Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book หน่วยที่ 1

E-book หน่วยที่ 1

Published by aj.kulisarasuwan, 2020-05-01 04:13:17

Description: E-book หน่วยที่ 1

Search

Read the Text Version

หนว ยท่ี 1 ความรูเ บอ้ื งตนเกีย่ วกบั มคั คุเทศก

ความนํา มัคคเุ ทศก ในความรสู ึกของคนทว่ั ไป คือผทู าํ หนา ทน่ี ําพาผูอ ืน่ ไปเทยี่ ว คนทว่ั ไปมกั จะเรียกมคั คเุ ทศกติด ปากวา ไกด (Guide) แตในขอบขา ยของงานนาํ เทีย่ วน้ันยังมผี ูทเ่ี ก่ียวขอ งอกี มากมายทผ่ี ู เปนมคั คุเทศกตองไปทาํ งาน เก่ียวขอ ง รวมดวยในหลายโอกาส เชน หวั หนา ทัวร, Transfer Guide, มัคคุเทศกท อ งถน่ิ มคั คเุ ทศกเ ฉพาะในแหลง ทองเท่ยี วตางๆ ฯลฯ ซง่ึ แตล ะบคุ คลก็อาจมีหนา ทีเ่ หมือน และหรือแตกตา งกันไปตามลักษณะของการนําเท่ยี ว ตางกันไป ตามกฏระเบยี บ ขอบงั คับของวิชาชีพนาํ เท่ยี วของแตละประเทศ สําหรบั ประเทศไทยอาชพี นถ้ี อื เปน อาชพี สงวน ทผ่ี คู นให ความสนใจมากขน้ึ เรอ่ื ยๆ ถงึ แมว าเปนอาชพี ท่ไี มมีเงนิ เดือน ไมมีสวสี ดิการใดๆ แตสงิ่ ทจ่ี ะไดร บั จากการนําเท่ียวนนั้ มันมี ความทา ทาย การจะ กา วสวู ิชาชพี น้ไี ด ไมถือวายากและก็ไมนบั วางายนัก อยูทใ่ี จรัก และหมัน่ ฝกฝนหา ความรู หาประสบการณจากผทู อี่ ยูในวิชาชีพน้อี ยูแ ลวกจ็ ะชว ยรัดข้นั ตอนเรียนรู ไดมาก การเรียนรูจ กั ความหมายความสําคัญ ของ บุคคลท่เี กี่ยวขอ งกับวชิ าชพี มัคคุเทศกจงึ เปนเรอ่ื งสาํ คญั ลําดับแรกๆ ของการกาวสูวชิ าชีพ

ความหมายของมัคคเุ ทศก คําวา \"มคั คเุ ทศก\" มีผใู หค ําจํากดั ความไวมากมาย แตใ นสวนของผู เขียนขอแบง ความหมายของคําวา มัคคุเทศกไว 2 ลักษณะ คอื ความหมายตาม นิยามศัพท กบั ความหมายตามกฎหมาย ความหมายของคาํ วา มคั คเุ ทศกตาม ศพั ทในราชบัณฑิตยสถาน (2525 : 626) ใหความหมายคาํ วา มคั คุเทศกวา หมายถึง ผนู าํ ทาง ผูช ที้ าง ผบู อกทาง ความหมายตามศพั ทข องคาํ วา มคั คเุ ทศก ในเชงิ ภาษา มคั คุเทศกม ีรากศัพทม าจากภาษาบาลี วา มคฺค + อุทฺเทสก แปลวา ผนู ําทาง ผูอ ธบิ ายทาง (มคคฺ = ทาง อุทฺเทสก = ผูนาํ ผูอ ธิบาย) และตาม ความหมายท่คี นท่วั ไปสวน ใหญเ ขา ใจ มคั คเุ ทศกจ ะหมายถึง ผูท่ที ําหนาท่ีนาํ ผอู นื่ ไปยังสถานทตี่ า งๆ และใหคาํ อธบิ ายแนะนําเกยี่ วกับสถานท่นี ้ันๆ สว นความหมาย ของคําวา มคั คุเทศกใ นเชงิ ตามกฎหมาย ตามความในพระราชบัญญัติธุรกิจนําเท่ียว และ มคั คุเทศก พ.ศ.2551 มาตราท่ี 4 ไดกลา วไวว า มัคคเุ ทศก หมายถึง ผู ใหบริการเปน ปกตธิ ุระในการนาํ นกั ทองเทยี่ วไปยัง สถานท่ตี างๆ โดยใหบริการ เกย่ี วกับคาํ แนะนาํ และความรดู านตา งๆ แกนกั ทอ งเทยี่ ว ท้งั น้หี ากจะมองในแงมมุ ของกฎหมายเราคงจะใชคําวา ผนู ําเท่ยี วแทนคาํ วา มคั คุเทศกไ มได เนือ่ งจากใน พระราชบญั ญัตธิ รุ กจิ นําเท่ียวและมัคคเุ ทศก พ.ศ.2551 มาตราท่ี 4 ไดระบุ ความหมายของคาํ วาผนู ําเท่ียวแยกมา ตา งหากไวช ัดเจนวา หมายถึง ผูรับผดิ ชอบ ในการดแู ลและอาํ นวยความสะดวกแกนักทองเท่ยี วในการเดนิ ทางไป ทองเที่ยวใน ตา งประเทศ ดงั น้นั มัคคุเทศกก บั ผูนาํ เทย่ี วจงึ ไมใชค นคนเดียวกัน หากแตจ ะทํา หนา ทคี่ ลายๆ กันคอื มคั คเุ ทศกจะทําหนา ทบ่ี รรยายใหค วามรูนาํ เท่ยี วในประเทศ สวนผูนําเทีย่ วจะทาํ หนาทอ่ี าํ นวยความสะดวกและนาํ นักทองเทย่ี วไปทอ งเทย่ี วยงั ตา งประเทศ

ในบางครั้งเรากค็ วรแยกความหมายและหนา ท่ีระหวางคําวามัคคุเทศก ( Guide) กบั คาํ วา หัวหนา ทวั ร (Tour Leader) ออกจากกนั ใหชดั เจน อนั เน่อื งมาจากในหลายประเทศมกี ฎหมายกาํ หนดใหผทู ท่ี าํ หนา ท่เี ปน มคั คุเทศก ตอ ง เปนคนสญั ชาตขิ องตนเทา นน้ั เชน เดยี วกบั ประเทศไทยทอ่ี าชพี มคั คเุ ทศกยงั เปน อาชพี สงวน ซึ่งถา นาํ คาํ สองคาํ นมี้ า ใชแทนกันอาจทาํ ให เกิดความสับสนได เนือ่ งจาก มคั คเุ ทศกม ักเปนคนทอ งถนิ่ หรือคน ท่มี สี ัญชาติ ในประเทศ น้ันๆ สามารถพูดภาษาของนักทองเที่ยวหรือสอ่ื สารกบั นักทองเที่ยวได เขาใจ หรอื สามารถส่อื สารกับหัวหนา ทวั รแลว หัวหนา ทัวรก น็ ําไปแปลความหมายให นกั ทอ งเท่ียวของตนได เขา ใจอกี ทอดหนง่ึ ได(กรณที มี่ ัคคเุ ทศกท อ งถ่นิ ไมสามารถ พดู ภาษาเดียวกบั นกั ทอ งเทยี่ วได ) เปน บุคคลทีม่ ีความรูความสามารถบรรยายเลา เรอ่ื งราวตา งๆ ของทอ งถนิ่ ทต่ี นนาํ เทยี่ วอยไู ด งานของมัคคเุ ทศกจ ึงเนน หลักอยูที่ การใหความรูใ นเรื่องตางๆ สว นงานของหวั หนา ทวั รจะเนนเปน ผรู บั ผิดชอบการ เดนิ ทางของนกั ทอ งเทยี่ ว เปน ผูอ ํานวยความสะดวกตลอดการเดินทาง ตัง้ แต เร่ิมตนจนเดินทางกลบั ถงึ จดุ หมายปลายทาง เปนผูประสานงานกับสถานทีท่ ่ี เกย่ี วของในขณะเดนิ ทาง ตอ งรับผดิ ชอบงานเกอื บตลอด 24 ชวั่ โมง และเพ่ือให เหน็ ภาพชดั เจนจะขอยก ตัวอยางเพอื่ ให เหน็ ความแตกตา งระหวางคนท่ที ําหนา ท่ี มัคคุเทศก กบั คนทีเ่ ปน หัวหนาทวั ร กรณกี ารจัดนําเท่ียวแบบ Outbound (นาํ คนไทยไปเทย่ี วตา งประเทศ)

ดังนน้ั จากความหมายขางตน การนาํ นกั ทองเที่ยวไปยงั ที่ตางๆ โดย ไมไดใหค วามรู จึงยงั ไมสามารถเรียก มัคคุเทศกได อยางเชน ผรู บั สง นกั ทองเท่ียวจากทาอากาศยานไปยงั โรงแรมอยางเดยี วเราเรียกวาบคุ คลผนู ี้ วา Transfer Personnel หรอื Transfer Man แตถ าทําหนาท่ใี หข อ มลู ความรใู น ระหวางการรับสงนักทองเทย่ี วดว ยก็สามารถเรียกวา เปน Transfer Guide ได สว นการแนะนาํ สถานทข่ี องบคุ คลที่อยูในทอ งถิน่ รวมท้ังการพาญาตมิ ติ รไปเที่ยว เพราะชอบ พอกันเปน การสว นตัวจะไมส ามารถเรียกวาเปน มคั คเุ ทศกไ ด นอกจากน้คี าํ วามคั คเุ ทศกยงั มีความหมายใกลเคียงกับคําวา Courier (Person Who is paid to conduct parties of tourists) ซึง่ หมายถงึ ผทู ไี่ ดรบั คา ตอบแทนเพื่อท่ีจะชนี้ าํ หรอื นําทางใหกบั กลมุ นักทอ งเที่ยว สว น คําใน ภาษาองั กฤษมัคคุเทศกมีความหมายตรงกบั คาํ วา Guide หรอื Tour Guide หรอื Tourist Guide แตโ ดยปกติ แลว ทง้ั สามคาํ ใชหมายถงึ มัคคุเทศกท ่ีทําหนา ทีน่ ําชม สถานทีต่ า งๆ สวนคาํ วา Courier และ Tour Leader จะใชก ับผทู ี่ คอยอาํ นวย ความสะดวกแกนกั ทองเทยี่ วในดานการนําเทย่ี ว การพกั แรมและการเดินทาง ซ่งึ ในปจจุบนั คาํ ทง้ั หมด ดังกลา วสามารถใชแ ทนกันไดในหลายโอกาส เนือ่ งจาก มัคคเุ ทศกในปจ จบุ นั ทําหนา ที่เปน ทง้ั ผูนําเทย่ี ว เปน ท้ัง ผอู ํานวยความสะดวกแก นักทอ งเท่ยี วดานการพักแรม ดา นการรับประทานอาหาร ดา นการเดินทางและ ดา นอ่ืนๆ ดว ย

ในบางคร้ังเราก็ควรแยกความหมายและหนาที่ระหวางคําวามัคคุเทศก ( Guide) กับคําวา หัวหนาทัวร (Tour Leader) ออกจากกันใหชัดเจน อันเนื่องมาจากใน หลายประเทศมีกฎหมายกําหนดใหผูที่ทําหนาที่เปนมัคคุเทศก ตองเปนคนสัญชาติ ของตนเทา น้ัน เชน เดยี วกบั ประเทศไทยท่อี าชพี มคั คุเทศกยงั เปนอาชีพสงวน ซ่ึงถา นําคําสองคํานี้มา ใชแทนกันอาจทําให เกิดความสับสนได เน่ืองจาก มัคคุเทศก มักเปนคนทองถิ่นหรือคน ท่ีมีสัญชาติ ในประเทศ นั้นๆ สามารถพูดภาษาของ นักทองเท่ียวหรือส่ือสารกับนักทองเที่ยวได เขาใจ หรือสามารถส่ือสารกับหัวหนา ทัวรแลว หัวหนาทัวรก็นําไปแปลความหมายใหนักทองเที่ยวของตนได เขาใจอีก ทอดหนึ่งได(กรณีท่ีมัคคุเทศกทองถิ่นไมสามารถ พูดภาษาเดียวกับนักทองเที่ยวได เปนบุคคลท่ีมีความรูความสามารถบรรยายเลาเร่ืองราวตางๆ ของทองถ่ินท่ีตนนํา เทย่ี วอยไู ด งานของมัคคุเทศกจ งึ เนน หลักอยทู ่ีการใหความรูใ นเร่อื งตา งๆ สว นงาน ของหัวหนา ทวั รจะเนนเปน ผรู บั ผดิ ชอบการเดินทางของนักทองเทยี่ ว เปนผูอ าํ นวย ความสะดวกตลอดการเดินทาง ตั้งแตเริ่มตนจนเดินทางกลับ ถึง จุดหมาย ปลายทาง เปนผูป ระสานงานกบั สถานทีท่ ่ีเก่ียวขอ งในขณะเดินทาง ตอ งรับผิดชอบ งานเกือบตลอด 24 ชั่วโมง และเพื่อให เห็นภาพชัดเจนจะขอยก ตัวอยางเพ่ือให เห็นความแตกตางระหวางคนที่ทําหนาท่ีมัคคุเทศก กับคนท่ีเปน หัวหนาทัวร กรณกี ารจัดนําเท่ยี วแบบ Outbound (นําคนไทยไปเที่ยวตางประเทศ)

สมมตวิ า นําคนไทยไปเทย่ี วประเทศจนี ผทู ่ีจะทาํ หนาท่เี ปน Tour Leader คือ ผูท่ี เปนตัวแทนของบริษัทนาํ เทีย่ วไทยนาํ นกั ทอ งเทย่ี วคนไทยไปยังประเทศจนี เมื่อถงึ ยงั ประเทศจนี ผทู จี่ ะทาํ หนาทเี่ ปน มัคคเุ ทศก ( Guide) กค็ อื ตัวแทนของบริษทั นํา เทยี่ วในตางประเทศซงึ่ ก็คอื มัคคเุ ทศกค นจีนทสี่ ามารถพูดไทยได มบี ัตรมัคคเุ ทศก ในการนําเที่ยวท่ี หนว ยงานดานการทองเท่ียวของจนี รับรอง หรือที่เราเรียกวา มคั คุเทศกทอ งถิ่น (Local Guide) น่ันเอง มคั คุเทศกท องถนิ่ ทนี่ าํ เทย่ี วคนไทยในประเทศจนี นโี้ ดยมากสามารถนาํ เท่ียวเปน ภาษาไทยได เน่ืองจากอาจ เปน คนไทยทไ่ี ปประกอบวชิ าชพี หรือมคี รอบครวั กับคน จีน หรืออาจเปนคนสัญชาตจิ นี ทฝี่ กพูดภาษาไทยเพอื่ ประกอบ วชิ าชพี มคั คเุ ทศก โดยเฉพาะ สว นในกรณีการจดั นาํ เท่ียวแบบ Inbound (นําชาวตา งประเทศ ทองเที่ยวภายในประเทศ ไทย) ก็จะมีลกั ษณะทตี่ รงขามกนั คือ คนทนี่ ําคณะทวั รม า หรือเรียกวา หวั หนาทวั ร ( Tour Leader) จะเปน ตวั แทนของ บริษทั นําเทีย่ วใน ตา งประเทศ เปนคนสัญชาติเดยี วกบั นกั ทอ งเทย่ี ว เมอ่ื มาถึงประเทศไทยผทู จ่ี ะทาํ หนาท่นี าํ เทีย่ วก็คือ มคั คเุ ทศก (Guide) ทีเ่ ปน คนไทยทสี่ ามารถส่ือสารภาษาของ นักทอ งเทีย่ วได ซงึ่ หวั หนาทวั รและนักทองเทย่ี ว ชาวตางชาตกิ จ็ ะเรยี กมัคคเุ ทศก คนไทยนีว้ ามคั คุเทศก (Guide) หรือมัคคเุ ทศกท อ งถิน่ (Local Guide) นั่นเอง

อยางไรก็ตามคนท่ีเปนหัวหนาทัวร (Tour Leader) ถึงแมจะมีหนาที่หลักในการ อํานวยความสะดวกแก นักทองเท่ียว แตก็ควรมีความรูเก่ียวกับประเทศท่ีไปเยือน ดวยเพ่ือทจ่ี ะไดอ ธิบายใหนักทองเที่ยวทราบขอมูลตางๆ ขณะเดินทาง เพราะบาง ประเทศในระหวางการเดินทางบางชวงจะไมมีมัคคุเทศกทองถ่ินติดไปกับรถ นอกจากนี้หัวหนา ทัวรอาจตองทําหนาท่ีในการแปลความจากมัคคุเทศกทองถ่ิน (Local Guide) ใหนักทองเท่ียวได เขาใจไดดวย เนื่องจาก บางคร้ังมัคคุเทศก ทองถิ่นอาจส่ือสารภาษาของนักทองเท่ียวไดไมชัดเจนหรืออาจส่ือสารเปน ภาษาอังกฤษ(บางประเทศ อาจมีมัคคุเทศกทองถิ่นที่พูดได เฉพาะภาษาอังกฤษ) หัวหนาทัวรก็ตองมีหนาท่ีในการอธิบายใหนักทองเท่ียวได เขาใจอีก ทอดดวย อีกท้ังในบางโอกาสโดยเฉพาะชวงเทศกาลมัคคุเทศกทองถิ่นอาจขาดแคลน หรือ มัคคุเทศกทองถ่ินยังใหมกับ อาชีพน้ีมากผูทําหนาที่หัวหนาทัวรก็ย่ิงตองทําหนาท่ี ทั้งสองอยางควบคกู นั ไปใหไ ดอ ยา งมปี ระสทิ ธิภาพ จากเหตุผลดังกลาวขางตน จะเห็นไดวาหัวหนาทัวรกับมัคคุเทศก ทองถ่ินเปนบุคคลที่มีความสําคัญไมย่ิง หยอนไปกวากัน เพราะทั้งสองจะตอง ชวยกันทําใหการเดินทางทองเท่ียวเปนไปดวยความราบรื่น นักทองเท่ียวไดรับ ความรู ความสนุกสนาน และถึงแมม คั คเุ ทศกทองถ่ินจะทาํ งานในชว งระยะเวลาอัน สั้นกวา ไมไดอยูกับนักทองเท่ียว ตลอดเวลาเหมือนหัวหนาทัวร แตมัคคุเทศก ทองถ่ินก็ยังมีความสําคัญมาก เพราะเปนคนทองถ่ินท่ีมีความรูทุกเร่ือง หัวหนา ทัวรจึงตองอาศัยมัคคุเทศกทองถ่ิน เปนผูใหคําแนะนํา และชวยเหลือแกไขปญหา แทบทุกอยาง หากขาด มัคคุเทศกทองถ่ิน หัวหนาทัวรก็ไมสามารถท่ีจะใหขอมูล และนํานักทองเท่ียวไปยังที่ตางๆ ไดอยางราบร่ืน และท่ีสําคัญใน หลายประเทศอาชีพมัคคุเทศกเปนอาชีพสงวนมีไวสําหรับคนใน ประเทศน้นั ๆ หัวหนาทวั รจ ึงไมส ามารถทาํ หนา ทเ่ี ปน มคั คุเทศกควบคู ไปดวยได เพราะจะเปน การทําผิดกฎหมายของประเทศเขา

สว นการนําเที่ยวแบบ Domestic หรือการนํานักทองเท่ียวชาวไทยเท่ียวในประเทศ คนท่ีเปน Guide กับ คนท่ีเปน Tour Leader มักเปนคนเดียวกัน เนื่องจาก มัคคุเทศกไมไดน ําเท่ียวไปตา งประเทศแตจ ะนําเทย่ี วคนไทย เทย่ี วในประเทศ จึงไม จําเปนท่ีจะตองใหใครมาทําหนาท่ีใหขอมูลความรูใดๆ อีก เพราะมัคคุเทศกไทย ยอ มรดู ีเกี่ยวกับ ประเทศไทยอยูแลว ยกเวนการตองเขาไปเที่ยวในสถานที่เฉพาะที่ ตองอาศัยผูรูเฉพาะดาน หรือตองเขาไปในสถานที่ท่ี กําหนดใหใชบริการนําเที่ยว จากเจาหนาท่ีของแหลงทองเท่ียวเทาน้ัน เชน การเขาไปในพระท่ีนั่งวิมานเมฆ การเยี่ยมชม พิพิธภัณฑบางแหง เขตพ้ืนท่ีบางจุดของอุทยานแหงชาติเปนตน จากความหมายเก่ียวกับมัคคุเทศกขางตนยังมีคําอีกหลายคําท่ีมีความหมายเหมือน หรือใกลเคียงกับคําวา มัคคุเทศก(Guide) แตอาจใชเรียกเปนชื่อเฉพาะหรือเรียก ตามลักษณะของการนาํ เทีย่ ว อยา งเชน Domestic Guide คอื ผูทีน่ าํ คนไทยเที่ยวในประเทศ หรือเปนการนํา เที่ยวบุคคลท่ีมีถ่ินพํานักถาวรใน ประเทศไทย เดินทางทองเท่ียวภายในประเทศ ของตน Inbound Guide คือ ผูที่นําเที่ยวนักทองเท่ียวตางประเทศ หรือนํา เทยี่ วบคุ คลทม่ี ไิ ดมถี ิ่นฐานถาวรใน ประเทศไทย โดยทําหนาที่นําเท่ียวเขาเหลานั้น ในประเทศไทย Outbound Guide คือ ผูที่นําเท่ียวนักทองเที่ยวไทย หรือนําเที่ยว บุคคลออกจากประเทศทเ่ี ปน ถิน่ พํานัก ถาวรไปทอ งเที่ยวยังประเทศอ่นื Freelance Guide หมายถึง มัคคุเทศกอิสระ ทํางานโดยไมสังกัด บริษัทใดบริษัทหนึ่ง จะถูกจางมาเปนคร้ัง คราวเพื่ออํานวยความ สะดวกในการเดินทางทองเท่ียว และหรอื เพื่อใหความรแู กน กั ทอ งเทย่ี ว

แมนซินี่ ( Mancini,M.1990) ไดใหคําจํากัดความวา Freelance Guide หมายถึง ผูมีความรูดานใดดาน หน่ึงโดยเฉพาะ เชน ความรูดานปาไม ประมง เคมี สัตว เปนตน จะถูกจางมาให เปนผูอธิบายถายทอดความรูแก นักทองเที่ยว หรือผูที่ถูกวาจางเปนคร้ังคราวเมื่อเวลามีมัคคุเทศกไมเพียงพอ บุคคลผูน้ีจะทํางานอสิ ระ ไมข้ึนกับบริษัท นาํ เทีย่ ว On Site Guide หมายถึง ผูท่ีนําชมสถานท่ีท่ีเปนจุดเดนทางการ ทอ งเท่ียว เชน สวนสนกุ สวนสตั ว ปราสาท โบราณสถาน อนสุ รณส ถาน เปนตน Museum Guide หรือ Docent หมายถึง ผูนําชมพิพิธภัณฑ หรือ เจา หนา ท่ีทคี่ อยอธบิ ายประจาํ หอง ตา งๆ ในพิพธิ ภัณฑเ พอ่ื คอยอธิบายแกผู เขาชม หรือเจาหนาท่ีพาชมพิพิธภัณฑเปนรอบตามเวลาที่กําหนด หรือรอจนมีผู เขาชม จาํ นวนมากพอจงึ จะนําชมพรอ มอธบิ าย City Guide หมายถึง ผูท่ีอธิบายจุดสําคัญๆ ของเมืองโดยอธิบายอยู บนรถขณะรถแลนก็อธิบายสองขาง ทางวามีสถานที่สําคัญจุดไหนบางที่ นกั ทองเท่ยี วควรทราบ Transfer Guide หมายถึง ผูท่ีทําหนาที่ ในการรับเขาหรือสงออก หรือทาํ ท้งั สองหนาทโี่ ดยอาจรับจาก สนามบินไปสงยังโรงแรมท่ีพัก หรือจากท่ีพัก ไปยังสนามบินหรือจากสนามบินไปยังแหลงทองเที่ยว หรืออาจรับสงจากที่ หนึ่ง ไปยังอีกท่ีหน่ึง โดยมิไดทําหนาที่ในการนําเที่ยว แตอาจแนะนําขอมูลเบ้ืองตน เก่ียวกับทองถิ่นหรือประเทศน้ันๆ ระหวางรถแลนผานกอนถึงจุดหมายปลายทางท่ี จะไปสง Sightseeing Guide หมายถึง ผูท่ีอธิบายไฮไลทจุดสําคัญตางๆ ของ เมือง โดยทําหนาท่ีนําเท่ียวคร่ึงวัน เชาหรือครึ่งวันบายหรืออาจนํา เที่ยวเต็มวัน หากทํา หนาท่ีขับรถ ไปดวยจะเรียกมัคคุเทศกที่ทํา หนา ที่ขับรถในเวลา เดียวกันวา Driven Guide จะทําหนาที่คลายกับ City Guide

นอกจากนี้ ยงั มมี คั คเุ ทศกอ กี ประเภทหน่ึงท่ีมีบัตรมัคคุเทศกถูกตองแต มิไดปฏิบัติหนาที่ในการบรรยายให ขอมูลความรูตามสถานท่ีตางๆ อยางที่ควรจะ ทํา แตจะมีหนาที่หลักในการประสานงานกับสถานประกอบการและหัวหนา ทัวร ชาวตางชาติ ซึ่งหนาท่ีในการบรรยายก็จะเปนของหัวหนาทัวรชาวตางชาติ อัน เนื่องมาจากวามัคคุเทศกไทยผูนั้นยัง ไมมีความชํานาญ ไมสามารถพูดในภาษา ของนักทองเทีย่ วทตี่ นนาํ เทีย่ วอยูได ซ่ึงการใหหวั หนาทวั รช าวตา งชาติมา บรรยาย และใหคนที่เปนมัคคุเทศกทองถิ่นนั่งคุมเชิงประสานงานเล็กๆ นอยๆ ดังกลาว เปรียบเสมือนการสรางภาพเพื่อ ไมให เจาหนาที่ของรัฐจับกุม ซ่ึงจากการกระทํา ในลักษณะดังกลาวภาษาทัวรจะเรียกมัคคุเทศกไทยผูนั้นวาซิทต้ิงไกด (Sitting Guide) และจะเรียกหัวหนาทัวรชาวตางชาตินั้นวามัคคุเทศกเถ่ือน หรือไกดผี ซึ่ง นิยามของของวาไกดผีหรือ มัคคุเทศกเถื่อนถือเปนภาษาที่พูดที่เขาใจกันในหมู มคั คุเทศกอ าชีพ ซงึ่ หมายรวมไปถงึ ผูท่ีนําเท่ียวแกนักทองเท่ียวโดย ไมมีใบอนุญาต ดวย ท้ังนี้หากเจาหนาที่มีหลักฐานในการกระทําดังกลาวทั้งมัคคุเทศกไทย และ หัวหนาทวั รช าวตา งชาติ ตลอดจนบรษิ ทั ท่ีจัดนําเท่ียวน้ันก็จะตองถูกดําเนินคดีตาม กฎหมาย อันเนื่องมาจากอาชพี มคั คเุ ทศกเ ปน อาชพี สงวน สาํ หรบั คนไทยนัน่ เอง

คือผูท ี่นําเทยี่ วไปตา งประเทศ ( Outbound Guide) หมายถงึ การนํา เท่ียวชาวไทยไปทองเท่ียวในตางประเทศ มัคคุเทศกประเภทน้ีไมมีใบอนุญาตใน การนาํ เท่ยี ว จะมีแตบัตรหัวหนา ทวั รในการอาํ นวยความสะดวก ณ ทาอากาศยาน โดยในตางประเทศโดยเฉพาะในแถบเอเชียจะมีมัคคุเทศกทองถ่ิน (Local Guide) คอยทําหนาที่บรรยายใหความรู เรา จะเรียกผูนําเที่ยวไปตางประเทศวาเปน ตัวแทนของบริษัทนําเที่ยว หรือหัวหนาทัวรซึ่งจะมีหนาที่เปนผูอํานวยความ สะดวกในดานตางๆ แทน เชน การอํานวยความสะดวกในการผานเขาออก ประเทศ ดังน้ัน ถาจะตองไปนําเที่ยวประเทศ แถบเอเชียที่มีมัคคุเทศกทองถิ่น ใหบริการ เชน จนี เกาหลใี ต สิงคโปร มาเลเซยี ญีป่ ุน กัมพชู า ฯลฯ เราจะนยิ ม เรียก ตัวแทนของบริษัทนําเท่ียววาหัวหนาทัวรจึงจะถูกตองกวาเรียกวามัคคุเทศก แตถาหากตองเปน ตัวแทนของบรษิ ัทนํา เทยี่ ว นาํ นักทอ งเทีย่ วไปเที่ยวยงั ประเทศที่ ไมมีมัคคุเทศกทองถิ่นซึ่งโดยมากวิชาชีพมัคคุเทศกของประเทศเหลาน้ีจะ ไมได เปนวิชาชีพสงวน ซ่ึงโดยมากไดแกประเทศแถบยุโรป-อเมริกา ตัวแทนของบริษัท นําเท่ียวผูนั้นจะตองทําหนาท่ีเปน ทั้งหัวหนาทัวรอํานวยความสะดวกตั้งแตอยูใน ประเทศไทย และเปนท้ังมัคคุเทศกในการบรรยายใหความรูระหวาง เดินทาง ทองเที่ยวในตางประเทศดวย ปจจุบันทางกรมการทองเที่ยวไดกําหนดใหผูที่จะนํา ทัวรไปตางประเทศตองมีบัตร หัวหนาทัวร(บัตร Tour Leader) ระหวางปฏิบัติ หนา ที่ดวย

นอกจากน้ีคําวามัคคุเทศกอาจเรียกตามการ ทําหนาที่เฉพาะในดานตางๆ เชน Fishing Guide, Diving Guide, Trekking Guide และอ่ืนๆ อีกมากมาย ซ่ึงการเรียกชื่อมัคคุเทศก จะขึ้นอยูกับลักษณะการนําเท่ียวไปในแหลง ทองเที่ยวน้ันๆ เปนประการสําคัญ จากการ เรยี กมคั คุเทศกตามลกั ษณะตา งๆ ดงั กลา วขา งตน พอจะสรปุ การทําหนาที่ในการนําเที่ยวได เปน สองกลุมใหญๆ กลุมแรกคือผูท่ีนําเท่ียวภายในประเทศไทยซ่ึงจะมีอยูสองประเภท ไดแ ก มัคคเุ ทศกท ีน่ าํ เทีย่ วคนไทย (Domestic Guide) และมัคคุเทศกที่นําเท่ียวชาวตางชาติ (Inbound Guide) มัคคุเทศกที่นําเที่ยวท้ังสองลักษณะนี้ จะตองมีใบอนุญาตใหประกอบ วิชาชีพมัคคุเทศกท่ีถูกตอง มัคคุเทศกหลายคนมีความสามารถนําเที่ยวไดท้ังชาวไทยและ ชาวตา งชาติ หรอื สามารถนาํ เทีย่ วโดยใชภ าษาไดห ลายภาษาก็จะมีโอกาสเลือกในการทํางาน ไดมากกวา โดยมัคคุเทศก กลุมแรกน้ีจะนําเท่ียวภายในประเทศไทยเหมือนกัน แตอาจ ตางกันตรงทีข่ อบเขตสถานทค่ี วามรูแ ละภาษาทจ่ี ะบรรยาย โดยตองคํานึงถึงขอบเขตในบัตร อนุญาตการเปนมคั คุเทศกแ ตละประเภท ซ่ึงจะกลาวถึงตอไป

ประวตั ิความเปนมาของอาชีพมัคคเุ ทศก มัคคุเทศก เปนคําท่ีเริ่มคุนเคยกันภายหลังจากท่ีอุตสาหกรรม ทองเที่ยวเริ่มเติบโตเปนอยางมาก (ตั้งแตป พ.ศ.2526 เปนตนมา) ในอดีตการ เดินทางมักไมพ่ึงพาอาศัยมัคคุเทศก เน่ืองจากเปนการเดินทางท่ีเนนการแสวงหา ดินแดนใหม แสวงหาสภาพภูมิศาสตรที่แตกตางไปจากเดิม หรือเปนการแสวงหา ความเชื่อสวนบุคคล การเดินทาง สมัยกอนจึงไมอาจกลาวไดวาเดินทางเพ่ือการ ทองเท่ียวไดอยางจริงจังเต็มที่นัก กลาวคือรูปแบบของพาหนะการเดินทาง แบบ ตามมตี ามเกิด ถนนหนทางก็ไมดี ไมมีปายบอกทางท่ีชัดเจน คนที่จะเปนผูนําทาง ก็ไมมเี ครือ่ งไม เครอื่ งมอื พรอมสรรพเหมอื นเชนปจ จุบนั จากในอดตี ผูท จ่ี ะมาเปน ผูนําทาง จะตองสามารถสังเกตดวงดาวบนทองฟา และทิวทัศน สองขางทางเปน ตวั นาํ ทางไปในทศิ ทางที่ตองการ ตอ มาก็มีการทาํ แผนที่ และนําเข็มทิศมาชวย ซ่ึง ก็ทําใหการนําทางและ การเดินทางเปนไปอยางสะดวกขึ้น และหลังจากท่ีมีการ คมนาคมที่สะดวกทั้งทางภาคพื้นดิน ทางน้ํา ทางอากาศ ทําให เกิดการเดินทาง กันมากข้ึน มีการบันทึกการเดินทางบรรยายลักษณะสถานที่ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ภาพถายดาวเทียม ใชระบบ GPS ประกอบการเดินทาง และขอมูล อน่ื ๆ อีกมากมาย ซ่ึงสิ่งตางๆ เหลาน้ีสามารถนํามาประกอบกันเปนตัวนํา ทางได เปนอยางดี ทําใหประหยัดเวลาในการเดินทางแกคนรุนหลังเปนอยางมาก และ หลังจากการศึกษาสภาพภูมิศาสตร ของโลกมีความชัดเจน มีการจัดทําเปนแผนที่ เอกสารหนังสอื ตาํ ราเพอื่ เออื้ แกการเดนิ ทางมาก กวา แตก อ น การเดนิ ทาง เพ่ือศึกษาสภาพภูมิศาสตรจึงนอยลง แตจะเกิดการเดินทางเพื่อศึกษา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีและสิ่งตางๆ ท่ีสรางสรรคจาก มนุษย รวมถึงเดินทางเพื่อหาความสุขจากการไดชื่นชมธรรมชาติอัน สวยงามอยูแทน เชนเดียวกับ วิวัฒนาการของมัคคุเทศก ท่ีมีการ พัฒนากาวหนาเปนรูปแบบที่ชัดเจนข้ึนเร่ือยๆ จนกลายเปน สวนประกอบจําเปนท่ี แทบขาดไมไดของการเดินทางทองเที่ยวใน ปจจุบันบุคคลที่ทําหนาที่เปนผูนําทาง มีปรากฏตั้งแตการเดินทางใน ยคุ แรก

ทัง้ นี้เพราะมนษุ ยมีลกั ษณะของการ ดําเนินชีวิตอยางเรรอนมาแตอดีต เพ่ือแสวงหาถ่ินที่อยู ท่ีมีความอุดมสมบูรณและปลอดภัย แมวาจะมีวิวัฒนาการ รูปแบบของการดํารงชีวิตท่ีดีข้ึน โดยการตั้งถิ่นฐานใหมๆ แตสัญชาติญาณของการเดินทางยังคงมีอยูในตัวของมนุษยทุกคน ท้ังนี้เพ่ือตอบสนองความตองการท่ีจะคนหาสิ่งใหมๆ ใหกับชีวิต หรือเพ่ือวัตถุประสงคอื่นๆ ท่ีจะนํามาซึ่งความ พอใจ คําวาผูนําทาง (Pathfinder) หรือผูดูแล (Mentor) ไดมีบทบาท เปนผูนําการเดินทางทองเที่ยวในประวัติศาสตร ของชาวตะวันตก นับแตยุคอาณาจักร โบราณ เมื่อหลายรอยปกอนคริสตกาล ที่เร่ิมมีการเดินทางเพ่ือเย่ียมชมความงดงามที่ ย่ิงใหญของศิลปะ และสถาปตยกรรมท่ีเปนส่ิงมหัศจรรยของโลกยุคโบราณ และเมื่อ ครสิ ตศาสนาเร่ิมฟนฟูใน ยุคกลาง (The middle Ages) มีการเดินทางเพื่อจาริกแสวงบุญ ไปยังสถานที่สําคัญทางศาสนา รูปแบบของการเดินทาง เริ่มพัฒนาไปสูการเดินทางเปน กลมุ โดยมีผูนาํ การเดินทางที่มีความรูค วามชํานาญในเสน ทางอํานวยความสะดวกและ ดูแล ความปลอดภัยใหก บั ผูเดนิ ทาง ภาพลักษณของมัคคุเทศกชัดเจนมากย่ิงข้ึนในปลายยุคกลางตอเนื่องถึงตนยุค ใหม (The Modern Ages)เมอื่ มีการฟน ฟศู ิลปวิทยาการ กอ ให เกิดกระแสของการเดินทาง ของคนกลมุ ใหญท ี่ เรียกวา Grand Tour เปนการ เดินทางที่มีเปาหมายของการทองเที่ยว ทช่ี ัดเจนข้นึ กลุม นกั ทอ งเท่ยี วพากนั เดินทางเย่ยี มชมและศกึ ษาศลิ ปะวทิ ยาการ ตางๆ หลาย ประเทศในยโุ รป เชน อติ าลี เยอรมัน และฝร่ังเศส เร่ิมมีความตองการผูนําทางท่ีมีความรู ความสามารถ หลายๆ ดาน มัคคุเทศกในยุคน้ีจึงมาจากบุคคลหลากหลายอาชีพ ท่ีมี ความรูเกี่ยวกับประวัติศาสตร วรรณคดี สถาปตยกรรม และกิจกรรมตางๆ ท่ีเกิดขึ้นใน ชว งเวลานนั้ รวมท้ังสามารถพูดไดหลายภาษา (ตุย ชมุ สาย, ม.ล., และ ญิบพัน พรหมโยธี, 2527) การปฏวิ ัติอตุ สาหกรรม (The Industrial Revolution)ราวคริสตศตวรรษที่ 18 - 19 มีผลทําใหเ กดิ การเปลี่ยนแปลงรปู แบบของการดําเนินชีวิตของประชาชน นําไปสกู าร ขยายตัวของกลมุ ชนช้ันกลางที่มีโอกาสเดินทาง ทอ งเทีย่ วมากขน้ึ นักทอ งเที่ยวจงึ มิไดจาํ กดั อยูเฉพาะกลมุ ชนช้ันสูงและผทู ีร่ ่าํ รวยเทาน้ันประกอบ กับการคมนาคมขนสง และสิ่งอํานวยความสะดวกทางการทอ งเท่ียว ไดร บั การพัฒนาใหส ะดวกสบายย่ิงข้ึน ผูค นนิยมเดินทางทอ งเท่ียว ธรุ กิจ นําเทยี่ ว และอาชพี มัคคเุ ทศก จึงมีบทบาทในการบรกิ ารทองเท่ยี วมากขึ้นราวกลาง ครสิ ตศ ตวรรษท่ี 19 โธมสั คกุ (Thomas Cook) เร่มิ จัดนาํ เท่ียวเปน กลุม ทางรถไฟในประเทศ อังกฤษ

โดยมมี คั คุเทศกทีไ่ ดร บั การฝกอบรมจากบริษทั เปนผูนําเที่ยวและอํานวยความสะดวกระหวาง การเดินทาง นับ วาโธมัส คุก (Thomas Cook)เปนผูนําในดานธุรกิจทองเท่ียวและพัฒนา อาชพี และมาตรฐานของมัคคเุ ทศก หลังจากน้ันประมาณตนคริสตศตวรรษท่ี 20 มีการออกระเบียบขอบังคับ สําหรับผูประกอบอาชีพมัคคุเทศก ท้ังในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และประเทศอ่ืนๆ ในยุโรป โดยกําหนดใหมัคคุเทศกจะตองมีความรูความสามารถในการท่ีจะให บริการแก นักทองเทีย่ ว มีการทดสอบกอ นทีจ่ ะออกใบอนุญาต รวมทัง้ มกี ารฝก อบรม ความรู บทบาท หนาที่ของมัคคุเทศกใหกับผูที่จะประกอบอาชีพมัคคุเทศก สําหรับประเทศไทยบุคคลท่ี ไดรบั การยกยอ งวา เปน พระบดิ าของมัคคุเทศกไทยก็คือ สมเด็จฯ กรมพระยา ดํารงราชานุ ภาพ ซึ่งหากกลาวถึง “สมเด็จฯ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ” เชื่อวาหลายตอหลายคนคง นกึ ถึงผลงานของ ทานในดานประวัติศาสตรและการบุกเบิกงานโบราณคดี โดยทานไดทรง นิพนธหนังสือตางๆ ท่ีมีคุณคาทางประวัติศาสตร ไวมากมาย จนไดรับการยกยองให เปน “พระบิดาแหง ประวัติศาสตรและโบราณคดีไทย” สําหรับประวัติของสมเด็จพระเจาบรมวงศเธอ พระองคเจาดิศวรกุมาร กรม พระยาดํารงราชานุภาพน้ัน ทรงเปน พระโอรส พระองคท่ี 57 ในสมเด็จพระจอมเกลา เจา อยหู ัว ประสูตแิ ตเ จาจอมมารดาชุม พระสนมเอก เม่ือวันเสาร เดือน 7 แรม 9 คํ่า ป จอ ตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2405 สมเด็จพระบรมชนกนาถ พระราชทานนาม พระองคเจาดิศวร กุมาร สมเด็จพระยาดํารงราชานุภาพ ทรงเริ่มเขารับราชการ เปน นักเรียนนายรอยทหารบก กรมนายรอย เม่ือป พ.ศ. 2418 ไดรับการสถาปนาเปนกรม หม่ืนดํารงราชานุภาพ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2442 ในรัชกาลท่ี 5 ในสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัว ทรงรับราชการในตําแหนง นายพลโทราชองครักษ และเปนอธิบดีกระทรวง ธรรมาธิการ เปนเสนาบดีกระมรวงมหาดไทย เปนราชทูตพิเศษ เสด็จไปยุโรป 1 คร้ัง ครั้นภายหลังทรงไดรับพระกรุณาโปรดเกลาฯ เลื่อน ขึ้นเปนกรมพระยาดํารงราชานุภาพ เม่ือ วันท่ี 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2454 ครัน้ ถงึ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกลาเจาอยูหัว โปรดเกลา ฯ เลื่อนเปน สมเด็จกรมพระ ยาดํารงราชานุภาพ เม่ือวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2472 เปน อภิรัฐมนตรี และเปนนายกราชบัณฑิตยสภา เม่อื ปข าล พ.ศ. 2469

หลงั เปลีย่ นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 พระองคจ ึงละกิจการทง้ั ปวงเสด็จไปประทบั ท่ีหัว หิน ตาม คําแนะนําของแพทย และตอมาอีก 1 ป ก็เสด็จไป ประทับที่ปนัง จนกระท่ัง เดือน ตลุ าคม พ.ศ. 2485 ก็เสดจ็ กลบั กรุงเทพ ฯ และส้ินพระชนมเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2486 ดว ยพระหทัยหยุดทาํ งาน รวมพระชนมายุได 81 พรรษา นอกจากสมเด็จฯ กรมพระยาดํารงราชานุภาพจะไดรับการยกยองให เปน “พระบิดาแหงประวัติศาสตรและ โบราณคดีไทย” แลว พระองคทานยังไดรับการยกยองให เปน \"พระบดิ าของมัคคุเทศกไทย\" อีกดวย เนื่องจาก พระองคทรงโปรดเสด็จประพาส ตามสถานท่ีตางๆ ในประเทศไทย พรอมทั้งศึกษาศิลปวัฒนธรรมไทย วิถีชีวิตความเปนอยู ตลอดจนแสวงหาความรูเร่ืองวิชาการตางๆ จนไดรับตําแหนงหนาท่ีเปน Lord Program Maker หรือ ผูจัดการ แผนการเดินทางใหกับพระมหากษัตริย ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัวรัชกาลที่ 5 เร่ืองนี้ทรง เลาไวในเร่ือง “เสือใหญ เมืองชุมพร” วาเพราะเหตุใด จึงโปรดใหฉันเปนผูจัดการเสด็จประพาส เปนเรื่องอันหนึ่ง ใน ประวัติของฉันเอง จะเลาฝากไวตรงนี้ เม่ือ พ.ศ.2432 (ร.ศ.108 ) พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกลาเจาอยูหัวเสด็จ ประพาสหัวเมืองปกษใต โปรดใหฉันไปตามเสด็จเปน มัคคุเทศก มีหนาท่ีเปนตนรับส่ังกะการประพาสท่ีตางๆ ตลอดทาง ที่เสด็จไป ฉันสนอง พระเดชพระคุณชอบพระหฤทัยสมเด็จพระพุทธเจาหลวง แตน้ันมาจึงทรงพระกรุณาโปรดให ฉันเปน ผูจัดการเสด็จประพาส แตชอบเรียกกันเปนคําแผลงภาษาอังกฤษวา Lord Program Maker ตามเสด็จประพาสตอมา เปนนิตย จนตลอดรัชกาลท่ี 5 และคงอยูใน ตําแหนงนั้นสืบมาในรัชกาลที่ 6 อีก 3 ป รวมเวลาที่ได เปนผูจัดการเสด็จ ประพาสอยู 26 ป จึงพน จากหนาทนี่ ั้น พรอ มกบั ถวายคืนตาํ แหนง เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย “ถึงรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกลาเจาอยูหัว โปรดใหกลับไปจัดการเสด็จประพาส ถวายอีก เม่ือ เสด็จเลียบหัวเมืองมณฑลพายัพอีกครั้งหนึ่ง และเม่ือเสด็จเลียบหัวเมือง ภูเกต็ อีกคร้ังหน่งึ จึงอา งไดวา ไดรับราชการเปน ผูจัดการเสด็จประพาสสนอง พระเดชพระคุณมา 3 รัชกาล แตเม่ือไปตามเสด็จคร้ังหลังสมเด็จพระ เจา อยูหัว กลับตอง ทรงระวังมิใหฉันเหนื่อยเกินไป เพราะตัวฉันแกชราอายุ เกือบ 70 ปแลว ก็เปนครั้งที่สุดซึ่งฉันไดจัดการเสด็จประพาส เพียงน้ัน” ดว ยเหตนุ ส้ี มเด็จฯ กรมพระยาดํารงราชานุภาพจึงไดรับสมญานามวา “พระ บดิ าของมัคคุเทศกไ ทย ”

และยัง ไดสถาปนาเอาวันคลายวันประสูติ 21 มิถุนายน เปน “วันมัคคุเทศกไทย” ซึ่งทาง สํานักงานทะเบียนธุรกิจนําเที่ยวและ มัคคุเทศกกรุงเทพมหานคร(ททท.) รวมกับสํานัก พระราชวัง พิพิธภัณฑและหอสมุดสมเด็จฯ กรมพระยาดํารงราชานุ ภาพ กองบังคับการ ตํารวจทองเท่ียว สมาคมมัคคุเทศกอาชีพ สมาคมรถทองเท่ียวและบริการ สมาคมเรือไทย และ มัคคุเทศกอิสระ ไดรวมกันจัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติ รําลึกถึงสมเด็จฯ กรมพระ ยาดํารงราชานุภาพ และเพ่ือถวาย เปนพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระ เจา อยูหวั ทรงครองสริ ริ าชสมบตั ิ 60 ป อาชพี มัคคุเทศกได เรม่ิ รจู กั และแพรห ลาย มากข้ึน ภายหลังสงครามเวียดนามจบลง(พ.ศ.2516-2518) ใน ระยะนั้นมีชาวตางประเทศเดิน ทางเขามาในประเทศไทยจํานวนมาก โดยเฉพาะผู เก่ียวของในแวดวงทหาร ที่สําคัญคือ บรรดาทหารอเมริกันท่อี ยปู ระจํา และท่ีมาพักผอ นจากการรบในสงครามเวียดนาม ซึ่งก็เปน ผลดีและถือวาเปนจุดเร่ิมตน ของอุตสาหกรรมทองเที่ยวไทยอยางแทจริง มีบริษัทนําเท่ียว เกิดขึ้นเปนจํานวนมาก โดยเฉพาะในเขตชายหาดจังหวัด ชลบุรี ซึ่งเปนที่ยกพลข้ึนบกของ ทหารอเมริกัน และเขตกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงสวนตางๆ ที่มีทหารและพลเรือนชาว ตา งประเทศประจําอยูและสัญจรไปมา แมวาสงครามจะยุติลงแลว แตนักทองเที่ยวจากสวน ตา งๆ ของโลกทง้ั ชาวยุโรป อเมริกัน อเมริกาใต ออสเตรเลีย รวมท้ังชาวเอเชีย ตางก็เดิน ทางเขามาเท่ียวในประเทศไทยจากการบอกเลาตอๆ กันไป ของคนท่ีเคยมาเท่ียวเมืองไทย เก่ียวกับความงามของทรัพยากรการทองเที่ยวของประเทศไทย ซ่ึงการเดินทางเขามา ทอ งเท่ยี วของชาวตางชาติดังกลาวทําใหบริษัทนําเที่ยว และแหลงทองเท่ียวตางๆ เกิดความ ตองการมัคคุเทศกที่สามารถ ส่ือสารภาษาตางประเทศ ไมวาจะเปนภาษาอังกฤษ ฝร่ังเศส เยอรมัน สเปน อิตาลี ญ่ีปุน และภาษาจีน ผูท่ีสามารถ ส่ือสารแตละภาษา ไดบางจึงเขา มามีบทบาทในการนําเท่ียวยุคแรก โดยในระยะนี้ผูท่ีเปนมัคคุเทศกจะมาจากผูท่ีมี ความสามารถในการพูดภาษาได โดยไมคํานึงถึงวาจะตองมีความรูพื้นฐานอ่ืนใด แตใน ความเปน จรงิ นั้นสถานภาพของมคั คุเทศกย ังไมเ ปนที่รับรองทางกฎหมาย เปนอาชีพที่ทํากัน ไดอยางเสรแี ละยังไมม พี ระราชบญั ญตั มิ าบังคบั ควบคุมและ คุมครอง บุคคลท่ี จะมาประกอบอาชีพเปนมัคคุเทศกไมจําเปนตองมีความรูสูง เพียงแตมีความรู ในภาษาของ นักทองเที่ยวโดยเฉพาะภาษา อังกฤษท่ีพอพูดส่ือสารไดก็อาจ เปน มคั คเุ ทศกไ ดแลว

กระทั่งป พ .ศ.2502 รัฐบาลสมัยจอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต ไดประกาศพระราชกฤษฎีกา จัดตงั้ องคการ สงเสริมการทอ งเทีย่ ว (อสท.) ขึ้นเปนองคกรอิสระ เพ่ือเปนการสงเสริมการ ทองเทยี่ วภายในประเทศ อาชพี มัคคุเทศกจ งึ เริม่ มสี ถานภาพทีช่ ดั เจนขนึ้ เพราะชว งที่ อสท . เกิดขึ้นใหมๆ น้ัน มัคคุเทศกได เขามามีบทบาทเปนอยางย่ิงใน อุตสาหกรรมทองเที่ยว หลายฝา ยจึงเห็นความจาํ เปนและความสําคญั ในการทีต่ องมมี าตรฐานของการเปนมัคคุเทศก องคก ารสงเสริมการทองเที่ยว (โดยพลโทเฉลมิ ชัย จารุวัสตร ผูอํานวยการ อสท . ในขณะ น้ัน) จึงไดรวมมือกับ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยจัดทําหลักสูตรอบรมมัคคุเทศกข้ึนเปนคร้ัง แรก ท่ีจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยในป พ .ศ.2504 และไดดําเนินการตอเนื่องมาจนถึง ปจ จุบนั ในระยะแรกไดก าํ หนดใหผ ูท ี่เขารับการอบรมตองเปนนักศึกษามหาวิทยาลัย ช้ันปที่ 3 ข้ึนไป หรือเปนบุคคลทั่วไปที่เรียนจบช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย การอบรมมัคคุเทศกน้ี เปนที่ ไดรับความ สนใจ มีผูสมัครเขารับการอบรมมากเกินกวาท่ีจะรับไดหมด จึงตองมี การสอบคัดเลือกและตองจัดอบรมติดตอกันมาเปน ระยะๆ หลายรุน และขยายจาก จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย มาเปนมหาวิทยาลัยศิลปากรดวย แตโดยมากผูผานการอบรม มกั ไมไ ดประกอบอาชีพมัคคุเทศก และผูท่ีประกอบอาชีพมัคคุเทศกสวนมากก็ไมไดสนใจที่จะ เขารบั การอบรม ชวงป พ.ศ.2502 สํานักพระราชวัง ไดออกระเบียบเกี่ยวกับการนําชม พระราชฐานใหมีการขอบัตรอนุญาต ซึ่งจะตองใชประกาศนียบัตรมัคคุเทศก ท่ี อสท. และ สถาบันระดับอุดมศึกษา เปนผูจัดอบรมออกให เปนหลักฐาน ทั้ง น้ี เพ่ือใหการจัดนําชม และการบรรยายเก่ียวกับสถานท่ีสําคัญเปนไปดวยความถูกตอง นับแตนั้นมาการอบรม มัคคุเทศกก็ มีความจําเปนสําหรับ ผูที่จะประกอบอาชีพมัคคุเทศก โดยถูกตอง และ หลังจาก อสท .ไดร วมมอื กับจุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยศิลปากรจัดอบรม หลักสูตรมัคคุเทศกตอเน่ืองกันถึง 6 รุน ในระยะเวลาเพียง 2 ป และ ได เพ่ิมความถ่ีใน การจัดอบรมจากปละหนึ่งรุน สลับกันระหวางจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ศิลปากรเปนป ละสองรุน นอกจากนั้นมหาวิทยาลัยศิลปากรยังไดจัดการ อบรมในหลักสูตรปริญญาตรี ซ่ึงนักศึกษาเปนผู เลือกเรียนและ ถาสอบผาน จะไดร บั ประกาศนียบัตรมัคคเุ ทศกพ รอ มกับปริญญาบัตรดวย จากนั้นภาควิชา ศิลปาชีพ คณะมนุษยศาสตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร ก็ไดจัดอบรมใน หลกั สตู รใหนกั ศึกษาภาควิชาดังกลาวดวย พรอมกันน้ีก็ไดจัดอบรม หลักสูตร วิชาการทอ งเท่ยี วสําหรบั บัณฑติ ท่รี องาน

ซ่ึงไดชวยผลิตมัคคุเทศกระดับ บัณฑิตออกสูตลาดเพ่ิมขึ้น สวนใน ตางจังหวัดหลักสูตร มัคคุเทศกก็ไดรับความสนใจ และได เร่ิมจัดอบรมตามภูมิภาคตางๆ โดยเร่ิมจากภาคเหนือ ตอนบน ดวยความรว มมอื ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม ภาคเหนือตอนลาง โดยมหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ พิษณุโลก ภาคใต ดวยความรวมมือของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร และภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยมหาวิทยาลัยขอนแกน ซ่ึง หลักสูตรการอบรมไดพัฒนา ปรับปรุงตลอดมา ทั้งในดานเนื้อหาวิชา และภาษาตางประเทศ แตเดิมมีเฉพาะ ภาษาอังกฤษ ก็เริ่มเพิ่มการอบรมในภาษาอื่นๆ ดวยเชน ภาษาเกาหลี ภาษาเยอรมัน ภาษาจนี ภาษาฝรั่งเศสเปนตน (วริ ิยาภา ชา ง เรยี น, ม.ร.ว., 2541 หนา 17-38) และเน่ืองจากแนวโนมการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมทองเที่ยวเปนไปอยาง รวดเร็ว ทําใหรัฐบาลเห็น ความจําเปนท่ีจะตองพัฒนาแหลงทองเท่ียว ส่ิงอํานวยความ สะดวก และปจจัยพ้ืนฐานทางการทองเที่ยวควบคูไปกับการ ที่ตองสงเสริมการตลาด ทองเท่ียว ดังนั้นเพื่อเปนการปรับปรุง อํานาจหนาท่ีของ อสท . ใหสามารถดําเนินการ ดังกลาว ขางตนได รัฐบาลจึงประกาศพระราชบัญญัติการทองเท่ียวแหงประเทศไทย พ.ศ.2522 ยกฐานะ อสท. เปนการทองเที่ยว แหงประเทศไทย โดยใชชื่อยอวา ททท. ให อํานาจในการพัฒนาการทองเที่ยว การลงทุน หรือรวมทุน เพ่ือริเร่ิมการ พัฒนาแหลง ทอ งเที่ยวและสิ่งอาํ นวยความสะดวกทางการทองเที่ยว มีการบรรจุแผนพัฒนาการทองเที่ยว ครั้งแรก ไวเปน สวนหน่ึงของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับท่ี 4 (พ.ศ.2520-2524) สง ผลใหอ ุตสาหกรรมทองเท่ยี วเร่ิมทํา รายได เปนเงินตราตางประเทศ สูงสุด เมื่อเทียบกับสินคาออกประเภทอื่นๆ จนเปนเหตุใหแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แหง ชาติฉบับตอ ๆ มาถงึ ฉบับปจจุบนั กไ็ ดบ รรจแุ ผนพฒั นาการทองเที่ยวไวดวยเสมอ

เกิดพระราชบัญญัติธุรกิจนําเที่ยว และมัคคุเทศก พ.ศ.2535 ขึ้นมีผลบังคับใชตั้งแตวันท่ี 18 พฤษภาคม พ.ศ.2535 เปนตนมา เพื่อควบคุมใหผูที่ ประกอบ อาชีพมัคคุเทศกได ยึดถือปฏิบัติใหถูกตองเปนไปอยางเรียบรอย ใจความสําคัญของพระราชบัญญัตินี้คือ ผูที่จะ ประกอบ อาชีพมัคคุเทศก จะตองมีใบอนุญาตการเปนมัคคุเทศกตามคุณสมบัติท่ี พระราชบัญญัติกําหนด เชน ตองมีสัญชาติไทย อายุไมต่ํากวา 20 ปบริบูรณ ตองได วุฒบิ ตั รผานการอบรมวิชามัคคุเทศก ฯลฯ เปนผลสงเสริมใหสถานภาพและ มาตรฐานของ มัคคุเทศกส งู ขึ้น ทสี่ าํ คญั มคั คุเทศกไดร บั การบรรจุไวให เปนอาชีพสงวน 1 ใน 39 อาชีพ ท่ีมีไวเฉพาะ สําหรับคนไทย ตามที่กําหนดไวในพระราชกฤษฎีกากําหนดงานในอาชีพและ วิชาชีพหามคนตางดาวทํา พ .ศ.2522 และ ตามพระราชบัญญัติการทํางานของคนตาง ดาว พ.ศ.2521 เปนอาชีพหนึ่งท่ีสรางความภูมิใจใหแกตัวผู เปนมัคคุเทศก เนื่องจากตอง เปนผูนําคนอื่น เปรียบเสมือน การเปน ตัวแทนของประเทศชาติ คนท่ีจะเปนมัคคุเทศกได ตองมี ความสามารถ มีความรูรอบตัว สามารถส่ือสารภาษาตางประเทศ เปนอาชีพที่มี หนามตี า หลายคนใฝฝนทจี่ ะประกอบ อาชีพน้เี นอื่ งจากเปน อาชพี ทร่ี ายไดดี ผลตอบแทนสูง ไดทํางานพรอมๆ กบั การไดทองเทีย่ ว ซงึ่ หาไดนอ ยนักในอาชีพทม่ี ี อยทู งั้ หมดในปจ จบุ ัน ภายหลงั จากการท่ี อตุ สาหกรรมทองเที่ยวไดดําเนินการมาชวงระยะเวลาหนึ่ง มีนกั ทองเที่ยวเขามาเที่ยวเปน จํานวนมาก ทาํ ให เริ่มเกิดปญหาเกี่ยวกับมัคคุเทศก เชน มี มัคคุเทศกเถ่ือน มัคคุเทศกหลายภาษาขาดตลาด มัคคุเทศก ขาดคุณภาพ การทองเที่ยว แหงประเทศไทยซ่ึงเปนหนวยงานที่ดูแลเร่ืองมัคคุเทศกในขณะน้ัน จึงรวมกับผูประกอบการ ในอตุ สาหกรรมทองเท่ยี วสัมมนาหาทางออกถงึ ปญ หาตา งๆ ทเ่ี กิดขึน้ ดังกลาวเปน ระยะๆ ทาํ ใหทราบถึงปญหา การขาด คุณภาพของมัคคุเทศก และคุณสมบัติของมัคคุเทศกท่ีผู ประกอบการพึงประสงค อยางแทจริง การทองเที่ยวแหง ประเทศไทยจึงไดมีการปรับปรุง หลักสูตรการอบรมมัคคุเทศกขึ้นในป พ.ศ.2542 มกี ารเพิม่ เตมิ เน้ือหาความรูในเรื่อง ตางๆ อีกมากมาย เพอ่ื ให เปน ไปตามความตองการของผปู ระกอบการมากขน้ึ โดยเฉพาะอยางย่ิง บัตรมัคคุเทศกทั่วไป - ตางประเทศ เพราะถือวาเปนบัตรท่ีครอบคลุมการ ทํางานมากท่ีสุด ซึ่งในทางปฏิบัติการทองเท่ียวแหงประเทศไทยได ประสานงานจัดใหมีหลักสูตรมาตรฐานการอบรมมัคคุเทศกมีการปรับปรุง หลักสูต รเปน ระยะๆ โดยวิธีหนึ่งจะมอ บให สถาบัน การศึกษาใน ระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศที่มีความพรอมไดนําหลักสูตรดังกลาวไปใช ดาํ เนินการเปดอบรม และนบั ต้งั แตเ ดือนเมษายน พ.ศ.2551

หลังจากท่ีมพี ระราชบญั ญตั ธิ ุรกิจนําเทย่ี วและมัคคเุ ทศกใหม ออกมาบงั คับใช หนาท่ี ในการ ดําเนินการสนับสนุนการอบรมหลักสูตรมัคคุเทศกก็ได เปล่ียนจาก ททท. มาอยูในความ ดูแลของสํานักงาน พัฒนาการทองเท่ียวซึ่งตอมาเปล่ียนช่ือเปนกรมการทองเท่ียว โดย สถาบันการศึกษาตองทําโครงการเสนอตอกรมการ ทองเท่ียว และจัดอบรมตามเน้ือหา มี การเดินทางตามเสน ทางที่กาํ หนด มกี ารฝกฝนการทําหนาท่ีมัคคุเทศกระหวาง อบรม และ สอบวัดผลใหผานเกณฑท่ีกําหนดในทายที่สุด สวนอีกวิธีหนึ่งในการไดมาซึ่งใบประกอบ วิชาชีพมัคคุเทศกก็ คือ การใหนักศึกษาที่เรียนจบปริญญาตรีสาขาเก่ียวกับดานการ ทองเท่ียวหรือมัคคุเทศก ที่เรียนตามรายวิชาท่ีกําหนด ใน หลักสูตรมาตรฐานการอบรม และดําเนินการเทียบรายวิชาเปนท่ีเรียบรอย ก็สามารถขอขึ้นทะเบียนเพ่ือขอรับใบอนุญาต จากนายทะเบียนธุรกิจนําเท่ียวและมัคคุเทศก จากนั้นจึงประกอบอาชีพมัคคุเทศกไดอยาง สมบูรณ ซึ่งปจจุบันผูที่ผาน หลักสูตรมาตรฐานการอบรมมัคคุเทศกนั้นจะมีความมุงหวัง แตกตางกัน เชน บางคนเขา มาเพือ่ ที่มุงหวงั ทจี่ ะเอาดี ทางดา นนี้อยางจริงๆ จังๆ บางคนก็ ใชเปนอาชีพเสริม บางคนก็มีไวเพ่ือประดับบารมี หรือใชเปนทางผานเพ่ือไตเตาไปสู จุดหมายท่ีสูงขึ้น เชน เปนเจาของบริษัททัวร บางคนก็เขามาตามเพ่ือนหรือมาโดยไมมี จุดหมาย โดยมิไดพิจารณาถึง อนาคตวาเรียนจบแลวะไปทําอะไร ยังไมรูความต้ังใจที่ แทจริงจริงของตน กลุมหลังนี้คอนขางอันตรายสําหรับวงการ มัคคุเทศกไทย เน่ืองจาก ความตั้งใจมีนอย ไมคิดที่จะเรียนรูอยางลึกซึ้งถึงความเปนไทย ไมพยายามท่ีจะเผยแพร ความ ดงี าม ความสวยงามในดานตางๆ ใหแกนักทองเท่ียวไดทราบ มุงหวังความฉาบฉวย ที่จะไดจากการทําอาชีพมัคุเทศก ซ่ึง อาจเปนผลเสียตออุตสาหกรรมทองเท่ียวไทยในภาย ภาคหนา การเปดหลักสูตรมาตรฐานการอบรมมัคคเุ ทศก ของ สถาบันการศึกษาตางๆ จึง ควรชวยกันตรวจสอบ คัดเลือกเนนเฉพาะผูที่มีความต้ังใจจริงให เขามาสูวิชาชีพมัคคุเทศก ซง่ึ จะเปน การชวยยกระดับมาตรฐานมคั คุเทศกไทยไดอ กี ทางหน่ึง ววิ ัฒนาการของมัคคเุ ทศก หลังมกี ารประกาศใชพระราชบัญญัติธุรกิจนําเท่ียว และมัคคุเทศก พ .ศ.2551 มี ผลบังคับใชเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ.2551 คุณสมบตั ิ ความหมาย บทบาทหนา ท่ี บทควบคุมกาํ หนดโทษมคั คุเทศกไดถูก กาํ หนดใหมใหครอบคลุมกวา งขวางบงั คับใชแ ละใชป ระโยชนจ ริงไดมากขึ้น

ความสาํ คัญของมัคคุเทศก มัคคุเทศกนับวาเปนบุคคลท่ีมีความสําคัญตอประเทศชาติในหลายๆ ดาน ไมวาจะเปน ความสาํ คัญท่มี ตี อ อตุ สาหกรรมทองเท่ยี ว ตอสงั คมวฒั นธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี ตอ นักทองเท่ียวเปนผูชี้แนะอธิบายสิ่งตางๆ สรางความเขาใจอันดีให เกิดขึ้นระหวาง นักทองเท่ียวกับแหลงทองเที่ยว ตอบคําถามทุกอยางท่ีนักทองเท่ียวสงสัยอยากรู ตลอดจน ทําหนาที่เปนผูอํานวยความสะดวกในการเดินทางทองเท่ียวใหนักทองเที่ยวไดรับความ สะดวกสบายและอุนใจ ท้ังชวยปองกันดูแลแกไขปญหาตางๆ ท่ีเกิดข้ึนใหลุลวงดวยดี ตอไปนีจ้ ะกลาวถงึ ความสําคญั ของมคั คุเทศกที่มตี อดา น ตา งๆ ดงั นี้ 1. ความสําคญั ของมคั คุเทศกตอบริษัทนําเที่ยว 1.1 เปนบุคคลที่ทําหนาท่ีอํานวยความสะดวกในการนําเที่ยว แกไขปญหา เฉพาะหนา แทนบริษทั นํา เท่ียว 1.2 เปนผรู กั ษาผลประโยชนใ นดา นตางๆ แทนบริษทั นําเท่ยี ว เชน คาใชจาย ในการทองเท่ยี ว การถกู เอารดั เอาเปรียบจากสถานประกอบการ 1.3 เปนผูท่ีจะสรางชื่อเสียง และคอยโฆษณาประชาสัมพันธ ใหกับบริษัทนํา เทีย่ วท่ตี นสังกดั ให นักทอ งเทยี่ วทราบ 1.4 เปนตวั แทนของบริษัทนําเที่ยว ในการสรางความสัมพันธอันดีกับสถาน ประกอบการที่เก่ียวของ ไมวาจะเปนโรงแรม รานอาหาร แหลงทองเท่ียว รานสินคาที่ ระลึก บริษทั รถ บรษิ ัทนาํ เทยี่ วอน่ื ๆ เปน ตน 1.5 เปน ผูเ กบ็ ขอมลู เก่ยี วกับนกั ทอ งเท่ียว แหลงทองเท่ียว โรงแรมที่พัก ราน อาหาร ตลอดจนขอมูล สถานท่ีอ่ืนๆ ที่เกี่ยวของ ขอมูลท่ีเปนปญหา ขอควรแกไข ขอเสนอแนะในการนําเท่ียวแตละคร้ังมารายงานใหบริษัทนํา เที่ยวทราบ เพ่ือใหบริษัทนํา ขอ มูลทไี่ ดไ ปปรบั ปรุงแกไ ขการใหบริการตอไป 1.6 เปนผูมีสวนสรางช่ือเสียงและความเจริญของบริษัท เพราะถาผูนําเที่ยวมี ศักยภาพในการทํางาน เปนที่ถูกใจนักทองเท่ียว และสามารถสรางความ ประทับใจ ก็จะมนี กั ทอ งเทีย่ วมาใชบ รกิ ารเพ่มิ ขนึ้

2. ความสาํ คญั ของมคั คเุ ทศกตอ นักทอ งเทยี่ ว 2.1 มัคคุเทศกจะเปนผูอธิบายประวัติขอมูลของสถานท่ีทองเท่ียวให นักทอ งเทีย่ วได เขา ใจ คอยตอบ ขอซักถามจากนักทองเที่ยว เปนท่ีปรึกษาสวนตัวไดในทุก เร่อื งท่ีเกย่ี วกบั การทองเทยี่ วในคร้ังน้ันๆ 2.2 นักทองเท่ียวจะไดประหยัดเวลาไมตองเสียคาใชจายใน การศึกษาแหลง ทองเท่ียว เน่ืองจากมี มัคคุเทศกคอยอธิบายใหขอมูลอยูแลว ทําใหการเดิรทางมีความ กระชบั และคมุ คามากกวา 2.3 มัคคุเทศกเปนผูสรางบรรยากาศเดินทางใหมีสีสรรค คอยสรางมุขเรียก รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ สรางกิจกรรมระหวางการเดินทางให เกิดความสนุกสนานในการ ทองเท่ียว สรางสรรคการเดินทางใหมีชีวิตชีวา ทําให นักทองเที่ยวไดมีรอยย้ิม ได แสดงออกอยางมีความสุข ไดผอนคลายไมเบ่ือหนายในการทองเท่ียว ทําใหการทองเท่ียว คร้งั น้ันมีประทบั ใจและรูสึกคมุ คา 2.4 นักทองเท่ียวไดทองเท่ียวดวยความปลอดภัยมากกวาไมมีผูนําทาง เน่ืองจากมัคคุเทศกจะเปนผู คอยดูแล ตักเตือนใหนักทองเท่ียวระมัดระวังในการทองเที่ยว ในจุดที่ควรระวังหรอื อาจเปนอันตราย 2.5 นักทองเที่ยวจะลดความเสี่ยงจากความไมรูไมเขาใจในการเดินทาง ทองเที่ยว เชน ลด ความเสี่ยง ในการหลงทางหรือการปฏิบัติอยางไมเขาใจในวัฒนธรรม ประเพณตี างถ่ิน เพราะจะมีมัคคเุ ทศกคอยชีแ้ นะบอกกลา ว 2.6 มัคคุเทศกจะเปนผูอํานวยความสะดวกใหแกนักทองเท่ียวใน แทบทุกๆ เรื่อง เชน ชวยอํานวย ความสะดวกในการเขาออกประเทศ ชวยตอรองราคาสินคาแทน นกั ทองเทีย่ ว ชวยขนสมั ภาระ เปน ตน 2.7 มคั คเุ ทศกท ําใหน กั ทอ งเท่ียวสามารถเทีย่ วไดอยางทว่ั ถึง ไมล ะเลยตอส่ิง สาํ คญั ทีค่ วรรู เปน ผคู อย รักษาเวลาอนั มคี า ของนักทอ งเทีย่ ว ใหนักทองเท่ียว ได เทีย่ วตามโปรแกรมท่ีกําหนด จัดสรรเวลาการทองเที่ยวแตละจุด ไดอยาง เหมาะสม 2.8 มัคคุเทศกจะเปนผูใหความชวยเหลือและแกไขปญหาเฉพาะหนาแทน นักทองเที่ยว เชน ถา นักทองเที่ยวทําพาสปอรตหาย ก็ชวยติดตอแจงไปยัง สถานทูต หรือกรณีนักทองเท่ียวเกิดเจ็บปวยก็ตองดูแลรักษาพาสง โรงพยาบาล เปนตน

3. ความสาํ คญั ของมคั คุเทศกตอทรัพยากรการทองเทีย่ ว 3.1 มัคคุเทศกท่ีดีจะเปนผูท่ีดูแลเอาใจใสคุมครองอนุรักษแหลงทองเท่ียวทุกๆ พ้นื ท่ีท่นี าํ เท่ียว ซงึ่ เปรียบเสมือนแหลงสรา งงานสรา งอาชพี ของตนแทนเจาหนาท่ีของแหลง ทอ งเทย่ี ว เพราะบางจุดเจา หนาที่ อาจดแู ลไดไ ม ทวั่ ถึง และมัคคเุ ทศกอ าจชว ยเปนหูเปนตา แกเจา หนา ท่ีได 3.2 มัคคุเทศกเปรียบเสมือนตัวแทนของแหลงทองเที่ยว ในการทําหนาท่ี เปนผูนําเท่ียว เปนผสู รา ง ภาพพจนและสรางความเขาใจอันดีระหวางนักทองเที่ยวกับแหลง ทองเท่ียว หรือกับคนในทองถิน่ และแนะนําชักชวน นักทองเที่ยวใหทองเท่ียวอยางถูกวิธีไม ทาํ ลายทรพั ยากรการทอ งเทย่ี ว 3.3 แหลงทองเท่ียวหลายแหงท่ีอยูนอกเหนือความสนใจ เน่ืองจากเขาถึงได ยาก ลําบาก แตมีความ สวยงาม ก็ตองอาศัยการประชาสัมพันธจากผู เปนมัคคุเทศกดวย เชนกัน จึงจะกลายเปนแหลงทองเท่ียวที่มีคานาสนใจ และแหลงทองเที่ยวหลายแหงก็มีจุด ขายเพิ่มมากขึ้นจากจินตนาการ หรือการคนพบสิ่งท่ีนาสนใจสวยงามใหมๆ จากผู เปน มัคคุเทศก 3.4 แหลงทองเท่ียวจะพัฒนาข้ึนมาไดสวนหนึ่งเกิดจากการรวมใจใหความ คิดเห็นขอเสนอแนะ โดยเฉพาะจากมัคคุเทศกท่ีจะทราบถึงจุดออน จุดแข็ง จุดดอยตางๆ ได เปนอยางดี จากการนํานักทองเที่ยวเขามาเย่ียม ชมบอยคร้ัง และไดนําขอคิดเห็นจาก นักทอ งเทยี่ วมาบอกกลาวตอใหแ หลง ทอ งเทีย่ วปรับปรุงใหมพฒั นาการทด่ี ีขึ้น

4. ความสําคัญของมัคคุเทศกต อ ประเทศชาติ และอตุ สาหกรรมทองเท่ยี วไทย 4.1 เปนผูใหขอมูลความรูเกี่ยวกับแหลงทองเที่ยว สถานที่ที่นาสนใจของประเทศ เน่ืองจากมัคคุเทศก จะเปนผูใกลชิดกับนักทองเท่ียว ดังนั้นความรู แนวคิดตางๆ เก่ียวกับ ประเทศท่นี ักทอ งเที่ยวจะไดรับจะขึ้นอยกู ับ มัคคุเทศกเ ปนสาํ คัญ 4.2 มัคคุเทศกนับวาเปนบุคคล ที่เปนตัวแทนของ ชาติ เปนบุคคลตัวอยางท่ีเปนแนวทา งใหก ับ นักทองเทยี่ วไดป ฏิบัตติ ามในส่ิงทดี่ งี าม เปน ผสู รา งความเขาใจอนั ดใี นทกุ เร่ือง 4.3 มัคคุเทศกนับเปนคนสําคัญท่ีคอยเช่ือมโยงใหบุคคลหรือธุรกิจตางๆ ท้ังท่ีเก่ียวของ โดยตรงและ โดยออมในอุตสาหกรรมทองเท่ียวไดขับเคล่ือนตอไปอยางเปนระบบดวยความ เขา ใจอนั ดจี ากการประสานโดย มัคคุเทศก 4.4 มัคคุเทศกในฐานะผทู ่เี ดินทางนําเท่ียวทพี่ บเห็นปญหาดา นอุตสาหกรรมการทองเที่ยว ในรปู แบบ ตา งๆ มากมาย ก็ควรท่จี ะทาํ ตนให เปนประโยชนโดยการเสนอแนะขอคิดเห็นที่ เปนประโยชนต อ การพัฒนาอตุ สาหกรรม ทอ งเท่ียวของชาตผิ า นหนวยงานตางๆ ทีเ่ กีย่ วของ ไมวา จะเปนกรมการทองเที่ยว ททท. ตาํ รวจทองเท่ียว ฯลฯ

5. ความสาํ คญั ของมคั คุเทศกตอ ธุรกจิ ทเี่ ก่ียวของกับการทองเท่ยี ว มคั คุเทศกใ นฐานะผนู ําเทย่ี วทมี่ นี กั ทองเท่ียวอยูในการดูแล นอกเหนือจากการ ท่ีจะนําพานักทองเที่ยว ไปยังแหลงท่ีเท่ียวตามที่ระบุในรายการแลว มัคคุเทศกยังตอง นําพานักทองเท่ียวไปยังสถานที่ตางๆ อีกมากมายเพ่ือให การทองเท่ียวในครั้งนั้นสมบูรณ ครบถวน นั่นคือ ตองนําพานักทองเที่ยวไปยังท่ีพักเพ่ือการพักผอนท่ีแสนสุข หลังจาก เหนด็ เหนื่อยจากการเดินทาง พานกั ทอ งเทีย่ วไปรบั ประทานอาหารเติมพลังในการทองเที่ยว พาไปซื้อของที่ระลึกท่ีถูกใจ ถามีเวลาเหลือก็จะพาเขาไปในที่ๆ เขาอยากไป เพ่ือให นักทองเที่ยวไดรับความสุขกายสบายใจระหวางการเดินทาง ทองเที่ยวใหมากท่ีสุด ซึ่ง สถานท่ที ม่ี คั คุเทศกพานกั ทองเท่ยี วไป ไมวาจะเปนโรงแรมที่พัก รานอาหาร รานขายของที่ ระลึก รวมตลอดไปจนถึงปมน้ํามัน พอคาแมขายที่อยูตามแหลงทองเที่ยวตางก็ไดรับ ประโยชนและยินดีดีใจเปนอยางยิ่ง ที่มัคคุเทศกนําลูกคามาให ถึงแมสถานที่บางแหง มัคคุเทศกจะไมได เปนผูประสานติดตอเองโดยตรง แตก็ถือวาเปน ตัวแทนของบริษัทนํา เท่ียวที่ธุรกิจสถานประกอบการตางๆ ใหความเกรงใจ และพรอมท่ีจะใหการตอนรับขับสู อยา งดี มคั คุเทศกจึงเปรียบเสมือนตัวแทนพนักงานขายของสถานประกอบการตางๆ สถาน ประกอบการธุรกิจตางๆ จะสามารถ ลดภาระตนทุนดานการตลาดไปไดมากหากมี มคั คเุ ทศกค อยชว ยเหลอื ประชาสมั พนั ธใ ห ถา หากไมมมี คั คเุ ทศก หลาย ธรุ กิจคงดาํ เนินการ ตอไปไดอยางยากลําบากเชน ธุรกิจรานขายของที่ระลึก หรือธุรกิจแหลงเขาชมท่ีเนน รายการนําเท่ียว เสริมพิเศษ (Option Tour) สวนธุรกิจอ่ืนๆ ก็ตองชวยเหลือตัวเองมาก ขึน้ หากปราศจากมคั คุเทศกนาํ พานักทองเท่ียว มาใชบริการ จากที่กลาวมาจึงไมอาจปฏิเสธ ไดวามัคคุเทศกนับเปนบุคคลสําคัญที่มีสวนทําใหการดําเนินธุรกิจท้ังหลายท่ี เก่ียวของ สามารถดํารงกจิ การไดอยา งกาวหนา ตอ ไป

โอกาสและความไดเ ปรียบ ของอาชีพมคั คุเทศก ตอ ไปนคี้ อื เหตุผล ที่ทําใหคนท่ัวไปอยากเขา มาทาํ งานเปน มัคคุเทศก 1. เปนอาชีพที่มีเกียรติ เปรียบเสมือนเปนตัวแทนของประเทศชาติ สังคมใหการยอมรับ สรา งความภูมใิ จ ใหแกต นเองและครอบครัว 2. เปน อาชีพทต่ี องปรบั ใชภาษาในการส่ือสารใหนาสนใจอยูตลอดเวลา ผูท่ีประกอบอาชีพนี้ จงึ ได เปรยี บใน เรือ่ งภาษา คือพดู เกง และพูดเปน 3. เปน อาชีพท่ีไดท ํางานพรอ มๆ กบั การไดทอ งเท่ยี วในโลกกวา ง 4. เปนอาชีพท่ีไดพบปะผูคนมากมายหลายอาชีพ หลายสังคม หลายชนช้ัน มีเพ่ือนทุก ระดับช้ัน ทําให มัคคุเทศกมีโลกทัศนกวางไกล จากการไดแลกเปลี่ยนทัศนะกับบุคคลท่ีมา จากหลากหลายลักษณะดังกลาว 5. เปนอาชีพท่ีมีรายไดท่ีสามารถเลี้ยงตัวเองได รายไดไมหยุดนิ่ง นอกเหนือจากเบี้ยเลี้ยง รายวันแลว ยังมี คา นายหนาจากการพานักทองเท่ียวไปซื้อของท่ีระลึกซ่ึงจะทําใหมัคคุเทศก สนกุ และต่ืนตัวกับงาน และหากบริการเปน ที่ ถกู ใจประทบั ใจกับนักทองเท่ียวแลวอาจไดรับ ทิปซ่ึงก็จะทํามัคคุเทศกใหมีแรงกําลังใจ สรางความภูมิใจและตั้งม่ันท่ีจะ ทํางานในหนาที่ มคั คุเทศกใ หด ียง่ิ ๆ ขน้ึ ไป 6. เปนอาชีพท่ีไมมีกําหนดวันเวลาทํางานตายตัว ไมตองมาตอกบัตรทํางาน เวลาทํางาน ข้นึ อยูกบั ความพงึ พอใจของตวั มคั คุเทศกเองดว ย 7. เปนอาชีพที่ไดรับอภินันทนาการจากสถานประกอบการตางๆ ท่ีเก่ียวของมากมาย ไม วาจะเปน รานอาหาร ท่ีพัก แหลงเขาชม ฯลฯ ซ่ึงจะชวยใหมัคคุเทศก สามารถประหยัดคาครองชีพ-คาใชจายในการเดินทาง ทองเท่ียวและใน ชวี ติ ประจําวันไดอยางดี

8. ผูท่ีประกอบอาชีพมัคคุเทศกสามารถมีงานประจําอื่นๆ โดยอาจทําอาชีพมัคคุเทศกเปน อาชีพเสริมดวยก็ ได เพราะตามปกติแลวเวลาทํางานของมัคคุเทศกมักจะเปนวันหยุด (เสาร-อาทิตย หรือเทศกาลตางๆ เชน ปใหม สงกรานต ฯลฯ) อยูแลว จึงไมนาจะทําให กระทบตอเวลาในงานประจํา หรือในทางตรงขามอาจยึดอาชีพมัคคุเทศกเปน อาชีพหลัก และหางานอืน่ ทําเปนอาชีพเสริมกไ็ ด เนอ่ื งจากมัคคเุ ทศกไมไ ดท ํางานทุกวนั นั่นเอง 9. เปนอาชีพท่ีมีอิสระเสรี สามารถเลือกงานที่จะนําเที่ยวตามความสามารถท่ีตนถนัด เปน งานไมเครียด (ถา ไมเจอนักทองเท่ียวเรื่องมาก) เพราะไดพบเห็นกับธรรมชาติที่สวยงาม แตก อ็ าจจะเหนอ่ื ยบา ง 10. เปนอาชีพท่ีนับวันวาย่ิงเปนที่ตองการของตลาดในอุตสาหกรรมทองเที่ยวมากข้ึน เน่ืองจากมีผูคน เดินทางทองเท่ียวมากข้ึนทุกปๆ โดยเฉพาะชวงหนาเทศกาลจะขาดแคลน มคั คเุ ทศกม าก โดยเฉพาะในภาษาที่ขาดแคลน 11. เปนอาชีพที่ทาทายความสามารถ เพราะตองทําหนาท่ีไดหลายอยางในคราวเดียวกัน และตองแกไข ปญหาเฉพาะหนาไดดี ซึ่งถาฝกบอยๆ ทํางานนานๆ ก็จะทําให เปนคนเกง และคลอ งตวั สามารถทนตอ ความกดดนั จาก หลายๆ รูปแบบ ไดฝ ก ความอดทนทัง้ กายและ ใจ 12. มัคคเุ ทศกเปน ผูทันตอโลกทันตอเหตุการณ ไมตกขาว ได เรียนรูได เห็นสิ่งใหมๆ อยู ตลอดเวลา จะทาํ ใหเปน คนท่ีทนั คน 13. เปนอาชีพท่ีสามารถนําเอาประสบการณการเดินทาง มาเปนใบเบิกทาง เพ่ือนําไปสู การ เปนเจาของสถาน ประกอบการที่เกี่ยวของกับธุรกิจในอุตสาหกรรมทองเที่ยวได เชน เจา ของบริษทั นาํ เทย่ี ว เจาของรา นอาหาร เจาของ ธรุ กจิ ที่พกั แรม เปน ตน 14. เปนอาชีพสงวนมีไวสําหรับผูที่มีสัญชาติไทยเทาน้ัน ทําใหชาวตางชาติไมสามารถมา ประกอบวิชาชีพน้ไี ด 15. เปนอาชีพท่ีไมตองมีเงินมาลงทุน การลงทุนที่สําคัญในอาชีพน้ีคือการ ลงทนุ ดว ยใจคอื ตอ งมีใจรักพรอ ม ท่จี ะใหบรกิ ารเปนประการสําคญั

อปุ สรรคขอจาํ กัด ของวิชาชพี มัคคเุ ทศก 1. กระบวนการควบคุมการผลิตมัคคุเทศกยังไมสามารถใชงานได เต็มศักยภาพ หรือผลิต ออกมาแลวก็ ไมไดใชงาน มัคคุเทศกหลายภาษาขาดแคลน หรือผลิตออกมาแลวมีผูที่ สามารถทําหนา ท่นี าํ เที่ยวไดจริงคิดเปนเปอรเซ็น ไดตํ่า โดยเฉพาะในสวนภาคที่จบจากการ เรียนปริญญาตรีสาขาดานการทองเท่ียว แตหากจบจากการอบรมระยะสั้นท่ี เปน บุคคลภายนอกเขามาฝก อบรมจะสามารถเขา สูวิชาชพี และปฏบิ ัตงิ านจรงิ ไดมากกวา 2. การแขงขันอาชีพเสรีในอนาคต ทําใหมัคคุเทศกตองปรับตัว โดยเฉพาะ Inbound Guide 3. เปน อาชพี ทไ่ี มม ีเงนิ เดือน ความมนั่ คงจึงสหู ลายอาชพี ไมได 4. เปนอาชพี ที่ไมม เี ครดติ ไมส ามารถกยู ืมแหลงเงนิ ทนุ ได เปนอาชีพท่ีรัฐไมไดจัดสวัสดิการ ใดๆ ให 5. เปนอาชีพที่ตองมีความอดทนสูง สามารถรองรับและปรับอารมณความรูสึกของแขกที่ หลากหลายได 6. การรวมกลุมกันไมเขมแข็ง ไมมีการตรวจสอบคุณภาพท่ีดี ไมมีสภาวิชาชีพเหมือนหลาย วชิ าชพี เชน หมอ พยาบาล วศิ วะ 7. เปนการชีพท่ีทํางานไมเปนเวลา อาชีพนี้จึงตองหมั่นดูแลสุขภาพตนเอง และจัดสรรค เวลาใหค รอบครัว ใหไ ดอ ยางลงตวั 8. เวลาทาํ งานสวนใหญข องมคั คุเทศกคอื วนั หยุดสําคัญทค่ี นทว่ั ไปใชพ กั ผอน 9. เน่ืองจากเปนอาชีพท่ีตองเร่ิมทํางานประจําวันกอนแขกตื่น และส้ินสุดเม่ือ หลังแขกเขาท่ีพักหรือตามเวลา ท่ีแขกเรียกใชบริการตองการความชวยเหลือ มัคคุเทศกจึงตองพรอมเสมอสําหรับการบริการ มีความพรอมของรางกาย จิตใจจงึ เปนส่งิ สําคญั ของอาชีพนี้ 10. เปน อาชพี ที่ตองแกปญหาหนา งานตลอดเวลา ปญหาทีเ่ กิดข้นึ สว นใหญจ ึง มกั เปน ปญ หาทีเ่ กดิ ขึ้น ปจ จุบันทันทวงที แมวา จะหาวธิ ปี อ งกันไวก อนแลวก็ยัง เกิดปญ หาอยเู สมอๆ

แนวทางการปรับตวั ของมัคคเุ ทศกไทย สูการเปดเสรอี าชีพมคั คุเทศกอ าเซยี น 1) ทําความเขาใจเก่ียวกับประชาคมอาเซียน ผูประกอบการไทยจํานวนมากยังขาดความรู และความตื่นตัว เก่ียวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เห็นไดจากผลการสํารวจของ มหาวทิ ยาลัยหอการคา ไทย พบวา ผปู ระกอบการ ขนาดกลางและขนาดยอม (SMEs) รอย ละ 79.5 มีความรูเ กี่ยวกบั ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียนนอยมาก ซึ่งผลเสียที่ เกิดขึ้นตามมา คือทําใหผูประกอบการทําให เสียโอกาสหรือไมไดรับสิทธิประโยชนจากประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนอยาง เต็มท่ี รวมท้ังทําใหขาดความตระหนักถึงความจําเปนในการเตรียมความ พรอมรองรับผลกระทบ ทาํ ใหอ าจไดร บั ผลกระทบรนุ แรงหรอื ไมสามารถปรบั ตัวเพ่อื รองรบั ผลกระทบไดดวยเหตุน้สี มาคมมัคคุเทศกอาจมีสว นชวยสรางความรูความเขา ใจแกสมาชกิ และ ผูท่ีเกี่ยวของซึ่งโดยการ ใหความรูพื้นฐานเก่ียวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมทั้ง ความรูท่ีเฉพาะเจาะจงเก่ียวกับขอตกลงและกฎระเบียบ ลาสุดท่ีเก่ียวกับอาชีพมัคคุเทศก ความรูเชิงวิเคราะหเกี่ยวกับผลกระทบตอธุรกิจที่เกี่ยวของกับการทองเที่ยว โดยเชิญ ผู เช่ียวชาญในแตละเรื่องมาใหความรู มีการตั้งคําถามอยางเฉพาะเจาะใหผู เช่ียวชาญชวย ตอบคําถาม เปน ตน

2) เรียนรูจักเพ่ือนบาน เน่ืองจากการศึกษาไทยไมใหความสําคัญกับการเรียนรูประเทศ เพ่ือนบาน ประวัติศาสตรไทยท่ีเกี่ยวกับเพื่อนบานมีเปาหมายเพื่อสรางความเปนชาตินิยม คนไทยจํานวนมากมีทัศนคติท่ีไมเปน มิตรหรือดูหม่ินประเทศเพ่ือนบาน ทําใหคนไทยไม รูจักประเทศเพื่อนบานและขาดความเขาใจเก่ียวกับสภาพสังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร ของประเทศเพ่ือนบานในอาเซียนอยางแทจริง สมาคมมัคคุเทศกควรใหความสําคัญกับการ เรียนรูจักประเทศเพ่ือนบานมากข้ึน โดยใหขอมูลและความรู เชิงลึกเกี่ยวกับประเทศเพื่อน บานอยางสมํ่าเสมอ เชน สภาพเศรษฐกิจ สังคม ประวัติศาสตรของประเทศเพื่อนบาน วัฒนธรรม คานิยมและความเชื่อของนักทองเที่ยวจากประเทศเพ่ือนบาน แหลงทองเที่ยว และผูใหบริการดานการ ทองเท่ียวในประเทศเพื่อนบาน สรางโอกาสปฏิสัมพันธกับคนของ ประเทศเพ่ือนบาน การดูงานหรือแลกเปล่ียนความเห็น กับมัคคุเทศกในประเทศเพื่อนบาน สรางความรวมมือกับสมาคมวิชาชีพมัคคุเทศกในประเทศเพ่ือนบาน สนับสนุน บริษัท ทองเที่ยวจางบคุ ลากรของประเทศเพอ่ื นบาน เปน ตน ประเด็นสําคัญท่ีมัคคุเทศกไทยควรให ความสําคัญในการเรียนรู คือวัฒนธรรมของชาวมุสลิม เน่ืองจากมี ประชาชนจํานวนมาก ในอาเซยี นทีน่ บั ถอื ศาสนาอสิ ลาม เฉพาะอนิ โดนีเซียประเทศเดียวก็มีมุสลิมสูงถึง 209 ลาน คน ความไมเ ขาใจอาจปดก้ันโอกาสขยายตลาดทอ งเทีย่ วไทยไปยังประเทศมสุ ลมิ ได 3) พัฒนามาตรฐานวิชาชีพและระบบฝกอบรมมัคคุเทศก ปจจุบันมัคคุเทศกไทยกําลัง ประสบปญหาท้ังเชิง คุณภาพและปริมาณ ปญหาในเชิงคุณภาพคือระบบการศึกษาผลิต มัคคุเทศกท่ีขาดคุณภาพอยางรุนแรง ทําใหมีบัณฑิต เพียงรอยละ 10 เทาน้ันที่สามารถ ทํางานไดจริง สวนที่เหลือตองฝกฝนอบรมกันใหม ขณะท่ีปญหาในเชิงปริมาณคือมี การ สงวนอาชีพน้ีไวให เฉพาะสําหรับคนไทย แตระบบการฝกอบรมมัคคุเทศกขาดคุณภาพ ทํา ใหมัคคุเทศกมีไมเพียงพอ กับจํานวนนักทองเที่ยวที่ขยายตัวสูง ซ่ึงอาจกอให เกิดปญหา มคั คเุ ทศกเ ถือ่ นรุนแรงขึน้ ในอนาคตอาชีพมัคคุเทศกตอง เผชิญการแขงขันรุนแรงขึ้น แมวา อาชพี มัคคเุ ทศกอาจยังไมได เปดเสรีในป 2558 แตอาเซียนมีการเจรจาเปด เสรีใน วิชาชีพตางๆ เพิ่มขึ้น มัคคุเทศกเปนหนึ่งในตําแหนงงานดานการ ทองเที่ยวท่ีอยูในกรอบการเจรจา สมาคมวิชาชีพ มัคคุเทศกจําเปนตองเรง พัฒนามัคคุเทศกทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ เชน การจัดต้ังสภาวิชาชีพ มัคคุเทศก การสราง มาตรฐานวิชาชีพมัคคุเทศกในประเทศไทย การสราง ความรว มมือกับสถาบันการศึกษาและสถาบันฝกอบรมในการ พัฒนาคุณภาพ ของบณั ฑิต เปน ตน

4) พัฒนาภาษาท่ีสาม โลกาภิวัตนและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะทําใหนักทองเที่ยวมี ความหลากหลาย มากขึ้น ปจจุบันนักทองเที่ยวชาวจีน เกาหลี ญ่ีปุน เขามาทองเที่ยวใน ภูมิภาคมากขึ้นและมีปญหาขาดแคลนมัคคุเทศก บางภาษาแลว เชน มัคคุเทศกภาษาจีน เปนตน ในอนาคตนักทองเท่ียวในภูมิภาคจะมีจํานวนเพ่ิมมากข้ึน หากไมเรง พัฒนา มัคคุเทศกภ าษาประเทศเพอื่ นบาน ไทยจะเสียโอกาสตอนรบั นักทอ งเที่ยวจากเพอ่ื นบา น และ หากมีการเปดเสรีการเคลื่อนยายมัคคุเทศก มัคคุเทศกไทยอาจเสียโอกาสออกไปทํางานใน ประเทศเพอื่ นบาน เนอื่ งจากขาดทกั ษะภาษา ของเพื่อนบา น ดังนั้น มัคคุเทศกไทยจําเปนตองเรียนรูภาษาที่ 3 นอกเหนือจากภาษาไทย และอังกฤษ ตองพัฒนาตนเอง ใหมีทักษะภาษาท่ี 3 หรือ 4 เพ่ือใหสามารถรองรับ นักทองเที่ยวที่หลากหลายข้ึน เพ่ือให เกิดประโยชนสูงสุดสําหรับ ภาพรวมประเทศและ สอดคลองกับบริบทโลกท่ีเปล่ียนแปลงไป การเรียนภาษาที่ 3 นั้นควรเลือกเรียน ภาษาตา งประเทศ ใน 3 กลุม ไดแก กลุมที่ 1 คือ ภาษามหาอํานาจเกา เชน ภาษาญี่ปุน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน กลุมท่ี 2 คือ ภาษามหาอํานาจใหม เชน จีน อินเดีย บราซิล (โปรตุเกส) รัสเซีย กลุม ที่ 3 คือ ภาษาในภมู ภิ าคอาเซียน

5) พัฒนาความรูและทักษะท่ีจําเปนในการประกอบอาชีพสมํ่าเสมอ มัคคุเทศกไทยควร กระตอื รือรน ในการ แสวงหาความรแู ละพัฒนาศักยภาพของตน แสวงหาความรเู พมิ่ เติมและ พัฒนาทักษะที่จําเปน ทันการเปลี่ยนแปลงเสมอ เชน ความรูลึกซ้ึง รอบดาน และถูกตอง เกี่ยวกับแหลงทองเทีย่ ว ทัง้ ความรดู านประวตั ศิ าสตร ความเปนอยู อาหารการ กิน ความ เชื่อ นาฏศลิ ป ดนตรี และอปุ นิสยั หรือวฒั นธรรมประเพณีโดยรวม รวมทัง้ แสวงหาความรู เก่ียวกับเสนทาง และแหลงทองเที่ยวใหมๆ เพ่ิมพูนทักษะทางดานการสื่อสาร การบรรยาย การนําเสนอขอมูล การสรางเครือขายความ รวมมือดานการทองเท่ียว ตลอดจนการใช เทคโนโลยีสมัยใหมในการใหบริการ เปนตน เพื่อใหสามารถใหบริการ นักทองเท่ียวได อยางมปี ระสทิ ธิภาพและเปน ทีป่ ระทับใจ 6) พัฒนาความรแู ละทกั ษะดานการทองเที่ยวเฉพาะดา น ความหลากหลายของนักทองเที่ยว และรูปแบบ การทองเท่ียว ทําใหมัคคุเทศกจําเปนตองเรียนรูเกี่ยวกับการทองเท่ียวเฉพาะ ดา นมากข้นึ โดยการเรียนรูความตองการ ของนักทองเที่ยวเฉพาะกลุม และสรางเครือขาย กับผู เชี่ยวชาญหรือผูใหบริการเฉพาะดาน เชน การเรียนรูเกี่ยวกับ บริการดานการแพทย ความรูเก่ียวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรคที่สําคัญๆ ความเชี่ยวชาญของแพทยและ โรงพยาบาล ความรเู ก่ียวกบั การแพทยท างเลือก (เชน การนวดแผนไทย สมุนไพร) เพ่ือให คาํ แนะนํากบั นกั ทอ งเท่ยี วท่ี เปน ผูปวยหรือญาติของผปู วยได หรือการเรียนรูเ กี่ยวกับธรุ กิจ

สรปุ ในอดีตคนท่ีจะเปนมคั คเุ ทศกไดน น้ั อาจมีความเปนผูนํา รูจักสังเกต ใชส่ิงรอบ ขางให เปนประโยชน และ สามารถใชภาษาสื่อสารไดบางก็สามารถเปนมัคคุเทศกไดแลว แตปจจุบันมัคคุเทศกจะตองผานกระบวนการในการ อบรม ทดสอบขอเขียนและสัมภาษณ จากสถาบันการศึกษาท่ีเปดอบรม โดยผานความเห็นชอบจากสํานักพัฒนาการ ทองเท่ียว เม่ือผานกระบวนการดังกลาวแลว จึงจะประกอบอาชีพมัคคุเทศกไดอยางถูกตอง สามารถ ออกไปปฏิบัติ หนาท่ีแทนบริษัทนําเท่ียว และสรางชื่อเสียงใหกับประเทศชาติได มัคคุเทศก โดยภาพรวม หมาย ถึง ผูมีหนาท่ีในการ นําเที่ยว ซึ่งระหวางการนําเท่ียวมัคคุเทศกจะ อธิบาย บรรยาย ใหขอมูลเก่ียวกับแหลงทองเท่ียวขอมูลที่นักทองเที่ยว ควรรู ตลอดจนมี หนาท่ีอํานวยความสะดวกชวยเหลือนักทองเท่ียวในเรื่องตางๆ เพ่ือใหนักทองเท่ียวไดรับ ความ สะดวกสบายในการเดินทางมากที่สุด และจากการที่ตองเก่ียวของกับนักทองเท่ียว ตลอดเวลา มัคคุเทศกจึงเปนบุคคลท่ี มีโอกาสในการที่จะสรางหรือทําลายภาพพจนของ ประเทศชาติได ภาครัฐบาลจึงไดออกพระราชบัญญัติธุรกิจนําเท่ียวและ มัคคุเทศก ฉบับ ลาสุดป พ.ศ.2551 มาควบคุมการทํางาน เพราะถือวามัคคุเทศกตองเปนตัวแทนของ ประเทศชาติ มี ความสําคัญตอประเทศชาติในหลายๆ ดาน ไมวาจะเปนการชวยสงเสริม สรางความเขาใจอันดีระหวางนักทองเท่ียวกับ คนในทองถ่ินหรือแหลงทองเท่ียว ชวยให นักทองเที่ยวเท่ียวอยางถูกวิธีไมทําลายธรรมชาติ เปนตัวแทน ของบริษัทนํา เท่ียวท่ีตน สังกัด และชวยในการสรางความเขาใจอันดีให เกิดข้ึนตอทุกฝาย ฯลฯ มัคคุเทศกจึงนับวา เปนบุคคลท่ีมี ประโยชนคุณูปการ ในการที่จะเปนผูชวยเหลือ สงเสริม สนับสนุนให อุตสาหกรรมทองเที่ยวมีความเจริญกาวหนาสืบไป และการตลาด ไมวาจะเปนความรู เกี่ยวกับอุตสาหกรรม และตลาดสินคาและบริการบางประเภท ความรูเกี่ยวกับแหลงผลิต แหลงวัตถุดิบ ความรูเกี่ยวกับกฎระเบียบการจัดตั้ง กิจการและดําเนินธุรกิจในประเทศไทย เพ่ือสามารถใหคําแนะนําแกนักทองเท่ียวเชิงธุรกิจได เปนตน ปจจุบันอาชีพ มัคคุเทศกไดรับการปกปองจากกฎระเบียบของรัฐ แตกระแสโลกาภิวัตนและ ประชาคม เศรษฐกิจอาเซยี น อาจทําใหในอนาคตสาขาอาชีพนี้จะตองเปดเสรี มากข้ึน ผูประกอบอาชีพมัคคุเทศกท่ีขาดความ ตระหนักและไมเตรียมความ พรอม ยอมตองเผชิญการแขงขันที่รุนแรง ไมสามารถแขงขันกับมัคคุเทศก ตางชาติได ที่ สําคัญยังพลาดโอกาสในการตอนรับนักทองเท่ียวจากประเทศ เพอ่ื นบา นและไมไดรับโอกาสในการออกไปทํางานใน ตางประเทศ ซึ่งถือเปน การพลาดโอกาสทางอาชพี ทน่ี า เสียดายอยา งยง่ิ

แงคิด-คาํ คมทา ยบท ** การเรม่ิ ตนในวชิ าชพี มัคคุเทศก ตองหมั่นฝกฝนไมเลือกงาน พรอมเรียนรูและไตเตาจาก จุดต่าํ สดุ ไป กอน ** ** เราเลอื กลกู ทัวรไ มไ ด แตลกู ทวั รส ามารถเลอื กมคั คเุ ทศกม าทาํ หนา ท่ีได ** ** มัคคุเทศกประเทศเพ่ือนบานแถบอาเซียนมีความโดดเดนเร่ืองภาษาที่ใชงานไดดีกวาเรา และมี เอกลักษณดานวัฒนธรรมการแตงกายเพื่อการนําเท่ียว และเม่ือหันมาพิจารณา มัคคุเทศกไทยท่ีไดชื่อวามีวามเจริญกวา หลายๆ ประเทศแลว เราจึงควรจะตองมีการสราง เอกลกั ษณท ีแ่ สดงให เห็นถึงความเปนไกดไทยใหชาวตางชาติได เห็น และเปน ที่จดจาํ **


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook