1 บทนำ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 น้ไี ด้กำหนดสาระการเรียนรู้ ออกเปน็ 4 สาระ ไดแ้ ก่ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มีสาระเพิ่มเติม 4 สาระ ได้แก่ สาระชีววิทยา สาระเคมี สาระฟิสิกส์ และสาระโลกดาราศาสตร์และ อวกาศ ซึ่งองค์ประกอบของหลักสูตร ทั้งด้านในของเนื้อหา การจัดการเรียนการสอน และการวัดประเมินผล การเรียนรู้นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางรากฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของผู้เรียนในแต่ละดับชั้น ให้มี ความต่อเนอ่ื งเชื่อมโยงกัน ต้ังแตช่ ั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 จนถึงชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 สำหรับกลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ได้กำหนดตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ที่ผู้เรียนจำเป็นต้องเรียน เป็นพื้นฐาน เพื่อให้ สามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในการดำรงชีวิตหรือศึกษาต่อในวิชาชีพที่ต้องใช้ วิทยาศาสตร์ได้โดยจัดเรียงลำดับ ความยากง่ายของเนื้อหาแตะละสาระในแต่ละระดับชั้นให้มีการเชื่อมโยง ความรู้กับกระบวนการเรียนรู้และ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิด วิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่สำคัญ ทั้งทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะในศตวรรษที่ 21 ในการ ค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถ ตัดสนิ ใจ โดยใชข้ อ้ มลู หลากหลายและประจักษพ์ ยานทต่ี รวจสอบได้ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตระหนักถึงความสำคัญของการจดั การ เรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่มุ่งหลังให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อผู้เรียนมากที่สุด จึงได้จัดทำตัวชี้วัด และสาระการเรียนรู้ แกนกลาง กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ขึ้น เพื่อให้สถานศึกษา ครูผู้สอน ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ได้ใช้เป็นแนวทางใน การพัฒนาหนังสือเรียน คู่มือครู สื่อประกอบการเรียน การสอน ตลอดจนการวัดและประเมินผล ดดยตัวชี้วัด และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ที่จดั ทำข้นึ นีไ้ ด้ปรับปรังเพื่อให้มคี วาสอดคล้องและเชื่อมโยง กันภายในเน้ือหาความร้ทู างวิทยาศสาตรก์ บั คณติ ศาสตร์ดว้ ย นอกจากนยี้ ังไดป้ รับปรุงเพ่ือให้มีความทันสมัยต่อ การเปล่ียนแปลง และความเจริญกา้ วหน้าของวทิ ยาการต่าง ๆ และทดั เทยี มกบั นานาชาติ
2 เป้าหมายของวิทยาศาสตร์ ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ค้นพบความรู้ดเวยตนเองมากที่สุด เพื่อให้ได้ทั้ง กระบวนการและความรู้จากวิธีการสังเกต การสำรวจตรวจสอบ การทดลอง แล้วนำผลที่ได้มาจัดระบบเป็น หลกั การ แนวคดิ และองคค์ วามรู้ การจัดการเรียนการสอนวทิ ยาศาสตร์ จึงมีเป้าหมายทีส่ ำคัญ ดังนี้ 1. เพื่อใหเ้ ข้าใจหลกั การ ทฤษฎแี ละกฎทเ่ี ป็นพ้ืนฐานในวิชาวทิ ยาศาสตร์ 2. เพ่ือใหเ้ ข้าใจขอบเขตของธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตรแ์ ละข้อจำกดั ในการศึกษาวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 3. เพ่ือให้มที กั ษะทสี่ ำคญั ในการศกึ ษาค้นคว้าและคดิ ค้นทางเทคโนโลยี 4. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีมวลมนุษย์ และ สภาพแวดลอ้ มในเชงิ ท่ีมีอทิ ธพิ ลและผลกระทบซ่ึงกนั และกนั 5. เพื่อนำความรู้ ความเข้าใจ ในวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ตอ่ สังคมและ การดำรงชีวติ 6. เพื่อพัฒนากระบวนการคดิ และจนิ ตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา และการจัดการทักษะ ในการส่ือสาร และความสามารถในการตัดสินใจ 7. เพื่อให้เป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ เรียนรู้อะไรในวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มุ่งหวงั ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ที่เน้นการเชื่อมโยงกับกระบวนการ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้า และสรา้ งองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการในการสืบเสาะหาความรู้ และแกป้ ัญหาที่หลากหลาย ให้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ทุกขั้นตอน มีการทำกิจกรรมด้วยการลงมือปฏิบัติจริงอย่าง หลากหลาย เหมาะสมกบั ระดบั ชัน้ โดยกำหนดสาระสำคัญ ดังนี้ เรียนรอู้ ะไรในวทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ มงุ่ หวังให้ผเู้ รียนไดเ้ รียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ทเ่ี น้นการเชื่อมโยงความรู้กับ กระบวนการ มีทักษะในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการในการสืบเสาะหาความรู้และ แก้ปญั หาทห่ี ลากหลาย ใหผ้ ้เู รยี นมีสว่ นร่วมในการเรยี นรู้ทุกขน้ั ตอน มกี ารทำกิจกรรมดว้ ยการลงมือปฏิบัติจริง อยา่ งหลากหลาย เหมาะสมกับระดับชน้ั โดยกำหนดสาระสำคัญ ดงั น้ี 1. วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เก่ียวกบั ชีวิตในสิ่งแวดล้อม องคป์ ระกอบของสิ่งมชี ีวิต การดำรงชีวิต ของมนุษย์และสัตว์ การดำรงชีวิตของพืช พันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และ ววิ ฒั นาการของส่งิ มีชวี ิต 2. วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เก่ียวกับ ธรรมชาติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร การเคล่ือนที่ พลงั งาน และคลน่ื
3 3. วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ เรียนรู้เกี่ยวกับ องค์ประกอบของเอกภพ ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบ สุริยะ เทคโนโลยีและอวกาศ ระบบโลก การเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา กระบวนการ เปลี่ยนแปลงลม ฟา้ อากาศ และผลต่อส่ิงมีชวี ติ และสิง่ แวดลอ้ ม 4. เทคโนโลยี 4.1 การออกแบบและเทคโนโลยี เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิต ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบ เชิงวิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ สังคม และสงิ่ แวดล้อม 4.2 วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับ การคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา เป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารใน การแกป้ ญั หาที่พบในชีวิตจริงได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสม โดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชวี ิต สังคม และสง่ิ แวดลอ้ ม มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและสารสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทนั และมจี ริยธรรม
4 วสิ ัยทัศน์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(คอมพิวเตอร์) ส่งเสรมิ ผเู้ รียนให้มีการพัฒนาทักษะ กระบวนการคิดขั้นสูง เพื่อนำไปสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ มีเจตคติที่เหมาะสมต่อวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี รูค้ ุณคา่ ของภูมิปญั ญาไทย หลกั การ 1. พัฒนาความรู้ ความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามศักยภาพของผู้เรียน และ สามารถนำไปเป็นเคร่อื งมือในการเรยี นร้สู ง่ิ ตา่ ง ๆ และเป็นพน้ื ฐานสำหรบั การศึกษาต่อ 2. จัดกจิ กรรมกระบวนการเรียนรู้อย่างหลากหลายต่อเน่ือง ผูเ้ รยี นมสี ่วนร่วมในการจัดกระบวนการ เรียนรูอ้ ยา่ งมีความสขุ 3. จัดแผนการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยตี ามความถนัดและความสนใจ 4. พัฒนาบุคลากรของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(คอมพิวเตอร์) ให้มีความรู้ และทักษะตลอดจนนำประสบการณม์ าใชใ้ นการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเปน็ สำคัญ 5. มีการนิเทศและตดิ ตามอย่างเป็นระบบในด้านการเรียนการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 6. จัดการเรียนการสอนโดยการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ในทุกรายวิชาอย่างเป็นรูปธรรม จัด กิจกรรมวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้นักเรียนกล้าแสดงออก และได้ปฏิบัติ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ 7. จดั กจิ กรรมนำเสนอผลงานนกั เรียน – ครู ในงานนิทรรศการทางวิชาการภายในโรงเรียน 8. สนับสนุน สง่ เสรมิ ให้ครู ผลติ สื่อและนวัตกรรมประกอบการเรยี นการสอนตามเน้ือหาการเรียนรู้ 9. จัดกิจกรรมส่งเสริม พัฒนาผู้เรียนท่ีมคี วามสามารถ และช่วยเหลือผูเ้ รียนทีม่ ีปัญหาด้านการเรยี น วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 10. วดั ผลและประเมินผลตามสภาพจริง ด้วยวธิ กี ารท่ีหลากหลายให้ครอบคลุมท้งั ด้านความรู้ ทักษะ/ กระบวนการ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5 จุดมุง่ หมาย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(คอมพิวเตอร์) มุ่งพัฒนาผู้เรยี นให้เป็นคนดี มีปัญญา มคี วามสุข มศี ักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ และผู้เรยี นมีคุณภาพตามเกณฑ์ของคุณภาพผู้เรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมอ่ื จบการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน ดังนี้ 1. มีคุณภาพตามเกณฑ์ของคุณภาพผเู้ รียนกลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนับถือ ยึดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3. มคี วามรู้ ความสามารถในการสอื่ สาร การคดิ การแกป้ ญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี และมที ักษะชวี ิต 4. มีสุขภาพกายและสขุ ภาพจิตทด่ี ี มีสขุ นิสยั และรกั การออกกำลงั กาย 5. มคี วามรกั ชาติ มจี ิตสำนกึ ในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวถิ ชี ีวิต และการปกครอง ตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข 6. มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิต สาธารณะท่ีมงุ่ ทำประโยชน์และสรา้ งส่ิงท่ดี งี ามในสังคม และอยรู่ ่วมกนั ในสังคมอย่างมคี วามสขุ
6 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(คอมพิวเตอร์) มุ่งพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานมุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด จึงจะช่วยให้ผู้เรียน เกดิ สมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและการส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนของตนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจา ต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลัก เหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึง ผลกระทบท่มี ีตอ่ ตนเองและสงั คม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ หรือสารสนเทศเพ่ือการตัดสนิ ใจเก่ียวกบั ตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เปน็ ความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ทีเ่ ผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลและสารสนเทศ เข้าใจ ความสมั พันธ์และการเปล่ยี นแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้ มาใช้ในการป้องกันและแก้ปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่ เกดิ ขน้ึ ต่อตนเอง สงั คมและส่ิงแวดลอ้ ม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ ดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความ ขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและความขัดแย้ง ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และ การรจู้ กั หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ่ีส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การ ส่ือสาร การทำงาน การแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม
7 คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี(คอมพิวเตอร)์ มุง่ พัฒนาผเู้ รียนให้มีคณุ ลกั ษณะอันพึง ประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมไดอ้ ย่างมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมอื งไทย และพลโลก ตาม หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ดังนี้ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย นิยมไทย ปฏิบัติตามคำสั่ง สอนของศาสนาเคารพเทิดทูนศาสนา แสดงความจงรักภักดี เทิดทูนพระเกียรติและพระราช กรณยี กิจของพระมหากษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต หมายถึง การประพฤติปฏิบัติอย่างเหมาะสม และตรงต่อความเป็นจริงประพฤติ ปฏิบตั อิ ย่างตรงไปตรงมา ทั้งกาย วาจา ใจ ต่อตนเองและผู้อ่ืนรวมตลอดท้ังต่อหน้าที่การงานและ คำมั่นสัญญา ความประพฤติที่ตรงไปตรงมาและจริงใจในสิ่งที่ถูกที่ควร ถูกต้องตามทำนองคลอง ธรรมรวมไปถึงการไม่คิดทรยศ ไม่คดโกงและไม่หลอกลวงนอกจากนี้แล้วความซื่อสัตย์สุจริตยัง รวมไปถึงการรักษาคำพูดหรือคำมั่นสัญญา และการปฏิบัติหน้าที่การงานของตนเองด้วยความ รับผิดชอบและความซื่อสัตย์ไม่แสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้องด้วยการใช้อำนาจ หน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งความซื่อสัตย์สุจริตน้ีจะดำเนินไปด้วยความตัง้ ใจจริงเพ่ือทำหน้าทีข่ องตนเอง ให้สำเรจ็ ลุล่วง ด้วยความระมัดระวัง และเกิดผลดีต่อตนเองและสังคม 3. มีวินัย หมายถึง การควบคุมความประพฤติให้ถูกต้องและเหมาะสมกับจรรยามารยาท ข้อบังคับ ข้อตกลง กฎหมายและศีลธรรมการรู้จักควบคุมตนเองให้ประพฤติปฏิบัติตามข้อตกลง ข้อบังคับ ระเบยี บแบบแผน และขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามย่อมนำมาซ่ึงความสงบสุขในชีวิตของตน ความเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ยของสังคมและประเทศชาติ 4. ใฝเ่ รียนรู้ หมายถงึ การคน้ ควา้ หาความร้หู รือสง่ิ ที่เปน็ ประโยชน์ เพอื่ พฒั นาตนเองอยเู่ สมอ 5. อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง การมีความพอดีในการบริโภค ใช้ทรัพยากรและเวลาว่างให้เป็น ประโยชน์ คำนึงถึงฐานะและเศรษฐกิจ คิดก่อนใช้จ่ายตามความเหมาะสมรู้จักการเพิ่มพูนทรัพย์ ด้วยการเก็บและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ดูแลรักษาบูรณทรัพย์ของตนเอง มีการเก็บเงินไว้ตาม สมควร 6. มุ่งมั่นในการทำงาน หมายถึง การศึกษาเรียนรูเ้ พื่อหาข้อเท็จจริง ซึ่งอาจพัฒนาไปสู่ความจริงใน สิ่งที่ต้องการเรียนรู้ หรือต้องการหาคำตอบเพื่อนำคำตอบที่ได้นั้นมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เชน่ การยกระดับความรูก้ ารนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวัน หรอื นำมาสรปุ เปน็ ความจรงิ ได้
8 7. รักความเป็นไทย หมายถึง เข้าใจ หวงแหนความเป็นไทยซึ่งถือเป็นต้นทุนทางสังคมทำให้ทุก ศาสนาสามารถอยู่รว่ มกันได้อยา่ งสนั ติ โดยตอ้ งมกี ารดำเนนิ ชีวติ โดยกายสุจรติ วจีสุจรติ และมโน สุจริตเป็นคุณลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น ความมี กิริยามารยาท การปรับตัว ความตรงต่อเวลา ความสุภาพ การมีสัมมาคารวะ การพูดจาไพเราะ และอ่อนนอ้ มถ่อมตน 8. มีจติ สาธารณะ หมายถงึ คณุ ลกั ษณะทางจิตใจของบุคคลเกี่ยวกับการมองเห็นคุณค่า หรือการให้ คุณค่าแก่การปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นสิ่งสาธารณะที่ไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งเป็นเจ้าของ หรอื เปน็ ส่ิงท่ีคนในสังคมเป็นเจ้าของร่วมกันเปน็ ส่ิงที่สามารถสงั เกตไดจ้ ากาความรู้สึกนึกคิด หรือ การกระทำที่แสดงออกมา ได้แก่ การหลีกเลี่ยงการใช้หรือการกระทำที่จะทำให้เกิดความชำรุด เสียหายต่อส่วนรวมที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันของกลุ่ม การถือเป็นหน้าที่ที่จะมีส่วนร่วมในการดูแล รักษาของส่วนรวมในวิสัยที่ตนสามารถทำได้ และการเคารพสิทธิในการใช้ของส่วนรวมที่เป็น ประโยชนร์ ว่ มกันของกลมุ่
9 คุณภาพผู้เรยี น จบชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 1. เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือ คณิตศาสตร์ วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ และตัดสินใจเพอ่ื เลือกใช้เทคโนโลยีโดยคำนึงถงึ ผลกระทบ ตอ่ ชวี ติ สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม ประยุกต์ใช้ความรู้ทักษะ และทรัพยากรเพื่อออกแบบและสร้าง ผลงานสำหรับการแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวัน หรือการประกอบอาชีพ โดยใช้กระวนการออกแบบเชิงวิศกวรรม รวมทั้งเลือกใช้วัสดุ อุปกรณแ์ ละเครื่องมือได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภยั คำนึงถงึ ทรัพยส์ ินทาง 2. นำข้อมูลปฐมภูมิเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ ประเมิน นำเสนอข้อมูล และสารสนเทศได้ตาม วตั ถุประสงค์ ใชท้ ักษะการคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริง และเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย เพือ่ ช่วยในการแกป้ ญั หา ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างรเู้ ทา่ ทนั และรับผิดชอบต่อสังคม 3. ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาที่เชื่อมโยงกับพยานหลักฐาน หรือหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่มีการ กำหนดและควบคุมตัวแปร คิดคาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐาน ที่สามารถนำไปสู่การ สำรวจตรวจสอบ ออกแบบและลงมือสำรวจตรวจสอบโดยใช้วัสดุและเครื่องมือที่เหมาะสม เลือกใช้ เครือ่ งมือและเทคโนโลยีสารสนเทศท่เี หมาะสมในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ท้ังในเชิงปริมาณและคุณภาพ ท่ไี ดผ้ ลเทีย่ งตรงและปลอดภยั 4. วิเคราะห์และประเมนิ ความสอดคลอ้ งของข้อมูลที่ได้จากการสำรวจตรวจสอบจากพยานหลกั ฐาน โดย ใช้ความรู้และหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการแปลความหมายและลงข้อสรุปและสื่อสารความคิด ความร้จู ากผลการสำรวจตรวจสอบหลากหลายรูปแบบ หรอื ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือให้ผู้อ่ืนเข้าใจ ได้อย่างเหมาะสม
10 คุณภาพผู้เรียน จบชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 1. ระบุปัญหา ตั้งคำถามที่จะสำรวจตรวจสอบ โดยมีการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ สืบค้นข้อมูลจากหลายแหล่ง ตั้งสมมติฐานที่เป็นไปได้หลายแนวทาง ตัดสินใจเลือกตรวจสอบ สมมตฐิ านทเ่ี ป็นไปได้ 2. ตง้ั คำถามหรอื กำหนดปัญหาท่ีอยู่บนพ้นื ฐานของความรู้และความเขา้ ใจทางวิทยาศาสตร์ ท่ีแสดงให้ เหน็ ถงึ การใช้ความคิดระดับสงู ท่สี ามารถสำรวจตรวจสอบ หรอื ศกึ ษาคน้ คว้าได้อย่างครอบคลุมและ เชื่อถือได้ สร้างสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์สิ่งที่จะพบ เพื่อนำไปสู่การสำรวจ ตรวจสอบ ออกแบบวิธกี ารสำรวจตรวจสอบตามสมมตฐิ านท่ีกำหนดไว้ได้อย่างเหมาะสม มีหลกั ฐาน เชิงประจักษ์ เลือกวัสดุ อุปกรณ์ รวมทั้งวิธีการในการสำรวจตรวจสอบอย่างถูกต้อง ทั้งในเชิง ปริมาณและคณุ ภาพ และบันทึกผลการสำรวจตรวจสอบอยา่ งเป็นระบบ 3. วิเคราะห์แปลความหมายข้อมูล และประเมินความสอดคล้องของข้อสรุป เพื่อตรวจสอบกับ สมมตฐิ านท่ีต้งั ไว้ให้ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื ปรับปรงุ วิธกี ารสำรวจตรวจสอบ จัดกระทำขอ้ มูล และนำเสนอ ข้อมูลด้วยเทคนิควิธีที่เหมาะสม สื่อสารแนวคิด ความรู้จากผลการสำรวจ ตรวจสอบ โดยการพูด เขียน จัดแสดงหรือใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจโดยมีหลักฐานอ้างอิง หรือมีทฤษฎี รองรบั 4. แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ ในการสืบเสาะ หาความรู้โดยใช้ เครื่องมือและวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้อง เชื่อถือได้มีเหตุผลและยอมรับได้ว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์ อาจมีการเปล่ียนแปลงได้ 5. แสดงถึงความพอใจและเห็นคณุ ค่าในการค้นพบความรู้พบคำตอบ หรือแก้ปัญหาได้ ทำงานร่วมกบั ผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นโดยมขี ้อมูลอ้างอิงและเหตุผลประกอบเกีย่ วกับผลของการ พัฒนาและการใชว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ย่างมคี ุณธรรมต่อสงั คม และส่ิงแวดล้อม และยอมรับ ฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ นื่ 6. เข้าใจความสัมพันธ์ของความรูว้ ิทยาศาสตรท์ ี่มีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยี ประเภทต่าง ๆ และการ พัฒนาเทคโนโลยที ี่ส่งผลให้มีการคิดค้นความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ท่กี ้าวหนา้ ผลของเทคโนโลยีต่อชีวิต สังคม และส่ิงแวดล้อม
11 7. ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณคา่ ของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีใช้ในชีวิตประจำวนั ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยใี นการดำรงชวี ิตและการประกอบอาชีพ แสดงความชื่นชม ภูมิใจ ยกย่อง อ้างอิงผลงาน ชิ้นงานที่เป็นผลมาจากภูมิปัญญาท้องถิ่น และการ พัฒนาเทคโนโลยีทที่ นั สมยั ศกึ ษาหาความร้เู พิ่มเติม ทำโครงงานหรอื สร้างช้ินงานตามความสนใจ 8. แสดงความซาบซงึ้ หว่ งใย มพี ฤตกิ รรมเกี่ยวกบั การใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม อย่างรู้คุณค่า เสนอตัวเองร่วมมือปฏิบัติกับชุมชนในการป้องกัน ดูแล ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดลอ้ มของทอ้ งถ่นิ 9. วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยีความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเพื่อเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ประยุกต์ใช้ความรู้ทักษะ ทรัพยากรเพื่อออกแบบ สร้างหรือพัฒนา ผลงานสำหรับแก้ปัญหาที่มีผลกระทบต่อสังคม โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ใช้ ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบและนำเสนอผลงาน เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือได้อย่าง ถกู ต้อง เหมาะสม ปลอดภัย รวมทั้งคำนึงถงึ ทรพั ยส์ ินทางปญั ญา 10. ใช้ความรู้ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร เพื่อ รวบรวมข้อมูลในชีวิตจริงจากแหลง่ ต่าง ๆ และความรจู้ ากศาสตร์อื่น ๆ มาประยกุ ต์ใช้ สร้างความรู้ ใหม่ เข้าใจการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยที ่มี ผี ลตอ่ การดำเนินชวี ิต อาชพี สงั คม วฒั นธรรม และใช้ อย่างปลอดภยั มีจริยธรรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: