Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์

เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์

Published by Library Horwang Pahtumthani, 2020-07-28 11:46:46

Description: วิชา : สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
เรื่อง : เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
ระดับ : มัธยมศึกษาปีที่ 1
จัดทำโดย : ครูปาณิสรา หมื่นหน่อ
อัพโหลด : ห้องสมุด รร.หอวัง ปทุมธานี
*ห้ามนำไปใช้เชิงพานิชย์ อนุญาตสำหรับการศึกษาเท่านั้น

Search

Read the Text Version

ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

ยคุ ท่มี นุษย์เริ่มรู้จกั นำหนิ มำปรบั ใช้เป็นเครอื่ งมือเคร่อื งใช้หรอื อปุ กรณ์และอำวธุ นักโบรำณคดกี ำหนดให้ ยคุ หินของมนษุ ยส์ มัยกอ่ นประวัตศิ ำสตร์ (สำกล) อยู่ระหวำ่ ง 2.5 ลำ้ นปี ถงึ ประมำณ 4,000 ปมี ำแลว้ แต่เนอื่ งจำกสิง่ ท่ีเหลือเป็นหลักฐำนอยจู่ นถึงปจั จบุ นั มีเพยี งชนดิ เดียว คอื หิน ดังน้ัน จึงเรยี กยคุ นว้ี ่ำ ยุคหิน ทง้ั นี้ ยคุ หินตำมพฒั นำกำรเทคโนโลยี กำรทำเครือ่ งมือเครอ่ื งใชแ้ บ่งออกเป็น 3 ยุค คือ ยคุ หินเก่ำ ยคุ หินกลำง และ ยคุ หนิ ใหม่ ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

ยคุ หนิ เก่า Old Stone Age (2,500,000 – 10,000 ป)ี มนุษยใ์ นยุคน้ีอำศยั อยูใ่ นถ้ำหรือเพงิ ผำ ดำรงชีวติ ดว้ ยกำรลำ่ สัตว์ หำปลำ และเกบ็ หำผลไม้ในปำ่ เม่ืออำหำร ตำมธรรมชำติหมดก็อพยพไปหำแหล่งอำหำรทอ่ี ืน่ มนษุ ยย์ ุคหนิ เกำ่ รู้จกั ประดิษฐ์เครอื่ งมืออย่ำงหยำบๆ เคร่อื งมือทีใ่ ช้ ทั่วไป คอื เครอ่ื งมือหนิ กะเทำะ ท่มี ลี ักษณะหยำบ ใหญ่ หนำ กะเทำะเพยี งดำ้ นเดียวหรือสองด้ำน ไม่มกี ำรฝนใหเ้ รียบ มนษุ ยย์ คุ หินเก่ำรู้จักนำหนังสัตวม์ ำทำเปน็ เครื่องนุ่งห่ม รจู้ ักใช้ไฟเพอ่ื ใหค้ วำมอบอุน่ แก่ร่ำงกำย ให้แสงสว่ำง ใหค้ วำม ปลอดภยั และหงุ หำอำหำร มกี ำรฝังศพ ทำพิธีกรรมเกีย่ วกับกำรตำย และมกี ำรนำเครอ่ื งมือเคร่อื งใชแ้ ละอำวธุ ต่ำงๆ ของ ผ้ตู ำยฝังไวใ้ นหลุม และมนษุ ยย์ ุคหินเก่ำยังร้จู ักสร้ำงสรรคง์ ำนศิลปะ ซ่ึงพบภำพวำดตำมผนังถำ้ ที่ใชส้ ีฝุน่ สีต่ำงๆ ได้แก่ สดี ำ นำ้ ตำล ส้ม แดงอ่อน และเหลือง ภำพทีว่ ำดสว่ นใหญ่เปน็ ภำพสัตว์ เชน่ ววั กระทงิ มำ้ ป่ำ กวำงแดง เป็นตน้ ภำพวำด ทม่ี ีชื่อเสยี งของมนษุ ย์ยุคหนิ เกำ่ อยู่ท่ีถ้ำลำสโก ประเทศฝร่ังเศส ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

➢มนษุ ยช์ วำ – เกำะชวำ - อินโดนเี ซีย มนุษยน์ แี อนเดอรธ์ ลั ➢มนษุ ยป์ กั กง่ิ – ถ้ำใกลก้ รงุ ปกั กง่ิ – จนี ➢มนษุ ยน์ แี อนเดอรธ์ ัล – หบุ เขำแอนเดอร์ – เยอรมนี มนษุ ยป์ กั กง่ิ ➢มนุษยโ์ ครมันยอง – ถ้ำโครมนั ยอง - ฝรัง่ เศส ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ มนษุ ยช์ วำ

ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

• ภำพจำกถำ้ Lascaux ฝรงั่ เศส ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

ยคุ หนิ กลาง Middle Stone Age (10,000-6,000 ป)ี มนุษย์ยคุ นร้ี จู้ ักทำเคร่ืองมอื หินทมี่ ีควำมประณตี มำกขึน้ ด้วยกำรกระเทำะ ผิวดำ้ นใดด้ำนหน่ึงหรือทงั้ สอง ด้ำนออกให้เกดิ ควำมคม ทำให้เครืองมือหินในยุคน้ีมรี ปู ทรงท่ีเหมำะแกก่ ำรใช้งำนมำกขนึ้ กว่ำเดมิ เครอื่ งมือยคุ หิน กลำงที่พบมที ั้งเคร่ืองมอื สับ ตดั ขุด และทุบ หลกั ฐำนเครือ่ งมอื หนิ ของมนุษย์ใน ยคุ หินกลำงพบในทวีปยโุ รป และทวปี เอเชยี โดยพบครง้ั แรกในเวียดนำมเรยี กว่ำวฒั นธรรมฮวั บิเนยี น จดั เปน็ วัฒนธรรมยคุ หินกลำงของ ประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ รวมทงั้ ประเทศไทย ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

เครอ่ื งมือ อยูร่ วมกลมุ่ เป็นสงั คม ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

ยคุ หินใหม่ New Stone Age (6,000-4,000 ปี) มนษุ ยย์ คุ น้ีมีควำมเจริญทำงวัตถุมำกกวำ่ ยคุ หนิ กลำง รจู้ กั ควบคมุ ธรรมชำตมิ ำกขน้ึ รู้จักพฒั นำกำรทำเครอ่ื งมอื หนิ อยำ่ งประณตี โดยมกี ำรขัดฝนหินท้ังชิ้นให้เปน็ รูปร่ำงลกั ษณะตำ่ งๆ เพอ่ื ใหเ้ คร่ืองมอื มปี ระสทิ ธภิ ำพในกำรใช้สอยมำกขน้ึ กวำ่ เคร่ืองมือรุ่นก่อนหนำ้ น้ี เช่น มีดหินท่ีสำมำรถตัดเฉือนไดแ้ บบมดี โลหะ มีกำรต่อด้ำมยำวเพื่อใช้แผน่ หนิ ลบั คมเป็น เสยี มขดุ ดิน หรือต่อดำ้ มไมส้ ำหรบั จบั เป็นขวำนหิน สำมำรถป้ันหมอ้ ดนิ และใชไ้ ฟเผำ สำมำรถทอผำ้ จำกเส้นใยพชื และทอ เป็นเชอื กทำเปน็ แหหรืออวนจับปลำ ลักษณะสำคัญอีกประกำรหนงึ่ ทีจ่ ำแนกมนษุ ยย์ ุคหนิ ใหมอ่ อกจำกมนุษย์ยุคหินกลำง กค็ ือกำรที่มนษุ ย์ยคุ นี้รู้จักกำรเพำะปลกู และเลย้ี งสัตว์ในระดบั ที่ซับซ้อนมำกข้ึน เชน่ มกี ำรปลกู ข้ำวและพชื เช่น ถ่ัว ฟัก บวบ และเล้ียงสัตวห์ ลำยชนิดมำกขน้ึ เช่น แพะ แกะ และ ววั ซง่ึ ก็คงทัง้ ไวใ้ ช้งำนและเป็นอำหำร ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

เครอื่ งมอื หนิ ขัด เครอ่ื งปน้ั ดนิ เผำ ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

สรำ้ งทอ่ี ยอู่ ำศยั ถำวรใกล้แหลง่ น้ำ ร้จู กั กำรเพำะปลกู ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

หลักฐานสาคญั = อนุสาวรยี ห์ ิน สโตนเฮนจ์ (องั กฤษ) Stonehenge ประกอบดว้ ยหนิ 112 กอ้ น ตง้ั เรยี งกนั เปน็ วงกลมซอ้ นกนั 3 วงเช่ือวา่ มอี ายปุ ระมาณ5,000 ปี หรือเกดิ ขน้ึ ในช่วง “ยุคหินใหม่”สนั นษิ ฐานวา่ สรา้ งขน้ึ เพอ่ื “บชู าดวงอาทติ ย์” เพอ่ื ผลผลติ ทางการเพาะปลกู ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

เริม่ เม่อื ประมำณ 4,000 ปีมำแลว้ มนษุ ย์ยคุ นม้ี ีควำมกำ้ วหน้ำทำงเทคโนโลยีแสดงถงึ กำร พฒั นำควำมสำมำรถทำงควำมคิด ด้วยกำรมีควำสำมำรถ นำโลหะมำทำเป็นเคร่อื งมือเครอื่ งใชน้ ั่นเอง ในระยะแรกของยุคโลหะจะพบว่ำพวกเขำรูจ้ กั หลอมทองแดงและดีบกุ ซึง่ เป็นโลหะทใ่ี ช้อณุ หภมู ิไมส่ งู นกั ในกำรหลอม ตอ่ มำจึงพฒั นำควำมรแู้ ละเทคโนโลยขี ้นึ มำจนสำมำรถหลอมเหล็กได้ ซงึ่ กำรหลอมเหลก็ ตอ้ งใชอ้ ุณหภูมิสูง นักโบรำณคดีจึงแบ่งยุคโลหะออกเปน็ 2 ยุค ตำมควำมแตกต่ำงของระดับ เทคโนโลยแี ละวัสดุทีน่ ำมำใช้ทำเครอ่ื งมือเคร่อื งใช้ ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

ยคุ สารดิ (Bronze Age) กำรเรม่ิ ต้นของยคุ สำริดระหวำ่ งประมำณ 4,000 ปมี ำแลว้ ในชว่ งเวลำนมี้ นุษย์รจู้ ักนำทองแดงผสมกับ ดีบกุ หลอมรวมกันกลำยเป็นโลหะผสมที่เรำเรียกว่ำ สำรดิ มำใช้ทำเปน็ เครอื่ งมือเคร่อื งใช้และอำวุธที่มคี ณุ ภำพดกี ว่ำที่ ทำจำกหนิ ขัดมำก กำรดำรงชีวิตของมนษุ ยย์ ุคนก้ี เ็ ปลีย่ นไปจำกกำรเปน็ ชุมชนเกษตรกรรมเล็กๆ กลำยเปน็ ชุมชนขนำด ใหญท่ ่ีเรำเรยี กวำ่ ชุมชนเมอื ง มีกำรจดั แบ่งควำมสมั พนั ธข์ องคนในสังคมตำมควำมสัมพนั ธ์และควำมสำมำรถ ซึง่ พฒั นำกำรนท้ี ำใหส้ ังคมมคี วำมมั่นคงและมีกำรสงั่ สมอำรยธรรมได้อย่ำงรวดเร็วกวำ่ ทีผ่ ำ่ นมำ แหลง่ อำรยธรรมสำคัญที่ มีพฒั นำกำรจำกสงั คมสมัยหนิ ใหมส่ ู่สมยั สำรดิ เช่น แหลง่ อำรยธรรมเมโสโปเตเมยี ในภมู ภิ ำคเอเชยี -ตะวันตก แหล่ง อำรยธรรมลุ่มแม่นำ้ ไนลใ์ นประเทศอียปิ ต์ แหลง่ อำรยธรรมลุม่ แม่นำ้ สนิ ธุในประเทศอนิ เดยี และแหล่งอำรยธรรมลุ่ม แม่น้ำฮวงเหอในประเทศจีน ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

กำรทำเครอื่ งมอื เครอื่ งใชใ้ นยุคโลหะ กลองมโหระทกึ สอง ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

อำวุธในยุคสำรดิ เครอ่ื งมอื เครือ่ งใช้ ในยุคสำรดิ ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

ลกู กระพรวน เครอ่ื งประดบั ทำจำกสำรดิ จำกแหลง่ โบรำณคดบี ำ้ นเชยี ง อำยุในรำว 2,000-2500 ปี ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

ยุคเหลก็ (Iron Age) เร่มิ เมือ่ ประมำณ 3,200 ปีมำแลว้ เป็นชว่ งของกำรพฒั นำกำรทำงเทคโนโลยที ต่ี ่อเนอ่ื งจำกยคุ สำริด หลงั จำกที่ มนุษย์สำมำรถนำทองแดงมำผสมกบั ดีบกุ และหลอมเปน็ โลหะผสมไดแ้ ลว้ มนษุ ยก์ ็คิดค้นหำวิธนี ำเหลก็ ซึ่งเป็นโลหะที่มคี วำม แขง็ และทนทำนกวำ่ สำรดิ มำทำเปน็ เคร่อื งมอื เครื่องใชแ้ ละอำวุธ ด้วยกำรใชอ้ ณุ หภูมิในกำรหลอมทสี่ ูงกวำ่ กำรหลอมสำริด จงึ ตี โลหะเหลก็ ในขณะทยี่ ังรอ้ นอยูใ่ หเ้ ป็นรปู ทรงทตี่ ้องกำร เน่ืองจำกเหล็กใช้ทำเคร่ืองมอื เครือ่ งใชม้ ีควำมเหมำะสมกับงำน กำรเกษตรท่ีตอ้ งใช้ควำมแข็งแรงมำกกวำ่ สำริด และมีควำมทนทำนกวำ่ ด้วย จึงทำใหม้ นุษย์ยคุ เหลก็ สำมำรถทำกำรเกษตร ได้ผลผลิตเพิ่มมำกขน้ึ นอกจำกน้ีเหลก็ ยงั ใช้ทำอำวุธท่ีมีควำมแข็งแกร่งและทนทำนกวำ่ สำรดิ จงึ ทำให้สังคมมนุษยย์ ุคนที้ ่ี พฒั นำเข้ำสูย่ คุ เหลก็ และเข้ำสู่ควำมเป็นรัฐไดด้ ว้ ยกำรมกี องทัพทีม่ ีประสิทธภิ ำพกว่ำ สำมำรถปกปอ้ งเขตแดนของตนเองไดด้ กี วำ่ ทำให้สงั คมเมืองของตนมีควำมม่ันคงปลอดภัย และในทีส่ ดุ กส็ ำมำรถขยำยอทิ ธิพลไปยังดนิ แดนอ่ืนๆ ได้ในเวลำตอ่ มำ ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

ที่อยู่อำศัยในยุคเหลก็ เริ่มอยูร่ วมกนั เปน็ อำณำจกั ร และตอ่ สเู้ พอื่ แยง่ ชิงอำณำจกั รอน่ื ชนกนาถ สนั ตสิ กุล

เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ในยคุ เหลก็ เหรยี ญในยคุ เหลก็ ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชใ้ นยคุ เหลก็ ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ

ชนกนาถ สนั ตสิ กลุ












Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook