Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างแรงงานต่างด้าว

ค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างแรงงานต่างด้าว

Description: ค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างแรงงานต่างด้าว

Search

Read the Text Version

ขอ้ หารือกฎหมายแรงงาน กรมสวสั ดิการและคุม้ ครองแรงงาน (Department of Labour Protection and Welfare) ขอ้ หารือ ค่าชดเชยกรณเี ลิกจ้างแรงงานต่างด้าว หน่วยงานที่หารือ บรษิ ทั .จากดั หน่วยงานที่ตอบ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ประเดน็ ข้อหารือ ๑. คาว่า “หรือเหตุอื่นใด” ตามมาตรา ๑๑๘ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ จะหมายความรวมถึงกรณีแรงงานท่ีครบวาระให้อยู่ทางานในประเทศไทยหรือไม่ เนื่องจากทาง ผู้ประกอบการไม่ได้มีความประสงค์ท่ีจะเลิกจ้าง แต่ด้วยเหตุท่ีเอกสารของแรงงานหมดอายุ หากบริษัทจ้าง แรงงานดังกล่าวก็จะมีความผิดตามกฎหมายด้วย นอกจากนี้ จากมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกาหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยห้ามมิให้โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานท่ีประกอบกิจการเกี่ยวกับสัตว์น้าจา้ งลูกจ้างโดย ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน หรือจ้างคนต่างด้าวท่ีไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการ ทางานของคนต่างดา้ ว หากมกี ารกระทาผดิ จะถูกปรับ จาคกุ และปดิ โรงงานตามกฎหมายว่าดว้ ยโรงงาน ๒. กรณีแรงงานนาเขา้ ตาม MOU ถือเปน็ การจา้ งงานท่ีมกี าหนดระยะเวลาตามวรรค สามของมาตรา ๑๑๘ หรือไม่ เนื่องจากในมาตราน้ีระบุว่า “การจ้างท่ีมีกาหนดระยะเวลาตามวรรคสามจะ กระทาได้สาหรับการจ้างงานในโครงการเฉพาะที่มิใช่งานปกติของธุรกิจหรือการค้าของนายจ้าง ซ่ึงต้องมี ระยะเวลาเรม่ิ ต้นและส้ินสุดของงานที่แน่นอนหรือในงานอันมีลักษณะเป็นคร้งั คราวทีม่ ีกาหนดการสนิ้ สุด หรือ ความสาเร็จของงาน หรือในงานที่เป็นไปตามฤดูกาลและได้จ้างในช่วงเวลาของฤดูกาลนั้น ซ่ึงงานน้ันจะต้อง แล้วเสร็จภายในเวลาไมเ่ กนิ สองปีโดยนายจ้างและลูกจ้างได้ทาสญั ญาเป็นหนงั สือไว้ตั้งแต่เมื่อเร่ิมจ้าง” แตส่ ่วน ใหญแ่ รงงานทีเ่ ขา้ มาตาม MOU จะเข้ามาทางานปกติของนายจา้ ง และสามารถตอ่ อายสุ ัญญาได้อีก ๒ ปี ๓. นายจา้ งจะต้องจ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้างตามมาตรา ๑๑๘ ให้แกแ่ รงงานต่างด้าว ท่คี รบวาระการอยู่ทางานในประเทศไทยท้ัง ๓ กลุ่ม อนั ประกอบด้วยกลุ่มแรงงานผิดกฎหมาย (ที่ได้รับการขึ้น ทะเบียนใหม่ผ่อนผันให้ทางานในประเทศไทยได้จนถึง ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙) กลุ่มแรงงานที่ผ่านกระบวนการ พิสจู น์สัญชาติ (ได้ถือพาสปอร์ตเล่มสีแดง ซ่ึงทยอยครบวาระใหอ้ ยใู่ นประเทศไทย) และกลมุ่ แรงงานนาเขา้ ตาม MOU (ครบอายกุ ารจ้างงาน ๒+๒ ปตี ามสัญญา) ๔. หากแรงงานท่ีครบวาระการอยู่ทางานในประเทศไทยทั้ง ๓ กลุ่ม ไม่เข้าเงื่อนไขท่ี จะต้องจ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้าง มีกฎระเบียบข้อใดท่ีสามารถนาไปช้ีแจงต่อแรงงาน และ NGO ในเร่ือง ดงั กล่าวได้บ้าง หรอื ไม่ ๑

ขอ้ หารือกฎหมายแรงงาน กรมสวสั ดิการและคุม้ ครองแรงงาน (Department of Labour Protection and Welfare) ขอ้ กฎหมาย ๑. พระราชบัญญตั ิคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๗ สัญญาจ้างย่อมสิ้นสุดลงเม่ือครบกาหนดระยะเวลาในสัญญาจ้าง โดยมิตอ้ งบอกกลา่ วล่วงหน้า ในกรณีที่สัญญาจ้างไม่มีกาหนดระยะเวลา นายจ้างหรือลูกจ้างอาจบอกเลิกสัญญา จ้างโดยบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายหน่ึงทราบ ในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกาหนดจ่ายค่าจ้างคราว หนึ่งคราวใด เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเม่ือถึงกาหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็ได้ แต่ไม่จาเป็น ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเกินสามเดือน ท้ังนี้ ให้ถือว่าสัญญาจ้างทดลองงานเป็นสัญญาจ้างท่ีไม่มีกาหนด ระยะเวลาด้วยการบอกเลิกสัญญาจ้างตามวรรคสอง นายจ้างอาจจ่ายค่าจ้างให้ตามจานว นท่ีจะต้องจ่าย จนถึงเวลาเลกิ สญั ญาตามกาหนดที่บอกกลา่ วและใหล้ กู จา้ งออกจากงานทันทีได้ การบอกกล่าวล่วงหน้าตามมาตรานี้ไม่ใช้บังคับแก่การเลิกจ้างตามมาตรา ๑๑๙ แห่งพระราชบัญญตั นิ ี้ และมาตรา ๕๘๓ แหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา ๑๑๘ ให้นายจา้ งจ่ายค่าชดเชยใหแ้ กล่ ูกจา้ งซ่ึงเลิกจ้างดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) ลูกจ้างซึง่ ทางานติดตอ่ กันครบหน่ึงร้อยยี่สิบวนั แต่ไมค่ รบหนงึ่ ปี ให้จ่ายไม่น้อย กว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายสามสิบวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางานสามสิบวันสุดท้ายสาหรับลูกจ้างซึ่ง ไดร้ บั คา่ จ้างตามผลงานโดยคานวณเปน็ หน่วย (๒) ลูกจา้ งซง่ึ ทางานติดตอ่ กนั ครบหนงึ่ ปี แต่ไม่ครบสามปี ให้จา่ ยไมน่ ้อยกว่าค่าจ้าง อัตราสุดท้ายเก้าสิบวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางานเก้าสิบวันสุดท้ายสาหรับลูกจ้างซ่ึงได้รับค่าจ้าง ตามผลงานโดยคานวณเป็นหนว่ ย (๓) ลูกจ้างซ่ึงทางานติดต่อกันครบสามปี แต่ไม่ครบหกปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง อัตราสุดท้ายหนึ่งร้อยแปดสิบวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางานหน่ึงร้อยแปดสิบวันสุดท้ายสาหรับ ลูกจา้ งซงึ่ ได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคานวณเป็นหน่วย (๔) ลูกจ้างซึ่งทางานติดต่อกันครบหกปี แต่ไม่ครบสิบปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง อัตราสุดท้ายสองร้อยสี่สิบวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางานสองร้อยส่ีสิบวันสุดท้ายสาหรับลูกจ้างซ่ึง ได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคานวณเป็นหนว่ ย ๒

ขอ้ หารือกฎหมายแรงงาน กรมสวสั ดิการและคุม้ ครองแรงงาน (Department of Labour Protection and Welfare) (๕) ลูกจ้างซ่ึงทางานติดต่อกันครบสิบปีขึ้นไป ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตรา สดุ ท้ายสามร้อยวัน หรือไม่น้อยกว่าคา่ จ้างของการทางานสามร้อยวันสุดท้ายสาหรับลูกจ้างซึ่งได้รบั ค่าจ้างตาม ผลงานโดยคานวณเปน็ หน่วย การเลิกจ้างตามมาตราน้ี หมายความวา่ การกระทาใดท่ีนายจา้ งไม่ให้ลกู จ้างทางาน ต่อไปและไม่จา่ ยค่าจ้างให้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุส้นิ สดุ สญั ญาจา้ งหรือเหตุอนื่ ใด และหมายความรวมถงึ กรณีท่ี ลูกจ้างไมไ่ ดท้ างานและไมไ่ ด้รบั ค่าจา้ งเพราะเหตุท่ีนายจา้ งไม่สามารถดาเนินกจิ การต่อไปได้ ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่ลูกจ้างที่มีกาหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน และเลกิ จา้ งตามกาหนดระยะเวลานั้น การจ้างที่มีกาหนดระยะเวลาตามวรรคสามจะกระทาได้สาหรับการจ้างงานใน โครงการเฉพาะที่มิใช่งานปกติของธุรกิจหรือการค้าของนายจ้างซ่ึงต้องมรี ะยะเวลาเร่ิมต้นและส้ินสดุ ของงานท่ี แน่นอน หรือในงานอันมีลักษณะเป็นครั้งคราวที่มีกาหนดการสิ้นสุดหรือความสาเร็จของงาน หรือในงานท่ี เป็นไปตามฤดูกาลและได้จ้างในช่วงเวลาของฤดูกาลนั้น ซึ่งงานนั้นจะต้องแล้วเสร็จภายในเวลาไม่เกินสองปี โดยนายจา้ งและลกู จ้างไดท้ าสญั ญาเปน็ หนังสอื ไวต้ ้งั แต่เมอื่ เร่ิมจา้ ง ตอบข้อหารอื ๑. คาว่า “หรือเหตุอื่นใด” ตามมาตรา ๑๑๘ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ จะหมายความรวมถึงกรณีแรงงานที่ครบวาระให้อยู่ทางานในประเทศไทย หรือไม่ เห็นว่าพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๑๘ วรรคสอง กาหนดว่า การเลิกจ้าง ตามมาตราน้ี หมายความว่าการกระทาใดท่ีนายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทางานต่อไปและไม่จ่ายค่าจ้างให้ ไม่ว่าจะเป็น เพราะเหตุส้ินสุดสัญญาจ้างหรอื เหตุอ่ืนใด และหมายความรวมถึงกรณีท่ีลูกจ้างไมไ่ ด้ทางานและไม่ได้รับคา่ จ้าง เพราะเหตุท่ีนายจ้างไม่สามารถดาเนินกิจการต่อไป ซ่ึงมีความหมายว่าเป็นการที่นายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทางาน ต่อไปโดยเด็ดขาดโดยไมจ่ ่ายค่าจา้ งให้ ซ่ึงสภาพความเป็นนายจ้างและลูกจ้างย่อมสิ้นสุดลง มใิ ชก่ รณีท่นี ายจ้าง ให้ลูกจ้างหยุดงานเพียงช่ัวคราว ซ่ึงสภาพการเป็นนายจ้างและลูกจ้างยังไม่ส้ินสุดลง และลูกจ้างยังมีสิทธิได้รับ ค่าจ้าง ถ้านายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างระหว่างให้หยุดงานช่ัวคราว ลูกจ้างก็มีสิทธิเรียกร้องเอาจากนายจ้างได้ ส่วนข้อความท่ีว่า “หรือเหตุอ่ืนใด”ตามมาตรา ๑๑๘ วรรคสองนั้น ก็หมายถึงมูลเหตุของกรณีท่ีนายจ้างไม่ให้ ลูกจ้างทางานต่อไปโดยเด็ดขาดโดยไม่จ่ายค่าจ้างนั้นเองมิใช่กรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างหยุดงานชั่วคราวหรือพัก งานแต่อย่างใด เช่นนี้คาว่า “หรือเหตุอื่นใด” ดังกล่าวจะหมายความรวมถึงกรณีแรงงานที่ครบวาระให้อยู่ใน ๓

ขอ้ หารือกฎหมายแรงงาน กรมสวสั ดิการและคุม้ ครองแรงงาน (Department of Labour Protection and Welfare) ประเทศไทยหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาด้วยว่าเป็นกรณีที่นายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทางานต่อไปโดยเด็ดขาดโดยไม่ จา่ ยคา่ จ้างด้วยหรือไม่ หากเปน็ กรณีทน่ี ายจ้าง ไม่ให้ลูกจ้างทางานต่อไปโดยเด็ดขาดโดยไม่จา่ ยค่าจ้างเพราะเหตุแรงงานครบวาระใหอ้ ยู่ทางานในประเทศไทย แล้ว คาวา่ “หรือเหตอุ ืน่ ใด” ย่อมมคี วามหมายรวมถึงเหตดุ งั กล่าวดว้ ยตามมาตรา ๑๑๘ วรรคสอง ๒. กรณีแรงงานนาเข้าตาม MOU ถือเป็นการจ้างงานท่ีมีกาหนดระยะเวลาตาม วรรคสาม ของมาตรา ๑๑๘ หรือไม่ เหน็ วา่ มาตรา ๑๑๘ วรรคสาม กาหนดวา่ ความในวรรคหนึ่งมิใหใ้ ช้บังคับ แก่ลูกจ้างที่มีกาหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนและเลิกจ้างตามกาหนดระยะเวลานั้น และมาตรา ๑๑๘ วรรคส่ี กาหนดให้ การจ้างที่มีกาหนดระยะเวลาตามวรรคสามจะกระทาได้สาหรับการจ้างงานในโครงการ เฉพาะท่ีมิใช่งานปกติของธุรกิจหรือการค้าของนายจ้างซ่ึงต้องมีระยะเวลาเร่ิมต้นและสิ้นสุดของงานท่ีแน่นอน หรือในงานอันมีลักษณะเป็นครั้งคราวที่มีกาหนดการสิ้นสุดหรือความสาเร็จของงาน หรือในงานที่เป็นไป ตามฤดูกาลและได้จ้างในช่วงเวลาของฤดูกาลนั้น ซึ่งงานน้ันจะต้องแล้วเสร็จภายในเวลาไม่เกินสองปี โดยนายจา้ งและลูกจ้างไดท้ าสัญญาเป็นหนงั สือไวต้ ้ังแตเ่ มอื่ เรม่ิ จ้าง เม่ือข้อเท็จจริงปรากฏวา่ MOU เป็นบันทึก ความเขา้ ใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจกั รไทยกบั รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว และรัฐบาลของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ว่าด้วยความร่วมมือในการจ้าง งาน ซึ่งได้ตกลงเง่ือนไขการกลับและการส่งกลับไว้ใน MOU ดังกล่าว MOU จึงมิใช่สัญญาจ้างแรงงานที่มี กาหนดระยะเวลาการจา้ งไว้แน่นอน สว่ นจะเป็นสัญญาจ้างท่ีมีกาหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนตามมาตรา ๑๑๘ วรรคสาม อันจะถือเป็นข้อยกเว้นที่นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้างน้ัน นายจ้าง และลูกจ้างตอ้ งทาสัญญาจ้างเปน็ หนังสือไว้ตงั้ แต่เม่ือเริ่มจ้าง และตอ้ งเปน็ งานหนงึ่ งานใดในสามประเภทงานซึ่ง เข้าข่ายตามมาตรา ๑๑๘ วรรคส่ี หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า แรงงานต่างด้าวท่ีเข้ามาตามเง่ือนไขใน MOU ได้เข้ามาทางานอันเป็นงานปกติของธุรกิจหรือการค้าของนายจ้าง แม้นายจ้างจะมีการจ้างลูกจ้างตามกาหนด ระยะเวลาจ้างดังกล่าวหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่อาจถือเป็นสัญญาจ้างที่มีกาหนดระยะเวลาจ้างแน่นอนอันจะเป็นเหตุ ใหน้ ายจ้างมีสิทธเิ ลกิ จ้างโดยไม่ต้องจ่ายคา่ ชดเชยได้ ทง้ั นีต้ ามมาตรา ๑๑๙ วรรคสาม และมาตรา ๑๑๙ วรรคส่ี ๓. นายจา้ งจะตอ้ งจา่ ยค่าชดเชยการเลิกจ้างตามมาตรา ๑๑๘ ใหแ้ ก่แรงงานต่างด้าว ท่ีครบวาระการทางานในประเทศไทยท้ัง ๓ กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มแรงงานผิดกฎหมาย (ที่ได้รับการข้ึน ทะเบียนใหม่ผ่อนผัน ให้ทางานในประเทศไทยได้จนถึง ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙) กลุ่มแรงงานที่ผ่านกระบวนการ พสิ จู น์สญั ชาติ (ได้ถอื พาสปอรต์ เลม่ สีแดง ซึ่งทยอยครบวาระใหอ้ ยู่ในประเทศไทย) และกล่มุ แรงงานนาเข้าตาม ๔

ขอ้ หารือกฎหมายแรงงาน กรมสวสั ดิการและคุม้ ครองแรงงาน (Department of Labour Protection and Welfare) MOU (ครบอายุการจ้างงาน ๒+๒ ปีตามสัญญา) หรือไม่นั้น เห็นว่า กรณีดังกล่าวจะต้องพิจารณาว่าเป็นกรณี นายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทางานต่อไปและไม่จ่ายค่าจ้างให้หรือไม่ หากนายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทางานโดยเด็ดขาด และไม่จ่ายค่าจ้างให้ เนื่องจากเหตุแรงงานต่างด้าวครบวาระการทางานในประเทศไทยดังกล่าว ย่อมถือเป็น การเลิกจ้างตามมาตรา ๑๑๘ แต่หากนายจ้างอนุญาตให้ลูกจ้างหยุดงานชั่วคราวไปดาเนินการต่อวีซ่า หนังสือ เดินทาง หรือใบอนุญาตทางานของลูกจ้าง สัญญาจ้างระหว่างนายจ้างกับแรงงานต่างด้าวยังไม่สิ้นสุดลง กรณีดังกลา่ วกไ็ ม่ถอื เป็นการเลิกจ้าง ๔. หากแรงงานที่ครบวาระการอยู่ทางานในประเทศไทยท้ัง ๓ กลุ่ม ไม่เข้าเงอ่ื นไข ที่จะต้องจ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้าง มีกฎระเบียบข้อใดที่สามารถนาไปช้ีแจงต่อแรงงานและ NGO ได้บ้าง เห็น วา่ กรณีจะถือเป็นการเลิกจ้างหรือไม่น้ัน ย่อมต้องพิจารณาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๑๘ วรรคสองว่าเป็นกรณีที่นายจา้ งไม่ให้ลูกจา้ งทางานตอ่ ไปและไม่จ่ายค่าจา้ งให้เพราะ เหตุสิ้นสุดสัญญาจ้างหรือเหตอุ ื่นใด หรือเป็นกรณีท่ีลูกจ้างไม่ได้ทางานและไม่ได้รับค่าจ้างเพราะเหตุที่นายจ้าง ไม่สามารถดาเนินกิจการต่อไปหรือไม่ หากมิใช่ก็ไม่ถือเป็นการเลิกจ้างตามมาตรา ๑๑๘ วรรคสองดังกล่าว หมายเหตุ อา้ งอิงข้อหารอื กองนิติการ ท่ี รง ๐๕๐๔/๐๐๑๐๖ ลงวนั ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๙ -------------------------------------------------- สอบถามรายละเอยี ดเพิม่ เติมท่ี กลุ่มงานทีป่ รกึ ษากฎหมาย นติ ิกรรมและสญั ญา กองนิตกิ าร กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน อาคารกรมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงานชัน้ ๑๒ ถนนมิตรไมตรี แขวงดนิ แดง เขตดินแดง กทม. ๑๐๔๐๐ โทร. ๐ ๒๒๔๖ ๗๐๓๙ , โทรสาร ๐ ๒๒๔๖ ๗๕๘๙ ๕