Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกหัดบทที่ 6 อภิรดา ศิริปัญญา143 ออกแบบภายในปี3ปกติ

แบบฝึกหัดบทที่ 6 อภิรดา ศิริปัญญา143 ออกแบบภายในปี3ปกติ

Published by apirada.ks, 2022-08-02 11:40:02

Description: แบบฝึกหัดบทที่ 6 อภิรดา ศิริปัญญา143 ออกแบบภายในปี3ปกติ

Search

Read the Text Version

รายชื่อสมาชกิ 1. นางสาวอภริ ดา ศริ ิปญั ญา รหสั นกั ศกึ ษา 4631071141143 ออกแบบภายในช้นั ปที ่ี 3 ภาคปกติ

แบบฝึกหดั บทที่ 6 เรอ่ื งความรพู้ ้ืนฐานเกย่ี วกับระบบการสอื่ สารข้อมลู อภปิ ราย และตอบคำถามในหวั ข้อดังตอ่ ไปน้ี 1. จงบอกความหมายของระบบการสื่อสารข้อมูล ตอบ ระบบการส่ือสารข้อมลู คอื การโอนถา่ ย หรือแลกเปล่ียนขอ้ มลู (Transmission) กันระหวา่ งต้น ทางกับปลายทางโดยผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอร์ ระบบการสื่อสารข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต้อง อาศัยอุปกรณ์ หรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ช่วยในการถ่ายโอน หรือเคลื่อนย้ายข้อมูล รวมทั้งยังต้องอาศัย สื่อกลางในการนำข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง คอมพวิ เตอรซ์ อฟต์แวร์ และโปรแกรมทีใ่ ช้ควบคุมการไหลของข้อมลู และบุคลากรผู้ดำเนนิ งานจะช่วย ส่งเสริมในการปฏิบตั กิ าร และจัดการในสว่ นต่างๆ ท้ังหมด เพ่อื ใหก้ ารสือ่ สารข้อมูลเป็นไปตามต้องการ 2. อธิบายองคป์ ระกอบพ้ืนฐานระบบการส่ือสารข้อมูล ตอบ องค์ประกอบพน้ื ฐานหลกั 4 อยา่ งในระบบส่ือสารข้อมูล ได้แก่ 2.1 ผสู้ ง่ หรืออปุ กรณข์ ้อมลู (Sender) และ ผูร้ ับหรอื อปุ กรณร์ บั ข้อมลู (Receiver) ท้ังอุปกรณ์รบั และ ส่งข้อมลู อาจจะเป็นอปุ กรณ์ชนิดเดยี วกนั ก็ได้อปุ กรณร์ ับ/สง่ ข้อมูลมี 2 ชนิดคือ 2.1.1 Data Terminal Equipment (DTE) เป็นแหลง่ กำเนิด และรับข้อมลู เช่น คอมพวิ เตอร์ เทอร์มนิ ลั คอมพวิ เตอร์ เมนเฟรม เคร่ืองพมิ พ์ เปน็ ต้น 2.1.2 Data Communication Equipment (DCE) เป็นอุปกรณใ์ นการรับ/สง่ ขอ้ มูล เช่น โมเดม็ จานไมโครเวฟ หรือจานดาวเทียม Fibrotic Infrared Wireless เป็นตน้ 2.2 โปรโตคอล (Protocol) หรอื ซอฟต์แวร์ (Software) 2.2.1 โปรโตคอล คือ วิธกี าร หรอื กฎระเบียบทีใ่ ช้ในการสือ่ สารข้อมลู เพอื่ ให้ ผ้รู บั และผู้สง่ ขอ้ มูลเข้าใจกนั สามารถติดต่อส่อื สารกันได้ ตัวอยา่ งคือ x.25 SDLC TCP/IP 2.2.2 ซอฟตแ์ วร์ คือ ส่วนทีท่ ำหน้าที่ในการดำเนนิ งานในการสือ่ สารข้อมลู เปน็ ไปตามทโ่ี ปรแกรมกำหนด ตัวอยา่ งคือ Windows หรอื Novell’s Netware เป็นตน้ 2.3 ขา่ วสาร (Message) ข่าวสาร คือสัญญาณอเิ ลก็ ทรอนิกส์ทีส่ ่งผา่ นไปใน ระบบสื่อสาร บางคร้ังเรยี กวา่ สารสนเทศ (Information) รูปแบบของขา่ วสารมี 4 รปู แบบ คอื 2.3.1 เสียง (Voice) 2.3.2 ข้อมลู (Data) 2.3.3 ขอ้ ความ (Text) 2.3.4 ภาพ (Picture)

2.4 สือ่ กลาง (Medium) เปน็ สอื่ กลางทใ่ี ชใ้ นการสือ่ สารข้อมลู จากตน้ กำเนดิ ไปยังปลายทาง สื่อกลางนี้อาจจะเป็น เส้นลวด สายไฟ สายเคเบิล หรือสายไฟเบอร์ออปติก เป็นต้น หรืออาจจะเป็นคลื่นท่ี ส่งผา่ นในอากาศ เช่น คลนื่ ไมโครเวฟ คล่ืนดาวเทียม หรือคล่นื วิทยุ เป็นต้น 3. จงบอกการส่งสญั ญาณบนสอ่ื กลางข้อมลู ในรูปแบบต่างๆ ได้ ตอบ 1. การส่งสัญญาณบนสื่อกลางแบบเบสแบนด์ (Baseband) เป็นการใช้ช่องทางการสื่อสารเพียง ชอ่ งทางเดียวสำหรับการส่งสัญญาณดิจิทลั ในแตล่ ะคร้ังในช่วงเวลาหน่ึง โดยเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ส่วนใหญ่มัก ใชก้ ารสง่ สญั ญาณชนดิ นี้ เน่อื งจากเป็นวิธกี ารทไี่ มซ่ บั ซ้อน และสามารถจัดการควบคมุ ง่าย 2. การส่งสัญญาณบนสื่อกลางแบบบรอดแบนด์ (Broadband) เป็นการใช้ช่องทางการสื่อสารหลาย ช่องทางเพื่อส่งสัญญาณอนาล็อก (Analog) โดยแต่ละครั้งข้อมูลสามารถจัดส่ง หรือลำเลียงบนช่วงความถี่ท่ี แตกต่างกัน ดงั น้นั การสง่ สัญญาณชนิดนจ้ี ะมีระบบการจัดการทยี่ ุ่งยากกวา่ การส่งสัญญาณแบบเบสแบนด์มาก เพราะจะต้องจัดการกับจำนวนข้อมลู ต่างๆ ทีล่ ำเลียงอยบู่ นหลายช่องความถ่ี บนสายส่ง สำหรบั สื่อกลางข้อมูล ทนี่ ำมาใชเ้ พือ่ สง่ สัญญาณแบบบรอดแบนด์น้นั จะรับรองความเรว็ ที่สูงกวา่ แบบเบสแบนด์ และมีต้นทุนสูงกว่า โดยปัจจุบันมักมีการนำเทคโนโลยีบรอดแบนด์มาใช้งานตามบ้านเรือน ที่พัก หรือองค์กรธุรกิจมากขึ้น เช่น เทคโนโลยบี รอดแบนด์อินเทอรเ์ นต็ เปน็ ต้น 4. ให้นักศึกษายกตัวอย่างชนิดสื่อกลางส่งข้อมูลที่นำมาใช้งานบนเครือข่ายนั้น ทั้งแบบสื่อกลางส่งข้อมูล แบบใชส้ าย และแบบไร้สาย พรอ้ มทง้ั อธิบายการการทำงาน ตอบ 1. สื่อกลางส่งข้อมูลแบบใช้สายสื่อกลางชนิดนี้จะใช้สายเพื่อการลำเลียงข้อมูลระหว่างกัน ซ่ึง ประกอบด้วยสายเคเบิลชนิดตา่ งๆ เชน่ สายคู่บดิ เกลียว สายโคแอกเชียล และสายใยแกว้ นำแสง สายเคเบิลท้ัง สามชนิดนี้ ปกติมนั นำมาใชง้ านภายในตกึ สำนักงาน หรอื ฝังไวใ้ ต้ดนิ 4.1.1 สายคู่บิดเกลียว (Twisted-Pair Cable) ลักษณะของสายคู่บิดเกลียวแต่ละคู่จะทำด้วยสายทองแดง 2 เส้น แตล่ ะเส้นจะมีฉนวนหุ้ม พนั กนั เป็นเกลยี วเพ่ือป้องกนั การรบกวนจากคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า นอกจากน้ีสายคู่ บิดเกลียวยังสามารถแบ่งออกเป็นประเภทที่ไม่มีฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวน หรือเรียกว่าสายยูทีพี (UTP: Unshielded Twisted-Pair Cable) สายบดิ เกลียวแบบไม่มีโลหะห่อหุ้มนยิ มใช้กบั Ethernet network ซึ่งมีความเร็วในการส่งข้อมูลประมาณ 10 Mbps กับแบบที่มีฉนวนป้องกันสัญญาณ รบกวน หรือเรียกว่าสายเอสทีพี (STP: Shielded Twisted-Pair cable) สายบิดเกลียวแบบมีโลหะห่อหุ้มมี ความเรว็ ในการส่งข้อมลู สงู มชี ั้นโลหะทท่ี ำหน้าท่ีปอ้ งกันสัญญาณรบกวนจากภายนอก จึงทำใหม้ ีราคาแพงกว่า สาย UTP

ขอ้ ดี - เปน็ สญั ญาณทม่ี รี าคาถูก - ง่ายต่อการนำไปใช้ - มีการนำไปใชง้ านอยา่ งแพรห่ ลาย - มีอปุ กรณ์สนับสนุนมากมาย ขอ้ เสีย - มีข้อจำกดั ดา้ นระยะทาง - ไวต่อสัญญาณรบกวน (UTP) - มีความเรว็ ค่อนข้างจำกดั 4.1.2 สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) ลักษณะของสายโคแอกเซียลจะประกอบด้วยตัวนำที่ใช้ในการส่ง ข้อมูลเส้นหนง่ึ อยู่ตรงกลางอีกเส้นหนงึ่ เปน็ สายดนิ ระหวา่ งตวั นำสองเสน้ นจ้ี ะมฉี นวนพลาสตกิ กั้น สายโคแอคเชยี ลแบบหนาจะส่งขอ้ มูลได้ไกลกวา่ แบบบาง แตม่ ีราคาแพง และติดตั้งได้ยากกว่า ข้อดี - เป็นสญั ญาณทปี่ อ้ งกนั สัญญาณรบกวนได้เป็นอยา่ งดี - สามารถเช่อื มโยงได้ในระยะไกลกวา่ สายบิดเกลียว - ความเรว็ ในการสง่ ขอ้ มูลสูง ขอ้ เสยี - ขนาดของสายสัญญาณคอ่ นขา้ งใหญ่ - มรี าคาสูง - การติดตง้ั หวั เชื่อมตอ่ ตอ้ งใช้ความเช่ยี วชาญ 4.1.3 สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ลักษณะของสายใยแก้วนำแสง ทำจากแก้ว หรือพลาสติกมีลักษณะ เป็นเส้นบางๆ คล้าย เส้นใยแก้วจะทำตัวเป็นสื่อในการส่งแสงเลเซอร์ที่มีความเร็วในการส่งสัญญาณเท่ากับ ความเร็วของแสง สามารถส่งข้อมูลที่มีความถี่สูงได้ สัญญารบกวนจากภายนอก คือ แสงจากภายนอก ดังน้ัน สายใยแก้วนำแสงทมี่ สี ภาพดจี ะมีราคาคอ่ นข้างสงู และดูแลรกั ษายาก

ข้อดี - รองรับอตั ราการสง่ ขอ้ มูลดว้ ยความเรว็ สงู - อัตราการลดทอนของสัญญาณต่ำ - เช่ือมโยงได้บนระยะทางหลายกิโลเมตรโดยไมต่ ้องใช้อปุ กรณท์ วนสัญญาณ - มคี วามปลอดภยั ในข้อมลู สูง ยากตอ่ การดักจบั สญั ญาณ - ปราศจากการรบกวนของสญั ญาณไฟฟ้า - สายมหี ลายประเภทให้เลือกใชง้ านตามความเหมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ ม ข้อเสยี - มีราคาแพงทีส่ ุดเมอ่ื เปรยี บเทยี บกับสายชนิดอ่ืนๆ - การตดิ ตั้งจำเป็นตอ้ งพึ่งพาผเู้ ชย่ี วชาญโดยเฉพาะ - ตวั สายไมส่ ามารถโคง้ งอได้มาก 2. สื่อกลางส่งข้อมูลแบบไร้สายสื่อกลางชนิดนี้จะใช้ลำเลียงข้อมูลผ่านอากาศ ซึ่งภายในอากาศจะมี พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแพร่กระจายอยู่ทั่วไป โดยคลื่นดังกล่าวจะมีทั้งคลื่นความถี่ต่ำ และคลื่นความถี่สูง ดังแสดงรายละเอยี ดต่อไปน้ี 4.2.1 อินฟาเรด (Infrared) เป็นการสื่อสารข้อมูลโดยใช้แสงอินฟาเรดเป็นสื่อกลาง โดยในการส่งข้อมูล จำเป็นต้องมอี ุปกรณท์ ี่ทำหนา้ ทส่ี ่งขอ้ มูล และรบั ขอ้ มลู เช่น เมาส์ เครอื่ งพิมพ์ กลอ้ งดจิ ทิ ลั และโทรศัพท์ เปน็ ต้น โดยจะมี IrDA port เป็นอปุ กรณ์ในการรับส่งดว้ ยแสง ซ่ึงเหมาะกบั การส่ือสารข้อมลู ระยะใกล้ 4.2.2 สัญญาณวิทยุ (Radio Wave) เป็นการสื่อสารข้อมูลแบบไร้สาย ที่มีการส่งข้อมูลเป็นสัญญาณคลื่นวิทยุ ไปในอากาศไปยังตวั สญั ญาณ จงึ ทำใหถ้ ูกสภาพแวดลอ้ มรบกวนข้อมลู ได้ง่าย ในชว่ งที่สภาพอากาศไม่ดี การส่งสัญญาณวิธีน้ีจะช่วยสง่ ขอ้ มูลระยะทางไกล หรอื ในสภาพภูมปิ ระเทศทไี่ ม่เออ้ื อำนวย 4.2.3 คล่นื วทิ ยุ (Cellular Radio) ลกั ษณะของระบบสือ่ สารแบบคลน่ื วิทยุ เป็นสอื่ กลางการส่ือสารแบบไร้สาย ที่สามารถแพร่ได้บนระยะทางไกล เช่น ระหว่างเมือง หรือระหว่างประเทศ และยังไม่รวมถึงการแพร่บน ระยะทางสัน้ ๆ อย่างไรกต็ ามคลื่นวทิ ยุนัน้ มคี วามเรว็ คอ่ นข้างต่ำ อกี ท้ังไวต่อสญั ญาณรบกวน แต่ข้อดี คือ มคี วามยืดหยุ่นสงู สะดวกต่อการใชง้ าน และผู้ใช้ไมต่ อ้ งเสยี คา่ ใชจ้ ่าย 4.2.4 คลื่นไมโครเวฟ (Microwave) ลักษณะของคลื่นไมโครเวฟเป็นคลื่นความถี่วิทยุชนิดหนึ่งที่มีความถี่อยู่ ระหว่าง 0.3GHz – 300GHz สว่ นในการใช้งานน้ันสว่ นมากนยิ มใชค้ วามถี่ระหวา่ ง 1GHz – 60GHz เพราะเป็น ยา่ นความถ่ที ่ีสามารถผลติ ขึ้นไดด้ ว้ ยอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ ปน็ สื่อกลางในการส่ือสารที่มีความเรว็ สูงในระดบั กกิ ะเฮริ ตซ์ (GHz) และเน่ืองจากความของคลื่นมหี นว่ ยวดั เปน็ ไมโครเมตร จงึ เรยี กชอ่ื วา่ “ไมโครเวฟ” การส่งข้อมูลโดยอาศัยสัญญาณไมโครเวฟซึ่งเป็นสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปในอากาศ พร้อมกับข้อมูลท่ี ต้องการส่ง และจะต้องมีสถานที่ทำหน้าที่ส่ง และรับข้อมูล และเนื่องจากสัญญาณไมโครเวฟจะเดินทางเป็น

เส้นตรงในระดับสายตา (Line of sight transmission) ไม่สามารถเลี้ยว หรือโค้งตามขอบโลกท่ีมีความโค้งได้ จึงต้องมีการตัง้ สถานรี บั -ส่งข้อมูลเป็นระยะๆ และส่งข้อมูลต่อกันเป็นทอดๆ ระหว่างสถานีต่อสถานีจนกว่าจะ ถงึ สถานปี ลายทาง หากลักษณะภมู ปิ ระเทศ มภี เู ขา หรือตกึ สงู บดบังคล่ืนแลว้ ก็จะทำใหไ้ ม่สามารถสง่ สญั ญาณ ไปยังเป้าหมายได้ ดังนัน้ แตล่ ะสถานีจึงจำเป็นตั้งอยู่ในทส่ี งู เชน่ ดาดฟ้า ตกึ สูง หรอื ยอดดอยเพื่อหลีกเล่ียงการ ชนเนื่องจากแนวการเดินทางที่เป็นเส้นตรงของสัญญาณดังที่กล่าวมาแล้ว การส่งข้อมูลด้วยสื่อกลางชนิดน้ี เหมาะกับการสง่ ข้อมูลในพ้ืนที่ห่างไกลมากๆ และทรุ กันดาร 4.2.5 สัญญาณดาวเทียม (Satellite) ลักษณะของสัญญาณดาวเทียมเป็นการรับส่งสัญญาณข้อมูลอาจจะเป็น แบบจดุ ตอ่ จดุ (Point-to-Point) หรือแบบแพร่สญั ญาณ (Broadcast) สถานดี าวเทียม 1 ดวง สามารถมีเคร่ือง ทบทวนสัญญาณดาวเทียมได้ถึง 25 เครื่อง และสามารถครอบคลุมพื้นที่การส่งสัญญาณได้ถึง 1 ใน 3 ของ พื้นผิวโลก เคร่ืองทบทวนสัญญาณของดาวเทียมเรียกว่า (Transponder) ไปยังสถานีปลายทาง การส่ง สัญญาณข้อมูลขึ้นไปยังดาวเทียมเรียกว่า \"สัญญาณอัป-ลิงก์\" และการส่งสัญญาณข้อมูลกลับลงมายังพื้นโลก เรยี กวา่ “สญั ญาณ ดาวน์-ลงิ ก”์ 4.2.6 สญั ญาณบลูทูธ (Bluetooth) ระบบสอื่ สารของอุปกรณ์อเิ ล็คโทรนกิ แบบสองทาง ดว้ ยคล่นื วิทยุระยะสั้น (Short-Range Radio Links) โดยปราศจากการใช้สายเคเบลิ้ หรอื สายสญั ญาณเชอ่ื มตอ่ และไม่จำเปน็ จะต้อง ใช้การเดินทางแบบเส้นตรงเหมือนกันอินฟราเรด ซึ่งถือว่าเพิ่มความสะดวกมากกว่าการเชื่อมต่อแบบ อินฟราเรด ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์มือถือ กับอุปกรณ์ ในโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นก่อนๆ และในการ วิจัย ไม่ได้มุ่งเฉพาะการส่งข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่ยังศึกษาถึงการส่งข้อมูลที่เป็น เสียง เพื่อใช้สำหรับ Headset บนโทรศพั ทม์ ือถอื ดว้ ย การทำงานของ Bluetooth จะใชส้ ญั ญาณวิทยุความถีส่ ูง 2.4 GHz. (กิ๊กกะเฮิร์ซ) แต่จะแยกย่อยออกไป ตามแต่ละประเทศ อย่างในแถบยุโรป และอเมริกา จะใช้ช่วง 2.400 ถึง 2.4835 GHz. แบ่งออกเป็น 79 ช่องสัญญาณ และจะใช้ช่องสัญญาณที่แบ่งนี้ เพื่อส่งข้อมูลสลับช่องไปมา 1,600 ครั้งต่อ 1 วินาที ส่วนที่ญี่ปุ่นจะใช้ความถี่ 2.402 ถึง 2.480 GHz. แบ่งออกเป็น 23 ช่อง ระยะทำการ ของ Bluetooth จะอยู่ที่ 5-10 เมตร โดยมีระบบป้องกันโดยใช้การป้อนรหัสก่อนการเชื่อมต่อ และ ป้องกัน การดักสัญญาณระหว่างสื่อสาร โดยระบบจะสลับช่องสัญญาณไปมา จะมีความสามารถในการเลือกเปลี่ยน ความถ่ีที่ใช้ในการติดต่อเองอัตโนมัติ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเรยี งตามหมายเลขช่อง ทำให้การดักฟัง หรือลักลอบ ขโมยขอ้ มูลทำได้ยากขน้ึ โดยหลกั ของบลูทธู จะถูกออกแบบมาเพ่ือใช้กบั อุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก เน่ืองจากใช้การ ขนส่งข้อมูลในจำนวนที่ไม่มาก อย่างเช่น ไฟล์ภาพ, เสียง, แอพพลิเคชั่นต่างๆ และสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ขอให้อยู่ในระยะที่กำหนดไว้เท่านั้น (ประมาณ 5-10 เมตร) นอกจากนี้ยังใช้พลังงานต่ำ กินไฟน้อย และ สามารถใช้งานได้นาน โดยไม่ต้องนำไปชาร์จไฟบ่อยๆ ด้วย ส่วนความสามารถการส่งถ่ายข้อมูลของ Bluetooth จะอยู่ที่ 1 Mbps (1 เมกกะบิตต่อวินาที) และจะไม่มีปัญหาอะไรกับขนาดของไฟล์ที่ใช้กันบน โทรศพั ท์มอื ถอื หรือ การใช้งานแบบท่วั ไป ซ่ึงถือว่าเหลือเฟือมาก

แต่ถ้าเป็นข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ ก็คงจะช้าเกินไป และถ้าถูกนำไปเปรียบกับ Wireless LAN (WLAN) แล้ว ความสามารถของ Bluetooth คงแตกต่างกัน ซึ่งในส่วนของ WLAN ก็ยังมีระยะการรับ-ส่งที่ไกลกว่า แต่ขอ ได้เปรียบของ Bluetooth จะอยู่ที่ขนาดที่เล็กกว่า การติดตั้งทำได้งา่ ยกว่า และที่สำคัญ การใช้พลังงานก็น้อย กวา่ มาก อยู่ท่ี 0.1 วัตต์ หากเทยี บกับคลนื่ มอื ถอื แล้ว ยังหา่ งกนั อยู่หลายเท่า 5. จงอธบิ ายการทำหนา้ ทข่ี องอุปกรณท์ ่ใี ช้ในการสง่ รับข้อมูลการสอื่ สาร มาอย่างนอ้ ย 3 ชนิด ตอบ 1. สายค่บู ิดเกลยี ว (Twisted-Pair Cable) ลกั ษณะของสายคู่บดิ เกลยี วแตล่ ะค่จู ะทำด้วยสายทองแดง 2 เส้น แต่ละเส้นจะมีฉนวนหมุ้ พนั กนั เป็นเกลยี วเพอื่ ปอ้ งกันการรบกวนจากคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟา้ นอกจากน้ีสาย คู่บิดเกลียวยังสามารถแบ่งออกเป็นประเภทที่ไม่มีฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวน หรือเรียกว่าสายยูทีพี (UTP: Unshielded Twisted-Pair Cable) สายบดิ เกลยี วแบบไม่มโี ลหะห่อหุม้ นิยมใชก้ ับ Ethernet network ซึ่งมีความเร็วในการส่งข้อมูลประมาณ 10 Mbps กับแบบที่มีฉนวนป้องกันสัญญาณ รบกวน หรือเรียกว่าสายเอสทีพี (STP: Shielded Twisted-Pair cable) สายบิดเกลียวแบบมีโลหะห่อหุ้มมี ความเร็วในการส่งข้อมลู สูง มชี น้ั โลหะท่ีทำหน้าทป่ี ้องกนั สญั ญาณรบกวนจากภายนอก จึงทำใหม้ รี าคาแพงกว่า สาย UTP 2. สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ลักษณะของสายใยแก้วนำแสง ทำจากแก้ว หรือพลาสติกมี ลักษณะเป็นเส้นบางๆ คล้าย เส้นใยแก้วจะทำตัวเป็นสื่อในการส่งแสงเลเซอร์ที่มีความเร็วในการส่งสัญญาณ เท่ากับความเร็วของแสง สามารถส่งข้อมูลที่มีความถี่สูงได้ สัญญารบกวนจากภายนอก คือ แสงจากภายนอก ดังน้นั สายใยแกว้ นำแสงท่ีมีสภาพดจี ะมีราคาคอ่ นขา้ งสงู และดแู ลรกั ษายาก 3. สัญญาณวิทยุ (Radio Wave) เป็นการสื่อสารข้อมูลแบบไร้สาย ที่มีการส่งข้อมูลเป็นสัญญาณ คล่ืนวทิ ยไุ ปในอากาศไปยังตัวสัญญาณ จงึ ทำให้ถูกสภาพแวดล้อมรบกวนข้อมลู ได้งา่ ย ในชว่ งทสี่ ภาพอากาศไม่ ดี การสง่ สญั ญาณวธิ นี ีจ้ ะชว่ ยสง่ ข้อมูลระยะทางไกล หรือในสภาพภมู ปิ ระเทศที่ไม่เออ้ื อำนวย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook