การใช่ภาษาในการสื่อสารในสถาร ประกอบการ
บริบททางการส่ือสาร ความสาคญั ของการส่ือสาร การสื่อสารมีความสาคญั ดังนี้
1. การส่อื สารเป็นปัจจยั สาคญั ในการดารงชีวิตของมนษุ ย์ทกุ เพศ ทกุ วยั ไมม่ ีใครท่ีจะดารงชีวิตได้ โดยปราศจากการส่ือสาร ทกุ สาขาอาชีพก็ต้องใช้การส่ือสารในการปฏบิ ตั งิ าน การทาธุรกิจตา่ ง ๆ โดยเฉพาะสงั คมมนษุ ย์ท่ีมีการเปลยี่ นแปลงและพฒั นาตลอดเวลา พฒั นาการทางสงั คม จึง ดาเนนิ ไปพร้อม ๆ กบั พฒั นาการทางการสอื่ สาร
2. การสอื่ สารก่อให้เกิดการประสานสมั พนั ธ์กนั ระหวา่ งบคุ คลและสงั คม ชว่ ยเสริมสร้างความเข้าใจ อนั ดีระหวา่ งคนในสงั คม ช่วยสบื ทอดวฒั นธรรมประเพณี สะท้อนให้เหน็ ภาพความเจริญรุ่งเรือง วิถี ชีวติ ของผ้คู น ช่วยธารงสงั คมให้อยรู่ ่วมกนั เป็นปกติสขุ และอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติ
3. การส่อื สารเป็นปัจจยั สาคญั ในการพฒั นาความเจริญก้าวหน้าทงั้ ตวั บคุ คลและสงั คม การพฒั นา ทางสงั คมในด้านคณุ ธรรม จริยธรรม วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฯลฯ รวมทงั้ ศาสตร์ในการสื่อสาร จาเป็นต้องพฒั นาอยา่ งไมห่ ยดุ ยงั้ การสอื่ สารเป็นเครื่องมือในการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของมนษุ ย์และ พฒั นาความเจริญก้าวหน้าในด้านตา่ งๆ
องค์ประกอบของการสื่อสาร
1. ผ้สู ง่ สาร (sender) หรือ แหลง่ สาร (source) หมายถงึ บคุ คล กลมุ่ บคุ คล หรือ หน่วยงานที่ ทาหน้าท่ีในการสง่ สาร หรือเป็นแหลง่ กาเนิดสาร ที่เป็นผ้เู ริ่มต้นสง่ สารด้วยการแปลสารนนั้ ให้อยใู่ นรูป ของสญั ลกั ษณ์ที่มนษุ ย์สร้างขนึ ้ แทนความคดิ ได้แก่ ภาษาและอากปั กิริยาตา่ ง ๆ เพือ่ ส่อื สารความคดิ ความรู้สกึ ข่าวสาร ความต้องการและวตั ถปุ ระสงค์ของตนไปยงั ผ้รู ับสารด้วยวธิ ีการใด ๆ หรือสง่ ผา่ น ชอ่ งทางใดก็ตาม จะโดยตงั้ ใจหรือไมต่ งั้ ใจก็ตาม เช่น ผ้พู ดู ผ้เู ขียน กวี ศิลปิน นกั จดั รายการ วทิ ยุ โฆษกรัฐบาล องค์การ สถาบนั สถานีวิทยกุ ระจายเสียง สถานีวิทยโุ ทรทศั น์ กอง บรรณาธิการหนงั สอื พมิ พ์ หนว่ ยงานของรัฐ บริษัท สถาบนั ส่อื มวลชน เป็นต้น
คุณสมบตั ิของผสู้ ่งสาร 1. เป็นผ้ทู ี่มีเจตนาแนช่ ดั ท่ีจะให้ผ้อู ่ืนรับรู้จดุ ประสงค์ของตนในการสง่ สาร แสดงความคิดเห็น หรือ วจิ ารณ์ ฯลฯ 2. เป็นผ้ทู ี่มีความรู้ ความเข้าใจในเนือ้ หาของสารที่ต้องการจะสอ่ื ออกไปเป็นอย่างดี 3. เป็นผ้ทู ่ีมีบคุ ลิกลกั ษณะท่ีดี มีความนา่ เช่ือถือ แคลว่ คลอ่ งเปิดเผยจริงใจ และมีความรับผดิ ชอบ ในฐานะเป็นผ้สู ง่ สาร 4. เป็นผ้ทู ี่สามารถเข้าใจความพร้อมและความสามารถในการรับสารของผู้ 5. เป็นผ้รู ู้จกั เลอื กใช้กลวิธีท่ีเหมาะสมในการสง่ สารหรือนาเสนอสาร
2. สาร (message) หมายถึง เร่ืองราวท่ีมีความหมาย หรือสิ่งตา่ ง ๆ ท่ีอาจอยใู่ นรูปของข้อมลู ความรู้ ความคิด ความต้องการ อารมณ์ ฯลฯ ซงึ่ ถ่ายทอดจากผ้สู ง่ สารไปยงั ผ้รู ับสารให้ได้รับรู้ และ แสดงออกมาโดยอาศยั ภาษาหรือสญั ลกั ษณ์ใด ๆ ท่ีสามารถทาให้เกิดการรับรู้ร่วมกนั ได้ เช่น ข้อความท่ีพดู ข้อความท่ีเขียน บทเพลงท่ีร้อง รูปที่วาด เรื่องราวท่ีอา่ น ท่าทางที่สอ่ื ความหมาย เป็นต้น
2.1 รหสั สาร (message code)ได้แก่ ภาษา สญั ลกั ษณ์ หรือสญั ญาณที่มนษุ ย์ใช้เพ่ือแสดงออกแทนความรู้ ความคดิ อารมณ์ หรือความรู้สกึ ต่าง ๆ 2.2 เนือ้ หาของสาร (message content) หมายถงึ บรรดาความรู้ ความคิดและประสบการณ์ท่ีผ้สู ่งสาร ต้องการจะถ่ายทอดเพื่อการรับรู้ร่วมกนั แลกเปลยี่ นเพื่อความเข้าใจร่วมกนั หรือโต้ตอบกนั 2.3 การจดั สาร (message treatment) หมายถงึ การรวบรวมเนือ้ หาของสาร แล้วนามาเรียบเรียงให้ เป็นไปอยา่ งมีระบบ เพ่ือให้ได้ใจความตามเนือ้ หา ท่ีต้องการด้วยการเลือก ใช้รหสั สารท่ีเหมาะสม
3. สือ่ หรือชอ่ งทาง (media or channel) เป็น องค์ประกอบที่สาคญั อีกประการหนงึ่ ในการส่ือสาร หมายถงึ สง่ิ ที่เป็นพาหนะของสาร ทาหน้าที่นาสารจากผู้ สง่ สารไปยงั ผ้รู ับสาร ผ้สู ง่ สารต้องอาศยั สอ่ื หรือชอ่ งทางทา หน้าที่นาสารไปสผู่ ้รู ับสาร การแบง่ ประเภทของสื่อมีหลากหลายตา่ งกนั ออกไป ดงั นี ้
เกณฑ์การแบ่ง ประเภทของส่ือ
1. แบง่ ตามวธิ ีการเข้า และถอดรหสั สอ่ื วจั นะ (verbal) สอ่ื อวจั นะ (nonverbal) คาพดู ตวั เลข สหี น้า ท่าทาง นา้ เสยี ง หนงั สือพมิ พ์ รูปภาพ 2. แบง่ ตามประสาทการรับรู้ สอ่ื ที่รับรู้ด้วยการเห็น สอื่ ท่ีรับรู้ด้วยการฟัง สือ่ ท่ีรู้ด้วยการเห็นและการฟัง นิตยสาร เทป วิทยุ โทรทศั น์ ภาพยนตร์ วดี ทิ ศั น์
3. แบง่ ตามระดบั การสื่อสาร หรือจานวนผ้รู ับสาร ส่อื ระหวา่ งบคุ คล ส่อื ในกลมุ่ ส่ือสารมวลชน โทรศพั ท์ จดหมาย ไมโครโฟน โทรทศั น์ วิทยุ หนงั สอื พิมพ์ 4. แบง่ ตามยคุ สมยั สอ่ื ดงั้ เดมิ สื่อร่วมสมยั ส่อื อนาคต เสยี งกลอง ควนั ไฟ โทรศพั ท์ โทรทศั น์ เคเบิล วดี โิ อเทกซ์
5. แบง่ ตามลกั ษณะของสื่อ สอ่ื ธรรมชาติ ส่ือมนษุ ย์หรือสอื่ บคุ คล ส่อื สงิ่ พิมพ์ สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ สอ่ื ระคน อากาศ แสง เสียง คนสง่ ของ ไปรษณีย์ โฆษก หนงั สือ นติ ยสาร ใบปลวิ วทิ ยุ วดี ทิ ศั น์ ศลิ าจารึก สอื่ พืน้ บ้าน
6. แบง่ ตามการใช้งาน สือ่ สาหรับงานทวั่ ไป สอ่ื เฉพาะกิจ จดหมายเวียน โทรศพั ท์ วารสาร จดุ สาร วีดิทศั น์ 7. แบง่ ตามการมีสว่ นร่วมของผ้รู ับสาร สอ่ื ร้อน ส่อื เยน็ การพดู การอา่ น
4. ผ้รู ับสาร (receiver) หมายถงึ บคุ คล กลมุ่ บคุ คล หรือมวลชนท่ีรับเร่ืองราวข่าวสาร จากผ้สู ง่ สาร และแสดงปฏิกิริยาตอบกลบั (Feedback) ตอ่ ผ้สู ง่ สาร หรือสง่ สารตอ่ ไปถงึ ผ้รู ับ สารคนอ่ืน ๆ ตามจดุ มงุ่ หมายของผ้สู ง่ สาร เชน่ ผ้เู ข้าร่วมประชมุ ผ้ฟู ังรายการวทิ ยุ กลมุ่ ผ้ฟู ัง การอภิปราย ผ้อู า่ นบทความจากหนงั สอื พิมพ์ เป็นต้น
หลกั ในการส่ือสาร
1. ผ้ทู ่ีจะส่อื สารให้ได้ผลและเกิดประโยชน์ จะต้องทาความเข้าใจเร่ืององค์ประกอบในการส่ือสาร และปัจจยั ทางจิตวทิ ยาที่เก่ียวข้องกบั ระบบการรับรู้ การคดิ การเรียนรู้ การจา ซ่ึงมผี ลตอ่ ประสิทธิภาพ ในการสอื่ สาร
2. ผ้ทู ่ีจะสอื่ สารต้องคานงึ ถงึ บริบทในการสือ่ สาร บริบทในการสื่อสาร หมายถึง ส่ิงท่ีอยแู่ วดล้อมท่ีมี สว่ นในการกาหนดรู้ความหมายหรือความเข้าใจในการสอื่ สาร
3. คานงึ ถงึ กรอบแห่งการอ้างอิง (frame of reference) มนษุ ย์ทกุ คนจะมีพืน้ ความรู้ทกั ษะ เจตคติ คา่ นิยม สงั คม ประสบการณ์ ฯลฯ เรียกวา่ ภมู หิ ลงั แตกตา่ งกนั ถ้าคสู่ ่อื สารใดมีกรอบแหง่ การ อ้างองิ คล้ายกนั ใกล้เคยี งกนั จะทาให้การสอื่ สารง่ายขนึ ้
4. การส่ือสารจะมีประสทิ ธิผล เมื่อผ้สู ง่ สารสง่ สารอยา่ งมีวตั ถปุ ระสงค์ชดั เจน ผ่านสอื่ หรือชอ่ งทาง ท่ีเหมาะสม ถึงผ้รู ับสารที่มีทกั ษะในการสอ่ื สารและมีวตั ถปุ ระสงค์สอดคล้องกนั
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: