ตารางธาตุในปจั จบุ นั 3.) ธาตุเรฟพรีเซนเททีฟ (ธาตุหมู่หลัก) ประกอบด้วยธาตุ 3 กลุ่ม คือ โลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ ธาตทุ ีเ่ ป็นโลหะและอโลหะถูกแยกออกจากกันดว้ ย “เสน้ ขน้ั บนั ได” ทางซา้ ย ของเส้นบันไดเปน็ โลหะ ทางขวา ของเส้นข้ันบันไดเปน็ อโลหะ ส่วนธาตุทีอ่ ยชู่ ดิ เส้นบนั ไดจะมีสมบัติกา้ ก่ึงระหวา่ งโลหะกับอโลหะ เรยี กธาตุพวกน้ีวา่ ธาตุกง่ึ โลหะ (Metalloid) บ ท ที่ บ2ท ท:ี่ 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
ท า ง ซ้ า ย = โลหะ ทางขวา = อโลหะ บ ท ท่ี บ2ท ท:ี่ 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
บ ท ท่ี บ2ท ท:ี่ 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
บ ท ท่ี 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n
ตารางธาตุในปจั จบุ นั 4.) ช่อื เฉพาะของธาตหุ มู่ A บางหมู่ ธาตหุ มู่ IA หรือโลหะอัลคาไล (alkaline metal) ธาตุหมู่ IIA หรือโลหะอัลคาไลน์เอิรธ์ (alkaline earth) ธาตุหมู่ VIIA หรอื หมู่แฮโลเจน (Halogen group) ธาตหุ มู่ VIIIA หรือก๊าซเฉอื่ ย หรอื กา๊ ซมตี ระกลู (Noble gas) บ ท ที่ บ2ท ท:ี่ 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
ธาตุหมู่ 7A (VIIA) ส ม บั ติ ขอ ง ธาตุ หมู่ 7 A F (ฟลอู อรีน) • วอ่ งไวต่อปฏกิ ริ ยิ าเคมี F2 Cl (คลอรนี ) • เป็นแกส๊ ทอ่ี ยใู่ นรปู ของ โมเลกลุ Cl2 Br (โบรมนี ) Br2 I (ไอโอดนี ) (ประกอบดว้ ย 2 อะตอม) I2 At (แอสทาทีน) • ชอบรบั e- • มเี วเลนตอ์ เิ ลก็ ตรอน เทา่ กบั 7 บ ท ที่ บ2ท ท:่ี 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
ธาตุหมู่ 8A (VIIIA) ส ม บั ติ ขอ ง ธาตุ หมู่ 8 ก๊าซเฉื่อยหรือก๊าซมีตระกูล (noble gas) He (ฮเี ลยี ม) ก๊าซเฉ่ือย (Inert gas) เป็นธาตทุ ีม่ สี ถานะเป็น “ก๊าซ” Ne (นีออน) • ไม่ว่องไวตอ่ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี Ar (อารก์ อน) • เป็นแกส๊ ทอ่ี ยใู่ นรปู ของอะตอม Kr (ครปิ ตอน) (เปน็ แกส๊ อะตอมเดยี่ ว) Xe (ซนี อน) • มีเวเลนต์อเิ ลก็ ตรอน เทา่ กบั 8 Rn (เรดอน) บ ท ที่ บ2ท ท:ี่ 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
Group B = ก ร อ บ เ ห ลื อ ง เ รี ย ก ว่ า ธ า ตุ แ ท ร น ซิ ชั น มี 8 หมู่ Inner Transition มี ส ม บั ติ เ ป็ น โ ล ห ะ บ ท ที่ บ2ท ท:่ี 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
ตารางธาตุในปัจจบุ นั 5.) ธาตุ 2 แถวล่าง ซงึ่ แยกไวต้ า่ งหากนน้ั เรยี กว่า ธา ตุ แ ทรนซิ ชั นช้ันใน ( I n n e r t r a n s i t i on e l e me n t s ) • ธาตแุ ถวบน คอื ธาตทุ ่ีมเี ลขอะตอมตง้ั แต่ 58 ถงึ 71 เรียกว่า กลมุ่ ธาตแุ ลนทาไนด์ (Lanthanide series) ธาตกุ ลุ่มน้ีควรจะอยใู่ นหมู่ III B โดยจะเรยี งต่อจากธาตุ La • ธาตุแถวลา่ ง คือ ธาตทุ มี่ ีเลขอะตอมตั้งแต่ 90 ถึง 103 เรยี กวา่ กล่มุ ธาตแุ อกทิไนด์ (Actinide series) ธาตุกลุม่ นี้ควรอย่ใู นหมู่ III B โดยเรียงต่อจากธาตุ Ac บ ท ที่ บ2ท ท:่ี 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
ทาไม ตาแหน่งของธาตุ H ถึงมีได้หลายแบบ ? บ ท ท่ี บ2ท ท:่ี 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
คาตอบ ธาตุไฮโดรเจนมีสมบตั ิ บางอยา่ งคลา้ ยธาตหุ มู่ 1 และมสี มบัตบิ างอยา่ ง คลา้ ยธาตหุ มู่ 7 บ ท ที่ บ2ท ท:่ี 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
คุณสมบตั ิบางประการของโลหะและอโลหะ สมบัติ โลหะ อโลหะ 1. สถานะ เปน็ ของแขง็ ในสภาวะปกติ มีอย่ไู ดท้ ัง้ 3 สถานะ ยกเว้น ปรอทซ่งึ เปน็ ของเหลว เปน็ ก๊าซในสภาวะปกติ เช่น แกส๊ คลอรีน แก๊สโบรมีน (หมู่ 7) 2. ความมนั วาว มวี าวโลหะ ขดั ข้ึนเงาได้ ส่วนมาก ไมม่ ีวาวโลหะ 3. การนาไฟฟา้ นาไฟฟา้ และนาความร้อนได้ดี ยกเว้น แกรไฟต์ และเกล็ดไอโอดนี และนาความรอ้ น เชน่ สายไฟฟ้ามกั ทาดว้ ยทองแดง นาไฟฟ้าและนาความร้อนไม่ได้ ยกเว้น แกรไฟต์ นาไฟฟ้าไดด้ ี 4. ความเหนยี ว ส่วนมากเหนยี ว ดงึ ยดื เปน็ เสน้ ลวด ของแขง็ เปราะ ดงึ ยดื ออกเป็นเส้นลวดหรือ หรือ ตเี ป็นแผน่ บ่าง ๆ ได้ ตเี ปน็ แผน่ บาง ๆ ไมไ่ ด้! บ ท ท่ี 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n
Graphite บ ท ท่ี 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n
คุณสมบตั บิ างประการของโลหะและอโลหะ (ตอ่ ) สมบัติ โลหะ อโลหะ 6. จดุ เดอื ด ส่วนมากสงู ส่วนมากตา่ และจดุ หลอมเหลว เชน่ เหล็ก มจี ุดหลอมเหลว 1,536 ℃ โดยเฉพาะพวกอโลหะทีเ่ ป็นกา๊ ซ เช่น 7. การเกดิ เสยี ง จุดเดอื ด 3,000 ℃ ยกเว้นปรอท ออกซิเจน มีจดุ เดือด -183 ℃ เม่อื เคาะ ซง่ึ มจี ดุ หลอมเหลวต่าเพยี ง -39 ℃ จดุ เยอื กแขง็ ( จดุ หลอมเหลว) -219 ℃ มีเสยี งดงั กงั วาน ไมม่ ี เสยี งดังกงั วาน 8. เกย่ี วกบั อเิ ลก็ ตรอน เปน็ พวก ชอบให้ อิเลก็ ตรอน เปน็ พวก ชอบรับ อิเล็กตรอน และประจไุ อออน ทาใหเ้ กดิ เปน็ ไอออนบวก ทาใหเ้ กดิ เปน็ ไอออนลบ บ ท ที่ 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n
ธาตุก่ึงโลหะ (Metalloids) ธาตุกงึ่ โลหะ คอื ธาตทุ ีม่ ีสมบตั ิบางประการคล้ายโลหะ และมีสมบัติ บางประการคลา้ ย อโลหะ ได้แก่ B (โบรอน) Si (ซิลิกอน) Ge (เจอร์เมเนียม) As (อารเ์ ซนิก) Sb (แอนตโิ มนี) Te (เทลลูเรียม) Po (โพโลเนียม) At (แอสทาทนี ) บ ทบ ทท ี่ ท่ี 2 1 : : ออะ าตกอามศแ :ล ะKสr มu บ’ Pั ตaิ ขt อt aง ธr aาnตuุ n
การใชป้ ระโยชนจ์ ากอากาศ ใช้ในการเติม ลมยาง ใชใ้ นหายใจของมนุษย์,สัตว์,พชื ยานพาหนะ ใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง ใชใ้ นการเผาไหม้ เชือ้ เพลิง บ ท ท่ี 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n
ก ร ะ บ ว น ก า ร สั ง เ ค ร า ะ ห์ ด้ ว ย แ ส ง Chemical Reaction (Photosynthesis) บ ท ที่ 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n สมการเคมี ของกระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง 6CO2 + 6H2O + light → C6H12O6 + 6O2 คาร์บอนไดออกไซด์ + นา้ + แสง → กลูโคส + ออกซิเจน
ก า ร สั น ด า ป ห รื อ ก า ร เ ผ า ไ ห ม้ เ ช้ื อ เ พ ลิ ง สมการเคมกี ารสนั ดาป C3H8 + 5O2 + heat → 4H2O + 3CO2 + energy โพรเพน (เชือ้ เพลิง) + ออกซิเจน + ความร้อน → นา้ + คารบ์ อนไดออกไซด์ + พลังงาน “มีกา๊ ซออกซิเจนเพอื่ ช่วยทาให้ไฟตดิ ” บ ท ท่ี 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n
เทียนดบั “เพราะแกส๊ ออกซิเจนชว่ ยให้ ไฟตดิ ได”้ บ ท ท่ี 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n
การใชป้ ระโยชน์ จากธาตุ ในตารางธาตุ บ ท ท่ี 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n
ประโยชน์ของธาตุหมู่ 7A (VIIA) 1. ฟลอู อรีน ใชเ้ ตรยี มสารประกอบฟลอู อโรคารบ์ อน 4. คลอรีน ใช้ในการเตรยี มสารตา่ งๆ เชน่ เช่น ฟรีออน ใช้ในเครอ่ื งทาความเยน็ , • ใช้ฆ่าเชื้อจุลนิ ทรยี ใ์ นสระวา่ ยน้า เทฟลอน (CF2=CF2) เคลอื บภาชนะหุงตม้ และในน้าประปา 2. ไอโอดนี ปอ้ งกนั โรคคอพอก • NaOCl ใช้ในการฟอกสกี ระดาษใหข้ าว • NaClO3 ใชเ้ ปน็ ยากาจดั วัชพชื ทิงเจอรไ์ อโอดีน (ไอโอดีนละลาย ในเอทานอล) ใช้เปน็ ยาฆา่ เชื้อโรค 3. โบรมนี ใชเ้ ตรยี มสารประกอบเอทลิ ีนไดโบรไมด์ เติมในน้ามนั เพอ่ื หยุดการ สะสมตะกว่ั ในเคร่อื งยนต์ นอกจากน้ยี งั ใชท้ าสีย้อมผา้ ฟลิ ม์ ถา่ ยรปู (AgBr) บ ท ท่ี บ2ท ท:ี่ 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
ประโยชน์ของก๊าซเฉ่ือย 1. Helium ----> Balloon, Deep sea diving, 2. ใชบ้ รรจใุ นหลอดนีออน He ใหแ้ สงสีชมพู Ne ใหแ้ สงสแี ดงสม้ Ar ใหแ้ สงสีมว่ ง Xe ให้แสงสีน้ำเงนิ บ ท ท่ี บ2ท ท:ี่ 1อ ะ: ตออา กมาแศล ะ: สKมr บu ั’ตPิ ขa tอtงaธr aา nตuุ n
ประโยชน์ของก๊าซเฉ่ือย บ ท ท่ี 2 : อ ะ ต อ ม แ ล ะ ส ม บั ติ ข อ ง ธ า ตุ
มลพษิ ทาง อากาศ บ ท ที่ 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n
สารมลมษิ แหล่งกาเนดิ ผลกระทบ CO เช้อื เพลิงเครอ่ื งยนต์ มึนงง วิงเวียนศรษี ะ ,เผาขยะ,ไฟปา่ ,รบั ปริมาณมาก คารบ์ อนมอนอกไซด์ เสียชวี ิต (Carbon Monoxide) SO เผาถา่ นหนิ ,ภูเขาไฟ ระคายเคืองตา& ระเบิด ผิวหนัง&ทางเดนิ ซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์ หายใจ,ฝนกรด (Sulfur Dioxide) ออกไซด์ของ เช้ือเพลงิ เครื่องยนต์, ระคายเคืองต่อ ทางเดนิ หายใจ, ไนโตรเจน (Oxide การเผาสารอินทรีย์ ฝนกรด of Nitrogen) ,ไฟป่า ฝุน่ ละอองขนาดเล็ก ถา่ นหินและเช้ือเพลงิ ระคายเคืองตา,โพรง กว่า 2.5 ไมครอน ชีวมวล,เผาขยะ จมกู อกั เสบเรือ้ รัง ,กอ่ สร้าง (PM2.5) บ ท ท่ี 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n
ก า ร เ กิ ด ห ม อ ก พิ ษ “ก๊าซไนโตรเจน ไดออกไซด์ซึ่งเป็น สารตัง้ ตน้ (precursor) ตวั สาคัญของ ฝนุ่ PM 2.5 บ ท ที่ 1 : อ า ก า ศ : K r u ’ P a t t a r a n u n
Search