วิเคราะห์ตนเอง ช่ือ-สกลุ นายจกั พนั ธ์ พงษแ์ พทย์ ช้นั ม.4/3 เลขที่ 6 โรงเรียนสภาราชินี จงั หวดั ตรัง
ประวตั สิ ่วนตวั ช่อื – สกุล นาย จกั รพนั ธ์ พงษ์แพทย ชนั้ ม.4/3 ช่อื เลน่ หนุ่ม ฉายา หนมเคก้ วนั เดอื น ปี เกดิ 26/2/2548 อายุ 16 สญั ชาติ ไทย เชอ้ื ชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ เบอรโ์ ทรศพั ท์ 093-5934824 ทอ่ี ยู่ 53/4 หม5ู่ ต.บบอ่ หิน อ.สเิ กา จ.ตรงั 92150 Facebook jakkapan pongpath ID Line 0935934824 Instargrame jakkapannum งานอดเิ รก เลน่ ดนตรี อ่านหนงั สอื เพ่อื นสนทิ นายวชิ ยตุ ม์ รอดรนิ คตพิ จน์ ไมเ่ คยมอี ะไรยตุ ธิ รรม สงิ่ ทอ่ี ยากจะบอก ผมหลอ่ และรวยมาก
ตนเองที่ฉนั รู้จกั • ลกั ษณะเดน่ • เป็นคนเงียบๆ (มองจากภายนอก)รกั สะอาด ชอบความหรูหรา • บคุ ลิกภาพของฉนั • ถอื ตวั หย่งิ (เป็นบางครงั้ ) • ความสามารถพิเศษ • เล่นไวโอลิน เปียโน • วิชาที่มคี วามถนดั • เคมี คณิตศาสตร์ • ความสนใจ/ความถนดั ของตนเอง • สนใจและถนดั การ เล่น ฟัง ดนตรี
ผลการทาแบบวดั แววความสามารถพิเศษ ผลสรุปความสามารถพเิ ศษ 5 อนั ดบั 1.นกั ดนตรี 2.นกั คฌติ ศาสตร์ 3.นกั วชิ าการ 4.ผนู้ า 5.ศลิ ปิน
ผลการทาแบบทดสอบคน้ หาตนเอง • กราฟ • • สตั วท์ ่เี ป็น นกแกว้ • บคุ ลิกภาพ ชอบสงั คมกบั บคุ คลอ่ืน “ชา่ งเจรจาตอ่ รอง” (SOCIAL) • ลกั ษณะท่วั ไป ชอบติดตอ่ กบั คน ชอบสนทนา ชอบใหค้ วามรูผ้ อู้ ่นื ชอบแสดงตวั รา่ เรงิ ชอบกิจกรรมบนั เทิง มีความ รบั ผิดชอบ มีทกั ษะทางภาษา ตอ้ งการความสนใจ ชอบชว่ ยเหลือผอู้ น่ื มลี ักษณะเป็นผหู้ ญิงสงู หลีกเลี่ยงการใช้ ความคดิ ทางปัญญา มกั แกป้ ัญหาโดยคานงึ ถงึ ความรูส้ กึ ของผอู้ ืน่ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เก่ียวกบั เครือ่ งยนตห์ รอื ทาง วิทยาศาสตร์ • ลกั ษณะเดน่ ชอบสมาคม รา่ เริง ชอบเท่ยี ว รกั ประเพณี มคี วามรบั ผิดชอบ มีอานาจ มอี ิทธิพลเหนือผอู้ น่ื มลี กั ษณะ ทา่ ทางนิสยั เป็นผหู้ ญิง เป็นตน้ อาชีพทีเ่ หมาะสมกบั ตนเอง • ครู-อาจารย/์ เจา้ หนา้ ท่บี รหิ ารงานฝ่ายบคุ คล/นกั จดั รายการวิทยุ DJ/นกั สงั คมสงเคราะห/์ ผบู้ รหิ ารหรอื ทางาน เกีย่ วกบั ความสวยความงาม/เจา้ หนา้ ที่แนะแนวและใหค้ าปรกึ ษา/ผจู้ ดั การ/นกั โภชนากร ดแู ลสขุ ภาพ/นกั ข่าว นกั หนงั สือพิมพ/์ นกั การทตู อาจารยด์ า้ นสงั คมศาสตร/์ นกั สาธารณสขุ เจา้ หนา้ ทส่ี าธารณสขุ • คณะ/สาขา • คณะครุศาสตร์ ศกึ ษาศาสตร/์ คณะมนษุ ยศาสตร์สาขาบริหารทรพั ยากรมนษุ ย/์ คณะมนษุ คณะวทิ ยาศาสตร์สาขา เครือ่ ลสาองคค์ ณะบริหารธรุ กจิ คณะพาณิชยศาสตรแ์ ละการบญั ชียศาสตรค์ ณะอกั ษรศาสตรค์ ณะวารสารศาสตร/์ คณะรฐั ศาสตร์ หรือสาขาสงั คมสงเคราะห/์ คณะศกึ ษาศาสตรค์ ณะวทิ ยาศาสตร์สาขาจิตวิทยาคณะบริหาร สาขา การจดั การทรพั ยากรมนษุ ย/์ คณะบรหิ ารธุรกจิ คณะพาณิชยศาสตรแ์ ละการบญั ชี/คณะ/สาขาพยาบาล/คณะสหเวช ศาสตร์ สาขาวิชาโภชนาการและการกาหนดอาหารคณะเกษตร สาขาอาหารและโภชนาการคณะวิทยาศาสตร์ สาขาคหกรรมศาสตร-์ การกาหนดอาหารและโภชนบาบดั /คณะมนษุ ยศาสตรค์ คณะ/สาขาสาธารณสุขณะอกั ษร ศาสตรค์ ณะวารสารศาสตร/์ คณะรฐั ศาสตร์ สาขาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ/
ไม่ชอบใชค้ วามจาในเร่ืองท่ไี ม่สนใจ เป็นคนมีเปา้ หมายอดุ มการท่แี นช่ ดั จดุ แข็ง จดุ ออ่ น Strength Weakness นกึ ถงึ หลกั ความเป็นจริงเสมอ การวิเคราะหต์ นเอง มีความขเี้ กยี จ เป็นคนใจอ่อนชอบตามใจคนอ่ืน SWOT Analysis ศกึ ษาพฤตกิ รรมผคู้ น อปุ สรรค โอกาส Threat Opportunity ตามคนไมท่ นั ฝึกการเขา้ ถงึ ผอู้ ่นื
จากการทาแบบทดสอบการคน้ หาตนเองสรุปไดว้ า่ มีความ สอดคลอ้ งกบั อาชีพ/คณะ อะไรบา้ ง ใหน้ กั เรียนตดั สินใจเลือก อาชีพ นักการเมือง คณะรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองการปกครอง ลกั ษณะของอาชีพ นกั การเมืองมหี นา้ ทแ่ี ละบทบาททีส่ าคญั ในกระบวนการทางการเมอื งแบบประชาธิปไตย หากพรรคการเมอื ง ใดทาหนา้ ท่ไี ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ การปกครองระบอบประชาธิปไตยของประเทศน้นั กจ็ ะบรรลเุ ป้าหมายตามท่ตี อ้ งการ โดยทวั่ ไปแลว้ หนา้ ที่และบทบาทของพรรคการเมืองไดแ้ ก่ 1. การใหก้ ารศึกษาทางดา้ นการเมืองแกป่ ระชาชน พรรคการเมอื งจะชว่ ยกระตนุ้ ใหป้ ระชาชนไดม้ คี วามรู้ความเข้าใจและ สนใจในปัญหาของบา้ นเมอื งมากข้ึน 2. การสร้างผนู้ าทางการเมือง โดยการคดั เลอื กหรือสรรหาบคุ ลากรทางการเมอื งมาเป็นผนู้ าในดา้ นตา่ ง ๆ เชน่ การส่งผสู้ มคั ร รับเลอื กต้งั เพือ่ เขา้ ไปบริหารประเทศท้งั ในระดบั ทอ้ งถน่ิ และระดบั รัฐ ท้งั น้ีเพอ่ื เป็นการสืบทอดภารกิจ อุดมการณ์ 3. กระตุน้ ใหป้ ระชาชนทวั่ ไปมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ ดว้ ยการเสนอชื่อผูส้ มคั รรับเลือกต้งั ท่ีมีชอื่ เสียง และจดั ต้งั สโมสรหรือชมรมต่าง ๆ เพือ่ สร้างความสนใจทางการเมอื ง 4. การเป็นตวั กลางในการเชอื่ มประสานระหวา่ งประชาชน กลุ่มประชาชน หรือกลมุ่ ผลประโยชน์ตา่ ง ๆ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ และประสานการทางานในสังคมร่วมกนั ตลอดจนการปลกุ เร้าประชาชนใหเ้ กดิ ความต่นื ตวั ทางการเมอื ง และเป็นชอ่ งทางให้ ประชาชนเขา้ มีส่วนร่วมทางการเมอื งต่อไป 5. เป็นชอ่ งทางของประชาชนในการแสดงออก อนั จะช่วยผอ่ นคลายความตึงเครียดทางการเมืองทอ่ี าจจะเกดิ ข้นึ กบั ประชาชนได้ 6. การกาหนดนโยบายหลกั ท่สี าคญั เพื่อนาไปใชใ้ นการบริหารและปกครองประเทศ 7. ถา้ ยงั ไมม่ โี อกาสบริหารประเทศ พรรคการเมอื งกจ็ ะทาหนา้ ท่ีแทนประชาชนในการเรียกร้องหรือกดดนั ใหร้ ัฐบาล สนองตอบในแนวทางทีเ่ หน็ วา่ เหมาะสม 8. ทาหนา้ ทเ่ี ป็นรัฐบาลเมอื่ ไดร้ ับเสียงขา้ งมาก และทาหนา้ ทเ่ี ป็นฝ่ ายคา้ นหรือผคู้ วบคุมรัฐบาลเม่ือไดร้ ับเสียงขา้ งนอ้ ยายได้ รายได้ นกั การเมืองน้นั จะไดร้ ับเงนิ ในส่วนของเงนิ เดือน และเงนิ ประจาตาแหน่งอีกต่างหาก อตั ราเงนิ เดือนนกั การเมืองต้งั แตร่ ะดบั เริ่มตน้ ในระดบั สมาชกิ วฒุ สิ ภาและสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร จะไดเ้ งนิ เดอื นและเงนิ ประจาตาแหน่งประมาณ 60,000 + 40,000 = 100,000 บาท/เดอื น รายละเอยี ดคณะ/สาขา เรียนเกีย่ วกบั การเมืองและการปกครองของประเทศตา่ งๆต้งั แตอ่ ดตี จนถงึ ปัจจุบนั โดยแยกออกเป็นวชิ ายอ่ ยที่ใหภ้ าพ หรือมติ ิ ต่างๆของการเมือง เชน่ ทฤษฎีการเมอื ง การเมืองเปรียบเทยี บ ระบบเอกรัฐและสหพนั ธรัฐ เป็นตน้ สาหรับลกั ษณะการปกครอง ของประเทศตา่ งๆ สาขาการปกครองเปิ ดสอนเก่ียวกบั การปกครองของประเทศต่างๆ ทส่ี าคญั คือ ไทย สหรัฐอเมริกา ญ่ีป่ นุ รัสเซีย ยโุ รป จีน และเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ เป็นตน้ อน่ึง ในการกลา่ วถึงการเมืองการปกครองของประเทศ หรือกลุ่มประเทศใดๆน้นั นอกจากจะเนน้ ทส่ี ถาบนั และกระบวนการทางการเมอื งระดบั ชาติแลว้ ยงั พยายามเชอ่ื มโยงใหเ้ ห็นถึงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการ ปกครองทอ้ งถิน่ และการเมืองระหวา่ งประเทศน้นั ๆอกี ดว้ ย มหาลยั ทสี่ นใจเขา้ ศดึ ษาตอ่ 1.มหาลยั ธรรมศาสตร์ 2.จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั
THANK YOU
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: