บนั ทกึ ข้อความ สว่ นราชการ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอชนแดน ท่ี ศธ ๐๒๑๐.๕๔๐๓/ วันท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๔ เรือ่ ง สรุปผลการปฏบิ ตั ิงานโครงการสง่ เสรมิ การเรียนรสู้ ำหรับผุ้สงู อายุ กจิ กรรมภาษาจีนเบอื้ งต้น เรียน ผอู้ ำนวยการศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชนแดน ตามท่ี ห้องสมุดประชาชนอำเภอชนแดนได้จัดทำโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับผู้สูงอายุ กิจกรรมภาษาจีนเบื้องต้น ระหว่างเดือน พฤศจิกายน - ธันวาคม 2563 ณ โรงเรียนผู้สูงอายุตำบลชนแดน เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุฝึกพูดภาษาจีนอย่างง่ายๆ ส่งเสริมให้มีนิสัยรักการอ่านนำไปสู่การเรียนรู้ และพัฒนา คณุ ภาพชวี ิตให้ดขี ้ึน บัดน้ีโครงการดังกล่าวไดด้ ำเนนิ การเสร็จสิน้ เรียบรอ้ ยแลว้ ห้องสมดุ ประชาชนอำเภอชนแดน จงึ ขอสรปุ ผลการปฏิบัติงานโครงการดงั กล่าวรายละเอียดตาม เอกสารที่แนบมาพร้อมน้ี จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ นางวารี ชบู วั บรรณารกั ษ์ชำนาญการ
คำนำ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชนแดน มอบหมายให้ห้องสมุด ประชาชนอำเภอชนแดน ดำเนินการจัดทำโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับผู้สูงอายุ กิจกรรมภาษาจีน เบื้องต้น ระหว่างเดือน พฤศจิกายน - ธันวาคม 2563 ณ โรงเรียนผู้สูงอายุตำบลชนแดน เพื่อส่งเสริมให้ ผู้สงู อายุฝึกพูดภาษาจีนอย่างง่ายๆ สง่ เสริมให้มีนสิ ัยรกั การอ่านนำไปสู่การเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดี ขนึ้ นนั้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชนแดน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สรุปผลการปฏิบัติงานโครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย เล่มนี้คงเป็นประโยชน์ในการใช้เป็นคู่มือในการ ดำเนินงานต่อไป หากมีข้อเสนอแนะประการใดโปรดแจ้งคณะผู้จัดทำเพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงใน ครัง้ ตอ่ ไป ผจู้ ดั ทำ มกราคม 2564
สารบญั หนา้ 1-6 บทที่ 1 บทนำ 7 - 25 บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยทเี่ ก่ยี วข้อง 26 - 30 บทท่ี 3 วิธีดำเนนิ การตามโครงการ 31 - 35 บทที่ 4 ผลการดำเนินการตามโครงการ 36 - 37 บทที่ 5 สรุปผลการดำเนินงานตามโครงการ ภาคผนวก รปู ภาพ รายชอื่ ผู้เข้าร่วมกจิ กรรม แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ คำสง่ั โครงการ คณะผู้จัดทำ
1 บทท่ี 1 บทนำ 1.ชือ่ โครงการ โครงการจัดการศกึ ษาตามอัธยาศัย กิจกรรมท่ี 3 โครงการสง่ เสริมการเรยี นรสู้ ำหรบั ผู้สูงอายุ กิจกรรมภาษาจนี เบอ้ื งตน้ 2. สอดคล้องกับนโยบาย/ยุทธศาสตร์และจดุ เน้นการดำเนนิ งาน สำนกั งาน กศน. : 2.1 12 ภารกิจ “เร่งดว่ น” ข้อที่ 2 ขับเคล่ือนนโยบายของรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ (นายณฏั ฐพล ทีปสุวรรณ) และ รัฐมนตรีช่วยวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.กนกวรรณ วลิ าวลั ย์) ให้เกดิ ผลเปน็ รปู ธรรม 2.2 สอดคล้องกับมาตรฐาน กศน. มาตรฐานการศกึ ษาตามอธั ยาศยั มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพของผู้รับบรกิ ารการศกึ ษาตามอัธยาศัย ตวั บง่ ชีท้ ี่ 1.1 ผรู้ ับบริการมคี วามรู้ หรอื ทักษะ หรือประสบการณ์ สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์ของโครงการ หรือกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย มาตรฐานที่ 2 คุณภาพการจดั การศกึ ษาตามอธั ยาศัย ตัวบง่ ชี้ท่ี 2.1 การกำหนดโครงการหรือกิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศยั ตัวบ่งชี้ที่ 2.2 ผ้จู ดั กจิ กรรมมีความรู้ ความสามารถในการจดั การศึกษาตามอธั ยาศัย ตวั บ่งชท้ี ี่ 2.3 สอื่ หรอื นวตั กรรม และสภาพแวดล้อมท่เี อื้อต่อการจัดการศกึ ษาตาม อธั ยาศยั ตวั บ่งช้ีท่ี 2.4 ผู้รับบรกิ ารมีความพึงพอใจต่อการจดั การศึกษาตามอัธยาศยั มาตรฐานท่ี 3 คุณภาพการบรหิ ารจัดการของสถานศกึ ษา ตวั บง่ ชีท้ ่ี 3.1 การบรหิ ารจัดการของสถานศกึ ษาท่ีเน้นการมสี ่วนร่วม ตัวบง่ ชท้ี ี่ 3.2 ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา ตวั บง่ ชี้ท่ี 3.5 การกำกับ นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมินผลการดำเนินงานของสถานศึกษา ตวั บ่งชี้ที่ 3.7 การส่งเสรมิ สนบั สนุนภาคีเครือขา่ ยใหม้ ีส่วนรว่ มในการจดั การศึกษา ตวั บง่ ชี้ที่ 3.8 การสง่ เสริม สนับสนุนการสร้างสงั คมแหง่ การเรียนรู้
2 2.3 ของเสนอแนะ ของ สมศ. ข้อที่ 1 ในการดำเนินแผนงาน/โครงการ สถานศึกษาควรมีการติดตามตรวจสอบการดำเนินงานทุก ระยะ ขั้นตอนของการดำเนินงาน เพื่อประเมินผลและนำผลการประเมินมาปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นระบบครบ วงจร PDCA และในการประเมนิ ความพึงพอใจ ควรเพมิ่ ข้อเหตผุ ล ขอ้ คิดเห็นหรือขอ้ เสนอแนะวา่ เพราะเหตุใดข้อ น้นั จงึ ใหค้ ะแนนมากหรือนอ้ ย ข้อที่ 13 ในการบริหารจัดการการดำเนินโครงการ กิจกรรมต่างๆ สถานศึกษาควรดำเนินการให้ ครบถว้ นเปน็ ระบบครบวงจร PDCA และในโครงการกจิ กรรมควรกำหนดวัตถุประสงค์เป็นรูปธรรม มกี ารออกแบบ ประเมินให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ มีการดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลอย่าง ต่อเนือ่ งและนำผลการประเมินท่ีไดไ้ ปวิเคราะห์ถงึ อปุ สรรค และนำไปวางแผน ปรบั ปรุง พฒั นาในปีตอ่ ไป 3. หลักการและเหตุผล แผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 – 2564) กล่าวถึงประเด็นการพัฒนา หลักที่สำคัญในช่วงแผนพฒั นาฯ ฉบับที่ 12 ว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงจากการเปล่ียนแปลงโครงสรา้ งประชากรสู่ สังคมสูงวัยมากขึ้น จำนวนประชากรวัยแรงงานลดลง ผู้สูงอายุมีปัญหาสุขภาพและมีแนวโน้มอยู่คนเดียว สูงขึ้น ปัญหา ความยากจนยังกระจุกตัวหนาแน่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ รวมทั้งความแตกต่างของ รายได้ ระหว่างกลุ่มคนรวยที่สุดและกลุ่มคนจนที่สุดสูงถึง 34.9 เท่า ในปี 2556 เนื่องจากการกระจายโอกาสการ พัฒนาไม่ทั่วถึง ยิ่งไปกว่านั้นทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรม มีปัญหาความขัดแย้งในการใช้ประโยชน์ ทรัพยากรธรรมชาติระหว่างรัฐกับประชาชน และระหว่างประชาชนในกลุ่มต่างๆ เนื่องจากการจัดการ ทรพั ยากรธรรมชาติมีลกั ษณะรวมศูนยข์ าดการเช่ือมโยงกบั พนื้ ท่ี ในขณะทีป่ ัญหา สิ่งแวดล้อมเพิ่มสูงขึ้นตาม การขยายตัวของเศรษฐกิจและชุมชนเมือง ประกอบกับสภาพภูมิอากาศมีการ เปลี่ยนแปลงผันผวนมากขึ้น ประเทศไทยต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงมากข้ึน ส่งผลกระทบต่อ เศรษฐกิจและสงั คมไทยมากกว่าในอดีต ผสู้ งู อายุ ถือว่าเปน็ ทรัพยากรท่ีสำคัญอย่างย่ิงของสังคมและประเทศชาติ เปน็ ตน้ ทุนทางสังคม ท่ีมีค่ามาก โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งสงั คมไทยที่นับถือผูส้ งู อายุในฐานะผู้มีประสบการณ์มาก่อน และเป็นผู้สง่ั สมภูมปิ ญั ญาของท้องถิ่น ในด้านต่างๆ เพื่อสืบทอดถึงบุคคลรุ่นหลัง นอกจากนี้ผู้สูงอายุยงั เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของลูกหลานที่คอยให้ ความอบอุ่น คำแนะนำสั่งสอนแก่บุคคลรุ่นหลังในครอบครัว โดยในปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อย่างสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ตลอดจนวิทยาการสมัยใหม่เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในทุกๆ ด้าน ส่งผลให้ประชากรไทย มีอัตราการ เจริญพันธุ์ลดลง และประชากรมีอายุขัยเฉลี่ยสูงขึ้น ปัจจัยดังกล่าวทำให้โครงสร้างประชากรของประเทศไทยมีการ เปลีย่ นแปลงอยา่ งต่อเน่ือง ซึง่ หากประชากรผ้สู ูงอายุท่ีมจี ำนวนเพ่มิ มากขึน้ อย่างรวดเร็วและต่อเน่ืองเหล่าน้ีสามารถ พึ่งพาตนเองได้ดี และสามารถดำรงชีวิตด้วยตนเองได้อย่างมีคุณค่าแม้ว่าจะอยู่ในวัยสุดท้ายของช่วงชีวิตก็ตาม ผสู้ งู อายุก็ยังจดั ได้วา่ เป็นกลมุ่ ประชากรท่ีเป็น พลงั สำคัญ แทนทจ่ี ะเป็นภาระของครอบครัว ชมุ ชน และสังคม
3 หอ้ งสมดุ ประชาชนอำเภอชนแดนจงึ ไดจ้ ัดทำโครงการส่งเสรมิ การเรยี นรู้สำหรับผ้สู งู อายุ เพ่อื สนับสนนุ หรอื สง่ เสริมฐานวฒั นธรรมหรือภูมิปญั ญาของผู้สูงอายุในชุมชน สร้างความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองของผู้สูงอายุให้สูงขึ้น รวมทั้งกระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต รู้จักแก้ไขปัญหา มีการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน สงั คม อันนำไปสู่การพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ความเป็นอยู่ให้ดีย่งิ ข้ึน 4. วัตถปุ ระสงค์ 4.1 เพ่อื ให้ผู้สูงอายุได้ใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์ 4.2 เพอ่ื ใหผ้ ู้สูงอายุมีการพฒั นาความรู้ รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์และสงั คมของ ผู้สูงอายุ 4.3 เพอ่ื ใหผ้ ูส้ ูงอายุมีนิสัยรักการอ่านนำไปสู่การเรียนรู้ และพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ให้ดขี ึน้ 5. เป้าหมาย จำนวน 330 คน เชิงปริมาณ ผสู้ งู อายุ เชิงคณุ ภาพ 1. ผ้สู ูงอายไุ ด้ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ 2. ผสู้ งู อายุรว่ มมกี ารพัฒนาความรู้ รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์และสงั คมของ ผูส้ ูงอายุ 3. ผ้สู งู อายุมีนิสัยรกั การอา่ นนำไปส่กู ารเรยี นรู้ และพัฒนาคุณภาพชวี ติ ใหด้ ขี น้ึ 6. วิธดี ำเนินการ กิจกรรมหลกั วตั ถุประสงค์ กลุ่มเปา้ หมาย เปา้ หมาย พน้ื ที่ ระยะเวลา งบประมาณ ดำเนินการ พ.ย.63 - 1. ข้นั เพ่ือจดั ประชมุ ครูและ ครูและบุคลากร 20 คน กศน. อำเภอ เตรียมการ บุคลากรทางการศึกษา - ช้แี จงทำความเข้าใจ กศน. อำเภอ ชนแดน รายละเอยี ดโครงการ - ช้ีแจงแนวทางในการ ชนแดน ดำเนินโครงการ - จดั ทำโครงการและ แผนการดำเนนิ การเพ่ือ อนุมตั ิ - แต่งตัง้ กรรมการ ดำเนนิ งานตามโครงการ
4 กจิ กรรมหลกั วตั ถปุ ระสงค์ กลุม่ เปา้ หมาย เป้าหมาย พ้ืนท่ี ระยะเวลา งบประมาณ ดำเนนิ การ 14 ธ.ค.63 - 2. ประชุม เพื่อประชมุ ทำความเข้าใจ ครูและบคุ ลากร 20 คน กศน. อำเภอ กรรมการ กบั กรรมการดำเนนิ งาน กศน. อำเภอ ชนแดน ดำเนินงาน ทกุ ฝ่ายในการจัดกิจกรรม ชนแดน โครงการและการ ดำเนินงาน 3. จัดเตรียม เพอื่ ดำเนนิ การจดั ทำ กรรมการฝ่ายที่ - กศน. อำเภอ 15 ธ.ค.63 2,000 เอกสาร วสั ดุ จัดซ้อื วสั ดอุ ุปกรณ์ท่ีใช้ใน ไดร้ ับมอบหมาย ชนแดน อปุ กรณ์ในการ การดำเนนิ การ 30 คน ดำเนนิ โครงการ ผสู้ งู อายุ 150 คน 1. ร.ร.ผสู้ งู อายุ พ.ย.63 - 4. ดำเนินการ 1. ภาษาจนี เบอ้ื งตน้ 150 คน - จัดกิจกรรม 2. บงิ โกผลไม้ ต.ชนแดน – 3. ปรศิ นาสุภาษติ ไทย 2. ร.ร.ผสู้ ูงอายุ ม.ี ค.64 ต.ท่าขา้ ม รวม 3. ร.ร.สรา้ งสขุ 330 คน ผสู้ งู อายุ ต.บา้ นกลว้ ย 4. ร.ร.ผสู้ งู อายุ ต.ดงขุย 5. กลุ่มผสู้ ูงอายุ บ้านศาลาลาย 5. สรุป/ เพื่อให้กรรมการฝา่ ย ตาม 2 เล่ม กศน. อำเภอ มี.ค.64 ประเมนิ ผล ประเมนิ ผลเกบ็ รวบรวม กระบวนการ และรายงานผล ขอ้ มลู และดำเนนิ การ ประเมิน ชนแดน โครงการ ประเมนิ ผลการจัด โครงการ กจิ กรรม 5 บท
5 7. วงเงนิ งบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 แผนงานพื้นฐานด้านการพัฒนาและเสริมสร้าง ศักยภาพทรพั ยากรมนุษย์ ผลผลิตท่ี 5 ผรู้ บั บริการการศึกษาตามอัธยาศยั กิจกรรมการจดั การศึกษาตามอัธยาศัย งบดำเนินงาน ค่าจัดกจิ กรรมสำหรบั หอ้ งสมุดประชาชน รหสั งบประมาณ 36005 เป็นเงิน 2,000.- บาท (สอง พนั บาทถ้วน) รายละเอียดดังน้คี อื คา่ วัสดุ เปน็ เงิน 2,000 บาท รวมเป็นเงนิ 2,000 บาท 8. แผนการใช้จา่ ยงบประมาณ แผนการใชจ้ า่ ยรายไตรมาส ไตรมาสท่ี 1 ไตรมาสท่ี 2 ไตรมาสท่ี 3 ไตรมาสท่ี 4 2,000 - - - 9. ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ 9.1 นางวารี ชบู ัว ตำแหน่ง บรรณารกั ษ์ชำนาญการ 9.2 นางสมบัติ มาเนตร์ ตำแหน่ง ครอู าสาฯ 9.3 นางสาวลาวัณย์ สิทธกิ รวยแกว้ ตำแหนง่ ครอู าสาฯ 9.4 นางสาวมุจลินท์ ภูยาธร ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบล 9.5 นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธิพันธ์ ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบล 9.6 นางสรุ ัตน์ จันทะไพร ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล 9.7 นายเกรียงไกร ใหม่เทวินทร์ ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล 9.8 นางผกาพรรณ มะหิทธิ ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบล 9.9 นางสาวอษุ า ยง่ิ สกุ ตำแหนง่ ครปู ระจำศนู ยก์ ารเรียนชุมชน 9.10 นางสาววรางคณา นอ้ ยจันทร์ ตำแหน่ง ครปู ระจำศนู ย์การเรียนชุมชน 9.11 นายปณั ณวฒั น์ สุขมา ตำแหนง่ ครปู ระจำศนู ย์การเรียนชมุ ชน 9.12 นายศิวณชั ญ์ อัศวสัมฤทธ์ิ ตำแหน่ง ครปู ระจำศนู ย์การเรียนชุมชน 9.13 น.ส.กญั ญาณัฐ จันทปัญญา ตำแหนง่ ครูประจำศูนย์การเรยี นชมุ ชน 10. เครือข่าย 10.1 โรงเรยี นผู้สงู อายุ ต.ชนแดน 10.2 โรงเรียนผสู้ ูงอายุ ต.ท่าขา้ ม 10.3 โรงเรยี นสร้างสุขผูส้ งู อายุ ต.บ้านกลว้ ย
6 10.4 โรงเรยี นผสู้ ูงอายุ ต.ดงขยุ 10.5 กล่มุ ผ้สู งู อายบุ ้านศาลาลาย 11.โครงการทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 11.1 โครงการจดั การศึกษาตามอธั ยาศยั 11.2 โครงการประชาสัมพนั ธง์ าน กศน. 11.3 โครงการส่งเสริมและพฒั นาประสทิ ธภิ าพการทำงานรว่ มกบั เครือข่าย 12. ผลลัพธ์ 12.1 ผูส้ งู อายไุ ดใ้ ชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์ 12.2 ผ้สู ูงอายุมกี ารพฒั นาความรู้ ร่างกาย จติ ใจ อารมณ์และสังคมของ ผูส้ ูงอายุ 12.3 ผ้สู ูงอายุมนี สิ ัยรกั การอา่ นนำไปสู่การเรยี นรู้ และพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตให้ดีข้ึน 13. ดชั นวี ัดผลสำเร็จของโครงการ 13.1 ตัวชี้วัดผลผลิต (output) กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการฯ 80 % มีความพึงพอใจในการเข้าร่วม กจิ กรรม 13.2 ตวั ชว้ี ดั ผลลพั ธ์ ( outcome ) ผู้สงู อายุ มนี สิ ยั รักการอ่านนำไปสู่การเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้ดีข้นึ 14. การตดิ ตามผลประเมินผลโครงการ 14.1 แบบประเมนิ ความพึงพอใจผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม / โครงการ 14.2 สรุป/รายงานผลการจดั กจิ กรรม
7 บทท่ี 2 เอกสารท่เี ก่ียวข้อง ประวัตหิ ้องสมดุ ประชาชน กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้พิจารณาเห็นว่าเพ่ือสนองพระราชปณิธานและแนวทางพระราชดำริในการ สง่ เสริมการศกึ ษาสำหรับประชาชน ตามที่ทรงแสดงไว้ในโอกาสต่าง ๆ เช่น ในโอกาสทท่ี รงมพี ระมหกรณุ าธิคุณ เสด็จเป็นองค์ประธานในการประชุม สมัชชาสากลว่าด้วยการศึกษาผู้ใหญ่ วันท่ี 12 มกราคม พ.ศ. 2533 ได้ทรงพระราชทานลายพระหตั ถ์เชิญชวนให้ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตดำเนินโครงการจัดต้งั ห้องสมดุ ประชาชน ซ่งึ ที่ ได้รับพระราชทานนามว่า ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” โดยจะเร่ิมก่อสร้างห้องสมุดรุ่นแรก จำนวน 37 แห่ง เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสท่ี พระชนมายุ 36 พรรษา ในปี 2534 และจะวางแผนดำเนินการจัดต้ังอย่างต่อเน่ืองจนครบทุกอำเภอภายใน ระยะเวลา 10 ปี ระหว่างปี 2534 – 2543 ซึ่งเป็นเวลาท่ีองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้เป็นทศวรรษ แหง่ การส่งเสรมิ การร้หู นงั สอื ห้องสมุดประชาชนแตล่ ะแหง่ จะสร้างข้นึ ด้วยความรว่ มมอื ของประชาชนในท้องถิ่นหน่วยงาน ภาครฐั และ เอกชน จากความจงรักภกั ดีและความสำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เพ่ือพรอ้ มใจน้อมเกล้าฯ ถวายเพ่อื สนองพระราชปณิธาน ในชมุ ชนมีแหล่งความรทู้ ่ีพร้อมพรง่ั สมบรู ณ์ ซงึ่ เปน็ แบบอย่างของการพัฒนา หอ้ งสมดุ สืบต่อไปโดยมีการจัดส่วนบรกิ ารและกิจกรรมคือ 1. ห้องอา่ นหนงั สือท่วั ไป 2. มุมเด็กและครอบครวั 3. หอ้ งอเนกประสงค์ 4. ห้องโสตทัศนศึกษา 5. หอ้ งเฉลิมพระเกยี รติ สาระสำคัญ วัตถุประสงค์ในการจดั ต้งั มงุ่ ที่กระจายโอกาสทางการศึกษาไปส่ชู ุมชนในชนบท ด้วยการจดั ตง้ั และ พัฒนาหอ้ งสมุดประชาชนอำเภอ ใหเ้ ปน็ แหล่งความรู้สำหรับประชาชนทุกเพศทุกวยั และเป็นศูนย์กลาง สนบั สนุนการผลิตและเผยแพร่เอกสารสง่ิ พมิ พ์ไปสูท่ ี่อ่านหนงั สอื ในระดับหมบู่ ้าน ทงั้ น้ี โดยได้กำหนด วัตถุประสงค์เฉพาะในการดำเนนิ การไว้ดงั ต่อไปน้ี
8 1. พฒั นารปู แบบของห้องสมุดประชาชนอำเภอ เพ่อื สนองตามแนวพระราชดำริ เพ่ือให้เป็นตวั อย่างของ หอ้ งสมุดในอนาคตทจี่ ะเปน็ แหลง่ ความรู้ และศูนย์กลางสนบั สนนุ เครอื ข่ายการเรียนรู้ในระดบั หมู่บ้าน 2. จดั ตง้ั ห้องสมุดประชาชนอำเภอใหค้ รบทุกอำเภอ โดยจะคัดเลือกอำเภอทีม่ คี วามพร้อมและความ จำเป็นเรง่ ดว่ น ดำเนนิ การจัดตงั้ เป็นรุ่นแรกจำนวน 37 แห่ง ในชว่ งปี 2534 – 2535 เพ่ือเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี และทยอยการจัดต้ังในอำเภออ่นื จนครบทั่วทง้ั ประเทศในช่วงปี 2536 – 2543 3. พัฒนาหอ้ งสมุดประชาชนอำเภอที่จัดต้งั อยู่เดิมแล้วให้มีคณุ ภาพและมีความพร้อมท่ีจะใหบ้ ริการตาม บทบาทและภารกิจของห้องสมดุ ในอนาคต 4. ประสานงานกบั หนว่ ยงานภาครัฐ และเอกชนรณรงค์ส่งเสรกิ ารอ่าน เพื่อกระตุน้ ให้ประชาชน หนว่ ยงานภาครัฐและเอกชน เห็นความสำคญั ของการอ่าน และการจัดต้ังห้องสมดุ ประชาชน เพ่ือจะไดม้ ีส่วน รว่ มรับผดิ ชอบในการดำเนนิ โครงการและใช้ประโยชน์จากห้องสมดุ ทจี่ ะจัดตง้ั ข้นึ จากวตั ถปุ ระสงค์ ดังกล่าว กรมการศกึ ษานอกโรงเรียน จึงมนี โยบายให้ห้องสมุดประชาชนทกุ ประเภท ซึ่งรวมทั้งห้องสมดุ ประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” ด้วย มกี จิ กรรมหลกั การดังน้ี 1. ศนู ย์ขอ้ มูลข่าวสารชุมชนมีกิจกรรมท่ีจดั ในลกั ษณะดังนี้ 1.1) ด้านสง่ เสรมิ การอา่ นและการคน้ ควา้ เชน่ การประกวดการอ่าน การจัดนิทรรศการ การเลา่ นิทาน การเล่าเร่ืองจากหนังสือ การประกวดยอดนักอา่ น การโต้วาที การปาฐกถา เปน็ ต้น 1.2) ด้านการใชภ้ มู ิปัญญาท้องถิน่ เชน่ การอภปิ ราย การบรรยาย การศกึ ษาดูงานในท้องถ่นิ การ รวบรวบผลงานของภูมิปญั ญาในท้องถิน่ เปน็ ต้น 1.3) ดา้ นหอ้ งสมุดเคลือ่ นทส่ี ชู่ ุมชน เชน่ การนำย่าม ถงุ กระเปา๋ หีบ เรือ รถยนต์ รถไฟเคล่ือน ไปตามชุมชน จัดหาหนงั สอื ไปบรกิ ารตามจดุ หรือ หนว่ ยงานสำคญั เชน่ เรือนจำ โรงงาน บ้านพัก คนชรา โรงพยาบาล เป็นตน้ 1.4) ดา้ นส่งเสริมการรวมกลุ่มประชาชนตาม ความรแู้ ละความสนใจ เช่น กล่มุ สนใจ กลมุ่ วิชาชีพ ชมุ ชนตา่ ง ๆ เช่นชมรมนักอ่าน ชมรมอนุรกั ษธ์ รรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ชมรมสมนุ ไพร การแข่งขนั กีฬา เปน็ ตน้ 1.5) ดา้ นครอบคัวสมั พนั ธ์ เช่น จัดใหม้ สี นาม เด็กเล่น จดั มุมเดก็ และมมุ ครอบครัว จำตามวนั สำคญั ๆ เชน่ วนั พอ่ วันแม่ วันครอบครวั วนั ตรวจสขุ ภาพ เป็นต้น 2. ศูนย์ส่งเสรมิ การเรยี นรขู้ องชุมชนมีกิจกรรมทจ่ี ดั ในลกั ษณะดังนี้ 2.1) ดา้ นแนะแนวการศึกษานอกโรงเรยี น เชน่ แนะแนวการศึกษาอาชีพทำเนียบตลาดแรงงาน แหลง่ ทรพั ยากร จดั ปา้ ยนิเทศ ตลาดนดั ทัวร์อาชีพ ศกึ ษาดูงาน เป็นต้น
9 2.2) ด้านจดั และใหบ้ ริการชดุ ทดลอง ชดุ สาธิตต่าง ๆ เชน่ สาธติ การทดลองนวัตกรรม ใหม่ๆ เช่น เครอื่ งดักยุง ระบบน้ำหยด การทดสอบความช้ืนของข้าว การทดลองการเป็นกรดเป็นด่างของ ดนิ เป็นต้น 2.3) ด้านจัดพื้นทีส่ ำหรับบริการตามหลกั สตู รการศกึ ษานอกโรงเรยี นของสถาบันตา่ ง ๆ เชน่ จดั มุม ทางไกล ตนเองชั้นเรยี น มุม มสธ. มมุ มร. เปน็ ต้น 3. ศูนยก์ ลางการจดั กิจกรรมของชุมชน หรือเปน็ ศูนย์ประชาคมมกี ิจกรรมทจ่ี ัด ในลักษณะ ดงั น้ี 3.1) บริการสถานทจี่ ดั ประชุม สมั มนา การแสดงผลิตภัณฑ์ เชน่ การจัดประชุมสมาชิก ชุมชน สมาคม และ แสดงกิจกรรมชมรม จดั มมุ แสดงสนิ คา้ พนื้ เมอื ง จดั แสดงศิลปวฒั นธรรมพ้ืนบ้าน การ แต่งงาน เป็นตน้ 3.2) กจิ กรรมเดก็ และครอบครวั เชน่ วนั เด็ก วันแม่ วนั พ่อ การบรรยายเกี่ยวกบั เด็กและ ครอบครวั เปน็ ตน้ 3.3) กิจกรรมอเนกประสงค์ของชมุ ชน เช่น ศิลปวฒั นธรรม การแต่งงาน การดำเนินการเชงิ ธุรกิจ สนามเดก็ เล่น เป็นตน้ 4. พฒั นาเครือขา่ ยการเขียนรู้ในชุมชน มีกิจกรรมทจี่ ัดในลกั ษณะ ดงั น้ี 4.1) ด้านข้อมูลขา่ วสารและส่อื เชน่ การหมุนเวียนส่อื สารนิเทศไปยังห้องสมุดโรงเรยี น 4.2) ดา้ นการพัฒนา การผลติ เผยแพรแ่ ละฝกึ อบรม เชน่ ผลิตเอกสาร แผน่ ปลวิ อบรมบุคลากร ท่เี กีย่ วข้องในดำเนินงานเพื่อทีจ่ ะให้การเผยแพร่ส่ือสารนิเทศส่เู ครือข่ายอย่างมีประสทิ ธิภาพ เปน็ ต้น จากวัตถุประสงค์ทงั้ 5 ข้อดังกลา่ ว กรมการศึกษานอกโรงเรยี นจดั เพ่ือใหป้ ระชาชนในชุมชนทกุ เพศ ทกุ วัย ทุกระดบั การศึกษา ทกุ อาชีพไดร้ บั การศกึ ษานอกโรงเรียนจากการจดั บริการและกจิ กรรม ห้องสมดุ เพื่อใชใ้ นการปรับปรุงอาชีพ ความเปน็ อยู่ พัฒนาคณุ ภาพชีวติ ใหด้ ีขน้ึ เปน็ การศึกษาตามอัธยาศยั ท่ี ส่งเสริมสนับสนนุ การศึกษาในระบบและนอกระบบโรงเรยี นอีกสว่ นหน่งึ ด้วย บทบาทหน้าท่ี 1. ศนู ย์ข่าวสารและข้อมูลของชุมชน หมายถึง จดั หอ้ งสมุดใหเ้ ปน็ แหลง่ ศึกษาหา ความรู้ ค้นควา้ วิจัย โดยมีการจดั บริการหนงั สือ เอกสารสิง่ พิมพ์ สอ่ื โสตทัศน์ 2. ศูนยส์ ง่ เสรมิ การเรียนรู้ของชุมชน เป็นแหล่งสง่ เสริมสนบั สนนุ และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3. ศูนยก์ ลางจดั กจิ กรรมของชุมชน หมายถึง การให้บรกิ ารแก่ชุมชน ในการจัดกิจกรรม การศึกษา และศลิ ปวฒั นธรรม เชน่ การประชุมขององค์กร การจัดกจิ กรรมวนั สำคญั ตามประเพณี การจัดสวน สขุ ภาพ สนามเด็กเลน่ และสวนสาธารณะ เปน็ ตน้
10 4. ศูนยก์ ลางสนบั สนนุ เครอื ข่ายการเรียนร้ใู นชมุ ชน หมายถงึ การจดั ให้เกดิ กระบวนการท่ีจะเช่ือม ประสานระหว่างห้องสมุดและแหลง่ ความร้ใู นชุมชนอนื่ ๆ เชน่ ทอ่ี า่ นหนงั สอื ประจำ หมู่บ้าน สถานศึกษา แหล่งประกอบการ ภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ สืบเนอื่ งจากปี 2548 ซึง่ เป็นปีทีส่ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจริญ พระชนมายุครบ 50 พรรษา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันเนื่องด้วยการศึกษา ศาสนาและ ศิลปวัฒนธรรม จึงได้พิจารณาเห็นสมควรสนองพระราชดำริในการส่งเสริมให้ชุมชนได้มี ห้องสมุดเพื่อเป็นแหล่ง ความรู้ จังหวัดอำนาจเจริญจึงเริ่มริเริ่มดำเนินโครงการจัดต้ังห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัด อำนาจเจริญ ข้ึนเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ ในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี ทรงเจริญพระชนมายุรบ 50 พรรษา ท้ังเป็นสัญลักษณ์แห่งความเทิดทูนบูชาท่ีประชาชนชาวไทยมีต่อ พระองค์ และเป็นการบุกเบิกพัฒนาในการจัดต้ังห้องสมุดประชาชน และบริการข่าวสารข้อมูลแก่ประชาชนใน ลักษณะห้องสมดุ อิเล็กทรอนิกส์ โดยประชาชนและหนว่ ยงานภาครัฐและเอกชนทีม่ ีความจงรักภักดี และสำนกึ ใน น้ำพระราชหฤทัยท่ีทรงมุ่งมั่น และส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาสำหรับประชาชน ซ่ึงสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ จังหวัดอำนาจเจริญที่ว่า “ประชาสังคมเข้มแข็ง แห่งผลิตข้าวหอมมะลิคุณ ภาพดี มีโอกาสทาง การศึกษา พัฒนาคุณภาพชีวิต” ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจังหวัดแบบบูรณาการจังหวัดอำนาจเจริญ เม่ือคราวประชุม วนั ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2548 โดย นายสมพงษ์ อนุยทุ ธพงษ์ ผวู้ ่าราชการจังหวัดอำนาจเจรญิ (ขณะนั้น) ได้มี มติให้ ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดอำนาจเจริญ ก่อสร้างห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัด อำนาจเจริญ โดยก่อสร้างที่บริเวณใกลส้ ี่แยกไฟแดง อาคารสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองอำนาจเจริญเดิมบน พื้นท่ี 2 ไร่ 2 งาน 14 ตารางวา ในวงเงินงบประมาณ 7,500,000 บาท (เจ็ดล้านห้าแสนบาทถ้วน) ประจำปี งบประมาณ 2548 โดยใช้แบบแปลนมาตรฐานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” สำนักบริหารงาน การศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ ชนิดขยายข้างสองช้ัน กระทรวงศึกษาธิการได้นำความขึ้นกราบ บังคมทูลขอพระราชทาน พระราชานุญาตเข้าร่วมโครงการก่อสร้างห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี”จังหวัด อำนาจเจริญ เป็นลำดบั ท่ี 85 โดยทำสัญญากอ่ สรา้ ง เมอื่ วันที่ 15 กนั ยายน 2548 เร่มิ ดำเนนิ การกอ่ สรา้ งประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2549 กระท่ังสง่ มอบ คร้งั สุดท้ายเมื่อวันที่ 25 ธนั วาคม 2549 ภายในอาคารห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จงั หวัดอำนาจเจรญิ จดั เป็นหอ้ งสมุดสำหรับ ปัจจบุ ันและอนาคต ไม่ไดบ้ ริการเฉพาะยืม – คืนหนงั สอื เท่านัน้ แต่จะมีกจิ กรรมต่าง ๆ ทีส่ นองความต้องการ ของประชาชน อาทิ ชน้ั ล่าง เป็นสว่ นของการใหบ้ ริการ สื่อ/หนังสือที่ครบถว้ น เชน่ มุมหนงั สือท่วั ไป มุมหนงั สอื วารสาร หอ้ งหนงั สือนวนิยาย ห้องหนงั สืออ้างอิง หอ้ งเด็กและครอบครัว มุมหนงั สอื พระราช นพิ นธ์ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ มัลติมเี ดีย มุมบริการอินเตอร์เน็ต ชนั้ บน ประกอบด้วย ห้องเฉลิมพระเกียรติ หอ้ งอำนาจเจริญ ซง่ึ แสดงนิทรรศการความเปน็ มา ศิลปวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ จังหวดั อำนาจเจรญิ ห้อง พระพทุ ธศาสนา และห้องโสตทัศนศึกษา
11 กิจกรรมสง่ เสริมการอ่าน กิจกรรมสง่ เสริมการอ่าน หมายถึง การกระทำตา่ งๆ เพื่อให้เด็กเกิดความสนใจทจ่ี ะอ่าน เหน็ ความสำคัญ ของการอ่าน เกิดความเพลิดเพลินที่จะอ่าน เกิดความมุ่งม่ันที่จะอ่าน และอ่านจนเป็นนิสัย ทั้งนี้ การอ่านหนังสือ เปน็ ทักษะสำคัญทกั ษะหนง่ึ ในชีวติ ประจำวัน เพราะการอ่านหนังสือจะพัฒนาคุณภาพชวี ิตของคนเราไดเ้ ป็นอย่างดี ยิง่ เมื่อคนเราอ่านหนังสือจะเกิดความสามารถสร้างความรู้ อารมณ์ จินตนาการ และ ความเพลิดเพลิน การท่ีเด็ก จะเกิดทักษะการอ่านหนังสือได้น้ันจำเป็นจะต้องอาศัยความร่วมมือจากบุคคลหลายฝ่าย ทั้งครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ในการจัดกจิ กรรมส่งเสริมการอ่านใหแ้ ก่เด็ก
12 กิจกรรมส่งเสรมิ การอ่านคือ การกระตุ้นด้วยวธิ ีการตา่ งๆ เพื่อใหผ้ ู้อา่ นสนใจการอา่ นจนกระท่ังมีนสิ ยั รกั การอ่าน และได้พัฒนาการอา่ นจนกระทั่งมีความสามารถในการอ่าน นำประโยชน์จาการอ่านไปใชไ้ ด้ตรงตาม วัตถุประสงค์ของการอ่านทุกประเภท (ฉวีวรรณ คหู าภินันทน์, 2542 : 93) กรมวชิ าการ (อ้างถงึ ใน ฉววี รรณ คูหาภนิ ันทน์, 2542 : 93) ใหค้ วามหมายว่า กจิ กรรมส่งเสริมการอา่ น คือ การกระทำเพ่ือ 1. เรา้ ใจบุคคลหรือบุคคลทเี่ ป็นเป้าหมายให้เกิดความอยากรู้ อยากอ่านหนังสือ โดยเฉพาะหนงั สอื ท่ีมี คุณภาพ 2. เพ่ือแนะนำชักชวนใหเ้ กดิ ความพยายามที่จะอ่านใหแ้ ตกฉาน สามารถนำความรู้จากหนังสอื ไปใช้ ประโยชน์ เกิดความเข้าใจในเรอ่ื งตา่ งๆ ดีขึ้น 3. เพือ่ กระตุ้น แนะนำให้อยากรู้ อยากอา่ นหนงั สือหลายอยา่ ง เปดิ ความคดิ ใหก้ วา้ ง ให้มีการอ่านตอ่ เน่ือง จนเปน็ นสิ ยั พฒั นาการอา่ นจนถงึ ขั้นทีส่ ามารถวิเคราะห์เรื่องท่ีอา่ นได้ 4. เพื่อสรา้ งบรรยากาศทจี่ ูงใจให้อ่าน ดังนั้น สามารถกล่าวได้ว่า กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่าน หมายถึงกิจกรรมต่างๆท่ีห้องสมดุ จัด ขึน้ เพ่ือสง่ เสริมให้ เกดิ การอ่านอยา่ งต่อเนือ่ งจนกระทั่งเป็นนิสัยรักการอ่าน เช่น การเล่านทิ าน การเชดิ หนุ่ การแสดงละคร การ แนะนำหนังสือที่น่าสนใจ เป็นต้น ลักษณะของกจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านท่ีดี 1. เรา้ ความสนใจ เชน่ การจดั นทิ รรศการท่ีดงึ ดูความสนใจ การตอบปัญหา มรี างวลั ตา่ งๆ การใช้สอื่ เทคโนโลยีใหม่ๆเขา้ มาชว่ ย 2. จงู ใจใหอ้ ยากอ่านและกระต้นุ ใหอ้ ยากอ่าน เชน่ ข่าวท่ีกำลงั เปน็ ทีส่ นใจ หรอื หัวข้อเร่ืองท่ีเป็นทีส่ นใจ เช่น การวิจัย การเตรียมตวั สอบ การสมัครงาน เป็นต้น 3. ไม่ใชเ้ วลานาน ความยากง่ายของกิจกรรมเหมาะสมกับเพศ ระดับอายุ การศึกษา 4. เป็นกจิ กรรมที่มุ่งไปส่หู นงั สือ วสั ดุการอ่าน โดยการนำหนังสือหรือวสั ดกุ ารอา่ นมาแสดงทุกคร้งั 5. ใหค้ วามสนกุ สนานเพลิดเพลนิ แฝงการเรียนรตู้ ามอัธยาศัยจากการรว่ มกจิ กรรมด้วย ความหมายและความสำคัญของหอ้ งสมดุ ห้องสมดุ ประชาชน หมายถงึ หอ้ งสมดุ ที่ต้งั ขึ้นเพ่ือให้บริการแก่ประชาชน โดยไมจ่ ำกดั เพศ วัย เช้อื ชาติ ศาสนา และพ้ืนความรู้ ให้บริการสารสนเทศครบทุกหมวดวิชา และอาจมกี ารบริการบางเร่ืองเปน็ พิเศษ ตามความต้องการของท้องถ่นิ และจะจัดให้บริการแกป่ ระชาชนโดยไม่คดิ มลู คา่
13 บทบาทหนา้ ท่ขี องห้องสมุดประชาชน มี 3 ประเภท คอื 1. หนา้ ทีท่ างการศกึ ษา หอ้ งสมุดประชาชนเป็นแหลง่ ให้การศึกษานอกระบบโรงเรยี น มหี น้าที่ให้ การศึกษาแก่ประชาชนทั่วไป ทุกระดับการศึกษา 2. หน้าท่ที างวัฒนธรรม ห้องสมุดปะชาชนเปน็ แหลง่ สะสมมรดกทางปัญญาของมนษุ ย์ ท่ีถา่ ยทอดเปน็ วฒั นธรรมท้องถิน่ ทีห่ ้องสมุดตง้ั อยู่ 3. หน้าที่ทางสงั คม ห้องสมดุ ประชาชนเป็นสถาบันทางสงั คมไดร้ ับเงนิ อดุ หนนุ จากรัฐบาลและท้องถิน่ มา ดำเนินกิจการ จึงมหี น้าท่ี แสวงหาข่าวสารข้อมูลที่มปี ระโยชน์มาบริการประชาชน หอ้ งสมุดประชาชนในประเทศไทยมีหนว่ ยงานต่าง ๆ รบั ผดิ ชอบ ดังน้ี 1. หอ้ งสมุดประชาชนสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร สังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน ไดแ้ ก่ ห้องสมดุ ประชาชนระดบั จงั หวัด และระดับอำเภอ นอกจากน้ีกรมการศึกษานอกโรงเรียนยังได้จดั ท่ีอ่านหนงั สือประจำ หมู่บา้ น ที่อา่ นหนังสอื ในวัด และห้องสมดุ เคลือ่ นท่ี 2. หอ้ งสมุดประชาชน สงั กดั กรงุ เทพมหานคร มีท้ังหมด 12 แห่ง ไดแ้ ก่ หอ้ งสมุดประชาชนสวนลมุ พนิ ี หอ้ งสมุดประชาชนซอยพระนาง ห้องสมดุ ประชาชนปทมุ วัน หอ้ งสมุดประชาชนอนงคาราม หอ้ งสมดุ ประชาชนวัด สงั ข์กระจาย ห้องสมดุ ประชาชนบางเขน หอ้ งสมุดประชาชนบางขุนเทียน ห้องสมดุ ประชาชนวัดรชั ฎาธษิ ฐาน วรวิหารตล่ิงชัน ห้องสมุดประชาชนประเวช ห้องสมุดประชาชนวดั ลาดปลาเค้า หอ้ งสมดุ ประชาชนภาษเี จรญิ หอ้ งสมุดประชาชนวัดราชโอรส 3. ห้องสมดุ ประชาชนของธนาคารพาณิชย์ เป็นห้องสมดุ ที่ธนาคารพาณชิ ย์เปดิ ขึ้นเพื่อบรกิ ารสงั คม และ เพ่อื ประชาสมั พนั ธ์กจิ การของธนาคารให้เป็นทีร่ ู้จักแพร่หลาย เช่น หอ้ งสมุดประชาชนของธนาคารกรุงเทพจำกัด 4. ห้องสมุดประชาชนของรัฐบาลต่างประเทศ โดยไดร้ บั การสนับสนนุ จากรฐั บาลต่างประเทศ เชน่ ห้องสมุดบริติชเคาน์ซลิ ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ทตี่ ั้งอยู่บริเวณสยามสแควร์ กรงุ เทพมหานคร 5. ห้องสมดุ ประชาชนเสยี ค่าบำรงุ ห้องสมดุ ประชาชนประเภทน้ีใหบ้ รกิ ารเฉพาะสมาชกิ เท่านน้ั โดยผ้ทู ี่ เปน็ สมาชกิ จะต้องเสยี ค่าบำรุงตามระเบยี บของห้องสมุด ได้แก่ หอ้ งสมดุ นลี สันเฮย์ ตง้ั อยทู่ ถ่ี นนสรุ ิวงศ์ กรุงเทพมหานคร บทบาทและความสำคญั ของหอ้ งสมสดุ ต่อสังคมในด้านตา่ งๆ 1. เป็นสถานทเี่ พื่อสงวนรกั ษาและถ่ายทอดวฒั นธรรม ห้องสมดุ เป็นแหล่งสะสมววิ ัฒนาการของมนุษย์ ตัง้ แต่อดีตจนถงึ ปัจจุบัน ถ้าไม่มแี หล่งค้นควา้ ประเภทห้องสมดุ เปน็ ศนู ยก์ ลางแล้ว ความรู้ต่างๆ อาจสูญหายหรือ กระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆ ยากแก่คนรุ่นหลงั จะตดิ ตาม 2. เป็นสถานที่เพื่อการศึกษา ค้นคว้าวิจัย ห้องสมดุ ทำหนา้ ทีใ่ หก้ ารศึกษาแก่ประชาชนทุกรปู แบบ ท้งั ใน และนอกระบบการศึกษา เร่ิมจากการศึกษาขน้ั พืน้ ฐานถึงระดับสงู
14 3. เป็นสถานที่สรา้ งเสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละความจรรโลงใจ ห้องสมดุ มหี นา้ ทรี่ วบรวมและเลอื กสรร ทรพั ยากร สารสนเทศ เพื่อบริการแกผ่ ู้ใช้ ซึ่งเป็นสง่ิ ทม่ี คี ุณค่าผู้ใช้ไดค้ วามคิดสรา้ งสรรค์ ความจรรโลงใจ นานาประการ เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสงั คมต่อไป 4. เป็นสถานท่ปี ลกู ฝงั นิสัยรักการอ่านและการเรียนรตู้ ลอดชีวิต หอ้ งสมุดจะชว่ ยใหบ้ คุ คลสนใจในการอา่ น และรกั การอ่านจนเปน็ นิสยั 5. เป็นสถานที่สง่ เสริมการาใชเ้ วลาวา่ งในเปน็ ประโยชน์ หอ้ งสมุดเปน็ สถานทรี่ วบรวมสารสนเทศทุก ประเภท เพ่ือบรกิ ารแก่ผู้ใชต้ ามความสนใจและอา่ นเพ่ือฆา่ เวลา อา่ นเพ่ือความเพลิดเพลิน หรืออ่านเพื่อ สาระบันเทิงไดท้ ั้งส้นิ นับวา่ เป็นการพักผ่อนอยา่ งมีความหมายและให้ประโยชน์ 6. เป็นสถานทสี่ ่งเสริมความเป็นประชาธปิ ไตย หอ้ งสมุดเป็นสาธารณะสมบัติ มสี ว่ นสง่ เสรมิ ใหบ้ คุ คลรู้จัก สทิ ธแิ ละหนา้ ทขี่ องพลเมือง กล่าวคือ เมื่อมีสทิ ธิในการใชก้ ็ย่อมมีสทิ ธใิ นการบำรุงรักษาร่วมกนั และใหค้ วามรว่ มมอื กบั ห้องสมุดดว้ ยการปฏิบัตติ ามระเบียบ แบบแผนของห้องสมดุ ปญั หาการอา่ นและการใช้ห้องสมุด ปญั หาในการอา่ นที่ทำให้มผี ลทำใหเ้ ด็กไมเ่ กดิ นิสัยรกั การอ่าน ซงึ่ มีสาเหตุมาจาก 1.ไมอ่ ่าน 2. อ่านไม่ออก 3. ไมม่ หี นงั สอื อ่าน 4. ไม่มเี วลาอา่ น 5. ไม่มีท่ีอ่าน 6. อ่านช้า 7. อ่านไม่เข้าใจ 8. อ่านแลว้ ไมเ่ กิดประโยชน์ ปญั หาในการใช้ห้องสมดุ ท่ีทำใหเ้ ด็กไม่อยากเข้าใช้บริการห้องสมุด 1. กฎระเบียบ 2. สถานท่อี ยไู่ กลชุมชน 3. เจา้ หน้าที่ไมใ่ ห้ความสนใจ
15 4. มคี วามคดิ แบบเดิมๆ วา่ หอ้ งสมุดน่าเบื่อ 5.ไมม่ ่ีแรงจูงใจ 6. สอื่ ไมท่ ันสมัย 7. การบริการไมเ่ ป็นท่ีพอใจ นอกจากนีต้ วั แปรท่ีมีอทิ ธิพลต่อการใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมดุ ยังสามารถสรุปได้ดงั นี้ 1. ตวั แปรทเ่ี กี่ยวกับผูใ้ ช้ ไดแ้ ก่ วฒุ ภิ าวะ ความพรอ้ ม การจงู ใจ สมรรถวิสยั ในการอ่านและคุณลักษณะ ทางบคุ ลิกภาพของผอู้ ่าน 2. ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการอ่าน ไดแ้ ก่ ความแตกตา่ งของวัสดกุ ารอา่ น ซง่ึ อาจแตกต่างได้ในความยาก งา่ ย ความยาว ความคล้ายคลึงกัน นอกจากน้ีวัสดกุ ารอา่ นยงั แตกต่างในดา้ นของความสนุก นา่ เรียนหรอื นา่ เบ่ือ หน่าย 3. ตวั แปรทีเ่ ก่ียวกบั การใช้หอ้ งสมดุ 4. ตวั แปรทเ่ี กี่ยวกับสภาพสังคมและสงิ่ แวดล้อม ได้แก่ บ้าน โรงเรยี น เพ่ือนและชุมชน จากข้อความท่ีกลา่ วมาข้างตันสรปุ ได้ว่า การาใช้ห้องสมดุ ขึ้นอย่กู บั ปัจจยั หลายประการ ไดแ้ ก่ สภาพสังคมและ สิง่ แวดลอ้ ม วสั ดุการอ่าน และตัวของผู้อา่ นเอง การศกึ ษาตลอดชีวติ ความหมายของการศึกษาตลอดชีวติ คำจำกัดความของการศกึ ษาตลอดชีวติ ได้มผี ้ใู ห้ไวห้ ลายคนด้วยกันดงั นค้ี ือ สมุ าลี สงั ขศ์ รี กลา่ ววา่ การศกึ ษาตลอดชวี ติ หมายถึง ภาพรวมของการศึกษาทกุ ประเภททีเ่ กดิ ขน้ึ ตลอดชีวติ ของมนุษยต์ ้งั แต่เกดิ จนตาย เปน็ การศึกษาเพ่ือม่งุ พัฒนาบุคคลใหป้ รบั ตัวเข้ากับความเปล่ียนแปลงในทุกช่วงชวี ิตของบุคคลและพฒั นาต่อเนอ่ื ง ไปให้เต็มศักยภาพของแตล่ ะบุคคล การศึกษาตลอดชวี ิตครอบคลุมการศึกษาทุกรปู แบบ ทุกวยั ทัง้ การศึกษาสน ระบบโรงเรียน และการศึกษานอกระบบโรงเรียนและการศึกษาแบบไมเ่ ป็นทางการจากทุกแหล่งความร้ใู นชุมชน และสังคมและเกิดขน้ึ ได้ทุกที่ โดยไม่จำกดั เวลาและสถานท่ี การศึกษาตลอดชีวติ เปน็ การศกึ ษาที่สัมพนั ธ์กบั ชวี ติ และผสมผสานกลมกลืนกับการดำเนนิ ชีวิตของบุคคล สุนทร สุนันทช์ ัย กลา่ ววา่ การศึกษาตลอดชวี ติ เป็น การศกึ ษาทงั้ หมดของชวี ิตมนุษย์ จากเกิดจนตาย ม่งุ พฒั นามนษุ ย์ให้ปรบั ตัวเขา้ กับความเปลีย่ นแปลงในโลก ปัจจุบันและพฒั นาตอ่ เน่ืองไปใหเ้ ต็มศักยภาพของบุคคลแต่ละคน เปน็ การศึกษาทเ่ี กิดจากแรงจงู ใจท่ีจะเรียนรู้ดว้ ย ตนเองจากแหลง่ เรยี นรทู้ ้ังในระบบและนอกระบบและไมเ่ ป็นทางการ ปฐม นคิ มานนท์ กล่าวว่าการศกึ ษามิได้ หมายถึงเฉพาะกจิ กรรมท่เี กิดขึ้นในโรงเรยี นหรือสถาบันการศึกษาเทา่ นนั้ หากแตเ่ กิดขึน้ ได้ทกุ แหง่ ทุกหนและ ตลอดเวลา มคี วามเก่ยี วพนั ธ์และต่อเน่ืองกนั ตลอดชีวิต พระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไข เพม่ิ เติม(ฉบบั ที่ 2 ) พ.ศ. 2545 มาตรา 4 ให้ความหมายของการศึกษาตลอดชวี ิต วา่ เป็นการศึกษาทเ่ี กิดขึ้นจาก การผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัยเพ่ือใหส้ ามารถพัฒนา
16 คุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต จากท่มี ีผูก้ ลา่ วมาถงึ ความหมายของการศึกษาตลอดชวี ิตไวห้ ลาย ความหมาย สามารถสรุปไดว้ ่า การศึกษาตลอดชวี ติ เปน็ กระบวนการท่มี ผี ลต่อการเรยี นรู้ โดยการศึกษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย เกิดข้นึ กับบุคคลต้ังแตเ่ กิดจนตายเพ่ือใหบ้ คุ ลไดพ้ ฒั นาตนใหท้ นั ต่อการเปลี่ยนแปลงและพฒั นาต่อไปให้เตม็ ศกั ยภาพ โดยบคุ คลนั้นจะต้องมีแงจูงใจท่จี ะศึกษาหาความร้ดู ้วยตนเอง ความสำคญั ของการศึกษาตลอดชีวติ สุมาลี สงั ข์ศรี สรปุ ความสำคัญของการศึกษาตลอดชวี ิต ดังน้ี 1. การศึกษาตลอดชวี ิตทำให้บคุ คลมโี อกาส เรียนรู้ทุกช่วงชีวิต 2. การศึกษาตลอดชวี ติ ทำให้บุคคลมโี อกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกนั 3. การศึกษาตลอดชีวิตทำให้บุคคลได้รับโอกาสศึกษาในรูปแบบท่เี หมาะสมกลมกลนื กับสภาพการดำเนนิ ชวี ติ จรงิ เพราะการศึกษาตลอดชวี ติ เป็นการบรู ณาการศึกษากับชวี ติ 4. การศกึ ษาตลอดชวี ิตทำใหบ้ คุ คลไดร้ ับการศึกษาท่ีสามารถนำมาประยกุ ตใ์ ช้กับชีวิตจรงิ ได้ 5. การศึกษาตลอดชวี ิตทำใหบ้ คุ คลไดร้ ับการศึกษาทสี่ อดคลชอ้ งกบั การทำงาน ช่วยให้บุคคล สามารถ เลอื กอาชีพแลละพฒั นาอาชีพได้อย่างเหมาะสมกบั สภาพการณท์ เี่ ปลย่ี นแปลง 6. การศกึ ษาตลอดชวี ิตชว่ ยใหบ้ ุคคลมีความรู้ ทกั ษะทจี่ ะแสวงหาความร้ดู ว้ ยตนเองอย่างตอ่ เนื่องตลอด ชีวติ 7. การศกึ ษาตลอดชวี ติ ชว่ ยใหบ้ ุคคลมีอิสระในการเรยี นรสู้ ามารถเลอื กเรียนในสง่ิ ท่ตี รงกับระดับ ความสามารถของตน 8. การศกึ ษาตลอดชีวิตชว่ ยให้บุคคลสามารถพฒั นาตนเองได้เต็มศักยภาพ 9. การศกึ ษาตลอดชวี ิตชว่ ยใหบ้ ุคคลสามารถพึ่งพาตนเองได้และนำตนเองได้ในการเรยี นรู้ 10. การศึกษาตลอดชีวิตชว่ ยใหบ้ คุ คลได้พัฒนาตนเองตลอดทกุ ช่วงชีวิตและพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ของ ตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม 11. การศึกษาตลอดชวี ิตเป็นการศกึ ษาท่ีชว่ ยให้ผทู้ ด่ี ้อยโอกาสในสงั คมได้มโี อกาสในการศกึ ษา ในการ พฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของตนเอง 12. การศึกษาตลอดชวี ติ ชว่ ยให้บคุ คลและองค์กรในสังคมมีส่วนรว่ มในการจดั การศึกษา 13. การศกึ ษาตลอดชีวติ ช่วยสรา้ งสังคมแห่งการเรียนรู้ ความสำคัญของภาษาจีนในปัจจบุ นั ถา้ หากมองถงึ ความสำคญั ของภาษาจีนกลางแลว้ นัน้ ภาษาจีนกลางเป็นภาษาท่ีสำคัญของทวปี เอเชียมา ช้านาน เนอื่ งจากประเทศจนี เปน็ แหลง่ อารยธรรมท่ยี ่งิ ใหญ่หนึง่ ในสองของทวีป ดงั น้ันการบนั ทึกความรู้และ วทิ ยาการตา่ งๆจึงเป็นภาษาจีน ไม่วา่ จะเปน็ ความรูด้ ้านปรัชญา ประวตั ศิ าสตร์ วิทยาศาสตร์ เปน็ ต้น ดว้ ยสภาพ
17 ภมู ิศาสตรต์ ่างๆ ทั้งขนาดของประเทศ จำนวนประชากร การเมือง การปกครอง และเศรษฐกจิ ทม่ี ีการเจริญเตบิ โต อย่างต่อเนอื่ ง ทำใหภ้ าษาจนี กลางเปน็ ภาษาหน่งึ ของเอเชยี ทใ่ี ชใ้ นองค์การสหประชาชาติ ยิ่งเพ่ิมความสำคญั ให้กับ ภาษาจนี กลางเปน็ อย่างมาก การทีค่ นต่างประเทศอยา่ งเช่นคนไทยมโี อกาสที่จะ เรยี นภาษาจนี กลางแลว้ นั้น ย่อม ถอื ว่ามีประโยชน์อยา่ งยิ่ง ไมเ่ พียงแตส่ ามารถใช้ภาษาเพ่ือการส่อื สารทวั่ ไปแลว้ เราสามารถใชภ้ าษาเพ่ือสรา้ งความ เจรญิ ก้าวหนา้ ในดา้ นต่างๆท้ังในระดบั บคุ คล และระดับประเทศ เชน่ การศกึ ษาความรู้วิทยาการ การประกอบ ธรุ กิจการลงทนุ และการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ แม้ว่าภาษาจีนจะมีความหลากหลายของสำเนียงซึ่งแปรเปลีย่ นไปตามภมู ิภาคหรอื แตล่ ะทอ้ งถนิ่ แต่ ภาษาจนี กม็ ีความเป็นเอกภาพอยู่ในตัวน่ันคอื ตวั อักษรจีน ตัวอักษรจีนเป็นตัวอักษรท่มี ีวิวฒั นาการมาจากอักษร ภาพหรือถา้ มองอย่างนกั ศลิ ปะแลว้ กค็ ือหนงึ่ ตัวอักษรก็คือหน่งึ ภาพนน่ั เอง เพื่อความเปน็ เอกภาพของประเทศทาง รัฐบาลจีนจึงกำหนดใหภ้ าษาจนี กลางหรอื ท่ีชาวตา่ งชาตเิ รียกวา่ แมนดารินเป็นภาษากลาง ทใี่ ช้ในการติดตอ่ ส่ือสาร แม้ว่าในประเทศไทยจะมีชาวจีนอาศัยอยเู่ ปน็ จำนวนมากแตภ่ าษาทใ่ี ช้กันอยูโ่ ดยท่วั ไปนั้นเปน็ ภาษาจนี แตจ้ ๋วิ ภาษาจีนกวางตุง้ ภาษาจีนไหหลำ ภาษาจนี ฮกเกยี้ น ภาษาจนี แคะ ซงึ่ ทัง้ หมดล้วนถือเป็นภาษาท้องถิ่นของชาวจีน ในปจั จบุ ัน ดังน้นั ชาวต่างชาตทิ ่ตี อ้ งการตดิ ต่อสอ่ื สารกับชาวจีนในปัจจบุ นั หรอื นกั เรียนท่ีตอ้ งการเดินทางไปเรียน ตอ่ ทป่ี ระเทศจนี ทำการคา้ ธุรกิจกับคนจีน จงึ ควรเลอื กเรียนภาษาจีนกลางเปน็ หลักมากกว่า นอกจากนี้ ด้วยปจั จยั เรอ่ื งขนาดของประเทศและจำนวนประชากร ทำให้ภาษาจีนเปน็ ภาษาท่ีมีคนใช้ มากที่สุดในโลก และถือเป็นหน่ึงในห้าภาษาหลักขององค์การสหประชาชาติ ประกอบกับนโยบายปฏิรปู เศรษฐกิจ และเปิดประเทศในยุคผนู้ ำใหม่ เช่น การเขา้ เป็นสมาชกิ องค์การการคา้ โลก (WTO) และการลงนามจดั ต้ังเขต การคา้ เสรกี บั ไทย แสดงให้เห็นวา่ จนี เปน็ ประเทศท่ีมีโอกาสทางธรุ กิจสูง เป็นตลาดการค้าทใี่ หญ่อันดับต้นๆ และมี แนวโนม้ การเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนอ่ื ง เมอ่ื ไม่นานมานี้ รัฐบาลไทยเองกเ็ พิง่ กำหนดให้ภาษาจีนเปน็ ภาษาต่างประเทศภาษาทส่ี องสำหรับคนไทย จึงปฏิเสธไมไ่ ดว้ า่ การรู้ภาษาจนี ยอ่ มมีประโยชน์อยา่ งยง่ิ คนท่ีสามารถใช้ภาษาจีนในการตดิ ต่อสอ่ื สารได้ คลอ่ งแคลว่ ก็เท่ากับมเี ครื่องมอื ชิ้นสำคญั ทจี่ ะนำไปสกู่ ารสรา้ งความสัมพันธ์ การประกอบอาชพี การขยายโอกาส ทางธุรกจิ และการศึกษาหาความรู้ในวทิ ยาการแขนงต่างๆ ซึ่งจนี เปรียบเสมอื นคลงั ภูมปิ ัญญาตะวันออกท่มี ีคา่ มหาศาล
18 คำศัพท์ภาษาจนี หมวด “เร่ืองผกั ๆ”
19 คำศัพทภ์ าษาจนี หมวด “ตัวเลข 1-10” 一 อ่านว่า อี (yī) แปลว่า 1 二 อา่ นวา่ เอ้อร์ (èr) แปลว่า 2 三 อา่ นว่า ซาน (sān) แปลว่า 3 四 อ่านว่า ซอ่ื (sì) แปลว่า 4 五 อา่ นวา่ อู่ (wǔ) แปลว่า 5 六 อ่านว่า ลิว่ (liù) แปลวา่ 6 七 อ่านว่า ชี (qī) แปลวา่ 7 八 อา่ นว่า ปา (bā) แปลวา่ 8 九 อา่ นวา่ จิ่ว (jiǔ) แปลว่า 9 十 อ่านว่า สอื (shí) แปลวา่ 10
20 คำศพั ท์ภาษาจนี หมวด “ครอบครัว” คำศัพทภ์ าษาจนี หมวด “เรือ่ งผลไม”้
21 คำศัพท์ภาษาจนี หมวด “เรอื่ งผลไม”้
22 คำศัพท์ภาษาจนี หมวด “สตั ว์ตา่ งๆ”
23 ประโยคภาษาจีนง่ายๆ พร้อมคําอา่ น ใชส้ ื่อสารไดใ้ นชวี ิตประจำวัน 你好. Nĭ hăo (หนี่ ห่าว) แปลวา่ สวสั ดี 你好吗. Nĭ hăo ma. (หนี่ ห่าว มา) แปลว่า คณุ สบายดีไหม 我很好. Wǒ hěn hăo. (หว่อ เหิน ห่าว) แปลว่า ฉันสบายดี 你叫什么名?Nǐ jiào shénme míng? (หนี่ เจ้ียว เซินเมอ หมิง จ้ือ) แปลว่า คณุ ช่ืออะไร 我是泰国人. Wǒ shì tàiguó rén. (หว่อ ช่อื ไท้ ก๋ัว เหรนิ ) แปลว่า ฉันเป็นคนไทย 你是哪儿国人? Nǐ shì nǎ’er guórén? (หนี่ ชอ่ื นาร กวั๋ เหริน) แปลว่า คุณเป็นคนชาติไหน 你吃饭了吗? Nǐ chīfànle ma? (หนี่ ชือ ฟ่าน เลอ มา) แปลวา่ คณุ ทานข้าวแลว้ หรือยัง 你多大? Nǐ duōdà? (หน่ี ตัว ต้า) แปลวา่ คณุ อายเุ ท่าไหร่ 我们走吧. Wǒmen zǒu ba. (หวอ่ เหมนิ เจ่า ปา) แปลวา่ พวกเราไปกันเถอะ 我爱你. Wǒ ài nǐ. (หวอ่ อ้าย หน่ี) แปลวา่ ฉันรักเธอ 你很可爱 Nǐ hěn kě’ài. (หนี่ เหิน เคอ อ้าย) แปลวา่ คณุ น่ารกั จัง 你家在哪里?Nǐ jiā zài nǎlǐ? (หน่ี เจยี ไจ้ หนาหล)่ี แปลว่า บ้านคุณอยู่ทไ่ี หน 对不起. Duìbùqǐ. (ตุ้ย ปู้ ชวี่) แปลว่า ขอโทษ 谢谢. Xièxiè. (เซย๊ี ะ เซย๊ี ะ) แปลว่า ขอบคุณ 没关系. Méiguānxì. (เหม่ย กวาน ซี) แปลว่า ไม่เป็นไร
24 不客气. Bù kèqì. (ปู่ เค่อ ชวี)่ แปลวา่ ไมต่ อ้ งเกรงใจ 你会讲中文吗?Nǐ huì jiǎng zhōngwén ma? (หน่ี ฮยุ้ เจยี ง จงเหวนิ มา) แปลวา่ คุณพดู ภาจนี ได้ไหม 你要买什么?Nǐ yāomǎi shénme? (หนี่ เหยา้ หมา่ ย เซ่ินเมอ) แปลวา่ คุณตอ้ งการซ้ืออะไร 现在几点了?Xiànzài jǐ diǎnle? (เซ่ียนไจ จี๊ เต่ยี นเลอ) แปลว่า ตอนน้กี ี่โมงแล้ว 祝你生日快乐。 Zhù nǐ shēngrì kuàilè. (จู้ หนี่ เซงิ รี่ ไคว้เล่อ) แปลวา่ สุขสนั ตว์ นั เกิด 你干什么? Nǐ gànshénme? (หน่ี กา้ น เซนิ่ เมอ) แปลว่า คุณทำอะไร 怎么回事?Zěnme huí shì? (เซ่นิ เมอ ฮุ้ย ช่ี) แปลว่า เกิดไรขนึ้ 你的电话号码是多少? Nǐ de diànhuà hàomǎ shì duōshǎo? (หนี่ เตอ เต้ียนฮวา ห่าวมา ชือ ตัว๊ เชย่ี ว) แปลว่า เบอร์โทรศัพท์ของคณุ คอื อะไร 今天怎么样 Jīntiān zěnme yang (จินเทยี น เซินเมอ ยงั่ ) แปลว่า วนั น้เี ป็นไงบ้าง 你有钱吗?Nǐ yǒu qián ma? (หน่ี โย่ว เฉวียน มา) แปลวา่ คุณมเี งินไหม 今天天气很好 Jīntiān tiānqì hěn hǎo. (จินเทยี น เทียนชว่ี เหิน หา่ ว) แปลวา่ วันน้ีอากาศดีมาก 我很高兴认识你 Wǒ hěn gāoxìng rènshi nǐ (หว่อ เหนิ เกาชง่ิ เหรินชื่อ หน)่ี แปลว่า ยินดีท่ีได้รูจ้ กั 现在我们在哪里?Xiànzài wǒmen zài nǎlǐ? (เซ่ียน จ้าย หวอ่ เมนิ จา้ ย หนา่ หล่ี) แปลว่า ตอนนเี้ ราอยู่ที่ไหน
25 餐厅在哪儿? Cāntīng zài nǎ’er? (ชาน ทิง ไจ้ หนา) แปลว่า รา้ นอาหารอยู่ท่ไี หน? 这附近有卫生间吗?Zhè fùjìn yǒu wèishēngjiān ma? (เจอ้ ฟู่ จ้ิน โหย่ว เว่ย เซงิ เจยี น มา) แปลว่า แถวน้ีมีหอ้ งน้ำไหม? 祝你玩得开心! zhù nĭ wán de kāi xīn! (จู้ หนี่ หวาน เตอ คาย ซนิ ) แปลว่า ขอใหค้ ุณเทย่ี วให้สนุก
26 บทที่ 3 วิธกี ารดำเนนิ งานตามโครงการ 1. วิธกี ารดำเนนิ งาน ข้นั เตรยี มการ เพอ่ื จัดประชมุ ครูและบุคลากรทางการศกึ ษา - ชี้แจงทำความเข้าใจรายละเอียดโครงการ - ชีแ้ จงแนวทางในการดำเนินโครงการ - จดั ทำโครงการและแผนการดำเนินการเพ่ืออนมุ ตั ิ - แตง่ ต้งั กรรมการดำเนนิ งานตามโครงการ 1. คณะกรรมการอำนวยการ มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกในการดำเนินงานฝ่าย ต่าง ๆ ใหเ้ ป็นไปด้วยความเรยี บรอ้ ย ประกอบดว้ ย 1.1 นายสมประสงค์ น้อยจนั ทร์ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอชนแดน ประธานกรรมการ 1.2 นายเกรยี งฤทธิ์ เดตะอุด ครูผูช้ ว่ ย กรรมการ 1.3 นางสมบัติ มาเนตร์ ครอู าสาสมัครฯ กรรมการ 1.4 นางสาวลาวัณย์ สิทธกิ รวยแก้ว ครอู าสาสมัครฯ กรรมการ 1.5 นางวารี ชบู ัว บรรณารกั ษช์ ำนาญการ กรรมการและเลขานกุ าร 2. ฝา่ ยติดต่อประสานงาน มหี นา้ ท่ี ตดิ ต่อประสานงานสถานท่ีจดั การจดั กิจกรรม ประกอบด้วย 2.1 นางวารี ชูบวั บรรณารกั ษช์ ำนาญการ 2.2 นางสมบตั ิ มาเนตร์ ครูอาสาสมัครฯ 2.3 นางสาวมุจลนิ ท์ ภยู าธร ครู กศน. ตำบล 2.4 นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธิพนั ธ์ ครู กศน. ตำบล 2.5 นางผกาพรรณ มะหทิ ธิ ครู กศน. ตำบล 2.6 นายเกรียงไกร ใหมเ่ ทวนิ ทร์ ครู กศน. ตำบล 2.7 นางสรุ ตั น์ จันทะไพร ครู กศน. ตำบล 3. ฝ่ายการเงินและพัสดุ มีหน้าที่ จัดซื้อพัสดุและยืมเงินสำรองจ่ายตามโครงการ และจัดทำเอกสาร เบกิ จา่ ยพสั ดุ และการเงินตามโครงการใหถ้ กู ตอ้ งเรยี บรอ้ ยและทันต่อเวลาประกอบดว้ ย 3.1 นางวารี ชบู ัว บรรณารักษ์ชำนาญการ 3.2 นางสมบัติ มาเนตร์ ครอู าสาสมัครฯ 3.3 นายศวิ ณัชญ์ อัศวสัมฤทธิ์ ครู ศรช.
27 4. ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่ ส่งข่าวประชาสัมพันธ์วิทยุห้างทองเรดิโอ เสียงตามสาย วิทยุชุมชน ประชาสัมพันธ์ทางออนไลน์ Facebook Line ประกอบด้วย 4.1 นางวารี ชบู วั บรรณารักษช์ ำนาญการ 4.2 นางสาวมุจลนิ ท์ ภูยาธร ครู กศน. ตำบล 4.3 นางสาวลดาวรรณ์ สุทธพิ นั ธ์ ครู กศน. ตำบล 4.4 นางผกาพรรณ มะหิทธิ ครู กศน. ตำบล 4.5 นายเกรียงไกร ใหมเ่ ทวินทร์ ครู กศน. ตำบล 4.6 นางสรุ ตั น์ จันทะไพร ครู กศน. ตำบล 5. ฝ่ายจัดกิจกรรม มีหน้าท่ีให้กรรมการมีหน้าที่จัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับผู้สูงอายุ มี หน้าที่จัดเตรียมใบความรู้ ใบงาน กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ส่งเสริมการอ่านจากหนังสือ และสื่อออนไลน์ ศิลปะประดษิ ฐ์ กจิ กรรมสง่ เสรมิ อาชีพ การดแู ลสุขภาพผสู้ ูงอายุ และกิจกรรมนันทนาการ ดังน้ี 5.1 กจิ กรรมภาษาจนี เบ้ืองตน้ 5.1.1 นางวารี ชบู วั บรรณารกั ษ์ชำนาญการ 5.1.2 นางสาวมจุ ลนิ ท์ ภยู าธร ครู กศน.ตำบล 5.1.3 นายปณั ณวัฒน์ สุขมา ครู ศรช. 5.1.4 นางสาวอุษา ยิ่งสุก นักวิชาการศกึ ษา 5.1.5 นางสาววรางคณา น้อยจนั ทร์ นักวชิ าการศึกษา 5.2 กิจกรรมบิงโกผลไม้ 5.2.1 นางวารี ชบู วั บรรณารักษช์ ำนาญการ 5.2.2 นางสมบัติ มาเนตร์ ครอู าสาสมัครฯ 5.2.3 นางสาวลาวณั ย์ สิทธกิ รวยแกว้ ครูอาสาสมัครฯ 5.2.3 นางสาวมุจลนิ ท์ ภูยาธร ครู กศน. ตำบล 5.2.4 นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธิพนั ธ์ ครู กศน. ตำบล 5.2.5 นางผกาพรรณ มะหิทธิ ครู กศน. ตำบล 5.2.6 นางสรุ ัตน์ จันทะไพร ครู กศน. ตำบล 5.2.7 นายเกรียงไกร ใหม่เทวินทร์ ครู กศน. ตำบล 5.2.8 นายศวิ ณัชญ์ อัศวสมั ฤทธิ์ ครู ศรช. 5.2.9 นางสาวกัญญาณฐั จันปัญญา ครู ศรช. 5.2.10 นายปัณณวัฒน์ สขุ มา ครู ศรช. 5.2.11 นางสาวอุษา ยิง่ สกุ ครู ศรช. 5.2.12 นางสาววรางคณา น้อยจันทร์ ครู ศรช.
28 5.3 กิจกรรมปรศิ นาสุภาษิตไทย ภูมิปญั ญาทอ้ งถนิ่ 5.3.1 นางวารี ชบู วั บรรณารักษ์ชำนาญการ 5.3.2 นางสมบัติ มาเนตร์ ครูอาสาสมัครฯ 5.3.3 นางสาวลาวัณย์ สทิ ธกิ รวยแก้ว ครอู าสาสมัครฯ 5.3.3 นางสาวมุจลนิ ท์ ภูยาธร ครู กศน. ตำบล 5.3.4 นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธิพนั ธ์ ครู กศน. ตำบล 5.3.5 นางผกาพรรณ มะหิทธิ ครู กศน. ตำบล 5.3.6 นางสุรัตน์ จนั ทะไพร ครู กศน. ตำบล 5.3.7 นายเกรียงไกร ใหม่เทวนิ ทร์ ครู กศน. ตำบล 5.3.8 นายศิวณชั ญ์ อัศวสัมฤทธิ์ ครู ศรช. 5.3.9 นางสาวกญั ญาณฐั จันปญั ญา ครู ศรช. 5.3.10 นายปณั ณวัฒน์ สุขมา ครู ศรช. 5.3.11 นางสาวอุษา ย่งิ สกุ ครู ศรช. 5.3.12 นางสาววรางคณา นอ้ ยจันทร์ ครู ศรช. 6. วทิ ยากรกิจกรรมภาษาจีนเบื้องต้น มีหน้าทใ่ี หค้ วามรูท้ างด้านภาษาจนี เบ้ืองตน้ การนับเลข คำทักทาย ในชีวิตประจำวัน รา่ งกายของฉัน สี สัตว์ ครอบครวั ของฉัน ฝกึ เขยี นตัวอักษร วาดภาพระบายสี ดงั นี้ 6.1 นางสาววรางคณา นอ้ ยจนั ทร์ ครู ศรช. 7. ฝ่ายรับลงลงทะเบยี น ใหก้ รรมการมีหนา้ ทจ่ี ดั เตรียมเอกสารสำหรับการลงทะเบยี น และรบั ลงทะเบียน ผู้เข้าร่วมโครงการ ดังนี้ 7.1 นางสาวอุษา ย่ิงสกุ ครู ศรช. 7.2 นางสาวกัญญาณัฐ จันปัญญา ครู ศรช. 8. ฝ่ายวัดผลและประเมินผลโครงการ มีหน้าที่แจกแบบสอบถามความพึงพอใจและเก็บรวบรวม แบบสอบถามความพงึ พอใจ ประเมินผลการดำเนนิ งาน ประเมินความพึงพอใจ ปัญหา อปุ สรรค และขอ้ เสนอแนะ และจดั ทำรายงานผลการดำเนนิ งานหลังเสรจ็ ส้นิ โครงการ ดงั น้ี 8.1 นางวารี ชูบวั บรรณารกั ษช์ ำนาญการ 8.2 นางสมบตั ิ มาเนตร์ ครอู าสาสมัครฯ 8.3 นางสาวณฐั ชา ทาแน่น ครู กศน. ตำบล 8.4 นางสาวอษุ า ยิ่งสกุ ครู ศรช.
29 2. ขนั้ ดำเนินการ กิจกรรมหลัก วตั ถปุ ระสงค์ กลมุ่ เป้าหมาย เปา้ หมาย พื้นที่ ระยะเวลา งบประมาณ ครูและบคุ ลากร ดำเนินการ พ.ย.63 - กศน. อำเภอ 1. ข้ัน เพื่อจดั ประชุมครูและ ชนแดน 20 คน กศน. อำเภอ 14 ธ.ค.63 - เตรียมการ บุคลากรทางการศึกษา 15 ธ.ค.63 2,000 ครแู ละบคุ ลากร ชนแดน พ.ย.63 - - ชแ้ี จงทำความเขา้ ใจ กศน. อำเภอ – รายละเอยี ดโครงการ ชนแดน 20 คน กศน. อำเภอ ม.ี ค.64 - ช้แี จงแนวทางในการ กรรมการฝา่ ยที่ ชนแดน ดำเนินโครงการ ได้รบั มอบหมาย - จดั ทำโครงการและ - กศน. อำเภอ แผนการดำเนนิ การเพื่อ ผู้สงู อายุ ชนแดน อนมุ ตั ิ - แต่งตงั้ กรรมการ 30 คน 1. ร.ร.ผสู้ ูงอายุ ดำเนนิ งานตามโครงการ 150 คน ต.ชนแดน 2. ประชมุ เพอื่ ประชมุ ทำความเข้าใจ 150 คน 2. ร.ร.ผสู้ งู อายุ กรรมการ กับกรรมการดำเนินงานทกุ ต.ท่าขา้ ม ดำเนินงาน ฝา่ ยในการจดั กิจกรรม รวม 3. ร.ร.สรา้ งสขุ โครงการและการดำเนนิ งาน 330 คน ผสู้ ูงอายุ 3. จดั เตรยี ม เพือ่ ดำเนนิ การจัดทำ จดั ซ้อื ต.บา้ นกล้วย เอกสาร วัสดุ วัสดุอุปกรณท์ ่ีใช้ในการ 4. ร.ร.ผสู้ ูงอายุ อปุ กรณ์ในการ ดำเนินการ ต.ดงขยุ ดำเนนิ โครงการ 5. กลมุ่ ผู้สูงอายุ 4. ดำเนนิ การ 1. ภาษาจีนเบื้องตน้ บา้ นศาลาลาย จดั กิจกรรม 2. บงิ โกผลไม้ 3. ปริศนาสุภาษิตไทย
30 กจิ กรรมหลกั วตั ถปุ ระสงค์ กลุ่มเปา้ หมาย เป้าหมาย พน้ื ท่ี ระยะเวลา งบประมาณ ดำเนินการ ม.ี ค.64 - ตาม 5. สรุป/ เพอ่ื ใหก้ รรมการฝ่าย กระบวนการ 2 เลม่ กศน. อำเภอ ประเมนิ ผล ประเมนิ ผลเกบ็ รวบรวม ประเมนิ และรายงานผล ขอ้ มูลและดำเนินการ โครงการ ชนแดน โครงการ ประเมนิ ผลการจัดกิจกรรม 5 บท 3. ขน้ั สรปุ การจัดกิจกรรม 1. ดชั นีวดั ผลสำเร็จของโครงการ 1.1 ตัวชี้วัดผลผลติ (output) กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการฯ 80 % มีความพึงพอใจในการเข้าร่วม กจิ กรรม 1.2 ตัวชี้วัดผลลพั ธ์ (outcome) ผู้สูงอายุ มีนิสัยรักการอ่านนำไปสูก่ ารเรยี นรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ใหด้ ขี ึน้ 2. การติดตามผลประเมินผลโครงการ 2.1 แบบประเมินความพงึ พอใจผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม / โครงการ 2.2 สรุป/รายงานผลการจดั กิจกรรม
31 บทที่ 4 ผลการดำเนินงานตามโครงการ ผลการดำเนินงานตามโครงการ การศึกษาความพงึ พอใจของกลุ่มเป้าหมายทร่ี ่วมโครงการจดั การศึกษาตามอธั ยาศัย กจิ กรรมท่ี 3 โครงการส่งเสริมการเรยี นรู้สำหรบั ผสู้ งู อายุ กจิ กรรมภาษาจนี เบือ้ งตน้ แบ่งออกเป็น 3 สว่ น ดังนี้ ส่วนท่ี 1 ข้อมูลทั่วไป เพศ รอ้ ยละ จำนวน 10.00 เพศ 90.00 ชาย 3 100 หญิง 27 รวม 30 จากตาราง สรุปได้ว่า ผู้เข้าร่วมการศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการจัดการศึกษาตาม อธั ยาศัย กิจกรรมที่ 3 โครงการส่งเสริมการเรยี นรู้สำหรับผสู้ งู อายุ กิจกรรมภาษาจีนเบื้องต้น ในครั้งน้ี เป็นเพศหญิง มากทส่ี ดุ จำนวน 27 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 90.00 ชว่ งอายุ อายุ รอ้ ยละ ตำ่ กวา่ 15 ปี จำนวน - 15 - 29 ปี - 30 – 39 ปี - - 40 - 49 ปี - - 50 - 59 ปี - 60 ปีขึ้นไป - 26.67 8 73.33 รวม 22 100 30 จากตาราง สรุปได้ว่า ผู้เข้าร่วมโครงการการศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการจัดการศึกษา ตามอัธยาศัย กจิ กรรมที่ 3 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับผสู้ ูงอายุ กจิ กรรมภาษาจนี เบื้องตน้ ในครั้งนี้ เป็นช่วง อายุ 60 ปีขึ้นไป มากท่ีสุด จำนวน 22 คน คิดเปน็ ร้อยละ 73.33
32 ระดบั การศึกษา การศึกษา ร้อยละ ประถมศกึ ษา จำนวน 60.00 30.00 ม.ตน้ 18 10.00 ม.ปลาย 9 ปวช./ปวส. 3 - ปรญิ ญาตรี - - สูงกวา่ ปริญญาตรี - - รวม - 100 30 จากตาราง สรุปได้ว่า ผู้เข้าร่วมโครงการการศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการจัดการศึกษา ตามอัธยาศัย กิจกรรมที่ 3 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับผู้สูงอายุ กิจกรรมภาษาจีนเบื้องต้น ในครั้งน้ี การศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษา มากท่ีสดุ จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 60.00 อาชพี อาชพี รอ้ ยละ รบั จา้ ง จำนวน 53.33 เกษตรกรรม 36.67 ผนู้ ำชมุ ชน 16 ค้าขาย 11 - รบั ราชการ - - นกั เรียน/นักศึกษา - - อ่นื ๆ ระบุ - - รวม - 10.00 3 100 30 จากตาราง สรุปได้ว่า ผู้เข้าร่วมโครงการการศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายโครงการจัดการศึกษาตาม อัธยาศัย กิจกรรมที่ 3 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับผู้สูงอายุ กิจกรรมภาษาจีนเบื้องต้น ในครั้งนี้ เป็นอาชีพ เกษตรกรรม มากที่สุด จำนวน รับจา้ ง คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 53.33
33 ส่วนท่ี 2 ขอ้ มลู ความคดิ เหน็ และความพึงพอใจต่อโครงการ 2.1 เกณฑ์การพจิ ารณาระดับความพึงพอใจ 0.00 – 1.49 อยูใ่ นระดับ น้อยท่ีสดุ 1.50 – 2.49 อยู่ในระดับ นอ้ ย 2.50 – 3.49 อยูใ่ นระดับ ปานกลาง 3.50 – 4.49 อยู่ในระดบั มาก 4.50 - 5 อยใู่ นระดบั มากที่สุด 2.2 เกณฑ์การให้คะแนน 5 อยใู่ นระดับ มากทส่ี ดุ 4 อยู่ในระดับ มาก 3 อย่ใู นระดับ ปานกลาง 2 อยู่ในระดับ น้อย 1 อยู่ในระดบั นอ้ ยทส่ี ุด
ตอนท่ี 2 ความคิดเหน็ ต่อโครงการ จำนวน ผู้ ขอ้ รายการ ประเมนิ (คน) มากทส่ี ดุ 5 1 กิจกรรมท่จี ัดสอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ 30 24 2 เนื้อหาของสอื่ การเรียนรูต้ รงกับความต้องการของผ้รู บั บริการ 30 23 3 การจัดกจิ กรรมมสี ื่อการเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย 30 26 4 กจิ กรรมส่งเสรมิ การมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์อันดีต่อกัน 30 29 5 สถานที่จดั กิจกรรมเหมาะสมทเ่ี อื้อตอ่ การเรียนรู้ 30 28 6 ระยะเวลาการจดั กจิ กรรมมคี วามเหมาะสม 30 27 7 ท่านมีความประทับใจในการเข้ารว่ มกจิ กรรมคร้งั น้ี 30 26 8 การประชาสัมพันธแ์ ละชวนเชิญ 30 23 9 ความเหมาะสมวสั ดุ/อุปกรณ์ในการจดั กจิ กรรม 30 25 10 การนำประโยชน์ไปใช้ในการเขา้ ร่วมกิจกรรมในครง้ั นี้ 30 27 11 ทา่ นคิดวา่ ควรมีการจดั กจิ กรรมในลักษณะน้ตี ่อเนื่อง 30 26 12 หากมีโอกาสในปตี ่อไปทา่ นยินดเี ข้ารว่ มโครงการน้ีอกี 30 27 รวมท้ังหมด 311 รอ้ ยละ 100 86.39
34 ระดับผลการประเมนิ เฉลีย่ S.D. ประมวล ร้อยละ ด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด ผล 94.67 94.00 4 321 96.67 99.33 4 2 0 0 4.73 0.58 มากท่สี ุด 98.67 98.00 5 2 0 0 4.70 0.60 มากที่สดุ 97.33 93.33 3 1 0 0 4.83 0.46 มากท่ีสุด 95.33 98.00 1 0 0 0 4.97 0.18 มากที่สุด 96.00 97.33 2 0 0 0 4.93 0.25 มากที่สุด 96.56 3 0 0 0 4.90 0.31 มากทส่ี ดุ 4 0 0 0 4.87 0.35 มากทส่ี ดุ 4 3 0 0 4.67 0.66 มากทส่ี ดุ 3 2 0 0 4.77 0.57 มากที่สดุ 3 0 0 0 4.90 0.31 มากทส่ี ุด 2 2 0 0 4.80 0.55 มากท่สี ดุ 2 1 0 0 4.87 0.43 มากท่สี ุด 36 13 0 0 4.83 0.46 มากที่สุด 10.00 3.61 0 0
35 จากตาราง สรุปได้ว่า ผู้เข้าร่วมโครงการจดั การศึกษาตามอัธยาศัย กิจกรรมที่ 3 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ สำหรับผสู้ ูงอายุ กจิ กรรมภาษาจีนเบ้ืองต้น ในครงั้ นี้ ผลปรากฏวา่ ระดบั ความพงึ พอใจในภาพรวมอยู่ในระดับ มากทส่ี ุด คดิ เป็นรอ้ ยละ 96.56 ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ -
36 บทท่ี 5 สรุปผลการดำเนนิ งานตามโครงการ การบูรณาการการเรียนรู้ • มีการนำความรทู้ ีไ่ ดร้ บั ไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวันได้ • จากกิจกรรมช่วยส่งเสริม ให้ผู้สูงอายุมีนิสัยรักการอ่าน และมีความคิดสร้างสรรค์ มีนิสัยรักการอ่าน นำไปสู่การเรยี นรู้ และพัฒนาคณุ ภาพชีวิตให้ดขี ้นึ ความร่วมมือของกลุ่มเป้าหมายและเครือข่าย - การมสี ว่ นรว่ มของภาคเี ครือข่ายในการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั - การสนบั สนุนให้ภาคีเครือข่ายจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั การนำความรู้ไปใช้ - สง่ เสรมิ และสนับสนุนให้ ผู้สูงอายุเข้าถึง และมีโอกาสได้อา่ นหนังสือ ส่งเสริมสนับสนุนใหผ้ ู้เข้าร่วม กิจกรรม มนี สิ ัยรกั การอา่ นนำไปสกู่ ารเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดขี ้ึน การดำเนินงานทั่วไป เชิงปริมาณ - กลุ่มเปา้ หมาย ผสู้ งู อายุ จำนวน 30 คน - จำนวนกลมุ่ ตัวอย่าง ผสู้ ูงอายุ จำนวน 30 คน 1) ชาย จำนวน 3 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 10.00 2) หญิง จำนวน 27 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 90.00 เชงิ คณุ ภาพ 1. ผสู้ ูงอายไุ ด้ใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ 2. ผสู้ งู อายรุ ว่ มมกี ารพัฒนาความรู้ ร่างกาย จติ ใจ อารมณ์และสงั คมของ ผูส้ ูงอายุ 3. ผู้สูงอายุมีนิสัยรักการอ่านนำไปสู่การเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีข้ึนการอ่าน นำไปสู่การเรยี นรู้ และพฒั นาคุณภาพชวี ิตให้ดขี นึ้ ผลการดำเนนิ งานตามตวั ชีว้ ัดความสำเร็จ 1. เป้าหมาย จำนวน 30 คน มผี ้เู ข้ารว่ มกิจกรรม จำนวน 30 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 ผลการดำเนนิ งานตามเปา้ หมาย 2. จำนวนผรู้ ่วมกจิ กรรม จำนวน 30 คน ผา่ นกจิ กรรม จำนวน 30 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 ผลการดำเนินงานบรรลุเปา้ หมาย
37 สรุปผลการดำเนินงาน - ผลการดำเนินงานบรรลุเป้าหมาย ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย กจิ กรรมท่ี 3 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับผู้สูงอายุ กิจกรรมภาษาจีนเบื้องต้น ในภาพรวมอยใู่ นระดับ มากทสี่ ุด คดิ เปน็ ร้อยละ 96.56 สรปุ ความพึงพอใจตอ่ โครงการ/กิจกรรม ที่เขา้ ร่วม 1. กิจกรรมที่จัดสอดคล้องกับวตั ถุประสงค์ อยใู่ นระดบั ความพงึ พอใจ มากท่สี ุด คิดเป็นร้อยละ 94.67 2. เนื้อหาของส่ือการเรียนรู้ตรงกับความต้องการของผู้รับบริการ อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากท่ีสุด คิดเปน็ รอ้ ยละ 94.00 3. การจัดกิจกรรมมีสื่อการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 96.67 4. กิจกรรมส่งเสริมการมีมนุษย์สัมพันธ์อันดีต่อกัน อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากท่ีสุด คิดเป็น ร้อยละ 99.33 5. สถานที่จัดกิจกรรมเหมาะสมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากท่ีสุด คิดเป็น รอ้ ยละ 98.67 6. ระยะเวลาการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสม อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ 98.00 7. ท่านมีความประทับใจในการเข้าร่วมกิจกรรมคร้ังนี้ อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากท่ีสุด คิดเป็น รอ้ ยละ 97.33 8. การประชาสัมพนั ธแ์ ละชวนเชญิ อยู่ในระดับความพงึ พอใจ มากทส่ี ุด คดิ เป็นรอ้ ยละ 93.33 9. ความเหมาะสมวัสดุ/อุปกรณ์ในการจัดกิจกรรม อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากที่สุด คิดเป็น รอ้ ยละ 95.33 10.การนำประโยชน์ไปใช้ในการเข้าร่วมกิจกรรมในคร้ังนี้ อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากที่สุด คดิ เป็นรอ้ ยละ 98.00 11.ท่านคิดว่าควรมีการจัดกิจกรรมในลักษณะน้ีต่อเนื่อง อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากที่สุด คดิ เปน็ รอ้ ยละ 96.00 12.หากมีโอกาสในปีต่อไปท่านยินดีเข้าร่วมโครงการน้ีอีก อยู่ในระดับความพึงพอใจ มากที่สุด คดิ เปน็ รอ้ ยละ 97.33 ข้อเสนอแนะ -
38 ภาคผนวก
ภาพ โครงการจดั การศึกษาตามอัธยาศยั กิจกรรมที่ 3 โครงการสง่ เสริมการเรียนรู้สำหรบั ผสู้ ูงอายุ กจิ กรรมภาษาจีนเบ้อื งตน้ วันท่ี 12 พฤศจกิ ายน 2563 ณ โรงเรยี นผู้สงู อายตุ ำบลชนแดน อำเภอชนแดน จงั หวัดเพชรบูรณ์
ภาพ โครงการจัดการศกึ ษาตามอธั ยาศัย กิจกรรมท่ี 3 โครงการส่งเสริมการเรยี นรูส้ ำหรับผ้สู ูงอายุ กิจกรรมภาษาจีนเบ้อื งตน้ วันท่ี 3 ธนั วาคม 2563 ณ โรงเรียนผูส้ งู อายุตำบลชนแดน อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์
ทปี่ รกึ ษา คณะผจู้ ัดทำ นายสมประสงค์ น้อยจนั ทร์ นายเกรียงฤทธิ์ เดตะอุด ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอชนแดน นางวารี ชบู ัว ครผู ้ชู ว่ ย บรรณารักษ์ชำนาญการ คณะทำงาน/รวบรวมขอ้ มลู นายสมประสงค์ น้อยจนั ทร์ ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอชนแดน นายเกรยี งฤทธ์ิ เดตะอุด ครผู ู้ช่วย นางวารี ชูบวั บรรณารักษช์ ำนาญการ นางสมบตั ิ มาเนตร์ ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น นางสาวลาวณั ย์ สิทธกิ รวยแก้ว ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน นางสรุ ัตน์ จนั ทะไพร ครู กศน.ตำบล นายเกรยี งไกร ใหม่เทวินทร์ ครู กศน.ตำบล นางสาวพัชราภรณ์ นริศชาติ ครู กศน.ตำบล นางสาวลดาวรรณ์ สทุ ธพิ ันธ์ ครู กศน.ตำบล นางผกาพรรณ มะหิทธิ ครู กศน.ตำบล นางสาวมจุ ลินท์ ภูยาธร ครู กศน.ตำบล นางลาวิน สเี หลอื ง ครู กศน.ตำบล นางสาวณฐั ชา ทาแนน่ ครู กศน.ตำบล นายปัณณวฒั น์ สขุ มา ครู ศรช. นายศวิ ณชั ญ์ อศั วสัมฤทธิ์ ครู ศรช. นางสาวกัญญาณฐั จนั ปัญญา ครู ศรช. นางสาวอษุ า ย่ิงสุก ครู ศรช. นางสาววรางคณา น้อยจันทร์ ครู ศรช. ออกแบบปก/ผพู้ ิมพ์/สำเนา บรรณารกั ษ์ชำนาญการ นางวารี ชูบัว
Search
Read the Text Version
- 1 - 47
Pages: