โครงการตา้นและลดทุจริตด้วยกลไกสหยทุธ์ เฉพาะกรณีพืนทีเสยีงต่อการทจุรติ (STRONG:TogetheragainstCorruption-TaC) TaC Team ครังที4 วนัที19-22ธันวาคม2564 ประเด็นความเสยีงต่อการทุจริตด้านทรัพยากรธรรมชาติ (การลกัลอบดดูทราย/สงิล่วงลาํลํานํา) สํานกัมาตรการเชิงรุกและนวตักรรม สาํนักงานป.ป.ช.
Final สำหรับ TaC Team เท่ำน้นั กาหนดการโครงการต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพาะกรณีพน้ื ทเ่ี สยี่ งต่อการทุจริต (STRONG : Together against Corruption – TaC) ครัง้ ที่ 4 ระหวา่ งวันที่ 19 – 22 ธนั วาคม 2564 รับผิดชอบ โดย สานกั มาตรการเชงิ รกุ และนวตั กรรม ⚫ กจิ กรรม : การลงพืน้ ที่ระดับผูบ้ รหิ าร ประเด็น : ความเส่ียงการทจุ ริตดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติ (การลกั ลอบดูดทราย/ส่ิงล่วงลา้ ล้านา้ ) พนื้ ท่ี : ภาค 5 จงั หวัดเชียงใหม่ วันเสาร์ที่ 18 ธนั วาคม ๒๕64 (คณะเดนิ ทางลว่ งหนา้ ) 06.00 น. - เจา้ หนา้ ที่สา้ นักสืบสวนและกิจการพิเศษ (สสก.) และเจ้าหน้าที่โครงการ (สมน.) ออกเดินทางจากสา้ นักงาน ป.ป.ช. อา้ เภอเมอื งนนทบรุ ี จังหวัดนนทบรุ ี* 15.00 น. - เจ้าหน้าทสี่ ้านักสืบสวนและกิจการพเิ ศษ (สสก.) และเจ้าหนา้ ทโี่ ครงการ (สมน.) เดนิ ทางถงึ อา้ เภอเมืองเชียงใหม่ จงั หวดั เชียงใหม่ 15.00 – 17.00 น. - เจา้ หน้าทส่ี ้านักสืบสวนและกิจการพเิ ศษ (สสก.) และเจ้าหนา้ ที่โครงการ (สมน.) ปฏบิ ัตภิ ารกจิ ตามท่ไี ดร้ ับมอบหมาย 18.00 น. - เจ้าหน้าทีส่ ้านักสืบสวนและกิจการพเิ ศษ (สสก.) และเจา้ หนา้ ทโ่ี ครงการ (สมน.) เข้าพักโรงแรม อ้าเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชยี งใหม่ * ผอ.สสก. และ ผอ.สมน. เดนิ ทางด้วยเครือ่ งบินโดยสาร วันอาทิตย์ท่ี 19 ธันวาคม ๒๕64 08.00 น. เจ้าหนา้ ทีส่ า้ นักสบื สวนและกิจการพิเศษ (สสก.) และเจา้ หน้าท่ีโครงการ (สมน.) ปฏิบัติภารกจิ ตามทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 12.00 น. - คณะผบู้ รหิ ารและเจ้าหนา้ ท่ี (TaC Team) พร้อมกนั ท่ีทา่ อากาศยานดอนเมือง 14.55 น. - คณะผู้บรหิ ารและเจ้าหนา้ ที่ (TaC Team) ออกเดนิ ทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง กรงุ เทพมหานคร ด้วยเคร่อื งบินโดยสาร สายการบินแอร์ เอเชยี 16.15 น. - คณะผู้บรหิ ารและเจา้ หนา้ ท่ี (TaC Team) เดนิ ทางถึงท่าอากาศยานเชยี งใหม่ อ้าเภอเมืองเชยี งใหม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ 17.00 น. - คณะผบู้ รหิ ารและเจ้าหน้าที่ (TaC Team) เขา้ พักท่ี Chiang Mai Grandview Hotel & Convention Center อ้าเภอเมืองเชียงใหม่ จงั หวัดเชียงใหม่ 18.00 น. - รับประทานอาหารเย็น ณ หอ้ งอาหารช้างเผอื ก Chiang Mai Grandview Hotel & Convention Center 19.00 – 21.00 น. - คณะผู้บริหารและเจา้ หนา้ ท่ี (TaC Team) ทุกทา่ น ประชุมซกั ซ้อมเตรยี มการ เพ่ือลงพืนท่เี ก็บข้อมลู เพอ่ื วิเคราะห์สภาพปัญหาและข้อเท็จจริงตามประเด็นความเสีย่ ง การทุจริตดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ (การลกั ลอบดดู ทราย/ส่ิงลว่ งลา้ ลา้ น้า) ณ หอ้ งอาหารชา้ งเผอื ก Chiang Mai Grandview Hotel & Convention Center
-2- วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม ๒๕64 07.00 น. - รับประทานอาหารเช้า (โรงแรม) 08.00 น. - คณะผู้บรหิ ารและเจา้ หนา้ ท่ี (TaC Team) ออกเดนิ ทางจากโรงแรมที่พัก 10.00 น. - ลงพืนที่เก็บข้อมลู เพื่อวเิ คราะห์สภาพปญั หาและข้อเท็จจรงิ ตามประเด็นความเส่ยี ง การทุจรติ ด้านทรัพยากรธรรมชาติ (การลกั ลอบดูดทราย/สิง่ ล่วงลา้ ล้านา้ ) พ้นื ที่ : อาเภอจอมทอง จงั หวดั เชียงใหม่ จุดท่ี 1 ทา่ ทรายพูลทวี หมู่ 8 ต้าบลบ้านแปะ อ้าเภอจอมทอง จงั หวัดเชยี งใหม่ 11.30 น. - พนื้ ที่ : อาเภอจอมทอง จงั หวัดเชียงใหม่ จุดท่ี 2 ทา่ ทรายลานนานคราทร หมู่ 15 ต้าบลบ้านแปะ อ้าเภอจอมทอง จงั หวัดเชียงใหม่ 12.30 น. - รับประทานอาหารกลางวัน ร้านระเบียงไม้ ตา้ บลหางดง อ้าเภอฮอด จ.เชียงใหม่ 14.00 น. - พืน้ ที่ : อาเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ จดุ ที่ 3 พิบลู ย์ทราย หมู่ 1 ต้าบลหางดง อา้ เภอฮอด จงั หวดั เชยี งใหม่ 15.30 น. - คณะผบู้ รหิ ารและเจา้ หนา้ ที่ (TaC Team) เดนิ ทางกลับโรงแรมท่ีพัก 17.30 น. - เข้าพักโรงแรม Chiang Mai Grandview Hotel & Convention Center อ้าเภอเมืองเชยี งใหม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ 18.00 น. - รับประทานอาหารเยน็ ณ หอ้ งอาหารชา้ งเผือก Chiang Mai Grandview Hotel & Convention Center 19.00 – 21.00 น. - ประชมุ TaC Team (สา้ นักงาน ป.ป.ช. สว่ นกลาง สา้ นกั งาน ป.ป.ช. ภาค 5 และ สา้ นักงาน ป.ป.ช. ประจา้ จงั หวัดเชียงใหม่) เพื่อหารือ ดังนี (1) สรุปและประเมนิ ผลการลงพืนท่ี (Wrap up) (2) ซกั ซ้อมเตรียมการกิจกรรมต้านและลดทุจรติ ดว้ ยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพาะกรณี พนื ทเ่ี สยี่ งต่อการทจุ ริต (STRONG : Together against Corruption – TaC) ประเด็น ความเสี่ยงการทจุ ริตด้านทรัพยากรธรรมชาติ (การลักลอบดดู ทราย/สิ่งล่วงลา้ ลา้ น้า) ในวนั ถดั ไป 21.00 น. - พกั ค้าง วันองั คารท่ี 21 ธันวาคม ๒๕64 07.00 น. - รบั ประทานอาหารเชา้ (โรงแรม) 08.00 น. - คณะผูบ้ ริหารและเจา้ หนา้ ท่ี (TaC Team) ออกเดนิ ทางจากโรงแรมท่ีพกั 09.30 น. - ลงพืนทเ่ี ก็บข้อมูลเพ่ือวิเคราะห์สภาพปญั หาและข้อเทจ็ จรงิ ตามประเดน็ ความเสี่ยง การทุจริตด้านทรัพยากรธรรมชาติ (การลักลอบดูดทราย/ส่ิงล่วงลา้ ล้านา้ ) พน้ื ท่ี : อาเภอแมร่ ิม จังหวดั เชียงใหม่ : ปญั หาความเสยี่ งต่อการทุจรติ เกย่ี วกบั สิ่งล่วงลา้ ลา้ นา้ จุดที่ 4 บริเวณลานา้ แมส่ า ตา้ บลแม่แรม อ้าเภอแมร่ ิม จังหวัดเชียงใหม่
-3- 12.00 – 13.00 น. รบั ประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านแกงร้อนบ้านสวน อ้าเภอเชียงใหม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ 13.30 – 16.30 น. - ประชมุ หารอื ร่วมกับผูว้ ่าราชการจังหวดั เชียงใหม่ หวั หน้าสว่ นราชการที่เกีย่ วขอ้ ง ผูบ้ ริหารส้านกั งาน ป.ป.ช. สว่ นกลาง ส้านักงาน ป.ป.ช. ภาค 5 สา้ นกั งาน ป.ป.ช. ประจ้าจังหวัดเชยี งใหม่ และเครอื ขา่ ยภาคประชาชน (ชมรม Strong – จิตพอเพียง ต้านทจุ ริต) เพ่ือให้ได้ข้อตกลงร่วมในการดา้ เนินการแกไ้ ขปญั หาระหวา่ งจงั หวัด กบั สา้ นกั งาน ป.ป.ช. ประจ้าเชยี งใหม่ ตลอดจนแนวทางในการดา้ เนินการ ระยะต่อไปของส้านกั ในโครงการ TaC Team 16.30 น. - คณะผู้บริหารและเจา้ หน้าที่ (TaC Team) เดนิ ทางกลบั โรงแรมที่พกั 18.00 น. - รบั ประทานอาหารเย็น ณ หอ้ งอาหารชา้ งเผอื ก Chiang Mai Grandview Hotel & Convention Center 19.00 – 21.00 น. - ประชมุ TaC Team เพ่ือสรุปและประเมินผล พรอ้ มทังกา้ หนดข้อตกลง ในการขบั เคล่อื นงานเพ่ือต้านและลดทุจรติ ดว้ ยกลไกสหยุทธ์ฯ ระหวา่ งส้านักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง และสว่ นภมู ิภาค ในระยะต่อไป (Wrap up) 21.00 น. - พักค้าง วันพุธที่ 22 ธนั วาคม ๒๕64 08.00 น. - คณะผูบ้ รหิ ารและเจ้าหน้าท่ี (TaC Team) ออกเดินทางจากโรงแรม อ้าเภอเมืองเชียงใหม่ จงั หวัดเชียงใหม่ เพื่อกลบั ส้านักงาน ป.ป.ช. อ้าเภอเมืองนนทบรุ ี จังหวัดนนทบุรี 10.20 น. - คณะผู้บริหารและเจา้ หน้าท่ี (TaC Team) (เดนิ ทางดว้ ยเครือ่ งบนิ โดยสาร สายการบนิ แอร์ เอเชยี ) ออกเดนิ ทางจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ 11.40 น. - คณะผ้บู รหิ ารและเจ้าหนา้ ท่ี (TaC Team) (เดนิ ทางด้วยเคร่อื งบินโดยสาร สายการบนิ แอร์ เอเชีย) เดนิ ทางถึงท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 17.00 น. - เจ้าหนา้ ท่ีสา้ นกั สบื สวนและกิจการพเิ ศษ (สสก.) และเจ้าหน้าทโี่ ครงการ (สมน.) เดินทางถึงส้านักงาน ป.ป.ช. อา้ เภอเมืองนนทบุรี จงั หวดั นนทบุรี ----------------------------------- หมายเหตุ 1. กาหนดการอาจมีการเปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสม 2. ใหส้ านักในโครงการ TaC Team ส่งรายงานสรปุ ผลการดาเนนิ กิจกรรมตา้ นและลดทุจริต ด้วยกลไกสหยุทธ์ฯ พืน้ ทีจ่ ังหวดั เชยี งใหม่ ตามภารกจิ ของสานัก ไปยังสานักมาตรการเชิงรกุ และนวตั กรรม ภายในวนั ท่ี 30 ธันวาคม 2564
ประเดน็ การลงพน้ื ที่โครงการตา้ นและลดทจุ ริต ด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพื้นที่เส่ยี งตอ่ การทจุ ริต (STRONG : Together against Corruption – TaC) ขอ้ มลู ทส่ี ำคัญเพือ่ นำมำวเิ ครำะห์ประเดน็ ปัญหำด้ำนทรัพยำกรธรรมชำติ (กำรลกั ลอบดูดทรำย/ส่งิ ล่วงลำลำนำ) พนื ที่อำเภอแม่รมิ อำเภอจอมทอง และอำเภอฮอด จังหวัดเชยี งใหม่ 1. ข้อมูลกำรอนุญำตให้ดูดทรำย/สิ่งล่วงลำลำนำในพืนที่ (จำนวนผู้ได้รับอนุญำต/อยู่ระหว่ำงกำรขอ จำนวนพืนทีท่ ขี่ ออนญุ ำต วตั ถปุ ระสงค์ และระยะเวลำ) 2. ข้อมูลกำรลักลอบดูดทรำยและก่อสร้ำงสิ่งลำลำนำโดยไม่ได้รับอนุญำต และกำรดำเนินกำรป้องกัน และปรำบปรำมในพืนท่ี 3. ข้อมูลผลกระทบและเร่ืองร้องเรียนเกี่ยวกับกำรลักลอบดูดทรำยและก่อสร้ำงส่ิงลำลำนำ และแนวทำงกำรแกไ้ ขปญั หำผลกระทบส่ิงแวดลอ้ ม 4. ข้อมูลสภำพปัญหำและควำมเสี่ยงในกำรลักลอบดูดทรำยและก่อสร้ำงส่ิงล่วงลำลำนำโดยไม่ได้รับ อนญุ ำตในพืนที่ (สภำพปัญหำและสำเหตุทีเ่ ก่ียวข้อง) 5. แนวทำงกำรแก้ไขปัญหำตำมข้อ 4 (เช่น ด้ำนข้อเสนอแนะเชิงนโยบำย ด้ำนกฎหมำย ดำ้ นกำรมสี ่วน ร่วม และแนวทำงกำรแก้ไขปัญหำในระดบั พนื ที่)
กาหนดการประชุมหารอื เพือ่ ใหไ้ ด้ขอ้ ตกลงรว่ มกันในการดาเนนิ การแกไ้ ขปัญหาความเสย่ี งการทุจริต ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ วันองั คารท่ี 21 ธนั วาคม 25๖4 เวลา 13.00 น. ณ หอ้ งประชมุ ศาลากลางจงั หวัดเชียงใหม่ อาเภอเมือง จงั หวัดเชยี งใหม่ ประธานการประชุม : นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผูว้ า่ ราชการจังหวัดเชียงใหม่ - กำรนำเขำ้ สู่ประเด็นจำกกำรลงพนื ที่ และกำรแนะนำผู้เข้ำรว่ มประชุม โดย นำงสำววิศรำ รตั นสมัย ผอู้ ำนวยกำรสำนักมำตรกำรเชิงรุกและนวตั กรรม - ชแี จงวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร โดย นำงแกว้ ตำ ชยั มะโน ผู้อำนวยกำรสำนักส่งเสริมและบรู ณำกำร กำรมีสว่ นร่วม - ข้อมูลสภำพปัญหำควำมเส่ยี งกำรทจุ รติ ด้ำนทรพั ยำกรธรรมชำติ โดย ผู้ช่วยเลขำธกิ ำรคณะกรรมกำร ป.ป.ช. ภำค 5 และผอู้ ำนวยกำรสำนกั งำน ป.ป.ช. ประจำจังหวดั เชยี งใหม่ การนาเสนอประเด็นปญั หา ความเห็น และข้อเสนอแนะจากการลงพน้ื ท่ี 3 จดุ ของหน่วยงานภายในพนื้ ท่ี 1. ผู้แทนสำนักงำนเจ้ำทำ่ ภูมิภำคสำขำเชียงใหม่ 2. ผแู้ ทนสำนักงำนทรพั ยำกรธรรมชำติและสงิ่ แวดลอ้ มจังหวัดเชียงใหม่ 3. ผแู้ ทนสำนกั งำนท่ีดนิ จงั หวัดเชยี งใหม่ 4. ผูแ้ ทนสำนักจัดกำรทรพั ยำกรป่ำไมท้ ี่ 1 (เชียงใหม่) 5. ผแู้ ทนสำนกั งำนอุตสำหกรรมจงั หวดั เชียงใหม่ 6. นำยอำเภอแม่รมิ อำเภอจอมทอง และอำเภอฮอด 7. ผแู้ ทนเทศบำลตำบลแมแ่ รม เทศบำลตำบลบ้ำนแปะ และเทศบำลตำบลหำงดง การนาเสนอความเหน็ และข้อเสนอแนะของสานกั งาน ป.ป.ช. 1. ผู้อำนวยกำรสำนักสง่ เสรมิ และบรู ณำกำรกำรมสี ่วนรว่ ม 2. ผู้อำนวยกำรสำนกั เฝำ้ ระวงั และประเมินสภำวกำรณท์ จุ รติ 3. ผแู้ ทนสำนักประเมนิ คุณธรรมและควำมโปร่งใส 4. ผอู้ ำนวยกำรสำนกั วิจยั และบริกำรวิชำกำรด้ำนกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจรติ 5. ผ้อู ำนวยกำรสำนกั ต้ำนทุจริตศกึ ษำ 6. ผู้แทนสำนกั งำน ป.ป.ท. 7. ผ้แู ทนโครงกำรพัฒนำแห่งสหประชำชำตปิ ระจำประเทศไทย (UNDP Resident Representative in Thailand) 8. ผู้อำนวยกำรสำนกั มำตรกำรเชิงรุกและนวัตกรรม ประเด็นกำรตดิ ตำมและผลกั ดันมำตรกำรด้ำนกำรป้องกนั กำรทจุ ริตด้ำนทรัพยำกรธรรมชำติ ไปสูก่ ำรปฏบิ ัติ และกำรเสนอมำตรกำรและข้อเสนอแนะในระยะต่อไป แนวทางการดาเนนิ การของจังหวดั เชียงใหม่ โดย นำยประจญ ปรชั ญ์สกุล ผ้วู ่ำรำชกำรจงั หวัดเชียงใหม่
โครงการตา้ นและลดทุจรติ ดว้ ยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพาะกรณพี นื้ ที่เส่ียงตอ่ การทุจริต (STRONG : Together against Corruption – TaC) คร้งั ที่ 4 ระหว่างวันท่ี 20 – 21 ธนั วาคม 2564 โดยสานกั มาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม หลักการและเหตผุ ล จากการท่ีสานักงาน ป.ป.ช. โดยสานักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต ร่วมกับสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัดทั้ง ๗๖ จังหวัด และสานักงาน ป.ป.ช. ภาค ๑-๙ ได้ร่วมกันดาเนินโครงการ STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จนสามารถสร้างกลไกการรวมตัวท่ี เข้มแข็งของภาคประชาชน ในนามชมรม STRONG-ทั่วประเทศ กลายเป็นชุมชนที่รังเกียจการทุจริตและ มีการขับเคล่ือนกิจกรรมร่วมกันทั้งในการขยายเครือข่ายเพ่ือสร้างกลุ่มคนที่มีความรู้และตระหนักถึงภัยอันตราย จากการทุจริต ตามโมเดล STRONG และการรวมตัวกันต่อต้านการทุจริต ด้วยการไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉย ร่วมกัน เคล่ือนไหวผลักดันเพ่ือนาประเด็นปัญหาไปสู่การแก้ไขได้ด้วยพลังของภาคประชาชน กิจกรรมดังกล่าวภายใต้ โครงการ STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ที่ดาเนินการมาอย่างต่อเนื่องได้สร้างให้เกิดกระบวนการที่เป็นรูปธรรม ในการจับตามองและแจ้งเบาะแส (Watch and Voice) ของภาคประชาชน ท้ังกรณีท่ีเป็นความเส่ียงต่อการทุจริต การกระทาผิดกฎหมาย ตลอดจนการขัดกันของผลประโยชน์ หรือความเดือดร้อนของประชาชนในพ้ืนที่ให้ได้รับ การปอ้ งกนั หรือระงบั ยับยั้งไดอ้ ยา่ งทนั ทว่ งที รวมทง้ั ได้รบั การปรบั ปรงุ แก้ไขจากหน่วยงานทเ่ี กีย่ วข้องอยา่ งรวดเรว็ ผลจากการมีส่วนร่วมแจ้งเบาะแสของภาคประชาชนชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตในทุกพื้นท่ี ท่ัวประเทศ ได้สะสมเป็ นฐานข้อมูลท้ังในมิติด้านพื้นท่ี (Area-based)-ด้านเวลา-(Time-based)-และด้าน กลุ่มเป้าหมาย (Target-based) ซ่ึงได้นามาต่อยอดสู่การวิเคราะห์ประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตเพ่ือกาหนด ลงในแผนท่ีทุกอาเภอท่ัวประเทศ ผ่านโครงการปักหมดุ พื้นทเี่ สี่ยงต่อการทุจริตและโครงการพฒั นาแผนที่พนื้ ท่ีเสยี่ ง ต่อการทุจริตผ่านการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ซ่ึงเป็นสองโครงการที่ดาเนินการต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ และในปัจจุบัน สานักงาน ป.ป.ช. ไดใ้ ช้ประโยชน์จากแผนท่ีพ้ืนทเี่ ส่ียงตอ่ การทุจริต (Corruption-Risk-Mapping) มาบูรณาการร่วมกับข้อมูลอ่ืน ๆ เช่น สถิติคดีและสถานการณ์การทุจริต ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (Integrity and Transparency Assessment-ITA) การสารวจการรับรู้ การทุจริตประจาปี ฯลฯ เพื่อวางแผน กาหนดแนวทางการปฏิบัติงาน ตลอดจนการดาเนินโครงการและกิจกรรม ดา้ นป้องกนั การทุจรติ ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งน้ี รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปีพุทธศักราช 2560 ประกอบกับพระราชบัญญัติประกอบ รฐั ธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 รวมถึงแผนแม่บทและยุทธศาสตร์ในระดับ ต่าง ๆ ได้กาหนดให้ประชาชนชาวไทยมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริต และรัฐต้องจัดให้มีการส่งเสริม การป้องกันการทุจริต ยับย้ังการทุจริต รวมถึงการพัฒนานวัตกรรม และการบูรณาการภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อ การป้องกันการทุจริตเชิงรุก เพ่ือหยุดการทุจริตก่อนจะเกิดความเสียหายข้ึน ดังนั้นเพ่ือเป็นการตอบสนองต่อ การดาเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมาย สานักงาน ป.ป.ช. จึงได้ปรับเปล่ียนโครงสร้างหน่วยงานด้าน การป้องกันการทุจริตเพื่อให้รองรับกับรูปแบบภารกิจท่ีเปล่ียนแปลงไป และได้กาหนดขอบเขตงานให้ ครอบคลมุ การปอ้ งกนั การทุจรติ ในทุกมิติตามทีก่ าหนดในพระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู ว่าดว้ ยการป้องกัน และปราบปรามการทุจรติ พ.ศ. 2561 ไดแ้ ก่ - งานพัฒนามาตรการเชิงรุกและนวัตกรรมป้องกันการทุจริต เพ่ือให้เกิดแนวทางในการแก้ไข ปัญหาการทุจริตอย่างเป็นระบบ รวมทั้งมีการสนับสนุน ติดตามหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องให้ดาเนินการตามมาตรการ ป้องกันการทุจริตได้อย่างมีประสิทธภิ าพ โดยมีสานักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรมรบั ผิดชอบดาเนินการภารกิจ ดงั กลา่ วตามมาตรา ๓๒
- การพัฒนาและผลักดันหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาสู่การนาไปใช้ในการเรียนการสอน ของทุกกลุ่มเป้าหมายทุกระดับชั้นของสานักต้านทุจริตศึกษา และภารกิจส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันต่อต้านการทุจริต ทั้งเครือข่ายภาคประชาชนในนามชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตท่ีมี อยู่ทุกภาคท่ัวประเทศ และเครือข่ายภาคส่วนอื่น ๆ ที่ดาเนินการโดยสานักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วม ต้านทจุ รติ ซึง่ เป็นการดาเนนิ การตามมาตรา ๓๓ - งานการป้องกันการทุจริตเชิงรุกด้วยการพัฒนานวัตกรรมที่เก่ียวข้องกับการยกระดับมาตรฐาน การปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐให้มีความโปร่งใส เพ่ือให้หน่วยงานภาครัฐสามารถปฏิบัติภารกิจ และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงเป็นภารกิจของสานักประเมินคุณธรรม และความโปร่งใส - การสร้างความรู้ความเข้าใจ การป้องกัน และลดการกระทาความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมและผลประโยชน์ส่วนตัว ซ่ึงเป็นความรับผิดชอบของสานัก การขดั กนั แหง่ ผลประโยชน์ ตามมาตรา ๑๒๖ มาตรา ๑๒๗ และมาตรา ๑๒๘ น อกเห นื อจากส านั กท่ี เป็ น โครงส ร้างให ม่ท่ี เกิดจ ากการป รับ เป ลี่ ยน เพื่อร องรับ การป ฏิบั ติภ ารกิจ ตามหน้าท่ีและอานาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใต้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจรติ พ.ศ. 2561 แล้ว ในปจั จุบนั สานกั งาน ป.ป.ช. ยังมุ่งเน้นการดาเนนิ งานในลักษณะบูรณาการ การทางานร่วมกันของสานักต่าง ๆ ท่ีขยายวงกว้าง ไม่เฉพาะเพียงการบูรณาการในกลุ่มสานักที่มีภารกิจ ด้านการป้องกันการทุจริตเท่าน้ัน แต่ยังรวมถึงการทางานร่วมกันระหว่างกลุ่มสานักด้านป้องกันการทุจริต และสานกั อื่น ๆ ทีม่ ีความสัมพันธ์เชือ่ มโยงสนับสนุนกัน เพื่อใหภ้ ารกิจของสานักงาน ป.ป.ช. บรรลผุ ลสัมฤทธิ์ อาทิ สานักส่ือสารองค์กร ท่ีมีภารกิจในการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจ ทถ่ี ูกต้องเกี่ยวกับภัยของการทุจริต และสง่ เสริมใหป้ ระชาชนประสงคจ์ ะเข้ามามีสว่ นร่วมในการรณรงคต์ ่อต้านการทุจริต สานักสืบสวนและกิจการพิเศษ ท่ีมีภารกจิ ดาเนินการเก่ียวกับการสืบสวนในกรณที ่ีมเี หตุอันควรสงสยั ตามอานาจหนา้ ท่ี ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสานักงาน ป.ป.ช. รวมตลอดถึงสานักวิจัยและบริการวิชาการด้านป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ซ่ึงมีภารกิจพัฒนาผลงานทางวิชาการเพ่ือนาไปสู่การพัฒนากระบวนการทางาน ทั้งในด้านการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน จึงเห็นได้ว่าสิ่งท่ีสาคัญคือ งานของสานักงาน ป.ป.ช. ภายใต้โครงสร้างภารกิจใหม่มีความเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ สอดประสาน การทางานภายใตแ้ ผนงาน/โครงการทีถ่ ูกออกแบบไว้ การเชื่อมโยงภารกิจงานในรปู แบบดังกลา่ วของสานักงาน ป.ป.ช. จึงเป็นท่ีมาของแนวทางสาคัญในการใช้ ประโยชน์จากฐานข้อมูลที่สานักงาน ป.ป.ช. มีอยู่ อาทิ สถิติคดี การแจ้งเบาะแสของภาคประชาชน ประเด็น ความเสี่ยงจากแผนทพี่ ้ืนทีเ่ สีย่ งต่อการทจุ ริต และผลการประเมิน ITA ของหน่วยงานภาครัฐ มาวิเคราะห์เพ่อื ประเมิน สถานการณ์การทุจริตในแต่ละพ้ืนท่ี จาแนกประเด็นการทุจริต ระดับความรุนแรง ห้วงระยะเวลา ตลอดจน หนว่ ยงานหรอื กลมุ่ บุคคลที่เกยี่ วข้อง เพื่อนาไปสู่การแกไ้ ขปญั หาในแต่ละประเด็นได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ดังนั้น สานักงาน ป.ป.ช. จึงเห็นควรดาเนินโครงการในลักษณะบูรณาการสานักต่าง ๆ ที่มีภารกิจ เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงต่อเน่ืองกันเพ่ือบรรลุผลสัมฤทธ์ิในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ภายใต้ “โครงการต้าน และลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (STRONG: Together against Corruption-TaC)” ซึ่งจะดาเนินการต่อเนื่องระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐ โดยมีกระบวนการ ที่สาคัญ ประกอบด้วยการร่วมกันคัดเลือกประเด็นปัญหาผ่านการวิเคราะห์และสังเคราะห์จากฐานข้อมูลทั้งหมด ของสานักงาน ป.ป.ช. เพ่ือกาหนดประเด็นและพื้นที่ท่ีจะดาเนินโครงการ จากน้ันจึงนาไปสู่การพัฒนาแนวทาง ในการแก้ไขปัญหาตามภารกิจของสานักต่าง ๆ อาทิ การนาประเด็นการทุจริตหรือประเด็นความเสี่ยงมาจัดทา เป็นหลักสูตรองค์ความรู้ หรือชุดข้อมูลท่ีจาเป็นเพ่ือสนับสนุนการป้องกันการทุจริต และลดการกระทาความผิด ตามบทบัญญัติว่าด้วยการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมและผลประโยชน์ส่วนตัว การดาเนินการร่วมกับ
หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องท้ังภายในและภายนอกสานักงาน ป.ป.ช. เพ่ือกาหนดมาตรการหรือแนวทางในการป้องกัน การทุจริตที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐที่เก่ียวข้องกับประเด็นปัญหานั้น ๆ ด้วย การให้คาปรึกษา แนะนาตามแนวทาง การยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใส ตลอดจนการนาผลการดาเนินงาน ไป ข ยายผ ล สู่ ก า ร พั ฒ น า เป็ น ผ ล ง า น ท า งวิ ช า ก า ร เพ่ื อ ก า ร พั ฒ น า ก ร ะ บ ว น ก า ร ทั้ ง ด้ า น ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ การปราบปรามการทจุ รติ ทง้ั นี้ ในทุกข้ันตอนของการดาเนินโครงการจะใช้กระบวนการมีสว่ นร่วมของทุกภาคสว่ นและกระบวนการ สื่อสารประชาสัมพันธ์เพ่ือสร้างการรับรู้ การยอมรับ และร่วมกันขับเคลื่อนผลักดันการแก้ไขปัญหาในทุกประเด็น ให้ประสบผลสาเร็จตามเป้าหมาย โดยการทางานภายใต้โครงการน้ีจะมุ่งเน้นที่ความเช่ือมโยงระหว่างงาน ของสานักงาน ป.ป.ช. ในส่วนกลางกับงานในส่วนภูมิภาค ได้แก่ สานักงาน ป.ป.ช.ภาค และสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด ซ่งึ จะต้องสนบั สนนุ การดาเนินโครงการในทุกขน้ั ตอนในฐานะผู้รับผิดชอบในระดับพ้ืนที่ รวมท้ังงาน เครือข่ายการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนจากชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ดังน้ัน โครงการต้านและ ลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพ้ืนท่ีเสี่ยงต่อการทุจริต (STRONG: Together against Corruption-TaC) จึงเป็นโครงการท่ีตอบโจทย์การบูรณาการท้ังภายในและภายนอกสานักงาน ป.ป.ช. เพ่ือนาไปสู่ความสาเร็จ ตามแผนแม่บทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ (๒๑) ประเด็นการต่อต้านการทจุ ริตและประพฤตมิ ชิ อบ ทีก่ าหนดเป้าหมาย ไว้ทั้งในด้านการดาเนินการเพ่ือให้ประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต และให้มีจานวนคดีทุจริต และประพฤติมชิ อบลดลง แผนผังการทางานโครงการฯ วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อสร้างให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาการทุจรติ ในระดบั พ้ืนท่ี ๒. เพื่อนาประเด็นการทุจริตหรือประเด็นความเส่ียงมาจัดทาเป็นหลักสูตร องค์ความรู้ หรือชุดข้อมูล ทจี่ าเปน็ เพอื่ สนบั สนุนการปอ้ งกันการทุจริต 3. เพื่อนาข้อมูลสู่การกาหนดมาตรการหรือแนวทางในการป้องกันการทุจริต รวมทั้งแนวทาง การติดตามการผลกั ดนั มาตรการสูก่ ารปฏิบัติที่มปี ระสทิ ธิภาพ
๔. เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ การป้องกัน และลดการกระทาความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทเ่ี ป็นการขดั กนั ระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมและผลประโยชน์ส่วนตัว 5. เพ่ือนาผลการดาเนินงานไปขยายผลสู่การพัฒนาเป็นผลงานทางวิชาการเพื่อการพัฒนา กระบวนการทง้ั ดา้ นการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตในประเด็นตา่ ง ๆ 6. เพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจท่ีถูกต้องเกี่ยวกับ ภัยของการทุจริต และสง่ เสริมใหป้ ระชาชนประสงคจ์ ะเข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์ตอ่ ต้านการทจุ รติ
ขอ้ มลู การลงพ้ืนทร่ี ะหวา่ งวนั ท่ี 20 – 21 ธนั วาคม 2564 ประเด็นความเสีย่ งการทจุ ริตดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ (การลกั ลอบดูดทราย/สง่ิ ลว่ งล้าลานา้ ) พน้ื ท่ีภาค 5 จังหวดั เชยี งใหม่ วนั ท่ี 20 ธนั วาคม 2564 จดุ ลงพ้ืนท/ี่ ประเดน็ ปญั หา/ความเส่ียง หมายเหตุ สงั เกตการณ์ ปัญหาและความเส่ียงต่อการทจุ ริตเก่ียวกับ “การลกั ลอบ อยู่ระหว่างเสนอ จุดที่ 1 ดูดทรายและการใชพ้ ้นื ที่สาธารณะลุ่มแมน่ ้าปิงตอนบน” คณะกรรมการ พน้ื ที่อาเภอ จอมทอง ป.ป.ช. พิจารณา จงั หวดั เชยี งใหม่ จดุ ที่ 1 และ จดุ ท่ี 2 1. ผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ ม เชน่ ตล่ิงพงั พื้นท่ีอาเภอฮอด 2. การดูดทรายเกนิ กว่าที่ได้รบั อนุญาต จงั หวัดเชียงใหม่ 3. ความเสี่ยงในการเรียกรับสินบนในการดาเนิน การดูดทราย จุดท่ี 2 ผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ ม เช่น ทางเดนิ นา้ เปลยี่ นทศิ มาตรการ/ขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. - (ร่าง) มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการขุดดิน และถมดนิ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ข้อเสนอแนะ 1. การแก้ไขปญั หาการขออนุญาตขุดดินลูกรังในท่ีเขา หรือภูเขาและพื้นท่ีนอกเขตเขาและปริมณฑลรอบเขา 40 เมตร การแก้ไขปัญหาการอนุญาตในการดูดทราย และการขุดลอก คลองเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยหรือภัยแล้งสาหรับแม่น้าภายใน เขตจังหวัด ให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องทาความตกลงและจัดทา คู่มือในการแก้ไขปัญหาการขออนุญาตขุดดินลูกรังในท่ีเขาหรือ ภูเขาและพื้นที่นอกเขตเขาและปริมณฑลรอบเขา 40 เมตร การแก้ไขปัญหาการอนุญาตดูดทรายและการขุดลอกคลองเพ่ือ แก้ไขปญั หาอุทกภยั หรอื ภัยแล้งสาหรับแม่นา้ ภายในเขตจงั หวัด 2. ปัญ หาในภาพ รวมท่ีมีความเก่ียวข้องกับหลาย หน่วยงาน การลักลอบขุดดิน การออกใบอนุญาตประกอบ กิจการขุดดินในพ้ืนท่ีป่าสงวนแห่งชาติ การขุดดิน ขณะที่ ใบอนุญาตหมดอายุ การขุดดินผิดไปจากแบบแปลนตามหลัก วิชาการ การขุดดินเกินกว่าที่ขออนุญาต การขุดดินในที่ดิน กรรมสิทธ์ิหรือท่ีดินเอกชน การขุดดินที่กระทบถึงความ ปลอดภยั การบรรทุกดินเกินอัตราทก่ี ฎหมายกาหนด ทาให้ถนน
จุดลงพน้ื ท/ี่ ประเด็นปญั หา/ความเสี่ยง หมายเหตุ สงั เกตการณ์ เกิดความชารุดเสียหาย ซ่ึงกระทบต่องบประมาณของภาครัฐ จานวนมากในการซ่อมบารุงเส้นทาง การแก้ไขปัญหาในข้อน้ี เจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบต้องกาหนดมาตรการในการเฝ้าระวัง เป็นรายกรณี วันที่ 21 ธันวาคม 2564 จุดลงพ้ืนท/ี่ ประเด็นปัญหา/ความเสี่ยง หมายเหตุ สงั เกตการณ์ ปญั หาความเส่ยี งต่อการทจุ ริตเกย่ี วกบั “สง่ิ ล่วงลา้ ลาน้า มาตรการ/ จุดที่ 3 พน้ื ท่ี อาเภอแม่รมิ การประกอบธรุ กิจของภาคเอกชนสุ่มเสยี่ งล่วงลา้ ลาน้า” ขอ้ เสนอแนะของ จงั หวัดเชยี งใหม่ คณะกรรมการ มาตรการ/ขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ป.ป.ช. คือ - มาตรการปอ้ งกนั การทจุ รติ เกย่ี วกับสงิ่ ล่วงลา้ ลาน้า มาตรการหรอื 1. มาตรการเก่ยี วกบั สิ่งล่วงล้าลาน้า ความเหน็ เพื่อ 1.1 รัฐบาลควรมีการเจราจาทาความตกลงในระดับ ป้องกนั การทจุ รติ รัฐบาลกับเพ่ือนบ้านที่มีแม่น้าเป็นพรมแดนระหว่างประเทศ ทค่ี ณะกรรมการ เพ่ือมิให้มีการดูดทราย หรือก่อสร้างสิ่งล่วงล้าลาน้าในพื้นที่ท่ีมี ป.ป.ช. เหน็ ชอบ ผลกระทบหรือการพังทลายของตล่ิงในฝั่งตรงข้าม และควร ให้เสนอ พิจารณามอบหมาย ตลอดจนสนับสนุนงบประมาณให้ คณะรัฐมนตรี หน่วยงานท่ีรับผิดชอบในการก่อสร้างผนังป้องกันการ ตามมาตรา 32 พังทลายของตลิ่ง ในพ้ืนที่ที่มีความเสี่ยงสูงโดยด่วน รวมทั้ง ส่งเสรมิ และสนับสนนุ หน่วยงานทีร่ ับผดิ ชอบและประชาชนท่ี มีกรรมสิทธ์ิในที่ดินที่อยู่ติดริมตลิ่งของแม่น้า หาแนวหรือ วธิ ีการทไ่ี ดผ้ ลดแี ละลงมือปฏิบตั ิโดยด่วนตอ่ ไป 1.2 ในการพิจารณาอนุญาตให้มีการดูดทรายในลาน้า สมควรให้หน่วยงานท่ีรับผิดชอบได้ศึกษาผลกระทบต่อ ส่งิ แวดล้อมในพ้ืนท่ีของตน และจัดทารายงานสรุปผลกระทบ ท่ีอาจเกิดข้ึนจากการประกอบกิจการดูดทรายในแหล่งน้ันๆ โดยให้เสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม แ ล้ ว จั ด ท า เป็ น ร า ย ง า น ม า ต ร ฐ า น เพื่ อ เป็ น แ น ว ท างให้ กั บ คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตดูดทรายส่วนกลาง (กพด.) หรือคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตดูดทราย (อพด.) ได้ศึกษาประกอบการพิจารณาอนุญาต รวมทั้งต้องให้มีการรับ ฟังความเห็นของราษฎรหรือประชาชนในพื้นท่ีน้ันด้วยว่า การดูดทรายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินและชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างไร หรือไม่ หรือสมควรที่จะ
จดุ ลงพ้ืนท/ี่ ประเดน็ ปัญหา/ความเสี่ยง หมายเหตุ สงั เกตการณ์ อนุญาตให้มกี ารดดู ทรายในพ้ืนท่ีหรอื ไม่ และสาหรบั ในขั้นตอน ควบคุมการดูดทรายให้เป็นไปตามเงื่อนไขท่ีกาหนด สมควร กาหนดมาตรการเพิ่มเติมเพ่ือให้เป็นไปตามระเบียบหรือ เง่ือนไขอย่างเคร่งครัด โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและ ประชาชนในพื้นท่ีเขา้ มามสี ่วนร่วมในการควบคุมด้วย และต้อง ก า ห น ด ม า ต ร ก า ร ใน ก า ร ฟื้ น ฟู ส่ิ งแ ว ด ล้ อ ม ห ลั งห ม ด อ า ยุ ใบอนุญาต 2. ขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกบั การบริหารจดั การลาน้าท้ังระบบ 2.1 กาหนดให้การพัฒนาแหลง่ น้าหรือลาน้าเป็นวาระ แห่งชาติ การบารุงรักษาและพัฒนา 25 ลุ่มน้าสาคัญของ ประเทศ และแหล่งน้าสาคัญของชาติต้องกาหนดนโยบาย อย่างชัดเจนว่าจะดาเนินการอย่างไร โดยกาหนดให้มี หน่วยงานราชการที่เป็นเจ้าภาพหลักในการทางาน และให้ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการท้ังในระดับชาติและระดับภูมิภาค ท่ีประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทุกหน่วยงาน ซึ่งในเบื้องต้นควรส่ังให้มีการสารวจการบุกรุก การล่วงล้าลาน้า และการทาลายพื้นท่ี ชุ่มน้า พ้ืนที่ลุ่มและ พื้นท่ีทางระบายน้าหลากเพื่อให้ทราบสภาพข้อมูลท่ีเป็น ปัจจุบันของพื้นที่ท่ัวประเทศและมีการวางแผนการแก้ไข ปญั หาอย่างเปน็ รปู ธรรม ทั้งน้ี การดาเนนิ งานต้องยึดหลกั การ มสี ่วนร่วมของประชาชนในทอ้ งถ่นิ
(รา่ ง) มาตรการปอ้ งกันการทุจริตเกยี่ วกบั การขดุ ดนิ และถมดนิ โดยมชิ อบด้วยกฎหมาย ที่มาและความสาคัญของปัญหา ตามท่ีปรากฏข่าวเก่ียวกับการขุดดนิ โดยมิชอบด้วยกฎหมายหลายกรณี อาทิ การลักลอบขุดหน้าดนิ ขาย ในพื้นที่ ส.ป.ก. จังหวัดนครราชสีมา เน้ือท่ีกว่า 300 ไร่ มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อเน่ืองนานกว่า 10 ปี ไมต่ ่ากวา่ 1,200 ล้านบาท การออกใบอนญุ าตประกอบกจิ การขุดดินลุกลา้ เขา้ ไปในพ้ืนทปี่ า่ สงวนแห่งชาติ จงั หวัด นครศรีธรรมราช และข่าวในอีกหลายจังหวัดท่ัวประเทศพบว่า มีการลักลอบขุดหน้าดินโดยไม่ได้แจ้งขออนุญาต อย่างถูกต้องหรือใบอนุญาตหมดอายุ ซึ่งกระทบต่อรายได้จากค่าธรรมเนียมที่รัฐควรได้ มีการขุดดินผิดไปจาก แบบแปลนตามหลักวิชาการเกินกว่าท่ีขออนุญาตหรือจานวนแรงม้าของเคร่ืองยนต์ไม่ได้เป็นไปตามขนาดที่ขอ อนุญาตส่งผลทาให้พ้ืนท่ีที่ดินบริเวณข้างเคียงเกิดการทรุดตัวและพังทลายได้รับความเสียหายและมีการบรรทุกดิน น้าหนักเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกาหนดทาให้ถนนหนทางชารุดเสียหายซ่ึงกระทบต่องบประมาณของภาครัฐจานวน มากในการซ่อมบารุง รวมถึง การรับสินบนของเจ้าหน้าท่ีของรัฐผู้พิจารณาการให้ใบอนุญาตขุดดินและเจ้าหน้าที่ ของรัฐผเู้ ข้าไปตรวจสอบควบคมุ การประกอบกิจการขุดดนิ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกาหนด ประกอบกับสานักงาน ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหาร้องเรียนในประเด็นเร่ืองการใช้อานาจหน้าท่ีในการ ออกใบอนุญาตสาหรับ ขุด ตัก ลอก หรือดูดทรายหรือดินท่ีมีความซ้าซ้อนกันถึง ๓ หน่วยงาน ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มีมติในการประชุมคร้ังที่ 62/2562 เมื่อวันท่ี 10 มิถุนายน 2562 ให้คณะอนุกรรมการ ศึกษา เพื่อป้องกันการใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ ดาเนินการจัดทามาตรการป้องกันการทุจริตเก่ียวกับ การขุดดนิ โดยมิชอบดว้ ยกฎหมาย สรุปสภาพปัญหา ประเด็น รายละเอียดของปัญหา ปัญหา ๑. ปัญหา ๑. การดาเนินการอนุญาตดูดทรายเกี่ยวข้องกับกฎหมายของหน่วยราชการอ่ืน ซึ่งมีระเบียบวิธี “กฎหมาย ปฏิบัติตามที่กฎหมายของหน่วยราชการน้ันกาหนด บางหน่วยงานยังไม่มีความชัดเจนจึงเป็นปัญหา กฎระเบียบ อปุ สรรคต่อการปฏิบัตงิ าน เชน่ ปัญหาการตีความ “ทราย” เป็น “แร่” ตามพระราชบญั ญตั แิ ร่ พ.ศ. และแนวทาง 2560 ซึ่งพระราชบัญญัติฯ ได้ประกาศบังคับใช้แล้ว โดยท่ีมาตรา 4 กาหนด “แร่” หมายความว่า ปฏบิ ัติ ดินหรือทรายตามที่กฎกระทรวงกาหนดเป็นดินหรือทรายอุตสาหกรรม ซ่ึงปัจจุบันกระทรวง ขดั แย้งกนั ” อุตสาหกรรมยังมิได้ประกาศกฎกระทรวงใช้บังคับ ตามนัยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแร่ แต่อย่าง ใดน้ัน จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าทรายยังอยู่ในอานาจการอนุญ าตของกรมที่ดินและ กระทรวงมหาดไทยหรือไม่ ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป แต่ในระหว่างน้ี การดูดทรายยังคงต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการอนุญาตให้ดูดทราย พ.ศ. 2546 และเง่อื นไขทา้ ยใบอนญุ าต ๒. การใช้อานาจหน้าที่ในการออกใบอนุญาตสาหรับ ขุด ตัก ลอก หรือดูดทรายหรือดิน ซ้าซ้อน หลายหน่วยงาน ประเด็นอานาจหน้าท่ีท่ีแท้จริงของการออกใบอนุญาตดังกล่าวว่าสมควรเป็น หน่วยงานใด การพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการขุดดินและการกากับดูแล ควบคุม ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายท่ีเกี่ยวกับการดาเนินการขุดดิน มีหลายหน่วยงานท่ีเข้ามา เกี่ยวข้อง อาทิกรมโรงงานอุตสาหกรรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมโยธาธิการและผังเมือง จังหวัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงหน่วยงานรัฐท่ีกฎหมายมอบอานาจให้ รับผิดชอบพ้ืนท่ีเฉพาะ เช่น กรมป่าไม้ สานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นต้น ซ่ึงแต่ละ
ประเด็น รายละเอยี ดของปัญหา ปญั หา หนว่ ยงานตา่ งมีกฎระเบียบของหน่วยงานตนเองและดาเนินการเฉพาะสว่ นของตนเอง ทาให้มกี ฎ ระเบียบท่ีเกี่ยวข้องกับการขุดดินหลายฉบับหน่วยงานท่ีรับผิดชอบหลายหน่วยงานรวมถึงการกากับ ติดตามการใหอ้ นุญาตขดุ ดินมคี วามแตกตา่ งกนั ไป ๓. การพิจารณาการออกใบอนุญาตขุดดินมีความเก่ียวข้องกับหลายหน่วยงานและกฎระเบียบ หลายฉบับ ทาให้ต้องใช้ใบอนุญาตหลายฉบับและมีกระบวนการขอใบอนุญาตท่ียุ่งยากและใช้ระยะ เวลานานเป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการ จึงทาให้เกิดการหลบเลี่ยงการขออนุญาตอย่างถูกต้องตาม กฎหมาย จนอาจเป็นชอ่ งว่างให้เจ้าหน้าท่ีของรฐั เกิดการแสวงหาผลประโยชน์เพ่ืออานวยความสะดวก และเร่งรัดการออกใบอนุญาต รวมถึงการแสวงหาประโยชน์ในการกากับดูแล ควบคุมตรวจสอบ การดาเนินการขดุ ดนิ ในภายหลงั ๒. ปญั หา เรื่องดังกล่าวมักพบวา่ จังหวัดยังดาเนินการไม่ถูกตอ้ ง ครบถว้ นตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย “การขอ วา่ ด้วยหลกั เกณฑ์และวิธกี ารเกยี่ วกับการอนญุ าตตามมาตรา 9 แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน อนญุ าตขดุ พ.ศ. 2543 ไดแ้ ก่ ดนิ ลกู รังในที่ ๑. หน่วยงานท่ีมีอานาจหน้าที่ดูแลรักษาตามกฎหมาย เช่น อาเภอท้องท่ี องค์กรปกครองส่วน เขาหรือภเู ขา ท้องถิ่นสอบสวนประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจนและไม่เป็นที่ยุติว่า ปัจจุบันประชาชนได้เลิกใช้ และพนื้ ที่ ประโยชนห์ รือยงั คงใชป้ ระโยชนร์ ว่ มกนั อยู่ นอกเขตเขา ๒. การเลิกใช้เป็นการเลิกใช้โดยส้ินสภาพตามธรรมชาตหิ รือเปน็ การเลกิ ใชเ้ พราะถูกขัดขวางการใช้ และ ประโยชน์ ปรมิ ณฑล ๓. ความเห็นของประชาชนในพ้ืนท่ีและหรือความเห็นของสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินไม่ รอบเขา 40 ชดั เจนว่าขัดขอ้ งหรอื เหน็ ชอบการขออนญุ าตฯ เมตร” ๔. หน่วยงานราชการส่วนท้องถนิ่ บางท้องที่ยงั มีความเข้าใจคลาดเคลอื่ นในอานาจหน้าท่ีพจิ ารณา อนุญาต เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินบางพ้ืนที่อนุญาตให้เอกชนหรือหน่วยงานราชการเข้าใช้ ประโยชนใ์ นท่ีดินสาธารณประโยชน์โดยไม่ไดย้ ื่นขออนญุ าตต่อผวู้ ่าราชการจงั หวัดกอ่ น ๕. การดาเนินการอนุญาตขุดดินลูกรังในที่รกร้างว่างเปล่า ภายใต้มาตรา 8 แห่งประมวลกฎหมาย ที่ดิน กาหนดให้อธิบดีกรมที่ดินเป็นผู้ดูแลเว้นแต่รัฐมนตรีจะมอบหมายทบวงการเมืองอ่ืนเป็นผู้ดูแล ปัจจุบันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กรุงเทพมหานคร จังหวัด เมืองพัทยา เทศบาล องค์การบริหารส่วนตาบล เป็นผู้ดูแลรักษา ซง่ึ บริเวณทไ่ี ม่มีบุคคลใดมีสิทธิครอบครองเฉพาะ บริเวณท่ีเป็นที่หิน ท่ีกรวด หรือท่ีทราย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศหวงห้ามไว้ แต่ไม่รวมถึงที่รกร้างว่างเปล่าท่ีบุคคลอาจถือสิทธิครอบครองได้ตามประมวลกฎหมายท่ีดิน ซ่ึงที่เขา หรือภูเขาหากรัฐไม่ได้สงวนไว้หรือจัดให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันย่อมเป็นท่ีรกร้างว่างเปล่าที่ บุคคลอาจถือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินและประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้ จึงขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงเป็นกรณีว่าสถานะท่ีดินนั้นเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งผู้ว่าราชการ จังหวัดมีอานาจอนญุ าตหรือเป็นท่ดี ินที่ประชาชนอาจถอื สิทธคิ รอบครอง ๓. ปัญหา การขออนุญาตดูดทราย ส่วนใหญ่เป็นการดาเนินการของเอกชนยื่นความประสงค์ขออนุญาตฯ “การ โดยจังหวัดส่งเรื่องราวการขออนุญาตดูดทราย กรณีแม่น้าระหว่างประเทศให้กรมท่ีดินเสนอ อนุญาตใน คณะกรรมการพจิ ารณาอนญุ าตให้ดูดทราย (กพด.) พิจารณา การดูดทราย สาหรับแม่น้าภายในเขตจังหวัดเป็นอานาจการพิจารณาขออนุญาตดูดทรายของผู้ว่าราชการ
ประเดน็ รายละเอยี ดของปัญหา ปัญหา จังหวัดซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ีตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยเร่ืองดังกล่าว และการขดุ มักพบว่า ลอกคลอง เพอ่ื แก้ไข ๑. จังหวดั ยงั ดาเนนิ การไมถ่ กู ต้อง ครบถ้วนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯ ได้แก่ ความเหน็ ปญั หา ของประชาชนในพ้ืนที่และหรือความเห็นของสภาองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ ไมช่ ดั เจนว่าขดั ข้องหรอื อทุ กภยั หรอื เหน็ ชอบการขออนุญาตฯ ภยั แลง้ ” ๒. การขุดลอกคลองในความรับผิดชอบของอาเภอร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พบว่า ในบางพื้นที่มีความเข้าใจว่าเป็นอานาจการพิจารณาของหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น เช่น องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน ๔. ปัญหา 1. เจ้าหน้าที่มคี วามเกรงกลัวหรือเรยี กรับผลประโยชน์จากผปู้ ระกอบการหรอื ผมู้ ีส่วนเกยี่ วข้อง “การกากบั กับธุรกิจบ่อดินลูกรัง ซ่ึงมักเป็นผู้มีอิทธิพลในพ้ืนท่ี เช่น นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง ดังนั้น ดแู ลการ ผู้ปฏิบัติงานจึงหลีกเล่ียงการเข้าไปตรวจสอบ ไม่กล้าบังคับใช้กฎหมายหรือบังคับใช้กฎหมายไปในทางที่ ดาเนนิ การ เอ้ือประโยชน์แก่ผู้กระทาผิด การตรวจสอบแต่ละคร้ังต้องมีการสนธิกาลังเพื่อเข้าตรวจสอบจากหลาย ขดุ ดนิ และ หน่วยงาน อาทิ กองทัพ ตารวจท้องท่ี องค์การปกครองส่วนท้องถ่ิน กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรม การบงั คบั ใช้ ท่ีดิน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม เพอื่ ความปลอดภยั ของเจา้ หน้าทผ่ี ู้ปฏบิ ตั งิ าน กฎหมายยัง 2. การขาดแคลนบุคลากรท่ีมีองค์ความรู้ เทคโนโลยี และงบประมาณ สาหรับใช้ในการ ไม่สามารถ ตรวจสอบการขุดดินให้ท่ัวถึง สม่าเสมอว่าการดาเนินการขุดดินตรงตามเง่ือนไขหรือแบบแปลนท่ียื่น ดาเนนิ การได้ ขออนญุ าตหรือไม่ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ อยา่ ง 3. หน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งไม่มีระบบการตรวจสอบและกากับดูแลการขุดดินให้เป็นไปตามการขอ เคร่งครดั อนุญาต บางหน่วยงานไม่มีการกาหนดขั้นตอนการตรวจสอบและกระบวนการปฏิบัติ เมื่อเกิดการ หรือมี ร้องเรียนร้องทุกข์ขึ้น บางหน่วยงานกาหนดไว้อย่างกว้าง ๆ ว่าเจ้าหน้าที่มีอานาจเข้าไปตรวจสอบ ประสิทธภิ าพ การดาเนินการได้ในระหว่างเวลาพระอาทติ ยข์ ึ้นถึงพระอาทติ ยต์ กหรือในระหวา่ งเวลาทาการเทา่ น้นั ในการ ตรวจสอบ ควบคมุ ดูแล ตามภารกิจ และอานาจ หน้าท”ี่ 5. ปัญหา ๑. การลักลอบขุดดนิ “ในภาพรวม ๑) การลกั ลอบขุดหนา้ ดินขาย ในพ้ืนท่ี ส.ป.ก. ท่ีเกย่ี วขอ้ ง ๒) การลักลอบขดุ หนา้ ดนิ โดยไมไ่ ดแ้ จง้ ขออนุญาตอยา่ งถูกต้อง กับหลาย หนว่ ยงาน” ๒. การออกใบอนุญาต ๑) การออกใบอนุญาตประกอบกิจการขุดดนิ ในพืน้ ท่ปี า่ สงวนแหง่ ชาติ ๒) การขดุ ดินขณะท่ใี บอนุญาตหมดอายุ ๓. การขดุ ดินผดิ ไปจากแบบแปลนตามหลักวชิ าการ ๔. การขุดดนิ เกนิ กวา่ ทขี่ ออนญุ าต ๕. การขุดดินในท่ีดินกรรมสิทธิ์หรือทีด่ ินเอกชน
ประเด็น รายละเอยี ดของปญั หา ปญั หา ๖. การขุดดินที่กระทบถงึ ความปลอดภัย ๗. การบรรทุกดินเกินอัตราที่กฎหมายกาหนดทาให้ถนนเกิดความชารุดเสียหายซ่ึงกระทบ ตอ่ งบประมาณของภาครฐั จานวนมากในการซ่อมบารงุ เส้นทาง ข้อเสนอแนะ สานักงาน ป.ป.ช. ได้มีบันทึกท่ี 11/สมน./0346 ลงวันที่ 2 เมษายน 2564 เสนอร่างมาตรการฯ ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีข้อเสนอแนะ ดงั นี้ ๑. การแก้ไขประเด็นปญั หาด้านกฎหมาย กฎระเบยี บและแนวทางปฏบิ ตั ิทขี่ ัดแยง้ กนั 1.1 ควรปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขุดดินและถมดิน เพ่ือให้การควบคุม ดูแล การขุดดินและถมดินมีประสิทธิภาพ และสามารถป้องกันการทุจริตได้มากย่ิงข้ึน โดยในกฎหมายดังกล่าว ให้กาหนดถึงแนวทางในการขนยา้ ยดินหลังจากทมี่ ีการขุดดินและถมดินด้วย 1.2 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอนุมัติ อนุญาตในการขุดดินและถมดิน ทาความตกลง เพ่ือลดข้ันตอนในการขออนุมัติ อนุญาต ซ่ึงจะทาให้กระบวนการอนุมัติ อนุญาต มีความโปร่งใสมากข้ึน เช่น ร่วมกันพิจารณาออกกฎระเบียบการใช้หน้าท่ีและอานาจ ในการออกใบอนุญาตเป็นกฎระเบียบ ร่วม พร้อมทง้ั ให้นาวธิ ีการทางอิเลก็ ทรอนิกสม์ าใช้การอนุมัติ อนุญาต การออกใบอนุญาต ใบแทนใบอนญุ าต 1.3 ควรร่วมกันจัดทาแผนที่แสดงเขตพ้ืนท่ีที่สามารถขออนุญาตขุดดินและถมดินได้โดยใช้ระบบ สารสนเทศภูมิศาสตร์ GIS เพอื่ ป้องกันมใิ หเ้ กดิ การใหใ้ บอนญุ าตในพื้นทีห่ า้ มขุดดิน 1.4 ควรมีการวิเคราะห์ ว่าในแต่ละสภาพพ้ืนท่ีสามารถขุดดินและถมดินได้หรือไม่ รวมถึง ผลกระทบจากการขดุ ดนิ และถมดิน และแนวทางในการฟนื้ ฟสู ภาพดินและสิง่ แวดล้อม ๒. การแก้ไขปญั หาการขออนุญาตขดุ ดนิ ลกู รงั ในท่ีเขาหรือภูเขาและพื้นทน่ี อกเขตเขาและปริมณฑลรอบ เขา 40 เมตร การแก้ไขปัญหาการอนุญาตในการดูดทราย และการขุดลอกคลองเพ่ือแก้ไขปัญหาอุทกภัยหรือภัย แล้งสาหรับแม่น้าภายในเขตจังหวัด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทาความตกลงและจัดทาคู่มือในการแก้ไขปัญหา การขออนุญาตขุดดินลูกรังในที่เขาหรือภูเขาและพื้นท่ีนอกเขตเขาและปริมณฑลรอบเขา 40 เมตร การแก้ไข ปัญหาการอนุญาตดูดทราย และการขุดลอกคลองเพ่ือแก้ไขปัญหาอุทกภัยหรือภัยแล้งสาหรับแม่น้าภายในเขต จงั หวดั 3. การแก้ไขปัญหาการกากับดูแลการดาเนินการขุดดินและถมดิน และการบังคับใช้กฎหมาย ยังไม่สามารถดาเนินการได้อย่างเคร่งครัดหรือมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม ดูแล ตามภารกิจ หน้าท่ี และอานาจ 3.๑ ต้องมีมาตรการหรือแนวทางในการคุ้มครองเจ้าหน้าท่ีของรัฐท่ีดาเนินการอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย และมีการลงโทษอย่างจริงจังสาหรับผู้ใช้อิทธิพลและอานาจ รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่เจตนาแสวงหา ประโยชน์โดยมิชอบในการออกเอกสารสิทธิในท่ีดิน และควรมีการสร้างระบบของการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่กระทาถูกต้องตามกฎหมาย และมีระบบป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีร่วมกระทาการทุจริตเกิดความเกรงกลัว ทจ่ี ะกระทาความผิด 3.๒ ต้องอบรมเจ้าหน้าท่ีให้มีความรู้อย่างเพียงพอ มีการกาหนดระบบการตรวจสอบ ท่มี ปี ระสทิ ธิภาพ 3.3 ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กาหนดมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับ การขุดดินและถมดิน
4. ปัญหาการขาดความโปร่งใสในการตรวจสอบและการมีสว่ นรว่ มของประชาชน ให้หน่วยงานทม่ี ีทดี่ ิน อยู่ในความดูแลของตนเอง สร้างกลไกในการเฝ้าระวังเก่ียวกับการขุดดินและถมดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชน ต้องสร้างระบบการแจ้งเบาะแสโดยไม่เปิดเผยช่ือผู้แจ้งข้อมูล โดยจัดให้มี ช่องทางที่เหมาะสม ซ่ึงอาจใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือเครือข่ายส่งคมออนไลน์และ รายงานผล การดาเนินการภายหลังได้รับการแจ้งเบาะแสให้ประชาชนผู้แจ้งเบาะแสรับทราบด้วย และต้องมีกลไก ในการคมุ้ ครองประชาชนผู้แจง้ เบาะแสดว้ ยเชน่ กนั 5. ปัญหาในภาพรวมท่ีมีความเก่ียวข้องกับหลายหน่วยงาน การลักลอบขุดดิน การออกใบอนุญาต ประกอบกิจการขุดดินในพ้ืนท่ีป่าสงวนแห่งชาติ การขุดดินขณะท่ีใบอนุญาตหมดอายุ การขุดดินผิดไปจากแบบ แปลนตามหลักวิชาการ การขุดดินเกินกว่าท่ีขออนุญาต การขุดดินในท่ีดินกรรมสิทธ์ิหรือที่ดินเอกชน การขุดดิน ที่กระทบถึงความปลอดภัย การบรรทุกดินเกินอัตราท่ีกฎหมายกาหนดทาให้ถนนเกิดความชารุดเสียหาย ซ่ึงกระทบต่องบประมาณของภาครัฐจานวนมากในการซ่อมบารุงเส้นทาง การแก้ไขปัญหาในข้อนี้เจ้าหน้าที่ ผูร้ บั ผิดชอบตอ้ งกาหนดมาตรการในการเฝ้าระวงั เป็นรายกรณี การผลกั ดนั มาตรการด้านการปอ้ งกนั การทจุ ริตด้านทรัพยากรธรรมชาตไิ ปส่กู ารปฏบิ ตั ิ - การจัดประชมุ ร่วมกบั หนว่ ยงานทเี่ ก่ียวขอ้ ง เพ่ือจัดทำขอ้ ตกลงทำควำมตกลงเพ่ือลดข้ันตอนในกำรขออนุมัติ อนุญำตเก่ียวกบั กำรขุดดินและถมดนิ - หน่วยงานที่เก่ียวข้องร่วมกันจัดทาแผนท่ีแสดงเขตพื้นที่ที่สำมำรถขออนุญำตขุดดินและถมดินได้ โดยใช้ ระบบสำรสนเทศภูมิศำสตร์ GIS เพอื่ ปอ้ งกนั มิใหเ้ กิดกำรให้ใบอนญุ ำตในพื้นที่ห้ำมขดุ ดนิ การเสนอมาตรการและขอ้ เสนอแนะในระยะตอ่ ไป กำรจัดทำมำตรกำรเพอ่ื ปอ้ งกันกำรทุจรติ เก่ยี วกับกำรอนุญำตดดู ทรำย ดาวน์โหลดขอ้ มลู ไดท้ ่ี QR Code นี้ - (ร่าง) มาตรการป้องกันการทุจริตเก่ียวกับ การขุดดินและถมดนิ โดยมชิ อบด้วยกฎหมาย
มาตรการปอ้ งกันการทุจรติ เกีย่ วกบั สงิ่ ล่วงล้าลานา้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. หนา้ ทแี่ ละอานาจตามพระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู วา่ ด้วยการปอ้ งกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 เก่ียวกับการเสนอมาตรการ ความเห็น หรือข้อเสนอแนะ เพื่อป้องกัน การทุจริต ดังน้ี “มาตรา 32 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าท่ีและอานาจเสนอมาตรการ ความเห็น และขอ้ เสนอแนะ ต่อคณะรัฐมนตรี รัฐสภา ศาล องค์กรอสิ ระ หรอื องคก์ รอยั การ ในเร่อื งดงั ต่อไปน้ี (1) ปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริต การกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการ หรือ การกระทาความผิดตอ่ ตาแหน่งหนา้ ท่ใี นการยุติธรรม (2) จัดให้มีมาตรการและกลไกท่ีมีประสิทธิภาพเพ่ือป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติ มชิ อบทัง้ ในภาครฐั และภาคเอกชนอยา่ งเขม้ งวด (3) เสนอแนะให้มีการปรบั ปรงุ กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมาตรการใดที่เปน็ ช่องทาง ให้มีการทจุ ริตหรอื ประพฤติมชิ อบ หรือเปน็ เหตใุ หเ้ จา้ หน้าทขี่ องรฐั ไม่อาจปฏิบัติหนา้ ที่ใหเ้ กดิ ผลดีต่อราชการได้” ปัญหาสิ่งล่วงล้าลาน้าผิดกฎหมาย ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความมั่นคง สังคม เศรษฐกิจ และส่ิงแวดล้อมของประเทศ ซึ่งรัฐบาลต้องใช้งบประมาณเป็นจานวนมาก เพื่อการปรับเปลี่ยนทิศทางการไหล ของน้า หรือเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดจากน้าท่วมหรือภัยแล้ง และการรักษาสภาพแวดล้อมให้กลับสู่ สภาพเดิมและมีแนวโน้มเพิ่มข้ึนทุกปี โดยสาเหตุสาคัญประการหนึ่งเกิดจากการทุจริตของเจ้าหน้าท่ี การปล่อย ปละเลยหรือการละเว้นการปฏิบตั ิหน้าที่ของเจ้าหน้าทขี่ องรัฐท่ีมีอานาจหน้าท่ีทเี่ กี่ยวข้องที่ไม่ดาเนินการให้เป็นไป ตามกฎหมาย ทั้งท่ีมีหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติ และกฎหมายใช้บังคับไว้อย่างชัดเจน หากปล่อยไว้โดยไม่มีมาตรการ แก้ไขปัญหาจะยิ่งทวีความรุนแรงเกินกว่าท่ีรัฐจะจัดการได้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จงึ ได้เสนอมาตรการเพ่ือป้องกัน การทุจริตและแก้ไขปญั หาดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ท่ีมาและความสาคัญของปญั หา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับการร้องเรียนกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทาการทุจริตต่อหน้าท่ี หรือกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการ โดยกล่าวหาว่าเจ้าพนักงานที่ดินและเจ้าพนักงานตรวจท่า กรมเจ้าท่าว่ากระทาความผิดฐานทุจริตต่อหน้าท่ี หรือกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการ โดยเอื้อ ประโยชน์ให้แก่บริษัทก่อสร้างโรงไฟฟ้าในการสารวจและรังวัดท่ีดินเพ่ือการรวมโฉนดท่ีดิน และการรวม น.ส.3 ก เพื่อใช้พื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งเจ้าหน้าท่ีของรัฐดังกล่าวได้ช้ีรับรองแนวเขตด้านท่ีจดทะเลและรังวัดท่ีดินรุกล้า เข้าไปในพื้นที่ชายหาดและในทะเล ซึ่งหากมีการก่อสร้างในพ้ืนท่ีที่รุกล้าทะเลและชายหาดตามที่มีการรังวัด ดังกล่าวนั้น โรงไฟฟ้าจะเป็นสิ่งล่วงล้าลาน้าโดยผิดกฎหมาย จึงได้ทาการไต่สวนและพิจารณาแล้วมีมติว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทาความผิดตามข้อกล่าวหา จึงสง่ รายงานเอกสารและความเห็นให้ผู้บังคบั บญั ชาเพื่อพิจารณา ลงโทษทางวินัย และส่งให้อัยการสูงสุดดาเนินการฟ้องคดีต่อศาลฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หน่ึงผู้ใด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าท่ีโดยทุจริตตามประมวล กฎหมายอาญามาตรา 157 ความเสียหายท่ีเกิดจากส่ิงล่วงล้าลาน้าโดยผิดกฎหมายท่ีเห็นได้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น 1) การพังทลายของตลิ่งแม่น้าและชายฝ่ังทะเล 2) การเกิดภัยน้าท่วม 3) ภาวะมลพิษทางน้า 4 ) เกิดผล กระทบตอ่ ระบบนเิ วศและสงิ่ แวดล้อม ทก่ี ่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางนเิ วศวทิ ยาและสงิ่ แวดลอ้ ม และมีผลทาให้ สงิ่ แวดลอ้ มเส่ือมโทรมมากย่งิ ข้ึน
สรปุ สภาพปญั หา ปัญหาการดาเนินการเก่ียวกับส่ิงล่วงล้าลาน้าที่ผ่านมาพบว่า การดาเนินการเก่ียวกับส่ิงล่วงล้า ลาน้ามีปัญหาในการดาเนินงานทั้งทางด้านการบริหารจัดการของหน่วยงานท่ีรับผิดชอบ ปัญหาด้านการตีความ ข้อกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งการตีความกฎหมายในบางกรณียังไม่มีความชัดเจน และยังไม่มี การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง รวมถึงปัญหาด้านอื่น ๆ เช่น ผู้รุกล้าลาน้าหรือกลุ่มผู้กระทาผิดส่วนใหญ่เป็น กลุ่มผู้ท่ีมีอิทธิพลในท้องถ่ิน จึงทาให้การแก้ไขปัญหาทาได้โดยยาก และโครงการเพื่อการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหา ที่จะเกิดขึ้นจากสิ่งล่วงล้าลาน้า ในบางโครงการมีการต่อต้านจากกลุ่มประชาชน หรือองค์กรเอกชนที่ เสียผลประโยชน์ เปน็ ตน้ ขอ้ เสนอแนะ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรเสนอมาตรการป้องกันการทุจริตเก่ียวกับ ส่ิงล่วงล้าลาน้าต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริต การกระทาความผิดต่อ ตาแหน่งหนา้ ท่รี าชการ โดยเสนอมาตรการเป็น ๒ ส่วน คอื มาตรการเก่ียวกบั สิง่ ล่วงล้าลาน้า และข้อเสนอแนะ ในการบรหิ ารจัดการนา้ ท้ังระบบ มีรายละเอยี ดของมาตรการดังนี้ สานักงาน ป.ป.ช. มีหนังสอื ที่ ปช 0003/0001 ลงวันที่ 5 มกราคม 2558 เสนอเรื่อง มาตรการ ป้องกนั การทุจรติ เกีย่ วกับสิง่ ล่วงล้าลานา้ ไปยังคณะรฐั มนตรี โดยมขี ้อเสนอแนะ ดังน้ี มาตรการเก่ยี วกบั สง่ิ ล่วงล้าลาน้า มาตรการระยะส้นั 1) ให้กรมเจ้าท่าและหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบสารวจและตรวจสอบบ้านเรือน ประชาชนที่ปลูกสร้างล่วงล้าลาน้าทั่วประเทศ หากพบว่าเป็นการล่วงล้าลาน้าโดยผิดกฎหมาย ต้องกาหนด มาตรการบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนในกรณีที่มีการล่วงล้าลาน้ามาแต่ด้ังเดิมก่อนที่พระราชบัญญัติ การเดินเรือในน่านน้าไทย พระพุทธศักราช 2456 มีผลบังคับใช้ ก็อาจจะอนุญาตให้อยู่ต่อไปได้ แต่ต้องกาหนด มาตรการ เงื่อนไขหรือระยะเวลา ในการอยู่อาศัย และมีการจัดระบบ การควบคุม ดูแลมิให้มีการก่อสร้างเพ่ิมเติม สาหรับผู้ที่ล่วงล้าลาน้าโดยผิดกฎหมายหรือผู้บุกรุกรายใหม่ ต้องมีการแจง้ เตือนให้มีการร้ือถอนออกไป หากฝ่าฝืน ต้องดาเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ทั้งนี้การดาเนินการดังกล่าว กรมเจ้าท่าและหรือหน่วยงานท่ีรับผิดชอบ ตอ้ งกาหนดเปน็ แผนการปฏบิ ตั ิท่ชี ดั เจนและกาหนดกรอบเวลาในการทางาน 2) ให้กรมเจ้าท่าเป็นหน่วยงานหลัก ในการดาเนินการสารวจ จัดทาแผนท่ี และรายละเอียดของส่ิงล่วงล้าลาน้าโดยผิดกฎหมายท่ัวประเทศ เพื่อนาข้อมูลดังกล่าว มาใช้เป็นฐานใน การวางแผน และแก้ไขปัญหาส่ิงล่วงล้าลาน้าอย่างเป็นระบบต่อไป โดยการสารวจ จัดทาแผนที่ และรายละเอียด ของสงิ่ ล่วงลา้ ลาน้าโดยผดิ กฎหมายดงั กลา่ วและกาหนดระยะการดาเนินการทชี่ ดั เจน 3) กรมเจ้าท่าและหรือหน่วยงานท่ีรับผิดชอบเกี่ยวกับลาน้าควรจัดทาโครงการ สารวจและตรวจสอบลานา้ โดยขอสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลเพ่อื จดั จา้ งหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชน ที่มีขีดความสามารถเพียงพอในการดาเนินการบินสารวจ หรือตรวจสอบลาน้าทางอากาศ โดยใช้เคร่ืองมือ ที่ทันสมัย ในการสารวจและการถ่ายภาพทางอากาศแล้วนาข้อมูลท่ีได้มาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับฐานข้อมูล ท่ีมีอยู่ เพื่อให้ทราบว่ามีการกระทาความผิดล่วงล้าลาน้าในพ้ืนท่ีใด ท้ังนี้การดาเนินการบินสารวจ หรือการตรวจสอบทางอากาศดังกล่าว ต้องเนินการเป็นระยะและตามเวลาท่ีเหมาะสม นอกจากนั้นควรจะให้กรม เจา้ ท่าขอความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐที่ปฏิบัติงานในพ้ืนท่ี และประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้ง เบาะแส หรือข้อมูลการกระทาผิดเก่ียวกับส่ิงล่วงล้าลาน้าในพ้ืนท่ี โดยกาหนดวิธีแจ้งเบาะ ข้อมูล หรือแนวทาง ท่ปี ฏบิ ัติทมี่ ลี ักษณะง่าย สะดวก และมีความปลอดภยั
4) รัฐบาลควรมีการเจราจาทาความตกลงในระดับรัฐบาลกับเพ่ือนบ้านที่มีแม่น้า เป็นพรมแดนระหว่างประเทศ เพื่อมิให้มีการดูดทราย หรือก่อสร้างส่ิงล่วงล้าลาน้าในพื้นท่ีที่มีผลกระทบหรือ การพังทลายของตล่ิงในฝ่ังตรงข้าม และควรพิจารณามอบหมาย ตลอดจนสนับสนุนงบประมาณให้หน่วยงาน ท่ีรับผิดชอบในการก่อสร้างพนังป้องกันการพังทลายของตล่ิง ในพ้ืนท่ีท่ีมีความเส่ียงสูงโดยด่วน รวมท้ังส่งเสริม และสนับสนุนหน่วยงานที่รับผิดชอบและประชาชนที่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินท่ีอยู่ติดริมตล่ิงของแม่น้า หาแนว หรอื วิธกี ารทไ่ี ด้ผลดี และลงมือปฏิบตั ิโดยด่วนตอ่ ไป 5) ในการพิจารณ าอนุญ าตให้มีการดูดทราย ในลาน้า สมควรให้หน่วยงาน ท่ีรับผิดชอบได้ศึกษาผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมในพ้ืนที่ของตน และจัดทารายงานสรุปผลกระทบที่อาจเกิดข้ึน จากการประกอบกิจการดูดทรายในแหล่งน้ันๆ โดยให้เสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม แล้วจัดทาเป็นรายงานมาตรฐานเพ่ือเป็นแนวทางให้กับคณะกรรมการพิจารณาอนุญาตดูดทรายส่วนกลาง (กพด.) หรือคณ ะอนุกรรมการพิจารณ าอนุญ าตดูดทราย (อพด.) ได้ศึกษาประกอบการพิจารณ าอนุญ าต รวมทั้งต้องให้มีการรับฟังความเห็นของราษฎร หรือประชาชนในพ้ืนท่ีน้ันด้วยว่า การดูดทรายดังกล่าวจะส่งผล กระทบต่อทรัพย์สินและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างไร หรือไม่ หรือสมควรท่ีจะอนุญาตให้มีการดูดทราย ในพ้ืนที่หรือไม่ และสาหรับในขั้นตอนควบคุมการดูดทรายให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กาหนด สมควรกาหนด มาตรการเพ่ิมเติมเพ่ือให้เป็นไปตามระเบียบหรือเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ ประชาชนในพ้ืนท่ีเข้ามามีส่วนร่วมในการควบคุมด้วย และต้องกาหนดมาตรการในการฟ้ืนฟูสิ่งแวดล้อม หลงั หมดอายุใบอนุญาต 6) ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและองค์กรปกครองท้องถิ่น กาหนดมาตรการควบคุม แหล่งกาเนิดมลพิษท่ีเป็นส่ิงล่วงล้าลาน้า เพ่ือมิให้เป็นสาเหตุในการก่อมลพิษทางน้า เช่น การกาหนดเป็น นโยบายให้มีการใช้ระบบการบาบัดน้าเสียรวมของชุมชนที่ตั้งอยู่ริมลาน้า การเข้มงวดในการใช้มาตรการทางด้าน กฎหมาย เพื่อควบคุมสิ่งล่วงล้าลาน้า เป็นต้น รวมถึงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน ในการลดการใช้น้าและมกี ารจัดการน้าเสียอย่างถูกวิธี 7) ให้หน่วยงานท่ีรับผิดชอบประเมินศักยภาพของแหล่งน้าท่ีจะสามารถรองรับแพลอย น้า หรือแพคนอยู่ว่าจานวนที่เหมาะสมควรมีเท่าใด และกาหนดมาตรการท่ีเข้มข้นเพ่ือบังคับมิให้มีการกระทาผิด ระเบียบกฎหมาย เช่น การออกระเบียบการจดทะเบียน การควบคุมด้านความปลอดภัย การควบคุมการก่อมลพิษ ทางน้า และการจัดระเบยี บในด้านต่าง ๆ โดยการดาเนินการดังกล่าว โดยตอ้ งจัดทาเป็นแผนปฏิบัตกิ าร มกี าหนด กรอบเวลาท่ีชดั เจน รวมท้ังให้ทกุ ภาคส่วนท่เี กีย่ วข้องและประชาชนในพื้นทเ่ี ข้ามามีสว่ นร่วมดาเนนิ การ 8) ให้กรมเจ้าท่า และหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้าลาน้าทบทวนภารกิจ ท่ีถ่ายโอนอานาจให้แก่หน่วยราชการส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปรับปรุงหลักเกณฑ์ ระเบียบ วิธีปฏิบัติ สร้างความรู้ความเข้าใจอย่างชัดเจน และให้การสนับสนุน ติดตามการทางานอย่างต่อเนื่อง รวมถึง การส่งเสริมให้หน่วยงานที่รับโอนภารกิจ มีการเช่ือมโยงและบูรณาการการทางานกับหน่วยงานหรือองค์กร ทกุ ภาคส่วนทเ่ี ก่ยี วข้อง 9) ให้ผู้บังคับบัญชาในกรมเจ้าท่า หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องท่ีมีอานาจหน้าท่ี เก่ียวกับส่ิงล่วงล้าลาน้า กาชับ ควบคุม ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเจ้าหน้าท่ีท่ีอยู่ในความรับผิดชอบ ให้ปฏิบัติ หน้าที่ด้วยความซ่ือสัตย์สุจริต หากมีการกระทาความผิดให้ลงโทษอย่างเด็ดขาดทุกรายและให้ถือว่าเป็นความ บกพร่องของผบู้ งั คับบัญชาด้วย มาตรการระยะยาว 10 ) ในกรณี ที่มีความจาเป็นอย่ างย่ิง ท้ังในด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ หรือความจาเป็นอื่นท่ีจะต้องนาพื้นท่ีใต้ทะเลหรอื ท่ีดินชายหาดมาใช้ประโยชน์ รัฐต้องเข้ามาควบคุมการถมทะเล
โดยการออกกฎหมายเฉพาะสาหรับการถมทะเลหรือชายหาด โดยมีการกาหนดรายละเอียด หลักเกณฑ์ ขั้นตอน อย่างชดั เจน รวมทง้ั ใหม้ ีหนว่ ยงานทีค่ วบคุมเร่ืองนีโ้ ดยตรงดว้ ย 11) จัดตั้งหน่วยงานกลางในการบังคับคดี เพื่อรับผิดชอบและทาหน้าที่ในการบังคับ คดี ในกรณีผู้ฝ่าฝืนหรือผู้กระทาความผิดเก่ียวกับส่ิงล่วงล้าลาน้าไม่ปฏิบัติตามคาส่ังทางปกครองหรือคาส่ังศาล เช่น การยึด อายัดของกลาง หรือรื้อถอน ส่ิงปลูกสร้างหรือสิ่งล่วงล้าลาน้าโดยผิดกฎหมาย ให้กับทุกกระทรวง ทบวง กรม โดยการกาหนดหลักเกณฑ์ ระเบียบหรือมาตรการบังคับให้ผกู้ ระทาความผิดเป็นผู้รบั ผิดชอบค่าใช้จา่ ย ในการดาเนินการ และหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ผู้การดาเนินการไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายข้ึน เว้นแต่เปน็ การกระทาโดยเจตนาท่ีจะใหเ้ กิดความเสียหายเกนิ สมควรแก่พฤตกิ ารณ์ 12) พิจารณ าแก้ไขและเพิ่มอัตราโทษ ของความผิดเก่ียวกับสิ่งล่วงล้าลาน้า โดยผิดกฎหมาย และให้ถือว่าความผิดเก่ียวกับสิ่งล่วงล้าลาน้าโดยผิดกฎหมายเป็นความผิดต่อเนื่อง จนกว่า จะมกี ารรอื้ ถอนหรือแกไ้ ขให้ถูกต้อง ขอ้ เสนอแนะเก่ียวกับการบรหิ ารจดั การลาน้าท้งั ระบบ 13) มอบหมายให้หน่วยงานด้านการกาหนดนโยบายของกระทรวง หรอื ส่วนราชการ ที่มีหน้าทีค่ วามรบั ผิดชอบเก่ียวกับลาน้า ศึกษาสภาพปัญหา ข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนว่า การดาเนินการของหน่วย ปฏิบัติมีปัญหาอย่างไร และนาข้อมูลดังกล่าวมากาหนดแผนเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง โดยในการบริหาร จัดการน้าในพ้ืนท่ีควรกาหนดให้ดาเนินการในรูปของคณะกรรมการ ต้ังแต่ระดับตาบล อาเภอ จังหวัดข้ึนมา ซึ่งคณะกรรมการแต่ละชุดควรประกอบด้วยผู้แทน ทุกภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดการลาน้า มีการกาหนด อานาจหน้าที่แผนการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน รวมถึงกาหนดให้มีการพัฒนาศักยภาพให้เข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง และยึดหลักการทางานแบบบูรณาการทุกภาคส่วนในทุกระดับ สาหรับโครงการเพ่ือการแก้ไขปัญหาต้องมี ความชดั เจนและมหี ลักเกณฑ์ทแ่ี นน่ อน ท้ังน้เี พือ่ ใหม้ ีการแก้ไขปัญหาและการใชท้ รัพยากรใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสดุ 14) กาหนดให้การพัฒนาแหล่งน้าหรือลาน้าเป็นวาระแห่งชาติ การบารุงรักษา และพัฒนา 25 ลุ่มน้าสาคัญของประเทศ และแหล่งน้าสาคัญของชาติต้องกาหนดนโยบายอย่างชัดเจน ว่าจะดาเนินการอย่างไร โดยกาหนดให้มีหน่วยงานราชการท่ีเป็นเจ้าภาพหลักในการทางาน และให้จัดตั้งศูนย์ ปฏิบัติการทั้งในระดับชาติและระดับภูมิภาคที่ประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนท่ีเก่ียวข้องทุกหน่วยงาน ซึ่งในเบ้ืองต้นควรส่ังให้มีการสารวจการบุกรุก การล่วงล้าลาน้า และการทาลายพื้นที่ชุ่มน้า พ้ืนที่ลุ่มและพ้ืนท่ี ทางระบายน้าหลากเพื่อให้ทราบสภาพข้อมลู ที่เป็นปัจจุบันของพื้นท่ีท่ัวประเทศและมีการวางแผนการแกไ้ ขปัญหา อย่างเปน็ รูปธรรม ท้งั น้ีการดาเนนิ งานต้องยึดหลักการมสี ว่ นร่วมของประชาชนในท้องถ่นิ 15) มอบหมายหน่วยงานที่เก่ียวข้องกับการบริหารจัดการน้าทั้งหมดทาการศึกษา วิเคราะห์ และดาเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวขอ้ งกับทรัพยากรน้าทั้งระบบ โดยการกาหนดให้มีกฎหมายกลาง ที่มีการกาหนดและแบ่งอานาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานอย่างเป็นระบบ และมีความชัดเจน สามารถบูรณาการ การทางานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ทุกหน่วยงานมีความชัดเจนในการ ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่า ตนมีขอบเขตอานาจหน้าท่ีในการปฏิบัติงานเพียงใด และต้องดาเนินการ อย่างไร ต้องประสานงานกับหน่วยงานใดอื่นในลกั ษณะใด การติดตามผลความคืบหน้าการดาเนนิ การที่สาคัญของหนว่ ยงานทเี่ กีย่ วขอ้ ง 1. คณะรฐั มนตรีได้มีมติเม่อื วันที่ 6 กันยายน 2559 รับทราบผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับส่ิงล่วงล้าลาน้า ตามท่ีกระทรวงคมนาคม เสนอ
2. กรมเจ้าท่าซ่ึงได้รับมอบหมายจากกระทรวงคมนาคมได้รับความเห็นของหน่วยงาน ท่ีเกี่ยวข้องทั้งหมดไปพิจารณาในลักษณะบูรณาการในภาพรวม โดยได้จัดทาแผนบูรณาการมาตรการป้องกัน การทุจริตเก่ยี วกบั สิง่ ล่วงล้าลาน้า แบ่งออกเปน็ 5 แผนการดาเนินงาน ๓. กรมเจ้าท่าได้มีหนังสือที่ คค 0310.3/4774 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 รายงาน ความคืบหน้าในการดาเนินการตามแผนบูรณาการมาตรการป้องกันการทุจริตเก่ียวกับสิ่งล่วงล้าลาน้า และช้ีแจง ข้อสังเกตของคณะอนุกรรมการอานวยการด้านมาตรการป้องกันการทุจริต สรุปได้ว่า กรมเจ้าท่าได้ดาเนิน โครงการสารวจจัดทาแผนที่ฐานข้อมูลสิง่ ปลูกสร้างสิง่ ล่วงลา้ ลาน้าท่วั ประเทศ มีวัตถปุ ระสงคเ์ พื่อกาหนดแนวเขต ลาแม่น้าชายฝั่งทะเล การจัดระวางโฉนดที่ดินริมแม่น้าชายฝ่ังทะเลและรายละเอียดส่ิงปลูกสร้างล่วงล้าลาน้า ทวั่ ประเทศ พร้อมท้ังจัดทาระบบภูมิสารสนเทศสาหรบั บริหารจัดการฐานข้อมูลแผนที่สิ่งล่วงลา้ ลาน้าท่ัวประเทศ เพ่ือใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนกากับ ติดตาม ควบคุม และแก้ไขปัญหาสิ่งล่วงล้าลาน้า ซ่ึงการสารวจจดั ทาแผนที่ ทั่วประเทศ ทางกรมเจ้าท่าแบ่งการดาเนินโครงการเป็น 3 ระยะ โดยใช้เวลาดาเนินการ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2560 หลังจากน้ันจึงเริ่มดาเนินงานสารวจบริเวณที่ได้สารวจและจัดทาแผนท่ีไว้แล้วด้วยการบินสารวจภาพถ่ายทาง อากาศ โดยจะดาเนินการทุก 5 ปี ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 กรมเจ้าท่าไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณใน การสารวจตามแผนงานระยะท่ี 1 แต่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี พ.ศ. 2561 ซึ่งจะเร่ิมดาเนินงานสารวจ และจัดทาแผนท่ีในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ระยะเวลาดาเนินการโครงการจานวน 540 วัน และหากทางาน ในรูปแบบอนุกรรมการโดยกรมเจ้าท่าเป็นเพียงศูนย์กลาง อาจเป็นข้อจากัดท่ีส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน เพราะปัญหาด้านประสิทธิภาพการป้องกันและการควบคุมสิ่งล่วงล้าลาน้าของกรมเจ้าท่า คือ การขาดอัตรากาลัง ในการตรวจตราและบังคับใช้กฎหมาย หากกรมเจ้าท่าได้รับงบประมาณและการจัดสรรอัตรากาลังสอดคล้อง ตามแผนการดาเนินงาน กรมเจา้ ทา่ จะสามารถแกไ้ ขปญั หาเก่ยี วกบั สิ่งล่วงล้าลาน้าได้ การผลกั ดนั มาตรการด้านการป้องกันการทจุ รติ ดา้ นทรัพยากรธรรมชาตไิ ปส่กู ารปฏิบัติ สานักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ได้ติดตามผลการดาเนินการตามข้อเสนอแนะ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับส่ิงล่วงล้าลาน้า ในระดับพื้นที่ โดยร่วมเป็น วิทยากรให้ความรู้หน่วยงานและเครือข่ายภาคประชาชน รวมถึงลงพื้นท่ีเพื่อสังเกตการณ์ร่วมกับสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัดและสานักงาน ป.ป.ช. ประจาภาค เพ่ือพิจารณาแนวทางการจัดทา มาตรการหรือ ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ พบสภาพปัญหาและอปุ สรรคในการดาเนินการตามมาตรการ ดงั น้ี 1. ปัญหาด้านการบริหารจัดการ การบูรณาการระหว่างหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องไม่มีความชัดเจน จากการลงพ้ืนท่ีติดตาม และสงั เกตการณ์ตามมาตรการป้องกันการทุจริตเก่ียวกับสิ่งล่วงล้าลาน้า พบวา่ แต่ละหน่วยงานไม่เข้าใจบทบาท อานาจหน้าที่ของตน ส่งผลให้การบูรณาการเพ่ือแก้ไขปัญหาดังกล่าวยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าท่ีควร ซ่ึงหน่วยงาน หลักรับผิดชอบ ได้แก่ กรมเจ้าท่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกจากนั้นการล่วงล้าในแต่ละพื้นที่อาจมี หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เช่น สานักงานท่ีดินจังหวัด กรมป่าไม้ สานักงานทรพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ เป็นต้น โดยข้ึนกับพ้ืนท่ีที่มีส่ิงปลูกสร้างล่วงล้าลาน้า ดังน้ัน จึงเห็นควรให้ทุกหน่วยงาน ท่ีเกี่ยวข้องเร่งสารวจพื้นที่และกาหนดเป็นแผนปฏิบัติการพร้อมระยะเวลาแล้วเสร็จเสนอต่อรัฐบาลเพื่อ ดาเนนิ การใหแ้ ล้วเสรจ็ โดยเร็ว ๒. ปัญหาด้านงบประมาณ กรมเจ้าท่ามีภารกิจท่ีต้องดาเนินโครงการสารวจจัดทา “แผนที่ฐานข้อมูลสิ่งปลูกสร้าง ลว่ งลา้ ลาน้า” ท่ัวประเทศ ตามแผนบูรณาการมาตรการป้องกนั การทจุ ริตเก่ยี วกับส่งิ ลว่ งลา้ ลาน้า เพ่ือใช้เป็นข้อมูล ในการวางแผน กากับ ติดตาม ควบคุม และแก้ไขปัญหาส่ิงล่วงล้าลาน้าตามมาตรการป้องกันการทุจริตเก่ียวกับ ส่ิงล่วงล้าลาน้าของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่ข้อเท็จจริงปรากฏได้ว่าภายหลังจากที่พระราชบัญญัติเดินเรือ
ในน่านน้าไทย (ฉบับท่ี ๑๗) พ.ศ. ๒๕60 มีผลบังคับใช้ ย่ิงส่งผลให้กรมเจ้าท่าขาดอัตรากาลังทางด้านบุคลากร และขาดงบประมาณในการร้ือถอนส่ิงล่วงลา้ ลาน้า ดังนั้น เพ่ือให้การดาเนินการสามารถบรรลผุ ลตามเจตนารมณ์ ของกฎหมาย จึงเห็นควรเสนอให้รัฐบาลจัดสรรอัตรากาลังในการปฏิบัติงานและงบประมาณให้กระทรวง คมนาคม ใชส้ าหรับดาเนนิ การตรวจอบและร้ือถอนสง่ิ ลว่ งล้าลานา้ ให้แลว้ เสร็จ ๓. ปัญหาดา้ นสังคม พระราชบัญญัติเดินเรือในน่านน้าไทย (ฉบับท่ี ๑๗) พ.ศ. ๒๕60 ก่อให้เกิดผลกระทบ ต่อประชาชนท่ีมีบ้านเรือนหรือส่ิงปลูกสร้างลว่ งล้าลาน้า และชุมชนที่มีวิถีชวี ิตทางทะเลและลาน้าต่างๆทั่วประเทศ และจากการลงพื้นที่พบว่าประชาชนในพื้นที่ยังไม่เข้าใจกระบวนการและข้ันตอนในการขออนุญาต รวมถึงไม่มี ความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกับผลกระทบทีเ่ กดิ จากส่งิ ล่วงลา้ ลานา้ การเสนอมาตรการและขอ้ เสนอแนะในระยะตอ่ ไป จากการประชุมเพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับส่ิงล่วงล้า ลาน้า และข้อเท็จจริงในการลงพ้ืนที่ จึงเห็นควรจัดทาข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับ ส่ิงล่วงล้าลาน้า เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริต การกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการ หรอื การกระทาความผิดตอ่ ตาแหน่งหน้าท่ใี นการยตุ ธิ รรมตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญตั ปิ ระกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ รติ พ.ศ. 2561 ดังน้ี ๑. ดา้ นบริหารจัดการ ๑.๑ กรมเจ้าท่า กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ควรจัดทาสารบบของผู้ใช้ประโยชน์ ในพ้ืนท่ีสาธารณะ และเผยแพร่บนระบบอิเล็กทรอนิกส์สารสนเทศ (Web site) ให้ประชาชนในทุกภาคส่วน สามารถเข้าถึงข้อมูล ได้แก่ กระบวนการขอใช้ประโยชน์ในพ้ืนที่ ข้อมูลการใช้ประโยชน์ในพื้นท่ีปัจจุบัน ผลการตรวจสอบ และผลการดาเนินการรื้อถอนสง่ิ ปลกู สรา้ งทีล่ ว่ งล้าลานา้ ในแตล่ ะพ้นื ที่ 1.2 กรมเจ้าท่า องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องควรมีการประชุม ซักซ้อมความเข้าใจในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาการปลูกสร้างท่ีอยู่อาศัย สถานประกอบการที่ล่วงล้าลาน้า อย่างเป็นระบบเพื่อให้แต่ละหน่วยงานสามารถปรับใช้และบังคับใช้กฎหมายของตนเองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตามพระราชบญั ญัตเิ ดินเรอื ในนา่ นนา้ ไทย (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕60 2. ดา้ นงบประมาณ 2.๑ รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณให้กระทรวงคมนาคม ใช้สาหรับดาเนินการตรวจสอบ และรื้อถอนส่ิงท่ีล่วงล้าลาน้า โดบกระทรวงคมนาคมต้องจัดทาแผนปฏิบัติการให้ชัดเจนและดาเนินการตรวจสอบ ให้แล้วเสรจ็ ภายในระยะเวลา ๓ ปี พร้อมท้งั เผยแพร่ข้อมลู ลงบนเว็บไซต์ (Web site) 2.2 รัฐบาลควรสนับสนุนงบประมาณให้กระทรวงคมนาคม ใช้สาหรับการเพิ่มบุคลากร ของกรมเจ้าท่าให้มีจานวนเพียงพอที่จะรองรับปริมาณงานท่ีเพ่ิมข้ึนในอนาคต ประกอบกับคาสั่งกรมเจ้าท่า ท่ี ๖๗๗/๒๕๖๐ เรื่องมอบหมายและมอบอานาจ “เจ้าท่า” ตามกฎหมายการเดินเรือในน่านน้าไทย ให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นดาเนินการเสมือนกรมเจ้าท่า จึงเห็นควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน จัดทาแผนด้าน งบประมาณในการร้อื ถอน เสนอไปยังกรมเจ้าท่าเพ่ือเสนอของบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดาเนนิ การ ขน้ั ตอนตอ่ ไป ๓. ดา้ นสังคม บูรณาการความร่วมมือระหว่างกรมเจ้าท่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงาน ทเี่ ก่ียวข้องจัดทาสอ่ื ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรบั ทราบถงึ ความเสยี หายท่เี กิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมท้ัง
ขนั้ ตอนการขออนุญาตใช้พื้นที่ล่วงล้าลาน้า ข้อกฎหมายและอัตราโทษของการกระทาความผิดกฎหมายท่ีเกี่ยวกับ การปลกู สร้างสิ่งลว่ งลา้ ลาน้า เพื่อให้สามารถดาเนนิ การตามกฎหมายได้อยา่ งถูกต้อง ดาวน์โหลดขอ้ มลู ได้ท่ี QR Code นี้ - มาตรการป้องกันการทุจรติ เกยี่ วกับสง่ิ ลว่ งล้า ลานา้ - หนังสอื นาส่งคณะรัฐมนตรี - หนังสอื แจง้ มติคณะรัฐมนตรี
ข้อมูลการลงพน้ื ท่ีระหวา่ งวันท่ี 20 – 21 ธนั วาคม 2564 ประเด็นความเสี่ยงการทุจริตด้านทรพั ยากรธรรมชาติ (การลักลอบดดู ทราย/ส่ิงลว่ งลา้ ล้าน้า) พื้นท่ภี าค 5 จงั หวดั เชียงใหม่ วันที่ 20 ธันวาคม 2564 - เดินทางจากโรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว ถึงจดุ ท่ี 1 ระยะทาง 95 กิโลเมตร ใชเ้ วลา 2 ช่ัวโมง - เดินทางจากจุดท่ี 1 ถึงจดุ ท่ี 2 ระยะทาง 7 กิโลเมตร ใชเ้ วลา 15 นาที - เดนิ ทางจากจุดท่ี 2 ไปร้านอาหารระเบยี งไม้ ระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลา 10 นาที - เดนิ ทางจากรา้ นอาหารถงึ จุดที่ 3 ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลา 20 นาที - เดินทางจากจดุ ที่ 3 กลับโรงแรม ระยะทาง 100 กโิ ลเมตร ใชเ้ วลา 2 ชวั่ โมง วนั ท่ี 21 ธันวาคม 2564 - เดนิ ทางจากโรงแรมเชยี งใหม่แกรนด์วิว ถึงจดุ ท่ี 4 ระยะทาง 40 กโิ ลเมตร ใช้เวลา 45 นาที - เดินทางจาก จดุ ท่ี 4 ถึงร้านอาหารบา้ นสวนแกงร้อน ระยะทาง 31 กิโลเมตร ใช้เวลา 35 นาที - เดนิ ทางจากรา้ นอาหาร ถึง ศาลากลางจงั หวดั เชียงใหม่ ระยะทาง 7 กิโลเมตร ใชเ้ วลา 10 นาที - เดินทางจากศาลากลางจงั หวัดเชียงใหม่ ถงึ โรงแรม ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใชเ้ วลา 20 นาที
แบบฟอร์มเก็บข้อมูลระหว่างลงพน้ื ที่ T จงั หวดั อาเภอ สถานที่ ท่มี าของปัญหา/ความเส่ียงฯ ข้อเท็จจรงิ ท่พี บ วันที่ ประเด็นทสี่ อดคล้องก ข้อมูลปักหมุดจาก Corruption 1) 1) Risk Mapping (2563) 2) เรือ่ งแจ้งเบาะแส/เรอ่ื งรอ้ งเรยี น 2) ผลการประเมิน ITA ข้อเท็จจริงเชงิ ประจักษ์ ความต้องการของเครอื ข่าย อ่ืน ๆ . . หน่วยงานทเี่ ก่ยี วขอ้ ง การดาเนินการตามภาร (Stakeholders) ความ 1) 1) 2) 2) กฎหมาย/ระเบยี บ/หลกั การ/ทฤษฎี ที่เกยี่ วขอ้ ง - - - ลงชอ่ื ผู้บันทึก ตาแหนง่
TaC Team ต้านทุจริต ประจาปี 2565 TaC 01 ประเดน็ _____________________________________________ / สารวจก่อนวันลงพืน้ ที,่ วนั ลงพ้นื ที,่ ตดิ ตามผลการลงพื้นท่ี กับภารกจิ /หนา้ ท่ีสานัก ขอ้ เสนอเพอื่ การแกไ้ ขแบบบรู ณาการ (ข้อเสนอแนะ) (หน่วยงานทีร่ บั ผิดชอบ) 1) - 2) - รกจิ /หนา้ ท่ีสานักเพ่ือแกไ้ ข แนวทางการกากับติดตามการแกไ้ ขปัญหา มเสี่ยงฯ (ขอ้ เสนอแนะ) (หนว่ ยงานทร่ี ับผดิ ชอบ) 1) - 2) - สานัก
สตศ. 1 แบบฟอร์มการเกบ็ ข้อมูล ในการลงพ้ืนท่ีโครงการต้านและลดทจุ ริตดว้ ยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะพน้ื ท่เี สย่ี งตอ่ การทจุ ริต (STRONG: Together against Corruption-TaC) โครงการตา้ นและลดทุจริตด้วยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพาะพ้ืนทีเ่ สย่ี งต่อการทจุ รติ ครงั้ ท่ี สว่ นท่ี 1 ตาบล จังหวดั 1. พน้ื ท่ี : สถานที่ อาเภอ 2. ประเดน็ ความเสี่ยง : 3. ที่มาของปัญหา/ความเสี่ยง 3.1 ขอ้ มูลปกั หมดุ จาก Corruption Risk Mapping (2563) 3.2 เรือ่ งแจ้งเบาะแส/เร่ืองร้องเรียน 3.3 ผลการประเมิน ITA 3.4 ข้อเทจ็ จรงิ เชิงประจักษ์ 3.5 ความต้องการของเครือข่าย 3.6 อื่น ๆ (ระบุ) 4. หน่วยงาน/องค์กรที่เก่ยี วข้อง (Stakeholders) 4.1 หนว่ ยงานภาครฐั - - - 4.2 หนว่ ยงานภาคเอกชน - - 4.3 ภาคประชาสังคม 4.4 อ่ืน ๆ 5. สภาพปญั หา/ขอ้ เท็จจรงิ
-2- 6. การแก้ไขปญั หาในระดับพื้นที่ 7. ขอ้ เสนอแนะการดาเนนิ การแกไ้ ขปญั หา 8. ขอ้ เสนอแนะการกากับติดตามการแก้ไขปัญหา สว่ นท่ี 2 9. ประเดน็ ความสอดคลอ้ งกบั หลักสตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา พ.ศ. 2564 9.1 การต้านทุจริตในสถานการณ์ Digital Disruption 9.2 การพิทกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติทางธรณี 9.3 การพิทกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติน้าและน้าบาดาล 9.4 อ่ืน ๆ (ระบุ) 10. ข้อเสนอแนะการดาเนนิ การตามภารกิจ หนา้ ที่และอานาจของสานกั ต้านทุจริตศกึ ษา 11. ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ผู้เก็บข้อมลู ตาแหนง่ วนั ที่
กำหนดประเด็นในกำรลงพน้ื ท่เี ก็บข้อมูลเพอื่ วิเครำะห์สภำพปญั หำและข้อเทจ็ จรงิ กำหนดโครงกำรตำ้ นและลดทุจริตดว้ ยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพำะกรณพี ้นื ที่เส่ยี งต่อกำรทจุ รติ (STRONG : Together against Corruption – TaC) ครั้งท่ี 2 จงั หวัดตรำด ระหวำ่ งวนั ท่ี 22 – 24 พฤศจกิ ำยน 2564 ของสำนักกำรขัดกนั แห่งผลประโยชน์ สำนักงำน ป.ป.ช. …………………………………………………………….. ประเด็นการเกบ็ ข้อมูล 1. ประเดน็ ปญั หำท่ีเกิดขนึ้ เกดิ จำกสำเหตใุ ด - เปน็ กรณที ่ีประชำชนไมส่ ำมำรถแยกแยะระหว่ำงประโยชน์สว่ นบคุ คลหรือประโยชน์ส่วนรวม หรือ - เป็นกรณที เี่ จำ้ หน้ำท่ขี องรัฐกระทำกำรอันเปน็ กำรขดั กนั ระหวำ่ งประโยชนส์ ่วนบุคคลกับ ประโยชน์ส่วนรวมตำมกฎหมำย ป.ป.ช. หรือเจำ้ หน้ำทขี่ องรฐั เข้ำไปมีสว่ นไดเ้ สยี กับประเดน็ ปญั หำท่ีเกดิ ข้ึน 2. ผลกำรดำเนินกำรหรือผลกำรดำเนินคดใี นประเด็นปัญหำดังกล่ำวตำมกฎหมำยอนื่ ๆ ที่เกีย่ วข้อง 3. แนวทำงกำรป้องกนั และแกไ้ ขปญั หำกำรขัดกันระหว่ำงประโยชน์ส่วนบคุ คลกับประโยชน์สว่ นรวม 4. ควำมเหน็ ข้อเสนอแนะเพือ่ ป้องกันและแก้ไขปญั หำกำรขดั กันระหวำ่ งประโยชนส์ ่วนบุคคลกบั ประโยชน์สว่ นรวม ......................................................................................
สมน. 1 แบบฟอร์มการเก็บข้อมลู ในการลงพนื้ ที่โครงการตา้ นและลดทุจรติ ดว้ ยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะพื้นทเ่ี ส่ยี งตอ่ การทจุ รติ (STRONG: Together against Corruption-TaC) โครงการต้านและลดทจุ ริตด้วยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพาะพน้ื ทเ่ี สีย่ งตอ่ การทุจริต ครัง้ ท่ี ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู ท่ัวไป ตาบล จงั หวดั 1. พืน้ ที่ : สถานที่ อาเภอ 2. ประเด็นความเสี่ยง : 3. ทมี่ าของปัญหา/ความเส่ียง 3.1 ข้อมลู ปักหมุดจาก Corruption Risk Mapping (2563) 3.2 เรื่องแจ้งเบาะแส/เร่ืองร้องเรยี น 3.3 ผลการประเมนิ ITA 3.4 ขอ้ เทจ็ จรงิ เชงิ ประจักษ์ 3.5 ความตอ้ งการของเครอื ข่าย 3.6 อ่นื ๆ (ระบุ) 4. หนว่ ยงาน/องค์กรทเ่ี กยี่ วข้อง (Stakeholders) 4.1 หนว่ ยงานภาครฐั - - - 4.2 หนว่ ยงานภาคเอกชน - - 4.3 ภาคประชาสงั คม 4.4 อนื่ ๆ
-2- ส่วนท่ี 2 การจดั ทามาตรการ ข้อเสนอแนะเพ่อื แกไ้ ขปัญหาความเสี่ยง/ถอนหมุด 5. ที่มา และความสาคญั ของปัญหา 6. ข้อเทจ็ จริงที่ค้นพบ (เช่น ขอ้ มูลงบประมาณ/หลักเกณฑก์ ารพจิ ารณา/การมสี ่วนร่วม/สภาพปญั หาทค่ี น้ พบ) 7. ข้อกฎหมายและระเบียบที่เกย่ี วขอ้ ง 8. มาตรการ ความเหน็ และขอ้ เสนอแนะ ทีค่ ณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยเสนอต่อคณะรฐั มนตรี (ถ้ามี)
-3- 9. ข้อพิจารณา (การนาสภาพปัญหาในแต่ละประเด็นมาวเิ คราะหเ์ พือ่ หาแนวทางแก้ไข) 10. ข้อเสนอแนะเพ่ือแกไ้ ขปัญหาความเสย่ี ง (เช่น ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ขอ้ เสนอแนะในการแกไ้ ขปญั หา ในระดับพื้นที)่ 11. ข้อเสนอแนะการผลักดันและตดิ ตามการแก้ไขปัญหา (เชน่ ควรเสนอความเห็นและขอ้ เสนอแนะต่อ หน่วยงานใด อยา่ งไร)
-4- ส่วนท่ี 3 การตดิ ตามและประเมินผล 12. วิธีการติดตามและประเมนิ ผลและการแกไ้ ขปัญหา 13. ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จของการลดความเสี่ยงในการทุจริต/ถอนหมดุ 14. ระยะเวลาในการติดตามความคบื หนา้ 15. หน่วยงานท่เี กี่ยวข้อง (หน่วยงานหลักและหน่วยงานสนับสนุน)
แบบสมั ภาษณ์ (สาหรับประชาชน) วันท่ี......./........./.......... เวลา ............................ 1. ช่ือโครงการ: โครงการตา้ นและลดการทจุ ริตด้วยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพาะกรณีพ้นื ที่เสี่ยงต่อการทุจรติ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (STRONG: Together against Corruption-Tac) กรณีศกึ ษาการบุกรกุ พ้ืนท่สี าธารณะโดยมิชอบ 2. ผสู้ มั ภาษณ์: (1) ชื่อ-สกลุ . ตาแหนง่ . . (2) ช่อื -สกลุ . ตาแหน่ง . (3) ช่ือ-สกลุ . ตาแหนง่ 3. ผู้ให้สัมภาษณ์: . (1) ชือ่ -สกลุ . สถานะ (ผบู้ ุกรุก/ผู้ไดร้ บั ผลกระทบ/NOGs) . (2) ชอ่ื -สกลุ . สถานะ (ผบู้ กุ รกุ /ผู้ได้รบั ผลกระทบ/NOGs) 4. สถานท่ี . 5. ประเดน็ สัมภาษณ์ . 5.1 สภาพปญั หาการบุกรกุ พ้ืนทสี่ าธารณะในพ้ืนท่ีของท่านเปน็ อยา่ งไร มีรูปแบบใดบ้าง . . 5.2 ปญั หาการบกุ รกุ พ้ืนท่ีสาธารณะในพ้นื ท่ีของท่านเกิดข้ึนมานานมากนอ้ ยเพียงใด . 5.3 ผู้ท่กี ระทาการบกุ รุกพ้ืนทสี่ าธารณะในพืน้ ท่ขี องท่านเปน็ กลุ่มบคุ คลใด . . 5.4 เหตุใดหรือปัจจัยใดท่ีส่งผลตอ่ การบุกรุกพ้ืนทีส่ าธารณะในพ้ืนทีข่ องทา่ น (เชน่ ประชาชน ต้องการทดี่ นิ ทากิน/ท่ีอยู่อาศยั นายทุนตอ้ งการแสวงหาผลประโยชนจ์ ากทรัพยากรสาธารณะ ฯลฯ) . . . . . .
5.5 ท่านคิดวา่ สาเหตใุ ดทาให้ยังคงมีการบกุ รกุ พน้ื ท่ีสาธารณะในพน้ื ทข่ี องทา่ นอย่างต่อเนื่อง (เชน่ หนว่ ยงานภาครัฐไม่ดาเนนิ การตามกฎหมายอย่างจริงจัง ภาครัฐเคยมีนโยบายให้ประชาชนสามารถ อยู่อาศยั หรือทากินบนพืน้ ที่ว่างเปล่าได้ ฯลฯ) . . . 5.6 ทา่ นมีสว่ นรว่ มในการแกไ้ ขปญั หาการบกุ รกุ พ้ืนทีส่ าธารณะหรือไม่ อย่างไร (เช่น ดาเนนิ การ แจ้งหน่วยงานทเี่ กย่ี วข้องให้ดาเนนิ การตามกฎหมาย) (ถามกรณีผไู้ ด้รบั ผลกระทบ/NGOs) . . . 5.7 มหี น่วยงานภาครัฐใดบา้ งทดี่ าเนนิ การอย่างไรเก่ียวกับการบุกรกุ พนื้ ท่สี าธารณะที่เกดิ ขึน้ ในพน้ื ที่ของท่าน . . . 5.8 หนว่ ยงานภาครัฐทเ่ี กยี่ วขอ้ งใหก้ ารสนบั สนนุ หรือส่งเสริมการมสี ่วนร่วมในการแกไ้ ขปัญหา การบกุ รกุ พน้ื ทส่ี าธารณะในพน้ื ท่ีของท่านหรอื ไม่ อยา่ งไร . . . 5.9 ทา่ นมีข้อเสนอแนะอยา่ งไรในการแกไ้ ขปัญหาและป้องกันการทุจริตทเ่ี กิดข้ึนจากการบกุ รกุ พน้ื ทส่ี าธารณะในพน้ื ทขี่ องท่าน . . .
บนั ทึก ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………….……………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………….……………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………….……………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………….……………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………….……………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………….……………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: