ่ ปฏิบัตกิ จิ กรรมตำ่ ง ๆ ตำมบัตรกจิ กรรมเสรจ็ เรยี บร้อยครบทกุ กิจกรรมให้ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น จำนวน 10 ขอ้ และบันทกึ ผลคะแนนท่ีทำไดใ้ นใบบันทกึ คะแนน เพอื่ เปรยี บเทยี บผลกำรเรียนของตนเอง 5. มขี อ้ สงสัยให้ปรึกษำครผู ู้สอนทันที

มำตรฐำนกำรเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั ว 2.1 เข้ำใจสมบัติของสสำร องค์ประกอบของสสำร ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสมบัติของสสำรกับโครงสร้ำง และแรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงอนุภำค หลกั และธรรมชำติของกำรเปลย่ี นแปลงสถำนะของสสำร กำรเกิด สำรละลำย และกำรเกิดปฏกิ ิริยำเคมี ว 2.1 ม.3/3 อธิบำยกำรเกิดปฏิกิริยำเคมี รวมถึงกำรจัดเรียงตัวใหม่ของอะตอม เม่ือเกิดปฏิกิริยำ เคมโี ดยใช้แบบจำลองและสมกำรขอ้ ควำม ว 2.1 ม.3/4 อธบิ ำยกฎทรงมวลโดยใช้หลกั ฐำนเชิงประจักษ์ ว. 2.1 ม.3/5 วิเครำะห์ปฏิกิริยำดูดควำมร้อน และปฏิกิริยำคำยควำมร้อนจำกกำรเปล่ียนแปลง พลงั งำนควำมรอ้ นของปฏกิ ิริยำ ว. 2.1 ม.3/6 อธิบำยปฏิกิริยำกำรเกิดสนิมของเหล็ก ปฏิกิริยำของกรดกับโลหะ ปฏิกิริยำของกรด กับเบส และปฏิกิริยำของเบสกับโลหะ โดยใช้หลักฐำนเชิงประจักษ์ และอธิบำย ปฏิกิริยำกำรเผำไหม้ กำรเกิดฝนกรด กำรสังเครำะห์ด้วยแสง โดยใช้สำรสนเทศ รวมทงั้ เขยี นสมกำรขอ้ ควำมแสดงปฏกิ ิริยำดงั กล่ำว ว. 2.1 ม.3/7 ระบุประโยชน์และโทษของปฏิกิริยำเคมีท่ีมีต่อส่ิงมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม และ ยกตัวอย่ำงวิธกี ำรป้องกันและแก้ปญั หำท่ีเกิดจำกปฏิกิริยำเคมีท่ีพบ ในชวี ติ ประจำวัน จำกกำรสบื คน้ ข้อมลู ว. 2.1 ม.3/8 ออกแบบวิธีแก้ปัญหำในชีวติ ประจำวัน โดยใช้ควำมรู้เก่ียวกับปฏกิ ิริยำเคมี โดยบูรณำ กำรวิทยำศำสตร์ คณิตศำสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมศำสตร์

จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ดำ้ นควำมรู้ (Knowledge) 1. อธิบำยกำรเกิดปฏกิ ิรยิ ำเคมีได้ (K) 2. อธบิ ำยปฏิกริ ยิ ำเคมีซง่ึ เป็นไปตำมกฏทรงมวลได้ (K) 3. อธิบำยปฏิกริ ยิ ำดูดและคำยควำมรอ้ นได้ (K) 4. อธบิ ำยปฏกิ ริ ยิ ำเคมีที่เกิดขึ้นในชีวติ ประจำวนั ได้ (K) 5. ระบุประโยชน์และโทษของปฏิกริ ยิ ำเคมที ่ีมีต่อสิ่งมีชีวิตและส่ิงแวดล้อมได้ (K) 6. ยกตวั อย่ำงวธิ ีกำรป้องกนั และแกป้ ญั หำท่เี กดิ จำกปฏกิ ิริยำเคมีท่ีพบในชีวิตประจำวันได้ (K) ด้ำนทกั ษะ/กระบวนกำร (Process) 1. สรำ้ งแบบจำลองอธบิ ำยกำรจัดเรยี งตัวใหมข่ องอะตอมเมื่อเกดิ ปฏิกริ ิยำเคมีได้ (P) 2. เขยี นสมกำรข้อควำมจำกปฏกิ ริ ยิ ำเคมีทเี่ กดิ ขน้ึ ได้ (P) 3. วเิ ครำะห์ประเภทของปฏกิ ิรยิ ำเคมจี ำกกำรเปล่ียนแปลงพลังงำนควำมร้อนของปฏกิ ริ ิยำเคมีได้ (P) 4. เขยี นสมกำรข้อควำมแสดงปฏกิ ิริยำเคมที เ่ี กิดขึน้ ในชีวติ ประจำวนั ได้ (P) 5. ออกแบบวิธีปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหำทเ่ี กิดจำกปฏกิ ิรยิ ำเคมไี ด้ (P) ดำ้ นคุณลกษั ณะอันพึงประสงค์ (Attitude) 1. มีควำมใฝเ่ รยี นรู้และมงุ่ มัน่ ในกำรทำงำน (A) 2. ตระหนกั ถึงควำมสำคัญของปฏิกิริยำเคมีทเ่ี กิดข้ึนในชวี ิตประจำวนั (A) 3. ตระหนักถึงประโยชน์และโทษของปฏิกริ ิยำเคมีทมี่ ีต่อสิง่ มีชีวิตและสง่ิ แวดลอ้ ม (A) สมรรถนะสำคญั 1. ควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร : กำรนำเสนอผลกำรทำกิจกรรม 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด : กำรใชก้ ระบวนกำรคิดในกำรเรยี นรู้และปฏิบัติกิจกรรม 3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ : กำรแก้ปญั หำในกำรปฏิบตั ิกิจกรรม 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทก้ ษะชีวิต : กระบวนกำรกลุ่ม 5. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี : กำรสืบคนข้ อม้ ูลจำกแหลง่ เรยี นรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยี สำรสนเทศ

แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ 4 เร่อื ง ปฏิกริ ิยำเคมี คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 6. ขอ้ ใดเป็นปฏกิ ิริยำดดู ควำมร้อน 1. กำรเผำไหม้เชื้อเพลงิ 1. ข้อใดไมเ่ กิดปฏกิ ริ ิยำเคมี 2. กำรละลำยน้ำของโซดำไฟ 1. เหล็กขน้ึ สนมิ 3. กำรสงั เครำะหด์ ว้ ยแสงของพืช 2. จดุ ธูปไหว้พระ 4. กำรเผำผลำญพลังงำนในรำ่ งกำย 3. ตม้ เน้ือหมใู หส้ กุ 4. น้ำแขง็ หลอมเหลวเปน็ น้ำ 7. ขอ้ ใดเป็นปฏกิ ิรยิ ำคำยควำมร้อน 1. พลงั งำนของสำรตั้งตน้ เท่ำกับพลังงำน 2. ข้อใดไมใ่ ชข่ อ้ สงั เกตกำรเกิดปฏกิ ริ ยิ ำเคมี ของผลติ ภณั ฑ์ 1. ตกตะกอน 2. พลงั งำนของสำรตง้ั ต้นน้อยกวำ่ พลงั งำน 2. หลอมเหลว ของผลติ ภณั ฑ์ 3. เกดิ ฟองแกส๊ 3. พลังงำนของสำรต้ังต้นมำกกว่ำพลงั งำน 4. เกิดประกำยไฟ ของผลิตภณั ฑ์ 4. ไมม่ ขี ้อใดกล่ำวถกู ต้อง 3. กรดไฮโดรคลอรกิ ทำปฏกิ ริ ยิ ำกับโซเดียมไฮดรอกไซดจ์ ะเขียน สมกำรเคมไี ดเ้ ป็นข้อใด 8. ขอ้ ใดกล่ำวถงึ กำรเกดิ ปฏกิ ริ ยิ ำเคมีไม่ถูกตอ้ ง 1. HCl + NaOH NaH + H2O 1. ต้องมสี ำรใหมเ่ กดิ ขน้ึ 2. H2O + NaOH NaOH + H2O 2. มกี ำรดดู พลังงำนหรอื คำยพลงั งำน 3. HCl + NaOH NaCl + H2O 3. ต้องมกี ำรเปลย่ี นสถำนะของสำรเสมอ 4. NaCl + H2O HCl + NaOH 4. ถ้ำเปน็ ระบบปดิ จะเป็นไปตำมกฎทรงมวล 9. ขอ้ ใดไม่ใช่ผลิตภณั ฑ์ทเี่ กดิ จำกกำรเผำไหม้ 4. ถำ้ สำร A 2 กรัม ทำปฏิกริ ิยำพอดีกับสำร B 4 กรัม ได้ ผลติ ภัณฑ์ 1. ไอนำ้ เปน็ สำร C 6 กรัม ถ้ำนำสำร A มำ 6 กรัม จะไดส้ ำร C กี่กรัม 2. แกส๊ ออกซิเจน 1. 7 กรมั 3. แก๊สคำรบ์ อนไดออกไซด์ 2. 9 กรัม 4. แก๊สคำร์บอนมอนอกไซด์ 3. 11 กรมั 4. 18 กรัม 10. ขอ้ ใดคอื ประโยชนข์ องปฏกิ ริ ยิ ำเคมี 1. ใชป้ รบั สภำพดนิ 5. จำกสมกำร A + B  CO2 (g) นักเรยี นคดิ ว่ำสำร A และ B คือ 2. ใช้ปรบั สภำพน้ำเสีย สำรใด ตำมลำดับ 3. ใชส้ ร้ำงพลังงำนควำมร้อน 1. คำรบ์ อนและน้ำ 4. ถูกทกุ ข้อ 2. คำร์บอนและกรด 3. คำรบ์ อนและเบส 4. คำร์บอนและออกซเิ จน

กจิ กรรมกำรเรียนรู้ที่ 1 กำรเกดิ ปฏิกิริยำเคมี จำนวน 3 ชัว่ โมง ใบควำมรู้ เร่ือง กำรเกิดปฏิกริ ยิ ำเคมี ปฏกิ ิรยิ ำเคมี ปฏิกิริยำเคมีหรือกำรเปล่ียนแปลงทำงเคมีของสำร ทำให้เกิดสำรใหม่ โดยสำรที่เข้ำทำปฏิกิริยำ เรยี กวำ่ สำรต้ังตน้ และสำรทีเ่ กิดขน้ึ ใหม่ เรยี กวำ่ ผลิตภณั ฑ์ทม่ี สี มบัติแตกต่ำงไปจำกสำรต้ังต้นเน่ืองจำกมี กำรจัดเรียงอะตอมใหม่ของสำรต้ังต้นขณะเกิดปฏิกิริยำ ซ่ึงกำรเกิดปฏิกิริยำเคมีดังกล่ำวสำมำรถเขียนได้ เป็นสมกำรข้อควำมที่แสดงถึงจำนวนอะตอมแต่ละชนิดก่อนและหลังกำรทำปฏิกิริยำเคมีจะมีจำนวน เทำ่ กนั และมวลรวมของสำรตัง้ ตน้ จะเทำ่ กบั มวลรวมของผลติ ภัณฑ์ซงึ่ เปน็ ไปตำมกฎทรงมวล ข้อสังเกตในกำรดูวำ่ มีปฏิกิริยำเคมเี กิดขึน้ 1. มีตะกอนเกดิ ข้ึน 2. มีแก๊สเกิดข้นึ 3. มสี ีเปลยี่ นแปลง 4. มกี ล่นิ 5. มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง ซ่ึงสำรโดยท่ัวไปเมื่อเกิดปฏิกิริยำเคมีจะเกิดกำรเปล่ียนแปลงพลังงำน ควำมร้อนควบค่ไู ปดว้ ยเสมอ หมำยเหตุ กำรเปลย่ี นแปลงตอ่ ไปนเี้ กิดปฏิกริ ิยำเคมีแน่นอน 1. ถ้ำมกี ำรสันดำป หมำยถึง มีกำรทำปฏกิ ิริยำเคมกี ับออกวเิ จนเป็นปฏิกริ ยิ ำเคมีเสมอ 2. ถ้ำเป็นกำรหมกั เป็นปฏกิ ริ ิยำเคมเี สมอ 3. ถ้ำเปน็ กระบวนกำรเมตำโบลซิ ึม(ปฏิกิรยิ ำเคมีในส่ิงมีชีวิต) เช่น ผลไม้สกุ เนื้อเน่ำ 4. กำรถลงุ แร่ แบตเตอรี่ กำรเกิดสนมิ ในกำรดำรงชีวติ ของมนุษย์ล้วนเกี่ยวข้องกับกำรเปลีย่ นแปลงของสำร ซ่ึงกำรเปล่ียนแปลงของสำร หมำยถึง กำรท่สี ำรมีสมบตั ิแตกต่ำงไปจำกเดมิ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท 1. กำรเปล่ียนแปลงทำงกำยภำพ หมำยถึง กำรเปลี่ยนแปลงที่เก่ียวข้องกับสมบัติของสำร เช่น กำรเปล่ียน สถำนะ กำรละลำย กำรมีรูปร่ำงท่ีเปลี่ยนไป กำรแตกหัก หลังกำรเปลี่ยนแปลงสมบัติทำงเคมีของสำร ยงั คงเหมือนเดมิ แต่สมบตั ิทำงกำยภำพบำงอย่ำงอำจเปลยี่ นแปลงไป เชน่ สถำนะ รูปรำ่ ง

2. กำรเปล่ยี นแปลงทำงเคมี หมำยถงึ กำรเปลย่ี นแปลงทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั กำรเกดิ ปฏิกิริยำเคมี มีสำรใหม่เกดิ ข้นึ โดยสำรใหม่ท่เี กิดข้นึ มีองคป์ ระกอบและสมบัติทำงเคมีแตกต่ำงจำกสำรเดิม เชน่ กำรเกดิ สนิม กำรเผำไหม้ กำรเน่ำเสยี ของอำหำร กำรเกิดฟองแก๊ส

ใบงำนที่ 4.1 เร่อื ง กำรเปล่ียนแปลงของสำร คำชี้แจง : พิจำรณำภำพท่ีกำหนดให้แล้วทำเครื่องหมำย  ลงในชอ่ ง  ท่ีเกิดปฏิกิริยำเคมี



แบบบกั ทกึ กิจกรรมกำรทดลองกำรเกดิ ปฏิกิรยิ ำเคมี สมมติฐำน ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ตำรำงบนั ทกึ ผลกำรทดลอง ………………………………............................................................................................................................... .... ........................................................................................... ........................................................................... ………………………………............................................................................................................................... .... .................................................................................................................................................................. .... ……………………………….................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... สรุปผลกำรทดลอง ………………………………............................................................................................................................... .... ...................................................................................................................................................................... คำถำมทำ้ ยกจิ กรรม ……………………………….......................................................................................................................... ......... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………...................................................................................................................................

กิจกรรมกำรเรยี นรทู้ ี่ 2 กำรเขยี นสมกำรเคมี จำนวน 3 ช่ัวโมง ใบควำมรู้ เร่อื ง กำรเขยี นสมกำรเคมี สมกำรเคมี สมกำรเคมีเป็นสญั ลักษณ์ท่ีเขียนแทนดว้ ยตวั อกั ษรและสูตรโมเลกลุ ท่ีเปน็ ตัวแทนของธำตุในสำรประกอบ เพ่ือแสดงกำรเกิดปฏิกิรยิ ำเคมี ซ่งึ บอกถึงปริมำณของสำรตั้งตน้ ทใี่ ชท้ ำปฏิกิริยำกัน และปรมิ ำณของผลติ ภณั ฑ์ที่ เกิดข้นึ หลังจำกเกิดปฏกิ ริ ยิ ำ สมกำรเคมปี ระกอบด้วย 1. สำรต้ังตน้ (reactants) คอื สำรที่ทำปฏิกริ ิยำกันตอนตน้ ถ้ำมีมำกกว่ำ 1 สำร ใหเ้ ขยี นเครือ่ งหมำย (+) ค้ัน ระหว่ำงสำร แล้วเขียนแทนด้วยสตู รเคมี 2. ผลิตภณั ฑ์ (product) คือสำรทเ่ี กดิ หลงั จำกปฏิกิรยิ ำกัน ถำ้ หำกเกิดมำกกวำ่ 1 สำร กใ็ ห้เขียนเครื่องหมำย (+) แล้วเขียนแทนด้วยสตู รเคมี 3. เงือ่ นไข เป็นภำวะต่ำงๆทม่ี ีผลตอ่ กำรเกิดปฏกิ ริ ยิ ำเคมี เช่น อุณหภมู ิ ตวั เร่งปฏกิ ิริยำ เป็นตน้ โดยเขียนบอกไว้ บนหรอื ลำ่ งลกู ศรทค่ี ั่นอยูร่ ะหวำ่ งสำรตงั้ ต้นกับผลิตภณั ฑ์ แต่หำกอยู่ในภำวะปกติกไ็ มจ่ ำเปน็ ตอ้ งเขยี นก็ได้ หลกั กำรเขียนสมกำรเคมี 1. เขยี นสตู รเคมีหรือสัญลกั ษณ์ของสำรตัง้ ต้นแต่ละชนดิ 2. หำวำ่ ในปฏกิ ริ ยิ ำเคมนี น้ั เกิดสำรผลิตภณั ฑใ์ ดข้นึ บ้ำงและเขียนสูตรเคมขี องสำรผลิตภณั ฑ์ 3. ให้ระบุสถำนะของสำรไว้หลังสูตร โดยเขยี นไวใ้ นวงเล็บ (s) = ของแข็ง (solid) (l) = ของเหลว (liquid) (g) = แกส๊ (gas) (aq) = สำรละลำย (aqueous solution) สมกำรเคมีทสี่ มบูรณ์จะต้องมีตวั เลขท่เี หมำะสมมำเติมลงข้ำงหนำ้ สูตรเคมีหรือสญั ลักษณ์ของสำรในสมกำร เพือ่ ให้จำนวนอะตอมของแต่ละธำตใุ นสำรต้ังต้นเท่ำกับจำนวนอะตอมของแตล่ ะธำตุในผลิตภณั ฑ์ ซง่ึ เรำเรียกว่ำ \"กำรดลุ สมกำร\"

หลักกำรดุลสมกำร 1. ทำจำนวนอะตอมของธำตุตำ่ ง ๆ ในโมเลกุลใหญ่ทีส่ ุดให้เทำ่ กนั ก่อน หลังจำกนนั้ จึงดลุ อะตอมของธำตุทีเ่ ล็กลง ตำมลำดับ 2. หำกปฏกิ ริ ยิ ำมกี ลุม่ อะตอมหรอื โมเลกลุ ใหด้ ลุ เปน็ กลุ่มก่อน จำกนน้ั ค่อยดลุ ธำตุอสิ ระ 3. วำงสมั ประสิทธห์ิ น้ำสมกำรเคมหี รอื ตัวเลขไว้หนำ้ อะตอมหรอื โมเลกุล แล้วนับจำนวนแตล่ ะขำ้ งให้เท่ำกัน 4. บำงกรณอี ำจจะต้องทำจำนวนอะตอมของธำตทุ ้ัง 2 ข้ำงของสมกำรใหเ้ ป็นเลขคู่กอ่ น เพื่อจะได้ดลุ สมกำรได้ สะดวก 5. ตรวจสอบควำมถูกต้อง ตวั อย่ำงกำรดุลสมกำร Fe(s)+O2→Fe2O3(g) วธิ คี ิด 1.ดลุ Fe ท่ีด้ำนซ้ำยมี 1 อะตอมกับด้ำนขวำท่ีมี 2 อะตอม โดยใสส่ ัมประสิทธดิ์ ำ้ นซำ้ ยเป็น 2 2Fe(s)+O2(g)→Fe2+O3(g) 2.ดลุ O2 ดว้ ยสัมประสทิ ธิ์ 32 2Fe(s)+32O2(g)→Fe2O3(g) 3.ทำใหเ้ ป็นเลขจำนวนเต็มโดย ×2 ทั้ง 2 ขำ้ งของสมกำร 2[2Fe(s)+32O2(g)]→2[Fe2O3(g)] 4.สมกำรสุดท้ำยคือ 4Fe(s)+3O2(g)→2Fe2O3(g)

ใบงำนที่ 4.1.1 เรอื่ ง กำรเขียนสมกำรเคมี คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนเขียนสมกำรเคมีแทนปฏิกริ ิยำเคมีที่กำหนดให้พร้อมดุลสมกำรให้ถูกต้อง 1. แก๊สบิวเทน (C4H10) ทำปฏิกริ ิยำกับแกส๊ ออกซเิ จน (O2) ได้แก๊สคำรบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) และไอน้ำ (H2O) เปน็ ผลิตภัณฑ์ 2. สำรละลำยกรดไฮโดรคลอริก (HCl) ทำปฏิกิริยำกับซิงค์ซัลไฟด์ (ZnS) ได้สำรละลำยซิงค์คลอไรด์ (ZnCl2) และแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) เปน็ ผลติ ภัณฑ์ 3. กำมะถัน (S) ทำปฏิกิริยำกับสำรละลำยกรดซัลฟิวริก (H2SO4) ได้น้ำ (H2O) และแก๊สซัลเฟอร์ได ออกไซด์ (SO2) เป็นผลติ ภณั ฑ์ 4. สำรละลำยแอมโมเนยี (NH3) ทำปฏกิ ิริยำกบั แกส๊ ออกซเิ จน (O2) ได้แก๊สไนโตรเจนมอนอกไซด์ (NO) และนำ้ (H2O) เป็นผลติ ภณั ฑ์ 5. ซิลเวอร์ (I) ออกไซด์ (Ag2O) ทำปฏิกิริยำกับสำรละลำยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2) ได้โลหะเงิน (Ag) นำ้ (H2O) และแกส๊ ออกซิเจน (O2) เปน็ ผลติ ภัณฑ์

ใบงำนท่ี 4.2 คะแนนท่ไี ด้ เร่ือง สมกำรเคมี ตอนท่ี 1 ตรวจสอบควำมรู้พื้นฐำนก่อนเรียน คำช้ีแจง : ให้นักเรียนวงกลมตัวเลือกท่ีถูกต้อง 1. เม่ือสำรเกิดปฏิกิริยำเคมีอำจมีกำรเปลี่ยนแปลงที่สำมำรถสังเกตได้อย่ำงไร ก. ตกผลึก ข. เปล่ียนสี ค. เกิดฟองแก๊ส ง. ถูกทุกข้อ 2. สำรที่นำมำใช้ในกำรทำปฏิกิริยำเรียกว่ำอะไร ก. สำรเคมี ข. สำรตั้งต้น ค. สำรผลิตภัณฑ์ ง. ไม่มีข้อถูกต้อง 3. สำรใหม่ท่ีเกิดข้ึนเรียกว่ำอะไร ก. สำรเคมี ข. สำรต้ังต้น ค. สมกำรเคมี ง. สำรผลิตภัณฑ์ 4. ข้อควำมที่เขียนแสดงกำรเกิดปฏิกิริยำเคมีของสำรคืออะไร ก. สำรผสม ข. สมกำรเคมี ค. สำรเนื้อเดียว ง. สำรประกอบ 5. ปฏิกิริยำกำรเผำไหม้ของเช้ือเพลิงเกิดข้ึนอย่ำงไร ก. กรด+เบส -> เกลือ+น้ำ ข. โลหะ+ออกซเจน -> โลหะออกไซต์ ค. เหล็ก+ออกซิเจน -> เหล็กออกไซต์ ง. แก๊สมีเทน+แก๊สออกซิเจน -> แก๊สคำร์บอนไดออกไซต์+น้ำ

ตอนท่ี 2 คำชี้แจง : ให้พิจำรณำข้อมูลที่กำหนดให้ ทำเคร่ืองหมำย  ลงในตำรำง สำรประกอบ กำรละลำยนำ้ สถำนะ ละลำยน้ำ ไมล่ ะลำยนำ้ แคลเซียมคำรบ์ อเนต (CaCO3) แบเรียมซัลเฟต (BaSO4) โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) แมกนีเซียมซลั เฟต (MgSO4) แมกนเี ซยี มคลอไรด์ (MgCl2) ซิลเวอร์คลอไรด์ (AgCl) โซเดยี มไนเตรต (NaNO3) ลเิ ทยี มไฮดรอกไซด์ (LiOH) แอมโมเนียมไนเตรต (NH4NO3) โซเดียมแอซเี ตต (CH3COONa) แมกนเี ซียมไฮดรอกไซด์ (Mg(OH)2) แมงกำนสี ซลั เฟต (MnSO4) โซเดยี มคำรบ์ อเนต (Na2CO3)

ตอนที่ 3 สมกำรเคมี คำชี้แจง : จงเขียนสมกำรเคมีให้ถูกต้อง 1. ปฏิกิริยำระหว่ำงแผ่นโลหะแมกนีเซียม (Mg) กับสำรละลำยกรดไฮโดรคลอริก (HCl) ได้ผลิตภัณฑ์เป็น สำรละลำยแมกนเี ซยี มคลอไรด์ (MgCl2) และแกส๊ ไฮโดรเจน (H2) ……………………………………………………………………………………………………………………………. 2. ปฏกิ ริ ยิ ำระหว่ำงแกส๊ ไฮโดรเจน (H2) กบั แก๊สออกซิเจน (O2) ไดผ้ ลติ ภัณฑ์เปน็ น้ำ ……………………………………………………………………………………………………………………………. 3. ปฏกิ ริ ยิ ำระหว่ำงสำรละลำยโพแทสเซียมไอโอไดด์ (KI) กบั สำรละลำยเลด (II) ไนเตรต (Pb(NO3)2) ได้ ผลิตภณั ฑ์เป็นโพแทสเซยี มไนเตรต (KNO3) กับเลด (II) ไอโอไดด์ (PbI2) ……………………………………………………………………………………………………………………………. 4. ปฏิกิริยำระหว่ำงสำรละลำยโซเดียมไนเตรต (NaNO3) กับสำรละลำยแมกนีเซียมคลอไรด์ (MgCl2) ไดผ้ ลติ ภัณฑเ์ ปน็ โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) และแมกนีเซียมไนเตรต (MgNO3) ……………………………………………………………………………………………………………………………. 5. ปฏิกริ ิยำระหว่ำงสำรละลำยซิลเวอร์ไนเตรต (AgNO3) กับสำรละลำยแบเรียมคลอไรด์ (BaCl2) ได้ผลิตภัณฑ์ เป็นซลิ เวอร์คลอไรด์ (AgCl) และแบเรียมไนเตรต (MgNO3) ……………………………………………………………………………………………………………………………. 6. ปฏิกิริยำระหว่ำงกรดแอซีติก (CH3COOH) กับโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ได้ผลิตภัณฑ์เป็นโซเดียม แอซเี ตต (CH3COONa) และน้ำ (H2O) ……………………………………………………………………………………………………………………………. 7. ปฏิกิริยำระหว่ำงโซเดียมซัลเฟต (Na2SO4) กับสำรละลำยแบเรียมไนเตรต (Ba(NO3)2) ได้ผลิตภัณฑ์เป็น แบเรยี มซลั เฟต (BaSO4) และโซเดยี มไนเตรต (NaNO3) ……………………………………………………………………………………………………………………………. 8. ปฏิกิริยำระหว่ำงแก๊สไฮโดรเจน (H2) กับแก๊สซัลเฟอร์ (S2) ได้ผลิตภัณฑ์เป็นแก๊สไข่เน่ำ หรือแก๊สไฮโดรเจน ไดออกไซด์ (H2S) …………………………………………………………………………………………………………………………….

ตอนที่ 4 ตรวจสอบควำมรู้หลังเรียน คำชี้แจง : ให้นักเรียนวงกลมตัวเลือกที่ถูกต้องข้อ 1-2 และเขียนสมเคมีข้อ 3-5 1. ข้อควำมที่เขียนแสดงผลิตภัณฑ์เรียกว่ำอะไร ก. สำรผสม ข. สมกำรเคมี ค. สำรเนื้อเดียว ง. สำรประกอบ 2. เมื่อสำรเกิดปฏิกิริยำเคมีสำมำรถสังเกตได้อย่ำงไร ก. ตกผลึก ข. เกิดฟองแก๊ส ค. อุณหภูมิเปลี่ยน ง. ถูกทุกข้อ 3. เมื่อสำรเกิดปฏิกิริยำเคมีสำมำรถสังเกตได้อย่ำงไร ก. ตกผลึก ข. เกิดฟองแก๊ส ค. อุณหภูมิเปลี่ยน ง. ถูกทุกข้อ 4. ปฏกิ ิริยำระหวำ่ งสำรละลำยซิลเวอร์ไนเตรต (AgNO3) กับสำรละลำยแบเรยี มคลอไรด์ (BaCl2) ได้ผลิตภัณฑ์ เป็นซิลเวอร์คลอไรด์ (AgCl) และแบเรียมไนเตรต (MgNO3) ……………………………………………………………………………………………………………………………. 5. ปฏิกิริยำระหว่ำงกรดแอซีติก (CH3COOH) กับโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ได้ผลิตภัณฑ์เป็นโซเดียม แอซเี ตต (CH3COONa) และน้ำ (H2O) ……………………………………………………………………………………………………………………………. 6. ปฏิกิริยำระหว่ำงโซเดียมซัลเฟต (Na2SO4) กับสำรละลำยแบเรียมไนเตรต (Ba(NO3)2) ได้ผลิตภัณฑ์เป็น แบเรียมซัลเฟต (BaSO4) และโซเดยี มไนเตรต (NaNO3) ……………………………………………………………………………………………………………………………. คะแนนท่ีได้





แบบบกั ทกึ กิจกรรมกำรทดลองมวลกับกำรเกดิ ปฏกิ ิริยำเคมี สมมตฐิ ำน ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ตำรำงบันทึกผลกำรทดลอง ………………………………............................................................................................................................... .... ........................................................................................... ........................................................................... ………………………………............................................................................................................................... .... .................................................................................................................................................................. .... ……………………………….................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... สรุปผลกำรทดลอง ………………………………............................................................................................................................... .... ...................................................................................................................................................................... คำถำมท้ำยกจิ กรรม ……………………………….......................................................................................................................... ......... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………...................................................................................................................................

กิจกรรมกำรเรยี นรทู้ ี่ 3 ประเภทของปฏกิ ิรยิ ำเคมี จำนวน 2 ชวั่ โมง ใบควำมรู้ เรื่อง ประเภทของปฏกิ ิรยิ ำเคมี ถำ้ สังเกตรอบๆ ตวั เรำ จะพบว่ำมีกำรเปลี่ยนแปลงเกดิ ข้ึนตลอดเวลำ เรำจะรู้ไดอ้ ย่ำงไรวำ่ กำรเปลย่ี นแปลงใด เป็นกำรเกิดปฏิกิริยำเคมี ... มีข้อสงั เกตในกำรเกดิ ปฏกิ ริ ยิ ำเคมี คือจะต้องมสี ำรใหมเ่ กดิ ข้ึนเสมอ สำรใหม่ ทเ่ี กดิ ข้นึ จะต้องมีสมบัตเิ ปลยี่ นไปจำกสำรเดิม... เช่น กำรเผำไหม้ของวัตถทุ ี่เปน็ เชื้อเพลิง กำรย่อยอำหำร ในกระเพำะอำหำร กำรสกึ กร่อนของอำคำรบำ้ นเรือน กำรบดู เนำ่ ของอำหำร เปน็ ต้น ปฏิกริ ิยำเคมแี บ่ง ออกได้ 5 ชนดิ ได้แก่ 1. ปฏิกิรยิ ำกำรรวมตวั A +Z -------> AZ 2. ปฏิกริ ยิ ำกำรสลำยตัว AZ -------> A +Z 3. ปฏิกริ ิยำกำรแทนท่ีเชิงเดยี่ ว A + BZ -------> AZ + B 4. ปฏิกริ ยิ ำกำรแทนท่ีเชงิ คู่ AX+BZ -------> AZ + BX 5. ปฏิกิริยำสะเทิน HX+BOH -------> BX + HOH พลังงำนกับกำรเกิดปฏกิ ิริยำ ในกำรเกิดปฏิกริ ิยำของสำรแตล่ ะปฏกิ ิรยิ ำน้นั ตอ้ งมีพลงั งำนเขำ้ มำเกยี่ วขอ้ งกบั กำรเกดิ ปฏกิ ิรยิ ำเคมี 2 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 เปน็ ขั้นทดี่ ูดพลงั งำนเข้ำไปเพือ่ สลำยพนั ธะในสำรต้ังตน้ ข้ันท่ี 2 เปน็ ขั้นท่ีคำยพลังงำนออกมำเมื่อมีกำรสรำ้ งพนั ธะในผลติ ภัณฑ์ ดงั น้นั กำรเกิดปฏิกิริยำเคมจี ะเกี่ยวขอ้ งกับกำรเปลยี่ นแปลงพลงั งำน ดังน้ี 1. ปฏิกริ ิยำดดู ควำมร้อน ( Endothermic reaction) เปน็ ปฏิกิรยิ ำท่ีดดู พลังงำนเข้ำไปสลำยพนั ธะมำกกว่ำที่คำย ออกมำเพ่อื สรำ้ ง พันธะ โดยในปฏกิ ริ ิยำดดู ควำมร้อนนี้สำรต้งั ต้นจะมีพลังงำนต่ำกวำ่ ผลิตภณั ฑ์ จงึ ทำให้ ส่ิงแวดล้อมเย็นลง อุณหภูมลิ ดลง เมื่อเอำมือสมั ผัสภำชนะจะร้สู ึกเย็น ดังภำพ 2. ปฏกิ ิรยิ ำคำยควำมร้อน ( Exothermic reaction) เปน็ ปฏิกริ ยิ ำทีด่ ูดพลังงำนเข้ำไปสลำยพันธะนอ้ ยกวำ่ ท่ีคำย ออกมำเพอื่ สรำ้ ง พนั ธะ โดยในปฏกิ ิริยำคำยควำมร้อนนส้ี ำรต้ังต้นจะมีพลังงำนสงู กว่ำผลิตภณั ฑ์ จงึ ใหพ้ ลงั งำน ควำมร้อนออกมำสสู่ ่ิงแวดล้อม ทำใหอ้ ุณหภมู สิ งู ขน้ึ เม่ือเอำมือสัมผสั ภำชนะจะรู้สึกร้อน ดังภำพ



แบบบักทึกกจิ กรรมกำรทดลองกำรเปล่ียนแปลงพลังงำนควำมร้อนของปฏกิ ิรยิ ำ สมมตฐิ ำน ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ตำรำงบนั ทึกผลกำรทดลอง ………………………………............................................................................................................................... .... ........................................................................................... ........................................................................... ………………………………............................................................................................................................... .... .................................................................................................................................................................. .... ……………………………….................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... สรุปผลกำรทดลอง ………………………………............................................................................................................................... .... ...................................................................................................................................................................... คำถำมท้ำยกจิ กรรม ……………………………….......................................................................................................................... ......... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………...................................................................................................................................

กจิ กรรมกำรเรยี นร้ทู ่ี 4 ปฏิกริ ิยำเคมีในชวี ติ ประจำวัน จำนวน 3 ชวั่ โมง ใบควำมรู้ เรอ่ื ง ปฏกิ ริ ยิ ำเคมีในชีวิตประจำวัน ในชวี ติ ประจำวนั ของคนเรำเก่ียวขอ้ งกับปฏิกิรยิ ำเคมมี ำกมำย ตัวอย่ำงของปฏกิ ิริยำเคมีที่เรำมกั เห็นและค้นุ เคยกัน ดี ได้แก่ 1. กระบวนกำรสังเครำะหด์ ้วยแสง (Photosynthesis) กำรสังเครำะหด์ ว้ ยแสงเปน็ ปฏิกริ ิยำเคมีที่เกดิ ขนึ้ ในพืช โดยพชื จะดดู กลืนพลังงำนแสงจำกดวงอำทิตยม์ ำใช้เพ่ือ เปลี่ยนคำรบ์ อนไดออกไซด์และนำ้ ใหเ้ ป็นอำหำร (กลโู คส) ของพชื และมผี ลพลอยได้คอื ออกซเิ จน ออกมำ ปฏิกิรยิ ำนีเ้ กยี่ วข้องกบั ชีวติ ประจำวนั ของเรำโดยตรง เพรำะนค่ี ือกระบวนกำรผลิตอำหำรทสี่ ำคญั ของโลก อีกทงั้ ยัง เปน็ กำรเปล่ียนก๊ำซคำรบ์ อนไดออกไซดใ์ หเ้ ปน็ ก๊ำซออกซิเจนทเ่ี รำสำมำรถใชห้ ำยใจด้วย ภำพ : Shutterstock สมกำรเคมีของกระบวนกำรสงั เครำะห์ดว้ ยแสง 6CO2 + 6H2O + light ----> C6H12O6 + 6O2 คำร์บอนไดออกไซด์ + น้ำ + แสง ----> กลูโคส + ออกซเิ จน

2. กำรสันดำปหรอื กำรเผำไหม้เช้ือเพลงิ ทุกครง้ั ที่เรำจุดไมข้ ีดไฟ ไฟแชก็ หรอื ก่อกองไฟ จะมปี ฏิกริ ิยำเคมีอยำ่ งหนึ่งเกดิ ขึ้น นนั่ คือปฏกิ ิริยำกำรสนั ดำปหรอื กำรเผำไหม้เช้ือเพลงิ ซ่ึงนอกจำกจะมเี ช้ือเพลิงทตี่ ิดไฟ เช่น มีเทน โพรเพน ไฮโดรเจน แลว้ ยังต้องมีกำ๊ ซออกซิเจน เพือ่ ช่วยทำให้ไฟตดิ และควำมร้อนด้วย จงึ จะทำให้ได้พลงั งำน ตลอดจนน้ำและกำ๊ ซคำร์บอนไดออกไซดอ์ อกมำ ภำพ : Pixabay สมกำรเคมีกำรสนั ดำป C3H8 + 5O2 + heat ----> 4H2O + 3CO2 + energy โพรเพน (เชอ้ื เพลงิ ) + ออกซเิ จน + ควำมรอ้ น ----> น้ำ + คำร์บอนไดออกไซด์ + พลงั งำน 3. ปฏิกริ ยิ ำกำรเกดิ สนมิ เหล็ก หลำยครั้งท่เี รำเหน็ มดี ในครวั กุญแจ หรอื รำวสะพำนลอยมีสแี ดงเพรำะถูกสนิมเหล็กจับ มนั คือตวั อย่ำงของกำร เกิดปฏกิ ิรยิ ำออกซเิ ดชัน หรือกำรสูญเสียอิเลก็ ตรอนจำกวงโคจรภำยในอะตอมของมนั ให้กบั โมเลกุลอนื่ ซง่ึ นอกจำกปฏิกริ ิยำออกซิเดชันทีเ่ กิดขึ้นกบั เหลก็ แล้ว ยังมีปฏกิ ริ ิยำท่เี กิดขึน้ กบั ทองแดง ทำใหเ้ กิดเปน็ สนิมสีเขียว และปฏกิ ิริยำทเ่ี กดิ ขึน้ กบั โลหะเงิน ทำใหเ้ กิดเปน็ รอยดำ่ งดวงข้นึ มำด้วย ภำพ : Pixabay

สมกำรเคมขี องกำรเกิดสนมิ เหลก็ 4Fe + 3O2 + 3H2O ----> 2Fe2O3.3H2O เหล็ก + ออกซเิ จน + นำ้ ----> เหลก็ ออกไซด์ (สนมิ เหล็ก) 4. ปฏกิ ริ ยิ ำกำรสะเทิน ปฏกิ ิริยำกำรสะเทนิ เกิดจำกกำรที่กรด เชน่ นำ้ สม้ สำยชู น้ำมะนำว กรดซัลฟิวลกิ และเบส เชน่ เบกก้ิงโซดำ สบู่ อะซโี ตน เข้ำทำปฏิกริ ิยำกนั ไดพ้ อดี เกิดเป็นผลติ ภัณฑ์เกลือและนำ้ ทั้งนีเ้ กลือท่ีได้ไม่จำเปน็ ตอ้ งเปน็ เกลอื โซเดียม คลอไรดเ์ สมอไป ขนึ้ กับสำรต้ังตน้ ซึง่ อำจทำใหไ้ ดเ้ ปน็ เกลือโพแทสเซยี มคลอไรด์ ซึ่งมีรสชำติเคม็ เหมือนกนั แต่ อนั ตรำยสำหรับผู้ป่วยโรคไตมำกกว่ำเกลือโซเดยี มคลอไรด์ สมกำรเคมขี องปฏิกิริยำกำรสะเทนิ HCl + KOH ----> KCl + H2O ไฮโดรเจนคลอไรด์ (กรด) + โพแทสเซยี มไฮดรอกไซด์ (เบส) ----> โพแทสเซยี มคลอไรด์ (เกลอื ) + น้ำ 5. ปฏกิ ิรยิ ำกำรสลำยตัวของโซเดียมไฮโดรเจนคำรบ์ อเนตหรือเบกกิ้งโซดำ เวลำทีเ่ รำทำขนมประเภทเค้กหรือขนมปัง จำเป็นตอ้ งมเี บกกิ้งโซดำหรอื ผงฟู (มีเบกกิ้งโซดำเปน็ สว่ นประกอบ) เป็น หนึ่งในส่วนผสม และเมอื่ อณุ หภูมิสงู ขน้ึ เบกก้ิงโซดำซง่ึ มีช่ือทำงวิทยำศำสตรว์ ่ำ โซเดยี มไฮโดรเจนคำร์บอนเนต หรือโซเดียมไบคำร์บอเนต จะเกิดปฏกิ ิริยำกำรสลำยตวั และได้คำรบ์ อนไดออกไซด์ออกมำ ซ่ึงก๊ำซนเี้ องท่ีทำใหข้ นม ฟนู ่มุ นำ่ รับประทำน ภำพ : Pixabay สมกำรเคมีของปฏกิ ริ ิยำกำรสลำยตัวของโซเดียมไฮโดรเจนคำรบ์ อเนตหรือเบกกิง้ โซดำ NaHCO3 + heat ----> Na2CO3 + CO2 + H20 โซเดยี มไฮโดรเจนคำร์บอเนต (โซเดยี มไบคำรบ์ อเนต) + ควำมรอ้ น ----> โซเดยี มคำร์บอเนต + คำรบ์ อนไดออกไซด์ + นำ้

6. ปฏิกริ ยิ ำกำรหำยใจแบบใช้ออกซิเจน (กำรหำยใจแบบแอโรบกิ ) ปฏกิ ิริยำกำรหำยใจแบบใช้ออกซิเจน เปน็ กำรสลำยสำรอำหำรโดยใช้ออกซิเจน เพ่ือให้เกิดพลงั งำนทเ่ี ซลลส์ ำมำรถ นำไปใชไ้ ด้ โดยปฏิกิรยิ ำน้จี ะเกิดข้ึนทีเ่ ซลลใ์ นรำ่ งกำยของเรำนัน่ เอง ซง่ึ ในปฏกิ ริ ยิ ำนี้ สำรอำหำรอยำ่ งกลูโคสจะ รวมกบั ออกซิเจนท่ีเรำหำยใจเข้ำไป เกิดปฏิกริ ิยำเคมแี ละปลดปล่อยพลงั งำนท่ีจำเปน็ ต่อเซลลอ์ อกมำในรูป ATP นอกจำกนี้ยังมีคำรบ์ อนไดออกไซด์และนำ้ ที่ถกู ปล่อยออกมำด้วย สมกำรเคมีกำรหำยใจแบบใชอ้ อกซเิ จน C6H12O6 + 6O2 ----> 6CO2 + 6H2O + energy (36 ATPs) กลโู คส + ออกซเิ จน ----> คำร์บอนไดออกไซด์ + นำ้ + พลังงำน (36 ATPs) 7. ปฏิกริ ยิ ำกำรหำยใจแบบไมใ่ ช้ออกซเิ จน (กำรหำยใจแบบแอนำโรบกิ ) ปฏิกิรยิ ำกำรหำยใจแบบไม่ใช้ออกซเิ จนเกิดขึน้ ทุกวัน แต่กำรหำยใจแบบไม่ใช้ออกซิเจนในส่งิ มชี ีวติ แตล่ ะชนิดจะให้ ผลติ ภัณฑ์ทต่ี ำ่ งกัน จำกกระบวนกำรบำงอย่ำงที่แตกตำ่ งกัน หำกเป็นพชื รำ และยีสต์ ปฏิกิริยำกำรหำยใจแบบไม่ ใชอ้ อกซเิ จนจะได้ผลิตภณั ฑเ์ ปน็ เอทำนอล คำร์บอนไดออกไซด์ และพลังงำนออกมำ สว่ นในกล้ำมเน้ือของคนเรำ กำรหำยใจแบบไมใ่ ช้ออกซิเจนจะเกิดขน้ึ เม่ือร่ำงกำยไมส่ ำมำรถนำออกซิเจนสง่ ไปยงั กลำ้ มเนือ้ ไดท้ นั และเพียงพอ เช่น กรณที ่ีมกี ำรออกกำลงั กำยอยำ่ งหนักและยำวนำน ซ่งึ จะทำให้กำรสลำยกลูโคสในเซลลก์ ล้ำมเนือ้ ไม่สมบูรณ์ และเกดิ เปน็ กรดแลกตกิ สะสมในกลำ้ มเน้ือ ทำให้เกดิ อำกำรปวดหรอื กลำ้ มเนื้อลำ้ ได้ ภำพ : Pixabay สมกำรเคมีกำรหำยใจแบบไม่ใช้ออกซิเจนในยสี ต์ C6H12O6 ----> 2C2H5OH + 2CO2 + energy กลโู คส ----> เอทำนอลหรอื เอทลิ แอลกอฮอล์ + คำร์บอนไดออกไซด์ + พลงั งำน



แบบบักทึกกจิ กรรมกำรทดลองกำรเกดิ สนมิ ของตะปูเหล็ก สมมติฐำน ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ตำรำงบันทึกผลกำรทดลอง ………………………………............................................................................................................................... .... ........................................................................................... ........................................................................... ………………………………............................................................................................................................... .... .................................................................................................................................................................. .... ……………………………….................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... สรุปผลกำรทดลอง ………………………………............................................................................................................................... .... ...................................................................................................................................................................... คำถำมทำ้ ยกจิ กรรม ……………………………….......................................................................................................................... ......... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………...................................................................................................................................



แบบบกั ทกึ กิจกรรมกำรทดลองปฏิกิริยำของกรดกบั โลหะ เบสกบั โลหะ และกรดกบั เบส สมมตฐิ ำน ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ตำรำงบันทกึ ผลกำรทดลอง ………………………………............................................................................................................................... .... ........................................................................................... ........................................................................... ………………………………............................................................................................................................... .... .................................................................................................................................................................. .... ……………………………….................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... สรปุ ผลกำรทดลอง ………………………………............................................................................................................................... .... ...................................................................................................................................................................... คำถำมท้ำยกจิ กรรม ……………………………….......................................................................................................................... ......... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ......................................... ………………………………...................................................................................................................................

กิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ 5 ประโยชนแ์ ละโทษของปฏิกิริยำเคมี จำนวน 2 ชั่วโมง ใบควำมรู้ เรอื่ ง ประโยชนแ์ ละโทษของปฏกิ ิรยิ ำเคมี





แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 4 เรือ่ ง ปฏิกริ ิยำเคมี คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดเกดิ ปฏิกริ ิยำเคมี 6. ขอ้ ใดเปน็ ปฏกิ ริ ิยำดดู ควำมร้อน 1. กำรเผำไหม้เชอื้ เพลิง 1. ตม้ เนอื้ หมูใหส้ ุก 2. กำรละลำยนำ้ ของโซดำไฟ 3. กำรสงั เครำะหด์ ว้ ยแสงของพืช 2. นำ้ ระเหยกลำยเป็นไอนำ้ 4. กำรเผำผลำญพลงั งำนในร่ำงกำย 3. น้ำแขง็ หลอมเหลวเปน็ นำ้ 7. ข้อใดเปน็ ปฏกิ ิริยำดูดควำมรอ้ น 1. พลังงำนของสำรตง้ั ตน้ เท่ำกบั 4. ลกู เหม็นระเหดิ กลำยเป็นไอ พลังงำนของผลิตภณั ฑ์ 2. พลังงำนของสำรตั้งต้นน้อยกว่ำ 2. ขอ้ ใดไม่ใช่ข้อสงั เกตกำรเกดิ ปฏิกริ ยิ ำเคมี พลงั งำนของผลิตภณั ฑ์ 3. พลังงำนของสำรตง้ั ต้นมำกกวำ่ 1. ตกตะกอน 2. หลอมเหลว พลงั งำนของผลติ ภณั ฑ์ 4. ไมม่ ขี อ้ ใดกลำ่ วถกู ตอ้ ง 3. เกดิ ฟองแก๊ส 4. เกิดประกำยไฟ 8. ข้อใดมีโอกำสเกิดปฏกิ ิรยิ ำสะเทิน 3. ขอ้ ใดคือสมกำรเคมแี สดงปฏกิ ริ ยิ ำเคมรี ะหว่ำงหินปูนกบั กรด 1. กำรเตมิ เบสผสมน้ำ 2. กำรเตมิ กรดผสมน้ำ ซัลฟิวรกิ 3. กำรเตมิ กรดผสมเบส 4. กำรเตมิ กรดผสมเกลอื 1. CaCO3 (s) + H2SO4 (aq)  CaSO4 (aq) + H2O (l) + 9. ข้อใดเปน็ แกส๊ ท่เี กดิ จำกปฏิกริ ยิ ำ CO2 (g) กรดทำปฏิกริ ิยำกบั เหลก็ 1. แกส๊ ออกซิเจน 2. CaCO3 (s) + H2SO4 (aq)  CaSO4 (aq) + H2O (l) + 2. แกส๊ ไฮโดรเจน 3. แกส๊ คำรบ์ อนไดออกไซด์ CO (g) 4. แก๊สคำรบ์ อนมอนอกไซด์ 3. CaCl2 (s) + H2SO4 (aq)  CaSO4 (aq) + H2O (l) + 10. ข้อใดเป็นปฏกิ ริ ิยำเคมที ก่ี อ่ ให้เกิดโทษ 1. กำรใช้ผงฟทู ำขนมหวำน CO2 (g) 2. กำรใช้โซดำไฟลำ้ งหอ้ งน้ำ 3. กำรใชป้ ูนมำล์ปรบั สภำพดนิ 4. CaCl2 (s) + H2SO4 (aq)  CaSO4 (aq) + H2O (l) + 4. กำรเกดิ สนมิ เหล็กทรี่ ำวตำกผำ้ CO (g) 4. ถำ้ สำร A 3 กรมั ทำปฏกิ ิริยำพอดกี ับสำร B 9 กรัม ได้ ผลติ ภณั ฑ์ เปน็ สำร C 12 กรัม ถำ้ นำสำร A มำ 21 กรัม จะได้สำร C กกี่ รมั 1. 60 กรมั 2. 64 กรัม 3. 80 กรมั 4. 84 กรัม 5. จำกสมกำร A + B  H2O (g) นักเรยี นคดิ ว่ำสำร A และ B คือ สำรใด ตำมลำดับ 1. คำรบ์ อนและไนโตรเจน 2. คำร์บอนและไฮโดรเจน 3. ไฮโดรเจนและไนโตรเจน 4. ไฮโดรเจนและออกซิเจน

เอกสำรอ้ำงอิง ณฐั ชยำ คำรงั สี และเอกรัฐ วงศ์สวัสด์ิ. (2561). หนงั สือเรยี น รำยวิชำพื้นฐำนวิทยำศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์ชีวภำพ. กรุงเทพมหำนคร : อกั ษรเจริญทศั น.์ พงศธร นนั ทธเนศ และเปรมวดี จติ ย์อำรีย.์ (2562). หนังสอื เรียน รำยวิชำพน้ื ฐำนวิทยำศำสตร์ วิทยำศำสตร์ กำยภำพ 1 (เคม)ี . กรงุ เทพมหำนคร : อกั ษรเจริญทัศน์. สุธำรี คำจันศรี และภคพร จิตตรขี ันธ์. (2563). หนังสือเรยี น รำยวิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี. กรงุ เทพมหำนคร : อักษรเจริญทศั น์.

เฉลย

ใบงำนท่ี 4.1 เฉลย เรอื่ ง กำรเปลี่ยนแปลงของสำร คำช้ีแจง : พิจำรณำภำพท่ีกำหนดให้แล้วทำเครื่องหมำย  ลงในช่อง  ที่เกิดปฏิกิริยำเคมี    

ใบงำนที่ 4.1.1 เฉลย เรอ่ื ง กำรเขยี นสมกำรเคมี คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นสมกำรเคมีแทนปฏิกิริยำเคมีท่ีกำหนดให้พร้อมดุลสมกำรให้ถูกต้อง 1. แกส๊ บวิ เทน (C4H10) ทำปฏกิ ริ ยิ ำกบั แก๊สออกซเิ จน (O2) ไดแ้ ก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และไอน้ำ (H2O) เป็นผลติ ภัณฑ์ 2C4H10 (g) + 13O2 (g) → 8CO2 (g) + 10H2O (g) 2. สำรละลำยกรดไฮโดรคลอริก (HCl) ทำปฏิกิริยำกับซิงค์ซัลไฟด์ (ZnS) ได้สำรละลำยซิงค์คลอไรด์ (ZnCl2) และแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) เป็นผลติ ภัณฑ์ 2HCl (aq) + ZnS (s) → ZnCl2 (aq) + H2S (g) 3. กำมะถัน (S) ทำปฏิกิริยำกับสำรละลำยกรดซัลฟิวริก (H2SO4) ได้น้ำ (H2O) และแก๊สซัลเฟอร์ได ออกไซด์ (SO2) เป็นผลติ ภณั ฑ์ S (s) + 2H2SO4 (aq) → 2H2O (l) + 3SO2 (g) 4. สำรละลำยแอมโมเนยี (NH3) ทำปฏิกิริยำกบั แก๊สออกซิเจน (O2) ไดแ้ กส๊ ไนโตรเจนมอนอกไซด์ (NO) และน้ำ (H2O) เป็นผลิตภัณฑ์ 4NH3 (aq) + 5O2 (g) → 4NO (g) + 6H2O (l) 5. ซิลเวอร์ (I) ออกไซด์ (Ag2O) ทำปฏิกิริยำกับสำรละลำยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2) ได้โลหะเงิน (Ag) น้ำ (H2O) และแก๊สออกซิเจน (O2) เป็นผลติ ภณั ฑ์ Ag2O (s) + H2O2 (aq) → 2Ag (s) + H2O (l) + O2 (g)

ใบงำนท่ี 4.2 เฉลย เร่ือง สมกำรเคมี ตอนที่ 1 ตรวจสอบควำมรู้พ้ืนฐำนก่อนเรียน คำชี้แจง : ให้นักเรียนวงกลมตัวเลือกท่ีถูกต้อง 1. เม่ือสำรเกิดปฏิกิริยำเคมีอำจมีกำรเปล่ียนแปลงท่ีสำมำรถสังเกตได้อย่ำงไร ก. ตกผลึก ข. เปลี่ยนสี ค. เกิดฟองแก๊ส ง. ถูกทุกข้อ 2. สำรที่นำมำใช้ในกำรทำปฏิกิริยำเรียกว่ำอะไร ก. สำรเคมี ข. สำรต้ังต้น ค. สำรผลิตภัณฑ์ ง. ไม่มีข้อถูกต้อง 3. สำรใหม่ที่เกิดข้ึนเรียกว่ำอะไร ก. สำรเคมี ข. สำรตั้งต้น ค. สมกำรเคมี ง. สำรผลิตภัณฑ์ 4. ข้อควำมที่เขียนแสดงกำรเกิดปฏิกิริยำเคมีของสำรคืออะไร ก. สำรผสม ข. สมกำรเคมี ค. สำรเนื้อเดียว ง. สำรประกอบ 5. ปฏิกิริยำกำรเผำไหม้ของเช้ือเพลิงเกิดขึ้นอย่ำงไร ก. กรด+เบส -> เกลือ+น้ำ ข. โลหะ+ออกซเจน -> โลหะออกไซต์ ค. เหล็ก+ออกซิเจน -> เหล็กออกไซต์ ง. แก๊สมีเทน+แก๊สออกซิเจน -> แก๊สคำร์บอนไดออกไซต์+น้ำ

ตอนท่ี 2 คำช้ีแจง : ให้พิจำรณำข้อมูลท่ีกำหนดให้ ทำเครื่องหมำย  ลงในตำรำง สำรประกอบ กำรละลำยน้ำ สถำนะ ละลำยน้ำ ไมล่ ะลำยนำ้ แคลเซียมคำรบ์ อเนต (CaCO3)  ของแข็ง (s) แบเรยี มซลั เฟต (BaSO4)  ของแข็ง (s) โซเดยี มคลอไรด์ (NaCl)  สารละลาย (aq) แมกนีเซียมซัลเฟต (MgSO4)  สารละลาย (aq) แมกนเี ซียมคลอไรด์ (MgCl2)  สารละลาย (aq) ซิลเวอร์คลอไรด์ (AgCl)  ของแข็ง (s) โซเดยี มไนเตรต (NaNO3)  สารละลาย (aq) ลิเทยี มไฮดรอกไซด์ (LiOH)  สารละลาย (aq) แอมโมเนยี มไนเตรต (NH4NO3)  สารละลาย (aq) โซเดียมแอซีเตต (CH3COONa)  สารละลาย (aq) แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Mg(OH)2)  สารละลาย (aq) แมงกำนสี ซลั เฟต (MnSO4)  สารละลาย (aq) โซเดียมคำร์บอเนต (Na2CO3)  สารละลาย (aq)

ตอนท่ี 3 สมกำรเคมี คำช้ีแจง : จงเขียนสมกำรเคมีให้ถูกต้อง 1. ปฏิกิริยำระหว่ำงแผ่นโลหะแมกนีเซียม (Mg) กับสำรละลำยกรดไฮโดรคลอริก (HCl) ได้ผลิตภัณฑ์เป็น ส…ำM…รลg…ะ(…ลs)ำ…ย+…แ2ม…HกC…นlีเ…ซ(aยี…qม…)ค…ลอ…ไร…Mด…์g(CM…l2g…C(a…l2q)…)+แ…ลH…ะ2แ…(กg…๊ส) ไ…ฮโ…ดร…เจ…น…(H…2…) ……………………………………………. 2. ปฏิกิรยิ ำระหวำ่ งแกส๊ ไฮโดรเจน (H2) กบั แก๊สออกซิเจน (O2) ไดผ้ ลิตภัณฑ์เป็นน้ำ …2…H…2…(g…) +…O…2…(g…)………2…H2…O…(l…) …………………………………………………………………………………. 3. ปฏกิ ิรยิ ำระหว่ำงสำรละลำยโพแทสเซยี มไอโอไดด์ (KI) กบั สำรละลำยเลด (II) ไนเตรต (Pb(NO3)2) ได้ ผลติ ภณั ฑ์เป็นโพแทสเซยี มไนเตรต (KNO3) กบั เลด (II) ไอโอไดด์ (PbI2) …2…K…I (…aq…)…+…P…b(…N…O3…)2…(a…q…) ………2K…N…O…3 …(a…q)…+…P…bI…2 (…s)……………………………………………………. 4. ปฏิกิริยำระหว่ำงสำรละลำยโซเดียมไนเตรต (NaNO3) กับสำรละลำยแมกนีเซียมคลอไรด์ (MgCl2) ได้ผลิตภณั ฑเ์ ป็นโซเดยี มคลอไรด์ (NaCl) และแมกนเี ซยี มไนเตรต (MgNO3) …2…N…a…NO…3…(a…q…) +……M…gC…l2…(a…q…) ………2N…a…Cl…(a…q…) …+…M…g(…NO…3…)2…(a…q…) ………………………………………. 5. ปฏกิ ริ ิยำระหวำ่ งสำรละลำยซิลเวอร์ไนเตรต (AgNO3) กับสำรละลำยแบเรยี มคลอไรด์ (BaCl2) ได้ผลิตภัณฑ์ เปน็ ซิลเวอร์คลอไรด์ (AgCl) และแบเรียมไนเตรต (MgNO3) …2A…gN…O…3…(a…q…) +…B…a…C…l2…(a…q)………2…A…aC…l…(a…q…) +…B…a…(N…O…3)2…(…a…q)……………………………………………. 6. ปฏิกิริยำระหว่ำงกรดแอซีติก (CH3COOH) กับโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ได้ผลิตภัณฑ์เป็นโซเดียม แอซเี ตต (CH3COONa) และนำ้ (H2O) …C…H…3C…O…O…H…(a…q…) …+…Na…O…H…(…aq…)………C…H…3C…O…ON…a…(…aq…)…+…H…2O…(…l)………………………………………. 7. ปฏิกิริยำระหว่ำงโซเดียมซัลเฟต (Na2SO4) กับสำรละลำยแบเรียมไนเตรต (Ba(NO3)2) ได้ผลิตภัณฑ์เป็น แบเรียมซัลเฟต (BaSO4) และโซเดยี มไนเตรต (NaNO3) ……Na…2S…O…4…(a…q…) +…B…a…(N…O…3)…2 (…aq…)………B…aS…O…4…(s…) +…2…N…a…NO…3…(a…q…) ………………………………………. 8. ปฏิกิริยำระหว่ำงแก๊สไฮโดรเจน (H2) กับแก๊สซัลเฟอร์ (S2) ได้ผลิตภัณฑ์เป็นแก๊สไข่เน่ำ หรือแก๊สไฮโดรเจน ไดออกไซด์ (H2S) …2…H…2 …(g)…+…S…2 …(g…) ………2H…2S…(…g)…………………………………………………………………………………….

ตอนที่ 4 ตรวจสอบควำมรู้หลังเรียน คำช้ีแจง : ให้นักเรียนวงกลมตัวเลือกท่ีถูกต้องข้อ 1-2 และเขียนสมเคมีข้อ 3-5 1. ข้อควำมท่ีเขียนแสดงกำรเกิดปฏิกิริยำเคมีของสำรคืออะไร ก. สำรผสม ข. สมกำรเคมี ค. สำรเนื้อเดียว ง. สำรประกอบ 2. เม่ือสำรเกิดปฏิกิริยำเคมีสำมำรถสังเกตได้อย่ำงไร ก. ตกผลึก ข. เกิดฟองแก๊ส ค. อุณหภูมิเปลี่ยน ง. ถูกทุกข้อ 3. เมื่อสำรเกิดปฏิกิริยำเคมีสำมำรถสังเกตได้อย่ำงไร ก. ตกผลึก ข. เกิดฟองแก๊ส ค. อุณหภูมิเปลี่ยน ง. ถูกทุกข้อ 4. ปฏิกิรยิ ำระหว่ำงสำรละลำยซิลเวอร์ไนเตรต (AgNO3) กับสำรละลำยแบเรียมคลอไรด์ (BaCl2) ได้ผลิตภัณฑ์ เป็นซิลเวอร์คลอไรด์ (AgCl) และแบเรียมไนเตรต (MgNO3) ……2A…g…NO…3…(a…q…) …+ …Ba…C…l2…(a…q…) ……2…A…a…Cl…(a…q…) +……Ba…(N…O…3)…2 …(a…q…) ………………………………………. 5. ปฏิกิริยำระหว่ำงกรดแอซีติก (CH3COOH) กับโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ได้ผลิตภัณฑ์เป็นโซเดียม แอซเี ตต (CH3COONa) และนำ้ (H2O) …C…H…3C…O…O…H…(a…q…) …+…Na…O…H…(…aq…)………C…H…3C…O…ON…a…(…aq…)…+…H…2O…(…l)………………………………………. 6. ปฏิกิริยำระหว่ำงโซเดียมซัลเฟต (Na2SO4) กับสำรละลำยแบเรียมไนเตรต (Ba(NO3)2) ได้ผลิตภัณฑ์เป็น แบเรยี มซลั เฟต (BaSO4) และโซเดียมไนเตรต (NaNO3) …N…a…2S…O…4…(a…q)…+…B…a…(N…O…3)2…(…aq…)………B…aS…O…4…(s…) +…2…N…a…NO…3…(a…q…) ……………………………………….

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี 4 เร่อื ง ปฏิกิริยำเคมี คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดไม่เกิดปฏกิ ริ ิยำเคมี 6. ข้อใดเปน็ ปฏกิ ริ ิยำดูดควำมร้อน 5. เหล็กขนึ้ สนมิ 5. กำรเผำไหม้เชอื้ เพลิง 6. จุดธปู ไหว้พระ 6. กำรละลำยนำ้ ของโซดำไฟ 7. ตม้ เนือ้ หมใู หส้ กุ 7. กำรสังเครำะหด์ ้วยแสงของพชื 8. น้ำแขง็ หลอมเหลวเปน็ นำ้ 8. กำรเผำผลำญพลงั งำนในร่ำงกำย 2. ข้อใดไม่ใช่ขอ้ สงั เกตกำรเกดิ ปฏกิ ริ ยิ ำเคมี 7. ขอ้ ใดเป็นปฏิกิรยิ ำคำยควำมรอ้ น 5. ตกตะกอน 5. พลงั งำนของสำรต้งั ต้นเทำ่ กบั พลงั งำน 6. หลอมเหลว ของผลติ ภณั ฑ์ 7. เกดิ ฟองแก๊ส 6. พลังงำนของสำรตั้งต้นน้อยกว่ำพลงั งำน 8. เกดิ ประกำยไฟ ของผลิตภณั ฑ์ 7. พลงั งำนของสำรต้งั ต้นมำกกวำ่ พลงั งำน 4. กรดไฮโดรคลอริกทำปฏกิ ริ ยิ ำกบั โซเดยี มไฮดรอกไซดจ์ ะเขียน ของผลติ ภณั ฑ์ สมกำรเคมไี ด้เป็นขอ้ ใด 8. ไม่มขี ้อใดกลำ่ วถกู ตอ้ ง 5. HCl + NaOH NaH + H2O 6. H2O + NaOH NaOH + H2O 8. ข้อใดกล่ำวถึงกำรเกิดปฏกิ ริ ิยำเคมีไม่ถูกตอ้ ง 7. HCl + NaOH NaCl + H2O 5. ต้องมีสำรใหม่เกิดขึน้ 8. NaCl + H2O HCl + NaOH 6. มกี ำรดดู พลังงำนหรือคำยพลงั งำน 7. ต้องมีกำรเปลี่ยนสถำนะของสำรเสมอ 4. ถำ้ สำร A 2 กรมั ทำปฏกิ ริ ยิ ำพอดกี บั สำร B 4 กรมั ได้ ผลติ ภัณฑ์ 8. ถำ้ เปน็ ระบบปดิ จะเป็นไปตำมกฎทรงมวล เป็นสำร C 6 กรัม ถ้ำนำสำร A มำ 6 กรมั จะไดส้ ำร C ก่ีกรมั 9. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ผลติ ภณั ฑท์ ี่เกิดจำกกำรเผำไหม้ 5. 7 กรัม 5. ไอนำ้ 6. 9 กรัม 6. แก๊สออกซิเจน 7. 11 กรมั 7. แกส๊ คำรบ์ อนไดออกไซด์ 8. 18 กรัม 8. แกส๊ คำร์บอนมอนอกไซด์ 5. จำกสมกำร A + B  CO2 (g) นักเรยี นคิดว่ำสำร A และ B คือ 10. ข้อใดคือประโยชน์ของปฏิกริ ยิ ำเคมี สำรใด ตำมลำดบั 5. ใชป้ รับสภำพดนิ 5. คำรบ์ อนและน้ำ 6. ใช้ปรบั สภำพนำ้ เสีย 6. คำร์บอนและกรด 7. ใชส้ ร้ำงพลังงำนควำมรอ้ น 7. คำรบ์ อนและเบส 8. ถกู ทุกขอ้ 8. คำร์บอนและออกซเิ จน เฉลย 1. 4 2. 2 3. 3 4. 4 5. 4 6. 3 7. 3 8. 2 9. 2 10. 4

แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี 4 เร่อื ง ปฏิกิรยิ ำเคมี คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดเกิดปฏิกริ ิยำเคมี 6. ข้อใดเปน็ ปฏกิ ิรยิ ำดดู ควำมรอ้ น 5. กำรเผำไหม้เช้ือเพลงิ 5. ตม้ เน้ือหมใู หส้ กุ 6. กำรละลำยนำ้ ของโซดำไฟ 7. กำรสังเครำะหด์ ้วยแสงของพืช 6. นำ้ ระเหยกลำยเป็นไอนำ้ 8. กำรเผำผลำญพลังงำนในรำ่ งกำย 7. น้ำแข็งหลอมเหลวเปน็ นำ้ 7. ข้อใดเป็นปฏิกิริยำดดู ควำมรอ้ น 5. พลงั งำนของสำรต้งั ต้นเท่ำกับ 8. ลูกเหม็นระเหดิ กลำยเป็นไอ พลังงำนของผลิตภณั ฑ์ 6. พลงั งำนของสำรตงั้ ต้นนอ้ ยกวำ่ 2. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ข้อสังเกตกำรเกดิ ปฏิกริ ยิ ำเคมี พลงั งำนของผลติ ภณั ฑ์ 7. พลังงำนของสำรตง้ั ต้นมำกกวำ่ 2. ตกตะกอน 2. หลอมเหลว พลังงำนของผลติ ภณั ฑ์ 8. ไมม่ ขี ้อใดกล่ำวถกู ตอ้ ง 4. เกิดฟองแกส๊ 4. เกิดประกำยไฟ 8. ข้อใดมีโอกำสเกดิ ปฏิกิรยิ ำสะเทนิ 4. ข้อใดคอื สมกำรเคมแี สดงปฏกิ ริ ยิ ำเคมีระหว่ำงหินปูนกบั กรด 5. กำรเตมิ เบสผสมนำ้ 6. กำรเตมิ กรดผสมน้ำ ซัลฟิวริก 7. กำรเตมิ กรดผสมเบส 8. กำรเตมิ กรดผสมเกลอื 5. CaCO3 (s) + H2SO4 (aq)  CaSO4 (aq) + H2O (l) + 9. ข้อใดเป็นแกส๊ ที่เกดิ จำกปฏกิ ิรยิ ำ CO2 (g) กรดทำปฏิกริ ยิ ำกบั เหล็ก 5. แก๊สออกซิเจน 6. CaCO3 (s) + H2SO4 (aq)  CaSO4 (aq) + H2O (l) + 6. แก๊สไฮโดรเจน 7. แก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ CO (g) 8. แกส๊ คำร์บอนมอนอกไซด์ 7. CaCl2 (s) + H2SO4 (aq)  CaSO4 (aq) + H2O (l) + 10. ขอ้ ใดเปน็ ปฏกิ ริ ยิ ำเคมีทีก่ อ่ ใหเ้ กดิ โทษ 5. กำรใช้ผงฟทู ำขนมหวำน CO2 (g) 6. กำรใชโ้ ซดำไฟลำ้ งหอ้ งนำ้ 7. กำรใช้ปูนมำล์ปรับสภำพดนิ 8. CaCl2 (s) + H2SO4 (aq)  CaSO4 (aq) + H2O (l) + 8. กำรเกดิ สนมิ เหลก็ ทรี่ ำวตำกผำ้ CO (g) 5. ถ้ำสำร A 3 กรมั ทำปฏิกิรยิ ำพอดกี ับสำร B 9 กรัม ได้ ผลติ ภณั ฑ์ เป็นสำร C 12 กรมั ถำ้ นำสำร A มำ 21 กรมั จะไดส้ ำร C กก่ี รมั 2. 60 กรมั 2. 64 กรัม 4. 80 กรัม 4. 84 กรัม 5. จำกสมกำร A + B  H2O (g) นักเรยี นคดิ วำ่ สำร A และ B คือ สำรใด ตำมลำดับ 5. คำร์บอนและไนโตรเจน 6. คำร์บอนและไฮโดรเจน 7. ไฮโดรเจนและไนโตรเจน 8. ไฮโดรเจนและออกซิเจน เฉลย 1. 1 2. 2 3. 1 4. 4 5. 4 6. 3 7. 2 8. 3 9. 2 10. 4 4


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook