Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือพัฒนาทักษะงานอาชีพ (รวมเล่ม)

คู่มือพัฒนาทักษะงานอาชีพ (รวมเล่ม)

Published by phinyaphat thongsong, 2022-07-25 03:54:02

Description: คู่มือพัฒนาทักษะงานอาชีพ (รวมเล่ม)

Search

Read the Text Version

คมู่ อื พฒั นาทกั ษะงานอาชพี (การเพาะเห็ด) ปกี ารศึกษา 2565 วา่ ทีร่ ้อยตรีหญงิ เพ็ญผกามาศ แสนสุข ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย โรงเรียนสาหรบั คนพิการทางร่างกายและการเคลอื่ นไหว ของจังหวดั นครศรธี รรมราช สงั กัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ค่มู ือ พัฒนาทักษะงานอาชีพสำหรบั นกั เรียนทมี่ คี วามบกพรอ่ ง ทางรา่ งกายและการเคลอื่ นไหว กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ ระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔-๖ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 จัดทำโดย วา่ ท่ีร.ต.หญงิ เพ็ญผกามาศ แสนสขุ ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย โรงเรยี นสำหรบั คนพิการทางรา่ งกายและการเคล่อื นไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานชวั่ คราว เลขท่ี ๒๐ หมู่ 8 ตำบลหนองหงส์ อำเภอทุ่งสง จงั หวัดนครศรีธรรมราช สงั กดั สำนกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ก บันทึกขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรียนสำหรบั คนพกิ ารทางร่างกายและการเคลอื่ นไหวของจงั หวดั นครศรีธรรมราช ท่ี รร. พก.นศ /๒๕๖๕ วันท่ี ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เรื่อง การจัดทำคู่มอื การพัฒนาทักษะงานอาชพี เพื่อการมีงานทำเกษตรกรรม (การเพาะเห็ด ) เรยี น ผู้อำนวยการโรงเรียนสำหรบั คนพกิ ารทางรา่ งกายและการเคล่ือนไหวของจังหวดั นครศรธี รรมราช ตามที่ขา้ พเจ้า วา่ ท่รี .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ ตำแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย ได้รับผดิ ชอบในการจัดการเรียน การสอนทักษะอาชีพ การเพาะเห็ด กลุ่มบริหารงานวิชาการ โรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและ การเคลื่อนไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔-๖ ของการจัดการเรียนการสอน สำหรับนักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางร่างกายและการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ เพื่อฝึกให้นักเรียนได้เรยี นรู้และ เกิดความถนัดในอาชีพ และสามารถนำไปประกอบอาชีพช่วยเหลือตนเองได้หลังจบการศึกษาขา้ พเจ้าจึงจดั ทำ คมู่ อื การพฒั นาทกั ษะงานอาชีพ การเพาะเหด็ ข้ึนในการจัดการเรยี นการสอนสำหรับนักเรยี น ในการนี้ข้าพเจ้า ได้จัดทำคู่มือ พัฒนาทักษะอาชีพ การเพาะเห็ด จึงขออนุมัติดำเนินการ นำคู่มือ ดงั กลา่ วไปใชใ้ นการจดั การเรียนการสอนตอ่ ไป จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณา ลงช่ือ ว่าท่ีร.ต.หญงิ ...........................ผรู้ ายงาน (เพ็ญผกามาศ แสนสขุ ) ตำแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย ความคิดเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ความคดิ เห็นของรองผู้อำนวยการ ..................................................................... …....................................................... ..................................................................... …....................................................... ลงชื่อ.............................................ผ้เู หน็ ชอบ ลงชื่อ...............................................ผเู้ ห็นชอบ (นางสาวภทั ธิรา พทุ ธเจรญิ ) (นางเสาวนชุ นาฏ จันสนธิ) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ ลงชอ่ื .....................................................ผู้อนมุ ัติ ( นางวรี ะดี กองแกว้ ) ผจู้ ดั ทำ ว่าที่ร.ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรับคนพกิ ารทางร่างกายและการเคล่ือนไหวของจงั หวดั นครศรธี รรมราช

ข คำอนมุ ัตใิ ห้ใชห้ ลักสตู ร ตามท่ี กลุ่มทักษะงานอาชีพเพื่อการมีงานทำเกษตร การเพาะเห็ด กลุ่มบริหารวิชาการ โรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดทำคู่มือการพัฒนา ทักษะงานอาชีพเกษตรของนักเรียน การเพาะเห็ด ในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔-๖ เวลาเรียน ๖๐ ชั่วโมง ตอ่ ภาคเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหวของจังหวัด นครศรีธรรมราช ได้พิจารณาการทำคู่มือการพัฒนาทักษะงานอาชีพเกษตรกรรม การเพาะเห็ด มีความสอดคล้องกับความต้องการเหมาะสมกับผู้เรียนบริบทของสถานศกึ ษา และชุมชน ทำให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะเกี่ยวกับงานอาชพี การเพาะเห็ด มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพเกษตรกรรม สามารถนำความรู้ ไปใช้ในการประกอบอาชีพและเปน็ พืน้ ฐานต่อการศกึ ษาต่อสายอาชีพในอนาคตได้ คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหวของจังหวัด นครศรีธรรมราช จึงเห็นชอบให้ใช้คู่มือการพัฒนาทักษะงานอาชีพเกษตรกรรม การเพาะเห็ด เป็นคู่มือในการ จดั การเรยี นการสอน ในสถานศึกษาต่อไป ทัง้ นี้ ตัง้ แต่วันท่ี ๑๗ เดอื น พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ลงช่ือ……………………………………ผูเ้ ห็นชอบ ลงชอ่ื ………………………………………ผู้อนุมตั ิ (นายนยิ ม คำแหง) (นางวรี ะดี กองแก้ว) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน ผ้อู ำนวยการโรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกาย โรงเรยี นสำหรับคนพกิ ารทางร่างกายและการ และการเคลอื่ นไหวของจังหวัดนครศรธี รรมราช เคลอื่ นไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้จดั ทำ วา่ ทร่ี .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรบั คนพิการทางร่างกายและการเคล่อื นไหวของจงั หวัดนครศรีธรรมราช

ค คำอธบิ ายการใช้ คู่มือการพัฒนาทักษะงานอาชีพเพื่อการมีงานทำเกษตรกรรม การเพาะเห็ด สำหรับนักเรียนที่มี ความบกพร่องทางร่างกายและการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ ระดับชั้นประถมปีที่ ๖ จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนา ด้านทักษะงานอาชีพเกษตร การเพาะเห็ด ให้เกิดความถนัดและความชำนาญของนักเรียน โรงเรียนสำหรับ คนพิการทางรา่ งกายและการเคล่ือนไหวจงั หวดั นครศรธี รรมราช ประกอบดว้ ย ๑. คดั เลือกความถนัดและสนใจของนักเรียนในการเรยี นกลมุ่ ทักษะงานอาชีพแตล่ ะคน ๒. ศึกษารายละเอียดการใช้เอกสารประกอบการเรียนให้เข้าใจก่อนใช้ประกอบการจัด การเรยี นการสอนอยา่ งละเอยี ด ๓. ครูควรจัดสภาพแวดล้อม สื่อการเรียนการสอนให้พร้อมสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนใหก้ ับนักเรยี นแต่ละคน ๔. ชี้แจงให้นักเรียนศึกษาคำแนะนำสำหรับนักเรียน ให้เข้าใจอย่างละเอียดก่อนใช้เอกสาร ประกอบการเรยี น จากนั้นดำเนินการจดั การเรยี นการสอนตามลำดบั ข้ันตอน ๕. ฝึกทักษะงานอาชีพในการเรียนรู้การเพาะเห็ด สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่อง ทางร่างกายและการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ ๖. สง่ เสรมิ การเรียนรู้โดยการปฏิบัติจรงิ เพ่ือให้เกดิ ความชำนาญ กระบวนการจัดทำ คู่มือการพัฒนาทักษะงานอาชีพเพื่อการมีงานทำเกษตรกรรม การเพาะเห็ด จดั ทำขึน้ โดยมีการวเิ คราะห์หลักสูตร และสภาพปัญหาความต้องการของสถานศึกษา บรบิ ทของครูผู้สอน และ นักเรียนแล้วมาออกแบบเนื้อหากิจกรรมให้เหมาะสมกับธรรมชาติ และบริบทของนักเรียน ดำเนินการสร้าง ต้นฉบับออกแบบภาพประกอบ ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา และได้มีการให้ดำเนินการปรับปรุงและ นำไปใช้กับนกั เรียนได้ พรอ้ มทัง้ รายงานผลตามลำดบั เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นคู่มือในการพัฒนาทักษะการปลูกผักสวนครัวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ยกระดบั ทักษะการเพาะเห็ด สำหรับนกั เรียนทมี่ คี วามบกพร่องทางร่างกายหรอื การเคลอ่ื นหรือสขุ ภาพ กลุ่มเปา้ หมาย ประกอบด้วย นักเรยี นในระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ รวมท้ังครผู ู้สอน และผเู้ กยี่ วข้อง ก็สามารถนำไปใชใ้ นการพัฒนาทักษะการเพาะเหด็ ได้ ครูผู้สอนควรให้ความรู้ ความเข้าใจและสร้างความตระหนัก ให้กับผู้เรียน ถึงความสำคัญของ การ เพาะเห็ด เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นเกิดความสนใจในการพฒั นาทกั ษะการเพาะเห็ด ผ้ทู ีศ่ กึ ษาเอกสารคู่มือฉบบั น้ี ควรมีการประเมินผลพฒั นาทักษะการเพาะเห็ด ในระยะๆเวลาที่เหมาะ เพอื่ ให้เหน็ ถึงแนวโน้มการพฒั นาทักษะการเพาะเห็ด และเพือ่ ประเมนิ ความพร้อมในการฝึกทักษะงานเกษตร ด้านอืน่ ๆ ต่อไป ผ้จู ดั ทำ วา่ ทีร่ .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรบั คนพกิ ารทางร่างกายและการเคลื่อนไหวของจงั หวดั นครศรีธรรมราช

ง คำนำ คู่มือการพัฒนาทักษะการสอนการเพาะเห็ด ระดับกลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สำหรบั นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้งานเกษตร ซึ่งเป็นเอกสารประกอบการสอนที่มี ความหลากหลาย ผู้เรียนจะได้พัฒนาทักษะพร้อมทั้งได้รบั ความรู้ความเพลิดเพลินจากการเรยี นรู้กิจกรรมและ ศึกษาหาความรู้จากใบความรู้ด้วยตนเอง สามารถนาไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการดำรงชีวิตได้อย่าง มคี วามสุข โรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและเคลื่อนไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีนโยบาย ด้านการศึกษาและพัฒนาการเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประกอบอาชีพ ตามความถนดั ของนักเรียน โดยมงุ่ เนน้ การเพิ่มทักษะงานอาชีพให้แก่นักเรยี น ข้าพเจา้ จึงจัดทำคู่มือการพัฒนา ทักษะการเพาะเห็ด ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ขึ้นเพื่อยกระดับการพัฒนาทักษะการเพาะเห็ด สำหรับ นักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่างกายและการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ ของนักเรียนโรงเรียนสำหรับคนพิการ ทางร่างกายและการเคลื่อนไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช เอกสารประกอบการพัฒนาทักษะการสอนวิชาการเพาะเห็ด ได้เรียงลำดับ เนื้อหาไปตามขั้นตอน การเรียนรู้ จากง่ายไปหายาก และยังมีภาพประกอบให้ผู้เรียนเกิดความสนใจเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น รวมทั้ง แบบฝึกทักษะและใบงานในแต่ละเรื่องจะเป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียนรู้และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวันได้ หวังเป็นอยา่ งย่ิงว่า ผศู้ ึกษาทกุ คนท่ีจะมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะการเพาะเห็ด สำหรับนักเรียน พิการ จะมีกระบวนความรู้การพัฒนาที่ดีขึ้น และสามารถไปสู่การพัฒนาทักษะงานเกษตรด้านอื่นๆ ทีม่ ีประสิทธิภาพต่อไป ว่าท่รี .ต.หญงิ ................. (เพ็ญผกามาศ แสนสขุ ) ผจู้ ดั ทำ ผูจ้ ดั ทำ ว่าท่รี .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรับคนพกิ ารทางรา่ งกายและการเคล่ือนไหวของจงั หวดั นครศรีธรรมราช

สารบัญ จ เรื่อง หน้า บันทึกข้อความ ก คำอนมุ ตั ใิ หใ้ ช้หลกั สตู ร ข คำอธบิ ายการใช้ ค คำนำ ง สารบัญ จ คำอธบิ ายการใชส้ ำหรับครู ฉ คำอธบิ ายการใชส้ ำหรบั นกั เรียน ช คมู่ ือการพัฒนาทักษะการเพาะเหด็ ตามหลักสูตร ซ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ ความรู้ทว่ั ไปเก่ียวกบั เพาะเหด็ ๑ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ ประเภทของเหด็ ๒ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๓ ความรู้เกย่ี วกบั การจัดการตลาด ๗ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ การทำบัญชี ๑๑ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๕ คุณธรรมในการประกอบอาชีพ ๑๓ คณะทำงาน ๑๖ บรรณานุกรม ๑๗ ภาคผนวก ๑๘ ผ้จู ดั ทำ ว่าทร่ี .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรับคนพกิ ารทางร่างกายและการเคลือ่ นไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช

ฉ คำอธิบายการใชส้ ำหรับครู คู่มือการพัฒนาทักษะการเพาะเห็ด จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะให้นักเรียนมีความรู้และทักษะการ เรียนรู้ในการเพาะเห็ด กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔-๖ โรงเรียนสำหรับคนพิการ ทางร่างกายและการเคลื่อนไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ประกอบด้วย ๕ หน่วยการเรียนรู้ ดงั นี้ หน่วยที่ ๑ เรื่อง ความรู้ทว่ั ไปเก่ียวกบั เพาะเห็ด หน่วยท่ี ๒ เรอ่ื ง ประเภทของเหด็ หน่วยที่ ๓ เรอ่ื ง ความรเู้ กย่ี วกับการจดั การตลาด หนว่ ยท่ี ๔ เรอ่ื ง การทำบญั ชี หนว่ ยท่ี ๕ เรอื่ ง คณุ ธรรมในการประกอบอาชพี คู่มือการพัฒนาทักษะการเพาะเห็ดเล่มนี้ จัดสร้างขึ้นโดยมีการกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียน สามารถศึกษาเนื้อหา และประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเอง ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ครูจะต้องทำความเข้าใจ ลักษณะเนื้อหาให้เข้าใจ และศึกษาแผนการจัดการเรียนรู้อย่างละเอียด ปฏิบัติตามแผนการจัดการเรียนรู้ทุก ขัน้ ตอนก่อนใหน้ ักเรยี นลงมือทำแบบบนั ทึกกิจกรรมหรือใบงาน จะต้องช้แี จง แนะนำวธิ ีการทำตา่ งๆให้นักเรียน ทราบ ขณะท่ีนักเรียนทดลองการปฏบิ ัติกจิ กรรมในภาชนะตา่ ง ครูเปน็ เพยี งผูใ้ ห้คำปรึกษาเมื่อนักเรียนมีปัญหา หรือเกดิ ข้อสงสยั หลงั จากนักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมเสรจ็ แลว้ ครูจะตรวจแล้วบนั ทกึ ผลการเรียนรู้ ผูจ้ ัดทำ ว่าทร่ี .ต.หญงิ เพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลอื่ นไหวของจงั หวดั นครศรธี รรมราช

ช คำอธิบายการใช้สำหรบั นักเรยี น คู่มือการพัฒนาทักษะการเพาะเห็ด สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่างกายและการเคล่ือนไหว หรอื สุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔-๖ จัดทำข้ึนเพือ่ พฒั นาผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนและทักษะการทำกิจกรรมของโรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหวจังหวัด นครศรธี รรมราช ประกอบดว้ ย ๑. ศึกษาแผนการจดั การเรียนร้แู ละลำดับขนั้ ตอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามบริบท ของนกั เรยี นทีท่ ำได้ ๒. ศึกษารายละเอียดการใช้เอกสารประกอบการเรียนให้เข้าใจก่อนใช้ประกอบการจัดการ เรียนการสอนอยา่ งละเอยี ด ๓. ครูควรจัดสภาพแวดล้อม สื่อการเรียนการสอนให้พร้อมสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนให้กับนกั เรียน ๔.ชี้แจงให้นักเรียนศึกษาคำแนะนำสำหรับนักเรียน ให้เข้าใจอย่างละเอียดก่อนใช้เอกสาร ประกอบการเรียน จากนน้ั ดำเนนิ การจดั การเรยี นการสอนตามลำดับขั้นตอน ๕. ฝึกทักษะในการเรียนรู้การปลูกข้าวไทยแบบต่างๆจากสื่อต่างๆ สำหรับนักเรียนที่มีความ บกพร่องทางร่างกายและการเคลอื่ นไหวหรือสุขภาพ ตามความถนดั ๖. ส่งเสริมการเรียนร้โู ดยการปฏบิ ัติจริงเพือ่ ให้เกดิ ความชำนาญ กระบวนการจดั ทำ คูม่ อื การพฒั นาทักษะการเพาะเห็ด จัดทำขึ้นโดยมีการวิเคราะห์หลักสูตรและสภาพปัญหาความต้องการของสถานศึกษาและบริบทของ ครูผู้สอนและของนักเรียนแล้วมาออกแบบเนื้อหากิจกรรมให้เหมาะสมกับธรรมชาติ และบริบทของนักเรียน ดำเนนิ การสร้างต้นฉบบั ออกแบบภาพประกอบ ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา โดยคณะผบู้ ริหารและคณะ ครู ไดม้ ีการให้ดำเนินการปรบั ปรุงและนำไปใชก้ บั นกั เรยี นได้ พร้อมทัง้ รายงานผลตามลำดับ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นคู่มือในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้การการเพาะเห็ด โดยมี วัตถุประสงค์เพือ่ ยกระดับทกั ษะการเรยี นรูถ้ ึงการเพาะเห็ด สำหรับนักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางร่างกายหรอื การเคลอื่ นหรอื สุขภาพ กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย นกั เรยี นในระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ รวมท้ังครูผสู้ อน และผู้เก่ียวข้อง กส็ ามารถนำไปใชใ้ นการพัฒนาทกั ษะการเรียนรู้การเพาะเหด็ ได้ ครูผู้สอนควรให้ความรู้ ความเขา้ ใจและสร้างความตระหนัก ให้กบั ผเู้ รยี น ถงึ ความสำคัญของการเพาะ เห็ด เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นเกิดความสนใจในการพัฒนาทักษะและเข้าใจถึงการเพาะเห็ด ผู้ที่ศึกษาเอกสารคู่มือฉบับนี้ ควรมีการประเมินผลพัฒนาทักษะปฏิบัติการปลูกข้าวไทย เป็นระยะๆ ในช่องเวลาท่เี หมาะ เพ่อื ใหเ้ หน็ ถงึ แนวโน้มการพฒั นาทกั ษะการเรียนรู้การเพาะเห็ด และเพอ่ื ประเมินผลความ เข้าใจและพรอ้ มในการฝกึ ทกั ษะงานเกษตรดา้ นอ่นื ๆ ตอ่ ไป ผูจ้ ดั ทำ ว่าทีร่ .ต.หญงิ เพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรบั คนพกิ ารทางรา่ งกายและการเคลอ่ื นไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช

ซ คูม่ อื การพฒั นาทักษะการเพาะเห็ด วชิ า การงานอาชีพ รหสั วชิ า - ภาคเรียนท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔-๖ เวลา ๓ ชั่วโมง/สปั ดาห์ (1.๕ หน่วยกติ ) มาตรฐานการเรยี นรู้ ง.๒.๑ เข้าใจ มีทักษะที่จำเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้เทคโนโลยีเพ่ือ พฒั นาอาชีพ มีคณุ ธรรมและมเี จตคตทิ ด่ี ีตอ่ อาชีพ ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง 1. นกั เรยี นสามารถบอกหมายความสำคญั เก่ียวกับการเพาะเห็ดและการดูแลเหด็ ได้ได้ 2. นักเรยี นสามารถบอกวิธกี ารเลอื กเพาะเห็ดให้เหมาะสมกับสภาพท้องถ่นิ ได้ 3. นกั เรยี นสามารถบอกลักษณะสถานที่ โรงเรอื น วัสดอุ ปุ กรณ์ที่เหมาะสมในการเพาะเหด็ ได้ 4. นักเรียนมีทักษะในการทำงานรว่ มกนั ได้ 5. นักเรียนมที ักษะในการแสวงหาความรู้และการแกป้ ญั หาในการทำงานได้ ๖. นักเรียนมีคณุ ธรรมและลักษณะนิสยั ท่ีดีในการทำงาน รวมผลการเรยี นรูท้ ้ังหมด ๕ ตัวช้ีวดั เน้ือหาสาระ ๑. ความรทู้ ัว่ ไปเกยี่ วกับเพาะเห็ด ๒. ประเภทของเหด็ ๓. ความรูเ้ กยี่ วกับการจดั การตลาด ๔. การทำบญั ชี ๕. คณุ ธรรมในการประกอบอาชีพ กจิ กรรม ๑. นกั เรียนศกึ ษาข้อมลู เนอื้ หาสาระจากคู่มือการพัฒนาทักษะการเรยี นรู้การเพาะเหด็ ได้ ๒. นักเรยี นทำแบบบนั ทึกกิจกรรมและใบงาน ผู้จัดทำ ว่าทรี่ .ต.หญงิ เพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรับคนพกิ ารทางร่างกายและการเคล่อื นไหวของจังหวัดนครศรธี รรมราช

1 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๑ ความรู้ทัว่ ไปเก่ียวกับเพาะเหด็ ๑. ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับการเหด็ ๑.๑ ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับการเหด็ ความหมายของเห็ด เห็ดเป็นราชนิดหนึ่งซึ่งไม่จัดเป็นพืชหรือสัตว์ ไม่มีสารสีเขียว(chlorophyll) เหมือนพืช จึงไม่สามารถปรุงอาหารกินเองได้ ไม่มีระบบประสาทหรืออวัยวะและไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ เช่น การเจรญิ เตบิ โตของเหด็ มลี กั ษณะเปน็ เส้นใยรวมกัน ๑.๒ ความสำคัญของเหด็ มนุษย์ทั่วโลกรู้จักเห็ดมานานที่สายพันธุ์ของเห็ด มากกว่า 30,000 สายพันธุ์ แต่มีถึงร้อยละ 99 สาย พันธุ์ที่บริโภคได้ที่เหลือร้อยละ 1 เป็นเห็ดพิษหรือเห็ดเมาในอดีตเห็ดที่นำบริโภคนั้นมีเพียงไม่กี่ชนิด เช่น เห็ดฝรั่ง เห็ดหอม เห็ดโคน และเห็ดฟางในปัจจุบันพบว่าหลายๆประเทศหันมาให้ความสนใจและร่วมมอื กันใน การวิจัยและค้น คว้า ทดลอง คัดเลือก และปรับปรุงพันธุ์เห็ด ให้มีจำนวนมากขึ้น และพัฒนาเทคนิควิธีการ เพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตให้ เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคประเทศไทยเป็น ประเทศที่เหมาะต่อการเพาะเห็ดอย่างมาก เพราะมีวัสดุเหลือใช้จากพืชเศรษฐกิจสามารถนำมาดัดแปลงเพาะ เหด็ ไดเ้ ปน็ อยา่ ง ดปี ระกอบกับมสี ภาพดนิ ฟ้าอากาศที่เหมาะสมต่อการเจรญิ เตบิ โตของเหด็ เกือบทุก ชนดิ ดังนัน้ จึงควรสง่ เสริมให้เกษตรกรหันมาเพาะเหด็ กนั อย่างจรงิ จังแล้ว จะช่วยเพิ่มอาหารทม่ี คี ณุ คา่ และทำใหเ้ กษตรกรมี รายไดเ้ พ่มิ ขึน้ ๑.๓ คุณประโยชน์ของเหด็ ต่างๆสว่ นประกอบต่างๆของดอกเหด็ 1. คุณค่าทางอาหารของเห็ด จากการค้นคว้าเกี่ยวกับคุณค่าทางอาหารของเห็ด โดยกรมวิทยาศาสตร์ พบว่า เห็ดที่มีจำหน่ายในท้องตลาด เช่น เห็ดฟาง เห็ดหูหนู เห็ดนางรม เห็ดเป๋าฮื้อ และเห็ดนางฟ้า เมื่อนำมา วเิ คราะหพ์ บวา่ ประกอบด้วยสารอาหาร พวกคาร์โบไฮเดรต โปรตนี ไขมัน แรธ่ าตุตา่ งๆ และวิตามิน ที่แตกต่าง กัน จากชนิดสารอาหารที่ พบในเห็ดดังกล่าว ย่อมพิสูจน์ได้ว่าเห็ดเป็นอาหารที่มีคุณค่าเทียบเท่าเนื้อสัตว์จริง 2. สรรพคุณทางยา ของเห็ด ในการบริโภคอาหารควรเลือกบริโภคพืชผักที่มีคุณค่าทางอาหาร ทดแทนเนื้อสัตว์ บ้าง โดยเฉพาะพืชที่ประเภทเห็ดจะไม่มีสารคอเรสตอรอลที่เป็นอันตรายต่อระบบไหลเวียน โลหิตประกอบกับเห็ดมีปริมาณธาตุโซเดียมค่อนข้างต่ำ จึงจัดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับ ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ โรคไตโรคหัวใจ และความดนั โลหติ สงู ผจู้ ัดทำ ว่าท่รี .ต.หญงิ เพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรบั คนพกิ ารทางร่างกายและการเคล่ือนไหวของจงั หวดั นครศรธี รรมราช

2 หนว่ ยการเรยี นรู้ ๒ ประเภทของเห็ด ๒. ประเภทของเห็ด ๒.๑ การจำแนกประเภทของเห็ด เหด็ สามารถจำแนกไดเ้ ปน็ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มเห็ดที่ใช้เป็นอาหาร เป็นเห็ดที่มีคุณค่า และมีส่วนประกอบของ สารอาหารหลายชนิด เช่น โปรตนี และวิตามนิ ไดแ้ ก่ เห็ดฟาง , เห็ดนางฟ้า , เห็ดหูหนู เป็นตน้ 2. กลุ่มเห็ดที่ใช้เป็นยาสมุนไพร เพราะเชื่อว่ามีสารที่เป็นสรรพคุณทางยา ได้แก่ เห็ดหลินจือ (เห็ดพันปี) รับประทานแล้วจะเป็นยาบำรุงกำลังทำให้สุขภาพแข็งแรงเห็ดหอม รับประทานแล้วจะช่วยบำบัด โรคบางชนิดได้ เช่น ต้านโรคมะเร็ง , ต้านไวรัส ช่วยลดความดันโลหิตและลดโคเรสเตอรอล เป็นต้น 3. กลุ่มเห็ดที่เป็นพิษ เห็ดกลุ่มนี้ถ้าบริโภคเข้าไปจะมีพิษ ถ้าบริโภคมากอาจถึงตาย เพราะพิษ จะเขา้ ไปในระบบเลอื ด กระจายไปทว่ั ร่างกายมนึ เมาอาเจียน เชน่ เห็ดระโงกหนิ ภาพท่ี : ๑ ทม่ี าของภาพ : เห็ดฟางและเทคโนโลยกี ารผลิตในโรงเรือน ผู้จดั ทำ ว่าท่ีร.ต.หญิงเพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรบั คนพิการทางร่างกายและการเคล่ือนไหวของจงั หวดั นครศรธี รรมราช

3 ๒.๒ หลักการในการเพาะเหด็ หลักในการเพาะเห็ดเบื้องต้นก็คือ การศึกษาสภาพต่างๆ ในธรรมชาติของเห็ดนั้นๆ แล้วนำเห็ดนั้นมา เลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกันกับธรรมชาติ แต่เนื่องจากการเจริญเติบโตของเส้นใยเหด็ ที่เราเพาะ ต้องมี การแข่งขันกับเชื้อเห็ดที่มีอยู่ในธรรมชาติด้วย มันอาจเจริญแข่งขันสู้กับเห็ดอื่นๆ ในธรรมชาติไม่ได้ ดังนั้นวิธี ที่จะช่วยให้เส้นใยเห็ดที่เราต้องการเพาะชนะเห็ดอื่นๆ ก็คือเราจะต้องกำจัดเห็ดอื่นให้น้อยลงหรือใส่เชื้อเห็ด ทต่ี ้องการลงไปมากหรอื ท้งั สองวธิ ีควบคกู่ ับไป เราจึงได้มกี ารทำเช้ือเหด็ เพือ่ ใช้ในการนข้ี ้ึน การเพาะเห็ดแบ่งข้นั ตอนการเพาะออกเปน็ 4 ข้นั ตอนดว้ ยกัน 1. การแยกเชอื้ เห็ดและเล้ยี งเชอ้ื เห็ดบนอาหารวุ้น ภาพที่ : ๒ ทม่ี าของภาพ : เหด็ ฟางและเทคโนโลยีการผลติ ในโรงเรือน 2. การทำหวั เชอื้ เหด็ เล้ยี งในเมลด็ ขา้ วฟ่าง 3. การทำกอ้ นเช้ือวสั ดุเพาะเห็ดในถงุ พลาสติก 4. การเพาะให้เกดิ ดอก แม้ว่าการเพาะเหด็ จะมขี ั้นตอนใหญ่ๆ 4 ขั้นตอนซึ่งแต่ละขัน้ ตอนก็มลี ักษณะของการใช้งานที่ตรงตาม วัตถุประสงคข์ องมันเอง แต่ต้องเข้าใจวา่ ผู้เพาะเหด็ ไม่จำเป็นต้องทำทุกขั้นตอนดังกลา่ วนี้ ในปัจจุบันฟาร์มเห็ด ตา่ งๆ จะเป็นฟาร์มใหญ่ทีผ่ ลติ ก้อนเชอ้ื จำนวนมากก็ไมไ่ ด้ทำเชน่ น้ี เพราะงานดา้ นนี้ได้มีการแบ่งงานกันทำอย่าง มีระบบอยู่แล้ว ผู้ที่จะเพาะเห็ดใหม่จงึ ไม่จำเป็นต้องทำเองทุกขั้นตอน งานบางขั้นตอนอาจเป็นงานที่ยุ่งยากแต่ นำมาใช้งานได้น้อย เช่น การแยกเชื้อเห็ดบนอาหารวุ้น การลดขั้นตอนทีย่ ุ่งยากนี้ก็ทำได้โดยเพียงแต่หาซื้อจาก ผผู้ ลติ เช้อื ชนิดนี้เท่าน้นั เท่าท่เี ป็นอยจู่ ะพบวา่ ผู้ผลติ หัวเชอ้ื ในเมล็ดข้าวฟา่ งมหี น้าที่ผลิตเชื้อน้ีจำหน่ายให้แก่ผู้ทำ ก้อนเชื้อ และจะแยกเชื้อเหด็ บนอาหารวุ้นไว้ใชเ้ ฉพาะในการขยายหรือปรับปรุงพันธุ์เท่านัน้ ส่วนผูผ้ ลิตก้อนเชอื้ ก็มหี น้าที่ผลติ ก้อนเชื้อ สำหรับใช้เพาะเอาดอกเห็ดหรือเพ่ือจำหน่ายก้อนใหแ้ ก่ผู้ท่ีจะนำไปเปิดเอาดอกรายย่อย มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ผลิตทั้งก้อนเชื้อและหัวเชื้อ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเพาะเห็ด อาจเชื้อก้อนเชื้อเห็ด เพียงจำนวนนอ้ ยมาทดลองเพาะก่อนเมอ่ื มีความชำนาญดีแล้วจึงเพิม่ จำนวนมากขึ้น ข้ันตอนการผลิตก้อนเชื้อเหด็ สูตรอาหารกอ้ นเชอ้ื เห็ด - ขเี้ ลอ่ื ยไมย้ างพารา (ไมต่ อ้ งหมัก) 100 ก.ก. - รำละเอยี ด 5 ก.ก. - ปูนขาว 1 ก.ก. - ยปิ ซัม 2 ก.ก. ผจู้ ดั ทำ วา่ ทร่ี .ต.หญงิ เพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคล่อื นไหวของจังหวัดนครศรธี รรมราช

4 -ดเี กลอื 0.2 ก.ก. ปรบั ความชนื้ ในวสั ดเุ พาะประมาณ 60 – 65 % 1. นำส่วนผสมข้างต้นผสมให้เข้ากันด้วยมือหรือเครื่องผสม ปรับความชื้นประมาณ 60 - 65% โดยการเตมิ นำ้ ลงไปพอประมาณ 2. ใช้มือกำขี้เลื่อยขึ้นมาบีบให้แน่น แล้วสังเกตว่าถ้ามีน้ำซึมออกมาตามร่องนิ้วแสดงว่าเปียกไป ให้เตมิ ขเ้ี ลื่อยแหง้ ถ้าไมม่ นี ้ำซมึ ให้แบมือออก ขีเ้ ล่ือยจะรวมกันเปน็ กอ้ นแลว้ แตกออก 2 – 3 สว่ นแสดงว่าใช้ได้ แตถ่ ้าแบมอื แล้วขีเ้ ลื่อยไม่รวมตัวกันเปน็ ก้อน แสดงวา่ แห้งไปให้เตมิ น้ำลงไปอีก 3. เมื่อผสมคลุกเคลา้ สว่ นผสมเขา้ กันดแี ล้ว ใหบ้ รรจุขเ้ี ล่อื ยใส่ถงุ พลาสติกทนรอ้ น น้ำหนกั บรรจุ 8 – 10 ขีด 2 ใน 3 ของถงุ กดและทบุ ให้แน่นพอประมาณ ใส่คอขวด(คอถุง) รดั ดว้ ยหนงั ยาง จกุ สำลี 4. นำไปนึง่ ฆา่ เชอ้ื ท่ี 100 องศาเซลเซียส ใชเ้ วลาประมาณ 2 – 3 ช.ม. 5. นำถงุ ออกมาพกั ให้เยน็ ในทสี่ ะอาด เปิดจกุ สำลี ตอ่ เช้ือที่ตอ้ งการลงตรงคอถงุ 6. นำถงุ เชอื้ เห็ดไปบ่มไวใ้ นที่สะอาด มีการถา่ ยเทอากาศสะดวกพน่ ยาฆา่ แมลงวนั เสน้ ใยจะเดินจนเตม็ ถงุ ระยะเวลาแตกต่างกันไปข้ึนอยู่กบั ชนดิ ของเห็ด 7. เมอ่ื เส้นใยเดินเต็มถุงแล้ว คัดเอาเฉพาะถงุ ที่ไมม่ ีการการปนเปื้อนมาเปดิ ในโรงเรอื นเปดิ ดอก เพ่อื ให้ เกิดดอกเห็ดต่อไป ภายในโรงเรือนตอ้ งสะอาด มกี ารถา่ ยเทอากาศดี มแี สงสวา่ งพอสมควร และเก็บความช้นื ได้ ดีพอสมควร ความชน้ื สัมพัทธภ์ ายในโรงเรอื นประมาณ 70 % ขน้ึ ไป ๒.๓ ส่วนประกอบตา่ งๆของดอกเห็ด เรมิ่ จากสปอรข์ องดอกปลิวไปตกบรเิ วณท่ีมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสปอร์ก็จะเจริญเตบิ โตกลายเป็น เส้นใย เม่ือเส้นใยอัดตัวกนั เข้ากลายเป็นดอกเห็ด ซึ่งประกอบ ไปดว้ ย 1. หมวกเห็ด สว่ นปลายสุดของดอกเจริญขน้ึ ไปในอากาศ 2. ครบี อย่ดู า้ นลา่ งของหมวกเหด็ 3. ก้านดอก มีขนาดใหญ่และยาวแตกต่างกนั 4. วงแหวน เปน็ เย่ือบางๆยดึ กา้ นดอกและขอบหมวกของเห็ด 5. เปลือกหมุ้ โคน อาจมีเนื้อหนาหรือบางอยชู่ ัน้ นอกสุดที่หุ้มดอกเห็ดไว้ 6. สปอร์ เกิดจากการผสมพนั ธ์ุทางเพศ แล้วแบ่งตวั กลายเป็นสปอรป์ ลวิ หรือลอยไปในอากาศ ผ้จู ัดทำ ว่าที่ร.ต.หญงิ เพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรับคนพกิ ารทางรา่ งกายและการเคล่ือนไหวของจังหวัดนครศรธี รรมราช

5 ภาพท่ี ๓ ทมี่ าของภาพ : เหด็ ฟางและเทคโนโลยีการผลิตในโรงเรอื น ๒.๔ ศตั รูและการป้องกนั ศัตรู ๑. แมลง ไดแ้ ก่ มด ปลวก จะมาทำรังและกดั กิน เช้ือเหด็ และรบกวนเวลาทำงาน วิธีการปอ้ งกนั และการกำจดั 1. การป้องกันทำไดโ้ ดยเลอื กวัสดุทีส่ ะอาด ถ้ามีไรระบาดรุนแรงให้หยุดเพาะชั่วคราว ทำความสะอาด ภาชนะและพ้ืนที่ตลอดจนเผาทำลายเศษวสั ดุที่เป็นแหล่งอาศยั ให้หมด 2. ใช้วา่ นหนอนตายยาก บอระเพด็ กากนำ้ ตาล อัตราส่วน 1:1:1 สับละเอียดผสมใหเ้ ข้ากัน หมักไว้ 7 วนั นำมาฉดี พ่นท่ีก้อนเหด็ ในอัตราสว่ น 1 ชอ้ นแกง/น้ำ 1 ลิตร ทำวนั เวน้ วัน 3. แกป้ ัญหาโดยการพกั โรงเรือน เปิดระบายอากาศนำ้ ความสะอาดเพ่ือฆา่ เช้ือในโรงเรอื น การพัก โรงเรือนควรทำอย่างน้อย 15 วันหากไม่อยากพักโรงเรือนนานเกิดไปให้ฉดี นำ้ ยาฆา่ เชอ้ื (ใช้น้ำยาถพู ื้นก็ได)้ 4. ใช้ EM สูตรไล่ ไร ๒.๕ ลักษณะของโรงเรือนเพาะเห็ด เกษตรกรจะสร้างให้มีขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ตามกำลังความสามารถในการผลิตดอกเห็ด โรงเรือน เพาะเห็ดที่ดีจะต้องมีการเก็บรักษาความชื้นได้ดี มีการระบายอากาศได้ดี มีชั้นวางถุงเห็ดที่พอเหมาะสามารถ ทำงานได้สะดวกโรงเรือน ในการเพาะเห็ดไม่ได้กำหนดกฏเกณฑ์ไว้ตายตัวว่าจะต้องมีลักษณะแบบใด แต่ส่ิง สำคญั ที่สดุ คือจะต้องเกบ็ รักษาความชนื้ ได้และสามารถถ่ายเทอากาศไดส้ ะดวก เพราะฉะนั้นขนาดของโรงเรือน ขนึ้ อยกู่ บั ขนาดของกจิ การถา้ เป็นธรุ กิจขนาดเลก็ อาจจะสรา้ งโรงเรือนกว้าง 4 เมตร ยาว 8 เมตร สูง 2.30 เมตร หลงั คาหนา้ จัว่ สงู 3.50 เมตร ก็สามารถใช้เพาะเห็ดได้ ผจู้ ดั ทำ วา่ ที่ร.ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรบั คนพิการทางรา่ งกายและการเคลือ่ นไหวของจังหวดั นครศรีธรรมราช

6 การระบายอากาศในโรงเรือนเพาะเหด็ มีความสำคัญเหมือนกันในฟาร์มเห็ดขนาดใหญ่เห็ดแต่ละถุงจะหายใจปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ออกมา เมื่อมีก๊าซชนิดนี้มากๆ จะมีผลต่อผลผลิตและรูปร่างของดอกเห็ดได้ โรงเรือนเพาะที่มีการถ่ายเทไม่ดี ผลผลิตจะน้อยลง ดอกเห็ดบิดเบี้ยวดอกมีขนาดเล็ก ดังนั้นโรงเรือนจะต้องจัดให้มีการระบายอากาศ ทางดา้ นข้างบา้ ง เพื่อระบายกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป การเลือกทำเลและที่ต้ังของโรงเรือน การเลือกทำเลที่เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนในการผลิตและทำให้เห็ดสามารถออกดอกได้ดี ซึ่งมีปัจจัย ที่ควรคำนึงถึง ดังนี้ 1. สภาพภูมิอากาศ เห็ดสามารถเพาะเลี้ยงได้ทุกภาคของประเทศไทย แต่จะออกดอกได้ดีเมื่อมี ความช้ืนสูง และอุณหภมู ิจะต้องไมห่ นาวเย็นเกนิ ไป 2. ท่ดี นิ ควรเปน็ ท่ีทีน่ ้ำไม่ทว่ มขัง เพราะไม่สะดวกแก่การปฏบิ ัติดูแลรกั ษา 3. ใกล้แหล่งน้ำ เพราะในโรงเรือนเห็ดต้องการความชื้น 85 - 90 % เห็ดถึงจะออกดอกได้ดีซึ่งการ สร้างโรงเรือนใกล้แหล่งน้ำสามารถนำน้ำมาใช้รดเห็ดได้สะดวก น้ำที่ใช้รดเห็ดควรมี pH อยู่ระหว่าง 6.5 - 7.5 สำหรับน้ำประปาไม่ควรใช้รดเห็ดเพราะมีคลอรีนผสมอยู่ ถ้าจะใช้จะต้องกำจัดคลอรีนออกเสียก่อนโดย การนำน้ำใส่ภาชนะแล้วเปิดฝาถงั ทง้ิ ไวใ้ ห้คลอรนี ระเหยออกไปเสียก่อน 4. ทิศทางลม โรงเรอื นควรสร้างขนานกบั ทศิ ทางลมเพือ่ ลดการสูญเสยี ความช้ืนภายในโรงเรือน 5. การคมนาคมสะดวก เพราะสามารถนำผลผลิตส่งตลาดได้สะดวก การสรา้ งโรงเรือนเพาะเหด็ โรงเรือนที่ใชใ้ นการเพาะเหด็ มี ดงั นี้ 1. โรงเรือนเปิดดอก ขนาดของโรงเรือนไม่ได้กำหนดไว้แน่นอนตายตัวทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของ ธุรกิจ เช่นอาจจะสร้างโรงเรือนกว้าง 6 เมตร ยาว 10 เมตร สูง 3.50 เมตร ซึ่งโรงเรือนออกดอกควรมี ลักษณะดังน้ี 1.1 วัสดุที่ใช้มุงหลังคาโรงเรือนควรใช้จากหรือหญ้าคา ส่วนฝาผนังของโรงเรือนอาจใช้จากหรือ หญ้าคาก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องเก็บรักษาความชื้นไว้ภายในโรงเรือนได้ดี และสามารถถ่ายเทอากาศได้ สะดวก 1.2 ชั้นวางถุงกอ้ นเช้อื ควรใชไ้ ม้หรอื ไมไ้ ผ่ก็ได้ สว่ นลกั ษณะช้ันวางก้อนเช้ืออาจจะทำ เป็นลักษณะ คล้ายอัฒจรรย์กีฬาก็ได้ โดยชั้นล่างสุดควรอยู่ห่างจากพ้ืนดินประมาณ 30 เซนติเมตร และการวางถุงก้อนเชอื้ จะวางตะแคงใหป้ ากถุงหันเข้าในโรงเรือนเพ่ือสะดวกในการออกดอก การวางถุงกอ้ นเชื้อจะวาง ซอ้ นทบั กนั เป็นชั้นๆสงู พอท่จี ะใชม้ อื ยน่ื เก็บดอกเหด็ ไดส้ ะดวก 1.3 พื้นโรงเรอื นออกดอก ควรเป็นพืน้ ทรายเพราะสามารถดดู เก็บความชนื้ ไดด้ ี ผู้จดั ทำ ว่าที่ร.ต.หญงิ เพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลอ่ื นไหวของจังหวดั นครศรธี รรมราช

7 วธิ กี ารเพาะเหด็ นางฟ้า วิธีการทาก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้า เห็ดนางฟ้าเป็นเห็ดที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในวัสดุเพาะหลายชนิด เชน่ ขเี้ ล่อื ย ฟางสับ หรือซงั ข้าวโพด แต่วัสดทุ ่ีดที ่สี ดุ คอื ข้เี ลอ่ื ยไม้ยางพารา ซง่ึ มีวธิ ีการผลิตก้อนเช้อื ดงั ต่อไปนี้ การทำก้อนเชื้อจากฟางสับ ฟางที่ใช้เพาะควรเปน็ ฟางที่แห้งสนิท ไม่มีเชื้อราปะปนหรือมีกลิ่นเหมน็ สูตรอาหารทีใ่ ช้คือ ใช้ฟางสับ ยาว 2-3 นิ้ว 100 กก. ปุ๋ยนา(สูตร 16-20-0) 1 กก. ดีเกลือ 0.2 กก. ปูนขาว 1 กก. ความชื้น 70-75% โดยมี ขน้ั ตอนการทำดงั น้ี 1. นำฟางสับไปแช่นา้ หรือรดน้ำใหท้ ั่ว แล้วผสมป๋ยุ และดีเกลือลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากนั แล้วทาเป็นกอง สูงคลมุ ด้วย พลาสตกิ หมกั ทิ้งไว้ 3 วัน ในวนั ที่ 3,4,5 และ6 ใหก้ ลบั กองฟางทกุ วัน 2. ในวนั ที 7 ใหใ้ สป่ ูนขาวเพื่อปรบั ความเปน็ กรด-ดา่ ง และไลก่ า๊ ซแอมโมเนียที่เกิดขนึ้ ระหวา่ งการหมัก ฟางคลุกเคล้าให้เข้ากันแลว้ ต่ออกี 1-2 วัน 3. บรรจใุ ส่ถุงพลาสตกิ ทใ่ี ชเ้ พาะเห็ด ซงึ่ ควรบรรจุใหห้ มดภายในวันเดียว ถงุ ก้อนเชอื้ ควรมขี นาด 8 ขีด ถงึ 1 กก. เมือ่ อัดกอ้ นเชอ้ื แนน่ ดีแลว้ ใสค่ อขวดพลาสติก อดุ ด้วยสาลแี ละปดิ ด้วยกระดาษ แล้วรดั ยางใหแ้ น่น 4. นำก้อนเช้อื ทีไ่ ด้ไปนง่ึ ฆา่ เช้อื ทันที ใชเ้ วลาประมาณ 3-4 ชม. นับจากน้ำเดือด แลว้ ท้ิงไว้ให้เยน็ 5. นำหวั เชอ้ื เหด็ ท่เี ล้ยี งไว้ในเมล็ดขา้ วฟา่ ง ใช้ประมาณ 10-20 เมลด็ ต่อกอ้ นเขย่ี ลงในก้อนเช้ือท่ีเย็นดี แล้ว แล้วรีบปิดปากถุงด้วยสาลีและกระดาษทันที สถานที่ที่ใช้ถ่ายหัวเชื้อเห็ดลงก้อนเชื้อควรสะอาดลมสงบ วัสดทุ ี่ใชเ้ ข่ียหัวเชอื้ ควรทาความสะอาดด้วยแอลกอฮอลก์ ่อนทุกคร้ัง 6. แลว้ นำกอ้ นเชอ้ื ทถ่ี า่ ยหัวเชือ้ เห็ดลงเรียบรอ้ ยแล้วไปบม่ ไวใ้ นโรงบม่ ก้อนเชื้อตอ่ ไป การทำกอ้ นเชอ้ื เหด็ นางฟา้ จากขเี้ ล่อื ย ขี้เลื่อยที่ใช้เป็นวัสดุเพาะที่ดีที่สุด ได้แก่ ขี้เลื่อยไม้ยางพารา การทาก้อนเชื้อจากขี้เลื่อยนี้ไม่ต้องหมัก เหมือนใช้ฟางสับ แตก่ ารเลอื กหวั เชอ้ื ควรให้แน่ใจวา่ เป็นหัวเช้ือที่สามารถย่อยขี้เลื่อยเปน็ อาหารได้ สาหรับสูตร ที่ใช้ เช่น ขี้เลื่อยไม้ยางพารา 100 กก. ราละเอียด 5 กก. แป้งข้าวเจ้าหรือน้าตาลทราย 1 กก. ดีเกลือ 0.2 กก. ปูนขาว 1 กก. ความชนื้ 60-70% ซึง่ มีขน้ั ตอนดังนี้ 1. ข้เี ล่ือยที่ใช้ควรเปน็ ขเี้ ลือ่ ยกลางเก่ากลางใหมจ่ ะดีทส่ี ดุ หากเป็นขี้เล่อื ยใหม่ควรกองทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ เนอื่ งจากข้เี ลือ่ ยใหม่จะสลายธาตอุ าหารบางอยา่ งทาใหเ้ กดิ กา๊ ซแอมโมเนีย ซง่ึ จะเป็นอนั ตรายต่อเช้ือเห็ดและ ทาให้ความร้อนในกอ้ นเชอ้ื สงู เกินไป แต่ถ้าเปน็ ข้เี ลอื่ ยเก่าอาจมกี ารปะปนของเช้ือโรคหรอื เชือ้ ราชนิดอ่ืนได้งา่ ย อีกทงั้ มักไมค่ ่อยมีธาตุอาหารสะสมอยู่มากนัก 2. หลังจากเตรียมสูตรอาหารได้แล้วให้นาส่วนผสมทั้งหมดไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วบรรจุใส่ ถุงพลาสติกที่ใช้เพาะเห็ด ซึ่งควรบรรจุให้หมดภายในวันเดียว ถุงก้อนเชื้อควรมีขนาด 8 ขีด ถึง 1 กก. เม่อื อดั ก้อนเชอ้ื แนน่ ดีแลว้ ใส่คอขวดพลาสตกิ อุดด้วยสาลแี ละปดิ ดว้ ยกระดาษ แล้วรัดยางใหแ้ นน่ 3. นำกอ้ นเช้ือทไ่ี ด้ไปนง่ึ ฆ่าเชื้อทันที ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม. นบั จากน้ำเดอื ดแล้วทง้ิ ไว้ใหเ้ ยน็ ผจู้ ัดทำ ว่าทรี่ .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรับคนพกิ ารทางร่างกายและการเคลือ่ นไหวของจงั หวัดนครศรีธรรมราช

8 4. นำหวั เชอ้ื เห็ดที่เลี้ยงไว้ในเมลด็ ข้าวฟ่าง ใชป้ ระมาณ 10-20 เมลด็ ตอ่ ก้อน เข่ียลงในก้อนเชื้อท่ีเย็น ดีแล้ว แล้วรีบปิดปากถุงด้วยสาลีและกระดาษทันที สถานที่ที่ใช้ถ่ายหัวเชือ้ เห็ดลงก้อนเชือ้ ควรสะอาด ลมสงบ วสั ดทุ ่ใี ช้เข่ยี หัวเชื้อควรทำความสะอาดดว้ ยแอลกอฮอลก์ ่อนทุกคร้งั 5. นาก้อนเชอ้ื ทีถ่ า่ ยหัวเชอ้ื เห็ดลงเรียบรอ้ ยแลว้ ไปบม่ ไว้ในโรงบ่มก้อนเชื้อต่อไป การบ่มก้อนเช้ือ หลังจากใส่เชื้อเห็ดลงในถุงก้อนเชื้อแล้ว ให้นำไปบ่มในโรงบ่มเชือ้ หรือบริเวณที่มอี ุณหภูมิปกติ เพื่อให้ เส้นใยเจริญในก้อนเชื้อ ในการจัดวางหากวางในแนวตั้งไม่ควรให้ถุงทับซ้อนกัน ถ้าจัดวางในแนวนอนสามารถ จัดวางซ้อนกันได้แต่ต้องหมัน่ กลับก้อนเชือ้ ด้านล่าง ขึ้นด้านบน เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ในช่วงที่เส้นใยจะ เดินเต็มถุง ต้องหมั่นตรวจดูโรคแมลง มด มอดแมลงสาบ ปลวกหรือไร หากพบให้รีบนำก้อนเชื้อออกไปกำจัด ทนั ทหี รอื ฉีดพ่นด้วยสารสกดั ตะไคร้หอมรอบๆ โรงบ่มเพือ่ ป้องกันไว้กอ่ นได้ การทาใหเ้ กิดดอก ในการทำให้เห็ดเกิดดอกต้องย้ายก้อนเชื้อจากโรงบ่มไปไว้โรงเพาะ โรงเรือนที่เหมาะสาหรับการเพาะ เห็ดนางฟ้า ควรเป็นโรงเรือนที่สามารถเก็บความชื้นได้ดี มีความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 80-85% อุณหภูมิที่ดี ที่สุดสำหรับการเกิดดอกคือ 25 องศาเซลเซียส มีระบบถ่ายเทอากาศดีและสะดวกต่อการทาความสะอาด การคัดแยกก้อนเชื้อจากโรงบ่มให้สังเกตดูว่าก้อนเชื้อนั้นมีเส้นใยเดินเต็ม ถุงแล้ว และควรปล่อยทิ้งไว้สักระยะ หนึ่งเพอื่ ให้เส้นใยรัดตัวและสะสมอาหารก่อนนาไปเปิดปากก้อนเชื้อให้เกิดดอกคล้าย เห็ดนางรมตอ่ ไป 1. วธิ วี างกอ้ นเชอื้ อาจวางในลักษณะแนวนอนบนชน้ั วางซอ้ น ๆ กันชั้นละ 3-5 กอ้ นหรือเรยี งโดยใช้ เชือกแขวนแล้วตดั ปากถุงบริเวณคอขวด เพือ่ ให้ดอกเหด็ ออกดอกออกมา 2. วิธีการควบคุมความชื้นในระยะนี้ หากไม่ได้เพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งมีอุณหภูมิและ ความชื้นที่พอเหมาะอาจใช้วิธีการพ่นน้าฝอย ๆ หรือรดน้ำที่พื้นโรงเพาะก็ได้(ถ้าใช้น้ำประปาควรพักน้ำไว้ 3-4 วัน เพอื่ คลอรนี ระเหยออกไปก่อน) วิธีการเก็บเหด็ นางฟา้ การเก็บเห็ดนางฟ้าควรเก็บในขณะที่กลุ่มของดอกเห็ดยังไม่บานเต็มที่ และควรเก็บเห็ดทัง้ กลุ่มไม่ควร เลือกเก็บเฉพาะดอกใหญ่ในกลุ่มเดียวกัน เพราะจะทาให้ดอกอื่น ๆ ในกลุ่มนั้นฟ่อเสียหายทั้งกลุ่ม กรณีที่กลุ่ม ดอกเห็ดมีทั้งดอกเล็กและดอกใหญ่ โดยดอกเล็กมีจานวนมากกว่า ควรรอให้ดอกเล็กโตได้ที่ก่อนแล้วค่อยเก็บ การเก็บใหใ้ ช้มือไม่ควรใช้มีดตัด เพราะจะทาใหส้ ่วนของโคนก้านทเ่ี หลือตดิ อยู่เนา่ และสร้างความเสียหายให้กับ ดอกเห็ดอื่น ๆ ในกอ้ นได้ วธิ ีการเกบ็ ใหใ้ ช้มือจับท่ีโคนของดอกแลว้ ดงึ เบา ๆ จากนั้นจงึ ใช้มีดคม ๆ ตัดสงิ่ สกปรก ท่ตี ดิ มากบั โคนดอกทิ้งไป ผู้จดั ทำ ว่าทรี่ .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลอ่ื นไหวของจงั หวดั นครศรีธรรมราช

9 ปัญหาท่ีพบมากในการเพาะเหด็ นางฟา้ หากเป็นเห็ดนางฟ้าภูฐานมักจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการปลอมปนของเชื้อ ราชนิดอื่นในก้อนถุ ง เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่มีความต้านทานต่อเชื้อราชนิดอื่นสูง โดยเฉพาะราเขียวและราดา ซึ่งเป็นราที่สร้างความ เสียหายให้กับเห็ดหลายชนดิ และในขั้นการเพาะ หากมีการดูแลรักษาที่ดี ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นมักพบในช่วงเห็ด ออกดอกอาจพบปัญหาแมลงเข้าทำลายดอกเห็ด โดยเฉพาะพวกแมลงหวี่ เนื่องจากเห็ดนางฟ้าภูฐานจะมีกล่ิน หอม วิธีป้องกันให้ใช้สารสมุนไพรฉีดบริเวณรอบ ๆ โรงเรือนหรือหากพบการทำลายที่ก้อนเชื้อเห็ดใหร้ ีบกำจดั ออกไปเผาทำลายทนั ที เห็ดนางฟา้ เห็ดยอดนิยม มปี ระโยชน์ตอ่ รา่ งกาย นอกจากจะมีประโยชนเ์ หมือนเหด็ อ่นื ๆแล้ว เหด็ นางฟ้ายงั ชว่ ยป้องกันโรคหวดั ช่วยการไหลเวียนเลือดใหด้ ีข้ึนและชว่ ยป้องกันโรคกระเพาะอกี ดว้ ย ราคาเหด็ นางฟา้ จะขน้ึ ลงตามความต้องการของตลาด ถา้ เปน็ ช่วงกนิ เจ หรือในชว่ งทผ่ี ลิตไดน้ ้อย ราคาก็จะสูงข้นึ ราคาเฉลย่ี ตน้ ปี 2558 จะราวๆที่ 40-55 บาท ผูจ้ ดั ทำ วา่ ท่รี .ต.หญิงเพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรับคนพกิ ารทางรา่ งกายและการเคลือ่ นไหวของจงั หวดั นครศรีธรรมราช

10 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ ความรู้เกยี่ วกบั การจดั การตลาด ๓. การวิเคราะหก์ ารตลาด เหด็ ฟางนนั้ ผลติ ภัณฑ์ทน่ี ิยมทำกนั มีอยู่ 3 รูปแบบ คือ 1. จำหน่ายเป็นเห็ดสด เห็ดฟางสดเป็นที่นิยมกันมากภายในประเทศแต่มักจะประสบปัญหาการขนส่งที่ต้อง รักษาให้เห็ดยังสดอยู่ เมื่อนำออกมาจำหน่ายและปัญหาดอกเห็ดในระยะที่อากาศร้อนอบอ้าวทำให้ราคา จำหน่ายที่ได้รับลดลง การเก็บเห็ดเพื่อจำหนา่ ยสดน้ี เกษตรกรจะต้องเก็บเหด็ ในตอนกลางคืนหรือเช้ามืด และ ส่งมาทันตลาดเมืองตอนเช้าให้ทันจำหน่าย ส่วนพ่อค้าเห็ดสดนิยมรักษาไว้ในห้องเย็นอุณหภูมิ 10-15 องศา เซลเซียส ซึ่งสามารถทำให้เห็ดชะงักการเจริญเติบโตได้ภายใน 6-8 ชั่วโมง หรือใช้วิธีง่ายๆคือการใส่ภาชนะ ปากกว้าง เช่น ถาดบรรจุไม่ให้แน่นเกินไป สำหรับการจำหน่ายเห็ดสดในตลาดต่างประเทศนั้น ลักษณะการ ส่งออกบรรจุในถาดโฟมหุ้มด้วยพลาสติกส่งทางเครื่องบิน เมื่อถึงประเทศปลายทางก็พร้อมจะนำเข้าจำหน่าย ตามซุปเปอร์มาเก็ตได้ทันที ปจั จบุ นั ตลาดสำคญั ของเหด็ สดหรือเห็ดแชเ่ ย็นคือสหรฐั อเมริกาและซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมูลค่าการส่งออกไปยัง ทั้งสองประเทศนี้คิดเป็นร้อยละ 72.5 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ประเทศท่ี แนวโน้มนำเขา้ เพิ่มข้ึนคือลิเบีย สำหรบั ประเทศที่มศี ักยภาพพอที่จะขยายส่งออกก็คอื ฮ่องกง ญ่ปี นุ่ ออสเตรเลีย และสิงค์โปร์ ซึ่งประเทศ เหล่านี้เคยนำเข้าเห็ดสดแช่เย็นจากประเทศไทย แต่เป็นการนำเข้าที่ไม่สม่ำเสมอ คาดหมายวา่ ถา้ ประเทศไทย สามารถปรับปรุงให้ปริมาณผลผลิตในประเทศมสี ม่ำเสมอและคุณภาพอยู่ในระดับ มาตรฐานแลว้ โอกาสในการขยายตลาดยังมมี ากมายพอสมควร ภาพที่ ๔ ทีม่ าของภาพ : เทคนิคการเพาะเห็ดฟางกรมสง่ เสริม 2. จำหน่ายเป็นเห็ดแห้ง เห็ดฟางแห้งเป็นผลิตผลจากการแปรรูปเห็ดสดโดยอบในตู้อบหรือตากแดด ตลาดเห็ดฟางแห้งในประเทศไทยไม่นิยมแพร่หลายนัก เพราะเห็ดสดมีให้ซื้อได้ทุกวันอยู่แล้ว แต่สำหรับตลาด ตา่ งประเทศให้ความสนใจเห็ดฟางแห้งมากเพราะเห็ดฟางแห้งมีกลิ่นดีกว่านอกจากน้เี มื่อนำเห็ดฟางแห้งไปปรุง อาหารแล้วจะมีความหนดื และกรอบคล้ายเห็ดโคน เห็ดฟางทน่ี ำมาทำแห้งควรเป็นดอกทเี่ พ่ิงบานใหม่ ๆ จะทำ ผู้จัดทำ วา่ ทีร่ .ต.หญิงเพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรับคนพิการทางรา่ งกายและการเคลอื่ นไหวของจังหวดั นครศรธี รรมราช

11 ให้สีและรสชาติดีกว่า ดอกตูมหรือดอกแก่จนครีบใต้ดอกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแล้ว โดยปกติเห็ดสด 10-13 กิโลกรัมเพื่อทำให้แห้งจะได้เห็ด 1 กิโลกรัม ในโรงงานอุตสาหกรรมนิยมนำเห็ดสดไปอบอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส จนกระทั่งดอกเห็ดแห้งสนิทดี ทำให้ดอกเห็ดเบา และกรอบเวลาในการอบแห้ง ประมาณ 18-24 ช่วั โมง 3. จำหนา่ ยเป็นเหด็ กระปอ๋ ง เหด็ ท่ีสง่ เข้าโรงงานจะมขี นาดรปู ร่างและสสี นั ตามมาตรฐานสากลทใี่ ช้เป็นบรรทัด ฐานในการรับซื้อ ดอกเห็ด และการตีราคาของโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งจะกำหนดชนิดลักษณะสีสันคุณภาพ ขนาดและตำหนิไว้ อย่างละเอียด นอกจากน้ียงั มีการคดิ ค้นผลิตภัณฑช์ นิดอืน่ จากเห็ดฟางโดยนำมาทำกะปิเห็ด ซอสหรือน้ำปลา เห็ดน้ำพริกเผาและข้าวเกรียบเห็ด เป็นต้น ตลาดต่างประเทศ สำหรับเหด็ ฟางกระป๋องนั้นแต่ เดิมการส่งออกมี เฉพาะซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอเมริกาเท่านั้นปัจจุบันตลาดขยายไปอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในตลาดยุโรป และเอเซยี โดยประเทศที่คาดว่าจะเปน็ ลูกค้าประจำต่อไป ได้แก่ บาห์เรน ออสเตรเลีย แคนาดา สวิสเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้คาดว่าจะขยายตลาดไปในบางประเทศที่การนำเข้ายัง ไม่สม่ำเสมอ เช่น ฝรั่งเศส คูเวต ญี่ปุ่น ฮ่องกง เดนมาร์กและมาเลเซีย ปัญหาที่สำคัญคือวัตถุดิบมีไม่เพียงพอ และคุณภาพไม่ได้มาตรฐานตามที่ต้องการกล่าวคือ เห็ดฟางกระป๋องที่ตลาดต้องการนั้นเป็นเห็ดที่หมวกสีดำ ขนาดเล็กซึ่งเป็นสายพันธุ์ของไต้หวันที่ใช้เพาะในลักษณะเห็ดอุตสาหกรรม เนื่องจากไต้หวันเป็นผู้บุกเบิกเห็ด ฟางกระป๋อง ดงั น้ันตลาดจงึ เคยชนิ กับเห็ดฟางกระป๋องในลักษณะนี้ ๔. ช่องทางการจำหน่ายชอ่ งทางการจัดจำหนา่ ย หมายถงึ กลไกทเ่ี ก่ียวข้องกับการทำให้สนิ คา้ เคล่ือนย้ายจาก ผู้ผลติ ไปถึงมือของผู้บริโภค หลักเกณฑ์ของชอ่ งทางการจัดจำหน่ายตอ้ งพิจารณา มดี ังนี้ ปจั จยั ในการสนบั สนุน การจำหนา่ ยเหด็ ฟาง ได้แก่ - แหล่งวัตถดุ บิ - ตลาดแหล่งจำหน่าย - การคมนาคมขนส่ง - ท่ตี ้งั โรงงาน ช่องทางการจำหนา่ ย สามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่องหลัก ๆ คอื 1. ตลาดท่ัวไป 1.1 ตลาดที่มีขนาดใหญ่ เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ข้อดี ปริมาณการสั่งซื้อมาก เหมาะสำหรับฟาร์มเห็ด ขนาดใหญ่ ข้อเสีย ราคาต่ำ หากฟาร์มตัง้ อยู่ห่างจากตลาดเป็นระยะทางไกล ต้องเพิ่มความ ระมัดระวังในเร่อื ง การขนส่ง และคณุ ภาพของสนิ คา้ 1.2 ตลาดทอ้ งถ่ิน เช่น ตลาดสดใกลบ้ ้าน ร้านอาหาร ขอ้ ดี ระยะทางใกล้ ราคาไมต่ ่ำจนเกินไปสามารถกำหนด ราคาเองได้ คุณภาพของเห็ดจะสด และอร่อยกวา่ ขอ้ เสีย ปริมาณการซอ้ื จะนอ้ ยกว่าตลาดการคา้ สง่ ขนาดใหญ่ 1.3 พ่อค้าคนกลาง ข้อดี ไม่ต้องทำการตลาดเอง ไม่วุ่นวาย ข้อเสีย ราคาลดลงเล็กน้อยกว่าการขายเอง และ ต้องพ่งึ แต่พอ่ คา้ คนกลาง ถอื เปน็ จดุ เสยี 1.4 ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ข้อดี เป็นฐานในการสร้างแบรนด์ที่ดี เปรียบเสมือนได้รับการยอมรับในเรื่อง คุณภาพจากลูกค้ารายใหญ่ ข้อเสีย การผลิตด้านการกำหนดขนาดดอกเห็ดไม่เป็นไปตามที่ต้องการ และ ปริมาณการส่งั ซอื้ ไม่มาก ผจู้ ัดทำ ว่าทร่ี .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรบั คนพกิ ารทางร่างกายและการเคล่ือนไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช

12 2. ตลาดสถาบัน ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ร้านอาหารที่มีช่ือเสียง โรงพยาบาล บริษัทแปรรูปอาหาร หน่วยงาน ราชการ ข้อดี การแข่งขันไมส่ ูงมากนัก ราคาคอ่ นขา้ งดี ขอ้ เสยี ปรมิ าณการสั่งซือ้ แตล่ ะคร้ังปานกลาง 3. ตลาดค้าปลีก / แสดงสินค้า ข้อดี ผู้บริโภคติดใจเพราะได้บริโภคเห็ดที่สด และกรอบ ข้อเสีย ปริมาณการ สง่ั ซ้อื ไม่สงู มาก 4 การบรรจหุ บี ห่อ ความหมายของบรรจุภัณฑห์ รอื การบรรจุหีบห่อ บรรจุภณั ฑห์ รือการบรรจหุ ีบห่อ หมายถึง ศาสตร์แลศิลปท์ ใ่ี ช้ในการบรรจสุ ินค้าโดยใช้ เทคโนโลยที ีท่ ันสมัยและ มติ รกบั สิง่ แวดลอ้ ม เพื่อการคุ้มครองปกปอ้ งสนิ ค้าจากผู้ผลิต จนถึงมือลกู ค้าอย่าง ปลอดภยั ดว้ ยต้นทุนการผลิต ทเ่ี หมาะสม ความสำคัญของการบรรจุภัณฑ์เห็ดฟาง เห็ดฟางเป็นผลิตผลทางด้านการเกษตรกรรมที่อาจได้รับความ เสยี หายมากเนือ่ งจากสภาวะ ของอากาศการบรรจุหีบห่อ และการขนส่งที่ไม่เหมาะสมการบรรจภุ ัณฑ์ท่ีดีมีส่วน ท่ีจะชว่ ยลดความเสียหาย เหลา่ นนั้ ลงได้ซึ่งเปน็ การช่วยใหผ้ ลผลิตดงั กล่าวถึงมือผูบ้ ริโภคในสภาพท่ีดี และจะทำ ให้ขายได้ในราคาที่สูงอีกด้วย จะเห็นได้ว่าการบรรจุภัณฑ์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อผลผลิต ซึ่งสามารถ สรุปเปน็ รายละเอยี ดเป็น ขอ้ ๆ ได้ดงั นี้ 1. รักษาคุณภาพและปกปอ้ งตัวสินค้า เริ่มตั้งแต่การขนส่งการเก็บให้ ผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ เหล่านัน้ มิให้เสียหายจากการปนเปือ้ นจากฝุ่นละออง แมลง คน ความช้ืน ความรอ้ น แสงแดด และการปนเป้อื น เปน็ ตน้ 2. ใหค้ วามสะดวกในเร่ืองการขนส่ง การจดั เกบ็ มคี วามรวดเรว็ ในการขนส่ง เพราะสามารถรวมหน่วย ของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเป็นหน่วยเดียวได้ เช่น ผลไม้หลายผลนำลงบรรจุในลังเดียว หรือเครื่องดื่มที่ เปน็ ของเหลวสามารถนำบรรจุลงในกระปอ๋ งหรอื ขวดได้ เป็นต้น 3. ส่งเสริมทางด้านการตลาด บรรจุภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่ายเป็นสิ่งแรกที่ผู้บริโภคเห็นดังนั้น บรรจุ ภัณฑ์จะต้องทำหน้าที่บอกกล่าว สิ่งต่าง ๆ ของตัวผลิตภัณฑ์โดยการบอกข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดของตัวสินค้า และนอกจากน้ันจะต้องมีรปู ลักษณ์ท่สี วยงามสะดุดตาเชิญชวนใหเ้ กดิ การตัดสินใจซ้ือ ซ่งึ การทำหนา้ ที่ ดังกล่าว ของบรรจุภัณฑ์นั้นเป็นเสมือนพนักงานขายที่ไร้เสียง โดยสรุปแล้วความสำคัญของบรรจุภัณฑ์จะมาจากสาเหตุ 4 ประการ อันประกอบด้วย - การรองรับรวบรวม - การปกป้องคมุ้ ครอง - ความสะดวกสบายในการใช้สอยและการผลิต - การสอื่ ประชาสัมพันธ์ใหก้ ับตวั ผลติ ภณั ฑ์ สง่ิ ที่กลา่ วมา ท้งั 4 ประการนั้นเป็นลกั ษณะอันพึงประสงค์ของการบรรจภุ ัณฑ์ทจ่ี ำเปน็ ประกอบเขา้ ดว้ ยกนั จงึ จะเปน็ บรรจภุ ณั ฑท์ ี่ดี ดังนั้นภาชนะบรรจุตา่ ง ๆ ท่ีเพ่มิ องค์ประกอบดังกลา่ วครบก็จะกลายเป็นบรรจุภัณฑ์ได้ เหมือนกนั เช่น การบรรจุภณั ฑ์เห็ดฟางแห้งและเหด็ กระปอ๋ ง / การบรรจภุ ณั ฑเ์ ห็ด ดองในขวดแก้ว และ พลาสตกิ ผูจ้ ดั ทำ วา่ ทรี่ .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรับคนพิการทางร่างกายและการเคลอื่ นไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช

13 การกำหนดราคาขาย การกำหนดราคาขายราคา หมายถงึ มลู ค่าของสินคา้ หรือบรกิ ารที่แสดงออกมาในรปู จำนวนเงิน หรือสื่อกลาง การแลกเปลยี่ นกบั สินค้าอีกชนดิ ได้โดยแสดงออกมาในรปู เชงิ ปรมิ าณ ปจั จัยทคี่ วรคำนึงในการกำหนดราคา 1. ปัจจยั ภายใน ได้แก่ 1.1 วัตถปุ ระสงคข์ องผผู้ ลติ หรอื บรษิ ัทจะเป็นผู้กำหนดเปา้ หมายและนโยบายในการ ดำเนนิ กิจการ แล้ว จึงกำหนดราคาเพื่อให้สอดคล้องกนั 1.2 ลกั ษณะและประเภทของสนิ ค้า (Character of Product) เชน่ สินคา้ เกษตรกรรมนอกฤดูจะ ขายราคาแพงกวา่ ปกติมาก 1.3 ตน้ ทุนจะเปน็ ตัวกำหนดราคาข้นั ตำ่ สุด 2. ปจั จัยภายนอก ไดแ้ ก่ 2.1 คำนึงถึงอปุ สงค์ (Demand ) ของตลาดว่ามคี วามต้องการเสนอซื้อสนิ คา้ มากเท่าใด และอุปสงค์ ของสนิ ค้าน้ันมีความยึดหยนุ่ ต่อราคาเป็นอยา่ งไร - สภาพเศรษฐกิจในปจั จบุ ัน - กฎหมายและรัฐบาล - จรรยาบรรณ ในการประกอบธุรกจิ - สภาพการแข่งขนั - พ่อค้าคนกลาง เปน็ ผู้กำหนดราคาขายเอง - ความต้องการของผ้บู ริโภค วธิ กี ารตั้งราคาโดยยึดต้นทนุ เป็นเกณฑ์ ตงั้ ราคาโดยคดิ ตน้ ทนุ บวกกำไร ราคาขายตอ่ หน่วย = ตน้ ทุนทง้ั หมด + กำไรทตี่ ้องการ วธิ ีนีจ้ ะใช้ได้ตอ้ งแนใ่ จว่า จำนวนผลิตต้องเท่ากบั จำนวนจำหน่าย ผ้ขู ายจึงจะมีกำไรตามทต่ี อ้ งการ สำหรบั พ่อค้าคนกลางอาจจะบวกกำไร กับตน้ ทุนไดห้ ลายลกั ษณะ เชน่ (กำไร) ราคาขายตอ่ หน่วย = ต้นทนุ ต่อหนว่ ย + 10% ของราคาขาย ราคาขาย ตอ่ หนว่ ย = ต้นทุนตอ่ หน่วย + 10% ของราคาทุน วิธกี ารต้งั ราคาโดยยึดความต้องการของตลาดเป็นเกณฑ์ การพิจารณาต้งั ราคาโดยยดึ ความตอ้ งการของตลาดเปน็ เกณฑ์นัน้ สามารถจำแนกได้เปน็ ลักษณะย่อย ๆ ดังน้ี 1.1 การต้งั ราคาในตลาดผูกขาด 1.2 การตั้งราคาในตลาดที่มีการแข่งขันอย่างสมบรู ณ์ 1.3 การตั้งราคาในตลาดที่มีการแขง่ ขันน้อยราย ระดับราคาที่เหมาะสมของสินค้าในตลาด ทั้ง 3 ประเภทอาศัยแนวความคิดเดียวกัน คือผู้ผลิต ต้องพยายาม ผลิต และขายในปริมาณท่ีทำใหเ้ กิดกำไรสูงสุด โดยสรุปได้ว่าระดับราคาที่เหมาะสม อยู่ที่ปริมาณการผลติ ท่ที ำ ให้ตน้ ทนุ เพ่มิ เทา่ กบั รายไดส้ ว่ นเพ่ิม แตร่ าคาจะตา่ งกัน ตามลกั ษณะเสน้ อปุ สงค์ของตลาดแต่ละ ประเภท 1.4 การตง้ั ราคาในตลาดท่ีมีความแตกตา่ งกนั ในด้านความตอ้ งการซึง่ ระดับราคาจะแตกตา่ ง ตามกรณี เชน่ - ลูกค้ามีมากกว่า 1 กลุ่ม และแต่ละกลุ่มมีความต้องการสินค้าแตกต่างกัน กลุ่มใด มีความต้องการ และความจำเป็นมาก ราคาจะสูงกวา่ กลุม่ อนื่ - ลกู คา้ แตล่ ะกลุม่ อยู่ห่างไกลกันทำให้ต้นทุนคา่ ใชจ้ า่ ยในการขนส่งเพมิ่ ข้นึ ซึง่ จะทำให้ราคาแตกต่างกนั ไปด้วย - ชว่ งเวลาทีข่ ายแตกต่างกนั ระดบั ราคาท่จี ำหน่ายในแตล่ ะชว่ งก็จะแตกต่างกัน ผู้จัดทำ ว่าทีร่ .ต.หญงิ เพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรบั คนพกิ ารทางรา่ งกายและการเคลอ่ื นไหวของจงั หวัดนครศรธี รรมราช

14 วธิ ีการต้งั ราคาโดยยึดการแขง่ ขนั เปน็ เกณฑ์ การตั้งราคาโดยมุ่งพิจารณาที่การแข่งขัน เป็นวิธีการที่นักการตลาดเห็นความสำคัญของคู่แข่งขันมากกว่า ความสำคญั ของความต้องการของตลาดและต้นทุน ลกั ษณะราคาเช่นน้ีอาจเกิดขึ้นในช่วงเวลา ใดเวลาหน่ึงเพ่ือ เอาชนะคู่แข่งขันระดับราคา ไม่จำเป็นต้องเท่าเทียมกับคู่แข่งขัน อาจสูงกว่าหรือต่ำกว่าก็ได้ ตัวอย่างที่เห็น ชดั เจนถึงการตงั้ ราคาในลกั ษณะน้ีได้แก่ - การกำหนดราคาตามคู่แขง่ ขัน - การกำหนดราคาโดยยื่นซองประมูล ผูจ้ ดั ทำ วา่ ที่ร.ต.หญงิ เพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรับคนพิการทางรา่ งกายและการเคล่ือนไหวของจังหวดั นครศรธี รรมราช

15 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ การทำบญั ชี ๔. การทำบญั ชี ขั้นตอนการจดั ทำรายงานทางการเงินไดด้ ังนี้ (1) รายการค้าหรือรายการทางบัญชี - การซอ้ื - ขายสินคา้ - การใหบ้ รกิ ารรบั จ้างตา่ งๆ - การจา่ ยค่าใชจ้ า่ ย - การรับ - จา่ ยชำระหนี้ ฯลฯ (2) เอกสารทต่ี ้องใชป้ ระกอบการลงบัญชี - ใบเสร็จรับเงนิ - ใบกำกับสินค้า/ใบส่งของ - ใบสำคญั จา่ ย - สัญญาต่างๆ ฯลฯ วิธกี ารลงบัญชี 1. ช่อง “ วัน เดือน ปี ” เขยี นวนั ท่ี เดอื น ปี พ.ศ. ทม่ี รี ายการรบั เงนิ และรายการจ่ายเงิน 2. ช่อง “ รายรับ” เป็นรายรับจากการประกอบอาชพี 3. ช่อง “ รายจา่ ย” เป็นรายจ่ายในการประกอบอาชีพ ๑. ความหมายของการบัญชี สมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ซึ่งเรียกโดยย่อว่า ส.บช. (The institutg os certisied accountants and audtor of Thailand : ICAAT) ได้ใหค้ วามหมายของ การบญั ชีไว้ ดังน้ี การบัญชี (Accounting) หมายถงึ ศิลปะของการเก็บรวบรวม บนั ทึก จำแนก และทำสรปุ ข้อมูลอัน เกี่ยวกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในรูปตัวเงิน ผลงานขั้นสุดท้ายของการบัญชี คือ การให้ข้อมูลทางการเงิน ซึ่งเป็นประโยชน์แก่บุคคลหลายฝา่ ย และผสู้ นใจในกิจกรรมของกิจการ สมาคมผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของประเทศสหรัฐอเมริกา (Tha anerican institute of certisied public accountants : AICPA) ไดใ้ ห้ความหมายของบญั ชไี ว้ ดังน้ี “การบัญชีเป็นศิลปะของการจดบันทึกรายการหรือเหตุการณ์และรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การเงนิ ไว้ในรปู ของเงนิ ตรา การจัดหมวดหม่รู ายการเหลา่ นัน้ การสรุปผล รวมท้งั การตคี วามของผลนนั้ ” ศาสตราจารย์ W.A. PATON แห่งมหาวิทยาลัยมิซิแกน ได้ให้คำจำกัดความ “การบัญชี” (Accounting) ว่า การบัญชี คือ “การช่วยอำนวยให้การบริหารงานเศรษฐกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น” นักบัญชีจึงมีหน้าที่บันทึกรายการ ซึ่งเกิดขึ้นได้กับหน่วยงานธุรกิจเฉพาะที่ สามารถตีค่าเป็นตัวเงินได้รวมท้ัง เรยี บเรียงจัดแยกประเภท วเิ คราะห์ และรายงานผลสรปุ ของรายการทเ่ี กดิ ขน้ึ สภาวิชาชพี (Federation of accounting professions : FAP) ได้กำหนดความหมายของคำว่า การบัญชี ไวด้ ังน้ี ผจู้ ดั ทำ วา่ ทรี่ .ต.หญงิ เพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรบั คนพิการทางร่างกายและการเคล่อื นไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช

16 การบัญชี (Accounting) คือ ศิลปะของการเก็บรวบรวม บันทึก จำแนก และสรุปข้อมูลเกี่ยวกับ เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในรูปตัวเงิน ผลงานขั้นสุดท้ายของการบัญชี คือ การให้ข้อมูลทางการเงินซ่ึง เปน็ ประโยชน์ตอ่ บคุ คลหลายฝ่ายในกิจกรรมของกิจการ จากคำนิยามข้างต้น ความหมายของการบัญชสี รุปได้ดังนี้ การบัญชี หมายถึง การรวบรวมวเิ คราะห์ การจดบันทกึ ข้อมลู ทเ่ี กิดขึ้นจากการดำเนินงานตามเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนก่อน-หลัง ในรปู ของเงนิ ตราและจำแนก ออกเปน็ หมวดหมู่ รวมถึงการสรุปข้อมูลในรูปของรายงานทางการเงิน จากความหมายดงั กลา่ วข้างต้นสรุปเป็น ขน้ั ตอนได้ดงั น้ี ๑. การทำบญั ชี (Bookkeeping) เปน็ หนา้ ท่ขี องผทู้ ำบัญชี (Bookkeeper) ซึ่งมขี นั้ ตอนการปฏบิ ตั ิ ดังน้ี 1.1 การรวบรวม (Collecinge) หมายถึง การรวบรวมข้อมูลหรือรายการค้าที่เกิดขึ้นประจำวันใน การดำเนนิ ธรุ กจิ ท่ีเกย่ี วข้องกับเงินเชน่ หลกั ฐานการซ่อื เชื่อและขายเชอ่ื หลักฐานการรบั และจา่ ยเงนิ เปน็ ตน้ 1.2 การบันทึก (Recording) หมายถึง การจดบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งตามลำดับ กอ่ น-หลังให้ถูกตอ้ งตามหลกั การบัญชีทรี่ บั รองทั่วไป พร้อมกับบันทึกขอ้ มลู ใหอ้ ยู่ในรปู ของหนว่ ยเงนิ ตรา 1.3 การจำแนก (Classifying) หมายถึง การนำข้อมูลที่จดบันทึกไว้ในสมุดรายวันทั่วไปมาผ่าน บัญชีแยกประเภทโดยจำแนกให้เป็นหมวดหมู่ตามหมวดบัญชีประเภทต่างๆเช่น หมวดสินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ รายได้ และคา่ ใช้จ่ายเปน็ ตน้ 1.4 การสรุปขอ้ มลู (Summarizing) นำข้อมูลท่ไี ด้จากการจำแนกในบญั ชีแยกประเภทดังกล่าวมา สรุปเป็นรายงานทางการเงิน (Accounting Redort) ซึ่งแสดงถึงผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของธุรกจิ ตลอดจนการไดม้ าและใชไ้ ปของเงนิ สดในรอบระยะเวลาบัญชีหน่ึง 2. การให้ข้อมูลทางการเงิน แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายเช่น ฝ่ายบริหาร ผู้ให้กู้ เจ้าหนี้ ตัวแทน รัฐบาล นักลงทุน เป็นต้นเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ทางด้านการเงิน การจดทำงบประมาณ การปรบั ปรุงระบบบัญชี และการให้สนิ เช่ือ เป็นตน้ ผ้จู ัดทำ วา่ ท่รี .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรบั คนพกิ ารทางร่างกายและการเคลื่อนไหวของจังหวดั นครศรธี รรมราช

การบนั ทกึ การปฏบิ ัติงานและการทำบญั ชีรายรับ-รายจา่ ย 17 ตวั อย่างบญั ชรี ายรบั -รายจา่ ย จำนวนเงิน บาท สต. บัญชีรายรบั -รายจ่าย การเพาะเห็ด ๓๕ - ๒๕ - วนั เดอื นปี รายรับ จำนวนเงนิ รายรบั 1 ก.ย. 64 บาท สต. จำหนา่ ยเหด็ ๑๐ กก. ๒๐๐ - ค่าเชื้อเห็ด กก.ละ๒๐ บาท คา่ ถุงบรรจุ รวมรับ ๒๐๐ - รวมจ่าย ๖๐ - คงเหลอื เงนิ ๑๔๐ - ผูจ้ ดั ทำ ว่าท่รี .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรับคนพิการทางรา่ งกายและการเคลื่อนไหวของจงั หวัดนครศรธี รรมราช

18 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๕ คุณธรรมในการประกอบอาชพี ๕. คุณธรรมในการประกอบอาชีพ ความรบั ผิดชอบในการทำอาชีพ ความหมาย ความรับผิดชอบ (Accountability) หมายถึง ความสามารถในการแสดงออกถึงความเกี่ยวข้องของ ตนเองตามบทบาทหน้าที่ของตน ในกรณีที่เกิดปัญหาหรอื ความผิดพลาดขึ้นแล้วต้องกำหนดแนวทางการแกไ้ ข ปัญหาโดยไม่ปัดภาระให้ ผู้อื่นหรือหน่วยงานอื่น ความแตกต่างระหว่างบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบ (Accountability)เป็นคุณสมบัติที่เชื่อถือได้ของบุคคลในการปฏิบัติงานและหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายให้ดที ี่สดุ ตามความสามารถของตน อาจทำตามคำสัง่ กฎหมาย หรือความรู้สึกสำนึกดีของบคุ คลกไ็ ด้ บทบาท (Role) หมายถึง การกระทำตามหน้าทที่ บ่ี ุคคลได้รับมอบหมายให้กระทำ หนา้ ท่ี (Duty) หมายถงึ ภารกิจท่ตี ้องทำตามกฎหมาย หรือข้อตกลงขององค์กรวิชาชีพ วิชาชีพ (Profession) หมายถึง การประกอบอาชีพเต็มเวลา ต้องใช้การศึกษาและประสบการณ์ใน ระดับสูง ซ่งึ มคี า่ ตอบแทนในวชิ าชพี ดังนั้น ผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องมีความรู้ ทักษะในการประกอบอาชีพนั้น ๆ ต้องได้รับการฝึกอบรม หรือ การศกึ ษาตรงตามสาขาวชิ าชพี ความรับผิดชอบในวิชาชีพ ความสามารถในการแสดงออกบทบาทหน้าที่ของตน ยึดมั่นหมั่นใน กฎเกณฑ์ของการประกอบวิชาชีพ ปฏิบัติงานและให้บริการด้วยจิตสำนึกในวิชาชีพ สามารถแก้ไขปัญหาที่ เกิดขึน้ ดว้ ยตนเอง รบั ทัง้ ผดิ และชอบ คุณธรรมและจริยธรรมในการประกอบอาชีพ การมีคุณธรรมและจริยธรรมในการทำงานเป็นอย่างมี จติ สำนกึ ถูกวิธี เป็นขนั้ ตอนมีประสทิ ธิภาพ และ เปน็ ทีย่ อมรบั ของผู้อืน่ ในสังคม ซง่ึ มีองค์ประกอบสำคัญ ดงั น้ี 1) มีความซื่อสัตย์ ในการทำงานเราจะต้องมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และงานที่เราได้รับมอบหมาย ปฏิบตั งิ านด้วยความจริงใจ และไม่คดโกงหรอื หลอกลวงผูอ้ น่ื เราจึงจะไดร้ ับความไว้วางใจจากผ้รู ่วมงาน 2) มีความเสียสละ ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เราจะต้องเหน็ แก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ สว่ นตน ไม่เห็นแก่ตวั รจู้ ักการใหแ้ ละการแบง่ บนั ช่วยคนอ่นื โดยไมห่ วงั ผลตอบแทน 3) มีความยุติธรรม ในการทำงานเราจะต้องไม่ลำเอียงหรือถือสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามที่เราเชื่อต้องมีความ เป็นกลาง ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก ไม่มีอคติกับเรื่องต่างๆ ที่ได้ยินหรือรับฟังจึงจะต้องที่น่านับถือของ ผู้รว่ มงาน 4) มีความประหยัด ในการทำงานเราต้องรู้จักอดออม ไม่ฟุ่มเฟือย ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าในการใช้ ทรัพยากร โดยการนำสิ่งที่เหลือใช้หรือส่ิงที่ไม่มีประโยชน์แล้วมาดัดแปลงซ่อมแซม และแก้ไข เพื่อการทำสิ่งที่ ไมม่ คี ุณค่าใหม้ คี ุณคา่ มากขึน้ 5) มีความขยันและอดทน ในการทำงานเราจะต้องมีความมุ่งมั่นต่องานที่เรารับมอบหมาย เพื่องาน นั้น บรรลุเป้าหมาย ตามที่ได้ตั้งไว้ เมื่อพบปัญหาหรืออุปสรรคในการทำงานให้นำปัญหาหรืออุปสรรคนั้นมา ปรบั ปรงุ และแก้ไขให้ดีย่งิ ขน้ึ ผู้จดั ทำ วา่ ท่รี .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรับคนพกิ ารทางรา่ งกายและการเคลอ่ื นไหวของจงั หวดั นครศรีธรรมราช

19 6) มีความรับผิดชอบ ในการทำงานเราจะต้องมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายผู้ร่วมงาน ลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพมาผลิตสินค้า รวมทั้งไม่ทำลายทรัพยากร ธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม 7) มีความตรงต่อเวลา เป็นวินัยพื้นฐานในการทำงาน มีความตรงต่อเวลา ไม่มาทำงานสายและต้อง ส่งงานที่ได้รับมอบหมายตามกำหนด เพราะถ้าเราไม่ส่งงานตามกำหนดทำให้ผู้ที่ทำงานต่อจากเราได้รับ ผลกระทบ และทำใหง้ านนนั้ ไม่สำเร็จตามเปา้ หมายทวี่ างไว้ สร้างความเสยี หายต่อองค์กร 8) มีการประกอบอาชีพที่สุจริต ในการทำงานเราจะต้องเลือกประกอบอาชีพที่สจุ ริตไม่ทำให้ผู้อื่นไม่ เดือดร้อน ไม่เป็นภัยต่อสงั คม ซึ่งสังคม ที่ยอมรับอาชีพนั้นเปน็ อาชีพที่สุจริต และคนทั่วไปเลือกที่จะ ประกอบ อาชีพนัน้ จงึ เรยี กไดว้ ่าเรามกี ารเลือกประกอบอาชีพท่ีสจุ ริต ความซอ่ื สตั ย์สุจรติ ในการประกอบอาชีพ มีความซื่อสัตย์สุจริต ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นมูลที่จะถางทางไปสู่คุณธรรมข้ออื่น ๆ ความซื่อสัตย์ สุจริตนั้นต้องประกอบด้วยกาย วาจา และใจ ผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริตย่อมเป็นที่เชื่อถือของคนทั่วไป เป็นส่ิง สำคัญยิ่งในการทำงาน และการประกอบอาชีพทุกอาชีพ มีความขยันหมั่นเพียร ความขยันหม่ันเพียรเป็น คุณธรรมสำคัญในการกระทำกจิ การงาน ทง้ั ปวงให้ประสบความสำเรจ็ ผู้ที่ต้งั มัน่ อยใู่ นความขยันหม่ันเพียรย่อม แสวงหาความรู้ใส่ตนอยู่เสมอ ประกอบกิจการ งานใด ๆ ก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและความยากลำบาก กิจการ งานต่าง ๆ ย่อมสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี บุคคลใดมี ความขยันหมั่นเพียรก็ย่อมมีความเจริญในชีวิต หน่วยงานใด สังคมใดมีคนที่ขยันหมั่นเพียรมาก ๆ หน่วยงาน นั้น สังคมนั้นก็คงจะมีแต่ความก้าวหน้ามั่นคง มีความเมตตา กรณุ า ความเมตตากรณุ าเป็นคุณธรรมท่ีอยู่ใน “พรหมวิหารธรรมสี่” อันเปน็ ธรรม ของผู้ทเี่ ปน็ ใหญห่ รือหัวหน้า และบคุ คลทว่ั ไป หากโลกมนษุ ย์อยรู่ ่วมกันโดยใช้หลักเมตตาธรรม เช่ือว่ามนุษย์ และสรรพสัตว์ท้งั หลายย่อมอยู่ ร่วมกันด้วยความสงบสุข ดังคำกล่าวที่ว่า “เมตตาธรรมค้ำจุนโลก” มีความกตัญญูกตเวที ผู้ที่มีความกตัญญู กตเวทีย่อมเปน็ ทยี่ กย่องสรรเสรญิ ของเทวดา และมนุษย์ ผูท้ ่ยี ึดม่ันปฏิบตั ิเปน็ นิจย่อมมีความเจรญิ ในชีวติ ได้ช่ือ ว่า เป็นคนดี ดังคำกล่าวที่ว่า “ความกตัญญู เป็น เครื่องหมายของคนดี” ความซื่อสัตย์สุจริต สำหรับ ผูป้ ระกอบการท่เี กีย่ วข้องกบั การดำเนินกิจการงานอาชพี ตา่ งๆ กระบวนการบรกิ ารจะตอ้ งติดตอ่ กบั ผูร้ บั บริการ กลุ่มเป้าหมายโดยตรง และถือว่าเป็นรับบริการคนสุดท้าย ถ้าหากขาดจริยธรรมแล้ว จะส่งผลกระทบโดยตรง แม้กระทั่งการใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อที่จะให้ได้ ผลตอบแทนที่สูง เช่น การดัดแปลงเครื่องชั่ง ตวง วัดน้ำหนัก การ ปลอมปนสินค้าเพื่อจำหน่าย การลดปริมาณสินค้าลงบางส่วนหรือฉวยโอกาสกักตุนสินค้าเพื่อจำหนา่ ยในราคา สูงกว่าเดิมในภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้รับบริการเสียโอกาสหรือผลกระทบจากความซื่อสัตย์สุจริต จะส่งผล เสียหายในระยะยาวตามมาเรื่องชื่อเสียง ในที่สุดเป็นอุปสรรคสำหรับความเจริญรุ่งเรืองของกิจการในอนาคต ผู้ประกอบการจะต้องตระหนักในเรื่องของ ความซื่อสัตย์สุจริตมากที่สุด เพราะกิจการมีความซื่อสัตย์สุจริตจะ เกิดความไว้วางใจจากลูกค้ารวมทงั้ ผู้ท่ีมสี ว่ นเก่ียวข้องกบั การดำเนินกิจการ และจะเปน็ พื้นฐานของอนาคตด้าน ความก้าวหน้าของกิจการ หากไม่มีความ ซื่อสัตย์สุจริตจะเป็นพื้นฐานของจริยธรรมด้านลบตามมาของ ผู้ประกอบการเองด้วย ดังนน้ั ผู้ประกอบการท่ีต้องการความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองของตนเองและส่งผลให้เกิดเป็นภาพลักษณ์ ที่ดีสำหรับทายาทในอนาคตจะต้องยึดหลักการข้อนี้ไว้เป็นคุณธรรมประจ าใจ ดังคำกล่าวที่ว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” หรือไม่จะเปน็ ด้านวัตถุดบิ ในการผลติ ไมค่ วรมองขา้ มเร่ือง คุณภาพและปริมาณที่เหมาะสมและ ได้สัดส่วน ผู้จดั ทำ ว่าทีร่ .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรับคนพกิ ารทางร่างกายและการเคล่ือนไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช

20 คณะทำงาน 1. ที่ปรกึ ษา 1.1 นางวีระดี กองแกว้ ผู้อำนวยการโรงเรียนสำหรับคนพิการทาง ร่างกายและการเคลื่อนไหวของ จังหวัด นครศรีธรรมราช 1.2 นางสาวนชุ นาฏ จันสนธิ รองผู้อำนวยการโรงเรียนสำหรับคนพิการทาง ร่างกายและการเคลื่อนไหวของ จังหวัด นครศรีธรรมราช 1.3 นายอนงค์ เกดิ ศรี ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนสำหรับคนพิการทาง ร่างกายและการเคลื่อนไหวของ จังหวัด นครศรีธรรมราช 1.๔ นางสาวเสาวลักษณ์ จงจิตต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนสำหรับคนพิการทาง ร่างกายและการเคลื่อนไหวของ จังหวัด นครศรธี รรมราช 1.๕ นางสาวภทั ธิรา พุทธเจริญ หัวหน้ากลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ 1.๖ นางซารนี า อินทรส์ ไุ ว หวั หน้ากลุ่มบริหารงบประมาณและแผนงาน ๑.๗ นางสาววาลินี สุขทองแท้ หวั กลมุ่ บริหารงานบคุ คล 1.๘ นายอาหามะ นาเจะ หัวหน้ากลมุ่ บริหารกจิ การนักเรียน 2. บรรณาธกิ าร ๒.๑ นายพิเชษฐ์ พรหมราช ครผู ู้ชว่ ย ๒.๒ นางสาวเจนจริ า ทองใส ครูอตั ราจา้ ง ๒.๓ นางสาวนารีรตั น์ สวุ รรณฤกษ์ ครอู ัตราจ้าง ๒.๔ นางสาวชอ่ ผกา สตุ าระ 3. ผู้เขียน ว่าทร่ี .ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสุข ครูผู้ช่วย ๔. ผ้พู ิมพ์ วา่ ที่ร.ต.หญงิ เพ็ญผกามาศ แสนสขุ ครูผชู้ ว่ ย ๕. ผู้ออกแบบ นายพิเชษฐ์ พรหมราช ครูผู้ชว่ ย ผู้จดั ทำ ว่าที่ร.ต.หญิงเพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรบั คนพิการทางร่างกายและการเคลื่อนไหวของจังหวดั นครศรีธรรมราช

21 บรรณานกุ รม กรมวชิ าการเกษตร. 2553. เหด็ ฟางและเทคโนโลยกี ารผลิตในโรงเรือน. โรงพิมพ์ ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย. กรุงเทพฯ. กรมวิชาการเกษตร. มปป. การเพาะเหด็ ในถงุ พลาสติก. สำนักวิจยั พัฒนาเทคโนโลยี ชวี ภาพ. กรุงเทพฯ. ชาญยุทธ์ ภาณทุ ัตและคณะ. 2542. การบรหิ ารศตั รเู ห็ด.กรมส่งเสริมการเกษตร. กรงุ เทพฯ. ชาญยทุ ธ์ ภาณุทตั และคณะ. 2543. เทคนคิ การเพาะเห็ด.กรมส่งเสริม การเกษตร.กรงุ เทพฯ. สุพัฒน์ กลัดเดชและมยรุ ี ประกอบแสง. 2557. การเพาะเห็ดเพอ่ื การค้า. เอกสาร ประกอบการฝึกอบรม (อดั สำเนา) กรมส่งเสริมการเกษตร. สำเนาว์ ฤทธน์ิ ุช. 2555. ค่มู อื พึง่ ตนเอง สูตรเด็ดการเพาะเห็ดฟางในตะกรา้ . สำนกั พิมพ์เกษตรกรรม ธรรมชาต.ิ กรุงเทพฯ. อภิชาต ศรสี ะอาด และจันทรา อู่สวุ รรณ. 2556. นวตั กรรมใหม่และแบบอย่าง การเพาะเลยี้ งเหด็ ถุงทำเงนิ . บริษทั นาคา อนิ เตอรม์ เี ดยี จำกัด. สมทุ รสาคร. ผจู้ ัดทำ ว่าทร่ี .ต.หญงิ เพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรบั คนพิการทางรา่ งกายและการเคลื่อนไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช

22 ภาคผนวก ผู้จัดทำ วา่ ทร่ี .ต.หญงิ เพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรบั คนพกิ ารทางรา่ งกายและการเคลอื่ นไหวของจังหวดั นครศรธี รรมราช

23 แบบประเมินหลักสตู รทกั ษะงานอาชีพเพื่อการมีงานทำของสถานศกึ ษา โรงเรียนสำหรบั คนพกิ ารทางร่างกายและการเคลื่อนไหวของจังหวดั นครศรีธรรมราช คำชีแ้ จง แบบประเมินผลการจัดการศึกษาอาชีพเพอ่ื การมีงานทำฉบบั นี้ จัดทำข้นึ เพื่อให้ครูผสู้ อนใช้ในการ รวบรวมขอ้ มลู การดำเนนิ การและปัญหาอุปสรรคของดำเนินการจดั การศกึ ษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำ แบบ ประเมิน แบง่ ออกเป็น ๓ ตอน ตอนท่ี ๑ ขอ้ มูลท่วั ไปท่เี กยี่ วข้องกับการจัดการศึกษาอาชีพเพ่อื การมีงานทำ ตอนท่ี ๒ ความคิดเห็นตอ่ การประเมนิ หลกั สตู รทักษะงานอาชพี เพ่ือการมีงานแต่ละกลมุ่ อาชพี ตอนท่ี ๓ ขอ้ เสนอแนะ ให้สถานศกึ ษาสอบถามขอ้ มลู ผทู้ เ่ี กี่ยวข้องได้แก่ ครูท่ีใช้หลกั สตู ร ผูเ้ รียน/ผรู้ ับบรกิ าร ผ้ใู หข้ อ้ มลู ควร ศึกษาหลักสตู รรว่ มดว้ ย และแสดงความคดิ เหน็ ประเดน็ ในการประเมินหลักสตู ร ประกอบดว้ ย ๑. ประเมนิ เอกสารหลักสตู ร จุดมุ่งหมาย/โครงสรา้ งหลกั สูตร/เนอ้ื หาสาระ ๒. กระประเมนิ การสอนของครูผู้สอน ๓. การวัดประเมินผลการเรียน ๔. การประเมินระบบการบริหาร ส่วนท่ี ๑ ข้อมูลทั่วไปทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับการจัดการศกึ ษาอาชีพเพื่อการมีงานทำ เพศ  ชาย  หญิง อายุ  ๑๐ - ๒๐ ปี  ๒๑ - ๕๙ ปี  ๖๐ ปขี ้นึ ไป อาชพี  ครูผู้สอน  ผ้จู ัดทำหลกั สตู ร  ผู้เรียน  ผู้เชีย่ วชาญ 1. วชิ าทเ่ี ปดิ สอน................................  กล่มุ อาชีพเกตรกรรม  กลมุ่ อาชีพอุตสาหกรรม  กล่มุ อาชพี พาณชิ ยกรรม  กลมุ่ อาชพี ความคิดสรา้ งสรรค์  กล่มุ อาชีพบริหารจัดการและบรกิ าร 2. หลักสตู รมี จำนวน ..........๖๐.......... ชั่วโมง ผู้จดั ทำ ว่าท่รี .ต.หญงิ เพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรับคนพิการทางรา่ งกายและการเคลอ่ื นไหวของจังหวดั นครศรีธรรมราช

24 ส่วนที่ ๒ ความคดิ เห็นตอ่ การประเมินหลักสูตรทกั ษะงานอาชพี เพือ่ การมีงานแตล่ ะกลุ่มอาชีพ คำชแ้ี จง ใส่เครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งที่ตรงกับความคิดเห็นของท่านเพียงชอ่ งเดยี ว ระดบั ความคดิ เห็น ประเด็นการประเมิน มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ทีส่ ดุ กลาง ทสี่ ุด ๑. จุดมงุ่ หมาย/เนื้อหาหลกั สูตร ๑.๑ จดุ ม่งุ หมายของหลักสูตรสอดคล้องกบั การจัดการศึกษาอาชพี เพื่อ การมีงานทำของสถานศึกษา ๑.๒ องความต้องการและความจำเปน็ ของผ้เู รยี น ๑.๓ เนอ้ื หาสอดคลอ้ งกับสภาพแวดลอ้ มของชมุ ชน ๑.๔ เนือ้ หามคี วามทันสมัยและนำไปประกอบอาชพี ได้จรงิ ๒. การสอนของครูผสู้ อน/การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ๒.๑ คำนึงถึงความแตกต่างในความรู้ ประสบการณ์ของผู้เรียน ๒.๒ คำนงึ ถงึ ความแตกต่างของความสามารถ และวิธกี ารเรียนรขู้ อง ผู้เรียน ๒.๓ จดั กระบวนการเรยี นรู้/กจิ กรรม เปน็ ลำดบั ข้นั ตอนง่ายต่อการเขา้ ใจ ๒.๔ ใช้รูปแบบเทคนิควิธีการทหี่ ลากหลาย โดยเน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั ๒.๕ เนน้ การเรยี นร้จู ากการปฏิบัต/ิ การร่วมกจิ กรรมในสถานการณ์จริง/ ฝกึ ปฏบิ ตั ิ ๒.๖ ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นไดฝ้ กึ กระบวนการคดิ อยา่ งเป็นระบบ ๒.๗ สง่ เสริมให้ผู้เรยี นไดเ้ รียนรู้จากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆท้ังภายในและ ภายนอกสถานศึกษาเป็นระยะๆ ๒.๘ สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมในกระบวนการเรยี นร้แู ละกจิ กรรม ต่างๆ ๒.๙ ใช้สอ่ื หลากหลายเช่น หนงั สือเรยี น วีดที ัศน์ YouTube ๒.๑๐ ส่ือการเรยี นทเี่ หมาะสมกบั ผูเ้ รยี น เช่น อา่ นแล้วทำความเข้าใจได้ ง่าย ๓. การวัดและประเมินผล ๓.๑ ใชว้ ิธีการวดั และประเมินผลที่หลากหลายและเนน้ การประเมินตาม สภาพจรงิ ๓.๒ ใชว้ ิธีการวัดและประเมินผลท่ีสอดคล้องกบั จุดประสงคห์ ลกั สูตร เนอื้ หา และการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๓.๔ มีการบนั ทกึ ผลการจัดกระบวนการเรยี นรู้/กิจกรรมหลงั เรียน ทกุ คร้งั และนำข้อบกพร่อง ปัญหามาวางแผนในการจดั กระบวนการเรียนรู้/ กิจกรรม ๔. การบริหารหลกั สตู ร ๔.๑ มผี รู้ บั ผิดชอบหลักสตู รที่ชัดเจน ผูจ้ ดั ทำ วา่ ทีร่ .ต.หญงิ เพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรียนสำหรบั คนพิการทางรา่ งกายและการเคลอ่ื นไหวของจังหวัดนครศรีธรรมราช

25 ระดบั ความคดิ เหน็ ประเดน็ การประเมนิ มาก มาก ปาน น้อย น้อย ทสี่ ดุ กลาง ที่สดุ ๔.๒ มรี ะบบรายงานข้อมูล หลกั สูตร การจดั การศึกษาและผสู้ อน ๔.๓ มีการประเมินผูส้ อน การจดั การเรียนการสอนและนำผลการ ประเมินไปปรับปรุงการเรียนการสอน ๔.๔ มกี ารตดิ ตามผลการเรียน และประสทิ ธภิ าพผู้เรียน ๔.๕ มีสถานที่เหมาะสมในการจดั กจิ กรรม/การจัดกระบวนการเรียนรู้ ๔.๕ มีวสั ดุ อปุ กรณ์ ทเ่ี หมาะสมและเพยี งพอแก่การจัดกิจกรรม/การจัด กระบวนการเรียนรู้ ๔.๖ มกี ารติดตามผลผูเ้ รียนหลังจากสำเร็จการศึกษา ส่วนท่ี ๓ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. .............................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ เกณฑ์การประเมิน คา่ เฉลยี่ ๔.๕๑ - ๕.๐๐ หมายถึง มากทีส่ ดุ คา่ เฉลี่ย ๓.๕๑ - ๔.๕๐ หมายถึง มาก คา่ เฉลยี่ ๒.๕๑ - ๓.๕๐ หมายถึง ปานกลาง คา่ เฉล่ีย ๑.๕๑ - ๒.๕๐ หมายถงึ นอ้ ย คา่ เฉล่ยี ๑.๐๐ - ๑.๕๐ หมายถึง นอ้ ยทสี่ ดุ ผลจากการประเมิน ควรอยูใ่ นระดบั มากขึ้นไป ถึงจะเป็นการแสดงว่าเปน็ หลกั สตู รที่เหมาะสมสามารถ นำไปใช้กบั ผูเ้ รยี นได้ ลงชื่อ.................................................... ครผู สู้ อน ( ............................................) ตำแหน่ง ครู ผจู้ ัดทำ วา่ ทีร่ .ต.หญงิ เพ็ญผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรบั คนพิการทางร่างกายและการเคลือ่ นไหวของจังหวดั นครศรีธรรมราช

คูม่ อื การพฒั นาทกั ษะการเพาะเหด็ แบบสังเกตพฤตกิ รรมผลการจดั การศึกษาทกั ษะ หลักสูตร................................................... ระหวา่ งวันท่.ี ...............เดอื น...............................พ.ศ.............. สถานทจ่ี ัด ณ โรงเรยี นสำหรบั คนพิการทางร่างกายและการเคลอ่ื นไหวของจงั หว คำชแี้ จง ให้ครผู สู้ อนลงคะแนนพฤติกรรมลงในช่องว่างตามรายบุคคลที่กำหนดให้ ลำดบั ชอื่ -สกุล ความรู้ความ ทกั ษะการ ผ ที่ เขา้ ใจใน ปฏบิ ตั ิ เน้ือหาสาระ (๒๐) (๒๐) ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ผู้จดั ทำ วา่ ท่ีร.ต.หญิงเพญ็ ผกามาศ แสนสุข โรงเรยี นสำหรบั คนพกิ ารทางรา่ งกายและการเคล่อื น

ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ ะงานอาชีพเพ่ือการมีงานทำของสถานศึกษา ............จำนวน..........................ชว่ั โมง ....ถึงวันท่ี............... เดือน..........................พ.ศ.................. วัดนครศรธี รรมราช ตำบลควนกรด อำเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช คณุ ภาพของ ความร่วมมือ/ จติ อาสา ผลการ ระดับการ ระดับการ ผลงาน/ผลการ ความสนใจ (๑๕) ประเมนิ รวม ประเมิน ประเมิน (ผา่ น) (ไมผ่ ่าน) ปฏบิ ตั ิ (๓๐) (๑๕) นไหวของจังหวัดนครศรธี รรมราช

คูม่ ือการพัฒนาทักษะการเพาะเห็ด เกณฑ์การประเมิน คา่ เฉลี่ย ๔.๕๑ - ๕.๐๐ หมายถงึ มากทสี่ ุด คา่ เฉลย่ี ๓.๕๑ - ๔.๕๐ หมายถึง มาก คา่ เฉลย่ี ๒.๕๑ - ๓.๕๐ หมายถึง ปานกลาง ค่าเฉลย่ี ๑.๕๑ - ๒.๕๐ หมายถึง น้อย คา่ เฉล่ยี ๑.๐๐ - ๑.๕๐ หมายถงึ น้อยท่สี ดุ ผลจากการประเมิน ควรอย่ใู นระดับมากข้ึนไป ถึงจะเป็นการแสดงว่าเปน็ หลกั หมายเหตุ การประเมินผลการจบหลกั สูตรอาจดำเนนิ การได้ดังน้ี ๑. การประเมินระหว่างเรยี นและเม่ือจบหลกั สูตร ๒. ประเมนิ คร้ังเดียวก่อนจบหลกั สตู ร ท้งั นี้ เกณฑก์ ารจบหลักสตู รจะตอ้ งได้คะแนนรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ ลงชือ่ ................... (.................... ตำแ ผู้จดั ทำ วา่ ทร่ี .ต.หญงิ เพญ็ ผกามาศ แสนสขุ โรงเรยี นสำหรบั คนพกิ ารทางรา่ งกายและการเคลื่อน

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ มากทีส่ ุด มาก เกณฑค์ ะแนน ปานกลาง ๙๑ – ๑๐๐ หมายถึง น้อย ๗๑ – ๙๐ หมายถึง น้อยท่สี ุด ๕๑ – ๗๐ หมายถึง ๓๑ – ๕๐ หมายถึง ๑๑ – ๓๐ หมายถงึ กสตู รทีเ่ หมาะสมสามารถนำไปใชก้ บั ผู้เรียนได้ ๖๐ จึงจะผา่ นเกณฑ์การประเมิน ..........................ครผู ู้สอน ............................) แหน่ง ครู นไหวของจงั หวัดนครศรีธรรมราช

ค่มู ือพฒั นาทกั ษะอาชพี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook