Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบสืบพันธุ์

ระบบสืบพันธุ์

Published by nannies3ne3, 2020-05-10 08:56:18

Description: ebookระบบสืบพันธุ์

Search

Read the Text Version

ระบบสบื พันธุ์ ครธู ีระพนั ธ์ จลุ แกว้ ครชู ำนำญกำรพิเศษ โรงเรยี นหำดใหญ่รฐั ประชำสรรค์ โทรศพั ท.์ 084-3000067 ID Line : bob1197 วิทยาศาสตร์ ม. 2

ระบบสืบพนั ธ์ุ ว 1.2 ม.2/12 ระบอุ วยั วะและบรรยายหนา้ ทขี่ องอวยั วะในระบบสืบพนั ธข์ุ อง เพศชายและเพศหญิง โดยใชแ้ บบจาลอง

ระบบสืบพนั ธ์ุ ระบบสบื พนั ธข์ุ องมนษุ ย์ การสืบพนั ธข์ุ องมนษุ ยเ์ ป็ นแบบอาศัยเพศ กลไกในรา่ งกายควบคมุ ระบบการ สืบพนั ธ์ุ ซ่ึงกลไกนเ้ี กีย่ วของกบั ระบบฮอรโ์ มนหลายชนดิ ระบบสบื พนั ธเ์ุ พศชาย ไดแ้ กส่ ว่ นที่อย่ดู า้ นนอก คือถงุ อณั ฑะ (scrotum) องคชาติ (penis) และสว่ นทีอ่ ยดู่ า้ นในไดแ้ ก่ อณั ฑะ (testes) ตอ่ ม (accessory glands) และ ท่อตา่ งๆ ระบบสบื พนั ธเ์ุ พศหญิง เป็ นระบบที่ทาหนา้ ทีค่ ลา้ ยกบั ระบบสบื พนั ธเ์ุ พศชาย ซึ่ง นอกจากสรา้ งเซลลส์ บื พนั ธค์ุ อื เซลลไ์ ข่ และสรา้ งฮอรโ์ มนเพศหญิงแลว้ ยงั ทาหนา้ ทีด่ แู ลฟูม พกั ใหเ้ ซลลไ์ ขท่ ่ผี สมตดิ ใหพ้ ฒั นากลายเป็ นตวั ออ่ นจนคลอดออกมา

ระบบสืบพนั ธเ์ุ พศชาย อณั ฑะ (testis) อยใู่ นถงุ อณั ฑะ มี 2 ขา้ ง จะถกู ดนั จากชอ่ งทอ้ งใหเ้ ขา้ ไปอย่ใู นถงุ อณั ฑะนอกรา่ งกาย เนอ่ื งจาก ภายในชอ่ งทอ้ งมอี ณุ หภมู ไิ มเ่ หมาะสม ตอ่ การเจริญและพฒั นาของอสจุ ิ ทาหนา้ ท่ีสรา้ งตวั อสจุ ิตลอดชีวิตและฮอรโ์ มนเพศชาย หลอดสรา้ งตวั อสจุ ิ เป็ นท่อขดอย่ใู นอณั ฑะ มีลกั ษณะเป็ นหลอดเล็กๆ ขดไปขดมา ทาหนา้ ท่ีสรา้ งตวั อสจุ ิ มีขา้ งละ 800 หลอด แตล่ ะหลอดมีขนาดเทา่ เสน้ ดา้ ยและยาวทง้ั หมด 800 เมตร มเี ซลลท์ ่ีสาคญั คือ -เซลลเ์ ซอรโ์ ทลิ (sertoli cell) ทาหนา้ ท่ีใหส้ ารอาหารกบั ตวั อสจุ ิ -เซลลเ์ ลยด์ ิก (ledig cell) หรือเซลลอ์ ินเตอรส์ ตเิ ซียล (interstitial cells)ทาหนา้ ที่สรา้ ง ฮอรโ์ มนเทสโทสเทอโรน (testosterone) ซึ่งเป็ นฮอรโ์ มนควบคมุ ลกั ษณะเพศชาย

ระบบสืบพนั ธ์ุ

ระบบสืบพนั ธเ์ุ พศชาย ถงุ อณั ฑะ (scrotum) ปรบั ใหอ้ ณุ หภมู ติ า่ กว่าภายในรา่ งกายประมาณ 2 องศาเซลเซียส หลอดเก็บอสจุ ิ (epididymis) อย่ดู า้ นบนของอณั ฑะ มลี กั ษณะเป็ นทอ่ เล็กๆ ยาวประมาณ 6 เมตร ขดทบั ไปมา มีหนา้ ท่ีเก็บตวั อสจุ ิจนเตบิ โตพรอ้ มท่ีจะปฏิสนธิ อสจุ ิจะมีชีวิตอย่ปู ระมาณ 40 วัน ท่อนำอสจุ ิ (vas deferens) เป็ นทอ่ ที่นาอสจุ ิจากหลอดเก็บอสจุ ิออกสภู่ ายนอก เวลาทาหมนั ชายจะ ตดั ท่ีท่อนอี้ อก

ระบบสืบพนั ธเ์ุ พศชาย ต่อมสรำ้ งน้ำเล้ยี งอสจุ ิ (seminal vesicles) สรา้ งอาหารใหก้ บั ตวั อสจุ ิ ไดแ้ ก่ นา้ ตาลฟรกั โทส ต่อมลกู หมำก (prostate gland) สรา้ งสารที่เป็ นเบสใหน้ า้ อสจุ ิเพื่อให้ อสจุ ิสามารถอยรู่ อดใน ชอ่ งคลอดเพศหญิง ต่อมคำวเปอร์ (cowper gland) สรา้ งและหลงั่ เมอื กสารหลอ่ ล่นื ใสกอ่ นการหลงั่ จริง สารนที้ า หนา้ ท่ีความเป็ นกรดภายในท่อปัสสาวะเพศชาย

ระบบสบื พนั ธเ์ุ พศชาย ตวั อสจุ ิ รปู ร่างคลา้ ยตวั อ่อนของกบ แบ่งเป็ น 3 สว่ น 1 สว่ นหวั (head) เก็บสารพนั ธกุ รรม มนี วิ เคลยี ส ดา้ นหนา้ เป็ นสว่ นอะโครโซม (acrosome) เก็บเอนไซมท์ าหนา้ ที่ สลายเย่ือหมุ้ เซลลไ์ ข่ 2 สว่ นกลาง (middle) มีลกั ษณะเป็ นแทง่ ประกอบดว้ ยไมโทคอนเดรีย ผลติ พลงั งาน ใหก้ บั อสจุ ิเคลอ่ื นท่ี 3 สว่ นหาง (tail) ทาหนา้ ที่โบกพดั ใหอ้ สจุ ิเคล่ือนท่ีกบั ไข่ ตวั อสจุ ิจะเคล่ือนท่ีไดป้ ระมาณ 1-3 มลิ ลิเมตรตอ่ นาที ตวั อสจุ ิเมือ่ ออกสภู่ ายนอก จะมีชีวิตอย่ไู ดเ้ พียง 2-3 ชวั่ โมง แตถ่ า้ อย่ใู น มดลกู ของหญิงจะอยไู่ ดน้ านประมาณ 24- 48 ชวั่ โมง

ระบบสืบพนั ธเ์ุ พศชาย นา้ อสจุ ิ (semen) เป็ นของเหลวลกั ษณะสขี าวขน้ หลงั่ ออกมาขณะที่เพศชายถึงจดุ สดุ ยอด มีคา่ pH ประมาณ 7.35-7.50 มสี ภาวะคอ่ นขา้ งเป็ นเบส ประกอบดว้ ย ตวั อสจุ ิและนา้ หลอ่ เลี้ยง การหลงั่ แตล่ ะครง้ั มี ปริมาณ 2-5 มิลลิลิตร โดย 95% เป็ นนา้ หลอ่ เลี้ยงท่ีมาจากตอ่ ม และอีก 5% เป็ นตวั อสจุ ิ มีจานวน ประมาณ 200-500 ลา้ นเซลล์ องคชาติ (penis)เป็ นอวยั วะหลกั ท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั การมเี พศสมั พนั ธ์ ซ่ึงจะใชใ้ นการสอดใสเ่ ขา้ ไปใน ชอ่ งคลอด เพ่ือใหอ้ สจุ ิสามารถเคลอื่ นที่ไปปฏิสนธไิ ด้ องคชาตจิ ะเกิดการแข็งตวั ไดเ้ มอื่ มีเลือดเขา้ ไปคงั่ ในชนั้ เนอ้ื เย่ือท่ีคลา้ ย กบั ฟองนา้

ระบบสืบพนั ธเ์ุ พศหญิง ระบบสืบพนั ธเ์ุ พศหญิง (อวยั วะสบื พนั ธภ์ุ ายนอก) เนินหวั เหน่ำ (mone pubis) เป็ นผวิ หนงั นนู อย่บู ริเวณเหนอื กระดกู หวั เหนา่ เมอ่ื วยั สาวจะมขี นงอกขนึ้ มหี นา้ ท่ชี ว่ ยลดแรงกระแทกขณะมเี พศสมั พนั ธ์ แคมใหญ่ (labia majora) เป็ นผวิ หนงั ทีม่ กี อ้ นไขมนั ดา้ นหนา้ ของแคมใหญ่ทง้ั สองขา้ งจะตดิ กบั เนินหวั เหนา่ แคมเล็ก (labia minora) เป็ นสว่ นของผวิ หนงั ท่อี ย่ดู า้ นในของแคมใหญแ่ ละถกู แคมใหญป่ ิ ดทบั แคมเล็กมตี อ่ ม ไขมนั มาก เพือ่ ชว่ ยใหเ้ กิดการหลอ่ ลนื่ และป้ องกนั การเสยี ดสขี ณะรว่ มเพศ คลิทอรสิ (clitoris) เป็ นสว่ นที่ปรากฏอยทู่ างสว่ นบนของแคมเล็ก มลี กั ษณะการเจริญเชน่ เดยี วกบั องคชาตขิ อง ผชู้ าย คอื มเี นอื้ เยอ่ื ท่แี ข็งตวั ได้ มปี ลายประสาทมาสนิ้ สดุ มากจึงรับความรสู้ กึ ตา่ งๆ

ระบบสบื พนั ธเ์ุ พศหญิง ระบบสืบพนั ธเ์ุ พศหญิง (อวยั วะสบื พนั ธภ์ุ ายใน) ชอ่ งคลอด (vagina) ตงั้ อยรู่ ะหว่างทวารหนกั กบั ทอ่ ปัสสาวะ ผนงั ภายในชอ่ งคลอดมี ลักษณะ เป็ นรอยยน่ ตามขวาง ทาใหช้ อ่ งคลอดสามารถขยายตวั ได้ เป็ นชอ่ งในลกั ษณะเป็ นกลา้ มเน้ือลึก ประมาณ 6-7 นวิ้ ชอ่ งนสี้ ามารถขยายตวั หดตวั ไดเ้ ม่อื มีการรว่ มเพศ และสรา้ งสารไกลโคเจน เพ่ือใหแ้ บคทีเรียที่อาศัยใน ชอ่ งคลอดท่ีชือ่ ว่า Doderlein bacilli เปลีย่ นใหก้ ลายเป็ นกรดแลคตกิ ทาใหภ้ ายในชอ่ งคลอดมีสภาพเป็ นกรด

ระบบสืบพนั ธเ์ุ พศหญิง รงั ไข่ (ovary) มี 2 ขา้ งขนาดเทา่ กบั หวั แมม่ อื มหี นา้ ท่ี ดงั น้ี 1 ผลติ ไข่ (ovum) ซึ่งเป็ นเซลลส์ บื พนั ธเ์ุ พศหญิง โดยปกตไิ ขจ่ ะสกุ เดอื นละ 1 ใบ จากรงั ไขแ่ ตล่ ะขา้ ง สลบั กนั ทกุ เดอื น และออกจากรงั ไขท่ กุ รอบเดอื นเรยี กวา่ การตกไข่ และตงั้ แตอ่ ายุ 12 ปี ถงึ 50 ปี มกี ารผลติ ไข่ ประมาณ 400 ใบ เซลลไ์ ขจ่ ะมอี ายอุ ย่ไู ดน้ านประมาณ 24 ชวั่ โมง 2 สรา้ งฮอรโ์ มนเพศหญิง ไดแ้ ก่ - อสี โทรเจน (estrogen) ควบคมุ เกยี่ วกบั มดลกู ชอ่ งคลอด ตอ่ มนา้ นม และควบคมุ การเกิดลกั ษณะของเพศหญิง - โพรเจสเทอโรน (progesterone) ร่วมกบั อีสโทรเจน ในการควบคมุ เกี่ยวกบั การเจริญของมดลกู การ เปลยี่ นแปลงเยอ่ื บมุ ดลกู เพอ่ื เตรียมรบั ไขท่ ผี่ สมแลว้

ระบบสบื พนั ธเ์ุ พศหญิง ท่อนำไข่ (oviduct) เป็ นบริเวณที่มีการปฏิสนธิ และนาเซลลไ์ ขท่ ี่ไดร้ บั การปฏิสนธแิ ลว้ เขา้ สโู่ พรง มดลกู โดยมีเซลลซ์ ิเลยี คอยโบกพดั มดลกู (uterus) เป็ นอวยั วะขนาดใหญเ่ ทา่ กาปั้นของคนเราซอ้ นกนั รปู ร่างคลา้ ยชมพ่กู ลบั หวั ลง อย่ใู นบริเวณองุ้ กระดกู เชิงกรานระหว่างกระเพาะปัสสาวะกบั ทวารหนกั มเี น้ือเยื่อที่มี นา้ เมอื ก และเสน้ เลอื ดฝอยอยเู่ ป็ นจานวนมาก อวยั วะสว่ นนี้อนั ตรายที่สดุ ในร่างกายของเพศ หญิง เพราะเป็ นอวัยวะแหง่ เดยี วท่ีอาจเป็ นโรคมะเร็งไดง้ า่ ยที่สดุ มดลกู มีหนา้ ที่ใหต้ วั อ่อนฝังตวั ท่ี ผนงั ชนั้ ในเจริญเตบิ โตเป็ นทารก ขณะตงั้ ครรภม์ ดลกู สามารถขยายตวั ได้ ถา้ หากไมม่ ีการ ปฏิสนธผิ นงั ชนั้ ในมดลกู จะหลดุ ลอกออกเป็ นประจาเดอื น ปำกมดลกู (cervix) เป็ นบริเวณมดลกู ตอนลา่ งตดิ กบั ชอ่ งคลอด มีลกั ษณะเป็ นปากแคบเขา้ หา กนั

ระบบสืบพนั ธเ์ุ พศหญิง ว 1.2 ม.2/13 อธิบายผลของฮอรโ์ มนเพศชายและเพศหญิงที่ ควบคมุ การเปลยี่ น แปลงของรา่ งกายเมือ่ เขา้ สู่ วยั หนมุ่ สาว ว 1.2 ม.2/14 ตระหนกั ถึงการเปลย่ี นแปลงของรา่ งกายเมอ่ื เขา้ สวู่ ยั หนมุ่ สาวโดยการ ดแู ลรกั ษาร่างกาย และจติ ใจของตน เองในชว่ งที่มีการเปล่ยี นแปลง

ฮอรโ์ มนเพศชาย

ฮอรโ์ มนเพศชาย ฮอรโ์ มนน้ไี ม่ไดม้ แี ต่ในเพศชำย เท่ำนน้ั ในเพศหญิงกม็ กี ำรสรำ้ งดว้ ยจำก ต่อมหมวกไต แต่มจี ำนวนนอ้ ยกว่ำ ผชู้ ำยมำก ทำใหไ้ มส่ ำมำรถแสดง ลกั ษณะของเพศชำยใหเ้ ด่นออกมำ ได้ ยกเวน้ ผหู้ ญิงบำงคนท่ีมฮี อรโ์ มน เพศชำยสงู กอ็ ำจจะมีเสียงหำ้ วกว่ำ ผหู้ ญิงทวั่ ไป มขี นดก กลำ้ หำญ คลำ้ ยผชู้ ำยไดเ้ หมอื นกนั

ฮอรโ์ มนเพศหญิง

ว 1.2 ม.2/15อธิบำยกำรตกไขก่ ำรมีประจำเดือนกำรปฏสิ นธิและกำรพฒั นำของไซโกตจนทำรก

การปฏิสนธิ การปฏิสนธิ (fertilization) เกิดจากฝ่ ายหญิงไดร้ บั อสจุ ิจากฝ่ ายชายในระยะท่ีมีการตกไข่ ไขจ่ ะตกขา้ งละใบ สลบั กนั ในแตล่ ะรอบเดอื น เม่ือไขต่ กจากรงั ไขจ่ ะเดินทางไปยงั ท่อนาไข่ และพรอ้ มปฏิสนธภิ ายใน 12-24 ชวั่ โมงเทา่ นน้ั โดยมีอสจุ ิที่ แข็งแรงและว่ายเร็วที่สดุ เพียงตวั เดียวที่สามารถเจาะไขไ่ ดส้ าเร็จ และ จะหลอมกบั ไขเ่ ป็ นเซลลเ์ ดียว การปฏิสนธิ จะเกิดขนึ้ ที่ทอ่ นาไข่ กลายเป็ นไซโกต และฝังตวั ที่ มดลกู มีการพฒั นารกเพื่อใหอ้ าหารตวั ออ่ น และเจริญพฒั นา อยใู่ นทอ้ งแม่ 9 เดอื น จึงคลอด ออกมา

ทารกในครรภ์ พฒั นาการของทารกในครรภอ์ อกเป็ น 3 ชว่ ง โดยเริ่มตงั้ แตว่ นั แรกของการมปี ระจาเดอื นคร้ังลา่ สดุ ซ่ึง นบั ตามอายคุ รรภ์ ดงั นี้ ไตรมาสท่ี 1 คือ สปั ดาหท์ ี่ 1-12

ฮอรโ์ มนเพศหญิง

ฮอรโ์ มนเพศหญิง

ทารกในครรภ์

ว 1.2 ม.2/16เลอื กวิธีการคมุ กาเนดิ ท่ีเหมาะสมกับสถานการณท์ ี่กาหนด กำรป้ องกนั กำรปฏิสนธิ ขอ้ ดี ไม่มีอนั ตรำย ไมม่ ีสิ่งขดั ขวำง รบกวนขณะอยู่ ไม่ส้ินเปลืองค่ำใชจ้ ่ำย เป็ นวิธีท่ีครสิ ตศ์ ำสนำนิกำยคำทอลกิ ยอมรบั ขอ้ เสียผลไมแ่ น่นอน ไข่อำจสกุ ผิดไป จำกเวลำท่ีคำด ตอ้ งทำกำรบนั ทึก ประจำเดือน ทกุ ๆ เดือน ควำม ตอ้ งกำรทำงเพศ อำจไมต่ รงกบั ระยะ ปลอดภยั

การป้ องกนั การปฏิสนธิ

การป้ องกนั การปฏิสนธิ การใชไ้ ดอะแฟรม (diaphragm) มลี กั ษณะฝาครอบมดลกู เพื่อป้ องกนั อสจุ ิไม่ใหเ้ ขา้ มาปฏิสนธิได้ การหลงั่ ภายนอกฝ่ ายชายจะหลงั่ นา้ อสจุ ิภายนอกระบบสืบพนั ธเ์ุ พศหญิง วิธีน้ี เส่ยี งตอ่ การตง้ั ครรภส์ งู มาก

การป้ องกนั การปฏิสนธิ

การป้ องกนั การปฏิสนธิ

การยบั ยงั้ การตกไข่

การป้ องกนั การฝังตวั ของตวั อ่อน

ว 1.2 ม.2/17ตระหนกั ถึงผลของกำรตง้ั ครรภก์ อ่ นวยั อนั ควรโดยกำรประพฤติตนใหเ้ หมำะสม

ว 1.2 ม.2/17ตระหนกั ถึงผลของกำรตง้ั ครรภก์ อ่ นวยั อนั ควรโดยกำรประพฤติตนใหเ้ หมำะสม

ทีม่ ารูปภาพและข้อมูล https://www.pinterest.com หนงั สือเรยี น สสวท วิทยำศำสตร์ ม. 2 วทิ ยาศาสตร์ ม. 2

ระบบสืบพนั ธ์ุ วทิ ยาศาสตร์ ม. 2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook