ตารางการใหวคั แนะนำโดย สมาคมโรคติดเ วคั ซีนจำเปนท่ตี อ วัคซนี อายุ แรกเกดิ 1 เดอื น 2 เดอื น 4 เดือน 6 บซี ีจี1 (BCG) BCG ตับอักเสบบ2ี (HBV) HBV1 (HBV2) คอตบี -บาดทะยัก - DTwP-HB1 DTwP-HB2 DTw ไอกรนชนิดทั้งเซลล3 (DTwP) โปลโิ อชนิดกิน4 (OPV) OPV1 OPV2 O หัด-หดั เยอรมัน-คางทมู 5 (MMR) ไขสมองอักเสบเจอ6ี (JE) วคั ซนี อายุ วคั ซีนอ�นๆ ที่อาจเส คอตบี -บาดทะยกั -ไอกรน 2 เดือน 4 เดอื น 6 เดอื น 9 ชนิดไรเซลล3 (DTaP, Tdap) โปลิโอชนิดฉีด4 (IPV) DTaP1 DTaP2 DTaP3 ฮิบ6 (Hib) ไขส มองอกั เสบเจอี7 (Live JE) IPV1 IPV2 IPV3 ตบั อักเสบเอ8 (HAV) Hib1 Hib2 Hib3 อสี กุ อีใส9 (VZV) หรือวคั ซีนรวมหดั - หัดเยอรมัน-คางทูม-อีสุกอีใส (MMRV) Influenza ใหป ไขหวดั ใหญ10 (Influenza) PCV1 PCV2 (PCV3) นิวโมคอคคัสชนดิ คอนจเู กต11 (PCV) Rota1 Rota2 Rota3 โรตา 12 (Rota) (เฉพาะ pentavalent) เอชพีว1ี 3 (HPV)
คซีนในเด็กไทยปกติ เชือ้ ในเดก็ แหงประเทศไทย 2557 องใหก บั เด็กทุกคน 6 เดอื น 9 เดอื น 12 เดอื น 18 เดอื น 2 ป 21/2ป 4-6 ป 11-12 ป wP-HB3 DTwP DTwP Td และ OPV3 กระตนุ 1 กระตนุ 2 ทุก 10 ป OPV กระตนุ 1 OPV กระตนุ 2 MMR2 MMR1 JE1, JE2 หางกนั 4 สปั ดาห JE3 สริม หรือทดแทน 9 เดอื น 12 เดอื น 18 เดอื น 2 ป 4-6 ป 11-12 ป DTaP กระตุน 1 Tdap หรอื Tdap ตอ ไป DTaP กระตุน 2 Td ทุก 10 ป IPV4 IPV5 Hib4 Live JE 1, 2 HAV ให 2 ครั้ง หางกัน 6-12 ป VZV1 VZV2 (หรือ MMRV1) (หรอื MMRV2) ปละครั้งชวงอายุ 6 เดือน - 18 ป (เนนในอายุ 6-24 เดือน) ในปแรกฉีด 2 เข็มหางกัน 4 สัปดาห PCV4 HPV 3 เขม็ ที่ 0,1-2, 6 เดอื น
ค�ำอธ 1. บีซจี ี 6. ฮิบ 1) ฉดี 0.1 มล. ในชั้นผวิ หนงั ทไี่ หลซ่ ้าย 1) ปจั จบุ นั มวี ัคซีน 2 ชนดิ คอื conjugate กับ PRP-T และ HbOC ใ 2) ถ้าไมม่ ีแผลเป็นเกิดข้ึน และไมม่ ีหลกั ฐานว่าเคยได้รับวัคซนี บีซีจมี าก่อน ใหฉ้ ดี ไดท้ นั ที 2) การฉีดเข็มกระต้นุ ท่ีอายุ 12-18 เดือน อาจไม่จ�าเปน็ ต้องฉดี ใน 3) ถา้ เคยได้รับวัคซีนบีซจี ีมาก่อน ไมต่ อ้ งฉีดซ้�าแม้ไม่มีแผลเปน็ 3) ไมจ่ า� เป็นตอ้ งฉีดวคั ซีนฮบิ ในเด็กปกตทิ ่ีอายุ 2 ปขี ึ้นไป 4) หากเรมิ่ ฉดี ช้า ใหพ้ จิ ารณาฉดี ตามตาราง 2. ตบั อกั เสบบี อายทุ ่เี ริม่ ฉดี เด 1) เด็กทกุ คนตอ้ งได้รบั อยา่ งนอ้ ย 3 ครั้ง ถ้าไม่มขี ้อหา้ ม และเข็มสุดทา้ ยตอ้ งอายุมากกว่าหรือเทา่ กบั 6 เดือน 2-6 เดอื น 0, 2) ทารกที่คลอดจากมารดาทีม่ ี HBsAg เปน็ ลบ หรอื ไม่ทราบ ใหฉ้ ดี วคั ซนี จ�านวน 3 คร้ัง เมือ่ แรกเกดิ อายุ 1-2 เดอื น 7-11 เดือน 0 12-24 เดอื น และอาย ุ 6 เดอื น > 24 เดือน เฉพาะผูท้ ี่เสย่ี ง* 3) ทารกท่คี ลออดจากมารดาท่ีมี HBsAg เปน็ บวก (โดยเฉพาะถา้ HBsAg เปน็ บวกดว้ ย) พจิ ารณาให ้ HBIG 0.5 มล. * ผทู้ ี่เสี่ยงต่อโรคฮิบ เชน่ ผทู้ ี่มีภมู ิคมุ้ กันบกพร่อง ไมม่ มี า้ ม หรือมา้ ม ภายใน 12 ชม. หลังคลอด และให้วคั ซีนคร้งั ท่ี 1 พร้อมๆ กัน คนละต�าแหนง่ กบั HBIG วัคซีนครงั้ ท่ี 2 ให้เมอ่ื อายุ 1-2 เดอื น และครง้ั ท่ ี 3 เมอ่ื อายุ 6 เดอื น 7. ไขส้ มองอกั เสบเจอี 4) ถา้ มารดามี HBsAg เป็นบวก แต่ไมม่ ี HBIG ควรให้วัคซนี ครงั้ ที่ 1 ภายใน 12 ชม. หลังคลอด คร้ังท ่ี 2 และ 3 ใหเ้ มอ่ื อาย ุ 1 เดือน และ 6 เดือนตามล�าดบั 1) วคั ซีนชนดิ เช้ือไม่มีชวี ิต (inactivated vaccine) ปัจจุบันมี 2 ชน 5) กรณีท่มี าทราบภายหลงั ว่ามารดามี HBsAg เป็นบวก ควรพจิ ารณาให้ HBIG ถา้ ทารกได้รบั วัคซีนมาแล้วไมเ่ กนิ 7 วัน แผนฯ ของกระทรวงสาธารณสุข และสายพนั ธ ์ุ P3 เพาะเลีย้ ง 6) ตามแผนการสรา้ งเสรมิ ภมุ คิ มุ้ กนั โรคของกระทรวงสาธารณสขุ ใชว้ คั ซนี รวมทมี่ ี คอตบี -บาดทะยกั -ไอกรน-ตบั อกั เสบบี อายุ 9-18 เดอื น เขม็ ต่อมา อกี 4 สัปดาห์และ 1 ป ี ตามลา� ดับ (DTB-HB) ทีอ่ าย ุ 2, 4 และ 6 เดอื น แต่ถ้ามารดามี HBsAg เปน็ บวก และทารกไม่ได้ HBIG ควรใหว้ คั ซีนตบั อักเสบบี ห่างจากเขม็ 3 อย่างน้อย 4-5 ปี แบบเดีย่ วเพิ่มตอนอายุ 1 เดอื นด้วย (รวมเป็น 5 ครงั้ ) 7) เดก็ ท่ีไมเ่ คยไดร้ ับวคั ซนี ตบั อกั เสบบีมาก่อน เด็กอายนุ อ้ ยกวา่ 11 ปีสามารถฉดี วัคซนี ไดใ้ นเดอื นท ่ี 0, 1, 6 ตามลา� ดับ 2) วคั ซนี ชนดิ เชอ้ื มชี วี ติ (live JE) ใชส้ ายพนั ธ ์ุ SA 14-14-2 ใหฉ้ ดี 2 ค ส่วนเดก็ อายุ 11-15 ปี อาจฉีดเพยี ง 2 ครง้ั ในเดอื นท่ี 0 และเดอื นท่ี 4-6 ให้ใชว้ คั ซีนขนาด 1.0 มล. เทา่ ผู้ใหญ่ และเขม็ ท ี่ 2 อีก 3-12 เดอื นตอ่ มา อีกชนดิ คือ Chimeric JE 8) เดก็ ท่ีคลอดจากมารดาท่มี ี HBsAg เปน็ บวก อาจพิจารณาตรวจ HBsAg และ anti-HBs เม่ืออายุประมาณ 9-18 เดือน 12-24 เดือนตอ่ มา สามารถใช้วัคซีนชนิด live JE แทนชนดิ M 3. คอตบี -บาดทะยกั -ไอกรน 3) ยงั ไมม่ ีข้อมูลการใช้ live JE ต่างชนิดทดแทนกัน 4) ในกรณที เี่ คยได้รบั MBV มากอ่ น และตอ้ งการฉีดต่อดว้ ย live 1) สามารถใชช้ นดิ ไรเ้ ซลล ์ (DTaP) แทนชนิดทั้งเซลล ์ (DTwP) ได้ทุกครัง้ 2) หากใช ้ DTaP ควรใชช้ นดิ เดยี วกนั ทงั้ สามครงั้ เมอ่ื อาย ุ 2, 4, 6 เดอื น ถา้ ไมส่ ามารถหาชนดิ เดยี วกนั ได ้ ใหใ้ ชช้ นดิ ใดแทนกไ็ ด้ ประวตั กิ ารฉดี วัคซีน MBV ในอดตี ขอ้ แ 3) สา� หรับเขม็ กระตุ้นที่ 18 เดอื น อาจใช ้ DTwP หรือ DTaP ชนิดใดกไ็ ด้ 1 เขม็ ฉดี 2 เข 4) เมอื่ อาย ุ 4-6 ป ี อาจใช้ DTwP, DTaP หรือ Tdap ก็ได้ 2-3 เขม็ 5) เด็กอายุ 11-12 ปี ควรได้รับการฉีด Td หรือ Tdap ไม่ว่าจะเคยได้รับ Tdap เมื่ออายุ 4-6 ปี มาก่อนหรือไม ่ > 4 เขม็ หลังจากนนั้ ควรฉีดกระต้นุ ดว้ ย Td ทกุ 10 ปี 8. ตบั อักเสบเอ 6) สา� หรับการฉดี กระตุน้ Td ทุก 10 ป ี ในผู้ใหญ่ ควรพจิ ารณาใช ้ Tdap แทน Td หนึง่ ครง้ั 1) มี 2 ชนิด คอื formalin inactivated vaccineและ virosome vac 4. โปลิโอ 2) ฉดี ได้ตัง้ แตอ่ ายุ 1 ป ี ขึ้นไป ฉดี 2 เข็มห่างกัน 6-12 เดือน ใชต้ 1) สามารถใช้ชนิดฉีด (ปัจจุบันอยูใ่ นรูปของวัคซนี รวมกบั คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน) แทนชนดิ กินได้ทกุ คร้งั 9. อสี ุกอใี ส 2) หากใชช้ นิดกนิ สลบั กบั ชนดิ ฉดี ตอ้ งให ้ 5 ครัง้ ตาม OPV 3) การให้วัคซีนโปลิโอมากกว่าที่ก�าหนด ไม่มีข้อเสีย และสามารถรับ OPV เพิ่มในช่วงที่มีการรณรงค์หยอดวัคซีน 1) ฉดี ได้ตง้ั แตอ่ าย ุ 1 ปขี ้นึ ไป แนะนา� ให้ฉดี เข็มแรกอายุ 12-18 เด 2) พิจารณาให้ฉีดเข็มที่ 2 เมื่ออายุ 4-6 ปี อาจฉีดเข็มท่ี 2 ก่อ เพื่อกวาดล้างโปลโิ อได้ เข็มแรกอยา่ งนอ้ ย 3 เดือน 5. หัด-หัดเยอรมัน-คางทูม 3) พิจารณาให้ฉดี วคั ซนี น้แี ก่เด็กทกุ คนที่มอี ายุมากกว่า 1 ปี ท่ียังไ 4) ถา้ อายมุ ากกว่า 13 ป ี ใหฉ้ ีดสองเขม็ ห่างกนั อย่างน้อย 1 เดือน 1) ให้วัคซีนครัง้ แรกเมอื่ อายุ 9-12 เดือนขึน้ ไป และครงั้ ท ี่ 2 เมือ่ อายุ 4-6 ป ี ควรพิจารณาใหฉ้ ดี เร็ว (อายุ 9 เดอื น) ใน พ้นื ที่ทยี่ ังมรี ายงานผปู้ ว่ ยโรคหัดจ�านวนมากในเด็กอายตุ ่�ากว่า 1 ปี 10. ไขห้ วัดใหญ่ 2) การฉดี เข็มท่ ี 2 อาจให้ไดต้ ง้ั แตอ่ ายุ 2 ½ ป ี ตามแผนปฏบิ ตั งิ านของกระทรวงสาธารณสขุ 1) พจิ ารณาให้ฉีดในเด็กอายุ 6 เดอื นขึ้นไปถงึ 18 ป ี โดยเฉพาะ 3) กรณที ี่มีการระบาดหรอื สมั ผัสโรค อาจฉดี เข็มที ่ 2 เรว็ ขึ้นก่อนอาย ุ 4 ปไี ด ้ โดยตอ้ งห่างจากเข็มแรกอยา่ งนอ้ ย 3 เดือน โรคร้ายแรง เช่น เด็กท่ีเป็นโรคปอดเรื้อรัง (รวมหอบหืด) โรคห 4) กรณีทต่ี ้องการวัคซนี หัด-หดั เยอรมัน-คางทูม และอีสกุ อใี ส ในเวลาเดียวกนั สามารถใชว้ ัคซีนรวม หัด-หัดเยอรมนั - โรคเรือ้ รงั เปน็ ต้น คางทมู -อีสุกอใี ส (MMRV) แทนการฉดี แบบแยกเขม็ ไดท้ กุ คร้ังในเด็กอายุตงั้ แต่ 1-12 ป ี การใชว้ คั ซีนรวม MMRV ที่ 2) ถ้าอายุน้อยกว่า 9 ปี การฉีดครั้งแรกต้องฉีดสองเข็มห่างกัน อาย ุ 4-6 ป ี แทนการฉีดวัคซนี แบบแยกเขม็ พบมอี าการขา้ งเคยี งไมแ่ ตกตา่ งกนั การใชว้ คั ซนี รวม MMRV ในเดก็ อายุ ให้ฉีดสองครง้ั จากน้นั จึงสามารถฉดี ปีละคร้ังได้ 12-23 เดือน มีโอกาสเกิดการชักจากไข้ได้มากกว่าการฉีดแบบแยกเข็ม กรณีที่เคยได้วัคซีน MMR หรือ VZV มากอ่ น แนะน�าใหฉ้ ีดวคั ซนี รวม MMRV หา่ งจากวัคซนี MMR ครงั้ ก่อน อยา่ งน้อย 1 เดอื น และห่างจากวคั ซีน 3) ในเดก็ อายนุ ้อยกว่า 3 ป ี ให้ลดขนาดลงคร่ึงหนง่ึ (0.25 มล.) VZV ครั้งก่อน อยา่ งน้อย 3 เดือน
ธบิ ำย ในเดก็ ไทยแนะนา� ให้ 3 ครัง้ เมอ่ื อายุ 2, 4 และ 6 เดือน 11. นิวโคคอคคสั ชนดิ คอนจเู กต นเดก็ แข็งแรง ควรฉีดในผทู้ ี่มคี วามเสยี่ ง 1) ควรให้ในผทู้ ่ีมีความเสีย่ งตอ่ โรคน้ีชนิดรุกราน (invasive disease) หรอื รนุ แรง (severe) ดงั ตาราง และในเด็กแข็งแรง ดือนทขี่ องการฉดี PRP-T, HbOC ปกตทิ อ่ี ายุนอ้ ยกว่า 5 ป ี ทปี่ ระสงคจ์ ะป้องกนั โรค 2, 4 ฉีดกระตนุ้ อายุ 12-18 เดือน 0, 2 ฉดี กระตนุ้ อาย ุ 12-18 เดอื น 2) ปจั จบุ นั มวี ัคซนี ชนิด 10 สายพนั ธ ์ (PCV10) และ 13 สายพนั ธ ์ุ (PCV13) ให้ 3 ครั้งเม่อี อาย ุ 2, 4 และ 6 เดือน และ ให้ฉดี กระตนุ้ ทีอ่ าย ุ 12-15 เดือน โดยหา่ งจากเข็มสุดท้ายอย่างน้อย 2 เดือน หากเรม่ิ ฉีดชา้ ให้ฉีดตามตาราง เข็มเดยี ว 0.2 3) เดก็ อายตุ ่�ากว่า 5 ปี กรณที ่ไี ด้วัคซนี PCV7 ครบแลว้ 4 ครั้ง พจิ ารณาให้ฉีด PCV13 อีก 1 คร้ัง หา่ งจาก PCV7 มทา� งานผิดปกติ เข็มสุดทา้ ยอยา่ งนอ้ ย 8 สัปดาห ์ เพ่อื สรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ตอ่ สายพนั ธุ์ทีเ่ พม่ิ เตมิ ขน้ึ นดิ คือ mouse-brain derived vaccine (MBV) ซ่งึ อยูใ่ น อายทุ เี่ ริ่มฉีด จา� นวนครัง้ ทฉี่ ดี การฉดี กระตนุ้ งใน vero cel (JEVAC®) ท้งั สองชนดิ ฉีด 3 ครง้ั เริ่มเมื่อ 2-6 เดือน PCV 3 ครั้ง หา่ งกนั 6-8 สัปดาห์ PCV 1 ครง้ั อาย ุ 12-15 เดอื น บ สา� หรบั MBV อาจพิจารณาให้ฉีดกระตนุ้ อกี หน่งึ ครง้ั 7-11 เดือน PCV 2 ครัง้ หา่ งกนั 6-8 สปั ดาห ์ PCV 1 ครั้ง อายุ 12-15 เดอื น ครง้ั ม ี 2 ชนดิ คอื CD-JEVAX® เรมิ่ ฉดี ทอ่ี าย ุ 9-12 เดอื น 12-23 เดอื น PCV 2 ครัง้ ห่างกนั 6-8 สัปดาห์ ไม่ตอ้ งฉีด (IMOJEV®) เร่มิ ฉีดท่ีอาย ุ 12 เดือน และเข็มที ่ 2 อกี เดก็ ปกติ 2-5 ป ี PCV 10 ให ้ 2 คร้งั PCV 13 ให้ 1 ครงั้ ไม่ตอ้ งฉดี MBV ได ้ ทง้ั ในการฉีดชดุ แรก และการฉีดกระตุ้น เด็กเสี่ยง* PCV 13 ให ้ 2 ครงั้ ห่างกัน 8 สัปดาห ์ ฉดี กระตนุ้ ดว้ ย PS-23 1 เข็ม JE vaccine ใหพ้ จิ ารณาฉดี ตามตาราง - อาย ุ 2-6 ป ี PCV 13 ให ้ 1 ครงั้ หา่ งจาก PCV เขม็ สดุ ทา้ ย 8 สัปดาห์ แนะนา� ในการฉีดวัคซนี live-attenuated JE - อาย ุ > 6-18 ปี เข็ม ห่างกัน 3-24 เดอื น (แลว้ แต่ชนดิ ของวัคซีน) (PVC = Pneumococcal conjugate vaccine PS-23 = 23-Valent pneumococcal polysaccharide vaccine) ฉีด 1 เขม็ หา่ งจากเขม็ สดุ ทา้ ย 1 ปี -* เดก็ เสย่ี ง คอื เดก็ ทม่ี โี อกาสเปน็ โรคตดิ เชอ้ื นวิ โมคอคคสั อยา่ งรนุ แรงมากกวา่ เดก็ ปกติ ไดแ้ ก ่เดก็ ทเ่ี ปน็ โรคภมู คิ มุ้ กนั บกพรอ่ ง ไมจ่ �าเปน็ ต้องฉีดอกี จากสาเหตตุ ่างๆ ภาวะไมม่ มี ้าม ธารัสซีเมยี โรคเรื้อรงั ของอวยั วะตา่ งๆ เชน่ โรคปอด โรคหวั ใจ โรคไต เบาหวาน และ ccine โรคทเี่ สีย่ งต่อเยอ่ื ห้มุ สมองอกั เสบ เช่น CSF leek, cochlear implantation ต่างชนิดได้ในการฉีดแตล่ ะคร้ัง - สา� หรับเด็กที่อย่ใู นสถานเลย้ี งเด็กกลางวันไม่จัดในกลมุ่ เส่ียงแต่อาจพิจารราให้วัคซีนได้ -* ในเด็กกลุ่มเส่ียงท้ังหมด ควรได้รับวัคซีน PCV13 ดังตาราง และเด็กกลุ่มเสี่ยงท่ีมีอายุตั้งแต่ 2 ปี ข้ึนไป ควรให้ฉีด ดอื น วัคซีน PS-23 ด้วยเสมอ ไม่ว่าจะสามารถฉีด PCV ได้หรือไม่ก็ตาม และหากเป็นเด็กเสี่ยงประเภทภูมิคุ้มกัน อนอายุ 4 ปีได้ในกรณีที่มีการระบาด โดยต้องห่างจาก บกพร่อง ภาวะไม่มีมา้ ม หรอื ธารัสซเี มีย ควรฉีด PS-23 ซ้�าอีก 1 คร้ัง หา่ งจากครัง้ แรก 5 ป ี การฉดี PCV ก่อนแล้ว ไมเ่ คยเป็นอีสุกอใี ส ตามดว้ ย PS-23 จะใหผ้ ลการสรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ทด่ี กี วา่ การฉดี PS-23 เพยี งอยา่ งเดยี ว หรอื ฉดี PS-23 แลว้ ตามดว้ ย PCV น - ในเด็กปกต ิ อาจพิจารณาใหฉ้ ีดแบบ 2+1 (รวมเปน็ การฉีด 3 คร้งั ) คือฉดี เมอื่ อาย ุ 2, 4 และ 12-15 เดอื น ะเดก็ อายนุ ้อยกวา่ 2 ป ี และเดก็ ทม่ี ีความเสี่ยงทีจ่ ะเป็น 12. โรตา้ หัวใจ โรคอ้วนที่มี BMI > 35 ภูมิคุ้มกันบกพร่องและ 1 เดือน กรณีที่ปีแรกได้ฉีดไปเพียงครั้งเดียว ปีถัดมา 1) ชนดิ monovalent ใหก้ ิน 2 คร้งั เมอื่ อายปุ ระมาณ 2 และ 4 เดอื น 2) ชนิด pentavalent ให้กนิ 3 ครั้ง เมือ่ อายปุ ระมาณ 2, 4 และ 6 เดือน 3) วัคซนี ทัง้ สองชนิด สามารถเร่มิ ให้คร้งั แรกได้ เมอ่ื อาย ุ 6-15 สปั ดาห ์ และครงั้ สุดท้ายอายไุ มเ่ กนิ 8 เดือน แต่ละคร้ัง หา่ งกนั ไมน่ อ้ ยกว่า 4 สัปดาห์ 4) ควรใช้วัคซีนชนดิ เดยี วกันจนครบ หากจา� เป็นต้องใชว้ คั ซนี ต่างชนดิ กันในแตล่ ะครั้ง ตอ้ งใหว้ คั ซนี ทั้งหมด 3 ครัง้ 5) สามารถให้วัคซนี โรตา้ รว่ มกบั วัคซีนโปลิโอชนิดกนิ ได้ 6) หา้ มใชว้ ัคซนี น้ีในผู้ทมี่ ภี มู คิ ุม้ กนั บกพร่อง severe combined immune deficiency (SCID) และในเด็กทมี่ ีประวตั ลิ �าไส้ กลืนกนั 13. เอชพีวี 1) ม ี 2 ชนดิ คอื ชนดิ 2 สายพนั ธ ์ุ (bivalent มสี ายพนั ธ ์ุ 16, 18) และชนดิ 4 สายพนั ธ ์ุ (quadrivalent มสี ายพนั ธ ์ุ 6,11,16,18) 2) แนะน�าใหฉ้ ีดในผหู้ ญงิ อายุ 9-26 ปี (เนน้ ใหฉ้ ดี ในชว่ งอายุ 11-12 ป)ี โดยฉดี 3 เข็ม ในเดอื นท่ ี 0, 1-2, และ 6 3) ประสทิ ธภิ าพของวัคซีนจะสูงหากฉีดในผ้ทู ีไ่ ม่เคยมเี พศสมั พนั ธ์มากอ่ น 4) การฉีดในผ้ทู ่มี ีอายมุ ากกวา่ 26 ป ี อาจพิจารณาใหไ้ ด้เป็นกรณีๆ ไป 5) การฉีดในเดก็ ผู้ชาย พิจารณาให้ฉดี เฉพาะชนิด 4 สายพันธ ุ์ ในช่วงอาย ุ 9-26 ป ี เน้นใหใ้ นชว่ งอาย ุ 11-12 ปี และใน กลุม่ ชายรกั ชายอาย ุ 9-26 ปี
รายชื่อคณะอนกุ รรมการ ทบทวนระบบการดแู ลสุขภาพเดก็ ดี พ.ศ. 2556-2557 รศ.พญ.ประสบศรี องึ้ ถาวร ประธาน พญ.วนั ดี นงิ สานนท์ รองประธาน ศ.คลนิ กิ พญ.วินัดดา ปิยะศลิ ป์ เลขานุการ พญ.จรยิ า ทะรักษา กรรมการ รศ.พญ.จนั ทฑ์ ติ า พฤกษานานนท์ กรรมการ พญ.สุชรี า ฉตั รเพรดิ พราย กรรมการ พญ.อสิ ราภา ช่ืนสวุ รรณ กรรมการ พญ.นัยนา ณศี ะนันท์ กรรมการ รศ.นพ.อดิศกั ดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ กรรมการ นพ.วีระศักด์ิ ชลไชยะ กรรมการ นพ.พงษศ์ ักด์ิ นอ้ ยพยัคฆ์ กรรมการ พญ.อดศิ รส์ ดุ า เฟ่ืองฟู กรรมการ พญ.พัฎ โรจน์มหามงคล กรรมการ พญ.บุญย่ิง มานะบรบิ ูรณ์ กรรมการ พญ.สุธาทิพย์ เอมเปรมศลิ ป์ กรรมการ 47
www.thaipediatrics.org 48 Download ä´Œ·Õè www.thaipediatrics.org
Search
