โครงกระดกู มนษุ ย์ ประกอบไปดว้ ยกระดกู ช้นิ ต่างๆในร่างกาย ซึ่งเช่อื มต่อกนั ด้วยโครงสรา้ งของขอ้ ตอ่ เอน็ กล้ามเน้ือ กระดูกออ่ น และ อวัยวะตา่ งๆ กระดกู ในมนษุ ยผ์ ู้ใหญ่มปี ระมาณ 206 ชิ้น และคิดเป็น ประมาณ 20 เปอรเ์ ซนต์ของนา้ หนักรา่ งกาย อยา่ งไรกด็ ี จ้านวนของ กระดูกอาจแตกต่างกนั ไปในแตล่ ะบคุ คล ทารกแรกเกิดจะมีกระดูก จ้านวนประมาณ 300 ชน้ิ ซง่ึ ตอ่ มากระดกู บางช้ินจะมีการเช่ือมรวมกัน ระหวา่ งการเจรญิ เติบโต เช่นส่วนกระเบนเหนบ็ และสว่ นก้นกบของ กระดูกสนั หลงั นอกจากนใี้ นทารกแรกเกิดยงั มโี ครงสรา้ งของกระดูก ออ่ นอยมู่ าก เพอื่ ใหม้ กี ารสร้างโครงสร้างของกระดกู ระหวา่ งการ
เจรญิ เติบโต และจะมกี ารพฒั นาไปเป็นกระดูกทงั้ หมดเมอื่ สน้ิ สุดช่วง วยั ร่นุ กระดกู จะติดตอ่ กบั กระดูกอีกชนิ้ และประกอบเขา้ ด้วยกันเป็นโครง กระดูกด้วยเอ็นและกล้ามเน้ือเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นในกระดูก โคนล้ิน (Hyoid bone) ซึ่งเป็นกระดูกท่ีไม่ติดต่อกับกระดูกชิ้นอื่นๆ โดยตรง แตจ่ ะยึดไวใ้ นบริเวณส่วนบนของคอหอยด้วยเอน็ และกล้ามเน้ือ ใกล้เคยี ง กระดูกชิ้นทใ่ี หญท่ ่ีสดุ ในมนุษย์คือกระดูกต้นขา (Femur) ในขณะท่ี กระดูกชิ้นเล็กท่ีสุดคือกระดูกโกลน (Stapes) ซ่ึงเป็นกระดูกของหูชั้น กลางช้นิ หนึง่
ชนิดของโครงกระดูกกระดูกภายในร่างกายแบ่งตาม ลกั ษณะรูปร่างออกเป็น 4 ชนิด กระดูกแบน ท้าหน้าทเ่ี ปน็ เกาะปอ้ งกนั อันตราย และยดึ กลา้ มเนอ้ื เช่น กระดูกซีโ่ ครง กระดกู สนั้ เป็นกระดูกทม่ี ีลักษณะเปน็ ก้อนซ่งึ มี ความกวา้ งและยาวเกอื บเท่ากนั เช่น กระดกู ข้อมือ และกระดูกข้อเทา้
กระดูกรปู ทรงไมเ่ ปน็ ระเบยี บ กระดูกท่ีมรี ปู รา่ งซบั ซอ้ น ไม่ สามารถจัดเข้ากลุม่ กระดกู ชนิดอ่นื ได้ เชน่ กระดูกสนั หลัง กระดูกยาว เป็นกระดูกที่มีความยาวมากกว่า ความกวา้ ง มักจะโคง้ เล็กนอ้ ย เพื่อความแขง็ แรง ตวั อย่างเชน่ กระดกู นิว้
โครงกระดูกแบ่งออกเปน็ 2 สว่ น ได้แก่ 1. โครงกระดูกแกนหลัก (สีเหลือง)ประกอบด้วยกะโหลกศีรษะ กระดูกสันหลัง และกระดูกซ่ีโครง ซึ่งเรียงตวั ตามแนวด่ิงของเส้นสมมุติ กลางล้าตัว
2. โครงกระดูกรยางค์ (สีขาว) ประกอบด้วยกระดูกท่ีเรียงตัวอยู่ ข้างใดข้างหนึ่งของเส้นสมมุติกลางล้าตัว ได้แก่ กระดูกแขน กระดูกขา กระดกู หวั ไหล่ กระดกู เชิงกราน ขอ้ ตอ่ เปน็ บรเิ วณท่ีกระดูกมาตอ่ กนั ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวได้ ยกเว้นบางแห่ง เช่น ข้อตอ่ ระหวา่ กระดูกในกะโหลกศรี ษะจะยึดตดิ กนั แนน่ ขอ้ ตอ่ ทเ่ี คล่อื นไหว ได้แบ่งออกเป็นหลายแบบ ข้อต่อพวกนี้เรยี กว่า ข้อแต่แบบมไี ขข้อ (synovial joint) เพราะภายในประกอบด้วยน้าหลอ่ ลื่นทเ่ี รยี กว่า นา้ ไขข้อ (synovial fluid)
ขอ้ ตอ่ สะโพก เป็นขอ้ ตอ่ แบบ \"ลกู กลมในเบ้า\" ปลายกระดูกขา้ งหลังมี ลักษณะเป็นหวั กลมสวมอย่ใู นเบ้ารูปรา่ งคล้ายถว้ ยของปลายกระดกู อีกชิน้ ท้าใหห้ มุนขาไดห้ ลายทศิ ทาง ข้อเขา่ เป็นขอ้ ต่อแบบ \"บานพับ\" มีลกั ษณะคลา้ ยบานพับทา้ ให้เคลื่อนไหว ขาได้เพียงสองทิศทางคอื งอขาและเหยยี ดขา ข้อมือ เปน็ ขอ้ ตอ่ แบบ \"บดเลอื่ น\" มพี ้นื ผิวแบนเรียบและกระดูกเคลอ่ื นที่ ในลกั ษณะไถลเลื่อนบดกนั ไปมา
กระดูกคอ ข้อต่อแบบ \"เดอื ยหมนุ \" พบในขอ้ ตอ่ ระหว่างกระดกู คอ ชิ้นท่ี 1 และช้นิ ท่ี 2 โดยกระดกู คอช้ินท่ี 2 มีลกั ษณะเป็นเดอื ยตง้ั ในกระดกู คอช้ินที่ 1 โครงสร้ างภายในกระดกู กระดูกแตล่ ะชิน้ ปกคลมุ ดว้ ยเนอื้ เย่ือบาง ๆ ทเ่ี รยี กวา่ เยอ่ื ห้มุ กระดกู ซงึ่ บรรจุ ดว้ ยเซลลท์ สี่ ร้างความเจรญิ เตบิ โตและซอ่ มแซมกระดูก ภายในกระดูก ประกอบดว้ ยหลอดเลอื ดเสน้ ประสาท และเซลลก์ ระดูก (osteocyte) อยู่รวมกันภายในกระดกู ตน้ ขา
Spongy bone มลี กั ษณะคลา้ ยฟองน้ามีช่องแทรกอยใู่ นชิ้นกระดกู แข็ง เลก็ ทตี่ อ่ เนอื่ งเปน็ ร่างแห มักพบกระดูกชนิดน้ใี นไขกระดกู กระดกู เน้ือแน่น (Compact bone) มีเนอ้ื กระดูกเปน็ แผ่นเรียงซ้อนกัน แนน่ เป็นวง ชนั้ นอกของกระดูกรา่ งกายท้งั หมดเปน็ กระดูกเนอื้ แนน่
เซลล์กระดกู อยู่ในชอ่ งเลก็ ๆ เรียกว่า ลาคูนา่ (Lacuna) - ช่องโวลก์ แมน (Volkmann's canal) ประกอบดว้ ยหลอดเลือดเลก็ ๆ และเสน้ ประสาททไ่ี ปเลีย้ งเซลลก์ ระดูก - ชอ่ งฮาเวอรเ์ ซยี น (Haversian canal) เป็นชอ่ งทางเดินหลอดเลือด ในกระดูก
หน้าท่ขี องกระดกู โครงกระดกู มหี น้าที่ทีส่ าคัญหลายประการ ได้แก่ 1. ค้าจุนโครงสรา้ งของร่างกาย 2. เป็นทย่ี ดึ เกาะของกลา้ มเน้อื และเอ็นต่างๆ สา้ หรับการเคลอื่ นไหว 3. ป้องกันอวัยวะภายในทส่ี ้าคญั เช่นกะโหลกศีรษะที่ห่อหุ้มสมอง หรือ ซี่โครงปอ้ งกันปอดและหัวใจจากการกระทบกระเทือน 4. เปน็ แหล่งผลติ เมด็ เลือดทีส่ า้ คัญ 5. เปน็ แหล่งเกบ็ สะสมแคลเซยี มทีส่ ้าคญั ของร่างกาย โดยการควบคุม ของฮอรโ์ มนและวติ ามิน B3
ประเภทของโครงกระดกู โครงกระดูกในมนุษย์สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็นสองกลุ่มใหญ่ คอื โครง กระดกู แกน (axial skeleton) และโครงกระดูกรยางค์ (appendicular skeleton) โครงกระดกู แกน โครงกระดูกแกนในผ้ใู หญ่ประกอบด้วยกระดกู จานวน 80 ชน้ิ ซ่ึงวางตวั ในแนวแกนกลางของลาตวั ซง่ึ ไดแ้ ก่ 1. กะโหลกศีรษะ (Skull) มีจานวน 22 ชิน้ 2. กระดกู หู (Ear ossicles) จานวน 6 ช้ิน 3. กระดูกโคนลนิ้ (Hyoid bone) 1 ชิน้ 4. กระดกู สันหลัง (Vertebral column) จานวน 26 ชิ้น 5. กระดกู ซโี่ ครง (Ribs) จานวน 24 ชน้ิ 6. กระดูกอก (Sternum) 1 ช้นิ
โครงกระดูกรยางค์ โครงกระดูกรยางคใ์ นผ้ใู หญจ่ ะมีทั้งหมด 126 ช้นิ ซง่ึ จะอยู่ ในสว่ นแขนและขาของร่างกายเพอ่ื ช่วยในการเคล่ือนไหว โดยจะแบ่งออกเปน็ 6 ส่วน ได้แก่ 1. กระดกู ส่วนไหล่ (Shoulder girdle) 5 ชิ้น 2. กระดูกแขน (Bones of arms) 6 ชิ้น 3. กระดกู มือ (Bones of hands) จานวน 54 ชน้ิ 4. กระดกู เชิงกราน (Pelvic girdle) 2 ชิ้น 5. กระดูกขา (Bones of legs) 8 ช้นิ 6. กระดูกเท้า (Bones of feet) 52 ช้ิน
โรคทเี่ กี่ยวกับโครงกระดกู จะสง่ ผลต่อความแขง็ แรงและความสามารถใน การเคลื่อนไหวของร่างกายโดยตรง ความผิดปกติของโครงกระดูกท่ีพบบ่อย คือ กระดูกหัก ซ่ึงเกิดจากการท่ีกระดูกได้รับแรงท่ีมากเกินไป ซึ่งอาจเป็น เพียงกระดูกท่ีหักอยู่ภายใน หรืออาจมีส่วนใดส่วนหนึ่งของกระดูกท่ีโผล่พ้น ผิวหนังข้ึนมาก็ได้ในกรณีรา้ ยแรง นอกจากนี้ ภาวะกระดกู หักยังพบได้ง่ายใน ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน ซ่ึงมักพบในผู้สูงอายุและสตรีวัยหมดประจ้าเดือน โรคของกระดูกท่ีจัดว่าร้ายแรง ได้แก่ เนื้องอกและมะเร็งของกระดูก ซงึ่ จ้าเปน็ ตอ้ งไดร้ ับการรกั ษาโดยการผ่าตัด นอกจากน้ี ภาวะข้ออักเสบ ยังส่งผลเสียต่อกระดูกในบริเวณข้อต่อ ท้าให้ผู้ป่วยรู้สกึ เจ็บปวดอย่างรุนแรง และเคลือ่ นไหวล้าบากอกี ดว้ ย
เพ่อื ใหก้ ระดูกมีสขุ ภาพท่ีแขง็ แรงอยเู่ สมอ สงิ่ ท่ีเราควรต้องปฏบิ ตั ิให้ เป็นประจา้ ได้แก่ 1. ออกไปรับแสงแดดในช่วงเช้าก่อน 9 นาฬกิ าเพื่อให้ร่างกายสร้าง วิตามนิ ดี ท่ีจะชว่ ยในการดูดซมึ แคลเซยี ม แตอ่ ยา่ ให้โดนแดดจัดในชว่ ง กลางวนั เพราะแสงแดดจัดคือสาเหตสุ า้ คัญของมะเรง็ การสรา้ ง วิตามนิ ดี เริม่ ในชั้นผิวหนงั ซง่ึ จะสรา้ งไดม้ ากหรอื นอ้ ยกข็ ึ้นอย่กู ับการ สัมผัสกบั แสงอาทติ ย์ของคนเรา ดงั นัน้ อยา่ งลมื ไปออกก้าลังกายใน ตอนเชา้ เพอ่ื รับแสงอาทิตย์อ่อนๆด้วย 2. ด่มื นมเป็นประจา้ และบรโิ ภคอาหารท่ีมปี ระโยชน์ และครบถว้ น ทกุ หมู่ นมและผลิตภัณฑ์ต่างจากนมนนั้ อดุ มไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ซง่ึ นมแคลเซียมสูงทีม่ ี่ส่วนผสมของ วิตามินเค ท่ชี ่วยลดการเส่ือมสลายของแคลเซียมน้ัน ก็เป็นอีกหนึ่ง ทางเลือกท่ดี ีสา้ หรบั สขุ ภาพกระดูก 3. ออกกา้ ลงั กายเปน็ ประจา้ และสมา้่ เสมอการออกก้าลังกายเปน็ ประจ้า ท้าใหส้ ุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอนอกจากน้ันการออก กา้ ลังกายยังสง่ ผลให้กระดกู แข็งแรงมากข้ึนด้วย
บรรณานกุ รม สขุ ศกึ ษา, กอง, กรมสนบั สนนุ การสขุ ภาพ, กระทรวงสาธารณสุข. ค่มู อื ๑๐ แนวทางการสร้าง สุขภาพตามวยั . กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๐. สขุ ศกึ ษา. เอกสารแนวทางการสรา้ งสขุ ภาพบนพ้นื ฐานเศรษฐกิจพอเพยี งในชมุ ชน กรุงเทพฯ : บริษัท เรติเอชั่น จ้ากดั , ๒๕๕๐ อุณษโลม จนั ทร์รงุ่ มณีกลุ . เปิดประตูสกู่ ารเรียนรเู้ ทา่ ทนั สอื่ : แนวคิดทฤษฎีและประสบการณ์ รู้เทา่ ทนั สอ่ื เพอ่ื สุขภาพ. นนทบุรี : โครงการสอ่ื สร้างสรรค์สขุ ภาพ, ๒๕๕๙ เว๊บไซต์ ระบบในรา่ งกาย สืบค้นจาก https://sites.google.com/site/rabbrangkay2/home/rabb- phiwhnang-hrux-rabb-hx-hum-rangkay วนั ทส่ี บื ค้น ๑๐ กันยายน ๒๕๖๓.
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: