Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิธีการทางประวัติศาสตร์

วิธีการทางประวัติศาสตร์

Published by Library Horwang Pahtumthani, 2020-06-06 11:57:48

Description: วิชา : ประวัติศาสตร์
เรื่อง : วิธีการทางประวัติศาสตร์
ระดับ : มัธยมศึกษาปีที่ 3
จัดทำโดย : ครูสุรีรัตน์ สริวรรณ
อัพโหลด : ห้องสมุด รร.หอวัง ปทุมธานี
*ห้ามนำไปใช้เชิงพานิชย์ อนุญาตสำหรับการศึกษาเท่านั้น

Search

Read the Text Version

๑ หน่วยการเรยี นรู้

วธิ วกีธิ ีกาารรททาางงปปรระะววัตตั ศิ ศิ าาสสตตร์ ร์ กับกกบั ากราศรกึศษกึ ษาเาหเหตตกุ กุ าารรณณท์ ท์ าางงปปรระวะัตวตัศิ าศิ สาตสรต์ ร์ กกาารรใใช้ววธิ ิธกี ารทางประววตั ตั ศิ าสตรร์ ์ การศึกษาวิเคราะหเ์ หตกุ ารณ์ ววิเเิคคราะะหหเ์ ์เหหตตกุ าารรณ์ทางประวัตตั ศิ าสตรร์ ์ ททาางงปปรระะววตั ตั ศิ ิศาาสสตตรรส์ มัยรตัตนนโโกกสสินินททรร์ ์ ขนั้ ตอนของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ โโดดยใชว้ ธิ ีการทางประวัติศาสตตรร์ ์ สาหรับการศึกษาเหตกุ ารณ์ทเี่ กดิ ขึน้ ในท้องถิน่ ของตนเอง ตัวอยา่ งการวิเครราาะห์ประวัตศิ าสตตรร์ส์สมมยั ัยรรตั ัตนนโกโกสสินนิททร์ ร์ โดยยใใชช้ว้วิธิธกี ีกาารรททาางงปปรระะววตั ตั ิศิศาาสสตตรร์ ์ ตวั อยา่ งการใชว้ ิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์ เรือ่ ง“กรณีวกิ ฤตการณณ์ ์ รร.ศ.ศ. .๑๑๑๑๒๒”” ศกึ ษาเร่ืองราวที่เกยี่ วขอ้ งกับท้องถิ่นของตนเอง

การใช้วธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ วเิ คราะหเ์ หตุการณท์ างประวัตศิ าสตร์ เหตกุ ารณส์ าคญั ทางประวัตศิ าสตร์มีความสาคัญและเกี่ยวเน่ืองกับผู้คนในสังคม เพราะเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นมักมีผลกระทบและเกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อผู้คนในสังคม จนถึงปัจจุบนั การศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ จะช่วยให้ผู้ศึกษามีความรู้และความเข้าใจ เก่ียวกับภูมิหลัง ความเป็นมาและพัฒนาการของสังคมของตนมากข้ึน การศึกษาค้นคว้าเร่ืองราว ทีเ่ กิดข้นึ ในอดตี จาเปน็ จะตอ้ งใช้ความระมดั ระวงั ในการสบื ค้นและวิเคราะหข์ อ้ มลู ผู้ศกึ ษาจงึ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์เป็นแนวทางในการศึกษา เพื่อให้ได้ ขอ้ มลู ที่ถกู ตอ้ งและใกล้เคยี งกบั ความจรงิ มากที่สดุ

ข้นั ตอนของวิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์ สาหรับการศึกษาเหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขึ้นในท้องถ่ินของตนเอง วิธกี ารทางประวัติศาสตร์ ✓การกาหนดประเดน็ ศึกษา ✓การรวบรวมหลักฐาน ✓การวิเคราะห์ การตคี วาม และการประเมนิ หลักฐาน ✓การสรุปและเช่ือมโยงขอ้ เทจ็ จรงิ ✓การนาเสนอขอ้ เทจ็ จรงิ

๑. การกาหนดประเดน็ ศกึ ษา เปน็ จดุ เริ่มต้นของการค้นคว้าเรือ่ งราวในอดตี จนนาไปสู่การสบื คน้ ข้อมูลจากหลักฐาน ประเภทตา่ ง ๆ ประเดน็ ศึกษาอาจมาจาก ความตอ้ งการอยากรอู้ ยากเหน็ เรื่องราวท่เี กย่ี วขอ้ งกบั ตนเองและครอบครัว หรือทอ้ งถ่นิ ของตนเอง ความสงสยั ในข้อมลู ทไี่ ดร้ บั วา่ เป็นจรงิ เชน่ นนั้ หรือไม่ นาไปสวู่ ธิ ีการสบื ค้นและแหล่งขอ้ มูลหลกั ฐานต่อไป

๒. การรวบรวมหลักฐาน เปน็ การสบื คน้ ขอ้ มูลจากหลักฐานต่าง ๆ เพอื่ ให้เขา้ ถงึ ข้อเท็จจริงท่ี เราตอ้ งการสืบค้น วธิ ีการสืบคน้ ข้อมูลทาได้หลายวิธี เช่น การสอบถาม การสัมภาษณ์ การศึกษาวิเคราะห์เอกสารหรือหนังสือ การไปชมสถานที่ จริง การฟังคาบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิ การวิเคราะห์จากรูปภาพ แผนที่ กราฟ สถติ ิ

๒. การรวบรวมหลกั ฐาน (ตอ่ ) แหลง่ ขอ้ มลู ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ๑. บุคคลทเี่ ป็นผูร้ ู้ คือ ผมู้ ีความเก่ียวข้องโดยตรง มสี ว่ นร่วมร้เู ห็นกบั เหตุการณ์ หรือเป็นผศู้ กึ ษาคน้ ควา้ เร่ืองราวนั้น ๆ เชน่ นักโบราณคดี นกั จดหมายเหตุ นักภาษาศาสตร์ ๒. สถานท่ีสาคัญและแหลง่ ขอ้ มูลในทอ้ งถ่นิ เชน่ วดั มสั ยิด โบสถค์ รสิ ต์ พพิ ธิ ภณั ฑ์ แหลง่ โบราณสถาน ศูนย์วฒั นธรรม ๓. ห้องสมดุ และแหล่งรวบรวมเอกสารทางประวตั ศิ าสตร์ เช่น หอ้ งสมดุ ประชาชน หอสมุดแหง่ ชาติ หอจดหมายเหตแุ ห่งชาติ

๓. การวิเคราะห์ การตคี วาม และการประเมินหลักฐาน ประเมินภายนอก หลกั ฐานชัน้ ต้น (ปฐมภูมิ) เปน็ หลกั ฐานที่เกิดขึ้นรว่ มสมัยกับเหตกุ ารณ์นน้ั หรือเกิดจากบคุ คลทม่ี ีความเกี่ยวข้องกับเหตกุ ารณน์ ั้น ๆ หลักฐานชน้ั รอง (ทตุ ิยภมู )ิ เป็นหลักฐานทเี่ กิดขน้ึ ภายหลงั เหตกุ ารณ์ หรอื จาก ผู้ทไี่ มม่ สี ่วนรว่ มกบั เหตุการณ์แตไ่ ด้ศกึ ษาค้นควา้ รวบรวมขึ้นในภายหลงั หลักฐานโบราณคดี เช่น โครงกระดูก เคร่ืองมือเครื่องใช้ของมนุษย์โบราณ ศิลาจารึก วรรณกรรมโบราณ ซึ่งจาเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น นักโบราณคดี นกั ภาษาศาสตร์ เป็นผวู้ ิเคราะห์และประเมนิ หลักฐานดงั กลา่ ว

๓. การวเิ คราะห์ การตีความ และการประเมนิ หลักฐาน ประเมินภายใน การตรวจสอบความถูกตอ้ งของขอ้ มลู ทีป่ รากฏในหลักฐานกับ ข้อมลู จากหลกั ฐานร่วมสมัยอ่นื ๆ วา่ สอดคล้องกนั หรอื แตกตา่ งกันหรือไม่ หลักฐานทุกช้ินท่ีจะนามาศึกษาเรื่องราวในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานช้ันปฐมภูมิหรือ ทุติยภูมิก็ต้องตรวจสอบโดยการวิเคราะห์และประเมินหลักฐานท้ังการประเมินภายในและประเมิน ภายนอก โดยผู้ประเมินต้องตคี วามหลกั ฐาน หรือพยายามอธิบายข้อเท็จจริง อย่างเป็นเหตุ เปน็ ผล และมีความเป็นกลาง ปราศจากอคติ

๔ การสรปุ และเชื่อมโยงข้อเทจ็ จรงิ การนาข้อเท็จจริงที่ผ่านการวิเคราะห์ การตีความ และการ ประเมินหลักฐานแต่ละชิ้นมาประมวลหรือเช่ือมโยงเข้าด้วยกัน เพ่ือให้ได้ ขอ้ เท็จจรงิ ท่สี ามารถอธิบายประเดน็ ศกึ ษาท่ตี ั้งไว้ การสรุปข้อเท็จจริงนั้นผู้ศึกษาต้องรวบรวมจากหลักฐานท่ี หลากหลาย พยายามเข้าใจความคิดของผู้คนในยุคนั้น โดยไม่ใช้ค่านิยม ของตนเองไปตดั สนิ พฤตกิ รรมของคนในอดีต

๕ การนาเสนอข้อเท็จจรงิ การนาเสนอเป็นการสรุปสาเหตุและเหตุผลที่ทาให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ แล้วเรียบเรียงข้อเท็จจริงที่ค้นพบได้ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย มีความต่อเนื่อง เป็น เหตเุ ปน็ ผลกนั วิธีการนาเสนอท่ีเหมาะสม เช่น การเรียงลาดับเหตุการณ์ก่อน-หลัง เพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจง่าย รวมทง้ั มีการวิเคราะห์และสรปุ ประเดน็ ให้ชัดเจน และมีการอ้างอิง หลักฐานหรอื แหลง่ ข้อมูลอย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ การนาเสนอข้อเท็จจริง ควรจะนาเสนอโดยมีการวิเคราะห์และสรุป ประเด็นเร่ืองท่ีศึกษา และบอกแหล่งที่มาของข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อ ความนา่ เชือ่ ถือและเป็นท่ยี อมรบั

ตตัววั อย่างการใชชว้ว้ ธิ ิธีกกี าารรททาางงปปรระะววตั ัตศิ ิศาาสสตตรร์ ์ ๑๑.. การกาหหนนดดปปรระะเเดน็ ศึกษา ๑.๑ ความเปน็ มาของทอ้ งถนิ่ เช่น การตงั้ ถน่ิ ฐานของชมุ ชนเกาะเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี ความเปน็ มาของชาวโยนก จังหวดั ราชบรุ ี ๑๑..๒ ประเพณีและววัฒฒั นธรรม เช่น ประเพณีสงกรานตข์ องชาวมอญพระประแดง จังหวดั สมทุ รปราการ ประเพณแี ห่เทยี นพรรษา จังหวดั อุบลราชธานี ๑.๓ เศรษฐกิจ เชน่ เครอื่ งป้นั ดนิ เผาของชาวสวรรคโลก จงั หวดั สุโขทยั ผา้ ไหมมัดหมขี่ องชาวโคราช จงั หวดั นครราชสมี า

๒.. กกาารรรรววบรวมหลกั ฐาานน นกั เเรรียยี นนออาาจจสสืบบื คคน้ ้นขขอ้ ้อมมูลลู เบเบอื้ อ้ื งงตต้นน้จจากากออนิ นิเทเทอรอ์เรน์เ็ตน็ตหรหือรสอื ัมสภัมาภษาณษณบ์ ุค์บคุคลคล ใในนทท้ออ้ งงถถน่ิ นิ่ โโดดยยใชใ้วชิธว้ ีกธิ าีกราตรั้งตคั้งาคถาาถมามจดจบดันบทันึกทหกึ รหอื รบอื ันบทนั กึ ทเทึกปเทกปารกสาัมรภสัมาษภณาษ์ ณ์ ตตลลออดดจจนนกกาารรศศึกกึ ษษาาจจาากกภภาาพพถถ่า่ายยใในนออดดีตีตแผแนผทนีข่ทอ่ขี งอชงมุชชมุ นชน การศึกษาประวตั ิศาสตตรรท์ ท์ อ้ อ้ งงถถ่ินิ่นจจงั ังหหววดั ัดรราาชชบบุรุรี ี สสาามารรถถศศึกกึ ษษาาไไดด้จจ้ าากก เเรร่อื ่อื งงเสเสดดจ็ จ็ปประรพะพาสาสไทไทรโรยโคยค พพรระะรราาชชนิพนนธธ์ใ์ในนพพรระะบบาาททสสมมเดเดจ็ จ็พพระรจะจุลุลจจออมมเกเลก้าลเ้าจา้ อยู่หัว เจ้าอยหู่ วั เรอ่ื ง สมุดราชบรุ ี จดั ทาขเร้ึนือ่ ในงสมสยัมรดุ ชั รกาาชลบทรุ ่ีีจ๖ดั ทาขน้ึ ในสมยั รชั กาลท่ี ๖

๓. การวเิ คราะห์ การตคี วาม และการประเมนิ หลกั ฐาน ข้อมลู ทนี่ ามาใชอ้ ้างองิ ในการศึกษาจะต้องนามาวิเคราะห์ ตีความหลักฐานให้ สมบูรณ์ รวมถึงประเมินหลักฐานท้ังภายนอกและภายใน เพื่อให้ได้ข้อมูลท่ีมี ความนา่ เชอ่ื ถือ ๔. การสรปุ และเชอ่ื มโยงขอ้ เทจ็ จรงิ เป็นการประมวลข้อมูลจากหลักฐานต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูล ท่คี รบถ้วน และไดข้ ้อเทจ็ จรงิ ท่ีสมบูรณ์

๕. การนาเสนอขอ้ มลู เมอ่ื รวบรวมขอ้ มูลทงั้ ทเ่ี ป็นเนือ้ หาและประเดน็ วิเคราะหไ์ ดแ้ ล้ว ผู้ศึกษา สามารถนาเสนอเป็นรายงานการศกึ ษาค้นคว้าท่เี กี่ยวกบั ทอ้ งถิ่นของเราได้ โดยเลอื ก การนาเสนอด้วยวธิ ีการต่าง ๆ ทีน่ ่าสนใจ เชน่ การจดั นิทรรศการ การเล่าเรื่อง การ แสดงบทบาทสมมตุ ิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook