รสในวรรณคดี
โดยนกพร ภทู รพั ยท์ วสี ขุ
รสในวรรณคดี ๑.เสาวรจนยี ์ ๒. นารีปราโมทย์ ๓. พโิ รธวาทัง ๔. สัลลาปังคพสิ ัย
๑. เสาวรจนีย์ บทชมโฉม คือการเลา่ ชมความงามของตวั ละครในเรื่อง ซึ่งอาจ เป็นตัวละครทีเ่ ปน็ มนษุ ย์ อมนุษย์ หรอื สตั วซ์ ง่ึ การชมน้ี อาจจะเป็นการชมความเกง่ กลา้ ของกษัตรยิ ์ ความงามของ ปราสาทราชวังหรอื ความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมอื ง เช่น บทชมโฉมนางมทั นา โดยทา้ วชยั เสนราพนั ไว้ ในวรรคดี เรอื่ งมัทนะพาธา
ตัวอย่าง ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด ดงั สรุ างค์นางนาฏในวังหลวง พระเพลินพศิ คิดหมายเสยี ดายดวง แล้วหนักหนว่ งนึกท่จี ะหนไี ป พระอภัยมณี :สนุ ทรภู่
ตัวอยา่ ง องคก์ ษัตริยท์ ศั นานางเงอื กน้อย ดูแชม่ ชอ้ ยโฉมเฉลาทั้งเผ้าผม ประไพพักตรล์ กั ษณล์ า้ ล้วนขาคม ทั้งเนอ้ื นมนวลเปลง่ ออกเตง่ ทรวง พระอภยั มณี :สุนทรภู่
ตวั อยา่ ง
ตวั อยา่ ง
๒.นารีปราโมทย์ บทอารมณร์ กั การกล่าวข้อความแสดงความรัก ท้งั ทเ่ี ป็นการพบกันใน ระยะแรกๆ และในโอโ้ ลมปฏิโลมก่อนจะถึง บทสังวาส
๒.นารีปราโมทย์ บทอารมณร์ กั การทาให้ \"นารี\" นน้ั ปลืม้ \"ปราโมทย\"์ ซึ่งรปู แบบหนง่ี กค็ อื การแสดงความรกั ผา่ นการเกี้ยวโอโ้ ลมปฏิโลม คาวา่ \"โอโ้ ลมปฏิโลม\" นี้ ความหมายอนั แท้จริงของคากค็ อื การใชม้ ือลบู ไปตาม (โอ)้ แนวขน (โลมา) และย้อน (ปฏ)ิ ขนข้นึ มา เม่อื โอ้โลมไปมา ในเบือ้ งปลาย นารีก็ จักปรดี าปราโมทย์ ในตอนที่ศกึ ษา มีเพยี งแค่ตอนทอี่ ิเหนากาลงั ส่ังลา จากนางจินตะหรา ซึ่งเมอ่ื อา่ นดูแล้วบางทีอาจจะไม่ถงึ กบั เป็นการ โอโ้ ลมปฏโิ ลมเทา่ ใดนัก เพียงจะจัดไว้ ณ ท่ีน้ี เนื่องเพราะเป็นบทท่ี แสดงถงึ ความรัก กลา่ วคอื
ตวั อยา่ ง ถึงมว้ ยดนิ สนิ้ ฟา้ มหาสมุทร ไมส่ ้นิ สุดความรกั สมคั รสมาน แม้นเกดิ ในใตฟ้ ้าสธุ าธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา แมน้ เนือ้ เยน็ เป็นห้วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดเ์ิ ปน็ มจั ฉา แมน้ เปน็ บวั ตวั พเี่ ปน็ ภมุ รา เชยผกาโกสมุ ปทุมทอง พระอภยั มณี :สุนทรภู่
ตวั อยา่ ง พลางองิ แอบแนบนอ้ งประคองเคล้า คอยต้องเต้าเตง่ อรุ ามารศรี พระเชยปรางค์ทางฉะอ้อนออ่ นอินทรยี ์ ร่วมฤดเี ดอื นหงายสบายใจ พระอภยั มณี :สุนทรภู่
๓.พิโรธวาทงั บทโกรธ/บทตดั พอ้ คอื การแสดงความโกธรแค้นผ่านการใชค้ า ตัดพ้อตอ่ วา่ ให้สาใจ ทั้งยังสาแดงความนอ้ ยเนอ้ื ตา่ ใจ, ความผดิ หวัง, ความคับแค้นใจ และความ โกรธกร้ิว เจ็บดงั ฝีกลางกระดองใจ
ตวั อย่าง ครั้งน้ีเสยี รักก็ได้รู้ถงึ เสียรู้ กไ็ ดเ้ ชาวนท์ ่เี ฉาฉงน เปน็ ชายหมนิ่ ชายตอ้ งอายคน จาจนจาจากอาลยั ลาน
ตวั อยา่ ง หมามันจะเกดิ ชิงหมาเกดิ มงึ ไปตายเสียเถิดไอห้ ้าเบ้ยี หนา้ ตาเช่นนจ้ี ะมเี มยี อา้ ยมะม่วงหมาเลยี ไมเ่ จียมใจ ขุนชา้ งขนุ แผน
ตวั อย่าง เม่ือรักกนั ไมไ่ ด้ก็ไมร่ ัก ไมเ่ หน็ จกั เกรงการสถานไหน ไมร่ ักกกู ูก็จักไมร่ กั ใคร เอ๊ะน้าตากูไหลทาไมฤา
๔.สลั ลาปังคพิสยั บท โศกเศรา้ คอื การกลา่ วแสดงอารมณโ์ ศกเศรา้ อาลัยรกั
ตวั อย่าง เคยหมอบใกล้ได้กล่ินสุคนธ์ตลบ ละอองอบรสรืน่ ชน่ื นาสา สิน้ แผน่ ดินส้ินรสสคุ นธา วาสนาเรากส็ น้ิ เหมอื นกลนิ่ สคุ นธ์ นิราศภเู ขาทอง
ตวั อย่าง ลาดวนเอยจะดว่ นไปก่อนแลว้ ทัง้ เกดแกว้ พกิ ลุ ยสี่ ่นุ สี จะโรยร้างหา่ งกล่ินมาลี จาปีเอย๋ ก่ีปีจะมาพบ
จบแลว้ คะ่
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: