Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 15ออนไลน์

15ออนไลน์

Published by waryu06, 2021-08-26 07:51:31

Description: 15ออนไลน์

Search

Read the Text Version

บนั ทกึ ข้อความ สว่ นราชการ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอชนแดน ที่ ศธ ๐๒๑๐.๕๔๐๓/ วันท่ี ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ เรื่อง สรุปผลการปฏบิ ตั งิ านโครงการส่งเสรมิ การเรยี นรสู้ ำหรบั นักศึกษาและประชาชน กิจกรรมรกั การอ่าน ผา่ นสื่อออนไลน์ เรยี น ผู้อำนวยการศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอชนแดน ตามที่ ห้องสมดุ ประชาชนอำเภอชนแดนได้จัดทำโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับนักศึกษาและ ประชาชน กิจกรรมรัการอ่านผ่านสื่อออนไลน์ ประจำเดือนเมษายน - กันยายน ๒๕๖๔ เพื่อส่งเสริมให้ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเอง และรู้จักแหล่งข้อมูล วิธีการ เข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว การประชาสัมพันธ์กิจกรรม และสามารถรับบริการต่างๆ ของห้องสมุด ประชาชนอำเภอชนแดนได้ ส่งเสริมให้มีนิสัยรักการอ่านนำไปสู่การเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น บัดน้ีโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเรยี บร้อยแลว้ ห้องสมดุ ประชาชนอำเภอชนแดน จงึ ขอสรุปผลการปฏิบัติงานโครงการดงั กล่าวรายละเอียดตาม เอกสารท่ีแนบมาพรอ้ มนี้ จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดทราบ นางวารี ชูบัว บรรณารักษ์ชำนาญการ

คำนำ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชนแดน มอบหมายให้ห้องสมุด ประชาชนอำเภอชนแดน ดำเนินการจัดทำโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับนักศึกษาและประชาชน กิจ กรรมรัการอ่านผ่านสื่อออนไลน์ ประจำเดือนเมษายน - กันยายน 2564 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเอง และรู้จักแหล่งข้อมูล วิธีการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง และรวดเร็ว การประชาสัมพันธ์กิจกรรม และสามารถรับบริการต่างๆ ของห้องสมุดประชาชนอำเภอชนแดน ได้ สง่ เสริมให้มีนสิ ัยรักการอา่ นนำไปสกู่ ารเรยี นรู้ และพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตใหด้ ขี น้ึ นัน้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชนแดน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สรุปผลการปฏิบัติงานโครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย เล่มนี้คงเป็นประโยชน์ในการใช้เป็นคู่มือในการ ดำเนินงานต่อไป หากมีข้อเสนอแนะประการใดโปรดแจ้งคณะผู้จัดทำเพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงใน ครงั้ ตอ่ ไป ผจู้ ดั ทำ สิงหาคม 2564

สารบัญ หน้า 1-9 บทท่ี 1 บทนำ 10 - 23 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยทเี่ กี่ยวข้อง 24 - 32 บทที่ 3 วิธดี ำเนินการตามโครงการ 33 - 37 บทที่ 4 ผลการดำเนนิ การตามโครงการ 38 - 40 บทท่ี 5 สรุปผลการดำเนินงานตามโครงการ ภาคผนวก รูปภาพ รายชื่อผูเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ ความพึงพอใจ คำส่งั โครงการ คณะผู้จัดทำ

1 บทที่ 1 บทนำ 1.ชื่อโครงการ โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย กจิ กรรมที่ 2 โครงการสง่ เสรมิ การเรียนรสู้ ำหรับนักศกึ ษาและประชาชน กจิ กรรมรักการอา่ นผา่ นสือ่ ออนไลน์ 2.  สอดคล้องกบั ยทุ ธศาสตรช์ าติ ยทุ ธศาสตร์ที่ 3 ดา้ นการพัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพทรพั ยากรมนุษย์ ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษยม์ ีเปา้ หมายการพัฒนาที่สำคัญเพือ่ พัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เกง่ และมีคุณภาพ โดยคนไทยมีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มี พัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์อดออม โอบออ้ มอารี มวี นิ ยั รักษาศลี ธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติ มหี ลักคดิ ท่ถี ูกต้อง มีทกั ษะทจ่ี า่ เป็นในศตวรรษท่ี 21 มที ักษะส่อื สารภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3และอนุรักษภ์ าษาท้องถ่ิน มนี สิ ัยรกั การเรียนร้แู ละการพัฒนาตนเองอย่าง ตอ่ เนื่องตลอดชวี ติ สู่การเป็นคนไทยที่มที กั ษะสงู เปน็ นวตั กร นักคิด ผปู้ ระกอบการ เกษตรกรยุคใหมแ่ ละอ่ืน ๆ โดย มสี ัมมาชพี ตามความถนัดของตนเอง ประเด็นที่ 2 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต มุ่งเน้นการพัฒนาคนเชิงคุณภาพในทุกช่วงวัย ประกอบด้วย (1) ช่วงการตั้งครรภ์/ปฐมวัย เน้นการเตรียมความพร้อมให้แก่พ่อแม่ก่อนการตั้งครรภ์ (2) ช่วงวัย เรียน/วัยรุ่น ปลูกฝังความเป็นคนดี มีวินัยพัฒนาทักษะการเรียนรู้ที่สอดรับกับศตวรรษที่ 21 (3) ช่วงวัยแรงงาน ยกระดับศักยภาพ ทักษะและสมรรถนะแรงงานสอดคล้องกับความต้องการของตลาด และ (4) ช่วงวัยผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้ผสู้ ูงอายเุ ป็นพลังในการขบั เคล่ือนประเทศ ประเดน็ ท่ี 6 การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดย (1) การสร้างความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทย (2) การส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ครอบครัวและชุมชนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (3) การปลูกฝังและพัฒนาทักษะนอก หอ้ งเรยี น และ (4) การพฒั นาระบบฐานขอ้ มลู เพื่อการพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย์  สอดคล้องกบั แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 1 การเสรมิ สรา้ งและพฒั นาศกั ยภาพทุนมนษุ ย์ 3.1 ปรับเปลยี่ นคา่ นิยมคนไทยใหม้ คี ณุ ธรรม จริยธรรม มีวนิ ัย จติ สาธารณะ และพฤตกิ รรม ทพี่ งึ ประสงค์ 3.1.2 ส่งเสริมให้มีกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งในและนอกห้องเรียนที่สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ความมีวินัย จิตสาธารณะ รวมทั้งเร่งสร้างสภาพแวดล้อมภายในและโดยรอบสถานศึกษาให้ปลอด จากอบายมุข อย่างจรงิ จัง 3.2 พัฒนาศกั ยภาพคนใหม้ ที กั ษะความรแู้ ละความสามารถในการดำรงชวี ติ อยา่ งมคี ุณคา่

2 3.2.2 พัฒนาเด็กวัยเรียนและวัยรุ่นให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ มีความคิด สร้างสรรค์ มที ักษะการทำงานและการใชช้ ีวติ ทพี่ ร้อมเข้าสูต่ ลาดงาน 3.3 ยกระดับคณุ ภาพการศึกษาและการเรยี นรู้ตลอดชวี ติ 3.3.6 จัดทำสื่อการเรียนรู้ที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์และสามารถใช้งานผ่านระบบอุปกรณ์สื่อสาร เคลอื่ นที่ ให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวก ทั่วถึง ไม่จากัดเวลาและสถานที่ และใช้มาตรการทางภาษีจูงใจให้ ภาคเอกชนผลิตหนงั สอื ส่อื การอา่ นและการเรยี นรทู้ มี่ ีคุณภาพและราคาถูก 3.3.7 ปรับปรุงแหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์และมีชีวิต อาทิพิพิธภัณฑ์ ห้องสมดุ โบราณสถาน อุทยานประวตั ิศาสตร์ โรงเรียนผู้สงู อายุ รวมท้งั สง่ เสริมใหม้ รี ะบบการจัดการความรู้ท่ีเป็นภูมิ ปัญญาทอ้ งถ่นิ  สอดคล้องกับนโยบาลของรัฐบาล (กระทรวงศกึ ษาธกิ าร) 1. การพฒั นาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 1.1 การจดั การศึกษาเพื่อคุณวฒุ ิ พัฒนาผ้เู รียนให้มีความรอบรู้และทักษะชวี ติ เพื่อเป็นเครือ่ งมือใน การดำรงชวี ติ และสร้างอาชีพ อาทิ การใช้เทคโนโลยีดิจทิ ลั สขุ ภาวะและทัศนคติทีด่ ีตอ่ การดูแลสขุ ภาพ 1.2 การเรยี นร้ตู ลอดชีวติ - จัดการเรียนร้ตู ลอดชวี ิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัย เนน้ ส่งเสรมิ และยกระดับทักษะภาษาอังกฤษ (English for All)  สอดคล้องกบั นโยบายและจุดเนน้ การดำเนินงาน กศน. จดุ เนน้ การดาํ เนินงานประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 ภารกจิ ต่อเน่อื ง 1.4 การศึกษาตามอธั ยาศยั 1) พัฒนาแหล่งการเรียนรู้ที่มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอ่านและพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น การพัฒนา กศน . ตําบล ห้องสมุด ประชาชนทุกแห่งให้มีการบริการที่ทันสมัย ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้างเครือข่าย ส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการห้องสมุดเคลื่อนที่ ห้องสมุดชาวตลาด พร้อมหนังสือและอุปกรณ์เพื่อจัดกิจกรรม ส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่หลากหลายให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างทั่วถึง สม่ำเสมอ รวมทั้ง เสริมสร้างความพร้อมในด้านบุคลากร สื่ออุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการอ่าน และการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่าน อยา่ งหลากหลายรปู แบบ 3) ประสานความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร หรอื ภาคส่วนต่าง ๆ ท่ีมีแหล่งเรียนรู้อืน่ ๆ เพื่อส่งเสริม การจดั การศกึ ษาตามอัธยาศยั ให้มรี ูปแบบท่หี ลากหลาย และตอบสนองความต้องการของประชาชน เช่น พพิ ธิ ภณั ฑ์ ศนู ยเ์ รยี นรู้ แหล่งโบราณคดี วดั ศาสนาสถาน หอ้ งสมุด รวมถึงภูมิปญั ญาท้องถ่นิ เปน็ ต้น

3  สอดคล้องกับตวั ชี้วดั การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษา มาตรฐานการศึกษาตามอัธยาศัย มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผูร้ บั บรกิ ารการศึกษาตามอัธยาศัย ตัวบง่ ชท้ี ่ี 1.1 ผู้รับบริการมีความรู้ หรอื ทักษะ หรอื ประสบการณ์ สอดคลอ้ งกับ วัตถุประสงค์ของโครงการ หรือกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศยั มาตรฐานท่ี 2 คุณภาพการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ตัวบ่งช้ีที่ 2.1 การกำหนดโครงการหรือกิจกรรมการศกึ ษาตามอัธยาศัย ตัวบ่งชท้ี ี่ 2.2 ผ้จู ัดกจิ กรรมมคี วามรู้ ความสามารถในการจัดการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ตัวบง่ ชีท้ ่ี 2.3 ส่ือหรอื นวัตกรรม และสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการจดั การศึกษาตาม อัธยาศัย ตวั บ่งช้ีท่ี 2.4 ผ้รู บั บริการมีความพงึ พอใจต่อการจัดการศกึ ษาตามอธั ยาศัย มาตรฐานที่ 3 คณุ ภาพการบรหิ ารจดั การของสถานศกึ ษา ตวั บง่ ช้ที ี่ 3.1 การบริหารจัดการของสถานศึกษาทีเ่ น้นการมสี ่วนร่วม ตัวบ่งชี้ที่ 3.2 ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตัวบง่ ชท้ี ี่ 3.5 การกำกับ นิเทศ ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการดำเนนิ งานของสถานศึกษา ตัวบง่ ชท้ี ่ี 3.7 การสง่ เสรมิ สนับสนนุ ภาคีเครอื ขา่ ยใหม้ สี ่วนร่วมในการจดั การศกึ ษา ตัวบง่ ชท้ี ่ี 3.8 การสง่ เสริม สนบั สนนุ การสรา้ งสงั คมแห่งการเรียนรู้ ข้อเสนอแนะ ของ สมศ. ข้อที่ 1 ในการดำเนินแผนงาน/โครงการ สถานศึกษาควรมีการติดตามตรวจสอบการดำเนินงานทุก ระยะ ขั้นตอนของการดำเนินงาน เพื่อประเมินผลและนำผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นระบบครบ วงจร PDCA และในการประเมินความพึงพอใจ ควรเพมิ่ ข้อเหตุผล ขอ้ คิดเหน็ หรอื ขอ้ เสนอแนะว่าเพราะเหตุใดข้อ นั้นจงึ ใหค้ ะแนนมากหรือน้อย ข้อที่ 13 ในการบริหารจัดการการดำเนินโครงการ กิจกรรมต่างๆ สถานศึกษาควรดำเนินการให้ ครบถว้ นเปน็ ระบบครบวงจร PDCA และในโครงการกิจกรรมควรกำหนดวัตถุประสงคเ์ ป็นรปู ธรรม มีการออกแบบ ประเมินให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ มีการดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลอย่าง ตอ่ เนื่องและนำผลการประเมนิ ที่ได้ไปวเิ คราะหถ์ ึงอปุ สรรค และนำไปวางแผน ปรบั ปรงุ พัฒนาในปีต่อไป 3. หลักการและเหตุผล ห้องสมุดประชาชน เป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญของชุมชน มีบทบาทหน้าที่ในการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย และการศึกษานอกโรงเรียน โดยมีสื่อความรู้ ในการให้บริการและจัดกระบวนการเรียนรู้ ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับ การศึกษา สร้างนิสัยรักการอ่าน ศึกษาค้นคว้า สนองความสนใจใฝ่รู้ รู้จักวิธีการค้นคว้าด้วยตนเองอยู่ตลอดเวลา ตลอดชีวิต การรับรู้ข้อมูลข่าวสารจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนในชุมชน การจัดกิจกรรมในเชิงรุก เพื่อให้เกิดการ

4 เรยี นรู้ของคนในชุมชน ปัจจุบนั หอ้ งสมดุ ประชาชนไดจ้ ดั หาทรัพยากรสารสนเทศหลากหลายรูปแบบสำหรบั ให้บริการ ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ และสื่อมัลติมีเดีย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใชแ้ ละผู้รบั บริการ และเพื่อให้เกิด ประโยชน์สูงสุดต่อการใช้ทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่ในห้องสมุด ซึ่งผู้ใช้และผู้รับบริการต้องรู้แนวทางในการเข้าถึง ทรพั ยากรสารสนเทศแตล่ ะรูปแบบ เพื่อใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพและไดร้ ับประโยชนจ์ ากทรพั ยากรสารสนเทศนนั้ ๆ ห้องสมุดประชาชนอำเภอชนแดนเล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมผู้ใช้และผู้รับบริการได้ศึกษาค้นคว้า เพิ่มเติมด้วยตนเอง และรู้จักแหล่งข้อมูล วิธีการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว การส่งเสริมประชาสัมพันธ์ กิจกรรมต่างๆ เพื่อให้สามารถรับบริการต่างๆของห้องสมุดได้ ห้องสมุดประชาชนอำเภอชนแดนจึงได้จัดโครงการ ส่งเสริมการเรยี นรสู้ ำหรบั นกั เรยี น นักศกึ ษาและประชาชน 4. วัตถปุ ระสงค์ 4.1 เพอ่ื ให้นักเรยี น นกั ศึกษาและประชาชนทวั่ ไปเขา้ ถงึ และมโี อกาสได้อา่ นหนังสือ 4.1 เพอ่ื กระตุ้นใหน้ ักเรียน นกั ศกึ ษาและประชาชนทั่วไปเขา้ มารับบริการในห้องสมุดประชาชนอำเภอ ชนแดนมากขนึ้ 4.2 เพ่อื ส่งเสรมิ ให้นักเรยี น นกั ศกึ ษาและประชาชนท่วั ไปมีความรคู้ วามเขา้ ใจการเข้าถงึ แหล่งสาร สารสนเทศได้อย่างมปี ระสิทธิภาพและตรงตามความตอ้ งการ 4.4 เพอ่ื เป็นการสง่ เสรมิ สนบั สนุนให้นกั เรียน นักศกึ ษา และประชาชนทวั่ ไปมีนสิ ยั รกั การอ่านนำไปสู่ การเรียนรู้ และพฒั นาคุณภาพชีวติ ให้ดขี ึ้น 5. เป้าหมาย จำนวน 783 คน เชงิ ปรมิ าณ นักเรียน นกั ศกึ ษา และประชาชนท่ัวไป เชิงคุณภาพ 1. นักเรียน นกั ศกึ ษาและประชาชนท่วั ไปเข้าถึง และมีโอกาสได้อา่ นหนงั สอื 2. นักเรยี น นักศกึ ษาและประชาชนท่วั ไปเขา้ มารบั บรกิ ารในห้องสมุดประชาชนอำเภอ ชนแดนมากข้ึน 3. นกั เรียน นกั ศกึ ษาและประชาชนท่ัวไปมคี วามรู้ความเขา้ ใจการเข้าถึงแหลง่ สารสารสนเทศไดอ้ ย่าง ประสทิ ธภิ าพและตรงตามความตอ้ งการ 4. นกั เรยี น นักศึกษา และประชาชนท่ัวไปมนี สิ ัยรักการอา่ นนำไปสู่ การเรยี นรู้ และพฒั นาคุณภาพ ชวี ิตให้ดขี น้ึ

6. วธิ ีดำเนินการ กิจกรรมหลกั วัตถปุ ระสงค์ กลุ่มเป้าหมาย ก 1. ขั้นเตรียมการ ครูและบุคลากร เพื่อจัดประชุมครูและบคุ ลากรทางการ กศน. อำเภอชนแดน ช ศึกษา จำนวน 20 คน ว - ชแี้ จงทำความเขา้ ใจรายละเอยี ด โครงการ - ช้ีแจงแนวทางในการดำเนนิ โครงการ - จัดทำโครงการและแผนการดำเนนิ การ เพ่อื อนมุ ัติ - แตง่ ตั้งกรรมการดำเนินงานตาม โครงการ 2. ประชุมกรรมการ เพื่อประชมุ ทำความเข้าใจกบั กรรมการ ครูและบุคลากร ช กศน. อำเภอชนแดน ข ดำเนนิ งาน ดำเนินงานทกุ ฝ่ายในการจดั กิจกรรม จำนวน 20 คน โครงการและการดำเนนิ งาน 3. จัดเตรยี มเอกสาร เพ่ือดำเนินการจดั ทำ จดั ซ้อื วัสดุอุปกรณ์ กรรมการฝ่ายที่ได้รบั จ วัสดุ อุปกรณใ์ นการ ทใ่ี ช้ในการดำเนนิ การ มอบหมาย ดำเนินโครงการ

5 กลมุ่ เปา้ หมาย พื้นทด่ี ำเนนิ การ ระยะเวลา งบประมาณ เปา้ หมาย (เชงิ คณุ ภาพ) เม.ย.64 - กศน. อำเภอ ชแ้ี จงทำความเขา้ ใจ รายละเอียดและ ชนแดน วัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ ช้แี จงวตั ถปุ ระสงค์ บทบาทหนา้ ท่ี กศน. อำเภอ เม.ย.64 - ของกรรมการดำเนินงานโครงการ ชนแดน จดั ซ้ือวสั ดุอุปกรณ์ในการจัดโครงการ กศน. อำเภอ มิ.ย.64 2,496 ชนแดน บาท

กจิ กรรมหลัก วัตถุประสงค์ กลมุ่ เปา้ หมาย ก นกั เรียน นกั ศึกษา 4. ดำเนินการจัด 1. รักการอ่านผา่ นส่ือออนไลน์ และประชาชนทัว่ ไป ส กจิ กรรม 2. วนั รักการอา่ น จำนวน 2,370 คน แ 3. หอ้ งสมดุ เคล่ือนทส่ี ่บู ้านหนังสือชุมชน น ปลูกฝงั คนรกั การอ่าน ช 4. เสรมิ การอ่าน สร้างการเรียนรู้ กบั หอ้ งสมุดประชาชน 5. ส่งเสรมิ การอ่าน สรา้ งสรรค์ปญั ญา นำพาส่อู าชีพ 6. บนั ทกึ รักการอ่าน 5. สรุป/ประเมนิ ผล เพอื่ ให้กรรมการฝ่ายประเมนิ ผลเก็บ ตามกระบวนการ ส และรายงานผล รวบรวมขอ้ มลู และดำเนนิ การประเมินผล ประเมินโครงการ ต โครงการ การจัดกิจกรรม 5 บท จำนวน 3 เล่ม

6 กล่มุ เปา้ หมาย พืน้ ที่ดำเนนิ การ ระยะเวลา งบประมาณ เปา้ หมาย (เชิงคณุ ภาพ) พ้นื ที่อำเภอ เม.ย. 64 - ส่งเสริมสนับสนนุ ให้นกั เรียน นกั ศึกษา ชนแดน ถงึ และประชาชนท่วั ไปมีนิสัยรักการอา่ น นำไปสู่ การเรยี นรู้ และพฒั นาคณุ ภาพ ก.ย.64 ชวี ติ ใหด้ ีข้นึ สรปุ รายงานผลการดำเนินงาน กศน. อำเภอ ก.ย.64 - ตามระบบ PDCA ชนแดน

7 7. วงเงินงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ไตรมาส 3 แผนงาน : พ้นื ฐานดา้ นการพัฒนาและ เสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ผลผลิตที่ 5 ผู้รับบริการการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมการจัดการศึกษา ตามอัธยาศัย งบดำเนินงาน ห้องสมุดประชาชนอำเภอชนแดน (ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึง เดือนมิถุนายน 2564) รหสั งบประมาณ 36005 เป็นเงนิ 2,496.- บาท (สองพนั ส่ีร้อยเก้าสิบหกบาทถ้วน) รายละเอยี ดดงั น้คี อื ค่าวัสดุ เป็นเงิน 2,496 บาท รวมเป็นเงิน 2,496 บาท 8. แผนการใชจ้ ่ายงบประมาณ แผนการใช้จ่ายรายไตรมาส ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 ไตรมาสท่ี 4 - - 2,496 - 9. ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ ตำแหน่ง : บรรณารักษ์ชำนาญการ ชื่อ - สกุล : นางวารี ชบู วั เบอรโ์ ทรศัพทม์ ือถือ : 056 – 761667 เบอร์โทรศัพท์ที่ทำงาน : 056 – 761667 อีเมลล์ : [email protected] ผรู้ ่วมดำเนินการ นางสมบตั ิ มาเนตร์ ตำแหนง่ ครอู าสาสมคั รฯ นางสาวลาวณั ย์ สทิ ธิกรววยแกว้ ตำแหนง่ ครอู าสาสมัครฯ นางลาวิน สเี หลอื ง ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล นางสาวมุจลินท์ ภูยาธร ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบล นางสาวนภารตั น์ สสี ะอาด ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล นางสาวลดาวรรณ์ สุทธิพันธ์ ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบล นางผกาพรรณ มะหิทธิ ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบล นางสาวพัชราภรณ์ นรศิ ชาติ ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบล นางสรุ ัตน์ จันทะไพร ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล นายเกรยี งไกร ใหมเ่ ทวนิ ทร์ ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบล นางสาวณฐั ชา ทาแน่น ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล นางสาวอษุ า ย่งิ สกุ ตำแหน่ง ครูประจำศูนยก์ ารเรยี นชมุ ชน นางสาวกัญญาณฐั จันปัญญา ตำแหน่ง ครปู ระจำศูนย์การเรยี นชุมชน นายปัณณวัฒน์ สขุ มา ตำแหนง่ ครปู ระจำศูนย์การเรยี นชุมชน

8 นางสาววรางคณา นอ้ ยจนั ทร์ ตำแหนง่ ครปู ระจำศนู ย์การเรียนชมุ ชน นายศิวณชั ญ์ อศั วสมั ฤทธิ์ ตำแหน่ง ครปู ระจำศนู ยก์ ารเรียนชมุ ชน นางสาวเยาวดี โสดา ตำแหนง่ นักจดั การงานท่ัวไป 10. เครอื ขา่ ย 10.1 บา้ นหนงั สือชมุ ชน 10.2 โรงพยาบาลชนแดน 10.3 โรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตำบล 10.4 กศน.ตำบลท้ัง 9 แห่ง 10.5 หน่วยงานของรฐั และเอกชน 11.โครงการทเี่ กีย่ วข้อง 11.1 โครงการจัดการศกึ ษาตามอัธยาศยั 11.2 โครงการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียน 11.3 โครงการประชาสมั พนั ธง์ าน กศน. 11.4 โครงการส่งเสริมและพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานรว่ มกบั เครอื ขา่ ย 11.5 โครงการประกันคุณภาพสถานศึกษา 12. ผลลัพธ์ 12.1 นกั เรยี น นกั ศึกษาและประชาชนทวั่ ไปเข้าถึง และมีโอกาสได้อา่ นหนงั สอื 12.2 นักเรยี น นกั ศึกษาและประชาชนทัว่ ไปเขา้ มารับบริการในห้องสมุดประชาชนอำเภอ ชนแดนมากขึ้น 12.3 นักเรยี น นักศกึ ษาและประชาชนท่ัวไปมคี วามรู้ความเข้าใจการเข้าถงึ แหล่งสารสารสนเทศได้อย่าง ประสิทธภิ าพและตรงตามความต้องการ 12.4 นกั เรียน นกั ศึกษา และประชาชนทวั่ ไปมนี ิสยั รกั การอ่านนำไปสู่ การเรยี นรู้ และพฒั นาคณุ ภาพ ชวี ิตให้ดีข้ึน 13. ดชั นีวัดผลสำเรจ็ ของโครงการ 13.1 ตัวชี้วัดผลผลิต (output) กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการฯ 80 % มีความพึงพอใจในการเข้าร่วม กิจกรรม 13.2 ตวั ชว้ี ดั ผลลพั ธ์ ( outcome ) นกั เรียน นักศึกษา และประชาชนทวั่ ไปรักการอา่ น เพอ่ื พัฒนาคุณภาพ ชวี ติ ทด่ี ีข้ึน

9 14. การติดตามผลประเมนิ ผลโครงการ 14.1 แบบประเมนิ ความพงึ พอใจผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรม / โครงการ 14.2 สรุป/รายงานผลการจัดกจิ กรรม

10 บทที่ 2 เอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ ง กจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ น กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน หมายถึง การกระทำต่าง ๆ เพื่อให้เด็กเกิดความสนใจท่ีจะอ่าน เห็น ความสำคัญของการอ่าน เกิดความเพลิดเพลินท่ีจะอ่าน เกิดความมุ่งมั่นที่จะอ่าน และอ่านจนเป็นนิสัย ท้ังนี้ การ อ่านหนังสือเป็นทักษะสำคัญทักษะหนึ่งในชีวิตประจำวัน เพราะการอ่านหนังสือจะพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนเรา ได้เป็นอย่างดียิ่ง เม่ือคนเราอ่านหนังสือจะเกิดความสามารถสร้างความรู้ อารมณ์ จินตนาการ และ ความ เพลิดเพลิน การที่เด็กจะเกิดทักษะการอา่ นหนังสือได้นั้นจำเป็นจะต้องอาศัยความรว่ มมือจากบุคคลหลายฝ่าย ทั้ง ครอบครวั โรงเรยี นและชุมชน ในการจัดกจิ กรรมส่งเสริมการอา่ นให้แก่เด็ก

11 กิจกรรมส่งเสริมการอา่ นคอื การกระตนุ้ ด้วยวธิ ีการต่างๆ เพื่อใหผ้ ู้อ่านสนใจการอา่ นจนกระทั่งมนี ิสยั รกั การอา่ น และได้พัฒนาการอ่านจนกระทัง่ มคี วามสามารถในการอา่ น นำประโยชน์จาการอา่ นไปใชไ้ ดต้ รงตาม วัตถุประสงค์ของการอ่านทุกประเภท (ฉวีวรรณ คหู าภนิ นั ทน์, 2542 : 93) กรมวชิ าการ (อ้างถงึ ใน ฉวีวรรณ คหู าภินนั ทน์, 2542 : 93) ให้ความหมายว่า กจิ กรรมส่งเสรมิ การอา่ น คือ การกระทำเพ่ือ 1. เร้าใจบุคคลหรอื บุคคลท่ีเป็นเปา้ หมายใหเ้ กิดความอยากรู้ อยากอ่านหนังสอื โดยเฉพาะหนงั สือที่มี คุณภาพ 2. เพื่อแนะนำชักชวนให้เกดิ ความพยายามท่จี ะอา่ นให้แตกฉาน สามารถนำความร้จู ากหนงั สอื ไปใช้ ประโยชน์ เกดิ ความเข้าใจในเรือ่ งต่างๆ ดีขึน้ 3. เพอ่ื กระตุ้น แนะนำให้อยากรู้ อยากอ่านหนังสือหลายอย่าง เปดิ ความคิดให้กวา้ ง ให้มีการอ่านต่อเน่ือง จนเปน็ นิสยั พัฒนาการอ่านจนถึงขน้ั ทส่ี ามารถวเิ คราะห์เรื่องท่ีอ่านได้ 4. เพอ่ื สรา้ งบรรยากาศทจ่ี ูงใจใหอ้ ่าน ดังนัน้ สามารถกล่าวได้วา่ กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน หมายถึงกจิ กรรมต่างๆทหี่ ้องสมุดจดั ขน้ึ เพื่อสง่ เสรมิ ให้ เกิดการอา่ นอยา่ งต่อเน่ืองจนกระทั่งเป็นนิสยั รักการอ่าน เช่น การเล่านทิ าน การเชิดหุ่น การแสดงละคร การ แนะนำหนงั สือทนี่ ่าสนใจ เป็นต้น ลกั ษณะของกิจกรรมส่งเสริมการอา่ นท่ีดี 1. เรา้ ความสนใจ เช่น การจัดนิทรรศการท่ีดึงดูความสนใจ การตอบปัญหา มีรางวัลตา่ งๆ การใชส้ ือ่ เทคโนโลยใี หม่ๆเข้ามาชว่ ย 2. จูงใจใหอ้ ยากอา่ นและกระตุ้นให้อยากอ่าน เชน่ ขา่ วท่ีกำลังเป็นทีส่ นใจ หรือหวั ขอ้ เรื่องทเ่ี ปน็ ที่สนใจ เช่น การวจิ ยั การเตรยี มตวั สอบ การสมัครงาน เปน็ ตน้ 3. ไมใ่ ช้เวลานาน ความยากง่ายของกิจกรรมเหมาะสมกับเพศ ระดับอายุ การศึกษา 4. เป็นกจิ กรรมท่ีมุ่งไปส่หู นังสือ วสั ดกุ ารอ่าน โดยการนำหนงั สือหรอื วสั ดุการอา่ นมาแสดงทุกครง้ั 5. ให้ความสนุกสนานเพลดิ เพลนิ แฝงการเรียนร้ตู ามอัธยาศัยจากการรว่ มกิจกรรมด้วย ความหมายและความสำคัญของห้องสมดุ หอ้ งสมุดประชาชน หมายถงึ หอ้ งสมุดท่ตี ัง้ ข้ึนเพอื่ ใหบ้ ริการแก่ประชาชน โดยไม่จำกัด เพศ วัย เชอ้ื ชาติ ศาสนา และพ้ืนความรู้ ให้บริการสารสนเทศครบทกุ หมวดวิชา และอาจมีการบรกิ ารบางเร่อื งเปน็ พิเศษ ตามความต้องการของท้องถิ่น และจะจัดใหบ้ ริการแกป่ ระชาชนโดยไมค่ ิดมลู ค่า บทบาทหนา้ ทข่ี องห้องสมุดประชาชน มี 3 ประเภท คอื

12 1. หน้าทท่ี างการศึกษา หอ้ งสมุดประชาชนเป็นแหลง่ ให้การศึกษานอกระบบโรงเรียน มหี นา้ ทใ่ี ห้ การศกึ ษาแกป่ ระชาชนทว่ั ไป ทกุ ระดับการศึกษา 2. หน้าทท่ี างวฒั นธรรม หอ้ งสมุดปะชาชนเปน็ แหล่งสะสมมรดกทางปัญญาของมนษุ ย์ ท่ีถ่ายทอดเปน็ วฒั นธรรมท้องถ่ิน ท่หี ้องสมุดตง้ั อยู่ 3. หนา้ ทที่ างสงั คม ห้องสมดุ ประชาชนเป็นสถาบนั ทางสังคมไดร้ ับเงนิ อุดหนุนจากรฐั บาลและทอ้ งถน่ิ มา ดำเนนิ กิจการ จึงมีหน้าท่ี แสวงหาขา่ วสารข้อมูลทม่ี ปี ระโยชนม์ าบรกิ ารประชาชน หอ้ งสมุดประชาชนในประเทศไทยมหี น่วยงานต่างๆรับผิดชอบ ดงั นี้ 1. หอ้ งสมุดประชาชนสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร สังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรยี น ไดแ้ ก่ หอ้ งสมดุ ประชาชนระดบั จังหวดั และระดับอำเภอ นอกจากน้ีกรมการศึกษานอกโรงเรียนยงั ไดจ้ ัดทีอ่ ่านหนังสือประจำ หมบู่ ้าน ทีอ่ า่ นหนังสอื ในวัด และหอ้ งสมดุ เคลือ่ นท่ี 2. หอ้ งสมุดประชาชน สังกดั กรงุ เทพมหานคร มีทง้ั หมด 12 แหง่ ได้แก่ ห้องสมุดประชาชนสวนลุมพินี หอ้ งสมดุ ประชาชนซอยพระนาง ห้องสมุดประชาชนปทมุ วัน ห้องสมดุ ประชาชนอนงคาราม ห้องสมดุ ประชาชนวัด สงั ข์กระจาย ห้องสมุดประชาชนบางเขน หอ้ งสมุดประชาชนบางขนุ เทียน ห้องสมุดประชาชนวดั รชั ฎาธษิ ฐาน วรวิหารตลงิ่ ชัน ห้องสมดุ ประชาชนประเวช หอ้ งสมุดประชาชนวัดลาดปลาเค้า หอ้ งสมุดประชาชนภาษเี จรญิ หอ้ งสมุดประชาชนวดั ราชโอรส 3. ห้องสมดุ ประชาชนของธนาคารพาณชิ ย์ เป็นห้องสมุดที่ธนาคารพาณิชย์เปดิ ขนึ้ เพื่อบริการสังคม และ เพ่ือประชาสมั พนั ธ์กิจการของธนาคารให้เป็นทร่ี จู้ กั แพรห่ ลาย เช่น หอ้ งสมดุ ประชาชนของธนาคารกรงุ เทพจำกดั 4. ห้องสมดุ ประชาชนของรัฐบาลตา่ งประเทศ โดยไดร้ ับการสนับสนุนจากรัฐบาลต่างประเทศ เช่น หอ้ งสมุดบริติชเคาน์ซลิ ของรัฐบาลสหราชอาณาจกั ร ทต่ี งั้ อย่บู ริเวณสยามสแควร์ กรงุ เทพมหานคร 5. ห้องสมุดประชาชนเสียคา่ บำรงุ หอ้ งสมดุ ประชาชนประเภทนใี้ หบ้ ริการเฉพาะสมาชกิ เท่านั้น โดยผู้ท่ี เป็นสมาชกิ จะต้องเสยี ค่าบำรุงตามระเบยี บของหอ้ งสมดุ ได้แก่ ห้องสมุดนลี สนั เฮย์ ตั้งอยูท่ ี่ถนนสุริวงศ์ กรุงเทพมหานคร บทบาทและความสำคญั ของหอ้ งสมสดุ ต่อสังคมในด้านต่าง ๆ 1. เป็นสถานทีเ่ พื่อสงวนรักษาและถา่ ยทอดวัฒนธรรม หอ้ งสมุดเปน็ แหลง่ สะสมวิวัฒนาการของมนษุ ย์ ตงั้ แตอ่ ดีตจนถงึ ปัจจุบนั ถ้าไม่มแี หลง่ คน้ ควา้ ประเภทหอ้ งสมุดเปน็ ศูนยก์ ลางแล้ว ความรู้ต่างๆ อาจสูญหายหรือ กระจดั กระจายไปตามทีต่ ่างๆ ยากแก่คนรนุ่ หลงั จะติดตาม 2. เปน็ สถานท่ีเพ่ือการศกึ ษา ค้นควา้ วิจยั ห้องสมดุ ทำหน้าท่ีให้การศึกษาแก่ประชาชนทุกรปู แบบ ทง้ั ใน และนอกระบบการศึกษา เร่ิมจากการศึกษาขนั้ พ้นื ฐานถึงระดับสงู

13 3. เป็นสถานทส่ี ร้างเสริมความคดิ สรา้ งสรรค์และความจรรโลงใจ ห้องสมดุ มหี นา้ ท่ีรวบรวมและเลอื กสรร ทรพั ยากร สารสนเทศ เพื่อบริการแกผ่ ใู้ ช้ ซ่งึ เปน็ สิ่งทม่ี ีคุณค่าผูใ้ ชไ้ ดค้ วามคิดสร้างสรรค์ ความจรรโลงใจ นานาประการ เกดิ ประโยชน์แก่ตนเองและสงั คมต่อไป 4. เป็นสถานท่ีปลกู ฝังนสิ ัยรกั การอา่ นและการเรยี นรตู้ ลอดชีวติ ห้องสมุดจะช่วยใหบ้ คุ คลสนใจในการอา่ น และรกั การอา่ นจนเป็นนสิ ัย 5. เปน็ สถานท่ีสง่ เสรมิ การาใชเ้ วลาว่างในเปน็ ประโยชน์ ห้องสมุดเป็นสถานทรี่ วบรวมสารสนเทศทุก ประเภท เพ่ือบริการแกผ่ ู้ใช้ตามความสนใจและอา่ นเพ่ือฆา่ เวลา อา่ นเพ่ือความเพลดิ เพลิน หรืออา่ นเพอ่ื สาระบนั เทิงไดท้ ้ังสิ้น นบั ว่าเป็นการพักผ่อนอยา่ งมีความหมายและให้ประโยชน์ 6. เปน็ สถานทส่ี ง่ เสรมิ ความเปน็ ประชาธปิ ไตย ห้องสมดุ เป็นสาธารณะสมบตั ิ มีส่วนส่งเสรมิ ให้บคุ คลร้จู ัก สิทธแิ ละหน้าทขี่ องพลเมือง กลา่ วคอื เมอ่ื มีสทิ ธใิ นการใช้ก็ย่อมมีสิทธใิ นการบำรงุ รักษาร่วมกันและให้ความร่วมมือ กับห้องสมุดดว้ ยการปฏิบัตติ ามระเบียบ แบบแผนของห้องสมดุ ความหมายของสื่อส่ิงพิมพ์ พจนานกุ รมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายคาทีเ่ กี่ยวกับ“ส่อื ส่ิงพิมพ์”ไว้วา่ “ส่ิงพมิ พ์ หมายถงึ สมดุ แผน่ กระดาษ หรือวัตถุใด ๆ ท่พี ิมพ์ขึน้ รวมตลอดทง้ั บทเพลง แผนท่ี แผนผงั แผนภาพ ภาพวาด ภาพระบาย สี ใบประกาศ แผ่นเสยี ง หรอื ส่ิงอ่นื ใดอันมีลักษณะเชน่ เดยี วกนั ” “ส่ือ หมายถึง ก. ทาการติดต่อให้ถึงกัน ชักนาให้ รจู้ กั กนั น. ผ้หู รอื ส่งิ ที่ทาการติดตอ่ ให้ถงึ กนั หรือชักนาให้รู้จักกัน” “พมิ พ์ หมายถึง ก. ถ่ายแบบ, ใชเ้ ครื่องจักรกด ตวั หนงั สือหรือภาพ เป็นต้นให้ติดบนวตั ถุ เชน่ แผน่ กระดาษ ผา้ ทาใหเ้ ปน็ ตัวหนังสอื หรือรปู รอยอย่างใด ๆ โดย การกดหรือการใช้พมิ พ์หนิ เครื่องกล วธิ เี คมี หรือวิธอี นื่ ใด อนั อาจใหเ้ กดิ เปน็ สิง่ พิมพ์ขนึ้ หลายสาเนา น. รูป , รปู ร่าง, ร่างกาย, แบบ” ดงั นั้น “สอื่ สง่ิ พิมพ”์ จงึ มคี วามหมายว่า “สิง่ ทีพ่ มิ พข์ ึ้น ไมว่ ่าจะเปน็ แผน่ กระดาษหรือวัตถุ ใด ๆ ด้วยวิธกี ารต่าง ๆ อนั เกิดเป็นชิน้ งานท่มี ลี ักษณะเหมือน ต้นฉบับขน้ึ หลายสาเนาในปรมิ าณมากเพื่อเปน็ สง่ิ ที่ ทาการติดต่อ หรือชักนาให้บุคคลอื่นได้เหน็ หรือทราบ ขอ้ ความตา่ ง ๆ” สิง่ พมิ พ์เพื่อการศึกษา หมายถึง สงิ่ ทีพ่ มิ พ์ขนึ้ ในรปู แบบต่างๆ ทงั้ หนงั สือ ตารา เอกสาร วารสารต่างๆ ท่ี ใหค้ วามรู้ เนอ้ื หาสาระที่มีประโยชน์ เช่น หนังสือเรยี นภาษาไทย ป. 6 หรอื อาจเป็นชดุ ภาพประกอบการศึกษา เช่น ภาพประกอบการศกึ ษาชุดอาหารไทย เปน็ ต้น และสามารถนามาใชใ้ นการศกึ ษาได้

14 ความเปน็ มา ส่ิงพิมพ์ถือได้ว่าเป็นส่ิงท่ีความสำคัญย่ิงควบคู่มากับการพัฒนาการของมนุษยชาติ และจัดเป็นสื่อมวลชน ประเภทหนึ่งท่ีมีความสำคัญมาตลอดนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในการถ่ายทอดความรู้วิชาการ และเพ่ือการติดต่อ สื่อสารสาหรับมนุษยชาติ ดังคำจำกัดความของพจนี พลสิทธ์ิ (2536 : 3) สรุปความเป็นมาและความสาคัญของ ส่ิงพิมพ์ ว่า “ส่ิงพิมพ์” นับเป็นวัสดุที่แสดงถึงพัฒนา การความเจริญก้าวหน้าทางด้านสติปัญญา ของมนุษย์ ความคิด จินตนาการ เจตคติ ความฝนั ชีวิต วัฒนธรรม สงั คม เหตุการณ์ เรื่องราวต่าง ๆ ของมนุษย์แต่ลายุคสมัย สามารถเก็บรักษาสืบทอดจาดชนรุ่นหน่ึงไปสู่ชนรุ่นหลัง ความคิดในเร่ืองการพิมพ์นี้นอกเหนือจาก เพ่ือเป็น เคร่ืองมือในการบันทึกความคิด จินตนาการ ความรู้ และเหตุการณ์ต่างๆ แล้วยังเป็นเคร่ืองแสดงให้เห็นว่าชนชาติ ต่าง ๆ ในโลกนลี้ ้วนมคี วามพยายามที่จะพัฒนาความคิดของตนให้เจริญก้าวหนา้ ทันสมัยอย่างต่อเน่ือง ความคิดใน เรือ่ งการพิมพท์ ่ีมีจุดประสงค์เร่มิ แรกก็คงเพื่อให้มกี ารแพร่หลายเรือ่ งความคดิ ความรู้ ไปสชู่ นรนุ่ หลัง และเพ่ือให้มี หลาย ๆ สาเนาจะได้เก็บรักษาให้คงอยู่ได้นานปีน้ัน ในยุคปัจจุบันชนรุ่นหลังได้สานต่อความคิดเรื่องการพิมพ์ จนกระทั่งกลายเป็นเทคโนโลยีท่ีทันสมัย และซับซ้อน สามารถผลิตสิ่งพิมพ์ได้หลากหลายชนิดตอบสนอง วตั ถปุ ระสงคข์ องมนุษยชาติได้กว้างขวางนอกเหนือจากสือ่ สิ่งพมิ พ์จะเปน็ ส่ือมวลชนท่ีมีความเกย่ี วกันกับมนุษยชาติ มานานนับพนั ๆ ปี และมคี วามเกา่ แก่กว่าสอื่ มวลชนประเภทอน่ื ไมว่ า่ จะเปน็ วทิ ยุกระจายเสยี ง วิทยโุ ทรทัศน์ หรือ อนิ เตอร์เน็ต ซง่ึ เป็นสอ่ื ประเภทหนึ่งท่ีมีการใช้แพร่หลายไปท่ัวโลกเช่นในปัจจุบันก็ตาม แต่สื่อส่ิงพิมพ์ก็ยงั เป็นส่อื ที่ มีการใช้อย่างแพร่หลายเป็นที่นิยมของทุกชนชาติมิได้ย่ิงหย่อนไปกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทใดก็ตาม เช่น หนังสือพิมพ์รายวัน นิตยสาร วารสาร หรือส่ิงพิมพ์ประเภทต่าง ๆ สาเหตุสาคัญท่ีทาให้สื่อส่ิงพิมพ์ยังเป็นท่ี นยิ มแพรห่ ลายมาโดยตลอด กเ็ พราะบุคคลสามารถเลอื กอ่านได้ตามความเหมาะสม อีกท้ังยังใช้เป็นเอกสารอ้างอิง ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ประวตั กิ ารพิมพใ์ นประเทศไทย ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กรงุ ศรีอยุธยา ได้เริ่มแต่งและพิมพ์หนังสือคำสอนทางศาสนา คริสต์ ขึ้น และหลังจากนั้นหมอบรัดเลย์เข้ามาเมืองไทย และได้เริ่มด้านงานพิมพ์จนสนใจเป็นธุรกิจด้านการพิมพ์ ใน เมอื งไทย พ.ศ.2382 ไดพ้ มิ พเ์ อกสารทางราชการเป็นช้ินแรก คือ หมายประกาศห้ามสูบฝ่นิ ซง่ึ พระบาทสมเดจ็ พระ น่ังเกล้า เจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้จ้างพิมพ์จานวน 9,000 ฉบับ ต่อมาเม่ือวันที่ 4 ก.ค.2387 ได้ออกหนังสือฉบับแรก ข้ึน คือ บางกอกรีคอร์ดเดอร์ (Bangkok Recorder) เป็นจดหมายเหตุอย่างส้ัน ออกเดือนละ 2 ฉบับ และใน 15 มิ.ย. พ.ศ.2404 ได้พิมพห์ นังสือเล่มออกจำหน่ายโดยซ้ือลิขสิทธิจ์ าก หนังสือนริ าศลอนดอนของหม่อมราโชทัยและ ไดเ้ รมิ่ ตน้ การซ้ือขาย ลขิ สิทธิหน่ายในเมืองไทย หมอบรัดเลย์ไดถ้ ึงแกก่ รรมในเมืองไทยกิจการ การพิมพข์ องไทยจึง เร่ิมต้นเป็นของไทย หลังจากน้ันใน พ.ศ.2500 ประเทศไทยจึงนา เคร่ืองพิมพ์แบบโรตารี ออฟเซท (Rotary off Set) มาใช้เป็นครั้งแรก โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิชนาเครื่องหล่อเรียงพิมพ์ Monotype มาใช้กับตัวพิมพ์ภาษาไทย ธนาคาร แห่งประเทศไทยได้จัดโรงพิมพธ์ นบตั รในเมืองไทยขึน้ ใช้เอง

15 ประเภทของส่อื ส่ิงพิมพ์เพ่ือการศึกษา สื่อส่ิงพิมพ์ประเภทหนังสือ 1. หนังสือตำรา เป็นสื่อท่ีพิมพ์เป็นเล่ม ประกอบด้วยเน้ือหาการเรียนการสอนโดยอธิบายเน้ือหาวิชาอย่างละเอียดชัดเจน อาจมีภาพถ่ายหรอื ภาพเขียนประกอบเพื่อเพิ่มความสนใจของผู้เรียน หนังสือตารานี้อาจใช้เป็นส่ือการเรียนในวิชา น้นั โดยตรงนอกเหนือจากการบรรยายในชน้ั เรียน หรอื อาจใชเ้ ปน็ หนังสอื อ่านประกอบหรอื หนงั สืออ่านเพิ่มเติมกไ็ ด้ การใช้หนังสือในการเรียนการสอนนับว่ามีประโยชน์แก่ผูเ้ รยี นทัง้ ในด้านการศึกษารายบุคคลเพ่ือให้ผู้เรียนสามารถ ใช้อา่ นในเวลาท่ีตอ้ งการ และในดา้ นเศรษฐกิจเนอื่ งจากสามารถใชอ้ ่านได้หลายคนและเกบ็ ไวไ้ ดเ้ ปน็ เวลานาน 2. แบบฝึกปฏิบัติ เป็นสมุดหรือหนังสือท่ีพิมพ์ข้ึนโดยมีเน้ือหาเป็นแบบฝึกหัดหรือแบบฝึกปฏิบัติเพ่ือเป็นการเพ่ิมทักษะหรือ ทดสอบผู้เรียน อาจมเี นื้อหาในรูปแบบคาถามใหเ้ ลือกคาตอบ หรือเป็นต้นแบบเพ่ือให้ผู้เรียนฝกึ ปฏิบัติตามโดยอาจ มีรปู ประกอบเพ่อื ให้เขา้ ใจไดง้ า่ ยยิ่งขึ้น เชน่ แบบคดั ตวั อักษร ก ไก่ เปน็ ตน้ 3. พจนานุกรม เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเปน็ คาศัพท์และคาอธิบายความหมายของคาศัพท์ แตล่ ะคานั้น โดยการเรียงตามลา ดับจากอักษรตัวแจกถึงตัวสุดท้ายของภาษาที่ต้องการจะอธิบาย คาศัพท์และคาอธิบายจะเป็นภาษาเดียวกันหรือ ต่างภาษาก็ได้ เช่น คาศัพท์ภาษาอังกฤษและมีคาอธิบายเป็นภาษาไทย หรือทั้งคาศัพท์และคาอธิบายต่างก็เป็น ภาษาอังกฤษ เปน็ ต้น 4. สารานกุ รม เป็นหนังสือท่ีพมิ พข์ น้ึ เพือ่ อธิบายหวั ข้อหรอื ข้อความตา่ งๆ ตามลาดบั ของตวั อักษร เพือ่ ให้ผู้อ่านสามารถ ค้นคว้าเพื่อความรู้และการอา้ งองิ โดยมีรูปภาพ แผนภมู ิ ฯลฯ ประกอบคาอธบิ ายให้ชัดเจนย่งิ ขึ้น 5. หนังสอื ภาพและภาพชุดตา่ งๆ เป็นหนงั สือที่ประกอบด้วยภาพตา่ งๆ ที่เปน็ เร่ืองเดียวกันตลอดทั้งเล่ม สว่ นใหญจ่ ะเป็นหนังสือภาพที่พิมพ์ สอดสสี วยงาม เหมาะแก่การเก็บไว้ศึกษาหรือเปน็ ทีร่ ะลกึ เช่น หนังสือภาพชุดพระทีน่ ง่ั วิมานเมฆ หรือหนังสือภาพ ชุดทัศนียภาพของประเทศตา่ งๆ เป็นต้น 6. วิทยานิพนธ์และรายงานการวิจัย เปน็ ส่งิ พิมพท์ ่ีพมิ พ์ออกมาจานวนไม่มากนักเพ่อื เผยแพรไ่ ปยังหอ้ งสมุด สถาบนั การศึกษาต่างๆ หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกบั งานวิจัยนั้น เพือ่ ใหผ้ ูส้ นใจใช้เป็นเอกสารค้นควา้ ข้อมูลหรือใชใ้ นการอา้ งอิง 7. สง่ิ พิมพ์ย่อส่วน (Microforms) หนงั สือท่ีเก่าหรอื ชารดุ หรือหนังสือพิมพ์ท่ีมีอยู่เป็นจานวนมากย่อมไม่เป็นท่ีสะดวกในการเก็บรักษาไว้ จงึ จำเปน็ ต้องหาวิธีเกบ็ ส่งิ พิมพ์เหลา่ น้ีไวโ้ ดยอาศยั ลักษณะการยอ่ ส่วนลงให้เหลอื เลก็ ทีส่ ุดเทา่ ทีจ่ ะทาได้ เพื่อประหยดั เนอื้ ทใ่ี นการเกบ็ รักษาและสามารถทจี่ ะนำมาใช้ได้สะดวก จงึ มีวธิ กี ารต่างๆ โดยอาศัยเน้ือทใ่ี นการเก็บรักษาและ สามารถท่ีจะนามาใช้ได้สะดวก จึงมวี ิธีการตา่ งๆ โดยอาศัยเทคโนโลยีในการทาสง่ิ พมิ พ์ย่อส่วน ได้แก่

16 ก. ไมโครฟิลม์ (Microfilm) เป็นการถา่ ยหนงั สือแต่ละหน้าลงบนม้วนฟลิ ม์ ที่มีความกว้างขนาด 16 หรอื 35 มลิ ลิเมตร โดยฟลิ ม์ 1 เฟรมจะ บรรจุหน้าหนงั สอื ได้ 1-2 หน้าเรยี งตดิ ต่อกนั ไป หนังสือเลม่ หน่ึงจะสามารถบันทกึ ลงบนไมโครฟลิ ม์ โดยใช้ความยาว ของฟิลม์ เพยี ง 2-3 ฟุต ตามปกติจะใช้ฟิลม์ 1 ม้วนตอ่ หนังสอื 1 เลม่ และบรรจุม้วนฟิล์มลงในกล่องเล็กๆ กล่องละ ม้วนเม่อื จะใช้อ่านก็ใสฟ่ ิล์มเข้าในเครอื่ งอ่านที่มจี อภาพหรือจะอัดสาเนาหน้าใดก็ไดเ้ ชน่ กัน ข. ไมโครฟิช (Microfiche) เป็นแผ่นฟลิ ์มแข็งขนาด 4 x 6 นวิ้ สามารถบนั ทกึ ขอ้ ความจากหนังสือโดยย่อเป็นกรอบเลก็ ๆ หลายๆ กรอบ แผ่นฟลิ ม์ นจี้ ะมเี นื้อท่มี ากพอทจ่ี ะบรรจหุ น้าหนงั สอื ที่ย่อขนาดแลว้ ไดห้ ลายรอ้ ยหนา้ ตวั อักษรท่ีย่อจะมสี ีขาวบนพ้นื หนา้ หนังสือสีดา สามารถอ่านไดโ้ ดยวางแผ่นฟลิ ์มลงบนเครื่องฉายทขี่ ยายภาพให้ไปปรากฏบนจอภาพสาหรบั อา่ น และจะอา่ นหน้าใดกไ็ ดเ้ ล่ือนภาพไปมา และยงั สามารถนาไปพมิ พบ์ นกระดาษและอัดสาเนาไดด้ ้วย สอ่ื ส่ิงพมิ พ์เพ่ือเผยแพร่ข่าวสาร – หนงั สอื พิมพ์ (Newspapers) เป็นส่ือส่งิ พมิ พ์ที่ผลติ ขน้ึ โดยนาเสนอเรือ่ งราว ขา่ วสารภาพและความ คดิ เห็น ในลกั ษณะของแผน่ พิมพ์ แผน่ ใหญ่ ที่ใช้วธิ ีการพบั รวมกนั ซ่ึงสอ่ื สิ่งพิมพ์ชนิดนี้ ได้พิมพอ์ อกเผยแพร่ทง้ั ลักษณะ หนังสือพิมพร์ ายวนั , รายสปั ดาห์ และรายเดือน – วารสาร, นติ ยสาร เป็นส่ือสง่ิ พิมพ์ทผ่ี ลติ ข้นึ โดยนาเสนอสาระ ขา่ ว ความบนั เทิง ท่ีมรี ปู แบบการนาเสนอ ทโี่ ดดเด่น สะดดุ ตา และสร้างความสนใจใหก้ บั ผู้อ่าน ทงั้ น้ีการผลิตนน้ั มกี าร กาหนดระยะเวลาการออกเผยแพร่ที่ แนน่ อน ท้ังลกั ษณะวารสาร, นิตยสารรายปักษ์ (15 วัน) และ รายเดอื น – จลุ สาร เป็นสือ่ สง่ิ พมิ พ์ที่ผลิตขึน้ แบบไมม่ ุ่งหวังผลกาไร เป็นแบบใหเ้ ปลา่ โดยให้ผอู้ า่ นไดศ้ กึ ษาหาความรู้ มีกาหนดการออกเผยแพร่เป็นครง้ั ๆ หรอื ลาดบั ต่าง ๆ ในวาระพิเศษ แสดงเนื้อหาเป็นข้อความท่ผี ู้อา่ น อ่านแล้ว เขา้ ใจงา่ ย สง่ิ พิมพอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ เป็นสอ่ื ส่ิงพิมพท์ ่ผี ลติ ข้ึนเพื่อใช้งานในคอมพวิ เตอร์ หรือระบบเครือข่ายอนิ เตอร์เนต็ ไดแ้ ก่ Document Formats, E-book for Palm/PDA เปน็ ต้น บทบาทของสื่อสิ่งพิมพเ์ พ่ือการศึกษา บทบาทของสื่อสิง่ พิมพใ์ นสถานศกึ ษา ส่ือส่งิ พิมพ์ถกู นาไปใชใ้ นสถานศกึ ษาโดยทั่วไป ซ่ึงทาให้ผูเ้ รียน ผสู้ อนเข้าใจในเนื้อหามากขึน้ เชน่ หนงั สือ ตารา แบบเรียน แบบฝึกหัดสามารถพฒั นาได้เปน็ เน้อื หาในระบบ เครอื ข่ายอินเตอร์เน็ตได้

17 แนวทางการประยุกต์ใช้ส่อื สิง่ พมิ พ์เพื่อการเรยี นการสอน หรือการศึกษา การใชส้ ่งิ พิมพ์เพ่อื การศึกษาในการเรียน การสอนนน้ั จำแนกได้เป็น 3 วธิ ี คือ 1. ใช้เปน็ แหลง่ ขอ้ มลู เกีย่ วกบั วิชาทเ่ี รยี น 2. ใช้เป็นวัสดุการเรยี นร่วมกบั สื่ออน่ื ๆ 3. ใชเ้ ป็นสอื่ เสริมในการเรียนรู้และเพม่ิ พนู ประสบการณ์ .จากวิธกี ารใช้สิ่งพมิ พ์ทง้ั 3 วิธีน้นั ผู้สอนสามารถนาสิ่งพิมพท์ ้งั ที่เปน็ สง่ิ พิมพ์ท่ัวไป หรอื สิ่งพมิ พเ์ พ่ือการศกึ ษา โดยเฉพาะมาใชใ้ นการเรยี นการสอนก็ได้ ทงั้ น้โี ดยพิจารณาตามลกั ษณะของส่ิงพมิ พแ์ ละลักษณะของการใช้ ดงั น้ี 1. สิ่งพมิ พ์ทีเ่ ขียนขึ้นในลักษณะของหนงั สือตารา ใชเ้ พื่อการศึกษาในระบบโรงเรยี นตามหลักสตู ร 2. สิ่งพิมพ์ท่ีเขยี นขนึ้ ในลักษณะบทเรยี นสาเรจ็ รูปเพ่ือง่ายต่อการศึกษาดว้ ยตนเอง เหมาะสาหรบั ใช้ใน การศกึ ษาทางไกลรว่ มกบั สอ่ื อื่นๆ เช่น โทรทศั น์ เทปเสยี งสรปุ บทเรียน และการสอนเสริม เป็นต้น 3. สิ่งพิมพ์เสริมการเรยี นการสอน เช่น แบบฝึกปฏิบตั ิ คู่มอื เรียน ฯลฯ อาจใชร้ ่วมกบั สื่อบุคคลหรือ ส่ือมวลชนประเภทอืน่ ๆ ได้ 4. สง่ิ พมิ พ์ท่วั ๆ ไป เชน่ นติ ยสาร หนงั สือพิมพ์ ฯลฯ ทีม่ ีคอลัมน์หรอื บทความทีใ่ ห้ประโยชน์ ผู้สอนอาจแนะ นาให้ผเู้ รียนอ่านเพ่อื เพิ่มพูนความรู้หรอื เพื่อนามาใช้อ้างองิ ประกอบการค้นคว้า 5. สิ่งพมิ พป์ ระเภทภาพชุด เปน็ การให้ความรู้ทางรปู ธรรมเพ่ือใชใ้ นการเสริมสรา้ งประสบการณ์ ทาใหผ้ ู้เรยี น เข้าใจเหตุการณ์เรื่องราวหรอื สง่ิ ทเ่ี ปน็ นามธรรมได้ชัดเจนขึ้น เชน่ ภาพชุดชีวิตสัตว์ หรอื ภาพชดุ พระราช พิธจี รดพระนังคลั แรกนาขวัญ เป็นตน้ (สานักการศกึ ษา กรุงเทพมหานคร, 9 กันยายน 2553) ประโยชน์และคณุ ค่าของส่ือส่งิ พิมพเ์ พือ่ การศกึ ษา 1. สือ่ ส่งิ พมิ พส์ ามารถเกบ็ ไว้ได้นาน สามารถนามาอ่านซ้าแล้วซ้าอีกได้ 2. ส่อื สง่ิ พมิ พ์เปน็ สือ่ ท่มี ีราคาถกู เมื่อเทยี บกบั ส่อื อื่นๆ 3. ส่ือสิ่งพมิ พ์เป็นสื่อที่ใชง้ า่ ย ไมย่ ุ่งยาก 4. สื่อสงิ่ พมิ พเ์ ปน็ สือ่ ทจี่ ัดทาไดง้ ่าย โดยครผู ู้สอนสามารถทาได้เองได้ มวี ิธีทาทไี่ ม่ยุง่ ยากซบั ซ้อน เช่น ใบ งาน ใบความรู้ เปน็ ต้น

18 ขอ้ ดีและข้อจากดั ของส่ือส่ิงพมิ พเ์ พ่ือการศกึ ษา ข้อดี 1. สามารถอ่านซ้า ทบทวน หรอื อ้างอิงได้ 2. เปน็ การเรียนรทู้ ่ีดีสาหรับผูท้ ่ีสนใจ 3. เป็นการกระตุ้นให้คนไทยรักการอา่ น ขอ้ จำกัด 1. ผู้มีปญั หาทางสายตา หรอื ผสู้ ูงอายอุ ่านไม่สะดวกในการใช้ 2. ข้อมูลไมส่ ามารถปรบั ปรุงแกไ้ ขไดท้ ันท่วงทีได้ 3. ผไู้ ม่รู้หนงั สอื ไมส่ ามารถเข้าถึงได้ ความหมายของส่ือออนไลน์ ความหมายของส่ือสังคมออนไลน์ ส่อื สงั คมออนไลน์ หมายถึง ส่ือดิจิทลั ท่ีเปน็ เครื่องมือในการปฏิบัตกิ ารทางสงั คม(Social Tool) เพื่อใช้ ส่ือสารระหว่างกนั ในเครือข่ายทางสังคม (Social Network) ผ่านทางเวบ็ ไซตแ์ ละโปรแกรมประยุกตบ์ นสอื่ ใดๆ ที่มี การเชอื่ มต่อกับอินเทอรเ์ น็ต โดยเนน้ ให้ผู้ใชท้ งั้ ท่เี ป็นผูส้ ง่ สารและผูร้ ับสารมสี ่วนร่วม (Collaborative) อยา่ ง สร้างสรรค์ ในการผลิตเนื้อหาขนึ้ เอง (User-GenerateContent:UGC) ในรูปของข้อมูลภาพและเสยี ง สำหรับในยคุ นี้ เราคงจะหลีกเล่ียงหรือหนีคำวา่ Social Media ไปไมไ่ ด้ เพราะไม่วา่ จะไปที่ไหน ก็จะพบ เหน็ มันอยตู่ ลอดเวลา ซง่ึ หลายๆ คนกอ็ าจจะยังสงสยั วา่ “Social Media” มันคอื อะไรกันแน่ วนั นี้เราจะมารจู้ กั ความหมายของมนั กันครบั คำว่า “Social” หมายถงึ สงั คม ซ่ึงในทีน่ จ้ี ะหมายถงึ สังคมออนไลน์ ซง่ึ มีขนาดใหม่มากในปัจจุบัน คำวา่ “Media” หมายถึง ส่ือ ซ่งึ ก็คือ เนื้อหา เร่ืองราว บทความ วดี โี อ เพลง รปู ภาพ เป็นตน้ ดังนั้นคำวา่ Social Media จงึ หมายถึง ส่ือสงั คมออนไลนท์ ่มี ีการตอบสนองทางสงั คมไดห้ ลายทิศทาง โดยผา่ นเครอื ข่ายอนิ เตอร์เน็ต พูดงา่ ยๆ ก็คือเว็บไซตท์ บี่ ุคคลบนโลกน้สี ามารถมีปฏสิ ัมพันธโ์ ้ต้ตอบกนั ได้น่ันเอง พ้นื ฐานการเกดิ Social Media กม็ าจากความตอ้ งการของมนษุ ยห์ รือคนเราทีต่ ้องการติดตอ่ ส่ือสารหรอื มี ปฏิสมั พันธ์กัน จากเดิมเรามเี ว็บในยคุ 1.0 ซึง่ กค็ ือเวบ็ ทแ่ี สดงเนอ้ื หาอย่างเดยี ว บุคคลแตล่ ะคนไม่สามารถตดิ ต่อ หรือโต้ตอบกนั ได้ แตเ่ มือ่ เทคโนโลยีเว็บพฒั นาเข้าสูย่ ุค 2.0 ก็มีการพัฒนาเว็บไซตท์ ีเ่ รียกวา่ web application ซง่ึ ก็คอื เวบ็ ไซต์มีแอพลเิ คชันหรือโปรแกรมต่างๆ

19 ทม่ี าและความสำคัญ สื่อสังคมออนไลน์กลับส่งอทิ ธิพลลบต่อชวี ติ ประจำวันและความสมั พันธข์ องคนในสังคมอย่างชัดเจนมาก ยิง่ ขึ้นจนกลายเป็นประเดน็ ทางสังคม ที่ท้ังสือ่ บทกฎหมาย และประชาชนเองจะต้องให้ความสำคญั ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาเหลา่ นี้ ส่อื สงั คมออนไลนใ์ ชส้ ่อื สารระหว่างกนั ในเครอื ข่ายทางสังคม ผา่ นทางเวบ็ ไซต์และโปรแกรมประยุกต์บน สอ่ื ใดๆ ทีม่ ีการเชื่อมตอ่ กบั อินเทอร์เน็ต โดยเน้นใหผ้ ้ใู ช้ทั้งทีเ่ ป็นผู้ส่งสารและผรู้ ับสารมสี ว่ นรว่ ม อย่างสร้างสรรค์ ในการผลติ เนอ้ื หาขึน้ ในรปู ของข้อมูล ภาพ และเสียง ทง้ั นก้ี ารใช้สือ่ ออนไลน์ตา่ งๆ ก็ต้องอยู่ในขอบเขตในความพอประมาณ เลน่ ในประมาณทพ่ี อเหมาะเพ่อื เป็นผลดีตอ่ สายตาและรา่ งกาย ประเภทสอ่ื สังคมออนไลน์ ประเภทของสือ่ สังคมออนไลน์ มีดว้ ยกนั หลายชนิด ข้ึนอยู่กบั ลกั ษณะของการนำมาใช้โดยสามารถแบ่งเปน็ กลุ่ม หลกั ดังนี้ 1. Weblogs หรือเรียกสั้นๆ ว่า Blogs คือ สอ่ื สว่ นบุคคลบนอินเทอร์เนต็ ท่ีใชเ้ ผยแพรข่ อ้ มลู ขา่ วสาร ความรู้ ข้อคิดเห็น บันทึกส่วนตวั โดยสามารถแบ่งปนั ให้บคุ คลอน่ื ๆ โดยผ้รู บั สารสามารถเข้าไปอ่าน หรือแสดงความ คดิ เห็นเพ่ิมเติมได้ ซ่ึงการแสดงเนอ้ื หาของบล็อกนน้ั จะเรียงลำดับจากเน้ือหาใหม่ไปส่เู นอื้ หาเกา่ ผู้เขยี นและผอู้ ่าน สามารถค้นหาเน้ือหาย้อนหลังเพ่อื อ่านและแก้ไขเพ่ิมเตมิ ได้ตลอดเวลา เช่น Exteen,Bloggang,Wordpress,Blogger,Okanation 2. Social Networking หรอื เครือข่ายทางสังคมในอินเทอรเ์ นต็ ซึง่ เป็นเครือขา่ ยทางสังคมท่ีใชส้ ำหรับเชอื่ มต่อ ระหวา่ งบุคคล กลุ่มบุคคล เพ่ือให้เกดิ เป็นกล่มุ สงั คม(Social Community) เพือ่ ร่วมกันแลกเปล่ียนและแบ่งปัน ข้อมูลระหวา่ งกนั ท้ังดา้ นธรุ กจิ การเมือง การศึกษา เช่น Facebook, Hi5, Ning,Linkedin,MySpace,Youmeo,Friendste 3. Micro Blogging และ Micro Sharing หรือท่ีเรยี กกันว่า “บล็อกจ๋ิว” ซงึ่ เป็นเว็บเซอร์วสิ หรือเวบ็ ไซต์ท่ี ให้บรกิ ารแก่บคุ คลทว่ั ไปสำหรับใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการเขียนข้อความสน้ั ๆ ประมาณ 140 ตวั อักษรที่ เรยี กว่า “Status” หรอื “Notice” เพ่ือแสดงสถานะของตัวเองว่ากำลงั ทำอะไรอยู่หรอื แจง้ ขา่ วสารตา่ งๆแก่กล่มุ เพ่อื นในสงั คมออนไลน์ (OnlineSocialNetwork) (Wikipedia,2010) ท้ังน้กี ารกำหนดให้ใช้ขอ้ มลู ในรปู ข้อความ สั้นๆ กเ็ พื่อให้ผู้ใช้ทีเ่ ป็นท้ังผู้เขียนและผอู้ ่านเขา้ ใจง่าย ทนี่ ิยมใช้กันอยา่ งแพร่หลายคอื Twitter 4. Online Video เป็นเวบ็ ไซต์ที่ให้บริการวิดีโอออนไลน์โดยไม่เสียคา่ ใชจ้ า่ ย ซึ่งปัจจบุ ันได้รบั ความนยิ มอยา่ ง แพรห่ ลายและขยายตัวอยา่ งรวดเร็วเน่ืองจากเน้ือหาทน่ี ำเสนอในวิดโี อออนไลนไ์ ม่ถูกจำกัดโดยผังรายการท่ี แน่นอนและตายตัวทำให้ผู้ใช้บริการสามารถติดตามชมได้อย่างตอ่ เนื่องเพราะไม่มีโฆษณาค่นั รวมท้ังผใู้ ช้สามารถ เลือกชมเนื้อหาได้ตามความต้องการและยังสามารถเช่อื มโยงไปยังเวบ็ วิดโี ออ่ืนๆ ท่เี ก่ียวข้องไดจ้ ำนวนมากอกี ด้วย เชน่ Youtube, MSN, Yahoo

20 5. Poto Sharing เปน็ เว็บไซตท์ ีเ่ นน้ ให้บริการฝากรูปภาพโดยผู้ใช้บรกิ ารสามารถอัพโหลดและดาวน์โหลด รปู ภาพเพ่ือนำมาใช้งานได้ ท่ีสำคัญนอกเหนอื จากผใู้ ช้บรกิ ารจะมีโอกาสแบ่งปนั รปู ภาพแล้ว ยงั สามารถใช้เปน็ พนื้ ที่เพื่อเสนอขายภาพท่ีตนเองนำเข้าไปฝากได้อกี ด้วย เช่น Flickr, Photobucket, Photoshop,Express, Zooom 6. Wikis เป็นเวบ็ ไซตท์ มี่ ีลกั ษณะเปน็ แหล่งข้อมลู หรือความรู้ (Data/Knowledge)ซึง่ ผูเ้ ขียนสว่ นใหญอ่ าจจะ เป็นนักวชิ าการ นักวิชาชพี หรือผูเ้ ชย่ี วชาญเฉพาะทางดา้ นต่างๆ ทง้ั การเมือง เศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม ซ่ึงผใู้ ช้ สามารถเขยี นหรือแก้ไขขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งอสิ ระ เช่น Wikipedia, Google Earth,diggZy Favorites Online 7. Virtual Worlds คือการสรา้ งโลกจินตนาการโดยจำลองส่วนหนงึ่ ของชวี ิตลงไป จัดเป็นสอ่ื สงั คมออนไลน์ท่ี บรรดาผูท้ อ่ งโลกไซเบอร์ใช้เพ่ือสอ่ื สารระหว่างกนั บนอนิ เทอร์เนต็ ในลกั ษณะโลกเสมอื นจรงิ (Virtual Reality) ซง่ึ ผู้ ท่ีจะเขา้ ไปใช้บรกิ ารอาจจะบริษทั หรือองค์การด้านธรุ กิจ ด้านการศึกษา รวมถงึ องคก์ ารด้านสือ่ เชน่ สำนกั ขา่ ว รอยเตอร์ สำนักข่าวซเี อ็นเอ็น ตอ้ งเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยในการซ้ือพ้ืนทเี่ พื่อใหบ้ ุคคลในบริษทั หรือองค์กรได้มชี ่องทางใน การนำเสนอเร่ืองราวตา่ งๆ ไปยงั กลุม่ เครือข่ายผใู้ ช้ส่ือออนไลน์ ซงึ่ อาจจะเป็นกล่มุ ลกู ค้าท้งั หลกั และรองหรือ ผู้ที่ เก่ียวขอ้ งกบั ธุรกจิ ของบริษัท หรือองค์การก็ได้ ปัจจุบนั เวบ็ ไซตท์ ่ใี ช้หลัก Virtual Worlds ทีป่ ระสบผลสำเรจ็ และ มีชื่อเสียง คือSecond life 8. Crowd Sourcing มาจากการรวมของคำสองคำคือ Crowd และ Outsourcing เปน็ หลักการขอความ รว่ มมือจากบุคคลในเครือขา่ ยสังคมออนไลน์ โดยสามารถจัดทำในรปู ของเวบ็ ไซต์ทม่ี ีวัตถุประสงคห์ ลกั เพอ่ื คน้ หา คำตอบและวิธีการแก้ปัญหาต่างๆท้ังทางธุรกิจ การศึกษา รวมท้ังการสื่อสาร โดยอาจจะเป็นการดึงความรว่ มมือ จากเครือข่ายทางสงั คมมาช่วยตรวจสอบข้อมูลเสนอความคิดเห็นหรือให้ข้อเสนอแนะ กลุม่ คนทเ่ี ข้ามาให้ข้อมูล อาจจะเป็นประชาชนทัว่ ไปหรือผู้มีความเชย่ี วชาญเฉพาะดา้ นทอี่ ยใู่ นภาคธรุ กจิ หรือแม้แต่ในสังคมนกั ขา่ ว ข้อดขี อง การใช้หลัก Crowd souring คือ ทำให้เกิดความหลากหลายทางความคิดเพ่ือนำ ไปสู่การแกป้ ัญหาท่มี ี ประสทิ ธิภาพ ตลอดจนช่วยตรวจสอบหรือคดั กรองขอ้ มลู ซึง่ เปน็ ปัญหาสาธารณะรว่ มกันได้ เช่น Idea storm, Mystarbucks Idea 9. Podcasting หรอื Podcast มาจากการรวมตัวของสองคำ คือ “Pod” กับ “Broadcasting” ซึ่ง “POD” หรอื PersonalOn - Demand คอื อปุ สงค์หรือความต้องการสว่ นบุคคล สว่ น “Broadcasting” เปน็ การนำสือ่ ต่างๆ มารวมกนั ในรปู ของภาพและเสียง หรืออาจกล่าวงา่ ยๆ Podcast คือ การ บันทึกภาพและเสยี งแล้วนำมาไว้ในเว็บเพจ (Web Page) เพือ่ เผยแพรใ่ หบ้ ุคคลภายนอก (The public in general) ทีส่ นใจดาวน์โหลดเพ่อื นำไปใชง้ าน เชน่ Dual Geek Podcast, Wiggly Podcast 10. Discuss / Review/ Opinion เปน็ เวบ็ บอรด์ ทผ่ี ใู้ ช้อินเทอร์เนต็ สามารถแสดงความคิดเห็น โดยอาจจะ เกยี่ วกบั สนิ ค้าหรอื บริการ ประเดน็ สาธารณะทางการเมือง เศรษฐกิจ สงั คม เช่น Epinions, Moutshut, Yahoo!Answer, Pantip,Yelp

21 ประโยชน์ของ Social networks เครอื ข่ายสังคมออนไลน์ 1. สามารถแลกเปลี่ยนข้อมลู ความรูใ้ นสิง่ ทีส่ นใจรว่ มกันได้ 2. เปน็ คลังข้อมูลความรู้ขนาดยอ่ มเพราะเราสามารถเสนอและแสดงความคิดเหน็ แลกเปล่ียนความรู้ หรือต้ัง คาถามในเรอ่ื งตา่ งๆ เพ่ือให้บุคคลอืน่ ท่ีสนใจหรอื มีคาตอบไดช้ ว่ ยกันตอบ 3. ประหยดั คา่ ใช้จา่ ยในการติดต่อสอ่ื สารกับคนอนื่ สะดวกและรวดเร็ว 4. เปน็ ส่ือในการนำเสนอผลงานของตัวเอง เช่น งานเขยี น รปู ภาพ วีดโิ อต่างๆ เพ่ือให้ผู้อืน่ ไดเ้ ข้ามารบั ชมและ แสดงความคดิ เหน็ 5. ใชเ้ ปน็ ส่อื ในการโฆษณา ประชาสัมพนั ธ์ หรอื บริการลูกค้าสาหรับบริษัทและองคก์ รต่างๆ ชว่ ยสรา้ งความ เช่อื ม่ันใหล้ กู ค้า 6. ชว่ ยสร้างผลงานและรายได้ใหแ้ กผ่ ู้ใชง้ าน เกิดการจา้ งงานแบบใหม่ๆ ข้นึ 7. คลายเครียดไดส้ ำหรบั ผู้ใช้ท่ีตอ้ งการหาเพื่อนคุยเล่นสนกุ ๆ 8. สร้างความสัมพนั ธท์ ด่ี จี ากเพ่ือนสู่เพ่ือนได้ เมื่อสังคมออนไลนม์ าแทนที่สงั คมกระดาษ เราจะอ่านหนังสือกันแบบไหน ในยุคท่ี “อะไรๆ ก็ดิจิทัล” ต้องยอมรับว่าเป็นยุคของการเปล่ียนแปลงท่ีส่ือต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ตมี อิทธพิ ลสูงต่อวถิ ีการดำเนินชีวิตประจำวนั ของผคู้ นท่ัวไป สง่ ผลให้เกิดการปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรมการอา่ นของผู้อ่าน หนังสือจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและคนหนุ่มสาวที่หันไปอ่านหนังสือ รับรู้ข้อมูลข่าวสาร และเรื่องราวท่ี ตนเองสนใจผ่านอินเทอร์เนต็ โดยการอ่านบนหน้าจอ โทรศพั ทม์ ือถอื (smart phone) หรือคอมพวิ เตอร์ แทนการ อ่านหนังสือท่พี ิมพ์เป็นเล่ม (printed book, p-book) มีมากข้ึน เทคโนโลยีดิจทิ ัลจึงมสี ่วนอยา่ งสำคัญในการทำให้ หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ สเ์ กดิ ข้ึนอย่างมากมาย หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (electronic book, e-book) ท่ีเกิดข้ึนในยุคดิจิทัล 4.0 พร้อมเคร่ืองอ่าน e-book (e-book reader) เช่น Kindle, Kepler ฯลฯ กับการมี “แอป” ในการอ่าน e-book รูปแบบใหม่ๆ ที่ สามารถดาวน์โหลดได้สบายๆ จาก smart phone สำหรบั ใชเ้ ป็นสอ่ื กลางส่งผ่านการเล่าเรือ่ งจากผ้เู ขียนไปส่ผู ูอ้ า่ น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการอ่านครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างแอป เช่น จอยลดา, ธัญวลัย, Fictionlog, ReadAWrite และ Ookbee ซึ่งขยายตลาดไปในประเทศกลุ่มอาเซียน โดยมีสำนักงานในหลาย ประเทศ เช่น เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ตัวอย่างร้าน e-book ท่ีเปิดเว็บไซต์เป็นหน้าร้านขาย e-book ได้แก่ Meb, Naiin, The MATTER (เว็บไซต์ข่าวท่ีเสนอเป็นข่าวส้ันๆ ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย) การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการอ่านคร้ังใหญ่น้ีมาจากพฤติกรรมการอ่านของผู้คนในยุค 4.0 โดยเฉพาะผู้อ่าน 3 กลุ่ม ซึ่งช่ืนชอบการใช้อนิ เทอร์เน็ต 6-7 ช่ัวโมงต่อวัน นิยมอ่าน รับรู้ หรือเสพ (ติด) เรื่องราวต่างๆ ทางออนไลน์ ผ่านหน้าจอโทรศัพทม์ ือถือหรือคอมพิวเตอร์ ซึง่ ก็คือผู้อา่ นกลุ่ม Gen X, Gen Y, Gen Z นนั่ เอง

22 ผู้อ่านทั้ง Gen X, Gen Y, Gen Z มักไม่อดทนที่จะอ่านหนังสือที่หนามากๆ เป็นเวลานานๆ ไม่ชอบอ่าน อะไรที่ยาวๆ เป็น การอ่านแบบที่เรียกว่า “hyper reading” คือ อ่านแบบสมาธิส้ัน หรือ อ่านแบบเร็วๆ เพราะ พวกเขาคุ้นชินกับการใช้โปรแกรม สื่อออนไลน์ และเล่มเกมคอมพิวเตอร์ จึงชอบความสนุก เห็นผลรวดเร็ว เพียง แค่กดปุ่มด้วยปลายนิ้วเท่าน้ัน จึงได้มีการพัฒนา e-book ให้อ่านได้สนุกยิ่งขึ้น โดยลงเนื้อหาเป็นตอนสั้นๆ ติดต่อกนั ทุกวันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ ผู้อ่านกลุ่มน้ีได้ติดตามอ่านได้ตลอดต่อเนื่อง ถ้าเนื้อเรอื่ งขาดหายไปหรือลง ไม่ต่อเน่ือง ผู้อ่านก็จะไม่สนใจติดตามอ่านอีกต่อไป ข้อควรระวังสำหรับการที่อ่านเร็วไป คือ ผู้อ่านเก็บข้อมูลได้ น้อย ไม่สามารถวิเคราะห์เนื้อหาที่แท้จริงได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจคลาดเคลื่อน ตีความหมายผดิ ไป นำไปสรา้ งกระแสต่างๆ ทีเ่ ปน็ ทางลบในโลกโซเชยี ลได้ ตัวอย่างพฤติกรรมการอ่านแบบ “hyper reading” ที่ชัดเจนมากๆ คือ การอ่าน “นิยายแชต” ท่ีเป็น นิยาย e-book รูปแบบใหม่ผ่านแอป “นิยายแชต” มีสไตล์การเขียนและการเล่าเรื่องผ่านการแชตที่เป็นบท สนทนาของตัวละคร โดยไม่มีบทบรรยายเหมือนนิยายทั่วไป ทำให้ผู้อ่านโดยเฉพาะวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว รู้สึกมี ส่วนร่วม เหมือนกำลังอ่านไปแชตไป ชอบเพราะอ่านได้เร็ว ท้ังยังใช้งานง่าย คือ ถ้าจะอ่านแบบ “แชตออโต้” บท สนทนาที่แชตอยู่บนหน้าจอจะเลื่อนไปเร่ือยๆ โดยท่ีไม่ต้องสไลด์หน้าจอให้เม่ือยนิ้ว แต่ถ้าอ่านไม่ทัน สามารถแตะ ทีห่ น้าจอเพอ่ื หยดุ ได้ ท้ังยงั สามารถปรบั ความเร็วในการอา่ นนิยายแชตแบบช้า ปกติ และเรว็ ได้ตามตอ้ งการ นอกจากนี้ การอ่าน e-book ทางออนไลน์ ยังทำให้ e-book มีคุณสมบัติท่ีโดดเด่น ซ่ึง p-book ทำไม่ได้ คือ การเปน็ social book ด้วย เพราะเปิดโอกาสให้ผู้อ่านเข้าไปเขียน comment ไดเ้ ลย เกดิ สังคมที่มสี ่วนร่วมใน การแลกเปลี่ยนความเห็น ตอบโต้ ต่อเติม ในหมู่ผูอ้ ่านด้วยกัน การเข้าไป chat หรือคุยกับนักเขียนท่ีเขยี นหนังสือ เล่มนั้น ผ่านส่ือโซเชียล กลายเป็นว่าการอ่านหนังสือจะไม่ใช่การอ่านแบบเดิมท่ีอ่านอยู่ในใจคนเดียว อ่านเงียบๆ และมีสมาธิ แต่จะเป็นการอ่านแบบมี interaction ระหว่างคนหลายคน สร้างวัฒนธรรมการอ่านบนอินเตอร์เน็ต แบบอ่านร่วมกัน (collective experience via internet reading) อ่านไป คุยไป ผู้อ่านแต่ละคน อ่านแล้วมี ความคิดเห็นอย่างไรกม็ า share หรือ comment กัน และ share กับนักเขียนดว้ ย เรียกว่า “รวี ิว” อาจช่วยเสนอ นักเขียนให้ปรับเปลี่ยนเน้ือหา ผู้อ่านมักอ่านแบบไม่เรียงลำดับ อ่านเจาะเป็นตอนตามที่สนใจก่อน หรือตาม “รวี วิ ” ที่กำลัง share กันเพ่ือจะไดเ้ ขียนรีววิ ตอบได้ทนั ทว่ งที จึงเกิดเป็นประสบการณ์รว่ มที่แสนจะสนุกสนานและ ได้อารมณ์ไปด้วยกัน นอกจากนี้ e-book มักใช้กลยุทธ์การขายแบบเปิดให้อ่านฟรีก่อน พออ่านๆ ไป ย่ิงอ่านยิ่ง สนุก จนผู้อ่านติดแล้ว เกิดเป็นกระแสแล้ว จึงค่อยขาย ดังนั้น e-book จึงมีคุณูปการข้อหน่ึง คือ การเร้าใจและ กระตุ้นให้เกิดการอ่านหนังสือมากข้ึน แต่ควรตระหนักว่า e-book ท่ีขายดีและอยู่ในความนิยมของผู้อ่านในโลก ออนไลน์ อาจจะไม่ใชง่ านทมี่ ีคณุ ภาพมากนักก็ได้ ในทางตรงกันข้าม พฤติกรรมการอ่านของคนท่ีอ่าน p-book คือ การอ่านแบบ “close reading” เป็น การอ่านในใจ อย่างจดจ่อ มีสมาธิ อ่านช้าๆ ไม่ชอบการรบกวน อ่านเรียงลำดับเน้ือหา เพ่ือให้เข้าใจเรื่องราว ซึม ซับ ด่ืมด่ำ ละเมียดละไมในทุกตัวอักษรที่นักเขียนร้อยเรียง ใส่รูป รส กลิ่น เสียง ลงไป เพ่ือส่ือสารให้ผู้อ่านเกิด จินตนาการ รับรู้ และสัมผัสลึกๆ กับเร่ืองราวที่เขียน การอ่านแบบนี้จึงเปรียบเสมือนการใช้ชีวิตแบบ slow life นั่นเอง ซ่ึงพฤติกรรมการอ่านทั้งแบบ “hyper reading” และ “close reading” น้ัน มีอธิบายไว้ทำนองเดียวกัน

23 ใน ห นั งสื อ เรื่อ ง “ How We Think: Digital Media and Contemporary Technogenesis” ที่ เขีย น โด ย N. Katherine Hayles จากพฤติกรรมการอ่านดังกล่าว ให้ข้อคดิ ว่า หนงั สือบางประเภทเทา่ น้ันทเ่ี หมาะจะทำเป็น p-book เชน่ หนังสือสำหรับเดก็ เลก็ เพราะพฤตกิ รรมของเด็กเล็กที่ยงั ต้องการหยิบ จับ และเล่นกบั ตัวเล่มหนังสือ และหนังสือวรรณกรรม เพราะการเขียนงานวรรณกรรม ต้องใช้เวลาในการเขียนและสรรค์สร้างอย่างประณีต จึง ไม่เหมาะกับ e-book เพราะธรรมชาติของผู้อ่านหนังสือทางออนไลน์มักชอบการส่ือสารท่ีรวดเร็ ว ข้อดีของ e-book ในมุมมองด้านการขาย การผลิต และการจัดจำหน่าย คือ สามารถต้ังราคาขาย หนังสือให้ต่ำลงได้ ทำให้โอกาสขายหนังสือมีมากขึ้น ท้ังน้ีเพราะมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า p-book เนื่องจากตัด ค่าจ้างพิมพ์ออกไป ไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของราคากระดาษและวัตถุดิบอื่นๆ ไม่ต้องจ่ายค่าส่วนลดให้สาย ส่งและร้านหนังสือ ไม่มีต้นทุนและปัญหาเร่ืองการจัดส่ง เพราะผู้ซ้ือสามารถดาวน์โหลดเองได้ นอกจากน้ียังไม่มี ข้อจำกัดวา่ ตอ้ งจัดทำขายเฉพาะเล่มทค่ี าดว่าจะขายไดเ้ ท่าน้นั เพราะตน้ ทุนไม่ได้ขึน้ กับจำนวนพิมพ์ นอกจากน้อี าจ จ่ายค่าลิขสิทธ์ิในงานเขียนได้มากขึ้นเพ่ือจูงใจนักเขียนหนังสือท่ีขายดี ทำให้นักเขียนบางคนท่ีเข้าใจและรับรู้ พฤติกรรมการอ่านของผู้อ่านกลุ่มเป้าหมายของ e-book และ p-book ว่าเป็นคนละกลุ่มกัน จึงใช้โอกาสน้ีเขียน หนงั สือขายทั้งสองแบบ ณ ปัจจุบัน หลายๆ สำนักพิมพ์จึงปรับตัวด้วยการผลิตเน้ือหาหรือ content ของหนังสือออกมาท้ังใน รูปแบบ e-book และ p-book ควบคู่กับ e-book ที่เปิดขายออนไลน์ได้ท้ังคู่ โดย e-book นั้นมีการจัดทำเป็น รูปเล่มเช่นเดียวกับ p-book ด้วยโปรแกรมหรือแอปสำหรับจัดทำ e-book โดยเฉพาะ ในเมื่อ content ของ หนังสือเหมือนกัน ดังน้ัน e-book และ p-book อาจเปรียบได้กับบรรจุภัณฑ์คนละรูปแบบท่ีออกแบบมาเพื่อ บรรจแุ ละใชง้ าน content น้ัน ให้กบั กล่มุ เป้าหมายท่ีมพี ฤติกรรมการอ่านท่แี ตกต่างกัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าใด content ของหนังสอื จะยังคงอยู่ ไม่มีวนั ตาย แต่รูปแบบการนำเสนอ การเขา้ ถงึ เพ่อื อ่าน เคร่ืองมือท่ีใช้อา่ น บรรจุ ภณั ฑท์ ี่ใช้บรรจแุ ละสอ่ื สารถงึ ตวั content นัน้ ต่างหากทีจ่ ะแปรเปลยี่ นไปตามเทคโนโลยีในแตล่ ะยคุ สมัย

24 บทที่ 3 วิธกี ารดำเนนิ งานตามโครงการ 1. วิธีการดำเนนิ งาน ขน้ั เตรยี มการ เพ่อื จัดประชุมครูและบคุ ลากรทางการศึกษา - ชแ้ี จงทำความเข้าใจรายละเอียดโครงการ - ชี้แจงแนวทางในการดำเนนิ โครงการ - จัดทำโครงการและแผนการดำเนินการเพอ่ื อนมุ ัติ - แต่งต้ังกรรมการดำเนนิ งานตามโครงการ 1. คณะกรรมการอำนวยการ มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกในการดำเนินงานฝ่าย ต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรยี บรอ้ ย ประกอบดว้ ย 1.1 นายสมประสงค์ นอ้ ยจนั ทร์ ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอชนแดน ประธานกรรมการ 1.2 นายเกรยี งฤทธ์ิ เดตะอุด ครู กรรมการ 1.3 นางสมบตั ิ มาเนตร์ ครอู าสาสมัครฯ กรรมการ 1.4 นางสาวลาวัณย์ สทิ ธิกรวยแกว้ ครอู าสาสมัครฯ กรรมการ 1.5 นางวารี ชบู ัว บรรณารักษ์ชำนาญการ กรรมการและเลขานุการ 2. ฝ่ายตดิ ต่อประสานงาน มีหนา้ ที่ ตดิ ต่อประสานงานสถานท่ีจัดการจัดกิจกรรม ประกอบดว้ ย 2.1 นางวารี ชบู วั บรรณารักษ์ชำนาญการ 2.2 นางสาวมจุ ลนิ ท์ ภยู าธร ครู กศน. ตำบล 2.3 นางลาวิน สเี หลอื ง ครู กศน. ตำบล 2.4 นางสาวนภารตั น์ สสี ะอาด ครู กศน. ตำบล 2.5 นางสาวลดาวรรณ์ สุทธิพนั ธ์ ครู กศน. ตำบล 2.6 นางผกาพรรณ มะหิทธิ ครู กศน. ตำบล 2.7 นางสาวพัชราภรณ์ นรศิ ชาติ ครู กศน. ตำบล 2.8 นางสรุ ตั น์ จนั ทะไพร ครู กศน. ตำบล 2.9 นายเกรยี งไกร ใหมเ่ ทวินทร์ ครู กศน. ตำบล 2.10 นางสาวณฐั ชา ทาแนน่ ครู กศน. ตำบล 2.11 นางสาวอุษา ยิง่ สกุ ครู ศรช.

25 3. ฝ่ายการเงินและพัสดุ มีหน้าที่ จัดซื้อพัสดุและยืมเงินสำรองจ่ายตามโครงการ และจัดทำเอกสาร เบิกจ่ายพัสดุ และการเงนิ ตามโครงการใหถ้ ูกตอ้ งเรยี บรอ้ ยและทันต่อเวลาประกอบด้วย 3.1 นางวารี ชูบัว บรรณารักษ์ชำนาญการ 3.2 นางสมบตั ิ มาเนตร์ ครูอาสาสมัครฯ 3.3 นายศิวณชั ญ์ อศั วสมั ฤทธิ์ ครู ศรช. 4. ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ ส่งข่าวประชาสัมพันธ์วิทยุห้างทองเรดิโอ เสียงตามสาย วิทยุชุมชน ประชาสัมพันธท์ างออนไลน์ Facebook Line ประกอบดว้ ย 4.1 นางวารี ชบู ัว บรรณารกั ษ์ชำนาญการ 4.2 นางสาวมุจลนิ ท์ ภยู าธร ครู กศน. ตำบล 4.3 นางลาวนิ สีเหลอื ง ครู กศน. ตำบล 4.4 นางสาวนภารัตน์ สสี ะอาด ครู กศน. ตำบล 4.5 นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธพิ ันธ์ ครู กศน. ตำบล 4.6 นางผกาพรรณ มะหิทธิ ครู กศน. ตำบล 4.7 นางสาวพัชราภรณ์ นรศิ ชาติ ครู กศน. ตำบล 4.8 นางสรุ ัตน์ จนั ทะไพร ครู กศน. ตำบล 4.9 นายเกรยี งไกร ใหม่เทวินทร์ ครู กศน. ตำบล 4.10 นางสาวณฐั ชา ทาแน่น ครู กศน. ตำบล 4.11 นางสาวอษุ า ยิง่ สุก ครู ศรช. 5. ฝ่ายจัดกิจกรรม มีหน้าที่ให้กรรมการมีหน้าที่จัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับนักศึกษา และประชาชน มีหน้าที่จัดเตรียมใบความรู้ ใบงาน กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ส่งเสริมการอ่านจากหนังสือ และ สือ่ ออนไลน์ ส่ือการเรียนการสอน เกม และกจิ กรรมนันทนาการ ดงั นี้ 5.1 กิจกรรมรักการอ่านผ่านสอื่ ออนไลน์ 5.1.1 นางวารี ชบู วั บรรณารกั ษ์ชำนาญการ 5.1.2 นางสมบตั ิ มาเนตร์ ครูอาสาสมัครฯ 5.1.3 นางสาวลาวัณย์ สิทธกิ รวยแก้ว ครูอาสาสมัครฯ 5.1.4 นางสาวมจุ ลนิ ท์ ภูยาธร ครู กศน. ตำบล 5.1.5 นางลาวนิ สเี หลอื ง ครู กศน. ตำบล 5.1.6 นางสาวนภารัตน์ สสี ะอาด ครู กศน. ตำบล 5.1.7 นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธิพนั ธ์ ครู กศน. ตำบล 5.1.8 นางผกาพรรณ มะหิทธิ ครู กศน. ตำบล 5.1.9 นางสาวพัชราภรณ์ นรศิ ชาติ ครู กศน. ตำบล 5.1.10 นางสุรตั น์ จนั ทะไพร ครู กศน. ตำบล

26 5.1.11 นายเกรียงไกร ใหมเ่ ทวนิ ทร์ ครู กศน. ตำบล 5.1.12 นางสาวณฐั ชา ทาแน่น ครู กศน. ตำบล 5.1.13 นายศิวณชั ญ์ อัศวสัมฤทธ์ิ ครู ศรช. 5.1.14 นางสาวกัญญาณฐั จันปญั ญา ครู ศรช. 5.1.15 นายปณั ณวฒั น์ สขุ มา ครู ศรช. 5.1.16 นางสาวอุษา ยงิ่ สุก ครู ศรช. 5.1.17 นางสาววรางคณา นอ้ ยจันทร์ ครู ศรช. 5.1.18 นางสาวเยาวดี โสดา นักจดั การงานท่วั ไป 5.2 กจิ กรรมวันรักการอา่ น บรรณารกั ษ์ชำนาญการ 5.2.1 นางวารี ชูบวั ครูอาสาสมัครฯ 5.2.2 นางสมบตั ิ มาเนตร์ ครูอาสาสมัครฯ 5.2.3 นางสาวลาวณั ย์ สทิ ธกิ รวยแก้ว ครู กศน. ตำบล 5.2.4 นางสาวมจุ ลนิ ท์ ภูยาธร ครู กศน. ตำบล 5.2.5 นางลาวิน สีเหลือง ครู กศน. ตำบล 5.2.6 นางสาวนภารตั น์ สสี ะอาด ครู กศน. ตำบล 5.2.7 นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธพิ นั ธ์ ครู กศน. ตำบล 5.2.8 นางผกาพรรณ มะหทิ ธิ ครู กศน. ตำบล 5.2.9 นางสาวพชั ราภรณ์ นรศิ ชาติ ครู กศน. ตำบล 5.2.10 นางสุรัตน์ จันทะไพร ครู กศน. ตำบล 5.2.11 นายเกรยี งไกร ใหม่เทวนิ ทร์ ครู กศน. ตำบล 5.2.12 นางสาวณฐั ชา ทาแน่น ครู ศรช. 5.2.13 นายศิวณัชญ์ อัศวสัมฤทธิ์ ครู ศรช. 5.2.14 นางสาวกญั ญาณฐั จันปญั ญา ครู ศรช. 5.2.15 นายปัณณวัฒน์ สขุ มา ครู ศรช. 5.2.16 นางสาวอุษา ย่งิ สกุ ครู ศรช. 5.2.17 นางสาววรางคณา น้อยจันทร์ นักจัดการงานทว่ั ไป 5.2.18 นางสาวเยาวดี โสดา 5.3 กจิ กรรมห้องสมดุ เคลอ่ื นทส่ี บู่ า้ นหนังสอื ชมุ ชน ปลูกฝังคนรกั การอา่ น 5.3.1 นางวารี ชูบัว บรรณารกั ษช์ ำนาญการ 5.3.2 นางสมบตั ิ มาเนตร์ ครูอาสาสมัครฯ 5.3.3 นางสาวลาวณั ย์ สทิ ธกิ รวยแก้ว ครูอาสาสมัครฯ

27 5.3.4 นางสาวมุจลนิ ท์ ภูยาธร ครู กศน. ตำบล 5.3.5 นางลาวิน สีเหลือง ครู กศน. ตำบล 5.3.6 นางสาวนภารตั น์ สีสะอาด ครู กศน. ตำบล 5.3.7 นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธิพันธ์ ครู กศน. ตำบล 5.3.8 นางผกาพรรณ มะหิทธิ ครู กศน. ตำบล 5.3.9 นางสาวพชั ราภรณ์ นริศชาติ ครู กศน. ตำบล 5.3.10 นางสรุ ตั น์ จนั ทะไพร ครู กศน. ตำบล 5.3.11 นายเกรียงไกร ใหมเ่ ทวนิ ทร์ ครู กศน. ตำบล 5.3.12 นางสาวณัฐชา ทาแน่น ครู กศน. ตำบล 5.3.13 นายศิวณชั ญ์ อัศวสัมฤทธ์ิ ครู ศรช. 5.3.14 นางสาวกัญญาณฐั จันปญั ญา ครู ศรช. 5.3.15 นายปณั ณวฒั น์ สุขมา ครู ศรช. 5.3.16 นางสาวอษุ า ยงิ่ สุก ครู ศรช. 5.3.17 นางสาววรางคณา น้อยจันทร์ ครู ศรช. 5.3.18 นางสาวเยาวดี โสดา นักจัดการงานทว่ั ไป 5.4 กิจกรรมเสรมิ การอ่าน สรา้ งการเรยี นรู้ กับห้องสมุดประชาชน 5.4.1 นางวารี ชูบวั บรรณารกั ษช์ ำนาญการ 5.4.2 นางสมบตั ิ มาเนตร์ ครอู าสาสมัครฯ 5.4.3 นางสาวลาวัณย์ สทิ ธกิ รวยแก้ว ครอู าสาสมัครฯ 5.4.4 นางสาวมจุ ลนิ ท์ ภูยาธร ครู กศน. ตำบล 5.4.5 นางลาวนิ สีเหลือง ครู กศน. ตำบล 5.4.6 นางสาวนภารตั น์ สีสะอาด ครู กศน. ตำบล 5.4.7 นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธิพันธ์ ครู กศน. ตำบล 5.4.8 นางผกาพรรณ มะหิทธิ ครู กศน. ตำบล 5.4.9 นางสาวพัชราภรณ์ นรศิ ชาติ ครู กศน. ตำบล 5.4.10 นางสรุ ัตน์ จนั ทะไพร ครู กศน. ตำบล 5.4.11 นายเกรยี งไกร ใหม่เทวนิ ทร์ ครู กศน. ตำบล 5.4.12 นางสาวณัฐชา ทาแนน่ ครู กศน. ตำบล 5.4.13 นายศิวณัชญ์ อศั วสมั ฤทธิ์ ครู ศรช. 5.4.14 นางสาวกัญญาณัฐ จันปญั ญา ครู ศรช. 5.4.15 นายปัณณวฒั น์ สุขมา ครู ศรช. 5.4.16 นางสาวอษุ า ยง่ิ สกุ ครู ศรช.

28 5.4.17 นางสาววรางคณา นอ้ ยจันทร์ ครู ศรช. 5.4.18 นางสาวเยาวดี โสดา นกั จัดการงานท่ัวไป 5.5 กิจกรรมส่งเสริมการอา่ น สรา้ งสรรค์ปัญญา นำพาสอู่ าชพี 5.5.1 นางวารี ชบู วั บรรณารักษ์ชำนาญการ 5.5.2 นางสมบตั ิ มาเนตร์ ครอู าสาสมัครฯ 5.5.3 นางสาวณัฐชา ทาแน่น ครู กศน. ตำบล 5.5.4 นางสาวอุษา ย่ิงสกุ ครู ศรช. 5.6 กจิ กรรมบนั ทึกรักการอ่าน บรรณารักษ์ชำนาญการ 5.6.1 นางวารี ชูบวั ครอู าสาสมัครฯ 5.6.2 นางสมบตั ิ มาเนตร์ ครอู าสาสมัครฯ 5.6.3 นางสาวลาวัณย์ สิทธกิ รวยแก้ว ครู กศน. ตำบล 5.6.4 นางสาวมจุ ลินท์ ภูยาธร ครู กศน. ตำบล 5.6.5 นางลาวิน สเี หลือง ครู กศน. ตำบล 5.6.6 นางสาวนภารัตน์ สสี ะอาด ครู กศน. ตำบล 5.6.7 นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธิพนั ธ์ ครู กศน. ตำบล 5.6.8 นางผกาพรรณ มะหทิ ธิ ครู กศน. ตำบล 5.6.9 นางสาวพัชราภรณ์ นรศิ ชาติ ครู กศน. ตำบล 5.6.10 นางสุรัตน์ จนั ทะไพร ครู กศน. ตำบล 5.6.11 นายเกรียงไกร ใหมเ่ ทวนิ ทร์ ครู กศน. ตำบล 5.6.12 นางสาวณฐั ชา ทาแนน่ ครู ศรช. 5.6.13 นายศิวณชั ญ์ อัศวสมั ฤทธิ์ ครู ศรช. 5.6.14 นางสาวกญั ญาณฐั จันปัญญา ครู ศรช. 5.6.15 นายปณั ณวัฒน์ สขุ มา ครู ศรช. 5.6.16 นางสาวอุษา ยง่ิ สุก ครู ศรช. 5.6.17 นางสาววรางคณา นอ้ ยจันทร์ นกั จดั การงานท่ัวไป 5.4.18 นางสาวเยาวดี โสดา 6. ฝ่ายรบั ลงลงทะเบียน ใหก้ รรมการมหี นา้ ทจี่ ดั เตรยี มเอกสารสำหรับการลงทะเบยี น และรบั ลงทะเบยี น ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการ ดังนี้ 6.1 นางสาวอษุ า ยิ่งสุก ครู ศรช. 6.2 นางสาวกญั ญาณัฐ จนั ปญั ญา ครู ศรช.

29 7. ฝ่ายวัดผลและประเมินผลโครงการ มีหน้าที่แจกแบบสอบถามความพึงพอใจและเก็บรวบรวม แบบสอบถามความพึงพอใจ ประเมินผลการดำเนนิ งาน ประเมินความพึงพอใจ ปัญหา อปุ สรรค และขอ้ เสนอแนะ และจดั ทำรายงานผลการดำเนินงานหลังเสร็จสนิ้ โครงการ ดังน้ี 7.1 นางวารี ชูบวั บรรณารักษ์ชำนาญการ 7.2 นางสาวอษุ า ยิ่งสุก ครู ศรช. 7.3 นางสาวกญั ญาณฐั จันปัญญา ครู ศรช.

2. ขัน้ ดำเนินการ กจิ กรรมหลกั วัตถปุ ระสงค์ กลุ่มเป้าหมาย ก 1. ขนั้ เตรียมการ ครูและบุคลากร เพ่ือจดั ประชุมครูและบคุ ลากรทางการ กศน. อำเภอชนแดน ช ศกึ ษา จำนวน 20 คน ว - ชแี้ จงทำความเขา้ ใจรายละเอยี ด โครงการ - ช้ีแจงแนวทางในการดำเนนิ โครงการ - จัดทำโครงการและแผนการดำเนนิ การ เพื่ออนมุ ัติ - แตง่ ต้ังกรรมการดำเนินงานตาม โครงการ 2. ประชุมกรรมการ เพ่อื ประชมุ ทำความเข้าใจกบั กรรมการ ครูและบุคลากร ช กศน. อำเภอชนแดน ข ดำเนนิ งาน ดำเนินงานทกุ ฝา่ ยในการจดั กิจกรรม จำนวน 20 คน โครงการและการดำเนนิ งาน 3. จดั เตรยี มเอกสาร เพื่อดำเนนิ การจดั ทำ จดั ซ้อื วัสดุอุปกรณ์ กรรมการฝ่ายที่ได้รบั จ วสั ดุ อปุ กรณใ์ นการ ทใ่ี ชใ้ นการดำเนินการ มอบหมาย ดำเนินโครงการ

30 กลมุ่ เปา้ หมาย พน้ื ท่ดี ำเนินการ ระยะเวลา งบประมาณ เปา้ หมาย (เชงิ คณุ ภาพ) เม.ย.64 - กศน. อำเภอ ชแ้ี จงทำความเขา้ ใจ รายละเอียดและ ชนแดน วตั ถปุ ระสงค์ของการจัดโครงการ ชี้แจงวัตถุประสงค์ บทบาทหนา้ ท่ี กศน. อำเภอ เม.ย.64 - ของกรรมการดำเนินงานโครงการ ชนแดน จัดซอื้ วัสดอุ ุปกรณ์ในการจดั โครงการ กศน. อำเภอ ม.ิ ย.64 2,496 ชนแดน บาท

กจิ กรรมหลัก วัตถปุ ระสงค์ กลมุ่ เปา้ หมาย ก นกั เรียน นกั ศึกษา 4. ดำเนินการจัด 1. รกั การอ่านผ่านส่ือออนไลน์ และประชาชนทัว่ ไป ส กจิ กรรม 2. วนั รักการอา่ น จำนวน 2,370 คน แ 3. ห้องสมุดเคล่ือนทส่ี ่บู ้านหนังสือชุมชน น ปลูกฝังคนรักการอ่าน ช 4. เสริมการอ่าน สร้างการเรยี นรู้ กบั หอ้ งสมดุ ประชาชน 5. ส่งเสรมิ การอา่ น สร้างสรรค์ปญั ญา นำพาสอู่ าชีพ 6. บนั ทึกรกั การอ่าน 5. สรุป/ประเมนิ ผล เพอื่ ใหก้ รรมการฝา่ ยประเมนิ ผลเก็บ ตามกระบวนการ ส และรายงานผล รวบรวมขอ้ มลู และดำเนินการประเมินผล ประเมินโครงการ ต โครงการ การจัดกิจกรรม 5 บท จำนวน 3 เล่ม

31 กลุ่มเป้าหมาย พ้นื ทด่ี ำเนินการ ระยะเวลา งบประมาณ เป้าหมาย (เชิงคณุ ภาพ) พื้นท่ีอำเภอ เม.ย. 64 - ส่งเสริมสนบั สนุนให้นักเรยี น นกั ศกึ ษา ชนแดน ถงึ และประชาชนทั่วไปมีนสิ ยั รักการอา่ น นำไปสู่ การเรยี นรู้ และพัฒนาคณุ ภาพ ก.ย.64 ชีวติ ให้ดีขึน้ สรปุ รายงานผลการดำเนินงาน กศน. อำเภอ ก.ย.64 - ตามระบบ PDCA ชนแดน

32 3. ขัน้ สรุปการจดั กิจกรรม 1. ดชั นีวัดผลสำเรจ็ ของโครงการ 1.1 ตัวชี้วัดผลผลิต (output) กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการฯ 80 % มีความพึงพอใจในการเข้าร่วม กิจกรรม 1.2 ตวั ช้ีวัดผลลัพธ์ (outcome) นักเรยี น นักศึกษา และประชาชนท่ัวไปรักการอ่าน เพื่อพัฒนาคุณภาพ ชวี ติ ทด่ี ีขนึ้ 2. การติดตามผลประเมนิ ผลโครงการ 2.1 แบบประเมนิ ความพึงพอใจผ้เู ขา้ รว่ มกจิ กรรม / โครงการ 2.2 สรปุ /รายงานผลการจัดกิจกรรม

33 บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งานตามโครงการ ผลการดำเนินงานตามโครงการ การศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายที่ร่วมโครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมที่ 2 โครงการ สง่ เสริมการเรยี นรสู้ ำหรบั นกั ศึกษาและประชาชน กิจกรรมรกั การอ่านผา่ นสื่อออนไลน์ แบง่ ออกเปน็ 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนท่ี 1 ข้อมูลทั่วไป เพศ รอ้ ยละ จำนวน 28.74 เพศ 858 71.26 ชาย 2,127 100 หญงิ 2,985 รวม จากตาราง สรุปได้ว่า ผู้เข้าร่วมการศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการจัดการศึกษาตาม อัธยาศัย กิจกรรมที่ 2 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับนักเรียน นักศึกษาและประชาชน กิจกรรมรักการอ่านผ่าน ส่อื ออนไลน์ ในครงั้ น้ี เปน็ เพศหญิง มากท่ีสดุ จำนวน 2,127 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 71.26 ช่วงอายุ อายุ ร้อยละ ต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 3.39 15 - 29 ปี 101 54.87 30 – 39 ปี 1,638 14.84 40 - 49 ปี 443 15.14 50 - 59 ปี 452 9.78 60 ปขี น้ึ ไป 292 1.98 100 รวม 59 2,985 จากตาราง สรุปได้ว่า ผู้เข้าร่วมโครงการการศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการจัดการศึกษา ตามอัธยาศัย กิจกรรมที่ 2 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับนักเรียน นักศึกษาและประชาชน กิจกรรมรักการอ่าน ผ่านสอ่ื ออนไลน์ ในครงั้ นี้ เปน็ ชว่ งอายุ 15-29 ปขี ้นึ ไป มากทีส่ ดุ จำนวน 1,638 คน คดิ เป็นร้อยละ 54.87

34 ระดับการศกึ ษา การศึกษา ร้อยละ ประถมศกึ ษา จำนวน 2.48 23.42 ม.ต้น 74 38.49 ม.ปลาย 699 0.97 ปวช./ปวส. 1,149 26.67 ปรญิ ญาตรี 29 7.97 สงู กวา่ ปรญิ ญาตรี 796 100 รวม 238 2,985 จากตาราง สรุปได้ว่า ผู้เข้าร่วมโครงการการศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการจัดการศึกษา ตามอัธยาศัย กิจกรรมที่ 2 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับนักเรียน นักศึกษาและประชาชน กิจกรรมรักการอ่าน ผา่ นสื่อออนไลน์ ในคร้งั นี้ การศกึ ษาระดบั ม.ปลาย มากทสี่ ุด จำนวน 1,149 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 38.49 อาชพี อาชีพ รอ้ ยละ รบั จา้ ง จำนวน 31.76 เกษตรกรรม 948 3.02 ผ้นู ำชมุ ชน 0.27 คา้ ขาย 90 3.25 รบั ราชการ 8 25.59 นักเรียน/นักศึกษา 97 26.60 อน่ื ๆ ระบุ 764 9.51 รวม 794 100 284 2,985 จากตาราง สรุปได้ว่า ผู้เข้าร่วมโครงการการศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายโครงการจัดการศึกษาตาม อัธยาศัย กิจกรรมที่ 2 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับนักเรียน นักศึกษาและประชาชน กิจกรรมรักการอ่านผ่าน สอ่ื ออนไลน์ ในคร้ังนี้ เป็นอาชีพรบั จา้ ง มากที่สดุ จำนวน 948 คน คิดเปน็ ร้อยละ 31.76

35 ส่วนท่ี 2 ขอ้ มลู ความคดิ เหน็ และความพึงพอใจต่อโครงการ 2.1 เกณฑ์การพจิ ารณาระดับความพึงพอใจ 0.00 – 1.50 อยูใ่ นระดับ น้อยท่ีสดุ 1.51 – 2.50 อยู่ในระดับ นอ้ ย 2.51 – 3.50 อยูใ่ นระดับ ปานกลาง 3.51 – 4.50 อยู่ในระดบั มาก 4.51 - 5 อยใู่ นระดบั มากที่สุด 2.2 เกณฑ์การให้คะแนน 5 อยใู่ นระดับ มากทส่ี ดุ 4 อยู่ในระดับ มาก 3 อย่ใู นระดับ ปานกลาง 2 อยู่ในระดับ น้อย 1 อยู่ในระดบั นอ้ ยทส่ี ุด

ตอนที่ 2 ความคดิ เห็นต่อโครงการ จำนวน ผู้ ขอ้ รายการ ประเมิน (คน) มากที่สดุ 5 1 กิจกรรมท่จี ัดสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ 2985 2005 1942 2 เนือ้ หาของส่ือการเรยี นรตู้ รงกับความต้องการของผู้รับบริการ 2985 1956 1948 3 การจดั กจิ กรรมมีส่ือการเรียนรทู้ ีห่ ลากหลาย 2985 1955 1902 4 กจิ กรรมส่งเสรมิ การมีมนุษย์สัมพันธ์อนั ดีต่อกนั 2985 2014 1909 5 สถานที่จัดกจิ กรรมเหมาะสมท่ีเอื้อตอ่ การเรียนรู้ 2985 1928 1946 6 ระยะเวลาการจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม 2985 1983 2054 7 ท่านมีความประทบั ใจในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมคร้งั น้ี 2985 8 การประชาสัมพนั ธแ์ ละชวนเชิญ 2985 9 ความเหมาะสมวัสด/ุ อุปกรณใ์ นการจดั กจิ กรรม 2985 10 การนำประโยชนไ์ ปใช้ในการเข้ารว่ มกจิ กรรมในครง้ั นี้ 2985 11 ทา่ นคดิ วา่ ควรมีการจดั กจิ กรรมในลักษณะนี้ต่อเนื่อง 2985 12 หากมโี อกาสในปีต่อไปท่านยินดเี ข้าร่วมโครงการนี้อีก 2985 รวมทั้งหมด 35820 23542 รอ้ ยละ 100 65.72

36 ระดบั ผลการประเมิน เฉลีย่ S.D. ประมวล ร้อยละ ด มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยท่สี ุด ผล 90.91 90.07 4 321 90.48 90.37 649 291 34 6 4.55 0.73 มากทส่ี ุด 90.30 89.82 661 332 43 7 4.50 0.77 มากท่สี ุด 90.89 89.65 689 296 36 8 4.52 0.74 มากที่สดุ 89.82 90.37 697 291 38 11 4.52 0.75 มากทส่ี ุด 90.35 91.25 678 295 49 8 4.52 0.76 มากท่สี ดุ 90.28 714 312 46 11 4.49 0.77 มาก 643 277 41 10 4.54 0.76 มากที่สดุ 677 345 38 16 4.48 0.79 มาก 662 341 41 13 4.49 0.78 มาก 708 280 35 16 4.52 0.76 มากทส่ี ุด 638 308 38 18 4.52 0.78 มากที่สุด 615 270 33 13 4.56 0.74 มากทสี่ ดุ 8031 3638 472 137 4.51 0.76 มากทส่ี ุด 22.42 10.16 1.32 0.3825

37 จากตาราง สรุปได้ว่า ผู้เข้าร่วมโครงการจดั การศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมที่ 2 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ สำหรับนักเรียน นักศึกษาและประชาชน กิจกรรมรักการอ่านผ่านสื่อออนไลน์ ในครั้งนี้ ผลปรากฏว่าระดับ ความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับ มากท่ีสดุ คดิ เปน็ ร้อยละ 90.28 ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ -

38 บทท่ี 5 สรปุ ผลการดำเนนิ งานตามโครงการ การบูรณาการการเรียนรู้ • มกี ารนำความรทู้ ไ่ี ดร้ ับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ • จากกิจกรรมช่วยส่งเสริม ให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไป มีนิสัยรักการอ่าน และมีความคิด สรา้ งสรรค์ มนี ิสัยรกั การอ่านนำไปสูก่ ารเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชวี ติ ให้ดขี น้ึ ความรว่ มมือของกลุ่มเปา้ หมายและเครอื ขา่ ย - การมีส่วนร่วมของภาคเี ครอื ขา่ ยในการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั - การสนับสนนุ ใหภ้ าคเี ครือข่ายจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย การนำความรู้ไปใช้ - ส่งเสริมและสนับสนุนให้ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าถึง และมีโอกาสได้อ่าน หนังสือ ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีนิสัยรกั การอ่านนำไปสู่การเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้ดขี น้ึ การดำเนนิ งานทวั่ ไป เชงิ ปริมาณ - กล่มุ เปา้ หมาย นักเรียน นกั ศึกษา และประชาชนทวั่ ไป จำนวน 783 คน - จำนวนกลมุ่ ตัวอยา่ ง นกั เรียน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไป จำนวน 2,985 คน 1) ชาย จำนวน 858 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 28.74 2) หญิง จำนวน 2,127 คน คิดเปน็ ร้อยละ 71.26 เชงิ คณุ ภาพ 1. นักเรยี น นักศึกษาและประชาชนทั่วไปเข้าถึง และมีโอกาสได้อา่ นหนังสือ 2. นกั เรียน นักศกึ ษาและประชาชนทว่ั ไปเข้ามารบั บริการในหอ้ งสมุดประชาชนอำเภอ ชนแดนมากข้ึน 3. นกั เรียน นกั ศึกษาและประชาชนท่ัวไปมคี วามรู้ความเขา้ ใจการเข้าถึงแหลง่ สาร สารสนเทศได้อยา่ งประสิทธิภาพและตรงตามความตอ้ งการ 4. นักเรียน นักศกึ ษา และประชาชนทว่ั ไปมีนิสัยรักการอ่านนำไปสู่ การเรยี นรู้ และ พัฒนาคณุ ภาพชวี ิตให้ดขี ้นึ

39 ผลการดำเนินงานตามตวั ชว้ี ัดความสำเร็จ 1. เป้าหมาย จำนวน 783 คน มผี ู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 2,985 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ผลการดำเนินงานตามเป้าหมาย 2. จำนวนผู้รว่ มกิจกรรม จำนวน 2,985 คน ผา่ นกจิ กรรม จำนวน 2,985 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 ผลการดำเนนิ งานบรรลุเปา้ หมาย สรุปผลการดำเนนิ งาน - ผลการดำเนินงานบรรลุเป้าหมาย ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมที่ 2 โครงการส่งเสรมิ การเรียนรูส้ ำหรับนักศึกษาและประชาชน กิจกรรมรักการอ่านผ่านสอื่ ออนไลน์ ในภาพรวมอย่ใู นระดับ มากที่สดุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 90.28 สรปุ ความพงึ พอใจตอ่ โครงการ/กจิ กรรม ที่เข้ารว่ ม 1. กิจกรรมท่จี ดั สอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ อยใู่ นระดบั ความพงึ พอใจ มากทสี่ ุด คิดเปน็ ร้อยละ 90.91 2. เน้ือหาของส่ือการเรียนรู้ตรงกับความต้องการของผู้รับบริการ อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากที่สุด คดิ เป็นรอ้ ยละ 90.07 3. การจัดกิจกรรมมีสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ 90.48 4. กิจกรรมส่งเสริมการมีมนุษย์สัมพันธ์อันดีต่อกัน อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากที่สุด คิดเป็น รอ้ ยละ 90.37 5. สถานท่ีจัดกิจกรรมเหมาะสมที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากที่สุด คิดเป็น ร้อยละ 90.30 6. ระยะเวลาการจดั กิจกรรมมีความเหมาะสม อยู่ในระดบั ความพงึ พอใจ มาก คิดเปน็ ร้อยละ 89.82 7. ท่านมีความประทับใจในการเข้าร่วมกิจกรรมคร้ังนี้ อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากที่สุด คิดเป็น รอ้ ยละ 90.89 8. การประชาสัมพนั ธ์และชวนเชิญ อยู่ในระดบั ความพึงพอใจ มาก คดิ เป็นร้อยละ 89.65 9. ความเหมาะสมวัสดุ/อุปกรณ์ในการจัดกิจกรรม อยู่ในระดับความพึงพอใจ มาก คิดเป็น รอ้ ยละ 89.82 10.การนำประโยชน์ไปใช้ในการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งน้ี อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากที่สุด คิดเปน็ รอ้ ยละ 90.37 11.ท่านคิดว่าควรมีการจัดกิจกรรมในลักษณะน้ีต่อเนื่อง อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากท่ีสุด คดิ เปน็ ร้อยละ 90.35 12.หากมีโอกาสในปีต่อไปท่านยินดีเข้าร่วมโครงการน้ีอีก อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากที่สุด คดิ เป็นร้อยละ 91.25 ข้อเสนอแนะ -

40 ภาคผนวก

ภาพ โครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย กจิ กรรมท่ี 2 โครงการสง่ เสริมการเรยี นรสู้ ำหรบั นกั ศกึ ษาและประชาชน กิจกรรมรักการอ่านผา่ นส่ือออนไลน์ ประจำเดอื น สิงหาคม 2564


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook