Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงาน

รายงาน

Published by anuchawongmalai, 2021-10-15 02:42:25

Description: รายงาน

Search

Read the Text Version

ดนตรีไทย นาย ธนกร ศรเกษตริน 1012 นางสาว ทิพย์สุคนธ์ วงศ์มาลยั 1013 นางสาว บุษกร นวลลกั ษณ์ 1020 กล่มุ เรียน 63080.121 รายงานเล่มน้เี ป็ นส่วนหนึง่ ของวิชาสารสนเทศเพือ่ การศึกษาค้นคว้า ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

ดนตรีไทย นาย ธนกร ศรเกษตริน 1012 นางสาว ทิพย์สุคนธ์ วงศ์มาลยั 1013 นางสาว บุษกร นวลลกั ษณ์ 1020 กล่มุ เรียน 63080.121 รายงานเล่มน้เี ป็ นส่วนหนึง่ ของวิชาสารสนเทศเพือ่ การศึกษาค้นคว้า ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2564 มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

ก คำนำ รำยงำนเล่มน้ีจดั ทำข้ึนเพ่ือเป็นส่วนหน่ึงของวชิ ำสำรสนเทศเพอ่ื กำรศึกษำร้นควำ้ สำหรับผทู้ ี่สนใจศึกษำ ดนตรีไทย รวมถึงประชำชนคนไทยทวั่ ไป เพรำะทำใหเ้ รำไดร้ ับรู้ถึงทมี่ ำ กำรกอ่ กำเนิดของดนตรีไทย ววิ ฒั นำกำรในชว่ งตำ่ งๆ ทำให้รับรูไ้ ดถ้ ึงควำมอจั ฉริยะ ของคนโบรำณ ควำมสำมำรภ รวมถึงควำมปรำณีต ควำมสร้ำงสรรค์ ทีท่ ำใหด้ นตรีไทยมคี วำมงำมในเรื่องรูป และเสียงมำจวบจนปัจจบุ นั ผจู้ ดั ทำ หวงั อยำ่ งยิ่งวำ่ รำยงำนฉบบั น้ี จะเกิดแรงกระตุน้ ให้ผูไ้ ดอ้ ำ่ น ไดเ้ กิดควำมรูส้ ึกสำคญั และหวงแหนศลิ ปะที่บง่ บองถงึ ควำม เป็นชำตไิ ทยน้ี ให้คงอยู่ มใิ หไ้ ดล้ ืมเลือน หรือเขยี นไว้ เพ่อื ใหไ้ ดศ้ ึกษำควำมรูใ้ นเรื่องดนตรีไทยและไดศ้ กึ ษำ อย่ำงเขำ้ ใจเพือ่ เป็นประโยชน์แก่กำรเรียน ผจู้ ดั ทำหวงั ว่ำ รำยงำนเลม่ น้ีจะเป็นประโยชน์กบั ผอู้ ่ำน หรือนกั เรียนนกั ศกึ ษำ ท่กี ำลงั หำขอ้ มลู เรื่องน้ีอยู่ หำกมขี อ้ แนะนำ หรือผิดพลำดประกำรใด ผจู้ ดั ทำขอนอ้ มรับไวแ้ ละขออภยั มำ ณ ท่นี ้ีดว้ ย ธนกร ศรเกษตริน 1012 ทพิ ยส์ ุคนธ์ วงศม์ ำลยั 1013 บษุ กร นวลลกั ษณ์ 1020 15 ตลุ ำคม 2564

ข สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ………………………………………………….,..………………………………………………….ก สำรบญั …………………………………………………………………………………………………….ข สำรบญั ภำพ………………………………………………………………………………………………..จ สำรบญั ตำรำง………………………………………………………………………………………………ช ดนตรีไทย (Thai music)………………………………………………………………………………….1-2 ววิ ฒั นำกำรของดนตรีไทย…………………………………………………………………………………3 ประเภทของดนตรีไทย…………………………………………………………………………………..4-7 ประเภทของวงดนตรีไทย……………………………………………………………………………….8-10

จ สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า ภำพท่ี 1 กระจบั ป่ี ………………………………………………………………………………………….4 ภำพที่ 2 จะเข…้ ……………………………………………………………………………………………4 ภำพท่ี 3 ซอดว้ ง……………………………………………………………………………………………5 ภำพท่ี 4 ซออ…ู้ …………..………………………………………………………………………………..5 ภำพที่ 5 ระนำดเอก………………………………………………………………………………………..6 ภำพท่ี 6 ระนำดทมุ้ ………………………………………..………….……………………………………6 ภำพที่ 7 ขล่ยุ อ…ู้ …………..………………………………………………………………………………7 ภำพที่ 8ขลุย่ เพยี งออ……………………………………………………………………………………….7 ภำพที่ 9 วงปี่ พำทยเ์ ครื่องหำ้ ……………………………………………………………………………….8 ภำพที่ 10 วงป่ี พำทยเ์ ครื่องคู่……………………………………………………………………………….8 ภำพที่ 11วงปี่พำทยเ์ ครื่องใหญ่……………………………………………………………………………8 ภำพท่ี 12 วงเคร่ืองสำยเดี่ยวหรือวงเคร่ืองสำยวงเลก็ ………………………………………………………9 ภำพที่ 13 วงเครื่องสำยเครื่องค…ู่ …………………………………………………………………………9 ภำพที่ 14 วงมโหรีเครื่องเดีย่ ว…………………………………………………………………………….10 ภำพท่ี 15 วงมโหรีเคร่ืองคู่………………………………………………………………………………..10 ภำพท่ี 16 วงมโหรีเครื่องใหญ…่ …………………………………………………………………………..10

ช สารบญั ตาราง ตารางท่ี หนำ้ ตำรำงที่ 1.…………………………………………………………………………………………………3

1 ดนตรีไทย(Thai music) ดนตรีไทย หมำยถงึ เป็นศิลปะแขนงหน่ึงของไทย ไดร้ บั อิทธิพลมำจำกประเทศตำ่ ง ๆ เช่น อนิ เดยี , จีน, อินโดนีเซีย และอ่นื ๆ เครื่องดนตรีมี 4 ประเภท ดีด สี ตี เป่ ำ เครื่องดนตรีไทยเกดิ จำกชนชำตไิ ทยเองและกำรเลียนแบบชนชำติอ่นื ๆ ทอ่ี ยุใ่ กลช้ ิดโดยเริ่มต้งั แตส่ มยั โบรำณท่ีไทยต้งั ถน่ิ ฐำนอยูใ่ นอำณำจกั รฉ่องหวู่ดนิ แดนของประเทศจนี ในปัจจุบนั ทำให้เคร่ืองดนตรีไทย และจีนมีกำรแลกเปลย่ี นเลยี นแบบกัน นอกจำกนี่ยงั มีเคร่ืองดนตรีอีกหลำยชนิด ที่ชนชำติไทยประดิษฐ์ข้นึ ใชก้ อ่ นทีจ่ ะมำพบวฒั ธรรมอินเดยี ซ่ึงแพร่หลำยอยทู่ ำงตอนใตข้ องแหลมอนิ โดจีน สำหรับชื่อเคร่ืองดนตรี ด้งั เดิมของไทยจะเรียนตำมคำโดดในภำษำไทย เช่น เกรำะ โกร่ง กรับ ฉิ่ง ฉำบ ขลยุ่ พณิ เปี๊ ยะ ซอ ฆอ้ งและ กลอง ตอ่ มำไดม้ กี ำรประดษิ ฐ์เคร่ืองดนตรีใหพ้ ฒั นำข้นึ โดยนำไมท้ ่ีทำเหมอื นกรบั หลำยอนั มำวำงเรียงกนั ได้ เคร่ืองดนตรีใหม่ เรียกว่ำระนำดหรือนำฆอ้ งหลำย ๆ ใบมำทำเป็นวงเรียกวำ่ ฆอ้ งวง เป็นตน้ จำกประวตั ิเครื่องดนตรีไทยดงั กล่ำว สำมำรถแบง่ ประวตั ศิ ำสตร์ของเคร่ืองดนตรีไทยไดเ้ ป็น 4 สมยั ดงั น้ี ดนตรีไทยสมยั สุโขทัย ชำวไทยมคี วำมสนุกสนำนกบั กำรเล่นดนครีและรอ้ งเพลงกันมำกดงั ทปี่ รำกฏในหลกั ศลิ ำจำรึกพ่อขุน รำมคำแหงหลกั ที่ 1 ว่ำ “ดบงคมกลอง ด้วยเสียงพาทย์ เสียงพิณ เสียงเลื้อน เสียงขับ ใครจักมักเล่น เล่น ใคร จักมักหวั หัว ใครจกั มกั เล้อื น เลอื้ น” ซ่ึงแลดงถงึ กำรบรรเลงเคร่ืองดนตรีประเภทตี เป่ ำ ดีด และสี คอื กลอง ป่ี พณิ และเครื่องดนตรีทีมีสำยไวส้ ีได้ นอกจำกน้ียงั มหี ลกั ฐำนของลำ้ นนำไทยทมี่ ศี ิลปวฒั นธรรมร่วมสมยั กนั ในหลกั ศิลำจำรึกในวดั พระยนื จงั หวดั ลำพนู ทจี่ ำรึกไวว้ ่ำ “ให้ถือกระทงข้างตอกดอกไม้ไต้เทียน ตพี าทย์ ดังพณิ ฆ้องกลอง ปี่ สรไนพสิ เนญชัยทะเทียดกาหลแตรสังมาลย์กงั สดาล มรทงค์ดงเดอื ด เสียงเลิศเสียงก้อง อีกทง้ั คนร้องโห่อือ้ ดาสรท้านท่งั ท้งั นครหริภญุ ชัย แล” ซ่ึงแสดงถึงเคร่ืองดนตรีบรรเลงในวงดนตรี และ ประชำชนนำมำเล่นเพือ่ ควำมสนุกสนำนครึกคร้ืนกนั ดงั น้นั จึงสำมำรถกล่ำวถงึ เครื่องดนตรีไทยในสมยั สุโขทยั ไดจ้ ำกวงดนตรีไทยในสมยั น้นั ดนตรีไทยสมัยอยธุ ยา เป็นช่วงที่บำ้ นเมอื งมศี ึกสงครำมอยู่ตลอดเวลำ จงึ ทำให้ดนตรีไทยไม่เจริญกำ้ วหนำ้ มำกนกั ยงั คงมเี ครื่อง ดนตรีในวงปี่ พำทย์ เคร่ืองหำ้ เทำ่ เดมิ จนมำเพ่ิมระนำดเอกภำยหลงั ในตอนปลำยสมยั อยุธยำ ส่วนวงดนตรีท่ี เกิดข้นึ ในสมยั น้นั ไดแ้ ก่ วงมโหรี ท่บี รรเลงโดยผูห้ ญงิ เพอื่ ขบั กล่อมถวำยแด่พระมหำกษตั ริย์ ประกอบดว้ ย เคร่ืองดนตรี กระจบั ป่ี ซอสำมสำย โทน(ทบั ) กรับ รำมะนำ ขลุ่ยและฉิ่ง

2 ดนตรีไทยสมัยธนบุรี มวี งดนตรี 3 ประเภท เชน่ เดยี วกบั สมยั อยุธยำ คือ วงป่ี พำทย์ วงมโหรี และวง เครื่องสำย แต่มเี ครื่องดนตรีของชำตติ ่ำง ๆ เขำ้ มำในประเทศไทยหลำยชนิด ดงั ปรำกฏในหมำยกำหนดกำร ของพระมหำกษตั ริยใ์ นสมยั น้นั วำ่ “ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พณิ พาทย์ไทย พิณพาทย์รามัญ มโหรี ไทย ฝร่ัง มโหรีญวน เขมร ผลัดเปล่ียนกนั สมโภช 2 เดอื นกับ 12 วัน” ในงำนสมโภชพระแกว้ มรกตเป็นตน้ ดนตรีไทยสมยั รัตนโกสินทร์ คณะละครและวงปี่ พำทยไ์ ทยสมยั รตั นโกสินทร์ มคี วำมกำ้ วหนำ้ ทำงดนตรีมำก เร่ิมจำก สมัยรัชกาลท่ี 1 ไดเ้ พ่มิ กลองทดั ข้นึ ในวงป่ี พำทยเ์ ป็น 2 ลูก และเพิม่ ระนำดในวงมโหรีป่ีพำทยอ์ กี 1 รำง สมัยรัชกาลที่ 2 เริ่มมีป่ี พำทยบ์ รรเลงประกอบเสภำ จงึ ไดน้ ำเปิ งมำงมำตดิ ขำ้ งสุกถ่วงเสียงให้ต่ำลง เรียกว่ำ สองหนำ้ ใชป้ ระกอบกำรบรรเลงประกอบเสภำ และไดเ้ พมิ่ ฆอ้ งวงในวงมโหรีดว้ ย สมยั รัชกาลที่ 3 มีผสู้ ร้ำงระนำดทมุ้ และฆอ้ งวงเล็กข้ึนมำ ทำใหเ้ กดิ วงปี่ พำทยเ์ คร่ืองคขู่ ้นึ ในสมยั น้ัน ซ่ึง ประกอบดว้ ยเครื่องดนตรีระนำดทีเปล่ยี นช่ือเป็นระนำดเอก เพอื่ ให้เขำ้ ค่กู บั ระนำดแบบใหม่ ทีเ่ พ่ิมรำง 1 รำง และสรำ้ งขนำดใหญเ่ รียกว่ำ ระนำดทมุ้ และฆอ้ งวงใหญ่ เพ่อื ใหเ้ ขำ้ คู่กบั ฆอ้ งวงเลก็ ทสี่ รำ้ ง ขนำดเลก็ ลง เรียกวำ่ ฆอ้ งวงเลก็ สมยั รัชกาลท่ี 4 วงปี่ พำทยม์ คี วำมเจริญมำก โดยเจำ้ นำย ขนุ นำง ขำ้ รำชกำร ต่ำงก็มวี งป่ี พำทยป์ ระจำบำ้ นกนั และพระบำทสมเด็จพระปิ่ นเกลำ้ เจำ้ อยหู่ ัวยงั ทรงพระรำชดำริให้นำลวดเหลก็ เลก็ ๆ ท่ี ทรงทอดพระเนตรจำกนำฬิกำต้งั โต๊ะทกี่ ลไกขำ้ งในมลี วดเส้น เล็ก ๆ ส้ันบำ้ งยำวบำ้ ง ปักเรียงกนั ถ่ี ๆ เป็น วงกลมคลำ้ ยหวีตรงกลำง สมยั รัชกาลท่ี 5 ไดเ้ กิดวงป่ี พำทยด์ กึ ดำบรรพ์ ท่ีสมเดจ็ พระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอเจำ้ ฟ้ำ กรมพระยำนริศรำนุวดั ติวงศ์ เป็นผทู้ รงปรบั ปรุงข้นึ เพือ่ บรรเลงประกอบละครวงป่ี พำทยน์ ้ีมีช่ือเสียงไพเรำะ นุ่มนวลกวำ่ สมัยรัชกาลท่ี 6 กำรดนตรีมคี วำมเจริญข้นึ มำก โดยพระบำทสมเดจ็ พระมงกฏุ เกลำ้ เจำ้ อยูห่ ัว ทรงต้งั กรมมหรสพ กรมบญั ชำกำร กรมโขนหลวง กรมพณิ พำทยห์ ลวงกลองเครื่องสำยฝรั่งหลวง สมยั รัชกาลที่ 7 พระบำทสมเดจ็ พระปกเกลำ้ เจำ้ อยู่หวั ทรงต้งั วงเครื่องสำย ส่วนพระองคข์ ้ึน โดยพระองค์ ทรงซอดว้ ง และพระบรมรำชินีทรงซออู้ พร้อมท้งั เจำ้ นำยอกี หลำยพระองค์ อยู่ในวงน้นั นอกจำกน้ี พระองค์ ยงั ทรงพระรำชนิพนธ์ เพลงรำตรีประดบั ดำว เถำ เพลงเขมรละออองค์ เถำ และเพลงคล่ืนกะทบฝ่ัง 3 ช้นั

3 ววิ ฒั นาการของดนตรีไทย ตารางท่ี 1: ววิ ฒั นำกำรดนตรีไทย ววิ ฒั นำกำร รัชกำล รัชกาลท1่ี มกี ารเพม่ิ กลองทดั เสยี งสงู -ตวั ผู้ รชั กาลท2ี่ เสียงตา่ -ตวั เมีย รชั กาลที่3 เกดิ กลองชนิดใหมข่ นึ ้ เรียกวา่ รัชกาลท4่ี “กลองสองหน้า” รัชกาลที่5 เกดิ เครื่องดนตรีขนึ ้ 2ชนดิ คือ ระนาดท้มุ และฆ้องวงเลก็ มกี ารสร้างเคร่ืองดนตรีไทยคือ ระนาดเอกเหล็ก,ระนาดท้มุ เหล็ก ปรับปรุงวงปี่ พำทยช์ นิดใหม่ รชั กาลที่6 มีกำรนำเครื่องดนตรีของตำ่ งชำติมำผสมถอื เป็นยุค ทองของดนตรีไทยและนำฏศิลป์ รัชกาลท่ี7 มีกำรต้งั วงเครื่องสำยเป็นวงส่วนพระองค์ข้ึนทรงพระ รชั กาลที8่ รำชนิพนธ์3เพลงมีกำรบนั ทึกเพลงไทยดว้ ยโน๊ตสำกล แบบเป็ นทำงกำร มีกำรห้ำมเล่นดนตรีไทยอย่ำงเคร่งครัด รัชกาลท9่ี มกี ำรนำทำนองเพลงไทย แทม้ ำบรรเลงเพลงข้นึ มำ รัชกาลท่1ี 0 มำกมำย ทรงรับมูลนิธิวงดุริยำงคซ์ ิมโฟนีกรุงเทพไวใ้ นพระรำ ชูปถมั ถ์

4 ประเภทของเครื่องดนตรีไทย ประเภทดีด ภาพท่ี 1: กระจบั ปี่ ท่ีมา : https://sites.google.com/site/praphethkhxngdntrithiy/ กระจบั ปี่ เป็นพณิ ชนิดหน่ึง มี ๔ สำย กระพงุ้ พณิ มีลกั ษณะ เป็นกล่องแบนรูปทรงส่ีเหลยี่ มคำงหมูมมุ มน ดำ้ นหนำ้ ทำเป็นช่อง ให้เสียงกงั วำน ทวนทำเป็นกำ้ นเรียวยำวและกลมกลึงปลำยแบน และงอนโคง้ ไป ดำ้ นหลงั ตรงปลำยทวนมลี ิ่มสลกั เป็นลูกบิดไม้ สำหรบั ข้ึนสำย ๔ ลกู สำยส่วนมำกทำดว้ ยสำยเอน็ หรือลวด ทองเหลือง ตลอดแนวทวนดำ้ นหนำ้ ทำเป็น \"สะพำน\"หรือ นม ปักทำดว้ ยไม้ เขำสัตวห์ รือกระดกู สัตว์ สำหรบั หมนุ สำยมี ๑๑ นมกระจบั ป่ี พฒั นำมำจำกเคร่ืองดนตรีประเภทหน่ึงของอนิ เดยี มตี น้ กำเนิดจำกกำรดดี สำยธนูตำมหลกั ฐำนพบว่ำ กระจบั ป่ี มมี ำต้งั แต่ สมยั สุโขทยั ภาพท่ี 2 :จะเข้ ท่มี า : https://sites.google.com/site/praphethkhxngdntrithiy/ จะเขเ้ ป็นเครื่องดนตรีที่วำงดดี ตำมแนวนอน ทำดว้ ยไมท้ ่อนขุดเป็นโพรงอยู่ภำยใน นิยมใชไ้ มแ้ ก่นขนุน เพรำะให้เสียงกงั วำลดี ดำ้ นล่ำงเป็นพ้นื ไม้ ซ่ึงมกั ใชไ้ มฉ้ ำฉำ เจำะรูไวใ้ หเ้ สียงออกดีข้ึน มขี ำอยูต่ อนหัว ๔ ขำ ตอนทำ้ ย ๑ ขำ มสี ำย ๓ สำย คือ สำยเอก(เสียงสูง) สำยกลำง(เสียงทุม้ ) ท้งั สองสำยน้ีทำดว้ ยเอน็ หรือไหมเป็น เกลยี ว สำยทสี่ ำมเรียก สำยลวด(เสียงตำ่ ) ทำดว้ ยลวดทองเหลอื ง ท้งั สำมสำยน้ีขึงจำกหลกั ตอนหวั ผ่ำน โต๊ะ (กล่องทองเหลืองกลวง) ไปพำดกบั \"หย่อง\" แลว้ สอดลงไปพนั กนั ดำ้ นลูก

5 ประเภทสี ภาพที่ 3 :ซอดว้ ง ที่มา : https://sites.google.com/site/praphethkhxngdntrithiy/ ซอดว้ ง เป็นซอชนิดหน่ึงของไทย ใหเ้ สียงสูงแหลม กำรท่ีไดช้ ่ือน้ีเพรำะส่วนทเ่ี ป็นเคร่ืองอุม้ เสียง มี รูปร่ำงคลำ้ ยเคร่ืองดกั สตั วช์ นิดหน่ึง ทเ่ี รียกวำ่ ดว้ ง มสี ่วนประกอบ ดงั น้ี - กระบอก เป็นส่วนที่อมุ้ เสียงให้ เกดิ กงั วำน ภาพท่ี 4 :ซออู้ ทีม่ า : https://sites.google.com/site/praphethkhxngdntrithiy/ ซออู้ เป็นซอที่มเี สียงทุม้ กงั วำน ลกั ษณะโดยทวั่ ไปคลำ้ ยซอซออู้ เป็นซอทีม่ เี สียงทมุ้ กงั วำน ลกั ษณะ โดยทว่ั ไปคลำ้ ยซอดว้ ง มีส่วนประกอบ ดงั น้ี - กะโหลก ทำดว้ ยกะลำมะพรำ้ ว ตดั ส่วนท่ีกวำ้ งใกลก้ บั ข้วั ให้ พทู ้งั สำมอยู่ดำ้ นบน ใชห้ นงั ลูกววั หรือหนงั แพะ ขงึ เป็นหนำ้ ตรงที่ตดั - คนั ซอ ทำดว้ ยไมห้ รืองำชำ้ งกลงึ

6 ประเภทตี ภาพท่ี 5 :ระนำดเอก ท่ีมา : https://sites.google.com/site/praphethkhxngdntrithiy/ ระนำดเอกทีใ่ หเ้ สียงนุ่มนวล นิยมทำดว้ ยไมไ้ ผ่บง ถำ้ ตอ้ งกำร ให้ไดเ้ สียงเกรียวกรำว นิยมทำดว้ ยไม้ แก่น ลูกระนำดมี ๒๑ ลกู ลกู ที่ ๒๑ หรือลูกยอด จะมีขนำดส้นั ที่สุด ลูกระนำด จะรอ้ ยไวด้ ว้ ยเชือก ตดิ กนั เป็นผืนแขวนไวบ้ นรำง ซ่ึงทำดว้ ย ไมเ้ น้ือแข็งรูปร่ำงคลำ้ ยเรือ ภาพที่ 6 :ระนำดทมุ้ ที่มา : https://sites.google.com/site/praphethkhxngdntrithiy/ เลียนแบบระนำดเอก สร้ำงข้นึ ในรชั สมยั พระบำทสมเด็จ พระจอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ลกู ระนำดมจี ำนวน ๑๗- ๑๘ ลูก ตวั ลกู มขี นำดกวำ้ งและยำวกว่ำของระนำดเอก ตวั รำงก็แตกต่ำง จำกระนำดเอก คือเป็น7 รูปคลำ้ ยหีบไมแ้ ต่เวำ้ กลำง มโี ขนปิ ดหัวทำ้ ย มีเทำ้ อยู่สี่มุมรำง ไมต้ ตี อนปลำยใชผ้ ำ้ พันพอกใหโ้ ต และนุ่ม เวลำตจี ะไดเ้ สียงทุม้

7 ประเภทเป่ า ภาพที่ 7 :ขลุ่ยอู้ ทีม่ า : https://sites.google.com/site/praphethkhxngdntrithiy/ ขลยุ่ อเู้ ป็นขล่ยุ ขนำดใหญ่ท่ีสุด ตอ้ งใชไ้ มร้ วกลำใหญป่ ลอ้ งยำวทำ ขลุ่ยชนิดน้ีจงึ มีเสียงทุม้ ตำมำก และมี เสียง คลำ้ ยซออู้ จงึ เรียกขลยุ่ อู้ เคยใชใ้ นวงเคร่ืองสำยวงใหญ่ แตเ่ น่ืองจำกหำขลยุ่ และคนเป่ ำไดย้ ำกข้ึน จงึ ไม่นำมำ ผสมวงในระยะหลงั น้ี จะพบบำ้ งในวงป่ี พำทยด์ ึกดำบรรพ์ แตเ่ ดีย่ วน้ีขลุ่ยอูช้ กั จะหำยไป คงเหลอื แตข่ ลุ่ย เพยี งออกบั ขลุ่ยหลบี เท่ำน้นั ภาพท่ี 8 :ขลยุ่ เพียงออ ทีม่ า : https://sites.google.com/site/praphethkhxngdntrithiy/ เป็นขลยุ่ ที่มเี สียงปำนกลำงมีขนำดกลำง ใชใ้ นวงเคร่ืองสำย วงมโหรี วงป่ี พำทย์ ไมน้ วม และวงปี่ พำทย์ ดกึ ดำบรรพเ์ ป็นเคร่ืองดนตรีท่ีน่ำส่งเสริมใหฝ้ ึกหัดกนั มำกๆ เพรำะรำคำไม่แพงรูปร่ำงกระทดั รดั นำตดิ ตวั ไปได้ สะดวก เสียงไพเรำะ ผสู้ นใจจะฝึกไดไ้ มย่ ำกนกั

8 ประเภทของวงดนตรีไทย ๑.๑ วงป่ี พาทย์ ภาพที่ 9 : วงป่ีพำทยเ์ คร่ืองห้ำ ทมี่ า : http://krutri.samroiwit.ac.th/studentwrok/ประเภทของวงดนตรีไทย.html ๑.) วงปี่พำทยเ์ คร่ืองห้ำ วงดนตรีประเภทน้ีมกี ำรประสมวงมำต้งั แต่สมยั สุโขทยั เป็นรำช ธำนี ประกอบดว้ ย ป่ีใน ระนำดเอก ฆอ้ งวงใหญ่ ตะโพน กลองทดั และฉิ่ง ภาพที่ 10 : วงป่ี พาทย์เคร่ืองคู่ ทม่ี า : http://krutri.samroiwit.ac.th/studentwrok/ประเภทของวงดนตรีไทย.html ๒.) วงปี่ พำทยเ์ ครื่องคู่ ประกอบดว้ ย ป่ี ใน ป่ี นอก ระนำดเอก ระนำดทมุ้ ฆอ้ งวงใหญ่ ฆอ้ งวง เล็ก ตะโพน กลองทดั ฉิ่ง ฉำบเล็ก ฉำบใหญ่ กรบั และโหม่ง ภาพที่ 11 : วงปี่พำทยเ์ คร่ืองใหญ่ ท่มี า : http://krutri.samroiwit.ac.th/studentwrok/ประเภทของวงดนตรีไทย.html ๓) วงปี่ พำทยเ์ คร่ืองใหญ่ ประกอบดว้ ย ปี่ใน ปี่ นอก ระนำดเอก ระนำดทมุ้ ระนำดเอกเหล็ก ระนำดทมุ้ เหล็ก ฆอ้ งวงใหญ่ ฆอ้ งวงเล็ก ตะโพน กลองทดั ฉิ่ง ฉำบเล็ก

9 ๑.๒ วงเครื่องสำยไทย วงเครื่องสำยไทยเป็นวงดนตรีทป่ี ระกอบดว้ ยเครื่องดนตรีประเภทท่ีมีสำยเป็นหลกั ส่วน เคร่ืองดนตรีชนิดอืน่ ๆทีป่ ระสมในวงเคร่ืองสำย นิยมใชเ้ คร่ืองดนตรีทีม่ รี ะดบั เสียงทีม่ ีควำมกลมกลืน สอดคลอ้ งกบั เคร่ืองดนตรีอน่ื ๆในวง แบ่งออกเป็น ๒ ชนิด ดงั น้ี ภาพที่ 12 : วงเครื่องสำยเคร่ืองเด่ียวหรือวงเครื่องสำยวงเล็ก ท่ีมา : http://krutri.samroiwit.ac.th/studentwrok/ประเภทของวงดนตรีไทย.html ๑.) วงเคร่ืองสำยเคร่ืองเดยี่ วหรือวงเครื่องสำยวงเลก็ เคร่ืองดนตรีประกอบดว้ ยซอดว้ ง ๑ คนั ซออู้ ๑ คนั จะเข้ ๑ ตวั ขลยุ่ เพียงออ ๑ เลำ โทน-รำมะนำ ๑ สำรบั ฉิ่ง ๑ คู่ และฉำบเล็ก ๑ คู่ ภาพท่ี 13 : วงเคร่ืองสำยเคร่ืองคู่ ทีม่ า : http://krutri.samroiwit.ac.th/studentwrok/ประเภทของวงดนตรีไทย.html ๒.) วงเคร่ืองสำยเคร่ืองคู่ เครื่องดนตรีประกอบดว้ ย ซอดว้ ง ๒ คนั ซออู้ ๒ คนั จะเข้ ๒ ตวั ขลยุ่ เพียงออ ๑ เลำ ขลุ่ยหลีบ ๑ เลำ โทน-รำมะนำ ๑ สำรบั ฉิ่ง ๑ คู่ ฉำบเลก็ ๑ คู่ กรับ ๑ คู่ และโหม่ง ๑ ใบ

10 ๑.๓ วงมโหรี ภาพท่ี 14 : วงมโหรีเครื่องเดย่ี ว ทม่ี า : http://krutri.samroiwit.ac.th/studentwrok/ประเภทของวงดนตรีไทย.html 1.) วงมโหรีเคร่ืองเดีย่ ว เครื่องดนตรีประกอบดว้ ย ซอสำมสำย ๑ คนั ขลุ่ยเพยี งออ ๑ เลำ ระนำดเอก ๑ รำงฆอ้ งวงใหญ่ ๑ วง จะเข้ ๑ ตวั ซอดว้ ง ๑ คนั ซออู้ ๑ คนั โทน-รำมะนำ ๑ สำรบั ฉิ่ง ๑ คู่ ภาพท่ี 15 :วงมโหรีเคร่ืองคู่ ทมี่ า : http://krutri.samroiwit.ac.th/studentwrok/ประเภทของวงดนตรีไทย.html 2.) วงมโหรีเคร่ืองคู่ เครื่องดนตรีประกอบดว้ ยซอสำมสำย ๑ คนั ซอสำมสำยหลบี ๑ คนั ขลุ่ยเพียงออ ๑ เลำ ขล่ยุ หลีบ ๑ เลำ ระนำดเอก ๑ รำง ระนำดทมุ้ ๑ รำง ฆอ้ งวงใหญ่ ๑ วง ฆอ้ งวงเล็ก ๑ วง ภาพท่ี 16 : วงมโหรีเครื่องใหญ่ ท่มี า : http://krutri.samroiwit.ac.th/studentwrok/ประเภทของวงดนตรีไทย.html 3.วงมโหรีเคร่ืองใหญ่ เคร่ืองดนตรีประกอบดว้ ยซอสำมสำย ๑ คนั ซอสำมสำยหลีบ ๑ คนั ขลยุ่ เพียงออ ๑ เลำ ขลุ่ยหลีบ ๑ เลำ ระนำดเอกมโหรี ๑ รำง ระนำดทมุ้ มโหรี ๑ รำง ระนำดเอกเหล็ก

บรรณานุกรม ดุษฎี บริพตั ร ณ อยธุ ยำ, หม่อม. 2522. แผนกำรเรียนรู้ดนตรีนำฏศิลป์ ข้นั พ้ืนฐำน. กรุงเทพมหำนคร : บรรณกิจ. บุญเรียง ขจรศิลป์ . 2542. สถติ สิ ิจยั 1. กรุงเทพมหำนคร : หจก.พี.เอน็ .กำรพมิ พ.์ มำนพ ถนอมศรี. 2525. พ้นื ฐำนเนตรีไทย 1-2 (ศ 023-ศ 024). กรุงเทพมหำนคร :องคก์ ำรคำ้ ของคุรุสภำ พงษ์ ศิลป์ อรุณรตั น์. (2550). ปฐมบทดนตรีไทย. [ออนไลน]์ . เขำ้ ถึงไดจ้ ำก : https://th.m.wikipedia.org/wiki/ดนตรีไทย (วนั ทคี่ ำ้ หำขอ้ มูล 10 ตลุ ำคม 2564) อุทิศ นำคสวสั ด์ิ. (2546). ทฤษฎีและหลกั ปฏบิ ตั ิดนตรีไทย. [ออนไลน์]. เขำ้ ถึงไดจ้ ำก : http://krutri.samroiwit.ac.th/studentwrok/ประเภทของวงดนตรีไทย.html (วนั ทีค่ น้ หำขอ้ มูล 10 ตุลำคม 2564) อษั ฎำวุธ สำคริก. 2550. เคร่ืองเนตรีไทย. [ออนไลน์]. เขำ้ ถไึ ดจ้ ำก : https://sites.google.com/site/thiinstrumentscom/prapheth-kheruxng-dntri-thiy (วนั ทค่ี น้ หำขอ้ มูล 10 ตุลำคม 2564) ประดิษฐ์ อินทนิล. (2536).เคร่ืองดนตรีไทยตำมยคุ สมยั ท่ีเรียนรู้และเขำ้ ใจไดต้ ำมลำดบั . ประเภทของดนตรีไทย (ธ.ค.) : 617


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook