มหาวทิ ยาลยั ธุรกจิ บัณฑิตย์ หลกั สูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบณั ฑติ ข้อแนะนาการเรียนรู้จากข้อสอบและผลการสอบ วิชา PS 5 01แนวคิด และทฤษฎรี ัฐประศาสนศาสตร์ ปี การศึกษา 2564
มหาวิทยาลัยธุรกจิ บณั ฑิตย์ ข้อสอบวชิ า PS 501 แนวคิด และทฤษฎีรัฐประศาสนศาสตร์ จานวน 3 หน่วยกิต วิทยาลยั /คณะรัฐประศาสนศาสตร์ ระดับ ปรญิ ญาตรี บัณฑิตศกึ ษา หลกั สตู ร รฐั ประศาสนศาสตรมหาบณั ฑติ รอบเวลาเรียน ภาคปกติ ภาคค่า/ภาคพิเศษ กาหนดการสง่ ข้อสอบ ภายในวันที่ 9 ตลุ าคม 2564 ในเวลาไมเ่ กิน 15.00 น. สอบปลายภาค ประจาภาคการศกึ ษาท่ี 0 ปีการศกึ ษา 2564 อาจารย์ผ้สู อน รองศาสตราจารย์ พพิ ฒั น์ ไทยอารี หลกั สตู รนาส่งข้อสอบใหน้ ักศกึ ษา วนั พธุ ท่ี 6 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 12.00น. ถงึ 13.00น. คาสง่ั 1. ข้อสอบมจี า่ นวน 1 ขอ้ 2. ขอใหน้ ักศึกษาส่งค่าตอบไมน่ ้อยกวา่ 3 หนา้ กระดาษ A 4 3. มุมขวาบนกระดาษใส่ รหสั นกั ศึกษา ชอื -สกุล 4. ก่อนน่าส่งกระดาษค่าตอบ ขอให้นักศึกษาบันทึกเป็น (.PDF) ตั้งชือ ไฟล์ ด้วยรหัสนักศึกษา ชอื -สกลุ เชน่ 6451580900XX จงกล สวุ รรรณไศละ 5. สง่ มายงั e mail : chongkol.suw @dpu.ac.th (คณุ จงกล สวุ รรณไศละ) “ พเี บียร์” ทางเมล์ในวนั ที่ 9 ตลุ าคม 2564 ในเวลาไม่เกิน 15.00น. ข้อสอบ ตามที่ผู้บังคับบัญชาของท่านได้มอบหมายเอกสารชุดต่างๆที่เก่ียวข้องและคิดว่าน่าจะเป็ น ประโยชน์ในการพจิ ารณาวเิ คราะห์ เพื่อให้อาจารย์ผ้รู ับผดิ ชอบ วชิ า PS 510 แนวคิด ทฤษฎรี ัฐประศาสน ศาสตร์ ใช้เป็ นกิจกรรมการศึกษา สาหรับประกอบสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ และฝึ กวธิ ีคิดในบริบท ของ สาขาวชิ ารัฐประศาสนศาสตร์น้ัน บัดนี้ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็ นผู้รับผิดชอบวิชาดังกล่าวได้นาผลการตอบกิจกรรมการศึกษาดังกล่าวของ ท่านเสนอให้ผู้บังคับบัญชาของท่านพจิ ารณาและขอคาวนิ ิจฉัยว่าผลงานหล่านี้เป็ นอย่างไรท้งั นีเ้ พ่ือขอ คาแนะนา และจะได้วางมาตรการเสริมสร้างสมรรถนะของผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านให้ตรงกับ เจตนารมย์ท้งั ของท่านและหน่วยงานของท่าน PAGE 1
ในการนี้ผลจากการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาของท่าน ได้แจ้งมาพร้อมกาชับให้ข้าพเจ้าในฐานะ ผ้รู ับผดิ ชอบวชิ าดังกล่าวเร่งรัดทาการเสริมสร้างศักยภาพและสร้างสมรรถนะในประเดน็ ดังนี้ 1.ความสามารถในการทาความเข้าใจคาถามและหรือคาสั่งทก่ี าหนดไว้ตามโจทย์ว่า โจทย์น้ันถามอะไร และความต้องการของผู้บังคับบัญชาในการมอบหมายงานน้ันน่าจะเป็ นอย่างไร (ไม่ใช่คิดจะเขียนอะไร หรือฝันอย่างไรกเ็ ขียนมาให้ผู้บังคบั บญั ชาอย่างน้ัน) 2.การรู้จักการจาแนกแจกแจง เนื้อหา ประเด็น องค์ประกอบทางวชิ าการ ทจี่ ะสัมพนั ธ์กบั เอกสารทไ่ี ด้รับ มอบหมายน้ันมอี ย่างไร (ไม่ใช่สรุปข้อความจากเอกสารในลกั ษณะย่อความ หรือ ตัดปะมาให้อ่าน) 3.การรู้จักทจ่ี ะทาการวเิ คราะห์ถงึ สาเหตุ และผลท่เี กดิ จากเหตุน้ัน ตามประเดน็ ทก่ี ล่าวไว้ในเอกสารน้ันๆ 4.การรู้จักทจ่ี ะแสวงหาข้อเสนอแนะโดยอาศัยประเดน็ หลักๆตามกรอบวชิ ารัฐประศาสนศาสตร์ (เช่น ปัจจัยทมี่ อี ทิ ธิพลต่อภารกจิ ในการบริหารจัดการภาครัฐ ประเด็นต่างๆทภี่ าครัฐจะต้องเผชิญ รูปแบบ ขององค์การหรือหน่วยงานที่จะต้องรับผดิ ชอบ ตลอดถึงเง่ือนไขต่างๆทเี่ กดิ ขนึ้ หรืออาจเกดิ ขนึ้ ตาม ข้อมูลในอกสาร เป็ นต้น) 5. สุดท้ายผมอยากให้อาจารย์พจิ ารณาว่า “อาจารย์จะสามารถทาได้หรือไม่จะช่วยชี้แนะให้เขาพจิ ารณา ว่า ตวั เขาควรพจิ ารณาสร้างสมความรู้ ความสามารถในการเผชิญกบั สถานะการณ์ต่างๆตามเอกสารทไ่ี ด้ เคยส่ งไปให้เขาน้ันอย่างไร” พร้อมนีผ้ ้บู ังคบั บัญชาของท่านได้ส่งเอกสารตามทแี่ นบมานีเ้ พ่ือให้เป็ นโจทย์ข้อสอบปลายภาค การศึกษา วชิ า PS 510 แนวคดิ ทฤษฎี รัฐประศาสนศาสตร์ ประจาปี การศึกษา 2564 PAGE 2
เอกสารแนบ วาระใหม่ประเทศไทยในโลกหลงั โควดิ -19 กบั สุวทิ ย์ เมษนิ ทรีย์ ศุภาวรรณ คงสุวรรณ์ 19 Jul 2021 https://www.the101.world/suvit- maesincee-interview/ Politics / Public Policy, Interviews จากความร้อนแรงของการเมืองโลกและไทย วกิ ฤตเศรษฐกิจ มาถึงโควดิ -19 อาจกล่าวไดว้ า่ สังคมไทย กาลงั เผชิญกบั โจทยย์ ากและทา้ ทายมากที่สุดคร้ังหน่ึง นอกจากปัญหาเฉพาะหนา้ ที่มีมากจนน่าหวน่ั ใจ แลว้ วกิ ฤตยงั เผยใหเ้ ห็นปัญหาเร้ือรังหลายดา้ นท่ีมีมาก่อนหนา้ และยงั ไมไ่ ดร้ ับการแกไ้ ข ดว้ ยความ ซบั ซอ้ นของวกิ ฤตเช่นน้ีจึงคลา้ ยเป็นเร่ืองยากท่ีจะจินตนาการวา่ ประเทศไทยในโลกหลงั โควดิ -19 จะ เป็นอยา่ งไร แตเ่ ร่ืองยากดงั กล่าวกเ็ ป็นโจทยส์ าคญั ที่จะตดั สินอนาคตของประเทศไทย และจาเป็ นตอ้ งต้งั หลกั คิดกนั ต้งั แตว่ นั น้ี ในช่วงเวลาหวั เล้ียวหวั ตอ่ ท่ีเราเร่ิมเห็นบางประเทศกลบั มาลืมตาอา้ ปาก อดั ฉีดนโยบายฟ้ื นฟู PAGE 3
ประเทศ และเขา้ ใกลเ้ ส้นชยั ผลดั เปล่ียนสู่โลกหลงั โรคระบาด คาถามสาคญั คือโจทยใ์ หญท่ ่ีเราตอ้ ง ทบทวนสะสางคืออะไร และเราจะเดินเกมอนาคตอยา่ งไร 101 ชวนสารวจวาระประเทศไทยกบั ดร.สุวทิ ย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์และนวตั กรรม เพอ่ื ต้งั โจทยใ์ หมข่ องประเทศไทยในโลกท่ีกาลงั ผนั ผวน คุณพ้นตาแหน่งทางการเมืองประมาณหน่ึงปี แล้ว เปรียบเทยี บกนั ระหว่างช่วงทมี่ ตี าแหน่งอย่กู บั ปัจจุบัน คุณมองเห็นสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไรบ้าง เรื่องไหนทมี่ แี นวโน้มไม่ค่อยดี เรื่องไหนท่ยี งั น่า กงั วลหรือเป็ นห่วงอยู่บ้าง เร่ืองท่ีน่ากงั วลคงเป็นการระบาดของโควดิ -19 ระลอกสี่ที่กาลงั เผชิญอยู่ กม็ ีสะดุดไปบา้ งในการส่ือสาร กบั ประชาชนและการสร้างความมนั่ ใจใหป้ ระชาชนในเร่ืองวคั ซีน ซ่ึงผมเชื่อวา่ วคั ซีนจะเป็นหน่ึงใน คาตอบท่ีทาใหส้ ภาวะเศรษฐกิจสงั คมของเรากลบั สู่สภาพเดิม เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดวกิ ฤตเชิงซอ้ นข้ึน วกิ ฤตโควดิ นามาสู่วกิ ฤตเศรษฐกิจ ซ่ึงตอนน้ีก็ถือวา่ รัฐบาลเอง พยายามจะทาใหท้ ุเลาลงใหม้ ากท่ีสุด พร้อมกนั น้นั เราก็มีวกิ ฤตทางการเมืองอยา่ งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะน้นั ช่วงเวลาน้ีถือเป็ นช่วงหวั เล้ียวหวั ต่อท่ีทา้ ทายของประเทศไทย ในขณะท่ีโลกเผชิญกบั โค วดิ -19 เหมือนกบั เรา หลายๆ ประเทศเริ่มฟ้ื นตวั แต่เรายงั เผชิญกบั วกิ ฤตเชิงซอ้ นอยู่ ก็ใหก้ าลงั ใจทุกภาค ส่วนที่กาลงั ทางานอยา่ งหนกั ครับในตอนน้ี การแก้ปัญหาและรับมือกบั วกิ ฤตเชิงซ้อนเช่นนี้ ควรต้งั ต้นจากตรงไหนก่อน ขอ้ ท่ีหน่ึง ภายใตว้ กิ ฤต การเมืองตอ้ งน่ิง สิ่งสาคญั ท่ีสุดคือความเป็นผนู้ าและการสร้างความเชื่อมน่ั ต่อ ใหว้ กิ ฤตจะเป็นอยา่ งไรก็ตาม ตอ้ งทาใหป้ ระชาชนมนั่ ใจวา่ รัฐจะสามารถนาพาฝ่ าฟันวกิ ฤตไปได้ ขอ้ ท่ีสอง เรารับมือและบริหารจดั การวกิ ฤตอยา่ งไร ช่วงการระบาดของโควดิ ระลอกแรกเราทางานได้ คอ่ นขา้ งดี แต่รอบน้ีอาจตอ้ งนง่ั ลุน้ วา่ ในช่วงที่โควดิ กลายพนั ธุ์และวคั ซีนยงั มาไมถ่ ึง เราจะบริหาร จดั การวกิ ฤตในระยะส้ันและกลางอยา่ งไร โดยพิจารณาควบคูไ่ ปกบั เร่ืองเศรษฐกิจซ่ึงกาลงั หนกั หน่วง มาก นอกจากการแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ และปัญหาเร่งด่วนซ่ึงเป็นเร่ืองสาคญั ก็ตอ้ งคิดวา่ หลงั โควดิ เราจะ เดินหนา้ ประเทศตอ่ ไปอยา่ งไร เช่น เรารู้วา่ เศรษฐกิจของเราผกู อยกู่ บั โควดิ ไมน่ อ้ ย ไมว่ า่ จะเป็นภาค บริการหรือการทอ่ งเที่ยว ในระยะยาวหลงั โควดิ จะทาอยา่ งไร เราตอ้ งคิดขา้ มไปอีกหน่ึงช็อต PAGE 4
ผมเคยพูดอยเู่ สมอวา่ เราอยใู่ นโลกท่ี ‘One world One destiny’ หรือหน่ึงโลกหน่ึงชะตากรรมร่วม สุขก็ สุขดว้ ยกนั ทุกขก์ ็ทุกขด์ ว้ ยกนั จากน้ีไป ผมถือวา่ วกิ ฤตจะกลายเป็น new normal จบโควดิ กอ็ าจมีวกิ ฤต climate change และวกิ ฤตอ่ืนๆ อีกมากมาย เราจะช่วยกนั รับมืออยา่ งไร เข้าปี ทส่ี องแล้วทเี่ ราอย่กู บั ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างโควดิ -19 ถือว่าประเทศไทยสามารถรับมือสถานการณ์ โควดิ ได้น่าพอใจหรือยงั อะไรเป็ นประเดน็ สาคญั ทป่ี ระเทศไทยควรจะให้ความสาคญั หรือควรเร่งแก้ไข ในช่วงหลงั การส่ือสารกบั ประชาชนแบบเปล่ียนไปเปลี่ยนมาทาใหเ้ กิดความไม่มน่ั ใจ ถือเป็นประเด็นท่ี ทา้ ทายผนู้ าอยา่ งมากวา่ จะส่ือสารแลว้ สร้างความเช่ือมนั่ ในเรื่องตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งไร อยา่ งก่อนหนา้ น้ีเห็น นายกฯ ประกาศนบั ถอยหลงั เปิ ดประเทศ แต่มนั จะเป็นไปไดจ้ ริงก็ต่อเม่ือเรามีวคั ซีนพร้อมท้งั ในแง่ ปริมาณและคุณภาพ รวมท้งั การกระจายวคั ซีนอยา่ งมีประสิทธิภาพ ส่ิงท่ีตอ้ งใหค้ วามสาคญั คือ หน่ึง ตอ้ งส่งสัญญาณเรื่องวคั ซีนวา่ ไดม้ าจริงหรือเปล่า ท้งั วคั ซีนทางเลือก และวคั ซีนหลกั เอาใหช้ ดั เจน สอง การจดั การกระจายวคั ซีน ถา้ เราสามารถป้องกนั การระบาดได้ มากกวา่ น้ี ก็จะส่งผลทางบวกกบั เศรษฐกิจ การสร้างความเชื่อมน่ั ใหก้ บั คนที่ไดฉ้ ีด ผมวา่ ก็เป็นส่ิงที่ รัฐบาลกาลงั ทาอยู่ แมว้ า่ จะมีตวั กวนสญั ญาณถูกๆ ผดิ ๆ อยบู่ า้ งกต็ าม คุณบอกว่าในขณะทร่ี ับมือปัญหาระยะส้ัน กต็ ้องมองหาวิธีรับมือกบั การเปลยี่ นแปลงระยะยาวด้วย หลงั จากวกิ ฤตโควดิ ผ่านไปแล้ว ประเทศไทยจะมีโจทย์สาคญั อะไรรออย่บู ้าง คาถามนี่สาคญั มาก เพราะจริงๆ ประเทศไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้างมาต้งั แต่ก่อนโควดิ เพยี งแต่พอน้า ลดตอผดุ โควิดทาใหเ้ กิดความหนกั หน่วงมากข้ึน สาหรับผมแลว้ ประเทศไทยกาลงั เจอกบั ดกั 4 อยา่ งที่ สาคญั เป็นกบั ดกั ที่เร้ือรัง ไม่ไดร้ ับการแกไ้ ขหรือปฏิรูปเชิงโครงสร้างอยา่ งแทจ้ ริง กบั ดกั แรกคือกบั ดกั ความเหล่ือมล้า ประเทศไทยมีความเหล่ือมล้าสูงมาก เป็นความเหลื่อมล้าที่ ผสมผสานกบั ความเป็นอภิสิทธ์ิชนและการคอร์รัปชนั เลยกลายเป็นวกิ ฤตเชิงซอ้ นท่ีแกย้ ากมาก กบั ดกั น้ีจะตอ้ งใชเ้ จตจานงทางการเมือง (political will) ใชค้ วามมุง่ มน่ั ต้งั ใจของผนู้ าอยา่ งแทจ้ ริงในการแก้ กบั ดกั ที่สองคือปัญหาทางการเมือง ซ่ึงผมขอเรียกวา่ ‘กบั ดกั 3 ป.’ คือ ‘ปฏิวตั ิ’ ‘ประชาธิปไตยเทียม’ และ ‘ประทว้ ง’ เรากาลงั เจอกบั วงจรอุบาทวข์ องการปฏิวตั ิรัฐประหาร หลงั การปฏิวตั ิก็เกิด ประชาธิปไตยที่เป็นประชาธิปไตยเทียม (pseudo democracy) นามาสู่การประทว้ งต่อตา้ น และเม่ือมีการ ประทว้ งต่อตา้ นก็จะเกิดการปฏิวตั ิข้ึนมาอีก เป็ นวงจรอุบาทว์ 3 ป. ที่ไมร่ ู้จบ กบั ดกั ท่ีสามคือกบั ดกั เชิงซอ้ นของทุนมนุษย์ ประเทศไทยมีคุณภาพคนค่อนขา้ งต่า แถมเรายงั เขา้ สู่สังคม ผสู้ ูงอายุ ในขณะที่คนวยั อ่ืนที่จะมาช่วยเหลือเก้ือหนุนผสู้ ูงอายกุ ม็ ีคุณภาพที่ต่าลง ตรงน้ีน่ากลวั นะครับ PAGE 5
เป็นกบั ดกั สองเดง้ เปรียบเทียบกบั บางประเทศ เขาอาจเป็ นสังคมผสู้ ูงอายุ แตค่ ุณภาพคนเขาดี โครงสร้างพ้ืนฐานเขาดี เขาก็อยไู่ ด้ กบั ดกั ที่ส่ีคือกบั ดกั การเป็นประเทศรายไดป้ านกลาง (middle-income trap) เป็นกบั ดกั ที่หลายคนพดู กนั มานาน คือเรารวยกวา่ น้ีไม่ไดแ้ ลว้ แถมเรายงั รวยแบบกระจุก ไม่ไดร้ วยกระจาย กบั ดกั น้ีเป็นประเด็น เชิงโครงสร้างที่มีมาก่อนโควิด ผมจึงเรียนวา่ เราตอ้ งไม่มวั งมอยแู่ ตก่ บั เรื่องโควดิ เราตอ้ งมองขา้ งหนา้ ถา้ เราไม่แกไ้ ขอยา่ งจริงจงั หลงั โควดิ เราจะตามประเทศอ่ืนไม่ทนั เพราะวกิ ฤตประเทศอื่นเร่ิมคล่ีคลาย แลว้ และเขาไมไ่ ดม้ ีปัญหาเชิงโครงสร้างเร้ือรังแบบเรา อะไรคือสาเหตุสาคญั ที่ทาให้ปัญหาเหล่านีไ้ ม่สามารถแก้ไขได้ ความไมจ่ ริงจงั ครับ เราไปปฏิรูปเร่ืองตา่ งๆ ทีละ 10-20 เรื่อง และเป็นการปฏิรูปในเชิง functional reform หรือการปฏิรูปทีละเร่ืองเลก็ ๆ แทนที่จะมองการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง การปฏิรูปที่แทจ้ ริงตอ้ งใช้ เจตจานงทางการเมือง (political will) และตอ้ งจาไวเ้ ลยวา่ การปฏิรูปน้นั no pain, no gain ไมเ่ จบ็ ปวด ก็ ไม่มีทางได้ เพราะฉะน้นั ถึงเวลาท่ีสังคมไทยตอ้ งผา่ ตดั อยา่ งเอาจริงเอาจงั ประเทศต่างๆ ที่เขาปฏิรูปไดอ้ ยา่ งต่อเน่ือง เช่น จีน สิงคโปร์ ทาไปถึงระดบั หน่ึงเขาก็ทะยานข้ึนมา แต่ ประเทศเราไมป่ ระสบความสาเร็จในการทาใหเ้ กิดการปฏิรูป ท่ีผา่ นมามีท้งั แรงตา้ นและแรงเฉื่อย คนที่ ไดป้ ระโยชน์รู้สึกวา่ ไม่เห็นจาเป็นตอ้ งปฏิรูป แตย่ งั มีคนท่ีเดือดร้อนและคนที่ไมร่ ู้แมก้ ระทง่ั วา่ จริงๆ ตอ้ งมีการปฏิรูปอยู่ เพราะฉะน้นั ประเทศไทยตอ้ งสร้างสปิ ริต ตอ้ งทาใหป้ ระชาชนรู้สึกวา่ ไม่ปฏิรูป ไม่ได้ เขาตอ้ งลุกข้ึนมาส่งเสียงวา่ ตอ้ งการอะไร ตอ้ งการเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไร และเป็นการ เปลี่ยนแปลงที่ไมใ่ ช่เพ่อื ตวั เองเพียงอยา่ งเดียวดว้ ย การปฏิรูปที่แทจ้ ริงทุกภาคส่วนตอ้ งมีส่วนร่วม แต่การปฏิรูปที่ผา่ นมาเป็ นการปฏิรูปท่ีขีดๆ เขียนๆ โดย คนไม่ก่ีคน ประชาชนแทบไมม่ ีส่วนร่วมเลย เราไม่เคย empower ภาคประชาชนให้แขง็ แรง โอกาสที่จะ ผลกั ดนั ใหเ้ กิดผลจึงยากมาก พอเกิดอะไรข้ึนภาคประชาชนก็ยงั ตอ้ งพ่ึงพงิ ภาครัฐ และภาครัฐก็ไม่ไดม้ ี ทรัพยากรและศกั ยภาพที่จะดูแลคนไดด้ ีมากพอ ถา้ เป็นอยา่ งน้ีต่อไป ถึงอยา่ งไรเราก็ไม่สามารถรองรับ การพ่งึ พงิ รูปแบบน้ีได้ การเคลื่อนไหวแบบใดถงึ จะเรียกว่าจริงจัง ปี ทผี่ ่านมาเราเหน็ การต่ืนตัวทางการเมืองและการออกมา เคล่ือนไหวของกล่มุ คนรุ่นใหม่ คุณมองว่านี่เป็ นความคืบหน้าหรือความจริงจังในการเปลยี่ นแปลง ประเทศไทยหรือเปล่า PAGE 6
ผมคิดวา่ ตอนน้ีเราควรจะอยใู่ นโลกของความเป็นจริง โลกสมยั ใหม่ที่มีหลากหลายความตอ้ งการ มีกลุ่ม กอ้ นที่แตกต่างกนั การเรียกร้องเป็นสิทธิของประชาชน เพราะฉะน้นั ผใู้ หญห่ รือผมู้ ีอานาจจึงตอ้ งฟังให้ เยอะ เป็น deep listener และ active listener หลายส่วนของการเรียกร้องสะทอ้ นความเดือดร้อนที่แทจ้ ริง ของเขา สะทอ้ นกบั ดกั ท้งั 4 และปะทุออกมาเป็นขอ้ เรียกร้องตา่ งๆ บางอยา่ งอาจเกินเลยไปบา้ ง แต่ บางอยา่ งกเ็ ป็นความจริง ผมเคยเรียนนายกฯ วา่ จริงๆ แลว้ ถา้ จะทาแผนการพฒั นาฉบบั ที่ 13 ใหเ้ ป็นเรื่องเป็นราว ควรจะมี นโยบายที่เก่ียวขอ้ งกบั เยาวชน โดยเป็ นนโยบายที่ ‘With youth, for youth, by youth’ ที่ใหเ้ ยาวชนเขียน ร่วมกบั เรา ไมใ่ ช่วา่ เราเป็นคุณพอ่ ผรู้ ู้ดีเขียนนโยบายเพือ่ เยาวชนอยา่ งเดียว โดยส่วนใหญผ่ มวา่ พวกเขามี เจตนารมณ์ที่ดี ช่วงที่ผา่ นมาอาจเลยเถิดไปบา้ ง แตใ่ นท่ีสุดเราตอ้ งต้งั หลกั ใหมว่ า่ จะอยูร่ ่วมกนั ในสังคม แบบน้ีอยา่ งไร ในสังคมที่คนบางกลุ่มอยากจะคงสถานะ มองวา่ อยใู่ นสภาพเดิมดีแลว้ แต่ขณะเดียวกนั ก็ มีคนที่รู้สึกวา่ โลกเปล่ียนไปต้งั นานแลว้ และเขาอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สาคญั ในสถานการณ์ แบบน้ีคนที่อยตู่ รงกลางระหวา่ งสองกลุ่มกอ้ นตอ้ งพาเขามาเจอกนั ไมใ่ ช่เพ่ือมาปะทะกนั แตต่ อ้ งมาหา คาตอบร่วมกนั คุณคดิ ว่ากระบวนการสาคญั ทจ่ี ะช่วยให้กลุ่มก้อนทเ่ี ห็นต่างหาคาตอบร่วมกนั ได้ควรเป็ นแบบไหน คนที่มีอานาจตอ้ งถอยหน่ึงกา้ ว เพ่ือใหค้ นท่ีเดือดร้อนมีโอกาสเขา้ มา ทุกอยา่ งอยทู่ ี่สปิ ริตวา่ สุดทา้ ยเรา ตอ้ งการอะไร ถา้ เราตอ้ งการเห็นการเปล่ียนแปลงในทิศทางท่ีดีข้ึน แมค้ นบางกลุ่มอาจจะมองอะไรอยา่ ง สุดโต่ง เพราะเขาอยใู่ นโลกท่ีมองไม่เห็นความสวยหรู เขามองวา่ ท่ีผา่ นมามนั ไมด่ ี จะจริงหรือไม่จริงก็ ไมร่ ู้ แต่เราตอ้ งฟังเขา และสร้างความเขา้ ใจพ้ืนฐานที่มีร่วมกนั (common ground) ไมอ่ ยา่ งน้นั จะเกิด เป็นสังคมสองข้วั อยตู่ ลอดเวลา ถา้ ผมมีอานาจหรือเป็ นภาครัฐ ผมตอ้ งเปิ ดใจรับฟังมากกวา่ จะมองเขา เป็นคู่ต่อสู้ ตอ้ งฟังเขาแบบจริงๆ จงั ๆ ไมใ่ ช่วา่ สักแตม่ ีเวทีรับฟังไปเรื่อย อนั น้นั มนั ของปลอม เม่ือมี ความเขา้ ใจร่วมถึงจะมีเป้าหมายร่วมได้ การบริหารจดั การภาครัฐยงั มีวธิ ีคิดท่ีค่อนขา้ งเก่าซ่ึงตอ้ งปล่อยตามสภาพ แตเ่ ป้าหมายยงั คงเดิมคือความ มน่ั คง แต่เราจะนิยามความมนั่ คงอยา่ งไร ความมนั่ คงไมใ่ ช่แค่ทุกคนตอ้ งอยใู่ นความสงบ แตม่ นั จะมี พลวตั มากข้ึน มีสีสนั มากข้ึน มีความตื่นรู้ต่ืนตวั มากข้ึน สิ่งเหล่าน้ีกดทบั ไม่ไดห้ รอกครับ ถึงวนั หน่ึงก็ จะเกิดพลวตั ของการเปลี่ยนแปลง หากเราอยากจะหลดุ พ้นจากกบั ดกั เรื้อรังท้งั 4 ผู้มีอานาจควรจะโฟกสั ไปทเี่ ร่ืองไหน หรือควรมีแนวทาง อย่างไรนับจากวนั นี้ PAGE 7
ก่อนหนา้ น้ีผมเคยเขียนถึง 7 วาระประเทศไทยหลงั โควดิ (วาระที่ 1.สร้างสงั คมที่เป็นธรรม, วาระท่ี 2.ปู ฐานราก ปักเสาหลกั ประชาธิปไตย, วาระที่ 3.ซ่อมวฒั นธรรมเดิม สร้างวฒั นธรรมใหม่, วาระที่ 4.รู้จกั เติม รู้จกั พอ รู้จกั ปัน, วาระที่ 5.สร้างรัฐที่น่าเชื่อถือ, วาระที่ 6.เปล่ียนกลไกขบั เคลื่อนเศรษฐกิจ และวาระ ที่ 7.เตรียมคนไทยสู่โลกท่ีหน่ึง ) น้าหนกั ของ 7 วาระไม่เทา่ กนั หรอก แต่จุดที่จะทาใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงคือการสร้างสงั คมท่ีเป็นธรรม ท่ีสงั คมเราวนุ่ วายกนั อยทู่ ุกวนั น้ีเพราะเกิดความไมเ่ ป็ นธรรมในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การ เขา้ ถึงทรัพยากรและอีกมากมาย จึงเกิดความเหล่ือมล้าและทาใหเ้ กิดความขดั แยง้ ความขดั แยง้ ก็ทาให้ เกิดความแตกแยกตามมา กลายเป็นวงจรอุบาทว์ เพราะฉะน้นั ปฐมบทของทุกเร่ืองคือความเป็นธรรม ถา้ เราสามารถสร้างความเป็นธรรมข้ึนมาไดอ้ ยา่ งแทจ้ ริง ผมเช่ือวา่ 4 กบั ดกั ท่ีผมบอกจะคลายตวั ลง สังคมไทยเคยอยใู่ นอิทธิพลของอุปถมั ภน์ ิยมและอานาจนิยม แต่ในโลกปัจจุบนั คนท่ีมีโอกาสหรือคนที่ ไดเ้ ปรียบตอ้ งถอยออกมากา้ วสองกา้ วเพื่อใหส้ ังคมอยไู่ ด้ สุขจะไดส้ ุขดว้ ยกนั ทุกขจ์ ะไดท้ ุกขด์ ว้ ยกนั ไมอ่ ยา่ งน้นั ถึงจุดหน่ึงเมื่อเกิดวกิ ฤตจริงๆ มนั อยไู่ มไ่ ดส้ กั คนนะครับ เราอยากใหไ้ ปถึงจุดน้นั หรือ สงั คม จะกลายเป็น me-society สังคมแบบพวกกู-ของกู แต่จริงๆ แลว้ เราอยากไดส้ งั คมแบบ we-society คือ สังคมของพวกเรา โดยเร่ิมตน้ จากสังคมที่เป็นธรรม จากวกิ ฤตโควดิ ทาให้ได้เห็นว่าเศรษฐกจิ ไทยเปราะบางมาก เศรษฐกจิ ได้รับผลกระทบหนักและฟื้ นฟูช้า ไม่ว่าจะพจิ ารณาจากตัวเลขเศรษฐกจิ ของเราเองหรือเปรียบเทยี บกบั เศรษฐกจิ ของประเทศอื่นๆ การที่ เศรษฐกจิ ไทยเปราะบางขนาดนีถ้ ือเป็ นเร่ืองทนี่ ่าแปลกใจหรือเปล่า เป็นความเซอร์ไพรส์ท่ีทานายได้ เพราะเราปล่อยใหโ้ ครงสร้างเศรษฐกิจเป็นอยา่ งน้ีมานานแสนนาน มี แตล่ มปากวา่ ตอ้ งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจนะ แต่ไม่เคยเกิดเป็นรูปธรรมจริง โครงสร้างของ เศรษฐกิจไทยเป็ นแบบปลาใหญก่ ก็ ินปลาเลก็ แลว้ ยงิ่ ถูกโหมกระหน่าดว้ ยกระแสโลกาภิวตั น์ ก็ยง่ิ เป็น เร่ืองท่ีตอ้ งตดั สินใจทางการเมืองอยา่ งจริงจงั วา่ เรากลา้ จะผา่ ตดั ไหม จะทาอยา่ งไรใหเ้ กิดการแบง่ ชิ้นพาย ที่เป็ นธรรมมากข้ึน ในการสร้างความเป็ นธรรมประเดน็ สาคญั คือ ทาไมเราไม่ทาใหพ้ ายใหญ่ข้ึนเพ่ือเผ่อื แผค่ นอ่ืนบา้ ง ประเทศอ่ืนเขามอง SME แบบจริงจงั บางประเทศมีกระทรวง SME ดว้ ยซ้า แต่เรามองสตาร์ทอพั หรือ SME เหมือนของเล่น ไมไ่ ดม้ องวา่ เขาเป็นพลงั ที่แทจ้ ริง จริงๆ ตอ้ งยกเคร่ืองขนานใหญ่ เพราะหลายคน เร่ิมลม้ หายตายจากไปในยคุ โควดิ แลว้ หลงั โควดิ เราจะมีอะไรขบั เคล่ือนประเทศล่ะนอกเหนือจากธุรกิจ รายใหญ่ ซ่ึงมนั ไม่เพยี งพอ ผมไม่ไดป้ ฏิเสธรายใหญน่ ะครับ แต่ผมคิดวา่ ประเทศอยไู่ ม่ไดห้ รอก ถา้ โครงสร้างเศรษฐกิจเปราะบางแบบน้ี PAGE 8
เร่ืองทรัพยากรมนุษย์ พอเกิดโควดิ เราก็บอกวา่ เรียนออนไลนส์ ิ แตมีคนท่ีมีปัญญาเรียนออนไลน์แบบมี ประสิทธิภาพมากนอ้ ยแค่ไหน แลว้ ยง่ิ พอ่ แม่ตอ้ ง work from home ส่วนบางคนที่ตกงานหรือไม่มีงาน ทาจากโควดิ ก็ตอ้ งคิดวา่ จะอยอู่ ยา่ งไร ผมเห็นตวั เลขของเด็กท่ีตอ้ งหลุดออกจากระบบการศึกษา ตอนน้ี 6,000 กวา่ คนแลว้ ยงั มีการประเมินวา่ จะหลุดออกจากระบบเกือบ 65,000 คนในปี การศึกษาน้ีอีก นี่คือ ความเหล่ือมล้าซ่ึงมาจากความไม่เป็นธรรม มาจากการปล่อยปละละเลย จากการที่รัฐไม่ลงทุนใน ทรัพยากรมนุษยอ์ ยา่ งจริงจงั โมเดลเศรษฐกจิ ทเี่ รากาลงั ใช้อย่ตู อนนีถ้ ือว่าเรามาถูกทางหรือเปล่า ปัญหาสาคญั ของการใช้นโยบาย ขับเคล่ือนเศรษฐกจิ ไทยตอนนีม้ เี รื่องอะไรบ้าง ถา้ มาถูกทาง หน้ีสินของภาคประชาชนคงไม่เยอะอยา่ งน้ี โอกาสในการสร้างรายไดข้ องประชาชนจะไม่ ถูกจากดั จาเข่ียแบบน้ี ไม่ตอ้ งมานงั่ กลวั วา่ เฮย้ เราจะถูก lay off หรือเปล่า ถา้ มาถูกทาง SME ตอ้ ง กลายเป็นพลงั สาคญั แบบเดียวกบั ไตห้ วนั และหลายๆ ประเทศ ฉะน้นั กย็ งั ไม่น่าจะถูกทาง บางอยา่ งเราก็ไปพ่งึ พิงอาศยั ต่างชาติเพียงแค่เมด็ เงินลงทุนและการจา้ งงาน ซ่ึงไมไ่ ดถ้ ่ายทอดทกั ษะหรือ เทคโนโลยอี ะไรเท่าไหร่ เราดูเหมือนประเทศที่ทนั สมยั แต่ไมพ่ ฒั นา เรามีทุกอยา่ ง แต่ถามวา่ เป็นของเรา หรือเปล่า ก็ไม่ใช่ ผมเคยเรียนท่านนายกไปวา่ ถึงเวลาท่ีตอ้ งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจแบบจริงจงั แตต่ อ้ ง สรุปบทเรียนของ 4 กบั ดกั ทาอยา่ งไรใหค้ นส่วนใหญม่ ีโอกาสเขา้ มามีส่วนร่วม เพราะผมวา่ นนั่ คือ กระบวนการประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ กระบวนการทาให้เป็นประชาธิปไตยมีอยสู่ องอยา่ งคือทางการเมืองกบั เศรษฐกิจ จริงๆ ปากทอ้ งตอ้ งมา ก่อน คนคงไมเ่ รียกหาแต่อุดมการณ์ทางการเมืองโดยที่เล้ียงปากทอ้ งไมไ่ ด้ เพราะฉะน้นั วธิ ีแกแ้ รกสุด ของรัฐคือทาใหเ้ กิดประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ (economic democratization) จึงเป็นที่มาที่ท่านนายก ประกาศวา่ โมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy: เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวยี น และเศรษฐกิจสีเขียว) เป็นวาระแห่งชาติ คือการนาส่ิงที่เรามีอยแู่ ลว้ มาสร้างความเขม้ แขง็ จากภายใน และเช่ือมไทยสู่ประชาคมโลก ท้งั เรื่องการเกษตร อาหาร สุขภาพและการแพทย์ พลงั งานสะอาด การ ท่องเที่ยว และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ท้งั หมดเป็นของเราอยูแ่ ลว้ แตเ่ ติมเตม็ ดว้ ยการบริหารการจดั การ นโยบายที่ชดั เจน และการใชเ้ ทคโนโลยี นอกจากน้ี อุตสาหกรรมที่อยใู่ นโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็น อุตสาหกรรมท่ีประชาชนมีส่วนร่วม BCG จึงเป็นโมเดลท่ีไมไ่ ดม้ ีแต่ธุรกิจรายใหญ่ แต่มีท้งั SME สตาร์ทอพั และวสิ าหกิจชุมชนอยดู่ ว้ ยกนั ผมคิดวา่ BCG ตอบโจทยส์ ามเรื่อง หน่ึง ตอบโจทยก์ ารเติบโตอยา่ งมีส่วนร่วม (inclusive growth) อยา่ ง นอ้ ยคนส่วนใหญม่ ีโอกาสเขา้ มาหยบิ ส่วนแบง่ ชิ้นพาย สอง ตอบโจทยก์ ารขบั เคลื่อนผลิตภาพดว้ ย PAGE 9
นวตั กรรม (productive growth engine) เช่น จะทาเกษตรแบบสมยั ก่อนไมไ่ ด้ ตอ้ งเป็น smart farming ตอ้ งมองวา่ เทคโนโลยเี ป็นเร่ืองใกลต้ วั สาม ตอบโจทยค์ วามสมดุล โมเดลเศรษฐกิจที่ผา่ นมาเนน้ เรื่อง เศรษฐกิจ แตม่ ีตน้ ทุนที่ตอ้ งจ่ายท้งั ในดา้ นสังคม ส่ิงแวดลอ้ ม และความเป็นมนุษยเ์ ยอะมาก BCG คือ การตดั สินใจบนฐานของโลกอนาคต ถา้ ทาดีๆ จะไม่ไดต้ อบโจทยเ์ ฉพาะในประเทศไทย แต่จะตอบ โจทยใ์ นระดบั โลกดว้ ย คุณพดู ถงึ หลายเรื่องเกย่ี วกบั การเมืองและเศรษฐกจิ ต้งั แต่สมัยทอ่ี ยู่ในตาแหน่งทางการเมือง แต่จะเห็น ว่านโยบายท้งั การเมืองและเศรษฐกจิ ทอี่ อกมา ไม่ใช่ทุกเรื่องทจี่ ะถูกตอบรับหรือผลกั ดนั ให้เป็ นรูปธรรม คุณคิดว่าอะไรคือปัญหาทเ่ี ป็ นคอขวดสาคัญในการผลกั ดันนโยบายทด่ี ีของประเทศไทย ความโชคร้ายของประเทศไทยมีอยสู่ องปัจจยั คือ ปัจจยั ภายในและปัจจยั ภายนอก ปัจจยั ภายนอกตอนน้ี คือโควดิ ซ่ึงควบคุมไมไ่ ด้ ถือวา่ เป็น negative-sum game คือทุกคนโดนหมด ตวั ใครตวั มนั สภาพ เศรษฐกิจทรุดตวั ลงท้งั ระบบท้งั โลก แต่ปัจจยั ภายในคือการท่ีการเมืองเราไม่นิ่ง ถา้ การเมืองนิ่งเราจะ สามารถบริหารจดั การส่ิงต่างๆ ไดเ้ หมือนกบั การโตค้ ลื่น วกิ ฤตคือคลื่นระลอกแลว้ ระลอกเล่า แต่วดั ฝีมือกนั ที่การโตค้ ล่ืน ไม่ใช่ฝี มือของการทาใหไ้ มเ่ กิดคลื่น ฉะน้นั ถา้ เราการเมืองนิ่ง ผนู้ ามีวสิ ัยทศั น์ และ กลา้ ตดั สินใจเร่ืองท่ีสาคญั ผมเช่ือวา่ เราจะรับมือปัจจยั ภายนอกไดไ้ ม่วา่ จะเป็นอยา่ งไร ในการผลกั ดันแผนยุทธศาสตร์ของประเทศไทยซึ่งเป็ นนโยบายระยะยาว ไม่ว่าจะเป็ นยทุ ธศาสตร์ชาติ แผนเศรษฐกจิ หรือโครงการต่างๆ หลายคนต้ังข้อสังเกตว่าบางนโยบายซ้อนทบั กนั เป็ นการพดู เร่ือง เดียวกนั แต่ออกมาหลายฉบบั หลายเค้าโครง ในอนาคตถ้าหากเราจะผลกั ดนั ยุทธศาสตร์ของประเทศ ไทยอย่างม่ันคงและถูกทศิ ทางเราควรจะมวี ธิ ีการกาหนดนโยบายประเทศไทยอย่างไร เร่ืองแรก ผมวา่ ตอ้ งช่วยกนั กลา้ คิดกลา้ ฝันวา่ ประเทศไทยหลงั โควดิ จะเป็นอยา่ งไร ในเม่ือโควดิ รีเซ็ตทุก ประเทศ มีโอกาสที่จะทาใหบ้ างประเทศทรุดตวั ลงและทาใหป้ ระเทศบางประเทศทะยานข้ึนมาได้ เราจึง ตอ้ งมองใหข้ าดวา่ ประเทศไทยจะเดินต่อไปอยา่ งไรหลงั โควดิ เรื่องท่ีสอง ผมคิดวา่ เราทาแผนนโยบายอยบู่ นเปเปอร์เยอะ แตไ่ ดท้ าจริงหรือเปล่า ทาแลว้ มีอิมแพคหรือ เปล่า มีการจดั ลาดบั ความสาคญั หรือเปล่า ถา้ ทาไม่ได้ เป็ นเพราะอะไร สาหรับผมยทุ ธศาสตร์ท่ีดีตอ้ งมี คาสองคาคือ ยทุ ธศาสตร์ (strategic) และ ปฏิบตั ินิยม (pragmatism) เราตอ้ งมองยทุ ธศาสตร์ภาพใหญ่ เชิงโครงสร้าง ไมต่ อ้ งทาเยอะ แตท่ าแลว้ เกิดการเปลี่ยนแปลงอยา่ งมียทุ ธศาสตร์ และตอ้ งปฏิบตั ิได้ ปัญหาบา้ นเราคือเขียนแผนไปปฏิบตั ิไมไ่ ด้ แต่เราก็ปล่อยใหม้ นั เป็นแบบน้ีแลว้ ก็เขียนใหม่ PAGE 10
นอกจากน้ี ประชาชนตอ้ งมีสปิ ริตในการปฏิรูป ตอ้ งรู้สึกวา่ อยอู่ ยา่ งน้ีไม่ได้ อยากจะเปลี่ยนแปลง ตอ่ ให้ ไมร่ ู้วา่ จะเปล่ียนอยา่ งไร อยา่ งนอ้ ยก็ใหอ้ ยากมีส่วนร่วนในการผลกั ดนั ถา้ สปิ ริตแบบน้ีไม่เกิดข้ึน เราจะ ไม่มีทางท่ีจะเห็นรูปธรรมของการเปลี่ยนแปลงอยา่ งชดั เจนในอนาคต ผมคิดวา่ แผนนโยบายของเรา คอ่ นขา้ งมีลกั ษณะแบบบนลงล่าง แผนบางอยา่ งในโลกหลงั ศตวรรษ 21 ตอ้ งมีลกั ษณะบนลงล่างจริง เพราะเป็นวกิ ฤตท่ีตอ้ งมีศูนยก์ ลางในการขบั เคล่ือน แตห่ ลายเร่ืองตอ้ งปล่อยออกไปให้ชุมชน ใหพ้ ้นื ท่ี ในการจดั การตวั เองได้ การคิดวา่ ประชาชนมีหนา้ ที่เป็ นแคผ่ ปู้ ฏิบตั ิหรือประชาชนควรจะมีส่วนร่วม แค่ น้ีก็ตา่ งกนั แลว้ ปัจจุบันคุณเป็ นทป่ี รึกษาและเป็ นคณะทางานปรับปรุงระบบข้าราชการ แน่นอนว่า ข้าราชการเป็ นตวั แปรหนึ่งทช่ี ี้วดั ว่านโยบายที่ภาครัฐกาหนด จะถูกนาไปผลกั ดนั และปฏิบตั ติ ่ออย่างไร คุณมองเห็น ปัญหาของระบบราชการไทยอย่างไร คดิ ว่าควรปรับเปลย่ี นหรือปรับปรุงอย่างไรบ้าง ขอ้ ดีของระบบราชการคือเป็ นระบบท่ีมีความต่อเน่ือง เม่ือเทียบกบั ระบบการเมืองท่ียงั ลุ่มๆ ดอนๆ เด๋ียว กม็ าเด๋ียวก็ไป และเป็นระบบท่ีมีแบบแผนกฎเกณฑท์ ี่ใชก้ บั ทุกคนได้ แต่ระบบราชการกม็ ีจุดบกพร่อง อยหู่ ลายจุด จุดแรกคือความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการเมืองกบั ขา้ ราชการ ถา้ การเมืองยงั คงแทรกแซงระบบ ราชการได้ จะไปหวงั อะไรกบั ระบบราชการมากไมไ่ ด้ เพราะเม่ือไหร่ท่ีมีอานาจเหนือนโยบาย หลาย อยา่ งจะรวนหมด คนดีๆ ท่ีอยใู่ นระบบราชการกเ็ สียกาลงั ใจ เพราะฉะน้นั ก่อนจะออกแบบวา่ ทาอยา่ งไร ใหร้ ะบบราชการมีประชาชนเป็นศูนยก์ ลาง คาถามแรกคือระบบการจดั การและปกครองราชการเป็ น อยา่ งไร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งการเมืองซ่ึงเป็ นผวู้ างนโยบาย กบั ราชการท่ีควรเป็นผูด้ าเนินการ มนั ไม่ ชดั เจน และไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุลอานาจ ตอ้ งปฏิรูปคร้ังใหญ่วา่ จากน้ีไปการเมืองกบั ราชการจะอยู่ กนั อยา่ งไร จุดบกพร่องท่ีสองคือ หลายเรื่องๆ ไมค่ วรให้ราชการทาแลว้ บางเร่ืองสามารถใหภ้ าคเอกชนหรือภาค ประชาสงั คมไปทาไดแ้ ลว้ บางคร้ังเราปล่อยใหเ้ ขาทา แต่ยงั ซอ้ นเขาไวอ้ ยู่ ยงั กลา้ ๆ กลวั ๆ ท่ีจะปล่อยสุด การร่วมทุนระหวา่ งภาครัฐและเอกชน (public–private partnership) ท่ีไม่ชดั เจนทาให้ระบบราชการเรา กลายเป็น big government, small society และเป็น big government ที่ไมม่ ีประสิทธิภาพดว้ ย น่ีเป็นโจทย์ ท่ีตอ้ งคิดวา่ จะแกอ้ ยา่ งไร กระทง่ั เร่ือง digital government หรือการนาเทคโนโลยดี ิจิทลั มาประยกุ ตใ์ ช้ จริงๆ วนั น้ีควรตอ้ งทาแลว้ เพราะจะช่วยใหเ้ กิดความโปร่งใสโดยปริยาย การบริการจะถูกลง เร็วข้ึน และคุณภาพดีข้ึนในเวลา เดียวกนั ถามวา่ เร่ืองดิจิทลั พูดมาเป็นสิบปี แลว้ ทาไมยงั ไมค่ ืบหนา้ ผมกไ็ มร่ ู้วา่ เพราะมีวาระซอ้ นเร้นหรือ เปล่า เช่น กลวั วา่ เม่ือมีดิจิทลั แลว้ เด๋ียวอานาจเดิมๆ จะหายไป เพราะหลายส่ิงหลายอยา่ งทาใหไ้ ม่ตอ้ งใช้ PAGE 11
คนและประชาชนสามารถตรวจสอบอะไรไดเ้ อง บา้ นเราชอบเป็นอยา่ งน้ี มีอะไรซ่อนอยซู่ ่ึงยากท่ีจะ อธิบาย แตค่ นท่ีเป็ นผนู้ าทางการเมืองตอ้ งใชค้ วามกลา้ ทางการเมือง เรื่องดิจิทลั จาเป็นตอ้ งทา รีบทาเถอะ ครับ ใหเ้ ดดไลนไ์ ปเลยวา่ หน่ึงปี ตอ้ งเสร็จหมด ไม่ใช่สะเปะสะปะเป็นหยอ่ มๆ อยา่ งที่เราเห็นทุกวนั น้ี *หมายเหตุ บทสัมภาษณ์เรียบเรียงจากรายการ 101 One-on-One Ep.229 ‘วาระใหมป่ ระเทศไทยในโลก หลงั โควดิ -19’ กบั สุวทิ ยเ์ มษนิ ทรีย์ สมั ภาษณ์เมื่อวนั ที่ 21 มิ.ย. 2564 เรียบเรียง: ศุภาวรรณ คงสุวรรณ์ จบจากร้ัววารสารฯ ธรรมศาสตร์ รักท่ีจะถ่ายทอด เร่ืองราวต่างๆ ดว้ ยน้าเสียง สนุกสนาน เขา้ ถึงคนรุ่นใหม่ สนใจประเด็นเร่ืองเพศ และ เชื่อในการบอกเล่าเรื่องราวของผคู้ นอยา่ งเท่าเทียม PAGE 12
ตอนที่ 1 ข้อแนะนาในการตอบข้อสอบ สาหรับนักศึกษาหลกั สูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบณั ฑิต วชิ า PS 510 แนวคดิ ทฤษฎรี ัฐประศาสนศาสตร์ ปี การศึกษา 2564 ขอ้ คิดจากคาถามตามขอ้ สอบและขอ้ พิจารณาในการตอบขอ้ สอบของนกั ศึกษา ปี การศึกษา 4652 1. คาถามในขอ้ สอบมีอยา่ งไร คาถามในขอ้ สอบสามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 ส่วน คือ 1. คาถามที่เป็นเชิงปรารภของผบู้ งั คบั บญั ชา ซ่ึงมีประเด็นดงั น้ี 1.1 การทาความเขา้ ใจคาถามหรือคาส่งั ท่ีกาหนดไว้ 1.2 การรู้จกั การจาแนกและแจกแจงเน้ือหา ประเดน็ องคป์ ระกอบทางวิชาการที่จะสมั พนั ธ์ กบั เอกสารท่ีไดร้ ับมอบหมาย 1.3 การรู้จกั ท่ีจะวิเคราะห์ถึงสาเหตุและผลที่จะเกิดจากเหตุน้นั ตามท่ีปรากฎตามเอกสาร ไดร้ ับมอบหมาย 1.4 การรู้จกั ท่ีจะแสวงหาหรือคน้ ควา้ หาขอ้ เสนอแนะแก่คาถามหรือประเด็นท่ีกาหนดไว้ โดยอาศยั ประเดน็ หลกั ๆ ตามกรอบวชิ า 1.5 ความสามารถที่จะพจิ ารณาวา่ ผตู้ อบคาถามน้นั จะตอ้ งสร้างสมความรู้ ความสามารถใน การเผชิญกบั สถานการณ์ต่างๆ ตามที่ปรากฏในเอกสารอยา่ งไร 2. คาถามที่เป็ นเน้ือหาจากเอสารแนบท่ีไดร้ ับมอบหมายให้ไปอ่านประกอบ ซ่ึงมีเน้ือหาและ ประเดน็ ดงั น้ี 2.1 การเผชิญโจทยท์ ี่ยากและประเดน็ ทา้ ทายที่มากท่ีสุด 2.1.1 ปัญหาเฉพาะหนา้ 2.1.2 ปัญหาเร้ือรัง 2.1.3 ความซบั ซอ้ นของวกิ ฤต 2.1.4 การจินตนาการวา่ หลงั โควดิ -19 จะเป็นอยา่ งไร PAGE 13
2.2 การมองสถานการณ์ของผใู้ หส้ ัมภาษณ์ (ดร.สุวทิ ย์ เมษินทรีย)์ 2.2.1 การมองสถานการณ์ในช่วงท่ีมีตาแหน่งและเมื่อพน้ จากตาแหน่งมาแลว้ 2.2.2 ความกงั กลจากการระบาดของโคววดิ -19 ระลอกท่ี 4 2.2.2.1 การสื่อสารกบั ประชาชน 2.2.2.2 การสร้างความมนั่ ใจแก่ประชาชนในเร่ืองวคั ซีน 2.2.2.3 วคั ซีนจะเป็นคาตอบที่ทาใหภ้ าวะเศรษฐกิจกลบั สู่สภาวะเดิม 2.2.2.4 วกิ ฤตเชิงซอ้ น คือ วกิ ฤตโควดิ ตอ่ เศรษฐกิจ และวกิ ฤตการเมือง 2.2.2.5 หลายประเทศเริ่มฟ้ื นตวั แต่ไทยยงั เผชิญวกิ ฤตเชิงซอ้ น 2.3 การแกป้ ัญหา การรับมือ และการกาหนดจุดต้งั ตน้ 2.3.1 การเมืองตอ้ งน่ิง ซ่ึงมีประเดน็ ดงั น้ี 2.3.1.1 ความเป็ นผูน้ าและการสร้างความเชื่อมน่ั ให้ประชาชนมนั่ ใจว่ารัฐจะ สามารถนาพาฝ่ าฟันวกิ ฤตได้ 2.3.1.2 การรับมือและบริหารจดั การวิกฤต ซ่ึงเป็ นการบริหารจดั การระยะส้ัน และระยะกลาง ควบคู่ไปกบั เศรษฐกิจที่หนกั 2.3.1.3 การวางแผนการแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ และเร่งด่วนที่จะเดินหนา้ ประเทศ 2.3.2 สถานการณ์โควิดเป็ นสถานการณ์ที่ผูกติดกับเศรษฐกิจภาคบริการ การ ท่องเที่ยว 2.3.3 การอยใู่ นโลกที่มีชะตากรรมร่วมกนั 2.3.4 วกิ ฤตจะกลายเป็นประเดน็ new normal ซ่ึงจะมีเรื่องอ่ืนๆตามมา 2.3.5 การส่ือสารกบั ประชาชนที่เปล่ียนไปเปล่ียนมาทาให้ประชาชนเกิดความไม่ มนั่ ใจ 2.3.6 การสื่อสารเป็นประเด็นทา้ ทายแก่ผนู้ า 2.4 การนบั ถอยหลงั การเปิ ดประเทศซ่ึงจะสัมพนั ธ์กบั ประเด็นอะไรบา้ ง เช่น เรื่องวคั ซีน การดูแลผคู้ นเขา้ ประเทศ 2.4.1 การบริหารจดั การเร่ืองวคั ซีน 2.4.1.1 ดา้ นปริมาณวคั ซีนท่ีจะตอ้ งมี 2.4.1.2 คุณภาพของวคั ซีน PAGE 14
2.4.1.3 การกระจายวคั ซีนอยา่ งมีประสิทธิภาพ 2.4.2 การส่งสัญญาณเร่ืองวคั ซีนในมิติต่าง ๆ 2.4.2.1 จะไดว้ คั ซีนมาจริงไหม 2.4.2.2 วคั ซีนทางเลือก วคั ซีนหลกั 2.4.2.3 การจดั การกระจายวคั ซีน 2.4.2.4 ความสามารถในการป้องกนั การระบาด 2.4.2.5 การบริหารจดั การตวั กวนสญั ญาณ 3. ขอ้ คิดที่ผใู้ หส้ ัมภาษณ์ (ดร.สุวทิ ย์ เมษินทรีย)์ มีความเห็นวา่ เป็นโจทยส์ าคญั รออยู่ 3.1 ปัญหาเรื่องโครงสร้างท่ีเป็นปัญหาท่ีไมไ่ ดร้ ับการแกไ้ ขอยา่ งแทจ้ ริง คือ 3.1.1 ปัญหาด้านความเหล่ือมล้าซ่ึงเป็ นปัญหาท่ีผสมผสานกบั ความเป็ นอภิสิทธ์ิ การคอรัปชน่ั จนกลายเป็นวกิ ฤตเชิงซอ้ น 3.1.2 ปัญหาทางการเมือง คือ ปฏิวตั ิ ประชาธิปไตยเทียม และประทว้ ง เป็ นวงจร อุบาทว์ 3.1.3 ปัญหาเชิงซ้อนของทุนมนุษย์ คุณภาพคนต่า สังคมผู้สูงอายุ คนที่เข้ามา เก้ือหนุนผสู้ ูงอายมุ ีคุณภาพต่าลง 3.1.4 การเป็ นประเทศรายไดป้ านกลาง การรวยแบบกระจุกไม่ไดร้ วยแบบกระจาย เป็ นเร่ื องโครงสร้างทางเศรษฐกิจ (ผศู้ ึกษาควรพจิ ารณาประเด็นเหล่าน้ีแลว้ นาเสนอวา่ ควรมีแนวคิดในการแกไ้ ข อยา่ งไร) 3.2 การไมส่ ามารถแกไ้ ขปัญหาไดเ้ น่ืองจาก 3.2.1 ความไม่จริงจงั ในการปฏิรูปซ่ึงควรจะเน้นเร่ืองโครงสร้างแต่กลบั ปฏิรูปแต่ เร่ืองเลก็ ๆ 3.2.2 การปฏิรูปจาเป็นตอ้ งสร้างเจตจานงทางการเมือง 3.2.3 การปฏิรูปตอ้ งมีความเจบ็ ปวด ตอ้ งผา่ ตดั เอาจริงเอาจงั 3.2.4 การปฏิรูปท่ีผา่ นมามีท้งั แรงตา้ นและแรงเฉื่อย มีกลุ่มคนท่ีไดป้ ระโยชน์ ซ่ึงไม่ รู้สึกวา่ ตอ้ งปฏิรูป คนท่ีเดื่อดร้อนและคนท่ีไม่รู้จริงๆวา่ ตอ้ งปฏิรูป PAGE 15
3.2.5 การสร้างความรู้สึกแก่ประชาชนให้รู้ว่าไม่ปฏิรูปไม่ไดแ้ ลว้ ตอ้ งลุกข้ึนมาส่ง เสียงและการเปล่ียนแปลงตอ้ งไมใ่ ช่เพ่ือตวั เอง 3.2.6 การปฏิรูปตอ้ งให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ไม่ใช่ขีดเขียนโดยคนไม่ก่ีคน (การ ขาดการให้ empower แก่ภาคประชาชน 3.2.7 การท่ีประชาชนต้องพ่ึงพาพ่ึงพิงภาครัฐ ขณะน้ีภาครัฐไม่มีทรัพยากรและ ศกั ยภาพท่ีจะดูแลไดด้ ีพอซ่ึงต่อไปจะไมส่ ามารถรับภารกิจน้ีได้ (ผศู้ ึกษาควรพิจารณาประเด็นเหล่าน้ีแลว้ นาเสนอวา่ ควรมีแนวคิดในการแกไ้ ข อยา่ งไร) 4. ขอ้ เสนอ (ของผใู้ หส้ มั ภาษณ์ ดร.สุวทิ ย์ เมษินทรีย)์ 4.1 การทาความเขา้ ใจวา่ โลกสมยั ใหมม่ ีความหลากหลายของความตอ้ งการ 4.2 ลกั ษณะของกลุ่มกอ้ นคนมีความแตกต่างกนั 4.3 การเรียกร้องสิทธิเป็นสิทธิของประชาชน 4.4 ผมู้ ีอานาจ บทบาท ตอ้ งฟังใหล้ ึกซ้ึง และตอ้ งเป็นการฟังท่ีกระตือรือร้น 4.5 การทบทวนภาพสะทอ้ นท่ีเป็นกบั ดกั ท้งั 4 ขอ้ 4.6 ควรมีนโยบายที่เก่ียวขอ้ งกบั เยาวชน ไมใ่ ช่ทาตวั เป็นคุณพอ่ รู้ดี 4.7 ควรต้งั หลกั วา่ เราจะอยใู่ นสังคมแบบน้ีอยา่ งไร 4.8 การจดั ระบบใหค้ นท่ีอยากอยูใ่ นสงั คมแบบเดิม คนท่ีเห็นวา่ โลกเปลี่ยนไปแลว้ คนท่ี อยตู่ รงกลาง ตอ้ งพาเขามาพบปะ หาคาตอบร่วมกนั (ผศู้ ึกษาควรพิจารณาประเด็นเหล่าน้ีและเสนอวา่ ควรมีแนวทางดาเนินการใหเ้ ป็ น รูปธรรมอยา่ งไร) 5. กระบวนการที่(ผใู้ หส้ ัมภาษณ์ ดร.สุวทิ ย์ เมษินทรีย์ เสนอแนะ) 5.1 คนที่มีอานาจตอ้ งถอยเพ่อื ให้คนที่เดือดร้อนมีโอกาสเขา้ มา 5.2 การดาเนินการตอ้ งมีจิตใจจะเห็นวา่ สุดทา้ ยตอ้ งการอะไร 5.3 ตอ้ งฟังเขาและสร้างความเขา้ ใจพ้นื ฐานร่วมกนั 5.4 ตอ้ งฟังเขาแบบจริงจงั ๆ ไมใ่ ช่สกั แต่มีเวที 6. การพจิ ารณาการบริหารจดั การภาครัฐตอ้ งคานึงถึงวธิ ีคิดของคนภาครัฐ 6.1 วธิ ีคิดของคนภาครัฐยงั มีคนท่ีคิดค่อนขา้ งเก่า PAGE 16
(ดูกิจกรรมการศึกษาในช้นั เรียน เรื่องทาอยา่ งไรใหป้ ระชาชนหายโง่) 6.2 ความมน่ั คงตอ้ งนิยามใหช้ ดั เจน 6.3 ความเป็นพลวตั รมีเพ่มิ มากข้ึน มีสีสนั ต่ืนตวั มากข้ึน กดทบั ไมไ่ ด้ วนั หน่ึงจะเกิดพล วตั รของการเปลี่ยนแปลง 7. ขอ้ เสนอใหผ้ มู้ ีอานาจพจิ ารณา มี 7 วาระ ประเทศไทยหลงั โควดิ 7.1 การสร้างสังคมท่ีเป็นธรรม 7.2 การปูฐานราก ปักเสาหลกั ประชาธิปไตย 7.3 ซ่อมวฒั นธรรมเดิม สร้างวฒั นธรรมใหม่ 7.4 รู้จกั เติม รู้จกั พอ รู้จกั ปัน 7.5 สร้างรัฐที่น่าเช่ือถือ 7.6 เปลี่ยนกลไกขบั เคลื่อนเศรษฐกิจ 7.7 เตรียมคนไทยสู่โลกท่ีหน่ึง น้าหนกั อยทู่ ี่การสร้างสังคมที่เป็นธรรม ความไม่เป็นธรรมนาไปสู่ความแตกแยก 8. สภาพสงั คมไทยเป็นสงั คมท่ีอยภู่ ายใตอ้ ิทธิพลของอุปถมั ภน์ ิยมและอานาจนิยม 8.1 ภายใตส้ ภาพเช่นน้ีผทู้ ่ีมีโอกาสหรือไดเ้ ปรียบตอ้ งถอยออกมา เพ่อื ใหส้ งั คมอยไู่ ด้ 8.2 ตอ้ งทาใหส้ งั คมเป็นสงั คมของพวกเรา 9. วกิ ฤตโควดิ ทาให้เห็นวา่ เศรษฐกิจไทยมีความเปราะบาง 9.1 การปล่อยใหโ้ ครงสร้างเศรษฐกิจเป็นไปในลกั ษณะปลาใหญ่กินปลาเล็ก 9.2 การทาใหพ้ ้ืนที่เศรษฐกิจขยายตวั ข้ึน มีพลงั เพ่ิมข้ึน แต่หลงั โควดิ จะมีแต่ธุรกิจขนาด ใหญ่ 9.3 ประเดน็ ทรัพยากรมนุษยท์ ่ีจะช่วยสนบั สนุนโครงสร้างเศรษฐกิจ 9.4 การพิจารณาหน้ีสินภาคประชาน 9.5 การพ่ึงพาอาศยั การลงทุน และจา้ งงานจากต่างชาติ แต่ไม่มีการถ่ายทอดทกั ษะหรือ เทคโนโลยี 10. กระบวนการทาใหเ้ ป็นประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ 10.1 การสร้างโมเดล BCG (Bio-Circular-Green Economy – ชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวยี น เศรษฐกิจสีเขียว) PAGE 17
10.2 การเชื่อมไทยเขา้ สู่ประชาคมโลกในสาขาเศรษฐกิจต่างๆ 10.3 การเติมเตม็ ดว้ ยการบริหารจดั การ นโยบายท่ีชดั เจน 10.4 อุตสาหกรรม BCG ตอ้ งเป็นอุตสาหกรรมท่ีประชาชนมีส่วนร่วมไม่ใช่มีแคธ่ ุรกิจราย ใหญ่ 10.5 การใช้ BCG เพอ่ื ตอบโจทยท์ ่ีเป็นปัจจยั เร้ือรัง 10.5.1 การเติบโตอยา่ งมีส่วนร่วม 10.5.2 การขบั เคลื่อนผลิตภาพดว้ ยนวตั กรรมตอ้ งมองวา่ เทคโนโลยเี ป็นเรื่องใกลต้ วั 10.5.3 ความสมดุลย์ เดิมเนน้ เศรษฐกิจ แต่มีตน้ ทุนดา้ นสงั คม สิ่งแวดลอ้ ม ความเป็น มนุษย์ 10.5.4 BCG เป็นการตอบโจทยใ์ นระดบั โลกดว้ ย 11. ขอ้ จากดั ในการผลกั ดนั นโยบาย 11.1 ปัจจยั ภายนอกท่ีควบคุมไมไ่ ด้ ทุกคนทว่ั โลกโดนหมด 11.2 ปัจจยั ภายในการเมืองไมน่ ิ่ง 11.3 การเผชิญวกิ ฤตเป็นการแสดงฝีมือ 11.4 การทาใหก้ ารเมืองน่ิง ผนู้ าตอ้ งมีวสิ ัยทศั น์ กลา้ ตดั สินใจ 11.5 กลา้ คิด กลา้ ฝัน สามารถมองออกวา่ จะเดินตอ่ ไปอยา่ งไร (โควดิ ทาใหบ้ างประเทศ ทรุด บางประเทศทะยาน) 11.6 การทาแผนเป็นแผนอยบุ่ นกระดาษ ทาไดจ้ ริงไหม ผลลพั ธ์อยา่ งไร รู้สาเหตุท่ีทาไม่ได้ ไหม 11.7 ประชาชนตอ้ งมีจิตใจในการปฏิรูป อยอู่ ยา่ งน้ีไม่ได้ ตอ้ งอยากมีส่วนร่วม 11.8 แผนนโยบายมีลกั ษณะบนลงล่าง ตอ้ งมีบางเร่ืองท่ีปล่อยใหช้ ุมชน 12. ระบบราชาการ ขา้ ราชการควรปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงอยา่ งไร 12.1 ระบบราชการมีความตอ่ เน่ือง PAGE 18
12.2 ระบบราชการมีแบบแผน กฎเกณฑท์ ่ีใชก้ นั ทุกคนได้ 12.3 จุดบกพร่อง คือความสัมพนั ธ์ระหวา่ งการเมืองกบั ขา้ ราชการ (ผศู้ ึกษาควรพจิ ารณาประเด็นน้ีโดยนาขอ้ มูลจากกิจกรรมการศึกษา คร้ังที่ 1 มา ประกอบการพจิ ารณา) 12.4 ระบบการจดั การและปกครองราชการเป็นอยา่ งไร ความสมั พนั ธ์ไม่ชดั เจน ไม่มีการ ตรวจสอบ ถ่วงดุลอานาจ เป็นเรื่องท่ีตอ้ งปฏิรูปคร้ังใหญ่ 12.5 กิจกรรมของรัฐหลายเรื่องไมค่ วรใหร้ าชการทาแลว้ ควรใหเ้ อกชน หรือภาคประชา สงั คมไปทา 12.6 การร่วมทุนระหวา่ งภาครัฐและภาคเอกชนไมช่ ดั เจน ระบบราชการกลายเป็น big government small society และเป็น big government ที่ไม่มีประสิทธิภาพ 12.7 การใชด้ ิจิตลั จะช่วยในการตดั สินใจและโปร่งใส PAGE 19
การเช่ือมโยงคาปรารภของผ้บู งั คบั กจิ กรรมการศึกษา กจิ กรรมการศึกษาในช้ันเรียน กจิ กรรมการศึกษา คร้ังที่ 1 กจิ กรรมการศึกษา คร้ังท่ี 2 กจิ กรรมการศึกษา คร้ังท่ี 3 กจิ กรรมการศึกษา คร้ังท่ี 4 กจิ กรรมการศึกษา คร้ังที่ 5
บบญั ชากบั ข้อมูลในเอกสารข้อสอบ ข้อมูลในเอกสารข้อสอบ
การใช้กรอบวชิ าเพ่ือทาการวเิ ครา กรอบวชิ า แนวคดิ ทฤษฎรี ัฐประศาสนศาสตร์ ปรัชญา แนวคดิ บทบาทรัฐทางการเมือง เศรษฐกจิ สังคม บทบาทรัฐในการจัดการภาครัฐ พฒั นาการการศึกษารัฐประศาสนศาสตร์ การจดั การภาครัฐแบบใหม่ การจัดรูปแบบความสัมพนั ธ์ขององค์การประเภทต่างๆ ระดับชาติ ภูมภิ าค และระหว่างประเทศ การเสริมสร้างจริยธรรม คุณธรรม ธรรมาภิบาล การพฒั นาระบบและมาตรฐาน การพฒั นาความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกจิ และ ภาคประชาสังคม นวตั กรรมใหม่ๆทมี่ ผี ลต่อการจัดการภาครัฐ พฤตกิ รรมในการบริหาร
าะห์ สังเคราะห์ข้อมูลจากเอกสาร สรุป ข้อมูลในเอกสารข้อสอบ
แนวการศึกษา แนวคดิ ทฤษฎรี ัฐประศาสนศาสตร์ อดุ มการณ์ของรัฐ สัญลกั ษณ์และค่านิยมของสังคมและเศรษฐกจิ จริยธรรมขององค์การ (หน่วยงาน)ในภาครัฐ สภาพปัญหาทมี่ ผี ลกระทบต่อการบริหารจัดการภาครัฐ ขนาด จานวนขององค์การภาครัฐ ภาวะในการนา ผู้นาขององค์การภาครัฐ แนวการศึกษา แนวคดิ ทฤษฎรี ัฐประศาสนศาสตร์ สถานการณ์โควดิ -19 สถานการณ์ในศตวรรษท่ี 21 เป็ นอย่างไรหรือจะเป็ นอย่างไร รัฐบาลชาตใิ นภาวการณ์ปรับเปลย่ี น กลไกในการเปลย่ี นแปลง การปรับเปลยี่ นทคี่ าดหวงั ในระดบั ท้องถน่ิ การเปลย่ี นแปลงคุณลกั ษณะของภาครัฐ
ข้อมูลในเอกสารข้อสอบ สรุป ข้อมูลในเอกสารข้อสอบ สรุป
การจับประเดน็ จากเอกสารข้อสอบเ ประเด็นโจทย์ทย่ี ากและท้าทาย ปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาเรื้อรัง ความซับซ้อนของวกิ ฤต จินตนาการภายหลงั วกิ ฤต (โควดิ -19) ความกงั วลจากวกิ ฤต (โควดิ -19) การสื่อสารกบั ประชาชน การสร้างความมนั่ ใจแก่ประชาชนในเรื่อง... คาตอบทจี่ ะทาให้ภาวะกลบั สู่สภาวะเดมิ วกิ ฤตเชิงซ้อนทีม่ ตี ่อวกิ ฤตทปี่ รากฎ การฟื้ นตวั ของรายอื่นแต่ฝ่ ายเรายงั เผชิญวกิ ฤตอยู่
เพ่ือสืบค้นงานวชิ าการและงานวจิ ัย สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ยั แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ัย สรุป
การแก้ปัญหา การรับมือ การเมืองต้องนิ่ง ความเป็ นผู้นา การสร้างความเช่ือมน่ั การรับมือและบริหารวกิ ฤตเป็ นงานระยะส้ันและปานกลาง การรับมือและบริหารวิกฤตเป็ นงานต้องทาควบคู่กบั เศรษฐกจิ การวางแผนเฉพาะหน้าเร่งด่วนทจ่ี ะเดินหน้าประเทศ การแก้ปัญหา การรับมือ สถานการณ์ สถานการณ์ผูกติดกบั เศรษฐกจิ ใดบ้าง การอยู่ในโลกทร่ี ่วมชะตาเดียวกนั วกิ ฤตกลายเป็ น New Normal ทจี่ ะมเี ร่ืองอ่ืนตามมา การสื่อสารกบั ประชาชนเปลย่ี นไปเปลยี่ นมา ทาให้เกดิ ความไม่ มนั่ ใจ การส่ือสารเป็ นประเด็นท้าทายผู้นา
อ การกาหนดจุดเริ่มต้น สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ยั อ การกาหนดจุดเริ่มต้น สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ัย
การบริหารจัดการวคั ซีน ปริมาณทจ่ี ะต้องมี คุณภาพของวคั ซีน การกระจายอย่างมปี ระสิทธิภาพ ประเด็นทส่ี ัมพนั ธ์กบั การน การส่งสัญญาณเรื่องวคั ซีนในมติ ติ ่างๆ จะได้วคั ซีนมาจริงไหม วคั ซีนทางเลือก วคั ซีนหลกั การจดั การกระจายวคั ซีน ความสามารถในการป้องกนั การระบาด การบริหารจดั การตัวกวนสัญญาณ
แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ัย สรุป นับถอยหลงั การเปิ ดประเทศ สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ัย
ข้อคดิ ต่อโจทย ปัญหาโครงสร้างทไ่ี ม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจงั ปัญหาเร่ืองความเหลื่อมลา้ อภสิ ิทธ์ชิ น คอร์รัปชั่น ปัญหาการเมือง 3 ป วงจรอบุ าทว์ ปัญหาเชิงซ้อนของทนุ มนุษย์คุณภาพตา่ การเป็ นประเทศรายได้ปานกลาง รวยกระจุก ไม่ได้กระจาย ข้อคดิ ต่อโจทย์ส การไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ความไม่จริงจังในการปฏริ ุป การปฏริ ุปต้องสร้างเจตจานงทางการเมือง การปฏริ ุปต้องมคี วามเจ็บปวด เอาจริงเอาจงั การปฏริ ุปมที ้งั แรงต้านและแรงเฉ่ือย ประชาชนต้องรู้ว่าไม่ปฏริ ูปไม่ได้ การปฏริ ุปต้องให้ทกุ ภาคส่วนมสี ่วนร่วม การทป่ี ระชาชนต้องพงึ่ พาภาครัฐแต่รัฐไม่มศี ักยภาพพอ
ย์สาคญั ทร่ี ออยู่ สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ยั สาคญั ทร่ี ออยู่ สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ยั
ข้อเสนอทผ่ี ู้ให้ส ประเดน็ หลกั ทาความเข้าใจว่าโลกสมยั ไหม่มคี วามหลากหลาย ลกั ษณะของกล่มุ ก้อนมคี วามแตกต่างกนั การเรียกร้องสิทธเิ ป็ นสิทธิของประชาชน ผู้มอี านาจต้องฟังให้ลกึ ซึ้ง กระตือรือร้น การทบทวนภาพสะท้อนทเ่ี ป็ นกบั ดกั ท้งั 4 ข้อ ควรมนี โยบายทใ่ี ห้เยาวชนร่วมคดิ ไม่ใช่ทาเป็ นคุณพ่อรู้ดี ต้องต้ังหลกั ว่าเราจะอยู่ในสังคมแบบนีอ้ ย่างไร จัดระบบให้คนทเี่ ห็นต่างพบปะหาคาตอบร่วมกนั สภาพสัง ประเด็นหลกั อยุ่ภายใต้อปุ ถมั ภ์นิยมและอานาจนิยม ผู้มโี อกาสหรือได้เปรียบต้องถอยออกมา ต้องทาให้สังคมเป็ นสังคมของพวกเรา
สัมภาษณ์เสนอ สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ัย งคมไทย สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ยั
ข้อเสนอกระบวน ประเด็นหลกั คนทมี่ อี านาจต้องถอยและให้โอกาสคนเดือดร้อนมโี อกาส การดาเนินการต้องรู้ว่าสุดท้ายต้องการอะไร ต้องฟังเขาและสร้างความเข้าใจร่วมกนั ต้องฟังเขาจริงๆจงั ๆไม่ใช่จดั เวทเี ท่าน้ัน การพจิ ารณาวธิ คี ประเด็นหลกั วธิ ีคดิ คนภาครัฐค่อนข้างเก่า ความมนั่ คงของรัฐต้องนยิ ามให้ชัดเจน ความเป็ นพลวตั รมเี พมิ่ มากขนึ้ ตื่นตวั มากขนึ้
นการดาเนินการ สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ัย คดิ ของคนภาครัฐ สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ัย
ประเด็นหลกั ข้อเสนอ 7 วาระประ การสร้างสังคมทเี่ ป็ นธรรม การให้นา้ หนักแก การปูฐานราก ปักเสาหลกั ประชาธิปไตย ซ่อมวฒั นธรรมเดิม สร้างวฒั นธรรมใหม่ รู้จกั เตมิ รู้จักพอ รู้จักปัน สร้างรัฐทนี่ ่าเชื่อถือ เปลยี่ นกลไกขบั เคลื่อนเศรษฐกจิ เตรียมคนไทยสู่โลกทหี่ นึ่ง การสร้างสังคมทเ่ี ป็ นธรรม ความไม่เป็ นธรรมนาไปสู่ความแตกแยก
ะเทศไทยหลงั โควดิ สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ยั ก่ประเดน็ ข้างต้น
วกิ ฤตโควดิ ทาให้เห็นว่าเศร ประเด็นหลกั การปล่อยให้โครงสร้างเศรษฐกจิ มลี กั ษณะปลาใหญ่กนิ ปลาเลก็ หลงั โควดิ จะมแี ต่ธุรกจิ ขนาดใหญ่ ต้องทาให้พืน้ ทเี่ ศรษฐกจิ ขยายตัวขนึ้ ประเด็นทรัพยากรมนุษย์สนับสนุนโครงสร้างเศรษฐกจิ การพจิ ารณาหนีส้ ินภาคประชาชน การลงทุนจากต่างชาติต้องคานงึ ถึงการถ่ายทอดทกั ษะและ เทคโนโลยี
รษฐกจิ มคี วามเปราะบาง สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ยั
กระบวนการประชาธ ประเดน็ หลกั การสร้างโมเดล BCG การเช่ือมไทยสู่ประชาคมโลกในสาขาเศรษฐกจิ ต่างๆ การบริหารจัดการ นโยบายทชี่ ัดเจน อตุ สาหกรรม BCG ต้องมปี ระชาชนร่วม การใช้ BCG ตอบโจทย์ปัญหาเรื้อรัง
ธปิ ไตยทางเศรษฐกจิ สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ยั
ข้อจากดั ในการผ ประเด็นหลกั ปัจจัยภายนอกทค่ี วบคุมไม่ได้ ทว่ั โลกโดนหมด ปัจจัยภายในการเมืองไม่นิ่ง การเผชิญวกิ ฤตเป็ นการแสดงฝี มือ ผู้นาต้องมวี สิ ัยทศั น์ กล้าตดั สินใจ กล้าคดิ กล้าฝัน มองออกว่าจะเดินต่ออย่างไร การทาแผนต้องทาได้จริง สังคมต้องมจี ิตใจปฏริ ูป แผนนโยบายเป็ นแบบบนลงล่าง การปล่อยให้ชุมชนทาบ้าง
ผลกั ดนั นโยบาย สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ัย
ระบบราชการ ข้าราชการควรปร ประเด็นหลกั ระบบมคี วามต่อเนื่อง ระบบมรี ะเบยี บแบบแผน กฎเกณฑ์ใช้ได้กบั ทุกคน มจี ุดบกพร่องทคี่ วามสัมพนั ธ์ระหว่างการเมืองกบั ข้าราชการ ระบบการจัดการและปกครองไม่ชัดเจน ไม่มกี ารตรวจสอบ ถ่วงดุลอานาจ กจิ กรรมหลายเรื่องราชการไม่ควรทาภาคเอกชนหรือประชา สังคมทาได้ การร่วมทนุ รัฐเอกชนไม่ชัดเจน การใช้ดิจทิ ลั ช่วยในการตัดสินใจและสร้างความโปร่งใส
รับเปลยี่ นหรือปรับปรุงอย่างไร สรุป แนวคดิ วชิ าการและงานวจิ ยั
ตอนท่ี 3 ตวั อย่างการจดั ระบบคดิ เพื่อการนาเสนอคาตอบ 1. การนาขอ้ มูลจากงานเขียนของ Woodrow Wilson, Nicholas Henry, Robert V. Denhardt และปกรณ์ ศิริประกอบ มาสร้างประเด็นเพ่ือเป็ นกรอบคิดในการนาเสนอ 2. ในข้นั น้ีควรนาประเด็นหลกั ที่ผเู้ ขียนท้งั 4 ท่านไดก้ ล่าวไวม้ าพจิ ารณาวา่ มีประเด็นใดบา้ ง (ประมวลไดจ้ ากการทากิจกรรมการศึกษา คร้ังที่ 1 ท้งั น้ีเพอื่ กาหนดเป็ นแนวสาหรับการจดั ขอ้ มูลจากเอกสารแนบขอ้ สอบมาพจิ ารณาอธิบาย ขยาย ความตามประเดน็ ท่ีตาราต่างๆที่ผเู้ ขียนไดน้ าเสนอไว้ 3. ขอ้ มูลจากเอกสารแนบประกอบขอ้ สอบมีประเด็นที่สามารถจดั เป็ นชุดความรู้ไวไ้ ดด้ งั น้ี 3.1 การสารวจตรวจสอบสถานการณ์ที่เป็ นประเด็นปัญหาและประเดน็ ทา้ ทาย 3.2 การบริหารจดั การภาครัฐในสถานการณ์ปกติและสถานการณืวกิ ฤต 3.3 ความเชื่อมน่ั ของประชาชนต่อการบริหารจดั การภาครัฐ 3.4 การส่ือสารจากผูม้ ีอานาจต่อประชาชน 3.5 ภาวะในการนาของผมู้ ีอานาจ 3.6 การทาความเขา้ ใจในเรื่องความมนั่ คง วธิ ีคิดเก่ียวกบั ประชาธิปไตย กลยทุ ธ์ในการ นาแนวคิดประชาธิปไตยมาใชด้ าเนินการทางเศรษฐกิจ 3.7 นโยบายสาธารณะ การกาหนด การประเมินและการไมส่ ามารถบรรลุเป้าหมาย 3.8 ระบบราชการ คุณภาพขา้ ราชการ 3.9 การสร้างทรัพยากรมนุษยแ์ ละการผลกั ดนั ใหป้ ระเทศมีศกั ยภาพในการเขา้ สู่เวทีโลก ท่ีหน่ึง ฯลฯ PAGE 20
Search
Read the Text Version
- 1 - 49
Pages: