Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การพัฒนาบุคลิกภาพในการทำงาน

การพัฒนาบุคลิกภาพในการทำงาน

Published by kanabopiar098, 2021-09-02 09:00:14

Description: การพัฒนาบุคลิกภาพในการทำงาน

Search

Read the Text Version

การพฒั นาบุคลิกภาพในการทางาน

สารบญั การจดั ทรงผม 4-5 การแตง่ กาย 6-7 การเดิน นง่ั และยืน 8-9 การใช่สายตา และแววตา 10-11 การใช่คาพดู และนา้ เสียง 12-13 การแสดงพฤตกิ รรมอื่นๆ 14-16 ประโยชน์ของการพฒั นาบคุ ลกิ ภาพ 17-19



การจดั ทรงผม ลองคดิ ดวู า่ หากคณุ ติดตอ่ กบั คณุ ก เพ่ือขอข้อมลู เมื่อคณุ เดินเข้าไปในห้องคณุ ก แล้วเหลือบมองขนึ ้ ไปท่ที รงผม ที่รกรุงรัง ดเู หมือนวา่ จะลมื หวีผม ผมเผ้ายงุ่ เหยิง คณุ จะรู้สกึ อยา่ งไร? แนน่ อนวา่ หลายคนคงจะไมย่ ากคยุ ด้วย หรือ รีบๆ คยุ เพ่ือให้เสร็จธุระของตน เหตเุ พราะดเู หมือนวา่ ผ้ใู ห้บริการจะไมค่ อ่ ยเตม็ ใจหรือขาดความพร้อมที่จะ ให้ความชว่ ยเหลือหรือให้ข้อมลู ที่ตนต้องการ เหน็ ไหมวา่ คณุ จะเสยี ลกู ค้าไปโดยคดิ ไม่ถึงเลยเชียว

แนวทางพฒั นาตนเอง : ก่อนออกจากบ้านทกุ ครัง้ คณุ ควรสงั เกตการจดั ทรงผมของตนว่าดู เรียบร้อยหรือไม่ ทงั้ นีข้ อให้คณุ เลอื กทรงผมให้เหมาะสมกบั กาลเทศะ โอกาส และบุคลกิ ภาพ ของตนเองด้วย เชน่ หากคณุ (ผ้หู ญิง) จะเข้าพบลกู ค้าทเี่ ป็นผ้บู ริหารระดบั สงู ขององค์กร คณุ ไม่ ควรเลอื กแตง่ ทรงผมแบบเอากิ๊บมาตดิ ไว้ข้างๆ หู เพราะคดิ วา่ จะได้ดอู าโนะเน๊ะ ผ้ใู หญ่จะได้ เอน็ ดเู รา ขอบอกได้เลยวา่ “คิดผิดถนัด”

การแต่งกาย คณุ จะรู้สกึ อยา่ งไร หากหวั หน้างานเดินเข้าทกั ทาย ในขณะที่เสอื ้ ผ้าหลดุ ลยุ่ หรือเพ่ือนร่วมงานใสเ่ สอื ้ ผ้าท่ีมีกลน่ิ เหมน็ อบั หรือลกู น้องใสเ่ สอื ้ ผ้าดเู ซก็ ซ่ี กระโปรงสนั้ จู๋ เสอื ้ แขนกดุ มเี ว้าๆ แวมๆ พบวา่ การแตง่ กายเชน่ ที่วา่ นีจ้ ะ ทาให้เกิดความคิดมากมายของผ้พู บเหน็ ที่มีตอ่ การแตง่ กายเช่นนนั้ บางคนคิดอาจคดิ อนาจาร จินตนาการเลย เถิดกนั เข้าไปใหญ่ ลกู ค้าบางคนอาจไมช่ อบใจพลอยทาให้ไมอ่ ยากพดู คยุ ด้วยกเ็ ป็นได้

แนวทางพัฒนาตนเอง: การแตง่ กายถือวา่ เป็นเร่ืองสาคญั มาก คณุ ควรเลือกใสเ่ สอื ้ ผ้าท่ีเหมาะสมกบั รูปร่างและบคุ ลกิ ลกั ษณะของตน ทงั้ นีข้ อให้ดคู วามเหมาะสมของบคุ คลและสถานท่ีท่ีคณุ จะเข้าไปพบ ด้วย เช่น บริษัทอนญุ าตให้แตง่ ชดุ ฟรีสไตล์มาทางานในวนั ศกุ ร์ได้ คณุ ก็กลบั ใสก่ างเกงขาสนั้ เสอื ้ แขน กดุ ไปหาลกู ค้าภายนอก เหตเุ พราะบริษัทให้แตง่ กายแบบสบายๆ ในวนั นนั้ ได้ นอกจากการเลือกซอื ้ เสอื ้ ผ้าให้เหมาะสมแล้ว คณุ ควรจะดแู ลสภาพความเรียบร้อยของเสอื ้ ผ้าท่ีแตง่ ด้วย ควรจะรีดและจดั เสอื ้ ให้เรียบร้อย ท่ีสาคญั คณุ ไมค่ วรปลอ่ ยให้เสอื ้ ผ้าสง่ กลน่ิ เหมน็ อบั หรือมีกลน่ิ ท่ีไม่น่าพงึ ประสงค์

การเดิน น่ัง และยืน ทา่ เดิน นงั่ และยืน จะบง่ บอกได้ถงึ ลกั ษณะนิสยั ใจคอของคณุ วา่ คณุ เป็นคนอยา่ งไร มีอารมณ์ ความรู้สกึ และ ความต้องการเป็นอยา่ งไร คนบางคนเดนิ แกวง่ แขนไปมา มีการยกไหลเ่ ลก็ น้อยในขณะแกวง่ แขน พบวา่ ท่าเดิน แบบนีด้ เู หมือนจะหาเรื่องใสต่ วั เอง บอกให้คนอ่ืนรู้วา่ “ข้าใหญ่ ข้าแน่” ในขณะท่ีคนบางคนยืนหรือเดินหอ่ ไหล่ แบบหมดอาลยั ตายอยาก พบวา่ ทา่ เดนิ แบบนีจ้ ะแสดงให้เหน็ วา่ คนๆ นนั้ เป็นคนท่ีขาดความเชื่อมนั่ ในตนเอง ไม่ กล้าที่จะแสดงออก แล้วคณุ ยงั อยากจะมีทา่ เดนิ นง่ั และยืนแบบนีห้ รือไม่

แนวทางพฒั นาตนเอง: การพฒั นาตนเองด้วยท่าเดนิ นง่ั และยืนท่ีดดู ีจงึ เป็นสง่ิ ท่ีไมส่ ามารถ หลกี เลย่ี งได้ เพราะการแสดงออกเหลา่ นีจ้ ะบง่ บอกถึงบคุ ลกิ ภาพที่มีความมน่ั ใจและเช่ือมนั่ ใน ตนเอง หลกั งา่ ยๆ ของการเดิน นง่ั และยืนที่ดดู กี ็คอื ยดื ตวั หน้าตรง เดนิ แกวง่ แขนไปมาเลก็ น้อย ทงั้ นีก้ ารมีทา่ เดนิ นง่ั และยืนท่ีถกู ลกั ษณะ นอกจากจะสง่ ผลตอ่ ภาพลกั ษณ์ของตนเองแล้ว ยงั สง่ ผล ดตี อ่ สขุ ภาพของคณุ เอง ไม่เป็นโรคตา่ งๆ ที่เก่ียวข้องกบั กระดกู เช่น ปวดหลงั ปวดข้อตอ่ เป็นต้น

การใช้สายตา และแววตา หากคณุ คยุ อยกู่ บั ใครสกั คน แล้วเค้ามองออกไปทอ่ี ่ืน แลดเู หมือนจะสนใจคนอื่นมากกวา่ ตวั คณุ เอง หรือคน บางคนทคี่ ณุ คยุ ด้วยมีแววตาเศร้าหมอง สลดหดหู่ สีหน้าอดิ โรย ดแู ล้วเหมือนจะไมไ่ ด้หลบั ได้นอน และยิ่งถ้า คณุ เจอลกู น้อง ลกู ค้า หรือหวั หน้างานมีสายตาและแววตาเชน่ ที่วา่ นี ้คณุ จะรู้สกึ อยา่ งไร คงจะมีน้อยคนนกั ท่ี ยงั อยากจะคยุ กบั บคุ คลเหลา่ นีด้ ้วย เฉกเช่นเดียวกนั หากคณุ แสดงออกด้วยสายตาและแววตาเช่นนี ้กค็ งจะมี คนบางคน หรือหลายคนทไี่ มอ่ ยากจะคยุ ด้วย

แนวทางพัฒนาตนเอง: สายตาและแววตาท่ีแสดงออกมาจะเป็นเสนห่ ์ดงึ ดดู ใจผ้อู ื่นได้ ดงั นนั้ ส่ิงแรกเลยกค็ ือ คณุ จะต้องสบตากบั ผ้ทู ่ีพดู ด้วย ไมห่ ลบหรือหลีกเล่ียงการปะทะสายตา การสบสายตานนั้ มิใชก่ ารจ้องมองแบบเอาเลอื ด เอาเนือ้ ควรเป็นการแสดงออกด้วยความรู้สกึ เอาใจใส่ และความปรารถนาที่อยากจะพดู คยุ ด้วย รวมถงึ การมีแววตา ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ความเป็นกนั เอง และความร่วมมือตา่ งๆ ดงั นนั้ การนอนหลบั พกั ผ่อน การดแู ลสขุ ภาพ ของตน และการมีสภาพจิตใจท่ีดีจะชว่ ยทาให้คณุ สามารถมีสายตาและแววตาท่ีดี สดใส และแจม่ ใสอยู่เสมอ

การใช้คาพูด และนา้ เสียง คงไมม่ ีใครชอบพดู คยุ กบั คนทีใ่ ช้นา้ เสยี งหรือคาพดู ท่ีไมถ่ กู กาลเทศะ คนบางคนทาร้ายตนเองด้วยคาพดู และ นา้ เสยี งท่ีสื่อออกมา เป็นคาพดู ท่ีแสดงความไมส่ ภุ าพ ก้าวร้าว สกั แตว่ า่ จะพดู โดยไมค่ านงึ วา่ ผ้ฟู ังจะรู้สกึ อยา่ งไร เช่น หากหวั หน้าพดู กบั คณุ วา่ “พดู หลายหนแล้วนะงานนี ้สอนแล้วไมร่ ู้จกั จา มีสมองไว้คน่ั หหู รือไง เนี่ย” ถ้าคณุ ได้ยินคาพดู แบบนี ้คณุ จะรู้สกึ อยา่ งไร?

แนวทางพัฒนาตนเอง: มีหลากหลายวธิ ีเพื่อปอ้ งกนั มใิ ห้คณุ ตายเพราะคาพดู ทางแรกคือ น่ิงเงียบ ใช้ สถานการณ์ของการเงียบสยบความรู้สกึ ไมพ่ ดู จะดีกวา่ พดู ออกมา แตถ่ ้าคณุ รู้สกึ อดึ อดั ใจทนไม่ไหวจะต้องพดู แล้ว ละ่ ก็ ขอให้เลือกใช้คาพดู แบบบวั ไมใ่ ห้ชา้ นา้ ไมใ่ ห้ข่นุ จะดีกวา่ หลีกเลย่ี งการใช้คาพูดดถู กู ดหู มิ่น เหนบ็ แนม หรือใช้ คาพดู ก้าวร้าว เอ๊ะอะโวยวาย •

การแสดงพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ไม่ธรรมดา การแสดงพฤตกิ รรมอื่น ๆ ท่ีผดิ ปกติ ไมว่ า่ จะเป็นพฤติกรรมการเอามือล้วงกระเป๋ า ผิวปาก หรือยกั ควิ ้ ยกั ไหล่ เวลาพดู คยุ กบั ผ้อู ื่น หรือแสดงพฤติกรรมอ่ืน ๆ ที่แปลกไปจากคนอื่น ซง่ึ พฤตกิ รรมเหลา่ นีไ้ มค่ วรกระทาเป็น อยา่ งยง่ิ เพราะจะทาให้ดแู ล้วเสียบคุ ลกิ ภาพ เสียภาพลกั ษณ์ ทาให้ขาดความนา่ เช่ือถือ ขาดความเลอ่ื มใส และศรัทธาตอ่ ผ้พู บเหน็

แนวทางพฒั นาตนเอง: คณุ ควรสงั เกตตนเองวา่ ได้แสดงพฤตกิ รรมผิดปกตทิ ี่แปลกไปจากคนอนื่ หรือไม่ รวมถึง การยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผ้อู ื่น ไมค่ วรต่อวา่ หรือแสดงความโกรธเคอื ง หากมีเพื่อน หรือบุคคลอ่ืนตกั เตือน หรือบอกกลา่ ววา่ คณุ แสดงพฤตกิ รรมบางอยา่ งท่ีไมค่ วรทา ซง่ึ คณุ อาจแสดงจนเป็นนิสยั ไปแล้ว แตท่ วา่ พฤติกรรม เหลา่ นีจ้ ะไมส่ ง่ ผลดีตอ่ ภาพพจน์และบคุ ลกิ ภาพของตนเอง ดงั นนั้ คณุ ควรพยายามที่จะละเลกิ และยกเลกิ การ แสดงออกถงึ พฤตกิ รรมท่ีไมด่ ีเหลา่ นนั้ พฤติกรรมบางอยา่ งอาจใช้เวลา แตก่ ย็ งั ดีกวา่ ที่คณุ ไมเ่ คยให้เวลาและใส่ ความพยายามท่ีจะละทิง้ พฤตกิ รรม เหลา่ นนั้ ลงไป

ดงั นนั้ การมีบคุ ลกิ ภาพท่ีดี ยอ่ มสง่ ผลโดยตรงตอ่ ภาพพจน์ท่ีดีท่ีมีตอ่ สายตาของลกู ค้า ถือวา่ เป็นภาพภายนอกท่ี คณุ จะต้องแตง่ แต้ม เติมสสี นั เข้าไป เพื่อให้ลกู ค้าชอบและประทบั ใจ และนน่ั หมายความวา่ คณุ จะเป็นผ้หู นงึ่ ท่ี สามารถผกู จิต ผกู ใจลกู ค้าด้วยภาพลกั ษณ์ภายนอกที่คณุ เองเป็นผ้สู ร้างขนึ ้ มา

ประโยชน์ของการพฒั นาบุคลกิ ภาพ 1. สร้างเสริมสขุ ภาพให้แขง็ แรงตลอดเวลา ด้วยการออกกาลงั กาย 2. ทาให้ร่างกายมีบคุ ลกิ ภาพท่ีดีคลอ่ งแคลว่ วอ่ งไว และสง่าผา่ เผย 3. เป็นผ้ทู ่ีมีความร่าเริง จิตใจแจ่มใส อารมณ์ดี 4. มีกิริยามารยาท และพดู จาด้วยถ้อยคาที่สภุ าพเป็นเสน่ห์กบั ผ้พู บเห็น 5. เป็นผ้ทู ี่มีเหตผุ ลไมว่ วู่ าม มีความสขุ มุ รอบคอบ มีติ และควบคมุ ตวั เองได้ 6. มีจิตใจท่ีเข้มแข็ง มีความอดทน ตอ่ ส้กู บั ปัญหาและอปุ สรรคได้

7. ยอมรับความเป็นจริงของโลกมนษุ ย์ ซง่ึ ประกอบไปด้วยสขุ และทกุ ข์ 8. มีความเช่ือมน่ั ในตวั เอง กล้าคดิ กล้าทา กล้าแสดงออก หรือกล้าตดั สินใจ โดยอาศยั หลกั การ และเหตผุ ล 9. มีความคิดใฝ่หาความก้าวหน้าในการงาน มีความคดิ ริเร่ิมและมีความกระตือรือร้น มีนา้ ใจและ เอือ้ อาทรผ้อู ื่น 10. ปรับปรุงตนเองให้เข้ากบั สงั คม และสิ่งแวดล้อมได้เป็นอยา่ งดี และสามารถสร้างมนษุ ยสมั พนั ธ์ ที่ดกี บั บคุ คลรอบข้างได้อยา่ งมคี วามสขุ

การทางานในสานกั งานหรือองค์กรจะทางานคนเดยี วไมไ่ ด้ จะต้องทางานร่วมกบั บคุ คลอ่ืนเรา เรียกวา่ การทางานเป็นทีม มีความสาคญั ในทกุ องค์กร การทางานเป็นทีม มีความสาคญั ในทกุ องค์กร การทางานเป็นทีม เป็นสงิ่ จาเป็นสาหรับการเพิม่ ประสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผลของการ บริหารงาน การทางานเป็นทีมมบี ทบาทสาคญั ท่ีจะนาไปสคู่ วามสาเร็จของงานในทุกหน่วยงานท่ี ต้องอาศยั ความร่วมมอื ของกลมุ่ บคุ คลเป็นอยา่ งดี

ลกั ษณะของทีม ท่ีมีจุดมุ่งหมายและเป้าหมายร่วมกนั การมีปฏิสมั พนั ธ์ทางสงั คมของบคุ คล หมายถงึ การที่สมาชกิ ตงั้ แต่ 2 คนขนึ ้ ไปมีความ เกี่ยวข้องกนั ในกิจกรรมของกลมุ่ /ทีม ตระหนกั ในความสาคญั ของกนั และกนั แสดงออกซงึ่ การ ยอมรับการให้เกียรตกิ นั สาหรับกลมุ่ ขนาดใหญ่มกั มีปฏิสมั พนั ธ์กนั เป็นเครือขา่ ยมากกวา่ การ ตดิ ตอ่ กนั ตวั ตอ่ ตวั มีจดุ มงุ่ หมายและเปา้ หมายร่วมกนั หมายถงึ การที่สมาชิกกลมุ่ จะมสี ว่ น กระต้นุ ให้เกิดกิจกรรมร่วมกนั ของกลมุ่ /ทีม โดยเฉพาะจดุ ประสงค์ของสมาชิกกลมุ่ ท่ีสอดคล้อง กงั องค์กร มกั จะนามาซง่ึ ความสาเร็จของการทางานได้ง่าย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook