Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 004-ไม้ดอกไม้ประดับในหุบเขาลำพญา

004-ไม้ดอกไม้ประดับในหุบเขาลำพญา

Published by Suphawadee Phromrai, 2023-08-11 06:47:26

Description: 004-ไม้ดอกไม้ประดับในหุบเขาลำพญา
เรียบเรียงโดย นางสาวสุภาวดี พรมราย เลขที่16 ม.6/3

Search

Read the Text Version

87 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

88 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา กะพอ้ หนู ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Licuala triphylla Griff. ชื่อวงศ์ ARECACEAE ชื่ออนื่ กะพ้อนกแอ่น, ชงิ หางหน,ู ปาละติกุ (มลาย-ู ปตั ตานี) ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ปาล์มต้นเด่ียวขนาดเล็ก ลำตน้ สงู 30-50 เซนตเิ มตร เสน้ ผ่าศนู ยก์ ลางประมาณ 1 เซนตเิ มตร ใบ ใบประกอบรูปใบพัด ขอบกาบใบมีรกเป็นเส้นใยสีน้ำตาลห่อหุ้ม กว้าง 30-40 เซนตเิ มตร ยาว 100-150 เซนตเิ มตร แผ่นใบคอ่ นขา้ งกลมแตกเปน็ ใบ ยอ่ ย 3-5 ใบ ลกั ษณะใบยอ่ ยจักเว้าลกึ ถงึ สะดอื ใบยอ่ ยตรงกลางมีขนาดใหญป่ ลายใบ หยักเป็นซ่ี กว้าง 10-15 เซนติเมตร ยาว 15-20 เซนติเมตร ก้านใบยาว 30-50 เซนติเมตร มีหนามเลก็ ๆ ทีข่ อบก้านใบตลอดความยาวก้าน ดอก ออกเปน็ ชอ่ บรเิ วณซอกกาบใบ ยาว 10-40 เซนติเมตร มี 3-4 แขนง แตล่ ะแขนง มี 2-5 ชอ่ ย่อย ผล รปู กลม เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 0.6-0.8 เซนตเิ มตร ผลออ่ นสเี ขยี วเมอ่ื สกุ สแี ดง ชว่ งเวลาการออกดอก มนี าคม-พฤษภาคม แหลง่ ทพี่ บ บรเิ วณทม่ี แี สงรำไร การขยายพนั ธุ์ เมล็ด ลักษณะเด่น ทรงต้น ใบ ช่อผล

89 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

90 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ชื่อวิทยาศาสตร์ กะเรกะร่อนปากเปด็ Cymbidium findlaysonianum Lindl. ช่ือวงศ์ ORCHIDACEAE ชือ่ อ่นื กะเรกะร่อนดอย ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ กลว้ ยไมอ้ งิ อาศยั ขนึ้ เปน็ กอแนน่ พบตามตน้ ไมข้ นาดใหญ่ ลำต้น เจรญิ ทางดา้ นข้าง ลำลกู กลว้ ยรปู รีแบน ราก มีจำนวนมากเปน็ กระจุก ใบ รูปขอบขนานเป็นแถบยาวหนาและแข็ง กว้าง 2.0-5.0 เซนติเมตร ยาว 18-50 เซนตเิ มตร โคนลำต้นมีใบซ้อนแนน่ ช่อดอก แบบกระจะ ยาว 20-60 เซนติเมตร ช่อดอกห้อยลง กลีบดอก สีเหลืองอมน้ำตาล กลีบปากขอบสีขาว กลางกลีบมีสีม่วงแดง ขนาดประมาณ 3 เซนตเิ มตร ผล รูปรี กว้าง 2.5-3.5 เซนติเมตร ยาว 5.5-7.0 เซนตเิ มตร ผลออ่ นสเี ขียว ผลแก่สเี ขยี วอมเหลอื ง ช่วงเวลาการออกดอก เกือบตลอดป ี แหลง่ ทีพ่ บ บริเวณทแ่ี สงส่องถึง การขยายพันธ์ุ แยกหน่อ ลักษณะเด่น ดอก

91 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

92 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา กำลงั หนุมาน ชื่อวิทยาศาสตร์ Dracaena conferta Ridl. ชื่อวงศ์ DRACAENACEAE ช่อื อน่ื กำลงั ขนุ มาร กำลงั ควายถกึ สะลกี บี โู ตะ๊ (มลาย-ู นราธวิ าส) ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ลม้ ลุก เปลือกสเี ทา ลำตน้ เด่ียวตงั้ ตรง เหน็ ขอ้ ปลอ้ งชัดเจน ใบ ใบเด่ียว รูปไข่ ใบเรียงตรงข้ามสลับต้ังฉาก กว้าง 2.0-2.5 เซนติเมตร ยาว 29-35 เซนติเมตร ขอบใบเรยี บ ปลายใบเรยี วแหลม ผิวใบเรยี บ เส้นใบแตกแบบ เส้นขนาน ใบออ่ นสเี ขยี วอ่อน ใบแกส่ เี ขยี วเข้ม ดอก เป็นช่อโปร่ง ออกท่ีปลายยอด สีชมพู มี 15-25 ดอกย่อย มีลักษณะ เปน็ หลอด กา้ นดอกสน้ั กลบี รวม 6 กลบี สขี าว โคนตดิ กนั เปน็ รปู ทรงกระบอก ผลกลม ช่วงเวลาการออกดอก มกราคม-มถิ ุนายน แหล่งที่พบ บริเวณท่มี แี สงรำไร การขยายพนั ธุ์ เมล็ด ลักษณะเดน่ ใบ

93 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

94 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา งด ชอ่ื วิทยาศาสตร ์ Scindapsus maclurei Merr. & Matcalf ชอื่ วงศ์ ARACEAE ชอื่ อนื่ - ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร ์ ไม้เลื้อยเกาะไปบนต้นไม้ใหญ่หรือก้อนหินหรือเลื้อย ทอดไปตามพนื้ ดนิ ลำต้น สีเขียว กลม มรี ากแตกออกมาจำนวนมาก เพอ่ื ยึดเกาะ ใบ ใบเดีย่ ว เรียงสลบั ระนาบเดยี ว ใบรปู ขอบขนาน กวา้ ง 27-29 เซนติเมตร ยาว 65-68 เซนตเิ มตร โคนใบเวา้ ตนื้ ขอบใบพลว้ิ เปน็ คลนื่ ปลายใบมน ผวิ ใบเรยี บมัน ใบอ่อนสเี ขยี ว ใบแก่สเี ขียวเขม้ ด้านหลังใบเห็นเสน้ ใบชดั เจน ชว่ งเวลาการออกดอก พฤษภาคม-กนั ยายน แหล่งทพ่ี บ พบข้ึนในป่าโปรง่ ใกลแ้ หลง่ นำ้ การขยายพนั ธ์ุ ปกั ชำตน้ ลกั ษณะเดน่ ใบ

95 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

96 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ชะงดเขา ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Aglaonema nitidum (Jack) Kunth. ชือ่ วงศ์ ARACEAE ช่ืออน่ื - ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ล้มลกุ ลำต้น อวบนำ้ มที ั้งทอดเลื้อยหรอื ตง้ั ตรง ใบ ใบเดี่ยว รูปขอบขนาน กว้าง 8.5-10.5 เซนติเมตร ยาว 27-31 เซนตเิ มตร โคนใบเรยี วลไู่ ปยงั กา้ นใบ ขอบใบเรยี บ ปลายแหลม ผวิ ใบมนั เสน้ กลางใบ เป็นร่องตื้น เส้นใบแตกแบบขนนก ซ่ึงเป็นร่อง ก้านใบยาว 15-16 เซนติเมตร ใบออ่ นสเี หลอื งอ่อน ใบแก่สีเขยี วเข้ม ผล กลมค่อนข้างรี เส้นผ่าศูนย์กลาง 4.0-5.0 เซนติเมตร ยาว 0.8-1.2 เซนตเิ มตร ผลออ่ นสีขาวอมเหลือง ผลแก่สสี ้ม เมลด็ รปู รีคล้ายถัว่ เขียว ช่วงเวลาการออกดอก พฤษภาคม-กรกฎาคม แหล่งที่พบ ใกลแ้ หล่งนำ้ ทั่วไปในทร่ี ่ม การขยายพันธ์ุ ปกั ชำต้น ลกั ษณะเดน่ ทรงตน้

97 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

98 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ชา้ งดำ ช่ือวิทยาศาสตร์ Pomatocalpa spicatum Breda ชอ่ื วงศ์ ORCHIDACEAE ชื่ออืน่ - ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร ์ กล้วยไมอ้ ิงอาศยั เกาะบนตน้ ไม้ใหญ่ ลำต้น เจริญทางปลายยอด ใบรูปขอบขนาน ปลายใบเว้า กว้าง 1.5-2.0 เซนตเิ มตร ยาว 10-15 เซนตเิ มตร ดอก เปน็ ชอ่ แบบกระจะ ออกทข่ี า้ งลำตน้ ดอกกวา้ งประมาณ 0.4 เซนตเิ มตร กลีบดอกรูปรีแกมรูปไข่กลับ ดอกสีเหลือง โคนกลีบดอกมีจุดประสีน้ำตาลแดง ทยอย บานจากโคนช่อไปปลายชอ่ ดอก ชว่ งเวลาการออกดอก พฤษภาคม-สงิ หาคม แหลง่ ทีพ่ บ บนตน้ ไม้ ใกล้แหลง่ นำ้ การขยายพันธุ์ เมล็ด ลกั ษณะเดน่ ดอก

99 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

100 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา ดาหลา ชื่อวิทยาศาสตร์ Etlingera elatior (Jack) R.M. Sm. ชอ่ื วงศ์ ZINGIBERACEAE ช่ืออืน่ กาแต (มลายู-ยะลา) ลักษณะทางพฤกษศาสตร ์ ไม้ลม้ ลกุ อายหุ ลายป ี ลำตน้ เปน็ เหง้าอย่ใู นดิน มกี า้ นใบอัดแนน่ เหมือนลำต้นสูง 2-4 เมตร ใบ ใบเด่ียว เรยี งแบบสลับตรงข้าม รูปใบหอก กว้าง 15-18 เซนตเิ มตร ยาว 40-50 เซนติเมตร โคนใบเบี้ยวเล็กน้อย ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลมต่ิง ผิวใบเรียบ แววมนั แผน่ ใบหนา เสน้ ใบแตกแบบขนาน เสน้ กลางใบนนู เหน็ ชดั เจน ใบออ่ นสเี ขยี วออ่ น ขอบใบมีสมี ว่ งและม้วน ใบแกส่ ีเขียวเข้ม ดอก ออกเป็นช่อกระจุก มีกลีบประดับ 2 ขนาด คือส่วนโคนประกอบด้วย กลีบประดับขนาดใหญ่กว้าง 2.0-3.0 เซนติเมตร สีแดงขลิบขาวเรียงซ้อนกันและ จะบานออก 25-30 กลบี และมกี ลบี ประดบั ขนาดเลก็ อยสู่ ว่ นบนของชอ่ ดอก กลีบกว้าง ประมาณ 1 เซนติเมตร ซึง่ มสี เี ดียวกบั กลบี ประดับขนาดใหญ่ กลีบประดบั เล็กนี้จะหบุ เขา้ เรียงเป็นระดบั มี 300-330 กลบี ภายในกลีบประดับขนาดใหญท่ ี่บานออกจะมีดอก ขนาดเล็กกลีบดอกสีแดง ดอกบานเต็มท่ี กว้าง 14-16 เซนติเมตร ความยาวช่อ 10-15 เซนตเิ มตร มกี า้ นชอ่ ดอกยาว 80-100 เซนตเิ มตร ลกั ษณะกา้ นชอ่ ดอกแขง็ ตรง ผล ผลกลุ่ม รปู ทรงกลม มีขนปกคลุมทัว่ ผล ผิวเปลอื กค่อนข้างเรียบแตห่ นา มีสีนำ้ ตาล เนื้อในฉ่ำน้ำ เมล็ดขนาดเล็ก สีดำมเี มือกหุ้มท่วั เมลด็ ชว่ งเวลาการออกดอก พฤษภาคม-กันยายน แหลง่ ที่พบ ใกล้แหล่งน้ำลำธาร การขยายพนั ธ์ุ แยกเหง้า ลกั ษณะเด่น ช่อดอก ชอ่ ผล

101 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

102 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ตากาฉ่อ Kingidium deliciosum (Rchb.f.) Sweet ชือ่ วงศ์ ORCHIDACEAE ชอื่ อื่น ตากาฉอ่ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ กล้วยไมอ้ งิ อาศยั ลำต้น ขนาดเล็ก เจรญิ เตบิ โตทางปลายยอด มีรากขนาดใหญ่ เพ่ือยดึ เกาะ ใบ เปน็ แผ่นแบนหนารปู ขอบขนานแกมรูปรี กวา้ ง 1.3-3.6 เซนตเิ มตร ยาว 4-6 เซนติเมตร ขอบใบเรยี บ สเี ขียวเข้มเปน็ มัน ดอก ออกเป็นช่อ ก้านช่อดอกยาว 5.5-9.5 เซนติเมตร ดอกขนาดเล็ก เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 1.2-1.4 เซนติเมตร ใน 1 ช่อ มีประมาณ 3-7 ดอก กลีบดอกสขี าว กลีบปากแยกเป็นสามแฉกสชี มพู ดอกบานเปน็ เวลานาน ช่วงเวลาการออกดอก พฤศจกิ ายน-กุมภาพันธ์ แหล่งท่ีพบ บริเวณที่มีแสงรำไร ใกล้แหลง่ นำ้ การขยายพนั ธ์ุ แยกหนอ่ ลักษณะเด่น ดอก

103 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

103 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

104 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา เตา่ ร้างแดง เสชยล ขชช กมปนีาอ่ืื่่ออืน้ากัีกน็วนำ้อววษมารตใทิงบ่ืนณเ3ูปบาปศยห0ลลยะี์ ยาุ้มอิ่มาท ลใศเกอวซบาำาปเกนเงปตสบ2ูนสพใตน้ตล-บี้ยีขเิ3ฤืรมอวปาผกส์ตกรเวิว งูมษขระลใกตศอใบำ5ใบอรบาตบ-ด ยสบ7ใ้นย้ าบ่อตแอ่เนเเรบยรมยรบีย์ ดบียดตนบ้าขา้บรแนนสนลวCAเเลบีเปนตปขำวา่aนRลา่กน็ตียงเรrาสEสปyปก้นา้วยุดอCงo็วนาตอใมงtาล้Aบม่้งัมอaชงีขม์ตะแันCน้นัเนmยรหด7มทEงานืง็ล.i้ัีนเAง0ไดtรตมมมสi-วใEียsน้1อืแ่หอลง 0แเขตLญงดเส.ผนล0กoงด็ล่สน่็ากuก้าับ(เุดดใมrนิ่งซนบห.กลส น้อยนกาลาตยผยอ่วามาเิิ-วูแยม้างามกนง ยเตรห ีรปะถา่นรลกนบรแทายเียะตใ)่ีเปม าบรวก ็นวือาเดหขณเนใ้าอน่ืส3บยนง5้นอ่ยอหน-1บอ่ใ4มด1ยอรย5ู่ สิเก(รโภวเีนคปูเมซาณซน้ำสีคนขนตโเใี่เนตหตคหบาิเสนเินลสลมม้ัอืนต่ยีอดตต)ๆน้ บมำรร เเ ก ปสลน้ลบี ือใดบกอแนกตอผดสกกอลีเแขคกบียอ่ ผบวนเลขหปขนเร็้านดาอืง่ีชยนสแ่อวขีมเค็งสว่ อลน้งขอ้าแกนยกกลดาเมาปดอนงเ็นกใลำ้ บชขต็กเ่ออาหถลงแงึน็ ตยกชช้นกลัดอ่ หาแเดจงมขอนนากกกงยกวา้า้าอทวนงอรใ3บ0กง0.ยกบ8-อ่-ลร31ยิเ5มว.ย3ณเาสซวเนีซเซขอนต4ีย0กิเตมว-กเิ 5ตมแา0รตกบ รมเ ใซ บเยนหจาตลำวิเนือม1วงต.น0รผม - 1ลา.มก2 ี เ ส ซเี นขียตวิเมเหตชกแลลรว่หักาอื รงกษงลขเ้า่งณวผยนทลลาะผี่พาเสยลดกบกุพย่นา สัน ารีสบวธอ้มทรุ์อเิห3รวกเง0รมณดตอื-ลอ3้นแทด็ 5ก ด่ีแ งส เเงซเขกสนม้ ือ่อตบง1ิเมตถผลึงต ลอรดมผปีิวี 1ผลเมเรลีย็ดบ มีเมล็ดอยู่ในเน้ือผล ผลอ่อน

105 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

106 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา เตา่ ร้างหนู เชชลชปอ่ืออ่ื่ืักลวอวษอื งทิืน่ณกศยเระ์ ายีท ล ศบาำาสงตสเีพข้นตฤยีรวกส์ องูษอ่ปศนราะมสมนี ตาวณรล์ เล1 ก็ เนAเตAมปอ้าrRตน็ลeยรEปn C มgาลตลรAีaำากม์ตCลcเยน้ไปaEกนืตuน็A ้ตงั้dเ Eสน้ตตa น้รขtาaงลนใยแรา(ตสLงั้ดกน ีoก uหำ้ ลตrนา.า)งอ่ ล Hบ ดร.ำEเิ ว.กณMา้ นโoคใoนบrตย. นา้ วม1กี .0า-บ1ห.5มุ้ ลเมำตตรน้ ขอบใบเรียใบบ ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับหนาแน่นท่ีเรือนยอด โคนใบสอบเป็นรูปล่ิมเบ้ียว ปลายใบแหลม แผ่นใบย่อยเหนียว ใบย่อยรูปส่ีเหลี่ยมขนมเปียกปูน ผิวใบ แววเปน็ มนั ทง้ั สองดา้ น ผวิ กาบใบดา้ นนอกมขี นสน้ั ๆ สนี ำ้ ตาลออกสขี าว ใบยอ่ ยดา้ นบนสดุ มี ขนาดใหญส่ ดุ กวา้ ง 10-12 เซนตเิ มตร ยาว 15-20 เซนตเิ มตร กา้ นใบยาว 30-60 เซนตเิ มตร แกนกลางใบยาว 30-40 เซนตเิ มตร กา้ นใบและแกนกลางใบ มขี นสนี ำ้ ตาลปกคลมุ ไ มม่ กี า้ นชดอ่ อดอกกยเปอ่ น็ยช อ่ ตง้ั ขน้ึ ยาว 30-80 เซนตเิ มตร ออกบรเิ วณซอกกาบใบจำนวนมาก เซนติเมตผรลผิอวอเรกียเปบน็อชัดอ่แแนย่นกใแนขกน้างนหชอ้ ่อยลผงลอผ่อลเนดมยี่ ีสวีเขทียรวงกอลมมม่วเงสน้ เผมา่ื่อศสนู ุกยสก์ ีแลดางง 0.7-1.0 มหี นง่ึ เมลด็ หน่ึงผล แลชก่วหัการงษลขเง่ณวยทลาะพ่ี าเยดกบพ่นา ัน รบธอรท์ุอเิรวกเงณมตดลน้ทอด็ ม่ีก ใแีบ ส มงกรำรไารค ม-สงิ หาคม

107 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

108 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา เถางเู ขียว ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Vanilla sp. ชอ่ื วงศ์ ORCHIDACEAE ช่ืออ่ืน เครืองูเขียว, คดนกกูด ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ กลว้ ยไม้อิงอาศยั ลำต้น ทรงกระบอก ลักษณะเป็นเถาเลอ้ื ยยาวมาก ใบ ใบเดี่ยว ออกตรงข้อลำต้น เรียงกันห่างๆ ใบรูปรีแกมรูปไข่ กว้าง 4.0- 6.0 เซนติเมตร ยาว 7.0-10.0 เซนติเมตร โคนใบมน ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ผิวใบเรยี บ แผน่ ใบอวบน้ำ ดอก เป็นช่อแบบกระจะ ออกที่ข้อข้างลำต้น กว้าง 2.0-3.0 เซนติเมตร กลีบเล้ียงและกลีบดอกรูปขอบขนานทั้งห้ากลีบ สีขาวครีม กลีบปากรูปแตร ปลายกลบี มีกล่มุ ขนยาวสีชมพู ขอบกลบี หยกั เปน็ คลน่ื ดอกมีกลน่ิ หอม ชว่ งเวลาการออกดอก มนี าคม-พฤษภาคม แหลง่ ที่พบ พบบริเวณท่ีมคี วามชื้นสงู มรี ่มเงา การขยายพนั ธุ์ ปกั ชำตน้ ลักษณะเดน่ ต้นและดอก

109 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

110 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ บอนกระดาด Colocasia gigantean Hook.f. ชื่อวงศ์ ARACEAE ช่อื อนื่ - ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ลม้ ลกุ ลำต้น เป็นเหง้าอยู่ใตด้ นิ สีขาว แทงก้านใบออกจากใต้ดนิ ใบ ใบเด่ียว เรียงแบบเวียนสลับเป็นกระจุกทลี่ ำตน้ ใบรูปหวั ใจ กว้าง 25-35 เซนติเมตร ยาว 30-40 เซนติเมตร โคนรูปหวั ใจ ขอบใบเรยี บ ปลายใบมน ผวิ ใบเรียบ แผ่นใบหนา เส้นใบแตกแบบขนาน เส้นกลางใบเห็นชัดเจน มีไขเคลือบสีขาว ก้านใบ มไี ขเคลอื บ มองดมู สี ขี าวนวล เนอ้ื ในของกา้ นใบอวบนำ้ และมรี อู ากาศ แทรกอยใู่ นเนอื้ ใบ ดอก เป็นช่อ ออกตามซอกใบ เป็นแท่งเด่ียวๆ ดอกแยกเพศอยู่ในช่อ เดยี วกนั ฉำ่ นำ้ ผล เป็นผลสด สีเขียว ชว่ งเวลาการออกดอก เกอื บตลอดป ี แหล่งทีพ่ บ บรเิ วณทช่ี นื้ แฉะ การขยายพนั ธุ์ แยกเหง้า ลกั ษณะเดน่ ทรงต้น

111 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

112 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา บอนสม้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Homalomena rostrata Griff. ชอ่ื วงศ์ ARACEAE ชอ่ื อนื่ บอนหอม ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ พชื ล้มลกุ อวบนำ้ อายุหลายปี ลำตน้ เป็นเหงา้ อยใู่ ตด้ นิ มนี ้ำยางใส ใบ ใบเดี่ยว แตกจากลำต้นเหนือดินขึ้นเป็นกลุ่มเรียงติดกันแน่น รูปหัวใจ ใบขนาดใหญ่ กว้าง 25-30 เซนติเมตร ยาว 30-40 เซนตเิ มตร โคนใบเว้าลกึ รปู หัวใจ ขอบใบเป็นคล่ืนเล็กน้อย ปลายใบแหลมเข็ม ผิวใบเรียบเป็นมันท้ังสองด้าน แผ่นใบหนา อวบน้ำ เส้นใบแตกแบบขนานตั้งฉากกับเส้นกลางใบ เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ใบอ่อน สีแดงอ่อนหรือสีเขียว ขอบใบม้วนเข้าหากัน ใบแก่สีเขียวเข้ม ก้านใบยาว 80-100 เซนตเิ มตร กา้ นใบมรี พู รนุ บรเิ วณโคนกา้ นใบดา้ นบนเปน็ รอ่ งนำ้ ดา้ นทอ้ งใบเปน็ สนั นนู ใหญ ่ ดอก ออกเป็นช่อ แท่งกลมยาว ดอกตัวผู้อย่ตู อนบน ดอกตวั เมยี อย่ตู อนล่าง ถัดลงมามีจำนวนน้อยกว่าดอกตัวผู้ หรืออาจจะมีดอกไม่มีเพศค่ันอยู่ระหว่างกลาง หรอื อาจจะไมม่ กี ็ได้ กา้ นชอ่ ดอกยาว 25-30 เซนตเิ มตร ดอกออ่ นสขี าว ดอกแกส่ เี ขยี ว มีกาบหุ้มช่อดอก ยาว 12.5-15.0 เซนติเมตร กาบน้ีจะป่องออกมาบริเวณท่ีเป็น ดอกเพศเมีย ตรงปลายกางเปน็ รูปจะงอย ช่วงเวลาการออกดอก เกอื บตลอดป ี แหลง่ ที่พบ ในที่รม่ เงา ช่มุ ชืน้ การขยายพันธุ์ ปกั ชำตน้ แยกหน่อ ลักษณะเด่น ทรงต้น

113 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

114 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา บอนหิน ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Schismatoglottis calyptrata (Roxb.) Zoll & Moritizi ชอ่ื วงศ์ ARACEAE ชอ่ื อน่ื - ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ พชื ลม้ ลุกอวบน้ำ ลำตน้ เป็นหวั อยู่ใตด้ นิ มีนำ้ ยางสีใส ใบ ใบเด่ียว ขึ้นมาจากหัวใต้ดินหรือลำต้นตอนเหนือดินข้ึนเป็นกลุ่ม ใบใหญ่ ก้านใบยาวเรียงแบบเวียนสลับ กว้าง 10-15 เซนติเมตร ยาว 20-24 เซนติเมตร โคนใบเว้าลึกรูปหัวใจ ขอบใบเป็นคล่ืนเล็กน้อย ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบเป็นมันท้ัง สองดา้ น แผ่นใบหนาอวบนำ้ รูปหวั ใจ เส้นใบแตกแบบขนาน เสน้ กลางใบเห็นชัดเจน ก้านใบยาว 25-35 เซนติเมตร กา้ นใบมรี ูพรนุ ดา้ นบนเป็นรอ่ งนำ้ ด้านทอ้ งใบเป็นสัน นูนใหญ่ โคนกา้ นใบเปน็ ครบี ดอก ออกเปน็ ช่อ ดอกยอ่ ยขนาดเล็ก กาบประดับขนาดใหญ่ กว้าง 3.0-5.0 เซนตเิ มตร ออกบรเิ วณซอกกาบใบ สีขาว ผล ผลสด ทรงกลมร ี ชว่ งเวลาการออกดอก เกอื บตลอดป ี แหลง่ ทพี่ บ ในทร่ี ม่ ใกลแ้ หล่งน้ำ การขยายพันธ์ุ แยกเหง้า ลกั ษณะเด่น ทรงต้น

115 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

116 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา บกุ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Amorphophallus sp. ช่อื วงศ์ ARACEAE ชื่ออ่ืน - ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ลม้ ลกุ เจริญในฤดูฝน และพกั ตวั ในตน้ ฤดรู อ้ น ลำตน้ มีหัวใต้ดนิ สีนำ้ ตาลอยไู่ ด้นานหลายปี ใบ ใบเด่ียวแผอ่ อกไปคล้ายกับร่ม ขอบใบหยกั เวา้ เข้าหาเสน้ กลางใบ ก้านใบ กลมอวบน้ำ ลักษณะกลมเรียวยาว 80-150 เซนติเมตร ลายสีเขียวและแดง (แตกต่างไปตามพนั ธ์)ุ ดอก เป็นช่อขนาดใหญ่ แทงจากหัวใต้ดินลักษณะเป็นแท่งสีแดงแกม สนี ้ำตาล ก้านชอ่ สั้น ใบประดับรปู กรวยหุ้มชอ่ ดอก ขอบหยักเป็นคลืน่ และบานออก ผล ผลสดเนอ้ื น่มุ สีแดง มจี ุดสดี ำตอนปลายยอด ช่วงเวลาการออกดอก มกราคม-พฤษภาคม แหลง่ ท่พี บ บรเิ วณร่มเงาแสงส่องถึง การขยายพนั ธุ์ แยกหวั ลักษณะเด่น ลำตน้

117 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

118 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ปดุ งูก้านดำ Zingiber sp. ชื่อวงศ์ ZINGIBERACEAE ชือ่ อ่ืน ตือปอุ ูลาบาแตอีแต (มลายู-ยะลา) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ พืชลม้ ลุกอายหุ ลายป ี ลำตน้ เป็นเหง้าอยูใ่ ต้ดนิ มกี าบใบหุ้มแนน่ คล้ายลำต้น สงู 2-3 เมตร ใบ ใบเดี่ยว เรียงแบบสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 7.0-10.0 เซนติเมตร ยาว 15-25 เซนติเมตร โคนใบสอบ ขอบใบเรียบหรือเป็นคล่ืนเล็กน้อย ปลายใบแหลมต่ิง ผิวใบเรียบเป็นมันทั้งสองด้าน แผ่นใบหนาเหนียว เรียว เส้นใบแตกแบบขนาน เส้นกลางใบเห็นชดั เจน ใบแกส่ เี ขียว โคนก้านใบแผ่ออกเปน็ กาบอดั แน่นเป็นลำตน้ เทียม ดอก ออกบริเวณโคนตน้ เปน็ ช่อทรงกระบอก ดอกยอ่ ยสีขาว มีกลบี ประดับ สีแดงห่อหมุ้ ช่วงเวลาการออกดอก พฤษภาคม-กันยายน แหล่งทพ่ี บ ขึน้ ตามทช่ี ุ่มชื้น แสงรำไร หรอื รม่ เงาต้นไม้ใหญ ่ การขยายพนั ธุ์ แยกเหงา้ ลักษณะเด่น ดอก

119 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

120 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ปดุ แดงใบใหญ ่ Etlingera punicea (Roxb.) R.M. Sm. ชือ่ วงศ์ ZINGIBERACEAE ชื่ออื่น - ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ พชื ลม้ ลุก ลำต้น เป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน มีกลิ่นน้ำมันระเหยตลอดต้น มีกาบใบเรียงตัวกัน แนน่ ข้นึ เปน็ ลำต้นเทยี มเด่ยี วๆ แทงข้ึนจากหัวใตด้ นิ สงู 2-3 เมตร ใบ ใบเดี่ยว เรียงแบบสลับ รูปขอบขนานแกมรูปหอก กว้าง 7.0-10.0 เซนตเิ มตร ยาว 50-70 เซนตเิ มตร โคนใบสอบเรยี ว ขอบใบเปน็ คลน่ื ปลายใบแหลมตงิ่ ผิวใบเรียบเป็นมันท้ังสองด้าน แผ่นใบหนาเหนียว เส้นใบแตกแบบขนาน เส้นกลางใบ เห็นชัดเจน ใบอ่อนม้วนเข้าด้วยกันสีเขียวอ่อนโคนใบสีเขียวอมแดง ใบแก่สีเขียว โคนกา้ นใบแผอ่ อกเปน็ กาบหุ้มลำตน้ ดอก ดอกเดี่ยว ออกบริเวณโคนต้น ดอกสีแดงขอบนอกของกลีบสีเหลือง กลบี ดอกรปู เกอื บขอบขนาน ปลายตัดกลบี เปน็ มันเงา มี 6 กลีบ ชว่ งเวลาการออกดอก กรกฎาคม-สิงหาคม แหล่งทีพ่ บ บรเิ วณมรี ่มเงาแสงสอ่ งถึง การขยายพันธุ์ แยกเหง้า ลกั ษณะเด่น ดอก

121 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

122 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ปดุ เดอื น Hedychium longicornutum Griff. ex Baker ชอื่ วงศ์ ZINGIBERACEAE ชื่ออ่ืน ปดุ เดอื น ตอื ปจุ ะจงิ (มลาย-ู ยะลา) วา่ นไสเ้ ดอื น (นราธวิ าส) ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร ์ เป็นพืชจำพวกขิงข่าอาศัยเกาะบนต้นไม้ มีรากเกาะ คล้ายไส้เดอื น ลำต้น เลื้อยอวบน้ำเห็นข้อปล้องชัดเจน มีกาบใบเรียงตัวอัดกันแน่นเป็น ลำต้นเทยี ม แทงออกมา ใบ ใบเด่ียว เรียงแบบสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 5.0-7.0 เซนติเมตร ยาว 19-22 เซนติเมตร โคนใบแหลม ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบท้ังสองด้าน แผน่ ใบหนา เสน้ ใบแตกแบบขนาน เสน้ กลางใบเปน็ สนั นนู มกี าบหมุ้ อดั กนั แนน่ คลา้ ยลำตน้ ดอก เป็นช่อเชิงลด ออกเป็นกระจุกที่ปลายยอด เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสเี หลอื ง ผล ผลกลม ชว่ งเวลาการออกดอก มีนาคม-พฤษภาคม แหล่งท่พี บ เป็นพชื อาศยั อยู่บนตน้ ไม ้ การขยายพนั ธุ์ แยกเหง้า ลักษณะเดน่ ทรงต้น ดอก

123 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

124 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา ปุดนกยงู ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Zingiber sp. ชือ่ วงศ์ ZINGIBERACEAE ช่อื อื่น - ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพชื ล้มลุกอายหุ ลายป ี ลำตน้ เปน็ เหงา้ อยูใ่ ต้ดนิ มกี าบหุ้มแน่นคลา้ ยลำตน้ สงู 30-100 เซนตเิ มตร ใบ ใบเดี่ยว เรียงแบบสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 5.0-7.0 เซนติเมตร ยาว 8.0-13.0 เซนติเมตร โคนใบสอบเรียว ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลมต่ิง ผิวใบเรียบ เปน็ มันทัง้ สองดา้ น แผน่ ใบหนาเหนยี ว เสน้ ใบแตกแบบขนาน เสน้ กลางใบเห็นชัดเจน ใบแก่สีเขียว โคนก้านใบแผ่ออกเป็นกาบหุ้มลำตน้ ดอก ออกเปน็ ชอ่ ทีป่ ลายยอด ดอกขนาดเลก็ สเี หลอื ง รปู ทรงคล้ายนก ชว่ งเวลาการออกดอก กรกฎาคม-กนั ยายน แหล่งทีพ่ บ บรเิ วณใกล้แหลง่ น้ำ การขยายพันธ์ุ แยกเหงา้ ลกั ษณะเดน่ ดอก

125 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

126 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ผเี สื้อสมุ าตรา Phalaenopsis sumatrana Korth & Rchb. F. ชอื่ วงศ์ ORCHIDACEAE ช่อื อ่นื ผเี สอื้ สมุ าตรา ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ กลว้ ยไมอ้ ิงอาศยั ลำต้น มีลักษณะส้ัน ใบ รูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง 7.5-10.0 เซนติเมตร ยาว 20-28 เซนติเมตร โคนใบสอบแผ่นใบหนา ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบ ดอก เป็นช่อแบบกระจะ ออกที่ข้างลำต้น 1 ช่อ มี 2-3 ดอก กว้าง 3.0-4.0 เซนติเมตร ดอกมีสีเหลืองครีม มีแถบลายสีแดงก่ึงน้ำตาล ช่อดอกยาว 10-18 เซนตเิ มตร ชว่ งเวลาการออกดอก มกราคม-เมษายน แหลง่ ทพี่ บ บนตน้ ไมส้ งู มีร่มเงา การขยายพันธ์ุ เมลด็ ลักษณะเด่น ดอก

127 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

128 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา พลชู า้ ง ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ Vanilla sp. ชอ่ื วงศ์ ORCHIDACEAE ช่ืออื่น พลูชา้ ง ตองผา ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ กลว้ ยไม้องิ อาศัย ลำต้น เป็นเถาเล้ือยยาวมาก ทรงกระบอกอวบนำ้ ใบ ใบเดย่ี ว ออกตรงขอ้ ลำตน้ เรยี งกนั หา่ งๆ ใบรปู รแี กมรปู ไข่ กวา้ ง 4.0-6.0 เซนตเิ มตร ยาว 7.0-10.0 เซนตเิ มตร โคนใบมน ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม แผ่นใบ อวบน้ำ ผวิ ใบเรยี บ ดอก เป็นชอ่ แบบกระจะ ออกท่ขี ้อขา้ งลำตน้ ดอกกวา้ ง 2.0-3.0 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปขอบขนาน ทั้งห้ากลีบ สีขาวครีม กลีบปากรูปแตร ปลายกลบี มกี ลมุ่ ขนยาวสีขาว ขอบกลีบหยกั เป็นคล่ืน ดอกมกี ลน่ิ หอม ชว่ งเวลาการออกดอก มีนาคม-พฤษภาคม แหล่งที่พบ พบบรเิ วณท่ีมคี วามชน้ื สงู มีร่มเงา การขยายพนั ธุ์ แยกต้น ลกั ษณะเด่น ดอก

129 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

130 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ว่านจงู นาง Geodorum citrinum Jacks. ช่ือวงศ์ ORCHIDACEAE ชือ่ อืน่ ว่านจูงนาง ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ กลว้ ยไมด้ นิ ลำตน้ เป็นหวั อยใู่ ตด้ ิน เจริญทางด้านขา้ ง หวั กลมหรือแบนเลก็ นอ้ ย ใบ รูปรีแกมรูปใบหอกกลับทิ้งใบในฤดูแล้ง กว้าง 4.0-6.0 เซนติเมตร ยาว 5.0-10.0 เซนตเิ มตร แผ่นใบหนา ดอก เป็นช่อ ออกจากหัวใต้ดิน ดอกเกิดที่ปลายช่อเป็นกลุ่ม ดอกสีขาว กว้าง 2.5-4.0 เซนติเมตร ก้านช่อดอกมีใบประดับปกคลุมห่าง ๆ ปลายช่อดอก โค้งงอ กา้ นช่อดอกยาว 13-18 เซนตเิ มตร ช่วงเวลาการออกดอก กมุ ภาพันธ์-กนั ยายน แหลง่ ทีพ่ บ บริเวณทมี่ แี สงรำไร การขยายพันธ ุ์ แยกหวั ลักษณะเดน่ ดอก

131 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

132 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา ชอ่ื วิทยาศาสตร์ วา่ นนำ้ ทอง Ludisia discolor (Ker. Gawl.) A.Rich. ชอ่ื วงศ์ ORCHIDACEAE ชอ่ื อนื่ วา่ นน้ำทอง ว่านร่อนทอง ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ กลว้ ยไมด้ นิ ข้ึนตามซอกหนิ ลำตน้ อวบนำ้ และคอ่ นข้างบอบบาง ใบ รูปรีแกมรูปไข่ กว้าง 2.0-3.0 เซนติเมตร ยาว 3.0-6.0 เซนติเมตร แผ่นใบบางค่อนข้างอวบน้ำ สีน้ำตาลอมแดง ตามแนวเส้นใบสีนวลหรือชมพู หรือ ชมพอู มแดง ดอก ช่อดอกเกิดจากยอดเป็นช่อตรงสูง 8.0-20.0 เซนติเมตร ดอกเรียงตัว คอ่ นขา้ งโปรง่ รอบแกน ทยอยบานไปสู่ปลายช่อ ช่วงเวลาการออกดอก กมุ ภาพันธ์-กันยายน แหล่งท่ีพบ บนก้อนหินท่ีมีมอสเกาะอยู่ ใกล้แหล่งน้ำที่มีความช้ืนสูง แสงรำไร การขยายพนั ธุ์ โดยการปกั ชำ ลกั ษณะเด่น ใบ ดอก

133 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา

134 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา ว่านพังพอน ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Tacca integrifolia Ker Gawl. ช่อื วงศ์ TACCACEAE ชอื่ อ่นื ฤาษีนางครวญ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพืชลม้ ลกุ ลำตน้ เหง้าใตด้ นิ อวบนำ้ ใบ ใบเด่ียว เรียงเวียนสลับ รูปขอบขนานแกมรูปหอก กว้าง 15-20 เซนติเมตร ยาว 25-45 เซนติเมตร โคนใบสอบแคบ ปลายใบแหลม แผ่นใบกว้าง ก้านใบยาว 20-45 เซนตเิ มตร ก้านใบแผ่กวา้ งเปน็ กาบหุ้มลำต้น ดอก สีม่วงดำ เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5-2.0 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาว 30-40 เซนติเมตร มีใบประดับรูปหอกสขี าว สว่ นโคนใบสีมว่ ง ขนาด 5.0-7.0 x 10-15 เซนติเมตร และใบประดบั รูปเสน้ ดา้ ยยาว 10-15 เซนติเมตร จำนวน 15-20 เสน้ ผล สมี ว่ งดำ ปลายตดั โคนเรยี ว ยาว 2-3 เซนตเิ มตร ช่วงเวลาการออกดอก เกอื บตลอดป ี แหล่งทพ่ี บ รมิ ลำธารที่มีความชนื้ สูง การขยายพันธ์ุ แยกหน่อ ลักษณะเดน่ ดอก

135 ไมด้ อกไมป้ ระดับปา่ ในหบุ เขาลำพญา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook