Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book สามหาวดอกไม้จันทน์

E-book สามหาวดอกไม้จันทน์

Published by aj.kulisarasuwan, 2017-11-11 04:38:03

Description: E-book สามหาวดอกไม้จันทน์

Keywords: innovation

Search

Read the Text Version

ดอกไม้จันทน์จากกระดาษเส้นใยพืช “ ส า ม ห า ว ด อ ก ไ ม้ จั น ท น์ ”

แ น ว คิ ด ใ น ก า ร ป ร ะ ดิ ษ ฐ์ สง่ิ ประดษิ ฐ์คนรนุ่ ใหม่ ดอกไม้จนั ทน์จากกระดาษเส้นใยพืช “สามหาวดอกไมจ้ นั ทน์” เป็นส่งิ ประดิษฐ์ทจี่ ดั ทาขึ้น โดยกลุม่ ผศู้ ึกษาไดน้ อ้ มนาพระราชดารสั ของรัชกาลท่ี 9 ด้านเศรษฐกิจพอเพียงศาสตรข์ องพระราชา นาผกั ตบชวา จากวัชพืชไร้คา่มาเพิ่มมูลค่า โดยนามาทาเปน็ กระดาษเพ่ือใชป้ ระดิษฐ์ดอกไม้จนั ทน์ ซึง่ ด้วยพ้ืนท่ีของวทิ ยาลัยบรหิ ารธุรกจิและการทอ่ งเทย่ี วกรุงเทพ มีสระนา้ ขนาดใหญ่อยู่ภายในวทิ ยาลยั ฯ และภายในสระนา้ นั้น มีผกั ตบชวาเกิดขึ้นอยา่ งมากมาย และตอ้ งกาจดั ดว้ ยการเผาทาลายทิง้ ทาให้เกิดมลพิษในอากาศ

ก า ร นา ผั ก ต บ ช ว า ม า ป ร ะ ดิ ษ ฐ์ เ ป็ น ก ร ะ ด า ษการนาผักตบชวา มาประดิษฐ์เปน็ กระดาษกระบวนการใหก้ ารผลติ ไม่ซับซอ้ น เมื่อได้กระดาษท่ตี อ้ งการ ทางกลุ่มผู้ศกึ ษาไดเ้ รยี นรู้การประดิษฐด์ อกไมจ้ ันทน์ และเพม่ิ มลู คา่ เพม่ิของดอกไม้จนั ทน์โดยการออกแบบบรรจุภณั ฑแ์ ละทาการตลาดเพือ่ เปน็ การตอ่ ยอดสร้างรายได้

กระบวนการผลติ กระดาษผกั ตบชวาดว้ ยมอื 1. การคดั เลอื กพชื ทางกลมุ่ ผศู้ ึกษา ได้สารวจ พ้ืนทบ่ี ริเวณสถานศกึ ษา พบวา่ ในสระน้าของ วทิ ยาลยั ฯ และคลองที่ ใกล้เคียง มีผักตบชวาเกดิ ข้ึนอยา่ งมากมาย จงึ ไดต้ ัดสนิ ใจเลือกผักตบชวาทางกลุ่มผ้ศู ึกษา ไดส้ ารวจพ้นื ทบ่ี รเิ วณสถานศึกษาพบวา่ ในสระนา้ ของวทิ ยาลัยฯ และคลองท่ีใกล้เคยี งมีผกั ตบชวา เกดิ ขน้ึ อย่างมากมาย จึงได้ตัดสนิ ใจเลอื กผักตบชวา

ก ร ะ บ ว น ก า ร ผ ลิ ต ก ร ะ ด า ษ ผั ก ต บ ช ว า ด้ ว ย มื อ 2. การยอ่ ยเยอื่เมอื่ ได้ผกั ตบชวามาแล้วก็นามามาตดั หรือสบัเปน็ ชน้ิ ๆ และนามาตม้ น้าเดือด เติมโซดาไฟลงตม้ ดว้ ยเพอื่ ใหเ้ น้อื เปื่อยยยุ่ ง่าย อตั ราส่วนของโซดาไฟท่ีเติมจะประมาณ 1 ใน 10 ของวตั ถดุ ิบท่ใี ช้ คอื ผกั ตบชวา 10 กิโลกรัม จะใช้โซดาไฟ 1กิโลกรมั

ก ร ะ บ ว น ก า ร ผ ลิ ต ก ร ะ ด า ษ ผั ก ต บ ช ว า ด้ ว ย มื อ 3. การแยกเยอ่ื กระดาษเป็นขนั้ ตอนทีต่ อ้ งใช้แรงสาหรับทบุ หรอื บดเนื้อผักตบชวาให้แตกยุย่ ออกเปน็ เส้นใยละเอียดหรือกลายเป็นเย่อื กระดาษนัน่ เอง

ก ร ะ บ ว น ก า ร ผ ลิ ต ก ร ะ ด า ษ ผั ก ต บ ช ว า ด้ ว ย มื อ 4. การฟอกสีทางกลมุ่ ผู้ศึกษา ต้องการใหม้ ีสีขาวมากข้ึนจงึ ต้องฟอกสี สารทีใ่ ช้ฟอกจะเปน็ แคลเซียมไฮเปอร์คลอไรด์ ในอัตราส่วน 1 ใน 10ของเย่ือกระดาษ ซ่ึงจะใช้เวลาต้มฟอกสีนาน 2-3 ชั่วโมง ก่อนล้างน้าใหส้ ะอาด และนาไปทาแผน่ กระดาษต่อ

ก ร ะ บ ว น ก า ร ผ ลิ ต ก ร ะ ด า ษ ผั ก ต บ ช ว า ด้ ว ย มื อ 5. การทาแผน่ กระดาษเทเย่ือทไี่ ด้จากการกระจายเยอื่ ดีแล้วลงไปในตะแกรงไนลอนทใี่ ช้ทาแผน่ กระดาษ ตะแกรงนจี้ ะลอยนา้ เมอื่ เทเย่อื ลงไปเยอื่ ก็จะลอยนา้ อยูบ่ นตะแกรงเราก็ทาการเกลย่ี เย่อื ภายในตะแกรงให้มีความสมา่ เสมอกนั ทง้ั แผน่ เม่อื เกลย่ี เยอ่ื กระดาษสมา่ เสมอดีแลว้ ให้ค่อยๆยกตะแกรงออกจากนา้และก็นาไปตากแดดพอหมาดๆ กน็ าเขามาตากในรม่ เม่ือแห้งแลว้ ก็คอ่ ยๆ ลอกกระดาษออกจากตะแกรงเราก็จะไดก้ ระดาษ

เยๆ้ ๆ...ได้กระดาษแลว้



วัสดุอุปกรณ์ทาดอกไม้จันทน์กระดาษผักตบชวา ดา้ ยหนวดจันทน์ รบิ บิ้นเทยี นจิ๋ว กาวธูป ไมเ้ สยี บลกู ชน้ักระดาษย่น ลวด กรรไกร

สามหาวดอกไม้จันทน์ ดอกไม้จันทน์ 1 ดอก จะประกอบไปดว้ ย4 สว่ นสาคญั คอื1. เกสร2. กระเปาะหมุ้ เกสร3. กลีบดอก4. หนวดจันทน์

ขั้นตอนการทาดอกไม้จันทน์ เกสรของดอกไมจ้ นั ทน์ ใหน้ ากระดาษผกั ตบชวามาตดั หรือฉีกใหเ้ ป็นเสน้ ยาว มคี วามกว้างขนาด 0.5 -1 เซนติเมตรโดยประมาณ หลงั จากน้ันให้ทาการมว้ นบดิ ใหเ้ ป็นเกลียวท้งั เสน้ มัดปมให้อยู่ตรงกลาง ทาแบบน้ที ้ัง 3 เสน้ จากน้นั นาเกสรท่ที าเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้ว นาปลายท้ังสองดา้ นจับมาทบกนั ในลักษณะแบง่ คร่งึ ปมจะอยู่ด้านบน ทง้ั 3 เส้น พอเสร็จให้นามามัดสว่ นปลายเกสรรวมกันดว้ ยเสน้ ดา้ ยให้แนน่ พอประมาณ

ข้ันตอนการทาดอกไม้จันทน์ กระเปาะหมุ้ เกสร เมือ่ ไดต้ วั เกสรแล้วให้ทาตัวกระเปาะหุม้ เกสร ในขัน้ ตอนตอ่ ไป ในขั้นตอนน้ีนาเอากระดาษผกั ตบชวามาตัดให้เป็นรปู สเี่ หลย่ี มผนื ผา้ เลก็ ๆ หรอื กะพนั ใหร้ อบเกสรได้มิดจากนัน้ ให้นากระดาษผักตบชวาทต่ี ดั ไวน้ ามาหุม้ ปดิ เกสรไว้แลว้ มดั ด้วยดา้ ยในตาแหนง่ เดียวกนั จากนนั้ ใหใ้ ชต้ ะเกียบหรอื นิ้วค่อยๆดนั เขา้ ไปในกระเปาะรอบๆเกสร เพ่อื ที่จะให้ตวั กระเปาะนนั้ โปรง่ ออกมาเพ่ือให้สวยงาม สว่ นปลายกระเปาะสามารถนากรรไกรมาตดัให้เปน็ รปู ฟนั ปลาได้ แลว้ นาตะเกยี บมาม้วนดดั อกี ครัง้ นึงเพื่อให้เกิดความสวยงามและเปน็ ธรรมชาติมากข้ึน

ขั้นตอนการทาดอกไม้จันทน์ กลีบดอก ในสว่ นของกลีบดอกจะประกอบไปดว้ ย กลีบใหญ่ 3กลบี กลีบเลก็ 3 กลบี วิธที าเรมิ่ จากเอาแมแ่ บบทาบลงบนเปลือกข้าวโพดแห้ง แล้วตดั ตามแบบทั้งกลีบเล็กและกลบีใหญ่ อยา่ งละ 3 กลีบ จากนน้ั ใช้ตะเกียบมว้ นดดั ปลายกลบีเบาๆ เพอื่ ให้กลีบดอกงอเลก็ นอ้ ยหรือตามความเหมาะสมสวยงาม ทาแบบนท้ี ัง้ 6 กลีบ

การประกอบตัวดอกไม้จันทน์ เม่อื เตรยี มส่วนประกอบของตัวดอกเสร็จเรียบรอ้ ยทุกอยา่ งแล้ว ก็ใหน้ ากลีบเล็กมาประกอบเขา้ กบั กระเปาะเกสรดอกไมจ้ นั ทนท์ ั้ง 3 ดา้ น โดยให้ส่วนโคง้ ควา่ ลง แลว้ มดัดว้ ยด้ายเหมือนเดมิ ทาแบบนี้ทลี ะกลบี ในตาแหนง่ เดยี วกันข้อควรระวงั ควรมดั กลีบแรกให้ม่นั คงเพราะจะไดไ้ ม่ทาใหก้ ลีบอ่นื ๆล้มตามมา

การประกอบตัวดอกไม้จันทน์ เม่ือทากลบี เลก็ ครบ 3 กลีบเเล้ว กต็ อ่ ดว้ ยการทากลีบใหญ่ โดยให้นามาวางสับหว่างกนั เเล้วก็มดั ด้วยด้ายเหมือนเดิมในตาแหน่งเดียวกนั จากนน้ั ให้นาหนวดจนั ทนท์ ีเ่ ตรยี มเอาไว้ นามามัดตดิ กบั ตวั ดอก เม่ือประกอบทกุ อยา่ งเข้าด้วยกันหมดแลว้ ให้ตัดกา้ นดอกใหเ้ สมอกัน ซึ่งให้ทงิ้ ความยาวจากฐานดอกประมาณนิว้ ครง่ึ ถงึ สองนว้ิ หรือแล้วแตค่ วามเหมาะสมจากนั้นให้พันด้วยกระดาษยน่ สดี าที่กา้ นดอก และทากาวเล็กน้อยที่หัวท้ายของกระดาษยน่ กเ็ ป็นอันเสรจ็ ขั้นตอน

สามหาวดอกไม้จันทน์

สาระน่ารู้

ผักตบชวาชอื่ สามญั Water Hyacinthชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Eichhornia crassipes (Mart.)Solms (ช่อื พ้องวิทยาศาสตร์ Eichhorniaspeciosa Kunth) จดั อยใู่ นวงศผ์ กั ตบ

ลักษณะของผักตบชวา จัดเป็นพรรณไมน้ า้ ทม่ี ี ถ่ินกาเนดิ ด้งั เดิมอยใู่ น ทวปี อเมรกิ าใต้ ไดม้ ี การนาเขา้ มาปลูกคร้ัง แรกไว้ทีว่ งั สระปทุมใน กรุงเทพมหานครเม่ือปีพ.ศ.2444 แต่จากการขยายพนั ธอ์ุ ย่างรวดเร็วและเกดิ น้าท่วมจงึ ทาให้ผกั ตบชวาหลุดรอดออกมาและเกิดการแพรก่ ระจายไปท่วั จนกลายเป็นวัชพืชนา้ ทร่ี นุ แรง

ลักษณะของผักตบชวา จัดเป็นพรรณไมน้ า้ ทม่ี ี ถ่ินกาเนดิ ด้งั เดิมอยใู่ น ทวปี อเมรกิ าใต้ ไดม้ ี การนาเขา้ มาปลูกคร้ัง แรกไว้ทีว่ งั สระปทุมใน กรุงเทพมหานครเม่ือปีพ.ศ.2444 แต่จากการขยายพนั ธอ์ุ ย่างรวดเร็วและเกดิ น้าท่วมจงึ ทาให้ผกั ตบชวาหลุดรอดออกมาและเกิดการแพรก่ ระจายไปท่วั จนกลายเป็นวัชพืชนา้ ทร่ี นุ แรง

ลักษณะของผักตบชวา ใบผกั ตบชวา ใบเป็นใบเด่ียว แตกจากลาตน้ เปน็กอ โคนกา้ นใบแผ่เปน็ กาบหุม้ ประกนั ไว้ ใบจะป่องออกเพอ่ื ช่วยใหล้ อยตัวอยู่ในนา้ ได้ ใบเป็นรปู ไขห่ รือเกือบกลมก้านใบอวบนา้ ตรงกลางพองออก ภายในเปน็ ชอ่ งอากาศคล้ายกบั ฟองน้า จึงชว่ ยพยงุ ลาตน้ ใหล้ อยนา้ ได้ ลักษณะของใบจะคลา้ ยกับใบโพธิ์ แตข่ นาดของใบจะกวา้ งกวา่ และปลายใบจะป้านเลก็ นอ้ ย

ลักษณะของผักตบชวา ดอกผกั ตบชวา ออกดอกเปน็ ช่ออย่กู ลางกอ ไม่มกี ้านดอก ในช่อหนึง่ จะประกอบไปด้วยดอกขนาดเล็กหลายดอก มีดอกประมาณ 3-25 ดอก ดอกย่อยเป็นสีชมพูอมฟา้ หรือสมี ว่ ง มีกลีบดอก 6 กลบี กลบี บนสดุ จะมขี นาดใหญก่ วา่ กลีบอื่น ๆ และจะมจี ุดหรือแต้มสเี หลอื งทกี่ ลางกลบี กลีบดอกจะมีลกั ษณะบาง

ลักษณะของผักตบชวา ผลผกั ตบชวา ผลเป็นแบบแคปซูลแหง้ และแตกได้ ลกั ษณะเป็นรูปทรงกระบอก แบง่ เปน็ พู 3 พู เมอื่ แก่จะแตกกลางพู ภายในมีเมล็ดจานวนมาก ลกั ษณะของเมลด็เปน็ รปู กลมขนาดเล็ก

ปัญหาท่ีเกิดจากผักตบชวา• การชลประทาน : ผกั ตบชวาทาให้การพัฒนาแหล่งนา้ ไมไ่ ดผ้ ลตามเปา้ หมายเน่อื งจากผักตบชวาไปลดการ ไหลของนา้ ลงประมาณ 40% ส่วนต่าง ๆ ของ ผกั ตบชวากอ่ ใหเ้ กดิ อุปสรรคกับการระบายน้าของ ฝายหรอื ประตูระบายน้า การระเหยของนา้ ในพน้ื ที่ที่ มผี กั ตบชวาจะสูงกวา่ ในพื้นท่ีที่ไมม่ ีผกั ตบชวา ประมาณ 3-8 เท่า• การคมนาคมทางนา้ : ผักตบชวาเปน็ อปุ สรรคสาคญั ท่กี ีดขวางการสัญจรทางน้า ทาให้การสัญจรทางเรอื เปน็ ไปไดย้ าก

ปัญหาท่ีเกิดจากผักตบชวา• การทอ่ งเทยี่ ว : แหล่งท่องเที่ยวทางนา้ ตา่ ง ๆ ถา้ มี ผักตบชวาขน้ึ อยอู่ ย่างหนาแน่น จะทาใหก้ ารพฒั นา สถานท่ีน้ัน ๆ เปน็ แหล่งท่องเที่ยวเปน็ ไปได้ยาก เพราะผักตบชวามสี ่วนในการทาลายความสวยงาม ของแหลง่ นา้ ตา่ ง ๆ และยงั ไปรบกวนกจิ กรรมอน่ื ๆ ในขณะพกั ผ่อนหยอ่ นใจในแหลง่ น้านั้น ๆ อกี ด้วย เชน่ การลงเรอื ทอ่ งเท่ยี ว การวา่ ยนา้ ตกปลา เปน็ ตน้

แ น ว ท า ง ก า ร ใ ช้ ผั ก ต บ ช ว า ใ น เ ชิ ง อุ ต ส า ห ก ร ร ม เนอ่ื งจากผักตบชวามีเปน็ จานวนมากเพราะสามารถเติบโตได้รวดเรว็ หาได้ง่ายและมรี าคาถกู ดงั น้ัน ผกั ตบชวาสามารถใช้เปน็ วตั ถดุ บิ สาหรับอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะใช้เปน็ วตั ถุดิบสาหรับผลิตเย่อื กระดาษ ผักตบชวามีเปอรเ์ ซ็นต์เส้นใยประมาณ 5% ของนา้ หนกั สด เนอื่ งจากปัจจบุ นั เยอ่ืกระดาษมีราคาแพง การใชผ้ กั ตบชวาเป็นวตั ถุดิบสาหรบั ผลิตกระดาษชาระ หรือกระดาษกล่อง จึงได้รบั ความนิยมในปจั จบุ ัน

ดอกไม้จันทน์ความเปน็ มาและธรรมเนยี มการใชด้ อกไมจ้ นั ทน์ ตามคติความเชือ่ ของคนไทยพุทธแตโ่ บราณ ถือวา่ การจัดงานฌาปนกจิ ศพใหค้ นตาย เปน็ การแสดงความเคารพ และไว้อาลยั ครั้งสดุ ทา้ ย ทุกสง่ิ ที่จดั ทาจะตอ้ งประณีตและดที ่สี ุดเทา่ ท่ีฐานะจะเออื้ อานวย เพราะเชอื่ ว่าผู้ตายจะไดไ้ ปส่สู ขุ คติและเม่ือเกิดใหม่กจ็ ะพบแตส่ ่งิ ทด่ี ีงาม “ไมจ้ ันทน์” ถอื เป็นไมม้ งคลท่ีเปน็ ของสูง คนสมัยก่อนที่จะใช้ไมจ้ นั ทนไ์ ด้ต้องเป็นเจ้าขุนมลู นายหรอื หน่อเน้อื เชอ้ื กษัตรยิ ์ มีการสนั นิษฐานว่าราวๆ ประมาณ ๑,๕๐๐ ปกี ่อน มนษุ ย์ยงั ไมม่ ีการฉีดยาศพ หรือฉดี ฟอร์มาลีน และวิธกี ารทจ่ี ะรกั ษาศพไมใ่ ห้มกี ลนิ่เหม็น ดั้งน้นั ในการประกอบพธิ ฌี าปนกจิ ศพ จงึ ใช้ไมจ้ นั ทนม์ าเป็นส่วนในการประกอบพธิ ี เพ่อื บรรเทากล่ินศพ

ดอกไม้จันทน์ ในสมยั รชั กาลท่ี ๕ ไมจ้ ันทนเ์ ริม่ หายากขึน้ และมีจานวนนอ้ ยลงๆ จึงนาไม้จนั ทน์มาใช้ในการประกอบพธิ ฌี าปนกจิ ศพเพียงเล็กนอ้ ย โดยผสมปนเปกนั ฟืนทใ่ี ชเ้ ผาศพตราบจนถงึ ทกุ วนั นี้ ไม้จันทน์ถูกขน้ึ ทะเบยี นเป็นไมส้ งวนอันดบั หนึง่ จงึ มีการนาวสั ดอุ น่ื มาทดแทนไม้จันทน์ และกรมพระยาดารงราชานภุ าพจงึ ริเร่ิมประดษิ ฐ์ออกมาในรปู แบบของดอกไม้เปน็ ชอ่ รวมกบั ธปู และเทียนเลก็ ๆ เพื่อความสวยงาม บางครงั้ มีการใสน่ ้าหอม นา้ ปรุงลงไปในช่อดอกไมน้ นั้ดว้ ย เพ่ือทดแทนความหอมของดอกไมจ้ นั ทน์ และตอ่ มาการเผาศพมคี วามทันสมยั ขน้ึ โดยไมต่ ้องใชฟ้ ืนเผาเหมอื นในสมยั กอ่ น จงึ เป็นท่มี าของการเรยี กชอ่ ดอกไมท้ ี่ใชแ้ ทนฟืนนว้ี ่า “ดอกไมจ้ ันทน์” และไดข้ ยายการใชด้ อกไม้จนั ทนไ์ ปในหมสู่ ามญั ชน และเร่มิ มธี รรมเนยี มการใชด้ อกไม้จนั ทนต์ งั้ แต่นนั้ เปน็ ต้นมา

ดอกไม้จันทน์ ต่อมาไม้จนั ทน์หายากมากขน้ึ และแทบไมม่ ีเหลือ จงึ ใช้ไมท้ ี่นิยมนามาทาดอกไมจ้ ันทน์ ได้แก่ ไมโ้ มก เพราะมคี ุณสมบัติคล้ายคลึงกับไม้จนั ทนค์ อื มีสีเหลืองนวล เหนียว และเกบ็ รกั ษาได้นานไม่ดาคล้า เมอื่ ไมโ้ มกหายากมากขน้ึ และมีราคาแพง จึงใช้กระดาษ หรอื ไมม้ ะม่วงปา่ ทดแทนบางส่วน

ความต้องการของตลาดของดอกไม้จันทน์ โดยส่วนมากในงานฌาปนกิจศพจะนยิ มใช้ดอกไมจ้ ันทน์ประเภทดอกเดย่ี วชนิดดอกกุหลาบ เพราะดอกไมจ้ นั ทนช์ นิดดอกกุหลาบขน้ั ตอนการทาไมย่ ่งุ ยาก มสี ีสันตายตัว คือ สีขาวกบั สคี รีมแตจ่ ะมดี อกชอ่ ประธาน 1 ช่อ สาหรับประธานในพิธฌี าปนกจิ ศพ

แนวโน้มในการพัฒนาดอกไม้จันทน์ ปัจจบุ นั ไมโ้ มกก็มีจานวนลดลงเปน็ จานวนมาก ซึ่งจะเปน็ข้อสังเกตให้เห็นวา่ วัสดทุ ี่ใช้ประดิษฐด์ อกไม้จันทนอ์ าจจะหมดไปดังเช่นไมจ้ นั ทน์ในอดตี จงึ ตอ้ งนาไมโ้ มกมาทดแทน ดังนน้ั ในอนาคตอาจจะมกี ารประดษิ ฐ์ดอกไมจ้ ันทน์ โดยใชว้ สั ดอุ น่ื ทมี่ ลี ักษณะและคุณสมบตั ใิ กลเ้ คียงกันมาทดแทน ในปัจจุบันจะพบเห็นไดว้ า่ การประดิษฐ์ดอกไมจ้ นั ทนใ์ นปัจจบุ ันเริ่มนากระดาษเขา้ มาใช้ประดษิ ฐด์ อกไมจ้ ันทน์ ดังนั้นจะเห็นไดว้ า่ การพฒั นาของดอกไมจ้ ันทน์ การเปล่ียนแปลงอย่างสดุ ทา้ ยก็คือการส่งออกดอกไมจ้ ันทน์ กอ็ าจเพ่ิมเติมจากวดั ไทยในประเทศออสเตรเลยี และประเทศเพื่อนบ้านเปน็ การสง่ ออกไปยังอกี หลายประเทศ เนอื่ งจากความนยิ มในการประดษิ ฐด์ อกไมจ้ นั ทนเ์ พมิ่ มากขึ้น

ผู้ดาเนนิ การวจิ ัย นางสาวกสุ รินทร์ ตุม้ ทองที่ปรึกษา นางสาวศุภพร ศุภภะ นางสาวขนิษฐา ทองบอน นางสาวโสรยา คงศรี นางสาวมารสิ า ค้มุ กมุ าร นางสาวณฑั ธิดา บุดชา นายธนวฒั น์ บญุ แสง นายชญานนท์ เงาะ นายภคพล อุนทโุ ร นางสาวธนาภา เกาะแก้ว นางกุลสิ รา สุวรรณ นางสาวธราวดี พลเย่ยี ม นายยงิ่ ยศ วงศเ์ สน นางวรษิ ฐา ตุลาธร นายสาโรจน์ อนีฆาศรีนนท์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook