โวหารในการเขยี น
“การปิ ดทองหลงั พระน้ัน เมื่อถึงคราวจาเป็ นกต็ ้องปิ ด ว่าท่ีจริงแล้วคน โดยมาก ไม่ค่อยชอบปิ ดทองหลงั พระกนั นัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุก คนพากนั ปิ ดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิ ดทองหลงั พระเลย พระจะเป็ นพระท่ี งามบริบูรณ์ไม่ได้” พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ความหมายของการเขยี น การเขียน หมายถึง การถา่ ยทอดความรู้ ความรู้สึกนึกคิด เร่ืองราว ตลอดจนประสบการณ์ ต่าง ๆ โดยใชต้ วั อกั ษรเป็นเคร่ืองมือในการถ่ายทอดไปยงั ผรู้ ับ
ร่วมด้วยช่วยคดิ การเขียนมีความสาคญั อยา่ งไร • ช่วยถ่ายทอดเร่ืองราวไปยงั ผอู้ ่านไดต้ รง ความตอ้ งการ • เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเอง การเขียนงานที่ดีตอ้ งทาอยา่ งไรบา้ ง • ตอ้ งมีความรู้เก่ียวกบั เร่ืองที่เขียนและเขียน ถ่ายทอดใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจ
ร่วมด้วยช่วยคดิ โวหาร คอื อะไร มีความสาคัญต่อการเขยี นอย่างไร ?
การใช้โวหารในการเขยี น โวหาร คือ กลวธิ ีการใชถ้ อ้ ยคาท่ีสละสลวย มีความเหมาะสม และเลือกสรรมาอยา่ ง ดี ท่ีสามารถถา่ ยทอดความรู้สึกนึกคิด ความรู้ หรือจินตนาการของผเู้ ขียนให้ กวา้ งไกลออกไป
การใช้โวหารในการเขยี น ๑. บรรยายโวหาร การอธิบายเร่ืองราวท่ีเกิดข้ึนหรือไดพ้ บเห็นมาอยา่ งถ่ีถว้ น เหมาะสาหรับการ เขียนรายงาน การเลา่ เร่ือง ตานาน นิทาน โดยบ่งบอกวา่ ใคร ทาอะไร ท่ีไหน อยา่ งไร เมื่อไร อาจใส่ความรู้สึกหรืออารมณ์ลงไปดว้ ย ชาวผตี องเหลือง เป็นชาวเขาเผา่ หน่ึงในประเทศไทย อาศยั อยใู่ นป่ าลึกทาง ตอนเหนือของประเทศ ชาวผตี องเหลืองจะอายและกลวั คนแปลกหนา้ มาก โดยมากมกั ปกปิ ดร่างกายดว้ ยเปลือกไม้ พวกน้ีสร้างที่อยโู่ ดยใชใ้ บตองมุงหลงั คา พอใบตองเป็นสีเหลืองกจ็ ะอพยพยา้ ยที่อยใู่ หม่ ไม่มีที่อยเู่ ป็นหลกั แหลง่ จึง เรียกวา่ “ผีตองเหลือง”
การใช้โวหารในการเขยี น ๒. พรรณนาโวหาร การเขียนเลา่ เรื่องราวอยา่ งละเอียด เหมาะสาหรับการพรรณนาความงามของ ธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวหรือ บรรยากาศ รวมไปถึงความงามของหญิงสาว มุ่ง ใหเ้ กิดภาพ และความรู้สึก นาขา้ วสีเขียวขจีเมื่อหลายเดือนก่อน บดั น้ีไดก้ ลายเป็นทุ่งสีทองกวา้ งไกล สุดลูกหูลูกตา รวงขา้ วสีเหลืองปลิวไสวตามแรงลมฤดูหนาวในเดือนพฤศจิกายน เสียงร้องประสานเพลงเกี่ยวขา้ วของชาวนาดงั ไปทว่ั ทุ่ง เป็นน้าเสียงแห่งความ ภูมิใจและดีใจที่ผลผลิตท่ีตนเองไดท้ ุ่มเทแรงกายแรงใจลงไปไดส้ าเร็จลงแลว้
การใช้โวหารในการเขยี น ๓. เทศนาโวหาร การเขียนโดยการช้ีแจง เพ่ือมุ่งส่งั สอน หรือใหค้ วามรู้ ชกั ชวนใหเ้ ห็น คลอ้ ยตาม เทศนาโวหารจะตอ้ งใชถ้ อ้ ยคาสานวนที่มีน้าหนกั เพื่อจูงใจให้ ผอู้ ่านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา และเป็นประโยชนต์ ่อผอู้ า่ น การเป็นคนดีน้นั เป็นอยา่ งไร การทาดีน้นั น่าเบื่อเพราะมนั ยาก สวน กระแสของชีวิตคน เพราะมนุษยค์ ือสัตวอ์ ยา่ งหน่ึงท่ีถูกกระตุน้ ดว้ ยแรงกิเลส ตณั หา การทาความดีจึงไม่เป็นท่ีนิยมของมนุษย์ ท้งั ท่ีหากเราทาความดี ความดีน้นั กจ็ ะส่งผลดีต่อตนเอง
การใช้โวหารในการเขยี น ๔. สาธกโวหาร การเขียนโดยมีการยกตวั อยา่ งหรือยกเรื่องราวข้ึนมาสนบั สนุนขอ้ ความ หลกั เพือ่ ใหผ้ อู้ ่านเห็นภาพและเขา้ ใจเน้ือเร่ืองชดั เจนมากยงิ่ ข้ึน คนสมยั น้ีไวใ้ จไม่ค่อยได้ แมจ้ ะช่วยเหลือเก้ือกลู กนั มานาน แตเ่ มื่อมี เหตุใหต้ อ้ งแสดงนิสยั ใจคอที่แทจ้ ริงออกมา จนกระทงั่ ทาร้ายคนที่คอย ช่วยเหลือดงั เช่น นิทานเรื่องชาวนากบั งูเห่า ที่ชาวนาคอยช่วยเหลือดูแลงูเห่า ที่กาลงั ใกลต้ าย แต่สุดทา้ ยงูเห่ากก็ ลบั กดั ชาวนาจนตาย
การใช้โวหารในการเขยี น ๕. อปุ มาโวหาร การกลา่ วเปรียบเทียบโดยการกล่าวถึงส่ิงหน่ึง แต่ใหห้ มายความถึง อีกส่ิงหน่ึง หรือนาส่ิงหน่ึงมาเปรียบเทียบกบั สิ่งหน่ึง เพื่อใหเ้ ห็นชดั เจนยง่ิ ข้ึน เจา้ จะเห็นไดว้ า่ เมียท่ีพอ่ จดั หาใหม้ ีตระกลู สมชาติ สมเช้ือกนั ดี เพราะตระกลู ของเรากม็ งั่ มี มีคนนบั หนา้ ถือตา ญาติพี่นอ้ งท้งั ฝ่ ายบิดามารดาของนางกบ็ ริบูรณ์ รูปร่างงามหาตาหนิมิได้ ผมดาราวกบั แมลงผ้งึ หนา้ เปลง่ ปลง่ั ดงั่ ดวงจนั ทร์ เนตร ประหน่ึงตากวาง จมูกแมน้ ดอกงา ฟันเทียบไข่มุก ริมฝี ปากเพียงผลตาลึงสุก เสียง หวานปานนกโกกิลา ขาคือลากลว้ ย เอวเหมาะเจาะไม่อว้ นเกิน เวลายา่ งเดิน แคลว่ คลอ่ งมีสง่าเสมอชา้ งทรง เพราะฉะน้นั เจา้ จะหาทางตาหนิขดั ขอ้ งมิไดเ้ ลย
ใช้โวหารชนิดใด ตะวนั โผล่พน้ ขอบฟ้ายามเชา้ หญิงสาวกาลงั นง่ั ผดั แป้งอยหู่ นา้ กระจก มือเรียวยาวบรรจงจบั ท่ีปัดแกม้ ปัดลงบนแกม้ ขาวเนียนใหอ้ มชมพรู ะเรื่อ ปากบางรูปกระจบั ถูกแต่งเติมดว้ ยลิปสติกสีแดงสด ดวงตากลมโตคูส่ วยบรรจง วาดใหม้ องดูโครงหนา้ สวยไดร้ ูปของตนอยา่ งพอใจ พรรณนาโวหาร
ใช้โวหารชนิดใด หอ้ งสี่เหล่ียมเลก็ ๆ ในอาคารแห่งหน่ึง ผคู้ นกาลงั วนุ่ อยกู่ บั การทางานอยา่ งเร่งรีบ ทางโตะ๊ ดา้ นซา้ ย ชายคนหน่ึงกาลงั จบั จอ้ งอยทู่ ี่หนา้ จอคอมพิวเตอร์ บนโตะ๊ ทางานของ เขาเตม็ ไปดว้ ยแฟ้มเอกสารท่ีวางอยา่ งไม่เป็นระเบียบมากนกั หญิงวยั กลางคนเดินผา่ น โตะ๊ ทางานของชายผนู้ ้นั อยหู่ ลายคร้ัง ในมือของเธอมกั จะถือเอกสารงานอยเู่ สมอ โตะ๊ ทางดา้ นขวา มีภาพของหญิงสาวคนหน่ึง เธอเปิ ดหนงั สือเลม่ โตคร้ังแลว้ คร้ังเลา่ ก่อนจะ ลงมือเขียนบางอยา่ งลงในเอกสารงานที่วางอยคู่ ู่กนั ภาพเหลา่ น้ีมกั จะเห็นเป็นประจา ทุกวนั อยา่ งไม่มีวนั สิ้นสุด บรรยายโวหาร
ใช้โวหารชนิดใด ถา้ ครูบาอาจารยเ์ ปรียบเสมือนเรือจา้ ง นกั เรียนกค็ งเปรียบเสมือนผโู้ ดยสารเรือ ที่เรือจา้ งเตม็ ใจท่ีจะไปส่งใหถ้ ึงฝั่งอยา่ งปลอดภยั เม่ือผโู้ ดยสารถึงฝ่ังแลว้ กม็ ีบางส่วน ที่กลบั มาใชบ้ ริการอีก แตบ่ างส่วนกไ็ ม่มีโอกาสไดก้ ลบั มาใชบ้ ริการแต่จะยงั จดจาวา่ มีเรือจา้ งลาน้ีอยู่ เช่นเดียวกบั คุณครูท่ีอบรมสัง่ สอนนกั เรียน เม่ือนกั เรียนจบไป บางส่วนกจ็ ะคอยกลบั มาหาคุณครูท่ีส่ังสอนพวกเขาจนไดด้ ี แตบ่ างส่วนกไ็ ม่มี โอกาสไดก้ ลบั มาหา แต่ยงั ระลึกอยเู่ สมอวา่ เขาไดด้ ีมีวิชาความรู้กเ็ พราะคุณครูท่านน้ี อุปมาโวหาร
ใช้โวหารชนิดใด ในน้ามีปลาฉนั ใด ในเมืองใหญก่ ย็ งั คงมีคนท่ีมีน้าใจฉนั น้นั แมเ้ ราจะเคยไดย้ นิ วา่ คนเมืองหลวงไม่มีน้าใจ ไม่ช่วยเหลือผอู้ ่ืน แต่เหตกุ ารณ์น้าท่วมที่ผา่ นมากท็ าให้ เรารู้วา่ สิ่งท่ีเราเคยไดย้ นิ มาไม่ไดเ้ ป็นความจริง เหตกุ ารณ์น้าท่วมคร้ังน้นั ทุกคนตา่ ง ร่วมมือร่วมใจกนั คนที่อยบู่ า้ นใกลเ้ รือนเคียงกนั ตา่ งช่วยกนั ขนยา้ ยส่ิงของข้ึนที่สูง และแบ่งปันอาหารในยามท่ีขาดแคลน นี่คงเป็นอีกเหตุการณ์หน่ึงที่จะยนื ยนั ไดว้ า่ คนเมืองหลวงไม่ไดแ้ ลง้ น้าใจอยา่ งที่คิด สาธกโวหาร
ใช้โวหารชนิดใด การอบรม สั่งสอนลูกเคร่งครัดมากมายเกินไป กอ็ าจเป็นผลร้ายไดเ้ หมือนกนั เพราะฉะน้นั วิธีเล้ียงลกู ที่ดีกค็ ือ เดินตามทางสายกลาง อยา่ ใหต้ ึงหรือหยอ่ นเกินไป ควรเปิ ดโอกาสใหเ้ ดก็ หรือลกู ไดใ้ ชค้ วามคิด ไดท้ ดลอง ไดม้ ีประสบการณ์ต่างๆไดร้ ู้ วิธีช่วยตวั เอง ไดฝ้ ึ กแกป้ ัญหาของตวั เองใหม้ ากส่วนท่ีจะควบคุมกนั ควรเป็นแต่เรื่อง กรอบของ กฎหมายและศีลธรรมเท่าน้นั การสอนใหเ้ ขาไดท้ ากิจกกรมที่เป็น ประโยชนท์ ี่เขาพอ ใจใหม้ ากยอ่ มีกวา่ การต้งั แตข่ อ้ หา้ ม หรือการใหท้ าตามคาสงั่ แต่ ฝ่ ายเดียว เทศนาโวหาร
ใบงาน คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนขอ้ ความตามจินตนาการโดยเลือกใชโ้ วหารในการเขยี น ๓ ประเภท ประเภทใดกไ็ ด้ ดงั น้ี (ความยาวไม่ต่ากวา่ ๔ บรรทดั ) ๑.บรรยายโวหาร ๒.พรรณนาโวหาร ๓.เทศนาโวหาร ๔.สาธกโวหาร ๕.อปุ มาโวหาร ๕ คะแนน นะคะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: