อยาก \"จาเกง่ \" กต็ อ้ ง \"รวู้ ิธีการจา\" ท่ีถกู ตอ้ ง “เทคนิคการชว่ ยจา”
หลักการคอื ... ถา้ สิ่งไหนคอื สิง่ ที่สาคญั เราจะไม่มีทางลืม เชน่ ชอ่ื ของคนทชี่ อบ เรอ่ื งไหนท่ีสมองประเมินวา่ สาคญั ควรคา่ แกก่ ารจา ความทรงจานนั้ กจ็ ะ หลงเหลืออยู่ในสมอง สว่ นเรือ่ งไหนท่ีคิดวา่ ไมค่ วรคา่ แก่การจดจาความทรง จาน้ันจะถูกลบออกไปอยา่ งง่ายดาย สาหรบั สมองเรอื่ งไหนที่ถกู \"ย้าซา้ ๆ\"ลงไปคือความจรงิ เรอ่ื งไหนที่ ไม่ถูกย้าซา้ ๆสมองจะรบั รวู้ า่ เปน็ สงิ่ ท่ไี มส่ าคัญและจะลมื มนั ไปในทส่ี ดุ เช่นน้นั เราตอ้ งเช่อื อย่างจริงจงั ว่า ส่ิงทีก่ าลงั จะท่องจามปี ระโยชนต์ ่อชวี ิต ของตนเอง และตอ้ งหมน่ั \"ทบทวนซา้ ๆ\"
วธิ กี ารคือ… 1. แบ่งเวลา 1 วันออกเปน็ 3 ชว่ ง ✔ชว่ งเช้า สมองมปี ระสิทธิภาพมากที่สุด เหมาะกับ วชิ าทตี่ อ้ งใชห้ วั คิดเช่น คณติ ศาสตร์ ✔ช่วงบา่ ย เหมาะกบั วิชาทไ่ี มต่ ้องใช้หัวคิดมากเช่นวชิ าทางภาษา หรอื งานทตี่ ้อง ทาร่วมกับคนอน่ื เช่น การประชุม ✔ชว่ งกลางคืน สมองจะเหน่ือยลา้ มากแลว้ เวลานี้จึงเหมาะ กบั วิชาท่องจา เวลาท่ีเหมาะกับการท่องจามากที่สดุ คือ ช่วงกอ่ นนอน 90 นาที และหลงั ต่ืนนอน 90 นาที วธิ ีนเ้ี รียกว่า\"การท่องจาแบบแซนด์วิช“ (จากงานวจิ ยั เก่ยี วกบั สมองพบวา่ มนุษยส์ ามารถมสี มาธิไดส้ ูงสุดแค่ 90 นาทีเทา่ นนั้ )
2. \"เขา้ นอนก่อน 22:00 น. ตน่ื 5:30 น.“ การนอนใหไ้ ด้วันละ 7 ชวั่ โมงครง่ึ ชว่ ยเพิ่มประสทิ ธิภาพในการจา เพราะ ช่วงที่เรานอนหลับความทรงจาระยะสัน้ จะพัฒนาไปเปน็ ความจาระยะยาว และยงั สง่ ผลดตี อ่ สุขภาพด้านอื่นๆอกี ดว้ ย 3. \"ทบทวน 1 ครงั้ หลังผ่านไป 20 นาทีหลายๆรอบ จะทาใหจ้ ดจาไปได้ตลอดชีวิต\" ชว่ งเวลาท่ดี ีทีส่ ุดในการทบทวนคือหลังจากที่จา ข้อมลู นัน้ ได้ ประมาณ ครึ่งหน่ึง ซ่งึ ก็คอื หลงั จากท่ีเราจาข้อมลู น้ันได้ 20 ถงึ 1 ชว่ั โมง น่ีเปน็ ชว่ งเวลาทีด่ ที ่สี ดุ
4. \"แบ่งการทบทวนออกเป็น 3 รอบรอบละ 3 ครัง้ รวม 9 ครัง้ ต่อวัน\" ทบทวน 3 คร้งั ใน 1 วัน แล้วสมองจะรบั รู้ว่าส่งิ น้นั เป็นส่งิ สาคัญ 5. \"ใชส้ ายตามองทบทวนซ้าๆ\" เป็นวธิ ีทเ่ี รว็ ที่สุดในการท่องจา ยกเวน้ การเขียนสะกดคา เพราะคอื การเขยี นจึงต้องฝึกเขียน ใชส้ ายตาอ่านอย่างเดียวไม่ได้
6. \"แบง่ ออกเป็นหัวข้อย่อย แล้วท่อง\" หัวขอ้ ท่ไี มถ่ นดั จัดการไปทีละหวั ข้อ เวลาที่อ่านหนงั สือแลว้ จาไม่ได้ หรือไม่เขา้ ใจก็เปน็ เพราะเราไมไ่ ด้แบง่ เร่อื งนน้ั ออกเปน็ \"หัวขอ้ ย่อยๆ“ 7. \"อา่ นหนังสือ 1 หวั ขอ้ ใหจ้ บภายใน 15 นาทกี ่อนที่จะมีคล่ืนรบกวน\" จะสามารถป้องกันการเกดิ คลนื่ รบกวนไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
8. \"ฝกึ ให้แกป้ ัญหาใหเ้ สรจ็ กอ่ นแลว้ จึงใหร้ างวลั \" เพ่อื ฝึกให้สมองจาพฤติกรรมทท่ี าให้เรา ร้สู ึกวา่ การแก้ปัญหาไดค้ อื ความสบาย การทางานสาเรจ็ คอื ความสุข 9. \"การเดนิ อา่ นออกเสยี งเพ่ือท่องจาเปน็ วธิ ีท่มี ีประสิทธิภาพที่สดุ \" เพราะทาให้เราได้ใช้ประสาทสัมผสั หลายดา้ น การทอ่ งจาบรเิ วณทมี่ ี เสยี งรบกวนเลก็ นอ้ ยตามเสยี งธรรมชาติเช่นเสียงรถ ทาให้ สมองจะพยายามลด เสยี งรบกวนชว่ ยทาใหม้ ีสมาธเิ พิม่ มากข้ึน แตไ่ มค่ วรฟงั เพลงหรือวิทยุไปดว้ ย คณะทอ่ งจาเพราะ เราจะจดจอ่ อย่กู ับส่งิ นนั้ แทน
10. ใช้อุปกรณ์เครือ่ งเขียน ปากกา กระดาษ แฟม้ ใส ใช้“ 4 สี\" เพื่อกระตนุ้ การทางานของสมองซกี ขวา โดยแยกใช้ 4 สตี ามระดับของการท่องจา 4 ระดบั ได้แก่ 1) สแี ดง = สง่ิ ท่ีเห็นแล้วเขา้ ใจไดใ้ นทนั ที 2) สเี ขยี ว = สิ่งท่ีใช้เวลา 3 วินาทใี นการทาความเขา้ ใจหรอื จาได้เลอื่ นลาง 3) สเี หลือง = ส่ิงทีเ่ คยเหน็ ผา่ นตามาแลว้ แต่จาไม่ได้ 4) สีน้าเงิน = สิ่งท่ไี ม่เคยรูเ้ หน็ มากอ่ น 11. \"ทานกลว้ ยหลังจากตื่นนอนตอนเชา้ และทานชอ็ กโกแลตตอนกลางวนั \" ในกล้วยมีทริปโตเฟนและวติ ามินบี 6 ช่วยสร้างเซโรโทนินให้ร่างกาย ส่วนช็อกโกแลตมสี ารโบรมีนชว่ ยเพ่ิมการจาและสมาธไิ ด้
12. \"เลือกใช้วิธีท่องจาใหเ้ หมาะสม ตามประเภทของความจา 4 ประเภท\" 1) ความจาระยะส้นั เม่อื ได้เรยี นรสู้ ิ่งทีร่ ับรจู้ ะเป็นความจาระยะส้ัน 2) ความจาระยะยาว คอื ส่งิ ที่เป็นความจาระยะส้ันพฒั นาไป เปน็ ความจาระยะยาว 3) ความจาแบบพน้ื ฐาน เหมาะกบั การทอ่ งจา 1 ต่อ 1 เชน่ คาศพั ท์ภาษาอังกฤษ ห้ามใชก้ ารเล่นคาในการท่องจาคาศพั ท์ภาษาองั กฤษ เพราะจะทาใหค้ วามเร็ว ในการอา่ นลดลงอย่างมาก 4) ความจาแบบรูปภาพ เปน็ การจาแบบหน่งึ ต่อจานวนมากๆเช่นเหตุการณ์ที่เกดิ ในปีตา่ งๆของประวตั ิศาสตร์ ใหจ้ ินตนาการวา่ ตวั เราเปน็ ตัวละครหลักแล้วใส่ ความรสู้ ึกลงไปในนั้นด้วยแลว้ จะทาใหจ้ าได้ไมร่ ลู้ ืม สิง่ สาคัญคือ เราตอ้ งสามารถแยกใช้ประเภทของความจาใหเ้ หมาะสม อยา่ ทอ่ งจาโดยไม่คิดอะไร ให้คิดวา่ ตัวเองขณะน้ีกาลงั ท่องจาความจาระยะสัน้ หรอื กาลังเปลีย่ นความจาระยะสน้ั เปน็ ความจาระยะยาว
13. \" เปน็ อัจฉริยะเฉพาะวนั สอบดว้ ยวธิ ีการจาแบบ Peak Control\" วิธกี ารทีจ่ ะทาใหจ้ าไดอ้ ยา่ งแมน่ ยาคอื การเพ่มิ จานวนรอบในการทบทวน สิง่ สาคัญคอื 1.) ทาสมดุ ทบทวนทอี่ า่ นแค่เล่มนี้ก็สอบผา่ นให้เสร็จก่อนสอบ 1 เดอื น 2.) ทบทวนสมุดทบทวนซ้าไปซ้ามาใหจ้ าไดอ้ ย่างสมบรู ณแ์ บบ 1 เดือนก่อนสอบ โดยเร่ิมจากวชิ าท่ีต้องใช้ตรรกะก่อนแลว้ ทา้ ยทส่ี ุดคอ่ ยจรงิ จังกับวิชาที่ต้อง ใช้การท่องจา แลว้ จัดตารางว่าเวลาไหนควรศึกษาด้วยอะไร เพือ่ ให้ในวนั สอบจรงิ สามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้มากที่สดุ \"หากเราสามารถจนิ ตนาการออกมาไดเ้ ปน็ รปู ภาพแสดงว่าความจานั้น แปลเป็นความจาระยะยาวแลว้ \"
อา้ งองิ …https://medium.com/@preamjaiaeamsaart ขอบคุณมากสาหรบั การรบั ชมค่ะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: