Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนบัญชีสินค้าและระบบใบสำคัญ1-64

แผนบัญชีสินค้าและระบบใบสำคัญ1-64

Published by kruyim0806785025, 2021-05-03 03:31:15

Description: แผนบัญชีสินค้าและระบบใบสำคัญ1-64

Search

Read the Text Version

แผนการสอน วชิ าบัญชสี นิ ค้าและระบบใบสาคัญ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 จัดทาโดย นางสาวธนญั ภรณ์ ธรรมใจ ตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแม่แจม่ จังหวดั เชียงใหม่ สังกัดสานักบรกิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ

โครงสร้างรายวิชา บญั ชสี ินค้าและระบบใบสาคัญ 5 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 หน่วยท่ี 1 เร่ืองความรเู้ กี่ยวกับสินคา้ จานวน 5 ชว่ั โมง หนว่ ยที่ 6 หน่วยที่ 2 เรื่อง ระบบใบสาคัญ เร่ือง ระบบการควบคมุ สินค้า จานวน 25 ชวั่ โมง จานวน 15 ชว่ั โมง บญั ชสี ินคา้ และระบบใบสาคญั จานวน 100 ชว่ั โมง ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หน่วยที่ 5 หนว่ ยท่ี 3 เรือ่ ง การจดั ทาและนาเสนองบการเงนิ เร่อื ง การตรวจนบั การวดั มลู ค่าสนิ คา้ จานวน 15 ชัว่ โมง จานวน 15 ช่ัวโมง หน่วยท่ี 4 เรือ่ ง การบนั ทกึ รายการเกีย่ วกบั สนิ ค้า จานวน 15 ช่วั โมง ทบทวนสอบกลางภาค จานวน 5 ช่ัวโมง ทบทวนสอบปลายภาค จานวน 5 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 หน่วยที่ 1 สอนครัง้ ที่ 1 (1-5) การบัญชสี นิ ค้าและระบบใบสาคัญ ชอ่ื หนว่ ย ความรู้เกยี่ วกบั สินค้า จานวน 5 ชม. สาระสาคัญ สินค้าในทางบัญชี คือสินค้าคงเหลือ หมายถึงสิ่งของซึ่งธุรกิจมีไว้เพ่ือขายหรืออยู่ในระหว่าง กระบวนการผลิตสาหรับกิจการซ้ือขายสินค้า สินค้าคงเหลือคือสินค้าสาเร็จรูป สินค้าของกิจการ อตุ สาหกรรมมี 4 ประเภทคือ สินค้าสาเร็จรูป สินค้าระหว่างผลิต วัตถุดิบ วัสดุส้ินเปลือง เอกสารท่ีใช้ เกี่ยวกับสินคา้ มหี ลายชนดิ ได้แก่ ใบขออนุมตั ซิ ้ือ ใบส่ังซื้อ ใบรับของ ฯลฯ สินค้ามคี วามสาคัญต่อกิจการ มาก เพราะเปน็ สินทรพั ย์หมนุ เวยี นทม่ี ีมลู คา่ เปน็ เงิน หากตรี าคาสนิ คา้ คงเหลือผดิ พลาดจะมีผลกระทบตอ่ งบการเงินของกจิ การ ทาให้การแสดงรายการสินค้าคงเหลือในงบการเงินผิด สินค้าคงเหลือจะแสดงใน ต้นทนุ ขายสาหรบั งบกาไรขาดทุน และแสดงเปน็ สนิ ทรพั ย์หมุนเวียนในงบแสดงฐานะการเงนิ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.อธิบายความหมายของสนิ ค้าได้ 2.จาแนกประเภทของสนิ ค้าได้ 3.อธิบายเอกสารท่ใี ชเ้ กย่ี วกบั สนิ คา้ ได้ 4.อธิบายความสาคัญของสินค้าได้ 5.อธบิ ายการแสดงรายการสนิ ค้าคงเหลอื ในงบการเงินได้ 6.มีกจิ นสิ ัย มรี ะเบียบ ละเอยี ดรอบคอบ ซอ่ื สัตย์ มวี ินัย ตรงต่อเวลา และมเี จตคตทิ ด่ี ี ตอ่ วชิ าชีพ บญั ชี 7.มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ท่คี รสู ามารถสงั เกตได้ ขณะทาการสอนในเร่อื ง 10.1 ความมีมนุษยสัมพันธ์ 10.2 ความมีวินยั 10.3 ความรบั ผิดชอบ 10.4 ความซือ่ สตั ย์สจุ ริต 10.5 ความเช่อื ม่นั ในตนเอง 10.6 การประหยดั 10.7 ความสนใจใฝ่รู้ 10.8 การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนัน 10.9 ความรักสามคั คี 10.10 ความกตัญญกู ตเวที

สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับหลกั การและกระบวนการปฏบิ ัตงิ านบัญชเี กยี่ วกบั สินคา้ คงคลงั และระบบ ใบสาคญั 2. บนั ทึกบญั ชเี กี่ยวกบั สนิ คา้ คงคลังตามหลกั การบัญชที ร่ี ับรองทัว่ ไป 3. จัดทาแผน่ งานสินคา้ คงคลงั และวัดมูลค่าสนิ ค้าคงคลังตามหลกั การ บญั ชที ่ีรบั รองท่วั ไป 4. บันทึกบญั ชเี กยี่ วกบั ระบบใบสาคัญ เนอ้ื หาสาระ 1.ความหมายของสินคา้ 2.ประเภทของสนิ คา้ 3.เอกสารทใี่ ช้เกี่ยวกบั สนิ คา้ 4.ความสาคญั ของสนิ คา้ 5.การแสดงรายการสินค้าคงเหลือในงบการเงิน กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1.ครูกล่าวถึงสนิ ค้า ซ่งึ เปน็ สนิ ทรัพย์ท่ีกิจการค้ามีไว้เพื่อจาหน่ายโดยมีวัตถุประสงค์ในการหากาไร ดังนนั้ เจ้าของกจิ การจงึ มีรายได้จากการขายสินคา้ เปน็ หลัก และคานึงถงึ ค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานต่าง ๆ ด้วย ผเู้ รียนยกตัวอย่างสินคา้ ได้แก่ เครื่องเขียน หนังสือ เคร่ืองสาอาง คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เคร่ืองเสียง เป็นตน้ 2.ผู้เรียนจดบันทึกคะแนนจากการทาแบบประเมินผลก่อนเรียนไว้ในสมุดปฏิบัติการบัญชีของ ตนเอง ขน้ั สอน 3.ครูอธบิ ายของความหมายของสนิ คา้ ประเภทของสนิ คา้ เอกสารทใ่ี ชเ้ ก่ยี วกบั สนิ คา้ ความสาคัญ ของสินค้า และการแสดงรายการสินค้าคงเหลือในงบการเงิน โดยใช้สื่อ Power Point ประกอบการ อธิบายพรอ้ มยกตัวอย่างการเรยี นการสอน 4.ครูอธิบายสินคา้ (Goodsหรือ Merchandise)หมายถงึ ส่ิงของซึง่ ธรุ กิจมีไว้เพ่ือขายตามลักษณะ การประกอบธรุ กิจปกติ หรอื อยู่ในระหว่างกระบวนการผลติ เพื่อให้เปน็ สนิ ค้าสาเร็จรูปเพื่อขาย หรือมีไว้ เพอื่ ใชใ้ นการผลติ สินค้า หรือการให้บริการ ส่วนสินค้าในทางบัญชีหมายถึงสินค้าคงเหลือ (Inventory) ความหมายตามมาตรฐานการบญั ชี ฉบับที่ 2 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง สินค้าคงเหลือของสภาวิชาชีพ บัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์สินคา้ คงเหลือหมายถึงสนิ ทรัพยซ์ ึง่ มีลักษณะใดลกั ษณะหน่งึ ดงั ต่อไปนี้ 1) ถอื ไวเ้ พอื่ ขายตามลกั ษณะการประกอบธุรกิจตามปกติของกจิ การ 2) อยู่ในระหว่างกระบวนการผลิตเพอ่ื ใหเ้ ปน็ สนิ คา้ สาเร็จรปู เพื่อขาย

3) อยู่ในรูปของวตั ถุดิบหรอื วสั ดุทีม่ ีไว้เพื่อใชใ้ นกระบวนการผลติ สนิ ค้าหรอื ให้บรกิ าร 5.ครูบอกประเภทของสนิ คา้ หรือสนิ คา้ คงเหลอื ในทางบัญชีจาแนกตามลกั ษณะของธุรกจิ ดงั น้ี 1) กิจการซอ้ื ขายสนิ คา้ สินค้าคงเหลอื ประกอบด้วย สินคา้ ที่ซ้อื และถือไว้เพ่อื ขาย 2) กจิ การอตุ สาหกรรมหรือกจิ การทผ่ี ลติ สนิ ค้าเพอ่ื ขาย มี 4 ประเภทคอื 2.1 สนิ คา้ สาเรจ็ รปู (Finished Goods) 2.2 สินค้าระหว่างผลิต(Goods in Process) หรืองานระหวา่ งทา (Work in Process) 2.3 วัตถุดบิ (Raw Materials) 2.4 วัสดสุ ิ้นเปลอื ง(Supplies)หรอื วสั ดโุ รงงาน (Factory Supplies) 3) กิจการบรกิ ารสนิ ค้าคงเหลือประกอบดว้ ย ต้นทนุ งานใหบ้ รกิ าร (ประกอบด้วยค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายอื่นท่ีเกี่ยวข้องกับการให้บริการ) ในส่วนที่สัมพันธ์กับรายได้ท่ียังไม่รับรู้ของกิจการท่ี ใหบ้ รกิ าร 6.ครูและผู้เรียนแสดงเอกสารท่ีใช้เก่ียวกับสินค้า และช่วยกันแสดงความคิดเห็นในการนาไปใช้ ได้แก่ 1) ใบขอซ้ือหรือใบขออนมุ ัตซิ อ้ื (Purchase requisition) 2) ใบส่งั ซือ้ (Purchase Order) 3) ใบรับของ (Receiving Report) 4) ใบส่งของ/ใบกากับสนิ ค้า/ใบกากับภาษี (Delivery Order/Invoice/Tax Invoice) 5) ใบสง่ คืนสินค้าหรือใบขอลดหน้ี (Debit Noteหรือ Debit Memorandum) 6) ใบรบั คืนสินค้าหรือใบหักหน้หี รอื ใบลดหน้ี (Credit Noteหรอื Credit Memorandum) 7) ใบเพมิ่ หนี้ 7.ครูอธบิ ายความสาคัญของสินค้า โดยสินค้าหรือสินค้าคงเหลือมีความสาคัญต่อกิจการค้ามาก เพราะเป็นสนิ ทรัพยห์ มุนเวยี นทีม่ มี ูลค่าเปน็ เงินท่ีสามารถนาไปเปลีย่ นสภาพเป็นเงินสดได้เรว็ โดยการขาย รองจากเงินสดและเงนิ ฝากธนาคาร หากสินค้าขาดมืออาจทาใหก้ จิ การหยุดชะงัก สญู เสียรายได้ สนิ ค้าจะ มีการหมนุ เวียนโดยการซอ้ื มาและขายไป ในวันสน้ิ งวดจะมีการตรวจนับและตรี าคาสนิ ค้าคงเหลือ แผนก บัญชีกจ็ ะ บนั ทกึ ราคาทุนของสนิ คา้ ท่ีซ้ือมาและราคาทนุ ของสินค้าทขี่ ายไป หากมีข้อผิดพลาดจะกระทบ ต่องบแสดงผลการดาเนินงาน และงบแสดงฐานะทางการเงินของกิจการ นั่นคือทาให้ต้นทุนขาย กาไร ขาดทนุ และงบแสดงฐานะการเงนิ ผดิ พลาด ซึ่งมผี ลกระทบดังนี้ 1) สนิ คา้ คงเหลือปลายงวดสูง ต้นทนุ ขายต่า กาไรสุทธิสูงไป 2) สินค้าคงเหลือปลายงวดต่า ตน้ ทนุ ขายสงู กาไรสทุ ธติ า่ ไป 3) สนิ ค้าคงเหลอื ต้นงวดสูง ต้นทุนขายต่า กาไรสทุ ธสิ งู ไป 4) สินคา้ คงเหลือต้นงวดต่า ตน้ ทุนขายสูง กาไรสทุ ธิต่า 8.ครูและผู้เรียนแสดงผลของการตีราคาสนิ ค้าคงเหลือผิดพลาดที่มีผลกระทบต่องบกาไรขาดทุน และสรปุ ผลกระทบของการตีราคาสนิ คา้ คงเหลือ

9.ผเู้ รียนฝึกทกั ษะแสดงผลของการตีราคาสนิ ค้าคงเหลอื ผดิ พลาดทมี่ ผี ลกระทบต่องบกาไรขาดทนุ และสรุปผลกระทบของการตรี าคาสนิ คา้ คงเหลอื งบกาไรขาดทุน ตรี าคาถูกต้อง ตรี าคาต่าไป 185,000 ขายท้ังสิ้น 185,000 5,000 หกั รับคืนสินค้า 5,00 3,600 8,600 สว่ นลดจ่าย 0 176,400 ขายสทุ ธิ 3,60 8,600 ตน้ ทุนขาย 0 สินค้าคงเหลือต้นงวด 176,400 ซอ้ื สนิ ค้า 25,0 25,000 บวกค่าขนส่งเข้า 00 115,000 หักส่วนลดรบั 4,500 111, ซอื้ สุทธิ 500 119,500 136, สินค้าท่มี ีไว้เพื่อขาย 8,000 500 40,5 หักสินค้าคงเหลือปลายงวด 00 111,500 136,500 ต้นทุนขาย 34,000 กาไรขั้นตน้ หักค่าใชจ้ ่ายท้ังสิ้น 96,000 102,500 กาไรสุทธิ 80,400 73,900 52,700 52,700 27,700 21,200 10.ผู้เรียนสรุปผลกระทบต่อการตีราคาสินค้าคงเหลือปลายงวดต่าไป 6,500 บาท ทาให้มี ผลกระทบตอ่ งบกาไรขาดทุนดงั นี้ ตน้ ทุนขายสงู กว่าความจรงิ 6,500 บาท (102,500 – 96,000) กาไรสทุ ธติ า่ กวา่ ความจริง 6,500 บาท (27,700 – 21,200) 11.ผเู้ รยี นแสดงรายการสินค้าคงเหลือจะแสดงในงบกาไรขาดทนุ สินคา้ คงเหลือจะแสดงในต้นทุน ขายโดยสนิ คา้ คงเหลอื ต้นงวดจะแสดงเป็นรายการบวก (ส่วนท่ขี ายไปแลว้ ) ส่วนสินค้าคงเหลือปลายงวด จะแสดงเปน็ รายการหัก (สว่ นที่เหลืออย)ู่ โดยแสดงเป็นงบประกอบต้นทุนขายดงั นี้

งบกาไรขาดทุนจาแนกค่าใช้จ่ายตามหน้าท่ี : แบบขัน้ เดียว รา้ นกงั หัน งบกาไรขาดทุน สาหรบั งวด 1 ปี สิน้ สดุ วันท่ี 31 ธนั วาคม 25X1 หมายเหตุ หน่วย: บาท รายได้ รายได้จากการขาย (1) 176,400 คา่ ใช้จ่าย ตน้ ทุนขาย (2) 96,400 คา่ ใช้จ่ายในการขาย 22,200 คา่ ใช้จ่ายในการบรหิ าร 20,000 ค่าใชจ้ า่ ยอ่นื 10,500 รวมคา่ ใช่จ่าย 149,100 กาไรสทุ ธิ 27,300 งบกาไรขาดทุนจาแนกค่าใชจ้ า่ ยตามหนา้ ท่ี : แบบหลายขั้น ร้านกงั หนั งบกาไรขาดทุน สาหรับงวด 1 ปี ส้ินสดุ วันที่ 31 ธนั วาคม 25X1 หมายเหตุ หนว่ ย: บาท รายไดจ้ ากการขาย (1)176,400 ต้นทุนขาย (2) 96,400 กาไรข้นั ต้น 80,000 ค่าใชจ้ ่ายในการขาย 22,200 ค่าใชจ้ ่ายในการบรหิ าร 20,000 คา่ ใชจ้ า่ ยอน่ื 10,500 รวมคา่ ใช่จา่ ย 52,700 กาไรสุทธิ 27,300

หมายเหตุประกอบงบการเงิน หนว่ ย: บาท 25,00 หมายเหตุ 2 ตน้ ทนุ ขาย 0 สนิ คา้ คงเหลือต้นงวด 115,0 00 111,5 ซ้ือสนิ คา้ 4,500 00 119,5 บวกค่าขนสง่ เขา้ 136,5 00 00 หกั สว่ นลดรับ 8,000 ซอ้ื สุทธิ 40,50 0 สินค้าทีม่ ไี ว้เพือ่ ขาย 96,00 หกั สินค้าคงเหลอื ปลายงวด 0 ต้นทุนขาย 12.ครูและผู้เรียนจัดทางบแสดงฐานะการเงินสินค้าคงเหลือ (ปลายงวด) ในกิจการซื้อมาขายไป จะแสดงในงบแสดงฐานะการเงิน ในหัวขอ้ สินทรพั ยห์ มนุ เวียนต่อจากบัญชีลูกหนี้การค้าหรือต๋ัวเงินรับ ส่วนใน กจิ การอุตสาหกรรมจะแสดงสนิ ค้าคงเหลือ 4 รายการ คือ สินค้าสาเร็จรูป สินค้าระหว่างผลิต (งานระหว่าง ทา) วัตถดุ บิ และวัสดุส้ินเปลือง โดยจะตอ้ งแสดงเรยี งลาดับตามสนิ ค้าสาเรจ็ รูปจนถึงวสั ดสุ ิน้ เปลืองดงั นี้

งบแสดงฐานะการเงินของกิจการซอ้ื มาขายไป ร้านแก้วพาณิชย์ งบแสดงฐานะการเงิน(บางสว่ น) วันท่ี 31 ธนั วาคม 25X1 สินทรพั ยห์ มนุ เวียน สินทรพั ย์ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 18,00 0 ลกู หน้กี ารคา้ และลูกหนอ้ี นื่ 13,50 0 สนิ คา้ คงเหลือ 9,000 วสั ดุสานักงาน 1,500 รวมสินทรพั ย์หมุนเวยี น 42,00 0 13.ผู้เรียนทาแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เพอื่ ใหเ้ กดิ ทกั ษะการเรียนร้ใู นเรือ่ งกจิ การซ้อื ขายสนิ ค้า ข้ันสรุปและการประยกุ ต์ 14.ผู้เรยี นยกตัวอย่างงบการเงนิ ในกิจการซอ้ื ขายสนิ ค้า โดยคานงึ ถงึ เงอื่ นไขคุณธรรมประกอบดว้ ย ในการซ้ือสินค้ามาบริโภคหรือจาหน่ายก็ต้องคานึ่งถึงความพอดี ระมัดระวังผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่าง รอบคอบ จะได้ไม่มีปญั หาตา่ ง ๆ ตามมา เช่น ผลขาดทุนหรือการกูย้ มื เงนิ มาลงทนุ เปน็ ต้น 1) การมีความรู้ คอื นาความรมู้ าใช้ในการวางแผนและดาเนนิ ชวี ิต 2) การมคี ณุ ธรรม คอื มีความซอื่ สัตยส์ ุจรติ สามคั คี และชว่ ยเหลือซงึ่ กันและกัน 15.ผู้เรียนทาแบบประเมินหลงั เรยี นใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยวิธีเปล่ยี นกันตรวจ ครูเฉลยใน แผน่ ใสหน้าชั้นเรียน สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน วชิ าการบญั ชสี นิ คา้ และระบบใบสาคญั ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. สื่อ Power Point 3. กิจกรรมการเรยี นการสอน 4. ใบความรู้ 5. กจิ กรรมเสนอแนะผ้เู รยี นเป็นสาคัญ และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้

หลักฐาน 1. บนั ทกึ การสอน 2. ใบแสดงผลการปฏิบตั ิงาน 3. แผนจดั การเรยี นรู้ 4. ใบเช็คชอ่ื เขา้ ห้องเรียน การวัดผลและการประเมินผล วธิ ีวดั ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้กอ่ นเรียนและหลงั เรยี น 4. ประเมินกจิ กรรมเสนอแนะผูเ้ รียนเป็นสาคญั และสง่ เสริมคณุ ธรรมนาความรู้ 5 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ 6 สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 7 การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เคร่อื งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยครู) 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนเรียนและหลังเรยี น 6. แบบประเมินกิจกรรมเสนอแนะผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ และสง่ เสริมคณุ ธรรมนาความรู้ 7. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยครูและ ผ้เู รยี นรว่ มกันประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรับปรงุ 2. เกณฑ์ผา่ นการประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ข้ึนไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลการเรียนรมู้ เี กณฑผ์ า่ น 50%

6. แบบประเมินกจิ กรรมเสนอแนะผู้เรียนเป็นสาคัญและส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ผ่าน 50% 7 แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขึน้ อยู่ กับการประเมนิ ตามสภาพจรงิ กจิ กรรมเสนอแนะ 1.ทาใบงานและแบบประเมินผลการเรยี น 2.บันทกึ การรับ-จ่าย 3.กิจกรรมเสนอแนะผู้เรยี นเปน็ สาคัญ และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ สมุดบนั ทกึ รายรบั -รายจา่ ย ของนาย/นาง/นางสาว....................................................... ประจาภาคเรยี นท.ี่ ../........ระหว่างเดอื น..................ถงึ เดอื น................พ.ศ........ วนั เดือน ปี รายการ รายรบั รายจา่ ย คงเหลอื หมายเหต:ุ 1.ถา้ ไมพ่ อให้ใชก้ ระดาษ A-4 ตแี บบฟอรม์ เพิ่มเติมได้ 2.ครผู ้สู อนอาจใหบ้ ันทึกเป็นวนั /อาทติ ย์/เดือนแล้วสรปุ เปน็ ภาคเรยี น.../....กไ็ ด้ สรุป.................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................... ขอ้ เสนอแนะ......................................................................................................................................

แบบประเมนิ กิจกรรมสง่ เสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาช้แี จง ให้ประเมินรายการแตล่ ะขอ้ แล้วเขียน เครอื่ งหมาย  ลงในชอ่ งระดบั คณุ ภาพตามความเป็น จริง โดยกาหนดนา้ หนกั คะแนน ดังนี้.- 5 = ดีมาก, 4 = ด,ี 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใช้ไม่ได้ รายการประเมิน พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ระดับคุณภาพ 1. การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าทา่ ทางสุภาพต่อผู้อ่นื 5 4 32 1  รบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อ่ืน 2.ความมวี นิ ัย  ตรงตอ่ เวลาในการทางาน  ประพฤติตนถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอันดีงาม 3. ความรับผดิ ชอบ  ปฏิบัติงานที่ไดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านด้วยความละเอียดรอบคอบ 4. ความซอ่ื สัตย์สจุ รติ  ไมน่ าผลงานผอู้ ่นื มาแอบอา้ งเปน็ ของตนเอง  พดู ในสิง่ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5. ความสนใจใฝร่ ู้  ศึกษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรู้ใหม่ ๆ 6. ความเชื่อมั่นในตนเอง  กล้าแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล  กล้าทกั ทว้ งในสิ่งทีไ่ ม่ถูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได้.......................................คะแนน ขอ้ คิดเห็นเพ่มิ เติม 1. กระบวนการคิดทใี่ ช้ คือ……….…………………………………….………………………………… 2. สิ่งท่ีควรปรับปรงุ คือ……….…………………………………….……………………………………….. ผ้ปู ระเมิน............................................ เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคุณภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = พอใช้ 15-19 คะแนน = ควรปรับปรุง 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ หมายเหตุ.- อา้ งองิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานักงานมาตรฐานการอาชวี ศึกษา คณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ

บันทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน ................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................. ...................... ................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................... ................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................... ............................................................................................................................. ...................... ................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................... ................................................................................................................................................... ปญั หาที่พบ ............................................................................................................................. ...................... ................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................... ................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................... .............................................................................................................................................. ..... ............................................................................................................................. ...................... ............................................................................................................................. ...................... ................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................... แนวทางแก้ปัญหา ................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................... ............................................................................................................................. ...................... ................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................... ................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................... .............................................................................................................................................. ..... ............................................................................................................................. ......................

แผนการจัดการเรียนร้แู บบบรู ณาการท่ี 2 หนว่ ยท่ี 2 การบัญชีสนิ คา้ และระบบใบสาคัญ สอนครัง้ ที่ 2 (6-10) ช่ือหนว่ ย ระบบการควบคมุ สนิ คา้ จานวน 5 ชม. สาระสาคญั การควบคมุ สนิ ค้าจะควบคุมการดาเนินงานตง้ั แต่การขออนมุ ัติจัดซอื้ จนถงึ การเก็บรกั ษาสินค้าใน โกดงั ส่วนการควบคุมทางบญั ชจี ะจดั ทาทะเบียนรบั สินค้า ทะเบยี นจ่ายสนิ ค้า บญั ชีแยกประเภทสนิ ค้า และทะเบียนสินค้า นอกจากนั้นยังต้องควบคุมค่าใช้จ่ายเก่ียวกับสินค้า เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ท่ีเก่ียวข้อง ซ่ึงการควบคุมปริมาณการสั่งซื้อ ก็จะลดค่าใช้จ่ายลงโดยคานวณหาปริมาณการส่ังซื้อท่ี ประหยัดและระยะเวลาในการส่ังซ้ือ นอกจากน้ันการควบคุมปริมาณสินค้าคงเหลือก็จะควบคุมโดย กาหนดสินคา้ คงเหลอื สงู สุด สินค้าคงเหลือต่าสุด เพอื่ คานวณหาจุดส่งั ซอ้ื เพิ่มและปริมาณการส่ังซื้อเพอื่ มใิ หส้ ินคา้ ขาดมือ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.อธบิ ายความสาคญั ของการควบคมุ สนิ ค้าได้ 2.อธิบายการควบคุมการดาเนินงานได้ 3.มีกิจนสิ ยั มรี ะเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซ่ือสตั ย์ มวี ินัย ตรงตอ่ เวลา และมีเจตคติท่ดี ี ตอ่ วชิ าชพี บัญชี สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกับหลกั การและกระบวนการปฏบิ ตั งิ านบัญชเี กี่ยวกบั สนิ ค้าคงคลังและระบบ ใบสาคญั 2. บนั ทกึ บญั ชีเก่ียวกบั สนิ คา้ คงคลังตามหลกั การบัญชีทรี่ บั รองทัว่ ไป 3. จัดทาแผน่ งานสินค้าคงคลงั และวัดมูลค่าสนิ คา้ คงคลังตามหลกั การ บญั ชที ร่ี บั รองท่วั ไป 4. บนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ระบบใบสาคญั เนือ้ หาสาระ 1.การควบคุมสนิ คา้ 2.การควบคมุ การดาเนนิ งาน

กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1.ครูกลา่ วถึงเมอื่ มกี ารซอ้ื ขายสนิ คา้ กจิ การตอ้ งบันทกึ บันชซี ่งึ ตามมาตรฐานการบัญชีไดม้ กี าร กาหนดไว้ชัดเจน และแนะนาใหผ้ เู้ รียนศึกษามาตรฐานการบัญชเี พม่ิ เตมิ 2. ผู้เรยี นทาแบบประเมินกอ่ นเรยี นใชเ้ วลา 10 นาที และเฉลยหน้าชัน้ เรยี นและให้ผเู้ รยี นแลก กนั ตรวจประเมินผล ข้นั สอน 2.ครอู ธบิ ายการควบคมุ สินค้า โดยมคี วามสาคญั ต่อธุรกจิ เพอ่ื ใหก้ ารดาเนนิ งานมปี ระสทิ ธิภาพ ธรุ กจิ ต้องมีการควบคุมในเร่ืองต่อไปนี้ 1) การควบคุมการดาเนนิ งาน 2) การควบคุมทางบัญชี 3.ครูและผ้เู รยี นอธบิ ายและแสดงเส้นทางเดนิ ของเอกสารในการควบคุมการดาเนินงาน โดยการ ควบคมุ การดาเนินงาน (Operating Control) เป็นการควบคมุ ภายในจะต้องกาหนดวิธคี วบคุมให้รัดกมุ ซึ่งจะมกี ารควบคมุ ในเรื่องดงั นี้ 1) การขออนมุ ตั ซิ ื้อ 2) การสั่งซอ้ื 3) การรับของ 4) การเก็บรกั ษา 5) การเบิกจ่าย 4.ครูและผเู้ รยี นอธิบายพรอ้ มแสดงเส้นทางเดนิ ของเอกสารในการควบคุมทางบัญชี โดยการ ควบคุมสินค้านอกจากจะควบคุมการดาเนินงาน ต้ังแต่การขออนุมัติซื้อจนถึงการเบิกจ่ายแล้ว ต้อง ควบคุมทางบัญชี โดยจัดทาบัญชีสินค้า ซ่ึงเป็นบัญชีอีกชุดหนึ่งแยกจากบัญชีการเงินเพื่อเป็นเครื่องมือ ควบคุมสินคา้ เพราะบันทกึ จานวนส่งิ ของ แต่บญั ชีการเงนิ จะไม่มีจานวนสินคา้ บญั ชสี ินค้าประกอบดว้ ย 1) ทะเบยี นรับสินคา้ 2) ทะเบยี นจ่ายสินค้า 3) บญั ชแี ยกประเภทสินค้า 4) ทะเบียนสนิ ค้า

ขนั้ สรุปและการประยกุ ต์ ผูเ้ รียนวางแผนการนาหลักของเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยุกตใ์ ชใ้ นการบนั ทึกบัญชเี ก่ยี วกบั การซื้อ ขายสนิ ค้า ซงึ่ ในเน้ือหาของสัปดาหน์ ส้ี ามารถสรปุ ได้ดังนี้ (1) สร้างภูมคิ มุ้ กันทด่ี ใี นตวั เองได้ เช่น ใชค้ วามรอบคอบในการบนั ทกึ บญั ชีไมใ่ ห้ผิดพลาด (2) มีเหตุผลในการวเิ คราะห์รายการค้าแตล่ ะรายการ เพอ่ื บนั ทึกบัญชี (3) มคี วามเพยี งพอ ในการซื้อขายสินคา้ เพื่อบรโิ ภคหรอื จาหน่าย (4) มีเงอ่ื นไขด้านคณุ ธรรม ได้แก่ บันทกึ บญั ชใี ห้ถูกต้อง (5) มีเง่อื นไขด้านวชิ าการ ได้แก่ บนั ทกึ บญั ชตี ามหลกั การบญั ชีที่ยอมรบั ทั่วไป และมี ความรเู้ รอ่ื งมาตรฐานการบญั ชี (6) สามารถนารายการบญั ชไี ปบันทกึ ในเคร่อื งคอมพิวเตอรห์ รอื โปรแกรมสาเรจ็ รปู บญั ชไี ด้ สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน วชิ าการบัญชีสนิ คา้ และระบบใบสาคัญ ของสานักพมิ พ์เอมพนั ธ์ 2. สื่อ Power Point 3. กิจกรรมการเรียนการสอน 4. ใบความรู้ 5. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รียนเปน็ สาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ หลกั ฐาน 1. บนั ทึกการสอน 2. ใบแสดงผลการปฏบิ ัติงาน 3. แผนจดั การเรยี นรู้ 4. ใบเช็คชอ่ื เขา้ หอ้ งเรยี น การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนเรียน 4. ประเมนิ กิจกรรมเสนอแนะผู้เรยี นเปน็ สาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 5 ประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ 6 สงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 7 การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เครอ่ื งมอื วัดผล

1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2.แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยครู) 3.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผ้เู รยี น) 4.แบบประเมินกิจกรรมใบงาน 5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ นเรยี น 6.แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคัญ และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 7.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผเู้ รยี น รว่ มกันประเมนิ เกณฑ์การประเมินผล 1.เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง 2.เกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขึน้ ไป) 3.เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ คือ ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4.กิจกรรมใบงาน เกณฑ์ผ่าน คอื 50% 5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ก่อนเรยี นมเี กณฑผ์ า่ น 50% 6.แบบประเมินกจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รียนเปน็ สาคัญและส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ ผ่าน 50% 7. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่ กบั การประเมินตามสภาพจรงิ กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ทาใบงานและแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2. บันทกึ การรบั -จ่าย 3. กิจกรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเปน็ สาคญั และสง่ เสริมคุณธรรมนาความรู้

สมุดบนั ทึก รายรบั -รายจา่ ย ของนาย/นาง/นางสาว....................................................... ประจาภาคเรียนท.ี่ ../........ระหว่างเดอื น..................ถึงเดือน................พ.ศ. ........ วนั เดือน ปี รายการ รายรบั รายจา่ ย คงเหลอื หมายเหต:ุ 1.ถ้าไมพ่ อใหใ้ ชก้ ระดาษ A-4 ตีแบบฟอรม์ เพมิ่ เติมได้ 2.ครผู สู้ อนอาจใหบ้ นั ทกึ เปน็ วนั /อาทิตย/์ เดือนแล้วสรปุ เปน็ ภาคเรยี น.../....กไ็ ด้ สรปุ .................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................... ขอ้ เสนอแนะ...................................................................................................................................... ................................................................................................................. ...........................................

บันทกึ หลังการสอน ขอ้ สรปุ หลังการสอน ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. .... ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ......................................................................................................................................... ......... .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. .... แนวทางแกป้ ัญหา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... ..................................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 3 หนว่ ยที่ 2 การบัญชสี ินคา้ และระบบใบสาคัญ สอนครงั้ ท่ี 3 ชอ่ื หน่วย ระบบการควบคุมสินคา้ (11-15) จานวน 5 ชม. สาระสาคญั การควบคมุ สนิ ค้าจะควบคุมการดาเนนิ งานตง้ั แต่การขออนมุ ัติจดั ซือ้ จนถึงการเก็บรักษาสนิ ค้าใน โกดัง ส่วนการควบคุมทางบัญชีจะจดั ทาทะเบยี นรบั สินคา้ ทะเบียนจา่ ยสนิ คา้ บญั ชีแยกประเภทสนิ คา้ และทะเบียนสินค้า นอกจากนั้นยังต้องควบคุมค่าใช้จ่ายเก่ียวกับสินค้า เพ่ือลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการควบคุมปริมาณการสั่งซ้ือ ก็จะลดค่าใช้จ่ายลงโดยคานวณหาปริมาณการสั่งซ้ือที่ ประหยัดและระยะเวลาในการสั่งซื้อ นอกจากน้ันการควบคุมปริมาณสินค้าคงเหลือก็จะควบคุมโดย กาหนดสนิ ค้าคงเหลือสูงสดุ สนิ ค้าคงเหลือตา่ สุด เพ่อื คานวณหาจุดสง่ั ซอ้ื เพ่ิมและปรมิ าณการสัง่ ซอื้ เพ่ือ มิให้สินค้าขาดมือ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.อธิบายการควบคมุ ทางบัญชี 4.จัดทาทะเบียนที่ใช้ในการควบคุมทางบญั ชไี ด้ 5.บอกประเภทของการควบคมุ คา่ ใชจ้ า่ ยเก่ียวกบั สนิ ค้าได้ 6.มีกจิ นสิ ัย มรี ะเบยี บ ละเอยี ดรอบคอบ ซอื่ สัตย์ มวี นิ ยั ตรงตอ่ เวลา และมเี จตคติทด่ี ี ต่อวชิ าชพี บญั ชี 7.มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ท่ีครสู ามารถ สงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรือ่ ง 13.1 ความมมี นษุ ยสมั พนั ธ์ 13.2 ความมีวินยั 13.3 ความรับผิดชอบ 13.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 13.5 ความเชอื่ มั่นในตนเอง 13.6 การประหยัด 13.7 ความสนใจใฝ่รู้ 13.8 การละเวน้ ส่ิงเสพติดและการพนนั 13.9 ความรักสามคั คี 13.10 ความกตญั ญูกตเวที

สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกีย่ วกบั หลกั การและกระบวนการปฏบิ ัตงิ านบญั ชเี กีย่ วกบั สนิ ค้าคงคลังและระบบ ใบสาคัญ 2. บันทึกบญั ชีเก่ียวกบั สนิ ค้าคงคลงั ตามหลกั การบัญชีทร่ี ับรองทั่วไป 3. จัดทาแผน่ งานสนิ ค้าคงคลงั และวดั มลู ค่าสนิ คา้ คงคลงั ตามหลกั การ บญั ชที ่รี บั รองทัว่ ไป 4. บนั ทึกบญั ชีเกยี่ วกบั ระบบใบสาคัญ เนอ้ื หาสาระ 3.การควบคมุ ทางบญั ชี 4.การควบคุมค่าใช้จา่ ยเกีย่ วกบั สินคา้ 5. การควบคุมปรมิ าณการสงั่ ซอื้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน 1.ครกู ลา่ วถงึ เม่อื มีการซือ้ ขายสินค้า กจิ การต้องบนั ทึกบันชซี ่ึงตามมาตรฐานการบัญชไี ด้มีการ กาหนดไว้ชดั เจน และแนะนาใหผ้ เู้ รียนศกึ ษามาตรฐานการบัญชีเพมิ่ เติม 2. ผเู้ รยี นทาแบบประเมินก่อนเรียนใช้เวลา 10 นาที และเฉลยใส่แผน่ ใสใหด้ หู นา้ ชน้ั เรียนและ ใหผ้ ้เู รยี นแลกกนั ตรวจประเมนิ ผล ขั้นสอน 1.ครอู ธบิ ายการควบคุมสินคา้ โดยมคี วามสาคัญตอ่ ธุรกจิ เพอ่ื ให้การดาเนินงานมี ประสทิ ธภิ าพ ธรุ กิจตอ้ งมกี ารควบคมุ ในเรอื่ งตอ่ ไปนี้ 1) การควบคุมทางบญั ชี 2) การควบคมุ ค่าใชจ้ ่ายเกย่ี วกบั สนิ คา้ 2.ครูและผเู้ รยี นอธบิ ายและแสดงเสน้ ทางเดนิ ของเอกสารในการควบคมุ การดาเนินงาน โดย การควบคมุ การดาเนนิ งาน (Operating Control) เปน็ การควบคมุ ภายในจะต้องกาหนดวิธคี วบคุมให้ รดั กมุ ซึ่งจะมกี ารควบคมุ ในเร่อื งดงั นี้ 1) การขออนมุ ัตซิ อื้ 2) การสั่งซือ้ 3) การรับของ 4) การเกบ็ รักษา 5) การเบกิ จ่าย 3.ครูและผเู้ รียนอธิบายพร้อมแสดงเสน้ ทางเดินของเอกสารในการควบคมุ ทางบัญชี โดยการ ควบคมุ

สนิ คา้ นอกจากจะควบคุมการดาเนินงาน ต้ังแต่การขออนมุ ตั ิซ้ือจนถงึ การเบิกจา่ ยแลว้ ตอ้ งควบคมุ ทาง บัญชี โดยจดั ทาบญั ชีสินค้า ซึ่งเป็นบัญชอี กี ชดุ หนง่ึ แยกจากบัญชกี ารเงินเพ่อื เปน็ เครอ่ื งมอื ควบคมุ สินค้า เพราะบนั ทึกจานวนสง่ิ ของ แต่บญั ชกี ารเงินจะไมม่ ีจานวนสนิ คา้ บญั ชสี นิ คา้ ประกอบดว้ ย 1) ทะเบยี นรับสินค้า 2) ทะเบียนจา่ ยสินคา้ 3) บญั ชีแยกประเภทสินค้า 4) ทะเบียนสินค้า 4.ครูและผเู้ รยี นอธบิ ายพรอ้ มแสดงเส้นทางการเดนิ เอกสารในการควบคุมคา่ ใช้จ่ายเกี่ยวกบั สนิ ค้า โดยการควบคมุ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกบั สินคา้ กเ็ พือ่ ทาใหค้ ่าใชจ้ า่ ยเก่ียวกับสนิ คา้ ตา่ ท่ีสุดทาให้กาไรสุทธสิ งู สุด ซง่ึ คา่ ใชจ้ ่ายเก่ียวกบั สนิ ค้าคงเหลือ (Inventory Expenses) แบง่ เป็น 3 ประเภทคือ 1) ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อหรอื สง่ั ผลติ สนิ ค้า (Ordering Costs) 2) คา่ ใช้จ่ายในการเกบ็ รกั ษา (Inventory Carrying Cost) 3) ค่าใช้จา่ ยเนอื่ งจากสินค้าขาดแคลน (Out of Stock Cost) 5.ครูและผู้เรยี นอธิบายและแสดงการควบคมุ ปริมาณสนิ ค้าคงเหลือ โดยการควบคุมปรมิ าณสนิ คา้ คงเหลอื คือ การปอ้ งกันไม่ใหส้ นิ คา้ ในมอื มจี านวนมากหรือนอ้ ยเกนิ ไป เพราะอาจจะทาใหเ้ กดิ ความ เสียหายในการดาเนินงานได้ ซ่งึ ควรจะควบคุมในเรือ่ ง ดังนี้ 1) จานวนสนิ คา้ คงเหลือ 2) จุดทีส่ ง่ั ซอื้ เพ่มิ 3) ปรมิ าณการสง่ั ซอ้ื เพิ่ม ขัน้ สรปุ และการประยกุ ต์ 6.ครสู รปุ อกี ครงั้ โดยเชอ่ื มโยงใหเ้ ห็นกระบวนการนาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน 7.ผูเ้ รียนวางแผนการนาหลกั ของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยกุ ตใ์ ช้ในการบนั ทึกบญั ชีเก่ยี วกบั การ ซ้ือขายสินคา้ ซงึ่ ในเนอ้ื หาของสปั ดาห์นสี้ ามารถสรปุ ได้ดังน้ี (1) สร้างภมู คิ ้มุ กันท่ีดใี นตัวเองได้ เช่น ใชค้ วามรอบคอบในการบนั ทกึ บญั ชีไม่ใหผ้ ดิ พลาด (2) มีเหตผุ ลในการวเิ คราะหร์ ายการคา้ แตล่ ะรายการ เพอ่ื บนั ทึกบัญชี (3) มคี วามเพียงพอ ในการซื้อขายสินคา้ เพอ่ื บริโภคหรอื จาหนา่ ย (4) มีเงอื่ นไขด้านคณุ ธรรม ได้แก่ บันทึกบญั ชใี ห้ถูกตอ้ ง (5) มีเงื่อนไขด้านวิชาการ ได้แก่ บนั ทึกบัญชีตามหลักการบญั ชีท่ียอมรบั ทว่ั ไป และมคี วามรเู้ รือ่ งมาตรฐานการบญั ชี (6) สามารถนารายการบญั ชีไปบันทกึ ในเครือ่ งคอมพวิ เตอรห์ รอื โปรแกรมสาเรจ็ รปู บัญชีได้

สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วิชาการบัญชสี นิ คา้ และระบบใบสาคญั ของสานักพิมพ์เอมพันธ์ 2. ส่อื Power Point 3. กจิ กรรมการเรียนการสอน 4. ใบความรู้ 5. กิจกรรมเสนอแนะผู้เรียนเปน็ สาคญั และสง่ เสริมคณุ ธรรมนาความรู้ หลักฐาน 1. บันทึกการสอน 2. ใบแสดงผลการปฏิบัติงาน 3. แผนจดั การเรียนรู้ 4. ใบเช็คชือ่ เขา้ ห้องเรยี น การวดั ผลและการประเมินผล วธิ ีวัดผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรูก้ ่อนเรยี น 4. ประเมินกจิ กรรมเสนอแนะผู้เรยี นเปน็ สาคญั และส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ 5 ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 6 สงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 7 การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เครอ่ื งมอื วัดผล 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2.แบบประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู) 3.แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผูเ้ รยี น) 4.แบบประเมินกจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลการเรียนรกู้ ่อนเรียน 6.แบบประเมินกจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 7. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยครูและ ผเู้ รียนร่วมกันประเมิน

เกณฑก์ ารประเมินผล 1.เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ีชอ่ งปรบั ปรงุ 2.เกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ขึน้ ไป) 3.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4.กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ ่าน คือ 50% 5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ นเรยี นมเี กณฑผ์ ่าน 50% 6.แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผูเ้ รียนเป็นสาคัญและสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ ผ่าน 50% 7แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การประเมินตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทาใบงานและแบบประเมินผลการเรยี นรู้ 2. บันทกึ การรบั -จ่าย 3. กิจกรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ และส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ สมุดบันทึก รายรับ-รายจา่ ย ของนาย/นาง/นางสาว....................................................... ประจาภาคเรียนท.ี่ ../........ระหวา่ งเดอื น..................ถงึ เดอื น................พ.ศ. ........ วนั เดือน ปี รายการ รายรบั รายจา่ ย คงเหลือ หมายเหต:ุ 1.ถ้าไม่พอใหใ้ ช้กระดาษ A-4 ตีแบบฟอรม์ เพิม่ เติมได้ 2.ครูผสู้ อนอาจใหบ้ ันทกึ เปน็ วัน/อาทติ ย/์ เดือนแล้วสรปุ เปน็ ภาคเรียน.../....กไ็ ด้ สรุป.................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................... ขอ้ เสนอแนะ...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................

บันทกึ หลงั การสอน ข้อสรุปหลังการสอน ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ปัญหาทีพ่ บ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. .... แนวทางแก้ปญั หา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. .....................

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 หนว่ ยท่ี 2 การบญั ชสี นิ ค้าและระบบใบสาคัญ สอนครง้ั ที่ 4 ชื่อหนว่ ย ระบบการควบคุมสินคา้ (16-20) จานวน 5 ชม. สาระสาคัญ การควบคุมสินค้าจะควบคมุ การดาเนนิ งานต้งั แตก่ ารขออนมุ ัตจิ ดั ซอ้ื จนถงึ การเกบ็ รกั ษาสินคา้ ใน โกดงั สว่ นการควบคุมทางบญั ชจี ะจดั ทาทะเบยี นรบั สินค้า ทะเบยี นจา่ ยสนิ ค้า บัญชแี ยกประเภทสินคา้ และทะเบียนสินค้า นอกจากน้ันยังต้องควบคุมค่าใช้จ่ายเก่ียวกับสินค้า เพ่ือลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ท่ี เก่ียวข้อง ซึ่งการควบคุมปริมาณการสั่งซื้อ ก็จะลดค่าใช้จ่ายลงโดยคานวณหาปริมาณการส่ังซื้ อที่ ประหยัดและระยะเวลาในการสั่งซื้อ นอกจากน้ันการควบคุมปริมาณสินค้าคงเหลือก็จะควบคุมโดย กาหนดสินค้าคงเหลือสงู สดุ สินคา้ คงเหลือต่าสดุ เพอื่ คานวณหาจุดส่ังซือ้ เพ่มิ และปริมาณการส่ังซ้ือเพ่อื มใิ หส้ ินค้าขาดมือ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.อธิบายการควบคมุ ปรมิ าณการสัง่ ซือ้ ได้ 2.คานวณปรมิ าณการสง่ั ซือ้ ได้ 3.อธบิ ายการควบคุมปรมิ าณสินคา้ คงเหลอื 4.คานวณหาจดุ ส่ังซอ้ื ปรมิ าณการส่งั ซอ้ื และระยะเวลาสง่ั ซอ้ื ได้ 5.อธบิ ายการใช้รหสั แทง่ ได้ 6.มีทกั ษะปฏิบัติงานบัญชีตามหลกั การบัญชีที่รบั รองทั่วไป พร้อมสาหรบั การปฏบิ ตั งิ าน ในวิชาชีพบญั ชี 7.มกี จิ นสิ ยั มรี ะเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซ่ือสตั ย์ มวี นิ ยั ตรงต่อเวลา และมีเจตคตทิ ี่ดี ต่อวิชาชพี บญั ชี 8.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ทีค่ รสู ามารถ สังเกตได้ขณะทาการสอนในเร่อื ง 8.1 ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ 8.2 ความมีวนิ ัย 8.3 ความรับผิดชอบ 8.4 ความซือ่ สัตย์สจุ รติ 8.5 ความเชือ่ มัน่ ในตนเอง 8.6 การประหยดั 8.7 ความสนใจใฝร่ ู้

8.8 การละเว้นสง่ิ เสพติดและการพนนั 8.9 ความรกั สามัคคี 8.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั หลกั การและกระบวนการปฏบิ ตั ิงานบัญชเี ก่ียวกบั สินค้าคงคลงั และระบบ ใบสาคญั 2. บันทกึ บญั ชีเกย่ี วกบั สินค้าคงคลงั ตามหลกั การบัญชีทร่ี ับรองท่ัวไป 3. จดั ทาแผน่ งานสินค้าคงคลงั และวัดมลู ค่าสนิ คา้ คงคลังตามหลกั การ บญั ชีท่ีรบั รองทวั่ ไป 4. บันทกึ บญั ชเี ก่ยี วกบั ระบบใบสาคัญ เนือ้ หาสาระ 1.การควบคุมปริมาณสนิ คา้ คงเหลอื 2.การใชร้ หสั แทง่ (Bar Code) กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.ครกู ลา่ วถงึ เม่อื มีการซื้อขายสินค้า กจิ การตอ้ งบนั ทกึ บนั ชซี ่ึงตามมาตรฐานการบัญชไี ดม้ ีการ กาหนดไว้ชดั เจน และแนะนาใหผ้ เู้ รียนศกึ ษามาตรฐานการบญั ชเี พมิ่ เติม 2. ผเู้ รยี นทาแบบประเมินก่อนเรียนใช้เวลา 10 นาที และใหด้ หู นา้ ชน้ั เรียนและใหผ้ เู้ รยี น แลกกนั ตรวจประเมินผล ขน้ั สอน 1.ครูอธิบายการควบคุมสินค้า โดยมีความสาคัญต่อธรุ กจิ เพอ่ื ให้การดาเนินงานมปี ระสทิ ธิภาพ ธรุ กจิ ตอ้ งมกี ารควบคมุ ในเร่ืองตอ่ ไปนี้ 1) การควบคุมการดาเนินงาน 2) การควบคุมทางบญั ชี 3) การควบคุมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกบั สินคา้ 4) การควบคมุ ปรมิ าณการสงั่ ซอื้ 5) การควบคมุ ปริมาณสินคา้ คงเหลอื 2.ครแู ละผู้เรยี นอธบิ ายพรอ้ มแสดงเส้นทางการเดนิ เอกสารในการควบคุมคา่ ใชจ้ า่ ยเกย่ี วกบั สินคา้ โดยการควบคุมคา่ ใช้จา่ ยเกยี่ วกบั สนิ คา้ ก็เพือ่ ทาให้คา่ ใชจ้ า่ ยเกย่ี วกับสินค้าตา่ ที่สุดทาใหก้ าไรสุทธสิ ูงสุด ซงึ่ คา่ ใช้จ่ายเกย่ี วกบั สนิ ค้าคงเหลอื (Inventory Expenses) แบ่งเปน็ 3 ประเภทคือ

1) ค่าใชจ้ ่ายในการสงั่ ซอ้ื หรอื สงั่ ผลิตสินค้า (Ordering Costs) 2) คา่ ใชจ้ ่ายในการเกบ็ รกั ษา (Inventory Carrying Cost) 3) ค่าใชจ้ า่ ยเนอื่ งจากสินคา้ ขาดแคลน (Out of Stock Cost) 3.ครแู ละผ้เู รยี นอธบิ ายและแสดงการคานวณการควบคมุ ปรมิ าณการสงั่ ซือ้ โดยการควบคุม ปริมาณการสงั่ ซ้อื คอื การควบคมุ ราคาสนิ ค้าเพอื่ ประหยัดค่าใช้จ่าย โดยการสงั่ ซอื้ โดยประหยัด ซงึ่ จะต้องคานวณหาปรมิ าณการสง่ั ซื้อทป่ี ระหยัด (Economic Order Quantity) เพราะถา้ สงั่ ซอ้ื ปรมิ าณที่ เหมาะสมก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการสง่ั ซอ้ื ปรมิ าณการสง่ั ซอื้ ทป่ี ระหยัดมสี ูตรในการคานวณดังน้ี EOQ = 2SO C 100 EOQ = ปรมิ าณการส่ังซือ้ ที่ประหยัด S = ปรมิ าณสนิ คา้ ทข่ี ายหรือใชต้ ลอดงวด (Selling) O = ค่าใชจ้ า่ ยในการสงั่ ซื้อตอ่ ครัง้ (Orderingcosts) C = ค่าใช้จา่ ยในการเกบ็ รกั ษาตอ่ หน่วย (Carryingcosts) 4.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงการคานวณในรา้ นมานพ ใชร้ ะบบการควบคุมภายในโดยควบคุมการสง่ั ซอ้ื ซ่ึงกจิ การคาดว่าจะขายสนิ ค้าได้ 5,000 หน่วย คา่ ใชจ้ า่ ยในการสัง่ ซ้ือ ตอ่ คร้งั 15 บาท คา่ ใชจ้ า่ ยในการเกบ็ รักษา 10 บาทต่อหน่วย ให้คานวณปริมาณการส่งั ซือ้ ทีป่ ระหยดั แทนคา่ EOQ = 2(5,000)(15) = 150,000 = 10 .10 100 1,500,000 = 1,224.74 หนว่ ย ปริมาณการสั่งซ้อื ท่ปี ระหยดั คอื จานวน 1,225 หนว่ ย/คร้ัง หลงั จากคานวณหาปริมาณการส่ังซอื้ ทป่ี ระหยดั แล้ว จะสามารถคานวณหายอดท่ีเกี่ยวขอ้ ง อีก คือ การคานวณหาจานวนคร้ังของการสั่งซ้ือ จานวนครง้ั ของการสั่งซือ้ = ปรมิ าณการขาย ปรมิ าณการสััง 5,000 แทนค่า = 1,225 =4.08 ครง้ั /ปี

จานวนคร้ังของการส่ังซ้อื 4 คร้ัง/ปี หลังจากทราบจานวนครง้ั ของการส่ังซือ้ แลว้ สามารถคานวณหาระยะเวลาการสั่งซอื้ (Lead time) ซงึ่ หมายถงึ ชว่ งระยะเวลาระหว่างทท่ี าคาสง่ั ซอ้ื จนถึงเวลาไดร้ บั ของเข้าเก็บโกดังโดยมีสูตรในการ คานวณ ดังน้ี ระยะเวลาการสัง่ ซื้อ = จานวนวนใน 1 ปี จานวนครง้ ทส่ี ง่ ซ้ือ แทนค่า 365 ระยะเวลาการสั่งซ้อื = 4 = 91.25 วัน/คร้งั = 91 วัน/ครง้ั 5.ครแู ละผเู้ รียนอธบิ ายและแสดงการควบคุมปริมาณสินค้าคงเหลอื โดยการควบคุมปรมิ าณสินคา้ คงเหลือ คือ การป้องกันไม่ให้สินค้าในมือมีจานวนมากหรือน้อยเกินไป เพราะอาจจะทาให้เกิดความ เสยี หายในการดาเนนิ งานได้ ซึ่งควรจะควบคมุ ในเรื่อง ดงั นี้ 1) จานวนสนิ คา้ คงเหลอื 2) จดุ ทสี่ งั่ ซ้ือเพ่ิม 3) ปริมาณการสัง่ ซอื้ เพิม่ 6.ครูอธิบายการใชร้ หัสแท่ง (Bar Code) โดยรหสั แทง่ หรือบารโ์ ค้ด (Bar Code) คือ รหัส ผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาสากลทางธุรกิจท่ีใช้กันท่ัวโลก ซ่ึงปัจจุบันบาร์โค้ดสร้างขึ้นภายใต้แบบแผนของ สมาคมสัญลักษณ์รหสั แท่งสากล แบง่ เปน็ 2 กล่มุ คอื 1) ระบบ UPC = Universal ProductCode ใชใ้ นอเมริกาและแคนนาดา 2) ระบบ EAN = European Article Numbering ใช้กันมากทวั่ โลก เช่น ยโุ รป เอเชยี แปซฟิ กิ ออสเตรเลียและลาตนิ อเมรกิ า รวมทั้งประเทศไทยด้วย ขน้ั สรปุ และการประยกุ ต์ 6.สรปุ ให้ผเู้ รยี นเข้าใจถึงรหสั แทง่ (Bar Code) สาหรับกจิ การขนาดใหญใ่ นปัจจบุ ันจะนยิ มใช้รหัส แท่ง (Bar Code) เพราะเป็นมาตรฐานสากล สามารถตรวจสอบจานวน ราคาสินค้าได้ เพราะเมื่อ บาร์โคด้ ถกู อ่านก็จะส่งข้อมลู ไปตัดยอดสนิ ค้าจากบตั รสนิ ค้าในเครื่องคอมพวิ เตอร์ ทาให้ทราบยอดสินค้า คงเหลือทนั ที ซ่งึ สะดวก รวดเรว็ กจิ การท่ีใช้รหสั แทง่ จะไม่ตรวจนับสนิ ค้าคงเหลอื ทกุ ชนิด เพราะมีการบันทึก สินค้าแบบต่อเน่ืองโดยป้อนข้อมูลรับเข้าและตัดยอดเมื่อจาหน่ายสินค้าด้วยบาร์โค้ดจะตรวจนับสินค้า คงเหลือ โดยวธิ ีการสุ่มตัวอย่างกบั สนิ ค้าบางชนิดเท่าน้นั

7.ครูสรปุ อกี ครัง้ โดยเชอื่ มโยงใหเ้ หน็ กระบวนการนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน 8.ผเู้ รยี นวางแผนการนาหลกั ของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการบนั ทึกบัญชเี ก่ียวกบั การซอ้ื ขายสินค้า ซงึ่ ในเน้อื หาของสัปดาห์นส้ี ามารถสรปุ ได้ดังน้ี (1) สรา้ งภูมิค้มุ กันที่ดใี นตัวเองได้ เชน่ ใช้ความรอบคอบในการบันทกึ บญั ชีไมใ่ ห้ผดิ พลาด (2) มีเหตุผลในการวเิ คราะหร์ ายการคา้ แตล่ ะรายการ เพื่อบนั ทกึ บญั ชี (3) มคี วามเพียงพอ ในการซอื้ ขายสนิ ค้าเพอื่ บรโิ ภคหรอื จาหนา่ ย (4) มเี งอื่ นไขดา้ นคุณธรรม ได้แก่ บันทึกบญั ชีใหถ้ ูกตอ้ ง (5) มเี ง่ือนไขดา้ นวชิ าการ ได้แก่ บนั ทึกบญั ชตี ามหลักการบญั ชีท่ยี อมรบั ทัว่ ไป และมี ความรเู้ รอ่ื งมาตรฐานการบัญชี (6) สามารถนารายการบญั ชไี ปบนั ทกึ ในเครอ่ื งคอมพวิ เตอรห์ รือโปรแกรมสาเรจ็ รปู บญั ชีได้ ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น วิชาการบญั ชสี นิ คา้ และระบบใบสาคญั ของสานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. สอ่ื Power Point 3. กจิ กรรมการเรียนการสอน 4. ใบความรู้ 5. กิจกรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ และส่งเสรมิ คุณธรรมนาความรู้ หลกั ฐาน 1. บนั ทึกการสอน 2. ใบแสดงผลการปฏบิ ัตงิ าน 3. แผนจดั การเรียนรู้ 4. ใบเช็คชื่อเขา้ ห้องเรยี น การวัดผลและการประเมนิ ผล วิธีวัดผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนเรยี น 4. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รียนเปน็ สาคญั และส่งเสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 5 ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุม่ 6 สังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 7 การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์

เครอื่ งมอื วดั ผล 1.แบบสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2.แบบประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู) 3.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผู้เรยี น) 4.แบบประเมินกิจกรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ นเรียน 6.แบบประเมินกิจกรรมเสนอแนะผู้เรียนเปน็ สาคัญ และสง่ เสริมคณุ ธรรมนาความรู้ 7. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละ ผเู้ รียนร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง 2.เกณฑผ์ า่ นการประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ขนึ้ ไป) 3.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 4.กิจกรรมใบงาน เกณฑ์ผ่าน คือ 50% 5.แบบประเมินผลการเรยี นรูก้ ่อนเรยี นมเี กณฑผ์ ่าน 50% 6.แบบประเมินกิจกรรมเสนอแนะผู้เรียนเป็นสาคัญและส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ ผา่ น 50% 7. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่ กับการประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทาใบงานและแบบประเมินผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จ่าย 3. กิจกรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ และส่งเสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ สมดุ บนั ทกึ รายรับ-รายจา่ ย ของนาย/นาง/นางสาว....................................................... ประจาภาคเรยี นท.่ี ../........ระหวา่ งเดอื น..................ถงึ เดอื น................พ.ศ. ........ วัน เดือน ปี รายการ รายรบั รายจา่ ย คงเหลือ

บันทกึ หลังการสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................... .............. .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ปัญหาที่พบ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................ .. แนวทางแกป้ ัญหา ................................................................................................................. ................................. ............................................................................................................................. ..................... ..................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5 หนว่ ยท่ี 3 การบญั ชีสินคา้ และระบบใบสาคัญ สอนครง้ั ท่ี 5 ชอ่ื หน่วย การตรวจนบั การวดั มลู ค่า และการรายงานสินค้า (21-25) คงเหลอื ในวันสนิ้ งวดบัญชี จานวน 5 ช.ม. สาระสาคัญ การตรวจนับสินคา้ คอื การตรวจสอบสนิ ค้าท่ีมีอยู่จริงกับบัญชีสินค้าของกิจการ ซึ่งควรจะมี การตรวจนับอย่างนอ้ ยปีละ 2 ครัง้ เพื่อปอ้ งกนั การทจุ รติ และการขาดแคลนสินค้า การตรวจนบั สนิ ค้า ตอ้ งพจิ ารณาสนิ ค้าที่มิได้อย่ใู นกจิ การด้วย เชน่ สินค้าระหว่างทาง สินค้าฝากขายฯ เมื่อตรวจนับแล้ว กจิ การทบ่ี ันทกึ บัญชรี ะบบ Periodicก็ตอ้ งตีราคาสินค้าคงเหลอื ซึ่งจะตตี ามราคาทนุ หรอื มูลค่าสุทธิท่ี จะได้รับแล้วแต่ราคาใดจะต่ากว่า หรือวิธีราคาขายปลีก หรือวิธีต้นทุนมาตรฐาน ส่วนระบบ Perpetual จะไมต่ ีราคาสนิ ค้าคงเหลือ เพราะบันทึกบัญชีสินค้าต่อเนื่อง จึงทราบราคาสินค้าคงเหลือ จากทะเบียนสินค้า จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.อธบิ ายความหมายของการตรวจนบั สนิ คา้ คงเหลือได้ 2.บอกประโยชนข์ องการตรวจนบั สินค้าคงเหลอื ได้ 3.มกี ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ท่คี รสู ามารถสงั เกตได้ ขณะทาการสอนในเรือ่ ง 3.1 ความมมี นษุ ยสมั พันธ์ 3.2 ความมีวนิ ยั 3.3 ความรับผิดชอบ 3.4 ความซ่ือสัตย์สจุ ริต 3.5 ความเชือ่ มนั่ ในตนเอง 3.6 การประหยดั 3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 3.8 การละเว้นสิ่งเสพตดิ และการพนนั 3.9 ความรักสามคั คี 3.10 ความกตัญญกู ตเวที

สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรู้เก่ียวกับหลกั การและกระบวนการปฏบิ ัติงานบัญชีเก่ยี วกบั สินคา้ คงคลังและระบบ ใบสาคญั 2. บนั ทึกบญั ชีเกย่ี วกับสนิ คา้ คงคลงั ตามหลักการบญั ชที ี่รับรองท่วั ไป 3. จดั ทาแผน่ งานสนิ คา้ คงคลงั และวดั มูลคา่ สินค้าคงคลงั ตามหลกั การ บญั ชีทีร่ บั รองทัว่ ไป 4. บันทึกบญั ชีเกย่ี วกบั ระบบใบสาคัญ เนอื้ หาสาระ 1.การตรวจนับสนิ ค้าคงเหลอื 2.ประโยชน์ของการตรวจนบั สินค้าคงเหลือ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1.ครเู ล่าใหผ้ ู้เรียนฟงั วา่ การตรวจนบั สนิ ค้าคงเหลือคือ การตรวจสอบสินค้าทม่ี ีอยจู่ รงิ กบั บญั ชี สนิ ค้าของกจิ การ ซงึ่ จะตอ้ งมีการตรวจนบั อยา่ งนอ้ ยปลี ะ 2 ครง้ั คือ การตรวจนบั เป็นปกติประจาปี และตรวจนบั กอ่ นการตรวจนบั ปกติ 2.ครแู ละผูเ้ รยี นชี้แจงว่ากิจการที่บันทึกรายการเกี่ยวกับสินค้าแบบส้ินงวด (Periodic) กิจการ จะตอ้ งทาการตรวจนับสินค้าเพือ่ ให้ทราบจานวนสนิ ค้าเมื่อสิน้ งวดบญั ชี เพอ่ื จดั ทางบการเงนิ ส่วนกิจการ ท่ีบันทึกรายการเก่ียวกับสินค้าแบบต่อเนื่อง (Perpetual) จะตรวจนับสินค้าเพื่อตรวจสอบกับจานวนท่ี บนั ทกึ ไว้ในบญั ชสี นิ คา้ ขั้นสอน 3.ครูอธบิ ายและสาธติ การตรวจนบั สนิ ค้าคงเหลอื โดยแสดงสอ่ื Power Point ประกอบการ เรียนการสอน 4.ครแู ละผ้เู รยี นบอกประโยชนข์ องการตรวจนบั สินค้าคงเหลือมปี ระโยชน์ดังนี้ 1) เพอ่ื ทาใหท้ ราบจานวนสนิ ค้าคงเหลอื ท่แี ท้จริง หากมขี องขาดหรือเกนิ ตอ้ งปรับบัญชใี ห้ ถูกต้อง 2) เพือ่ เปรียบเทยี บสินคา้ ท่ีตรวจนับไดก้ บั สนิ ค้าในทะเบียนสนิ ค้า 3) ทาให้เราทราบความเสียหายของสินคา้ ทมี่ ี เชน่ ถกู ทาลายโดยแมลง เสอ่ื มสภาพ ล้าสมัย จะไดห้ าวิธปี ้องกันขอ้ บกพรอ่ ง หรอื พิจารณาว่าควรเก็บสนิ คา้ นนั้ ไวอ้ ีกหรอื ควรจาหนา่ ยออกไป 4) เพ่อื ปอ้ งกันการทจุ รติ การยกั ยอก การสญู เสยี ของสนิ ค้า 5) เพื่อปอ้ งกนั การขาดแคลนสนิ ค้า เพราะทราบยอดคงเหลอื จากการตรวจนบั ถ้าสนิ ค้า เหลือนอ้ ยหรอื ถงึ จดุ สัง่ ซอื้ จะได้สงั่ ซ้ือทันที เน่อื งจากการส่งั ซอ้ื อาจล่าชา้ ได้ 6) เพอ่ื นาจานวนสนิ ค้าคงเหลือทตี่ รวจนบั ไดไ้ ปจดั ทางบการเงนิ

5.ครแู ละผู้เรยี นแสดงการนบั รวมสนิ ค้าที่ถอื เป็นสินคา้ คงเหลอื โดยการนบั รวมสินค้าท่ีถือเปน็ สนิ ค้าคงเหลอื ในวนั ส้นิ งวด ควรรวมเฉพาะสนิ ค้าทเ่ี ปน็ กรรมสทิ ธขิ์ องกจิ การเทา่ น้นั ซงึ่ กรรมสทิ ธใ์ิ นสินคา้ มิได้มเี ฉพาะสินคา้ ทีค่ งเหลืออยู่ในรา้ นและยงั ไดไ้ ดข้ าย แตย่ ังรวมถึงสนิ คา้ ท่ีมิไดอ้ ย่ใู นร้านด้วย 6.ผเู้ รียนวางแผนการนาหลกั ของเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการบันทึกบัญชเี กีย่ วกับการ ซื้อขายสินคา้ ซึง่ ในเนอื้ หาของสปั ดาห์นส้ี ามารถสรปุ ไดด้ ังนี้ (1) สร้างภูมิค้มุ กันทดี่ ใี นตัวเองได้ เชน่ ใชค้ วามรอบคอบในการบันทึกบญั ชีไม่ใหผ้ ดิ พลาด (2) มเี หตผุ ลในการวเิ คราะหร์ ายการคา้ แต่ละรายการ เพอ่ื บนั ทกึ บัญชี (3) มคี วามเพยี งพอ ในการซือ้ ขายสนิ คา้ เพ่อื บริโภคหรอื จาหนา่ ย (4) มเี งอื่ นไขด้านคุณธรรม ได้แก่ บนั ทึกบญั ชใี ห้ถกู ตอ้ ง (5) มีเงอื่ นไขดา้ นวชิ าการ ได้แก่ บันทึกบญั ชีตามหลกั การบญั ชที ย่ี อมรบั ทัว่ ไป และมี ความร้เู รื่องมาตรฐานการบัญชี (6) สามารถนารายการบญั ชีไปบนั ทกึ ในเครื่องคอมพิวเตอรห์ รอื โปรแกรมสาเรจ็ รปู บญั ชไี ด้ ข้ันสรปุ และการประยกุ ต์ 7.สรปุ โดยผเู้ รยี นฝกึ ทักษะทาใบงานใหเ้ กดิ ความชานาญ เพอ่ื ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และ ประเมนิ ผเู้ รียนตามแบบฟอร์มต่อไปนี้ ชอ่ื ผูเ้ รยี น ประสบการณพ์ น้ื ฐานการเรียนรู้ วิธีการเรยี นรู้ ความรู้ ทักษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี น วิชาการบญั ชีสินคา้ และระบบบัญชเี ดี่ยว ของสานกั พมิ พ์เอมพนั ธ์ 2. สื่อ Power Point 3. กิจกรรมการเรียนการสอน 4. ใบความรู้ 5. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคัญ และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้

หลักฐาน 1. บนั ทกึ การสอน 2. ใบแสดงผลการปฏิบตั ิงาน 3. แผนจัดการเรียนรู้ 4. ใบเช็คชื่อเข้าหอ้ งเรียน การวัดผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนเรียนและหลงั เรียน 4. ประเมนิ กิจกรรมเสนอแนะผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั และส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ 5 ประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ 6 สังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 7 การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เครอ่ื งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยครู) 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รียน) 4. แบบประเมินกจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมินผลการเรียนรกู้ ่อนเรียนและหลงั เรยี น 6. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผู้เรียนเปน็ สาคญั และส่งเสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 7. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละ ผ้เู รยี นร่วมกนั ประเมิน เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ข้ึนไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ขึน้ ไป) 4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คือ 50% 5. แบบประเมินผลการเรยี นรมู้ เี กณฑ์ผา่ น 50% 6. แบบประเมินกิจกรรมเสนอแนะผู้เรียนเป็นสาคัญและส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ ผ่าน 50%

7 แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่ กับการประเมินตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทาใบงานและแบบประเมินผลการเรียนรู้ 2. บันทึกการรบั -จา่ ย 3. กิจกรรมเสนอแนะผเู้ รียนเปน็ สาคัญ และส่งเสรมิ คุณธรรมนาความรู้ สมดุ บนั ทกึ รายรับ-รายจา่ ย ของนาย/นาง/นางสาว....................................................... ประจาภาคเรยี นท.ี่ ../........ระหวา่ งเดอื น..................ถงึ เดือน................พ.ศ........ วนั เดอื น ปี รายการ รายรบั รายจา่ ย คงเหลือ หมายเหต:ุ 1.ถ้าไมพ่ อใหใ้ ชก้ ระดาษ A-4 ตีแบบฟอรม์ เพมิ่ เติมได้ 2.ครูผสู้ อนอาจให้บันทึกเปน็ วัน/อาทิตย/์ เดอื นแล้วสรปุ เป็นภาคเรยี น.../....ก็ได้ สรปุ .................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................... ขอ้ เสนอแนะ...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...............................

แบบประเมินกจิ กรรมส่งเสรมิ คุณธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ให้ประเมินรายการแตล่ ะข้อแลว้ เขียน เคร่ืองหมาย  ลงในช่องระดับคณุ ภาพตามความเป็น จรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดังน้.ี - 5 = ดมี าก, 4 = ดี, 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรับปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ระดับคุณภาพ 1. การมมี นุษยสัมพันธ์  กล่าวขอบคุณเมอื่ ได้รับการชว่ ยเหลือจากผอู้ ่นื 5 4 3 2 1  รับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อ่ืน 2.ความมีวินยั  ไมม่ าโรงเรียนสาย  เข้าห้องเรียนทนั เวลาสมา่ เสมอ 3. ความรับผิดชอบ  ปฏิบัตงิ านท่ไี ดร้ บั มอบหมายเสร็จตามกาหนด  ปฏิบัตงิ านดว้ ยความละเอียดรอบคอบ 4. ความซอ่ื สัตยส์ จุ ริต  ไม่นาผลงานผอู้ น่ื มาแอบอ้างเป็นของตนเอง  พดู ในส่งิ ที่เป็นความจรงิ 5. ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาค้นคว้าจากกรมสรรพากร  แสวงหาประสบการณแ์ ละความรู้ใหม่ ๆ 6. ความเชื่อมัน่ ในตนเอง  ยอมรบั ฟังขอ้ เสนอแนะจากผอู้ ืน่  แสดงความคดิ เห็นเรอ่ื งภาษีมลู คา่ เพิ่ม รวมคะแนนท่ีได.้ ......................................คะแนน ขอ้ คดิ เห็นเพมิ่ เติม 1. กระบวนการคดิ ทีใ่ ช้ คอื ……….…………………………………….………………………………… 2. สิ่งทคี่ วรปรับปรงุ คือ……….…………………………………….……………………………………….. ผู้ประเมิน............................................ เกณฑ์การประเมินระดับคุณภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = พอใช้ 15-19 คะแนน = ควรปรับปรุง 0-14 คะแนน = ใช้ไม่ได้ หมายเหตุ.- อา้ งองิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคก์ ระทรวงศึกษาธิการ

บันทกึ หลงั การสอน ข้อสรุปหลังการสอน ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ปัญหาทีพ่ บ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. .... แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. .....................

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 6 หน่วยท่ี 3 การบญั ชีสินค้าและระบบใบสาคัญ สอนครัง้ ท่ี 6 ชือ่ หน่วย การตรวจนับ การวดั มลู ค่า และการรายงานสินค้า (26-30) คงเหลือในวันส้ินงวดบัญชี จานวน 5 ช.ม. สาระสาคญั การตรวจนับสนิ คา้ คือ การตรวจสอบสนิ คา้ ทีม่ อี ยู่จริงกับบัญชีสินค้าของกิจการ ซึ่งควรจะมี การตรวจนบั อยา่ งนอ้ ยปีละ 2 ครง้ั เพื่อป้องกันการทจุ รติ และการขาดแคลนสินคา้ การตรวจนับสินค้า ต้องพจิ ารณาสนิ ค้าท่ีมิได้อยใู่ นกจิ การด้วย เช่น สินค้าระหวา่ งทาง สินค้าฝากขายฯ เม่ือตรวจนับแล้ว กจิ การที่บนั ทึกบญั ชีระบบ Periodicกต็ อ้ งตีราคาสินคา้ คงเหลอื ซง่ึ จะตตี ามราคาทนุ หรือมูลค่าสุทธิที่ จะได้รับแล้วแต่ราคาใดจะต่ากว่า หรือวิธีราคาขายปลีก หรือวิธีต้นทุนมาตรฐาน ส่วนระบบ Perpetual จะไมต่ ีราคาสนิ คา้ คงเหลือ เพราะบันทึกบัญชีสินค้าต่อเนื่อง จึงทราบราคาสินค้าคงเหลือ จากทะเบียนสินค้า จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.อธบิ ายสินคา้ ทน่ี บั รวมเป็นสินคา้ คงเหลอื ได้ 4.วธิ ีการตรวจนบั สนิ ค้าคงเหลอื 5.มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผสู้ าเรจ็ การศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ท่คี รูสามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรอ่ื ง 5.1 ความมีมนุษยสมั พันธ์ 5.2 ความมีวินัย 5.3 ความรบั ผิดชอบ 5.4 ความซื่อสัตยส์ จุ ริต 5.5 ความเชื่อมน่ั ในตนเอง 5.6 การประหยดั 5.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 5.8 การละเว้นสงิ่ เสพตดิ และการพนัน 5.9 ความรักสามคั คี 5.10 ความกตญั ญกู ตเวที

สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกย่ี วกับหลกั การและกระบวนการปฏบิ ตั งิ านบญั ชีเก่ยี วกบั สินคา้ คงคลงั และระบบ ใบสาคัญ 2. บันทกึ บัญชเี ก่ยี วกบั สนิ คา้ คงคลงั ตามหลกั การบญั ชที ีร่ บั รองทัว่ ไป 3. จดั ทาแผ่นงานสินคา้ คงคลงั และวดั มูลคา่ สินค้าคงคลงั ตามหลกั การ บญั ชีทรี่ บั รองทั่วไป 4. บนั ทกึ บญั ชเี กี่ยวกบั ระบบใบสาคัญ เน้อื หาสาระ 3.การนับรวมสินคา้ ทถี่ ือเป็นสนิ คา้ คงเหลือ 4.วิธกี ารตรวจนบั สินค้าคงเหลือ กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรยี น 1.ครเู ล่าใหผ้ ้เู รยี นฟังวา่ การตรวจนบั สนิ คา้ คงเหลอื คือ การตรวจสอบสินคา้ ทมี่ ีอยจู่ รงิ กับบัญชี สินค้าของกจิ การ ซึ่งจะต้องมกี ารตรวจนบั อย่างนอ้ ยปลี ะ 2 คร้งั คอื การตรวจนบั เป็นปกตปิ ระจาปี และตรวจนบั กอ่ นการตรวจนบั ปกติ 2.ครแู ละผ้เู รยี นช้ีแจงว่ากิจการที่บันทึกรายการเก่ียวกับสินค้าแบบสิ้นงวด (Periodic) กิจการ จะตอ้ งทาการตรวจนับสนิ ค้าเพ่อื ใหท้ ราบจานวนสนิ คา้ เม่ือสิ้นงวดบัญชี เพ่อื จัดทางบการเงิน ส่วนกจิ การ ทบ่ี นั ทกึ รายการเกยี่ วกบั สินคา้ แบบต่อเน่ือง (Perpetual) จะตรวจนับสินค้าเพ่ือตรวจสอบกับจานวนท่ี บนั ทึกไว้ในบัญชสี นิ คา้ ขั้นสอน 3.ครอู ธบิ ายและสาธิตการตรวจนบั สนิ คา้ คงเหลอื โดยแสดงสือ่ Power Point ประกอบการ เรยี นการสอน 4.ครแู ละผู้เรยี นบอกประโยชน์ของการตรวจนับสินค้าคงเหลือมปี ระโยชน์ดังนี้ 1) เพอื่ ทาใหท้ ราบจานวนสินค้าคงเหลอื ท่ีแท้จริง หากมขี องขาดหรอื เกนิ ตอ้ งปรบั บัญชีให้ ถูกตอ้ ง 2) เพือ่ เปรียบเทียบสนิ ค้าทต่ี รวจนบั ได้กับสนิ คา้ ในทะเบียนสินคา้ 3) ทาให้เราทราบความเสยี หายของสนิ คา้ ทม่ี ี เชน่ ถกู ทาลายโดยแมลง เสอ่ื มสภาพ ล้าสมัย จะไดห้ าวธิ ีปอ้ งกันขอ้ บกพรอ่ งหรือพจิ ารณาวา่ ควรเกบ็ สินคา้ นน้ั ไวอ้ กี หรอื ควรจาหนา่ ยออกไป 4) เพอื่ ปอ้ งกันการทจุ รติ การยกั ยอก การสูญเสยี ของสนิ ค้า 5) เพื่อปอ้ งกันการขาดแคลนสินค้า เพราะทราบยอดคงเหลอื จากการตรวจนบั ถา้ สนิ คา้ เหลือนอ้ ยหรอื ถงึ จดุ สัง่ ซอื้ จะได้สง่ั ซ้อื ทันที เนอื่ งจากการส่ังซื้ออาจลา่ ชา้ ได้ 6) เพอ่ื นาจานวนสนิ คา้ คงเหลือที่ตรวจนบั ไดไ้ ปจดั ทางบการเงิน

5.ครูและผูเ้ รยี นแสดงการนบั รวมสนิ คา้ ท่ีถอื เป็นสินคา้ คงเหลอื โดยการนบั รวมสินคา้ ทีถ่ อื เปน็ สนิ ค้าคงเหลือในวันสน้ิ งวด ควรรวมเฉพาะสนิ ค้าทเ่ี ป็นกรรมสิทธข์ิ องกจิ การเทา่ นน้ั ซง่ึ กรรมสิทธใ์ิ นสนิ ค้า มิได้มีเฉพาะสินคา้ ที่คงเหลอื อยใู่ นร้านและยังได้ได้ขาย แต่ยงั รวมถึงสนิ ค้าทมี่ ไิ ด้อยูใ่ นรา้ นด้วย 6.ผูเ้ รยี นวางแผนการนาหลกั ของเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยกุ ต์ใช้ในการบันทกึ บัญชีเก่ยี วกบั การ ซอื้ ขายสนิ คา้ ซึ่งในเนอื้ หาของสปั ดาห์นส้ี ามารถสรปุ ไดด้ งั นี้ (1) สร้างภมู คิ มุ้ กนั ท่ดี ีในตวั เองได้ เชน่ ใช้ความรอบคอบในการบันทึกบญั ชไี ม่ให้ผดิ พลาด (2) มีเหตผุ ลในการวเิ คราะหร์ ายการค้าแตล่ ะรายการ เพอ่ื บนั ทกึ บัญชี (3) มีความเพียงพอ ในการซอ้ื ขายสินค้าเพอ่ื บรโิ ภคหรอื จาหนา่ ย (4) มีเงอ่ื นไขดา้ นคุณธรรม ได้แก่ บนั ทึกบญั ชีให้ถูกตอ้ ง (5) มีเง่ือนไขดา้ นวิชาการ ได้แก่ บันทึกบัญชตี ามหลักการบญั ชีทีย่ อมรบั ทว่ั ไป และมี ความร้เู รอื่ งมาตรฐานการบญั ชี (6) สามารถนารายการบญั ชีไปบนั ทกึ ในเครือ่ งคอมพิวเตอรห์ รือโปรแกรมสาเรจ็ รปู บญั ชีได้ ขั้นสรปุ และการประยุกต์ 7.สรปุ โดยผูเ้ รียนฝกึ ทักษาทาใบงานใหเ้ กิดความชานาญ เพอื่ ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวันและ ประเมินผู้เรียนตามแบบฟอรม์ ต่อไปนี้ ชื่อผู้เรียน ประสบการณพ์ น้ื ฐานการเรียนรู้ วธิ ีการเรียนรู้ ความรู้ ทักษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. สือ่ และแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น วชิ าการบัญชสี ินคา้ และระบบบัญชีเดย่ี ว ของสานักพิมพ์เอมพนั ธ์ 2. สอ่ื Power Point 3. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 4. ใบความรู้ 5. กจิ กรรมเสนอแนะผู้เรียนเปน็ สาคญั และส่งเสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ หลักฐาน 1. บนั ทึกการสอน 2. ใบแสดงผลการปฏบิ ตั งิ าน

3. แผนจดั การเรยี นรู้ 4. ใบเช็คชื่อเขา้ ห้องเรยี น การวดั ผลและการประเมนิ ผล วธิ ีวดั ผล 1. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2. ตรวจใบงาน 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรูก้ อ่ นเรียนและหลงั เรยี น 4. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รียนเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 5 ประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 6 สังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 7 การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เครือ่ งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2. แบบประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยครู) 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมินกจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ นเรียนและหลังเรยี น 6. แบบประเมินกจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และส่งเสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 7. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยครแู ละ ผเู้ รยี นร่วมกันประเมิน เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ ่านการประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ คือ ปานกลาง (50 % ขึ้นไป) 3. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กิจกรรมใบงาน เกณฑผ์ ่าน คือ 50% 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ ่าน 50% 6. แบบประเมินกิจกรรมเสนอแนะผู้เรียนเป็นสาคัญและส่งเสริมคุณธรรมนาความรู้ ผ่าน 50% 7 แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่ กบั การประเมินตามสภาพจรงิ

กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ทาใบงานและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทึกการรบั -จา่ ย 3. กิจกรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเปน็ สาคญั และสง่ เสริมคณุ ธรรมนาความรู้ สมุดบันทกึ รายรับ-รายจา่ ย ของนาย/นาง/นางสาว....................................................... ประจาภาคเรยี นท.่ี ../........ระหวา่ งเดอื น..................ถงึ เดือน................พ.ศ........ วัน เดือน ปี รายการ รายรับ รายจา่ ย คงเหลือ หมายเหต:ุ 1.ถา้ ไม่พอใหใ้ ช้กระดาษ A-4 ตแี บบฟอรม์ เพมิ่ เติมได้ 2.ครูผสู้ อนอาจใหบ้ นั ทกึ เปน็ วนั /อาทิตย/์ เดอื นแลว้ สรปุ เป็นภาคเรียน.../....กไ็ ด้ สรปุ .................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................... ข้อเสนอแนะ.................................................................................................................................... .. ............................................................................................................................. ...............................

แบบประเมินกิจกรรมสง่ เสริมคุณธรรมนาความรู้ คาช้แี จง ให้ประเมินรายการแตล่ ะข้อแล้วเขยี น เครื่องหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเปน็ จริง โดยกาหนดนา้ หนกั คะแนน ดังน้ี.- 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช้ , 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ระดบั คุณภาพ 1. การมีมนุษยสัมพันธ์  กล่าวขอบคุณเมือ่ ได้รบั การชว่ ยเหลอื จากผูอ้ ่ืน 5 4 3 2 1  รบั ฟังความคดิ เหน็ ของผู้อน่ื 2.ความมวี นิ ยั  ไมม่ าโรงเรยี นสาร  เขา้ ห้องเรยี นทันเวลาสม่าเสมอ 3. ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏิบตั ิงานท่ไี ดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกาหนด  ปฏิบัติงานด้วยความละเอยี ดรอบคอบ 4. ความซ่ือสตั ยส์ จุ รติ  ไม่นาผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พูดในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5. ความสนใจใฝร่ ู้  ศึกษาคน้ ควา้ จากกรมสรรพากร  แสวงหาประสบการณ์และความรู้ใหม่ ๆ 6. ความเชอื่ ม่นั ในตนเอง  ยอมรบั ฟังขอ้ เสนอแนะจากผู้อ่ืน  แสดงความคดิ เหน็ เรื่องภาษีมลู ค่าเพม่ิ รวมคะแนนทไ่ี ด.้ ......................................คะแนน ขอ้ คดิ เห็นเพม่ิ เตมิ 1. กระบวนการคดิ ที่ใช้ คอื ……….…………………………………….………………………………… 2. ส่ิงท่คี วรปรบั ปรงุ คือ……….…………………………………….……………………………………….. ผู้ประเมิน............................................ เกณฑ์การประเมินระดบั คุณภาพ 28-30 คะแนน = ดีมาก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = พอใช้ 15-19 คะแนน = ควรปรับปรงุ 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ หมายเหตุ.- อา้ งอิงคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยมและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผู้สาเรจ็ การศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ

บันทกึ หลงั การสอน ข้อสรุปหลังการสอน .............................................................................................................. .................................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... ......................................................................................................... ......................................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ปัญหาทีพ่ บ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................. .... แนวทางแก้ปญั หา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. .....................

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 หนว่ ยท่ี 3 การบญั ชสี นิ คา้ และระบบใบสาคัญ สอนครั้งที่ 7 ช่อื หน่วย การตรวจนับ การวดั มูลค่า และการรายงานสนิ ค้า (31-35) คงเหลือในวันส้นิ งวดบัญชี จานวน 5 ช.ม. สาระสาคญั การตรวจนับสินคา้ คอื การตรวจสอบสนิ ค้าทีม่ อี ยู่จริงกับบัญชีสินค้าของกิจการ ซึ่งควรจะมี การตรวจนบั อย่างนอ้ ยปีละ 2 ครง้ั เพอ่ื ปอ้ งกันการทจุ รติ และการขาดแคลนสินค้า การตรวจนบั สินคา้ ต้องพจิ ารณาสินคา้ ทม่ี ิไดอ้ ย่ใู นกจิ การดว้ ย เช่น สินค้าระหว่างทาง สนิ ค้าฝากขายฯ เมื่อตรวจนับแล้ว กจิ การท่ีบนั ทึกบัญชรี ะบบ Periodicก็ต้องตรี าคาสินค้าคงเหลือ ซง่ึ จะตตี ามราคาทุน หรอื มูลค่าสุทธิที่ จะได้รับแล้วแต่ราคาใดจะต่ากว่า หรือวิธีราคาขายปลีก หรือวิธีต้นทุนมาตรฐาน ส่วนระบบ Perpetual จะไมต่ รี าคาสินค้าคงเหลือ เพราะบันทึกบัญชีสินค้าต่อเนื่อง จึงทราบราคาสินค้าคงเหลือ จากทะเบยี นสินค้า จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.การวดั มลู คา่ สินคา้ คงเหลอื ในวนั สิ้นงวดบญั ชี 2.มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องผู้สาเรจ็ การศกึ ษา ที่ครูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรื่อง 2.1 ความมมี นษุ ยสัมพนั ธ์ 2.2 ความมีวินัย 2.3 ความรบั ผดิ ชอบ 2.4 ความซ่อื สัตย์สจุ ริต 2.5 ความเช่อื มั่นในตนเอง 2.6 การประหยัด 2.7 ความสนใจใฝ่รู้ 2.8 การละเวน้ ส่ิงเสพตดิ และการพนนั 2.9 ความรกั สามคั คี 2.10 ความกตญั ญกู ตเวที

สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรู้เก่ยี วกับหลกั การและกระบวนการปฏบิ ตั ิงานบัญชีเกีย่ วกบั สนิ ค้าคงคลังและระบบ ใบสาคัญ 2. บนั ทกึ บญั ชเี ก่ียวกบั สินค้าคงคลงั ตามหลกั การบญั ชีทรี่ บั รองทว่ั ไป 3. จดั ทาแผ่นงานสนิ ค้าคงคลงั และวัดมลู คา่ สนิ คา้ คงคลังตามหลกั การ บญั ชีทรี่ บั รองทว่ั ไป 4. บันทกึ บญั ชีเกย่ี วกบั ระบบใบสาคญั เนอื้ หาสาระ 5.การวัดมลู คา่ สนิ คา้ คงเหลอื ในวันส้ินงวดบญั ชี กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเขา้ สู่บทเรยี น 1.ครูเลา่ ใหผ้ เู้ รียนฟงั วา่ การตรวจนบั สนิ คา้ คงเหลือคือ การตรวจสอบสินค้าทมี่ อี ยจู่ รงิ กบั บัญชี สินคา้ ของกจิ การ ซึ่งจะตอ้ งมีการตรวจนบั อยา่ งนอ้ ยปลี ะ 2 คร้งั คอื การตรวจนับเปน็ ปกตปิ ระจาปี และตรวจนบั กอ่ นการตรวจนบั ปกติ 2.ครแู ละผูเ้ รยี นชี้แจงวา่ กิจการที่บันทึกรายการเก่ียวกับสินค้าแบบส้ินงวด (Periodic) กิจการ จะตอ้ งทาการตรวจนับสนิ ค้าเพอื่ ให้ทราบจานวนสินค้าเมือ่ ส้ินงวดบัญชี เพ่ือจดั ทางบการเงิน สว่ นกิจการ ท่บี ันทึกรายการเกีย่ วกบั สินค้าแบบต่อเน่ือง (Perpetual) จะตรวจนับสินค้าเพ่ือตรวจสอบกับจานวนที่ บันทกึ ไวใ้ นบญั ชีสินคา้ ข้ันสอน 3.ครอู ธบิ ายและสาธติ การตรวจนบั สนิ ค้าคงเหลือ โดยแสดงส่ือ Power Point ประกอบการ เรียนการสอน 4.ครูและผเู้ รียนบอกประโยชน์ของการตรวจนับสินคา้ คงเหลอื มปี ระโยชนด์ งั นี้ 1) เพ่ือทาใหท้ ราบจานวนสินคา้ คงเหลือท่แี ท้จรงิ หากมขี องขาดหรือเกนิ ต้องปรับบญั ชีให้ ถูกต้อง 2) เพือ่ เปรียบเทยี บสนิ ค้าที่ตรวจนบั ได้กบั สินค้าในทะเบียนสนิ คา้ 3) ทาให้เราทราบความเสยี หายของสนิ ค้าทม่ี ี เช่น ถูกทาลายโดยแมลง เส่ือมสภาพ ลา้ สมัย จะได้หาวิธปี อ้ งกันขอ้ บกพรอ่ ง หรอื พิจารณาวา่ ควรเกบ็ สินคา้ น้นั ไว้อีกหรอื ควรจาหน่าย ออกไป 4) เพอื่ ปอ้ งกันการทจุ รติ การยักยอก การสญู เสียของสินค้า 5) เพอ่ื ปอ้ งกันการขาดแคลนสนิ ค้า เพราะทราบยอดคงเหลอื จากการตรวจนบั ถ้าสนิ คา้ เหลอื นอ้ ยหรือถงึ จดุ สั่งซอ้ื จะได้สง่ั ซื้อทันที เนอื่ งจากการส่งั ซอ้ื อาจล่าชา้ ได้ 6) เพ่ือนาจานวนสนิ คา้ คงเหลือทตี่ รวจนบั ไดไ้ ปจดั ทางบการเงนิ

5.ครแู ละผ้เู รียนแสดงการนับรวมสนิ ค้าที่ถือเป็นสินค้าคงเหลือ โดยการนับรวมสินค้าที่ถือเป็น สินค้าคงเหลอื ในวนั ส้นิ งวด ควรรวมเฉพาะสนิ ค้าท่เี ป็นกรรมสิทธิ์ของกจิ การเท่าน้ัน ซ่งึ กรรมสิทธใ์ิ นสินคา้ มไิ ด้มีเฉพาะสนิ คา้ ท่ีคงเหลอื อย่ใู นรา้ นและยังได้ไดข้ าย แต่ยงั รวมถงึ สนิ คา้ ทีม่ ิได้อยู่ในร้านด้วย 6.ผเู้ รียนวางแผนการนาหลกั ของเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยุกต์ใชใ้ นการบนั ทึกบัญชีเกีย่ วกับการ ซื้อขายสินค้า ซ่ึงในเนอ้ื หาของสปั ดาห์นสี้ ามารถสรปุ ได้ดังนี้ (1) สร้างภูมคิ ้มุ กนั ทีด่ ใี นตัวเองได้ เชน่ ใชค้ วามรอบคอบในการบนั ทึกบญั ชไี ม่ให้ผิดพลาด (2) มีเหตผุ ลในการวเิ คราะหร์ ายการค้าแต่ละรายการ เพอ่ื บนั ทึกบัญชี (3) มีความเพียงพอ ในการซ้ือขายสนิ ค้าเพอ่ื บรโิ ภคหรอื จาหน่าย (4) มเี ง่ือนไขด้านคุณธรรม ไดแ้ ก่ บนั ทึกบญั ชีใหถ้ ูกต้อง (5) มีเงอื่ นไขดา้ นวชิ าการ ได้แก่ บันทึกบญั ชตี ามหลกั การบญั ชที ีย่ อมรบั ทวั่ ไป และมี ความร้เู ร่ืองมาตรฐานการบัญชี (6) สามารถนารายการบญั ชไี ปบนั ทกึ ในเครอ่ื งคอมพิวเตอรห์ รอื โปรแกรมสาเรจ็ รปู บัญชีได้ ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 7.สรปุ โดยผูเ้ รียนฝกึ ทกั ษาทาใบงานใหเ้ กดิ ความชานาญ เพอื่ ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั และ ประเมินผู้เรียนตามแบบฟอร์มต่อไปน้ี ชื่อผู้เรียน ประสบการณพ์ นื้ ฐานการเรียนรู้ วิธกี ารเรียนรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี น วิชาการบญั ชสี ินคา้ และระบบบัญชีเดีย่ ว ของสานกั พิมพ์เอมพันธ์ 2. สื่อ Power Point 3. กจิ กรรมการเรียนการสอน 4. ใบความรู้ 5. กิจกรรมเสนอแนะผู้เรียนเปน็ สาคัญ และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook