Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบผิวหนัง โดย ครูกัญญ์ชยาวีร์ วงษ์ดวงแก้ว

ระบบผิวหนัง โดย ครูกัญญ์ชยาวีร์ วงษ์ดวงแก้ว

Published by Library Horwang Pahtumthani, 2020-09-22 12:07:03

Description: ครูกัญญ์ชยาวีร์ วงษ์ดวงแก้ว
โรงเรียนหอวัง ปทุมธานี

Search

Read the Text Version

ระบบผิวหนงั ในรา่ งกายมนษุ ย์

ระบบอวยั วะในร่างกาย มาตรฐาน พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจริญเติบโตและ พฒั นาการของมนุษย์ ตัวชี้วดั : สิ่งท่ีนักเรียนพึงรแู้ ละปฏิบัตไิ ด้ พ1.1 ม.4-6/1 อธิบายกระบวนการสรา้ งเสริมและดารง ประสิทธิภาพการทางานของระบบอวัยวะต่าง ๆ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายระบบอวยั วะตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย 2. อธิบายความสาคญั ของระบบผิวหนงั ระบบโครงกระดกู และระบบกล้ามเนอ้ื ได้ 3. ปฏบิ ตั ติ นในการสรา้ งเสริมและดารงประสิทธภิ าพการ ทางานของระบบผิวหนัง ระบบโครงกระดกู และระบบ กล้ามเน้ือ

ระบบผวิ หนงั ระบบผวิ หนังเป็นระบบห่อหมุ้ ร่างกายท่ีมี พืน้ ทม่ี ากทีส่ ุดในรา่ งกายมนุษย์ มบี ทบาทหน้าที่สาคัญในการ ปอ้ งกันและปกปอ้ งอวยั วะภายในไมใ่ ห้ไดร้ บั อันตราย ปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ เชอ้ื โรคเข้าส่รู ่างกายไดโ้ ดยง่ายเป็นสว่ นทจ่ี ะรับความรู้สึกทเ่ี กิดจาก การสมั ผสั จากภายนอก ดังนนั้ จงึ จาเปน็ จะตอ้ งดแู ลรักษาและสร้าง เสริมการทางานของระบบผิวหนังใหม้ ีประสิทธภิ าพ ผวิ หนัง เป็นอวยั วะที่ห่อหมุ้ ร่างกายเชลล์ชัน้ บนมกี าร เปลย่ี นแปลง ทีส่ าคัญ คือ มีเคอราทนิ (Keratin) ใสและหนา มี ความสาคัญ คอื ปอ้ งกันนา้ ซึมเข้าสรู่ า่ งกาย การเปล่ียนแปลงท่ที า ใหเ้ กิดเคอราทนิ เรยี กวา่ เคอราทนิ ไนเซซนั (Keratinization) ตวั อยา่ งอวัยวะที่เกดิ กระบวนการดังกลา่ ว เชน่ ฝา่ มือ ฝ่าเท้า

ผิวหนงั ประกอบไปดว้ ย 3 ส่วน 1. หนงั กาพร้า (Epidermis) เปน็ ผิวหนงั สว่ นบนสดุ ประกอบดว้ ย เซลลบ์ าง ๆ ตรงพนื้ ผิว ไมม่ ีนิวเคลยี ส และจะเป็นส่วนท่ีมกี ารหลดุ ออกเป็นขไี้ คล แล้วสรา้ งเซลลข์ ึ้นมาทดแทนอยูเ่ สมอ ส่วนต่าง ๆ ท่ี เกิดขนึ้ ในชัน้ ผิวหนังกาพรา้ ไดแ้ ก่ เล็บมอื เล็บเท้า รขู ุมขนอยูใ่ นชั้น หนังแท้ ส่วนเซลล์ชนั้ ในสุดทีท่ าหน้าท่ผี ลติ สีผิว (Melanin) เรียกว่าสเตรตัม เจอร์มนิ าทิวัม (Stratium Germinativum)

2. หนังแท้ (Dermis) ผิวหนงั แท้อยใู่ ต้ผิวหนงั กาพรา้ หนาประมาณ 1–2 มิลลิเมตรประกอบดว้ ยเนื้อเยื่อเก่ียวพนั 2 ช้นั คือ 2.1 ชั้นบนหรือช้นั ตืน้ (Papillary Layer) เป็นชัน้ ทีน่ นู ยื่นเขา้ ไปในหนังกาพรา้ เรียกว่า เพพิลลารี (Papillary) มหี ลอดเลอื ด และ ปลายประสาทฝอย 2.2 ช้นั ล่างหรือช้นั เลก็ (Reticular Layer) มชี น้ั ไขมนั อยู่ มี รากผมหรือขน ละต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) อยู่ในชน้ั น้ี 3. ชน้ั ใต้ผวิ หนงั (Subcutaneous Fat Layer or Hypodermis) มีอีกชอ่ื เรียกว่า “ชัน้ ไขมนั ” ประกอบไปดว้ ยเซลล์ ไขมันเปน็ หลัก ชั้นใต้ ผิวหนงั แต่ละคนมีขนาดไมเ่ ทา่ กัน ขึน้ อยกู่ ับ จานวนปรมิ าณไขมันสะสมของคนแตล่ ะคน ชนั้ ใตผ้ ิวหนงั ทาหน้าท่ี ให้ความอบอุน่ แกร่ า่ งกาย อีกทั้งยงั ทาหน้าท่ีชว่ ยลดแรงกระแทก จากภายนอกอีกดว้ ย ช้นั ไขมันจะพบเจอได้มากใน

ความสาคัญของระบบผิวหนัง 1. เปน็ สว่ นที่หอ่ หมุ้ รา่ งกายสาหรบั ปอ้ งกันอนั ตรายตา่ ง ๆ ที่อาจ เกิดขนึ้ กบั อวยั วะใต้ผวิ หนงั 2. ช่วยควบคมุ ความร้อนในรา่ งกายให้คงท่ีอย่เู สมอ ร่างกายขณะ ปกตมิ อี ณุ หภมู ิ 37 องศาเซลเซยี สหรือ 98.7 หรือถ้าอากาศอบอ้าว รอ้ นเกนิ ไปกจ็ ะระบายความรอ้ นออกทางรูขุมขน 3. เป็นอวยั วะขับถา่ ยของเสีย เชน่ เหงื่อ 4. เป็นอวยั วะรับสมั ผัสความรู้สึกตา่ ง ๆ เช่น รอ้ น หนาว 5. เป็นอวยั วะท่ชี ว่ ยขบั ส่ิงต่าง ๆ ท่อี ย่ใู นต่อมของผวิ หนงั ให้เป็น ประโยชน์ตอ่ รา่ งกาย เช่น ขับไขมนั ไปหลอ่ เล้ียงเส้นขนหรือผมให้ เงางาม 6. ชว่ ยป้องกันรงั สีต่าง ๆ ไม่ให้เป็นอนั ตรายตอ่ รา่ งกาย

หน้าท่ขี องผิวหนงั 1. รบั ความรู้สกึ ตา่ งๆ 2. ปอ้ งกนั แสงต่างๆไมใ่ หเ้ ข้าไปในร่างกาย 3. ควบคมุ ความร้อนในรา่ งกาย 4. หอ่ หมุ้ ร่างกาย 5. ขบั ถา่ ยของเสีย 6. ดูดซมึ หรอื ขับไขมนั ไปหล่อเลย้ี งเสน้ ผมหรือขน 7. ขับสง่ิ ต่างๆท่อี ยใู่ นผิวหนัง

การสร้างเสรมิ และดารงประสทิ ธิภาพการทางาน ของระบบผวิ หนงั ผิวหนังเปน็ อวัยวะภายนอกทห่ี ่อหุ้มรา่ งกาย ช่วยส่งเสรมิ บุคลกิ ภาพของ บคุ คลและบง่ บอกถึงการมีสุขภาพที่ดีและไม่ดขี องแตล่ ะคน เชน่ คนทมี่ ี สุขภาพดี ผวิ หนังหรอื ผวิ พรรณจะเตง่ ตึง สดใส แขง็ แรง ซงึ่ จะตรงกันข้ามกับผู้ ท่มี ีสขุ ภาพไมด่ หี รอื เจบ็ ป่วย ผวิ หนังจะแห้ง ซดี เซยี ว หรือเป็นแผลตกสะเกด็ เป็นตน้ 1. อาบนา้ ชาระล้างรา่ งกายใหส้ ะอาดดว้ ยสบอู่ ย่างนอ้ ยวันละ 1- 2 ครัง้ 2. ทาครีมบารงุ ผวิ ท่ีมคี ุณภาพและเหมาะสมกับผิวของตนเอง ซ่ึง ตามปกตวิ ยั รนุ่ จะมีผวิ พรรณเปล่งปลง่ั ตามธรรมชาตอิ ยแู่ ลว้ ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งใช้ ครมี บารุงผวิ ยกเว้นในช่วงหนา้ หนาว ซ่งึ จะทาให้ผิว แตก

3. เมอ่ื ตอ้ งเผชิญกับแดดรอ้ นจดั ควรสวมหมวก กางร่มสวมเสอื้ แขนยาว หรอื ทาครีมกันแดดชนดิ ท่เี หมาะสมและมปี ระสทิ ธิภาพใน การปอ้ งกันแสงแดดก่อนออกจากบา้ นโดยครีมกันแดดควรมีค่า SPF 15 (Sun Protecion Factior) แสดงความสามารถปอ้ งกัน แสงแดดไดน้ านขึ้นประมาณ 15 เท่า เปน็ อย่างต่า เพ่อื ปอ้ งกัน อนั ตรายจากแสงแดดท่ีมรี งั สีอลั ตราไวโอเลต (Ultraviolet) ซง่ึ เปน็ อนั ตรายตอ่ ผิวหนัง 4. สวมเสอ้ื ผ้าทส่ี ะอาด พอดีตัวไมค่ ับหรือหลวมเกินไป และ เหมาะสมกับสภาพภมู ิอากาศตามฤดูกาล

5. รบั ประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเพยี งพอตอ่ ความ ตอ้ งการโดยเฉพาะผกั และผลไม้ 6. ดม่ื นา้ สะอาดอย่างนอ้ ย วันละ 6 – 8 แก้ว โดยนา้ จะช่วยให้ ผิวพรรณสดชน่ื แจ่มใส 7. ออกกาลงั กายเป็นประจาเพื่อใหร้ ่างกายแข็งแรง 8. นอนหลับพักผ่อนใหเ้ พียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง 9. ดูแลผิวหนงั อยา่ ให้แผล ถ้ามคี วรรกั ษาเพื่อไม่ให้เกดิ แผล เรื้อรัง เพราะแผลเป็นทางผ่านของเช้อื โรคเข้าสูร่ ่างกาย

สวิ ...........ปญั หาใหญ่ของวยั รุ่น สาเหตุ 1. การเปลีย่ นแปลงของฮอร์โมนชว่ งวัยรนุ่ 2. การนวด ขดั ถูใบหนา้ แรง 3. แพ้ยา เครื่องสาอางสารเคมี 4. ความเครียด

วธิ ีปฏบิ ัตเิ มื่อเปน็ สวิ 1. ลา้ งหน้าให้สะอาด 2. ไม่แกะหรือบบี สวิ

3. พักผอ่ นใหเ้ พยี งพอ 4. รบั ประทานอาหารที่มปี ระโยชน์

ความผิดปกตขิ องผิวหนังทพ่ี บบอ่ ย 1. สิว (Acne) เกดิ จากสาเหตุหลายประการ เชน่ การเปลย่ี นแปลงของ ฮอรโ์ มนเพศในช่วงวัยรนุ่ หรือ เกิดจากเชือ้ จุลนิ ทรยี ์ท่ีอย่ใู นต่อมไขมนั ใต้ ผวิ หนงั มีมากผดิ ปกติ 2. ตาปลา (Corn) เกิดจากแรงกดหรือแรงเสยี ดสีผิวหนังบรเิ วณน้ันบอ่ ยๆ มี ลักษณะเป็นเมด็ กลมๆ แข็งๆ มักเกิดบริเวณนว้ิ เท้าหรอื ฝ่าเท้า เน่ืองจากใส่ รองเทา้ คับเกินไป 3. กลิ่น ตัว (Odour) เกิดจากปฏิกริ ิยาเคมขี องกรดไขมันจากต่อมเหงอื่ เซลลบ์ ผุ วิ ท่ตี าย แล้ว เหงอ่ื รวมกับแบคทเี รียและความชืน้ เกดิ เป็นกลนิ่ ตัว ถ้ามกี ล่นิ ตัวแรงอาจ ใช้สารส้มหรอื ลกู กล้ิงระงับกล่นิ ทาบริเวณรักแร้หลังอาบน้าทกุ ครั้ง 4. โรคราทเ่ี ทา้ หรือฮ่องกงฟตุ (Hong kong’s foot) หรอื โรคเท้านกั กีฬา (Athlete’s foot) เกิดจากเช้ือราทเี่ ทา้ เนอ่ื งจากรองเท้าอบั ช้นื หรือลุยน้า สกปรก ทาใหม้ ีอาการคันบรเิ วณซอกนว้ิ การปอ้ งกนั และรักษาทาไดโ้ ดยการ ล้างเทา้ ใหส้ ะอาดแล้วเชด็ ใหแ้ หง้

5. ผวิ หนังแหง้ กร้าน (Dry’s skin) เกดิ จากสภาพแวดลอ้ มผิดปกติ เช่น อากาศ ร้อนจดั อากาศแหง้ มาก หรอื ฟอกสบู่บางชนดิ เป็นต้น ควรใชค้ รีมทาผิวเพ่อื รกั ษาความชมุ่ ชืน้ ของผิวหนงั ไว้ 6. เกลอื้ น (Tinea versicolor) เปน็ โรคผวิ หนังทเ่ี กดิ จากเชอื้ รา ชนิดหน่งึ มกั เกิดข้นึ บรเิ วณลาตวั แขน ขา คอ หน้า เปน็ ต้น พบ มากในผู้ประกอบอาชพี ท่อี ยู่ในอุณหภูมิสงู มเี หง่อื ออกมาก มี ความชืน้ สงู หรอื สกปรกเปรอะเป้ือนพวกไขมนั และฝุ่นละออง ควร ใช้ขผ้ี ึ้งรักษากลากเกล้อื นทาบรเิ วณทีเ่ ปน็ ถ้ามีอาการลุกลามควร ปรึกษาแพทย์

7. กลาก(Ring worm) เป็นโรคผวิ หนังที่เกิดจากเชือ้ ราหลายชนิดท่ี เกิดข้นึ ทว่ั ไปตามร่างกายมีลักษณะเป็นวง แต่ส่วนขอบนัน้ น้นั จะนนู สงู แดงมเี ม็ดตมุ่ พองน้าเล็กๆ ป้องกันและรกั ษาเช่นเดียวกับเกลื้อน 8. ฝี (Abscess) เกิดจากเชื้อบคั เตรีชนิดหน่งึ ซ่งึ มบี นผวิ หนงั ท่วั ไป มลี กั ษณะบวมแดงจนกลายเป็นหนอง 9. เลบ็ ขบ (Ingrown nail) มกั เปน็ กบั นว้ิ หวั แม่เทา้ ที่เกดิ จากการ งอกของเลบ็ ทีก่ ดลึกเขา้ ไปในเน้อื บรเิ วณซอกเลบ็ ทาใหเ้ กดิ ความ เจบ็ ปวด ป้องกนั ได้โดยไมค่ วรตดั เล็บส้นั จนเกินไป

10. เชอ้ื ราทเ่ี ลบ็ (Tinea ungium) มักเป็นกบั ผ้ทู างานท่ีทาให้มือ ตอ้ งเปยี กน้าเป็นประจา หรือเท้าอยู่ในท่อี บั ชนื้ ป้องกันโดยตัดเลบ็ ใหส้ นั้ รกั ษาเล็บใหส้ ะอาดและแหง้ อย่เู สมอ 11. ผมรว่ ง (Alopecia) ผมของคนเราจะร่วงได้ตามธรรมชาติแล้ว งอกขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา แต่ถ้าร่วงมากกว่าปกติอาจมสี าเหตุจาก การขาดสารอาหาร การเจบ็ ป่วยดว้ ยโรค เช้อื รา หรือแพ้ยาสระผม เป็นตน้ ควรหลีกเล่ยี งการเป่าผมดว้ ยความรอ้ น การยอ้ มผม การ ดัดผม และเมื่อเกิดความผดิ ปกติควรรีบปรกึ ษาแพทย์ 12. รงั แค (Dandruff) เกดิ จากผิวหนังหรอื เซลล์ท่ีตายแล้วแห้ง หลดุ ลอกออกมาเป็นแผ่นหรือเป็นขุยๆ มกั เกาะตดิ อยู่กบั เส้นผม ทา ให้คนั ศีรษะและเป็นสาเหตขุ องผมรว่ งได้ ปอ้ งกันโดยสระผมด้วยยา สระผมอย่างออ่ นๆ หากรังแคยังไม่หายควรรีบปรึกษาแพทย์

ขนลุก เกดิ จากการตอบสนองชวั่ คราวของระบบประสาทอตั โนมัติ ซิม พาเทติก ทาให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อรอบขนขนาดเล็กซ่ึง เกาะอยู่ท่ีบริเวณรูขุมขนทั่วร่างกายจนเกิดการต้ังชันของเส้นขน โดยอาการขนลุกอาจเกดิ จากส่ิงเร้า เช่น อากาศหนาว หรืออารมณ์ ความรสู้ กึ เชน่ ความกลัว

บรรณานุกรม สขุ ศกึ ษา, กอง, กรมสนับสนุนการสุขภาพ, กระทรวงสาธารณสุข. คมู่ ือ ๑๐ แนวทางการ สรา้ งสขุ ภาพตามวยั . กรุงเทพฯ : โรงพิมพช์ มุ ชนสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๕๐. สขุ ศกึ ษา. เอกสารแนวทางการสรา้ งสขุ ภาพบนพนื้ ฐานเศรษฐกิจพอเพยี งในชุมชน กรงุ เทพฯ : บรษิ ัท เรตเิ อช่นั จากัด, ๒๕๕๐ อุณษโลม จนั ทร์รงุ่ มณกี ุล. เปดิ ประตสู ู่การเรียนรู้เทา่ ทนั สอ่ื : แนวคดิ ทฤษฎีและประสบการณ์ รูเ้ ท่าทนั สอื่ เพอื่ สุขภาพ. นนทบรุ ี : โครงการสือ่ สร้างสรรค์สขุ ภาพ, ๒๕๕๙ เวบ๊ ไซต์ ระบบในร่างกาย สบื คน้ จาก https://sites.google.com/site/rabbrangkay2/home/rabb- phiwhnang-hrux-rabb-hx-hum-rangkay วันท่สี ืบค้น ๑๐ กนั ยายน ๒๕๖๓.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook