โครงการต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยทุธ์ เฉพาะกรณีพืนทีเสยีงต่อการทุจรติ (STRONG:TogetheragainstCorruption-TaC) ครงัที2 วนัที22-24พฤศจิกายน2564 ประเดน็:ความเสยีงการทจุริตดา้นทรพัยากรธรรมชาติ กรณีการบุกรกุพืนทอีทุยานแห่งชาตหิมูเ่กาะชา้ง สํานกัมาตรการเชงิรกุและนวัตกรรม
Version_8_สำหรับ TaC Team เท่ำน้นั กาหนดโครงการตา้ นและลดทุจรติ ดว้ ยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพาะกรณีพืน้ ท่ีเสย่ี งตอ่ การทุจรติ (STRONG : Together against Corruption – TaC) คร้ังที่ 2 ระหว่างวันที่ 22 – 24 พฤศจกิ ายน 2564 รับผิดชอบ โดย สานกั มาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม กิจกรรมท่ี 1.1 : การลงพ้ืนทีร่ ะดับผบู้ ริหาร ประเด็น : ความเสย่ี งการทจุ ริตดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติ (บุกรกุ พื้นที่ปา่ ไม้/อุทยานแห่งชาติ) พนื้ ที่ : จังหวดั ตราด วนั อาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน ๒๕64 (คณะเดินทางล่วงหน้า) 08.30 น. - เจา้ หน้าทโ่ี ครงการ (สมน.) และเจา้ หน้าทสี่ านกั สืบสวนและกิจการพเิ ศษ (สสก.) ออกเดนิ ทางจากสานักงาน ป.ป.ช. ถนนนนทบรุ ี จังหวดั นนทบรุ ี เพอ่ื เดินทางไปจงั หวัดตราด 14.00 น. - เจา้ หน้าท่ีโครงการ (สมน.) เดนิ ทางถงึ สปจ. ตราด 14.00 น. - เจ้าหน้าทโ่ี ครงการ (สมน.) ประชมุ ร่วมกบั สปจ. ตราด เพ่ือเตรยี มการกจิ กรรม ต้านและลดทจุ ริตดว้ ยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพืน้ ทีเ่ สีย่ งต่อการทุจรติ (STRONG : Together against Corruption – TaC) ประเดน็ ความเสยี่ งการทุจรติ ด้านทรัพยากรธรรมชาติ กรณี การบุกรกุ พ้ืนที่อทุ ยานแหง่ ชาติหมู่เกาะช้าง (ประชมุ เวลา 14.00 – 16.30 น.) 15.30 น. - เจ้าหนา้ ท่ีสานักสืบสวนและกิจการพิเศษ (สสก.) เดนิ ทางถึงอาเภอเกาะช้าง จงั หวัดตราด * ปฏิบัตภิ ารกจิ ตามท่ไี ด้รับมอบหมาย 17.00 น. - 1) เจ้าหนา้ ทโ่ี ครงการ (สมน.) เข้าพกั โรงแรมในอาเภอเมืองตราด จงั หวัดตราด 2) เจ้าหน้าท่ีสานักสืบสวนและกิจการพเิ ศษ (สสก.) เข้าพักโรงแรมบาราลี บีช รีสอรท์ แอนด์ สปา อาเภอเกาะชา้ ง จังหวดั ตราด วนั จันทร์ท่ี 22 พฤศจิกายน ๒๕64 08.0๐ น. - คณะผู้บรหิ ารและเจ้าหนา้ ที่ (TaC Team) (เดินทางดว้ ยรถยนต)์ ออกเดนิ ทางจาก สานกั งาน ป.ป.ช. ถนนนนทบุรี จงั หวดั นนทบุรี เพ่ือเดินทางไปจงั หวัดตราด 09.30 น. - คณะผู้บรหิ ารและเจา้ หน้าท่ี (เดินทางดว้ ยเคร่ืองบนิ โดยสาร) พร้อมกนั ท่ีท่าอากาศยาน สวุ รรณภมู ิ อาเภอบางพลี จังหวดั สมทุ รปราการ 11.40 น. - คณะผู้บรหิ ารและเจา้ หน้าท่ี (TaC Team) (เดินทางดว้ ยเคร่ืองบินโดยสาร) ออกเดนิ ทางจากท่าอากาศยานสวุ รรณภมู ิ ด้วยสายการบนิ บางกอกแอรเ์ วย์ ไปจงั หวัดตราด (ถึงทา่ อากาศยานตราด เวลา 12.40 น.) /14.45 น. …
- 2 - Version_8_สำหรับ TaC Team เทำ่ น้นั 14.45 น. - คณะผบู้ รหิ ารและเจ้าหนา้ ที่ (TaC Team) (เดินทางด้วยเครือ่ งบินโดยสาร) ใช้เรือขา้ มฝากอ่าวธรรมชาติ (ขาไป เวลา 14.45 น.) เพ่ือเดินทางไปเกาะช้าง * สำหรบั คณะผบู้ รหิ ำรและเจ้ำหน้ำที่ที่เดินทำงดว้ ยรถยนต์ สำมำรถเดนิ ทำงข้ำมไป เกำะช้ำงได้ตำมเวลำท่ีเหมำะสม 15.30 น. - คณะผบู้ รหิ ารและเจา้ หนา้ ที่ (TaC Team) เดนิ ทางถงึ อาเภอเกาะชา้ ง จงั หวัดตราด 15.30 – 17.00 น. - ลงพนื้ ท่เี ก็บข้อมูลเพ่ือวิเคราะห์สภาพปญั หาและข้อเทจ็ จริงตามประเด็นความเส่ียง การทจุ รติ ด้านทรัพยากรธรรมชาติ กรณี การบกุ รุกพื้นท่อี ุทยานแห่งชาตหิ มเู่ กาะชา้ ง จุดที่ 1 บริเวณใกลเ้ คยี งจดุ ชมวิวไก่แบ้ - ปัญหากรณีการออกโฉนดเพิ่มข้ึนจากหลกั ฐานแบบแจง้ การครอบครองท่ีดิน (ส.ค. 1) จานวน 14 ไร่ นามาออกโฉนดทดี่ ิน จานวน 40 ไร่ - มีสง่ิ ปลูกสร้างรกุ ลา้ ทะเล 18.00 น. - เข้าพักโรงแรมบาราลี บชี รสี อรท์ แอนด์ สปา และรบั ประทานอาหารเย็น 19.00 – 21.00 น. - ประชุมหารือระหวา่ งผู้บริหารสานกั งาน ป.ป.ช. สว่ นกลาง สานกั งาน ป.ป.ช. ภาค และสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจงั หวดั ตราด เพอ่ื หารือ ดงั นี้ (1) สรุปและประเมินผลการลงพืน้ ที่ จุดที่ 1 บริเวณใกล้เคียงจุดชมวิวไกแ่ บ้ (2) ซักซ้อมเตรียมการกิจกรรมต้านและลดทุจรติ ด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณี พนื้ ที่เสยี่ งต่อการทจุ ริต (STRONG : Together against Corruption – TaC) ประเด็น ความเสยี่ งการทุจริตด้านทรัพยากรธรรมชาติ กรณี การบุกรุกพื้นท่ี อุทยานแห่งชาติหมูเ่ กาะชา้ งในวันต่อไป 21.00 น. - พักค้าง วันองั คารที่ 23 พฤศจิกายน ๒๕64 07.00 น. - รับประทานอาหารเชา้ 08.00 – 14.30 น. - ลงพน้ื ท่ีเก็บข้อมลู เพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหาและข้อเท็จจรงิ ตามประเด็นความเส่ียง การทุจรติ ด้านทรัพยากรธรรมชาติ กรณี การบุกรุกพน้ื ทอี่ ุทยานแหง่ ชาตหิ มเู่ กาะช้าง จดุ ที่ 2 – 4 ดงั น้ี จดุ ที่ 2 อนุสรณส์ ถานยทุ ธนาวี สภาพปญั หา : การก่อสร้างรสี อร์ทลว่ งล้าเขตอทุ ยานแห่งชาติ และมโี ครงการก่อสร้างอาคารรปู เรอื ขนาดใหญ่ โดยใชง้ บประมาณ ขององค์การบรหิ ารสว่ นจังหวัด แต่อาคารถกู ทิ้งร้าง ไมไ่ ดใ้ ช้งาน จุดท่ี 3 บรเิ วณชุมชนบา้ นเจก๊ แบ้ สภาพปญั หา : การถือครองที่ดนิ ในแนวเขตอทุ ยานแหง่ ชาติ ทบั ซอ้ นกบั พื้นทขี่ องชุมชน *พักรบั ประทำนอำหำรกลำงวัน เวลำ 12.00 น. ณ หนว่ ยพิทักษอ์ ุทยำนฯ (นำตกธำรมะยม) /จุดท่ี 4 …
- 3 - Version_8_สำหรับ TaC Team เทำ่ นั้น จุดท่ี 4 บริเวณชมุ ชนบ้านบางเบา้ สภาพปัญหา : การถือครองท่ีดนิ ทบั ซ้อนแนวเขตของอุทยานแห่งชาติ และการแกไ้ ขปญั หาของหนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วข้อง 14.30 – 15.00 น. - เดนิ ทางกลับโรงแรมบาราลี บชี รสี อร์ท แอนด์ สปา 15.00 – 18.00 น. - ประชมุ หารอื รว่ มกบั ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ตราด หวั หน้าสว่ นราชการท่เี ก่ียวข้อง ผู้บริหารสานักงาน ป.ป.ช. สว่ นกลาง สานักงาน ป.ป.ช. ภาค สานกั งาน ป.ป.ช. ประจาจงั หวัดตราด และเครอื ขา่ ยภาคประชาชน (ชมรม Strong – จติ พอเพียง ตา้ นทุจริต) เพ่อื ให้ไดข้ ้อตกลงร่วมในการดาเนนิ การแก้ไขปญั หาระหว่างจังหวัด กบั สานกั งาน ป.ป.ช. ประจาจังหวดั ตราด ตลอดจนแนวทางในการดาเนนิ การ ระยะต่อไปของสานกั ในโครงการ TaC Team (รับประทำนอำหำรว่ำงและเครอื่ งดม่ื เวลำ 15.30 น.) 18.00 น. - รับประทานอาหารเย็น 18.00 – 21.00 น. - ประชุม TaC Team เพ่ือสรุปและประเมนิ ผล พร้อมท้ังกาหนดข้อตกลง ในการขบั เคลือ่ นงานเพื่อตา้ นและลดทุจริตด้วยกลไกสหยทุ ธ์ฯ ระหว่างสานกั งาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง และสว่ นภมู ภิ าค ในระยะต่อไป 21.00 น. - พกั ค้าง วันพุธท่ี 24 พฤศจิกายน ๒๕64 08.00 น. - คณะผู้บริหารและเจา้ หน้าที่ (TaC Team) ออกเดนิ ทางจากโรงแรมบาราลี บีช รสี อรท์ แอนด์ สปา อาเภอเกาะชา้ ง จงั หวดั ตราด 09.15 น. - คณะผ้บู ริหารและเจา้ หน้าท่ี (TaC Team) เดินทางข้ึนฝงั่ ด้วยเรือเฟอร่ี 10.00 น. - คณะผ้บู รหิ ารและเจ้าหน้าท่ี (TaC Team) (เดินทางดว้ ยรถยนต์) ออกเดินทางจาก จงั หวัดตราด ไปสานักงาน ป.ป.ช. ถนนนนทบรุ ี จังหวัดนนทบุรี 11.00 น. - คณะผูบ้ ริหารและเจ้าหนา้ ที่ (เดนิ ทางด้วยเครือ่ งบินโดยสาร) พร้อมกนั ที่ทา่ อากาศยานตราด 12.00 น. - คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ (เดินทางด้วยเครื่องบินโดยสาร) รบั ประทานอาหากลางวัน ณ ทา่ อากาศยานตราด 13.10 น. - คณะผบู้ ริหารและเจา้ หน้าท่ี (เดินทางดว้ ยเคร่ืองบินโดยสาร) เดินทางจาก ท่าอากาศยานตราด ไปทา่ อากาศยานสวุ รรณภมู ิ ด้วยสายการบนิ บางกอกแอร์เวย์ (ถงึ เวลา 14.10 น.) 16.00 น. - คณะผบู้ รหิ ารและเจ้าหน้าท่ี (TaC Team) เดนิ ทางถึงสานักงาน ป.ป.ช. โดยสวัสดิภาพ ----------------------------------- หมายเหตุ 1. กาหนดการอาจมีการเปลีย่ นแปลงได้ตามความเหมาะสม 2. ให้สานักในโครงการ TaC Team ส่งรายงานสรุปผลการดาเนินกจิ กรรมตา้ นและลดทุจริต ดว้ ยกลไกสหยุทธฯ์ พนื้ ท่จี งั หวดั ตราด ตามภารกิจของสานัก ไปยงั สานกั มาตรการเชิงรุก และนวตั กรรม ภายในวนั ที่ 30 พฤศจกิ ายน 2564
กำหนดกำรประชุมหำรือ เพือ่ ใหไ้ ดข้ อ้ ตกลงร่วมกนั ในกำรดำเนินกำรแกไ้ ขปัญหำควำมเสี่ยงกำรทุจรติ ดำ้ นทรพั ยำกรธรรมชำติ วนั องั คำรท่ี 23 พฤศจิกำยน 25๖๒ เวลำ 15.00 น. ณ บำรำลี รีสอรท์ แอนด์ สปำ อำเภอเกำะช้ำง จงั หวัดตรำด - การนาเข้าสูป่ ระเดน็ จากการลงพื้นท่ี และการแนะนาผู้เข้าร่วมประชุม โดย นางฐิตวิ รดา ประดิษฐเพชร ผู้อานวยการสานักมาตรการเชิงรกุ และนวตั กรรม - ชีแ้ จงวัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ โดย นางแก้วตา ชยั มะโน ผ้อู านวยการสานักส่งเสรมิ และบรู ณาการการ มีสว่ นรว่ ม - ข้อมูลสภาพปัญหาความเสยี่ งการทจุ ริตดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ โดย ผู้ชว่ ยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 2 และผูอ้ านวยการสานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัดตราด กำรนำเสนอประเด็นปัญหำ ควำมเหน็ และข้อเสนอแนะจำกกำรลงพื้นที่ 4 จดุ ของหน่วยงำนภำยในพ้ืนท่ี 1. หวั หน้าอทุ ยานแห่งชาตหิ มูเ่ กาะชา้ ง 2. ปลัดจังหวดั ตราด 3. นายอาเภอเกาะช้าง 4. ผแู้ ทนสานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มจังหวดั ตราด 5. ผูแ้ ทนสานักงานทดี่ นิ จงั หวดั ตราด 6. ผูแ้ ทนสานักงานเจา้ ทา่ ภมู ภิ าค สาขาตราด 7. ผแู้ ทนสานกั งานโยธาธกิ ารและผงั เมืองจังหวดั ตราด กำรนำเสนอควำมเหน็ และข้อเสนอแนะของสำนกั งำน ป.ป.ช. 1. ผู้แทนผู้อานวยการสานกั ไตส่ วนคดีทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม 2. ผู้อานวยการสานักสง่ เสริมและบรู ณาการการมสี ่วนรว่ ม 3. ผู้แทนสานักประเมนิ คณุ ธรรมและความโปรง่ ใส 4. ผู้อานวยการสานักการขัดกันแห่งผลประโยชน์ 5. ผอู้ านวยการสานกั วิจัยและบริการวชิ าการดา้ นการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ 6. ผอู้ านวยการสานกั ตา้ นทจุ ริตศึกษา 7. ผอู้ านวยการกองปราบปรามการทุจรติ ในภาครัฐ 2 (สานกั งาน ป.ป.ท.) 8. ผอู้ านวยการสานกั มาตรการเชงิ รุกและนวัตกรรม ประเดน็ การติดตามและผลักดันมาตรการด้านการป้องกันการทจุ ริตด้านทรัพยากรธรรมชาติ ไปส่กู ารปฏิบตั ิ และการเสนอมาตรการและข้อเสนอแนะในระยะต่อไป แนวทำงกำรดำเนนิ กำรของจังหวัดตรำด โดย ผวู้ ่าราชการจังหวัดตราด
โครงการต้านและลดทจุ รติ ด้วยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพาะกรณีพน้ื ท่ีเส่ียงตอ่ การทุจรติ (STRONG : Together against Corruption – TaC) ครั้งท่ี 2 ระหวา่ งวันท่ี 22 – 24 พฤศจิกายน 2564 รบั ผดิ ชอบ โดย ส านกั มาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม หลกั การและเหตผุ ล จากการที่สานักงาน ป.ป.ช. โดยสานักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต ร่วมกับ สานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัดท้ัง ๗๖ จังหวัด และสานักงาน ป.ป.ช. ภาค ๑-๙ ได้ร่วมกันดาเนินโครงการ STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต อย่างต่อเนื่องมาต้ังแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จนสามารถสร้างกลไกการ รวมตัวที่เข้มแข็งของภาคประชาชน ในนามชมรม STRONG ท่ัวประเทศ กลายเป็นชุมชนที่รังเกียจการทุจริต และมีการขับเคลื่อนกิจกรรมร่วมกันท้ังในการขยายเครือข่ายเพ่ือสร้างกลุ่มคนที่มีความรู้และตระหนักถึงภัย อันตรายจากการทุจรติ ตามโมเดล STRONG และการรวมตัวกันตอ่ ต้านการทุจรติ ดว้ ยการไม่ยอม ไม่ทน ไมเ่ ฉย รว่ มกันเคล่ือนไหวผลักดันเพื่อนาประเด็นปัญหาไปสู่การแก้ไขได้ด้วยพลังของภาคประชาชน กิจกรรมดังกล่าว ภายใต้โครงการ STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ที่ดาเนินการมาอย่างต่อเน่ืองได้สร้างให้เกิดกระบวนการท่ี เป็นรูปธรรมในการจับตามองและแจ้งเบาะแส (Watch and Voice) ของภาคประชาชน ทั้งกรณีที่เป็นความ เส่ียงต่อการทุจริต การกระทาผิดกฎหมาย ตลอดจนการขัดกันของผลประโยชน์ หรือความเดือดร้อนของ ประชาชนในพื้นท่ี ให้ได้รับการป้องกันหรือระงับยับยั้งได้อย่างทันท่วงที รวมท้ังได้รับการปรับปรุงแก้ไขจาก หน่วยงานท่เี กีย่ วขอ้ งอย่างรวดเร็ว ผลจากการมสี ่วนรว่ มแจ้งเบาะแสของภาคประชาชนชมรม STRONG-จิตพอเพยี งตา้ นทุจรติ ในทกุ พืน้ ที่ ทั่วประเทศ ได้สะสมเป็นฐานข้อมูลท้ังในมิติด้านพื้นที่ (Area based) ด้านเวลา (Time based) และด้าน กลุ่มเป้าหมาย (Target based) ซึ่งได้นามาต่อยอดสู่การวิเคราะห์ประเด็นความเส่ียงต่อการทุจริตเพ่ือกาหนด ลงในแผนท่ีทุกอาเภอท่ัวประเทศ ผ่านโครงการปักหมุดพื้นท่ีเส่ียงต่อการทุจริตและโครงการพัฒนาแผนท่ีพ้ืนที่ เสี่ยงต่อการทุจริตผ่านการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ซึ่งเป็นสองโครงการท่ีดาเนินการต่อเน่ืองกันมาต้ังแต่ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ และในปัจจุบัน สานักงาน ป.ป.ช. ได้ใชป้ ระโยชน์จากแผนที่พื้นท่เี ส่ยี งต่อการทุจริต (Corruption Risk Mapping) มาบูรณาการรว่ มกับข้อมูลอื่น ๆ เช่น สถติ ิคดีและสถานการณ์การทุจริต ผลการ ประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (Integrity and Transparency Assessment-ITA) การสารวจการรับรู้การ ทุจริตประจาปี ฯลฯ เพ่ือวางแผน กาหนดแนวทางการปฏิบัติงาน ตลอดจนการดาเนินโครงการและกิจกรรม ด้านป้องกนั การทุจรติ ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ทง้ั น้ี รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปพี ุทธศักราช 2560 ประกอบกับพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 รวมถึงแผนแม่บทและยุทธศาสตร์ใน ระดับต่าง ๆ ได้กาหนดให้ประชาชนชาวไทยมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจรติ และรัฐต้องจัดให้มกี ารส่งเสรมิ การ ป้องกันการทุจริต ยับย้ังการทุจริต รวมถึงการพัฒนานวัตกรรม และการบูรณาการภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อการ ป้องกันการทุจริตเชิงรุก เพ่ือหยุดการทุจริตก่อนจะเกิดความเสียหายขึ้น ดังนั้นเพ่ือเป็นการตอบสนองต่อการ ดาเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมาย สานักงาน ป.ป.ช. จึงได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างหน่วยงานด้านการ ป้องกันการทุจริตเพ่ือให้รองรับกับรูปแบบภารกิจที่เปล่ียนแปลงไป และได้กาหนดขอบเขตงานให้ครอบคลุม การป้องกันการทุจริตในทุกมิติตามท่ีกาหนดในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจรติ พ.ศ. 2561 ไดแ้ ก่
- งานพัฒนามาตรการเชิงรุกและนวัตกรรมป้องกันการทุจริต เพ่ือให้เกิดแนวทางในการแก้ไข ปัญหาการทุจริตอย่างเป็นระบบ รวมทั้งมีการสนับสนุน ติดตามหน่วยงานที่เก่ียวข้องให้ดาเนินการตาม มาตรการป้องกันการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสานักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรมรับผิดชอบ ดาเนนิ การภารกจิ ดงั กล่าวตามมาตรา ๓๒ - การพัฒนาและผลักดันหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาสู่การนาไปใช้ในการเรียนการสอนของ ทุกกล่มุ เปา้ หมายทุกระดับช้ันของสานกั ตา้ นทจุ ริตศึกษา และภารกิจส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทกุ ภาคส่วนเพ่ือ ร่วมกันต่อต้านการทุจริต ท้ังเครือข่ายภาคประชาชนในนามชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตที่มีอ่ยู่ทุก ภาคท่ัวประเทศ และเครือข่ายภาคส่วนอื่น ๆ ที่ดาเนินการโดยสานักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วม ตา้ นทุจริต ซ่ึงเป็นการดาเนินการตามมาตรา ๓๓ - งานการป้องกันการทุจริตเชิงรุกด้วยการพัฒนานวัตกรรมที่เก่ียวข้องกับการยกระดับ มาตรฐานการปฏิบตั ิงานของหน่วยงานภาครัฐให้มีความโปร่งใส เพ่ือให้หนว่ ยงานภาครฐั สามารถปฏิบัติภารกิจ และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นภารกิจของสานักประเมิน คุณธรรมและความโปร่งใส - การสรา้ งความรู้ความเข้าใจ การป้องกัน และลดการกระทาความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ เป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมและผลประโยชน์ส่วนตัว ซ่ึงเป็นความรับผิดชอบของสานักการ ขัดกนั แห่งผลประโยชน์ ตามมาตรา ๑๒๖ มาตรา ๑๒๗ และมาตรา ๑๒๘ นอกเหนือจากสานักที่เป็นโครงสร้างใหม่ท่ีเกิดจากการปรับเปล่ียนเพื่อรองรับการปฏิบัติภารกิจตาม หน้าท่แี ละอานาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใต้พระราชบัญญตั ิประกอบรฐั ธรรมนูญวา่ ดว้ ยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 แล้ว ในปัจจุบันสานักงาน ป.ป.ช. ยังมุ่งเน้นการดาเนินงานในลักษณะบูรณาการ การทางานร่วมกันของสานักต่าง ๆ ท่ีขยายวงกว้าง ไม่เฉพาะเพียงการบูรณาการในกลุ่มสานักที่มีภารกิจด้าน การป้องกันการทุจริตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทางานร่วมกันระหว่างกลุ่มสานักด้านป้องกันการทุจริต และ สานักอ่ืน ๆ ท่ีมีความสัมพันธ์เช่ือมโยงสนับสนุนกัน เพ่ือให้ภารกิจของสานักงาน ป.ป.ช. บรรลุผลสัมฤทธิ์ อาทิ สานักส่ือสารองค์กร ที่มีภารกิจในการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจที่ ถูกต้องเกี่ยวกับภัยของการทุจริต และส่งเสริมให้ประชาชนประสงค์จะเข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์ต่อต้านการ ทุจริต สานักสืบสวนและกิจการพิเศษ ท่ีมีภารกิจดาเนินการเก่ียวกับการสืบสวนในกรณีท่ีมีเหตุอันควรสงสัยตาม อานาจหน้าท่ีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสานักงาน ป.ป.ช. รวมตลอดถึงสานักวิจัยและบริการวิชาการด้าน ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งมีภารกิจพัฒนาผลงานทางวิชาการเพื่อนาไปสู่การพัฒนากระบวนการ ทางานท้ังในด้านการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน จึงเห็นได้ว่าส่ิงที่สาคัญ คือ งานของสานักงาน ป.ป.ช. ภายใต้โครงสร้างภารกิจใหม่มีความเช่ือมโยงกันอย่างเป็นระบบ สอดประสาน การทางานภายใตแ้ ผนงาน/โครงการท่ถี กู ออกแบบไว้ การเชื่อมโยงภารกิจงานในรปู แบบดังกลา่ วของสานักงาน ป.ป.ช. จึงเป็นทม่ี าของแนวทางสาคญั ในการ ใชป้ ระโยชน์จากฐานขอ้ มลู ที่สานกั งาน ป.ป.ช. มีอยู่ อาทิ สถิติคดี การแจ้งเบาะแสของภาคประชาชน ประเด็น ความเสี่ยงจากแผนที่พื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต และผลการประเมิน ITA ของหน่วยงานภาครัฐ มาวิเคราะห์เพ่ือ ประเมินสถานการณ์การทุจริตในแต่ละพื้นที่ จาแนกประเด็นการทุจริต ระดับความรุนแรง ห้วงระยะเวลา ตลอดจนหน่วยงานหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อนาไปสู่การแก้ไขปัญหาในแต่ละประเด็นได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ ดังนั้น สานักงาน ป.ป.ช. จึงเห็นควรดาเนินโครงการในลักษณะบูรณาการสานักต่าง ๆ ท่ีมีภารกิจ เก่ียวข้องและเช่ือมโยงต่อเน่ืองกันเพื่อบรรลุผลสัมฤทธิ์ในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ภายใต้ “โครงการ ต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพ้ืนที่เส่ียงต่อการทุจริต (STRONG: Together Against Corruption-TAC)” ซ่ึงจะดาเนินการต่อเนื่องระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐ โดยมีกระบวนการที่
สาคัญ ประกอบดว้ ย การร่วมกนั คดั เลอื กประเด็นปัญหาผ่านการวิเคราะห์และสงั เคราะหจ์ ากฐานข้อมูลท้งั หมด ของสานักงาน ป.ป.ช. เพ่ือกาหนดประเด็นและพ้ืนท่ีที่จะดาเนินโครงการ จากน้ันจึงนาไปสู่การพัฒนาแนวทาง ในการแก้ไขปัญหาตามภารกิจของสานกั ต่าง ๆ อาทิ การนาประเด็นการทุจริตหรือประเดน็ ความเสย่ี งมาจัดทา เป็นหลักสูตร องคค์ วามรู้ หรือชดุ ข้อมูลที่จาเปน็ เพื่อสนบั สนุนการป้องกันการทจุ ริต และลดการกระทาความผิด ตามบทบัญญัติว่าด้วยการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมและผลประโยชน์ส่วนตัว การดาเนินการร่วมกับ หน่วยงานทเี่ ก่ยี วข้องท้ังภายในและภายนอกสานกั งาน ป.ป.ช. เพ่ือกาหนดมาตรการหรือแนวทางในการปอ้ งกัน การทุจริตที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐท่ีเก่ียวข้องกับประเด็นปัญหาน้ัน ๆ ด้วย การให้คาปรึกษา แนะนาตามแนวทางการยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใส ตลอดจนการนาผลการดาเนินงาน ไปขยายผล สู่การพัฒนาเป็นผลงานทางวิชาการเพื่อการพัฒนากระบวนการท้ังด้านการป้องกันและการ ปราบปรามการทจุ ริต ทั้งนี้ ในทุกขั้นตอนของการดาเนินโครงการจะใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและ กระบวนการสอ่ื สารประชาสัมพันธ์เพอื่ สร้างการรับรู้ การยอมรับ และร่วมกันขับเคล่อื นผลักดันการแกไ้ ขปัญหา ในทุกประเด็นให้ประสบผลสาเร็จตามเป้าหมาย โดยการทางานภายใต้โครงการน้ีจะมุ่งเน้นท่ีความเช่ือมโยง ระหว่างงานของสานักงาน ป.ป.ช. ในส่วนกลางกับงานในส่วนภูมิภาค ได้แก่ สานักงาน ป.ป.ช.ภาค และ สานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัด ซ่ึงจะต้องสนับสนุนการดาเนินโครงการในทุกขั้นตอนในฐานะผู้รับผิดชอบใน ระดับพ้ืนท่ี รวมทั้งงานเครือข่ายการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนจากชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ดังน้ัน โครงการต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพ้ืนที่เสี่ยงต่อการทุจริต (STRONG: Together Against Corruption-TAC) จึงเป็นโครงการที่ตอบโจทย์การบูรณาการท้ังภายในและภายนอกสานักงาน ป.ป.ช. เพ่ือนาไปสู่ความสาเรจ็ ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (๒๑) ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ ท่ีกาหนดเป้าหมายไว้ทั้งในด้านการดาเนินการเพื่อให้ประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรม ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ และใหม้ จี านวนคดที จุ รติ และประพฤตมิ ชิ อบลดลง แผนผงั การทางานโครงการฯ
วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อสร้างให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องในการ รว่ มกันแกไ้ ขปัญหาการทุจริตในระดบั พืน้ ที่ ๒. เพ่ือนาประเดน็ การทุจรติ หรือประเด็นความเสยี่ งมาจัดทาเป็นหลักสูตร องค์ความรู้ หรือชุดข้อมูล ที่จาเปน็ เพ่อื สนบั สนนุ การป้องกนั การทุจริต 3. เพ่ือนาข้อมูลสู่การกาหนดมาตรการหรือแนวทางในการป้องกันการทุจริต รวมท้ังแนวทางการ ติดตามการผลักดนั มาตรการสู่การปฏบิ ตั ทิ ่ีมปี ระสิทธิภาพ ๔. เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ การป้องกัน และลดการกระทาความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีเป็น การขัดกันระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นรวมและผลประโยชนส์ ่วนตวั 5. เพ่ือนาผลการดาเนินงานไปขยายผลสู่การพัฒนาเป็นผลงานทางวิชาการเพ่ือการพัฒนา กระบวนการทั้งด้านการป้องกันและการปราบปรามการทจุ ริตในประเดน็ ตา่ ง ๆ 6. เพ่ือเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจท่ีถูกต้องเกี่ยวกับ ภัยของการทุจรติ และสง่ เสรมิ ให้ประชาชนประสงคจ์ ะเข้ามามีส่วนรว่ มในการรณรงค์ต่อต้านการทุจรติ
ขอ้ มูลการลงพื้นทีร่ ะหวา่ งวันท่ี 22 – 23 พฤศจกิ ายน 2564 ประเดน็ ความเสี่ยงการทจุ ริตด้านทรพั ยากรธรรมชาติ (บุกรกุ พ้ืนที่ป่าไม/้ อทุ ยานแหง่ ชาติ) พน้ื ท่อี ุทยานแห่งชาตหิ ม่เู กาะชา้ ง อาเภอเกาะช้าง จงั หวัดตราด วันท่ี 22 พฤศจกิ ายน 2564 จุดลงพื้นท/่ี ประเด็นปัญหา/ความเส่ียง หมายเหตุ สังเกตการณ์ จุดลงพื้นที่ - กรณีปัญหาการออกเอกสารสิทธใิ นที่ดินโดยมชิ อบ จดุ ท่ี 1 มีการออกโฉนดท่ีดนิ เพิ่มข้ึนจากหลักฐานแบบแจ้งการ บรเิ วณจุดชมววิ จดุ ครอบครองที่ดนิ (ส.ค. 1) จานวน 14 ไร่ นามาออกโฉนดทดี่ นิ ชมวิวไก่แบ้ จานวน 40 ไร่ มีการดาเนนิ การตรวจสอบและแจ้งให้กรมทด่ี ิน ดาเนนิ การแก้ไขปญั หา และเอกชนได้ฟ้องรอ้ งต่อศาลปกครอง ซง่ึ ปัจจบุ ันอยูร่ ะหว่างการพจิ ารณาของศาล
จดุ ลงพ้ืนท/ี่ ประเดน็ ปญั หา/ความเสี่ยง หมายเหตุ สงั เกตการณ์ มาตรการ/ขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มาตรการ/ - มาตรการป้องกนั การทุจริตและการบุกรกุ พ้นื ที่ป่าไม้ ขอ้ เสนอแนะของ มขี ้อเสนอแนะให้การออกหนังสือแสดงสิทธใิ นท่ีดนิ พ้ืนที่ที่มี คณะกรรมการ เขตติดต่อกบั พื้นทป่ี ่าไมห้ รืออยู่ในพื้นทปี่ า่ ไม้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. คือ ตรวจพสิ จู นต์ ามกฎกระทรวงฉบบั ท่ี 43 (พ.ศ. 2537) มาตรการหรอื ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ดี ิน ความเห็นเพือ่ พ.ศ. 2497 ข้อ 10 (3) ตอ้ งรับฟงั ความเหน็ ของประชาชน ปอ้ งกันการทจุ รติ ที่ และชุมชนในพ้นื ท่ีองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ และภาคประชา คณะกรรมการ สงั คมในพื้นท่ี เปน็ ข้อมูลประกอบการพิจารณาทุกครัง้ ป.ป.ช. เหน็ ชอบให้ - มาตรการปอ้ งกันการทุจรติ เพือ่ แก้ไขปัญหาการออก เสนอคณะรัฐมนตรี เอกสารสิทธิในที่ดนิ โดยมิชอบ มีข้อเสนอแนะให้ยกเลิกแบบ ตามมาตรา 32 แจ้งการครอบครองท่ีดนิ (ส.ค. 1) โดยให้มกี ารแก้ไขมาตรา 8 แห่งพระราชบญั ญัติแกไ้ ขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายทดี่ ิน (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551
วนั ท่ี 23 พฤศจกิ ายน 2564 จุดลงพ้ืนท/่ี ประเด็นปัญหา/ความเสี่ยง หมายเหตุ สังเกตการณ์ - กรณกี ารบุกรุกก่อสรา้ งรีสอรท์ ล่วงล้าเขตอุทยาน จดุ ลงพนื้ ที่ จดุ ท่ี 2 แห่งชาติ ซง่ึ ได้มกี ารออกคาสั่งทางปกครองให้ทางรสี อร์ท บริเวณอนุสรณ์ รอ้ื ถอนแล้ว และเอกชนได้มกี ารฟ้องร้องต่อศาลปกครอง สถานยทุ ธนาวี ซงึ่ ปจั จุบันอยูร่ ะหว่างการพจิ ารณาของศาลปกครองสูงสดุ - กรณโี ครงการก่อสร้างขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั (อบจ.) มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญเ่ ป็นรูปเรอื (งบประมาณกอ่ สร้างประมาณ 8 ลา้ นบาท) แต่อาคารได้ถูก ทง้ิ รา้ งและไม่มีการใชป้ ระโยชน์ จดุ ท่ี 3 มาตรการ/ขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. บรเิ วณชมุ ชน - มาตรการปอ้ งกันการทุจริตและการบุกรุกพ้ืนท่ปี ่าไม้ บา้ นเจก๊ แบ้ มีข้อเสนอแนะให้มีมาตรการทางกฎหมายห้ามมิให้ หนว่ ยงานของรัฐดาเนินการจัดให้มสี าธารณปู โภคและ สาธารณูปการหรือบริการอ่นื ใดของรัฐในพน้ื ที่ท่อี ยู่ในเขต พนื้ ทีป่ า่ ไม้ หรือยังไม่มีข้อยุติเร่อื งสทิ ธใิ นท่ีดินวา่ บุกรุกพื้นที่ ปา่ ไม้หรือไม่ ท้งั ในการให้บา้ นเลขท่ี น้าประปา ไฟฟา้ และ มาตรการทางกฎหมายลงโทษ ผู้ซ้อื และผขู้ ายสทิ ธิในทด่ี นิ ท่เี ป็นเขตหวงหา้ มของรัฐทุกประเภท - ประเดน็ ปัญหาการถือครองที่ดนิ ในแนวเขตอทุ ยาน จุดสังเกตการณ์ แหง่ ชาติทับซ้อนกบั พน้ื ทีข่ องชมุ ชน ผ้มู ีอิทธพิ ลเปน็ แกนนาให้ชาวบ้านเรียกรอ้ งให้มีการ เพิกถอนแนวเขตอุทยานแห่งชาติ ทไ่ี ปประกาศทับซ้อนกับ พ้ืนท่ีของชุมชน โดยอุทยานแห่งชาตฯิ แจง้ วา่ ประชาชนท่มี ี เอกสารและหลกั ฐานทางที่ดนิ เชน่ ส.ค. 1 น.ส. 3 สามารถ นาไปออกเป็นโฉนดที่ดนิ ได้ ตามกระบวนการของประมวล กฎหมายทด่ี นิ และปัจจบุ นั พระราชบัญญัติอุทยานแหง่ ชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 64 ไดก้ าหนดให้มกี ารสารวจการถือ ครองท่ีดนิ ในเขตอุทยานแหง่ ชาติ และให้สามารถถือครอง และทากนิ ได้ในลักษณะการใหส้ ิทธิครอบครองและตกทอด ไปยงั ทายาทได้ โดยไมใ่ ห้กรรมสทิ ธทิ์ ีส่ ามารถซ้ือขายทดี่ นิ ได้ อยา่ งไรกต็ าม มีแกนนาชาวบา้ นในพน้ื ทบี่ างส่วน ท่ีต้องการให้มีการเพกิ ถอนแนวเขตอุทยานแห่งชาติ ในเขตชมุ ชนทั้งหมด มาตรการ/ขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. - มาตรการปอ้ งกนั การทุจริตและการบุกรกุ พน้ื ที่ปา่ ไม้ มขี ้อเสนอแนะให้ต้องเร่งรดั การพิสจู นส์ ิทธิครอบครอง ในทีด่ ินปา่ ไม้ตามมตคิ ณะรฐั มนตรี เม่ือวนั ท่ี ๓๐ มถิ ุนายน
จุดลงพ้นื ท/่ี ประเด็นปัญหา/ความเสี่ยง หมายเหตุ สงั เกตการณ์ ๒๕๔๑ พร้อมทั้งกาหนดแนวทางดาเนินการรับรองสิทธแิ ละ การเยยี วยาผูท้ ่ีได้รบั ผลกระทบใหเ้ ป็นรูปธรรมชดั เจน โดยรัฐต้องให้การสนบั สนนุ งบประมาณในการดาเนินการ จุดท่ี 4 - ประเดน็ ปญั หาการถือครองท่ีดนิ ในเขตอทุ ยาน จดุ ลงพน้ื ท่ี บรเิ วณชมุ ชน แห่งชาติทับซ้อนกบั พนื้ ทข่ี องชมุ ชน โดยพ้นื ที่ชมุ ชนบ้าน บา้ นบางเบ้า บางเบ้ามกี ารแก้ไขปัญหากบั อทุ ยานแห่งชาติ และไดม้ ีการ ผอ่ นผันให้มกี ารครอบครองและทาประโยชนไ์ ด้ภายใน ขอบเขตพนื้ ทีท่ ก่ี าหนด ทัง้ น้ี มกี ารบกุ รุกเกินขอบเขตแต่ได้ มีการรอ้ื ถอนสิ่งก่อสร้างโดยชุมชนใหค้ วามยินยอม มาตรการ/ขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. - มาตรการปอ้ งกันการทุจริตและการบุกรุกพ้นื ท่ปี า่ ไม้มี ข้อเสนอแนะให้ต้องเร่งรัดการพิสจู นส์ ทิ ธคิ รอบครองในท่ีดนิ ปา่ ไม้ตามมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันที่ ๓๐ มิถนุ ายน ๒๕๔๑ พรอ้ มทงั้ กาหนดแนวทางดาเนินการรับรองสทิ ธแิ ละการ เยยี วยาผทู้ ไ่ี ดร้ บั ผลกระทบให้เปน็ รูปธรรมชัดเจน โดยรฐั ต้องให้การสนับสนุนงบประมาณในการดาเนินการ ภาพพ้นื ที่กรณีรีสอรท์ ล่วงลา้ เขตอุทยานแห่งชาติ (จุดที่ 2)
มาตรการ ความเห็น และข้อเสนอแนะเพ่ือปอ้ งกนั การทจุ รติ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกีย่ วกับการปอ้ งกนั การบกุ รุกพื้นทปี่ ่าไม้ และการออกเอกสารสิทธใิ นทด่ี นิ โดยมิชอบ คณะกรรมการ ป.ป.ช. หน้าท่ีและอานาจตามพระราชบัญญัติประกอบรฐั ธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 เกี่ยวกับการเสนอมาตรการ ความเห็น หรือข้อเสนอแนะ เพ่ือป้องกัน การทจุ ริต ดังน้ี “มาตรา ๓๒ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่และอานาจเสนอมาตรการ ความเห็น และข้อเสนอแนะ ตอ่ คณะรัฐมนตรี รัฐสภา ศาล องค์กรอสิ ระ หรอื องค์กรอัยการในเรือ่ งดงั ต่อไปน้ี (1) ปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรอื หน่วยงานของรัฐ เพื่อป้องกันหรอื ปราบปรามการทจุ ริต การกระทาความผดิ ต่อตาแหนง่ หน้าท่ีราชการหรือ การกระทาความผดิ ต่อตาแหน่งหน้าทใ่ี นการยุตธิ รรม (๒) จัดให้มีมาตรการและกลไกท่ีมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและ ประพฤติมชิ อบ ทัง้ ในภาครฐั และภาคเอกชนอย่างเข้มงวด (๓) เสนอแนะให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมาตรการใดที่เป็น ช่องทางให้มีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเป็นเหตุให้เจ้าหน้าท่ีของรัฐไม่อาจปฏิบัติหน้าท่ีให้เกิดผลดีต่อ ราชการได้” ปัญหาการป้องกันการบุกรุกพื้นท่ีป่าไม้และการออกเอกสารสิทธิในท่ีดินโดยมิชอบ มีความสาคัญ ที่จาเป็นต้องมีการดาเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เน่ืองจากในแต่ละปีมีเร่ืองกล่าวหาร้องเรียนเก่ียวกับ ปัญหาดังกลา่ วเป็นจานวนมากทเี่ จ้าหน้าท่ีของรฐั เข้าไปมีสว่ นเกี่ยวขอ้ งให้การสนบั สนุนหรือเป็นตัวการ กรณีไม่ มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ท่ีสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการบุกรุกด้วย สานักงาน ป.ป.ช. โดยสานักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรมจึงได้มีการศึกษามาตรการป้องกันการทุจริตและ การบุกรุกพ้ืนท่ีป่าไม้ และมาตรการป้องกันการทุจริตเพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบ และเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อมีมติให้เสนอมาตรการ ความเห็น และข้อเสนอแนะเพื่อปอ้ งกันการทุจริต ในกรณดี งั กลา่ วตอ่ คณะรฐั มนตรีตามหนา้ ท่ีและอานาจ โดยแต่ละมาตรการมีรายละเอยี ดดังนี้ 1. มาตรการปอ้ งกันการทุจรติ และการบกุ รกุ พื้นท่ปี า่ ไม้ ทีม่ าและความสาคัญของปญั หา ในช่วงกว่า ๔ ทศวรรษท่ีผ่านมา ปี ๒๕๐๕ - ๒๕๕๒ ประเทศไทยสูญเสียพ้ืนที่ป่าไม้มากกว่า ๗๒ ล้านไร่ หรือเฉล่ียประมาณ 0.5 ล้านไรต่ ่อปี ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ ประเทศไทยมีพืน้ ท่ีป่าอยู่ร้อยละ ๕๓.๓ ของพื้นท่ีประเทศ หรือประมาณ ๑๗๕) ล้านไร่ แต่ในปี ๒๕๕๒ ประเทศไทยเหลือพ้ืนท่ีป่าอยู่ร้อยละ ๓๐.๔๖ ของพ้ืนที่ประเทศ หรือ ๔๔.๓๕ ล้านไร่ และปัจจบุ ันยังคงมปี ัญหาการบุกรุกพ้ืนที่ป่าไมอ้ ย่างต่อเน่ือง แนวโน้มของปัญหาดังกล่าว ทวีความรุนแรงข้ึน จากการศึกษาของคณะอนุกรรมการป้องกันการทุจริตด้านความม่ันคงในคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า การบุกรุกพื้นท่ีป่าไม้มีสาเหตุสาคัญมาจากการ ดาเนินงานของรัฐ ที่ผ่านมาขาดความเป็นเอกภาพ นโยบายขาดความชัดเจนและต่อเน่ือง ความขาดแคลน ทรัพยากรทางการบริหารของหน่วยงานท่ีรับผิดชอบท้ังด้านบุคลากร งบประมาณ เคร่ืองมือเคร่ืองใช้ และเทคโนโลยี กฎหมายมีบทลงโทษต่า และขาดการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทุจริตหรอื เกรงกลัวอทิ ธิพลทาให้เกิดการ ละเลยตอ่ การบังคับใชก้ ฎหมาย
เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับความม่ันคงของประเทศที่มีผลกระทบในวงกว้าง คณะอนุกรรมการป้องกัน การทุจริตด้านความมั่นคง จึงมีมติในการประชุมครั้งท่ี ๔๔ - ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันจันทร์ท่ี ๒๓ มกราคม ๒๕๕๕ เห็นชอบให้ศึกษา “มาตรการป้องกันการทุจริตและการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้” ซึ่งอยู่ในอานาจหน้าที่ของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามนัยมาตรา ๑9 (11) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพ่ิมเติม พ.ศ. ๒๕๕๑ และ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ คือ “เสนอมาตรการ ความเห็น และข้อเสนอแนะตอ่ คณะรัฐมนตรี รฐั สภา ศาลหรือคณะกรรมการตรวจเงินแผน่ ดิน เพ่อื ให้มกี ารปรบั ปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ รฐั วิสาหกิจ หรือหน่วยงาน ของรัฐ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่การกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการ หรือการกระทาความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม และคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้สานักมาตรการ ป้องกันการทุจริต (ชือ่ สานกั ในขณะน้ัน) ศึกษาวิเคราะหส์ ภาพปัญหา สาเหตุและแนวทางแก้ไขปญั หาการบุกรุก ทาลายป่าซ่ึงเป็นพ้ืนที่ต้นน้าในเขตจังหวัดน่าน ตามข้อมูลท่ีสานักการข่าวและกิจการพิเศษ สานักงาน ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบพบข้อเท็จจริงในพื้นท่ีตามท่ีส่ือมวลชนได้มีการเสนอข่าวการบุกรุกทาลายป่าในพ้ืนที่จังหวัดน่าน เพื่อจัดทาเป็นมาตรการปอ้ งกันการทุจริตดว้ ย คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยคณะอนุกรรมการป้องกันการทุจริตด้านความมั่นคงจึงได้นาข้อมูลของ สานักการข่าวและกิจการพิเศษ ดังกล่าวมาใช้เป็นข้อเท็จจริงประกอบการศึกษา และทาการศึกษาข้อเท็จจริง ในพื้นท่ี ศึกษาเอกสาร กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งแบบสอบถาม ตลอดจนสอบข้อมูลความเห็นจากหน่วยงาน จงั หวดั เจ้าหนา้ ที่ และภาคส่วนตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวข้องเพือ่ จดั ทา “มาตรการป้องกนั การทุจริตและบกุ รุกพื้นที่ปา่ ไม้” สรุปสภาพปญั หา (๑) ปัญหาด้านนโยบายของรัฐ พบว่านโยบายเร่ืองป่าไม้ของชาติขาดความชัดเจน ขาดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในเร่อื งการจดั ทาแผนท่ีแสดงแนวเขตท่ีดิน เรื่องการพิสูจน์สิทธใิ นท่ีดิน และยังพบว่านโยบาย หลายอย่างขัดแย้งกัน เช่น นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว และนโยบายการป้องกันการบุกรุกพ้ืนท่ี ปา่ ไม้ เป็นตน้ (๒) ปัญหาด้านการบริหารจัดการ พบว่าขาดยุทธศาสตรแ์ ละแผนการป้องกนั การบุกรุกพื้นท่ีป่าไม้ของ ชาติโดยรวมมีหน่วยงานและองค์กรรับผิดชอบจานวนมากขาดความเป็นเอกภาพ ขาดการบริหารจัดการป่าไม้ ท่ีเป็นระบบผืนป่า และระบบลุ่มน้า ไม่มีการบริหารจัดการป่าไม้ที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชน มีการแปลแผนท่ีภาพถ่ายทางอากาศคลาดเคลื่อน ขาดการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทาความเข้าใจกับทุก ภาคสว่ นในเรือ่ งเกี่ยวกบั การบุกรุกพ้นื ท่ีปา่ ไม้ เชน่ กฎหมายท่ีเกี่ยวขอ้ ง บทลงโทษ อานาจหน้าที่ของหน่วยงาน และเจา้ หน้าทข่ี องรัฐ สิทธิและหน้าทข่ี องชุมชน เจ้าหน้าที่มีการผ่อนผันการดาเนินการตามกฎหมายกบั ผู้บุกรุก ขาดการบริหารจัดการพ้ืนที่ป่าไม่ที่ถูกบุกรุก ความขาดแคลนปัจจัยการบริหารจัดการท่ีสาคัญ ได้แก่ บุคลากร งบประมาณ เคร่อื งมือวสั ดุอุปกรณ์ และเทคโนโลยี (๓) ปัญหาด้านกฎหมาย ผลกระทบจากพระราชกฤษฎีกาปรับปรุงกระทรวงทบวงกรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ท่ีทาให้กรมปา่ ไม้ต้องแยกออกเป็น 3 หนว่ ยงาน ทาให้เจ้าหน้าท่ีผู้รบั ผิดชอบท่ีเคยมีอานาจหน้าท่ีตามกฎหมาย ในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ต้องเปล่ยี นฐานะเปน็ ราชการบรหิ ารส่วนกลางทาให้เกดิ ช่องวา่ งในการใชอ้ านาจ หน้าที่ในการดูแลปกป้องผืนป่า บทลงโทษตามกฎหมายท่ีเก่ียวข้องต่าเมื่อเปรียบเทียบกับสภาพเศรษฐกิจ และสังคมในปัจจุบัน การกระทาความผิดที่ผ่านมายังไม่สามารถสอบสวนจนนาไปสู่การนาตัวการผู้ใช้ และผู้สนับสนุนมาลงโทษได้ มีการนาทรัพย์ของกลางท่ียึดได้กลับมาใช้ในการกระทาความผิดซ้าอีก ยังไม่ สามารถลงโทษผู้ซ้ือ ผู้ขายสิทธิในที่ดินท่ีเป็นเขตหวงห้ามของรัฐได้จริง อีกทั้งยังไม่มีมาตรการทางกฎหมาย บังคับใช้ในการรับรองสิทธิและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลรักษาป่าไม้ในพื้นท่ีของตนอย่างแท้จริง องค์การบริหารส่วนจังหวัดยังไม่มีบทบาทในการคุ้มครองดูแลและบารุงรักษาป่าไม้ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อมในพ้ืนที่จังหวัดของตน ตามนัยมาตรา ๔๕ แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐ อย่างแท้จริง และพบว่าผู้บุกรุกพ้ืนท่ีป่าไม้ทั้งหมดยังคงได้รับการสนับสนุนระบบสาธารณูปโภค และสาธารณูปการ และบริการต่าง ๆ จากภาครัฐท้ังท่ีเป็นท่ียุติแล้วว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ หรือยังไม่มีข้อยุติ เรือ่ งสิทธใิ นทีด่ ินวา่ บุกรกุ พื้นที่ป่าไม้หรือไม่ ขอ้ เสนอแนะ สานักงาน ป.ป.ช. มหี นังสือ ท่ี ปช 0003/0007 ลงวันท่ี 14 มกราคม 2558 เสนอเรื่อง มาตรการ ป้องกันการทุจริตและการบุกรุกพ้ืนที่ป่าไม้ ไปยังคณะรัฐมนตรี โดยข้อเสนอแนะประกอบด้วยมาตรการ ด้านนโยบาย มาตรการมาตรการด้านบริหารจัดการ และมาตรการด้านกฎหมาย รายละเอียดข้อเสนอแนะ โดยสรุปขอ้ เสนอแนะ ดงั น้ี ๑) มาตรการด้านนโยบาย 1.1) กาหนดให้ “การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและบุกรุกพื้นท่ีป่าไม้เป็นวาระแห่งชาติ” และให้คงเป้าหมายพื้นท่ีป่าไม้ทั่วประเทศไว้ในอัตราร้อยละ ๔๐ ของพื้นที่ประเทศตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘ 1.2) ยุติโครงการเดินสารวจออกโฉนดทด่ี ินท่ัวประเทศของกรมที่ดิน หากจะดาเนินการตอ่ ต้องให้ ทกุ ภาคสว่ นในพน้ื ที่มีสว่ นรว่ มมากกว่าท่ดี าเนนิ การอยู่ในปจั จุบัน 1.3) ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดาเนินการจัดทาระวางแผนที่และแผนท่ีรูปแปลงท่ีดินในพื้นท่ี ป่าไม้ให้เป็นไปตามมาตรฐานท่ีกาหนด คือ 1 : 4,000 ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยมาตรฐาน ระวางแผนทแ่ี ละแผนท่ีรปู แปลงที่ดนิ ของรฐั พ.ศ. 2550 ขอ้ 10 และ ขอ้ 13 ใหแ้ ลว้ เสร็จภายใน 5 ปี โดยรัฐ ตอ้ งใหก้ ารสนับสนุนงบประมาณในการดาเนินการอยา่ งต่อเนื่องจนแลว้ เสร็จ 1.4) รัฐต้องสนับสนุนและเรง่ รัดการปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐ (Reshape) ที่ยังค้างอยู่ให้แล้ว เสร็จภายใน 2 ปี โดยรัฐต้องสนับสนุนงบประมาณและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนชุมชนในพื้นท่ีองคก์ ารบริหารสว่ นจังหวัดและสื่อมวลชน มีส่วนรว่ มในขน้ั ตอนการดาเนนิ การดงั กลา่ ว เพ่ือให้ยอมรบั แนวเขตพนื้ ทป่ี า่ ไม้ ทย่ี งั ไมถ่ กู บกุ รกุ ใหช้ ดั เจนร่วมกัน 1.5) รฐั บาลต้องเร่งรัดการพิสูจน์สิทธิครอบครองในท่ีดินป่าไมต้ ามมตคิ ณะรัฐมนตรี เมื่อวนั ที่ ๓๐ มิถนุ ายน ๒๕๔๑ ให้แล้วเสร็จภายใน ๓ ปี พร้อมทั้งกาหนดแนวทางดาเนินการรับรองสิทธิและการเยียวยาผู้ที่ ไดร้ ับผลกระทบใหเ้ ป็นรปู ธรรมชดั เจน โดยรัฐตอ้ งใหก้ ารสนบั สนุนงบประมาณในการดาเนินการ 1.6) รัฐต้องกาหนดนโยบายการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยส่งเสริมและเผยแพร่แนวความคิด เกย่ี วกบั ป่าชมุ ชนอย่างจริงจงั เพ่ือใหม้ กี ารจัดต้งั ป่าชุมชนข้นึ ในทุกชุมชนทีม่ ีพ้นื ที่ปา่ ไม้ เปน็ การให้คนอยรู่ ่วมกับ ป่าอย่างสมดลุ ตามแนวพระราชเสาวนีย์ ๒. มาตรการด้านการบริหาร 2.1) ให้มียทุ ธศาสตรก์ ารป้องกันการบกุ รกุ พ้ืนทป่ี ่าไมใ้ นระดบั ชาติ 2.2) ให้จังหวัดท่ีมีพ้ืนที่ป่าจัดทายุทธศาสตร์ในการป้องกันการบุกรุก การฟ้ืนฟู และดูแลรักษา ป่าไมข้ องจังหวดั ให้สอดคล้องกับยทุ ธศาสตรช์ าติ 2.3) จดั ทาระบบฐานข้อมลู ผนื ป่า และลมุ่ น้าท่ัวประเทศ ให้เป็นระบบเดยี วกัน 2.4) ให้หนว่ ยงานท่เี กีย่ วข้องและจังหวัดเผยแพร่ขอ้ มูลแผนที่ป่าไม้ทุกประเภททุกแหง่ 2.5) ดาเนินการกบั เกษตรกรท่บี กุ รกุ พืน้ ที่ปา่ ไม้โดยการปลูกพชื เชิงเด่ยี วและพชื เศรษฐกิจ 2.6) ให้กรมสรรพากรตรวจสอบว่าผู้ประกอบการในพ้ืนท่ีป่าไม้มีการชาระภาษีเงินได้ถูกต้อง หรอื ไม่
2.7) การออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินพ้ืนที่ท่ีมีเขตติดต่อกับพื้นที่ป่าไม้หรืออยู่ในพ้ืนที่ป่าไม้ คณะกรรมการตรวจพิสูจน์ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ข้อ 10 (3) ต้องรับฟังความเห็นของประชาชนและชุมชนในพื้นที่องค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ และภาคประชาสงั คมในพื้นท่ี เป็นขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณาทุกครง้ั 2.8) ให้ส่วนราชการที่เกย่ี วข้องดาเนินการปลูกจิตสานึกให้ประชาชนและชมุ ชนในพ้ืนท่ีมีความรัก และหวงแหนพนื้ ทปี่ ่าไม้ 2.9) ต้องดาเนินการตามกฎหมายกับเจ้าหน้าท่ีที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบในลักษณะท่ีมีการกระทา ผดิ เกดิ ขนึ้ ในอดตี อยา่ งเรง่ ดว่ น 2.10) กรณีท่ีมีการออกเอกสารสิทธิ์ในพ้ืนท่ีป่าไม้ หรือภายหลังจากการปรับปรุงแนวเขตท่ีดิน ของรัฐไวช้ ดั เจนแล้ว เจา้ หน้าทีข่ องรัฐทเ่ี กย่ี วขอ้ งทกุ ฝ่ายต้องร่วมรบั ผดิ ชอบทางวนิ ยั ทางแพง่ และทางอาญา 3. มาตรการดา้ นกฎหมาย 3.1) ปรบั ปรุงแกไ้ ขกฎหมายเพื่อรองรับการมีส่วนร่วมของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการดแู ลรักษาป่าไม้ 3.2) ต้องมีมาตรการทางกฎหมายห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐดาเนินการจัดให้มีสาธารณูปโภคและ สาธารณูปการหรอื บริการอ่ืนใดของรฐั ในพื้นท่ีที่อยูใ่ นเขตพื้นที่ปา่ ไม้ หรือยงั ไม่มีข้อยุตเิ รื่องสิทธิในที่ดนิ วา่ บุกรุก พื้นที่ป่าไม้หรือไม่ ทั้งในการให้บ้านเลขท่ี น้าประปา ไฟฟ้า การส่งเสริมอาชีพ การจดทะเบียนสถาน ประกอบการพร้อมทัง้ ใหม้ ีมาตรการลงโทษสาหรับผ้ทู ี่จดั ทาบรกิ ารสาธารณูปโภคและสาธารณปู การหรอื บริการ อื่นใดในพื้นท่ีท่ีถูกบุกรุก และให้มีมาตรการควบคุมการออกเลขท่ีบ้านเพื่อป้องกันมิให้มีการอ้างสิทธิการขอรับ บรกิ ารสาธารณปู โภคหรอื บริการอ่ืน ๆ ดว้ ย 3.3) ต้องมีมาตรการทางกฎหมายลงโทษ ผู้ซื้อ และผู้ขายสิทธิในท่ีดินท่ีเป็นเขตหวงห้ามของรัฐ ทุกประเภท 3.4) ควรมีกฎหมายจัดตั้งกองทุนหรือสนับสนุนงบประมาณเพ่ือกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้แก่ ชมุ ชนในการป้องกนั การบุกรุกพื้นทปี่ ่าไม้ มตคิ ณะรฐั มนตรีและผลการตดิ ตาม 1) สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนท่ีสุด ที่ นร 0505/3618 ลงวันท่ี 4 กุมภาพันธ์ 2558 แจ้งว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเม่ือวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 รับทราบมาตรการป้องกันการทุจริตและการบุกรุก พื้นที่ป่าไม้ ตามที่เสนอ และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับ ข้อเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง และจัดทารายงานผลการ พจิ ารณา หรอื ผลการดาเนนิ การเก่ียวกับเร่อื งดงั กล่าวเพอ่ื เสนอคณะรฐั มนตรีพจิ ารณาภายใน 30 วนั 2) สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีหนังสือ ด่วนที่สุด ท่ี นร 0505/12270 ลงวันท่ี 8 เมษายน 2558 แจ้งว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเม่ือวันท่ี 7 เมษายน 2558 รับทราบสรุปผลการดาเนินงานของหน่วยงาน ราชการเก่ียวกับมาตรการป้องกันการทุจริตและการบุกรุกพ้ืนท่ีป่าไม้ ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมและหน่วยงานอื่นท่ีเกี่ยวข้องดาเนินการต่อไป ตามทกี่ ระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มเสนอ
การตดิ ตามผลความคบื หน้าการดาเนินการที่สาคญั ของหน่วยงานท่เี กี่ยวข้อง 1. การแก้ไขปัญหาการถือครองท่ีดินของชุมชนและประชาชนในเขตท่ีดินของรัฐโดยมิชอบ ดว้ ยกฎหมาย 1.1 การจดั ท่ดี ินทากนิ ให้ชมุ ชนภายใตค้ ณะกรรมการนโยบายท่ีดินแห่งชาติ (คทช.) พระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ กาหนดให้มี คณะกรรมการ นโยบายทด่ี ินแห่งชาติ (คทช.) โดยนายกรฐั มนตรีเปน็ ประธาน คทช. โดย คทช. มีอานาจหนา้ ที่ จัดทานโยบายและแผนการบริหารจัดการท่ีดินและทรัพยากรดินของประเทศ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อ พิจารณาอนุมตั ิ และกาหนดแนวทางหรือมาตรการเพ่ือใหห้ นว่ ยงานท่ีเกีย่ วข้องปฏบิ ัติตามนโยบายและแผนการ บริหารจัดการท่ดี นิ และทรพั ยากรดินอยา่ งเหมาะสมและมีประสทิ ธิภาพ ดงั น้ี 1) การจดั ที่ดนิ โดยไมใ่ ห้กรรมสิทธิ์ แต่อนญุ าตให้เข้าทาประโยชน์ในท่ีดินของรัฐเปน็ กลุ่มหรือ ชุมชน ตามหลกั เกณฑเ์ ง่ือนไขท่ี คทช. กาหนดในรูปแบบสหกรณห์ รือรูปแบบอ่นื ทเ่ี หมาะสม เพ่ือรว่ มกนั บริหาร จดั การทด่ี ิน รวมทั้งการสง่ เสริมการประกอบอาชีพตามศักยภาพของพืน้ ท่ี 2) ท่ดี ินของรัฐทกุ ประเภท ต้องปอ้ งกันไม่ให้มกี ารบกุ รกุ เด็ดขาด โดยเฉพาะพนื้ ทด่ี งั ต่อไปน้ี (2.1) พื้นที่ต้นน้าในเขตช้ันคุณภาพลุ่มน้าชั้นที่ 1 และ 2 ซึ่งในหลักการต้องให้ผู้บุกรุก ออกจากพ้ืนท่ี และให้หน่วยงานของรฐั พิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้เหมาะสม โดยน้อมนาแนวพระราชดาริ ท่ีเกี่ยวข้องมาปฏิบัติ เช่น โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ โครงการหมู่บ้านป่าไม้แผนใหม่ มาพัฒนาและดูแล หม่บู ้านท่ีอย่ใู นพ้ืนที่ป่า (2.2) พ้ืนท่ีกันชนรอบพ้ืนท่ีป่าอนุรักษ์และพื้นท่ีป่าสมบูรณ์ ให้จัดในรูปแบบป่าชุมชน เพอ่ื ป้องกันไมใ้ หพ้ นื้ ทป่ี ่าสมบรู ณ์ถูกบุกรุก 3) การจัดที่ดินของรัฐ ภายใต้การดาเนินงานของ คทช. ให้เป็นไปตามกฎหมายและ หลกั เกณฑท์ ่หี น่วยงานของรฐั และ คทช. กาหนด เรยี กช่อื ว่า “การจัดท่ดี ินทากนิ ใหช้ ุมชน” 4) แนวทางการดาเนินงานของหน่วยงาน (4.1) การเร่งแก้ไขปัญหา กรณรี าษฎรหรือชุมชนท่ีไดร้ บั ความเดอื ดร้อนจากการอยอู่ าศัย และทากินในเขตป่าโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายมาเป็นระยะเวลานาน โดยพื้นท่ีดังกล่าวไม่เป็นเขตพ้ืนที่ต้นน้า ลาธาร หรือเขตอนุรักษ์ท่ีมีความอ่อนไหว ให้มีการจัดที่ดินให้แก่ราษฎรกลุ่มนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ท่ี คทช. กาหนด เพื่อแก้ไขปัญหาและลดแรงกดดัน โดยให้ราษฎรกลุ่มดังกล่าวสามารถใช้ประโยชน์พ้ืนท่ีใน รูปแบบสหกรณ์ แต่ไม่ให้กรรมสิทธ์ิ เน่ืองจากเป็นที่ดินของรัฐ โดยมีหน่วยงานรับผิดชอบเรื่องการส่งเสริมและ พัฒนาอาชีพ ให้การสนับสนุนทางด้านการพัฒนาอาชีพตามศักยภาพของพ้ืนที่ การกาหนดรูปแบบอาชีพ เพ่ือให้ราษฎรมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีข้ึน เช่น ส่งเสริมการปลูกพืชตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยนา เรื่อง Zoning การเกษตร มาประกอบการพิจารณา การทานาแปลงรวม สนับสนุนเรื่องเมล็ดพันธ์ุ ปุ๋ย รวมถึง การจัดวางผังการใช้ประโยชน์ การจดั ระบบสาธารณปู โภคและสาธารณูปการพ้นื ฐาน (4.2) กรณีท่ีราษฎรหรือชุมชนท่ีอยู่ในเขตต้นนาลาธารหรือเขตอนุรักษ์ที่มีความอ่อนไหว ซ่ึงหน่วยงานราชการท่ีเกี่ยวข้องต้องดาเนินการเคลื่อนย้ายให้อยู่ในพ้ืนที่ท่ีเหมาะสม จะดาเนินการจัดที่ดิน ทากินในท่ีดินของรัฐท่ีมีความเหมาะสมภายในเขตจังหวัดหรือจังหวัดใกล้เคียง ให้อยู่เป็นกลุ่มหรือชุมชน ในรูปแบบสหกรณห์ รือรูปแบบอื่น โดยไม่ให้กรรมสิทธ์ิ ตามหลักเกณฑ์และเงอ่ื นไขท่ี คทช. กาหนดโดยระหวา่ ง การจัดท่ดี ินทากนิ จะตอ้ งช้ีแจงแก่ราษฎรเพอ่ื สร้างความเข้าใจ และกาหนดมาตรการในการเยยี วยาทเ่ี หมาะสม เพ่อื ให้ราษฎรเขา้ ร่วมดาเนินการโดยสมัครใจ
ผลการดาเนนิ งานจดั ท่ดี นิ ให้ชุมชน ปงี บประมาณ พ.ศ. 2558 – 2563 พ้ืนทีเ่ ปา้ หมาย (ไร่ – งาน – ตารางวา) ประเภททีด่ ิน ปา่ สงวน ปา่ ชายเลน ที่ดนิ ในเขต ทสี่ าธารณ ท่ีดนิ ทดี่ นิ สงวน รวม แห่งชาติ ปฏิรูปที่ดนิ ประโยชน์ ราชพัสดุ เพ่ือกิจการ พ้ืนที่เปา้ หมาย นิคมในนิคม 938 เนื้อท่ี 322 453 74 51 7 สร้างตนเอง 1,615,462 (ไร-่ งาน-ตรว.) 1,489,282 - 23,249 - 1 73,982 - 0 13,658 - 3 6,822 - 1 - 0 - 31.15 2 - 29.85 31 1. เหน็ ชอบ - 61.8 - 10 - 50.8 - 94 8,466 - 2 696 ขอบเขตพื้นท่ี 256 แล้ว 333 ผลการดาเนินงาน 7 - 58 1,233,823 เน้อื ท่ี 1,163,151 - - 1 – 81.72 (ไร-่ งาน-ตรว.) 0 - 11.23 48 23 29 (ร้อยละ) (85.29) (82.64) 2. ออกหนงั สือ 8,972 - 3 - 38,742 - 3 9,222 - 3 - 6,822 - 1 – 6,211 - 1 – 252 อนุญาตแลว้ 137 50.5 - 22 11 94 93 เนอ้ื ที่ (51.56) (49.76) 687,204 - (ไร-่ งาน-ตรว.) 643,124 - 1 (87.93) (99.95) (69.56) 3 - 15.26 (ร้อยละ) – 92.06 59 21 22 (42.53) 3. จัดคนเข้าใช้ (43.18) 11 2 ประโยชนท์ ด่ี นิ 4,768 - 1 – 176 4. สง่ เสริมและ 97 14,958 - 1 19,959 - 3 4,716 - 0 - 41 - 3 – 00 61 พฒั นาอาชีพแล้ว - 20.20 - 37 05 (0.61) (17.81) (26.48) (56.31) (34.52) 2 31 24 6 56,758 ราย 70,168 ราย 16 ท่มี า : สานักงานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม (2563) 2. การแกไ้ ขปัญหาทดี่ ินเพอ่ื อยู่อาศัยและทากนิ ในพืน้ ทปี่ า่ อนรุ กั ษ์ พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ได้ ประกาศใช้เม่ือ วันที่ 29 พฤษภาคม 2562 กฎหมายทั้งสองฉบับนี้ กาหนดให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพนั ธุ์พชื สารวจการถือครองท่ีดนิ ของประชาชนในเขตปา่ อนุรักษ์ให้แลว้ เสร็จ จากนั้นรัฐบาลมีแผนงานหรือ นโยบายในการช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีท่ีดินทากินและได้อยู่อาศัยหรือทากินในอุทยานแห่งชาติที่มีการ ประกาศกาหนดมาก่อนวันทพ่ี ระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตวป์ ่า และพันธ์ุพชื โดยความ เห็นชอบของคณะกรรมการจัดทาโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายใน อุทยานแห่งชาติโดยมิไดส้ ทิ ธใิ นที่ดนิ น้นั เสนอคณะรฐั มนตรีเพ่ือให้ความเห็นชอบ โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา พระราชกฤษฎีกาตามวรรคสองต้องมีวตั ถุประสงค์เพ่ือช่วยเหลือบุคคลที่ไมม่ ีที่ดนิ ทากินและได้อยู่ อาศยั หรือทากินในอุทยานแหง่ ชาติ ภายใตก้ รอบเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวนั ที่ ๓๐ มิถนุ ายน ๒๕๔๑ เรือ่ ง การแก้ไขปัญหาท่ีดินในพื้นท่ีป่าไม้ หรือตามคาสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๖/๒๕๕๗ เร่ือง เพ่ิมเติม หน่วยงานสาหรบั การปราบปราม หยุดยั้งการบุกรุกทาลายทรัพยากรป่าไม้ และนโยบายการปฏิบัติงานเปน็ การ ช่วั คราวในสภาวการณ์ปัจจุบัน ลงวนั ท่ี ๑๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ โดยต้องจัดให้มีแผนท่ีแสดงแนวเขต โครงการท่ีจะดาเนินการซึ่งจัดทาด้วยระบบภูมิสารสนเทศหรือระบบอื่นซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกันแนบท้ายพระ ราชกฤษฎกี า และมีระยะเวลาการบังคับใช้คราวละไม่เกินย่ีสิบปี
3. การปรบั ปรงุ แนวเขตทดี่ นิ ของรัฐแบบบรู ณาการมาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) การปรับปรุงแผนท่ีแนวเขตท่ีดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : 4000 (One Map) เป็นนโยบายสาคัญในการปรบั ปรุงแนวเขตท่ีดินของรฐั ในปัจจุบัน โดยวัตถุประสงค์เพ่ือใหม้ ีแผนท่ีท่มี ีมาตรส่วน เดียวกนั ในทกุ ฎหมาย และทกุ หนว่ ยงานในรูปแบบแผนท่ีดจิ ทิ ัลเพ่อื ความสะดวกในการใชง้ าน และเปน็ แนวทาง ในการให้หน่วยงานของรัฐ ได้ดาเนินการแก้ไขปรับปรุงแผนที่ในความรับผิดชอบของตน ทาให้การกาหนดแนว เขตทีด่ ินมคี วามแมน่ ยาและชัดเจนมากย่งิ ข้ึน ไม่ใหม้ ีแนวเขตทับซ้อน หรือมีช่องวา่ งระหวา่ งเส้นแนวเขต ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเม่ือวันท่ี 22 กันยายน 2558 เห็นชอบแนวทางการปรับปรุงแผนที่ แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราสวน ๑ : 4000 (One Map) ตามที่เสนอ และให้แต่งต้ัง คณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราสวน ๑ : 4000 (One Map) โดยมี อานาจหน้าท่ีในการกาหนดนโยบายอานวยการ และกากับดูแลการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบ บูรณาการ มาตราสวน ๑ : 4000 แบบดิจิตัล และรูปแบบอ่ืน ๆ เพ่ือให้ทุกสวนราชการใชและยึดถือเป็นแนว เดยี วกนั ความคืบหน้าในการดาเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตท่ีดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน ๑ : 4000 (One Map) เน่ืองจาก มติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันที่ 24 เมษายน 2562 ได้รับทราบความคืบหน้า การดาเนินการปรับปรุงแผนท่ีแนวเขตท่ีดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 โดยในเรื่องน้ี ได้ มอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายท่ีดินแห่งชาติ (คทช.) เป็นผู้ดาเนินการต่อ ซึ่งมีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ซึ่งตราขึ้นเพ่ือให้มีคณะกรรมการนโยบาย ท่ีดินแหง่ ชาตหิ รือ “คทช” เพ่อื ทาหน้าท่ีกาหนดนโยบายและแผนการบริหารจัดการท่ดี ินของประเทศ คณะกรรมการนโยบายท่ีดินแห่งชาติ ได้มีคาสั่งที่ ๑/๒๕๖๓ ลงวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ แต่งต้ังคณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนท่ีแนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานอนุกรรมการ และเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ให้มีหน้าที่และอานาจเกี่ยวกับการ ดาเนินการปรับปรุงแผนท่ีแนวเขตที่ดินของรัฐ ฯ (One Map) และการแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ ปจั จุบันสานักงาน ป.ป.ท. ในฐานะฝา่ ยเลขานุการของคณะอนุกรรมการ ฯ (One Map) ไดด้ าเนนิ การจัดเตรยี ม ความพร้อมในการประชุมคณะอนุกรรมการ ฯ (One Map) โดยที่ปัจจุบันการปรบั ปรุงแผนท่ีแนวเขตท่ีดินของ รัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐(One Map) ยังอยู่ระหว่างการดาเนินการในข้ันตอนการตรวจสอบ เส้นแนวเขตให้มีความถูกต้องตรงกัน และเห็นชอบร่วมกันระหว่างหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เพื่อจะได้นาเสนอ คณะรฐั มนตรีพิจารณาใหค้ วามเหน็ ชอบและรับรองเสน้ แนวเขตทด่ี ินของรฐั ตอ่ ไป ดาวน์โหลดขอ้ มลู ได้ท่ี QR Code น้ี - มาตรการปอ้ งกันการทุจรติ และการบกุ รกุ พ้ืนทป่ี า่ ไม้ (ฉบับเตม็ ) - หนงั สือนาสง่ คณะรฐั มนตรี - หนงั สอื แจง้ มติคณะรฐั มนตรี - ตารางผลการติดตามความคบื หนา้ ของ หน่วยงาน ตามข้อเสนอแนะทกุ ประเดน็
2. มาตรการป้องกันการทุจริตเพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสทิ ธใิ นทด่ี ินโดยมิชอบ ท่มี าและความสาคญั ของปัญหา ปัญหาการทุจริตในการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน ได้สร้างความเสียหายต่อประเทศ และมีผลกระทบต่อ ระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยส่วนรวมอย่างมหาศาล เน่ืองจากท่ีดินของประเทศไทยมีจานวนจากัดไม่เพียงพอต่อ ความต้องการที่ไม่จากัดของประชาชน หรือผู้มีอานาจและอิทธิพลบางกลุ่ม จึงส่งผลให้เกิดการร่วมกันทุจริต โดยผู้ขอ ผู้สนับสนุน และเจ้าหน้าท่ีของรัฐท่ีเกี่ยวข้อง ในกระบวนการข้ันตอนของการออกเอกสารสิทธิในที่ดินซ่ึง พื้นที่ที่มีปัญหารุนแรงส่วนใหญ่เป็นท่ีดินท่ีมีมูลค่าสูง ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและเป็นพื้นท่ีมีความสวยงาม เช่น พ้ืนท่ีเกาะ ที่ชายทะเล ที่ป่าไม้ ที่ภูเขา ที่อุทยาน เป็นต้น อันเป็นที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินท่ี สงวนหวงห้ามไว้เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันตามท่ีได้มีการนาเสนอข้อมูลปรากฏต่อส่อื มวลชนในหลาย ๆ คร้งั ท่ผี า่ นมา เชน่ คดีคลองด่าน คดเี จ้าพนกั งานที่ดินภูเกต็ เป็นตน้ เม่ือการดาเนินการของภาครัฐยังไม่มีความชัดเจนและขาดการดาเนินงานอย่างต่อเนื่องตามนโยบาย รวมท้ังกฎหมายที่เก่ียวข้องกับที่ดินมีจานวนหลายฉบับ และหลายหน่วยงาน ซ่ึงล้วนมีข้ันตอนและวิธีการ ออกกฎหมายท่ีแตกต่างกัน เช่น การแก้ไขกฎหมายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2502 โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 49 ลงวันที่ 13 มกราคม 2502 ยกเลิกการจากัดสิทธิของบุคคลในการถือกรรมสิทธ์ิที่ดินเพ่ือการ อยู่อาศัย เกษตรกรรม อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม ในประมวลกฎหมายท่ีดิน หมวด 3 การกาหนดสิทธิ ในท่ีดิน เพราะเป็นเหตุบ่อนความเจริญก้าวหน้าในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และส่งผลให้เกิด ความเสียหายแก่การเศรษฐกิจของประเทศ จึงทาให้ปัจจุบันเกิดปัญหาความเหล่ือมล้าและการถือครองท่ีดินเป็น แบบการกระจุกตัว จากผลดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้เกิดปัญ หาการกระจุกตัวของการถือครองท่ีดิน ในประเทศไทย ข้อเท็จจริงรายงานการปฏิรูปที่ดินและการจัดการท่ีดิน และจากการนาเสนอข่าวของสื่อมวลชน เก่ียวกับการถือครองท่ีดิน ซึ่งพบตระกูลดัง เศรษฐี กลุ่มธุรกิจ กลุ่มนายทุน มีการถือครองที่ดินท้ังแปลงเล็กแปลง ใหญ่จานวนกว่า 958,400 ไร่ ซึ่งกระจายอยู่หลายพ้ืนท่ีทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จึงนาไปสู่การ บุกรกุ ทดี่ ินของรฐั เพ่มิ ขึ้นอยา่ งตอ่ เน่ือง ต่อมาได้มีการแก้ไขคร้ังที่สองในปี พ.ศ. 2515 โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96 ลงวันที่ 29 กมุ ภาพันธ์ 2515 ด้วยเหตุน้ีประชาชนซ่ึงครอบครองทดี่ ินและได้ทาประโยชน์ในท่ีดิน และได้ปฏบิ ัติตามกฎหมาย โดยการแจ้งการครอบครองไว้แล้วตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาเป็นเวลากว่าสิบห้าปีแล้ว จึงเห็นควรจัดให้มีการเดินสารวจออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ด้วยการใช้ระวางรูปถ่ายทางอากาศในเขตท้องท่ี และในขณะเดียวกันให้ทาการเดินสารวจเพ่ือออกหนังสือรับรอง การทาประโยชน์สาหรับท่ีดินที่มีผู้ครอบครองและทาประโยชน์อยู่แล้วแต่ยังไม่ได้แจ้งการครอบครอง ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 จากการแก้ไขในครั้งน้ีส่งผลให้ ประเทศประสบปัญหาเกี่ยวกับแบบแจ้งการครอบครองท่ีดิน (ส.ค. 1) ซึ่งข้อเท็จจริงจากหนังสือกรมที่ ดิน ที่ มท 0516.5/10834 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 แจ้งข้อมูลว่าตั้งแต่มีการบังคับให้ใช้ประมวลกฎหมาย ที่ดิน พ.ศ. 2497 มีราษฎรแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1) ท้ังหมดท่ัวประเทศจานวน 7,700,159 แปลง และในปัจจบุ นั คงเหลอื จานวน 4,194,372 แปลง ดังนั้น การแก้ไขกฎหมายทั้งสองคร้ังในปี พ.ศ. 2502 และ พ.ศ. 2515 ก่อให้เกิดปัญหาเก่ียวกับการ ออกเอกสารสิทธิในท่ีดินรวมถึงการบุกรุกท่ีดินของรัฐจนถึงปัจจุบัน เน่ืองจากกฎหมายได้เปิดช่องให้แสวงหา ผลประโยชน์โดยมชิ อบจากแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1) เชน่ การนาแบบแจง้ การครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1) ฉบับเดิมท่ีได้ออกเป็นโฉนดที่ดินแล้วแต่เจ้าหน้าท่ีกรมที่ดินไม่ได้หมายเหตุ การออกเอกสารสิทธิ ในที่ดิน หรือมไิ ด้จาหน่ายแบบแจง้ การครอบครองท่ีดนิ (ส.ค. 1) ออกจากทะเบียน และมีการนากลบั มาออกโฉนด ท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์อีกครั้งหนึ่ง ซ่ึงแบบแจ้งการครอบครองท่ีดิน (ส.ค. 1) ที่เหลืออยู่ใน ปัจจบุ นั จานวน 4,194,372 แปลง เป็นสาเหตสุ าคญั ท่กี อ่ ใหเ้ กิดการทุจริตในการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน
สรุปสภาพปัญหา 1. ปญั หาดา้ นผมู้ ีอทิ ธพิ ลและอานาจแฝง 1.1 ปัญหาการกระจายการถือครองท่ีดิน การถือครองท่ีดินขนาดใหญ่ ท่ีดินเป็นทรัพยากรที่สาคัญ ของประเทศ และภายใต้การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศท่ีให้มูลค่าของที่ดิน ทาให้ที่ดินเป็นท่ีต้องการของผู้มี อิทธิพล และกลุ่มนักลงทุน ส่งผลให้คนยากจนต้องสูญเสียท่ีดิน ไม่ว่ารัฐจะจัดสรรที่ดินทากินให้แก่ประชาชนมาก เท่าใดแต่ด้วยภาวะที่ที่ดินถูกทาให้กลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูงก็ส่งผลให้ประชาชนท่ีมีฐานะไม่ม่ันคงขายท่ีดินให้แก่ นายทุนอยู่ตลอดก่อให้เกิดการบุกรุกท่ีดินของรัฐเพ่ิมมากข้ึนรวมถึงการใช้อานาจอิทธิพลในการอาศัยช่องว่างทาง กฎหมายโดยมเี จา้ หน้าทข่ี องรฐั ท่มี ีเจตนาแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบรว่ มกนั ทจุ รติ เพื่อให้ได้ครอบครองที่ดนิ 1.2 ปญั หาการใช้อานาจและอิทธพิ ล การออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบ มสี าเหตสุ าคญั คือ การ ท่ีผู้มีอิทธิพล ทั้งในส่วน ๆ ของผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ หรือนายทุน ใช้อานาจและอิทธิพลใน ตาแหน่งหน้าท่ีหรอื เงินทุนเข้ามามีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น กรณีที่ดินคลองด่านตามคา พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม.๒/๒๕๕๑ ซ่ึงเป็น ตวั อย่างที่เห็นได้ชัดถึงการใช้อานาจและอิทธิพลในการแทรกแซงขา้ ราชการ ข่มขืนใจหรือจูงใจเจา้ หน้าที่ของรัฐให้ ดาเนินการทจุ ริต 1.3 ปัญหาการใช้อานาจและอทิ ธพิ ล โดยการนาแบบแจ้งการครอบครองทดี่ ิน (ส.ค. ๑) หรือเอกสาร สิทธิประเภทอ่ืน ๆ มาออกโฉนดท่ีดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายจานวนมาก โดยเฉพาะในเขตพ้ืนที่ท่ีเป็นสถานที่ ท่องเท่ียว เขตอุทยานแห่งชาติ และพนื้ ที่สงวนหวงห้ามตา่ ง ๆ ดว้ ยข้อเท็จจริงจากกรมท่ีดินในส่วนของสถิติการเพิก ถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน พบว่ามีการเพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินจานวนมากด้วย สาเหตุหลายประการ เช่น ออกในเขตป่าไม้ ออกผิดตาแหน่ง (ส.ค. ๑ บิน) ออกเกินกว่าขอบเขตตามหลักฐานเดิม (ส.ค. ๑ บวม) ออกโดยไมป่ ฏบิ ัตติ ามกฎหมายระเบยี บและขั้นตอน ออกโดยร่วมกันทุจรติ เป็นต้น 2. ปญั หาดา้ นกฎหมาย 2.1 ปัญหาแบบแจง้ การครอบครองที่ดนิ (ส.ค. 1) แบบแจ้ง ส.ค. 1 เกดิ ขน้ึ จากพระราชบัญญัติใหใ้ ช้ ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ในมาตรา ๕ ซึ่งกาหนดให้ผู้ที่ได้ครอบครองและทาประโยชน์ในท่ีดินอยู่ก่อน วันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับแจ้งเนื้อที่โดยประมาณการและมิได้มีการกาหนดขอบเขตท่ีชัดเจน ซ่ึงไม่มี หนังสือสาคัญแสดงกรรมสิทธ์ิท่ีดิน แจ้งการครอบครองท่ีดินต่อนายอาเภอท้องที่ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี รัฐมนตรีกาหนดภายในหน่ึงร้อยแปดสิบวันนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๔๗ ใช้บังคับ ต่อมาได้มีการแก้ไขกฎหมายในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๔๖ ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๕ ให้มีการเดินสารวจออกหนังสือรับรองการทาประโยชน์โดยการใช้ระวางภาพถ่ายทางอากาศ ให้แก่ผู้ท่ีได้แจ้งการครอบครองที่ดินไว้แล้วตามมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๕๔๗ และให้ผู้ท่ียังไม่ได้แจ้งการครอบครองที่ดินสามารถออกเอกสารสิทธิในที่ดินได้ ดังน้ัน จากการแก้ไข กฎหมายในครั้งนี้ส่งผลให้ประเทศประสบปัญหาเก่ียวกับแบบแจ้ง ส.ค. ๑ ต่อมากรมที่ดินได้ดาเนินการขอยกเลิก แบบแจ้ง ส.ค. ๑ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยมีเจตนารมณ์เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการนาหลักฐานแบบแจ้ง ส.ค. 1 มาขอ ออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อเสนอสภานิติบัญญัติ แห่งชาติต่อไป และในการพิจารณาดังกล่าว ให้เปล่ียนเป็น “ปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการออกโฉนดท่ีดิน” ตามมาตรา ๘ แหง่ พระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ในปจั จุบันแทน ด้วยเหตุผลดังกล่าว ประกอบกบั ข้อเท็จจรงิ จากกรมที่ดินแจ้งขอ้ มลู ว่าตั้งแตม่ กี ารบงั คับให้ใชป้ ระมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ.๒๔๙๗ ได้มีราษฎรแจ้งการครอบครองทดี่ ิน (ส.ค. ๑) ทงั้ หมดท่ัวประเทศ ๗,๗๐๐,๑๕๕ แปลง และในปัจจบุ ัน คงเหลือจานวน ๔,๑๙๔,๓๗๒ แปลง ที่ยังไม่สามารถจาหน่ายให้หมดไปจากสารบบทะเบียนของกรมท่ีดินได้
หากคานวณระยะเวลาเกือบ ๖๓ ปี ถือว่าเป็นเอกสารท่ีเก่าและล้าสมัย ด้วยเหตุนี้ ส.ค. 1 จึงถูกนาไปใช้เป็น เครอื่ งมือเพ่อื แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ 2.2 มาตรการ หรือข้อเสนอแนะในการป้องกันการทุจริตของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ท่ีเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนาไปปฏิบัติ แต่หน่วยงานที่เก่ียวข้องไม่ได้นาไป ปฏบิ ตั ิอยา่ งแทจ้ รงิ ทาให้ยงั คงพบปญั หาการทุจรติ ในเร่ืองนัน้ 3. ปัญหาด้านนโยบาย และการบริหารราชการ 3.1 นโยบายของรัฐขาดความชัดเจน ต้ังแต่ประมวลกฎหมายท่ีดิน ๒๔๙๗ ใช้บังคับ และได้มีการ ประกาศใช้พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ โดยในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้กาหนดให้ผู้ที่ครอบครองทาประโยชน์ในท่ีดินอยู่ก่อนวันท่ีประมวล กฎหมายท่ีดินใช้บังคับต้องแจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอาเภอท้องท่ีภายใน ๑๘๐ วัน นับแต่วันที่ 9 ธันวาคม ๒๔๙7 ซ่ึงเป็นที่มาของแบบแจ้งการครอบครองท่ีดิน (ส.ค. ๑) ได้มีการแก้ไขกฎหมายคร้ังแรกในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ยกเลิกการจากัดสิทธิของบุคคลในการถอื ครองท่ีดิน จึงเปน็ เหตุให้เกดิ ปญั หาการกระจุกตวั ของการถือครองท่ดี ินใน ปัจจุบัน ต่อมาได้มีการแก้ไขกฎหมายคร้ังที่สองในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ เห็นควรให้มีการเดินสารวจออกหนังสือรับรอง การทาประโยชน์สาหรับท่ีมีผู้ครอบครองและทาประโยชน์อยู่แล้วแต่ยังไม่ได้แจ้งการครอบครอง ดังน้ันปัญหาการ ออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบเริ่มเกิดขึ้นด้วยสาเหตุท่ีนโยบายของรัฐต้องการให้ประชาชนได้รับหนังสือแสดง สทิ ธิในทด่ี นิ ใหม้ ากท่ีสดุ ๓.๒ การบริหารจัดการขอ้ มูลและการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เป็นปัญหาอุปสรรคทส่ี าคัญ ในการปฏิบัติหน้าที่ การคุ้มครองและพิทักษ์รักษาท่ีดินของรัฐ การตรวจสอบการดาเนินการของหน่วยงานภาครัฐ โดยเจ้าหน้าท่ีของรัฐเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถดูแลรักษาท่ีดินของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังน้ัน จึงควรมี ช่องทางการเขา้ ถงึ ข้อมูลของภาคประชาชนหรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง สามารถเข้ามามสี ่วนร่วมในการสอดส่องดแู ล และตรวจสอบ เพ่ือป้องกันการบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ในท่ีดินของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ท้ังน้ี ปัจจุบันเป็น ยุคข้อมูลสารสนเทศท่ีการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ สามารถดาเนินการได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังมิได้มีการจัดทาฐานข้อมูล ของทุกหน่วยงานใหเ้ ป็นปัจจบุ ัน และอยบู่ นฐานขอ้ มูลเดยี วกัน ๓.3 ปัญหาแนวทางการปฏิบัติในการตรวจพิสูจน์สิทธ์ิท่ีดินในเขตป่าไม้ระหว่างหน่วยงาน แนวทาง ปฏิบัติท่ีขาดความชัดเจนในกระบวนการตรวจพิสูจน์สิทธ์ิท่ีดินในเขตป่าไม้ เน่ืองจากมีหน่วยงานที่เก่ียวข้องหลาย หน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานต่างมีกฎหมาย ระเบียบ และแนวทางการปฏิบัติท่ีแตกต่างกัน จึงส่งผลให้การตรวจ พิสูจน์สิทธิในเขตป่าไม้ขาดความเป็นมาตรฐานและแนวทางในการปฏิบัติที่ชัดเจน อาจเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ ของรฐั กระทาการทจุ ริตได้ 4. ปญั หาด้านการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน 4.1 ขอ้ จากัดในการแปลภาพถ่ายทางอากาศ จากสถิติข้อมูลการเพิกถอนแก้ไขหนงั สอื แสดงสทิ ธขิ อง กรมท่ีดิน พบว่ามีการออกเอกสารสิทธิที่ผิดพลาดคลาดเคล่ือนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายจานวนมาก สืบเน่ืองจาก ในอดีตขาดเทคโนโลยี และเครื่องมือภาพถ่ายทางอากาศ จึงไม่สามารถตรวจสอบในเรื่อง ในการทาประโยชน์ ย้อนหลังได้ อีกท้ัง การพิจารณาของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) และคณะกรรมการ ตรวจพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ค่อนข้างใช้เวลานานจึงเป็นสาเหตุที่ทาให้การ ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์บางกรณีไม่เข้าสู่กระบวนการอ่านภาพถ่ายทางอากาศ แท้จริง แลว้ กระบวนการอา่ น แปล ภาพถา่ ยทางอากาศเป็นวิธีการทนี่ า่ เชือ่ ถือในการพสิ จู นข์ ้อเท็จจริงในพนื้ ท่ีนนั้ ๔.๒ เจ้าหน้าท่ีของรัฐและผู้ท่ีเกี่ยวข้องไม่สามารถแยกแยะ ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและ ผลประโยชน์สว่ นรวมได้ จิตจึงนาไปสู่การทุจริตโดยการออกเอกสารสทิ ธิในท่ีดินโดยมิชอบ
4.3 การเข้ามามีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ การคุ้มครองและรักษาท่ีดินของรัฐซึ่งเป็นสาธารณะ สมบัติของแผ่นดินต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่การดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐใน ปัจจุบันยังขาดการประสานงานและการวางแผนร่วมกัน เน่ืองจากต่างฝ่ายต่างยึดถือกฎหมาย และระเบียบที่ หน่วยงานมีหน้าท่ีปฏิบัติเท่าน้ัน จึงส่งผลให้เกิดปัญหาเก่ียวกับขอ้ มูลท่ีจะนาไปใช้ประกอบในการออกเอกสารสิทธิ ในทด่ี ิน 5. ปัญหาด้านการแก้ไขปญั หาการบกุ รุกท่ีดินของรัฐ ๕.๑) แนวเขตท่ีดินของรัฐไมช่ ัดเจน เนอ่ื งจากมีหน่วยงานท่เี ก่ียวขอ้ งหลายหน่วยงาน และการกาหนด แนวเขตที่ดินใช้มาตราส่วนท่แี ตกต่างกันทาให้เกิดปัญหาความไม่ชัดเจนของแนวเขตท่ดี ิน การทับซ้อนของแนวเขต ที่ดินระหว่างภาครัฐกับภาคประชาชนหรือภาครัฐด้วยกันเอง ซึ่งยากต่อการตรวจพิสูจน์สิทธิในท่ีดินและมีผล ตอ่ เนอื่ งทาใหเ้ กดิ ปญั หาการบกุ รุกท่ีดนิ ของรัฐ และมผี ลตอ่ เน่อื งทาใหเ้ กิดการออกเอกสารสิทธิในทีด่ นิ โดยมิชอบ 5.2) ปัญหาองค์กรการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการบุกรุกท่ีดินของรัฐสานักแก้ไขปัญหาการบุกรุก ที่ดินของรัฐเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมารองรับการปฏิบัติงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบกุ รุกที่ดินของรัฐ (กบร.) ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทีด่ ินของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยมีหน้าท่ีใน การตรวจพิสูจน์สิทธิการครอบครองท่ีดินเมื่อพิจารณาโครงสร้าง บทบาทและอานาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ พบว่าการดาเนินงานยังไม่เกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ทาให้เกิดความล่าช้าในการตรวจพิสูจน์สิทธิจึงยังพบ ปญั หาการบุกรุกท่ดี นิ ของรฐั ๕.3) หน่วยงานที่มีหน้าท่ีในการดูแลที่ดินของรัฐไม่ทราบถึงจานวนพื้นท่ี เขตพื้นที่ ของท่ีดินท่ีอยู่ใน ความดแู ลของแต่ละหนว่ ยงาน ข้อเสนอแนะ สานักงาน ป.ป.ช. มีหนังสือ ที่ ปช 0003/0074 ลงวันท่ี 28 มีนาคม 2561 เสนอเรื่อง มาตรการ ป้องกันการทุจริตเพ่ือแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบ เสนอต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยมขี ้อเสนอแนะ ดังน้ี (เอกสารหนังสือของสานักงาน ป.ป.ช. ปรากฎตามภาคผนวก) 1. ด้านผูม้ อี ิทธพิ ลและผู้มีอานาจแฝง 1.1) รัฐบาลต้องมีการใช้มาตรการทางภาษีและมาตรการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ในที่ดิน อย่างเคร่งครัดกับผู้ถือครองท่ีดินจานวนมาก โดยกรมที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นามาตรา 6 แห่งประมวล กฎหมายทดี่ นิ มาบงั คับใชอ้ ย่างเครง่ ครดั ท้ังน้ี ให้มีการจากัดสิทธิของบุคคลในการถือกรรมสิทธ์ิท่ีดิน โดยให้นาบทบัญญัติในมาตรา 34 ถึง มาตรา 39 แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ ซึ่งถูกยกเลิกโดยประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 49 ลงวันท่ี 13 มกราคม 2502 มาบังคับใช้อีกครัง้ ซง่ึ ไม่มผี ลกระทบกับบคุ คลทถี่ อื ครองที่ดนิ ในปจั จบุ นั 1.2) ให้รัฐบาลมีนโยบายปราบปรามผู้ที่ใช้อิทธิพลในการออกเอกสารสิทธิ มีการลงโทษสาหรับ ผู้ที่กระทาความผิดอย่างจริงจัง และจัดให้มีมาตรการคุ้มครองเจ้าหน้าท่ีของรัฐที่ปฏิบัติหน้าท่ีถูกต้อง ตามกฎหมาย 1.3) ในพื้นที่เศรษฐกิจซึ่งท่ีดินมีราคาสูง เช่น จังหวัดภูเก็ต จังหวัดเชียงราย หรือจังหวัดอื่น ๆ ท่ีมีลักษณะดังกล่าว การออกเอกสารสิทธิในที่ดิน กรมท่ีดินควรมีหลักเกณฑ์การพิจารณาอย่างเข้มงวด เป็นพิเศษ เพื่อใหก้ ารออกเอกสารสิทธใิ นท่ีดินเป็นไปโดยถูกต้อง 2. ด้านกฎหมาย 2.1) ให้ยกเลิกแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1) โดยให้มีการแก้ไข มาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี 11) พ.ศ. 2551 โดยกาหนดให้ผู้ท่ีมีหลักฐานแบบแจ้ง การครอบครองท่ีดิน (ส.ค. 1) ที่อยู่ในการครอบครอง และท่ีกรมที่ดินยังมิได้ดาเนินการออกเอกสารสิทธิ
ในที่ดินมาย่ืนคาขอออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ต่อกรมที่ดินภายในระยะเวลา 180 วัน เพื่อดาเนินการตรวจสอบและพิสูจน์สิทธิการครอบครองและทาประโยชน์ในที่ดิน ตามหลักฐานแบบแจ้ง การครอบครองท่ีดิน (ส.ค. 1) และพนักงานเจ้าหน้าท่ีจะออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ ให้ได้ต่อเม่ือศาลยุติธรรมได้มีคาพิพากษาหรือคาส่ังถึงท่ีสุดว่าผู้น้ันได้ครอบครองและทาประโยชน์ในท่ีดิน โดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อนวันท่ีประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ ท้ังน้ี หากไม่นาหลักฐานแบบแจ้ง การครอบครองท่ีดิน (ส.ค. 1) ที่อยู่ในการครอบครองมายื่นคาขอภายในระยะเวลาท่ีกาหนด ให้ถือว่า ไม่ประสงค์นาแบบแจ้งการครอบครองท่ีดิน (ส.ค. 1) มาขอออกเอกสารสิทธิในที่ดิน และให้ถือว่าเป็นการยกเลิก แบบแจ้งการครอบครองทด่ี นิ (ส.ค. 1) ดังกล่าว ท้ังน้ี ให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องดาเนินการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้และนาแบบ แจง้ การครอบครองที่ดนิ (ส.ค. 1) มาทาการพสิ ูจนส์ ทิ ธเิ พ่ือออกเอกสารสทิ ธใิ นทด่ี นิ ดงั กล่าว 2.2) เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในมาตรการป้องกันการทุจริตเพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิ ในที่ดินโดยมิชอบ และมอบหมายหน่วยงานที่เก่ียวข้องนาไปปฏิบัติ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องต้องดาเนินการตาม มาตรการป้องกันการทุจริตเพ่ือแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในท่ีดินโดยมิชอบโดยเครง่ ครัด ถ้าไม่ปฏิบัติถือว่า ละเวน้ การปฏิบัติหนา้ ทแ่ี ละมคี วามผิดจะต้องถูกดาเนินการตามกฎหมาย 3. ดา้ นนโยบายและการบรหิ ารราชการ 3.1) รัฐบาลควรกาหนดนโยบายการดาเนินการในเรื่องการออกเอกสารสิทธิท่ีดินและการแก้ไข ปัญหาการบุกรุกท่ีดินของรัฐท่ีชัดเจน โดยกาหนดให้เป็นนโยบายระดับชาติที่แต่ละรัฐบาลเม่ือเข้ามาบริหาร ประเทศตอ้ งดาเนินการตามนโยบายอย่างตอ่ เนื่อง ทั้งนี้ไมค่ วรมีการเปลยี่ นแปลงนโยบายที่ไดก้ าหนดไวแ้ ลว้ 3.2) ให้ดาเนินการจัดทาฐานข้อมูลสารบบการบริหารงานที่ดินบนฐานข้อมูลเดียว และเผยแพร่บน ระบบอิเล็กทรอนิกส์สารสนเทศ (web site) ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ได้แก่ กระบวนการออกเอกสาร สิทธิในท่ีดิน ข้อมูลเอกสารสิทธิในท่ีดินท่ีมีอยู่ในปัจจุบัน ผลการตรวจสอบการเพิกถอนแก้ไขเอกสารสิทธิในที่ดิน โดยมชิ อบด้วยกฎหมายในแต่ละพื้นท่ี ข้อมูลท่ดี นิ ของรฐั ทกุ ประเภท แผนทภ่ี าพถ่ายทางอากาศ เป็นตน้ 3.3) ให้แก้ไขกฎกระทรวง ฉบับท่ี 43 (พ.ศ. 2537) ซ่ึงออกตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวล กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. 2497 โดยเพ่ิมผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทาง ทะเลและชายฝ่ัง และผู้แทนหน่วยงานอ่ืนท่ีเกี่ยวข้องกับการดูแลรับผิดชอบแนวเขตที่ดินของรัฐ เข้าร่วมเป็น กรรมการตรวจพิสูจน์สิทธิในท่ีดิน โดยกาหนดกรอบระยะเวลาการพิจารณาให้แล้วเสร็จในการตรวจพิสูจน์สิทธิใน ที่ดินที่ชัดเจน พร้อมทั้งมีการเผยแพร่ข้อมูลลงบนเว็บไซต์ (web site) ท้ังนี้ ให้หน่วยงานดังกล่าวรับรองความ ถกู ต้องของการตรวจพิสจู นส์ ทิ ธใิ นทดี่ ินที่มีผูแ้ ทนของหนว่ ยงานนน้ั เข้าร่วมเป็นกรรมการตรวจพิสูจน์สทิ ธิในท่ดี ิน 3.4) ให้กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตวป์ ่า และพันธุ์พชื และกรมทรัพยากรทางทะลและชายฝ่ัง ร่วมกัน จัดทาคู่มือการปฏิบัติงานการตรวจพิสูจน์สทิ ธิในท่ีดินที่อยู่ในเขตป่าไม้ เพือ่ ให้การปฏิบัติงานดังกล่าวไปใน ทศิ ทางเดียวกนั 4. ดา้ นการส่งเสริมและสนบั สนุนการมสี ว่ นรว่ มจากทกุ ภาคส่วน 4.1) ควรมีการเปิดเผยและเผยแพร่ภาพถ่ายทางอากาศทุกช้ันปีตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันไปยังสาธารณะ ยกเว้นพื้นที่ท่ีเกี่ยวข้องในด้านความม่ันคง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิในพ้ืนที่ ตา่ ง ๆ และเพ่ือให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ อกี ทั้งยงั เป็นการลดภาระหนา้ ท่ีในปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีกรม ทดี่ นิ ลง 4.2) ควรมีการส่งเสริมให้มีการสร้างทัศนคติและปลูกจิตสานึกให้แก่เจ้าหน้าท่ีของรัฐและประชาชน เพ่ือให้ตระหนักถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมจากการทุจริต ท้ังน้ี ควรมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานอื่นที่เก่ียวข้องสร้างระบบและกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมเพ่ือต้านการทุจริต โดยปรับฐาน ความคดิ ของเจา้ หนา้ ทข่ี องรัฐและประชาชนให้สามารถแยกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์สว่ นรวม
4.3) ควรมีการบูรณาการการทางานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลรักษา ที่ดินของรัฐ โดยให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และหน่วยงานเก่ียวข้อง จัดให้มศี ูนย์ข้อมลู การออกเอกสารสทิ ธใิ นทด่ี ิน โดยใหก้ ระทรวงมหาดไทยเปน็ หนว่ ยงานหลัก 5. การแกไ้ ขปญั หาการบุกรกุ ทีด่ ินของรัฐ 5.1) ให้หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ในการดูแลรักษาที่ดินของรัฐตามกฎหมายเร่งจัดทาแนวเขตที่ดิน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานให้มีความชัดเจนโดยเร็ว เพ่ือร่วมกันแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดิน ที่ไม่ชัดเจน ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและเป็นปัจจุบัน โดยให้กาหนดเป็นแผนปฏิบัติการของแต่ละหน่วยงาน พรอ้ มทั้งกาหนดกรอบระยะเวลาการดาเนินการแล้วเสร็จท่ีแนน่ อน 5.2) รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณใหหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าท่ีในการดูแลรักษาท่ีดินของรัฐ ทุกประเภทจัดทาแผนปฏิบัติการเพื่อให้มีแนวเขตท่ีดินของรัฐที่ชัดเจน พร้อมท้ังดาเนินการออกหนังสือสาคัญ สาหรับท่ีหลวง (น.ส.ล.) ให้หมดภายในระยะเวลาท่ีกาหนด โดยให้กรมที่ดิน ประสานงาน ดูแลเร่งรัด ควบคุมและ ติดตามการดาเนินงานใหเปนไปตามแผนปฏิบัติการ แต่ถ้าความปรากฏว่าไม่สามารถดาเนินการให้แล้วเสร็จตาม ระยะเวลาท่ีกาหนดได้ ต้องมีสภาพบังคับให้รายงานผลการปฏิบัติงานดังกล่าวต่อรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาโดยทันที ทั้งนตี้ อ้ งเผยแพร่ผลการปฏบิ ตั ิงานไปยังสาธารณะเปน็ ประจาทุกปี 5.3) ให้ปรับปรุงบทบาท และอานาจหน้าท่ีของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกท่ีดินของรัฐ ระดับจังหวัด ให้สามารถแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการบูรณาการร่วมกั บ หน่วยงานท่ีมีหน้าที่ในการดูแลรักษาที่ดินของรัฐ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมท้ังโอนภารกิจอานาจ หน้าท่ี สานักแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ สานักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปสังกัดสานักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหา การบกุ รกุ ที่ดนิ ของรัฐได้อย่างแท้จรงิ 5.4) ให้กรมที่ดินและหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการดูแลรักษาท่ีดินของรัฐต้องรายงานผล การปฏิบัติงาน และประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานต่อรฐั มนตรีเจ้าสังกัดเป็นประจาทุกปี ประกอบด้วย ความคืบหน้าใน การออกหนังสือสาคัญ สาหรับท่ีหลวง (น.ส.ล.) และ หากที่ดินของรัฐที่อยู่ในความรับผิดชอบดูแล ของหน่วยงานลดลง ต้องดาเนนิ การช้ีแจง พรอ้ มทง้ั วิเคราะห์สภาพปัญหาและแนวทางป้องกันเสนอตอ่ รัฐมนตรีเจ้า สังกัดเพ่ือพิจารณาโดยทันที พร้อมท้ังตอ้ งรายงานผลการปฏิบตั ิงานดังกล่าวไปยงั สาธารณะเปน็ ประจาทุกปี มติคณะรัฐมนตรีและผลการตดิ ตาม สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ท่ี นร 0505/23620 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2561 กราบเรียน ประธานกรรมการ ป.ป.ช. สรุปได้ว่า ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ส่ังและปฏิบัติ ราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับเร่ือง มาตรการป้องกัน การทุจริตเพ่ือแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในท่ีดินโดยมิชอบ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงาน ท่ีเกย่ี วขอ้ ง มาเพื่อทราบ กระทรวงมหาดไทยได้เสนอผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะเรื่อง มาตรการป้องกันการทุจริตเพ่ือแก้ไข ปญั หาการออกเอกสารสทิ ธิในทีด่ นิ โดยมชิ อบของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปเพ่อื ดาเนนิ การ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 รับทราบผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะ เร่ือง มาตรการป้องกันการทจุ รติ เพอื่ แก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธใิ นท่ีดินโดยมิชอบ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจง้ ใหส้ านกั งาน ป.ป.ช. ทราบตอ่ ไป
การตดิ ตามผลความคบื หนา้ การดาเนินการท่ีสาคัญของหน่วยงานที่เกยี่ วข้อง กรมที่ดินได้รายงานผลความคืบหน้าการดาเนินการตามมาตรการป้องกันการทุจรติ เพื่อแก้ไขปัญหาการออก เอกสารสิทธิในท่ีดินโดยมิชอบ ตามหนังสือกรมที่ดิน ด่วนที่สุดที่ มท 0516.4/13259 ลงวันท่ี 18 มิถุนายน 2562 และหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 0516.5/5276 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2563 เพื่อแจ้งรายงานผลความ คืบหน้าการดาเนินการตามมาตรการป้องกันการทุจริตเพื่อแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในท่ีดินโดยมิชอบ โดยมี การดาเนินการทีส่ าคัญ ดังนี้ 1. กรมที่ดินได้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... โดยมีหลักการแก้ไขพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๘ วรรคสี่ โดยเพิ่มเติมข้อความ “ในการพิจารณาของศาลตามวรรคสาม ให้ศาลแจ้งกรมที่ดินและ หน่วยงานของรัฐผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาท่ีดินของรัฐตามกฎหมายทราบและให้กรมที่ดินและหน่วยงานของรัฐน้ัน ตรวจสอบกับระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ หรอื ระวางรูปถ่ายทางอากาศฉบบั ท่ีทาขนึ้ ก่อนสุดเท่าที่ทางราชการมี อยู่ประกอบการตรวจสอบตาแหน่งท่ีดินและข้อเท็จจริงอ่ืน พร้อมทั้งทาความเห็นเสนอต่อศาลว่าผู้นั้นได้ ครอบครองและทาประโยชน์ในทด่ี ินน้ันโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนวนั ที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บงั คับหรือไม่ เพ่ือ ประกอบการพจิ ารณาของศาล ความเหน็ ดังกลา่ วให้เสนอต่อศาลภายในหนง่ึ ร้อยแปดสิบวันนับแต่วนั ได้รับแจง้ จาก ศาลเว้นแต่ศาลจะขยายระยะเวลาเป็นอย่างอื่น” ขณะน้ีอยู่ระหว่างขั้นตอนเสนอร่างกฎหมาย ซ่ึงในการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะได้นาประเด็นข้อเสนอแนะในการยกเลิก ส.ค. 1 เสนอพิจารณาในข้ันตอนการ พจิ ารณารา่ งกฎหมายต่อไป 2. ในพ้ืนที่ท่ีเศรษฐกิจซ่ึงท่ีดินมีราคาสูง เช่น จังหวัดภูเก็ต จังหวัดเชียงราย หรือจังหวัดอื่น ๆ กรมท่ีดิน ควรมีหลักเกณฑ์การพิจารณาอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อให้การออกเอกสารสิทธิในท่ีดินเป็นไปโดยถูกต้อง โดยกรมที่ดินอยู่ระหว่างการกาหนดว่าพ้ืนที่ใดเป็นพ้ืนที่เศรษฐกิจ ซ่ึงท่ีดินมีราคาสูงควรมีหลักเกณฑ์การพิจารณา อยา่ งไร ขณะน้อี ยู่ระหว่างพิจารณาว่าพ้ืนทใ่ี ดเป็นพน้ื ทเี่ ศรษฐกิจ ซง่ึ ท่ดี นิ มรี าคาสูง 3. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 กรมท่ีดินได้ดาเนินการพิจารณาทางวินัยและลงโทษเจ้าหน้าท่ีในสังกัด ผูก้ ระทาความผิดเกีย่ วกับการออกเอกสารสิทธิ จานวน 34 ราย ดาวนโ์ หลดขอ้ มลู ได้ท่ี QR Code นี้ - มาตรการป้องกันการทจุ รติ เพอ่ื แก้ไขปัญหา การออกเอกสารสทิ ธิในทีด่ ินโดยมชิ อบ (ฉบบั เต็ม) - หนงั สอื นาส่งคณะรฐั มนตรี - หนงั สอื แจง้ มติคณะรัฐมนตรี - ตารางผลการติดตามความคบื หนา้ ของ หน่วยงาน ตามข้อเสนอแนะทุกประเด็น
แบบฟอร์มเก็บข้อมูลระหว่างลงพน้ื ที่ T จงั หวดั อาเภอ สถานที่ ท่มี าของปัญหา/ความเส่ียงฯ ข้อเท็จจรงิ ท่พี บ วันที่ ประเด็นทสี่ อดคล้องก ข้อมูลปักหมุดจาก Corruption 1) 1) Risk Mapping (2563) 2) เรือ่ งแจ้งเบาะแส/เรอ่ื งรอ้ งเรยี น 2) ผลการประเมิน ITA ข้อเท็จจริงเชงิ ประจักษ์ ความต้องการของเครอื ข่าย อ่ืน ๆ . . หน่วยงานทเี่ ก่ยี วขอ้ ง การดาเนินการตามภาร (Stakeholders) ความ 1) 1) 2) 2) กฎหมาย/ระเบยี บ/หลกั การ/ทฤษฎี ที่เกยี่ วขอ้ ง - - - ลงชอ่ื ผู้บันทึก ตาแหนง่
TaC Team ต้านทุจริต ประจาปี 2565 TaC 01 ประเดน็ _____________________________________________ / สารวจก่อนวันลงพืน้ ที,่ วนั ลงพ้นื ที,่ ตดิ ตามผลการลงพื้นท่ี กับภารกจิ /หนา้ ท่ีสานัก ขอ้ เสนอเพอื่ การแกไ้ ขแบบบรู ณาการ (ข้อเสนอแนะ) (หน่วยงานทีร่ บั ผิดชอบ) 1) - 2) - รกจิ /หนา้ ท่ีสานักเพ่ือแกไ้ ข แนวทางการกากับติดตามการแกไ้ ขปัญหา มเสี่ยงฯ (ขอ้ เสนอแนะ) (หนว่ ยงานทร่ี ับผดิ ชอบ) 1) - 2) - สานัก
แบบสมั ภาษณ์ (สาหรับประชาชน) วันท่ี......./........./.......... เวลา ............................ 1. ช่ือโครงการ: โครงการตา้ นและลดการทจุ ริตด้วยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพาะกรณีพ้นื ที่เสี่ยงต่อการทุจรติ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (STRONG: Together against Corruption-Tac) กรณีศกึ ษาการบุกรกุ พ้ืนท่สี าธารณะโดยมิชอบ 2. ผสู้ มั ภาษณ์: (1) ชื่อ-สกลุ . ตาแหนง่ . . (2) ช่อื -สกลุ . ตาแหน่ง . (3) ช่ือ-สกลุ . ตาแหนง่ 3. ผู้ให้สัมภาษณ์: . (1) ชือ่ -สกลุ . สถานะ (ผบู้ ุกรุก/ผู้ไดร้ บั ผลกระทบ/NOGs) . (2) ชอ่ื -สกลุ . สถานะ (ผบู้ กุ รกุ /ผู้ได้รบั ผลกระทบ/NOGs) 4. สถานท่ี . 5. ประเดน็ สัมภาษณ์ . 5.1 สภาพปญั หาการบุกรกุ พ้ืนทสี่ าธารณะในพ้ืนท่ีของท่านเปน็ อยา่ งไร มีรูปแบบใดบ้าง . . 5.2 ปญั หาการบกุ รกุ พ้ืนท่ีสาธารณะในพ้นื ท่ีของท่านเกิดข้ึนมานานมากนอ้ ยเพียงใด . 5.3 ผู้ท่กี ระทาการบกุ รุกพ้ืนทสี่ าธารณะในพืน้ ท่ขี องท่านเปน็ กลุ่มบคุ คลใด . . 5.4 เหตุใดหรือปัจจัยใดท่ีส่งผลตอ่ การบุกรุกพ้ืนทีส่ าธารณะในพ้ืนทีข่ องทา่ น (เชน่ ประชาชน ต้องการทดี่ นิ ทากิน/ท่ีอยู่อาศยั นายทุนตอ้ งการแสวงหาผลประโยชนจ์ ากทรัพยากรสาธารณะ ฯลฯ) . . . . . .
5.5 ท่านคิดวา่ สาเหตใุ ดทาให้ยังคงมีการบกุ รกุ พน้ื ท่ีสาธารณะในพน้ื ทข่ี องทา่ นอย่างต่อเนื่อง (เชน่ หนว่ ยงานภาครัฐไม่ดาเนนิ การตามกฎหมายอย่างจริงจัง ภาครัฐเคยมีนโยบายให้ประชาชนสามารถ อยู่อาศยั หรือทากินบนพืน้ ที่ว่างเปล่าได้ ฯลฯ) . . . 5.6 ทา่ นมีสว่ นรว่ มในการแกไ้ ขปญั หาการบกุ รกุ พ้ืนทีส่ าธารณะหรือไม่ อย่างไร (เช่น ดาเนนิ การ แจ้งหน่วยงานทเี่ กย่ี วข้องให้ดาเนนิ การตามกฎหมาย) (ถามกรณีผไู้ ด้รบั ผลกระทบ/NGOs) . . . 5.7 มหี น่วยงานภาครัฐใดบา้ งทดี่ าเนนิ การอย่างไรเก่ียวกับการบุกรกุ พนื้ ท่สี าธารณะที่เกดิ ขึน้ ในพน้ื ที่ของท่าน . . . 5.8 หนว่ ยงานภาครัฐทเ่ี กยี่ วขอ้ งใหก้ ารสนบั สนนุ หรือส่งเสริมการมสี ่วนร่วมในการแกไ้ ขปัญหา การบกุ รกุ พน้ื ทส่ี าธารณะในพน้ื ท่ีของท่านหรอื ไม่ อยา่ งไร . . . 5.9 ทา่ นมีข้อเสนอแนะอยา่ งไรในการแกไ้ ขปัญหาและป้องกันการทุจริตทเ่ี กิดข้ึนจากการบกุ รกุ พน้ื ทส่ี าธารณะในพน้ื ทขี่ องท่าน . . .
สตศ. 1 แบบฟอร์มการเกบ็ ข้อมูล ในการลงพ้ืนท่ีโครงการต้านและลดทจุ ริตดว้ ยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะพน้ื ท่เี สย่ี งตอ่ การทจุ ริต (STRONG: Together against Corruption-TaC) โครงการตา้ นและลดทุจริตด้วยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพาะพ้ืนทีเ่ สย่ี งต่อการทจุ รติ ครงั้ ท่ี สว่ นท่ี 1 ตาบล จังหวดั 1. พน้ื ท่ี : สถานที่ อาเภอ 2. ประเดน็ ความเสี่ยง : 3. ที่มาของปัญหา/ความเสี่ยง 3.1 ขอ้ มูลปกั หมดุ จาก Corruption Risk Mapping (2563) 3.2 เรือ่ งแจ้งเบาะแส/เร่ืองร้องเรียน 3.3 ผลการประเมิน ITA 3.4 ข้อเทจ็ จรงิ เชิงประจักษ์ 3.5 ความต้องการของเครือข่าย 3.6 อื่น ๆ (ระบุ) 4. หน่วยงาน/องค์กรที่เก่ยี วข้อง (Stakeholders) 4.1 หนว่ ยงานภาครฐั - - - 4.2 หนว่ ยงานภาคเอกชน - - 4.3 ภาคประชาสังคม 4.4 อ่ืน ๆ 5. สภาพปญั หา/ขอ้ เท็จจรงิ
-2- 6. การแก้ไขปญั หาในระดับพื้นที่ 7. ขอ้ เสนอแนะการดาเนนิ การแกไ้ ขปญั หา 8. ขอ้ เสนอแนะการกากับติดตามการแก้ไขปัญหา สว่ นท่ี 2 9. ประเดน็ ความสอดคลอ้ งกบั หลักสตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา พ.ศ. 2564 9.1 การต้านทุจริตในสถานการณ์ Digital Disruption 9.2 การพิทกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติทางธรณี 9.3 การพิทกั ษท์ รัพยากรธรรมชาติน้าและน้าบาดาล 9.4 อ่ืน ๆ (ระบุ) 10. ข้อเสนอแนะการดาเนนิ การตามภารกิจ หนา้ ที่และอานาจของสานกั ต้านทุจริตศกึ ษา 11. ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ผู้เก็บข้อมลู ตาแหนง่ วนั ที่
กำหนดประเด็นในกำรลงพน้ื ท่เี ก็บข้อมูลเพอื่ วิเครำะห์สภำพปญั หำและข้อเทจ็ จรงิ กำหนดโครงกำรตำ้ นและลดทุจริตดว้ ยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพำะกรณพี ้นื ที่เส่ยี งต่อกำรทจุ รติ (STRONG : Together against Corruption – TaC) ครั้งท่ี 2 จงั หวัดตรำด ระหวำ่ งวนั ท่ี 22 – 24 พฤศจกิ ำยน 2564 ของสำนักกำรขัดกนั แห่งผลประโยชน์ สำนักงำน ป.ป.ช. …………………………………………………………….. ประเด็นการเกบ็ ข้อมูล 1. ประเดน็ ปญั หำท่ีเกิดขนึ้ เกดิ จำกสำเหตใุ ด - เปน็ กรณที ่ีประชำชนไมส่ ำมำรถแยกแยะระหว่ำงประโยชน์สว่ นบคุ คลหรือประโยชน์ส่วนรวม หรือ - เป็นกรณที เี่ จำ้ หน้ำท่ขี องรัฐกระทำกำรอันเปน็ กำรขดั กนั ระหวำ่ งประโยชนส์ ่วนบุคคลกับ ประโยชน์ส่วนรวมตำมกฎหมำย ป.ป.ช. หรือเจำ้ หน้ำทขี่ องรฐั เข้ำไปมีสว่ นไดเ้ สยี กับประเดน็ ปญั หำท่ีเกดิ ข้ึน 2. ผลกำรดำเนินกำรหรือผลกำรดำเนินคดใี นประเด็นปัญหำดังกล่ำวตำมกฎหมำยอนื่ ๆ ที่เกีย่ วข้อง 3. แนวทำงกำรป้องกนั และแกไ้ ขปญั หำกำรขัดกันระหว่ำงประโยชน์ส่วนบคุ คลกับประโยชน์สว่ นรวม 4. ควำมเหน็ ข้อเสนอแนะเพือ่ ป้องกันและแก้ไขปญั หำกำรขดั กันระหวำ่ งประโยชนส์ ่วนบุคคลกบั ประโยชน์สว่ นรวม ......................................................................................
สมน. 1 แบบฟอร์มการเก็บข้อมลู ในการลงพนื้ ที่โครงการตา้ นและลดทุจรติ ดว้ ยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะพื้นทเ่ี ส่ยี งตอ่ การทจุ รติ (STRONG: Together against Corruption-TaC) โครงการต้านและลดทจุ ริตด้วยกลไกสหยทุ ธ์ เฉพาะพน้ื ทเ่ี สีย่ งตอ่ การทุจริต ครัง้ ท่ี ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู ท่ัวไป ตาบล จงั หวดั 1. พืน้ ที่ : สถานที่ อาเภอ 2. ประเด็นความเสี่ยง : 3. ทมี่ าของปัญหา/ความเส่ียง 3.1 ข้อมลู ปักหมุดจาก Corruption Risk Mapping (2563) 3.2 เรื่องแจ้งเบาะแส/เร่ืองร้องเรยี น 3.3 ผลการประเมนิ ITA 3.4 ขอ้ เทจ็ จรงิ เชงิ ประจักษ์ 3.5 ความตอ้ งการของเครอื ข่าย 3.6 อ่นื ๆ (ระบุ) 4. หนว่ ยงาน/องค์กรทเ่ี กยี่ วข้อง (Stakeholders) 4.1 หนว่ ยงานภาครฐั - - - 4.2 หนว่ ยงานภาคเอกชน - - 4.3 ภาคประชาสงั คม 4.4 อนื่ ๆ
-2- ส่วนท่ี 2 การจดั ทามาตรการ ข้อเสนอแนะเพ่อื แกไ้ ขปัญหาความเสี่ยง/ถอนหมุด 5. ที่มา และความสาคญั ของปัญหา 6. ข้อเทจ็ จริงที่ค้นพบ (เช่น ขอ้ มูลงบประมาณ/หลักเกณฑก์ ารพจิ ารณา/การมสี ่วนร่วม/สภาพปญั หาทค่ี น้ พบ) 7. ข้อกฎหมายและระเบียบที่เกย่ี วขอ้ ง 8. มาตรการ ความเหน็ และขอ้ เสนอแนะ ทีค่ ณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยเสนอต่อคณะรฐั มนตรี (ถ้ามี)
-3- 9. ข้อพิจารณา (การนาสภาพปัญหาในแต่ละประเด็นมาวเิ คราะหเ์ พือ่ หาแนวทางแก้ไข) 10. ข้อเสนอแนะเพ่ือแกไ้ ขปัญหาความเสย่ี ง (เช่น ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ขอ้ เสนอแนะในการแกไ้ ขปญั หา ในระดับพื้นที)่ 11. ข้อเสนอแนะการผลักดันและตดิ ตามการแก้ไขปัญหา (เชน่ ควรเสนอความเห็นและขอ้ เสนอแนะต่อ หน่วยงานใด อยา่ งไร)
Search