Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book เรื่องประวัติโดยย่อของเครื่องถ่ายเอกสา

E-book เรื่องประวัติโดยย่อของเครื่องถ่ายเอกสา

Published by pakdee daograjang, 2019-06-27 23:11:27

Description: E-book เรื่องประวัติโดยย่อของเครื่องถ่ายเอกสา

Keywords: เครื่องถ่ายเอกสาร,copier

Search

Read the Text Version

เครื่ องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 1 แผนการเรียนรู้ หน่วยที่ 1 วชิ า เคร่ืองถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก สอนครั้งท่ี 1 ชื่อหนว่ ย ประวตั แิ ละหลกั การ ทางฟสิ กิ ส์ของเครื่องถา่ ยเอกสาร (History and basic principles of the copier machine) จานวน 4 ชวั่ โมง หวั ข้อเรื่อง หน่วยที่ 1 ประกอบดว้ ยหัวข้อเรื่องดงั ตอ่ ไปนี้ 1.1 บทนา 1.2 ประวตั แิ ละความเป็นมาของเคร่ืองถา่ ยเอกสาร 1.3 หลกั การพนื้ ฐานของเคร่ืองถา่ ยเอกสาร 1.4 ประวัตขิ องการผลติ เครื่องถ่ายเอกสารในเชงิ พาณชิ ย์ 1.5 บทสรุป สาระสาคญั เครื่องถา่ ยเอกสารเปน็ เคร่ืองใชส้ านักงานทชี่ ่วยในการผลิตเอกสารไดอ้ ย่างสะดวก รวดเร็วประหยัดเวลา แรงงาน และคา่ ใช้จ่าย ในสมยั กอ่ นทโ่ี ลกยังไมเ่ จริญ การผลิตเอกสารตอ้ ง จัดทาขนึ้ ทีละแผน่ อาศยั การเขียนดว้ ยมอื บนกระดาษ ทาใหไ้ มไ่ ดร้ ับความสะดวกและเกดิ ความ ลา่ ช้า เอกสารแตล่ ะแผน่ ทมี่ ขี อ้ ความอย่างเดยี วกนั อาจมคี วามผดิ พลาดเกดิ ขน้ึ ไดแ้ ละอาจไม่ เหมอื นกนั เมอ่ื มกี ารพฒั นาเคร่ืองใช้ใหท้ นั สมยั ทนั โลกแหง่ ความเจริญทางดา้ นเทคโนโลยีซง่ึ กา้ วหน้าไปอย่างไมห่ ยุดยั้ง ไดม้ กี ารประดษิ ฐเ์ คร่ืองใช้ ในการทาสาเนาชว่ ยใหก้ ารผลติ เอกสาร สะดวกข้นึ และนับวันจะพฒั นารูปแบบ ให้เกดิ ความสะดวกยิ่งขนึ้ การดาเนินชีวิตของผ้คู นในปจั จุบนั แทบทุกคนลว้ นตอ้ งใช้เครื่องถ่ายเอกสารเพอื่ ทา ธุรกรรมดา้ นตา่ ง ๆ โดยเฉพาะทางดา้ นการศกึ ษา งานดา้ นวศิ วกรรม และงานสานักงาน เปน็ ตน้ ทกุ คนไดใ้ ชป้ ระโยชน์จากเครื่องถ่ายเอกสาร แตม่ นี ้อยคนนักทรี่ ู้วา่ เคร่ืองถ่ายเอกสารมปี ระวตั ิ และ ความเป็นมาอย่างไร ใครเป็นผปู้ ระดษิ ฐค์ ดิ คน้ รวมทงั้ มนั ทางานอย่างไร จดุ ประสงคก์ ารเรยี นการสอน จดุ ประสงคท์ วั่ ไป 1. เรียนรู้ประวตั แิ ละความเป็นมา ของเครื่องถ่ายเอกสาร 2. เรียนรู้หลักการทางฟสิ ิกสข์ องเครื่องถา่ ยเอกสาร 3. เรียนรู้ประวัตขิ องการผลติ เครื่องถา่ ยเอกสารในเชงิ พาณชิ ย์ 4. เรียนรู้คาศพั ท์ภาษาองั กฤษทวั่ ไปและเทคนิคคอลเทอม

เครื่ องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม หลงั จากศกึ ษาหน่วยนแี้ ลว้ ผเู้ รียนสามารถ 1. บอกประวัติและความเป็นมา ของเคร่ืองถา่ ยเอกสารได้ 2. อธบิ ายหลกั การทางฟสิ กิ สข์ องเครื่องถา่ ยเอกสารได้ 3. บอกประวตั ขิ องการผลติ เคร่ืองถา่ ยเอกสารในเชิงพาณชิ ย์ ได้ 4. อา่ น เขยี น และบอกความหมายคาศพั ท์ภาษาองั กฤษทวั่ ไปและเทคนิคคอลเทอมได้ 5. มเี จตคตทิ ดี่ ตี ามแนวหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในการเรียนรู้ 1.1 บทนา (Introduction) เครื่องถ่ายเอกสาร วิวัฒนาการมาจากกล้องถ่ายภาพ ซึง่ ผ้คู ดิ คน้ ไดพ้ ยายามรวบรวม ขน้ั ตอนวธิ กี ารถ่ายภาพมาดดั แปลงให้อยู่ในเครื่องเดยี วกนั ในระยะแรก ๆ เครื่องถา่ ยเอกสารจะมี ลกั ษณะเปน็ เครื่องทาสาเนาเอกสารขนาดเล็ก เรียกวา่ โฟโตก้ อ๊ บปี้ ( Photocopy) วิธีการใช้งาน คอ่ นขา้ งยุ่งยาก โดยตน้ ฉบับแตล่ ะแผน่ จะถา่ ยสาเนาไดค้ ร้ังละ 1 แผ่นเท่านนั้ นอกจากน้ี จะตอ้ งใช้ กระดาษเคลอื่ นผา่ นแสงไฟเพอ่ื ให้ไดภ้ าพเนกะตฟิ (Negative) แล้วนาเข้าเคร่ืองผ่านน้ายาอกี ครั้ง หน่ึงจึงลอกแผ่นเนกะตฟิ ออกถึงจะไดเ้ อกสารทถ่ี า่ ยสาเนาออกมา อย่างไรกต็ ามเครื่องถ่ายเอกสาร แบบนีป้ ระสทิ ธภิ าพในการถ่ายสาเนาเอกสารไมค่ มชดั นัก จนกระทง่ั มผี พู้ ฒั นาจนสร้างเครื่องถ่าย เอกสารอย่างทใ่ี ช้กนั ในปัจจุบันไดส้ าเร็จ เคร่ืองถา่ ยเอกสารนับว่าเป็นส่งิ ประดษิ ฐท์ พี่ ลกิ โฉมโลกอกี ชนิ้ หน่งึ ซง่ึ ทาใหก้ ารทาสาเนา เอกสารสามารถทาไดอ้ ย่างรวดเร็วและมรี าคาถกู ดงั น้นั ประวตั ขิ องเคร่ืองถ่ายเอกสารถอื เป็น ตานานเร่ืองราวอนั ยิ่งใหญ่เร่ืองหนึง่ ของสหรัฐอเมริกาเลยทีเดยี ว มกี ารเขยี นเร่ืองราวประวตั ขิ องผู้ คดิ คน้ และประดษิ ฐก์ บั บริษทั ทผี่ ลิตเครื่องถา่ ยเอกสารในเชงิ พาณชิ ย์เป็นเครื่องแรกของโลกพร้อม ทง้ั เกบ็ หลักฐานตา่ งๆ ทเี่ กย่ี วข้องในรูปแบบของพพิ ธิ ภัณฑ์ไวเ้ ป็นอย่างดี ซ่ึงทา่ นสามารถอา่ น เร่ืองราวเหลา่ น้ีไดจ้ ากหนังสอื ซ่งึ มผี ูเ้ ขียนไวห้ ลายเลม่ ในหน่วยท่ี 1 น้ี จะไดก้ ลา่ วถึงเรื่องราวความ เปน็ มาของเครื่องถา่ ยเอกสารพอสังเขป 1.2 ประวตั แิ ละความเปน็ มาของเครื่องถา่ ยเอกสาร (The History of the copier machine) คาร์ลสัน(Chester F. Carlson) คอื ผปู้ ระดษิ ฐเ์ ครื่องถา่ ยเอกสารอย่างทใ่ี ชก้ นั ในปัจจุบนั ไดส้ าเร็จเป็นคนแ รกของโลก เกดิ เมอื่ วันท่ี 8 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2449 ทเ่ี มอื งซีแอตเทลิ สหรัฐอเมริกา (Seattle: เปน็ เมอื งชายฝงั่ ในมลรัฐวอชิงตนั สหรัฐอเมริกา) หลังจากนั้นครอบครัว ของเขากไ็ ดย้ ้ายมาตงั้ รกรากอยู่ทเ่ี มอื งแซน เบอร์นาร์ดโี น มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ( San Bernardino,Calif.) บดิ าของเขาช่ือ โอลอฟ(Olof) เป็นคนพกิ ารอกี ทง้ั ยัง มโี รคประจาตวั คอื ไขขอ้ อกั เสบ ประกอบอาชพี เป็นช่างตดั ผม ส่วนมารดาเขาชือ่ เอลเลน(Ellen) ซง่ึ เสยี ชีวิตดว้ ยโรควัณโรค

เครื่ องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 3 ตง้ั แตเ่ ขาอายุไดเ้ พยี ง17 ปี ทาให้คาร์ลสนั ตอ้ งทางานอย่างหนักตงั้ แตเ่ ขายังเล็กคาร์ลสันเตบิ โต ข้นึ มาท่ามกลางความยากจนข้นแคน้ ขณะทอ่ี ายุไดเ้ พยี ง14 ปี เขาตอ้ งทางานอย่างหนักทง้ั กอ่ นเขา้ เรียน,หลังเลิกเรียนและวันหยุดสุดสปั ดาห์ เพอ่ื หารายไดช้ ว่ ยเหลือครอบครัว ภาพประกอบ1 ภาพประกอบ 1 สภาพบ้านทค่ี รอบครัวของเขาแทบจะไมม่ เี งนิ จ่ายคา่ เช่าเดอื นละ12 เหรียญ ทมี่ า : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York. คาร์ลสัน มคี วามมมุ านะตง้ั ใจเรียนจนสนั สาเร็จการศกึ ษาจากวิทยาลยั รีเวอร์ไซดจ์ ูเนียร์ ในปี พ.ศ. 2471 หลงั จากน้ันเขาไดเ้ ข้าศกึ ษาระดบั ในปริญญาตรีวทิ ยาศาสตร์ สาขาฟสิ ิกส์ ณ สถาบนั เทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย ( California Institute of Technology: CalTech) และ สาเร็จการศกึ ษาในปี พ.ศ. 2473 ภาพประกอบ 2 ภาพประกอบ 2 (ซา้ ย) คาร์ลสนั จบการศกึ ษาจากโรงเรียนมธั ยมปลาย ในปี พ.ศ. 2467 (ขวา) ภาพถ่ายคาร์ลสนั ในหนังสือทาเนียบรุ่นของสถาบนั เทคโนโลยีแคลฟิ อร์เนีย ซึง่ เป็นมหาวิทยาลยั ทมี่ ชี ่อื เสียงทางดา้ นวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ทมี่ า : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York.

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 4 แตเ่ มอ่ื จบการศกึ ษาแลว้ คาร์ลสันตอ้ งเผชิญกบั ปัญหาสภาวะเศรษฐกจิ ตกต่าเขากรอก ใบสมคั รงานไปถึง 82 บริษทั แตม่ เี พยี ง 2 บริษทั ทตี่ อบรับเขาและเขาไดเ้ ลอื กทจี่ ะมาทางานเป็น วิศวกรวจิ ัยทหี่ อ้ งปฏิบตั กิ ารของบริษทั เบลล์ เทเลโฟน( Bell Telephone company) ในมหานคร นิวยอร์กดว้ ยรายได้ 35 เหรียญตอ่ สปั ดาห์ สืบเนอื่ งจากสภาวะเศรษฐกจิ ทต่ี กตา่ ลงเร่ือยๆ ตอ่ มา ไมน่ านเขาถูกปลดออกจากงานทที่ าอยู่ทห่ี อ้ งปฏิบตั กิ ารของบริษทั เบลล์ เทเลโฟน หลงั จากนน้ั คาร์ลสนั ไดเ้ ข้าทางานในตาแหน่งเสมยี นของแผนกจดทะเบียนลิขสทิ ธิ์ทบี่ ริษทั พ.ี อาร์.มอลลอรี (P.R. Mallory and Co Inc.) ซ่งึ เปน็ บริษทั ผลิตอปุ กรณไ์ ฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ และในขณะน้นั เขากเ็ ขา้ เรียนทางดา้ นกฎหมายในภาคค่าจนสาเร็จไดร้ ับปริญญาทางกฎหมายจากโรงเรียน กฎหมายนิวยอร์ก ในทส่ี ุดคาร์ลสนั กไ็ ดร้ ับการเล่ือนตาแหน่งเปน็ ผู้จัดการแผนกสิทธบิ ัตร ณ บริษทั พ.ี อาร์.มอลลอรี แหง่ นีเ้ องทเ่ี ปน็ จุดเร่ิมตน้ ของเร่ืองราวอนั เป็นทมี่ าของเคร่ือง ถา่ ยเอกสารเครื่องแรกของโลก คาร์ลสนั คดิ วา่ แมเ้ ขาจะมงี านทาแตค่ งจะไมไ่ ดร้ ับความกา้ วหน้า อย่างรวดเร็ว มนั เปน็ เพยี งการทางานแคใ่ ห้มชี ีวติ อยู่ไดแ้ ละเขาเองกเ็ พงิ่ แตง่ งาน เขาอยากทา ส่งิ ประดษิ ฐท์ เี่ ปน็ นวตั กรรมใหมแ่ ละตอ้ งทาให้เกดิ ผลดที ง้ั กบั โลกและตวั เขา คาร์ลสนั แตง่ งานกบั เอลซา วอน มอลลอน (Elsa Von Mallon) ในปี พ.ศ. 2477 แตช่ วี ติ การแตง่ งานของพวกเขาไม่ คอ่ ยราบร่ืนนัก ความเครียดอนั เกดิ จากการทางานอย่างหนักของคาร์ลสันมสี ่วนทาใหเ้ กดิ การหย่า ร้างของพวกเขาในปี พ.ศ. 2488 ชว่ งทท่ี างานเปน็ เสมยี นในแผนกจดทะเบยี นลขิ สทิ ธ์ิของบริษทั พ.ี อาร์.มอลลอรี อยู่นน้ั คาร์ลสนั จาเจอยู่กบั การพมิ พล์ อกขอ้ มลู จาเพาะอปุ กรณจ์ ดลขิ สิทธ์ิ และส่งแบบชนิ้ สว่ นออกไปถา่ ย สาเนาตามร้านถา่ ยรูป ซึง่ เป็นการถา่ ยดว้ ยกระบวนการทกี่ นิ เวลามาก ทงั้ ยังมรี าคาแพงมาก และ อกี อย่างใบแบบฟอร์มรายละเอยี ดสทิ ธบิ ตั รกม็ กั จะหมดอยู่เสมอ ทาให้ตอ้ งเสยี เวลาพมิ พใ์ หม่ คาร์ลสนั คดิ ว่าหากมเี คร่ืองมอื ทจ่ี ะทาสาเนาเอกสารจานวนมากไดค้ งจะเป็นประโยชน์ตอ่ สานักงาน มากแน่ๆ “สานักงานจะตอ้ งไดร้ ับประโยชน์จากอปุ กรณท์ จ่ี ะยอมรับเอกสารและทาสาเนาของมนั ในไมก่ วี่ ินาท”ี (copy in second) ภาพประกอบ3 ภาพประกอบ 3 บริษทั พ.ี อาร์.มอลลอรี สถานทท่ี างานของคาร์ลสนั ขณะทเ่ี ขาเริ่มทาการคน้ คว้า และทาการทดลองสร้างเคร่ืองถา่ ยเอกสารในปี พ.ศ. 2473 ทม่ี า : https://www.flickr.com/photos/heritagephoto/2662275720/in/photostream/

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 5 1.3 หลกั การทางฟสิ กิ สข์ องเครื่องถา่ ยเอกสาร (Physics principles of copier machine) เมอ่ื ตดั สินใจแล้วคาร์ลสนั ไดล้ งมอื คน้ คว้าอย่างจริงจัง เป็นหลายเดอื นทเ่ี ขาใชเ้ วลาใน ตอนเย็นทหี่ อ้ งสมดุ สาธารณะในนครนิวยอร์ค เขาอา่ นหนังสอื ทง้ั หมดทเ่ี กย่ี วกบั กระบวนการ ถา่ ยภาพและแสง คาร์ลสันมปี ระทับใจมากเมอ่ื เขาไดอ้ า่ นผลงานของนักฟสิ กิ สช์ าวฮังกาเรียน ชอ่ื พอล ซีเลนยี (Paul Selenyi: พ.ศ. 2427-2497) เกยี่ วกบั วธิ ีการใหมส่ าหรับการแกไ้ ขภาพที่ เกดิ ในกลอ้ งจุลทรรศน์อเิ ลก็ ตรอนแทนทกี่ ารถ่ายภาพโดยแผ่นบางทไ่ี มใ่ ชโ่ ลหะ เช่นแผน่ กระดาษท่ี เคลอื บดว้ ยพาราฟนิ เผยใหเ้ ห็น “ภาพไฟฟา้ ทมี่ องไมเ่ หน็ (invisible electric image)” ซ่งึ เกดิ จาก การชาร์จของรังสีแคโทดหรือโดยการปลอ่ ยกา๊ ซเรือนกระจกแตจ่ ะมองเหน็ ไดโ้ ดยการฉีดพน่ ดว้ ยผง ไลโคโปเดยี ม(Lycopodium)ทม่ี ศี กั ย์เป็นบวก และไดเ้ รียนรู้ถึงวัสดทุ ม่ี กี ารเปลยี่ นแปลงเมอ่ื สัมผัส แสง ซง่ึ เมอ่ื ฉายแสงลงไปบนวสั ดนุ จี้ ะทาใหม้ ผี ลกบั ประจุไฟฟา้ ทผี่ ิวของมนั เขาตงั้ ใจจะประยุกต์ หลกั การนไ้ี ปใช้ในการสร้างเครื่องถา่ ยเอกสารจนทาให้เกดิ แรงบนั ดาลใจว่า “จะตอ้ งคดิ คน้ กรรมวิธี ถ่ายสาเนาเอกสารทงี่ า่ ยและถูก ชนิดกดปบุ๊ ตดิ ปบ๊ั ใหจ้ งได้” ภาพประกอบ4 ภาพประกอบ 4 พอล ซเี ลนยี นักฟสิ ิกส์และคณติ ศาสตร์ชาวฮังกาเรียน เขาตพี มิ พบ์ ทความทาง ฟสิ กิ ส์มากกว่าร้อยบทความ แตท่ ค่ี าร์ลสันสนใจมากคอื ธรรมชาตขิ องแสงในส่วนที่ ซีเลนยี เรียกวา่ \"ภาพไฟฟา้ แฝง \" (electrography) ทม่ี า : http://www.americanhungarianfederation.org/ FamousHungarians/ sciencemathandtech.htm คาร์ลสนั คดิ วา่ จะตอ้ งสะทอ้ นแสงในรูปแบบทแ่ี ตกตา่ งระหว่างพน้ื ทภี่ าพและพน้ื หลัง เขา ว่า “เราสามารถแยกข้อความบนกระดาษกบั พนื้ หลังกระดาษไดด้ ว้ ยแสง เพราะหมกึ จะดดู ซับแสง มากทสี่ ุด (จึงปรากฏเป็นสีดา) ในขณะทก่ี ระดาษพนื้ หลงั จะสะท้อนแสงมากทสี่ ุด (จึงปรากฏเปน็ สี ขาว) กระบวนการคดั ลอกโดยแสงจะไมท่ าลายตน้ ฉบับ ” ดว้ ยเหตผุ ลนคี้ าร์ลสันเลอื กทจ่ี ะใช้

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 6 ประโยชน์จากความแตกตา่ งนเี้ ชน่ เดยี วกบั การถา่ ยภาพธรรมดา และกบั วัสดทุ ม่ี กี ารเปลย่ี นแปลง เมอื่ สมั ผสั กบั แสง \"ผมคดิ ว่าถ้าช้ันของวสั ดตุ วั นาแสงถูกวางไวส้ ัมผสั กบั แผน่ กระดาษทไ่ี ดร้ ับการเคลือบดว้ ย สารเคมกี ระดาษจะเปลยี่ นสีไดถ้ ้ากระแสไฟฟา้ ไหลผ่านมนั \" จากนั้นเขาเร่ิมทาการทดลองพน้ื ฐาน บางอย่างในหอ้ งครัวทอี่ พาร์ตเมนตข์ องเขาเอง ดว้ ยการนาแผน่ กระดาษธรรมดามาฉาบดว้ ย โพแทสเซียมไอโอไดดแ์ ละแปง้ วางกระดาษบนแผ่นทองแดงเคลอื บดว้ ยทองแดงออกไซด์ แลว้ วาง เอกสารทต่ี อ้ งการพมิ พไ์ วบ้ นกระดาษและสอ่ งแสงไฟให้สวา่ งจากทางดา้ นหลังของเอกสาร ในขณะ ทเี่ ขาอธบิ ายอกี คร้ังเขากห็ วังว่า “แผน่ กระดาษจะไดภ้ าพตามกระแสจากแสงในระหว่างการเปิดรับ แสง และจะเกดิ ภาพข้ึนบนกระดาษธรรมดาแผ่นนั้น ” ไมม่ อี ะไรเกดิ ขึ้นแตม่ นั กท็ าใหค้ าร์ลสนั คน้ พบหลกั การพนื้ ฐานของการถา่ ยภาพดว้ ยไฟฟา้ ( electrophotography) โดยใชแ้ สง ซง่ึ จะทา ใหเ้ กดิ ภาพไฟฟา้ แฝงตามแบบของเอกสารตน้ ฉบบั (Original document) เนื่องจาก คาร์ลสันใชห้ อ้ งครัวของอพาร์ตเมนตท์ เ่ี ขาอาศยั อยู่ทาเป็นหอ้ งแลป เพอื่ เริ่มตน้ การคน้ ควา้ และทดลอง จึงทาใหเ้ กดิ ความไมส่ ะดวกหลายอย่าง เขาจึง ได้ตดั สินใจเชา่ หอ้ งทดลอง บนช้นั สองของตกึ แถวในย่านแอสโทเรีย ถนนเลขที่ 37 ควีนส์,นิวยอร์ก ภาพประกอบ5 ภาพประกอบ 5 ห้องปฏิบัตกิ ารใหมท่ คี่ าร์ลสนั ใชท้ าการทดลองในการสร้างเครื่องถ่ายเอกสาร ทมี่ า : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York. คาร์ลสันไดก้ าหนดทจ่ี ะลดข้นั ตอนของการปฏิบตั ติ ามทฤษฎีของเขาพร้อมทง้ั ไดว้ า่ จ้าง นักฟสิ กิ ส์หนมุ่ ซึ่งเปน็ ผลู้ ี้ภัยชาวเยอรมนั ชื่อ ออ็ ตโต คอร์ไน ( Otto Kornei) เพอ่ื ช่วยทางานใน หอ้ งปฏิบตั กิ ารของเขา แล้ววนั สาคญั กม็ าถงึ วนั นัน้ คาร์ลสนั ไปยังหอ้ งปฏิบตั กิ าร คอร์ไนไดป้ รับปรุง การทดลอง เขาเอาสไลดแ์ กว้ ของกล้องจุลทรรศน์ มาเขยี นข้อความ “10-22-38 ASTORIA”

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 7 ดว้ ยหมกึ อนิ เดยี พวกเขาพยายามทาใหห้ ้องมดื ทส่ี ุดเทา่ ทจี่ ะทาได้ มา่ นของหอ้ งถูกปดิ ลงเพอ่ื ปอ้ งกนั แสงไมใ่ หส้ อ่ งไปยังแผน่ สงั กะสเี คลือบกามะถนั แลว้ เขาทง้ั สองกเ็ ริ่มทาการทดลอง คอร์ไนใช้ผา้ เชด็ หน้าถูทผี่ ิวกามะถัน อย่างแรงและรวดเร็ว เพอ่ื ให้เกดิ ประจุไฟฟา้ บวกบน ผิวกามะถนั จากนน้ั นาแผน่ สไลดต์ น้ ฉบบั มาประกบ แลว้ ใช้โคมไฟมาส่องผ่านแผ่นสไลดส์ ักครู่ ตาม หลกั การแลว้ เมอื่ แสงกระทบผิวกามะถนั จะทาใหเ้ กดิ ประจุลบซง่ึ จะหักลา้ งกบั ประจุบวกทม่ี อี ยู่กอ่ น แตอ่ กั ษรบนสไลดจ์ ะบังแสงไว้ ทาให้ผวิ กามะถันทอ่ี ยู่ใตต้ วั อกั ษรไมโ่ ดนแสงประจุบวกน่าจะ เหลืออยู่ ข้นั ตอนตอ่ ไปคอื ใส่ผงหมกึ ซ่ึงในตอนนั้นคาร์ลสันใชผ้ งไลโคโปเดยี ม ( lycopodium powder: มลี ักษณะเปน็ ผงสีน้าตาลไดจ้ ากสปอร์ของพชื ในตระกลู ไลโคโปเดยี ม) เมอื่ แยกสไลดต์ น้ ฉบบั ออกแล้วเปา่ ผงไลโคโปเดยี ม ลงบนแผ่นสังกะสี หลังจากปัดผง ส่วนเกนิ ออกส่งิ ทเ่ี หลอื อยู่บนน้ันคอื “10-22-38 ASTORIA” ทเ่ี หมอื นกบั ตน้ ฉบบั ทกุ ประการ จากนน้ั พวกเขากเ็ ดนิ ออกไปรับประทานอาหารกลางวนั และเพอ่ื ฉลองความสาเร็จ ภาพประกอบ6 ภาพประกอบ 6 หลกั การทางานเบอ้ื งตน้ ของเคร่ืองถ่ายเอกสาร ทป่ี ระกอบดว้ ยแผน่ สไลดต์ น้ ฉบับ , แผน่ สงั กะสเี คลือบกามะถัน ,หลอดไฟและผงไลโคโปเดยี ม กบั สาเนาเอกสารแผ่นแรกของโลก ปจั จุบันเกบ็ ไวท้ พี่ พิ ธิ ภัณฑ์สมธิ โซเนียน ทม่ี า(ภาพซ้าย) : http://www.vcharkarn.com/varticle/41702 ทมี่ า(ภาพขวา) : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York. คารล์ สนั และคอรไ์ น ทาการทดลองซา้ อีกหลายคร้งั เพื่อใหแ้ นใ่ จวา่ ไม่ได้ฝนั ไป เมื่อ แนใ่ จแลว้ จงึ นากระดาษไขมาทาบลงบนแผน่ สงั กะสแี ละใหค้ วามร้อน ไขจากกระดาษละลาย และดูดเอาหมึกจากแผน่ สงั กะสใี หต้ ิดอยูบ่ นแผน่ กระดาษในทส่ี ดุ เปน็ อันวา่ การถา่ ยเอกสารแผน่ แรกได้ถอื กาเนดิ ขนึ้ และ “10-22-38 ASTORIA” ถอื วา่ เปน็ ขอ้ ความประวตั ิศาสตร์ของเครื่อง ถา่ ยเอกสาร มันเปน็ ตัวอักษรชดุ แรกทเี่ กดิ จากการถา่ ยเอกสาร เม่ือวนั ท่ี 22 ตุลาคม พ.ศ. 2481

เครื่ องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 8 อีกทง้ั หลกั การนไ้ี ด้รบั การพัฒนามาเปน็ เครื่องถา่ ยเอกสารในปจั จบุ นั แลว้ คารล์ สนั กไ็ ด้ยนื่ ขอจด สทิ ธบิ ตั ร ภาพประกอบ7 ภาพประกอบ8 และภาพประกอบ9 ภาพประกอบ 7 ผงั แสดงหลักการทางานทางวิศวกรรมในการประยุกตใ์ ช้วสั ดขุ องเคร่ืองถ่ายเอกสาร ทคี่ าร์ลสันใช้ในการขอจดสิทธบิ ตั รเมอื่ วันท่ี 4 เมษายน พ.ศ. 2482 และไดร้ ับสิทธบิ ัตร #2221776 เมอื่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2483 เขายังคงวิจัยและพฒั นาอย่างตอ่ เนอื่ ง จนประสบความสาเร็จในทส่ี ุด ทมี่ า : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York.

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 9 ภาพประกอบ 8 ผงั แสดงไดอะแกรมเคร่ืองตน้ แบบของเคร่ืองถ่ายเอกสารทใ่ี ช้คดั ลอกสาเนา ลงบนกระดาษธรรมดา ทค่ี าร์ลสันยื่นขอจดสิทธบิ ัตรคณุ สามารถดจู ากตวั เลขเลก็ ๆ บนภาพวาดตน้ ฉบับน้ี เปน็ การอธิบายสง่ิ ทเี่ กดิ ขึ้นจริงและทุกชน้ิ สว่ นทเี่ กย่ี วขอ้ ง ทมี่ า : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York. ภาพประกอบ 9 คาร์ลสนั กบั เคร่ืองถ่ายเอกสารเครื่องแรกของโลก แมจ้ ะทางานไดไ้ มด่ นี ัก แตก่ เ็ ป็น พน้ื ฐานทาให้สามารถพฒั นาจนสร้างเครื่องถ่ายเอกสารทไ่ี ดร้ ับความนิยมไปทว่ั โลก ทม่ี า : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York.

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 10 1.4 ประวตั ขิ องการผลติ เคร่ืองถา่ ยเอกสารในเชิงพาณิชย์ (The history of manufacturing for commercial copier machine) ถึงแมเ้ ครื่องถ่ายเอกสารจะประสบผลสาเร็จในหลักการ แตเ่ มอื่ คาร์ลสนั นาไปเสนอกบั บริษทั ตา่ งๆ ทถ่ี อื ว่าเป็นบริษทั ยักษใ์ หญ่ของอเมริกา ตวั อย่างเชน่ บริษทั ไอ.บ.ี เอม็ . บริษทั เอน็ .อ.ี ซี. แตก่ ลบั ถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย จนกระทงั่ อกี 5 ปีตอ่ มา สถาบนั แบทเทลิ เมม็ โมเรียล ( Battelle Memorial Institute) ไดต้ กลงเซน็ สัญญาร่วมพฒั นาเครื่องถา่ ยเอกสาร คาร์ลสันจึงสามารถสร้าง เครื่องถา่ ยเอกสารเคร่ืองแรกไดส้ าเร็จแมจ้ ะยังทางานไดไ้ มด่ นี ักและในปีพ.ศ. 2489 สถาบันแบท เทลิ เมม็ โมเรียลไดม้ อบสิทธิในการพฒั นาเครื่องถา่ ยเอกสารใหก้ บั บริษทั ฮาลอยด์ ( Haloid company) ซ่ึงเป็นเพยี งบริษทั เล็กๆ แหง่ หนึง่ ทผ่ี ลติ กระดาษอดั รูปถา่ ย แล้ว คาร์ลสนั กไ็ ด้ ลาออก จากงานของเขาในฐานะทนายความสิทธิบตั รและมาเปน็ ทปี่ รึกษาใหก้ บั บริษทั ฮาลอยด์ เพอื่ สร้าง เครื่องถา่ ยเอกสารในเชิงพาณชิ ย์ ภาพประกอบ10 และภาพประกอบ11 ภาพประกอบ 10 ในชว่ งปีแรกๆ ของการพฒั นา นักวทิ ยาศาสตร์และวิศวกรบางส่วนของ บริษทั ฮาลอยด์ ทางานอยู่ในตกึ แถวอนั เปลา่ เปลี่ยวดงั ทเี่ ห็น ทมี่ า : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York.

เครื่ องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 11 ภาพประกอบ 11 จอหน์ เดสซอเออร์, เชสเตอร์ คาร์ลสนั และโจเซฟ วิลสัน ประธานบริษทั ฮาลอยด์ ขณะร่วมกนั ทาการทดลองเครื่องพมิ พใ์ นปี พ.ศ. 24 81. ทมี่ า : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York. และในชว่ งน้ี คาร์ลสันไดแ้ ตง่ งานครั้งทสี่ องกบั ดอร์ริส เฮเลน ฮัดจินส์ ( Dorris Helen Hudgins) ในปี พ.ศ. 2489 และในปี พ.ศ. 2491เขาและเธอไดย้ ้ายเข้าไปอยู่บา้ นเช่าหา่ งจากเมอื ง โรเชสเตอร์ของนครนิวยอร์กประมาณสามสบิ ไมล์ ภาพประกอบ12 ภาพประกอบ 12 เชสเตอร์ เอฟ. คาร์ลสัน กบั ดอร์ริส เฮเลน ฮัดจินส์ ทมี่ า : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York.

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 12 คาร์ลสนั กบั บริษทั ฮาลอยด์ ไดร้ ่วมกนั ใช้เวลาในการพฒั นาเคร่ืองถ่ายเอกสารจนกระทง่ั ปี พ.ศ. 2502 ถงึ ผลิตเครื่องถา่ ยเอกสารในเชงิ พาณชิ ย์ไดส้ าเร็จ และสามารถวางขายเครื่องถา่ ย เอกสารสาหรับสานักงานได้ นน่ั คอื เครื่องถา่ ยเอกสารรุ่น ซีร็อกซ์ 914 ( Xerox 914) ซงึ่ กไ็ ดร้ ับ ความนิยมและทากาไรไดพ้ อสมควร จนทาใหบ้ ริษทั เล็กๆ ไดข้ ยายกจิ การใหญ่โตขึน้ และตอ่ มาได้ เปลีย่ นชือ่ จากบริษทั ฮาลอยดม์ าเป็นบริษทั ซรี ็อกซ์ คอร์ปอเรชัน ( Xerox Corporation Company) ในปี พ.ศ. 2504 ภาพประกอบ13 ภาพประกอบ14 และภาพประกอบ15 ภาพประกอ13 หน้าตาเครื่องตน้ แบบเคร่ืองแรก( Model A) ของบริษทั ฮาลอยด์ ในปี พ.ศ. 2495 ซึ่งมขี นาดคอ่ นขา้ งใหญ่ มขี ั้นตอนการใช้งานมากเกนิ ไป ในบริษทั เรียกกนั วา่ “กล่องววั (Ox Box) ทม่ี า : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York. ภาพประกอบ 14 ในเดอื นธันวาคม ปี พ.ศ. 2502 บริษทั ฮาลอยดไ์ ดจ้ ัดงานปาร์ตใี หก้ บั พนักงาน และซัพพลายเออร์ภายในโรงงาน กอ่ นการวางตลาดคร้ังแรกของเครื่องถา่ ยเอกสาร ทม่ี า : Copies in Seconds. Copyright © 2004 by David Owen. Reprinted by permission of Simon & Schuster, Inc., New York.

เครื่ องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 13 ภาพประกอบ 15 บริษทั ฮาลอยดไ์ ดท้ าการเปดิ ตวั เครื่องถ่ายเอกสารสานักงานโดยอตั โนมตั ิ ในการทาสาเนาบนกระดาษธรรมดารุ่นXEROX 914 ในปี พ.ศ. 2502 (914 หมายถงึ ขนาดของกระดาษ 9x14 นิ้ว) ทมี่ า(ภาพซ้าย) : http://money.cnn.com/galleries/2010/technology/1001/ gallery.xerox_copiers.fortune/ ทม่ี า(ภาพขวา) http://intrinsecoyespectorante.blogspot.com/2013/09/empresas- famosas-que-no-lo-son-por-lo.html 1.5 บทสรุป (Conclusion) เชสเตอร์ เอฟ. คาร์ลสัน จากชวี ติ ในวยั เยาว์ทตี่ อ้ งทางานอย่างหนัก เพอ่ื หารายได้ ชว่ ยเหลือครอบครัว ในขณะทตี่ อ้ งเรียนหนังสือไปดว้ ย แตพ่ อจบการศกึ ษากม็ าพบกบั สภาพ เศรษฐกจิ ตกต่า ทาใหม้ ปี ัญหาเรื่องการหางานทา แตค่ าร์ลสันกไ็ ดง้ านทา เขาตอ้ งแบง่ เวลาในการ คน้ คว้าเพอื่ ประดษิ ฐเ์ คร่ืองถ่ายเอกสาร ซ่งึ คาร์ลสันไดศ้ กึ ษาบทความของ พอล ซเี ลนยี เกยี่ วกบั วสั ดทุ มี่ ผี ลตอ่ ประจุไฟฟา้ ทผ่ี ิวเมอื่ สัมผัสแสง โดยนามาประยุกตใ์ ช้เปน็ หลกั การของการคดั ลอก ภาพจากตน้ ฉบับโดยใช้แสงและประสานเข้ากบั หลักการของไฟฟา้ สถิต เขาทาสาเร็จเมอ่ื วันท่ี 22 ตลุ าคม พ.ศ. 2481 แล้วจดสิทธบิ ัตรเอาไว้ คาร์ลสนั พยายามเสนอผลงานน้ีกบั บริษทั ชัน้ นาในขณะน้ันหลายตอ่ หลายบริษทั แตก่ ไ็ ม่ มบี ริษทั ไหนตอบรับเขาเลย แตใ่ นความเช่ือลกึ ๆ เขาเช่ือวา่ สงิ่ ประดษิ ฐท์ เี่ ขาคดิ ไดน้ ัน้ จะมปี ระโยชน์ อย่างมากกบั โลกใบนี้ เขาพยายามตอ่ ไปและในทสี่ ดุ บริษทั ฮาลอยด์ (บริษทั ซีร็อกซ์ คอร์ปอเรชนั ) กส็ ามารถผลติ เครื่องถ่ายเอกสารในเชิงพาณชิ ย์ไดส้ าเร็จเมอ่ื พ.ศ. 2502 เป็นเวลา 21ปี หลงั จากท่ี เขาประดษิ ฐเ์ ครื่องถา่ ยเอกสารแผ่นแรกไดส้ าเร็จ โดยใช้ชื่อโมเดลวา่ XEROX 914 ซ่งึ มคี วามหมาย วา่ ใช้ไดก้ บั กระดาษขนาด 9x14 น้ิว

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 14 จากทต่ี อ้ งอดทนและตอ่ สอู้ ย่างยาวนาน เมอ่ื ประสบความสาเร็จ ชีวติ ของคาร์ลสนั กด็ ขี น้ึ มาก เขามที งั้ ชือ่ เสยี งและความมง่ั คงั่ แตเ่ ขากย็ ังคงรักษาบคุ ลิกเดมิ ของเขาคอื เป็นคนขอี้ ายและ เงยี บขรึมเป็นคนเจียมเนอื้ เจียมตวั ทาให้เขาไดร้ ับเกยี รตแิ ละการยอมรับจากทุกคนดว้ ยความสงา่ งาม ว่ากนั วา่ คาร์ลสนั น่าจะทารายไดจ้ ากเคร่ืองถ่ายเอกสารของเขามากกวา่ 150 ล้านเหรียญ นิตยสารฟอร์จูนจัดอนั ดบั ให้เขาเป็นหมคู่ นทรี่ ่ารวยทส่ี ดุ ในอเมริกา คาร์ลสนั ในชว่ งปลายของชีวิต เขาไดร้ ับเกยี รตยิ ศและรางวัลตา่ งๆ มากมาย เขาอทุ ศิ ความมง่ั คงั่ ของเขาเพอ่ื การกศุ ลดว้ ยการบริจาคเงนิ ให้กบั องคก์ รและมลู นิธิตา่ งๆ อย่างมากมาย ใน วันท่ี 19 กนั ยายน พ.ศ. 2511 คาร์ลสนั มอี าการหัวใจวายเขาเขา้ พบแพทย์แตป่ กปิดภรรยา เขา บอกภรรยาว่าเขามคี วามปรารถนาอนั แรงกล้าทจี่ ะตายอย่างคนยากจนธรรมดา แล้วคาร์ลสนั ก็ เสียชวี ิตดว้ ยโรคหัวใจวายเมอื่ วนั ที่ 26 กนั ยายน พ.ศ. 2511รวมอายุได้ 62 ปี คงเหลอื ไว้ซึง่ ผลงาน อนั ยิ่งใหญ่ใหก้ บั โลกใบนีแ้ ละให้ผ้คู นไดร้ ะลกึ ถึง....เชสเตอร์ เอฟ. คาร์ลสนั ................

เครื่ องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 15 ใบงานหน่วยที่ 1 หลักการทางฟสิ ิกส์ของเครอ่ื งถา่ ยเอกสาร (The basic principles of the copier machine) จดุ ประสงคก์ าร ทดลอง 1. เพอื่ ทาการทดสอบปรากฏการณข์ องหลักการพน้ื ฐานของเคร่ืองถา่ ยเอกสาร 2. เพอ่ื บรู ณาการทางความคดิ ของผู้เรียนในการทดลองทางวิทยาศาสตร์ 3. นาหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาใชใ้ นการทดลอง อปุ กรณท์ ใี่ ช้ในการทดลอง 1. ไมบ้ รรทดั พลาสตกิ 12 น้ิว 1 อนั 2. เศษกระดาษขนาดเล็ก ๆ ประมาณ 3x3 m.m. 15-20 ช้ิน 3. หนังสอื เลม่ หนา 1 เลม่ 3. แหล่งกาเนิดแสง (ไฟฉายหรือใช้แสงจากเครื่อง โปรเจคเตอร์) 1 เครื่อง 4. จอรับแสง (กระดานไวท์บอร์ดหรือจอโปรเจคเตอร์ ) 1 จอ ข้ันตอนการทดลอง 1. เตรียมอปุ กรณต์ ามภาพประกอบ 1 ภาพประกอบ 1 ไมบ้ รรทดั พลาสตกิ 12 น้ิว เศษกระดาษขนาดเล็กและหนังสือเลม่ หนา 2. ใช้ไมบ้ รรทัดกดลงบนปกหนังสอื แล้วถไู ป -มาประมาณ 5 -10 นาทตี ามภาพประกอบ2 ภาพประกอบ 2 ไมบ้ รรทดั ถกู บั ปกหนังสือ

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 16 3. นาไมบ้ รรทดั สว่ นปลายทไี่ มไ่ ดถ้ กู บั ปกหนังสอื ยกใหล้ อยเหนือเศษกระดาษ ประมาณ 1.5 น้ิว ตามภาพประกอบ 3 ภาพประกอบ 3 ยกไมบ้ รรทดั ใหล้ อยเหนือเศษกระดาษ สงั เกตวา่ เกดิ อะไรขนึ้ …………………………………………………………………………..................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. เปล่ียนปลายไมบ้ รรทดั เป็นสว่ นทถี่ ูกบั หนังสือยกใหล้ อยเหนือเศษกระดาษ ประมาณ1.5 นิว้ ตามภาพประกอบ3 สังเกตว่าเกดิ อะไรขนึ้ …………………………………………………………………………..................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5. ตง้ั แหลง่ กาเนิดแสงแลว้ ฉายแสงไปยังจอรับแสง ตามภาพประกอบ 4 ภาพประกอบ 4 ฉายแสงไปยังจอรับแสง

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 17 6. ใชม้ อื ทาเป็นรูปตา่ ง ๆ อะไรกไ็ ดแ้ ล้วเอาไปขวางลาแสง ตวั อย่างตามภาพประกอบ 5 ภาพประกอบ 5 ตวั อย่างการทามอื เปน็ รูปตา่ ง ๆ เพอื่ เอาไปขวางลาแสง แล้วสงั เกตว่าเกดิ อะไรข้ึน..................................................................................................... ........... ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. 7. ใหอ้ ธบิ ายปรากฏการณท์ สี่ ังเกตไดจ้ ากขอ้ 3 วา่ เกดิ ข้นึ ไดอ้ ย่างไร 8. ใหอ้ ธบิ ายความสมั พนั ธ์ของผลทสี่ ังเกตไดจ้ ากขอ้ 3และจากข้อ5 9. สรุปผลการทดลอง

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 18 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยท่ี 1 ประวัติและหลักการทางฟสิ ิกส์ของเครอ่ื งถา่ ยเอกสาร คาช้ีแจง แบบทดสอบนี้เปน็ แบบปรนัย 5 ตวั เลือก จานวน 10 ขอ้ ใหเ้ ลือกคาตอบทถ่ี กู ทสี่ ุดเพยี ง คาตอบเดยี ว โดยทาเครื่องหมาย x ลงในกระดาษคาตอบ 1. ผทู้ ป่ี ระดษิ ฐเ์ ครื่องถา่ ยเอกสารโดยใช้หลกั การแบบในปัจจุบันไดส้ าเร็จเป็นแรกของโลกคอื ใคร ก. Copier F. Carlson ข. Coulomb F. Carlson ค. Chester F. Carlson ง. Canon F. Carlson จ. Charger F. Carlson 2. เครื่องถ่ายเอกสารมวี ิวฒั นาการมาจากอะไร ก. เคร่ืองอดั สาเนา ข. กลอ้ งถา่ ยรูป ค. เคร่ืองแฟกซ์ ง. กล้องจุลทรรศน์ จ. กระดาษกระดาษคาร์บอน 3. คาร์ลสนั เรียนจบปริญญาตรีจากสถาบนั เทคโนโลยีแหง่ แคลิฟอร์เนียในสาขาอะไร ก. ฟสิ กิ ส์ ข. เคมี ค. วศิ วกรรมไฟฟา้ ง. กฎหมาย จ. บริหาร 4. บทความของพอล ซเี ลนยี นักฟสิ กิ สแ์ ละคณติ ศาสตร์ชาวฮังกาเรียน ทค่ี าร์ลสันใหค้ วามสนใจ มากทส่ี ดุ และนามาประยุกตใ์ ชใ้ นการประดษิ ฐเ์ คร่ืองถา่ ยเอกสารเปน็ บทความเกย่ี วกบั อะไร ก. การแกไ้ ขภาพทเี่ กดิ ในกล้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอน ข. การแยกสขี องแสง ค. การศกึ ษาโครงสร้างของผงไลโคโปเดยี ม ง. การสร้างสนามไฟฟา้ สถติ จ. การศกึ ษาเกย่ี วกบั วสั ดทุ เ่ี ป็นตวั นาแสง 5. การทดลองของพอล ซเี ลนยี (จากข้อ4) ทาใหเ้ กดิ ปรากฏการณอ์ ะไรขึ้น ก. ภาพไฟฟา้ ทมี่ องไมเ่ ห็น ข. electorgraphy ค. Invisible electric image ค. ภาพไฟฟา้ แฝง จ. ถูกทุกข้อ 6. คาร์ลสันไดว้ ่าจ้างผ้ชู ่วยซึ่งเป็นนักฟสิ กิ ส์ชาวเยอรมนั ช่ือวา่ อะไร ก. ออ็ ตโต คอร์ไน ข. อะดรัม ออ็ ตโต ค. คอร์ไน อะดรัม ง. ออ็ ตโต อะดรัม จ. อะดรัม คอร์ไน

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 19 7. ขณะทค่ี าร์ลสันเร่ิมตน้ ประดษิ ฐเ์ คร่ืองถา่ ยเอกสาร เขาทางานทใี่ ดและอยู่ในตาแหน่งอะไร ก. บริษทั เบลล์ เทเลโฟน เปน็ วศิ วกรฝา่ ยวจิ ัย ข. บริษทั ฮาลอยด์ เป็นทปี่ รึกษา ค. บริษทั พ.ี อาร์. มอลลอรี เปน็ ผจู้ ัดการแผนกสทิ ธบิ ตั ร ง. บริษทั ซรี ็อกซ์ คอร์ปอเรชนั่ เปน็ ประธาน จ. บริษทั แคนนอน เปน็ วิศวกรฝา่ ยวิจัย 8. คาร์ลสนั นาแผ่นกระดาษมาฉาบดว้ ยโพแทสเซยี มไอโอไดดแ์ ละแป้ง แลว้ วางกระดาษบนแผ่น ทองแดงเคลอื บทองแดงออกไซดแ์ ล้ววางเอกสารท่ีตน้ ฉบับไว้บนกระดาษแล้วส่องแสงไฟไปยัง ดา้ นหลังของเอกสาร ตามหลกั การแล้วชั้นของวสั ดตุ วั นาแสงถูกวางไว้ใหส้ ัมผสั กบั แผน่ กระดาษ ทไ่ี ดร้ ับการเคลือบดว้ ยสารเคมจี ะเปลี่ยนสีไดถ้ ้ามกี ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ น การทดลองคร้ังนท้ี าให้ คาร์ลสันไดพ้ บหลกั การอะไร ก. การถ่ายภาพไฟฟา้ โดยใช้แสง ข. Photopicture ค. การสะท้อนแสงโดยใช้ภาพ ง. Electrophotography จ. ขอ้ ก. กบั ขอ้ ง. ถูก 9. คาร์ลสนั ใช้หลกั การอะไรในการคดั ลอกภาพจากเอกสารตน้ ฉบับ ก. ใช้กลอ้ งถา่ ยรูป ข. ใชค้ วามร้อนผา่ นกระดาษไข ค. ใชผ้ งคาร์บอน ง. ใชแ้ สงสะท้อนทเ่ี กดิ จากการฉายแสงไปยังเอกสารตน้ ฉบบั จ. ใชก้ ล้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอน อา่ นข้อความนแี้ ลว้ ตอบคาถามข้อ10-12 ผูช้ ่วยของคาร์ลสัน เอาสไลดแ์ กว้ ของกล้องจุลทรรศน์ มาเขยี นข้อความ “10-22-38 ASTORIA” จากนัน้ ทาใหห้ ้องมดื ทสี่ ดุ เท่าทจี่ ะทาได้ แล้ว ใช้ผ้าเช็ดหน้าถูแผ่นสงั กะสีเคลอื บ กามะถนั อย่างแรงและรวดเร็ว นาแผน่ สไลดต์ น้ ฉบบั มาประกบแลว้ ใช้โคมไฟมาสอ่ งผา่ นแผน่ สไลด์ เปน็ เวลาสักครู่หนง่ึ เมอื่ แยกสไลดต์ น้ ฉบบั ออกแล้วโรยผงไลโคโปเดยี มลงบนแผน่ สังกะสีหลังจาก เปา่ ผงไลโคโปเดยี มออกจากแผ่นสงั กะสีแล้วสิง่ ทเี่ หลืออยู่คอื “10-22-38 ASTORIA” ทเ่ี หมอื น ตน้ ฉบับทุกประการ 10. ลักษณะการทางานของสังกะสีเคลือบกามะถนั ทค่ี าร์ลสนั ใช้ในการทดลอง คอื ข้อใด ก. ตน้ แบบ ข. แมแ่ บบ ค. แกะแบบ ง. ลอกแบบ จ. ถูกทุกข้อ

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 20 11. คาร์ลสันทาให้หอ้ งมดื เพอื่ อะไร ก. ปอ้ งกนั แสงถกู ผง ไลโคโปเดยี ม ข. ป้องกนั แสงถกู แผ่นสไลด์ ค. ปอ้ งกนั แสงถกู สงั กะสีเคลือบกามะถนั ง. ดวงตาของคาร์ลสนั แพแ้ สง จ. รักษาอณุ หภูมขิ องห้องทดลอง 12. การใชผ้ า้ เชด็ หน้าถแู ผ่นสงั กะสเี คลอื บกามะถนั ทาเพอ่ื ใหเ้ กดิ อะไร ก. ให้เกดิ ความร้อน ข. ให้เกดิ ประจุไฟฟา้ ค. ให้เกดิ กระแสไฟฟา้ ง. ใหเ้ กดิ แรงเคล่ือนไฟฟา้ จ. ให้เกดิ อานาจแมเ่ หล็กไฟฟา้ 13. บริษทั ใดทร่ี ่วมกบั คาร์ลสันพฒั นาเครื่องถ่ายเอกสารในเชิงพาณชิ ย์ไดส้ าเร็จ ก. บริษทั ฮาลอยด์ ข. บริษทั ริโก้ ค. บริษทั เบลล์ เทเลโฟน ง. สถาบันแบทเทิลเมม็ โมเรียล จ. แคนนอน 14. เคร่ืองถา่ ยเอกสารรุ่นแรกทผี่ ลติ วางตลาดคอื “Xerox 914” ตวั เลข 914 หมายถงึ อะไร ก. ขนาดของกระดาษ 9 cm X 14 cm ข. ขนาดของกระดาษ 9” X 14” ค. ขนาดของเคร่ือง 90 cm X 140 cm ง. ขนาดของเคร่ือง 9’ X 14’ จ. จานวนการผลิตครั้งแรก 914 เคร่ือง 15. คาร์ลสันใช้เวลากปี่ ี กวา่ ทเี่ ขาจะสามารถผลิตเครื่องถ่ายเอกสารในเชงิ พาณชิ ย์ไดส้ าเร็จ หลงั จากทส่ี ามารถทาการทดลองถ่ายเอกสารแผ่นแรกของโลกไดส้ าเร็จ ก. 5 ปี ข. 10 ปี ค. 11 ปี ง. 20 ปี จ. 21 ปี

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 21 แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยที่ 1 ประวัติและหลักการทางฟสิ ิกส์ของเครอื่ งถา่ ยเอกสาร คาช้ีแจง แบบทดสอบนี้เปน็ แบบปรนัย 5 ตวั เลอื ก จานวน 10 ขอ้ ใหเ้ ลอื กคาตอบทถ่ี กู ทส่ี ุดเพยี ง คาตอบเดยี ว โดยทาเคร่ืองหมาย x ลงในกระดาษคาตอบ 1. ผู้ทป่ี ระดษิ ฐเ์ คร่ืองถ่ายเอกสารโดยใชห้ ลักการแบบในปัจจุบันไดส้ าเร็จเปน็ แรกของโลกคอื ใคร ก. Charger F. Carlson ข. Coulomb F. Carlson ค. Canon F. Carlson ง. Chester F. Carlson จ. Copier F. Carlson 2. เคร่ืองถา่ ยเอกสารมวี วิ ัฒนาการมาจากอะไร ก. เคร่ืองอดั สาเนา ข. กล้องจุลทรรศน์ ค. เคร่ืองแฟกซ์ ง. กลอ้ งถ่ายรูป จ. กระดาษกระดาษคาร์บอน 3. คาร์ลสนั ใช้เวลากปี่ ี กวา่ ทเ่ี ขาจะสามารถผลติ เครื่องถ่ายเอกสารในเชิงพาณชิ ย์ไดส้ าเร็จ หลงั จากทส่ี ามารถทาการทดลองถ่ายเอกสารแผ่นแรกของโลกไดส้ าเร็จ ก. 5 ปี ข. 10 ปี ค. 11 ปี ง. 20 ปี จ. 21 ปี 4. คาร์ลสันเรียนจบปริญญาตรีใบทสี่ องในสาขาอะไร ก. ฟสิ ิกส์ ข. เคมี ค. วิศวกรรมไฟฟา้ ง. กฎหมาย จ. บริหาร 5. บทความของพอล ซีเลนยี นักฟสิ ิกส์และคณติ ศาสตร์ชาวฮังกาเรียน ทคี่ าร์ลสนั ใหค้ วามสนใจ มากทสี่ ุดและนามาประยุกตใ์ ชใ้ นการประดษิ ฐเ์ ครื่องถา่ ยเอกสารเป็นบทความเกยี่ วกบั อะไร ก.การศกึ ษาเกยี่ วกบั วสั ดทุ เี่ ป็นตวั นาแสง ข. การแยกสีของแสง ค. การศกึ ษาโครงสร้างของผงไลโคโปเดยี ม ง. การสร้างสนามไฟฟา้ สถิต จ. การแกไ้ ขภาพทเ่ี กดิ ในกล้องจุลทรรศน์อเิ ล็กตรอน 6. การทดลองของพอล ซเี ลนยี (จากขอ้ 5) ทาให้เกดิ ปรากฏการณอ์ ะไรขน้ึ ก. electorgraphy ข. ภาพไฟฟา้ ทม่ี องไมเ่ ห็น ค. ภาพไฟฟา้ แฝง ค. image Invisible electric จ. ถูกทุกข้อ

เครื่ องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 22 7. คาร์ลสันไดว้ า่ จ้างผชู้ ว่ ยซงึ่ เปน็ นักฟสิ กิ สช์ าวเยอรมนั ชือ่ ว่าอะไร ก. ออ็ ตโต คอร์ไน ข. อะดรัม ออ็ ตโต ค. คอร์ไน อะดรัม ง. ออ็ ตโต อะดรัม จ. อะดรัม คอร์ไน 8. ขณะทคี่ าร์ลสันเริ่มตน้ ประดษิ ฐเ์ คร่ืองถา่ ยเอกสาร เขาทางานทใ่ี ดและอยู่ในตาแหน่งอะไร ก. บริษทั เบลล์ เทเลโฟน เป็นวิศวกรฝ่ายวิจัย ข. บริษทั ฮาลอยด์ เปน็ ทปี่ รึกษา ค. บริษทั พ.ี อาร์. มอลลอรี เปน็ ผ้จู ัดการแผนกสิทธิบัตร ง. บริษทั ซรี ็อกซ์ คอร์ปอเรชน่ั เปน็ ประธาน จ. บริษทั แคนนอน เป็นวิศวกรฝา่ ยวจิ ัย 9. คาร์ลสนั นาแผน่ กระดาษมาฉาบดว้ ยโพแทสเซยี มไอโอไดดแ์ ละแปง้ แลว้ วางกระดาษบนแผ่น ทองแดงเคลอื บทองแดงออกไซดแ์ ล้ววางเอกสารท่ีตน้ ฉบับไว้บนกระดาษแล้วส่องแสงไฟไปยัง ดา้ นหลังของเอกสาร ตามหลักการแล้วชั้นของวัสดตุ วั นาแสงถกู วางไว้ใหส้ มั ผัสกบั แผ่นกระดาษ ทไี่ ดร้ ับการเคลือบดว้ ยสารเคมจี ะเปลี่ยนสีไดถ้ า้ มกี ระแสไฟฟา้ ไหลผ่าน การทดลองครั้งนีท้ าให้ คาร์ลสันไดพ้ บหลกั การอะไร ก. การถา่ ยภาพแบบใหม่ ข. Photopicture ค. การสะทอ้ นแสงโดยใช้ภาพ ง. Electrophotography จ. ข้อ ก. กบั ขอ้ ง. ถกู 10. คาร์ลสันใชห้ ลักการอะไรในการคดั ลอกภาพจากเอกสารตน้ ฉบับ ก. ใช้แสงสะท้อนทเ่ี กดิ จากการฉายแสงไปยังเอกสารตน้ ฉบับ ข. ใช้กล้องถา่ ยรูป ค. ใชก้ ลอ้ งจุลทรรศน์อเิ ลก็ ตรอน ง. ใชผ้ งคาร์บอน จ. ใช้ความร้อนผ่านกระดาษไข 11. ลักษณะการทางานของสังกะสเี คลอื บกามะถันทค่ี าร์ลสนั ใช้ในการทดลอง คอื ข้อใด ก. ตน้ แบบ ข. แมแ่ บบ ค. แกะแบบ ง. ลอกแบบ จ. ถกู ทุกขอ้ 12. คาร์ลสันทาใหห้ อ้ งมดื เพอ่ื อะไร ก. รักษาอณุ หภูมขิ องห้องทดลอง ข. ดวงตาของคาร์ลสันแพแ้ สง ค. ป้องกนั แสงถกู สงั กะสเี คลือบกามะถนั ง. ปอ้ งกนั แสงถกู แผน่ สไลด์ จ. ปอ้ งกนั แสงถกู ผง ไลโคโปเดยี ม

เครื่ องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 23 13. การใชผ้ า้ เชด็ หน้าถูแผน่ สังกะสเี คลือบกามะถันทาเพอ่ื ให้เกดิ อะไร ก. ใหเ้ กดิ กระแสไฟฟา้ ข. ให้เกดิ แรงเคลือ่ นไฟฟา้ ค. ให้เกดิ ความร้อน ง. ให้เกดิ ประจุไฟฟา้ จ. ใหเ้ กดิ อานาจแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ 14. บริษทั ใดทร่ี ่วมกบั คาร์ลสันพฒั นาเครื่องถา่ ยเอกสารในเชงิ พาณชิ ย์ไดส้ าเร็จ ก. บริษทั แคนนอน ข. บริษทั ริโก้ ค. บริษทั เบลล์ เทเลโฟน ง. สถาบันแบทเทิลเมม็ โมเรียล จ. บริษทั ฮาลอยด์ 15. เคร่ืองถา่ ยเอกสารรุ่นแรกทผี่ ลติ วางตลาดคอื “Xerox 914” ตวั เลข 914 หมายถึงอะไร ก. จานวนการผลิตคร้ังแรก 914 เครื่อง ข. ขนาดของกระดาษ 9 cm X 14 cm ค. ขนาดของเครื่อง 90 cm X 140 cm ง. ขนาดของเคร่ือง 9 ฟตุ X 14 ฟตุ จ. ขนาดของกระดาษ 9 น้ิว X 14 นวิ้

เครื่ องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 24 แบบประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิใบงาน หนว่ ยท่ี1 ประวัตแิ ละหลักการทางฟสิ ิกส์ของเครอื่ งถา่ ยเอกสาร ชื่อ-นามสกลุ ............................................. ..............................ช้ันปวส.ปีท่ี/กล่มุ ............................. . วนั /เดอื น/ป.ี ...................................................................................................................................... ลาดบั รายการ คะแนน คะแนนท่ี หมายเหตุ ท่ี เตม็ ได้ 6 1 ปฏิบัตติ ามขน้ั ตอนไดถ้ ูกตอ้ ง 6 7 2 บันทึกผลการทดลองไดถ้ ูกตอ้ ง 7 5 3 อธิบายผลการทดลองไดถ้ ูกตอ้ ง 3 4 การสรุปผลการทดลอง 3 3 5 การปฏิบตั งิ านไดเ้ สร็จตามกาหนดเวลา 6 การคานึงถึงหลกั ของความปลอดภัยในการ สังเกต ปฏิบัตงิ าน ไมป่ ระมาทเลนิ เล่อ จาก พฤตกิ รรม 7 ความตงั้ ใจในการปฏิบัตงิ าน 8 การดแู ลรักษาเคร่ืองมอื -อปุ กรณ์ และการรักษาความสะอาดของพนื้ ทป่ี ฏิบตั งิ าน คะแนนรวม 40

เครื่ องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 25 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เจตคติ ค่านิยม และเศรษฐกิจพอพยี ง หนว่ ยท่ี 1 ประวตั แิ ละหลักการทางฟสิ ิกส์ของเครอ่ื งถา่ ยเอกสาร ชื่อ-นามสกลุ ............................................. ..........................ชั้นปวส.ปที ี่/กลุ่ม............................. ..... วนั /เดอื น/ป.ี ...................................................................................................................................... เจคตกิ ารเรียน ตาม ดา้ น ตามแนวหลกั สงั เกตจากพฤตกิ รรม ผา่ น ไม่ วตั ถปุ ระสงค์ ที่ ปรัชญาเศรษฐกจิ (10 ข้อ) ผา่ น ข้อท่ี พอเพยี ง 1.การเขา้ เรียนตรงเวลา 2. มอี ปุ กรณก์ ารเรียนครบ 1 มีเหตผุ ล 3. มคี วามรับผิดชอบตงั้ ใจเรียน 4. ส่งงานในเวลาทก่ี าหนด 5. ให้ความร่วมมอื ในกล่มุ มคี วามสามคั คี 6.ไมแ่ อบอา้ งนาเอาผลงานคนอนื่ มาสง่ 2 มีความ 7. ใช้วสั ดุ อปุ กรณอ์ ย่างประหยัด พอประมาณ 8. ไมค่ ดั ลอกงานคนอน่ื 3 มีภูมิคมุ้ กนั ทด่ี ี 9. เกบ็ อปุ กรณเ์ ขา้ ทใี่ หเ้ รียบร้อย 10. รักษาความสะอาดห้องเรียน รวม เกณฑ์การประเมนิ และการแปลผลคะแนน ผา่ นการประเมนิ อย่างน้อย 7 ข้อ ขน้ึ ไป ผ่าน ไมผ่ ่าน ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. (………….......................................) ผูป้ ระเมนิ

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 26 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น หนว่ ยท่ี1 ประวัตแิ ละหลักการทางฟสิ ิกส์ของเครอื่ งถา่ ยเอกสาร แบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบ หลงั เรยี น ขอ้ เฉลย ข้อ เฉลย 1ค 1ง 2ข 2ง 3ก 3จ 4ก 4ง 5จ 5จ 6จ 6จ 7ก 7ก 8จ 8ค 9ง 9ง 10 ข 10 ก 11 ค 11 ข 12 ข 12 ค 13 ก 13 ง 14 ข 14 จ 15 จ 15 จ

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 27 เฉลยใบงานหน่วยท่ี 1 หลักการทางฟสิ ิกส์ของเครอื่ งถา่ ยเอกสาร 3. ไมม่ อี ะไรเกดิ ขน้ึ ถึงแมว้ ่าจะเอาปลายไมบ้ รรทัดมาแตะทเี่ ศษกระดาษ 4. เศษกระดาษจะลอยมาเกาะทไ่ี มบ้ รรทัด แตพ่ อทงิ้ ไว้สักครู่กจ็ ะตกลงมา ตามภาพประกอบ 1 ภาพประกอบ 1 เศษกระดาษลอยมาเกาะทไี่ มบ้ รรทัด 6. จะเกดิ เงาดาบนจอรับแสง มรี ูปร่างตา่ ง ๆ ตามแบบมอื ทท่ี า เงาจะมขี นาดเล็กหรือ ใหญ่ขึน้ กบั ระยะทางระหว่างแหล่งกาเนิดแสงกบั มอื ทไ่ี ปบงั ลาแสง ตามภาพประกอบ 2 ภาพประกอบ 2 เงาดาบนจอรับแสง 7. ใหอ้ ธิบายปรากฏการณท์ ส่ี งั เกตไดจ้ ากข้อ 3 กบั ข้อ4 ว่าเกดิ ข้นึ ไดอ้ ย่างไร ข้อ3 สภาพปกตขิ องทงั้ ไมบ้ รรทดั และเศษกระดาษ ตา่ งกเ็ ปน็ กลางทางไฟฟา้ ดงั นัน้ ถึงแมจ้ ะเอามาใกล้ ๆกนั หรือถึงกบั แตะกนั กจ็ ะไมเ่ กดิ ผลอะไร ข้อ4 การทเี่ ศษกระดาษลอยมาเกาะทไ่ี มบ้ รรทดั น้ันเกดิ จากอานาจไฟฟา้ สถติ กลา่ วคอื ในขณะทถ่ี ไู มบ้ รรทัดกบั ปกหนังสอื อเิ ล็กตรอนจะย้ายจากปกหนังสือลงบนไมบ้ รรทดั เมอ่ื ไมบ้ รรทัดไดร้ ับอเิ ลก็ ตรอนมากข้นึ จะทาให้มนั ขาดเสถยี รภาพทางไฟฟา้ และจะแสดงตนเป็นประจุ ไฟฟา้ ลบ ขณะเดยี วกนั อเิ ลก็ ตรอนไดอ้ อกจากปกหนังสือ กท็ าให้ ปกหนังสือ มอี เิ ล็กตรอนน้อยลง

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 28 และจะแสดงตนเป็นประจุไฟฟา้ ขว้ั ดงั นน้ั เพอ่ื ทาใหต้ วั เองมเี สถยี รภาพทางไฟฟา้ ไมบ้ รรทัดกใ็ ช้ อานาจไฟฟา้ สถิตดดู เศษกระดาษมาเกาะเพอ่ื แลกเปลี่ยนอเิ ล็กตรอนใหเ้ กดิ ความสมดลุ ทางไฟฟา้ และเมอ่ื ไมบ้ รรทัดมคี วามสมดลุ ทางไฟฟา้ แล้วกจ็ ะหมดอานาจไฟฟา้ สถิต เศษกระดาษกจ็ ะตกลงมา 8. ใหอ้ ธิบายเชือ่ มโยงความสัมพนั ธ์ของผลทส่ี งั เกตไดจ้ ากข้อ 4 กบั ข้อ6 ข้อ4 การทเี่ ศษกระดาษลอยมาเกาะทไี่ มบ้ รรทัดนน้ั เศษกระดาษซ่ึงมขี นาดเลก็ และ เบากจ็ ะเปรียบเสมอื นผงหมกึ ขณะทไี่ มบ้ รรทดั เปรียบเสมอื นแมแ่ บบ ถ้าทาใหห้ มกึ มาเกาะเป็น รูปแบบเชน่ ตวั หนังสอื หรือรูปภาพ แลว้ ทาให้หมกึ ตกลงมาบนกระดาษขาวกจ็ ะไดต้ วั หนังสอื หรือ รูปภาพตามนน้ั นัน่ คอื ถ้าเราทาให้จอรับแสงตามข้อ6 มปี ระจุไฟฟา้ เตม็ พน้ื ทเี่ หมอื นไมบ้ รรทัดส่วน ทถี่ ูกบั ปกหนังสือ โดยมเี งื่อนไขว่าถา้ สว่ นใดของจอรับแสงถกู แสงจากแหลง่ กาเนิดแสงสอ่ ง สว่ นนน้ั ประจุไฟฟา้ จะถูกทาลาย ดงั น้ันการทเี่ อามอื ทารูปร่างตา่ ง ๆ แลว้ บงั ลาแสงไว้ ส่วนทเี่ ปน็ เงาบนจอ รับแสงจะไมถ่ ูกทาลาย ทาใหย้ ังคงมปี ระจุไฟฟา้ อยู่ สว่ นอน่ื ๆ ทถี่ ูกแสงประจุไฟฟา้ จะถกู ทาลายไป ถ้าเอาหมกึ มาโรยใสม่ นั จะเกาะเฉพาะส่วนทเี่ ปน็ เงา สว่ นขนาดเล็ก-ใหญ่ของเงานั้นกเ็ ปรียบเสมอื น การถา่ ยเอกสารแบบย่อสว่ นและขยายสว่ นนน่ั เอง 9. สรุปผลการทดลอง จากผลการทดลองพบวา่ 1. เคร่ืองถา่ ยเอกสารทางานโดยอาศยั หลักการของไฟฟา้ สถิตดงั นี้ 1.1 ทาให้แมแ่ บบและผงหมกึ เปน็ ประจุไฟฟา้ ตรงข้ามกนั คอื ถา้ แมแ่ บบเปน็ ประจุบวก ผงหมกึ จะตอ้ งเปน็ ประจุลบ 1.2 ตามหลักทางฟสิ ิกสป์ ระจุไฟฟา้ ชนิดเดยี วกนั จะผลักกนั และประจุไฟฟา้ ตา่ งชนิดกนั จะดดู กนั ดงั น้นั ผงหมกึ ซง่ึ มขี นาดเลก็ และเบาจะลอยมาเกาะทแี่ มแ่ บบเฉพาะในสว่ นที่ มปี ระจุไฟฟา้ เท่านัน้ 2. เคร่ืองถา่ ยเอกสารคดั ลอกเอกสารจากตน้ ฉบับโดยใชแ้ สง ซงึ่ มขี ้อดคี อื ไมท่ าให้ตน้ ฉบับ เสียหาย 3. จากข้อ1 และ ขอ้ 2 แมแ่ บบจะตอ้ งมคี ณุ สมบตั ทิ างไฟฟา้ ทแี่ ตกตา่ งกนั ระหวา่ งใน ขณะทไี่ มถ่ ูกแสงกบั ในขณะทถ่ี ูกแสง

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก 29 ขอ้ สอบตามสมรรถนะของจุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมท่ีวดั ได้ รหสั วิชา 3105-2110 รายวชิ า เครอื่ งถา่ ยเอกสารระบบแอนะล็อก ระดบั ชัน้ ปวส. แผนกวชิ าอเิ ล็กทรอนกิ ส์ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม หลงั จากศกึ ษาหน่วยนแ้ี ล้วผเู้ รียนสามารถ 1. บอกประวตั ิและความเปน็ มา ของเครื่องถา่ ยเอกสารได้ 2. อธิบายหลกั การทางฟสิ ิกสข์ องเคร่ืองถ่ายเอกสารได้ 3. บอกประวัตขิ องการผลติ เครื่องถา่ ยเอกสารในเชิงพาณชิ ย์ ได้ 4. อา่ น เขียน และบอกความหมายคาศพั ท์ภาษาองั กฤษทว่ั ไปและเทคนิคคอลเทอมได้ 5. มเี จตคตทิ ดี่ ตี ามแนวหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในการเรียนรู้ 1. บอกประวัตแิ ละความเปน็ มาของเครอื่ งถา่ ยเอกสารได้

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 30

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 31 ตารางการวเิ คราะหข์ ้อสอบมาตรฐาน รหสั วชิ า 3105-2110 รายวิชา เครอื่ งถา่ ยเอกสารระบบแอนะล็อก ระดบั ชน้ั ปวส. แผนกวชิ าอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ข้อสอบมาตรฐานรายวิชา วิชาเคร่ืองถ่ายเอกสารระบบแอนะล็อก ระดบั ช้ัน ปวส. สาขางานอเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ ตุ สาหกรรม ผสู้ อน นายภักดี ดาวกระจ่าง หนว่ ยท่ี 1 ประวัตแิ ละหลกั การทางฟสิ กิ สข์ องเครื่องถา่ ยเอกสาร (6) (7) (8) (9) ระดบั ความ

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 32 งาน/ขนั้ ตอนที่เกิด สาคัญของ คาถาม และขอ้ มลู คาตอบ ความ สมรรถนะของวัตถุเชงิ วัตถุ พฤติกรรมปลายทาง ประสงค์ คดิ เห็น ของ ที่วัดได้ 1. บอกประวตั แิ ละความ หัวหนา้ เปน็ มาของเคร่ืองถา่ ย สาขางาน เอกสารได้ 321 2. อธบิ ายหลกั การทาง ฟสิ กิ สข์ องเคร่ืองถา่ ย 1. ผทู้ ี่ประดษิ ฐ์เคร่ืองถา่ ยเอกสารโดยใชห้ ลกั การ เอกสารได้ แบบในปจั จุบนั ไดส้ าเร็จเปน็ แรกของโลกคอื ใคร ก. Charger F. Carlson ข. Coulomb F. Carlson ค. Canon F. Carlson ง. Chester F. Carlson จ. Copier F. Carlson 2. เครื่องถา่ ยเอกสารมีววิ ฒั นาการมาจากอะไร ก. เคร่ืองอดั สาเนา ข. กลอ้ งจุลทรรศน์ ค. เครื่องแฟกซ์ ง. กลอ้ งถา่ ยรูป จ. กระดาษกระดาษคาร์บอน 3. คาร์ลสนั ใชเ้ วลากป่ี ี กวา่ ที่เขาจะสามารถผลติ เครื่องถา่ ยเอกสารในเชงิ พาณชิ ย์ไดส้ าเรจ็ หลงั จากที่สามารถทาการทดลองถา่ ยเอกสารแผน่ แรกของโลกไดส้ าเร็จ ก. 5 ปี ข. 10 ปี ค. 11 ปี ง. 20 ปี จ. 21 ปี 4. คาร์ลสนั จบปรญิ ญาตรีใบทีส่ องในสาขาอะไร ก. ฟสิ กิ ส์ ข. เคมี ค. วศิ วกรรมไฟฟา้ ง. กฎหมาย จ. บริหาร 5. บทความของพอล ซเี ลนยี นักฟสิ กิ สแ์ ละ คณติ ศาสตร์ชาวฮังกาเรยี น ท่ีคาร์ลสนั สนใจ ก.การศกึ ษาเกยี่ วกบั วสั ดทุ ่เี ปน็ ตวั นาแสง ข.การแยกสขี องแสง ค. การศกึ ษาโครงสร้างของผงไลโคโปเดยี ม ง. การสรา้ งสนามไฟฟา้ สถติ จ. การแกไ้ ขภาพท่ีเกดิ ในกลอ้ งจุลทรรศน์ อเิ ลก็ ตรอน 2. อธบิ ายหลกั การทาง 6. การทดลองของพอล ซเี ลนยี (จากขอ้ 5) ทาให้ ฟสิ กิ สข์ องเครื่องถา่ ย เอกสารได้ เกดิ ปรากฏการณอ์ ะไรขึ้น ก. electorgraphy ข. ภาพไฟฟา้ ทม่ี องไม่เหน็ ค. ภาพไฟฟา้ แฝง ค. image Invisible electric จ. ถกู ทกุ ขอ้

เคร่ื องถ่ายเอกสารระบบแอนะลอ็ ก 33


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook